พิมพ์หน้านี้ - My Baby by j-muay

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 26-05-2007 18:17:33

หัวข้อ: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 26-05-2007 18:17:33
ขอบคุณ คุณ j-muay ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกัน

ขอความกรุณาเพื่อนๆ อย่านำเอาเรื่องราวในเรื่องนี้ไปเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากคุณ j-muay ก่อนนะครับ


ขอบคุณครับ

หมูพูห์   :teach:


**********************************************************************************

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขอนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


**********************************************************
My baby

= 1 =

****************************

“คุณภากร คนไหนคะ”

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น รีบวางหนังสือพิมพ์และลุกขึ้นยืนทันที

“ครับ ผมภากร”

“ยินดีด้วยค่ะ คุณได้ลูกชายกับลูกสาว เป็นฝาแฝดแข็งแรงสมบูรณ์ทั้งคู่ แฝดพี่เป็นผู้หญิง แฝดน้องเป็นชายค่ะ

เดี๋ยวอีกสักครู่ตามไปดูได้นะคะ”

“ขอบคุณมากครับ ขอบคุณ”

เขาขอบคุณพระเจ้าในใจด้วย ที่ประทานทารกน้อยที่สมบูรณ์และแข็งแรงให้เขาถึงสองคน



**********************

เสียงทารกน้อยร้องไห้จ้าทำให้หญิงสาวสะดุ้งตื่น เธอชะโงกดูนาฬิกาที่หัวเตียงก่อนจะหันมาสะกิดสามีที่ยังหลับสนิทอยู่ข้างๆ

“โจคะ ลูกร้อง...”

“อืมม์....”

“ตื่นซีคะ ที่รัก.. หลับอยู่ได้ยังไง ลูกร้องเสียงออกดัง เร็วเถอะค่ะ เดี๋ยวตื่นกันหมดพอดี”

“อือ... ของคุณหรือของผม...”

“ของคุณค่ะ”

“อีกแล้วเหรอ....” ชายหนุ่มงัวเงียลุกขึ้นนั่ง

“ถ้าครั้งนี้คุณหลอกผมอีก ผมจะกลับมาปรับคุณนะ โอเค..”

“โอเคค่ะ”

ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียง เดินไปหาลูกที่ห้องซึ่งมีประตูเปิดทะลุถึงกันและจะเปิดไว้ตลอดเพื่อให้ได้ยินเสียงเวลาลูกร้องไห้โยเยกลางดึก

เขาหายเงียบไปไม่กี่ นาที ทารกน้อยก็เงียบเสียงลง

..
..
..
ณัฐวดีนอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข ไม่อยากเชื่อเลยว่าชีวิตที่เคยผิดพลาดและไม่สมหวังของเธอจะได้พบกับความสุขอย่างเช่นวันนี้

เธอโชคดีที่ได้มาพบเขา เธอบอกไม่ได้ว่ารักเขามากเพียงใด รู้แต่ว่าชีวิตนี้เธอขาดเขาไม่ได้แล้ว
 
เธอสะดุ้งและลืมตาขึ้นทันทีที่รู้สึกหนักอึ้งที่กลางลำตัว
 
“อุ๊ย! ไม่เอานะ โจ.. ตัวคุณหนักออก ขยับไปนอนที่ของคุณซีคะ”

“เสียใจ ที่รัก..”

ชายหนุ่มขยับตัวใหม่ แต่ครั้งนี้เขาขึ้นมาคร่อมร่างหญิงสาวไว้ทั้งตัวเลย

“ผมบอกแล้วใช่มั้ย ถ้าหลอกผมอีกคุณจะต้องถูกผมปรับ” เขาไม่พูดเปล่าแต่ซุกไซ้ซอกคอหญิงสาวไปด้วย

“เมย์ไม่ได้หลอกคุณนะคะ ก็ลูกร้องจริงๆ นี่นา”

“ใช่... ลูกร้อง... พอผมถาม.. คุณก็บอกว่าของผมทุกทีเลย คุณรู้มั้ยว่ายายหนูนอนหลับปุ๋ย ไม่มีเสียงร้องสักแอะ”

“แหม!.. คุณก็.. มันพลาดกันได้นี่คะ”

“โอเค!.. เมื่อคุณพลาดได้ คุณก็ต้องรับผิด และยอมให้ผมลงโทษ”

“แต่นี่มันดึกแล้วนะคะ ทอม.. พรุ่งนี้คุณต้องไปร้านแต่เช้านะคะ”

“ไม่สนหรอก ไหนๆ ก็ตื่นมาทำธุระให้ลูกแล้ว ผมต้องทำธุระกับแม่ด้วยเลย”

เขาหาเรื่องเจ๊าะแจ๊ะเธอด้วยเหตุผลนี้ทุกที ช่วยไม่ได้..เธอหลอกให้เขาลุกไปดูลูกหลายคืนแล้ว

ทุกครั้งเจ้าหนูเจมส์จะเป็นฝ่ายร้องโยเย ทั้งๆ ที่เขาและเธอตกลงกันแล้วว่า เขาจะเป็นคนดูแลแฝดพี่คือยายหนูเจนนี่

ส่วนเธอดูแลเจ้าหนูเจมส์แฝดน้อง แต่หลายคืนมาแล้วที่เขาต้องตื่นและลุกขึ้นกลางดึกเพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมให้หนูน้อยทั้งสอง

เพราะเจ้าหนูเจมส์ความรู้สึกไวกว่าพี่สาว ฉี่เปียกทีไรเป็นต้องตื่นทุกที

ในขณะที่เจนนี่ยังหลับปุ๋ยอยู่เลย แม้จะเปียกแฉะไปหมดแล้วก็ตาม

***********************

ภากรอุ้มทารกแฝดวัย 5 เดือนไว้ในอ้อมแขนข้างละคน แฝดหญิงซบอยู่ที่ไหล่กำลังเคลิ้มหลับ

 แฝดชายจอมเฮี้ยวดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ที่เอว เขาเดินไปหาณัฐวดีที่กำลังแต่งตัวอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง

“ผมไปเป็นเพื่อนมั้ย ที่รัก..”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ เมย์นัดเจอเขาที่อำเภอเลย เสร็จเรื่องแล้วจะรีบกลับค่ะ คุณเองก็ต้องอยู่ดูลูกด้วย

ยายหนูยิ่งโยเยไม่ยอมให้ใครอุ้มอยู่ ไม่สบายทีไรเป็นต้องอ้อนคุณพ่อทุกที สู้น้องเจมส์ของแม่ก็ไม่ได้ ใช่มั้ยคับ

ใครขออุ้มก็ไปกับเค้าหมดเลย....”

ณัฐวดีหยอกเย้าลูกชายอย่างอารมณ์ดี วันนี้เธอนัดโยธินสามีเก่าทางพฤตินัยไปหย่าขาดจากกันตามกฎหมาย

หลังจากรอจนครบกำหนดระยะเวลาตามที่ตกลงกับโยธินไว้

ภากรเดินตามไปส่งหญิงสาวที่รถ

“ความจริงถ้าผมไปด้วย เสร็จธุระของคุณแล้ว เราจะได้จัดการเรื่องของเราต่อเลย”

ณัฐวดีเงยหน้าขึ้นมองสามีแล้วหัวเราะ

“อะไรกันคะ โจ.. เมย์ไม่เคยได้ยินคุณพูดเรื่องนี้มาก่อนเลย

ยังเคยนึกน้อยใจอยู่หลายครั้งว่าคุณอาจไม่คิดจริงจังกับเมย์ก็ได้..”

“เหลวไหล... คิดยังงั้นได้ไง ไม่รู้หรือว่าคุณเป็นคนสำคัญคนหนึ่งในชีวิตของผม”

ณัฐวดีขมวดคิ้ว กึ่งสงสัยและไม่พอใจ

“คนสำคัญคนหนึ่ง…แปลว่ายังมีคนอื่นอยู่ในหัวใจของคุณอีกหรือคะโจ.. ใครคะ บอกได้มั้ย..”

ชายหนุ่มก้มลงกระซิบข้างหูหญิงสาว

“ก็แฝดตัวน้อยๆ ของคุณและผมไง อีกหน่อยก็จะเติบใหญ่ขึ้นหล่อเหมือนผม..สวยเหมือนคุณไงจ๊ะ ที่รัก..”
 
เขาหยุดอธิบายและเธอก็ไม่สามารถซักถามอะไรได้อีก เมื่อถูกเขาจุมพิตละเรื่อยจากใบหูมาที่ลำคอขาวเนียนและพรมจูบทั่วใบหน้างามก่อนจะหยุดนิ่งที่ริมฝีปาก

แม้จะรู้สึกขัดเขินเพราะไม่ได้อยู่ในที่ลับตา หากแต่สัมผัสที่ได้รับช่างอบอุ่นและอ่อนหวานนุ่มนวล
จนเธอมิอาจขัดขืนและปฏิเสธการแสดงออกถึงความรักที่เขามีต่อเธอ

ซึ่งในวันนี้เธอรู้ซึ้งเต็มอกแล้วว่าเขารักเธอและลูกมากเพียงใด

ณัฐวดียิ้มอย่างขัดเขิน เมื่อสบสายตาหวานซึ้งของภากร

“แน่ใจนะ ว่าไม่ให้ผมไปด้วย”

“แน่ใจค่ะ คุณอยู่บ้านดูลูกๆดีกว่านะคะ เมย์จะรีบกลับ ไว้เราค่อยหาฤกษ์ดีๆ ไปเข้าโบสถ์ตอนเช้า

แล้วเลยไปจดทะเบียนตอนสายๆ ดีมั้ยคะ”

“โอเค!.. ตามใจคุณ”

“เมย์รักคุณค่ะ โจ.. ถึงไม่มีทะเบียนสมรส เมย์ก็จะขอรักคุณคนเดียวจนวันตาย.”

“RRRR.....”

ภากรวางหนังสือพิมพ์ลงและลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์

เขาเพิ่งจะได้พักผ่อนเมื่อห้านาทีนี้เพราะเจ้าหนูเจมส์แฝดน้องเพิ่งหลับสนิท

ในขณะที่พี่สาวหลับไปก่อนแล้วนานกว่า 20 นาที

“สวัสดีครับ”

“เมย์ออกไปชั่วโมงกว่าแล้ว นายนัดเธอที่ไหน เดินหาทั่วหรือยัง”

โยธินโทรมาตามณัฐวดี เขาว่ารอเธอเกือบชั่วโมงแล้ว..

แต่ยังอารมณ์ดีพอที่จะกระเซ้าภากรว่า หรือเธอเกิดเปลี่ยนใจไม่อยากหย่าจากเขาก็ได้...

วางสายจากโยธินภากรเดินงุ่นง่านไปมา เขาติดต่อณัฐวดีไม่ได้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ทำไมป่านนี้เธอยังเดินทางไปไม่ถึง ทั้งๆ ที่จุดนัดพบอยู่ไกลจากบ้านไม่เกินครึ่งชั่วโมงแม้รถจะติดบ้างก็ตาม

“RRRR...”

ชายหนุ่มถลาเข้าไปคว้าโทรศัพท์ โดยไม่ทันระวังมือจึงปัดถูกกรอบรูปร่วงลงพื้น
เขากรอกเสียงทักปลายสายอย่างร้อนรน ในขณะที่สายตาจับจ้องที่พื้นห้อง

รู้สึกโกรธตัวเองที่ซุ่มซ่าม ณัฐวดีรักกรอบรูปเซรามิคชิ้นนี้มาก ตัวกรอบแตกเป็นสองท่อน

เศษกระจกเกลื่อนกระจายอยู่บนรูปเธอที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขภายในอ้อมแขนมีแฝดน้อยทั้งสองนอนหลับตาพริ้ม
 
ชายหนุ่มยืนนิ่งฟังเรื่องราวและคำบอกเล่าจากปลายสาย

รู้สึกชาวูบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาขยับส่วนใดของร่างกายไม่ได้

ในขณะที่สายตาก็ไม่อาจละจากใบหน้าหญิงสาวในภาพถ่ายได้เช่นกัน

********************



หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-05-2007 18:45:26
ขอบคุณ คุณ j-muay ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกัน

ขอความกรุณาเพื่อนๆ อย่านำเอาเรื่องราวในเรื่องนี้ไปเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากคุณ j-muay ก่อนนะครับ


หุหุ สงสัยก๊อปมาเพลิน  :laugh:  :laugh:

ปล.เรื่องนี้ท่าทางน่ารักอีกแล้ว แต่เปิดตัวมาก็มีแววเศร้าเลยเรอะ   :impress:


-----------------------------------------

ใจร้ายยยย เห็นแล้วก็ไม่ยอมแก้ให้

ชิส์

พูห์
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 26-05-2007 18:52:40
 :impress2: :impress2: :impress2:
ดีใจจัง
เจ๊หมวยยอมให้ปะป๊าโยมาเที่ยวเล้าด้วย :like6:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 27-05-2007 20:44:05
ดีใจด้วยคน พ่อโจมาบอร์ดนี้แล้ว :like6:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 29-05-2007 15:27:58
ภากรยืนสงบนิ่งอยู่เบื้องหน้าหลุมศพเธอนานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว เขาสวมแว่นดำเพื่ออำพรางความบอบช้ำของดวงตา อันเนื่องมาจากความเศร้าโศกเพราะต้องสูญเสียเธออันเป็นสุดที่รักยิ่งของเขาไปตราบชั่วนิรันดร์
ณัฐวดีประสบอุบัติเหตุรถชนประสานงากับรถที่แซงสวนขึ้นมา เธอเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลโดยที่เขาไม่มีโอกาสได้ดูใจ เขาบอกไม่ได้ว่ารู้สึกเสียใจมากเพียงใด รู้แต่ว่าหากไม่มีทารกน้อย ๆ ส่งเสียงร้องเตือนสติอยู่ข้างๆ เขาอาจทำในสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง
ภากรสะดุ้งตื่นและลุกพรวดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงลูกร้องกลางดึก เขานั่งนิ่งอย่างงุนงงเหมือนได้ยินเสียงเธอปลุกให้เขาตื่นไปดูลูก เขายิ้มให้ตัวเองอย่างขมขื่น ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง
“โอเค! ที่รัก.. เขาเป็นของผมทั้งคู่ ไม่ว่าใครจะตื่นผมจะลุกขึ้นไปดูเอง ผมสัญญาว่าจะดูแลลูกให้ดีที่สุด หลับเถอะนะ ที่รัก.. หลับให้สบาย..”
.............................................

2 เดือนหลังจากที่ณัฐวดีเสียชีวิต ภากรเริ่มทำใจได้กับการจากไปของเธอ อาจเป็นเพราะแฝดน้อยทั้งสองกระมัง ที่ทำให้เขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและอ้างว้าง ทุกครั้งที่เขาวุ่นวายอยู่กับลูก เหมือนมีเธออยู่ใกล้คอยกระซิบบอกเขาตลอดเวลาว่าต้องทำอะไรบ้าง ทำให้เขารู้สึกว่าเธอไม่ได้จากไปไหน เธออยู่กับเขาตลอดเวลา แม้ไม่มีรูปกายให้สัมผัส แต่ก็รับรู้และสัมผัสได้ทางจิตใจผ่านลูกน้อยทั้งสอง ทุกครั้งที่เขากอดและพูดคุยกับลูก เหมือนได้กอดและพูดคุยกับเธอด้วย
“มีแขกมาพบค่ะ”
แม่บ้านเข้ามารายงานภากร ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังป้อนอาหารเช้าให้แฝดน้อยทั้งสอง
“ใครกันน่ะ”
“บอกว่าเป็นทนายความมาจากคุณโยธินค่ะ”
ภากรใจหายวาบอย่างไม่มีเหตุผล บอกไม่ถูกว่าทำไม รู้แต่ว่า.... กิจธุระของทนายความไม่เคยเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับใคร
เป็นไปตามที่ภากรสังหรณ์ เขาพบกับเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นได้ หลายความรู้สึกประดังขึ้นเป็นระลอก เขาตกใจกับข้อเสนอและโกรธมาก จนต้องออกปากไล่ทนายความของนายโยธินออกจากบ้าน เขายืนกรานที่จะไม่รับข้อเสนอใดๆ แม้ในใจจะรู้สึกตื่นตระหนกกับสถานภาพของตัวเองที่ดูรูปการณ์แล้วเหมือนเขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ หากมีการฟ้องร้องและสู้ความกันในศาล....

ภากรแวะมาดูงานที่ร้านอาหาร หลังจากห่างหายไปนานกว่า 2 เดือน เพราะตั้งแต่ณัฐวดีจากไป นอกจากเขาจะไม่มีใจทำอะไรแล้ว ยังต้องวุ่นวายอยู่กับลูก ๆ จนไม่มีเวลาเข้าไปดูแลงานด้วยตัวเอง
ภากรยืนทักทายลูกค้าประจำของร้าน เขาถูกต่อว่าว่าห่างหายไปนาน
“คุณประวิชมาแล้วครับ ” บริกรเดินเข้ามารายงานภากร
ชายหนุ่มพยักหน้ารับทราบและหันไปขอตัวกับลูกค้า เขานัดประวิช เพื่อนสนิทสมัยเรียนและเป็นทนายความฝีมือดีมาพบปะเพื่อหารือด้วย ตั้งใจจะขอให้ประวิชเป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายของธุรกิจที่เขาทำอยู่และเป็นทนายความส่วนตัวให้เขา ไม่คิดว่าวันนี้จะได้มีโอกาสใช้บริการจากเพื่อนด้วยเรื่องส่วนตัวเป็นงานแรก
ทันทีที่เห็นหน้าเพื่อน ภากรตรงรี่เข้าไประบายความอัดอั้นบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดโดยไม่สนใจจะถามไถ่ทุกข์สุขกันก่อน เล่นเอาอีกฝ่ายนั่งอ้าปากหวอฟังตาปริบๆ
“นายต้องช่วยฉันนะ วิช.. ฉันไม่ยอมเสียลูกไป จะต้องแลกด้วยทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีอยู่ ฉันก็ยอม ”
“ใจเย็นๆเพื่อน อย่าวิตกเกินเหตุ ลูกของนายก็ต้องเป็นสิทธิของนายวันยังค่ำ ไม่ต้องถึงกับแลกด้วยทรัพย์สมบัติทั้งหมดหรอก ขอแค่นายยอมเป็นหุ้นส่วนกับฉันก็พอแล้ว”
ประวิชถือโอกาสชวนภากรเป็นหุ้นส่วนสำนักงานกฎหมายซะเลย...

***************************
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-05-2007 19:45:44
หุหุ ท่าทางพระเอกจะโผล่เร็ว ๆ นี้  o8



หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 29-05-2007 22:04:50
 o15

หวัดดีค่า  กระทู้นี้เจ๊หมวยยกให้คุณพูห์ช่วยโพสแทน  แต่ตอนนี้ว่างอยู่จะช่วยโพสต่อให้สักตอนสองตอนค่ะ


***********************


โยธินยื่นข้อเสนอต่อภากรว่าเขาต้องการทารกแฝดหนึ่งคนมาเลี้ยงดู หญิงหรือชายก็ได้ หากภากรยอมตกลงด้วยดี ข้อเสนอสำหรับผลประโยชน์ทางธุรกิจต่างๆก็จะตามมา แต่ถ้าไม่... เขาก็เสียใจที่จะต้องอ้างถึงสิทธิในฐานะ “พ่อ” เพราะตามกฎหมายเขายังเป็นสามีของณัฐวดีอยู่ แม้ว่าขณะนี้แฝดน้อยทั้งสองจะเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของภากร เพราะเขาจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร แต่หากร้องถึงศาลแล้ว ภากรอาจตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเนื่องจากผู้เป็นแม่จงใจปิดบังสถานภาพการสมรสของตน

ภากรตกใจแทบช็อคกับสถานภาพการเป็น “พ่อ” ของตัวเอง

“เป็นไปได้หรือ วิช.. หมอนั่นมันอ้างสิทธิเป็นพ่อของลูกฉันได้เหรอ”

“จริงๆ แล้วเขาไม่มีสิทธิหรอกนะ เพราะเขาไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของเด็ก แต่มันวุ่นวายสับสนอยู่ตรงเรื่องทะเบียนสมรสนั่น ถ้าเขาดันทุรังอยากจะมีสิทธิ เขาก็อ้างได้ในฐานะที่เขายังเป็นสามีตามกฎหมายของแม่เด็กอยู่ แต่อย่าวิตกเลย โจ.. ถึงที่สุดแล้วศาลก็จะพิจารณาตามความเป็นจริง แม้ว่าจะสับสนอยู่บ้าง แต่ตราบใดที่เด็กเป็นลูกของนาย ศาลก็ต้องให้นายเป็น “พ่อ” มีสิทธิเลี้ยงดูและปกครองเด็กๆ อยู่แล้ว....”

ประวิชให้กำลังใจเพื่อน ในขณะเดียวกันก็รู้สึกมึนกับชีวิตส่วนตัวของภากร ไม่คิดว่าจะวุ่นวายและซับซ้อนขนาดนี้


***********************


ภากร เจ้าของร้านอาหารและสวนอาหารมีชื่อ หนุ่มใหญ่วัย 38 ผู้ผ่านชีวิตรักมาอย่างโชกโชนแต่กลับต้องมาสยบและใช้ชีวิตคู่ร่วมกับหญิงสาวที่มีพันธะตามกฎหมาย ซ้ำยังเป็นผู้เลี้ยงดูลูกน้อยๆ ด้วยตัวเอง เขาทำให้ประวิชผู้เป็นเพื่อนซึ่งไม่ได้พบปะกันมานานกว่า 5 ปี รู้สึกทึ่ง...

ณัฐวดี สาวงามวัย 26 ปี หญิงสาวผู้กุมหัวใจภากรไว้ได้ เธอเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกันแต่ไปเติบโตและใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษ ณัฐวดีรู้จักและชอบพอกับ โยธิน เศรษฐีหนุ่มรูปงามวัย 28 ทายาทเจ้าของธุรกิจนำเที่ยวชื่อดัง ซึ่งเดินทางเทียวไปมาหาสู่เธอข้ามประเทศเป็นเวลานานเกือบ 2 ปี จนเธอใจอ่อนยอมตัดสินใจแต่งงานกับโยธินและย้ายตามเขากลับมาใช้ชีวิตในเมืองไทย

แต่แล้วชีวิตสมรสของเธอก็ต้องจบสิ้นลงภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปี เมื่อเธอพบว่าโยธินมีพฤติกรรมรักร่วมเพศ แม้เขาจะพยายามเอาใจใส่และปฏิบัติต่อเธออย่างดี แต่เธอก็ไม่สามารถรับสภาพและทนอยู่กับเขาต่อไปได้ เธอขอหย่าขาดจากเขาแต่เขาไม่ยอม กลับท้าให้เธอฟ้องหย่าเพราะคิดว่าเธอไม่กล้า แต่เขาคิดผิด เมื่อณัฐวดีเตรียมหาทนายจะฟ้องหย่า โยธินจึงต้องเป็นฝ่ายขอร้องเธอ โดยยื่นข้อเสนอยอมให้เธอแยกออกไปเป็นอิสระและคบหาใครก็ได้ที่เธอต้องการ โยธินขอเวลาเธอ 2 ปี จึงจะหย่าขาดตามกฎหมายให้ เพราะเหตุผลที่เกี่ยวพันกับมรดกของตระกูลที่เขาจะได้รับ ซึ่งกำหนดจะเปิดพินัยกรรมในอีก 2 ปีข้างหน้า และเขาจะมีสิทธิได้รับก็ต่อเมื่อเขาแต่งงานมีครอบครัวแล้วเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ณัฐวดีจึงแยกออกมาอยู่ตามลำพังในห้องชุดสุดหรูที่โยธินมอบกรรมสิทธิ์ให้พร้อมรถหนึ่งคัน และค่าใช้จ่ายรายเดือนที่เขายินดีส่งเสียเลี้ยงดูเธอตลอดไป จนกว่าจะถึงวันที่เขาและเธอหย่าขาดจากกันตามกฎหมาย หรือจนกว่าเธอจะมีใครคนใหม่

เมื่อเธอมาพบกับภากร หนุ่มใหญ่เจ้าเสน่ห์ที่มีประวัติในเรื่องความเจ้าชู้ แม้เธอจะรู้สึกพึงพอใจเขาเหมือนหญิงสาวคนอื่นๆ แต่เธอก็ไม่คิดจะจริงใจด้วย เธอเข็ดขยาดกับการหลงเชื่อคารมของชายหนุ่มง่ายๆ แต่เมื่อคบกับเขานานวันขึ้น รู้สึกตัวอีกครั้ง…หัวใจของเธอก็หลุดลอยไปอยู่ในกำมือของเขาแล้ว....

ณัฐวดีเล่าเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมาของเธอให้ภากรรับรู้ เธอยินดีหากเขาจะจากไปเพราะเธอยังมีพันธะอยู่ แต่เขาก็ไม่ไปและยังคบหาเธอเรื่อยมาจนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อเธอบอกกับเขาว่าเธอตั้งครรภ์ เธอไม่คิดว่าเขาจะยินดีหรือต้องการลูก แต่ผิดคาด.. เขาตื่นเต้นและดีใจอย่างมาก บอกกับเธอว่าเขารอคอยวันนี้มานานแสนนานแล้ว เขาขอให้เธอย้ายไปอยู่กับเขา ชีวิตคู่ระหว่างเธอกับภากรจึงเริ่มต้นจากวันนั้นมา แม้จะเป็นการเริ่มต้นที่ไม่สมบูรณ์นักเพราะเธอยังมีพันธะอยู่ แต่ทั้งเขาและเธอต่างก็เต็มใจและพร้อมที่จะรับกับปัญหาที่เกิดขึ้น

“คุณทำให้ผมลำบากรู้มั้ย ที่รัก.. ถ้าคุณไม่จากเราไป วันนี้เราคงเป็นครอบครัวที่มีความสุขที่สุด ผมจะได้เป็นสามีของคุณและเป็น “พ่อ” ของลูกตามกฎหมาย คุณต้องช่วยผมนะ ที่รัก.. ผมเสียคุณไปแล้ว ผมไม่ยอมเสียลูกไปอีก ได้โปรด..”

ชายหนุ่มวางรูปเธอลงที่หัวเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอน บอกไม่ถูกว่ารู้สึกกลัวเพียงใด รู้แต่ว่าเขาไม่เคยวิตกกังวลกับเรื่องใดๆ เท่านี้มาก่อนในชีวิต


***********************




หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 29-05-2007 22:15:11
My baby
= 2 =

*****************************

“มีธุระอะไร” ภากรเอ่ยถามปลายสายด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

“อารมณ์ไม่ดีหรือโจ.. ไม่เอาน่า ผมอยากตกลงกับคุณดีๆ อีกครั้ง ไม่อยากให้เรื่องถึงโรงถึงศาล”

“ฉันไม่มีอะไรจะตกลงด้วย คนไม่มีคุณสมบัติจะเป็นพ่อคนอย่างนาย ไม่สมควรจะมาขึ้นศาลด้วยคดีแบบนี้ นายน่าจะรู้ตัวเองดีนะ โยธิน.."

“ผมรู้ โจ.. ผมรู้ว่าผมทำผู้หญิงท้องได้เหมือนที่คุณทำนั่นแหล่ะ ไม่อยากตกลงกันด้วยดีก็ตามใจ คุณจะต้องเสียใจเพราะแทนที่คุณจะได้ลูกไว้หนึ่งคน คุณอาจจะไม่เหลือใครเลยก็ได้นะ โจ..”

ภากรกระแทกหูโทรศัพท์ลงด้วยความโกรธ

..ให้ตายเถอะ! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่มีวันยอมให้แกแตะต้องลูกฉัน..


**************************

เมื่อภากรไม่ยอมตกลงตามข้อเสนอ โยธินซึ่งต้องการทารกแฝดหนึ่งคนมาเป็นทายาทของตัวเอง จึงยื่นคำร้องต่อศาลขอสิทธิในการเลี้ยงดูเด็กในฐานะ “พ่อ” เพราะตามกฎหมายเขายังเป็นสามีของณัฐวดีอยู่
ดูตามรูปการณ์แล้วภากรน่าจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นพ่อที่แท้จริงของเด็ก จากคำให้การของภากร เขาใช้ชีวิตอยู่กินกับณัฐวดีฉันสามีภรรยามานานกว่าปีครึ่งแล้ว เขาบอกเล่าถึงข้อตกลงในการหย่าร้างระหว่างณัฐวดีกับโยธิน และชีวิตครอบครัวที่ผ่านมาระหว่างเขากับหญิงสาวและลูกๆ เขารู้ว่าแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่เขาจะมอบความรักและสร้างครอบครัวใหม่ที่อบอุ่นให้กับเธอ ทดแทนความผิดพลาดและความล้มเหลวในชีวิตสมรสระหว่างเธอกับโยธิน

ประวิช ในฐานะทนายของภากรแถลงต่อศาลว่า เด็กควรจะได้อยู่กับพ่อที่แท้จริงมากกว่าที่จะคำนึงถึงกฎหมายแต่เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่สมควรให้เด็กไปอยู่กับคนที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ เพราะไม่เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเด็ก

โยธินไม่ปฏิเสธและยอมรับว่าเขามีพฤติกรรมเช่นนั้นจริง สังคมและคนที่รู้จักคุ้นเคยด้วยรับรู้ว่าเขาเป็นเกย์

“ผมยอมรับว่า..ผมไม่มีคุณสมบัติของการเป็นสามีที่ดี ผมจึงตกลงที่จะหย่ากับเธอตามที่เธอต้องการ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็น “พ่อ” ของลูก”

“ทำไมคุณถึงอยากจะเป็น “พ่อ” ของเด็ก ในเมื่อคุณกับเธอแยกทางกันอยู่มานานกว่า 2 ปีแล้ว ที่สำคัญ.. คุณเองก็รู้อยู่ว่าเธอคบหาและอยู่กินกับคุณภากรฉันสามีภรรยามานานแล้วเช่นกัน”   ทนายฝ่ายโยธินตั้งคำถามนำให้ลูกความเขาตอบ

“ผมไม่ได้ทำเพราะต้องการเอาชนะใคร แต่ผมมีเหตุผลที่อยากจะเรียนให้ศาลทราบว่า ผมไม่แน่ใจว่า ..เด็กฝาแฝดทั้งสองคนอาจจะเป็นลูกของผมหรือเปล่า..”

ขาดคำโยธินเสียงพึมพำและเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้น ในขณะที่ภากรรู้สึกโกรธจนห้ามอารมณ์ไม่อยู่ เขาขยับจะลุกขึ้นแต่ประวิชดึงตัวไว้

“บอกได้มั้ยว่าทำไมคุณถึงเข้าใจเช่นนั้น”

“ช่วงแรกที่เราแยกทางกัน ผมไปมาหาสู่เธอเดือนละครั้งเพื่อเอาเงินไปให้ ความจริงผมโอนเข้าบัญชีให้เธอก็ได้ แต่ผมคิดว่าการได้พบปะกันบ้างจะเป็นการดีกว่า อย่างน้อยได้ไต่ถามทุกข์สุขในฐานะที่เธอยังเป็นภรรยาตามกฎหมายของผมอยู่ ทุกครั้งที่พบกันผมสาบานได้ว่าไม่เคยล่วงเกินเธอเลย เป็นเวลานานกว่า 6 เดือน จนเดือนที่ 7 ผม.. เอ่อ… …ผมเสียใจที่จำเป็นต้องบอกความจริงว่า.. ผมมีความสัมพันธ์กับเธอในเดือนที่ 7 ก่อนที่เธอจะตั้งครรภ์”

ในขณะที่ทุกคนในศาลนิ่งฟังเรื่องที่โยธินบอกเล่าอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่สำหรับภากรแล้ว.. หัวใจเขาแทบจะหยุดเต้นกับเรื่องที่ได้ยิน ประวิชเองก็รู้สึกตกใจอย่างมากเช่นกัน

“คุณรู้หรือเปล่าว่าเวลานั้นเธอคบกับคุณภากรอยู่แล้ว”

“ผมทราบว่าเธอคบเขาอยู่ แต่วันนั้นผมห้ามใจตัวเองไม่ได้ และเพราะเธอไว้ใจผมจึงไม่ได้ระวังตัวกับผม เธอทำให้ผมเกิดอารมณ์....”

“ขอค้านครับ”

ประวิชลุกขึ้นขอคัดค้าน เนื่องจากหญิงสาวที่กล่าวถึงไม่มีชีวิตอยู่ที่จะมาชี้แจงหรือให้การใดๆได้ จึงเป็นการกล่าวอ้างแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ศาลเห็นว่าเกี่ยวข้องกับการพิจารณาจึงให้ทนายของโยธินซักต่อ

“คุณเกิดอารมณ์กับหญิงสาวได้หรือ ขอโทษที่ผมต้องถามตรงๆ ”

“บางโอกาสและกับบางคนเท่านั้น สำหรับเธอ.. เธอเคยเป็นของผมมาก่อน ผมห้ามความรู้สึกไม่ได้ วันนั้นผมมึนนิดหน่อยเพราะดื่มไวน์ด้วย ”

“คุณจึงมีความสัมพันธ์กับเธอในวันนั้น ใช่หรือไม่”

“ใช่ครับ”

“คุณจำวันเวลาได้มั้ย กรุณาบอกศาลด้วย”

“วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว เวลาประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง”

“เธอเต็มใจหรือเปล่า”

“เอ่อ.. ไม่ครับ เธอไม่เต็มใจ”

โยธินก้มหน้าลง รู้สึกละอายใจเหมือนกัน หากข่าวแพร่ออกไปในวงสังคมคงเม้าท์กันสนุกปากว่าเกย์หนุ่มขืนใจหญิงสาวที่อยู่ในฐานะภรรยาตัวเอง…พิทักษ์ ทนายความฝ่ายโยธินแถลงกับศาลถึงความเป็นไปได้ ที่ลูกความของเขามีสิทธิจะคิดว่าเด็กอาจจะเป็นลูกของตน พร้อมกับมอบเอกสารรับรองจากแพทย์ยืนยันความเป็นไปได้ในการตั้งครรภ์ของหญิงสาวหากมีเพศสัมพันธ์เกิดขึ้นจริงในวันนั้น โดยเทียบจากอายุและวันเดือนปีเกิดของเด็กย้อนกลับไป จึงขอให้ศาลพิจารณาให้มีการพิสูจน์ DNA ของเด็กและคู่ความทั้งสองเพื่อหาพ่อที่แท้จริง

ทนายพิทักษ์จบคำแถลง ศาลจึงเอ่ยถามทนายอีกฝ่ายว่ามีอะไรจะแถลงต่อหรือไม่

“คุณประวิช มีอะไรจะซักหรือแถลงต่อมั้ย” ศาลถามย้ำเมื่อเห็นประวิชยังนั่งนิ่ง

“ครับ”    ประวิชรับคำและหันไปหาภากรที่ยังนั่งอึ้งตะลึงกับเรื่องที่ได้ยิน เขาบีบไหล่เพื่อนเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป

“คุณร้องขอสิทธิที่จะเป็น “พ่อ” ของเด็ก เพราะคุณคิดว่าเด็กอาจจะเป็นลูกของคุณจากการที่คุณมีความสัมพันธ์กับเธอในวันนั้นใช่หรือไม่”

“ใช่ครับ”

"คุณเกิดอารมณ์กับหญิงสาวได้ยังไงทั้งที่คุณเป็นเกย์   เท่าที่สืบทราบมาคุณเป็นฝ่ายรับไม่ใช่ฝายรุก การเกิดอารมณ์กับเธอในวันนั้นเป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น"

โยธินรู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้าเมื่อถูกประวิชซักตรงประเด็นอย่างไม่ไว้หน้าและความรู้สึก แต่เขาก็สามารถตอบกลับไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

"คุณคงไม่ได้ศึกษาพฤติกรรมของเกย์หรือกลุ่มรักร่วมเพศมาดีพอถึงถามคำถามนี้ สายสืบของคุณเป็นใครผมไม่รู้ แต่คงไม่ใช่คนที่ผมเคยนอนด้วยแน่ๆ ผมไม่ใช่กระเทย ผมไม่ได้มีจิตใจเป็นหญิง ผมเป็นเกย์ รักและชอบผู้ชายด้วยกันมากกว่าผู้หญิง ผมเป็นได้ทั้งฝ่ายรับและฝ่ายรุก ในวันนั้นถ้าไม่ใช่เธอ..ผมก็คงไม่เกิดอารมณ์หรอก เป็นเพราะเธอเคยเป็นของผมมาก่อน ประกอบกับผมรู้สึกอิจฉาคนรักใหม่ของเธอนิดๆ ก็เลยเกิดเหตุการณ์ที่ผมไม่ได้ตั้งใจขึ้น"

“ทำไมคุณไม่ร้องขอในขณะที่แม่ของเด็กยังมีชีวิตอยู่”

โยธินนิ่งไป เขาเพิ่งมีความคิดว่าเด็กอาจจะเป็นลูกของเขาเมื่อไม่นานมานี้เอง หลังจากที่ณัฐวดีเสียชีวิต เขาเพิ่งได้มีโอกาสเห็นแฝดน้อยทั้งสองอย่างใกล้ชิดในงานศพของเธอ เขาหลงใหลความน่ารักของหนูน้อยจนถอนใจไม่ขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเกิดความต้องการอยากมีลูกไว้เป็นทายาทสืบสกุล หากเขาสามารถได้แฝดน้อยหนึ่งคนมาเป็นลูกก็เป็นเรื่องที่วิเศษสุด เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาต้องฝืนความรู้สึกของตัวเองไปคบหาหญิงสาวคนอื่นๆ เพียงเพื่อต้องการเด็ก

และแล้ว.. โยธินก็เห็นช่องทางที่เขาสามารถอ้างความเป็น “พ่อ” ได้ ในฐานะที่เขายังเป็นสามีตามกฎหมายของแม่เด็ก แต่เมื่อลำดับเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ เขากลับพบว่ามีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะเป็นพ่อจริงๆ ของเด็ก มากกว่าที่จะอยู่ในฐานะพ่อ เพียงเพราะเป็นสามีตามกฎหมายของแม่เท่านั้น

“คุณเพิ่งจะมีความคิดว่าเด็กอาจจะเป็นลูกของคุณใช่หรือไม่”    ประวิชเปลี่ยนคำถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งอึ้งไป

“ใช่ครับ”

“อยู่ๆ คุณก็อ้างว่าคุณมีความสัมพันธ์กับแม่ของเด็กเมื่อ 17 เดือนที่แล้ว และไม่แน่ใจว่าเด็กอาจจะเป็นลูกของคุณหรือเปล่า แสดงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นสนิท หรือไม่ก็เป็นเพราะคุณไม่สนใจและไม่แคร์เลยว่าเด็กจะเป็นลูกของคุณใช่หรือไม่ ”

“ผมสัญญากับเธอว่าจะลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น จะไม่ทำให้เธอแตกร้าวกับเขา ผมสัญญาว่าจะลืม..และผมก็ลืมจริงๆ แต่หลังจากที่ผมได้มีโอกาสเห็นลูกๆ ของเธอตอนที่เธอเสียชีวิตแล้ว ผมจึงเริ่มคิดได้...”

“หึ! คุณเริ่มคิดตอนที่ได้เห็นหน้าเด็กแล้วยังงั้นหรือ.. คุณจะเป็นพ่อของลูกได้ยังไง คุณโยธิน.. ถ้าคุณลืมความสัมพันธ์ระหว่างตัวคุณเองกับแม่ของลูกได้สนิทใจขนาดนั้น ถึงคุณจะมีพฤติกรรมรักเพศเดียวกันก็เถอะ แต่หญิงสาวที่ทำให้คุณอดใจไม่ได้จนต้องใช้กำลังขืนใจเธอ มันไม่เป็นเหตุการณ์ที่ควรจะอยู่ในความทรงจำคุณเลยยังงั้นเหรอ!!..”

โยธินสะดุ้งเมื่อถูกประวิชพูดเสียงดังใส่หน้า

"ขอค้านครับ ทนายประวิชไม่มีสิทธิตำหนิหรือว่ากล่าวลูกความของผม"

ทนายพิทักษ์รีบออกรับแทนเมื่อเห็นลูกความของเขาหน้าเสียและนั่งอึ้ง

ศาลขอเวลานอกคุยกับทนายทั้งสอง เพราะรู้สึกปวดหัวกับคดีร้องขอสิทธิความเป็นพ่อครั้งนี้ เริ่มแรกดูเหมือนจะพิจารณาง่าย ไปๆ มาๆ กลับวุ่นวายน่าดู

ประวิชชี้ให้ศาลเห็นว่า เนื่องจากหญิงสาวผู้เป็นแม่ไม่มีชีวิตอยู่ที่จะมาให้การตามที่ถูกกล่าวอ้างได้ หากเหตุการณ์ที่โจทก์กล่าวเป็นความจริง เป็นไปไม่ได้ที่โจทก์จะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองอาจจะเป็นพ่อของเด็ก แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าโจทก์รู้อยู่ตลอดเวลาว่าเด็กอาจจะเป็นลูก แต่โจทก์ก็ไม่ใส่ใจที่จะแสดงตัวและพิสูจน์ว่าเด็กเป็นลูกของตนหรือไม่ แสดงถึงความไม่สนใจและไม่รับผิดชอบในเหตุการณ์และเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงพฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่เหมาะสม ประวิชจึงขอให้ศาลพิจารณาโดยไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ DNA

ทนายพิทักษ์ค้านว่า การพิสูจน์ DNA เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสิน ซึ่งผลพิสูจน์หากโยธินเป็นพ่อของลูก ก็แสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่โยธินกล่าวอ้างมาทั้งหมดเป็นความจริงด้วย

“แล้วถ้าเด็กไม่ใช่ลูกของนายโยธินล่ะ ก็แสดงว่าที่ลูกความคุณกล่าวอ้างมาทั้งหมดเป็นเท็จยังงั้นหรือ” ประวิชซักทนายพิทักษ์ต่อหน้าศาล

“ผมไม่ได้หมายความเช่นนั้น หากความสัมพันธ์ระหว่างหญิงและชายแต่ละครั้งหมายถึงการต้องมีบุตร ป่านนี้มนุษย์คงล้นโลกแล้ว คุณประวิช”

“ลื้อพูดเอาแต่ได้นี่หว่า พิทักษ์” ประวิชฉุนจนต้องเอ่ยปากต่อว่าประสาคนคุ้นเคย

“ระวังคำพูดหน่อยคุณประวิช”

ศาลกล่าวเตือนประวิชและสรุปให้มีการตรวจเลือดเพื่อพิสูจน์ DNA เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะเคลียร์ความกระจ่างทั้งหมดได้ หากเด็กเป็นลูกใครก็จะให้สิทธิผู้นั้นเลี้ยงดูเด็กในฐานะ “พ่อ”


***************************

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 29-05-2007 22:40:23
 :haun5:   มีเรื่องใหม่มาให้อ่านอีกแล้ว
เม้นก่อนไปอ่าน  อิอิ   o3
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 29-05-2007 22:43:05
ภากรนั่งนิ่งมาในรถ ออกจากห้องพิจารณคดีเขาไม่พูดไม่จาและอยู่ในสภาพที่ไม่น่าไว้ใจว่าจะขับรถได้ ประวิชจึงอาสาขับมาส่ง

“เฮ้! โจ.. นายโอเคหรือเปล่า.. ไม่เอาน่าเพื่อน ทำหน้าเหมือนเราแพ้แล้วยังงั้นล่ะ มั่นใจหน่อยซี.. เด็กเป็นลูกของนาย นายเลี้ยงพวกเค้ามากับมือนะ..”

“ฉันแพ้แล้ว วิช..” ประโยคแรกที่ภากรเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและสั่นเครือ

“ว่าไงนะ!! ”   ประวิชถามย้ำด้วยความข้องใจ แต่แล้วคำตอบที่ได้รับก็ทำให้เขาเข้าใจถึงอาการและความรู้สึกของเพื่อน


***************************


เป็นเรื่องส่วนตัวที่ภากรไม่เคยบอกเล่าให้ใครฟังมาก่อน แม้แต่ณัฐวดีเขาก็ไม่เคยเล่าให้เธอฟัง
ภากรประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ 15 ปีที่แล้ว หมอให้เขาทำใจว่าเขาอาจจะมีลูกยาก เวลานั้นเขาไม่รู้สึกวิตกอะไร การมีลูกยากขึ้นกว่าเดิมคงเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขา เพราะก่อนหน้าที่เขาจะประสบอุบัติเหตุ มีหญิงสาวตั้งครรภ์กับเขามาแล้ว 2 รายแต่เขายังไม่พร้อม

หลังจากนั้นมาไม่ปรากฏว่ามีหญิงสาวคนไหนตั้งครรภ์กับเขาอีกเลย จนเขาเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่การมีลูกยาก แต่เขาอาจไม่สามารถมีลูกได้อีกเลยตลอดชีวิต เขาแอบตั้งความหวังที่จะมีลูกกับหญิงสาวคนใดคนหนึ่งที่เขาคบหาด้วย การใช้ชีวิตอย่างเพลย์บอยและการเปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้าของเขาก็ด้วยเหตุผลนี้ เขาตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าหากเธอคนใดตั้งครรภ์กับเขาอีกครั้ง เขาจะไม่ละเลยความรับผิดชอบอีก เขารอคอยเวลานั้นมานานกว่า 10 ปี จนรู้สึกท้อและหมดหวัง

แต่แล้วณัฐวดีก็ทำให้ความหวังของเขาเป็นจริง เขาดีใจมากที่สุดในชีวิต จนเธอเองก็ยังแปลกใจ เพราะเธอไม่แน่ใจว่าเขาต้องการลูกหรือเปล่า เขาไม่เคยเอ่ยถึงเด็กเล็กๆ ให้หญิงสาวคนไหนฟัง จึงไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาแอบเฝ้าคอยวันที่จะได้มีโอกาสเป็นพ่อของลูกขนาดไหน ดังนั้นแม้เธอจะมีพันธะอยู่กับใครเขาก็ไม่สนใจ และยินดีที่จะรอคอยวันที่เธอจะเป็นอิสระตามกฎหมาย ระหว่างนั้นเขาและเธอจึงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างเงียบๆ และเรียบง่ายแต่อบอวลไปด้วยความสุข

และแล้ว.. เธอก็ทำให้เขายิ่งกว่าสมหวังเมื่อเธอตั้งครรภ์ลูกแฝด เขาช่วยเธอฟูมฟักลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนเธอคลอด เขาก็ยังเต็มใจและยินดีที่จะช่วยเลี้ยงดูลูกเล็กๆ ด้วยตัวเองจนหลายๆ คนคาดไม่ถึง

“ฉันแพ้แล้ว วิช..”

ภากรกล่าวย้ำด้วยความปวดร้าว เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้เขาไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีก ความพ่ายแพ้รออยู่ตรงหน้าเห็นๆ แล้ว

“เหลวไหลน่า โจ.. เราไม่มีวันรู้จนกว่าจะได้พิสูจน์ความจริง เด็กอาจจะเป็นลูกนายก็ได้ มั่นใจหน่อยซีเพื่อน”

“ใช่.. เด็กๆ เป็นลูกฉันแน่ วิช.. ถ้าเรื่องที่ไอ้หมอนั่นพูดไม่เป็นความจริง นายว่าเขาพูดจริงมั้ย”

ประวิชนิ่งไป เขาเชื่อว่าคำให้การของโยธินเป็นความจริง แต่เพื่อให้เพื่อนมีกำลังใจขึ้น เขาจึงกล่าวความเห็นที่อาจจะเป็นไปได้

“ไม่ทุกคนหรอกนะที่จะยอมพูดแต่ความจริงตามที่สาบานไว้ เป็นไปได้ที่หมอนั่นอาจกุเรื่องขึ้นเพื่อให้ศาลยืดเวลาพิจารณาออกไป เพราะต้องมีการตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ ถึงแม้ผลออกมาเด็กจะไม่ใช่ลูกเขา เขาก็ไม่ผิด เพราะเขาแค่สงสัยว่าเด็กอาจจะเป็นลูกเขาเท่านั้น แต่ที่แน่ๆ ก็คือเขาทำให้นายผิดหวังและเสียใจที่คุณเมย์ปิดบังเรื่องนี้ และยังทำให้นายเกิดความไม่แน่ใจว่าเด็กเป็นลูกของนายจริงหรือเปล่า หมอนั่นอาจจะเล่นสงครามประสาทกับนายก็ได้ โจ..”

“นายคิดยังงั้นเหรอ” ความเห็นของประวิชทำให้ภากรรู้สึกดีขึ้น

“ใช่.. มั่นใจหน่อยซีเพื่อน ไม่รู้หรือว่าทั้งดวงตาและรอยยิ้มของเจ้าหนูเจมส์ ถอดแบบนายมาเป๊ะเลย”

“งั้นเหรอ” ภากรหัวเราะในลำคอ “แล้วยายหนูล่ะ”

“ยายหนูก็เหมือนแม่ ไม่มีส่วนไหนของเด็กๆ เหมือนหมอนั่นเลยนะ โจ.. นายอย่ากังวลไปเลย เชื่อฉันซี..”

“ฉันพยายามจะเชื่อนายนะ แต่เรื่องที่เด็กๆ เหมือนฉันคนและเหมือนเมย์คน ฉันไม่อยากจะเชื่อ”

“ทำไม นี่นายไม่เชื่อสายตาฉันเหรอ ลองถามใครดูก็ได้ว่าจริงอย่างที่ฉันพูดหรือเปล่า”

“ไม่ต้องถามใครหรอก วิช.. นายคงลืมไปว่าเด็กสองคนเป็นฝาแฝดกัน”

ประวิชเลิกคิ้ว ...จริงซีนะ แปลก! แต่จริง... เขากล่าวเสียงอ่อยลงแต่ยังแฝงด้วยความมั่นใจ

“อืมม์.. มันก็ไม่จำเป็นเสมอไปนะ ว่าฝาแฝดจะต้องเหมือนกันเปี๊ยบ โดยเฉพาะแฝดหญิงกับแฝดชาย นายจะให้หน้าตาเหมือนราวกับพิมพ์เดียวกันได้ยังไง ยังงี้จะดูออกหรือว่าใครเด็กผู้หญิงเด็กผู้ชาย หรือไม่ก็.. อาจจะเป็นแฝดจากไข่คนละใบหรือเชื้อคนละตัวก็ได้นะ จริงมั้ย!!..”

ประวิชหันมายักคิ้วให้ภากร เขายังสามารถให้เหตุผลและข้อสันนิษฐานได้อย่างมีหลักการสมกับเป็นทนายความจริงๆ

ภากรส่ายหน้า สรุปแล้วประวิชไม่ได้ทำให้เขาสบายใจขึ้นเลย


***************************


เสียงตาหนูเจมส์ร้องไห้จ้า หนูน้อยร้องโยเยมาตั้งแต่บ่าย ตกเย็นก็เริ่มงอแงหนักขึ้น เมื่อภากรกลับมาถึงแม่บ้านก็รีบอุ้มหนูน้อยตรงเข้ามาหา

“วันนี้คุณหนูเจมส์งอแงเหลือเกินค่ะ ไม่ทราบว่าเป็นอะไร”

หนูน้อยโผเข้าหาภากรทันทีที่เห็นหน้า แต่เขากลับยืนนิ่งไม่ยอมรับลูกมาอุ้ม เพราะมัวสังเกตุดวงตาของเจ้าหนูว่าเหมือนดวงตาเขาจริงหรือเปล่า หนูน้อยส่งเสียงร้องดังขึ้น พยายามขยับตัวออกจากอ้อมแขนของแม่บ้านและโผเข้ามาเกาะตัวพ่อ ภากรรู้สึกตัวรีบรับร่างน้อยๆ ไว้และพาเดินไปนั่งที่โซฟาร์

“เจนนี่ล่ะ ป้า”    เขาถามถึงลูกสาวในขณะที่เจ้าหนูจอมอ้อนยังสะอื้นไม่หยุด

“ละเอียดพาไปอาบน้ำค่ะ เธอไม่งอแงเลยค่ะ น่ารักที่สุด” แม่บ้านเดินเข้าไปทำธุระอื่นทิ้งให้คุณหนูอยู่กับคุณพ่อ

ภากรกระซิบข้างหูเล็ก    “เห็นมั้ย ลูกงอแงอะไรนักหนา หือ.. ป้าหวานไม่อยากรักแล้วนะ เฮ้!...”

เขาขยับหนูน้อยออกจากไหล่มายืนบนตัก คราบน้ำตายังอาบแก้มใส ดวงตาและขนตาเปียกชื้นเป็นแพ เห็นแล้วรู้สึกสงสารจับใจ

“ไอ้หนูของพ่อ.. ใครไม่รักก็ช่าง.. พ่อรักลูกก็พอนะ รู้มั้ยว่าลูกเป็นดวงใจของพ่อ ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง พ่อสัญญาว่าจะไม่มีวันเปลี่ยนใจเลิกรักลูก ลูกจะอยู่ในใจของพ่อตลอดไป”

ภากรจูบแก้มเปียกชื้นของหนูน้อยก่อนจับร่างเล็กซบไหล่


***************************

เมื่อคืนภากรแทบจะไม่ได้นอน หนูน้อยเจมส์ร้องโยเยกระสับกระส่ายไปมาทั้งคืนเพราะฟันกำลังขึ้น เป็นสาเหตุของอาการงอแงที่ผ่านมาทั้งวัน ส่วนเจนนี่นอนหลับปุ๋ยเหมือนทุกๆ คืนทั้งๆที่ฟันกำลังขึ้นเหมือนกัน น่าแปลกเหลือเกิน เธอช่างเป็นเด็กน้อยที่น่ารักและแสนดี ไม่ค่อยร้องไห้ โยเย จนบางครั้งภากรอดกังวลไม่ได้ว่าเป็นอาการผิดปกติหรือเปล่า

วันนี้ภากรไม่ได้เข้าไปดูงานที่ร้านอาหาร สถานการณ์ขณะนี้ทำให้เขาไม่อยากอยู่ห่างจากลูกๆ แม้เพียงนาทีเดียว วันไหนอยู่บ้านเขามักจะดูแลลูกด้วยตัวเอง ให้สาวใช้และพี้เลี้ยงไปทำงานอย่างอื่น หากเขาต้องการให้ช่วยก็จะเรียกเอง

ภากรนอนเหยียดยาวอยู่ที่พื้นห้อง หนูน้อยทั้งสองคลานเล่นไปมาอยู่ข้างๆ ของเล่นเด็กเกลื่อนกระจายเต็มห้อง เขาหัวเราะเมื่อรู้สึกเหมือนกำลังถูกงับเข้าที่แขน ไม่ต้องขยับตัวขึ้นดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือใคร

“ไม่เอาน่า เจมส์ ปล่อยพ่อเดี๋ยวนี้นะ โอ๊ะ!..”    เขารีบขยับตัวลุกขึ้นทันทีเมื่อเจ้าหนูไม่ยอมเอาปากออกจากแขน ซ้ำยังออกแรงงับหนักขึ้นและถูไถเหงือกด้านล่างอย่างรู้สึกมันเขี้ยว จนเขาอดหัวเราะไม่ได้

“เฮ้!.. ไม่เอาน่าลูก เป็นอะไรหือ เจมส์.. คันเหงือกเหรอ ไหนพ่อดูซิ”

ภากรอ้าปากหนูน้อยและตรวจดูบริเวณเหงือกด้านล่าง ซึ่งมีร่องรอยของฟันที่กำลังจะโผล่ขึ้นมา

“คันมากเลยหรือลูก หือ.. อดทนซีครับ ดูพี่เค้าซิ ทำไมไม่เห็นคันเหมือนเราเลย”

เขาหันไปทางแฝดน้อยผู้เป็นพี่สาว แต่แล้วก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ รีบคว้าร่างน้อยๆ ขึ้นมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะยัยหนูเด็กดีของเขากำลังอ้าปากหวอทำท่าจะงับหัวแม่เท้าเขาแล้ว


***************************

“มีธุระอะไร!!..”

อีกครั้งที่ภากรต้องรับสายโยธินด้วยความจำใจกึ่งไม่พอใจ

“หวัดดีโจ.. ไม่ไปทำงานอยู่บ้านเลี้ยงลูกเหรอ คุณเริ่มไม่แน่ใจแล้วใช่มั้ยล่ะ”

“หุบปากของนายซะ รีบพูดธุระมา ไม่ยังงั้นฉันจะวางสาย”

“ใจเย็นซีโจ.. คุณนี่ขี้โมโหชะมัดเลย คุณเปลี่ยนใจอยากจะตกลงกับผมใหม่มั้ย”

“ฉันไม่มีอะไรจะตกลง และไม่อยากเสียเวลาพูดคุยกับนาย”

“อย่าใจแคบซีโจ.. คุณกับผมไม่ใช่คนอื่นคนไกล อย่างน้อยเราก็เคยอยู่ในฐานะสามีของหญิงสาวคนเดียวกัน และตอนนี้ก็กำลังอยู่ในฐานะพ่อของลูกๆ คนเดียวกันด้วย”

“หุบปากของแกนะโยธิน.. ฉันจะไม่เสียเวลาคุยด้วย ถ้ายังขืนพูดหมาๆ อย่างนี้อีก”

“โอเค!..โจ.. ผมคุยเรื่องอื่นก็ได้ ผมตั้งใจจะโทรมาทบทวนความทรงจำของคุณหน่อย คุณจะได้เชื่อว่าเรื่องที่ผมพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง คุณอยากฟังมั้ย”

ภากรนิ่งอึ้งไป อีกฝ่ายจึงรีบพูดต่อทันที

“จำวันวาเลนไทน์ปีที่แล้วได้มั้ย โจ.. ผมอยากทบทวนเรื่องราววันนั้นกับคุณอีกครั้ง เมย์คิดว่าผมเป็นคุณจึงรีบมาเปิดประตูให้ ผมยังล้อเธอเลยว่ามีสามีใหม่แล้วลืมเก่าเลยเหรอ เธอไม่โกรธผมนะ โจ.. เธออารมณ์ดีเพราะเธอกำลังมีความรัก วันนั้นเธอนัดคุณไว้ 5 โมงเย็นจะออกไปดินเนอร์กัน ผมไปหาเธอประมาณบ่าย 3 เธอกำลังลองชุดที่จะออกเดทกับคุณตอนเย็น ชุดขาวเกาะอกสุดเซ็กซี่อย่างนั้น ผมไม่มีวันลืมเลย เธอคุยให้ฟังว่าคุณซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ผมขอดื่มฉลองความรักที่เธอกับคุณมีให้กันด้วยความจริงใจ ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ แต่พอดื่มไวน์ไปได้สองแก้ว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมไม่ควรจะรู้สึกอะไรกับเธอแต่ผมก็รู้สึก ผมอยากจะบอกกับคุณว่าผม....”

ภากรกระแทกหูโทรศัพท์ดังโครม!!!! หยุดเรื่องราวที่ได้รับฟังแต่เพียงเท่านี้ รู้สึกเจ็บที่หัวใจอย่างแรง เจ็บ... เขาเจ็บมากจริงๆ.... เจ็บที่เธอปิดบังเรื่องนี้กับเขา และเจ็บมากขึ้นไปอีก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้กำลังทำให้เขากับลูกต้องพรากจากกัน... หากเธอบอกเขาสักคำ เขาคงไม่ใจเย็นปล่อยให้การหย่าร้างของเธอยืดเยื้อขนาดนี้

เขาหวนนึกถึงเหตุการณ์ในเย็นวันนั้น ณัฐวดีไม่มีท่าทีใดๆ แสดงให้เห็นว่าเธอตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสองชั่วโมงที่ผ่านมาเลย เธอยิ้มแย้มและทักทายเขาเป็นปกติ จริงอย่างที่หมอนั่นพูด เขาตั้งใจจะพาเธอออกไปดินเนอร์ในคืนนั้น แต่แล้วก็เกิดเปลี่ยนแผนกระทันหัน เพราะเธอเปลี่ยนใจบอกว่าอยากจะฉลองกันเงียบๆ ในห้องมากกว่า เขาตามใจเธอ เธอจึงสั่งอาหารขึ้นมาที่ห้อง จากนั้นเราก็สร้างบรรยากาศวันแห่งความรักกันอย่างเงียบๆ เขามีเซ็กซ์กับเธอในคืนนั้นด้วยเช่นกัน แต่นั่นไม่ใช่ครั้งแรกของเขาและเธอ เขาคบหาและมีความสัมพันธ์กับเธอมานานกว่า 5 เดือนก่อนหน้านั้นแล้ว หากการตั้งครรภ์ของเธอเกิดขึ้นจากการที่เธอมีความสัมพันธ์กับใครในวันนั้น อย่างนี้แล้ว... เด็กจะมีโอกาสเป็นลูกของเขาได้สักกี่เปอร์เซ็นต์กัน

....โอ! พระเจ้า ล้อเขาเล่นทำไม... ไม่รู้หรือว่ามันเจ็บ ถ้าเพียงแต่เขาไม่เคยสัมผัสถึงความรักและความผูกพันของพ่อกับลูก เขาก็จะไม่เจ็บปวดอย่างนี้...

....บอกผมซิ ที่รัก.. ว่าหมอนั่นโกหก บอกผมซี...ว่าไม่เป็นความจริง…


***************************


:teach:  ขออธิบายเล็กน้อย  เรื่องนี้เจ๊หมวยเขียนไว้ตั้งแต่ปี 2003  มั้ง   ได้นำมารีไรท์และรวมเล่มขายแล้ว

แต่ชุดที่ลงให้นี้เป็นชุดที่ยังไม่ได้ผ่านการรีไรท์เพราะงั้นภาษาอาจแปลกๆ ไปบ้างก็ต้องขออภัย


:impress:  รอคุณพูห์มาต่อบทที่ 3 ให้นะคะ เจ๊หมวยจะไปนอนและ


 o15

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-05-2007 11:16:51
เหอเหอ

ขอบคุณเจ้หมวย ที่มาลงต่อให้นะครับ

 o14 o15
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 30-05-2007 13:10:02
 o22  นิยาย daddy's love คุณหมวยอีกแล้ว   มีเด็กๆ น่ารักดี

ว่าแต่ต้องมีทนายมาเกี่ยวข้องตลอดเลยป่ะคับนี่ ...จะติดตามต่อไปนะค้าบบ o15


เรื่องราววุ่นวาย ซับซ้อนหลายตลบมั่กๆๆ  :o10:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 30-05-2007 13:55:44
My baby
= 3 =


*****************************


ประวิชแวะมาเยี่ยมภากรและแจ้งวันที่เขาต้องพาเด็กๆ ไปตรวจเลือดเพื่อพิสูจน์ DNA

“ฉันแจ้งทนายพิทักษ์ให้นัดนายโยธินเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ 9 โมงเช้าเจอกันที่โรงพยาบาลเลย นายจะไปเองหรือจะให้ฉันมารับ..”

ภากรยืนเกาะราวระเบียงมองลงไปที่สนามหญ้า สาวใช้สองคนกำลังเข็นรถที่มีคุณหนูตัวน้อยๆ นั่งอยู่คนละคัน

“เฮ้! โจ.. ฟังที่ฉันพูดหรือเปล่า..”

“จำเป็นต้องไปหรือ วิช..”

ประวิชถูกย้อนด้วยคำถามที่ทำให้เขาต้องส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจ

“ไม่เอาน่า โจ.. เราพูดกันรู้เรื่องแล้วนี่นา ถ้านายไม่พิสูจน์ก็ยกลูกให้หมอนั่นไปเลย ดีมั้ย”

ภากรหันมาสบตาเพื่อนด้วยสายตาเย็นชาแต่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกที่ปวดร้าว ประวิชยิ้มแห้งๆ

“ขอโทษโจ.. ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันเข้าใจความรู้สึกของนาย แต่อยากให้นายสู้จนถึงที่สุด ไม่ว่าผลตรวจออกมาจะใช่หรือไม่... ฉันสัญญาว่าจะหาทางช่วยนายทุกวิธีที่จะให้นายได้ลูกมาอยู่ด้วย เชื่อฉันซีเพื่อน ฉันไม่ได้เป็นแค่นักกฎหมายนะ ฉันเป็นนักเจรจาตัวยงเลย ฉันเรียนการทูตมาด้วย นายก็รู้..”

“หึ! หมอนั่นจะยอมเจรจาด้วยเหรอ..”

“เถอะน่า.. ถึงวันนั้นฉันจะจัดการเอง เชื่อฝีมือประวิชซี..”

ประวิชรับปากเพื่อนอย่างแข็งขัน ทั้งๆ ที่ก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำอย่างไรหากผลตรวจออกมาแล้ว..หนูน้อยทั้งสองไม่ใช่ลูกของภากร แค่คิดก็รู้สึกปวดใจพร้อมๆ กับรู้สึกปวดหัวกับปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า



************************


หนูน้อยเจนนี่ร้องไห้จ้าเมื่อพยาบาลแทงเข็มฉีดยาผ่านผิวเนื้อบอบบางที่เท้าเล็กๆ ของเหลวสีแดงถูกดูดเข้าหลอด Syringe พยาบาลอีกหนึ่งคนช่วยจับเท้าหนูน้อยไว้ไม่ไห้ดิ้น ในขณะที่พี่เลี้ยงสาวกอดคุณหนูตัวน้อยไว้แนบอกและกระซิบปลอบเบาๆ

ภากรอุ้มลูกชายยืนดูอยู่ข้างๆ เขาส่งเจ้าหนูซึ่งเริ่มจะร้องโยเยขึ้นบ้างตามพี่สาวให้ประวิชอุ้ม และรับลูกสาวตัวน้อยจากพี่เลี้ยงเข้ามาสวมกอดและกระซิบปลอบ

“ทูนหัวของพ่อ พี่เค้าทำหนูเจ็บเหรอ.. โอมเพี้ยง!.. หายแล้วนะลูก ไม่ร้องนะเด็กดี หนูเป็นคนเก่งของพ่อรู้มั้ย”

หนูน้อยเงียบเสียงลงเมื่อได้ยินเสียงปลอบของพ่อเหลือเพียงอาการสะอื้นไห้ เขาส่งลูกสาวให้พี่เลี้ยงพาออกไปเดินเล่นและรับลูกชายจากประวิชไปนั่งประจำที่เพื่อรอเจาะเลือดเป็นรายที่สอง เสียงร้องไห้ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดังกว่าเดิมสามเท่า

“เฮ้!.. หยุดได้แล้วลูก เจมส์.. ไม่เจ็บแล้วนะ คนเก่ง..”

ภากรกอดลูกไว้แนบอกและตบที่ก้นเบาๆ เป็นกิริยาที่เจ้าหนูชอบและพร้อมจะหลับในท่านี้เสมอ เขาขยับหนูน้อยออกจากอ้อมกอดและส่งให้ประวิชอุ้ม แต่เจ้าหนูไม่ยอม.. ส่งเสียงร้องขึ้นมาอีกและหันกลับมาดึงรั้งเขาไว้ น้ำตาร่วงผล็อย จนเขาสงสาร

“โอเค!.. พ่ออุ้มก็ได้ อยู่นิ่งๆ นะ แล้วอย่าร้องโยเยด้วย”

“ตายจริง! ออเซาะคุณพ่อจังเลยนะคะ”    พยาบาลพูดในขณะที่กำลังใช้สายยางรัดท่อนแขนชายหนุ่มเพื่อหาเส้นเลือด เธอไม่รู้หรอกว่าคำพูดของเธอบาดหัวใจเขาขนาดไหน

…ออเซาะคุณพ่อ… ให้ตายเถอะ !.. ทำไมเขาต้องมานั่งให้พยาบาลเจาะเลือดพิสูจน์ความเป็นพ่อของลูกตัวเองด้วย ทำไม...
หนูน้อยซบนิ่งอยู่ที่ไหล่เหมือนรู้คำที่พ่อพูด เขารู้สึกเจ็บแปลบที่แขนจนต้องกอดลูกแน่นขึ้น และรู้สึกว่าร่างน้อยๆ นั้นกอดเขาแน่นขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน

ภากรและลูกๆ จัดการเจาะเลือดเรียบร้อยแล้วโยธินก็ยังไม่มา ทนายพิทักษ์เดินป้วนเปี้ยนอยู่หน้าห้องด้วยความร้อนใจ

“ขอโทษนะครับ คุณภากร คุณโยธินโทรมาบอกว่าอีกประมาณ 10 นาทีจะมาถึงเพราะรถติดมาก”

“แล้วไง.. อย่าบอกนะว่าให้ผมคอยเขา” ภากรรีบดักคอทนายหนุ่มของโยธิน

“เอ่อ.. จริงๆ แล้วคุณโยธินแกสั่งผมไว้อย่างนั้นเหมือนกัน เขามีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ แต่ผมว่าคงไม่รีบด่วนเท่าไร เด็กๆ อาจจะอยากกลับบ้านแล้วด้วย”

พิทักษ์กล่าวอย่างรู้สึกเกรงใจ เมื่อเห็นหนูน้อยที่ซบไหล่ภากรอยู่เริ่มร้องโยเย

“เอ่อ.. เด็กๆ คงจะเจ็บนะครับ รีบพากลับไปบ้านพักผ่อนก็ดีเหมือนกัน”

ประวิชเดินออกจากห้องตรวจตรงมาหาเพื่อน

“ฉันจะอยู่คอยโยธินเอง  นายพาลูกๆ กลับบ้านก่อน โจ..”

“อย่าเพิ่งรีบกลับซีครับ รอก่อน..”

เสียงหวานใสดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยกรุ่นทันทีที่ร่างโปร่งบางก้าวเข้ามา ใบหน้าขาวเนียนยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี เสื้อผ้าที่สวมใส่แลดูสำอางบ่งบอกรสนิยมของเขา ชายหนุ่มเดินตรงเข้ามาจับต้องหนูน้อยก่อนทันที

“รอก่อนซีทอม ผมขอคุยอะไรหน่อย เฮ้!.. สุดหล่อ ขอพ่ออุ้มบ้างซีครับ”

โยธินถือวิสาสะทั้งคำพูดและการกระทำดึงหนูน้อยออกจากอ้อมแขนของภากรโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว และเจ้าหนูเจมส์ก็ไม่ทันรู้ตัวด้วย

โยธินสวมกอดเจ้าหนูไว้ด้วยความพึงพอใจ เขาต้องการลูกชายมากกว่าลูกสาว เพราะเป็นเงื่อนไขหนึ่งของการเป็นเจ้าของมรดกหลายสิบล้าน

ภากรฉุนอย่างแรง โกรธที่โยธินแย่งลูกออกไปจากอ้อมกอดเขาดื้อๆ ในขณะที่เจ้าหนูเจมส์ก็ตั้งตัวได้แล้วเช่นกันว่าคนที่อุ้มตัวเองอยู่ไม่ใช่พ่อ เป็นใครก็ไม่รู้… แถมยังมีกลิ่นตัวประหลาดด้วย หนูน้อยแผลงฤทธิ์ด้วยการแผดเสียงทันที ขยับตัวออกจากอ้อมแขนของโยธินถลาเข้าหาภากร และยื่นสองแขนให้พ่อช่วยพาออกไปจากอ้อมกอดของใครก็ไม่รู้ที

ภากรรับร่างน้อยไว้และพยายามจะดึงกลับแต่โยธินไม่ยอมปล่อย ภาพที่เห็นจึงกลายเป็นชายหนุ่มสองคนกำลังแย่งเด็กเล็กๆ

“ปล่อยลูกฉัน!!.. ปล่อยเดี๋ยวนี้!!..”

ภากรกัดฟันกระซิบด้วยความโกรธ เขาต้องใช้ความพยายามอย่างสูงควบคุมอารมณ์ โยธินรีบคลายอ้อมแขนออกเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายโกรธจริง สายตาและน้ำเสียงทำให้เขาไม่กล้ากระเซ้าต่อ

“ขอโทษ.. ผมแค่อยากลองอุ้มบ้าง เผื่อว่าผมจะต้องเลี้ยงแกจะได้อุ้มเป็น”

“นายไม่มีวันได้อุ้มเด็กคนนี้ และไม่มีวันได้เลี้ยงใครทั้งนั้น ไม่มี...”

ภากรเดินผละจากไปด้วยความโกรธ พี่เลี้ยงสาวอุ้มคุณหนูผู้หญิงยืนดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ รีบตามคุณผู้ชายออกไปทันที



************************


ภากรนั่งเล่นกับแฝดน้อยทั้งสองที่สนามรอสาวใช้ขนของขึ้นรถ เขาตั้งใจจะพาลูกๆ ไปหาที่สงบเงียบพักผ่อนสักหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะถึงวันที่ศาลนัดฟังผลและตัดสินคดี เขาไม่รู้ว่าหากผลพิสูจน์ออกมาทำให้ลูกๆ ต้องพรากจากเขาไป เขาจะทำใจยอมรับได้หรือเปล่า ไม่รู้ว่าถึงวันที่เขาจะต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีลูกๆ เขาจะอยู่ยังไง เวลาที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่วันนี้ เขาจึงอยากใช้ชีวิตอยู่กับลูกในฐานะ “พ่อ” ให้คุ้มค่ามากที่สุด

“ขนของขึ้นรถหมดแล้วค่ะ คุณผู้ชาย” แม่บ้านเดินเข้ามารายงาน

ภากรพยักหน้ารับทราบ โดยไม่พูดอะไร

แม่บ้านยังยืนรีรออยู่เผื่อว่าภากรจะเปลี่ยนใจสั่งให้ใครติดตามไปด้วย เพราะเธอไม่แน่ใจว่าคุณผู้ชายจะดูแลคุณหนูทั้งสองด้วยตัวเองตามลำพังโดยไม่มีเธอหรือสาวใช้ช่วย

“เอ่อ.. คุณผู้ชายไปกับคุณประวิชสองคนหรือคะ”

“เปล่า” ภากรนึกขัน เขารู้ว่าแม่บ้านคิดอะไรอยู่

“มีคนอื่นอีกหรือคะ หรือว่า.. คุณผู้ชายจะให้ละเอียดหรือศรตามไปช่วยดูแลคุณหนูๆด้วยคะ”

ภากรอดหัวเราะไม่ได้ ที่ป้าหวานไม่เชื่อว่าเขาดูแลลูกๆ ได้

“เราจะไปด้วยกัน 4 คน มีผม นายวิช เจมส์ และเจนนี่”

“เอ่อ.. คุณประวิชเธอมีลูกหรือยังคะ”

“ทำไมล่ะป้า ห่วงอะไรเหรอ..”

“ก็.. ห่วงคุณๆ จะดูแลคุณหนูๆ ไหวหรือคะ”

“นี่ป้ายังไม่เชื่อฝีมือเลี้ยงลูกของผมอีกเหรอ”

“คุณผู้ชายป้าเชื่อค่ะ แต่คุณประวิชเธอจะถนัดหรือเปล่าไม่ทราบ ป้าว่าน่าจะให้ใครสักคนตามไปช่วยชงนมหรือเปลี่ยนผ้าอ้อมนะคะคุณ”

ภากรหัวเราะ เสียงรถแล่นเข้ามาจอด บุคคลที่ป้าหวานเอ่ยถึงและกังวลว่าจะช่วยดูแลคุณหนูๆ ของเธอไม่ได้ ก้าวลงจากรถพร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดย่อม 1 ใบ เดินตรงไปที่ท้ายรถของภากรซึ่งเปิดค้างไว้

“เดี๋ยวผมจะถามให้นะป้า ว่าเขาทำอะไรเป็นบ้าง”

ประวิชเดินเข้ามาคว้าหนูน้อยเจนนี่ขึ้นจากรถเข็นและหอมแก้มซ้ายขวา

“เห็นมั้ยป้า อย่างน้อยเขาก็อุ้มเด็กเป็น แค่นี้ก็เหลือใช้แล้ว แต่เพื่อให้ป้าสบายใจ เดี๋ยวผมจะหัดให้เขาเปลี่ยนผ้าอ้อมด้วย”

“อะไรหรือ โจ..”

“ป้าหวานไม่เชื่อว่านายจะช่วยฉันดูแลเด็กๆ ได้”

ประวิชหันมายิ้มให้แม่บ้าน เธอยิ้มแห้งๆ ตอบและขอตัวเดินจากไปไม่กล้าซักถามอะไรต่อ



************************



หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 30-05-2007 14:09:57
“มีคนตามเรามาว่ะ โจ..”

ประวิชเหลือบมองกระจกหลัง เขาสังเกตุเห็นรถที่ขับตามหลังวิ่งตามอย่างกระชั้นชิดมานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว เขามั่นใจว่าถูกตามเพราะ BMW สปอร์ต ไม่ควรมาวิ่งตามหลัง CHEROKEE ที่มีความเร็วเพียง 100 ก.ม.ต่อ ชม. เขาขับรถช้าเพราะมีเด็กเล็กๆ นั่งอยู่เบาะหลัง และต้องรับอาสาขับเพราะภากรติดนิสัยขับรถเร็วมากโดยเฉพาะเวลาออกต่างจังหวัดไม่เคยเหยียบต่ำกว่า 160

ภากรหันไปมองด้านหลังรู้สึกฉุนทันทีที่เห็นรถ ไม่ต้องเห็นว่าเป็นใครก็เดาได้ทันที เขาบอกให้ประวิชจอดรถเข้าข้างทาง เมื่อเชโรกีหยุดนิ่งที่ไหล่ทาง บีเอ็มคันงามก็ชะลอความเร็วและหยุดนิ่งตามด้วย

ภากรเปิดลิ้นชักหน้ารถหยิบปืนพกออกมา ประวิชเห็นเข้าร้องลั่นด้วยความตกใจ

“เฮ้ย! ไม่เอานะ โจ.. พูดกันดีๆ ก็ได้”

“เฉยเถอะ วิช.. ฉันจัดการเอง”

ภากรสอดปืนพกเข้ากระเป๋ากางเกงและก้าวลงจากรถเดินตรงไปที่บีเอ็ม เจ้าปัญหา เขาตรงไปหาชายหนุ่มที่นั่งคู่มากับคนขับซึ่งเป็นหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาดี

โยธินลดกระจกลงและยิ้มให้ภากรอย่างมีอัธยาศัย โดยไม่สนใจกับสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ของอีกฝ่าย

“หยุดรถทำไมล่ะ โจ.. มีปัญหาอะไรเหรอ”

ภากรแค่นยิ้ม พยายามสงบอารมณ์ให้มากที่สุด

“นายจะไปไหน”

“เอ่อ.. ก็ไปพักผ่อน คุณไปไหนผมก็จะตามไปด้วย จะได้ช่วยคุณดูลูกไง”

“กลับไปซะ ถ้าไม่อยากมีเรื่อง”

“คุณห้ามผมไม่ได้นะ โจ.. ผมจำเป็นต้องตามไปด้วย เผื่อคุณพาลูกผมหนีไปจะทำยังไง”

ภากรสะอึก คว้าคอเสื้อโยธินกระชากขึ้นด้วยความโกรธ

“หุบปากของแกนะ แกไม่มีสิทธิเรียกเด็กๆว่าลูก ตราบใดที่ผลพิสูจน์ยังไม่ออกมาและศาลยังไม่ตัดสิน” ภากรปล่อยมือออกพยายามระงับอารมณ์อย่างที่สุด

“ฉันไม่สิ้นคิดถึงขนาดพาลูกตัวเองหนี กลับไปซะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”

“ไม่เอาน่า โจ.. ทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วย ผมแค่ขอตามไปห่างๆ ไม่ไปวุ่นวายกับคุณหรอก”

“ไม่.. ออกไปให้พ้นทาง ถ้านายตามมาอีก อย่าหาว่าฉันโหด”

ภากรกลับมาขึ้นรถโดยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น ประวิชถอนใจโล่งอก เพราะรู้นิสัยเพื่อนดีว่าหากโกรธถึงที่สุด ภากรมักจะจบเรื่องราวต่างๆ ลงด้วยความรุนแรงเสมอ    ประวิชเคลื่อนรถออกและขับต่อไป รู้สึกว่าการเดินทางวันนี้เริ่มจะมีอุปสรรคกวนใจแล้ว และอาจจะต้องจบลงด้วยความรุนแรงอย่างช่วยไม่ได้

ภากรให้ประวิชหยุดรถอีกครั้งเมื่อโยธินไม่ยอมเลิกตาม เขาลงจากรถพร้อมด้วยปืนในมือ ประวิชตกใจเพราะรู้ว่าเพื่อนเอาจริง แต่ป่วยการร้องห้ามได้แต่ตามลงไปดูสถานการณ์

ร่างสูงเดินดุ่มมายังบีเอ็มเจ้าปัญหา และหยุดยืนข้างรถในระยะประชิด เขาส่งยิ้มหวานให้โยธิน อีกฝ่ายยิ้มตอบและลดกระจกลงแต่แล้วก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นวัตถุสีดำในมือของภากร

“เปรี้ยง!!!... เปรี้ยง!!!..”

สองหนุ่มในรถสะดุ้งเฮือก ภากรยิ้มให้อีกครั้งอย่างสะใจก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถ

โยธินกลืนน้ำลายลงคอและค่อยๆลืมตาขึ้น เขาต้องหยุดการติดตามแต่เพียงเท่านี้ หมดปัญญาตามต่อเพราะยางด้านซ้ายระเบิดทั้งล้อหน้าและล้อหลัง  :try2:



************************


ภากรปล่อยแฝดน้อยทั้งสองลอยคอในสระอย่างสบายใจ เพราะมีห่วงยางรัดที่ต้นแขนสองข้างของหนูน้อย เจ้าหนูเจมส์หัวเราะเอิ้กอ้ากและตีน้ำเล่นอย่างสนุกสนาน ในขณะที่ยายหนูเจนนี่ยังกล้าๆ กลัวๆ ไม่ยอมออกห่างจากพ่อ
ประวิชจับกล้องวีดีโอไปที่สระน้ำ ชายหนุ่มกับลูกแฝดตัวน้อยๆ สองคน กำลังลอยคออยู่ในสระ รอยยิ้มของพ่อและเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากของหนูน้อย ช่างเป็นบรรยากาศของความสุขที่น่าเก็บไว้ในความทรงจำอย่างยิ่ง เขาไม่รู้ว่าจะช่วยรักษาบาดแผลในหัวใจของเพื่อนได้อย่างไร หากผลการตรวจดีเอ็นหนูน้อยทั้งสองไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของภากร

“เด็กๆ หลับแล้วเหรอ” ประวิชเอ่ยถามภากรซึ่งยืนรับลมอยู่ที่ระเบียง

ภากรพยักหน้าให้ทั้งที่ยืนหันหลัง

“นายควรทำใจให้สบายนะโจ.. ลืมปัญหาต่างๆซะ อย่างน้อยระหว่างที่พักผ่อนอยู่กับลูกที่นี่ ก่อนที่นายจะกลับไปเจอปัญหาที่ต้องใช้สติและกำลังใจต่อสู้กับมัน”

ภากรหันมามองหน้าเพื่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงขมขื่น

“หึ! พูดเหมือนนายไม่ได้เป็นทนายว่าความให้ฉัน ทนายเขาพูดกับลูกความอย่างนี้หรือ วิช.. นายไม่คิดจะช่วยให้ฉันชนะ แต่กลับให้ฉันทำใจยอมรับความพ่ายแพ้อย่างนั้นหรือ”

“ฉันพูดในฐานะเพื่อนนะโจ.. นายจะอยู่กับความทุกข์ใจในเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นทำไม ช่วงเวลาที่อยู่กับลูกที่นี่นายต้องอยู่อย่างมีความสุข เพื่อสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง และในฐานะที่ฉันเป็นทนายว่าความให้ ไม่ว่าผลพิสูจน์และการตัดสินจะออกมายังไง นายจงมั่นใจว่าฉันไม่ยอมแพ้ ถ้านายยังต้องการเด็กโดยไม่สนใจว่าพวกเค้าไม่ใช่สายเลือดที่แท้จริงของนาย ฉันสัญญาว่านายจะต้องได้เด็กมาอยู่ในความดูแล เชื่อฉันซีโจ..”

ภากรยิ้มให้เพื่อน

“โอเค! วิช.. ในฐานะลูกความฉันอยากได้ยินคำนี้จากนาย ฉันเชื่อในคำสัญญาของนาย และในฐานะเพื่อนฉันขอบใจที่นายเตือนสติฉัน ฉันจะลืมเรื่องทุกข์ใจให้หมด จะใช้เวลาอยู่กับลูกที่นี่ให้คุ้มค่ามากที่สุด...”

เสียงร้องไห้ของทารกน้อยดังแว่วออกมา

“แต่ที่รู้ๆตอนนี้ก็คือ นายตามฉันมาดูวิธีเปลี่ยนผ้าอ้อมก่อน ตั้งแต่พรุ่งนี้เช้านายต้องผลัดกับฉันเปลี่ยนคนละครั้ง”

ภากรดึงแขนประวิชตามเข้าไปในห้อง

“อะไรวะ!!.. นายเป็นพ่อนะ นายเปลี่ยนซี”

“แต่นายสัญญากับป้าหวานไว้แล้วนะ... ว่านายจะช่วยฉันเปลี่ยนผ้าอ้อมลูก นายไม่เคยผิดคำสัญญากับใครนี่นาเพื่อน มาเถอะน่า... แค่บทเรียนบทที่หนึ่ง อีกหน่อยนายมีลูกจะได้ไม่ลำบาก ฉันจะสอนทฤษฎีและให้นายลงภาคปฏิบัติกับทารกจริงๆเลย สองวันนี้นายจะเป็นหมดทุกเรื่องตั้งแต่ชงนม เปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำให้เด็ก ถ้าคุณฟ้าพร้อมจะมีลูกเมื่อไร นายก็ลุยได้เลยนะเพื่อน..”

ประวิชพยักหน้าหงึกๆ เชื่อว่าเพื่อนลืมเรื่องทุกข์ใจได้แล้ว... เพราะตั้งแต่ออกเดินทางมาจนถึงค่ำวันนี้ภากรพูดนับคำได้ โดยเฉพาะตั้งแต่โยธินทำให้เขาเสียอารมณ์ ภากรเปลี่ยนไปนั่งที่เบาะหลังกับลูกๆ และนิ่งเงียบไม่พูดไม่จามาตลอดทาง มีเพียงเสียงแฝดน้อยทั้งสองผลัดกันร้องและส่งเสียงเป็นระยะเท่านั้น



****************************


พรุ่งนี้ก็จะถึงกำหนดวันที่ศาลนัดฟังผลพิสูจน์และตัดสินคดีเรียกร้องสิทธิความเป็น “พ่อ” คืนนี้ภากรพยายามข่มตานอนอย่างไรก็ไม่หลับ โอกาสที่เขาจะชนะและได้เป็นพ่อของลูกมีน้อยมากเหลือเกิน แม้จะพยายามเตรียมใจไว้แล้ว แต่ไม่รู้ว่า…ถึงนาทีที่ศาลตัดสิน เขาจะทนรับความรู้สึกที่เจ็บปวดนั้นได้หรือเปล่า

แต่ถึงภากรจะเตรียมทำใจยอมรับความพ่ายแพ้ในเรื่องที่เด็กๆ อาจไม่ใช่สายเลือดของเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมมอบสองหนูน้อยให้โยธินแต่โดยดี เขาจะสู้จนถึงที่สุดแม้จะต้องตามไปสู้กันถึงนอกศาล

ตั้งแต่ณัฐวดีจากไป… ภากรย้ายเตียงนอนของลูกๆ มาอยู่ในห้อง ลูก… ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นไม่อ้างว้างเดียวดาย แต่สำหรับคืนนี้แม้หนูน้อยทั้งสองจะนอนอยู่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่ก้าว เขากลับรู้สึกเหมือนห่างไกลมากเหลือเกิน

ความรู้สึกที่แย่มากจนข่มตานอนไม่หลับ ทำให้เขาต้องลุกขึ้นไปอุ้มลูกๆมานอนด้วย เขาขยับเข้าไปสวมกอดแฝดน้อยทั้งสองไว้ และพยายามข่มตาให้หลับลงอีกครั้ง


....ไม่ว่าผลพิสูจน์จะออกมายังไง พ่อไม่สนอะไรทั้งนั้น... ความเป็นจริงก็คือ พ่อเฝ้าฟูมฟักลูกๆ มาตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่เค้าแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าวันนี้หรือวันข้างหน้า จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ของเรา พ่อให้สัญญา....

 
************************


 o15
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-05-2007 14:11:41
เหอเหอ

กะว่าบ่ายจะมาลง ไม่ทันเจ้หมวยซะแล้ววววว

ขอบพระคุณครับ

 o13
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-05-2007 16:26:23
= 4 =

*****************************


"วิช.. ฉันอยากฟังคำสัญญาจากนายอีกครั้ง ได้มั้ย”

ภากรถามประวิชขณะเดินคู่กันไปที่ห้องพิจารณาคดี ประวิชรู้ว่าเพื่อนกำลังรู้สึกอย่างไร เขายืนยันคำสัญญาอย่างหนักแน่นอีกครั้งเพื่อให้ภากรสบายใจ และมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับความรู้สึกเจ็บปวดที่อาจจะได้รับในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

ประวิชและภากรเข้ามาในห้องก็พบทนายพิทักษ์และโยธินนั่งคอยอยู่ก่อน
แล้ว วันนี้ไม่มีกองเชียร์หนุ่มๆ ตามมาให้กำลังใจโยธินเหมือนวันก่อน

ศาลขอให้คู่ความทั้งสองฝ่ายขึ้นกล่าวความในใจอีกครั้ง ก่อนจะอ่านผลพิสูจน์และคำตัดสิน

โยธินเป็นฝ่ายขึ้นกล่าวก่อน
“....ผมขอยืนยันว่าพฤติกรรมทางเพศที่ผมเป็นอยู่ ไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นพ่อของลูก ได้โปรดให้โอกาสผมได้ทำหน้าที่นี้ หากเด็กเป็นลูกของผม ผมพร้อมที่จะเลี้ยงดูแก พร้อมที่จะให้เวลาและเสียสละทุกอย่างแม้กระทั่ง... ต้องแลกด้วยคำมั่นสัญญา… ที่ศาลต้องการให้ผมเลิกพฤติกรรมรักร่วมเพศ ผมก็พร้อม... หากมันมีผลกระทบกับการเลี้ยงดูลูกจริงๆ.....”

ทนายพิทักษ์สะดุ้งพร้อมๆ กับที่ทุกคนในห้องรู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าโยธินจะกล้ายื่นข้อเสนอกับศาลเช่นนี้ เพราะต่างก็รู้กันดีอยู่ว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเช่นที่ว่านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

“คุณพูดอย่างนั้นทำไม” พิทักษ์กระซิบกับโยธิน “คุณทำได้ตามที่พูดหรือครับ”
โยธินยิ้มให้ทนายและกระซิบตอบ
“ผมจะทำถ้าศาลสั่ง แต่เชื่อผมเถอะคุณพิทักษ์ ศาลไม่กล้าสั่งหรอก”
ทนายพิทักษ์ถอนใจในความดื้อรั้นของลูกความ โยธินไม่จำเป็นต้องยื่นข้อเสนอใดๆ ให้ศาลชั้นต้นนี้ เพราะการตัดสินชี้ขาดที่ผลตรวจอยู่แล้ว ถ้าศาลให้ทำตามข้อเสนอขึ้นมาเขาจะลำบาก แต่โยธินกลับเชื่อมั่นว่าศาลไม่สั่ง
“พูดในสิ่งที่นายอยากพูด โจ..” ประวิชพยักหน้าให้เพื่อนและยิ้มให้กำลังใจ

ภากรเป็นฝ่ายขึ้นกล่าวบ้าง
“...ตั้งแต่ภรรยาผมจากไป ผมเข้าใจในสัจธรรมที่ว่าชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน ความไม่แน่นอนพรากเธอไปจากผม ผมพยายามทำใจยอมรับและคิดเสมอว่าเรายังเป็นครอบครัวที่อบอุ่น เพราะผมยังมีลูกเล็กๆ ที่จะต้องดูแล แต่วันนี้ความไม่แน่นอนกำลังจะพรากลูกเล็กๆ ของผมไปอีก ผมไม่รู้ว่าจะทำใจยอมรับมันได้หรือเปล่า....

.....ผมขอเรียนให้ทราบว่า ไม่ว่าลูกจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของผมหรือไม่มันไม่สำคัญสำหรับผม ความเป็นจริงก็คือ ผมเฝ้าฟูมฟักทะนุถนอมพวกเค้ามาตั้งแต่ยังไม่ลืมตาออกมาดูโลก ผมดูแลลูกเล็กๆ ด้วยตัวเองตั้งแต่ภรรยาผมยังมีชีวิตอยู่ และจนถึงวันนี้.. ผมเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูก และลูกๆ ก็เป็นชีวิตจิตใจของผม....

.....จนถึงเช้านี้ เรายังเป็นครอบครัวที่อบอุ่นอยู่ ผมอาบน้ำให้ลูกๆ ป้อนอาหารเช้าให้ก่อนจะออกจากบ้านมา แต่หลังจากชั่วโมงนี้ผ่านไป ครอบครัวผมอาจจะต้องแตกสลายไป เพียงเพราะลูกที่ผมเลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิดและกำลังจะมีอายุครบ 8 เดือนเต็มในวันพรุ่งนี้ ไม่ใช่สายเลือดของผม...”

น้ำเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือจนแทบจะฟังไม่ได้ศัพท์ ทำให้ภากรต้องหยุดพูดชั่วขณะ

“...ผมไม่รู้ว่าความยุติธรรมคืออะไร ผมไม่รู้ว่าใครคิดยังไงกับเรื่องของผม แต่ผมหวังว่า... คงไม่มีใครอยากเห็นครอบครัวของผมแตกสลายลงไปแบบนั้น....” ก้อนแข็งจุกที่ลำคอจนภากรต้องหยุดให้การแต่เพียงเท่านี้

ศาลรู้สึกหนักใจกับการตัดสินคดีในวันนี้ และเข้าใจความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายดีว่า ต่างก็มีความรักและต้องการที่จะมีสิทธิเลี้ยงดูลูกในฐานะ “พ่อ” แต่การพิจารณาในชั้นนี้ หากผลพิสูจน์ออกมาอย่างไร ศาลก็จะให้สิทธิความเป็น “พ่อ” กับผู้นั้น หากอีกฝ่ายไม่พอใจในคำตัดสินก็ให้ยื่นอุทธรณ์และฎีกาต่อไปตามลำดับ

ประวิชคอยชำเลืองดูเพื่อนตลอดเวลา ภากรดูท่าไม่ดีและมีอาการหน้ามืดตั้งแต่ตอนที่เขาไปรับเพราะไม่ได้นอนทั้งคืน เขาเข้าใจว่าเพื่อนกำลังตื่นตระหนก และกังวลกับคำพิพากษาของศาล แม้ภากรจะบอกเขาว่าทำใจเตรียมรับกับความพ่ายแพ้ไว้แล้ว แต่ประวิชก็อดกังวลไม่ได้ว่าถึงนาทีนั้นจริงๆ แล้ว ภากรจะเป็นอย่างไร

ผลพิสูจน์ DNA ระหว่างพ่อกับลูกครั้งนี้ ศาลสั่งให้ส่งผลการตรวจมาที่ศาลโดยตรง เพราะต้องการให้คู่ความทั้งสองมารับฟังคำตัดสินพร้อมๆ กัน

“ศาลจะแจ้งผลก่อนและอ่านคำตัดสินทีหลัง ฝ่ายใดมีปัญหา ศาลอนุญาตให้ท้วงถามได้ ....ผลการตรวจ DNA ของ ด.ญ.ภาวดี และ ด.ช.ณัฐกร พบว่า.. ด.ญ.ภาวดี แฝดพี่ มี DNA ตรงกับนายโยธิน พัฒนะไพศาล และ ด.ช......”

ศาลต้องหยุดอ่านเพราะทนายประวิชขอเวลานอก เนื่องจากลูกความฟุบลงไปต่อหน้าต่อตา

**********************************************

ขอบคุณเจ้หมวยที่ชี้แนะครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 30-05-2007 16:49:54
 :teach:  คุณพูห์จ๋า  ต่อบทที่ 4 เลยค่ะ 

กระทู้ข้างบนโพสซ้ำ    ขอโทษด้วยที่ลืมบอก  ว่าให้ต่อตอนไหน 

คุณพูห์ช่วยแก้ด้วยนะ  เดี๋ยวคนอ่านงง   o15





หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 30-05-2007 16:54:46
พูห์โก๊ะๆๆ   :3043:  แน๋วลงคนเดียวยังโก๊ะเยย  :o8:   แล้วนี่ช่วยกันโป๊ดตั้ง2คน จะไม่งงได้อย่างไร  :try2: แบ่งภาคกันจิว่าใครจะโป๊ดครึ่งไหนอ่ะ






ปล. และแล้วก็ถึงคราวที่พูห์โก๊ะบ้างแย้ว คิคิ  แบร่ส์ๆๆชอบแซวเราดีนัก  :laugh:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-05-2007 16:59:19
ชิส์

คุณรีบน

ผมโก๊ะ ก็โก๊ะไม่เยอะนะครับ

ไม่เหมือนบางทู้ ลงอีกที ข้ามไปจบเรื่องเลย

กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 30-05-2007 17:11:00
 o9  จามไว้ๆๆๆ พูห์ลงเรื่องไหนแน๋วจาตามไปดูมานทุกเรื่องเยย อย่าให้พลาดบ้างนะ  :serius2:



 :o12:  :o12:  :o12:  :o12:  :o12:  :o12:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 30-05-2007 17:49:37

:impress2:   คุณพูห์~~~    กอลลั่มแปลงโฉมแล้วเหรอ~~~ 


ดีใจจังเลย  อย่ากลับไปใช้อีกนะ!!..  น่ากลัวจะตาย   :try2:   ว่าจะบอกหลายครั้งและ


ตอนที่เป็นกอลลั่มน่ะ       

:angry2:  กรูมันเลว สาดดด ไม่ต้องมายุ่งกะกรู



เจ๊หมวยอยากจะบอกว่า   

:o12:  ใครอยากจะยุ่งด้วย  น่ากลัวจะตาย  เห็นก็วิ่งหนีแล้ว      


:impress2:   ดีจังเปลี่ยนเป็น บอยคุงเซ็กซี่ๆ แบบนี้ค่อยเจริญตาหน่อย   




หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: pasira ที่ 30-05-2007 23:18:34
อ่านแล้ว ก็อ่านอีก ชอบมากๆค่ะ

ขอบคุณค่ะ เจ๊หมวย คุณพูห์ 

 o14 o15
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 31-05-2007 09:54:35
หุหุ ชอบมาก ๆ เลยค่ะ เรื่องของเจ้หมวยนี่มีทนายแทบทุกเรื่องเลยรึเปล่านี่  :give2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 31-05-2007 15:19:52

ประวิชขอเวลาศาล 10 นาทีปฐมพยาบาลลูกความ ศาลจึงสั่งพักรอจนกว่าภากรจะรู้สึกตัวและพร้อมจะรับฟังคำตัดสิน ทนายพิทักษ์ตรงเข้ามาช่วยประวิชอย่างมีน้ำใจ ในขณะที่โยธินยังนั่งตะลึงเพราะตื่นเต้นและดีใจกับผลที่ได้รับ

ภากรถูกหามมานอนเหยียดยาวบนม้านั่ง ประวิชกล่าวขอบคุณทนายพิทักษ์และขอตัวปฐมพยาบาลเพื่อนเอง พิทักษ์จึงเดินกลับออกมา ประวิชคลายไทด์และปลดกระดุมคอเสื้อภากรออก เจ้าหน้าที่วิ่งเอายาดมมายื่นให้ เขากล่าวขอบคุณและรับยาดมมาจ่อที่จมูกพร้อมกับโบกกระดาษไปมา เพื่อให้ภากรหายใจสะดวกขึ้น

“โจ.. โจ.. ตื่นเถอะ”

ภากรได้ยินเสียงประวิชเรียกซ้ำไปมา เปลือกตาหนักอึ้งจนลืมแทบไม่ขึ้น และทันทีที่สายตาจับภาพได้ความรู้สึกต่างๆ ก็ตามเข้ามาทับถมเป็นระลอก

“ฉันขอโทษ...”
ประโยคแรกที่ภากรเอ่ยเมื่อรู้สึกตัว พร้อมๆ กับส่งมือให้ประวิชดึงเขาลุกขึ้นนั่ง

ภากรเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ การตัดสินคงจบลงแล้วกระมัง.... เหลือคนในห้องเพียงไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคือโยธินซึ่งนั่งเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ โยธินยิ้มให้ภากรอย่างรู้สึกเป็นมิตร แต่ภากรกลับรู้สึกเหมือนถูกยิ้มเยาะ เขาเมินหน้าหนีทันที รู้สึกเจ็บร้าวที่หน้าอกเหมือนหัวใจกำลังจะแตกสลาย

ภากรก้มหน้าลงกับฝ่ามือ ประวิชทรุดตัวลงข้างๆ และตบไหล่เพื่อนเบาๆ
“นายโอเคมั้ย โจ.. ไหวมั้ย ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องอยู่ฟัง ไปคอยฉันที่รถ”
ประวิชใจหายวาบเมื่อเห็นน้ำใสไหลพรากอาบแก้มเพื่อน
“ฉันเจ็บเหลือเกิน วิช.. เจ็บยิ่งกว่าที่คิดไว้ เจ็บจนอยากจะหยุดหายใจเดี๋ยวนี้เลย ฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ลูกๆ จากฉันไปหมดแล้ว วิช..”
ประวิชขยับเข้าไปปลอบและบังเพื่อนไว้ แต่คงไม่รอดพ้นสายตาโยธินที่คอยสังเกตุการณ์อยู่ห่างๆ
“ศาลหยุดพัก ยังอ่านผลไม่จบ เหลือน้องเจมส์ ถ้านายไม่อยากฟังก็ไม่ต้องอยู่ เข้มแข็งซีเพื่อน ลืมสัญญาที่ฉันให้ไว้กับนายแล้วเหรอ”
ภากรเช็ดน้ำตากับแขนเสื้อเหมือนเด็กและยิ้มให้ประวิช
“ฉันขอโทษ วิช.. ฉันจะเข้มแข็ง ฉันพร้อมจะรับฟังคำตัดสินด้วยตัวเอง รีบๆ ฟังจะได้รีบกลับ ฉันคิดถึงลูกแล้ว..”
“นายแน่ใจ”
ภากรพยักหน้า ประวิชจึงฉุดเขาลุกขึ้นพาไปห้องน้ำจัดการกับสภาพตัวเองให้พร้อมที่จะกลับมารับฟังคำตัดสินใหม่

 “พร้อมจะรับฟังต่อแล้วใช่มั้ย คุณภากร..” ศาลเอ่ยถามอย่างเข้าใจและเห็นใจ
“พร้อมครับ”

“เอาล่ะ ถ้างั้นศาลขอทวนผลการตรวจ DNA ของ ด.ญ.ภาวดี ผู้เป็นแฝดพี่อีกครั้งว่า ผลการตรวจเด็กหญิงเป็นบุตรสาวของนายโยธิน พัฒนะไพศาล ส่วน ด.ช.ณัฐกรแฝดน้อง มีผลการตรวจ DNA ตรงกับ...”

TBC...
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 31-05-2007 15:58:02
เง้อ ทำไมตอนนี้ยังวกวน ไม่ไปไหนเลยง่า  :onion_asleep:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 01-06-2007 13:04:46
..
..
..

“เอาล่ะ ถ้างั้นศาลขอทวนผลการตรวจ DNA ของ ด.ญ.ภาวดี ผู้เป็นแฝดพี่อีกครั้งว่า ผลการตรวจเด็กหญิงเป็นบุตรสาวของนายโยธิน พัฒนะไพศาล ส่วน ด.ช.ณัฐกรแฝดน้อง มีผลการตรวจ DNA ตรงกับ...”

แม้ว่าจะพยายามทำใจรับฟังแล้ว เอาเข้าจริงๆ ภากรกลับยกมือปิดหูทั้งสองข้างอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนที่ศาลจะหลุดชื่อออกมา

“.....ตรงกับนายภากร ธีรวัฒน์...”

จบคำอ่านของศาลทุกคนในห้องนั่งตะลึงด้วยความตกใจกับผลที่ได้รับ อย่าว่าแต่คนที่รับฟังจะตกใจเลย แม้แต่ศาลยังสงสัยและแปลกใจถึงขนาดต้องเรียกเจ้าหน้าที่มากระซิบถาม

ความรู้สึกของประวิชตอนนี้มิใช่แค่ตะลึงและตกใจ เขาตื่นเต้นและดีใจจนเกือบจะกลายเป็นภากรไปเสียเอง ประวิชหันมาทางเพื่อนก็พบภากรนั่งนิ่งอยู่ในอาการไม่ยินดียินร้าย ไม่มีอาการตื่นเต้นดีใจหรือตกใจใดๆ

“โจ.. ได้ยินที่ศาลพูดมั้ย”
ภากรไม่ได้ยินช่วงที่ศาลเอ่ยชื่อเขาเพราะยกมือปิดหูไว้ทันพอดี แต่เพื่อให้เพื่อนสบายใจเขาจึงพยักหน้าให้
“นายไม่ดีใจหรือ โจ.. หรือว่าไม่แน่ใจว่าจะเป็นไปได้”

ภากรขมวดคิ้วยังไม่ทันจะเอ่ยถามให้หายข้องใจ ศาลก็ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ และให้เจ้าหน้าที่ของศาลอ่านเหตุผลอธิบายทางการแพทย์ประกอบ เพราะรู้ว่าทุกคนงุนงงและสงสัยกับความเป็นไปได้

ภากรนิ่งฟังเจ้าหน้าที่อ่านเหตุผล เขาจึงได้รู้ว่าเจ้าหนูเจมส์..แฝดน้องชายเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา

....โอ! ขอบคุณสวรรค์ เขาไม่สนใจว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อหรือแปลกประหลาดอย่างที่คนอื่นรู้สึก สวรรค์เมตตาเขาต่างหาก จึงบันดาลให้แฝดน้อยที่เหลืออีกคนเป็นของเขาทั้งร่างกาย จิตใจและสายเลือด โอ.. ไอ้หนูของพ่อ.. พ่อดีใจที่ลูกเป็นของพ่อ อยู่เป็นเพื่อนพ่อสักคน ก็ดีกว่าที่พ่อจะว่างเปล่าไม่เหลือใครอีกเลย....

และแล้วผลตัดสินของศาลในวันนี้ ใครเป็นพ่อของแฝดน้อยคนไหนก็มีสิทธิเลี้ยงดูและปกครองเด็กในฐานะ “พ่อ” แม้ศาลจะเข้าใจว่าการแยก “ฝาแฝด” ให้จากกันจะส่งผลกระทบกับสภาพจิตใจและความผูกพันกันเป็นพิเศษของหนูน้อย ทั้งสอง แต่ศาลก็ไม่มีทางเลือกเพราะผลที่ได้รับออกมาในรูปนี้ อย่างน้อยทารกทั้งสองก็เป็นแฝดต่างเพศกัน ผลกระทบคงไม่มากเท่าไร และเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคู่ความทั้งสอง

แต่เพื่อไม่ให้ทารกแฝดหญิงมีผลกระทบกระเทือนทางจิตใจ เพราะต้องเป็นฝ่ายถูกแยกออกไปอยู่กับคนที่ไม่รู้จักคุ้นเคย ศาลจึงให้เวลาหนูน้อยอยู่กับภากรต่อไปอีก 1 เดือน โดยระหว่างนี้ให้โยธินไปมาหาสู่ทำความคุ้นเคยกับลูกสาวก่อนจะรับไปอยู่ด้วยอย่างถาวร

“ขอบใจนะ วิช..” ภากรสวมกอดประวิชด้วยความดีใจ
“ขอบใจเรื่องอะไร ฉันไม่ได้ทำอะไรให้เลย ฝีมือนายเองต่างหาก”
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะ โจ..”
ภากรผละออกจากประวิช ไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันทีที่เห็นเจ้าของเสียงยืนยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี
“ยินดีเรื่องอะไร” น้ำเสียงภากรไม่มีความเป็นมิตรด้วย
“ยินดีที่คุณได้ลูกชาย ผมยังเสียดาย แต่ก็ โอเค.. ลูกสาวก็ได้ ดีกว่าไม่ได้เลย”

ภากรนิ่งอึ้ง
....ให้ตายเถอะ! ไอ้หมอนี่มันพูดเหมือนเจนนี่เป็นเพียงแค่สิ่งของหรือสมบัติมีค่าที่มันได้รับส่วนแบ่ง มันไม่มีสามัญสำนึกของความเป็น “พ่อ” และไม่รู้จักความหมายของคำว่า “ลูก” เลย...

ภากรรีบยื่นข้อเสนอ
“ถ้านายไม่ชอบเด็กผู้หญิง ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบก็ได้ โยธิน.. ฉันจะเลี้ยงลูกเอง”
“ขอบใจนะ โจ.. ผมเลี้ยงเองได้ ถ้าไม่เลี้ยงเองคงไม่ได้ส่วนแบ่งมรดกแน่ ถึงจะเป็นหลานสาวก็คงได้บ้าง แต่ถ้าเป็นหลายชายผมได้เต็มๆ คุณแลกกับผมได้มั้ย โจ..”
กล่างจบร่างโปร่งบางก็ถลาลงไปกองกับพื้น ภากรตามเข้าไปกระชากคอเสื้อ
“ฉันไม่เคยดูถูกหรือสมเพชที่แกมีจิตใจวิปริตรักชอบผู้ชายด้วยกัน แต่วันนี้ฉันรู้สึกสมเพชและเกลียดแกเข้ากระดูก ที่บังอาจมาร้องขอสิทธิความเป็นพ่อ ทั้งๆ ที่แกไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นได้ ไม่ใช่เพราะแกผิดปกติ แต่เพราะแกมันงก เห็นแก่เงิน คนอย่างแกจะรู้ซึ้งถึงความหมายของคำว่า “พ่อ” ได้ยังไง...”

“โจ.. พอเถอะ กลับบ้านได้แล้ว”
ประวิชดึงภากรออกจากโยธิน ก่อนจะมีเรื่องวิวาทกันใหญ่โตกว่านี้
“ทำร้ายคนถึงสลบเหมือด ต้องติดคุกมั้ย วิช..”
ประวิชส่ายหน้า เปิดประตูรถให้เพื่อน
“ขึ้นรถเถอะ สงบสติอารมณ์หน่อย โจ..”
ประวิชนั่งประจำที่คนขับ กำลังจะเคลื่อนรถออกก็ต้องถอนใจและส่ายหน้าด้วยความระอา โยธินตามเข้ามาเคาะกระจกข้างที่เขานั่งและขอคุยด้วย
“มีอะไรอีกหรือครับ คุณโยธิน..”
ประวิชเอ่ยถามอย่างสุภาพ นึกในใจว่าคนบางคนก็หาเรื่องอยากจะสลบเหมือดโดยไม่รู้ตัว
“ผมอยากจะขอตามกลับไปหาลูก ผมมีสิทธิทำได้ใช่มั้ยคุณประวิช”
ประวิชนิ่งไปอึดใจก่อนจะหันไปหาคำตอบ ภากรนิ่งเฉยเบือนหน้าไปอีกทางพยายามไม่สนใจกับการสนทนาที่ได้ยิน เพราะไม่อยากเสียอารมณ์อีก
“เอ่อ.. คุณโยธิน.. ผมขอเวลาให้ลูกความผมได้มีโอกาสอยู่กับลูกสาวตัวน้อยๆ ตามลำพังสัก 2 - 3 วัน ขอเวลาให้เพื่อนผมทำใจบ้าง หวังว่าคุณคงเข้าใจ”

“โอเค!.. คุณประวิช ผมไม่มีปัญหา ถ้างั้นผมจะเริ่มไปเยี่ยมลูกตั้งแต่วันจันทร์”

ประวิชพยักหน้ารับทราบและจบการสนทนาด้วยการกล่าวลา แต่โยธินยังเซ้าซี้ไม่ยอมจบง่ายๆ

“คุณเป็นทนายที่มีฝีมือและยังเป็นเพื่อนที่ดีด้วย เพื่อนคุณน่าจะมีอัธยาศัย เหมือนคุณสักครึ่งหนึ่งก็ยังดีนะ”

โยธินแกว่งปากหากำปั้นจริงๆ ประวิชส่ายหน้าอย่างนึกขันและระอาใจ ในขณะที่ภากรเอื้อมมือเปิดลิ้นชักหน้ารถ หยิบวัตถุต้องห้ามออกมาลูบคลำเล่น โยธินเห็นเข้าก็รีบผละออกและยิ้มแห้งๆ ก่อนจะหันหลังเดินจ้ำอ้าวกลับไป

การที่แฝดน้อยทั้งสองซึ่งคลอดห่างจากกันเพียง 11 นาที มีพ่อคนละคน ไม่ใช่เรื่องปาฏิหารย์แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะความบังเอิญต่างหาก

....วันที่ณัฐวดีมีความสัมพันธ์กับชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีทั้งสองคนนั้น เป็นวันที่เธอมีไข่สุก 2 ฟอง แทนที่จะเป็นฟองเดียวเช่นปกติในระหว่างรอบเดือน และไข่ทั้งสองฟองนั้นก็บังเอิญได้รับการ “ผสม” กับเชื้ออสุจิของโยธินฟองหนึ่งในบ่ายวันนั้น และอีกฟองหนึ่งไปเจอะกับเชื้ออสุจิของภากรในตอนค่ำของวันเดียวกัน....

ข้อสันนิษฐานของประวิชที่ว่า… แฝดน้อยทั้งสองอาจจะเกิดจากไข่คนละฟองหรือเชื้ออสุจิคนละตัวเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ที่คาดไม่ถึงคือ… ไม่คิดว่าเชื้ออสุจิคนละตัวที่ว่านี้จะมาจากเจ้าของเชื้อคนละคนกันด้วย..

*****************************
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-06-2007 13:12:22
เหอ เหอ กลายเป็นลูกคนละพ่อไปซะงั้น  :o7:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 01-06-2007 18:12:33
โอ๊ะโอ กลายเป็นลูกคนละพ่อ 

เอ แล้วdady's love จะเป็น boy's love ยังไงอ่า....  หรือว่า โยธินกับภากร ต่อไปจา ...... หุหุ  ทีนี้ลูกก็ได้อยู่ด้วยกานแว้วว อิอิ :o9:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-06-2007 10:28:44
..
..
..
ภากรเฝ้ามองแฝดน้อยที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน ทุกครั้งที่สายตาจับจ้องที่เจ้าหนูเจมส์ เขาก็อดยิ้มกับตัวเองด้วยความรู้สึกยินดีไม่ได้ หวนนึกถึงคืนวันที่เขาและเธอมีความสัมพันธ์กันจนก่อกำเนิดเจ้าหนูเจมส์ขึ้นมาได้อย่างปาฏิหารย์ เขาไม่อยากจะเดาว่าเป็นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่เขาจะมาหรือเปล่า จึงทำให้เธอชวนเขามีเซ็กซ์ด้วย จำไม่ได้ว่ากี่ครั้งรู้แต่ว่าตั้งแต่หัวค่ำจนถึงกลางดึก เจ้าหนูของเขาจะมีโอกาสกำเนิดมาหรือเปล่านะ ถ้าเขามีอะไรกับเธอเพียงครั้งเดียวเหมือนหมอนั่น... ความรู้สึกของภากรปวดร้าวขึ้นมาทันที เมื่อหันมาทางลูกสาวตัวน้อยที่นอนหลับตาพริ้มอยู่

เจ้าหนูเจมส์ขยับตัวไปมาและส่งเสียงครางในลำคอ เขารู้ว่าถึงเวลาตื่นของหนูน้อยแล้ว และอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็จะมีเสียงร้องโยเยตามมาเพื่อเรียกหาใครมาอุ้ม ผิดกับเจนนี่..ตื่นแล้วก็มักจะนอนเล่นไปมาจนกว่าจะมีใครมาพบ เธอไม่ค่อยร้องโยเยยกเว้นเวลาหิวและไม่สบายเท่านั้น

เจ้าหนูลืมตาขึ้นก็ส่งเสียงร้องตามนิสัยทันที ยิ่งเห็นเขายืนอยู่ยิ่งส่งเสียงร้องดังขึ้นขยับแขนและเท้าเหมือนจะบอกให้เขาอุ้มหน่อย

ภากรจับมือเล็ก ๆ ของลูกชายไว้และจุ๊ย์..ปากให้เงียบ
“จุ๊ย์... อย่าเสียงดังซีลูก พี่เค้ายังหลับอยู่เลย เฮ้!.. พ่อจะไม่อุ้มนะ ถ้าลูกไม่หยุดร้อง เจมส์...”

เจมส์ส่งเสียงร้องดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อพ่อไม่ยอมอุ้มซะที เจนนี่ซึ่งนอนหลับอยู่ในเตียงถัดไปตกใจสะดุ้งตื่นและส่งเสียงร้องแข่งกันทันที ภากรส่ายหน้าก้มลงดุลูกชาย
“เห็นมั้ยว่าลูกทำให้พี่เค้าตกใจตื่น พ่อจะไม่อุ้มขึ้นมาจนกว่าลูกจะหยุดร้อง”
ภากรปล่อยมือลูกชายและขยับไปอุ้มแฝดพี่สาวขึ้นจากเตียง
“โอ!.. ทูนหัวของพ่อ น้องทำให้หนูตกใจตื่นเหรอ..”
เขากอดหนูน้อยไว้แน่น รู้สึกปวดร้าวและเสียใจอย่างมากที่ชีวิตน้อยๆ ในอ้อมกอดนี้ต้องพรากจากเขาไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า..

“ชีวิตของหนูจะเป็นยังไง เจนนี่.. ถ้าหนูต้องไปอยู่กับไอ้หมอนั่น พ่อจะช่วยหนูได้ยังไง ทูนหัว...”

เจนนี่นิ่งเงียบเมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่นของพ่อ คงเหลือแต่เสียงร้องของเจ้าหนูน้อยเจมส์ ที่พยายามตะเบ็งเสียงเรียกพ่อจนไอค้อกแค้ก ทำให้ภากรรู้สึกตัว ก้มลงไปดูอีกครั้ง ใจหายวาบเมื่อเห็นหนูน้อยน้ำตาไหลอาบแก้มและหมอนจนเปียกชื้น เจ้าหนูหยุดไอก็สะอื้นฮักฮัก กำลังจะอ้าปากตะเบ็งเสียงร้องต่อ ก็ถูกพ่ออุ้มขึ้นจากเตียงเข้าไปซบที่ไหล่พอดี..

*********************************
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-06-2007 10:37:42

บทที่ 5

ภากรต้องพยายามทำใจยอมรับโยธินแม้จะรู้สึกเกลียดชังมากจนบางครั้งแทบไม่อยากจะมองหน้า และหากไม่ใช่คำสั่งของศาลอย่าหวังว่าเขาจะยอมให้หมอนี่เข้าออก ”บ้านธีรวัฒน์” เป็นว่าเล่นอย่างนี้

โยธินแวะมาเยี่ยมลูกสาวเกือบทุกวัน ทุกครั้งที่มาจะมีอาหารและผลไม้ติดมือมาฝากแม่บ้านและสาวใช้เสมอ เพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์เขาก็สามารถสร้างสัมพันธ์และผูกมิตรกับทุกคนในบ้านได้ ยกเว้นภากรคนเดียวที่เขาไม่สามารถเข้าใกล้หรือพูดคุยได้ด้วยดี

เมื่อต้องพบปะกันเกือบทุกวัน ภากรก็เริ่มเห็นอุปนิสัยที่แท้จริงของโยธิน บุคลิกที่เคยแลดูสำอางจากการพบเห็นแค่ฉาบฉวย อาจมาจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ บ่อยครั้งที่โยธินแต่งตัวง่ายๆ มาหาลูก เขาพูดจาไพเราะกับทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นสาวใช้หรือแม่บ้าน แต่ที่ภากรได้ยินกับหูและอดทึ่งไม่ได้ก็คือเวลาที่โยธินพูดกับลูกสาวตัวน้อยๆ

“เจนนี่จ๋า.. เมื่อไรหนูจะยอมให้ปะป๊าอุ้มซะที ถึงเราจะเพิ่งรู้จักกัน แต่ปะป๊าก็รักหนูไม่น้อยกว่าที่คุณพ่อของหนูรักจริงๆ นะลูก...”
คำแทนตัวที่โยธินใช้เรียกตัวเองกับลูก ทำให้ภากรนึกขำอยู่ในใจด้วยเช่นกัน

ช่วงสัปดาห์แรกภากรไม่อนุญาตให้โยธินจับต้องและหยอกล้อกับเจ้าหนูเจมส์ ทุกครั้งที่โยธินมาถึงแม่บ้านและสาวใช้ก็จะรู้หน้าที่ดีว่าต้องพาคุณหนูผู้ชายแยกออกไป และเปิดโอกาสให้โยธินได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณหนูผู้หญิง แต่ห้ามปล่อยให้อยู่ตามลำพังต้องมีใครสักคนอยู่เป็นเพื่อน

แต่แล้วเขาก็รู้สึกสงสารลูกสาวตัวน้อยที่ต้องอยู่ตามลำพังกับโยธิน แม้จะเริ่มรู้จักและคุ้นเคยด้วยแล้ว แต่หนูน้อยก็ยังหงอยๆ ไม่ร่าเริงและไม่หัวเราะเหมือนเวลาที่น้องชายอยู่ด้วย เขาจึงยอมอนุญาตให้โยธินอยู่กับแฝดน้อยทั้งสองพร้อมหน้ากัน ยัยหนูเจนนี่ร่าเริงขึ้นและหัวเราะได้ทันที แต่เจ้าหนูเจมส์นี่สิ..คอยแต่จะหงุดหงิดน่าดูและส่งเสียงร้องไม่สบอารมณ์อยู่บ่อยๆ ตามนิสัย จนโยธินแอบค่อนขอดว่านิสัยเจ้าหนูถอดแบบมาจากพ่อเป๊ะเลย

************************

ทันทีที่เลี้ยวรถเข้าบ้านภากรก็พบกับภาพที่ทำให้ไม่สบอารมณ์และหงุดหงิด ขึ้นมาทันที...
เขาคงไม่รู้สึกโกรธหรือหงุดหงิดหากโยธินอยู่กับแฝดน้อยทั้งสองเพียงลำพังเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา แต่วันนี้กลับมีหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาดีสามคนนั่งล้อมหน้าล้อมหลังสองแฝดน้อย และหยอกล้อกันสนุกสนานที่พื้นสนามหญ้าหน้าบ้าน ในขณะที่โยธินยืนคุยโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆ

“ใครอนุญาตให้นายพาคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านฉัน”
หนุ่มน้อยหน้าใสมองหน้ากันเลิ่กลั่กและพากันลุกขึ้นยืน โยธินรีบจบการสนทนาทางโทรศัพท์ทันที
“ผมมีงานเดินแบบน่ะ โจ.. ผ่านมาทางนี้พอดีก็เลยแวะมาเยี่ยมลูก น้องๆ เขาอยากเห็นเด็กๆ เลยขอตามลงมาดู”

ภากรยังคงมีสีหน้าบึ้งตึง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น เขาพอจะรู้ว่างานโมเดลลิ่ง..เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่โยธินทำเป็นงานอดิเรก นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โยธินมีเด็กหนุ่มหน้าตาดีๆ ห้อมล้อมหรืออยู่ข้างกายด้วยเสมอ

“ฉันไม่สนใจว่านายกำลังจะไปทำอะไร บ้านนี้ไม่ใช่ที่ที่นายมีสิทธิจะพาใครเข้ามา โดยเฉพาะเด็กๆ ไม่ใช่ของเล่นผ่อนคลายอารมณ์ของใคร”

โยธินลอบถอนใจ รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังโกรธมากเกินกว่าจะพูดจาต่อกรด้วย เขาบอกเด็กหนุ่มที่ยืนจับกลุ่มกันอยู่ให้กลับไปคอยที่รถ และหันกลับมายิ้มให้ภากร
เป็นนิสัยส่วนตัวที่ดีของโยธิน เขาไม่ค่อยโกรธหรือโมโหใครง่ายๆ โดยเฉพาะกับภากรเขาไม่เคยโกรธหรือรู้สึกขุ่นเคืองชายหนุ่มเลย เข้าใจดีถึงเหตุผลที่ภากรไม่ชอบหน้าเขา

“ผมขอโทษนะ โจ.. ที่ทำให้คุณเสียอารมณ์ คุณนี่หวงลูกจริงๆ นะ ไม่ยอมเผื่อแผ่ให้ใครชื่นชมเลย”
“หึ!.. กับคนอื่นฉันไม่เคยหวง แต่กับนายแค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว โยธิน.. กลับไปทำงานของนายได้แล้ว เด็กๆ คู่ขาของนาย รออยู่ จริงๆ แล้วถ้าไม่ว่างไม่จำเป็นต้องถ่อมาทุกวันก็ได้นะ ”

โยธินหัวเราะที่ภากรจงใจเน้นคำว่า คู่ขาของนาย เขาก้มลงอุ้มเจ้าหนูเจมส์ซึ่งกำลังคลานออกจากเสื่อลงไปที่สนาม เพราะเลิกสนใจกับของเล่นที่อยู่ตรงหน้า เขาส่งหนูน้อยให้คุณพ่อเจ้าอารมณ์ และก้มลงอุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นมากอดและหอมอย่างรักใคร่ต่อหน้าต่อตาภากร ซึ่งเดี๋ยวนี้พอจะทำใจยอมรับได้บ้างแล้ว ไม่เหมือนวันแรกๆ เห็นเขากอดและหอมลูกสาวทีไร ทำหน้าเหมือนถ่ายไม่ออกทันที

“โอเค! โจ.. ตั้งแต่วันจันทร์ผมจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีก เพราะเย็นวันอาทิตย์ผมจะมารับลูกไปอยู่ด้วยแล้ว พรุ่งนี้ผมไม่เข้ามาจะให้เวลาคุณร่ำลาลูกสาวหนึ่งวัน ข้าวของเครื่องใช้เด็กผมเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าคุณคิดว่ามีอะไรที่เจนนี่ติดและควรจะเอาไปก็ช่วยเตรียมไว้ด้วยนะ โจ.. ปะป๊าไปก่อนนะลูก.. อีกสองวันปะป๊าจะมารับหนูน้าาา… ”

ประโยคสุดท้ายโยธินหันไปร่ำลาลูกสาว จากนั้นก็แกล้งส่งหนูน้อยให้ภากรอุ้ม โยธินไม่คิดว่าภากรจะรับเจนนี่ไปอุ้มได้เพราะมีเจ้าหนูตัวจ้ำม่ำอยู่ในอ้อมแขนแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับรับลูกไปอุ้มไว้ในวงแขนอีกข้างอย่างสบายๆ

ภากรขยับลูกชายซบไหล่ด้วยมือขวา มือซ้ายรับลูกสาวจากโยธินเข้ามาซบอก เขานิ่งอึ้งไปเพราะกำลังตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน เวลาที่เจนนี่ต้องจากเขาไปมาถึงแล้วหรือนี่…. เวลาหนึ่งเดือนทำไมรวดเร็วเหลือเกิน เขาเพิ่งเห็นโยธินแวะมาเยี่ยมเยียนลูกสาวตัวน้อยได้ไม่กี่วันเท่านั้น

************************
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 04-06-2007 13:13:00
เศร้าอ่า  แต่แอบลุ้นคุณพ่อแฮะ :impress: :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 04-06-2007 16:38:45
ง่า  เมื่อไหร่ คุณพ่อ กะ ป๊ะป๋า จะดีกานนะนี่ หุหุ น่ารักดีเนอะ  คุณพ่อ กับ ป๊ะป๋า  o14


ว่าแต่นึกว่ามีหนุ่มๆหน้าตาดีล้อมหน้าล้อมหลังโยธินแล้ว หุหุ อิจฉา เอิ๊กๆๆ :o8:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-06-2007 20:16:59
แอบลุ้นคู่พ่อด้วยคน อิอิ  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 04-06-2007 20:27:51
 o15 

เจ๊หมวยมาช่วยต่อให้ค่ะ คุณพูห์


*******************


คืนนี้เจนนี่ได้มีโอกาสมานอนกับพ่ออีกครั้ง ในขณะที่เจ้าหนูเจมส์น้องชายถูกปล่อยให้นอนคนเดียวตามลำพัง ภากรจ้องมองลูกสาวตัวน้อยๆ ด้วยความอาลัย เขาก้มลงจูบเบาๆ ที่พวงแก้มสีชมพูของหนูน้อยและสวมกอดไว้ด้วยความรู้สึกที่ปวดร้าว

“ทูนหัวของพ่อ หนูจะต้องจากพ่อไปแล้วรู้มั้ย หนูจะต้องอยู่คนเดียวไม่มีน้องเจมส์เป็นเพื่อน พ่อไม่รู้ว่าหนูจะอยู่ได้มั้ย เจนนี่.. พ่อรักหนูนะลูก ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง พ่อก็ยังเหมือนเดิม หนูจะเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อ เป็นลูกสาวที่พ่อรักตลอดไป..”

ภากรผละจากลูกเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาต้องทำอะไรบางอย่าง เพื่อคงความเป็นพี่น้องของแฝดน้อยทั้งสองไว้ และเพื่อคงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของเขากับเจนนี่ไว้ด้วย
 

**************************


ภาพที่เห็นในห้องพักผ่อนของบ้าน “พัฒนะไพศาล” ทำให้ทนายพิทักษ์ต้องหยุดชะงักที่หน้าประตูและส่ายหน้าด้วยความระอาใจกับพฤติกรรมของลูกความเขา นึกในใจว่าถ้าศาลสั่งให้เลิกพฤติกรรมที่เป็นอยู่นี้แลกกับสิทธิความเป็น “พ่อ” โยธินจะทำได้ยังไง

โยธินนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาร์ มีหนุ่มน้อยรูปร่างกำยำหน้าตาดีนั่งนวดเฟ้นให้อยู่ข้างๆ ขณะที่ทนายพิทักษ์กำลังจะก้าวเข้ามา เด็กหนุ่มกำลังโน้มตัวเข้าไปจะหอมแก้มโยธินที่นอนตาปรือทำท่าจะเคลิ้มหลับอยู่พอดี พิทักษ์จงใจขัดจังหวะด้วยการส่งเสียงกระแอม เจ้าหนุ่มสะดุ้งรีบผละออกทันที

โยธินลืมตาและขยับตัวขึ้นนั่งเมื่อเห็นทนายพิทักษ์เดินตรงเข้ามา เขายิ้มให้อย่างมีอัธยาศัย ไม่ได้รู้สึกขัดเขินใดๆ กับพฤติกรรมของตัวเอง

“หวัดดีคุณพิทักษ์ ไหนว่าจะเข้ามาบ่าย”

“งานผมเสร็จก่อนครับ ก็เลยแวะเข้ามา”

“เชิญนั่งครับ”

โยธินหันไปบอกเด็กหนุ่มให้จัดเครื่องดื่มมาให้พิทักษ์

“ขอโทษที่มาขัดจังหวะกวนเวลาพักผ่อนของคุณครับ ผมมีเรื่องจะต้องแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกสาวตัวน้อยๆ ของคุณ "

ทนายพิทักษ์ได้รับข้อเสนอจากประวิชในฐานะทนายของภากร เรื่องการเลี้ยงดูหนูน้อยเจนนี่ของโยธิน เขาขอความร่วมมือให้โยธินพาแฝดพี่สาวกลับไปเยี่ยมหนูน้อยเจมส์แฝดน้องชายทุกสุดสัปดาห์ เพื่อคงสถานภาพและความผูกพันของหนูน้อยทั้งสองไว้

โยธินขมวดคิ้ว

“ศาลสั่งมาหรือคุณพิทักษ์”

“เปล่าครับ เป็นข้อตกลงที่คุณภากรเสนอให้คุณ”

“ข้อตกลงเหรอ.. แลกกับอะไรล่ะ”

“เอ่อ.. แลกกับการที่คุณจะไปรับลูกสาวมาอยู่ด้วยในวันพรุ่งนี้”

“อะไรนะ พวกเขามีสิทธิอะไรมากำหนดกฎเกณฑ์ผม คุณเป็นทนายให้ใครกันแน่ พิทักษ์.. คุณเห็นด้วยกับข้อเสนอของพวกเขายังงั้นเหรอ”

“ใจเย็นซีครับคุณโยธิน.. ผมเพียงแต่ประเมินตามรูปการณ์แล้วเห็นว่าคุณควรยอมรับข้อเสนอ เพราะถ้าให้เรื่องกลับไปที่ศาล ศาลก็ต้องเห็นด้วยกับข้อเสนอนั้น”

“งั้นก็ให้ศาลสั่ง ผมไม่ยอมให้นายโจมาออกคำสั่งกับผมหรอก”

“คุณประวิชอยากให้คุณตกลงกับคุณภากรด้วยดี ไม่เช่นนั้นหากยื่นเรื่องกลับไปที่ศาลใหม่ ครั้งนี้คุณภากรจะร้องขอเป็นผู้ปกครองเด็ก ในฐานะที่เขาเป็นพ่อของแฝดน้องชายและเป็นผู้ที่เลี้ยงดูแฝดพี่สาวมาตั้งแต่เกิด ซึ่งผมไม่คิดว่าคุณอยากจะมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลอีก โดยเฉพาะถ้าจะต้องพัวพันกับเรื่องส่วนตัว ครั้งนี้พวกเขาคงเล่นคุณหนักเลย”

โยธินนิ่งอึ้ง เป็นครั้งแรกที่รู้สึกโกรธและไม่พอใจภากรที่เอาพฤติกรรมส่วนตัวของเขามาตัดสินความเป็น “พ่อ” ของลูกเช่นนี้ แต่ก็จริงอย่างที่ทนายพิทักษ์ว่า ถึงเขาจะไม่ได้ปิดบังและยอมรับกับสังคมว่าเป็นเกย์ แต่คงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ถ้าต้องไปยืนให้การและถูกขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวในศาล

“ก็ได้ พวกเขาต้องการอะไร”

“ก็แค่ให้คุณพาลูกสาวไปส่งที่บ้านธีรวัฒน์ในวันสุดสัปดาห์ ให้เด็กๆ ได้มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันบ้าง จะเป็นเย็นวันศุกร์หรือเช้าวันเสาร์ก็ได้ และให้คุณไปรับกลับในเย็นวันอาทิตย์หรือเช้าวันจันทร์ แต่ผมเห็นว่าทุกสุดสัปดาห์เป็นข้อเสนอที่มากไป เราจะขอต่อรองเขาเป็นสัปดาห์เว้นสัปดาห์ คุณว่าดีมั้ยครับ คุณโยธิน..”

โยธินแค่นหัวเราะและอดค้อนทนายตัวเองไม่ได้ พิทักษ์เพิ่งทำหน้าที่ทนายให้เขาก็ตรงข้อเสนอสุดท้ายนี้แหล่ะ


***********************


ภากรไม่ยอมรับข้อต่อรองของพิทักษ์ ระยะเวลา 2 สัปดาห์นานเกินไปกว่าที่แฝดน้อยทั้งสองจะได้พบกัน ประวิชจึงเสนอให้พบกันทุก 3 สัปดาห์เว้นสัปดาห์ ทั้งสองจึงยอมตกลงด้วยดี แต่กว่าจะยอมตกลงกันได้ก็มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง

“นายมีปัญหาอะไรกับการที่จะให้เด็กๆ ได้พบกัน” ภากรกล่าวถามด้วยน้ำเสียงเครียด

โยธินยิ้มอย่างอารมณ์เย็นตามนิสัย

“ผมไม่มีปัญหาหรอก โจ.. ผมเห็นด้วยที่จะให้เด็กๆ ได้พบกัน แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ทำไมผมต้องเป็นฝ่ายพายัยหนูมาที่นี่ คุณพาเจ้าหนูเจมส์ของคุณไปหาเจนนี่ที่บ้านผมซี”

“ว่าไงนะ! แค่เจนนี่ต้องย้ายไปอยู่กับนาย ฉันก็เป็นห่วงมากเกินพอแล้ว อย่าหวังเลยว่าฉันจะยอมให้ลูกชายฉันไปเหยียบบ้านนายอีกคน ”

โยธินขมวดคิ้ว แม้จะรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ยังใจเย็นถามเหตุผลกลับไป

“ทำไม บ้านผมเป็นยังไงหรือ โจ..”

“หึ! จะต้องให้บอกหรือว่าบ้านนายเป็นยังไง โยธิน.. ถึงตาหนูเจมส์ของฉันจะยังเป็นทารก แต่ฉันก็ไม่ไว้ใจคนในบ้านนายทุกคน เพราะไม่ใช่แค่นายเท่านั้น เด็กที่นายเลี้ยงไว้แต่ละคนก็คงวิปริตพอๆ กับเจ้าของบ้าน”

ประวิชสะดุ้งเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อน พิทักษ์ทำหน้าเหรอยิ้มแห้งๆ กับประวิชในขณะที่โยธินสะอึกกับถ้อยคำต่อว่านั้น เขาลุกพรวดขึ้นยืนใบหน้าหวานงอเง้าแดงจัดด้วยความโกรธ

“ว่าไงนะ โจ !!.” เป็นครั้งแรกที่โยธินตะคอกใส่อีกฝ่ายด้วยอารมณ์โกรธ

“คุณเห็นผมเป็นตัวอะไร!!  คำก็วิปริต สองคำก็วิปริต เพียงแค่ผมมีพฤติกรรมรักชอบผู้ชายด้วยกันอย่างงั้นเหรอ ผมมีความรู้สึกนึกคิด มีหัวใจ มีความรักที่แท้จริงเหมือนชายแท้ทั้งแท่งแบบพวกคุณ และวันนี้ผมก็มั่นใจว่าผมรู้จักความหมายของคำว่า “พ่อ” แล้วด้วย เจนนี่ทำให้ผมรู้จักคำนั้น ความเป็นพ่อของผมคงไม่ต่างจากความเป็นพ่อของคุณหรอก ความรู้สึกที่ผมมีให้เจ้าหนูเจมส์ที่คลานตามหลังเจนนี่ออกมาแค่ 11 นาที มันไม่ได้แตกต่างและน้อยกว่ากันเลย แต่คุณกลับคิดว่าบ้านผมไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กๆ คุณดูถูกผม เห็นผมเป็นพวกบ้ากาม จิตใจต่ำทรามข้างถนนยังงั้นเหรอ..”

โยธินน้ำตาคลอ โกรธและเสียใจอย่างมากที่ภากรพูดจาดูถูกเขาอย่างแรงประวิชเห็นท่าไม่ดีและรู้สึกว่าภากรพูดจาดูถูกอีกฝ่ายเกินไปจริงๆ

“ใจเย็นๆ คุณโยธิน โจไม่ได้หมายความตามที่พูดหรอก ผมรู้จักนิสัยเพื่อนดี”

ภากรเมินหน้าหนีและลุกขึ้นเดินผละไป เหมือนไม่สนใจความรู้สึกของอีกฝ่ายและไม่สนใจที่จะโต้ตอบใดๆ อีก แต่ประวิชรู้ว่าภากรกำลังรู้สึกเหมือนที่เขารู้สึกคือตกใจกับอารมณ์โกรธของโยธิน และเสียใจกับคำพูดที่ออกไป



*********************

วางสายจากภากรโยธินรีบบึ่งรถไปรับลูกสาวทันที ภากรให้เขารีบมาก่อนที่เจ้าหนูเจมส์จะตื่นไม่เช่นนั้นก็เลื่อนไปเป็นวันพรุ่งนี้ เขาจำเป็นต้องรีบไปเพราะถูกผลัดมาสองวันแล้ว ยังไงซะ วันนี้เขาต้องรับเจนนี่กลับบ้านให้ได้

“นายแน่ใจนะว่าดูแลเธอได้” ภากรถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

“ไม่ต้องห่วง โจ.. ผมมีพี่เลี้ยงดูแลยัยหนูโดยเฉพาะ คุณวางใจได้”

ภากรพยักหน้ารับทราบ หญิงสาวที่มากับโยธินด้วยคงเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เขาเอ่ยถึง เธอมีรูปร่างหน้าตาอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว สวมชุดขาวเหมือนพยาบาล คงมีความชำนาญในทางเลี้ยงเด็กโดยเฉพาะ เพราะเป็นคนแปลกหน้าคนแรกที่สามารถอุ้มเจนนี่ได้โดยที่หนูน้อยไม่ร้อง เห็นเช่นนี้แล้วภากรก็รู้สึกหายห่วง

โยธินเดินไปรับลูกสาวจากพี่เลี้ยงมาส่งให้ภากร

“ลาลูกสาวคุณซะ โจ.. กว่าจะได้เจอกันอีกก็เสาร์หน้า”

“ทำไมล่ะ เริ่มตั้งแต่เสาร์นี้เลยซี นายจะเบี้ยวเหรอ”
“อะไรกัน โจ.. นี่มันวันพฤหัสเข้าไปแล้ว คุณจะให้ผมพาแกมาส่งวันเสาร์นี้เลยเหรอ.. ไม่เอาน่า แค่สองวันเองมันไม่ทำให้คุณขาดใจตายหรอก คุณคิดถึงเจนนี่เมื่อไรก็กอดเจ้าหนูเจมส์ของคุณไว้ซี ความรู้สึกของฝาแฝดเค้าถ่ายทอดถึงกันได้ไม่ใช่เหรอ..”

ภากรอึ้งไป เขากอดเจนนี่ไว้แน่นและจูบด้วยความรัก ถึงจะทำใจได้แล้วแต่ก็อดใจหายไม่ได้ที่ลูกสาวตัวน้อยกำลังจะจากไป

“คิดดูแล้วก็โชคดีที่เจนนี่เป็นลูกผม ถ้าเป็นเจ้าหนูเจมส์ผมเอาไม่อยู่แน่ บ๊ายบายคุณพ่อของหนูซะ เจนนี่.. คืนนี้หนูจะไปนอนกับปะป๊าที่บ้านแล้ว อย่าดื้อนะจ๊ะเด็กดี”

ภากรลอบยิ้มในใจ ทุกครั้งที่ได้ยินโยธินใช้สรรพนามเรียกตัวเองอย่างนั้น เขาส่งเจนนี่คืนให้และเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยอารมณ์ที่ผ่อนคลายขึ้น

“นายมีเชื้อจีนหรือโยธิน ถึงเรียกตัวเองว่าปะป๊า”

“คุณปู่ผมเป็นคนจีน แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุหรอกนะ ที่จริงผมก็อยากเรียกตัวเองว่า "พ่อ" อยู่หรอก แต่กลัวลูกสับสนไม่รู้ว่าพ่อคนไหน อ้อ! หรือว่าให้เจนนี่เรียกคุณว่าพ่อ แล้วเรียกผมว่าแม่ ก็ไม่เลวนะ โจ..”

พูดจบก็รีบผละออกเดินไปที่รถ ตามด้วยเสียงหัวเราะไล่หลังที่ได้กระเซ้าอารมณ์ของอีกฝ่าย ในขณะที่สีหน้าของภากรซึ่งฉาบด้วยรอยยิ้มเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันที


***************************



หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 04-06-2007 20:34:23
บทที่ 6

****************


5 คืนแล้วที่ภากรแทบจะไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน ไม่ใช่เพราะคิดถึงลูกสาวตัวน้อยจนนอนไม่หลับ แต่เพราะเจ้าหนูเจมส์ร้องไห้โยเยตลอดคืน เขาไม่รู้ว่าลูกเป็นอะไร รู้แต่ว่าไม่ได้ปวดท้องหรือไม่สบายแน่ เพราะพออุ้มซบอกก็จะหลับปุ๋ยอย่างสบายใจ แต่พอปล่อยลงที่นอนได้สักพักก็จะตื่นขึ้นและร้องไห้อีก เป็นแบบนี้มา 5 คืนติดต่อกันแล้วตั้งแต่เจนนี่ไม่อยู่ เมื่อสองคืนที่ผ่านมาเขาต้องใช้วิธีให้นอนเบียดอยู่ข้างๆ ตัว ถึงจะดีกว่าอุ้มแต่พอเจ้าหนูขยับเขาก็ผวาตื่นทุกครั้ง เล่นเอานอนไม่หลับทั้งคืนเหมือนเดิม แต่ช่วงกลางวันเจ้าหนูน้อยตัวยุ่งกลับเล่นและ หัวเราะได้ เขาคิดว่าอาจเป็นผลมาจากการที่เจนนี่ไม่อยู่ หนูน้อยเจมส์แม้จะยังไม่ประสาแต่คงรับรู้ได้ด้วยความรู้สึกและความผูกพันกันเป็นพิเศษของเด็กแฝดที่คลานตามกันมา

วันนี้ภากรไม่ได้เข้าไปที่ร้านอาหาร เพราะเพลียเกินกว่าจะไปยืนสั่งงานได้

“คุณหนูขา คุณพ่อนอนหลับอย่าเข้าไปกวนค่ะ”

สาวใช้ละเอียดกระซิบกับคุณหนูตัวน้อยที่กำลังคลานกระดึ๊บๆ เข้าไปหาภากรซึ่งกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนโซฟา เจมส์ไม่สนใจกับเสียงกระซิบ จุดหมายคืออกอุ่นๆ ของพ่อ...

ละเอียดรีบตามมาพาคุณหนูออกจากห้อง แต่แค่จับถูกตัวก็ต้องรีบปล่อย เพราะหนูน้อยส่งเสียงร้องขึ้นอย่างขัดใจทันที

“จุ๊ย์... อย่าเสียงดังซีคะ เดี๋ยวคุณพ่อตื่น”

หนูน้อยคลานมาถึงหน้าโซฟาก็ขยับตัวขึ้นนั่ง แหงนหน้ามองดูพ่อและส่งเสียงเรียกในลำคอ เรียกเท่าไรพ่อก็ไม่ยอมตื่นจนเจ้าหนูเริ่มหงุดหงิด สาวใช้นั่งสังเกตอยู่ห่างๆ ไม่กล้าเข้าไปกวนใจ กลัวคุณหนูส่งเสียงดังทำคุณผู้ชายตื่น

เจ้าหนูเจมส์เอื้อมมือเล็กๆขยุ้มชายเสื้อของภากร และค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นยืน สาวใช้ตาโตด้วยความดีใจและตื่นเต้นที่เห็นพัฒนาการของคุณหนูวัย 9 เดือน ซึ่งกำลังเกาะยืนได้เป็นครั้งแรก แถมยังเป็นการลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองซะด้วย ความดีใจทำให้ละเอียดลุกขึ้นวิ่งไปเรียกพรรคพวกในครัวมาดูคุณหนู

เจมส์ลุกขึ้นยืนเกาะตัวพ่อได้แล้ว เจ้าหนูเอาศีรษะซบที่ท้องพ่อและส่งเสียงเรียกอีกครั้ง ครั้งนี้ได้ผลภากรรู้สึกตัวและขยับเปลี่ยนท่านอน เจ้าหนูเจมส์ซึ่งยืนซบอยู่ที่ตัวพ่อด้วยขาสองข้างที่มีแรงเพียงน้อยนิด เมื่อพ่อขยับตัวเจมส์จึงเสียหลักล้มลงก้นกระแทกพื้น และหงายหลังตามไปอีกที เพียงอึดใจเสียงแผดร้องก็ดังขึ้น

ภากรสะดุ้งตื่นลุกพรวดขึ้นอย่างเร็ว เขามองไปรอบๆ ห้องหาที่มาของเสียง รู้สึกว่ามันใกล้มากจนต้องก้มลงมองที่พื้นข้างโซฟา

“โอ!..”
ภาพที่เห็นคือหนูน้อยนอนหงายส่งเสียงร้อง ภากรคว้าร่างน้อยๆ ขึ้นมาปลอบ เขาคิดว่าลูกโยเยตามนิสัยไม่ได้คิดว่าเจ้าหนูร้องเพราะเจ็บ

“ไม่ร้องน่า เจมส์.. อีกไม่กี่วันเจนนี่ก็จะกลับมาเยี่ยมแล้ว อย่างอแงซีลูก”


ละเอียดวิ่งหน้าตื่นเข้ามา แม่บ้านและเพื่อนสาวใช้วิ่งตามมาติดๆ

“ไหนล่ะ ละเอียด.. คุณหนูยืนได้ เหลวไหลจริงเชียวแก”

“จริงๆ นะป้า หนูเห็นกับตา”

ป้าหวานไม่สนใจเดินกลับเข้าไปในครัวเพราะกำลังเตรียมอาหารค้างไว้ สาวใช้ศรส่ายหน้าเดินกลับไปทำงานต่อ

“อะไรกันน่ะ ละเอียด.. มาเอาเจมส์ไปหน่อย”

ภากรเรียกสาวใช้มารับลูกไป เพราะอยากจะนอนพักต่ออีกสักครู่

หนูน้อยเจมส์กำลังซบไหล่พ่ออย่างสบาย หลังจากที่ส่งเสียงร้องไห้พอหอมปากหอมคอ แต่แล้วเจ้าหนูก็หงุดหงิดขึ้นมาอีกเมื่อรู้สึกเหมือนมีใครกำลังดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของพ่อ จึงส่งเสียงร้องอย่างไม่สบอารมณ์ มือข้างหนึ่งคว้าแขนเสื้อภากรไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“คุณหนูขา ไปเดินเล่นที่สวนกันนะคะ ไปหาเจ้าซูซูกันเถอะค่ะ”

ละเอียดช้อนร่างคุณหนูตัวน้อยไว้ในวงแขนได้แล้ว แต่ยังผละออกจากคุณผู้ชายไม่ได้เพราะคุณหนูไม่ยอมปล่อยมือ แถมยังตะเบ็งเสียงร้องอย่างขัดใจ

ภากรแกะนิ้วมือน้อยๆ ที่จับแขนเสื้อเขาไว้ออก เจ้าหนูก็เปลี่ยนมาจับนิ้วมือเขาแน่นพร้อมกับยื่นมืออีกข้างมาข้างหน้า เหมือนกับจะบอกให้เขาอุ้มหน่อย เสียงสะอื้นฮักๆ น้ำตาหยดแหมะลงที่มือเขา ทำให้ภากรหายง่วงทันที

“โอเค.... พ่อไม่นอนแล้วก็ได้ ปล่อยเถอะละเอียด มีงานอะไรก็ไปทำเดี๋ยวฉันดูเอง”

ภากรรับเจ้าหนูจอมอ้อนเข้ามาซบที่ไหล่ หนูน้อยสวมกอดพ่อแน่นหยุดสะอื้นทันที

“เอ่อ.. คุณผู้ชายคะ เมื่อสักครู่คุณหนูลุกขึ้นยืนเองได้ค่ะ เธอเกาะชายเสื้อคุณผู้ชายแล้วลุกขึ้นค่ะ”
สาวใช้รายงานพัฒนาการของคุณหนูตัวน้อยให้ภากรรับทราบก่อนจะเดินกลับออกไป คนอื่นไม่เชื่อก็ช่างแต่คุณผู้ชายต้องเชื่อแน่นอน

“จริงหรือเจมส์.. ลูกลุกขึ้นยืนได้เองจริงเหรอ... ทำให้พ่อดูหน่อยซิ คนเก่ง”

ภากรจับลูกชายวางลงที่พื้นห้องห่างออกไปจากโซฟาเล็กน้อย และกวักมือเรียก

“มาเร็วลูก.. ลุกขึ้นยืนให้พ่อดูอีกทีซิ”

อีกครั้งที่เจ้าหนูเจมส์ต้องรู้สึกหงุดหงิด อยากจะนอนซบกับอกพ่อช่างเป็นเรื่องที่ยากเย็นเหลือเกิน เจ้าหนูคลานกระดื๊บเข้ามาที่เท้าพ่อและนั่งนิ่งรอให้พ่ออุ้ม พ่อก็ไม่ยอมอุ้มซะที

ภากรรู้ว่าลูกรอให้เขาอุ้ม เมื่อเห็นเขานิ่งเฉยเจ้าหนูก็ขยับเข้ามากอดขาเขาและยันตัวลุกขึ้นยืน เขาหัวเราะด้วยความดีใจที่ได้เห็นพัฒนาการของลูก ตอนนี้เจ้าหนูน้อยขี้อ้อนยืนอยู่ระหว่างขาเขาแล้ว และเริ่มส่งเสียงด้วยความหงุดหงิด สองมือป่ายไปมาที่หน้าเขา

“เก่งจังเลย เจมส์.. พ่อจะให้รางวัลอะไรดีน้า...”

ภากรคุยกับลูกแต่ยังนั่งนิ่งไม่ยอมอุ้มเจ้าหนูขึ้นมา นี่ถ้าเจมส์ฟังพ่อรู้เรื่องและพูดได้ รางวัลที่อยากได้คงขอให้พ่อช่วยอุ้มซบกับอกเร็วๆ ซะที....


*************************


ภากรยกหูโทรศัพท์ขึ้นกดเบอร์ไปได้แค่สามตัวก็หยุดชะงักและวางหูลง เขาผ่อนลมหายใจออกราวกับจะคลายความอัดอั้นลง ไม่ได้เห็นหน้าลูกสาวตัวน้อยมา 7 วันเต็มๆ แล้ว ทั้งคิดถึงและเป็นห่วง แม้ว่าจะทดแทนความคิดถึงด้วยการกอดเจ้าหนูเจมส์แทนแต่มันก็ไม่สามารถทดแทนได้อย่างจริงจัง เหลืออีกแค่ 2 วันเท่านั้นเขาควรจะอดทนให้ได้ หมอนั่นได้ลูกสาวไปอยู่ด้วยก็เงียบหายไปไม่ยอมส่งข่าวคราวมาเลย เหมือนจงใจจะแกล้งให้เขาเป็นฝ่ายโทรไปหา ฝันไปเถอะ...


**************************


ภากรผละจากเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลสาวเท้าอย่างรวดเร็วจนเกือบจะกลายเป็นวิ่ง หัวใจไม่อยู่กับตัวเพราะมันนำหน้าไปที่จุดหมายปลายทางก่อนแล้ว

แผนกผู้ป่วยเด็กอ่อนในยามดึกสงบเงียบ นานๆ ครั้งจะมีเสียงทารกร้องแทรกผ่านความเงียบขึ้นมา เขาตรงไปที่ Ward พยาบาลและผละออกทันทีเมื่อได้คำตอบที่ต้องการ

ภากรยืนนิ่งทำใจอยู่หน้าห้องชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป

....โอ! พระเจ้า ทารกน้อยวัย 9 เดือน นอนหลับสนิทบนเตียงคนไข้ ดูแล้วคงไม่ปวดร้าวจนหัวใจแทบจะสลาย ถ้าหนูน้อยไม่ได้อยู่ในสภาพที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอย่างที่เห็นอยู่ในขณะนี้....

ภากรถลาไปที่เตียง ภาพที่เห็นตรงหน้าลางเลือนจนต้องกระพริบตาปรับภาพให้ชัดขึ้น เขายกเท้าเล็กๆ ขึ้นจูบ ไม่กล้าแตะต้องส่วนอื่นของร่างกาย กลัวหนูน้อยจะตกใจตื่นและร้องไห้

“หวัดดี โจ.. ผมเสียใจ.. ผมขอโทษ..”

ภากรรู้สึกตัวเมื่อมีเสียงทักเบาๆ ดังขึ้นด้านหลัง เขาต้องใช้ความพยายามอย่างสูงในการข่มความรู้สึกให้เย็นลง และบอกตัวเองว่าจะใช้ความรุนแรงในห้องนี้ไม่ได้ เขาวางเท้าเล็กๆ ลงก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงและฝืนยิ้มให้

“คุยกันข้างนอกหน่อย”    เขาเดินออกไปนอกระเบียงห้องพัก อีกฝ่ายเดินตามมาและยืนนิ่งไม่พูดไม่จาไม่แม้แต่จะสบตากับเขา

“ฉันจะไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันจะถามว่า ทำไม!!.... ทำไม โยธิน..”

โยธินนิ่ง เพราะกำลังคิดว่าคำตอบของเขาต้องไม่เป็นที่สบอารมณ์ของอีกฝ่าย แต่หารู้ไม่ว่าอาการนิ่งเฉยของเขาทำให้ภากรยิ่งโกรธจนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีก

ภากรคว้าคอเสื้อร่างบางกว่ากระแทกเข้าที่ผนังห้องไม่รุนแรงนัก เพราะไม่อยากให้เสียงรบกวนใครและทำให้ลูกตกใจตื่น แต่ความรุนแรงอยู่ตรงน้ำหนักของมือที่กดลงตรงลำคอของอีกฝ่ายต่างหาก

“โอ๊ะ !.. ผมเสียใจ โจ.. ผม อึ๊ก ... “  :sad5:

โยธินไม่สามารถพูดอะไรได้อีกใบหน้าเนียนขาวซีด แขนขาหมดแรงเพราะรู้สึกเหมือนลมหายใจกำลังจะขาด ภากรรีบคลายมือออกเมื่อเห็นอาการของอีกฝ่าย ทันทีที่ปล่อยมือร่างบางก็ทรุดฮวบลงอย่างหมดแรง แม้จะรู้สึกว่าตัวเองกระทำรุนแรงเกินไป แต่ภากรก็สะใจมากว่าเสียใจ เขาทรุดตัวตามลงไปกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ทำไม!! โยธิน.. แกปล่อยให้ลูกป่วยหนักอย่างนี้ได้ยังไง แกไม่รู้หรือว่าเด็กเล็กๆ ไม่สบายมีอาการยังไง แกปล่อยให้ลูกไม่สบายอยู่กี่วัน หา!.. ตอบฉันซี...”  :angry2:

ประโยคสุดท้ายเขาต้องเค้นถามด้วยอารมณ์อีกครั้ง อีกฝ่ายจึงอึกอักตอบ

“ผมไม่รู้ว่าลูกไม่สบาย ผมคิดว่าเธองอแงธรรมดา”  :impress:

“งอแงเหรอ ให้ตายเถอะ! โยธิน แกรู้มั้ยว่าเจนนี่เป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายที่สุดในโลกแล้ว เธอเป็นเด็กอารมณ์ดี ร่าเริง ไม่งอแง ไม่เคยร้องโยเย ยกเว้นเวลาหิวเท่านั้น แกโชคดีขนาดไหนแล้วที่ได้เจนนี่เป็นลูก แต่แกกลับไม่มีปัญญาดูแลปล่อยให้ลูกป่วยหนักขนาดนี้ แค่ลูกเป็นไข้ตัวร้อนธรรมดาฉันก็ทุกข์ใจมากแล้ว แกรู้มั้ยว่าตอนนี้ฉันเจ็บหัวใจขนาดไหน..”  o7

ภากรทรุดตัวลงที่พื้นระเบียงในสภาพที่แสดงถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ จนทำให้โยธินรู้สึกละอายใจ แม้จะอยู่ในฐานะ “พ่อ” เหมือนกันแต่ความรู้สึกที่มีให้กับลูก เขาเทียบภากรไม่ได้เลย

 
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 04-06-2007 20:38:18
“ผมขอโทษ โจ.. ผมผิดเอง ผมให้พี่เลี้ยงเด็กออกไป เพราะเธอดูแลเจนนี่ไม่ได้และยังพาลว่าเจนนี่เป็นเด็กเหลือขอ ”

“เจนนี่น่ะเหรอ.. เด็กเหลือขอ..” ภากรนึกถึงท่าทีที่อ่อนโยนของพี่เลี้ยงสาวแล้วไม่อยากเชื่อคำพูดของโยธิน

“ตั้งแต่คืนแรกที่เจนนี่ไปอยู่กับผม เธอเริ่มโยเยตั้งแต่หัวค่ำ ยิ่งดึกก็ยิ่งร้อง เธอร้องไม่หยุด พี่เลี้ยงเอาเธอไม่อยู่ ผมก็ทำให้เธอเงียบไม่ได้ ผมคิดว่าเธอแปลกที่และเธอก็ไม่คุ้นชินกับทุกคนที่นั่น คิดว่าคงจะเป็นแค่คืนแรกแต่ไม่ใช่.. เธอร้องไห้งอแง 3 - 4 คืนติดกันไม่ยอมนอนทั้งคืน ....

....ผมโมโหพี่เลี้ยงและต่อว่าเธอที่คุยนักคุยหนา ว่ามีประสบการณ์ดูแลเด็กเล็กๆ มาแล้วนับไม่ถ้วน แต่เธอก็ดูแลเจนนี่ให้ผมไม่ได้ เธอโกรธผมและพาลว่าเจนนี่เป็นเด็กเหลือขอ ผมเลยไล่เธอออกไป ผมไม่กล้าโทรบอกคุณ ผมคิดว่าในเมื่อคุณเลี้ยงลูกได้ผมก็ต้องเลี้ยงได้ แต่ผมคิดผิด โจ..”

ภากรนั่งตะลึงกับเรื่องราวที่โยธินบอกเล่า นึกไม่ถึงเลยว่า 7 วันที่ผ่านมา ลูกสาวตัวน้อยๆ ของเขาต้องตื่นตกใจกับสภาพแวดล้อมใหม่และคนแปลกหน้าถึงขนาดไม่ยอมหลับนอน เอาแต่ร้องไห้ทั้งคืน มิน่าล่ะ!... เขารู้เหตุผลที่เจ้าหนูเจมส์ตื่นขึ้นมาโยเยกลางดึกตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว

“.... 3 คืนหลังจากนั้น เจนนี่ไม่ร้องไห้แล้ว เธอแค่โยเยเท่านั้น ผมคิดว่าลูกคงเริ่มคุ้นชิน แต่ไม่ใช่.... ลูกเริ่มไม่สบายและผมก็เป็นพ่อที่โง่มาก ไม่รู้เลยว่าอาการเงียบหงอยของเด็กเล็กๆ มันหมายถึงความผิดปกติอะไร...”

ภากรเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“แกคิดว่าแกเป็นพ่อที่แท้จริงของเจนนี่ แล้วหมายถึงแกมีสิทธิในตัวเธอคนเดียวยังงั้นหรือ โยธิน.. ทำไมแกไม่โทรบอกฉันสักคำว่าลูกไม่สบาย แกเงียบหายไป 7 วันเต็มๆ และโทรมาหาฉันกลางดึกเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เพื่อจะบอกฉันว่า เจนนี่ป่วยหนัก แกจะให้ฉันรู้สึกยังไง โยธิน.. ชีวิตน้อยๆ ที่ฉันเลี้ยงดูทะนุถนอมมาอย่างดีกว่า 9 เดือนที่ผ่านมา ถูกพ่อโง่ๆ อย่างแกละเลยจนบอบช้ำภายในเวลา 7 วัน ให้ตายเถอะ! โยธิน... รู้มั้ย ถ้าเจนนี่เป็นอะไรไป ฉันไม่มีวันยกโทษให้แก”

“ถ้าลูกเป็นอะไรไป ผมก็จะไม่ยกโทษให้ตัวเองเหมือนกัน”   

น้ำเสียงสั่นเครือแต่หนักแน่นของโยธินทำให้ภากรคลายอารมณ์ลงเล็กน้อย

“ผมอยากโทรหาคุณตั้งแต่คืนแรกแล้ว.. แต่ผมกลัวคุณหัวเราะเยาะว่าผมไม่มีปัญญาเลี้ยงลูก ผมคิดถึงแต่ตัวเอง ผมอยากเอาชนะคุณโดยไม่ได้สนใจจิตใจของลูกเลยว่าเธอร้องไห้งอแงเพราะอะไร ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเจนนี่ร้องไห้คิดถึงพ่อของเธอ ลูกคิดถึงคุณ โจ..”

ความในใจที่ระบายออกมาพร้อมน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้ม ทำให้ภากรรู้สึกละอายใจ หากจะโทษว่าใครผิด เขาเองก็มีส่วนผิดด้วยเช่นกัน เขาควรจะเป็นฝ่ายโทรหาโยธินเพื่อถามทุกข์สุขของลูก แต่เขาก็ไม่ทำ รอแต่จะให้อีกฝ่ายโทรมาเพียงเพื่อเขาจะได้ไม่เป็นฝ่ายถูกหัวเราะว่า ทนคิดถึงลูกไม่ไหว....

...ให้ตายเถอะ!.. เขาต่างหากที่ผิด เขาต่างหากที่ควรรับผิดชอบเรื่องนี้...


โยธินพาเจนนี่ไปหาหมอที่คลีนิคหน้าหมู่บ้านเมื่อเช้าแล้ว 1 ครั้ง เพราะหลังจากที่เงียบซึมไป 2 วัน เช้าวันนี้หนูน้อยเริ่มมีอาการไอ หมอว่าเด็กเป็นหวัดธรรมดาและสั่งยาให้ทาน เขาพาลูกกลับบ้าน ตกเย็นเจนนี่ไอมากจนอาเจียรและหายใจเหนื่อยหอบ เขาตกใจมากจึงรีบพาลูกไปโรงพยาบาล หมอที่โรงพยาบาลรับ
เด็กไว้ด้วยความตกใจและต่อว่าเขาที่ปล่อยให้ลูกอาการหนักขนาดนี้ หมอไม่เปิดโอกาสให้เขาอธิบายสักคำเลยว่า ก็เพราะไอ้หมอที่คลีนิคหน้าบ้านรักษาโรคเด็กไม่เป็นน่ะซี ทำให้ลูกสาวของเขาอาการหนัก

เขายืนกระวนกระวายอยู่หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ไม่กล้าโทรหาภากรในเวลานั้น ได้แต่ภาวนาขอให้ลูกสาวตัวน้อยๆ ปลอดภัย เขาโล่งอกเมื่อหมอออกมาบอกว่าเจนนี่ไม่เป็นอะไรแล้ว หนูน้อยมีอาการหลอดลมอักเสบ ไม่รุนแรงนัก แต่เนื่องจากเด็กยังเล็กมากจึงเหนื่อยหอบเพราะหายใจลำบาก หมอจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจกับเด็ก

โยธินนั่งเฝ้าดูลูกสาวตัวน้อยๆ นานกว่า 5 ชั่วโมง รอจนเจนนี่อาการดีขึ้นแล้วจึงตัดสินใจโทรหาภากรตอน 5 ทุ่ม



***************************


ภากรนั่งอยู่บนโซฟาในท่าสบาย เขาอุ้มลูกสาวตัวน้อยซบที่ไหล่และตบที่ก้นเบาๆ เป็นท่ากล่อมเด็กน้อยที่ใครเห็นแล้วคงรู้สึกว่าการกล่อมเด็กนอนเป็นเรื่องที่ง่ายดายเหลือเกิน แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้เหมือนเขา ขนาดแม่บ้านและสาวใช้ยังนั่งเฉยไม่ได้ต้องอุ้มเดินไปมาแฝดน้อยทั้งสองถึงจะยอมนอน แต่ถ้าได้ซบกับอกพ่อแล้ว แค่นั่งเฉยๆ ทั้งเจนนี่และเจมส์ก็พร้อมจะหลับได้ทุกเมื่อ

ภากรขยับขาหนีบร่างน้อยๆ ของเจ้าหนูเจมส์ที่คอยนัวเนียอยู่ระหว่างขาจะให้เขาอุ้มด้วยให้ได้

“ให้เจนนี่หลับก่อน พี่เค้าไม่สบาย ลูกไปนั่งเล่นก่อน เจมส์..”

พูดยังไงเจ้าหนูเจมส์ก็ไม่ยอม สองมือขยี้ตาส่งเสียงในลำคอเหมือนกับจะแสดงอาการให้พ่อรู้ว่าตัวเองก็ง่วงนอนแล้วด้วย ภากรส่ายหน้ายอมแพ้กับความขี้อ้อนของลูกชายตัวน้อย เขาขยับเจนนี่ซึ่งเคลิ้มหลับแล้วนอนลงบนโซฟา และอุ้มเจ้าหนูเจมส์ขึ้นมา กล่อมนอนด้วยวิธีเดียวกัน ไม่ถึง 5 นาทีเจ้าหนูก็หลับปุ๋ย เพราะง่วงแล้วจริงๆ

สาวใช้เดินเข้ามารายงานเมื่อเห็นว่าคุณหนูทั้งสองหลับแล้ว

“คุณโยธินมาค่ะ นั่งคอยอยู่ที่สนาม”

ภากรสั่งสาวใช้อุ้มหนูน้อยทั้งสองไปนอนที่ห้อง ก่อนจะเดินออกไปพบกับแขกประจำของบ้าน เขาเริ่มคุ้นเคยกับโยธินมากขึ้นเพราะต้องพบปะกันเกือบทุกวัน แม้ในใจจะเริ่มยอมรับ แต่ยังคงไว้เชิงด้วยคำพูดและการแสดงออกเหมือนไม่ค่อยถูกชะตาด้วย

ชายหนุ่มร่างโปร่งบางนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่โต๊ะรับแขกริมสนาม ระยะหลังโยธินเปลี่ยนพฤติกรรมไปไม่มีเด็กหนุ่มห้อมล้อมเหมือนก่อน อาจเป็นเพราะพยายามประพฤติตัวให้ดีขึ้นในสายตาของเขา นึกถึงเจนนี่แล้วเขาสงสารหนูน้อยเหลือเกิน ทำไมสวรรค์ถึงบันดาลให้เจนนี่เป็นลูกสาวของหมอนี่ได้ ทำไมถึงไม่เป็นของเขาทั้งหมด…

“มาทำไมโยธิน.. เจนนี่ยังไม่หายดี ฉันยังไม่ให้นายพากลับไปหรอกนะ มีปัญหามั้ย”

ภากรรีบออกตัวเพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ตามข้อตกลงหนูน้อยจะต้องกลับไปอยู่กับโยธินในเย็นวันอาทิตย์หรือเช้าวันจันทร์

โยธินเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มหวานให้อย่างมีอัธยาศัยเหมือนเคย เขาคุ้นชินกับการทักทายแบบมะนาวไม่มีน้ำของภากร

“ผมไม่มีปัญหาหรอก แล้วแต่คุณ โจ.. ผมแค่แวะมาเยี่ยมลูกเฉยๆ ละเอียดบอกว่าคุณกำลังกล่อมเด็กๆ นอน ผมก็เลยนั่งคอยที่นี่”

“เจนนี่เพิ่งหลับกว่าจะตื่นก็เกือบเย็น นายมีธุระอะไรก็ไปทำ ไม่ต้องคอยหรอก”

“ผมไม่มีธุระที่ไหน จะคอยลูกตื่น... ผมไม่กวนคุณหรอก จะนั่งคอยแถวนี้”

คำพูดของโยธินทำให้ภากรรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นเจ้าของบ้านที่ไม่มีน้ำใจเอาซะเลย เขาทรุดตัวลงนั่งและเอ่ยถาม

“คู่ขาไปไหนหมด ทำไมพักนี้ฉันไม่เห็นนายพาใครติดสอยห้อยตามมา”

“หมายถึงใครหรือ โจ..” โยธินแสร้งย้อนถามกลับไป

“อย่าแกล้งโง่ นายรู้ว่าฉันหมายถึงใคร”

โยธินหัวเราะในลำคอ

“ก็คุณไม่ชอบให้ผมพาใครเข้ามาในบ้าน จะถามถึงทำไม”

สีหน้าภากรแสดงความผิดหวังกับคำตอบที่ได้

“หึ! ฉันหลงคิดว่านายอาจจะทำตัวดีขึ้นบ้าง ลูก..อาจทำให้นายเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ ฉันโง่จริงๆ ที่หลงคิดอย่างนั้น”

โยธินรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังตั้งใจที่จะพูดคุยเรื่องส่วนตัวของเขาอย่างจริงจัง และก็เป็นจริงตามที่เขารู้สึก เมื่อภากรตั้งคำถามตรงประเด็นโดยไม่มีการอ้อมค้อมหรือเกริ่นนำให้เขาตั้งตัว

“ถามจริงๆ เถอะ นายคิดจะจัดการชีวิตของตัวเองยังไงที่จะทำให้เจนนี่เติบโตขึ้นอย่างไม่มีปัญหา”

โยธินนั่งนิ่งจนอีกฝ่ายต้องย้ำถาม

“นายเข้าใจคำถามฉันมั้ย โยธิน..”

โยธินเข้าใจคำถามของภากร แต่ไม่แน่ใจว่าภากรจะเข้าใจคำตอบของเขาหรือไม่



หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: มะนาว ที่ 04-06-2007 20:42:20

อยากอ่านต่ออ่ะคร้าบบบบบบบ......

ลงเยอะๆน้าาาาาา..........กาซิกกาซิก..........
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 04-06-2007 20:43:09
“ผมเข้าใจ โจ.. เข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร และคุณต้องการให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองยังไง  .. ก่อนที่ผมจะตอบคำถามคุณ ผมอยากให้คุณเข้าใจผมเหมือนที่ผมเข้าใจคุณ.... ผมขอยืนยันว่าพฤติกรรมที่ผมเป็นอยู่ไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือเลวร้ายของมนุษย์ สังคมกำหนดให้มันเป็นเรื่องผิดเพียงเพราะไม่ใช่สิ่งที่คนหมู่มากกระทำเท่านั้น ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดว่าตัวเองผิดปกติอะไร ผมจึงไม่คิดที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง....

....แต่ตั้งแต่ผมอยู่ในฐานะ “พ่อ” และได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกับลูก ผมยอมรับว่าผมแอบบอกตัวเองอยู่หลายครั้ง ว่าถึงมันจะไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเปลี่ยนแปลงได้ผมก็อยากจะเปลี่ยนนะ โจ..”

“นายกำลังจะบอกว่า นายเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ยังงั้นเหรอ”

“คุณไม่เข้าใจหรอก โจ.. ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบผู้หญิงเอาซะเลย ผมเคยลองคบกับผู้หญิงหลายคน แต่ที่สุดแล้ว... ผมก็ทำให้พวกเธอเสียใจทุกคนรวมถึงเมย์ด้วย ผม... ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายให้คุณเข้าใจได้ยังไง มันเหมือนอาหารหลักของคุณคือ ข้าว คุณทานขนมปังแทนได้บางมื้อ แต่จะให้เปลี่ยนมาทานขนมปังทุกมื้อเลยคุณทำไม่ได้หรอก และผมก็ทำไม่ได้...”

“ผู้หญิงเป็นขนมปังของนายหรือ โยธิน..”   ภากรตั้งป้อมซักโยธินราวกับทนายซักลูกความ

โยธินนั่งนิ่งไม่ปฏิเสธหรือตอบรับใดๆ เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายถามทั้งที่รู้

“ฉันเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องยาก อยู่ที่ใจของนาย โยธิน..ไม่มีอะไรทำไม่ได้ถ้าเราตั้งใจจริง นึกถึงเจนนี่ซี.. บางทีมันอาจจะช่วยให้นายมีแรงบันดาลใจที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงและเลิกมันให้ได้”

โยธินส่ายหน้า

“ผมหยุดพฤติกรรมชั่วคราวได้ แต่ถ้าให้เลิกเลยไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า แต่ผมจะพยายามนะ อย่างน้อยผมก็หยุดมันมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ”

ภากรไม่เชื่อหูตัวเอง

“แน่ใจหรือว่านายหยุดพฤติกรรมนั้นมานานกว่า 2 เดือน เมื่อเดือนก่อนยังเห็นเด็กหนุ่มรุมล้อมนายอยู่เลย”

“ก็แค่เป็นเพื่อนคุยไปไหนมาไหนด้วยเท่านั้น ผมสาบานได้นะ โจ.. ตั้งแต่เรามีเรื่องฟ้องร้องกันที่ศาล ผมไม่เคยนอนกับผู้ชายคนไหน.. จนถึงวันนี้...”

“จริงเหรอ..”

ภากรถามย้ำ เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าก็รู้สึกยินดีอยู่ในส่วนลึก อย่างน้อย “ลูก” ก็ยังมีความสำคัญจนทำให้โยธินหยุดคิดได้

“ฟังนะ! โยธิน.. ฉันเห็นแววว่านายอาจเป็นพ่อที่ดีของลูกได้แล้ว เริ่มจากการเปลี่ยนสังคมของนายซะ มันจะช่วยให้นายปรับเปลี่ยนชีวิตของตัวเองได้ ”

โยธินลุกขึ้นยืน ใบหน้าหวานที่เคยแย้มยิ้มอารมณ์ดีอยู่เสมอฉายแววกังวลและเป็นทุกข์

“ผมไม่รู้นะ โจ.. ว่าจะเปลี่ยนได้หรือเปล่า แต่ผมจะพยายาม...”

โยธินหันหลังเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรอีก ภากรร้องทักตามหลังเมื่อนึกขึ้นได้

“เฮ้!... จะไปไหนน่ะ ไม่คอยลูกตื่นแล้วเหรอ”

อีกฝ่ายหยุดชะงักและหันกลับมาตอบ
“ผมจะแวะมาใหม่ตอนเย็น แต่ถ้าไม่มา ก็เป็นพรุ่งนี้”

ภากรยืนดูโยธินขับรถกลับออกไป เป็นครั้งแรกที่เขายอมเสียเวลาพูดคุยกับโยธินอย่างจริงจังและยาวนานขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเจนนี่เขาคงไม่กล้าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของใคร ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าว่าโอกาสที่จะเลิกหรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้… แต่เขาจำเป็นต้องพูด แค่อีกฝ่ายรับปากว่าจะพยายามทำก็คุ้มค่าแล้ว เพราะทำให้เขาได้รู้ว่าโยธินมีความตั้งใจและปรารถนาที่จะเป็นพ่อที่ดีของลูก

....อนาคตข้างหน้าของหนูจะเป็นอย่างไร คงต้องแล้วแต่สวรรค์จะบัญชาแล้วนะ เจนนี่....



************************


ต่อบทที่ 7   เลยนะคะ คุณพูห์



:teach:  เจ๊หมวยต้องโพสให้จบบท  ไม่งั้นเดี๋ยวจะงง!!

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 05-06-2007 00:04:57
พอเจ๊หมวยยอมเอาเรื่องนี้มาลง
ทำให้เราต้องหยิบเอาเรื่องนี้ขึ้นมาอ่านอีกรอบ
สรุปนี่เป็นรอบที่สามแล้ว
อ่านไปก็ยิ่งหลงปะป๊า :give2: :give2: :give2:
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 05-06-2007 00:59:49
ตามติด   ติดตาม   :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 05-06-2007 13:09:37
สนุกน่าติดตาม มากๆเลยคับบ

ว่าแต่ป๊ะป่าม่ะมีหนุ่มๆล้อมหน้าล้อมหลังแล้ว   เมื่อไหร่คุรพ่อจะให่ป่ามาซบอกมั้ง อิอิ :impress2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-06-2007 19:06:37
หุหุ พ่อเขาเริ่มคุยกันดี ๆ บ้างแล้ว  :laugh3:  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 05-06-2007 21:10:11
บทที่ 7


*****************


“นายยอมให้โยธินอุ้มตาหนูแล้วเหรอ..”

ประวิชนั่งจิบเบียร์ที่บาร์ สายตาจับจ้องไปยังห้องพักผ่อนที่กลายสภาพเป็นห้องเลี้ยงเด็กไปแล้ว หนูน้อยทั้งสองคลานเล่นอยู่ที่พื้น ชายหนุ่มร่างโปร่งบางคลานตามไปมารอบๆ ห้อง เสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากของเด็กๆ ดังลั่นออกมา

“ทำไงได้... จะให้ฉันกันเจมส์ออกมาทุกครั้งที่หมอนั่นนั่งเล่นอยู่กับเจนนี่เหรอ”

“แสดงว่านายยอมญาติดีกับโยธินแล้วซีนะ ก็ดี.. เจนนี่โตขึ้นจะได้ไม่ลำบากใจ แค่มีพ่อสองคนก็ปวดหัวพออยู่แล้ว ปัญหาก็คือจะรู้ได้ยังไงว่าลูกเรียกใคร ”

“หมอนั่นเรียกตัวเองว่า “ปะป๊า”

“อะไรนะ” ประวิชพูดเสียงกลั้วหัวเราะ

“ปะป๊าเหรอ... ปะป๊ากับพ่อ.. หวังว่าคงเข้ากันได้นะ.. แต่ถ้าจะให้ดีน่าจะเป็นพ่อกับแม่ว่ะ...” ระวิชพึมพำประโยคสุดท้ายเบาๆ และอมยิ้มเมื่อเห็นสายตาเขียวปั้ดของเพื่อนจ้องมองอยู่

เสร็จจากคดีแย่งสิทธิความเป็นพ่อของแฝดน้อยทั้งสองแล้ว ประวิชมีคดีใหม่เข้ามาหลายคดี จึงไม่มีเวลาเข้ามาพบปะเยี่ยมเยียนภากร ได้แต่โทรมาพูดคุยด้วยแต่ก็ไม่บ่อยครั้งนัก วันนี้เขาพอมีเวลาว่างจึงแวะมาเยี่ยมเพื่อน ไม่คิดว่าจะมาเจอกับโยธินในสภาพนี้ หากไม่เห็นด้วยตาตัวเองเขาคงไม่เชื่อ

อาหารเย็นมื้อนี้เป็นมื้อแรกที่โยธินได้รับเชิญให้อยู่ทานด้วย ประวิชนึกขำเพื่อนในใจที่เชิญโยธินทานข้าวเย็นด้วยแต่ไม่ชวนพูดคุยสักคำ ถ้าเขาไม่ได้นั่งรวมวงด้วยบรรยากาศคงเงียบเชียบพิลึก ประวิชชวนโยธินพูดคุยสักพักก็สัมผัสถึงอุปนิสัยใจคอที่แท้จริงของคุณพ่อเจ้าสำอางว่า มีอารมณ์และอัธยาศัยดีและยังมีน้ำใจเกินกว่าที่คิดไว้

โยธินขอตัวจากโต๊ะอาหารเมื่อได้ยินเสียงลูกสาวร้องโยเยอยู่ด้านนอก

“ใช้ได้นะ โจ.. หมอนี่ไม่แย่หรือเลวร้ายอย่างที่นายเคยบอกเลย..”

“ไม่รู้... ฉันไม่ค่อยถูกชะตาด้วย”

“ทำไมล่ะ นายไม่ชอบเขาด้วยเหตุผลอะไร เพราะเขาเป็นสามีเก่าของคุณเมย์หรือเพราะเขาแย่งลูกสาวนายไป หรือว่า...เพราะเขามีพฤติกรรมส่วนตัวที่นายรับไม่ได้...”

“จะซักทำไมวะวิช.. ฉันไม่จำเป็นต้องตอบ นี่ไม่ใช่เวลาที่นายจะมาทำหน้าที่ทนายซักฉัน”

“ฟังนะ โจ.. ช่วงนี้ฉันงานยุ่งมาก อาจไม่มีเวลาแวะมาเยี่ยมนายบ่อยๆ ฉันอยากเห็นนายมีความสุขกับลูกๆ ถึงวันนี้ฉันแน่ใจแล้วว่านอกจากคุณเมย์แล้วชีวิตครอบครัวของนายไม่มีอะไรขาดหายไป เจนนี่ยังเป็นลูกสาวของนายเหมือนเดิม นายยังคงเป็นพ่อของลูกแฝดที่น่ารักน่าชัง สิ่งที่นายได้มาทดแทนการจากไปของคุณเมย์ก็คือเพื่อน.. เขาจะมาแบ่งเบาภาระช่วยนายดูแลลูกๆ ฉันอยากให้นายเปิดใจรับเขา”

“หึ! หมอนั่นจ้างนายมาเจรจากับฉันหรือ วิช..”

ประวิชส่ายหน้า

“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร นายต้องยอมรับว่านายเดินช้ากว่าโยธินอย่างน้อยหนึ่งก้าว เขาพบกับคุณเมย์ก่อนนาย และถ้าเขาไม่มีพฤติกรรมส่วนตัวอย่างนี้ นายก็คงไม่มีโอกาสได้คบหากับเธอและไม่มีโอกาสได้เป็นพ่อของลูกๆ นายมีสิทธิจะโกรธโยธินที่แอบมารังแกคุณเมย์ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอมีนายอยู่ แต่ถ้านายเป็นโยธินวันนั้น ในฐานะที่นายยังเป็น “สามี” ตามกฎหมายของเธออยู่ นายคิดว่านายจะทำอย่างที่หมอนั่นทำหรือเปล่า โจ..

...นายต้องทำใจยอมรับเขามากขึ้น ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนพฤติกรรมได้หรือไม่ ฉันคิดว่านายมองออกแล้วนะ ว่าโยธินพร้อมที่จะเป็น “พ่อ” ของลูกได้หรือยัง และตราบใดที่เราแยกเด็กสองคนจากกันไม่ได้ พ่อของเด็กก็ควรหันหน้าเข้าหากัน ถ้านายจับมือกับโยธินช่วยเลี้ยงดูลูกๆ ฉันคิดว่าคุณเมย์คงยินดีมากกว่าการที่นายตั้งแง่เหม็นขี้หน้าเขาอยู่อย่างนี้... นายเห็นด้วยกับฉันใช่มั้ย โจ..”

ภากรนิ่งฟังด้วยสีหน้าครุ่นคิด ไม่โต้แย้งหรือตอบรับใดๆ


 o15


ภากรยืนกอดอกพิงประตูห้องนอนลูกแอบพึงพอใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า วันนี้โยธินบอกเขาว่าจะขออยู่กล่อมลูกนอนก่อนแล้วค่อยกลับ ถ้าคืนนี้ลูกไม่ยอมหลับด้วยฝีมือการกล่อมของเขา เขาจะไม่กลับบ้าน เล่นเอาภากรต้องแอบลุ้น อยู่ในใจให้เจนนี่ยอมหลับในอ้อมกอดปะป๊าของเธอเร็วๆ

โยธินค่อยๆ วางลูกสาวตัวน้อยลงที่เตียงด้วยรอยยิ้มที่แสดงถึงความภูมิใจ เพราะเป็นคืนแรกที่เขาสามารถกล่อมลูกนอนหลับได้ เขาห่มผ้าให้เจนนี่เสร็จก็เดินไปที่เตียงข้างๆ ดูความเรียบร้อยของเจ้าหนูเจมส์ซึ่งหลับปุ๋ยไปก่อนพี่สาวนานแล้ว เพราะวันนี้เจมส์ได้นอนซบอกพ่อเร็ว ไม่ต้องคอยให้พี่สาวหลับก่อนเหมือนทุกครั้ง

โยธินผละจากเตียงหันมาเจอะกับสายตาของภากรที่จ้องดูอยู่ ก็รู้สึกขัดเขินกับฝีมือการเลี้ยงลูกของตัวเอง เพราะกว่าจะจัดการให้ลูกหลับได้ปาเข้าไปเกือบ 40 นาที ในขณะที่ภากรใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที

“เอ่อ.. ครั้งหน้าผมจะพยายามใช้เวลาให้น้อยลงกว่านี้...”

ภากรยิ้มให้โยธินด้วยความรู้สึกยินดีอย่างจริงใจ

“นายทำได้แล้ว โยธิน.. นายทำให้ฉันเห็นแล้วว่านายดูแลเจนนี่ได้”

“จริงเหรอโจ.. แต่ผมอยากทำให้ได้เหมือนที่คุณทำ”

“หึ! ฉันเลี้ยงพวกเค้ามาเกือบ 10 เดือน นายเพิ่งหัดเลี้ยงได้ไม่ถึง 2 เดือน จะมามีฝีมือเท่าฉันก็เกินไปหน่อยแล้ว”

“ผมขอมีฝีมือเท่าครึ่งหนึ่งของคุณก็พอ”

โยธินก้มลงเก็บข้าวของที่เรี่ยราดอยู่ที่พื้นห้องให้เข้าที่เข้าทาง ภากรนิ่งมองอยู่ชั่วครู่ก่อนตัดสินใจเอ่ยกับอีกฝ่าย

“เจนนี่หายดีแล้วและเธอก็คุ้นเคยกับนายมากขึ้น นายกล่อมลูกหลับเองได้ เธอก็จะไม่ร้องโยเยกลางดึกอีก พรุ่งนี้นายพาลูกกลับได้แล้ว โยธิน.. ฉันไม่อยากเอาเปรียบนาย”

“ผมต่างหากที่เอาเปรียบคุณ ผมให้คุณเลี้ยงลูกให้ทั้งๆ ที่มันเป็นหน้าที่ของผม ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมจะพาเจนนี่กลับไป ขอฝากคุณไว้ก่อนได้มั้ย”

“ทำไม นายยังไม่เชื่อฝีมือตัวเองเหรอ”

“เปล่า”

“หรือนายไม่พร้อมเพราะไม่มีคนช่วยเลี้ยง ให้ละเอียดตามไปช่วยเลี้ยงก่อนก็ได้รอจนกว่านายจะหาพี่เลี้ยงเด็กได้แล้วค่อยส่งเค้ากลับมา”

“อย่าเลย โจ.. ผมไม่ได้มีปัญหาเรื่องพี่เลี้ยงเด็กหรอก แต่ผม...เอ่อ.. ผมอยากให้เธอโตขึ้นกว่านี้สักหน่อย บอกตรงๆ นะ โจ.. ผมกลัว... กลัวเวลาลูกไม่สบายแล้วพ่อโง่ๆ อย่างผมอาจจะปล่อยให้ลูกเจ็บหนักอีก...”

ภากรยืนอึ้งนึกไม่ถึงว่าโยธินยังฝังใจกับเหตุการณ์คืนที่เจนนี่ป่วย จนไม่มีความมั่นใจว่าจะเลี้ยงลูกได้อีก

“ตามใจนายโยธิน.. ให้เจนนี่อยู่ที่นี่อีกสักระยะหนึ่งก็ได้ เรื่องอาการเจ็บป่วยของเด็กนายก็หาซื้อตำรามาอ่านซะ แล้วค่อยๆ เรียนรู้ไป สำหรับฉันไม่มีปัญหาหรอก เจนนี่เป็นลูกฉันก่อนที่เขาจะเป็นลูกของนายซะอีก”

ภากรเดินมาส่งโยธินที่รถ

“จะมารับเมื่อไรก็ตามใจนะ แต่ถ้าทิ้งไว้นานเกินไป ฉันอาจจะเปลี่ยนใจไม่ยอมคืนให้นายเลยก็ได้”

โยธินหัวเราะ เปิดประตูรถก้าวเข้าไปนั่ง

“ไม่นานหรอก โจ.. ผมกะว่าจะมารับเจนนี่ไปอยู่ด้วยตอนเธออายุได้สัก 4 หรือ 5 ขวบ แต่ถึงตอนนั้นต้องแล้วแต่ลูก ถ้าเจนนี่ไม่อยากไปอยู่ที่บ้านโน้น ผมก็จะเทียวไปมาหาเธอเอง เห็นมั้ยว่าผมต้องเป็นฝ่ายรบกวนคุณขนาดไหน คุณต้องเหม็นเบื่อหน้าผมแน่ ที่สำคัญเปลืองงบประมาณอาหารเย็นของคุณด้วย เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูยายหนูผมจะรับผิดชอบทั้งหมดเอง คุณห้ามปฏิเสธนะ ราตรีสวัสดิ์ โจ..”

อีกครั้งที่ภากรต้องนิ่งอึ้งไป  กว่าจะรู้สึกตัวอีกฝ่ายก็ขับรถเลี้ยวออกไปจาก “บ้านธีรวัฒน์” แล้ว


 :bye2:



หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 05-06-2007 21:18:36
ในที่สุดโยธินก็ตัดสินใจให้ภากรเป็นผู้เลี้ยงดูลูกสาว โดยเขาเป็นฝ่ายแวะมาเยี่ยมลูกทุกเย็น บางวันมาขลุกอยู่ตั้งแต่บ่ายจนถึงค่ำ แต่บางวันก็ไม่ได้แวะเข้ามาเลยเพราะติดงาน และบางครั้งก็หายไปเป็นอาทิตย์เพราะต้องร่วมเดินทางไปกับกลุ่มทัวร์เพื่อรับรองลูกค้าสำคัญด้วยตัวเอง

การที่โยธินมีทายาทให้ตระกูลได้ แม้จะเป็นลูกสาวก็เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงและสร้างความตื่นเต้นให้กับบิดาและมารดาอย่างมาก เพราะต่างทำใจยอมรับแล้วว่าบุตรชายคนเล็กของตัวเองมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ดังนั้นการที่โยธินไม่ยอมเลี้ยงลูกเอง จึงถูกมารดาตำหนิและยื่นคำขาดว่าให้เอาลูกกลับมามาเลี้ยงเองหรือนำมาให้ย่าเลี้ยงให้ มิฉะนั้นจะไม่ได้ทรัพย์สมบัติส่วนที่ควรจะได้

ถึงวันนี้โยธินไม่เสียเวลาคิดแล้ว เขาไม่อยากแลกความสุขของลูกสาวตัวน้อยๆ กับทรัพย์สมบัติอะไรอีก เพราะทุกวันนี้ความสุขที่เขาได้รับจากรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของลูก มันมากมายและมีความหมายยิ่งกว่าการมีทรัพย์สมบัติล้นฟ้าซะอีก


 :impress2:


ภากรสนิทกับโยธินมากขึ้นทุกวัน เริ่มยอมรับว่าชายหนุ่มผู้นี้สามารถเป็นพ่อที่ดีของลูกได้ เขาไม่รู้ว่าเรื่องที่เคยคุยกันไว้โยธินสามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือเปล่า รู้แต่ว่าระยะหลังไม่เคยเห็นหมอนี่ประพฤติหรือปฏิบัติตัวเหมือนก่อนอีก โยธินเลิกธุรกิจโมเดลลิ่ง พยายามหลีกเลี่ยงและไม่พบปะกับสังคมกลุ่มเดิม เวลาว่างจากงานทัวร์ก็จะมาขลุกอยู่กับลูกเป็นส่วนใหญ่ อาจเป็นเพราะกำลังเห่อลูกเหมือนพ่อมือใหม่ทั้งหลายก็ได้ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด....

ภากรรู้ว่าโยธินพยายามทำดีที่สุดเพื่อลูกแล้ว เขาจึงเริ่มเข้าใจและไม่สนใจว่าลับหลังเขาโยธินจะไปมีพฤติกรรมส่วนตัวอย่างไร ขอแค่เป็นพ่อที่ดีของลูกก็เพียงพอแล้ว..


 :teach:
 

ในที่สุดโยธินก็เปลี่ยนฐานะจากแขกมาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของ “บ้านธีรวัฒน์” เมื่อแฝดน้อยทั้งสองมีอายุได้ 1 ขวบกับ 8 เดือน

เขามีห้องส่วนตัวที่ภากรใจอ่อนยอมยกให้ และเอ่ยปากอนุญาตให้เขาอยู่ค้างได้หากวันไหนอยู่ดึกและไม่อยากขับรถกลับบ้าน เพราะบ่อยครั้งที่เขาเผลอหลับในห้องลูกจนถึงเช้า หลังจากพาแฝดน้อยทั้งสองเข้านอนแล้วเขาก็มักจะง่วงจนต้องขอตัวนอนงีบที่หน้าเตียงลูกสักครู่ แต่งีบหลับทีไรก็มักจะรู้สึกตัวอีกทีกลางดึกหรือรุ่งเช้าไปเลยอย่างเช่นวันนี้

ภากรโยนผ้าเช็ดตัวให้ชายหนุ่มที่อยู่ในสภาพงัวเงีย

“อาบน้ำซะ!!  ฉันจะหาชุดให้เปลี่ยน ใส่เสร็จแล้วไม่ต้องคืน ฉันยกให้เลย”

โยธินนึกขำในใจแต่ไม่กล้าหัวเราะ

“ผมไม่ชอบให้ใครมายกเสื้อผ้าให้ ถ้าให้ยืมใส่ล่ะก็ ได้...”

“ฉันไม่ชอบใส่เสื้อผ้าร่วมกับใคร”

“ถ้างั้นผมใส่ชุดเก่าก็ได้ ขออาบน้ำก่อน”

“ตามใจ!!  แต่ถ้าลูกตื่นห้ามเข้าไปอุ้มหรือกอดลูกทั้งๆ ที่อยู่ในชุดยับเยินนี้”

“อะไรกัน!! …เสื้อผ้าแค่ยับเท่านั้นนะโจ.. ไม่ได้สกปรกซะหน่อย ผมเพิ่งเปลี่ยนจากบ้านมาเมื่อเย็นวานเอง”

“มันเลยเวลาที่ควรจะใส่แล้ว และนายก็นอนที่พื้นห้องทั้งคืน ถึงจะเป็นพื้นห้องที่สะอาดที่สุดในบ้านหลังนี้แล้วก็ตาม แต่พื้นก็ยังเป็นพื้น”

“โธ่เอ๊ย! โจ..” โยธินส่ายหัวและส่งผ้าเช็ดตัวคืนให้

“ถ้ามันวุ่นวายอย่างนี้ผมกลับบ้านเลยละกัน ขอโทษนะ... ต่อไปผมจะไม่เผลอหลับอีกแล้ว”

โยธินผละจากภากรเดินลงบันได เสียงอีกฝ่ายเอ่ยถามไล่หลังลงมา

“ทำไมนายไม่เอาเสื้อผ้ามาทิ้งไว้บ้างล่ะ”

โยธินหยุดชะงักที่บันไดและเงยหน้าขึ้นตอบ

“เอามาทิ้งทำไม ผมไม่ได้ตั้งใจนอนที่นี่ ผมแค่เผลอหลับ 2 - 3 ครั้งเท่านั้นเอง จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก”

“ทิ้งไว้ในรถก็ยังดี เผื่อไว้....”

ภากรเดินตามลงมาพยายามหาทางออกให้ กลัวอีกฝ่ายน้อยใจว่าเขาไม่พอใจที่เผลอหลับในห้องลูกจนถึงเช้า เห็นโยธินยืนนิ่งไม่พูดไม่จายิ่งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองใจดำเกินไปหรือเปล่า เพราะทางออกที่ให้ไปก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านหยิบยื่นให้

“ขอบคุณนะโจ.. ที่ช่วยแนะนำ”

ใบหน้าหวานฝืนยิ้มให้ภากรและเดินลงบันไดไปด้วยท่าทีเซ็งๆ

ภากรถอนใจเฮือกก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนขั้นบันได รู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้านที่ใจจืดใจดำจริงๆ

....เฮ้อ!... อย่างนี้แล้วจะสู้หน้าเจนนี่ได้หรือเปล่า แค่เสื้อผ้าก็ยืมให้ปะป๊าหนูใส่ไม่ได้...

ภากรจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกๆ เสร็จก็พากันลงมาหาอาหารเช้าทาน    เจนนี่วิ่งนำหน้าไปที่โต๊ะอาหาร ร้องเรียกปะป๊าด้วยความดีใจ

“ปะป๊าขา... มาเร็วจัง”

“ก็ปะป๊าคิดถึงหนูนี่นา อยากอยู่ใกล้หนูตลอดเวลาเลย”

โยธินอุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นมากอดและหอมอย่างรักใคร่ เจ้าหนูเจมส์วิ่งตามเข้าไปเสนอหน้าใกล้ๆ ด้วย

“เจมส์ก็คิดถึงปะป๊าด้วย”

โยธินหัวเราะ รั้งร่างเด็กชายตัวป้อมขึ้นมากอดอีกคน

“โอ๊ะ..โอว!. ลูกสองคนตัวหนักแล้วรู้มั้ย ปะป๊าอุ้มพร้อมกันสองคนจะไม่ไหวแล้วนะ”

“คุณพ่ออุ้มไหวค่ะ”

เจนนี่รีบบอกและขยับตัวลงจากตักโยธิน วิ่งไปหาภากรที่ยืนมองดูอยู่ด้วยความแปลกใจ สาวน้อยยกสองแขนขึ้นให้คุณพ่ออย่างมีความหมาย ภากรยิ้มให้ลูกสาวและอุ้มหนูน้อยเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารและวางลงประจำที่ ในขณะเดียวกับที่เจ้าหนูเจมส์ถูกโยธินจับวางลงที่เก้าอี้ประจำตัวเช่นกัน

ภากรไม่พูดไม่จาในขณะที่โยธินยิ้มให้อย่างมีไมตรีตามนิสัย

“อรุณสวัสดิ์ โจ..”

“อรุณสวัสดิ์คับ คุณพ่อโจ..” เจมส์พูดตามโยธินเพราะนั่งอยู่ติดกัน หนูน้อยยิ้มแก้มยุ้ย

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ปะป๊า” เจนนี่ทักบ้างและหันไปสะกิดภากร “อรุณสวัสดิ์ปะป๊าซีคะ คุณพ่อ..”

ภากรอดหัวเราะไม่ได้ จำต้องกล่าวตามคำขอของลูกสาวขี้อ้อน

“อรุณสวัสดิ์ โยธิน..”

อาหารเช้ามื้อนี้มีแต่เสียงเด็กๆ เจี๊ยวจ๊าว คุณพ่อและปะป๊านั่งเงียบกริบ หยั่งเชิงซึ่งกันและกัน ภากรนึกสงสัยว่าโยธินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไหนมา ถ้ากลับไปบ้านคงไม่มาเร็วขนาดนี้ แต่ถึงจะอยากรู้ถ้าอีกฝ่ายไม่บอก เขาก็ไม่มีวันเอ่ยถามขึ้นก่อน

เสียงภากรร้องเรียกสาวใช้แต่คนที่วิ่งมากลับเป็นป้าหวานแม่บ้าน

“เด็กไปไหนหมดล่ะป้า”

“ป้าให้ทำความสะอาดห้องน้ำด้านหลังค่ะ อายคุณโยธินเธอ”

ภากรหัวเราะในลำคอ

“อายทำไม หมอนั่นจะขอตรวจความสะอาดห้องน้ำป้าเหรอ”

“เธอไม่ได้ขอตรวจแต่มาขอใช้ค่ะ และบอกว่าจะมาขอใช้ทุกครั้งถ้าเผลอหลับที่ห้องคุณหนูอีก ป้าก็เลยให้ละเอียดไปทำความสะอาดค่ะ”

ภากรอึ้งไปเมื่อรู้จากแม่บ้านว่า โยธินหอบเสื้อผ้าออกมาจากรถและไปขอใช้ห้องน้ำด้านหลังซึ่งเป็นห้องน้ำของคนรับใช้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แม่บ้านขอให้ขึ้นมาใช้ห้องน้ำบนตึกก็ไม่ยอม อ้างว่ากลัวส่งเสียงดังทำให้ลูกๆ ตื่น เพราะเป็นคนชอบร้องเพลงเวลาอาบน้ำ

“คุณผู้ชายมีอะไรหรือคะ เดี๋ยวป้าจัดการแทนละเอียดได้ค่ะ”

“ผมจะไปที่ร้านนะ เด็กๆ หลับอยู่แต่คงใกล้ตื่นแล้ว”

“เชิญค่ะ เดี๋ยวป้าดูแลคุณหนูๆ เอง”

“บอกให้ละเอียดวางมือจากห้องน้ำด้านหลัง แล้วไปเปิดห้องปีกซ้ายทำความสะอาดเตรียมไว้ด้วย”

“ค่ะ เอ่อ.. จะมีแขกมาพักหรือคะ”

“ใช่.. แขกสำคัญเลยป้า ต่อไปจะได้ไม่ต้องไปนอนหลับข้างเตียงลูก และไม่ต้องไปวุ่นวายห้องน้ำของป้าด้วย”

แม่บ้านรับคำสั่งด้วยความยินดีเพราะเฝ้ารอคำสั่งนี้จากคุณผู้ชายมานานแล้ว


 o15



TBC >>>>>>>
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 05-06-2007 21:51:39
เนื้อเรื่องน่ารัก   คนเขียนก้อน่าร้ากกกกกกกกกกกกกก :impress: :like6: :like6: :impress2: :impress2: :give2: :give2: :o8: :o8: :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 06-06-2007 11:55:29
 :-[ :o8: :give2: :impress2: :like6:

น่ารักมากๆเลยยย  คุณพ่อกะป๊ะป๋า เริ่มเข้ากันได้ดีแล้ว โดยมีเด็กๆเป็นตัวเชื่อม หุหุ 
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: bass ที่ 06-06-2007 16:11:42
เข้ามาให้กำลังใจครับ




ในที่สุด นู่ก็ ตามา จนทัน


 o8 o8 o8 o8 o8 o8 o8
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 06-06-2007 17:18:32

บทที่ 8


****************


ทุกวันนี้ชายหนุ่มทั้งสองผลัดกันดูแลลูกๆ แต่จะไม่พาลูกไปไหนพร้อมกันโดยเด็ดขาด เพราะภากรเคยเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เขาหน้าชาและโกรธโยธินมากจนไม่ยอมพูดด้วยอยู่หลายวัน

“เฮ้! โย.. หายไปเลยนะ ไม่มาจอยกับพวกเลย  นั่นแฟนใหม่นายเหรอ  โวว!!!..   :impress2:   คนนี้ถ้าเบื่อบอกฉันขอต่อคิวนะ...”

โยธินกลืนน้ำลายลงคอ กว่าเพื่อนจะเดินพ้นหลังไปภากรก็พาลูกเดินหนีจากไปไม่เห็นเงาแล้ว หลังจากวันนั้นโยธินถูกภากรยื่นคำขาดว่า จะไม่มีการไปไหนด้วยกันอีกเป็นอันขาด   หากจำเป็นต้องมีใครไปช่วยดูลูกก็ให้สาวใช้ตามไป



“โยธิน.. พรุ่งนี้นายพาเด็กๆ ไปฉีดวัคซีนหน่อยนะ ฉันไม่ว่าง.. ติดประชุมกรรมการที่สำนักงานกฎหมายของประวิช ฉันนัดหมอไว้ 10 โมงเช้า นายไปก่อนเวลาหน่อยก็ดี...”

โยธินไม่เคยปฏิเสธสักครั้ง แม้ในเวลานั้นเขาจะมีงานยุ่งขนาดไหนก็ตาม

“โจ.. ผมนัดกับลูกว่าเสาร์นี้จะพาไปสวนสนุก เผอิญมีกำหนดการด่วน ผมต้องตามไป Take care แขกผู้ใหญ่ คุณช่วยพาลูกไปแทนผมทีได้มั้ย”

“ทำไมนายชอบสัญญาอะไรกับลูกล่วงหน้า เวลาติดธุระขึ้นมาก็เดือดร้อนต้องมาหาข้อแก้ตัวกับลูก” ภากรบ่นอุบ

โยธินทอดถอนใจ เขาไม่เคยทำอะไรถูกในสายตาของภากรเลย แต่บางครั้ง… ภากรก็ทำไม่ถูกในสายตาเขาเช่นกัน

เสียงเจ้าหนูเจมส์ร้องไห้จ้า โยธินผละจากลูกสาวที่นั่งเล่นของเล่นอยู่ เดินตามหาเจ้าของเสียงตัวน้อย นึกในใจว่าภากรทำอะไรอยู่ทำไมปล่อยให้ลูกร้อง

โยธินเดินตามจนพบหนูน้อยจอมซน ยืนสะอึกสะอื้นอยู่ตรงหน้าภากร ในขณะที่ผู้เป็นพ่อนั่งจ้องหน้าลูกชายเขม็ง ในมือถือไม้บรรทัดพลาสติค 1 อัน

“จำได้ใช่มั้ย ถ้าลูกทำอีก ก็จะถูกพ่อตีอีก”

โยธินตรงรี่เข้าไปคว้าร่างหนูน้อยขึ้นมาสวมกอด เป็นครั้งแรกที่รู้สึกไม่พอใจวิธีการสั่งสอนลูกของภากร

“ปะป๊า... พ่อตีหนู... พ่อไม่รักหนูแล้ว”

หนูน้อยรีบฟ้องโยธินและตัดพ้อพ่อ ไม่คิดว่าตัวเองทำความผิดนักหนาแค่เอานิ้วแหย่เข้าไปในรูเอง พ่อต้องตีด้วย

“ทำไมต้องตีลูกด้วยอ่ะ โจ..”  o12

ภากรโยนไม้บรรทัดลงบนโต๊ะ

“ถามดูซีว่าฉันตีเรื่องอะไร”

“ผมไม่สนว่าเรื่องอะไร พูดดีๆ กับลูกก็ได้ คุณอธิบายได้นี่ว่าอะไรถูก อะไรไม่ถูก ลูกแค่ 2 ขวบกว่าเอง.. ลงโทษด้วยความรุนแรงแบบนี้แล้ว ถ้าโตกว่านี้คุณไม่เฆี่ยนลูกหลังลายเหรอ.. อย่าทำอย่างนี้กับลูกอีกเป็นครั้งที่ 2 ผมไม่ยอมนะ เข้าใจมั้ย..”

โยธินอุ้มเจ้าหนูเจมส์เดินออกไปในขณะที่ภากรนั่งตะลึง เพราะเป็นครั้งแรกที่โยธินโกรธและแสดงอารมณ์กับเขา

...นี่ถ้าเจนนี่เอานิ้วแหย่เข้าไปในรูปลั๊กไฟบ้าง เขาจะลงโทษสาวน้อยยังไงถึงจะไม่ถูกหมอนี่ดุเอา...



 o15



ภากรเบิกตาโพลงด้วยความตกใจทันทีที่เลี้ยวรถเข้ามาในบ้าน เพราะสนามหญ้าหน้าบ้านกลายสภาพเป็นสนามเด็กเล่นขนาดย่อม มีเครื่องเล่นเด็กหลากหลายชนิดตั้งแต่วัยเตาะแตะไปจนถึงเด็กโต เขาส่ายหน้าด้วยความระอาใจ รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของใคร ได้ยินเปรยๆ เมื่อสองวันก่อนว่าอยากจะมีสนามเด็กเล่นไว้ในบ้าน ลูกจะได้ไม่ต้องไปแย่งหรือรอคิวเล่นที่สนามของหมู่บ้าน…

ภากรก้าวลงจากรถหนูน้อยทั้งสองก็ผละจากเครื่องเล่น โยธินอุ้มเจนนี่ลงจากชิงช้า เท้าแตะพื้นได้หนูน้อยก็วิ่งตรงมาหาภากร ในขณะที่เจ้าหนูเจมส์รีบคลานออกจากบ้านหลังใหญ่วิ่งเข้ามาหาพ่อเช่นกัน

“พ่อจ๋า...” หนูน้อยทั้งสองร้องเรียกพ่อประสานเสียงกัน

ภากรทรุดตัวลงสวมกอดลูกๆ ไว้ สาวน้อยเจนนี่รีบรายงานคุณพ่อทันที

“คุณพ่อขา.. ปะป๊าซื้อของเล่นให้หนูเยอะแยะ”

“ปะป๊าซื้อให้เจมส์ด้วย” เจ้าหนูเจมส์รีบรายงานพ่อด้วย

“ปะป๊าซื้อให้ทั้งสองคนแบ่งกันเล่นจ้ะ.. ไม่ใช่ของใครคนเดียว”

โยธินเดินตามเด็กๆ เข้ามาจึงถูกภากรเอ่ยค่อนขอด

“ปะป๊าของลูกเขามีเงินเหลือใช้มั้ง อยากได้อะไรก็ต้องเอาให้ได้”

“เจนนี่อยากได้ ปะป๊าเลยซื้อให้” เจนนี่ออกตัวให้ปะป๊าเหมือนรู้

“เจมส์ก็อยากได้ด้วย..” เจ้าหนูเจมส์กลัวน้อยหน้าพี่สาว

ภากรส่ายหน้าอุ้มลูกสาวเดินเข้าบ้าน โยธินอุ้มเจ้าหนูเจมส์เดินตามมาติดๆ

“เอาจนได้นะ โยธิน.. ฉันบอกนายแล้วว่าลูกยังเด็กเกินกว่าจะไปปีนป่ายเครื่องเล่นพวกนั้น”

“เด็กที่ไหน โจ.. 2 ขวบกว่าแล้ว กำลังโตวันโตคืนเลย เผลอแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ขึ้นไปปีนบนบาร์ได้แล้ว ใช่มั้ยคับลูก...” โยธินถามเจ้าหนูในอ้อมกอด หนูน้อยพยักหน้าหงึกๆ

“หึ! นายทำให้บ้านฉันมองดูเป็นสนามเด็กเล่นไปแล้ว นี่ถ้าเด็กๆ ข้างบ้านขอเข้ามาเล่นด้วยนายจะว่าไง ”

“เถอะน่า.. ดีออก จะได้เก็บตังค์ค่าบำรุงสนามด้วยไง”

“หึ! ตลกจังนะ”



........ใช่! มันเป็นเรื่องน่าตลก ที่ชายหนุ่มสองคน รสนิยมและนิสัยใจคอต่างกันโดยสิ้นเชิงจนไม่น่าคบหาเป็นเพื่อนกันได้ แต่กลับต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในฐานะ พ่อ ของลูกๆ คนเดียวกัน และช่วยกันเลี้ยงดูเด็กๆ ให้เติบโตขึ้นด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ........


ภากรกลับไปใช้ชีวิตอิสระอีกครั้ง เป็นหนุ่มเรือพ่วงเนื้อหอมที่สาวๆ หมายปอง แต่การคบหาหญิงสาวของเขาในวันนี้ต่างจากเมื่อก่อน เขาจะมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวแค่ฉาบฉวย ไม่ใช้เวลาคบหาใครยาวนานและยังไม่คิดจะมีใจให้ใครอีก ทุกวันนี้แค่ได้เลี้ยงดูลูกแฝดทั้งสอง ภากรก็มีความสุขเหลือที่จะกล่าวแล้ว


สำหรับโยธินเขาไม่สามารถหนีความจริงได้ เขาหยุดพฤติกรรมเลิกคบหาและมีเซ็กซ์กับผู้ชายได้ชั่วคราวเท่านั้น แต่ให้เปลี่ยนไปชอบผู้หญิงเลยเขาทำไม่ได้ ในที่สุดก็ตัดสินใจอยู่เป็นโสดไม่คบหาใครจริงจัง ชอบพอเป็นพักๆ แล้วก็เลิกลากันไป ชีวิตส่วนใหญ่วุ่นวายอยู่กับลูกเช่นกัน


หากแต่การใช้ชีวิตส่วนตัวของสองหนุ่มในวันนี้ มีข้อตกลงและเงื่อนไขมากมายที่ต่างฝ่ายต่างยื่นเสนอให้กันโดยเอาลูกมาอ้างอยู่เสมอ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครที่เอาแต่ได้ฝ่ายเดียว    :teach: 



 o15



ร่างโปร่งบางเดินผิวปากอารมณ์ดีกำลังจะก้าวขึ้นตึกก็ถูกคว้าแขนกระชากกลับไปด้านหลังอย่างแรงจนเซเข้าไปปะทะแผ่นอกกว้าง

"อ๊ะ ! .. เฮ้ย!!! คุณเองเหรอโจ.. มาดึงผมทำไมอ่ะ ตกใจหมดเลย" โยธินรีบผละออกและสะบัดแขนจากการเกาะกุม

"ไอ้หนุ่มที่มาส่งเป็นใคร" ภากรเอ่ยถามเสียงเรียบหากแต่สายตาจ้องมองอีกฝ่ายอย่างจับผิด

"เพื่อน" คำตอบสั้นๆ เพราะรู้สึกไม่พอใจสายตาที่จ้องมองมา

"นอนด้วยกันมารึเปล่า"

โยธินสะดุ้งเฮือก ใบหน้าเนียนแดงจัด รู้สึกโกรธมากกว่าอายที่อีกฝ่ายมาถามเรื่องส่วนตัวของเขาอย่างถือสิทธิ์

"เกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ ผมจะนอนกับใครต้องขออนุญาตคุณก่อนเหรอ ทีคุณล่ะนอนกับผู้หญิงที่ไหนผมยังไม่เคยไปก้าวก่าย"

ภากรแค่นยิ้ม… โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแบบนี้ แปลว่านอนกับไอ้หมอนั่นมาแน่นอน

"ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันหรอก ฉันไม่สนอยู่แล้วว่านายจะไปนอนกับใคร เพียงแต่…"

"แต่อะไร…"

"หลังนอนกับใครมา ห้ามมาอุ้มหรือแตะต้องตัวลูก"

โยธินอ้าปากหวอกับกฎเกณฑ์ที่ภากรบัญญัติขึ้นใหม่

"อะ…อะไรนะ ล้อเล่นน่ะ"

"ไม่ได้ล้อเล่น พูดจริง"

"เราตกลงเรื่องนี้กันตั้งแต่เมื่อไร ทีคุณล่ะ ทำไมยังกลับมาอุ้มลูกได้เลย"

"ฉันไม่ได้นอนกับใครมา"

"แต่เมื่อวันเสาร์ที่แล้วคุณนอนกับผู้หญิงมา กลับมาถึงก็มาอุ้มลูกเลย ผมจำได้"

ภากรลอบยิ้มในใจ นึกขำที่โยธินจำวันที่เขาไปนอนกับผู้หญิงได้ เพราะตัวเขาเองไม่เคยจำเรื่องไร้สาระแบบนั้น

"นั่นมันเมื่ออาทิตย์ก่อน กฎนี้เพิ่งเริ่มใช้วันนี้ และตอนนี้"

"อะ.. ไอ้.." เสียงใสขาดหายไปเพราะเห็นสีหน้า ถมึ_งทึงของอีกฝ่าย "คุณมันขี้โกง คุณแกล้งผม ก็ด้ายยย… ในเมื่อไม่ให้ผมแตะต้องลูก คืนนี้เชิญคุณดูลูกเองล่ะกัน ผมจะกลับบ้าน"

กล่าวจบก็หมุนตัวจะเดินกลับ แต่ถูกมือใหญ่ฉุดให้หันกลับไปอีก

"กลับไม่ได้"

"เอ๊ะ ! ก็ผมจะกลับบ้านอ่ะ"

"ฉันจะรู้ได้ไงว่านายกลับบ้าน นายอาจจะไปนอนกับไอ้หนุ่มนั่นอีกก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้น ไม่ใช่แค่คืนนี้ที่นายจะไม่ได้กอดลูก แต่รวมถึงพรุ่งนี้ทั้งวันด้วย”

"อะไรนะ!! นี่มันจงใจแกล้งกันชัดๆ กฎเกณฑ์บ้าบออะไรของคุณผมไม่สนหรอก ผมจะกอด เจนนี่ คุณไม่มีสิทธิมาห้าม"

"เจนนี่เป็นลูกฉันเหมือนกัน ฉันมีสิทธิจะห้าม ถ้าไม่เชื่อล่ะก็..อย่าหาว่าฉันร้ายนะ"

ร่างสูงใหญ่หักนิ้วตัวเองดังกร๊อบ!! เล่นเอาอีกฝ่ายหน้าจ๋อย เห็นแล้วนึกสงสารแต่ยังอยากกระเซ้าต่อ

"ฉันแค่ไม่ให้นายกอดลูก แต่อนุญาตให้ไปยืนดูได้ แต่ถ้าอยากกอดมากจนทนไม่ไหวล่ะก็ ไปอาบน้ำซะก่อน"

"แต่ผมอาบมาแล้วนี่" เสียงใสอ่อนลง เพราะอีกฝ่ายยอมพูดดีด้วย

"ไม่ กลิ่นตัวนายไม่ใช่กลิ่นนี้ ไปอาบใหม่ซะ ฉันไม่อยากให้กลิ่นตัวคนอื่นไปติดตัวลูก"

โยธินอ้าปากจะเถียง เห็นสายตาที่จ้องมองมาแล้วเปลี่ยนใจไม่อยากต่อปากต่อคำด้วย

"ก็ได้.." โยธินกระแทกเสียงใส่ ใบหน้าหวานงอเง้า

"ทีใครทีมัน คุณอย่านอนกับผู้หญิงมาบ้างก็แล้วกัน ฮึ! "

…คนบ้า!!! ทำเป็นจมูกดี รู้ได้ไงว่ากลิ่นตัวเราไม่ใช่กลิ่นนี้  o12  เชอะ ! สงสัยจะเป็นโรคจิต ชอบแอบดมกลิ่นตัวชาวบ้าน…

โยธินหน้าร้อนวูบกับความคิดของตัวเอง หันหลังกระแทกส้นเท้าเดินกลับห้องอย่างไม่สบอารมณ์ แทนที่จะได้กอดและหอมลูกให้ชื่นใจ กลับมีมารมาผจญซะได้…

ภากรอมยิ้ม สนุกที่ได้กระเซ้าอีกฝ่าย ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าออกกฎบ้าๆ นั่นออกมาได้ยังไง รู้แต่ว่าหมั่นไส้ภาพที่เห็นหน้าประตูรั้วเมื่อสักครู่ จนทำให้นึกอยากจะแกล้งคนขึ้นมา ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้นจริงๆ สาบานได้

.…คิดจะย้อนกฎนั้นกลับมาใช้กับฉันหรือ โยธิน.. ฮึ! ที่นี่บ้านใครไอ้หนู… เจ้าของบ้านมีสิทธิออกคำสั่งและเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว นายเป็นลูกบ้าน อย่าฝืนคำสั่งเข้าใจมั้ย…      o18



 o15



วันนี้เป็นเวรของโยธินอยู่ดูแลลูกๆ ภากรออกไปดูงานที่ร้านตั้งแต่บ่ายสอง เวลาตอนนี้เกือบ 5 โมงเย็นแล้ว เด็กๆ ยังนอนกลางวันไม่ตื่น หลับยาวแบบนี้มีหวังคืนนี้ไม่ยอมนอนแน่ ช่างปะไรคืนนี้เป็นเวรของหมอนั่นพาลูกเข้านอน ฮึ! ชอบคุยโอ่นักว่าเลี้ยงลูกเก่งกว่าเรา หมั่นไส้!!!!

RRRR~~~~

โยธินสะดุ้งจากภวังค์ รีบลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์

“สวัสดีครับ บ้านธีรวัฒน์ครับ” เสียงใสทักปลายสายอย่างอ่อนหวาน

“พ่อบ้านใช่มั้ย ขอสายคุณโจหน่อย”

คำพูดที่โต้ตอบกลับมาทำให้น้ำเสียงที่ตอบกลับไปแข็งและห้วนขึ้น

“คุณโจไม่อยู่”

“ไปที่ร้านรึเปล่า”

“ไม่ทราบครับ ไม่ได้สั่งไว้”

“เป็นพ่อบ้านประสาอะไรเจ้านายไปไหนไม่รู้ ฝากบอกคุณโจด้วยว่า ลัดดาจะเข้าไปหาที่ร้านตอน 1 ทุ่ม”

โยธินสะดุ้งเมื่อปลายสายกระแทกหูโทรศัพท์ดัง โครม !!!

“ยัยบ้า!! ไม่มีสมบัติผู้ดีเลย ผู้หญิงอะไรวะ... ฝากบอกคุณโจด้วยยย... ว่าลัดดาจะเข้าไปหาาาา... ได้เลยครับคุณผู้หญิง เดี๋ยวผมจะไปเรียนให้เจ้านายทราบถึงที่เลยคร้าบบบ..” ใบหน้าหวานผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้น เมื่อนึกแผนอะไรบางอย่างได้

“ปะป๊า... ”

โยธินหันขวับไปด้านหลัง น้ำเสียงเรียกยังงัวเงียอยู่เลย ร่างเล็กๆ ของลูกชายตัวน้อยยืนหน้ายุ่งผมหยิกกระเซิงอยู่ที่ประตู

“โอ๊ว!! ตื่นแล้วเหรอค้าบ~~~”

ร่างเพรียวปราดเข้าไปทรุดตัวลงสวมกอดหนูน้อยไว้ด้วยความรัก จูบที่แก้มหนึ่งทีก่อนใช้สองมือเสยผมยุ่งเหยิงให้เรียบร้อย

“พี่เจนนี่ตื่นรึยังครับ”

หนูน้อยไม่ตอบแต่ส่ายหน้าให้ความหมายว่ายังไม่ตื่น ก่อนจะซบลงกับไหล่พ่อทำท่าจะหลับต่อ

“เฮ้!! ไม่หลับแล้วนะครับ ไปอาบน้ำดีกว่า เดี๋ยปะป๊าพาไปทานมื้อเย็นที่สวนอาหารของคุณพ่อดีมั้ย สนรึเปล่า..หือ..”

หนูน้อยตาสว่างขึ้นทันที

“สนคับ เจมส์อยากไปหาคุณพ่อ”

“โอเค... เจมส์อยากทานอะไรคิดไว้เลยลูก มื้อนี้ปะป๊าเลี้ยงเองครับ”

“ปะป๊าไม่ต้องเลี้ยง คุณพ่อเป็นเจ้าของร้านไม่ต้องจ่ายตังค์หรอก”

“จริงด้วย ถ้างั้นให้คุณพ่อเลี้ยงล่ะกันเนอะ” โยธินหัวเราะกับความฉลาดของลูกชายตัวน้อย “ไปปลุกพี่เจนนี่กันดีกว่า ไป..”

มือเล็กป้อมคว้ามือปะป๊ากุลีกุจอพาไปปลุกพี่สาว เพราะอยากไปหาคุณพ่อที่ร้านเร็วๆ



 o15


 
มื้อเย็นวันนี้สองแฝดน้อยก็ได้มาทานอาหารอร่อยที่ร้านคุณพ่อตามแผนที่ปะป๊าโยธินวางไว้ โยธินได้พบหญิงสาวที่เขาคุยสายด้วย เธอสวยมากจนใครๆ พากันเหลียวหลังมอง แต่เขากลับมองด้วยความรู้สึกสมเพช สวยแต่รูป เชอะ !!!

งานนี้โยธินไม่ได้ทำอะไรเลยแค่นั่งเฉยๆ ลูกแฝดสองคนจัดการเองหมด สองหนูน้อยป่วนจนหญิงสาวออกอาการหงุดหงิด และชวนภากรออกไปต่อข้างนอก แต่เขากลับบอกว่าต้องกลับบ้านพร้อมลูก เธอโกรธและต่อว่าภากรอย่างไม่ไว้หน้าต่อหน้าโยธินที่นั่งอยู่ด้วย

“อุตส่าห์โทรไปบอกก่อนแล้วนะคะว่าจะมาหา ยังจะพาลูกมาอีก ถ้าไม่อยากคบด้วยบอกกันตรงๆก็ได้ ดาเองก็ไม่อยากเสียเวลากับพ่อม่ายเรือพ่วงอย่างคุณหรอก”

หญิงสาวกระเง้ากระงอดกลับไป ภากรหันมามองโยธินก็เห็นสายตาของชายหนุ่มจับจ้องเธอที่กำลังเดินลับหลังไปด้วยสีหน้าอมยิ้ม ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบ

“นายรับโทรศัพท์เธอเหรอ”

โยธินสะดุ้ง กำลังนั่งสะใจอยู่จึงตั้งตัวไม่ทันกับคำถาม

“เอ่อ.. คือ..”

“ใช่หรือเปล่า”   เสียงดังขึ้นและสายตาที่จ้องเขม็งมาทำให้โยธินต้องยอมสารภาพ

“ชะ.. ใช่..” เสียงตอบแผ่วเบาและไม่กล้าสบตาด้วย       “คือ.. ผมกะว่าจะมาบอกที่นี่ คุยไปคุยมาจนลืม..”

ภากรส่ายหน้า รู้ทันทีว่าโยธินจงใจแกล้งพาลูกมาป่วน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดเขานึกขอบใจชายหนุ่มอยู่ในใจ เพราะเขาเองพยายามหาทางบอกเลิกกับเธอหลายครั้งแล้ว แต่เธอก็ยังเซ้าซี้ นึกไม่ถึงเลยว่าความวุ่นวายของเด็กๆ จะทำให้เธอยอมตัดสัมพันธ์ด้วยง่ายๆ รู้งี้ชวนไปที่บ้านนานแล้ว

โยธินใจหายเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งเงียบไป จะโกรธรึเปล่านะ เขาไม่น่าเล่นอะไรแบบนี้เลย กำลังจะเอ่ยขอโทษก็ต้องผวาเฮือกเมื่อร่างสูงใหญ่ขยับเข้ามายืนท้าวสองแขนกับพนักเก้าอี้ของเขา และก้มลงกระซิบ 2 ประโยค

“อิ่มแล้วก็ลุกซะที จะนั่งอ่อยเหยื่อรึไง”   กล่าวจบก็ผละไปหาลูกๆ ที่ยืนส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอยู่หน้าตูปลาขนาดใหญ่

โยธินถอนใจโล่งอกเพราะนึกว่าจะได้ยินคำพูด   ...“ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับถึงบ้านเจอดีแน่”....

ใบหน้าสวยยิ้มระรื่นดีใจที่แผนการณ์ร้ายคืนนี้จบลงด้วยดี แต่แล้วรอยยิ้มก็ค่อยๆจางลง หน้างอทันทีเมื่อนึกทวนคำพูดประโยคสุดท้ายเมื่อครู่

...จะนั่งอ่อยเหยื่อรึไง...

o12  ....ถูกกัดอีกจนได้ ผู้ชายอะไรวะ!!   ปากจัดชะมัด...  




 o15


หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: bass ที่ 06-06-2007 17:24:50
 :give2: :give2: :give2: :give2: :give2: :give2: :give2:

เราจะรู้ว่าผู้ชายปากจัดก็ต่อเมื่อ


มานเมา



 :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3:

จัดกว่าผมอีกอ่า

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-06-2007 17:43:09
ขอบคุณเจ้หมวยที่มาต่อ นะครับ

เรื่องยังน่ารักเสมอ

เจ้าตัวเล็กทั้งสองก็โตวัยจริงๆ ด้วย

ร้ากหนูเจมส์........................

 :interest:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 06-06-2007 19:18:42
เริ่มหึงหวงกันแล้วค๊าบบบบบบบบบบพี่น้องค๊าบบบบบบบบบบบบบ :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: jeje ที่ 07-06-2007 00:21:15
 :like6:..............เรื่องนี้น่ารักมากๆเลย............... :impress:..........คนเขียนเขียนได้ดีมาก........ :like6:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: NonG_MaN ที่ 07-06-2007 02:18:07
 :teach: เริ่มสนุกขึ้นมาแล้วสิ รอดูต่อไปว่าจะเกิดอารายขึ้น

ฮิๆๆๆๆๆๆ  :haun5: รีบๆๆ มาต่อนะคร๊าบบบ เป็นกำลังใจให้คับ  o14 o15
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 07-06-2007 12:56:10
 o14   ชอบจริงเลยยย   หุหุ เริ่มมีอาการหวงโดยไม่รู้ตัวให้เห้นกันแล้ว 55+  o3


ขนาดจำกลิ่นตัวได้นี่ก็ไม่ใช่เล่นๆแล้วนะค้าบบคุณภากร  :o9:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 09-06-2007 21:41:43
My baby

Daddy inlove part 1
 


****************


..เคย ได้ยินคำพูดที่ว่า "เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น" บ้างมั้ย..
สำหรับภากรเขาไม่เคยเชื่อคำพูดไร้สาระนั่นมาก่อนเลย...


--------------------- 




"ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝากข้อความหรือฝากหมายเลขโทรกลับ…"

ภากรตัดสายโทรศัพท์ด้วยอารมณ์หงุดหงิด เขาพยายามติดต่อโยธินหลายวันแล้วแต่ติดต่อไม่ได้ โยธินหายเงียบไป 1 สัปดาห์เต็ม ติดต่อไปที่บ้านก็ได้คำตอบว่าออกจากบ้านไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยไม่บอกว่าไปไหน คนที่บ้านเข้าใจว่าไปทัวร์เหมือนทุกครั้ง แต่เมื่อสอบถามไปที่บริษัททัวร์กลับได้รับคำตอบว่าไม่ได้เข้าบริษัทมา 10 กว่าวันแล้ว

ภากรรู้สึกหงุดหงิดที่โยธินหายหัวไปไม่บอกกล่าวสักคำว่าจะไปไหน อุตส่าห์ยอมรับว่าเป็นพ่อที่ดีได้แล้วเชียว จู่ๆ ก็ทิ้งลูกไปไม่โทรกลับมาถามทุกข์สุขสักคำ ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะรู้ว่าลูกสาวตัวน้อยอยู่กับเขาได้อย่างมีความสุขก็ตาม แต่การหายหัวไปโดยไม่บอกกล่าวแบบนี้มันเป็นเรื่องที่เขารับไม่ได้

หากแต่เมื่ออารมณ์หงุดหงิดคลายลง ภากรก็เริ่มรู้สึกผิดปกติ จะว่าไปก็ผิดวิสัยของโยธินที่จะหายไปโดยไม่บอกกล่าวแบบนี้ ที่ผ่านมาหมอนั่นจะคอยโทรรายงานเขาตลอดว่าวันนี้จะเข้ามาหาลูกหรือเปล่า หรือต้องไปทำธุระที่ไหนไม่มีเวลาเข้ามาหา ฝากจูบลูกด้วย...ฝากกอดลูกที... ฝากฝังจนน่ารำคาญถูกเขาเอ็ดกลับไปบ่อยๆ

…หายหัวไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้ เหมือนถูกอุ้มไปตามข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์เลย…

ภากรใจหายกับความคิดของตัวเอง อารมณ์หงุดหงิดเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความห่วงใย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงดีใจ หายไปได้ก็ดี... ลูกสาวตัวน้อยจะได้เป็นของเขาคนเดียว แต่ความรู้สึกในวันนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น.... เกือบ 2 ปีที่ผ่านมาโยธินเข้าออกบ้าน “ธีรวัฒน์” ในฐานะ “ปะป๊า” ของแฝดน้อยทั้งสองจนกลายเป็นคนในครอบครัวไปโดยปริยายแล้ว


หากมีเหตุการณ์ร้ายแรงที่ทำให้หมอนั่นต้องพรากจากลูกๆ ไป... อย่างที่เคยสูญเสียเธอ... เขาจะทำใจยังไง...

ภากรฟุ้งซ่านกับความคิดของตัวเองจนนั่งไม่ติด


RRRR…..


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นไล่ความคิดฟุ้งซ่านของชายหนุ่ม เขารีบคว้าขึ้นรับเมื่อคิดว่าอาจเป็นหมอนั่นโทรมา ถอนใจเฮือกเมื่อพบว่าไม่ใช่ แต่ก็ยังรู้สึกยินดีเมื่อเป็นน้ำเสียงที่คุ้นเคยนี้ เพราะเป็นคนที่เขานึกถึงและคิดจะติดต่อไปหาอยู่พอดี

"สวัสดีครับคุณภากร คุณโยธินกำลังเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือจากคุณโดยด่วนครับ"

ภากรนั่งกุมขมับหลังวางสายทนายพิทักษ์ รู้สึกโล่งอกที่โยธินไม่ได้ประสบเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุร้ายแรงถึงแก่ชีวิต หากแต่เรื่องเดือนร้อนที่ว่ากลับสร้างความอิหลักอิเหลื่อในใจเขาอย่างมาก …เขาควรจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ.. หรือปล่อยให้หมอนั่นตกอยู่ในชะตากรรมที่ตัวเองเป็นคนก่อต่อไปดี....


 :give2:


 "…คุณโยธินถูกนายปีเตอร์ เจ้าของค่ายมวยที่เคยคบหากันเมื่อหลายปีก่อนหลอกนัดไปคุยเรื่องงานแล้วกักตัวไว้ หมอนั่นขอกลับมาคบหาเป็นคู่ขาด้วยเหมือนเดิม แต่คุณโยปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่ามีภาระหน้าที่ต้องดูแลลูกสาว นายปีเตอร์ไม่ยอมรับเหตุผลนี้บอกว่าลูกก็อยู่ส่วนลูก คุณโยธินจำเป็นต้องหาข้ออ้างอื่น....เลยบอกไปว่ามีคนรักอยู่แล้ว หมอนั่นไม่เชื่อที่คุณโยพูดแต่ก็ยังเป็นลูกผู้ชายพอ บอกให้เรียกคนรักใหม่มาแสดงตัวเขาถึงจะยอมปล่อยแต่โดยดี..."

ภากรปวดหัวตึบกับเรื่องราวที่ได้ยิน นึกว่าถูกอุ้มไปหมกป่าอยู่ที่ไหน ที่แท้ก็ถูกคู่ขาเก่าอุ้มไปกกอยู่ที่ค่ายมวย..

"แล้วไง.. คุณก็ไปบอกคนรักของนายโยซี.. :o ให้หมอนั่นตามไปช่วย"

ภากรรู้สึกฉุนโดยไม่มีสาเหตุเมื่อรู้ว่าโยธินมีคนรัก ทั้งๆ ที่บอกเขาว่าจะขออยู่เป็นโสดไม่คบหาใครจนกว่าลูกจะโตกว่านี้แท้ๆ ชะ !..

"เอ่อ..ครับ ผมก็กำลังบอกอยู่นี่ อยากขอร้องให้คุณตามไปช่วยหน่อยครับ คุณโยธินถูกหมอนั่นใช้กำลังขืนใจนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ถ้าช้ากว่านี้อีกวันหรือสองวัน คุณโยของผมคงไม่เหลือแรงแม้แต่จะออกเสียงแล้วครับ"

ภากรอ้าปากหวอ.. ไม่ทันได้ย้อนถามกลับไปอีกฝ่ายก็ขยายความต่อทันที




ภากรถอนใจเฮือก แม้จะบอกปฏิเสธไปแล้วแต่ในใจก็ยังวุ่นวายและคิดวนไปมาอยู่หลายตลบว่า ควรจะช่วยดีหรือปล่อยไปตามเรื่องตามราวของหมอนั่น

นึกถึงใบหน้าขาวใสและดูหวานซึ้งอย่างผู้หญิงในบางอารมณ์ โดยเฉพาะในเวลาที่ยิ้มแย้มและหัวเราะกับลูกแล้วก็อดถอนใจเฮือกอีกครั้งไม่ได้

"…นายปีเตอร์ไม่เชื่อว่าคุณเป็นคนรักของคุณโยธินจริง เพราะรู้ว่าคุณไม่มีรสนิยมแบบนั้น แต่เห็นคุณโยเข้าออกในบ้านคุณเกือบทุกวันก็ชักไม่แน่ใจ หมอนั่นเลยให้สัญญาว่าจะปล่อยคุณโยกลับทันที ถ้าคุณไปยืนยันและแสดงตัวว่าเป็นคนรักของคุณโยจริงๆ ครับ…

…คุณโยธินไม่อยากให้เรื่องถึงตำรวจ อาจจะกระเทือนถึงชื่อเสียงของคุณด้วย ฝากบอกว่าถ้าคุณลำบากใจ ไม่อยากข้องแวะกับเรื่องแบบนี้ก็ไม่เป็นไร เขาจะพยายามหาทางหนีออกมา ถ้าโชคดีอาจหนีรอด..แต่ถ้าไม่.. คุณโยฝากน้องเจนนี่ให้คุณช่วยดูแลแทนด้วย…”

"บ้าชิบ.. ให้ช่วยสมยอมว่าเป็นคู่ขาของนายงั้นเหรอ.. ถ้ามันไม่ยอมปล่อยแต่โดยดีล่ะ ฉันต้องใช้กำลังแสดงบทบู๊กับ เจ้าของค่ายมวย เพื่อแย่งตัวนายกลับคืนมาเนี่ยนะ ไอ้บ้าโยธินเอ๊ย.. แกนะแก.. "  o12


 :give2:


ภากรสะท้อนใจเมื่อเหลือบมองชายหนุ่มที่นอนพับไม่ได้สติในสภาพที่โทรมสุดๆอยู่ข้างๆ ใบหน้าขาวเนียนใสทุกครั้งที่พบเห็น วันนี้มีร่องรอยบวมช้ำเพราะถูกทำร้าย ไม่เฉพาะแค่ใบหน้าเท่านั้น ทั้งแขนขา และข้อมือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำ นี่ถ้าเขาไม่ตัดสินใจเข้าไปช่วย หมอนี่คงไม่มีโอกาสได้รอดออกมาในสภาพที่ครบ 32 แน่…

นึกแล้วรู้สึกโกรธทนายพิทักษ์ที่พยายามบอกเล่าทุกเรื่องที่จะทำให้เขาใจอ่อนยอมช่วยเหลือโยธิน แต่ไม่ยักบอกว่าไอ้เบื๊อกปีเตอร์ ชอบเล่นเซ็กซ์แบบรุนแรงด้วย

โยธินจับไข้และมีอาการผวาอยู่ 2 วัน ก่อนจะรู้สึกดีขึ้นในวันถัดมา เขาทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ทันทีที่เห็นหน้าภากร เล่นเอาอีกฝ่ายซึ่งเตรียมจะโวยและเสียงแข็งใส่กับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น ต้องเปลี่ยนเรื่องพูดคุยด้วยสีหน้าและน้ำเสียงอ่อนลงทันที

"หายเร็วๆ ซะที อย่าเอาเปรียบกันนัก ปล่อยให้ฉันดูลูกอยู่คนเดียวเป็นอาทิตย์ งานการไม่ได้ไปทำ ฉันไม่ใช่ลูกเจ้าสัวอย่างนายนะ.."

"ขอบคุณนะ โจ.. ขอบคุณที่ยอมช่วยผม"

โยธินกล่าวด้วยความรู้สึกขอบคุณจากใจจริง สายตาที่จ้องมองภากรมีความรู้สึกบางอย่างแอบแฝงอยู่ในส่วนลึก หากแต่อีกฝ่ายคงไม่มีทางสังเกตเห็น

"ฉันช่วยเจนนี่ต่างหาก ไม่อยากให้ลูกกำพร้าพ่อ.. เอ่อ.. ถึงยังไงนายก็เป็น พ่อในไส้ ของยัยหนู.."

โยธินขมวดคิ้วกับคำว่า "พ่อในไส้" ศัพท์ที่ภากรบัญญัติขึ้นใหม่


 :give2:

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 09-06-2007 21:56:34
"แค่นี้ก่อนนะ วิช.. แล้วเจอกันคืนนี้"

ภากรรีบตัดบทสนทนาและวางสายลงเมื่อได้ยินเสียงร้องของลูกดังประสานกันอยู่นอกบ้าน รีบเดินออกไปดูด้วยความร้อนใจ เพราะไม่ใช่เสียงหัวเราะเอิ้กอ้าก อย่างสนุกสนาน แต่เป็นเสียงร้องไห้เหมือนกำลังเจ็บ

…คงจะหกล้มหรือตกจากชิงช้าอีกกระมัง หมอนั่นอยู่กับลูกที่สนามนี่นา ดูลูกประสาอะไร ทำไมถึงปล่อยให้ตกได้…

ภากรเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าขณะเดินดุ่มมาที่สนาม ภาพที่เห็นทำให้เขาต้องเร่งฝีเท้าจากเดินจนเกือบจะเป็นวิ่ง

T__T  T__T

สองหนูน้อยแข่งกันส่งเสียงร้องอยู่ข้างกายโยธินที่นอนคว่ำหน้าไม่ได้สติอยู่ที่พื้นสนาม    :sad2:  ภากรปราดเข้าไปหาพร้อมๆ กับสองสาวใช้ที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามาเพราะตกใจเสียงร้องของคุณหนูๆ เช่นกัน

"เฮ้!.. เป็นอะไรลูก.. เจนนี่.. เจมส์.."

ภากรปลอบถามลูกแต่สายตาจับจ้องร่างที่นอนคว่ำหน้าอยู่ เขาทรุดตัวลงสองหนูน้อยก็ลุกขึ้นโผเข้ามาสวมกอดและฟ้องด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น

"คุณพ่อขา.. ปะป๊าทำหนูเจ็บ"

"ปะป๊าทับขาเจมส์ด้วย.."

"ปะป๊าเป็นอะไรลูก.."

ภากรรู้สึกเป็นห่วงชายหนุ่มมากกว่าลูกๆ เพราะดูแล้วหนูน้อยทั้งสองแค่ตกใจเท่านั้น ไม่มีอาการบาดเจ็บเท่าไร

"สงสัยคุณโยธินจะเป็นลมค่ะ หนูกำลังเอาของว่างมาเสิร์ฟเห็นเธออุ้มคุณหนูสองคนอยู่ดีๆ ก็ล้มลง"

ภากรสั่งให้สาวใช้พาหนูน้อยทั้งสองเข้าบ้าน ก่อนจะขยับร่างโปร่งบางให้นอนหงายในอ้อมแขนอย่างเบามือที่สุด เพราะไม่แน่ใจว่าได้รับบาดเจ็บบริเวณใดบ้าง ใจหายวาบเมื่อเห็นใบหน้าเนียนใสขาวซีด เหงื่อซึมที่หน้าผากมนและไรผม

"โยธิน!!.. โย.."

ภากรตบแก้มชายหนุ่มเบาๆและเรียกให้รู้สึกตัว ชะงักเล็กน้อยเมื่อปลายนิ้วสัมผัสความเนียนนุ่ม เขาเผลอเพ่งพิศใบหน้าในวงแขนพร้อมๆ กับไล้นิ้วมือแผ่วเบาที่แก้มนุ่มเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว

…อืมม์…เพิ่งได้สัมผัสและเห็นเต็มตาวันนี้เองว่า… หมอนี่เป็นผู้ชายที่มีผิวพรรณดี ใบหน้าหวาน.. สวย.. ดูดีกว่าผู้หญิงหลายคนเสียอีก โดยเฉพาะเวลาที่ยิ้มและหัวเราะ เสน่ห์คงแพรวพราวน่าดู.... อ๊ะ !!! แต่ว่า......

ภากรใจเต้นโดยไม่รู้ตัวเมื่อนึกขึ้นได้ว่าชายหนุ่มที่นอนหลับตาพริ้มในอ้อมแขนเขาเป็นเกย์ และตอนนี้เขาเองก็อยู่ในฐานะคู่ขาจำเป็นของหมอนี่....

"เจนนี่.. เจมส์.."

คิ้วเรียวขมวดมุ่นพร้อมเสียงเรียกหาลูกดังแผ่วออกจากริมฝีปากบางสวย ทำให้ภากรรู้สึกตัวรีบชักมือออกจากแก้มนุ่มเปลี่ยนมาตบไหล่เบาๆ

"โย.. นายเป็นอะไรหรือเปล่า"

โยธินลืมตาขึ้นดวงตากลมโตคู่สวยส่อแววฉงน ร่างโปร่งบางนอนนิ่งอยู่ชั่วครู่ก็ลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนตกใจ หากแต่ต้องหงายหลังลงในอ้อมแขนใหญ่เกือบจะในทันทีเช่นกัน

"เฮ้!.. ค่อยๆ ลุกซี นายเป็นลมอยู่นะ"

ภากรกล่าวน้ำเสียงอ่อนโยน ถ้าเป็นปกติเขาคงเอ็ดและโวยให้แล้ว แต่ใบหน้าหวานซีดเซียวตรงหน้าขณะนี้ทำให้เขาดุไม่ลง

"ลูกๆ ล่ะ.. ผมทำลูกเจ็บหรือเปล่า"

"ลูกไม่เจ็บเท่าไรหรอกแค่ตกใจเท่านั้น นายต่างหากที่เจ็บ ยังไม่หายดีมีแรงอุ้มลูกพร้อมกันสองคนได้ยังไง"

"ไม่.. ผมสบายดี ผมอุ้มไหว"

โยธินผละจากอ้อมแขนของอีกฝ่ายพยายามลุกขึ้นยืนด้วยอาการโผเผ ภากรส่ายหน้ากับความดื้อรั้น รีบลุกขึ้นประคองร่างบางกว่าไว้

"นี่เหรอสบายดี.. ยืนยังไม่ตรงเลย ลูกสองคนน้ำหนักรวมกันไม่น้อยแล้วนะ สภาพแบบนี้จะอุ้มไหวได้ยังไง"

"ผมอุ้มไหว ผมอุ้มของผมทุกวัน เมื่อกี้ผมแค่เวียนหัวหน่อยเดียว ไม่คิดว่าจะเป็นลม… ผม.. ผมทับลูกหรือเปล่า.."    โยธินแหวใส่ด้วยอาการฉุนเมื่อถูกพูดเยาะ หากแต่ประโยคสุดท้ายน้ำเสียงสั่นเครือลง

"ทับ!!.."

ภากรซ่อนยิ้มในหน้า น้ำเสียงไม่พอใจของเขาทำให้ใบหน้าซีดขาวตรงหน้า ซีดหนักลงไปอีก

"นายทับขาเจ้าหนู.."

"ผม.. ผมขอโทษ ลูกเจ็บมากหรือเปล่าอ่ะ.."

"เจ็บซี!!.."

"ผมเสียใจ~~ "

โยธินน้ำตาแทบร่วงรู้สึกผิดจนไม่กล้าสบตาร่างสูงใหญ่ตรงหน้า พยายามจะผละออกจากอ้อมแขนแกร่งแต่ถูกรั้งไว้

"จะไปไหน"

"ผมจะเข้าไปดูลูก.. ผมอยากขอโทษลูก~~.."   น้ำใสคลอดวงตาคู่สวย

ภากรเลิกล้อเล่นกล่าวปลอบเสียงอ่อนโยน และประคองอีกฝ่ายเดินเข้าบ้าน

"ลูกไม่เป็นไรมากหรอก.. ตกใจที่นายล้มลงมากกว่า ป่านนี้คงวิ่งเล่นได้แล้ว กลับเข้าบ้านแล้วนอนพักผ่อนซะ ยังไม่แข็งแรงดีอย่าออกมาตากแดดตากลม"

"ผมไม่ได้.."

"หยุดนะ!!..  อย่าอวดเก่งได้มั้ย.. ไม่มีคนสบายดีที่ไหน จู่ๆ ก็หมดสติล้มลงจนเกือบจะทับลูกตัวเองหรอก นี่ดีนะว่าล้มลงที่สนามหญ้าและลูกไม่เป็นอะไร.."

"………."  :impress:

โยธินก้มหน้างุดไม่พูดจาโต้ตอบอะไร หากแต่อาการสะท้านของร่างในอ้อมแขนทำให้ภากรรู้สึกตัวในทันทีว่าพูดจาต่อว่าอีกฝ่ายแรงไป

"ฉันไม่ได้ว่านะ แค่อยากให้นายใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองด้วย อย่ามัวห่วงและดูแลแต่ลูกจนลืมตัวเอง.."

น้ำเสียงอ่อนโยนส่อแววห่วงใยของภากร ทำเอาโยธินใจเต้นตึกตักก้มหน้างุดไม่พูดไม่จา ไม่ยอมเงยขึ้นสบตาด้วย

กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างเพรียวที่เขาประคองอยู่ทำให้ภากรเผลอสูดความหอมที่โชยกรุ่นเข้าจมูกด้วยความลืมตัว

"หอมจัง… ใส่อะไรอ่ะ น้ำหอมหรือแป้ง หือ.."

"เอ่อ.. มะ.. ไม่.. ไม่ได้ใส่อะไร"  ใบหน้าหวานร้อนวูบเมื่อรับรู้ว่าถูกอีกฝ่ายสูดดมกลิ่นกายของตัวเอง

"ไม่ได้ใส่? แล้วกลิ่นหอมจากไหน" ว่าแล้วก็รั้งตัวอีกฝ่ายเบียดชิดร่างกำยำของตัวเองและพยายามจะสูดดมความหอมอีกครั้งเหมือนแกล้ง

โยธินใบหน้าร้อนผ่าวหนักขึ้น  :o8:  พยายามขืนตัวจะผละออกแต่สู้แรงไม่ได้

"ปะป๊าขา… ปะป๊าคับ.. ปะป๊าหายยังคะ คุณพ่อ.."

เสียงลูกๆทำให้อ้อมแขนแข็งแรงคลายออก โยธินถอนใจเฮือกรีบผละออกและทรุดตัวลงสวมกอดสองหนูน้อยไว้ในอ้อมแขน

"ปะป๊าขอโทษนะคร้าบ..  ปะป๊าทำหนูสองคนเจ็บหรือเปล่า"

"เจนนี่ไม่เจ็บค่ะ"

"เจมส์เจ็บขา.. แต่หายแล้วคับ.."

ภากรส่ายหัวกับความขี้อ้อนปนกะล่อนของเจ้าหนูเจมส์ เขารู้ว่าหนูน้อยไม่เจ็บเท่าไรหรอกแต่อยากเรียกร้องความสนใจจากปะป๊ามากกว่า โยธินสวมกอดลูกสองคนไว้ ผลัดกันจูบและหอมแก้มพร้อมกับพร่ำขอโทษไปมา เขายืนมองด้วยความสุขใจอยู่ชั่วครู่ ความรู้สึกก็เปลี่ยนเป็นอิจฉาสองหนูน้อยขึ้นมาตะหงิดๆ นึกอยากเป็นร่างเล็กตรงหน้า ขณะถูกกอดและหอมจากชายหนุ่มหน้าหวานตัวหอมกรุ่นคนนี้ความรู้สึกจะเป็นยังไงน้าาา….  :haun5:

ภากรรู้สึกตัว ใบหน้าร้อนผ่าวกับความคิดพิเรนๆ ของตัวเอง รีบเดินผละออกมาก่อนที่อีกฝ่ายจะเงยหน้าขึ้นมาเห็นความผิดปกติบนสีหน้าเขา


 o15



หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกลิงตัวอ้วน ที่ 09-06-2007 23:16:02
โอ้ เริ่มมีใจให้กันแร้ว
 :give2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-06-2007 09:28:13
เอาละวุ้ย เริ่มมีลุ้นแล้ว  :like6:  :like6:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 10-06-2007 09:45:45
น่าร๊ากกกกกกกกกก    ทั้งพ่อทั้งลูก    :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 10-06-2007 14:19:05
 :like6:  ว้าวววๆๆๆๆ   เริ่มมีใจให้กันแล้ววว    คุณพ่อชอบกลิ่นปะป๊าเหรออ  o17


จะน่ากแค่ไหนนะนี่ ถ้าสองคนรักกัน หุหุ  มีเด็กๆ ช่วยให้สองคนดีกานนน อบอุ่นๆๆ


ปล.เป็นโรคแพ้กลิ่นเหมือนคุณพ่อเลย  เหอๆๆ  :-[
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: jeje ที่ 10-06-2007 17:11:35
 :impress:...........เย้...........ภากรเริ่มสนใจโยธินแล้ว..................  :like6:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 10-06-2007 20:13:07
My baby

Daddy inlove part 2   


****************




โยธินสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงแตรรถ เหลือบดูเวลาตีหนึ่งกว่าแล้วหรือนี่... วันนี้ภากรมีงานเลี้ยงรุ่นที่ร้านอาหาร ฝากให้เขาดูแลและพาลูกเข้านอนให้เรียบร้อย และยังสั่งให้นอนที่นี่ไม่ต้องกลับบ้านแต่ให้เข้านอนเลยไม่ต้องคอย

....เชอะ! ใครจะคอย ผมไม่ใช่ภรรยาคุณนี่หว่า… จะได้มาถ่างตาคอยคุณกลับบ้าน บ้ารึเปล่า!!!…


*****************


"อือ~~ "     เสียงอ้อแอ้ในลำคอ  ร่างสูงสะบัดหน้าหนีไปมาอย่างรำคาญในขณะที่อีกฝ่ายพยายามจะเช็ดหน้าให้

"โจ.. ทำไมดื่มมากแบบนี้ล่ะ เช็ดหน้าหน่อยนะจะได้สร่างเมา.."

"อื้อ~~  ไปให้พ้น.." เสียงอ้อแอ้ไล่พร้อมกับปัดมือออก

โยธินถอนใจเฮือกก่อนจะผละขึ้นยืน ว่าจะไม่คอยก็อดไม่ได้ ประวิชพาภากรมาส่งในสภาพที่เมาไม่ได้สติ หลังจากช่วยแบกร่างสูงใหญ่มาส่งถึงห้องนอนแล้วก็ฝากให้เขาดูแลต่อ

...วันนี้หมอนี่เมามากจริงๆ คนเมานอกจากจะพูดไม่รู้เรื่องแล้วยังเรี่ยวแรงเยอะด้วย รอให้หลับสนิทก่อนดีกว่า..

โยธินทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเตียงจ้องมองร่างสูงที่นอนหงายเหยียดยาวอยู่ ยอมรับกับตัวเองว่าวันนี้เขามีความรู้สึกที่ดีมากๆ กับชายหนุ่มผู้นี้ จนกลัวว่ามันจะแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอื่น... เขาพยายามหักห้ามใจและเฝ้าเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า ถ้าไม่อยากถูกหมอนี่เกลียดอย่าบังอาจคิดอะไรเกินเลยความเป็นเพื่อนเด็ดขาด...

โยธินขยับเข้าไปใกล้อีกครั้งเมื่อเห็นว่าภากรหลับสนิทแล้ว เขาจัดการเปลี่ยน เสื้อผ้าให้ด้วยความทุลักทุเล รู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้าขณะถอดกางเกงให้ น้องชายของโจแข็งขันอยู่ใต้ชั้นในสีขาว เจ้าตัวหลับสนิทด้วยความเมาทำไมเจ้าหนูกลับตื่นตัวซู่ซ่าขึ้นมาแบบนี้ เขารีบคว้ากางเกงนอนสวมให้แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อท่อนขาแกร่งสะบัดเท้าเขี่ยกางเกงนอนออก

โยธินหันไปจะโวยใส่ก็ถูกกระชากแขนและคว้าคอเสื้อโน้มเข้าหา

"มองไอ้หนูของฉันด้วยสายตาแบบนั้น อยากจะหม่ำล่ะซี… หือ.."

โยธินหน้าแดงรีบผละออก

"เปล่านะ!!.. จะบ้าเหรอ.. คุณเมามากนะโจ.. นอนหลับซะ ผมจะกลับแล้ว"

โยธินพยายามแกะมือที่บีบแขนตัวเองออก แต่อีกฝ่ายไม่ยอมคลายกลับออก แรงกระชากร่างบางกว่าลงไปซบอกกว้างและสวมกอดไว้

"ปะ.. ปล่อยนะ โจ.."

ภากรหัวเราะในลำคอ รัดร่างในอ้อมกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าคมเข้มแดงกร่ำกลิ่นเหล้าโชยคละคลุ้ง

"นายนี่มันเป็นตัวแสบที่สุด~~ ในชีวิตของฉันเลยนะโยธิน... ทั้งๆที่ฉันเคยเกลียดชังนายมาก~~ที่บังอาจมาแย่งลูกแฝดของฉันไปหนึ่งคน แต่ฉันกลับต้องมารับหน้าที่เป็นคู่ขาจำเป็นของนาย~~ " น้ำเสียงอ้อแอ้แต่สามารถพูดจาได้เป็นเรื่องเป็นราวอย่างไม่น่าเชื่อ

"..รู้อะไรมั้ย~~  วันนี้ไอ้ปีเตอร์คู่ขาเก่าของนายแวะไปเยี่ยมฉันที่ร้าน~~~และโพธนาไปทั่วว่าฉันเป็นเสือไบที่น่ายกย่องที่สุด.... เมียตายก็คว้าผัวเก่าของเมียมาเป็นคู่นอนแก้เหงา.... หึ! หึ!.. ขอบใจนะโย.. เรื่องวุ่นวายของนาย~~  ทำให้ชีวิตของฉันมีสีสันขึ้นเยอะเลย..."

โยธินใจหายไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้ เจ้าปีเตอร์ยอมปล่อยเขาก็จริงแต่ไม่ยอมให้เขาอยู่อย่างเป็นสุข ยังโทรก่อกวนเขาอยู่ทุกวัน แต่ถึงขนาดไปก่อกวนภากรถึงที่แบบนี้มันเลวร้ายเกินไปแล้ว เขาเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เขาต้องรับผิดชอบแก้ปัญหาเรื่องวุ่นวายก่อนที่ภากรจะเสื่อมเสียชื่อเสียงไปมากกว่านี้

"ผมขอโทษนะโจ..   ผมจะไปเคลียร์กับเขาไม่ให้มาวุ่นวายกับคุณอีก"

"ไปเคลียร์? ยังไง?  จะถ่อไปให้มันขืนใจอีกหรือไง หา!!.. เกิดอะไรขึ้นอีกครั้งฉันไม่ตามไปลากนายกลับมาหรอกนะ!!!.. "

โยธินชักเดือดเมื่อถูกอีกฝ่ายพูดจาดูถูก คนเมาบ้าอะไรวะ พูดจากัดคนได้ขนาดนี้

"ปล่อยนะ!! .. คนบ้า.. ปากเสีย..เมาก็นอนซะ"

"ปากเสีย? ใครกันแน่ที่ปากเสีย อยู่ดีๆ ก็มาตู่ว่าฉันเป็นคนรักน่ะ หาาา.."

โยธินถูกกอดรัดแน่นขึ้นจนขยับไม่ได้ เขาสู้แรงคนเมาที่ตัวใหญ่กว่าไม่ได้แน่ๆ สงสัยต้องใช้วิธีนุ่มนวลแล้ว

"ผมขอโทษ โจ.. คืนนี้คุณเมามาก.. นอนหลับก่อนเถอะนะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่"

โยธินสะดุ้งใบหน้าร้อนวูบ เมื่อถูกจมูกโด่งของอีกฝ่ายสัมผัสที่แก้มเบาๆก่อนจะสูดดมความหอมหนึ่งฟอดใหญ่

"อา.. หอมจัง โยธิน.. ใช้แป้งอาไร หือ~~  "

"อื้อ~~ จะ.. โจ~~   ปล่อยผมนะ.."

โยธินเสียงสั่น ถูกหอมแก้มในสภาพที่แนบชิดแบบนี้ สถานการณ์ช่างล่อแหลมให้อารมณ์เริ่มหวั่นไหว ใจเต้นเป็นกลองรัว

"ไม่ปล่อย  ฉันเป็นคนรักของนายไม่ใช่เหรอ… คนรักกันก็ต้องกอดกันซี.."

ภากรหลับตาพริ้มเหมือนผ่อนคลายและทำท่าเหมือนจะเคลิ้มหลับ หากแต่ลำแขนยังรัดร่างในอ้อมกอดไว้แน่น

"มะ.. มันเป็นเรื่องสมมติ ไม่ใช่เรื่องจริงซะหน่อย.."

โยธินส่ายหน้าหนีจมูกของอีกฝ่ายที่พยายามจะซุกไซ้ใบหน้าและลำคอของเขาทั้งๆ ที่หลับตา

"ก็ทำให้มันเป็นเรื่องจริงซี.."

คำตอบที่งึมงำกลับมาทำให้โยธินสะดุ้ง แม้เขาจะมีความรู้สึกดีๆ กับภากรมากขึ้นทุกวัน แต่คำพูดที่ออกจากปากชายหนุ่มในเวลาเมาจนแทบไม่มีสติแบบนี้ทำให้เขารู้สึกตกใจมากกว่าดีใจ

"ไม่เอาน่ะ โจ.. คุณเมามากไม่รู้หรอกว่าพูดอะไรออกมา"

"รู้ซี~~ ฉันรู้~~ " เสียงอ้อแอ้ยานคางและเปลือกตาปรือขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหลับพริ้มลงไปอีก

"รู้ว่า~~ อยากกอด.. คิดถึงจังเลย ที่ร๊ากก~~  คิดถึงมากกก~~  อยากกอด…"

โยธินนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก ใจหายเมื่อรู้ว่าภากรเข้าใจว่าร่างในอ้อมกอดเป็นเธอ.. ตัดสินใจนอนนิ่งเพราะคิดว่าอีกไม่กี่อึดใจอีกฝ่ายก็คงจะเมาพับไป แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อร่างสูงใหญ่พลิกตัวขึ้นมาเป็นฝ่ายคร่อมทับเขา

โยธินร้องไม่ออกเพราะถูกทับลงมาเต็มๆ อย่างไม่ออมแรง ทำเหมือนเขาเป็นที่นอนอย่างนั้นแหล่ะ อึดใจต่อมาก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วร่างเมื่อถูกโจน้อยที่อยู่ใต้ชั้นในสีขาวซึ่งกำลังแข็งขืนเต็มที่สัมผัสไปมากับน้องชายตัวน้อยของเขาที่อยู่ในอาการซู่ซ่าไม่แพ้กัน (ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้)

โยธินสองจิตสองใจ เขาควรนอนนิ่งหรือผลักไสจนสุดกำลังดี ใจหนึ่งอยากนอนนิ่งเพื่อช่วยสนองความต้องการให้หนุ่มใหญ่ตรงหน้าและเพื่อสนองความต้องการในส่วนลึกของตัวเองด้วย แต่เมื่อนึกว่าอาจถูกโกรธและเกลียดชัง หากอีกฝ่ายตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและจำเรื่องราวต่างๆได้คงไม่ยกโทษให้เขาแน่

โยธินพยายามดันร่างที่ทาบทับเขาออก หากแต่อาการยุกยิกที่เบื้องล่างทำให้เขาสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง เพราะรู้สึกว่ากางเกงนอนของตัวเองกำลังถูกดึงออก

"อ๊ะ!! ..."

โยธินร้อนวูบไปทั่วร่างเมื่อถูกประกบจูบอย่างหนักหน่วง อารมณ์พิศวาสในขณะที่กำลังมึนเมาอย่างหนักทำให้ภากรขาดสติในการควบคุมตัวเอง

"โอ๊ะ!!..โอยยย~~~ " โยธินกัดฟันร้องครางด้วยความเจ็บปวด เมื่อถูกอีกฝ่ายแทรกเข้ามาในร่างกายอย่างเร่งร้อน เขาขยับถอยหนีแต่กลับถูกร่างสูงใหญ่กว่ายกสะโพกเขาขึ้นและสอดตัวเข้าไปจนสุดอีกครั้ง โยธินร้องครางด้วยความเจ็บปวด

"จะ.. เจ็บ.. โจ.. โอยยย~~~ ย.."

"อืมม์… ที่รัก.. ผมรักคุณ… คิดถึงเหลือเกิน…."

โยธินกัดริมฝีปากตัวเองจนห้อเลือด น้ำตาไหลพรากพยายามไม่ส่งเสียงอะไรออกไปอีก เพราะคนที่ภากรกำลังกอดอยู่ไม่ใช่เขาแต่เป็นเธอ... เขาไม่ควรทำลายความรู้สึกดีๆ ของชายหนุ่มที่กำลังปลดปล่อยอารมณ์ปรารถนากับหญิงสาวอันเป็นที่รัก

โยธินผวาเฮือกเมื่อร่างสูงใหญ่เร่งจังหวะเร็วและแรงขึ้นอย่างขาดสติ แต่ถึงจะเจ็บปวดแทบขาดใจกลับมีความสุขสมผสานอยู่ในส่วนลึก อารมณ์เขาถึงขีดสุดและปลดปล่อยออกพร้อมๆ กับร่างสูงใหญ่ ก่อนที่ร่างแข็งแกร่งของชายหนุ่มจะอ่อนแรงลงและนอนทาบทับไม่ได้สติอยู่บนร่างกายที่อ่อนล้าของเขา

โยธินรวบรวมกำลังพลิกร่างอีกฝ่ายลงบนที่นอน เขาถอนตัวออกช้าๆ รู้สึกเจ็บแปลบจนต้องร้องครางออกมา ใจหายเมื่อเห็นน้ำที่ไหลออกจากช่องทางของตัวเองเป็นสีแดงขุ่น เขารีบคว้ากระดาษทิชชูซับและเช็ดร่องรอยทั้งหมดไม่ให้หลงเหลือไว้เป็นหลักฐานในตอนเช้า

ถึงเขาจะผ่านการมีเซ็กซ์กับผู้ชายคนอื่นๆ มานับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็ตาม แต่ไม่เคยถูกใครสอดใส่อย่างรุนแรงโดยไม่เล้าโลมหรือเบิกช่องทางก่อน แม้แต่นายปีเตอร์คู่ขาเก่าของเขา ก่อนจะเลิกกันไปก็เคยมีลีลารักที่วาบหวิว พยายามหล่อลื่นช่องทางเข้าก่อนเพื่อไม่ให้เขาเจ็บและทำให้เกิดอารมณ์ร่วมก่อนทุกครั้ง แต่ตอนนี้หมอนี่กลายเป็นซาดิสต์ไปแล้วชอบเห็นคู่นอนเจ็บปวดก่อนร่วมเซ็กซ์ ไม่รู้ว่าไปติดใจรสชาดความรุนแรงมาจากไหน

แต่กับภากรที่อยู่ในสภาพมึนเมาไม่ได้สติแบบนี้ ถึงเขาจะรู้สึกยินดีอยู่ในส่วนลึกและเกิดอารมณ์ร่วมจากสัมผัสและรสจูบที่หนักหน่วงก็ตาม แต่ความไม่พร้อมของร่างกายเพราะสถานการณ์ที่กดดันความรู้สึก และการถูกสอดใส่อย่างกระทันหันด้วยอารมณ์ที่รุนแรงอย่างขาดสติทำให้ร่างกายถูกฉีกออก ความเจ็บปวดที่ได้รับจึงไม่ต่างจากการมีเซ็กซ์ครั้งแรก ๆ

... จะยังไงก็ช่างเถอะ!!..  เขาไม่มีสิทธิร้องโวย   เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้เขาต้องปิดปากให้เงียบสนิท ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ...

...นายต้องลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ให้หมด โยธิน.. โจไม่ได้ร่วมรักกับนาย… ไม่ได้กอดนาย… เขามีอะไรกับหญิงสาวผู้เป็นสุดที่รักเพียงคนเดียวของเขาต่างหาก...



:o12: :o12:



หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-06-2007 20:21:34
ความเมาเป็นเหตุ  :o11:  :o11:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 10-06-2007 20:27:39
"โจ.. ผมออกทัวร์ยุโรป 2 อาทิตย์ มีลูกค้าสำคัญต้องตามไปเทคแคร์ ฝากดูลูกๆ ด้วย ขอบคุณครับ โยธิน.."

ภากรขยำกระดาษโน้ตเขวี้ยงลงพื้นด้วยอารมณ์หงุดหงิด สองมือกุมขมับ รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาอีก วันนี้เขาตื่นสายมาก ตื่นขึ้นมาก็ปวดหัวอย่างแรง นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนมีงานเลี้ยงรุ่นและเขาดื่มหนักมากเพราะอารมณ์เสียกับเรื่องบางเรื่อง เช้านี้เลยอยู่ในอาการแฮงค์จนลุกแทบไม่ขึ้น กะว่าจะนอนต่ออีกสักงีบแต่กลับมีโน้ตจากโยธินฝากถึงเขาให้กวนโมโหอีก

"ทำงี้ได้ไง.. นึกจะไปก็ไป!!..  ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า ทัวร์บ้าอะไรวะ !!.. ไม่มีนายสักคนมันออกเดินทางไม่ได้หรือไง เทคแคร์ลูกค้าสำคัญ เชอะ !.. ไปจับแขกหนุ่มๆ ล่ะไม่ว่า.."  o12

ร่างสูงนอนนิ่วหน้ากรอกตาไปมาอยู่บนเตียง อยากจะหลับต่อแต่หลับไม่ลง นอกจะหงุดหงิดที่หมอนั่นออกทัวร์โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าแล้ว ยังรู้สึกเหมือนมีเรื่องค้างๆ ในใจ แต่พยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก


..Daddy In LovE..  


"เมื่อไรปะป๊าจะกลับคะคุณพ่อ.. เจนนี่คิดถึงปะป๊าค่ะ .."

เด็กหญิงตัวน้อยเอ่ยถามขณะที่พ่อกำลังถูสบู่ให้ ปกติถ้าไม่ใช่พี่เลี้ยงอาบน้ำให้ คนที่จะคอยดูแลอาบน้ำให้ลูกๆ ส่วนใหญ่เป็นปะป๊าโยมากกว่าพ่อ    และลูกๆ  ก็ชอบให้ปะป๊าอาบเพราะมือปะป๊านุ่มนิ่มสัมผัสแล้วสบายตัวกว่ามือของพ่อเยอะเลย

"ปะป๊าไปทำงาน อีกไม่กี่วันก็กลับ.. หันมาให้พ่อถูสบู่เร็วเจมส์.. อย่ามัวแต่เล่น.."

ภากรรีบเปลี่ยนเรื่องเอ็ดลูกชายที่มัวแต่จับหุ่นยอดมนุษย์บินไปมาอยู่เหนือผิวน้ำ หากแต่เมื่อหนูน้อยหันมาก็เจอคำถามขี้สงสัยจากปากช่างพูดของเจ้าหนูอีก

"ทำไมปะป๊าไม่โทรมาเลยคับ ปะป๊าโกรธเหรอ.."

ภากรสะอึกไปเล็กน้อย

…จริงซี.. หายเงียบไปเหมือนโกรธเลย แต่ใครล่ะที่หมอนั่นโกรธ…

"ปะป๊าคงงานยุ่งไม่มีเวลาโทรมาหา ไม่ได้โกรธใครหรอก.. ถ้าจะโกรธก็โกรธลูกน่ะแหล่ะ เจมส์.. รีบลุกขึ้นมาให้พ่อถูสบู่   เร็วๆ เดี๋ยวนี้เลยยยย.."

เจ้าหนูรีบลุกขึ้นจากน้ำให้พ่อถูสบู่โดยดี แต่ปากก็ยังไม่หยุดพูด

"เจมเปล่าทำให้ปะป๊าโกรธ.. เจมรักปะป๊า ปะป๊าตัวหอม... เจมชอบหอมแก้มปะป๊า..แบบนี้.."

ร่างเล็กแสดงท่าประกอบด้วยการใช้สองแขนเล็กโอบคอพ่อและโน้มตัวเข้าไปหอมแก้มหนึ่งฟอด แต่แล้วก็ส่ายหน้าไปมาเหมือนแก้มของพ่อหอมสู้ปะป๊าไม่ได้

"ปะป๊าตัวหอมจริงด้วยค่าคุณพ่อ.. เจนนี่ก็ชอบหอมปะป๊าด้วย.."

อีกครั้งที่ผู้เป็นพ่อต้องอึ้งไป …ทำไมคำพูดของลูกๆ ถึงสะกิดใจเขาทุกเรื่อง..

ภากรหยุดโต้ตอบคอยพยักหน้ารับอย่างเดียว   เพราะคำพูดที่อยากพูดตอนนี้ไม่รู้ว่าลูกๆ จะเข้าใจรึเปล่า

...พ่อก็คิดถึงปะป๊า… อยากหอมปะป๊าด้วยเหมือนกัน...    

...ให้ตายเถอะ!!..…ทำไมความรู้สึกของเขาถึงเหมือนกับลูกๆได้ เขาไม่เคยรู้สึกเหมือนรอคอยใครแบบนี้มาก่อนเลย...


..Daddy In LovE..  


ภากรกระสับกระส่ายผุดลุกผุดนั่งคอยโทรศัพท์จากโยธินด้วยอารมณ์ไม่ ค่อยจอยนัก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องกระวนกระวายแบบนี้ รู้แต่ว่าเป็นเรื่องผิดปกติ โยธินควรจะติดต่อกลับมาถามทุกข์สุขของลูกเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเงียบหายไปวันนี้ย่างเข้าวันที่ 10 แล้ว เขารู้สึกหงุดหงิดที่โยธินละเลยไม่ติดต่อกลับมาทำเหมือนไม่คิดถึงลูก แต่เรื่องที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดกว่าคือเรื่องค้างคาใจและคำถามมากมายที่รอให้หมอนั่นไขข้อข้องใจให้


..Daddy In LovE..  


หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 10-06-2007 21:07:06
 :impress2:   เคยอ่านเรื่องนี้เมือนานมาแล้ว...และหาอ่านไม่เจอแล้ว

ดีใจจังที่ได้มาอ่านที่นี่อีก   :like6:

ขอบคุณคร๊าบบบบบบบบ    o13
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 10-06-2007 23:31:09
หูย นายภากร  ป้ามขาไปแล่ะ
มิรู้เรื่อง อะไรเลยนะคนเรา
เพราะ เขาโดนป้ามอ่ะแล่ะ เขาถึงด้ หนี อ่ะ  อิอิ  o3
จ๋มๆ ได้เลี้ยงลูกคนเดียวโรย....    :laugh3:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 11-06-2007 13:18:32
ทำไรไปจำไม่ได้เหรอค้าบคุณภากร อิอิ   :-[

ว่าแต่ที่ทำไปก็มาจากความต้องการลึกๆด้วยแหละ ไม่ได้คิดว่าเป็นคุณแฟนหรอก  ใช่ม่ะ


ปะป๊าแก้มหอมใช่มั้ยหล่ะ... :give2:   ทำปะป๊ากลัวจนต้องหนีไปเลย 

รีบๆกลับมาแล้วสานต่อกานนะค้าบบ ปะป๊า อิอิ  น่าร๊ากกกจางง  :like6:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 11-06-2007 13:45:56
ร่างสูงยืนกอดอกมองดูภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกยินดีและสุขใจ โยธินสวมกอดแฝดน้อยไว้ซ้ายขวาและผลัดกันหอมแก้มไปมาอย่างไม่รู้จักเบื่อ  เห็นแล้วก็อดหมั่นไส้ไม่ได้  ทำทีเป็นคิดถึงแต่หายเงียบไปสองอาทิตย์ไม่โทรกลับมาถามไถ่ทุกข์สุขสักคำ  พฤติกรรมขัดกันเห็นๆ

แฝดน้อยทั้งสองถือของฝากในมือคนละชิ้นออกไปวิ่งเล่นต่อ สาวใช้พี่เลี้ยงวิ่งตามคุณหนูไป โยธินลุกขึ้นยืนสีหน้ายิ้มแย้มเปี่ยมด้วยความสุข ไม่รู้ตัวว่าเป็นที่ขัดตาขัดใจร่างสูงที่ยืนมองอยู่

"ไง!!.. คิดถึงมากเลยเหรอ.. คิดถึงขนาดเงียบหายไปสองอาทิตย์ ไม่โทรมาสักแอะ"

"เอ่อ.." ใบหน้าหวานแหยลงเมื่อหันกลับมาเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของอีกฝ่าย   ยังไม่ทันจะแก้ตัวว่าเพราะอะไรก็ถูกมือใหญ่คว้าข้อมือฉุดให้เดินตาม

"จะไปไหน โจ.."

"ห้องนอน" คำตอบสั้นๆ เล่นเอาโยธินหน้าถอดสี

"ปะ.. ไปทำไม ผมเหนื่อย จะกลับไปบ้านนอนพักสักหน่อย"

"ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น จนกว่าจะตอบคำถามฉันก่อน"

"เรื่องอะไร ไว้วันหลังไม่ได้เหรอ"

"ไม่ได้… ฉันรอมา 14 วันแล้ว"   ภากรกึ่งลากกึ่งฉุดโยธินมาที่เตียงนอนและผลักให้นั่งลง

โยธินแสร้งทำหน้าเหรอทั้งที่ในใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ อุตส่าห์หลบหน้าไปตั้งสองอาทิตย์นึกว่าจะรอดพ้น

"จะถามอะไรหรือโจ..  เรื่องสำคัญมากเลยเหรอ..ถึงขนาดรอไม่ได้"

"ก็บอกแล้วไงว่ารอมาตั้งสิบสี่วันแล้ว"

ภากรยืนนิ่งสบดวงตากลมของชายหนุ่มอ่อนวัยกว่าตรงหน้า ทำไมระยะหลังใบหน้าของหมอนี่ถึงดูหวานและมีเสน่ห์มากขึ้นทุกวัน มองแล้วสบายตาสบายใจ ไม่เหมือนช่วงก่อนที่มีเรื่องฟ้องร้องกัน เห็นหน้าทีไรอารมณ์เสียทุกที

"ตกลงจะถามมั้ย โจ.. ไม่ถามผมจะกลับบ้าน" โยธินรีบตัดบทเสียงแข็งเพราะรู้สึกเขินกับสายตาที่จ้องมองมา

"เกิดอะไรขึ้นกับฉันเมื่อคืนก่อนวันที่นายจะไป"

โยธินสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามนี้ ถึงจะเตรียมใจและเตรียมคำตอบไว้แล้วก็ไม่วายรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว

"เอ่อ.. คืนก่อนที่ผมจะไปเหรอ.." คิ้วเรียวขมวดแสร้งทำเป็นนึกทบทวนเหตุการณ์

"ฉันมีงานเลี้ยงรุ่นที่ร้านอาหารและเมากลับมา ประวิชพาฉันมาส่งที่บ้าน แต่หลังจากนั้น…เกิดอะไรขึ้น? " ภากรรีบเกริ่นนำให้เท่าที่เขารู้ เพราะรอให้อีกฝ่ายนึกทบทวนไม่ไหว

"อ๋อ!!! ใช่!.. คืนนั้นคุณเมามาก ประวิชกับผมช่วยกันแบกคุณไปนอนที่ห้อง.."

"แล้วไงต่อ"

"แล้วไงอะไร คุณก็เมาหลับไปก็เท่านั้น"

ภากรส่ายหน้ากับคำตอบที่ได้รับแบบถามคำตอบคำ

"เท่านั้นเหรอ มีอะไรเกิดขึ้นก่อนที่ฉันจะหลับไปหรือเปล่า"

"มะ.. ไม่มีนี่ คุณหมายถึงอะไร"

"แน่เหรอ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนมีเหตุการณ์อะไรบางอย่าง แต่นึกไม่ออกว่ามันคืออะไร"

"เอ๋?!!… คุณคงฝันมั้ง แต่นึกไม่ออกว่าฝันอะไรล่ะซี"

"ฝันเหรอ.. "   ภากรพึมพำและนิ่งคิดทบทวน โยธินแอบลุ้นในใจขอให้เชื่อเถอะ...

"แล้วใครเปลี่ยนชุดนอนให้ฉัน"

โยธินใจหายเมื่อเจอคำถามใกล้ตัวเข้าไปทุกขณะ แกล้งตีสีหน้าระรื่นกล่าวด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

"ผมเอง.. แต่กว่าจะเปลี่ยนได้แทบตาย ตัวคุณหนักยังกะช้างแน่ะ"

"นายเป็นคนเปลี่ยนชุดนอนให้ฉัน" ภากรย้ำคำตอบด้วยสีหน้าครุ่นคิด คิ้วเข้มขมวดมุ่น

"ถอดชั้นในออกให้ด้วยเหรอ"

"ห๊ะ.!!.อ๋อ.. กางเกงใน.. คุณถอดของคุณเอง ผมกำลังจะสวมกางเกงนอนให้ จู่ๆ คุณก็สะบัดเท้าหนีแล้วถอดกางเกงในออก จากนั้นก็หลับต่อเฉยเลย สงสัยเจ้าโจน้อยของคุณคงอึดอัดล่ะมั้ง หึ หึ.."

น้ำเสียงและสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนเรื่องที่พูดคุยเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องน่าอายสำหรับผู้ชายด้วยกัน หากแต่ใบหน้าหวานแดงซ่านจนภากรนึกขำในใจ เขาซ่อนยิ้มในสีหน้าและซักต่อด้วยน้ำเสียงเครียด

"มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้นหรือเปล่า"

โยธินทำทีเป็นนิ่งคิดก่อนส่ายหน้าปฏิเสธ

"ไม่มีนี่ ผมเปลี่ยนชุดนอนให้คุณเสร็จแล้วก็ออกจากห้อง อะไรที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นผมไม่รู้"

ภากรพยักหน้ารับทราบ เขาลุกขึ้นดึงผ้าคลุมเตียงออก และชี้ไปที่รอยคราบบนที่นอน

"เห็นรอยนั่นมั้ย ฉันเก็บความสงสัยไว้ถึงสองอาทิตย์เพื่อรอถามนาย"

โยธินจ้องมองร่องรอยบนที่นอนด้วยสีหน้าตื่นๆ ใจหายวาบ…

....ไม่อยากเชื่อเลย!! จะสงสัยอะไรมากมายขนาดนั้น เห็นอยู่ว่าที่นอนเลอะยังปล่อยทิ้งไว้ไม่ยอมถอดไปซัก เพียงเพื่อจะรอถามเขาเนี่ยนะ…

"ระ.. รอยอะไร ผมไม่รู้.."    :try2:

"ไม่รู้แน่เหรอ"

"เอ๊ะ ! คุณนี่ ยังไงนะ" โยธินชักโมโหที่ถูกคาดคั้นถามโน่นถามนี่

"ทำไมมาซักเหมือนผมเป็นจำเลยแบบนี้ รู้งี้ไม่อยู่คอย ไม่ช่วยพาขึ้นมานอนก็ดีหรอก"

"ใครบอกให้คอยล่ะ ฉันบอกให้นายพาลูกเข้านอน.. เสร็จแล้วก็เข้านอนได้เลยไม่ต้องคอย… ไม่ใช่เหรอ.."

ร่างเพรียวลุกพรวดขึ้นยืน ความโกรธและน้อยใจแล่นวูบ

"เออ!…ผมเสือกเองที่คอยคุณกลับ.. ผมแส่เองที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เป็นความวุ่นวายของผมเองพอใจหรือยัง แต่ผมไม่ได้ทำที่นอนคุณเปื้อน คุณทำของคุณเอง.."

"เฮ้!.. ฉันไม่ได้ว่าอะไรสักคำ ไม่ได้หมายความว่านายทำที่นอนฉันเลอะด้วย แค่อยากถามว่ารู้มั้ยว่ารอยนี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง"   ภากรเดินเข้าหาร่างเพรียวที่พยายามจะถอยหนีเมื่อได้ยินคำถามสุดท้าย

"นายรู้ใช่มั้ยว่านั่นรอยอะไร ถ้าไม่รู้ฉันจะบอกให้"

โยธินไม่ทันจะเอ่ยปฏิเสธว่าไม่อยากรู้ ร่างสูงก็ขยับเข้ามาประชิดและกระซิบข้างหู

"น้ำรักของฉันเอง"

โยธินหน้าร้อนวูบรีบผละออกห่าง แกล้งโวยวายลั่น

 o12     "บ้าหรือเปล่า โจ.. รู้แล้วยังจะมาแกล้งถามอีก ผมเพลียนะจะกลับบ้านไปนอนแล้ว.."

"เดี๋ยวก่อน!!..” มือใหญ่คว้าแขนร่างเพรียวไว้

“ฉันรู้ไม่หมดถึงต้องรอถามนาย"

"ถามอะไรอีก" 

"ถ้ารอยคราบนั้นไม่ใช่สีแดง ฉันคงไม่เก็บความสงสัยไว้ถึงสองอาทิตย์หรอก ฉันสำรวจร่างกายตัวเองแล้วไม่พบบาดแผลเลือดตกยางออกตรงส่วนไหนเลย จึงคิดว่าบางทีนายอาจบาดเจ็บหรือมีแผลเลือดออกตรงไหนหรือเปล่าตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน" เสียงทุ้มกล่าวถามอ่อนโยนเพื่อให้อีกฝ่ายคลายความตื่นตระหนก

โยธินก้มหน้านิ่งรู้สึกเจ็บลึกในอก

...โจจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยจริงๆ ในเมื่อจำไม่ได้ก็จงลืมมันเสียเถอะ ไม่มีวันที่เขาจะยอมบอกหรอก ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น...

ใบหน้าหวานเงยขึ้นกล่าวน้ำเสียงเอือม

"ผมไม่มีบาดแผลอะไรทั้งนั้น อาจเป็นรอยเดิมที่สาวใช้ซักไม่ออก อย่ามาเซ้าซี้ถามเรื่องบ้าๆ แบบนี้กับผมอีกได้มั้ย ไม่อายบ้างหรือไง ฝันเปียกเลอะที่นอนของตัวเองแล้วยังมาคาดคั้นคนอื่นว่าเกิดอะไรขึ้นอีก.. ทุเรศที่สุด!!.."
ร่างเพรียวสปริงตัวออกห่างหลังหลุดคำด่าออกไป รีบจ้ำอ้าวไปที่ประตู

"รู้อะไรไว้อย่างนะโยธิน..  ฉันเกลียดคนโกหกหลอกลวงที่สุด"

โยธินชะงักมือที่จับประตูไว้ ยืนนิ่งก้าวขาไม่ออก

"ฉันจะไม่ยอมเสียเวลาคบหาหรืออยู่ใกล้คนประเภทนี้ และจะไม่ยอมให้คนพวกนี้มาแตะต้องของรักของหวงของฉันด้วย"

"มะ..หมายความว่าไง.. คุณคิดว่าผมโกหกหลอกลวงคุณงั้นเหรอ"   โยธินกล่าวเสียงสั่น สีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด

"เปล่า.. ฉันไม่ได้หมายถึงนาย ฉันเชื่อที่นายพูด เมื่อไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ฉันมีวิธีตรวจสอบที่ได้ผลแม่นยำอยู่แล้ว ถ้าเลี่ยงไม่ได้ฉันต้องใช้วิธีนั้น"

"วิธีอะไร.."

"ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจดีเอ็นเอ.."

โยธินทำหน้าบอกอารมณ์ไม่ถูก ร่างเพรียวถลาเข้าหาร่างสูงที่ยืนยิ้มกริ่มอารมณ์ดีเพราะรู้ว่าตัวเองเป็นต่อ

"จะบ้าหรือเปล่า โจ.. ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไม่อายหรือไง"

"ทำไมต้องอาย ฉันไม่ได้ทำเอง ส่งให้ประวิชจัดการให้ หมอนั่นมีพรรคพวกที่กองพิสูจน์หลักฐานเพียบ อยากให้พิสูจน์อะไรสั่งได้เลย รู้มั้ยว่าฉันไม่ได้นอนบนเตียงนั่นตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้น ผลพิสูจน์ที่ได้ไม่มีวันผิดพลาดแน่ รอยคราบนั้นคืออะไร?... มันปะปนออกมากับน้ำของฉันก่อนจะหยดเปื้อนบนที่นอนหรือเปล่าก็สามารถรู้ได้ในทันทีเหมือนกัน.."

ภากรนึกขำเมื่อใบหน้าหวานตรงหน้าอ้าปากค้าง สีหน้าเซียวเหมือนคนทำความผิดแล้วกำลังจะถูกจับได้

"ฉันจำเป็นต้องรู้นะ โยธิน.. เพราะมันอาจจะเป็นเลือดของฉันเอง และนั่นหมายความว่าฉันมีปัญหาในเรื่องสุขภาพ ต้องหาเวลาไปพบหมอแล้ว"

โยธินเดินคอตกเลี่ยงไปนั่งที่โซฟามุมห้อง นึกโกรธตัวเองในใจ คืนนั้นเขาน่าจะตรวจดูให้ละเอียดถี่ถ้วนว่ามีร่องรอยเปรอะเปื้อนตรงไหนบ้าง หรือไม่ก็น่าจะเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่เลย

"สัญญาก่อนได้มั้ย..ว่าคุณจะไม่โกรธ..ถ้าผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น"

ภากรซ่อนยิ้มในหน้ากล่าวตอบเสียงเครียด

"ฉันสัญญา"

โยธินอ้ำอึ้งอยู่ชั่วครู่ก่อนตัดสินใจบอกความจริงไป ในเมื่ออยากรู้ก็ช่วยไม่ได้ อย่ามาตกใจก็แล้วกัน...



:try2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 11-06-2007 16:01:15
กำลังมันเลย เรื่องราวจะเป็นงัยต่อน๊า รออยู่นะจ๊ะ  :teach:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-06-2007 20:11:15
บอกไปเลย เอาให้อึ้ง  o8 ดูซิจะเป็นยังไง  :laugh:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 11-06-2007 21:23:09
บอกความจิงอ่ะดีแล้วครับ   

จะได้รูทีว่าคุณโจเค้าทำไรไว้


 :interest: :interest: :interest: :interest: :interest: :interest:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 12-06-2007 12:50:11
 :like6:  อ๋อยยย  ไม่ไหวแล้ววว  เจ้หมวยมาต่อเร็วๆ เลย อยากรู้ว่าภากรจาทามงาย เมื่อรู้ความจริง


แต่คิดว่าคงพอเดาๆไว้ก่อนอยู่แล้วแหละว่ารอยนั้นมาได้ไง แค่ต้องการความชัดเจน  อิอิ  :give2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 12-06-2007 14:29:36
ภากรนั่งนิ่งรับฟังเรื่องที่โยธินบอกเล่า ความเข้าใจของเขาคิดว่าตัวเองมีอาการฝันเปียกเพราะคิดถึงภรรยาที่ล่วงลับไป แต่เมื่อเห็นรอยคราบบนที่นอนก็แน่ใจว่าไม่ใช่.. คิดไปคิดมาจนคลับคล้ายคลับคลารู้สึกเหมือนได้หลับนอนกับใครในคืนนั้นจริง แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก เข้าใจว่าตัวเองอาจเมาจนไม่มีสติและหลงพาใครกลับมานอนบ้านด้วย แต่เมื่อรู้จากประวิชว่าเขาเมามากและประวิชเป็นคนพามาส่งจนถึงเตียง จากนั้นก็ฝากให้โยธินดูแลต่อ ดังนั้นโยธินจึงเป็นคนเดียวที่น่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาในคืนนั้น

เหตุการณ์ที่โยธินกำลังบอกเล่าทำให้เขารู้สึกช็อกกับการกระทำของตัวเอง ตั้งแต่ย่างเข้าวัยหนุ่มจนอายุจะ 42 ในปีนี้ เขาไม่เคยต้องใช้กำลังบังคับหญิงสาวคนไหนให้มีเซ็กซ์ด้วย  ทุกคนต่างเสนอตัวและยินยอมโดยดีทั้งสิ้น

..ให้ตายเถอะ!.. นี่เขาขืนใจเกย์หนุ่มหน้าหวานพ่อในไส้ของยัยหนูเจนนี่ไปแล้วหรือนี่…   o2 

โยธินใจแป้วเมื่อเห็นสีหน้าเครียดของอีกฝ่าย คงจะโกรธที่เขาไม่ยอมผลักไสหรือหนีออกไปทั้งที่มีปัญญาจะทำได้ คนเมาถึงจะเรี่ยวแรงเยอะยังไงแต่ก็อยู่ในอาการมึนเมา ถ้าจะหนีจริงๆ ก็น่าจะทำได้ แต่เขากลับไม่หนี

"ผมขอโทษ.." โยธินกล่าวเสียงอ่อย

"อย่าโกรธผมนะโจ..  :sad4:   ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังหรือหลอกลวง ผมไม่อยากให้คุณจำเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ถ้าลืมได้ก็อยากให้ลืม"

"ลืมงั้นเหรอ.. เรื่องใหญ่ขนาดนี้นายจะให้ฉันลืมง่ายๆ เหรอ... รู้มั้ยว่าฉันไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อน.."

"ก็ผมบอกแล้วว่าอย่าถาม คุณเซ้าซี้อยากจะรู้เอง"

"มันเป็นเรื่องที่ฉันสมควรจะรู้นะ ไม่เป็นการเอาเปรียบไปหน่อยเหรอ นายจำเรื่องที่เกิดขึ้นได้แต่ฉันจำไม่ได้ ฉันไม่ใช่ตัวตลกของนายนะ โยธิน!!.."

โยธินสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายเสียงดังใส่ ร่างเพรียวไถลลงจากโซฟาคุกเข่าตรงหน้าร่างสูง

"ผม..ผมไม่ได้คิดว่าคุณเป็นตัวตลกเลยนะโจ.. ขอร้องล่ะ จะโกรธจะเกลียดผมก็ได้ แต่ให้ผมได้อยู่ใกล้ชิดลูกเหมือนเดิมเถอะนะ"    :impress:  เสียงใสสั่นพร่าน้ำตาเอ่อคลอพร้อมจะร่วงผล็อย

"ต่อไปพอลูกเข้านอนแล้วผมก็จะกลับ จะไม่นอนที่นี่อีกแล้ว ผมขอโทษนะโจ.. ยกโทษให้ผมด้วย.."

ภากรตกใจที่โยธินกลัวเขาโกรธมากถึงขนาดร้องไห้ เรื่องที่เกิดขึ้นเขาควรเป็นฝ่ายถูกโกรธมากกว่า …ประหลาดคนจริงๆ หมอนี่ เป็นคนถูกกระทำแท้ๆ กลับมาคุกเข่าขอโทษ...

เสียงทุ้มกล่าวถามอ่อนโยน

"ให้ฉันยกโทษเรื่องอะไร นายขืนใจฉันหรือฉันขืนใจนายกันแน่ หือ!!.."

ใบหน้าหวานแดงเรื่อหลุบตาลงต่ำ ภากรหัวเราะเมื่อเห็นกริยาขัดเขินของโยธิน รู้จักอายในเรื่องนี้บ้างก็น่ารักดีเหมือนกัน ที่ผ่านมาเคยเห็นพูดเรื่องเซ็กซ์และเรื่องบนเตียงหน้าตาเฉย

"ผมรู้ว่าคุณต้องรับไม่ได้กับเรื่องนี้ ผมถึงไม่อยากเล่าให้คุณฟัง ผมกลัวคุณโกรธแล้วคุณไม่ให้ผมมาหาลูกอีก.."

"ฉันเป็นคนไม่มีเหตุผลขนาดนั้นเลยเหรอ... นายคงลืมไปแล้วว่าเจนนี่เป็นลูกสาวของนาย นายมีสิทธิในตัวยัยหนูมากกว่าฉัน จะพาลูกกลับไปอยู่บ้านนายเมื่อไรก็ทำได้ ลืมแล้วหรือไง.."

"ผมไม่ได้ลืม แต่ผมไม่ได้มีเจนนี่เป็นลูกคนเดียว ผมมีลูกสองคน แล้วบ้านของลูกๆ ก็อยู่ที่นี่ ผมไม่มีวันพรากเจนนี่ไปจากน้องและพ่อของเธอหรอก"

ภากรส่ายหน้ากับความคิดของโยธิน

"ฉันไม่มีสิทธิห้ามนายไม่ให้มาหาลูกหรอกนะโยธิน.. ถ้าจะโกรธฉันโกรธตัวเองมากกว่าที่ดื่มเหล้าจนเมาไม่มีสติ เผลอระบายอารมณ์กับนายไปในคืนนั้น คนที่ผิดคือฉัน ฉันควรเป็นฝ่ายขอโทษนายมากกว่า "

"เอ่อ.. ถ้าอย่างนั้นก็หายกันเถอะนะ คิดเสียว่าคนที่คุณกอดในคืนนั้นไม่ใช่ผมแต่เป็นเมย์ก็แล้วกัน"    :try2:

ภากรรู้สึกฉุนขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

"ง่ายแบบนั้นเลยเหรอ อยากให้ฉันคิดว่าเป็นเมย์จริงๆ เหรอ"

"ก็... มันดีกับความรู้สึกของคุณไม่ใช่เหรอ  กอดผู้ชายด้วยกันสำหรับคุณแล้วมันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ   :try2:  คิดซะว่าฝันร้ายก็ได้นะ "

"………"  o12

"เอ่อ..ผมพูดผิดอีกเหรอ.." เสียงใสสั่นเมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว

"ฉันจำไม่ได้ว่าเคยพูดกับนายตอนไหน ว่าการชอบพอระหว่างผู้ชายด้วยกันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ.."

"ก็คุณเคยอยากให้ผมเลิกพฤติกรรมแบบนี้ แปลว่าคุณไม่ชอบ"

"นั่นเพราะฉันเคยคิดว่านายอาจเป็นพ่อที่ดีของลูกไม่ได้ ถ้านายยังมีพฤติกรรมรักชอบผู้ชายด้วยกัน แต่สองปีที่ผ่านมานี้นายได้พิสูจน์ให้ฉันเห็นแล้วว่านายสามารถเป็นพ่อที่ดีของลูกได้ แม้นายจะเป็นเกย์... นายก็ยังเป็นพ่อที่น่ารักของลูก.."

ใบหน้าหวานยิ้มออก หัวใจพองโตเมื่อได้รับคำชมอย่างไม่คาดฝัน ร่างเพรียวขยับขึ้นมานั่งข้างๆ ร่างสูง

"แปลว่า.. คุณไม่โกรธผมใช่มั้ย"

"แล้วนายโกรธฉันหรือเปล่าล่ะ" ภากรย้อนถามกลับไป

"เอ่อ.. ผมจะโกรธคุณได้ไง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะผมผิดเอง เข้าไปวุ่นวายเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณ ถ้าปล่อยให้หลับไปซะ เรื่องทั้งหมดก็ไม่เกิดขึ้น คุณเมามากไม่รู้ตัวหรอกว่าทำอะไร เพราะฉะนั้นคุณไม่ผิดหรอก.."

"ฉันไม่ผิดงั้นเหรอ.. ทั้งที่ฉันกอดนายอย่างรุนแรง  ทำนายเจ็บจนเลือดออก  นายไม่โกรธสักนิดเลยเหรอ.."  o18

ใบหน้าหวานร้อนผ่าวก้มงุดลงด้วยความอาย  :o8:

"อือ.. ไม่โกรธหรอก เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ต่างฝ่ายต่างลืมให้หมด เหมือน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเถอะนะ"

"ไม่!!!…    o12   ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ฉันนอนด้วย เป็นฝ่ายบอกตัดสัมพันธ์ฉันก่อน ถ้าฉันยังไม่อยากเลิกเธอไม่มีสิทธิตีห่างจากฉัน"

โยธินเงยหน้าขึ้น คิ้วเรียวขมวด

"เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวที่สุด   แต่เกี่ยวอะไรด้วย  ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ!!.."

ภากรหัวเราะ หรี่ตาเจ้าเล่ห์มองใบหน้าหวานตรงหน้า   o18

"แล้วใครบอกว่านายเป็นผู้หญิงล่ะ นายเป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันนอนด้วย แต่ก็อยู่ในหลักการเดียวกัน ฉันไม่ยอมให้คนที่ฉันนอนด้วยบอกตัดสัมพันธ์กับฉันก่อน"

"หมายความว่าไง"   :confuse:

"ก็หมายความว่า ฉันไม่มีวันลืมว่า ...นายนอนกับฉันแล้ว.. เพราะฉะนั้นถ้าฉันยังไม่อยากเลิกนายก็ไม่มีสิทธิตีจาก.."

"วะ..ว่าไงนะ ไม่อยากเลิกแปลว่าอะไร"

ภากรรั้งร่างเพรียวเข้ามาสวมกอดดื้อๆ

"ทำไมเข้าใจยากจัง ไม่อยากเลิกก็แปลว่าไม่เลิก ฉันเป็นคู่ขาของนายลืมแล้วหรือไง ใครเป็นคนสร้างเรื่องนี้ขึ้นมาแต่แรก.. เพราะฉะนั้นนายต้องทำหน้าที่ของคู่ขาด้วยการนอนกับฉัน.. จนกว่า.... ฉันจะเบื่อ…"

โยธินตาเหลือก พยายามเบี่ยงตัวหนีแต่กลับถูกรัดแน่นขึ้นเหมือนแกล้ง

"จะบ้าหรือไง.. อย่ามาล้อผมเล่นแบบนี้ได้มั้ย ปล่อย!!.."

โยธินขนลุกซู่เมื่อถูกริมฝีปากร้อนขบใบหูเบาๆ พร้อมกับเสียงกระซิบตอบ

"ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันเอาจริง"

"บ้าหรือเปล่าโจ.. คุณไม่รู้หรอกว่าพูดอะไรออกมา"

ภากรย้ำคำพูดอีกครั้งอย่างหนักแน่น

"ฉันพูดว่านายต้องทำหน้าที่คู่ขาด้วยการนอนกับฉัน ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันเอาจริง"

“คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่พูดแบบนี้ อย่าฝืนทำในสิ่งที่ไม่ชอบเพราะแค่ ต้องการจะเอาชนะผม”

"ใครบอกนายว่าฉันไม่ชอบ"

ใบหน้าหวานร้อนผ่าวเมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตากรุ้มกริ่ม พยายามเบี่ยงตัวไปมาให้หลุดจากอ้อมกอด

"ก็..คุณไม่เคยรู้สึกพิศวาสผู้ชายด้วยกัน   คุณไม่เคย.. เอ่อ.. นอนกับผู้ชาย.."

"กับผู้ชายคนอื่นๆ อาจจะใช่ แต่กับนาย.. ฉันรู้สึกพิศวาสขึ้นมาบ้างแล้ว ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้.. รู้แต่ว่าตลอดสองอาทิตย์ที่ฉันรอนายกลับมา ฉันคิดถึงนายทุกวันเลย..."

ร่างเพรียวนิ่งอึ้งอยู่ในอ้อมกอด ตะลึงกับคำพูดที่ได้ยินจากปากภากร บอกไม่ถูกว่าดีใจขนาดไหน เพราะตลอดเวลาที่หลบหน้าไปเขาคิดถึงหนุ่มใหญ่ตรงหน้าทุกวันเช่นกัน …เขาเป็นฝ่ายคิดถึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ทำไมโจคิดถึงเขา.. ทั้งที่ในคืนนั้นคนที่โจคิดว่ามีอะไรด้วยคือเมย์....

"คุณล้อผมเล่นใช่มั้ย โจ.. คุณคงไม่รู้ว่าที่คุณมีความสุขในคืนนั้นเพราะคุณคิดว่าคนที่คุณนอนด้วยคือเมย์.. "

ภากรระบายยิ้มอ่อนโยน กลิ่นโคโลญจน์ผสมกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของร่างเพรียวในอ้อมกอดทำให้นึกถึงคำพูดของลูกที่ว่า “ป๊ะป๊าตัวหอม” ...ใช่..หอมจริงๆ ด้วย.. ใบหน้าขาวเนียนอยู่ห่างจากปลายจมูกเขาไม่ถึงคืบ ชวนให้รู้สึกหลงใหลจนต้องขโมยหอมแก้มหนึ่งฟอดเอาดื้อๆ

โยธินสะดุ้งเล็กน้อยใบหน้าหวานแดงเรื่อ    :-[  รีบเบือนหนีและก้มงุดลงแต่ยังยอมนิ่งอยู่ในอ้อมกอด

"ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลนี้หรือเปล่า ที่ทำให้ฉันเก็บความรู้สึกที่มีต่อนายไว้ไม่ได้แล้ว ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ฉันกอดแล้วให้ความรู้สึกเหมือนได้กอดเมย์เลย แต่กับนายที่เป็นผู้ชาย.. กลับให้ความรู้สึกเหมือนเมย์มาก.."

โยธินใจหายวาบ....รู้สึกผิดหวังอยู่ในส่วนลึก ที่แท้เขาก็เป็นแค่ตัวแทนของเธอ...

"ปล่อยผมเถอะโจ.. นั่งคุยกันดีๆ เถอะ"

ภากรคลายอ้อมแขนออกเมื่ออีกฝ่ายยอมพูดดีด้วย ร่างเพรียวรีบกระเถิบ ออกให้พ้นรัศมีวงแขนของชายหนุ่ม

"ผมเสียใจนะ โจ.. ที่คุณต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องวุ่นวายระหว่างปีเตอร์กับผม ผมรู้สึกผิดที่ทำให้คุณเสื่อมเสีย ผมจะหาทางแก้ข่าวและเคลียร์กับเขาไม่ให้มาวุ่นวายกับคุณอีก"

"เคลียร์ยังไง !!.." ภากรเสียงขุ่นไม่สบอารมณ์ทันทีที่ได้ยินชื่อนี้

"ผมจะบอกความจริงว่าผมกุเรื่องขึ้น    คุณไม่ได้เป็น  อุ๊บ!!.."

เสียงใสขาดหายเพราะถูกร่างสูงขยับเข้าประชิดและปิดปากไม่ให้พูด สีหน้าโกรธจัด

"จะบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร หา!!!..  :o  คืนนั้นนายนอนกับฉันแล้ว นายเป็นของฉันแล้ว ยังมีหน้าไปบอกว่าเป็นเรื่องที่กุขึ้นอีกงั้นเหรอ.."

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-06-2007 16:39:49
เหอเหอ

เริ่มเปิดใจรับกันแล้วววววววว

 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Electrolyte ที่ 12-06-2007 19:27:01
รีบมาต่ออีกนะคร้าบเป็นกำลังใจให้คร้าบ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-06-2007 19:57:33
สุดท้ายก็หมายความว่าจะให้เป็นคู่รักว่างั้นเถอะ  :haun5: เชอะ  o18
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 12-06-2007 23:53:08
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 13-06-2007 09:01:30
โอวววว เรื่องนี้  สนุกมากๆๆ 

ชอบๆๆๆๆๆๆ :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 13-06-2007 13:10:01
 :like6:   หลั่นล๊าดีจายยย  ชอบจางเยยยย

กิ๊วๆๆ ภากร เริ่มชอบเค้าแล้วหล่ะซิ .... :haun5:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-06-2007 14:48:41
ท่าทางภากรจะขี้หึงเอาการนา  :haun5:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 13-06-2007 16:26:09
"อื้อออ.."   โยธินพยายามจะพูดแต่อีกฝ่ายไม่ยอมเปิดโอกาส กลับตะคอกใส่ด้วยอารมณ์โกรธ

 :o  "อย่าพูดถึงไอ้บ้านั่นให้ฉันได้ยินอีกนะ ตอนนี้ฉันเป็นคู่ขาของนายและยังเป็นไปอีกนานจนกว่าฉันจะ....."    ภากรหยุดคำพูดไว้แค่นั้น   ร่างสูงเอนกายพิงพนักโซฟาเสยผมไปมาด้วยความหงุดหงิด

โยธินหน้าเสียตกใจกับอารมณ์รุนแรงของภากร เขาแค่อยากจะแก้ปัญหาที่ตัวเองก่อขึ้นเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าโจจะโกรธมากขนาดนี้...

"ถ้างั้นคุณจะเอายังไง จะใช้ผมแทนผู้หญิงเวลาที่คุณคิดถึงเมย์.. หรือเวลาที่คุณต้องการงั้นเหรอ.."

ภากรใจหายกับความเข้าใจของอีกฝ่าย อยากจะปฏิเสธว่าไม่ใช่แต่ยังหมั่นไส้และฉุนอยู่

"ใช่!!.. "

โยธินรู้สึกเจ็บแปลบในอก พยายามบังคับน้ำเสียงให้เป็นปกติ

"ถ้าคุณไม่รังเกียจที่ผมเป็นผู้ชาย และคุณไม่ได้ฝืนใจตัวเองก็แล้วแต่คุณ หมดธุระแล้วผมขอกลับไปบ้านพักผ่อนก่อน เย็นๆ จะมาใหม่"

กล่าวจบก็ลุกขึ้นยืนแต่ถูกมือใหญ่คว้าข้อมือและฉุดกลับลงไปนั่ง ร่างเพรียวถูกผลักหงายลงบนโซฟา ร่างสูงตามลงมาคร่อมทับไว้สบดวงตากลมที่มีน้ำใสเอ่อคลออยู่   :impress:   เสียงทุ้มกระเซ้าหยอก

"แค่นี้ต้องร้องไห้ด้วยเหรอ.. ขี้แงเหมือนเจนนี่เลย"

ใบหน้าหวานเบือนหนี ริมฝีปากบางขบแน่น   …เขาไม่เคยชนะผู้ชายคนนี้ ไม่เคยเลยสักครั้งเดียว…
 
"จะกลับไปไหน ทำเหมือนเป็นคนอื่นคนไกล อาบน้ำและพักผ่อนซะที่นี่แหล่ะ อุตส่าห์ยกห้องให้แล้วใช้ให้คุ้มหน่อยซี.."

"ไม่!!…ผมจะกลับบ้าน เอาห้องของคุณคืนไป ผมจะไม่นอนค้างที่นี่อีก"

ภากรถอนใจเฮือก จู่ๆ ลูกแมวที่กำลังน่ารักและเชื่อฟังก็กลายร่างเป็นลูกเสือซะดื้อๆ

"ตามใจ เมื่อไม่อยากมีห้องส่วนตัวที่นี่ฉันก็จะปิดมันซะ แต่เรื่องที่จะไม่นอนค้างที่นี่อีกคงเป็นไปไม่ได้.."

"ทำไมจะไม่ได้ ผมกล่อมลูกเข้านอนเสร็จผมก็กลับ แค่ 2-3 ทุ่มเอง หรือถึงจะดึกกว่านั้นผมก็กลับได้"

ภากรยิ้มเจ้าเล่ห์   o18

"ยังไม่เสร็จธุระจะกลับได้ยังไง ลูกเข้านอนแล้วแต่พ่อยังไม่นอน เสร็จจากกล่อมลูกแล้วนายต้องเข้ามากล่อมฉันด้วย อย่าลืมหน้าที่ของคู่ขาซีที่รัก.."

โยธินหน้าแดงซ่านทั้งจากคำพูดและการกระทำ ภากรไม่พูดเปล่าจมูกโด่งไล่สัมผัสที่ซอกคอและแก้มอย่างไม่เกรงใจ

"ปล่อยนะ!!.. ทำไมต้องฝืนใจกันด้วย จะให้ผมนอนกับคุณเพราะหน้าที่ ผมทำไม่ได้หรอก"

"ทำเพราะหน้าที่ไม่ได้   แต่ถ้ามีอารมณ์ต้องการล่ะ ทำได้มั้ย.."

กล่าวจบริมฝีปากอุ่นก็ประกบแนบสนิทกับเรียวปากนุ่มของอีกฝ่ายและ บดจูบอย่างหนักหน่วง ลิ้นอุ่นดื่มด่ำซอกซอนไปทั่วทุกพื้นผิวภายใน  ร่างเพรียวที่อยู่ข้างใต้ดิ้นขลุกขลักไปมาอยู่ชั่วครู่ก็อ่อนระทวยหมดแรงขัดขืน  ยอมนอนนิ่งตอบรับสัมผัสแต่โดยดี

…อา!!.. ใช่เลย!!.. นี่คือความดื่มด่ำที่เขาต้องการ เหมือนความรู้สึกที่ได้รับในคืนนั้น มันไม่ใช่แค่ความฝันแต่เป็นความจริงที่สัมผัสได้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขากำลังสวมกอดและสัมผัสผู้ชายด้วยกัน... แม้ร่างกายจะไม่นุ่มนิ่มบอบบางอย่างหญิงสาว หากแต่สัมผัสที่ได้รับกลับนุ่มนวลและหอมหวาน ไม่ได้น่ารังเกียจเลยสักนิด มิน่าล่ะ!.. ไอ้ปีเตอร์มันถึงกลับมาขอคบใหม่และไม่ยอมเลิกราด้วยดี

ภากรถอนริมฝีปากออกเมื่อนึกถึงเรื่องที่ทำให้อารมณ์หงุดหงิด ใบหน้าหวานแดงซ่านยังนอนหลับตาพริ้มผ่อนลมหายใจเข้าออกผ่านเรียวปากนุ่มที่เห่อแดงเพราะถูกเขาแกล้งบดจูบอย่างหนักหน่วงและรุนแรง

..ให้ตายเถอะ!!... เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบกว่าอย่างเขา ทำไมถึงรู้สึกชอบและหลงใหลหมอนี่ขึ้นมาได้ ทั้งๆ ที่เคยเกลียดและเหม็นขี้หน้าจับใจ...

ภากรพยายามระงับอารมณ์ปรารถนาภายในกายที่ตัวเองเป็นคนปลุกเร้าขึ้นให้สงบลง   ก่อนก้มลงกระซิบสั่งด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

"จำไว้นะ โยธิน... นับจากวันนี้..ห้ามไปข้องเกี่ยวกับใคร นายเป็นคู่ขาของฉันโดยสมบูรณ์แล้ว เพราะฉะนั้นนายต้องเป็นของฉันเพียงคนเดียว ได้ยินมั้ย.."

"อะ..เอาจริงเหรอ.." น้ำเสียงที่ย้อนถามกลับมาแหบพร่าไม่แพ้กัน

"จริงเสียยิ่งกว่าจริง"

"คุณจะต้องเสียใจที่ตัดสินใจผิดๆ แบบนี้"

"ไม่มีวัน"

ร่างสูงก้มลงประทับจูบที่หน้าผากมนหนึ่งครั้ง ก่อนกล่าวย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"ฉันจะไม่เป็นแค่คู่ขาหลอกๆ ของนายอีกต่อไป ชื่อเสียงฉันดังกระฉ่อนไปทั่วแล้วว่าเป็นสมาชิกใหม่ของกลุ่มเสือไบ เพราะฉะนั้นก็ทำให้มันเป็นเรื่องจริงซะเลย ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปคบหาผู้หญิงคนอื่นด้วย"

ริมฝีปากบางเม้มแน่น รู้สึกเจ็บลึกในอกอีกแล้ว ...โจไม่ได้รู้สึกพิเศษกับเขาจริงๆ แค่ต้องการให้เขาแทนผู้หญิงในบางโอกาสเท่านั้น...

"อยากจะทำอะไรก็ตามใจคุณ ลุกขึ้นได้แล้วผมหนัก"

"ยัง.. ข้อตกลงในการเป็นคู่ขากันยังไม่หมด"      ร่างสูงขยับตัวขึ้นแต่ยังคร่อมอีกฝ่ายไว้

"อะไรอีก" คิ้วเรียวขมวดมุ่น

"ต่อไปนี้จะออกทัวร์ไปไหน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์ ไม่ใช่จู่ๆ ก็หายไปแล้วทิ้งโน้ตไว้แผ่นเดียวแบบวันนั้นอีก"

"แต่นี่เป็นงานผมนะ"

"งานก็งานซี นายรู้คิวเดินทางล่วงหน้าอยู่แล้ว อย่ามาอ้างเลย"

"แต่ว่า.."

"ไม่มีแต่.. นี่เป็นข้อตกลงของการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว พ่อแม่.. เอ่อ.. พ่อๆ ลูกๆ.."

โยธินนอนนิ่งตาปริบๆ เข้าใจหัวอกของเจ้าหนูเจมส์เวลาถูกพ่อดุแล้ว ความรู้สึกคงเหมือนเขาตอนนี้

"ว่าไง.. เงียบแบบนี้เข้าใจหรือไม่เข้าใจ"

ริมฝีปากบางขบแน่นก่อนเอ่ยถามน้ำเสียงแผ่วเบา

"ผมมีข้อตกลงบ้างได้มั้ย"

"อะไร"

"คุณห้ามผมไม่ให้ข้องเกี่ยวกับใคร ให้ผมเป็นของคุณคนเดียว แล้วคุณล่ะ!! เป็นของผมคนเดียวด้วยหรือเปล่า"

คิ้วเข้มขมวดสีหน้าเครียด

"เป็นคำถามหรือคำสั่ง ถ้าแค่คำถามฉันคิดว่าอาจจะ..."

เสียงใสแทรกขัดจังหวะ

"คุณต้องไม่ข้องเกี่ยวกับใครระหว่างที่เราคบหาเป็นคู่ขากัน จนกว่า.... คุณจะเบื่อผม.."   ใบหน้าหวานเบือนหนีกับคำพูดประโยคสุดท้าย

"ไม่มีทาง.."

ภากรซ่อนยิ้มในสีหน้าเมื่อคำตอบของเขาทำให้ดวงตากลมคู่สวยวาบวับ ด้วยอารมณ์และความรู้สึกจากส่วนลึก และนั่นทำให้เขาได้ล่วงรู้ทุกความรู้สึกของอีกฝ่าย

"คนเห็นแก่ตัว!!.. " เสียงใสตวาดใส่อย่างหมดความอดกลั้น  o12

"ถ้าคุณไม่.. ผมก็ไม่เหมือนกัน คุณมีใครอื่นอีกได้ ผมก็มี…" มือใหญ่ปิดปากที่กำลังโวยฉอดๆ

"ฟังให้จบก่อนแล้วค่อยโวยได้มั้ย  ฉันว่า.. ไม่มีทาง… ที่ฉันจะเบื่อนาย... "   ภากรปล่อยมือเมื่อร่างเพรียวนอนนิ่งกับคำตอบที่ได้รับ

"ตั้งแต่เมย์จากไปฉันไม่เคยข้องแวะหรือคบหาใครจริงจังเลย อย่างมากก็แค่คู่นอน..."

คิ้วเรียวขมวดไม่พอใจเมื่อได้ยินคำพูดสุดท้าย อยากจะเถียงออกไปว่า  …มันก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ..

ภากรกล่าวต่อด้วยสีหน้าระรื่น

"เพราะฉะนั้นนายต้องพูดใหม่ ต้องบอกว่าห้ามฉันไปนอนหรือเอากับใครอีกนอกจากนายคนเดียว"

โยธินสะดุ้ง ใบหน้าร้อนวูบ

"อะ.. ไอ้บ้า!!.. คุณมันหน้าด้าน ทุเรศ!!.."

คิ้วเข้มเลิกขึ้นร่างสูงขยับลงทาบทับร่างเพรียวข้างใต้อีกครั้ง จมูกโด่งหยอกเย้าสัมผัสแผ่วที่แก้มขาวเนียน กลิ่นหอมอ่อนๆ จากทุกพื้นผิวที่สัมผัสถูกทำให้ภากรอดใจไม่ไหว แกล้งสูดดมความหอมอีกหลายฟอดใหญ่จนใบหน้าหวานแดงซ่าน

"สำหรับฉันผู้หญิงคือข้าวสวยร้อนๆ แต่นายคือขนมปังเลิศรสที่ฉันเพิ่งลองชิมเป็นครั้งแรกแล้วเกิดติดใจ จะให้ฉันเปลี่ยนมากินนาย เอ๊ย!.. กินขนมปังทุกมื้อแทนข้าวงั้นเหรอ.."

โยธินหน้างอ  สองมือยันร่างสูงให้ผละออก

"ปล่อยนะ!!.. เลิกล้อเล่นกับผมซะที นึกว่าผมอยากให้คุณกินรึไง ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ ผมเป็นผู้ชายไม่อร่อยกว่าผู้หญิงหรอก ปล่อย!!.. อึ๊....”

เสียงใสขาดหายในลำคอเพราะถูกปิดปากอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ได้ถูกปิดด้วยมือ เรียวปากนุ่มถูกบดจูบอย่างเร่าร้อน ลิ้นอุ่นซอกซอนเข้ามากวาดสัมผัสและดื่มด่ำความหอมหวานภายใน ร่างเพรียวสะท้านเฮือกหยุดอาการผลักไสและดิ้นรน สองมือที่ยันหน้าอกกว้างไว้เปลี่ยนเป็นสวมกอดตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้

ภากรถอนริมฝีปากออกเมื่อดื่มด่ำความหอมหวานจากริมฝีปากบางจนเต็มอิ่มแล้ว ใบหน้าหวานตาปรือด้วยอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้า ยอมนอนนิ่งให้มือใหญ่ปลดเข็มขัดกางเกงออกช้าๆ

ใบหน้าคมระบายยิ้มอย่างผู้ชนะเมื่อร่างบางหยุดผลักไสอ่อนระทวยอยู่ข้างใต้ สีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนาของโยธินปลุกเร้าความรู้สึกของหนุ่มใหญ่ให้ลุกโชนขึ้นจนไม่อาจเลิกราแต่เพียงแค่นี้ ฝ่ามือร้อนแทรกผ่านชั้นในเข้ากอบกุมส่วนอ่อนไหวที่อยู่ในอาการแข็งขืนเต็มที่และขยับคลื่อนไหวช้าๆ

...ให้ตายเถอะ... แค่จูบเท่านั้นร่างกายนายก็พร้อมถึงขนาดนี้.... แล้วยังมาทำปากเก่งว่า ไม่อยากให้ฉันกิน…  

โยธินหน้าร้อนวูบเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสที่อีกฝ่ายกำลังกระทำกับร่างกายของตัวเอง ใบหน้าคมเข้มแย้มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ทั้งที่อายแต่ความต้องการกลับมีมากกว่าจนร่างกายต้องสนองตอบด้วยการขยับบั้นท้ายให้สอดรับกับการเคลื่อน ไหวของมือใหญ่
ภากรจ้องมองใบหน้าหวานที่แดงจัดขึ้นตามจังหวะการเคลื่อนไหวของเขา เสียงหอบหายใจและดวงตาหรี่ปรือด้วยอารมณ์ปรารถนาที่ใกล้จะถึงฝั่ง หนุ่มใหญ่ซ่อนยิ้มในหน้า หยุดการเคลื่อนไหวมือและผละออกดื้อๆ

ร่างเพรียวผวาเฮือกเมื่ออารมณ์ที่กำลังพลุ่งขึ้นจนเกือบจะถึงจุดแล้ว จู่ๆ ก็ถูกปล่อยให้ลอยคว้าง ลำแขนที่โอบรอบคอร่างสูงไว้แนบแน่นคลายออกเปลี่ยนเป็นกำปั้นทุบลงกลางหลังดัง อั๊ก!! พร้อมเสียงร้องครางอย่างขัดใจ...

"อึ๊!!…. อื้อ... อืออ~~ ”

"เป็นอะไรจ๊ะ หือ.."   ภากรแกล้งกระซิบถามเหมือนไม่เข้าใจ

"อื้อ.. คนบ้า~~ คนผะ...ผี~~ ” เสียงใสขาดหายเพราะพยายามอดกลั้นอารมณ์อย่างเต็มที่

"ฉันบ้าเรื่องอะไรเหรอ.. "

โยธินน้ำตาคลอเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายจงใจแกล้ง สองแขนพยายามดันร่างสูงออกทั้งที่ไร้เรี่ยวแรง

"ปะ.. ปล่อย!!…ผมเกลียด…." เรียวปากนุ่มถูกประกบจูบก่อนที่คำพูดจะหลุดออกมา

ภากรดื่มด่ำความหวานจากเรียวปากนุ่มอีกครั้ง   ยิ่งชิมก็ยิ่งหวาน  ...ให้ตายเถอะ!!.. ถ้ารู้ว่ารสชาติดีขนาดนี้ไม่ปล่อยให้ลอยนวลอยู่เกือบ 2 ปีหรอก..     ฝ่ามือใหญ่ไล่สัมผัสผิวกายภายใต้เสื้อยืดจนร่างเพรียวข้างใต้สะท้านขึ้นอีกครั้ง ก่อนขยับลงไปปลอบประโลมเจ้าหนูโยน้อยที่กำลังอ่อนแรงลง… ด้วยการสัมผัสและลูบเบาๆ ภายนอกผิวผ้า

ภากรผละจากริมฝีปากนุ่มกระซิบแผ่วข้างหู

"บอกซิโยธิน.. ว่านายต้องการให้ฉันทำอะไร.."

ใบหน้าหวานแดงเรื่อไม่ใช่จากอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นอีก  แต่จากคำพูดของคนเจ้าเล่ห์ ริมฝีปากบางเม้มแน่น ไม่มีทางที่จะพูดเรื่องน่าอายแบบนี้ เขาไม่มีวันยอมแพ้ผู้ชายคนนี้.. ตะ.. แต่ว่า..

“อา~~ ”

"อืออ~~ "

เสียงใสร้องครางเมื่ออารมณ์ถูกปลุกอีกรอบ ไอ้หนูของเขาแข็งแรงซู่ซ่าอยู่ในอุ้งมือคนอื่นอย่างหน้าไม่อาย... โอย!!!.. มะ..ไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่ได้ปล่อยมีหวัง...

"จะ..โจ~~  อย่าแกล้ง... ได้โปรด~~ " เสียงร้องขอแผ่วเบามากจนอีกฝ่ายต้องเงี่ยหูฟัง


 :o7:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 13-06-2007 16:35:35
"ว่าไงนะ.. พูดใหม่ซิ.."

"ผมไม่ไหว…แล้ว อ๊ะ!!.. อืออ~~ ”

สีหน้าทรมานของอีกฝ่ายทำให้ภากรเลิกล้อเล่น

"บอกก่อน..ว่าอยากให้ฉันกินนาย.. เร็วเข้า..ที่รัก.." มือใหญ่กอบกุมโยน้อยไว้ ขยับเคลื่อนไหวช้าและเร็วสลับกันไป

โยธินผวาเฮือก ในที่สุดความต้องการก็อยู่เหนือความอายจนได้...

"ฮืออ~~ จะ… โจ.. ช่วยกิน..ผมหน่อย..  อ๊ะ!!..”

เสียงใสขาดหายในลำคอพร้อมอาการสะดุ้งเฮือกเมื่อไอ้หนูของเขาถูกลิ้มรสด้วยลิ้นอุ่นจนเปียกชุ่ม  ก่อนที่ช่องปากร้อนจะครอบครองร่างกายเขาไว้ทั้งหมด

….โอ..พระเจ้า!! ไม่อยากเชื่อเลยว่าหนุ่มใหญ่จอมกวนผู้นี้จะกล้าทำเรื่องแบบนี้กับเขา  เขาแค่ต้องการปลดปล่อยในอุ้งมืออุ่นเท่านั้น  ไม่ได้คาดหวังถึงขนาดนี้ … ตะ.. แต่ว่า.. อ๊ะ!.. อืมม์.. ไม่อยากเชื่อเลย... ไม่เคยนอนกับผู้ชายแล้วทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้ได้... อ๊ะ ! อาา~~ มะไม่ไหว.. แล้วววว...

“ยะ...หยุดก่อน.... พอแล้ว...พออ~~ อ๊ะ.....จ.. โจ~~ ”

ร่างเพรียวแอ่นขึ้นเมื่อถึงจุดปลดปล่อย.. เสียงเรียกชื่ออีกฝ่ายดังแผ่วอยู่ในลำคอ..

"อร่อยมาก…"    ภากรกล่าวกระเซ้าขณะไล้เลียโยน้อยที่คอพับหมดแรงอยู่ในอุ้งมือเขา

"ใครว่าไม่อร่อย หือ.. ข้าวสวยร้อนๆ สู้ไม่ได้เลย.. "

ร่างสูงขยับขึ้นมาประกบจูบริมฝีปากนุ่ม ใบหน้าหวานแดงจัดเมื่อรับรู้รสชาติของตัวเอง

"ขอกินแค่ครึ่งจานก่อนนะโย.. ที่เหลือเก็บไว้กินคืนนี้... ตกลงฉันจะไม่นอนกับใครอีก แค่นี้ใช่มั้ยที่นายต้องการ"

"………………"  :o8:

"ไม่ตอบแปลว่าตกลงรับเงื่อนไขของกันและกัน  นับจากวันนี้เราเป็นคู่ขากันจริงๆ แล้วนะ..."

"………………"   :-[

ไม่มีคำตอบจากร่างเพรียวข้างใต้ ไม่ใช่เพราะยังเหนื่อยกับความสุขที่ได้ปลดปล่อยเมื่อครู่แต่เพราะรู้สึกยินดีและสุขใจจนพูดไม่ออก และคงจะยินดีมากกว่านี้อีกร้อยเท่าถ้าเปลี่ยนจาก คู่ขา มาเป็น__


"ปะป๊าขา!!!!..  ปะป๊าค้าบ!!!!…"


เสียงแฝดน้อยเรียกหาปะป๊าอยู่นอกห้อง  ตามด้วยเสียงประตูถูกทุบตุ้บตั้บด้วยฝ่ามือน้อยๆ

คุณพ่อทั้งสองรีบผละออกจากกัน  โยธินลุกขึ้นจัดการกับเสื้อผ้าตัวเองในขณะที่อีกฝ่ายนั่งมองด้วยสีหน้าอมยิ้ม  ร่างสูงลุกขึ้นไปเปิดประตูเมื่อปะป๊าสุดที่รักของลูกๆ อยู่ในสภาพเรียบร้อยแล้ว

ประตูเปิดออกสองร่างน้อยก็แข่งกันวิ่งเข้าไปสวมกอดปะป๊า คุณพ่อยืนมองตาปริบ สาวใช้ส่งคุณหนูเข้าห้องแล้วก็กลับไปทำงานต่อ

"ปะป๊าขา.. หาตั้งนาน อยู่นี่เอง" สาวน้อยเจนนี่อ้อนโยธินเสียงหวาน

"นี่ห้องคุณพ่อ... ปะป๊ามาทำ'ไรคับ"      เจ้าหนูเจมส์ถามด้วยความสงสัยตามประสาเด็ก แต่เป็นคำถามที่ทำเอาปะป๊าถึงกับสะดุ้ง หันไปสบตาคุณพ่อที่ยืนกอดอกอมยิ้มอยู่

"ปะป๊าเข้ามาคุยธุระกับพ่อน่ะ ลูก.."

"ธุระ'ไรคับ.."

"เอ่อ.."   โยธินอึกอัก แฝดน้อยอายุยังไม่ถึง 3 ขวบแต่ทั้งคำถามและท่าทีฉอเลาะด้วยความอยากรู้ไม่ต่างจากผู้ใหญ่เลย..

"คุณพ่อเรียกปะป๊ามาคุยธุระจ้ะ" โยธินโยนคำถามให้ภากรตอบ หมั่นไส้ที่ยืนอมยิ้มอยู่ได้

"ธุระ'ไรคะ คุณพ่อ.."

ภากรเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างปะป๊าและลูกๆ

"พ่อพาปะป๊ามาดูรอยเลือดที่เตียงนอนจ้ะ.."

โยธินสะดุ้งเฮือกอ้าปากจะโวยแต่ไม่ทันสองหนูน้อยที่พร้อมใจกันทวนคำตอบด้วยสีหน้าตื่น

"รอยเลือด!!…”

“เลือดใครคะคุณพ่อ.. คุณพ่อเป็นแผลเหรอ.." สาวน้อยเจนนี่หันขวับไปถามพ่อด้วยความเป็นห่วง

"เลือดของปะ.."

"น้ำแดงหกเลอะน่ะเจนนี่..” เสียงใสแทรกขัดจังหวะก่อนที่พ่อโจจะหลุดคำพูดออกมา

“ไม่ใช่เลือดหรอกจ้ะ... คุณพ่ออย่าล้อเล่นซีคร้าบบ.... ลูกๆ ยังเด็กมากน้าาา… ตกใจกันหมดพอดี "

โยธินกล่าวเสียงอ่อนหวานและยิ้มให้   หากแต่สายตาที่จ้องมองภากรแทบจะพ่นไฟใส่ได้

"น้ำแดงหกเลอะค่า คุณพ่อ.. ไม่ใช่เลือดซะหน่อย"

ภากรพยักหน้าหงึกยอมเชื่อฟังที่ลูกสาวตัวน้อยพูด

"แล้วใครทำน้ำแดงหกคับ พ่อหรือปะป๊า"

คุณพ่อและปะป๊าสบตากันอึดใจ ต่างเรียกชื่ออีกฝ่ายขึ้นพร้อมกัน

"ปะป๊า"

"คุณพ่อ"

สองแฝดน้อยส่ายหัวดุ๊กดิ๊กด้วยความงง ปะป๊าบอกว่าคุณพ่อเป็นคนทำ คุณพ่อก็บอกว่าปะป๊าเป็นคนทำ

"แล้วใครเป็นคนทำกันแน่คะ"

โยธินถอนหายใจเฮือกเมื่อลูกสาวตัวน้อยจะถามหาความจริงให้ได้ รีบกล่าวตัดบทก่อนที่คุณพ่อจอมแสบจะตอบคำถามกวนๆ ออกมาอีก

"จะถามไปถึงไหนกันทูนหัว หือ.. ไม่ใช่ปัญหาของเด็กซะหน่อย หนูหาปะป๊าทำไมจ๊ะ บอกธุระของหนูมาดีกว่า"

"เจนนี่อยากไปเที่ยวทะเลค่ะ ปะป๊า.."

"เจมก็อยากไปด้วย เจมอยากขุดทรายสร้างปราสาท"

"หนูอยากใส่ชุดว่ายน้ำสวยๆ ด้วยค่ะ ปะป๊า"

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 13-06-2007 17:19:44
"เจมก็อยากด้วยคับ ปะป๊า"

โยธินหัวเราะ แฝดน้อยทั้งสองเลิกสนใจปัญหาน้ำแดงก็แย่งกันอยากโน่นอยากนี่ทันที

ภากรรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิด ทั้งลูกชายและลูกสาวดูเหมือนจะรักโยธินมากกว่าเขาซะอีก เพราะความอ่อนโยนและใจดี ยอมตามใจลูกทุกเรื่อง แฝดน้อยทั้งสองจึงรู้ดีว่าอะไรที่อยากได้ ถ้าขอปะป๊าแล้วจะไม่เคยผิดหวังเลย แต่กับคุณพ่อขอ 10 อย่างได้ 5 อย่าง

"น้ำแดงเป็นของปะป๊า  แต่พ่อเป็นคนทำให้น้ำแดงปะป๊าไหล  เอ้ย! หกเองล่ะ ลูก.."

ภากรกล่าวโพล่งขึ้นท่ามกลางเสียงหัวเราะของปะป๊าและเสียงแจ้วๆ ของลูก 

วงสนทนาเงียบกริบ!!!...  สองหนูน้อยหันขวับมองพ่อตาแป๋ว แต่ดวงตาของปะป๊าไม่แป๋วด้วย กลับส่งรังสีพิฆาตตรงมาที่คุณพ่อจอมกวน

โยธินขบริมฝีปากแน่นทั้งโกรธและอาย ภากรจ้องกระเซ้าเขาไม่ยอมเลิก   ต่อหน้าลูกเล็กๆ ยังพูดจาลามกอีก ร่างเพรียวลุกพรวดขึ้นยืนหยิบหมอนอิงฟาดใส่ชายหนุ่มที่นั่งอมยิ้มอยู่อย่างไม่ยั้งมือ

ภากรเอามือป้องรับแสร้งร้องโอดโอยให้ลูกช่วย   :dont2:   สองหนูน้อยหน้าตื่นรีบเข้ามาช่วยคุณพ่อด้วยการกอดขาปะป๊าโยไว้คนละข้าง

"อย่าตีคุณพ่อ.. ปะป๊า.. อย่าตี ฮึก… ฮือ…"

เสียงร้องไห้ของลูกทำให้โยธินรู้สึกตัวรีบทิ้งหมอนและทรุดตัวลงสวมกอดสองหนูน้อยไว้

"อย่าร้องลูก ปะป๊าไม่ตีแล้ว"

เจนนี่และเจมส์ร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะตกใจกลัวจริงๆ นอกจากจะไม่เคยเห็นปะป๊าโกรธมากแบบนี้มาก่อนแล้วยังตกใจที่คุณพ่อถูกตีด้วย

ภากรยิ้มแห้งๆ เมื่อเห็นลูกตกใจจนร้องไห้ รีบขยับเข้าสวมกอดและช่วยปลอบให้หายตกใจ  :try2:

"ไม่ร้องนะลูก.. ปะป๊าหยอกพ่อเล่นเท่านั้น พ่อไม่เจ็บซะหน่อย" 

"ไม่เจ็บจริงเหรอค้า…"

"จริงซีจ้ะ ไม่เจ็บสักนิดเลย"

"ปะป๊าหยอกคุณพ่อเล่นเหรอคับ" หนูน้อยเจมส์หันมาถามโยธินเพื่อความแน่ใจ

"เอ่อ.. จ้ะ ลูก... เราหยอกกันเล่น ไม่ได้โกรธกันจริงหรอกนะ"

"ปะป๊าไม่โกรธพ่อหรอกจ้ะลูก.. เรารักกัน.. จริงมั้ยปะป๊า.."   ภากรออกแรงกอดรัดสามชีวิตที่อยู่ในอ้อมกอดแน่นขึ้น

โยธินหน้าแดงทั้งจากคำพูดและการกระทำ ลูกสองคนอยู่ในอ้อมกอดเขา แต่เขาอยู่ในอ้อมกอดของภากร จะดิ้นรนหนีก็ไม่ได้ด้วย เสียเปรียบชะมัด

"ถ้าไม่เชื่อว่าเรารักกัน พ่อจะแสดงให้ดู"  ภากรหอมแก้มปะป๊าหนึ่งฟอดโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว

โยธินนั่งอึ้ง เสียงหัวเราะของเด็กๆ ทำให้เขารู้สึกตัว สองหนูน้อยพากันหอมแก้มเขาเลียนแบบภากร และหันไปหอมแก้มคุณพ่อคนละที

"ปะป๊าหอมแก้มคุณพ่อบ้างซีคะ"

"เอ่อ.." โยธินอึกอัก

"คุณพ่อยังหอมแก้มปะป๊าเลย ปะป๊าก็ต้องหอมแก้มคุณพ่อบ้าง" เจ้าหนูเจมส์ให้ความเห็นอย่างผู้ใหญ่

โยธินเหลือบตามอง สบดวงตาอ่อนโยนของอีกฝ่ายก็ใจอ่อน

"กะ .. ก็ได้"

จมูกโด่งสัมผัสแก้มสากหนึ่งฟอดก็รีบผละออก  แต่ถูกมือใหญ่รั้งไว้และกระซิบ 3 คำเบาๆ ก่อนคลายอ้อมแขนและลุกขึ้นยืน

"เอาล่ะ เด็กๆ ใครจะไปทะเล ตามพ่อไปเก็บเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลย"

"เจนนี่ไปค่ะ.. เจมไปด้วยคับ..        เย้ เย เย คุณพ่อใจดี ๆ "   สองหนูน้อยกระโดดโลดเต้นดีใจสุดๆ  :really2: :like2:

ภากรจูงลูกออกจากห้องไปนานแล้ว โยธินยังนั่งตะลึงอยู่ในท่าเดิม เสียงกระซิบเมื่อครู่ยังดังก้องอยู่ในหู

"ฉันชอบนาย.."  


..โอ!!.. สวรรค์... เขาไม่ได้ต้องการเป็นแค่คู่ขาของโจ เขาต้องการมากกว่านั้น เสียงกระซิบเมื่อครู่บอกให้รู้ว่าความรู้สึกของเขาและโจตรงกัน   ความหวังที่จะได้เปลี่ยนจาก คู่ขา เป็น คนรักจริงๆ ก็มีโอกาสเป็นไปได้ซีนะ...


โยธินรู้สึกเขินกับความนึกคิดของตัวเอง ร่างเพรียวลุกขึ้นเดินยิ้มกริ่มออกจากห้องอย่างมีความสุข


..อนาคตจะเป็นยังไงก็ช่าง ขอแค่มีลูกๆ และผู้ชายมาดขรึมขี้เก๊กที่แอบซ่อนความกวนไว้ภายในคนนี้ อยู่เคียงข้างเขาก็เพียงพอแล้ว..



++++++  THE END  +++++++





My baby  ภาค 1  จบแค่นี้แล้วนะคะ    :teach:


จะมีตอนพิเศษ  My baby special    อีก 2-3 ตอน  ก่อนจะขึ้นภาค 2  ซึ่งใช้ชื่อเรื่องว่า  Sweet daddy   ภาค 2 รวมเล่มขายค่ะ  ไม่มีลงให้อ่านในบอร์ด    แต่ภาค 3 มีลงให้อ่านค่ะ   

เรื่องนี้สำคัญที่ ภาค 1  ต้องรู้ก่อนว่าความสัมพันธ์ของพ่อโจและปะป๊าโยมีความเป็นมายังไง   ภาค 2  ไม่ได้อ่านก็ไม่เป็นไร  ข้ามมาอ่านภาค 3 ได้เลย  ก็แค่งงๆ เล็กน้อยเท่านั้น   แต่โดยรวมแล้วก็เป็นการถ่ายทอดความน่ารักของครอบครัว  พ่อ+พ่อ+ลูกๆ


เจ๊หมวยไม่ได้เน้นเรื่องการขายหนังสือค่ะ  แต่ถ้าชอบอยากซื้อเก็บไว้ก็ยินดี   เรื่องนี้ทำรวมเล่มทั้งภาค 1 และ 2   ในส่วนของภาค 1   จะรีไรท์เนื้อเรื่องใหม่และเพิ่มเติมเนื้อหาครบถ้วนกว่าที่โพสให้อ่าน  มีตอนพิเศษเพิ่มจากนี้อีก 5-6 ตอน   บางตอนเขียนขึ้นใหม่และไม่มีลงในบอร์ด   สนใจไปดูรายละเอียดที่บ้านพ่อได้ค่ะ


ถ้าว่าง  เจ๊จะเอาตอนพิเศษที่เคยโพสลงที่บอร์ดมาโพสให้ที่นี่    ใครใจร้อนก็ตามไปหาอ่านที่บอร์ดเจ๊หมวยได้ค่ะ 


ยังไงก็ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะคะ    ดีใจที่ทุกคนตอบรับนิยายแนวแด๊ดดี้เลิฟของเจ๊หมวย  ไม่มีใครร้องโห่เลย  ขอบคุณมากๆ


:bye2:

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 13-06-2007 17:33:31
ขอบคุณเจ้หมวยคร้าบบบบบบบบบ

 o14 o15
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-06-2007 17:57:22
ขอบคุณเช่นเดียวกันค่ะ  เรื่องนี้น่ารักมาก  :impress:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-06-2007 18:05:44
ขอบคุณเจ๊หมวยมากจ๊ะ 

แล้วจาวางแผงเมื่อไหร่จ๊ะ สะกิดกันบ้างจาอุดหนุนนะ o15
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 13-06-2007 20:19:45
ขอบคุณครับ  เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: jeje ที่ 13-06-2007 21:03:39
 :give2:ขอบคุณเจ๊หมวยมากค่ะ.....อ่านเรื่องนี้ไปก็อมยิ้มไป............เป็นคู่ที่น่ารักมากๆ:give2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Electrolyte ที่ 13-06-2007 21:33:08
ขอบคุณคร้าบเจ้หมวยเอาเรื่องใหม่มาต่อเร็วๆๆนะ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 14-06-2007 03:31:43
   o13   อ่า.. จบภาค 1 ซะแล่ะ  กะลังสนุกเยย  อิอิ

เมื่อคืนแอบไปอ่านมาแล่ะ ฮี่ๆ แต่อ่านถึงไหนมิรู้ ง่วงเอิ้กๆ


ยังไง จะรออ่าน ภาค สองต่อนะค๊าเจ๊หมวย :impress:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 14-06-2007 15:04:08
จบตอนแล้วเหรอ   เรื่องน่ารักมากๆเลยคับ ขอบคุณนะคร้าบบ

ชอบจังเลย นิยายแนว พ่อ พ่อ ลูกๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 14-06-2007 19:54:06
ขอบคุณเจ้หมวยครับ เรื่องน่ารักมากๆ ครับ

ชักชอบนิยายแนนี้แล้วซิ

รักเจ้หมวยที่ซู๊ดดดดดดดดดดดดดด

 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby special แฟนคลับ my baby พลาดตอนนี้ไม่ได้นะ!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 15-06-2007 13:04:23

My baby special 1

**************





สวนอาหาร " ธีรวัฒน์ "

เวลา 19.30 น.



"เอ้า! Cheer~~ กันหน่อยพวกเรา ....."

ภากรถอนหายใจเมื่อได้ยินเสียงเชียร์เป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้ รู้แต่ว่าเชียร์กันทุก ๆ  5 นาที ตั้งแต่เปิดสวนอาหารมาไม่เคยมีลูกค้าโหวกเหวกเฮฮาขนาดนี้มาก่อน ส่วนใหญ่ถ้าจะส่งเสียงดังมักจะสำรองเป็นห้อง  แต่หนุ่มสาวกลุ่มนี้กลับขอจองด้านนอกบอกว่าอากาศเย็นสบายดี อุตส่าห์ให้ผู้จัดการไปบอกว่าไม่คิดค่าห้องและมีคาราโอเกะแถมให้ด้วยก็ยังไม่ยอมย้าย

"โจ.. ลูกๆ อิ่มแล้วนะ… " เสียงทุ้มนุ่มฟังสบายหู ระยะหลังนี้ภากรได้ฟังเสียงนี้ทีไรรู้สึกหายเหนื่อยทุกที

โยธินมองตามสายตาร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหวานแย้มยิ้มเมื่อเห็นความสนุกสนานของกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่นั่งเฮฮากันอยู่

"วันนี้ลูกค้าเยอะนะ… งั้นผมพาลูกกลับบ้านก่อนดีกว่า"

"เดี๋ยวซี…รอกลับพร้อมกัน.."

"อ้าว! คุณไม่อยู่ช่วยรับลูกค้าล่ะ.. ปล่อยให้คุณหว่องดูคนเดียวจะดีเหรอ.. คุณเป็นเจ้าของนะ "

"ก็เป็นเจ้าของน่ะซีถึงจะกลับ เป็นลูกจ้างจะกลับได้เหรอ… ลูกๆ ล่ะ.."

"ดูปลาอยู่ทางโน้น"

ภากรส่ายหน้า ….ดูจัง ดูทุกครั้งที่มา ไม่รู้จักเบื่อ…

"ปะป๊าขา~~ ปะป๊า~~ ”   พนักงานจูงแฝดน้อยทั้งสองมาส่งและเดินเลี่ยงไป

"ปะป๊าคับ  เจมส์อยากกินไอติม…"

ทุกวันนี้เสียงเรียกหาพ่อของลูกๆ มักจะเป็น "ปะป๊า" โดยเฉพาะถ้ายืนอยู่ด้วยกัน 2 คน ส่วนใหญ่จะได้ยินเสียงเรียกปะป๊าก่อนคุณพ่อเสมอ

"ลูกอิ่มท้องจะแตกแล้วไม่ใช่เหรอ เจมส์.."

โยธินดักคอลูกชายตัวน้อย  เพราะเมื่อครู่ให้กินข้าวอีกแค่ 2 คำสุดท้ายก็บอกว่าอิ่ม ๆ

“เจมอิ่มข้าว เปล่าอิ่มไอติมซะหน่อย ปะป๊า.. เจมจะกินไอติมคับคุณพ่อ..” หนูน้อยหันไปดึงมือภากรเขย่า

ภากรหัวเราะ น้อยครั้งนักที่ขอปะป๊าแล้วไม่ได้

“เจนนี่อยากกินไอติมด้วยค่ะ”

ยังไม่ทันได้เอ่ยตอบลูก บริกรก็เดินเข้ามารายงาน

"เสี่ยครับ.. ลูกค้าที่ห้องวีไอพี 2 ขอเชิญหน่อยครับ"

"มีปัญหาอะไรรึเปล่า"

"เปล่าครับ  เขาบอกว่ารู้จักกับเสี่ย  ชื่อคุณลอร่าครับ.."

ภากรพยักหน้ารับทราบบอกว่าเดี๋ยวตามไป

"ให้ลูกกินไอติมคนละถ้วยแล้วรออยู่แถวนี้นะ โย.. เดี๋ยวกลับพร้อมกัน.."

ร่างเพรียวแค่นหัวเราะ  ได้ยินชื่อลูกค้าก็รู้ทันที

"จะดีเหรอ.. คุณลูกค้าอาจมีเรื่องยาวคุยกับเสี่ยนะครับ อาจเป็นเรื่องเก่าๆ ที่ต้องใช้เวลารื้อฟื้นกันหน่อย ถ้ายังไงผมพาลูกกลับก่อนดีกว่า.."

ร่างสูงใหญ่โอบไหล่ร่างเพรียวเข้ามากัดฟันกระซิบด้วยใบหน้ายิ้มละมัย

"อย่ามาค่อนขอดกันตรงนี้นะ บอกให้คอยก็คอย ถ้าออกมาไม่เจอล่ะก็ คืนนี้นายไม่ได้นอนแน่ ปะป๊า…"

ภากรเดินเลี่ยงไปหาลูกค้า   โยธินมองตามหลังด้วยความหมั่นไส้กึ่งฉุนนิดๆ …จอมเผด็จการ เชอะ !!!…
เจ้าหนูเจมส์กระตุกมือพ่อร้องจะกินไอติมอีก  โยธินส่ายหน้าด้วยความระอาแต่ก็ยอมพาไปหาที่นั่งกินโดยดี เขาพาลูกไปนั่งโต๊ะว่างที่อยู่ใกล้ๆ กับกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่กำลังเลี้ยงเฮฮากันอยู่ ไม่มีใครมานั่งใกล้ๆ ด้วยคงเพราะหนวกหู

“ปะป๊าขา.." หนูน้อยเจนนี่สะกิดพ่อขณะนั่งรอไอศครีม

"จ๋า..ลูก.."

"ตรงนี้หนวกหูจังเลยค่ะ เราเปลี่ยนโต๊ะกันเหอะ"

โยธินหัวเราะ ขนาดเด็กยังหนวกหูทนไม่ไหวนับประสาอะไรกับผู้ใหญ่…

"แป๊บเดียวน่าลูก กินไอติมแค่ 2-3 คำก็หมดแล้ว.. วันนี้คนเยอะด้วย อย่าไปแย่งที่นั่งลูกค้าเลย.."

"เขาหัวเราะไรกันอ่ะ ปะป๊า.." เจ้าหนูเจมส์ขมวดคิ้วยุ่ง หันไปจ้องมองโต๊ะข้างๆ ตาไม่กระพริบ

"เขาก็สนุกกันน่ะซี หันมาเจมส์.. อย่าไปมองแบบนั้น เสียมารยาท"

"ทำไมเขาต้องตะโกนด้วยคะ ปะป๊า.."

คำถามอีกร้อยแปดจากสองเด็กน้อยทำเอาโยธินแทบอยากจะช่วยกินไอติมให้หมดเร็วๆ เขาคุ้นชินกับการสรวลเสเฮฮาของกลุ่มคน ไม่ใช่แค่ในเวลาออกทัวร์แต่พบเห็นบ่อยในสถานบันเทิงจึงไม่ได้รู้สึกรำคาญ  เห็นคนรื่นเริงหัวเราะสนุกสนานก็รู้สึกแฮปปี้ตามไปด้วย  ดีกว่าเห็นคนนั่งหน้าเศร้าอมทุกข์  เพียงแต่นึกแปลกใจว่าทำไมเด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้ไม่เลือกสถานที่ให้เหมาะสมกับวัยและโอกาส หรือว่าอาจจะมาโจ้กันให้อิ่มก่อนแล้วค่อยไปต่อตอนดึกก็เป็นได้


My  baby Special  
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby แฟนคลับ my baby พลาดตอนนี้ไม่ได้!!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 15-06-2007 13:35:56
"ขอให้เล้าเป็ดของเรา เอ๊ย! ของพวกเราทุกๆ คน มีแต่สมาชิกน่ารักๆ เข้ามาเยอะๆ เอ้า ! cheer~~"    :laugh3: เสียงใสของ พี่  NAEW   Global Moderator  ของเล้าเป็ด  เรียกน้องๆ ช่วยกันเชียร์อีกรอบ

“พี่แน๋วๆ  บาส ว่านะ ถ้าจะให้เล้าของเรามีคนเข้าเยอะๆ ต้องทำให้บอร์ดนิยายของเรามีนิยายของนักเขียนดังๆ  มากที่สุดก่อน "   :give2:

“พวกพี่ก็พยายามกันอยู่   เห็นมั้ยล่ะว่าตอนนี้  Boy’s love story ของเรา มีนิยายให้อ่านลานตา    o2   จนเลือกไม่ถูกแล้ว คิๆ   ว่าแล้วก็อยากจะขอบคุณนักเขียนทุกๆ คนที่อนุญาตให้เราเอาเรื่องมาโพสลงในบอร์ด   รวมถึงนักเขียนที่อุตส่าห์สละเวลามาโพสนิยายด้วยตัวเอง    งั้นแก้วนี้สำหรับนักเขียนทุกๆ ท่าน  เอ้า!!  เชียร์~~~~ ” 

สมาชิกในโต๊ะยกแก้วขึ้นเชียร์อย่างว่าง่าย  แต่จิบกันคนละอึกเพราะเชียร์ติดกันหลายรอบ  หน้าเริ่มแดงแล้ว

"แต่ถ้าเยอะ.. ต้องเยอะอย่างมีคุณภาพนะฮับ   นักเขียนที่มาลงนิยายของตัวเอง   ต้องมีสปิริตด้วยนะ   ไม่ใช่มาโพสทิ้งยั่วน้ำลายไว้ 2-3 ตอน   แล้วหาย~~~~ เข้ากลีบเมฆไปเลย ทวงเท่าไรก็ไม่มา แบบนี้ไม่ดีนะ"    อีกหนึ่งความเห็นที่ออกจากปาก Poes    ขณะกำลังเคี้ยวตุ้ยๆ อยู่

"แหม.. ถ้าเรียกก็แล้ว… จุดธูปก็แล้ว   :call:    ยังไม่มา…  ก็ต้องถือว่าท่านมีธุระไม่ว่างจริงๆ ที่เหลือพวกเราก็จิ้นต่อกันเองไม่เห็นเป็นไรเลย..  "  Thip ให้ความเห็นจบก็ตักทอดมันปลากรายเข้าปาก

“แต่หนูอ่านเป็นอย่างเดียว  จิ้นไม่เป็นจะทำไงอ่ะ ”  o17    น้ำค้าง    โอดครวญ

อีกหลายความคิดเห็นประดังประเดกันเข้ามาจน หมูพูห์     ต้องยกมือขึ้นเหมือนห้ามมวย

"พอแล้ว พอแล้ว  จบประเด็นเรื่องบอร์ดนิยายแค่นี้เหอะ  อย่าเถียงกันเลย  เรามาฉลองการกลับมาของพี่เป็ดกันดีกว่า     แก้วนี้สำหรับพี่เป็ดของพวกเรา   เราขอเป็นกำลังใจและจะยืนเคียงข้างพี่เป็ดตลอดไป   เอ้า!!  เชียร์~~~ ”   

หมูพูห์      หนึ่งใน Moderator  ของเล้าฯ เรียกเพื่อนๆ น้องๆ  ในโต๊ะให้ช่วยกันเชียร์อีกเป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้จำไม่ได้

ทุกคนยกแก้วในมือขึ้นจิบอีกเพียงเล็กน้อย  เพราะต้องการเซฟพื้นที่ในกระเพาะไว้ใส่อาหาร

หนุ่มโจ    ลุกขึ้นยืน  (ตัวละครสมมติ   เนื่องจากแฟนคลับของ my baby  ไม่มีใครชื่อโจ   จำเป็นต้องสมมติขึ้น )     

"ผมว่าเราเปลี่ยนประเด็นคุยเถอะ เอาเรื่องใกล้ตัวพวกเราตอนนี้ดีกว่า"   กล่าวจบก็เหลือบสายตากรุ้มกริ่มไปที่โต๊ะข้างๆ    o18

"ดูโต๊ะข้างๆ พวกเราซีครับ น่ารักมากๆ เลยอ่ะ" 

สายตาทุกคู่หันมองตามทันที ไอ้ที่กำลังกินอยู่ก็เหลียวไปทั้งช้อนทั้งส้อม

"อ๊าาาา~~~~ใช่ ๆๆ น่ารักเนอะ … :impress2:   เห็นตั้งนานแล้วเด็ก 2 คนนั้นยังกะฝาแฝดแน่ะ " Jeje  กรี๊ดเสียงดังแต่โจกลับส่ายหน้า

"ที่ผมบอกว่าน่ารักน่ะ ผู้ใหญ่ครับไม่ใช่เด็ก… เด็กน่ารักไม่ใช่เรื่องแปลกครับ แต่ผู้ใหญ่น่ารักนี่สิ.. น่าสน…"

ken_krub   ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ฉุดให้โจนั่งลง เพราะเจ้าตัวเล่นยืนทำสีหน้ากะลิ้มกะเหลี่ยเหมือนเห็นขนมหวานแล้วอยากจะกินงั้นแหล่ะ

บริกรเดินมาเสิร์ฟอาหาร 2 ชุดประกอบด้วย    ปอเปี๊ยะกุ้งมะม่วง ปลาหิมะอบกรอบ หอยเชลล์นึ่งซีอิ๊วขิง  ต้มโคล้งจักรพรรดิ   ผัดผักรวมมิตร หมูแดงโซโห และโกยซีหมี่ …

"เฮ้ย!!…ใครสั่งโกยซีหมี่วะ.."    Sun   โวยเมื่อเห็นเมนูชุดนี้มีอาหารจานเดียวมาด้วย

"นาวสั่งเอง   นาวกะลังอยากกิน เอามา!!..."   มะนาว  เคลียร์พื้นที่ข้างหน้าตัวเอง .... อาหารจานเดียวจริงๆ   เพราะดูท่ามันกะจะกินคนเดียว....

"กินเก่งอย่างนี้เดี๋ยวพี่เจสก็อุ้มไม่ไหวหรอก.."   MyLoveMyBabe  แซวน้องมะนาว 

“ไม่เป็นไรคร้าบ~~ อุ้มไม่ไหวก็ขี่หลังได้~~ แต่พี่เจสไม่ยอมให้นาวอยู่ข้างหลังหรอก  ยังไงก็ต้องอุ้มคร้าบ”      เสียงใสตอบด้วยสีหน้าทะเล้น  เรียกรอยยิ้มให้เพื่อนๆ ในโต๊ะ

"น้อง... ผู้ชายกับเด็กๆ โต๊ะนั้นน่ารักจังเลย เค้ามาทานที่นี่กันบ่อยรึเปล่า"  

"เค้าเป็นพ่อลูกกันรึเปล่า ..."    Foam    และ Electrolyte  ช่วยกันซักบริกรด้วยความอยากรู้   คนอื่นๆในโต๊ะพากันเงี่ยหูฟังด้วย

"ครับ มาทานบ่อย เป็นพ่อลูกกัน เด็กๆ เป็นฝาแฝดด้วยครับ "

kei_kakura   ตบโต๊ะดังปัง!!!!  เล่นเอาพี่ๆ  เพื่อนๆ สะดุ้งเฮือกหันมองตาเขียว เจ้าตัวหัวเราะแหะ ๆ 

"กะแล้วว่าต้องเป็นฝาแฝด….   แฝดจิงๆ  ด้วยยยย... แหะ ๆ "

"มาทานกันบ่อยมั้ยไหมคะ "     Krappom     เอ่ยถามต่อด้วยความอยากรู้

"เอาแน่ไม่ได้ครับ    เมื่อก่อนนานๆ มาที   ช่วงนี้มาทุกเย็นเลย   ลูกๆ เสี่ยน่ารักครับยิ่งโตยิ่งช่างพูด"

"ลูกเสี่ย!!!!…."  

แขกช่างซักประสานเสียงกันทำให้บริกรเริ่มลำบากใจรีบขอตัว    แต่โดนหลายมือดึงไว้ไม่ให้ไปเพราะความอยากรู้

"เสี่ยคือผู้ชายคนนั้นเหรอ.. "     NonG_MaN     เอ่ยซักบ้างหลังจากนั่งเงียบอยู่นาน

"เปล่าครับ เสี่ย..เอ่อ.. เป็นเจ้าของสวนอาหารครับ.."

"ก็ไหนบอกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อเด็กไง.."         :confuse:  ลูกลิงตัวอ้วน  ซักเข้าประเด็นที่สงสัย

"ครับ.. คุณผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อเด็กผู้หญิงครับ.."
 
"อ้าว!.  แล้วบอกว่าเด็กเป็นฝาแฝดกันได้ไง..."    :confuse:

บริกรเริ่มอึกอักเพราะเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน พนักงานในร้านทุกคนรับทราบแต่เพียงว่าคุณหนูทั้งสอง คนหนึ่งเป็นลูกของเสี่ยและอีกคนเป็นลูกของคุณโยธิน และเด็กทั้งสองก็เป็นฝาแฝดกันจริงๆ เหมือนกัน

"เด็กสองคนเป็นฝาแฝดกันจริงๆ  นะครับ   แต่เด็กผู้ชายเป็นลูกของเสี่ย..     ผมขอตัวไปทำงานก่อนครับ"

บริกรรีบเดินผละไป ปล่อยให้สมาชิกในเล้าเป็ดเดาสถานการณ์ไปเรื่อยเปื่อย ใครนั่งใกล้ใครก็หารือกันไป ประเด็นที่จะพูดคุยถูกเปลี่ยนเป็นเรื่องของคุณพ่อกับแฝดน้อยที่กำลังนั่งกินไอติมกันอยู่

วันนี้  Moderator  ของเล้าเป็ด นำโดย หมูพูห์  พี่แน๋ว  thip poes  และ sun  นัดสมาชิกในเล้าที่พอจะนัดได้มาเลี้ยงสังสรรค์เนื่องในโอกาสอยากจะกินเฉยๆ  ไม่มีโอกาสอื่นใดเป็นพิเศษ    พอชวนมากินเท่านั้นคนที่มาลงชื่อก่อนเลยก็เป็น   น้องบาส   มะนาว  ตามด้วย   Krappom   น้ำค้าง   Foam     MyLoveMyBabe    Jeje     ส่วนอีก  6  คนที่ไม่ได้ลงชื่อแต่ตามมาที่หลังก็มี  Joe     NonG_MaN    ลูกลิงตัวอ้วน    kei_kakura     Electrolyte    และ     ken_krub

เสียงจ้อกแจจอแจฟังไม่ได้ศัพท์ ปากพูดแต่มือก็ฉกอาหารตรงหน้าอย่างคล่องแคล่วว่องไว มีเพียงคนเดียวที่แทบจะไม่ได้กินเลยเพราะสายตาคอยจับจ้องไปที่โต๊ะข้าง ๆ   สมาชิกผู้นั้นก็คือ หนุ่มโจ ผู้เปิดประเด็น คุณพ่อลูกแฝดที่แสนจะน่ารักน่าชัง

"ผมจะไปถามให้รู้แน่ชัดเอง!!.."     o17
 
โจลุกพรวดขึ้น น้ำเสียงหนักแน่นสีหน้าจริงจังขนาดนั้นไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน

"อะไรเหรอ.."   ken_krub     สะกิดถาม   :confuse:

"เรื่องพ่อลูกแฝดน่ะซี   จะไปถามให้รู้เรื่องว่าเด็กเป็นลูกใครกันแน่.."

เหล่าสมาชิกอ้าปากค้างไปตามๆ กัน บ้างก็คีบอาหารค้างไว้

"อะไรจะอยากรู้ขนาดนั้น.. "  Sun   งึมงำและเคี้ยวอาหารในปากต่อ

"ไม่เหมาะมั้ง คุณโจ.."    Thip  กล่าวเตือนแต่กลับมีอีกหลายคนยุส่ง

"เอาเลยๆ  พี่โจไปถามเลยค้าบ  อยากรู้เหมือนกัน เขาไม่ว่าหรอกดูท่าทางใจดี ยิ้มหวานด้วยอ่ะ …ดูดิ…"   น้องบาส   ยิกๆ ให้โจไปถาม

“ผู้ชายอะไรไม่รู้ผิวเนียนหน้าหวาน  :o8:  เข้าไปถามเลยโจ.. พี่แน๋ว  ก็อยากรู้เหมือนกัน”

เสียงส่วนใหญ่ยุให้ไปถามยกเว้น หมูพูห์  และ thip  ที่เห็นว่าไม่ค่อยเหมาะสม



My  baby Special     o13








ขอบคุณคุณพูห์  ที่ช่วยอ่านตอนนี้ให้เจ๊หมวยก่อนนำมาลง   

เฉพาะเพื่อนๆ น้องๆ ที่เข้ามาคอมเม้นท์ในกระทู้  my baby  ทั้งหมด    วันนี้เจ๊หมวยพาไปกระทบไหล่ปะป๊าโย  หวังว่าจะชอบนะคะ

แต่ถ้ามีใครไม่ถูกใจ บอกนะคะ  จะหยุดโพสและตัดตอนนี้ออก





หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-06-2007 14:07:53
ชอบจ๊ะเจ๊หมวย หนุกดีออกตอนนี้เห็นภาพเลย  :laugh:

รออ่านต่อจ้า  o13





ปล. สั่งของกินกันมาเยอะแยะ  แล้วมื้อนี้ใครจ่ายอะ   o12
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-06-2007 14:09:37
หุหุหุหุ

แฟนคลับเจ้หมวยมาลงชื่อด่วนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

 o13
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 15-06-2007 16:57:19
รีบมาลงชื่อก่อนอาหารจะเกลี้ยงโต๊ะ  พร้อมด้วยกำลังใจมาให้เป็นกับแกล้มครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-06-2007 20:11:01
หุหุ ชอบบบบบบบบบบบมากกกกกก  ว๊าว ได้กระทบไหล่กับป๋าโย น้องเจนนี่ น้องเจมส์  :like6:  :like6:
+1 เลยค่า  :interest:

ปล. นั่นดิ มื้อนี้ใครจ่าย ... ขอขาหมูทอด เพิ่มอีกจานได้ปะ  :laugh:  :laugh:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: NonG_MaN ที่ 16-06-2007 00:02:10
 :laugh: :laugh:

ดีจายจัง มีชื่อเราอยู่ในเรื่องด้วย ฮิๆๆๆๆๆ

แอบเขินนะเนี่ย 55555+  :o8:   :-[
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 16-06-2007 03:00:38
 o17 o17 o17  ฮ่าๆๆ  ( โอย ขำท้องคัดท้องแข็ง)     :seng2ped: 


เจ๊หมวย ยำ.......... รสแซ่บ  Moderator  เหยอคะ อิอิ      :kikkik:


อาวอีก  อาวอีก  ฮา มากๆ    ของแกล้มเยอะดีจัง  คิคิ   :haun5:


เพิ่งอ่าน ที่ บอร์ดพ่อ ..อ่านมาอย่างฮา.... มาเจอ ในเล้า อีกเวอร์ชั่น ...

ฮากระจาย.........ฮ่าๆๆๆๆ       :pandalaugh:

** มิรู้จะเขิล ยังไง มันฮา มากกว่า..เอิ้กๆ **    :laugh: 

 :o8:     ขอบคุณค่ะเจ๊... ที่ เอา ชาวเล้าเป็ด มายำรวมมิตร คิคิ  ( แซ่บ เจงๆ จานนี้)     :laugh3:



ป๋อล๋อ* ...อ่านั่นจิ  สั่งต้างเยอะ แย้วใครจ่ายง่ะ.... :try2:
(.... โกยซิหมี่ ก้อมิได้กิน งื่อๆ มะนาวอ่ะมิยอมแบ่งพี่ซันเยย)

....     o9  มิยอมง่า... มิอิ่มเยย  อ้าว..     o6

 :teach:     >> โอ๊ะๆ ได้ยิเสียงแว่วๆ ว่า...งานนี้ เจ๊หมวยจ่าย...โฮ่ะๆ   :o9:
อ่า..................พวกเรา................ลุย    o7
 
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 16-06-2007 07:30:35
เห็นรายการอาหารแล้วหิว   :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

น่ารักมากครับ 


รักเจ้หมวยที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดดดดด   :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 16-06-2007 16:08:56
  ว๊าว ได้กระทบไหล่กับป๋าโย น้องเจนนี่ น้องเจมส์ 

เจ๊หมวยน่ารักมั่กๆๆ  อิอิ  มาลงต่ออีกนะค้าบบ :like6:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 16-06-2007 21:24:43
“ปะป๊าค้าบ.. กิน 2 ถ้วยได้เปล่า”   เจ้าหนูเจมส์รีบถามเมื่อไอติมตัวเองใกล้จะหมดแล้ว

“ไม่ได้คับ   แค่ถ้วยเดียวพอ เดี๋ยวปวดท้อง.. ”

“เอากลับไปกินบ้านได้มั้ยคะ ปะป๊า..”

โยธินส่ายหน้า

“เอากลับไปก็ละลายหมดซีลูก..  ไว้พรุ่งนี้ค่อยมากินใหม่”

“ขอโทษครับ!!..”

โยธินเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงทัก ส่งยิ้มให้มีอย่างมีอัธยาศัยเมื่อเห็นว่าเป็นลูกค้าที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ

“ครับ มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนและคำถามที่ติดปากเป็นนิสัยของคนที่ทำงานด้านบริการทำให้เด็กหนุ่มที่ยืนตรงหน้าหัวใจแทบละลาย

“เอ่อ.. คือ ผมกับเพื่อนๆ มีปัญหาข้องใจที่ไม่มีใครตอบได้ อยากขอความกรุณาให้ช่วยตอบหน่อยครับ”

คิ้วเรียวขมวดมุ่นไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเขา หรือเป็นเพราะเขานั่งอยู่ใกล้สุด

“คำถามอะไรหรือครับ.. ถ้าเป็นปัญหาเชาว์ผมไม่สันทัดนะ.. ไม่เคยตอบถูกเลยสักข้อ”     

ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ใบหน้าเนียน...สวยหวานขึ้นในทันทีเล่นเอาหนุ่มโจยืนตะลึง

“ไม่ใช่ปัญหาเชาว์ครับ   เป็นปัญหาหัวใจ เอ่อ.. เอ้ย!! มะ.. ไม่ใช่ครับ..”

โยธินหัวเราะเมื่อเห็นเด็กหนุ่มหน้าแดงและมีอาการตื่นเต้น จึงชวนให้นั่งเพื่อให้รู้สึกสบายและเป็นกันเอง

“เชิญนั่งก่อนซีครับ..”

แฝดน้อยทั้งสองนั่งเงียบกริบเมื่อมีคนแปลกหน้ามาร่วมวงด้วย

“ขอบคุณครับ... เอ่อ..เด็กสองคนนี้เป็น...ลูก....หรือเปล่าครับ น่ารักจังเลย..”       โจเข้าประเด็นอย่างไม่รอช้า รู้ว่าเพื่อนๆ นั่งเหล่และเงี่ยหูฟังกันอยู่

“ครับ” โยธินยิ้มให้เด็กหนุ่ม ได้ยินคำถามนี้ไม่ว่าจากใครก็ตาม...รู้สึกภูมิใจและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

“เป็นฝาแฝดด้วยรึเปล่าครับ หน้าตาคล้ายๆ กัน”

“ใช่ครับ...ฝาแฝด..เกิดห่างกัน 11 นาทีครับ...” ระหว่างพูดคุยมือก็คว้ากระดาษทิชชูเช็ดคราบช็อคโกแลตที่ริมฝีปากลูกๆ

...อา !!! ทำไมกิริยานุ่มนวลอ่อนโยนอย่างนี้... เป็นพ่อหรือแม่กันนะเนี่ย... โจรำพึงในใจนั่งมองจนลืมตัว รู้สึกอีกทีเมื่อถูกชายหนุ่มตรงหน้าถามย้ำ

“ตกลงจะถามอะไรครับ..คุณ เอ่อ...”

“ผม เอ่อ.. ผมชื่อ โจ ครับ ”

“ชื่อโจ!!!!..”

โจสะดุ้ง เมื่อเด็กน้อยทั้งสองทวนชื่อเขาพร้อมกันตามด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

“ชื่อเหมือนคุณพ่อเลย  ปะป๊า..”

โยธินยิ้มและพยักหน้าให้ลูก ๆ

“เอ่อ..คุณก็ชื่อโจเหมือนกันหรือครับ”

“เปล่าครับ ผมชื่อโยธิน..”

“คุณโยธิน เอ่อ.. ยินดีที่ได้รู้จักครับ..”       

โจนั่งบิดไปมามีความสุขที่ได้รู้จักคนที่ดูดีขนาดนี้ ลืมไปชั่วขณะว่าตัวเองมานั่งทำอะไรจนกระทั่งได้ยินเสียงเชียร์ของกลุ่มเพื่อนๆ ที่ดังขึ้นเหมือนจงใจจะเรียกสติ

“เอ่อ.. คือว่าคุณพ่อของเด็กชื่อโจหรือครับ”

“ครับ”

“เอ๋?...”   โจเกาหัวกับคำตอบที่ได้รับ จังหวะเดียวกับที่เด็กๆ กินไอติมหมดถ้วยแล้วก็เริ่มอยู่ไม่สุข

“ปะป๊า เจมจะไปหาคุณพ่อ..”

“คุณพ่อรับแขกอยู่ นั่งเล่นแถวนี้ก่อนลูก..”

“งั้นหนูไปดูปลาต่อนะคะ ปะป๊า..”

“ก็ได้จ้ะ..”

โยธินเหลียวซ้ายขวาก่อนจะพยักหน้าเรียกพนักงานสาวที่ยืนว่างอยู่มาพาเด็กๆไปดูปลา เจ้าหนูตัวป้อมเดินอ้อมหลังพ่อมายืนข้างๆ หนุ่มโจและถามเสียงแจ๋ว

“ชื่อโจเหรอคับ  ชื่อเหมือนคุณพ่อเลย”

“ครับ”  โจรับคำเด็กน้อยและหัวเราะให้

“แต่คุณพ่อหล่อกว่า  :laugh: คุณพ่อตัวโตกว่าด้วย..”

“เจมส์...เสียมารยาทนะลูก..” โยธินดึงหนูน้อยเข้ามาและหันไปทางพนักงานสาว “พาน้องไปดูปลาไป..”
โยธินยิ้มให้เด็กหนุ่ม

“ขอโทษด้วยครับ.. เด็กกำลังช่างซัก พูดได้ทั้งวัน ถามจนบางครั้งผมก็ตอบไม่ถูก อ้อ.. จริงซี มีเรื่องจะถามไม่ใช่เหรอครับ เรื่องอะไรเหรอ...”

โจใจเต้นตึกตักเมื่อเหลือตัวเองกับชายหนุ่มหน้าหวานนั่งคุยกันสองต่อสอง   (ลืมไปว่ามีสายตา 17  คู่ แอบเหล่อยู่ข้างๆ)

“ตกลงมีเรื่องจะถามมั้ยครับ..”

“อ้อ!…ครับ..คือ...เรื่องที่จะถาม...ฟังดูแล้วอาจไม่ค่อยเหมาะสม ผมแค่อยากจะเข้ามาถามว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกคุณรึเปล่า เท่านั้นล่ะครับ”

โยธินเลิกคิ้วรู้สึกงงกับคำพูดของเด็กหนุ่มผู้นี้ นี่ถ้าไม่ใช่ลูกค้าของร้านเขาอาจจะลุกหนีแล้ว

“อย่าเพิ่งแปลกใจนะครับ ผมกับเพื่อนๆ เห็นเด็กๆ น่ารัก ก็เลยสงสัยว่าคุณเป็นพ่อของเด็กรึเปล่าน่ะครับ”

“ถ้างั้นผมก็ตอบคำถามคุณไปแล้วซีครับ ว่าผมเป็นพ่อเด็ก..”

“ครับ..ตอบแล้ว....แต่...คุยไปคุยมาเริ่มไม่เข้าใจแล้วครับ คือว่าผมกำลังงงอ่ะครับ ตกลงพ่อเด็กชื่อคุณโจเหมือนผม และคุณก็ยังเป็นพ่อของเด็กอีก และเด็กก็ยังเป็นฝาแฝดกัน แหะ ๆ ผมกลับไปอธิบายเพื่อนๆ ไม่ถูกครับ”

โยธินระบายยิ้ม พอจะเข้าใจจุดประสงค์ของเด็กหนุ่มและเพื่อนๆในกลุ่มแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของเขาและโจไม่มีใครเข้าใจได้ในทันที  ต้องใช้เวลาอธิบายกันนาน แม้จะเข้าใจแล้วแต่ก็เจอปัญหาไม่ค่อยมีคนเชื่อว่าจะเป็นไปได้

“ที่จริงแล้วมันค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัวนะครับ คุณและเพื่อนๆ อยากรู้กันจริงๆ เหรอ..”

“อะ.. เอ่อ.. คือ ถ้าไม่สะดวกและไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรครับ เท่านี้ก็ขอบคุณมากๆ แล้วที่ให้โอกาสผมได้คุยด้วย ขอบคุณนะครับ”

“เดี๋ยวซีครับ..” โยธินเรียกไว้เมื่อเด็กหนุ่มรีบลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเหมือนรู้สึกผิด

“ผมยินดีจะไขข้อข้องใจให้  ถ้าคุณและเพื่อนๆ ในกลุ่มสัญญาว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดคุยให้ผมและพ่อของเด็กเสื่อมเสีย”

“สัญญาครับ ผมสัญญา.. ด้วยเกียรติของสมาชิกเล้าเป็ดทุกคน พวกเราจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับแน่นอนครับ”   โจรีบให้สัตยาบันแทนเพื่อน ๆ ในกลุ่ม

โยธินนั่งอึ้งชักทะแม่งๆ เมื่อได้ยินชื่อกลุ่ม  กลุ่มอะไรไม่รู้จัก…เด็กพวกนี้เชื่อใจได้รึเปล่าเนี่ย...



My  baby Special  



ภากรเดินจ้ำอ้าวอย่างเร็วหวิดชนพนักงานที่กำลังยกอาหารไปเสริฟให้ลูกค้า ป่านนี้โยธินนั่งหน้ามุ่ยบ่นปอดแปดแล้ว ไหนจะลูกๆอีกล่ะ ง่วงเมื่อไรเป็นต้องเริ่มงอแงเมื่อนั้น ที่จริงแล้วอยากจะเลี่ยงสุดชีวิตเมื่อได้ยินว่าลูกค้าที่ต้องการพบชื่อ “ลอร่า” แต่เมื่อนึกว่าเธออยู่ในฐานะลูกค้าเขาก็ไม่อาจละเลยและทำอย่างใจได้ ไม่ว่าจะรู้สึกเบื่อขนาดไหนก็ตาม ตั้งใจว่าจะแค่เข้าไปทักทายในฐานะคนเคยคุ้นเคยไม่เกิน 10 นาที แต่กว่าจะขอปลีกตัวออกมาได้ปาเข้าไปครึ่งชั่วโมง เฮ้อ!! น่าเบื่อ..

... ทั้งพ่อทั้งลูกเลย จะโกรธรึเปล่าน้าา ... รอนานมั้ยจ๊ะ ปะป๊า.. อย่าโกรธนะคนดี ...

ภากรนึกหาคำหวานออดอ้อนแต่แล้วคำพูดที่เตรียมไว้กลับไม่จำเป็น เพราะแทนที่จะเป็นฝ่ายถูกโกรธ เขากลับเป็นฝ่ายหัวเสียเมื่อเห็นปะป๊าสุดที่รักของลูกๆ และของพ่อด้วย กำลังพูดคุยหัวเราะสนุกสนานกับเด็กหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้

“รอนานมั้ยจ๊ะ ปะป๊า...”

“อ้าว! โจ.. เสร็จธุระแล้วเหรอ..”

โยธินเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่เข้ามายืนประชิดด้านหลังและจงใจท้าวสองแขนบนพนักเก้าอี้ที่เขานั่งแสดงความสนิทสนมให้คู่สนทนาของเขาเห็น

“ลูกๆ ล่ะ.. ”

ภากรถามหาลูกโดยไม่ยอมตอบคำถามแถมยังจ้องเด็กหนุ่มตาไม่กระพริบ ในขณะที่อีกฝ่ายก็จ้องตอบตาไม่กระพริบเช่นกัน จึงสัมผัสถูกรังสีแปลกๆ จากสายตาและน้ำเสียงของหนุ่มใหญ่ผู้เป็นเจ้าของทุกอย่างที่นี่

“มีแขกเหรอ.. แนะนำให้..” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ แต่ยังพูดไม่จบเสียงเด็กๆ ก็แทรกขัดจังหวะขึ้นด้านหลัง

“ปะป๊าขา.. กลับบ้านรึยัง...เจนนี่ง่วงนอนแล้วค่า...”

พนักงานจูงสองหนูน้อยมาส่ง ภากรรีบผละไปอุ้มลูกสาวตัวน้อยที่มีสีหน้าง่วงและส่อเค้าที่จะเริ่มงอแงแล้วขึ้นซบไหล่ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงร้องงอแงของลูก...ทั้งพ่อและปะป๊าก็จะเลิกสนใจกับปัญหาอื่นๆ หันมาดูลูกก่อนทันที

“กลับเดี๋ยวนี้แล้วลูก ไป!!..”

“อ๊าาาา... คุณพ่ออุ้มเจมด้วย.. เจมง่วงนอนเหมือนกัน..” เจ้าหนูต้วป้อมวิ่งมาเกาะขาภากรจะให้อุ้มด้วย

“ลูกตัวใหญ่แล้วนะเจมส์.. ให้พ่ออุ้ม 2 คนได้ไง ไปให้ปะป๊าอุ้มไป..”

หนูน้อยวิ่งมาหาโยธิน   “ปะป๊าอุ้มเจมหน่อย..”

ร่างเพรียวอุ้มลูกชายขึ้นยืน หนุ่มโจซึ่งนั่งตะลึงมองพ่อๆ ลูกๆ รู้สึกตัวรีบลุกขึ้นทันที (ควรจะลุกตั้งนานแล้ว)

“เอ่อ.. ถ้างั้นผมขอตัวกลับไปหาเพื่อนๆ ที่โต๊ะนะครับ ขอบคุณมากครับคุณโยธิน สวัสดีครับเสี่ย...อาหารที่นี่อร่อยมากครับ..”

“ขอบคุณครับ ยินดีต้อนรับครับ” ร่างสูงยิ้มให้อย่างมีอัธยาศัยเมื่อรู้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นลูกค้าและอยู่ในกลุ่มเดียวกับวัยรุ่นที่สังสรรค์เฮฮากันอยู่

....อา...นี่คงเป็น..คุณพ่อโจของแฝดน้อยซีนะ เสี่ยภากร ธีรวัฒน์.... อืมม์... ตัวโตกว่าเรา และหล่อกว่าเราจริงๆ ด้วยอ่ะ...

โจยืนมองชายหนุ่มทั้งสองอุ้มลูกๆ เดินจากไป ร่างสูงใหญ่โอบเอวอีกฝ่ายแค่เบาๆเท่านั้น  แต่กลับให้ความรู้สึกเข้มแข็งและอบอุ่นอย่างประหลาด

โจเดินกลับโต๊ะด้วยความรู้สึกแปลกๆ บอกไม่ถูก พยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองออกไป เพราะทันทีที่ร่างสูงเข้ามายืนประกบอยู่ด้านหลังชายหนุ่มหน้าหวาน เขารู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวของคนทั้งสองพร้อมกับที่ตัวเองกลายเป็นส่วนเกินทันที ดูแล้วช่างเป็นครอบครัวที่สุขสันต์เหลือเกิน ราวกับอีกฝ่ายเป็นพ่อและอีกฝ่ายเป็น.......



My  baby Special  

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 16-06-2007 21:36:33
"อ่ะ.. ซดต้มยำหน่อยฮะ พี่โจ "  น้องบาส  เอาใจสุดๆ เพราะอยากฟังเรื่องราวเร็วๆ

สายตาทุกคู่จ้องมองโจนั่งโจ้อาหารที่เหล่าสมาชิกปันเก็บไว้ให้ กลับมาถึงโต๊ะสารพัดคำถามก็รุมเร้าจนโจตอบไม่ถูกและขอกินก่อนเพราะท้องร้องจ๊อกๆ แล้ว

"ตกลงเรื่องเป็นไงเหรอ โจ.. เด็กๆ เป็นลูกหนุ่มหน้าสวยคนนั้นรึเปล่า.."

คำถามแรกจาก หมูพูห์   เล่นเอาสายตาหลายคู่หันไปมองเนื่องจากท่านเป็นคนที่ไม่เห็นด้วยที่โจจะเข้าไปถาม

 :try2:  "ก็ ฮะ ๆ  ถามแทนทุกคนไงคร้าบบ.."

"นึกไม่ถึงเลยว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้.."    โจพูดเหมือนรำพึงกับตัวเอง

"เป็นแบบไหนเหรอ?…   เล่าเร็วๆ ดิ พี่โจ.. อย่าอึกอัก… นั่นซีทำไมเหรอ..?   ตกลงเด็กเป็นฝาแฝดเปล่า ? …. แล้วเด็กเป็นลูกใครแน่ ? ลูกเสี่ยเจ้าของร้านหรือว่าผู้ชายคนนั้น …"

"หยู๊ดดด!!!!!!….  เงียบให้หมดแล้วฟัง!!!! …"

ทั้งโต๊ะเงียบกริบและนั่งฟังเรื่องที่โจบอกเล่ากันปากค้าง

"…………… :confuse:……………"

"ไม่อยากเชื่อเลย  พ่อคนละคนทั้งที่เป็นแฝดคลานตามกันออกมา.." เกือบทุกคนพูดประโยคเดียวกันนี้

"เป็นอะไร โจ.. ทำไมยังนั่งตาลอยอยู่อีก.." พี่แน๋ว  ถามหนุ่มโจที่นั่งท้าวคางสีหน้าครุ่นคิดอยู่

"เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่แด๊ดดี้เลิฟครับ   มันมีอะไรมากกว่านั้น"   

โจนึกถึงภาพหนุ่มใหญ่โอบเอวร่างเพรียวเดินจากไปแล้วรู้สึกผิดหวังอยู่ในส่วนลึก

"อะไรเหรอ!!!!.." หลายเสียงแต่คำถามเดียวกัน

"Boy's love ครับ.."  :haun5:

"Boy's love!!!.."  หลายเสียงทวนคำพูดเดียวกันอีก

"ใครกับใครเหรอ … ปะป๊ากับพ่อใช่มะ .. กะแล้วเชียะ นึกแล้ว… เห็นตอนพ่อยืนเกาะข้างหลังปะป๊าก็รู้แล้ว…  โฮะๆ ในที่สุด  ปะป๊ากะพ่อ  ก็..  อิ๊ อิ…"

"คุณโจสัมภาษณ์เรื่องนี้เขาด้วยเหรอ…"    :confuse: thip  ถามด้วยความแปลกใจ

"เปล่า.. "

"อ๊ะ ! ไม่ได้ถามแล้วรู้ได้ไงว่าปะป๊ากับพ่อเขารักกันอ่ะ.."

"บ๊ะ!!.. ใครพูดเล่า!!..  o12   ผมยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ  พูดเองเออเองกันหมด  ผมแค่เห็นภาพที่ทำให้ผมรู้สึกสงสัยเท่านั้น และพอผมสงสัยผมก็รู้สึกเจ็บที่หัวใจด้วยอ่ะ ฮึก..…"    o7

หนุ่มโจซบไหล่ ken  ปล่อยโฮ   ทำเอาสมาชิกคิ้วผูกโบว์ไปตามกัน

"อารายของมันวะ"  หมูพูห์ พึมพำกับ sun  :confuse:
"น่านดิ.. เหมือนคนซาติไม่อยู่กับตัว…"  :o9:

จู่ ๆ โจคุงก็คว้าแก้วไวน์ลุกพรวดขึ้นยืน

"หัวใจผมจะเป็นยังไงก็ช่าง~~~    แค่เห็นคนที่ผมรู้สึกดีด้วยมีความสุขผมก็พอใจแล้ว    o17    เพราะงั้นขอให้พวกเราทุกคนช่วยดื่มอวยพรให้คุณโยธินของผมด้วย.. เอ้า…ช~~~"

"เดี๋ยวว !!!!!!!!!!.."     Poes   ร้องขัดขึ้น   "คุณโยธินของเสี่ยภากรเขาไม่ใช่เหรอ..ทำไมถึงกลายเป็นของนายล่ะ"

"ก้อออ..  ผมกับเสี่ยชื่อเดียวกัน  เพราะงั้นคุณโยธินของผมหรือของเสี่ยโจ  :o   ก็ความหมายเดียวกันแหล่ะน่าาาา… o7  เอ้า!!...  เชียรรรร…"

เหล่าสมาชิกโห่ลั่นแต่ก็ยอมเชียร์ให้…

คืนนั้นโจเมาแอ๋จนเพื่อนๆ ต้องแบกไปส่งบ้าน ส่วนใหญ่ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมโจต้องดื่มจนเมาขนาดนี้  แค่มาเลี้ยงสังสรรค์กันเท่านั้น มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่า  หนุ่มโจอกหักกับรักแรกพบ …   :o7:

หมูพูห์หันไปกระซิบกับพี่แน๋ว

"อาการแบบนี้.. อกหักชัวร์.."   :o9:

"นั่นดิ !!.. เห็นนั่งบิดอยู่หน้าปะป๊า…ตั้งนานสองนาน" :teach:



My  baby Special  



 o13



TBC >>>>>

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-06-2007 21:50:26
ด้วยเกียรติของสมาชิกเล้าเป็ดทุกคน พวกเราจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับแน่นอนครับ  :teach:
รู้แค่ในเล้านี่แหละ   o22  o22

ปล. ตกลงมื้อนี้ฟรีหรือจ่าย  :o12:  :o12: (วิ่งหนีออกจากกระทู้อย่างรวดเร็ว)  :o12:  :o12:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 16-06-2007 21:50:57
แว๊กกกกกกพึ่งเข้ามาอ่าน มีชื่อเราด้วยอ่ะ  ทะมายต้องมีชื่อแน๋วเปงคนนำด้วยอ่าเจ๊หมวย ให้พูห์เปงคนนำจิ  o3   อ่อ มื้อนี้เก็บได้ที่เรย์เลยจ้าทู้กคนน   :laugh:

 o13  ตอนพิเศษฮาดีอ่ะเจ๊หมวย
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 16-06-2007 21:59:21
ไม่น่าเลยโจ เข้าไปหาให้เจ็บใจเล่นซะ คราวหน้าเอาใหม่  o3

 :laugh3: เรย์จ่าย งั้นขอสั่งเพิ่มนะ  แน๋วจากินไรดีอะเลือกมะถูกเรย  :o9:







ปล.เจ๊ฮามากเลยจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 16-06-2007 22:03:47
อยากกิงต้มแซ่บเดะอ่อน หญ้าอ่อนผัดพริกขิง ส่วนของหวานขอเปงละอ่อนน้อยลอยแก้วจ้า หนึ่งช่วยสั่งให้เค้าทีจิ เก็บตังค์ได้ที่เรย์เยย มื้อนี้เรย์เลี้ยง คิคิ  :o8:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 16-06-2007 22:14:38
แน๋วกิงแต่ของอ่อนๆ ทุกมื้อมะค่อยดีนา

ลองอันนี้มั้ย ไก่แก่ผัดเผ็ด ใส้กรอกเอ็นชุบแป้งทอด

ลองกิงหน่อยนะตะเองเผื่อติดใจ  :laugh:

สั่งทั้งหมดนี้แหละเรย์จ่ายมะเป็งรายยยย  o17
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 16-06-2007 23:42:48
 o17 o17 o17 o17 o17
ดีจายยยยยย
แอบมีชื่อเราด้วย (แบบว่าของเดิมมิมี)
 :impress2: :impress2:

ทั้งหมดนี้เจ๊หมวยหรือพี่เรย์เลี้ยงไม่รู้ล่ะ
รู้แต่ว่าลุยกันเต็มที่
สบายใจ สบายท้อง และสบายกระเป๋า
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 17-06-2007 00:17:50
อาฮะ  งานนี้เราได้ไปด้วยเหรอเนี่ย ดีจังเรื่องกินกะเราเนี่ยถูกกันอยู่แล้ว คงจะกินฟรีนะ ใครจะเป็นเจ้ามือก็แล้วแต่ แต่ในที่สุดเราก็ได้ไปสวนอาหารธีรวัฒน์ของพ่อโจแล้ว ดีใจจังเลย ได้สัมผัสครอบครัวธีรวัฒน์อย่างใกล้ชิด แฮ่ะ แฮ่ะ ขอบคุณเจ๊หมวยนะค้าที่เชิญ ขอบคุณมากค่ะ o18
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: มะนาว ที่ 17-06-2007 01:09:55

เจ๊หมวยอ่ะคร้าบ....พาไปกินอ่ะจาบอกว่าอาหารอาหร่อยมาก  แต่ถ้าจะพาไปอีกอ่ะน้า...กรุณาบอกมะนาวล่วงหน้า
ด้วยน้า  มะนาวจะได้ขอพี่เจสเอาไว้ก่อน   คือจะไปไหนทีต้องอาศัยการอ้อนมากมายอ่ะคับ....เฮ้อ....

อีกอย่างถ้าบอกก่อน  ก็จะได้เตรียมล้างท้องเอาไว้ พอไปถึงก็จะได้ลุยให้เต็มที่เลยอ่ะคับ....แฮะแฮะ.....

ปอลอ....1....ฝากอีกนิดนึง....ถ้าจะไปเมื่อไหร่ก็สำรองที่ไว้สำหรับมะนาวด้วยทุกครั้งด้วยน้าาาา....อิอิ......จุ๊บบบๆๆๆ.....
ปอลอ.....2...ขอบคุณเจ๊หมวยนะคร้าบ......ที่พาไปสัมผัสกะครอบครัวธีรวัฒน์อ่ะคร้าบบบ........คิกคิก......
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 17-06-2007 09:53:14
เรื่องนี้ต้องเหยียบครับ

เหยียบให้กระจาย


ปล รักเจ้หมวยที่ซู๊ดดดดดดดดดด   :give2: :give2: :give2: :give2: :give2: :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 17-06-2007 14:41:05
อยากกิงต้มแซ่บเดะอ่อน หญ้าอ่อนผัดพริกขิง ส่วนของหวานขอเปงละอ่อนน้อยลอยแก้วจ้า หนึ่งช่วยสั่งให้เค้าทีจิ เก็บตังค์ได้ที่เรย์เยย มื้อนี้เรย์เลี้ยง คิคิ  :o8:

เมนุน่ากินทั้งน้านนน  ขอกินด้วยคนนะค้าบบบ

ปล. ตินพิเศษนี่เจ๊หใวยแต่งได้โดนมั่กๆ  ได้ใจแฟนๆไปเยอะเลย อิอิ :impress2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 18-06-2007 14:35:15
"สมาชิกอะไรนะ!!..  ไม่เคยได้ยิน..”

“ผมก็เพิ่งเคยได้ยิน  เขาบอกว่าเป็นสมาชิกเล้าเป็ด บอร์ด Boy’s love”

“Boy’s love... หมายถึงความรักของเด็กผู้ชายเหรอ..”

โยธินเหล่มองอีกฝ่าย เห็นสีหน้าก็รู้ว่าไม่ได้แกล้ง (แปลว่าไม่รู้จริงๆ)

“ความรักระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย..”

“หมายถึงเกย์เหรอ.. นายฟังผิดรึเปล่า...”

“เปล่า..”

“แล้วไง จู่ๆ มาขอสัมภาษณ์นาย   เขารู้หรือว่านายเป็นเกย์...”

“เปล่า.. เขามาถามเรื่องลูกๆ ตอนแรกผมจะไม่บอก.. แต่พอรู้ว่าเป็นสมาชิกกลุ่มที่นิยม Boy’s love ผมก็เลยยอมเล่า คุณโกรธรึเปล่าที่ผมเล่าเกี่ยวกับเรื่องลูกๆ ของเราให้เด็กพวกนั้นฟัง...”

“มาถามตอนนี้มีประโยชน์อะไร..”

“......................”

โยธินนั่งเงียบเมื่อรู้สึกว่าภากรคงโกรธที่เขาถือวิสาสะเล่าเรื่องส่วนตัวให้คนอื่นฟัง มันไม่ใช่เรื่องของเขาคนเดียวแต่มันเป็นเรื่องของคนสองคน เขาควรจะถามอีกฝ่ายก่อนจริงๆ น่ะแหล่ะ

ภากรชำเลืองมองชายหนุ่มซึ่งนั่งหน้าจ๋อยอยู่ข้างๆ ไม่ได้ดุสักหน่อยทำไมขี้น้อยใจขนาดนี้ เขาละมือซ้ายจากพวงมาลัยและโอบร่างบางเอนเข้ามาซบไหล่

“แค่นี้ต้องงอนด้วยเหรอ..ฉันไม่ได้โกรธซะหน่อย..”

“ผมขอโทษที่ถือวิสาสะ ผมควรจะถามคุณก่อนจริงๆ”

“ไม่จำเป็น..ฉันไว้ใจนาย ถ้าคิดว่าสมควรหรือเหมาะสมฉันก็ไม่ขัด ว่าแต่เขาจะไม่เอาเรื่องของเราไปเมาท์ในบอร์ดเหรอ..”

“เมาท์ว่าอะไรเหรอ..”

“อ้าว!! ก็เมาท์ว่า... ในที่สุดคุณพ่อของลูกแฝดทั้งสองคนก็ตกล่องปล่องชิ้นกันเองไง..”

ร่างเพรียวผละออก   

“บ้าเหรอ!!.. ผมไม่ได้เล่าเรื่องของเรานะ เล่าแต่เรื่องลูก..”

“อ๊ะ !! ไม่ได้บอกเหรอว่าเราตกลงคบหาเป็นคู่รักกันอ่ะ..”

โยธินหน้าร้อนวูบเมื่อได้ยินคำว่า “คู่รัก”   เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำนี้จากปากภากร ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะใช้คำว่า ”คู่ขา”  ซึ่งทุกครั้งที่ได้ยินเขารู้สึกไม่ดีเลย

“มะ.. ไม่ได้บอก.. ใครจะไปกล้าเล่าเรื่องน่าอายแบบนั้น...”

...ใช่...ใครจะไปกล้าเล่า... มันไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจสักนิดที่ถูกอีกฝ่ายบอกคบหาเป็นคู่ขากันเพียงเพราะต้องการใช้เขาแทนผู้หญิง หนำซ้ำคืนแรกที่ตกล่องปล่องชิ้นกันก็เพราะถูกคุณพ่อแรงยักษ์ขืนใจตอนเมาอีกต่างหาก น่าอายสิ้นดี... ดีนะที่เขาไม่ได้บอก....

“สรุปแล้วเล่าแต่เรื่องของลูกๆ งั้นเหรอ”

“อือ..”

“น่าเสียดาย”

“เสียดายเรื่องอะไร..”

“นายไม่ได้เล่าเรื่องของเรา... แสดงว่าเจ้าหนุ่มนั่นก็คงไม่รู้ว่าว่าฉันเป็นอะไรกับนาย..”

ใบหน้าหวานมองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อสายตา

“พูดเหมือนคุณอยากให้เขารู้ยังงั้นล่ะ”

“ไม่ใช่อยากให้รู้   แต่ต้องการให้รู้!!..”

“ว่าไงนะ!!.. คุณไม่อายเหรอ..”

“นายอายรึเปล่าล่ะ ถ้าใครรู้ว่านายคบหากับฉัน”

“ผม เอ่อ.. ผมไม่อายหรอก ... ใครๆ ก็รู้ว่าผมเป็นเกย์ แต่คุณไม่ใช่ ...”

“นายไม่อายแล้วทำไมฉันต้องอายด้วย  ฉันคบกับนายไม่ใช่เพราะนายเป็นเกย์และสามารถทดแทนผู้หญิงได้ แต่เพราะนายคือปะป๊าของลูกๆ นอกจากนายแล้วอย่าหวังว่าฉันจะไปแตะต้องผู้ชายคนอื่นได้อีกเลย...”

“เอ่อ... พูดจริงๆ เหรอ..”   โยธินก้มหน้างุด ดีใจและเขินอย่างแรงกับคำพูดของอีกฝ่าย :o8:

“จริงซี..”  มือใหญ่รั้งศีรษะร่างเพรียวเข้ามากระซิบ

“ถ้าไม่เชื่อ... เดี๋ยวพาลูกเข้านอนเสร็จแล้วแวะที่ห้องฉันนะ คืนนี้ฉันจะพิสูจน์ให้ดู”

“หา!! .. อีกแล้วเหรอ...” โยธินเบี่ยงตัวออกขยับไปนั่งชิดประตู

“อาทิตย์นี้คุณให้ผมแวะติดกัน 3 คืนแล้วนะ... ”

“อ้าว!!… เป็นข้อตกลงของเราไม่ใช่เหรอ กล่อมลูกเสร็จแล้วก็ต้องกล่อมพ่อด้วย..”

“บ้า... พูดเอาแต่ได้  o12  ในที่สุดคุณก็เห็นผมเป็นแค่คู่นอนอยู่ดี เพราะแบบนี้ผมถึงไม่มีหน้าไปประกาศให้ใครรู้ มันไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีสักนิด...”

เสียงใสดังขึ้นเรื่อยๆจนภากรต้องจุย์ปากให้ค่อยเพราะลูกสองคนหลับอยู่เบาะหลัง อีกฝ่ายจึงเบาเสียงลง

“เราเป็นแค่คู่ขากันจะให้ผมไปเที่ยวบอกใครว่าผมคบหาเป็นคนรักกับคุณได้ไง..”

กล่าวจบก็เบือนหน้าหนีออกนอกหน้าต่างนั่งนิ่งไม่พูดอะไรอีก เพราะอาจควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้และเสียงดังจนทำให้ลูกตกใจตื่น

ภากรนิ่งเงียบไปเช่นกัน ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์นับจากวันที่ตกคบหากันกับโยธินจนถึงวันนี้เวลาล่วงเข้า 2 เดือนกว่าแล้ว เขาจำได้ว่าเคยพูดคำนั้นไปแล้วนี่นา… แล้วทำไมถึงยังพูดเหมือนไม่เข้าใจความรู้สึกที่เขามีให้…

"จอดทำไม คุณจะทำอะไรเหรอ.." โยธินหันไปถามเมื่ออีกฝ่ายชะลอรถเข้าข้างทาง

แทนคำตอบร่างสูงปลดเซฟตี้เบลท์ออก  และโถมเข้าสวมกอดร่างเพรียว

"ฉันอยากเคลียร์ปัญหากับนายก่อนเข้าบ้าน"

โยธินขนลุกซู่เมื่ออีกฝ่ายไม่พูดเปล่าแต่ซุกไซ้ใบหูเขาไปด้วย

"อื้อ~~~ ปล่อยนะ… เคลียร์อะไรตรงนี้เล่า...ไปคุยกันที่บ้านซี..เดี๋ยวลูกตื่น.."

"ลูกไม่ตื่นหรอก ถ้านายไม่เสียงดัง.."

"มะ.. หมายความว่าไง คุณจะทำอะไร.. อย่าบ้านะ นี่มันในรถ…"   ภากรหัวเราะกับน้ำเสียงตระหนก

"ทำไมต้องตื่นเต้นด้วย   นึกว่าฉันจะอึ๊บนายในรถเหรอ…"

โยธินหน้าร้อนผ่าว  กำปั้นรุ่นๆ ทุบลงกลางหลังร่างกำยำดังอั๊ก !!

"ไอ้บ้า!! คุณมันลามกตลอด ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ…อุ๊บ…"

มือใหญ่ปิดปากที่กำลังฉอดๆ อยู่

"ชูว์….. ลูกจะตื่นเพราะนายตะโกนรู้มั้ย ฉันแค่อยากจะคุยด้วยเท่านั้น นั่งเฉยๆ ฟังฉันพูดสัก 2 นาทีได้มั้ย "

โยธินพยักหน้าหงึกภากรจึงปล่อยมือที่ปิดปากออก

"ฟังนะ โย.. ฉันเข้าใจความรู้สึกของนาย นายไม่แฮปปี้กับการคบหาเป็น "คู่ขา" ของเรา ความสัมพันธ์แบบนี้ทำให้นายรู้สึกไม่ดีมาตลอด ใช่มั้ย.."

โยธินไม่อาจปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองไว้ได้เมื่อใบหน้าคมเข้มจ้องมองเขาอย่างต้องการคำตอบ จึงพยักหน้ารับอย่างอายๆ   m1

"ในเมื่อรู้สึกไม่ดีทำไมไม่พูดหรือไม่บอกสักคำ ทำไมต้องเก็บความรู้สึกไว้ด้วย นายไม่ใช่คนขี้อายในเรื่องเซ็กซ์ซะหน่อย"

อารมณ์เขินอายหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อเจอคำพูดกวนประสาทอีก

"คุณเห็นผมเป็นคนหน้าหนาหรือไง นี่ไม่ใช่เรื่องเซ็กซ์นะ มันเป็นเรื่องของความรู้สึกที่คนสองคนมีให้กัน  ในเมื่อคุณรู้สึกดีกับความสัมพันธ์แบบนี้จะให้ผมบอกว่าผมรู้สึกไม่ดีได้ยังไง.."

ภากรตกใจเมื่อรู้ว่าโยธินนึกถึงความรู้สึกของเขามากกว่าตัวเอง ให้ตายเถอะ.. นี่เขาทำร้ายจิตใจปะป๊าของลูกๆ มาตลอดเลยงั้นเหรอ..

"ในเมื่อเป็นแบบนี้..ฉันตัดสินใจแล้ว เมื่อนายไม่มีความสุข เราสองคนก็ยุติความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่นี่ซะ.. ต่อไปฉันและนายจะไม่อยู่ในฐานะคู่ขากันอีก.."

ร่างสูงผละไปนั่งพิงพนักเมื่อพูดจบ

โยธินสะท้านเฮือกกับถ้อยคำที่ผ่านเข้าโสตประสาท  หัวใจหล่นวูบไปอยู่ที่พื้นรถ ค้นพบความจริงในบัดดลว่า  ... จงพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ …แม้เพียงน้อยนิดก็ยังดีกว่าไม่มีเลย…

"หรือนายคิดว่ายังไง"    ภากรมองออกไปนอกรถขณะกล่าวจึงไม่เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในสภาพใด

"ถ้าเรายังคบกันต่อไปแบบนี้นอกจากนายจะไม่มีความสุขแล้ว ฉันเองก็…"

"ผมขอโทษ.. ผมแค่รู้สึกไม่ดีเฉยๆ .. แต่ผมก็มีความสุขนะโจ.. ผมมีความสุขทุกครั้งที่นอนกับคุณ ผมมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้คุณพร้อมกับลูกๆ ฮึก.. ผมไม่ต้องการมากไปกว่านี้ก็ได้   :sad4:   ขอแค่ความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่นี้ก็พอ ได้โปรดให้ผมได้คบกับคุณเหมือนเดิมเถอะนะ ฮือ ๆ "

ภากรผวาเข้าสวมกอดร่างบางด้วยความตกใจ เพราะอีกฝ่ายเล่นพูดไปร้องไห้ไปเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จนร่างเล็กๆ ที่เบาะหลังขยับไปมา

"เฮ้ๆ .. ร้องไห้ทำไม หือ.. ไม่เอาน่า.. อย่าร้องนะคนดี.."  เสียงทุ้มปลอบเบาๆ อย่างอ่อนโยนแต่อีกฝ่ายกลับสะอื้นหนักกว่าเดิม

"ให้ผมคบกับคุณเหมือนเดิมนะโจ.. นะ …. หรือว่าคุณมีคนอื่น …ฮึก.."

มือใหญ่จับศีรษะอีกฝ่ายซุกกับอกเมื่อเห็นทำท่าจะปล่อยโฮออกมาอีก

"อย่าตีโพยตีพายได้มั้ย  ฉันไม่ได้มีคนอื่นซะหน่อย หยุดร้องแล้วฟังที่ฉันพูดก่อน…"

เสียงสะอื้นเงียบลงทันทีเหลือเพียงอาการสะท้าน ร่างบางยังคงซุกนิ่งอยู่กับอกรอฟังอย่างใจจรดใจจ่อ

"ฉันแค่เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราตอนนี้มันทำให้นายไม่มีความสุข เพราะงั้นก็เลยอยากจะเปลี่ยน…"

"ผมมีความสุข"   เสียงใสขัดขึ้นก่อนที่ภากรจะพูดจบ ใบหน้าหวานหมองเศร้าเงยขึ้นกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว

"ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรทั้งนั้น ทำทุกอย่างเหมือนเดิม คิดซะว่าเราไม่ได้คุยอะไรกันในคืนนี้.. เราจะเป็นคู่ขากันจนกว่า.."

ใบหน้าคมเข้มระบายยิ้มเมื่อเสียงใสขาดหายไปไม่ยอมพูดต่อ

"จนกว่าอะไรล่ะ"  เสียงทุ้มกระซิบถาม   "จนกว่าฉันหรือนายจะมีใครอื่นใช่มั้ย.."

โยธินพยักหน้ารับ เขาพูดต่อไม่ออกเพราะไม่ได้เป็นความต้องการของตัวเอง เขาไม่มีวันมีใครอื่นได้อีก หัวใจเขาไม่ว่างแล้ว…

ภากรอดหัวเราะไม่ได้ เมื่อปะป๊าของลูกทำปากเก่งไม่ตรงกับใจแถมยังขี้แยอีกต่างหาก

"ที่ฉันจะคุยกับนายก็เรื่องนี้แหล่ะ ฉันเบื่อการคบหาแบบนี้…"

ร่างบางมีอาการสะท้านเฮือกจนภากรสัมผัสได้ รีบกล่าวต่อก่อนที่อีกฝ่ายจะปล่อยโฮออกมาอีก..

"ฉันตัดสินใจไม่คบนายเป็นคู่ขาอีกต่อไป..  อยากเริ่มต้นจริงจังกับใครสักคน… เพราะงั้น.. "

"ไม่เป็นไร.. ผมเข้าใจ ผมเข้าใจแล้ว…"

โยธินดันร่างสูงใหญ่ออกเมื่อรู้สึกว่าตัวเองชักจะอ่อนแอเกินไปแล้ว เขาเข้าใจความต้องการของอีกฝ่าย เข้าใจถ่องแท้แล้วเพราะงั้น…

"ก็ได้…งั้นเราจบกันด้วยดี ตั้งแต่นาทีนี้ผมเป็นแค่ปะป๊าของลูกๆ ผมจะไม่นอนค้างคืนที่นี่อีกแต่จะมาเยี่ยมลูกทุกวัน ผมยินดีกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของคุณ แต่ขออะไรอย่างได้มั้ย   :impress:     ผมไม่คาดหวังให้ผู้หญิงของคุณรักลูกๆ ของเราเท่ากับที่ผมหรือคุณรัก แค่ขอให้เธอมีจิตใจอ่อนโยน รักเด็กบ้างก็พอ.."

ภากรใจหายวาบ  จู่ๆ กระต่ายน้อยขี้แยก็สวมวิญญาณลูกเสือเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวจนเขาใจหายวาบ..   ให้ตาย!!.. เขาตั้งใจจะให้อีกฝ่ายเผยความในใจออกมากลับกลายเป็นตัดใจบอกเลิกเฉยเลย…

"จบกันด้วยดีแปลว่าอะไร..." น้ำเสียงทุ้มแหบพร่าเล็กน้อย

"รู้หรือเปล่าว่าคนที่ฉันจะเริ่มต้นจริงจังด้วยคือใคร.."

ใบหน้าหวานส่อแววเจ็บปวดเห็นๆ แต่คำพูดที่ออกมากลับตัดเยื่อใยอย่างนึกไม่ถึง

"ผมไม่สน ไม่อยากรู้ว่าเป็นใคร จบกันก็แปลว่าคุณและผมไม่อยู่ในฐานะที่จะมาแตะเนื้อต้องตัวกันแบบนี้อีก เพราะงั้นถอยออกไปได้แล้ว กลับบ้านพาลูกเข้านอนซะที ผมจะได้กลับบ้าน…"

ร่างสูงใหญ่ผละออกพร้อมเสียงถอนหายใจเบาๆ

"ฉันอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่..อยากสร้างครอบครัวที่อบอุ่น..ไม่ใช่เพื่อตัวเอง… ไม่ใช่แค่เห็นนายไม่มีความสุข แต่เพื่อลูกๆ ของเรา.. ฉันตรึกตรองอยู่นานจนแน่ใจว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิด ไม่มีใครรักลูกของเราได้เท่ากับที่เรารัก เพราะงั้นคนที่ฉันอยากคบหาเป็นคู่ชีวิตด้วยก็คือคนที่รักลูกของฉันเหมือนกับลูกของตัวเอง… ฉันไม่อยากเป็นแค่คู่ขากับนายอีกต่อไปเพราะเหตุนี้ ฉันอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่กับนาย… แต่เมื่อนายอยากจบและไม่อยากให้ฉันแตะเนื้อต้องตัวอีก ฉันก็…"

เสียงทุ้มขาดหายเพราะถูกร่างบางผวาเข้ากอด เรียวปากนุ่มประกบจูบเขาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ถึงจะเป็นคนเริ่มก็ไม่สามารถหยุดและผละออกง่ายๆ เนิ่นนานทีเดียวกว่าเขาจะยอมถอนริมฝีปากออก

"มาจูบฉันแบบนี้แปลว่าอะไร เราจบกันแล้วไม่ใช่เหรอ.. หรือว่าจูบลา หือ…" ภากรซ่อนยิ้มในสีหน้าขณะกระเซ้าถาม

"ไม่.. ผมไม่อยากจบ.. ผมนึกว่าคุณมีคนอื่นแล้วนี่นา…."   m1

"ก็นายไม่ฟังที่ฉันพูดให้จบ ชอบอวดรู้ อวดเก่ง ปากไม่ตรงกับใจ" นิ้วเรียวบีบจมูกรั้นเบาๆ "ตกลงอยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับฉันมั้ย หรือยังอยากจะเป็นแค่คู่ขาเหมือนเดิม…"

"อยาก..ผมอยากเป็นอะไรก็ได้ที่คุณต้องการให้เป็น ขอแค่ได้อยู่เป็นครอบครัวมีคุณกับลูกๆ ผมก็พอใจแล้ว "

"พอใจจริงเหรอ แม้แต่จะให้เป็นคู่ขาเหมือนเดิมก็พอใจงั้นเหรอ"

ใบหน้าหวานก้มงุดลง มาถึงขั้นนี้แล้วถ้าไม่พูดตอนนี้คงไม่มีโอกาสพูดอีก

"ผมอยาก…"  "ฉันไม่อยาก.."

ต่างฝ่ายต่างพูดแล้วก็นิ่งเงียบไป

"คุณพูดก่อน.."   "นายพูดก่อน.."

“จะกินไอติมอีก ปะป๊า..”

เสียงเจ้าหนูเจมส์ดังแทรกขึ้นมา ทำเอาทั้งพ่อทั้งปะป๊าสะดุ้งเฮือกรีบหันไปมองก็พบว่ายังหลับปุ๋ยอยู่..

"ผมจะบอกว่าผมอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคุณ เป็นคู่ชีวิตจริงๆ ไม่ใช่แค่คู่ขา.."

"ฉันก็จะบอกว่า ฉันไม่อยากเป็นแค่คู่ขากับนาย อยากเป็นคู่ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกันตลอดไป.."

อีกครั้งที่โยธินเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เรียวปากนุ่มจุมพิตริมฝีปากอุ่นแต่เพียงเบาๆ แต่กลับถูกอีกฝ่ายบดจูบกลับอย่างหนักหน่วง

"อื้อ~~ อือ~~ "

ภากรถอนริมฝีปากออกเมื่อดูดดื่มความหวานจนเต็มอิ่ม ร่างบางอ่อนระทวยตาปรือในวงแขน เห็นแล้วมันน่า.. o3

"โจ.. "

"หืมม์.."

"ขอถามหน่อยได้มั้ย"

"อะไร.."

"คู่ชีวิตแปลว่า คู่รักรึเปล่า.."

ภากรซ่อนยิ้ม เขารู้ว่าโยธินต้องการอะไร..

"นายว่าใช่มั้ยล่ะ.."

"อย่ามาถามผมซี ผมถามคุณก่อนนะ.."

"เฮ้อ! เป็นพ่อคนแล้วนะโย..  ทำไมถามคำถามไร้เดียงสาแบบนี้ ใครจะยอมให้คนที่ตัวเองไม่รักมาเป็นคู่ชีวิตด้วย หือ.."

น้ำใสคลอระริกดวงตาคู่สวย   :impress:  ความปีติยินดีเปี่ยมล้นในหัวอกจนไม่สามารถเก็บความรู้สึกได้

"แปลว่า.. คุณก็รักผม..ใช่มั้ย.."

ใบหน้าคมเข้มโน้มลงกระซิบตอบและซุกไซ้ลำคอร่างบาง

"ไม่รักจะเรียกให้เข้ามาหาทุกคืนเหรอ หืมม์.."

"แต่คุณไม่เคยบอก..ว่า… รัก…" เสียงเริ่มสั่นเพราะถูกซุกซนหนักขึ้น

"ฉันบอกทุกคืน…นายไม่ยอมฟังเอง เอาแต่ร้องว่า… เร็วกว่านี้อีก  …"  เสียงกระซิบแผ่วข้างหูทำให้กำปั้นของร่างบางทุบลงกลางหลังกำยำดังอั๊ก ๆ

"คนบ้า!!  ลามก!!.. ไปบอกตอนนั้นใครจะรู้ว่าคุณรักผมจริง…"

"อ้าว! จะให้บอกตอนไหนล่ะ แล้วตอน Make love ถ้าไม่บอกรัก จะให้บอกว่าอะไรหือ.."

…อั๊ก ! ๆ …

"โอ๊ย! เจ็บนะ ทีนายล่ะ ไม่เคยบอกรักฉันสักคำ.."

"ผมก็บอกรักคุณทุกคืนเหมือนกัน คุณไม่ได้ยินเอง.."

"ล้อเล่นน่ะ บอกตอนไหน…"

"ตอน..เอ่อ.. ตอนที่คุณนอนหลับแล้วอ่ะ.."

ภากรส่ายหน้าก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มเนียนสูดดมความหอมหนึ่งฟอดใหญ่..

"ฉันรักนายโยธิน.. ถ้าไม่รัก.. ก็คงไม่ขอคบเป็นคู่ขาด้วยหรอก…"

"ผมก็รักคุณ โจ.. ถ้าไม่รัก.. ก็คงไม่บอกปีเตอร์ว่าคุณเป็นแฟนใหม่ของผมหรอก.."

ภากรสวมกอดร่างในอ้อมแขนแน่น ถ้าไม่ติดว่ามีลูกๆ นอนอยู่เบาะหลัง จะขอฉลองความรักที่มีให้กันซะตอนนี้เลย

"ปะป๊าขา ~ ~  หนูปวดฉี่ค่ะ.."

อีกครั้งที่ปะป๊าและพ่อต้องผละออกจากกันพร้อมอาการสะดุ้ง   หนูน้อยเจนนี่ลุกขึ้นนั่งกุมท้องน้อยสีหน้างัวเงีย โยธินปรับพนักเบาะเอนลงและอุ้มลูกมานั่งตัก

"ปวดมากมั้ยจ๊ะ…ลูก… ทนไหวมั้ย"

หนูน้อยส่ายหน้า คุณพ่อเลยแนะวิธีให้

"งั้นให้ปะป๊าพาไปฉี่ข้างรถนะจ๊ะ…"

โยธินกำลังจะเปิดประตูหนูน้อยก็ร้องเสียงหลง

"อือ… ไม่เอา.. เจนนี่จะฉี่ในรถ ฮือ.. ปะป๊า เจนนี่จะฉี่ไหลแล้วค่าาา.."

ปะป๊าหันไปขอความเห็นจากพ่อ แต่พ่อไม่ยอมสบตาด้วยรีบบึ่งรถออกทันที คิ้วเรียวขมวดมุ่นกับปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อร่างเล็กในอ้อมกอดสะท้านเหมือนกำลังปวดมากจนทนไม่ไหว จึงตัดสินใจคว้าแจ๊คเก็ตที่คลุมอยู่ที่พนักเบาะมาขยุกไว้ที่ตักตัวเอง ก่อนจะถอดกางเกงในลูกสาวออกและจับนั่งซ้อนกองเสื้อ

"ฉี่เลยจ้ะลูกจ๋า… ปะป๊าเอาผ้ารองไว้แล้วฉี่ได้เลยจ้าาา.."

หนูน้อยไม่มีข้อสงสัย ฉี่ตามที่ปะป๊าบอกทันทีเพราะปวดจนกลั้นไม่อยู่แล้ว

โยธินระบายยิ้มเมื่อลูกสาวตัวน้อยจัดการธุระของตัวเองเสร็จจนฉ่ำนองอยู่บนตักเขา

"ปะป๊า.. เจนนี่ฉี่เสร็จแล้วค่ะ.."

"จ้าา~~  สบายท้องแล้วใช่มั้ย.. เดี๋ยวถึงบ้านต้องอาบน้ำนะจ๊ะ ห้ามงอแงไม่อาบล่ะ…"

สาวน้อยพยักหน้าหงึก ปะป๊าสวมกางเกงในให้เสร็จก็ปีนกลับไปนอนต่อที่เบาะหลัง

ภากรชำเลืองมองร่างบางที่นั่งอมยิ้มอย่างสบายใจเมื่อจัดการธุระให้ลูกเรียบร้อยด้วยดี ถ้าเป็นเขาก็ยังนึกไม่ออกว่าจะให้ลูกฉี่ในรถยังไงโดยเฉพาะเด็กผู้หญิงด้วย แต่โยธินกลับแก้ปัญหาได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ…เห็นแล้วรู้สึกภูมิใจเหลือเกินที่เลือกคู่ชีวิตไม่ผิด… เอ๊ะ !! เอ๋… แต่ว่า.. สายตาเหลือบไปที่ปลายเท้าของคนข้างๆ แว่บหนึ่ง   o18

"โย.."

"หือ.." 

"เก่งมาก..ที่รัก… "

ใบหน้าหวานหันมาแย้มยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี..    m1 ( หัวใจดวงนี้กำลังมีรักนี่น่าาา… )

"ขอบคุณคร้าบ.. เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว.."

"ว่าแต่..ขอถามอะไรหน่อย.."

"อะไรเหรอ.."

"เอาอะไรรองฉี่ให้ลูกอ่ะ ?? "     :confuse:

"หา!!… อ๋อ !! แจ๊คเก็ตคุณไง   ตัวใหญ่ดี   ซับฉี่ลูกได้หมดเลย แหะๆ.."



THE   END  



 o13




วางบิล    

ค่าอาหารมื้อนี้   4250    บาท
 
สำหรับสมาชิกเล้าเป็ด   :seng2ped:   คุณโยธินลดให้ 10 %   

เหลือ    3,825   บาท

Moderator  5  คน  หมูพูห์  พี่แน๋ว  thip poes  และ sun    ออกคนละ  300  บาท

สมาชิกที่เหลือ  13 คน    ออกคนละ  200  บาท





จะพักจริงแล้วนะ  เดือนหน้าค่อยแวะมาใหม่

หวัดดีทุกๆ คน


:bye2:


หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 18-06-2007 15:29:53



วางบิล    

ค่าอาหารมื้อนี้   4250    บาท
 
สำหรับสมาชิกเล้าเป็ด   :seng2ped:   คุณโยธินลดให้ 10 %   

เหลือ    3,825   บาท

Moderator  5  คน  หมูพูห์  พี่แน๋ว  thip poes  และ sun    ออกคนละ  300  บาท

สมาชิกที่เหลือ  13 คน    ออกคนละ  200  บาท





เหอเหอ

ไม่รับผิดชอบได้ป่าวเนี้ยะ








ลป.

จ่ายเป็นตัวแทนได้มั้ยค้าบบบบบบบ

กร้ากกกกกกกกกกกกก

 m4 m4 m4 m4 m4
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-06-2007 19:10:01
เอ่อ  :try2: วางบิลที่แอดมินเลย มื้อนี้เรย์เลี้ยง   :o12:   :o12:
ปล. ขอบคุณเจ้หมวยมากเลยค่า สำหรับตอนพิเศษ  o13
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 18-06-2007 21:17:26
อะจ๊าก  เจ๊หมวยข๋า  นึกว่าเลี้ยง เรียกเก็บคนละ 200 เชีย  ดีนะที่พี่ทิพย์บอกให้พี่เรย์เลี้ยง ค่อยยังชั่ว  :try2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Electrolyte ที่ 19-06-2007 03:41:26
ดีใจจังพี่เรย์เลี้ยงเอด้วยช่ายไหมคร้าบ.... :m1:ขอบคุณมากๆๆเลยคร้าบ.. :m4:
นึกว่าจะเสียตังค์แล้ว :เฮ้อ:..ตั้งสองร้อย
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 19-06-2007 09:17:41
ขอบคุณครับ  อิ่มจังคังค์อยู่ครบ รอเป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-06-2007 13:52:51
ขอบคุณเจ๊หมวยสำหรับเรื่องราวน่ารักๆนะจ๊ะ  :m4:

รอติดตามผลงานต่อนะ  :m3:


แน๋วววววไปตามเรย์มาจ่ายเร็ว ไม่งั้นโดนล้างจานกันแน่ๆ  o9
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 19-06-2007 21:40:47
อ่านตอนพิเศษแล้วน่ารักมากครับ

ชอบนิยายแนวนี้ซะแล้วซิ

 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:

ป.ล.  รักเจ้หมวยที่ซู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 19-06-2007 21:48:24
เค้าขอต่อรอง
จ่ายครึ่งเดียวก่อนได้ป่ะเจ๊
รอสิ้นเดือนค่อยมาจ่ายอีกครึ่ง
 :m7: :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 20-06-2007 02:39:37
 :m7:   เเอบย่อง ย่อง  มาบอกว่า....
"ค่าอาหาร ทุกบาททุกสตางค์ เก็บได้ที่   >>    เรย์  คับป๋ม"

.
.
.
.
.
.
.
.
.
 จากนั้น ก้อค่อย ย่องย่อง ออกปาย   :m7:





หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 20-06-2007 14:41:11
ส่งเด็กๆไปแทนละ เพราะเล้านี้ บ่ ค่อยมีตัง
 :m4:

ส่วนอาหาร ตามไปสุวรรณภูมิเยย พูห์เขาบอกว่าจะเลี้ยง
 :m14:

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: CorNnE PRiNCeS ที่ 20-06-2007 14:55:27
และแล้ว พวกคุณพ่อๆ ก้อลงเอยกันเอง  :m12:

ม่าน่าเชื่อ แต่ก้อต้องเชื่อ

เหตุผลดีมากเลย เกรงอีกฝ่ายจะเลี้ยงลูกไม่ดี

จนต้องลงเอยกันเองในที่สุด




เรื่องราวน่ารักดี อยากได้หนังสือด้วย ไม่รู้ว่า จองหมดหรือยังอ่ะคับ

ต้องไปปลุกเสก กี่วันหล่ะครับ ถึงจะลงแผงได้

แต่จองแบบออนไลน์ ก้อได้ไม่ใช่หรือครับ

อยากได้ อยากได้ อยากได้ อยากได้ o11 o11 o11



ขอบคุณเจ้าของเรื่อง และท่านผู้นำเสนอนะครับ



ข้าวโพด
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 20-06-2007 17:18:17
หวัดดีจ้า   o15


นิยายเรื่อง  My baby  และ  Sweet daddy   รวมเล่มเสร็จตั้งนานแล้วจ้ะ   ที่บ้านพ่อสั่งซื้อกันไปหลายรอบแล้วด้วย  แต่หนังสือยังพอมีเหลือเพราะมีหลายคนที่จองไว้แล้วหายยย~~ไปเลยก็หลายคน  :m15:

เจ๊หมวยไม่อยากโฆษณาขายหนังสือที่นี่เลย  เกรงใจ๊ เกรงใจ  แต่มีหลายคนถามถึง  ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้อธิบายคร่าวๆ นะคะ  :m1:

My baby  (ภาค 1)

เป็นเรื่องราวตั้งแต่เริ่มแรก (เกลียดและทะเลาะกัน) จนถึงตอนที่พ่อสองคนรักกัน Daddy in love จากนั้นก็เป็นตอนพิเศษที่มีการเดินเรื่องต่อเนื่องกันไปประมาณ 7  ตอน  (ไม่ post ในบอร์ด 4 ตอน)  เล่มนี้หนาประมาณ  304  หน้า  ราคา  250 บาท   

Sweet daddy  (ภาค 2)

เนื้อเรื่องต่อจากภาค 1  (เรื่องนี้ไม่ post ลงในบอร์ด) ความหนา 240 หน้า  ราคา 240 บาท    ภาคนี้  มีฉากไฮไลท์ของเรื่องด้วย 

หากชอบจริงๆ แนะนำให้ซื้อเก็บไว้ทั้งภาค 1 และ 2  หนังสือทำน้อย  หมดรอบนี้แล้วคงไม่ได้ทำอีก 

เจ๊หมวยขอรับประกัน  ไม่ผิดหวังแน่นอน (นิยายแด๊ดดี้เลิฟของเจ๊หมวยยังไม่ปรากฏว่ามีการปล่อยขายมือสองเลย   จริงๆ นะ  ไม่ได้คุย  น้องๆ เค้าบอกว่าเก็บไว้ที่หัวเตียงอ่านก่อนนอน  แล้วจะนอนหลับสบาย คริๆ   :m3:  )



ดูรายละเอียดเชิญที่กระทู้นี้เลยค่ะ


http://www.geocities.com/muay_siri2003/salenovel.htm      :m12:
 
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-06-2007 17:26:58
ขอบคุณเจ้หมวยครับ

 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 20-06-2007 17:29:32
ตัวอย่างหวานๆ ตอนหนึ่งใน Sweet daddy   :m1:



ร่างเปลือยขยับเข้าสวมกอดและซุกหน้ากับต้นแขนกำยำจูบเบาๆ

“เป็นอะไรโย.. ทำไมคืนนี้อ้อนจัง หือ..”    

เสียงทุ้มกระซิบถามสงสัยอาการอ้อนกระแซะของคนรักหลังเสร็จกิจจากการ make love

“โจ..”

“หืมม์...”

“ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย”

“อือ..”

“ระหว่างผมกับเมย์หรือว่าผู้หญิงอื่นที่คุณเคยมีอะไรด้วย เปรียบเทียบแล้วเป็นยังไงบ้าง”

“เปรียบเทียบ?”

“เอ่อ.. ผมหมายถึงระหว่างผมซึ่งเป็นผู้ชายกับผู้หญิงมันแตกต่างกันยังไง แล้วคุณ.. คุณชอบแบบไหน..”

“ฮะ ฮะ นึกยังไงถึงถาม หือ..”

“ก็แค่อยากรู้เฉยๆ “

มือใหญ่ไล้สัมผัสแผ่นอกเนียนเรียบของคนรักเบาๆ

“ต่างกันยังไงเหรอ.. อืมม์.. ตรงที่นายไม่มีหน้าอกมั้ง”

โยธินกำมือทุบลงบนอกคนรักเบาๆ ไม่ชอบใจกับคำตอบที่ได้

“อย่าตอบแบบนี้ซี ผมไม่ได้หมายถึงสรีระหรือรูปลักษณ์ภายนอก”

“เอ๋ ?” ภากรซ่อนยิ้ม รู้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไรแต่แกล้งไม่เข้าใจ

“ยังมีอะไรที่แตกต่างนอกจากร่างกายงั้นเหรอ..”

“ก็.. ผมหมายถึงตอนมีอะไรกันอ่ะ เป็นยังไงบ้าง ต่างกันมั้ย..”

“โอ! นายหมายถึงตอน make love หรอกเหรอ..”

“อื้ออ..” เสียงใสพึมพำตอบอายๆ

“อะ ฮะ.. มันต่างกันเห็นๆ อยู่แล้ว ไม่เห็นต้องสงสัยเลย”

“ต่างกันยังไงเหรอ ผมหมายถึงความรู้สึกน่ะ” ดวงตากลมโตเหลือบขึ้นจ้องรอฟังคำตอบอย่างกระวนกระวาย

“อืมมม์… นายคงหมายถึงความรู้สึกของฉันตอนอยู่ในตัวนาย…แตกต่างจากผู้หญิงยังไงซีนะ..”

“ใช่.. มันเป็นยังไงเหรอ ต่างกันมั้ย..” เสียงใสตื่นเต้นเล็กน้อย สีหน้าส่อแววกังวล

“เมย์นุ่มนวลและอ่อนโยน เธออ่อนหวานยามอยู่ใกล้ชิด อบอุ่นเวลาได้กอดและสัมผัส แฝงความมีเสน่ห์เย้ายวนไว้ภายในจนฉันอยากหยุดเวลาที่มีความสุขกับเธอไว้ชั่วขณะ…”

ใบหน้าหวานสลดลงเมื่อเห็นรอยยิ้มของคนรักขณะกล่าวถึงภรรยาที่ล่วงลับ

“แล้วผู้หญิงอื่นล่ะ คุณรู้สึกยังไง”

“ผู้หญิงอื่น… อืมม์.. ก็ดี…”

“แปลว่าอะไร…” น้ำเสียงห้วนสุดๆ

“ก็แปลว่าดีไง.. ดูทำหน้าเข้า ตัวเองเป็นคนอยากรู้นะ”

ริมฝีปากเม้มแน่น หน้างออย่างไม่สบอารมณ์ก่อนขยับตัวนอนหันหลังให้

“นอนเหอะ ผมไม่อยากรู้แล้ว กู๊ดไนท์..”

ภากรส่ายหน้ากับความน้อยใจอย่างไม่มีเหตุผลของคนรัก ร่างสูงขยับเข้าสวมกอดร่างเพรียวหอมแก้มฟอดใหญ่

“ยังพูดไม่จบเลยนะ จะนอนแล้วเหรอ..”

“ไม่ต้องพูดจบผมก็รู้หมดแล้ว…”

“รู้หมด? ฉันยังไม่ได้พูดถึงนายเลยนะ ไม่อยากรู้ความรู้สึกตอนฉันอยู่ในตัวนายแล้วเหรอ…”

โยธินหันมาสบตาคนรัก ใบหน้าหวานเศร้า

“ผมไม่อยากให้คุณลำบากใจที่จะพูด แค่รู้ความรู้สึกที่คุณมีกับผู้หญิงผมก็รู้ตัวเองแล้ว…”

“รู้ว่า ?..”

โยธินนอนนิ่ง สีหน้าครุ่นคิดก่อนตัดสินใจตอบ

“ผู้ชายยังไงก็สู้ผู้หญิงไม่ได้หรอก ผมเป็นได้อย่างดีก็แค่ขนมปังรสเลิศของคุณ ไม่มีทางกลายเป็นข้าวสวยร้อนๆ ได้หรอก ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ไม่…”

มือใหญ่ปิดปากบางที่กำลังพูดฉอดๆ

“ชูว์..ขนมปังจะกลายเป็นข้าวสวยไปได้ยังไงที่รัก มันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว อยู่ที่คนต่างหากว่าจะเลือกกินอะไรเป็นอาหารหลัก…”

ภากรคลายมือออกและจุมพิตริมฝีปากบางเบาๆ ก่อนตอบ

“ไม่ว่านายจะเป็นขนมปังหรือสปาเก็ตตี้ นายคืออาหารหลักของฉันในวันนี้ ต่อให้เอาข้าวสวยร้อนๆ เหยาะซอสแม็กกี้มาแลก ฉันก็ไม่ยอมเปลี่ยนใจ จะขอกินนายคนเดียว…”

โยธินหัวเราะเมื่อถูกลิ้นอุ่นไล้เลียใบหน้าและงับจมูกเขาเบาๆ ทำท่าเหมือนจะกินจริงๆ ถึงจะแกล้งทำเป็นตลก แต่เขารู้ว่าคำพูดของโจออกจากความรู้สึกจากใจจริง ลำแขนเรียวสวมกอดร่างกำยำไว้

“ผมรักคุณ โจ..”

“ฉันก็รักนาย โย..”

“ผมมีความสุขเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ทุกครั้งที่คุณอยู่ในร่างกายผม”

ภากรซ่อนยิ้ม รู้ว่าโยธินต้องการรู้ว่าเขารู้สึกยังไง

“ขนาดนั้นเลยเหรอ..”

“ใช่.. มันวิเศษที่สุด ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครที่ผมเคยคบหาด้วย คุณเป็นคนเดียวที่ให้ความรู้สึกที่วิเศษนี้กับผม แล้วคุณล่ะ.. รู้สึกยังไงบ้าง ดีมั้ย..”

“ฉันจำไม่ได้”

ใบหน้าหวานจ๋อยลงเมื่อถูกคนรักปฏิเสธว่าจำไม่ได้ ยังไม่ทันเอ่ยตัดพ้อก็รู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้าเมื่อรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองรวมถึงของอีกฝ่ายที่แนบชิดอยู่กับตัวเขาด้วย

“ให้บอกตอนนี้อาจบรรยายความรู้สึกได้ไม่หมด เพราะงั้น…” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูคนรักขณะมือใหญ่จับขาเรียวสองข้างแยกออก

“จะบอกตอนอยู่ข้างในนะจ๊ะ..”    

 “คนบ้า! ขี้โกงอ่ะ… อ๊ะ! อื้อออ….”

คืนนั้นโจกระซิบบอกความรู้สึกกับเขาทั้งคืน….




  

ในที่สุดคืนนั้นปะป๊าโยก็นอนหลับฝันดี   :m1:

 



 o13

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-06-2007 17:39:25
อยากรู้อะ

อยากรู้จิงๆนะ

ใครก้ได้ตอบหน่อยนะค้าบบบบบบบบบบบบบ

 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 20-06-2007 18:00:39
เดี๋ยวก่อน  !!!!!!!!!      :o

ขอกลับมาทวงค่าอาหารก่อน 

ไม่อยากจะเชื่อ!!! 

ไม่มีใครคิดจะจ่ายเลยสักคนจริงๆ   

ทุกคนบอกให้เก็บที่  เรย์


เรย์ คือใคร ?   :confuse:


หมูพูห์  ใช่มั้ย


ถ้าใช่!!..  จ่ายมาซะดีๆ เลย!!!   o11


ทำเป็นเฉไฉอยากจะรู้ว่านายโจกระซิบบอกปะป๊าโยว่าอะไร   :m12:


เรื่องส่วนตัวของคู่รักเค้าน่า~~   เจ๊หมวยอุตส่าห์จบแค่นี้    ก็แปลว่าเค้าไม่อยากให้เรารู้   :laugh3:


มาเหอะ!!  จ่ายมาซะดีๆ      3,825  บาท    o11


หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: think ที่ 20-06-2007 19:55:04
 :haun5: ดีนะเนี้ยที่ไม่ได้ร่วมวงด้วย อิอิ  :เฮ้อ:  :m2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 20-06-2007 21:43:16
โห...... เจ้นี่จำแม่นจัง

ผมอุตส่าห์ทำไม่รู้ไม่ชี้เรื่องค่าอาหารแล้วนะครับ

ว่าแต่ ชอบตอนนี้ที่เจ้เอามาลงจัง น่าร้ากกกกกกกก

 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 20-06-2007 21:53:03
เอาไปก่อน 25บาทนะเจ๊หมวยนะ
ส่วนที่เหลืออีก 3,800 บาท ไปตามเก็บเอากะพี่เรย์ก็แล้วกัน
 :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: prince_halation ที่ 21-06-2007 11:21:07
:m13: มาแปะไว้ก่อนอะครับหมูพูห์ เด๋วจะตามมาอ่านนะครับ  :m13:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 24-06-2007 16:07:25
 :impress2   ปะป๊ากะคุณพ่อ หวานแววที่สุดเลย

เอ่อ อาหาร มี แบบ paylite 0% ม่ะคับ อิอิ :m14:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 24-06-2007 22:05:22
ขอบคุณครับ  เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 28-06-2007 23:02:28
 :confuse:   แย้วพ่อโจ....บอกอะไร ป๊ะป๋า โย ละเนี่ย..?







กระซิบ ดังดงหน่อยก้อม่าได้ .... เลยมิรู้เยย   o12






 :m7:   ตัค์ เก็บ ก่า เรย์  รือไม่  ก้อ พูห์ ก้อด๊ะ นะค๊าบเจ๊  โฮ่ะๆ    :laugh3:



ชิ่งแว่บบบบบบ        :m7:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 02-07-2007 13:21:02
 o17
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 02-07-2007 13:56:59
อ้าวววว เรย์ยังไม่จ่ายเหรอครับ

เรย์คือ ตา Bluboyhub ครับ เจ้หมวย เขาเป็น webmaster ครับ

ส่วนผม หมูพูห์ เป็นตัวเล็กๆ ในเล้าเองครับ

เก็บที่เรย์เลยนะครับ

ส่ง PM ไปทวงก็ได้คร้าบบบบ

 :m7: :m7: :m7: :m7: :m7: :m7: :m7:

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 02-07-2007 15:54:34

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/bil100ev.jpg)

มาจ่ายค่าอาหารให้ แต่รบกวนเจ๊หมวยไปแลกเอาเองนะ ที่เหลือทิป  :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 02-07-2007 15:56:26

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/bil100ev.jpg)

มาจ่ายค่าอาหารให้ แต่รบกวนเจ๊หมวยไปแลกเอาเองนะ ที่เหลือทิป  :m1:

ตั้งร้อยยูโรแน่ะ

กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

คนสวยใจป้ำวุ้ยยยยย

 :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-07-2007 16:37:43
เด่วจ่ายให้แต่รอเก็บค่าสมาชิกคนละพันก่อง

จ่ายมาซะทุกคน

 o11 o11 o11 o11
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 02-07-2007 16:41:42
เด่วจ่ายให้แต่รอเก็บค่าสมาชิกคนละพันก่อง

จ่ายมาซะทุกคน

 o11 o11 o11 o11

โหดมา ตี๋

กำไรบานเบอะ

ชิชิ

 :m14: :m14: :m14:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: leau_dissey ที่ 03-07-2007 17:12:45
 :impress: สนุกค่ะ ตามอ่านอยู่ แม้จะรู้สึกแบบว่าแปลกๆ แต่ก็ช่างเหอะ :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: leau_dissey ที่ 04-07-2007 16:54:02
 :impress:อ่านจบแล้ว สนุกจังเลยค่ะชอบสองแฝดมากเลย
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 09-07-2007 13:51:01
รอ ร๊อ รอ  :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: theera ที่ 23-07-2007 17:22:36
สนุกมากเลยคับ :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 24-07-2007 03:32:27
เด่วจ่ายให้แต่รอเก็บค่าสมาชิกคนละพันก่อง

จ่ายมาซะทุกคน

 o11 o11 o11 o11

^
^
โห๊ด................โหด....เว็ปม๊าสซาเตอร์เนี่ย....จิส์ๆ     :m14:
ม่ายจ่าย.................... ร้อก    o18    (ชักดาบ ฮี่ๆ)
ว่าแล่ะ ก้อชิ่ง..  หนีดีกว่า  จ้างให้ก้อตามไม่ทัน อิอิ    :ped150:


** รอเจ๊หมวย อยู่นะจ๊ะ **   :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: sirasyung ที่ 20-03-2008 22:50:01
 
เด่วจ่ายให้แต่รอเก็บค่าสมาชิกคนละพันก่อง

จ่ายมาซะทุกคน

 o11 o11 o11 o11

^
^
โห๊ด................โหด....เว็ปม๊าสซาเตอร์เนี่ย....จิส์ๆ     :m14:
ม่ายจ่าย.................... ร้อก    o18    (ชักดาบ ฮี่ๆ)
ว่าแล่ะ ก้อชิ่ง..  หนีดีกว่า  จ้างให้ก้อตามไม่ทัน อิอิ    :ped150:


** รอเจ๊หมวย อยู่นะจ๊ะ **   :m4: :m4: :m4:

 :m22: แค่จะมาบอกว่า อ่านแล้วสนุกมากเลยคร๊าบ

 
เจ๊หมวยใจดีน่าร๊ากกกกกก :oni2:

อย่าเก็บตังป๋มนะ..   :bye2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Plabu ที่ 22-03-2008 00:39:25
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด :o12: :m1:

ตอนพิเศษสะใจมากเรยคร้า :m1:

อิอิ :m4: ที่ปะป๊าโย เอาเสื่อแจ๊กเก็ทคุนพ่อโจ :m1: :mc4:

ไปรองฉี่น้องเจนนี่อ่ะ :m4:

แตพอกลับถึงบ้าน :m29: :m1:

่ :m25: :m1:ปะป๊าโยคงตองโดนคุนพ่อโจทำโทษ... :m25:

แน่เรย :m1: :m25:

อิอิ :m4: :m25:

น่าอิจฉาจิง :m25:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 02-04-2008 14:09:17
หวัดดีเพื่อนๆ น้องๆ ทุกคน  ยังจำเจ๊หมวยได้รึเปล่าค้า :oni1:


ใกล้จะถึงวันหยุด long weekend  หลายๆ คนคงเตรียมแพ็กกระเป๋าไปเที่ยวกันแล้วล่ะซี


ก่อนจะไปมาอ่าน   My baby  special  ตอน  คู่รักพักร้อน  ให้ชุ่มชื่นหัวใจกันก่อน


นี่เป็นหนึ่งในตอนพิเศษที่รวมเล่มไว้  เคยลงให้อ่านในบอร์ด kaizin  แต่ตอนนี้บอร์ดท่านไคปิดไปแล้ว 

ตอนนี้เจ๊หมวยเอามารีไรท์ตัวละครใหม่  โดยมี Yayoy   หมูน้อยของเจ๊หมวย  ช่วยแจงบุคลิกตัวละครและดูความเหมาะสมให้แล้ว

ตอนพิเศษนี้เขียนขึ้นเพื่อความสนุกสนานของสมาชิกในเล้าเป็ด  อย่างไรก็ตาม  ถ้าพาดพิงถึงใครในทางที่ไม่ชอบใจก็ขออย่าถือเป็นจริงเป็นจัง  คิดซะว่าเป็นแค่ตัวละคร  หรือถ้าไม่ชอบจะให้เจ๊หมวยเปลี่ยนหรือตัดชื่อออกก็ช่วยแจ้งด้วย


o15 





*****************



My baby  special  ตอน  คู่รักพักร้อน



   “อ๊ะ!!.. อา!!.. โอย!!.. เจ็บนะ.. เบาๆ หน่อยซี  ทำไมคืนนี้รุนแรงจัง..”
   “อืมม์.. ก็กี่วันแล้วล่ะที่เราไม่ได้กอดกัน เพราะงั้นต้องชดเชยกันหน่อย ที่รัก..” 
   “....................”
   “....................”
   ไม่มีบทสนทนา มีเพียงเสียงลมหายใจแห่งรักของคนทั้งคู่
   “อือออ........”
   “หืมม์..”
   “ระ.. แรงอีกหน่อยก็ได้..” 
   “ว่าไงนะ..” 
   “แรงอีกหน่อยยยย..”
   “ดังๆ ซีจ๊ะ ไม่ได้ยินเลย..”
   เสียงทุบหลังดัง อั๊ก!!
   “แรงกว่านี้หน่อยได้มั้ย เร็วๆ ด้วย..”   เสียงใสดังลั่นเกือบเป็นเสียงตะโกน   
   “ก็เมื่อกี้ใครบอกให้เบาล่ะ  ได้เลยยอดรัก  ตามบัญชาเดี๋ยวนี้เลย” 
   “อ๊ะ!!  อา~~”  เสียงครางอู้อี้อยู่กับที่นอน
    “พร้อมนะที่รัก”
   “อื้อออ~~  ทำซะทีซี..”
   เสียงสปริงที่เตียงดังรับจังหวะการกระแทก  เสียงร้องแห่งความสุขสมดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงครางที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนา...


 
:oni1: :oni1:



   ขณะที่เกมรักเร่าร้อนและรุนแรงของคู่รักหวานกำลังดำเนินอยู่ภายในห้องพักโรงแรมสุดหรูริมหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ภายในห้องพักอีกห้องที่อยู่ติดกันก็ปรากฏร่างของกลุ่มหนุ่มสาวกำลังอยู่ในท่าตะกายผนังหูแนบกับวอลเปเปอร์ลายหรู 

   เนื่องจากมีข่าววงในแจ้งลงในเวปบอร์ดเล้าเป็ดว่าจะมีคู่รักสุดฮอทจากบ้านพ่อมาพักร้อนอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้พร้อมลูก ๆ  กลุ่มหนุ่มสาวทั้งวัยเรียนและวัยทำงานพากันเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อนัดพบและสืบหาความจริงเรื่องนี้ ไม่หวั่นว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไกล ใครรุ่นใหญ่ก็นั่งเครื่องมา ใครยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่ก็ขอติดรถพี่ๆ ออกเดินทางกันแต่ไก่โห่ ห้องพักถูกสำรองไว้แค่ห้องเดียวเพราะตั้งใจมาเพื่อสอดแนมการนี้โดยเฉพาะ แต่มีข้อแม้ว่าต้องแอบขึ้นไปทีละคนสองคนอย่าให้เจ้าหน้าที่โรงแรมเห็น 

   เหล่าสมาชิกทยอยเดินทางกันมาถึงตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว แต่จนถึงค่ำก็ยังไม่มีใครเห็นว่าคู่รักหนุ่มข้างห้องเป็นใครจึงต้องอาศัยฟังจากเสียง เพราะงั้นสภาพที่เห็นอยู่ในห้องขณะนี้ก็คือ  18 ชีวิต  พากันหาที่จับจองตามผนัง  ใครมาก่อนก็ได้ที่ดีคือบนเตียง  เพราะอยู่ในจุดที่ใกล้เตียงนอนของห้องอีกฝั่งมากที่สุด


   คู่ที่หนึ่ง  ^.^  ^.^  ข้างเตียงนอนด้านซ้าย

   “ว้า!! เสียงเบาจังเลย ไม่ได้ยินเลยเนอะพี่กุ้ง.. ได้ยินมั้ย” Yayoy นั่งตะกายผนังอยู่ติดกับ มาดามกุ้ง  คอยงึมงำถามตลอดจนโดนดุกลับ

   “เงียบบบบ!! ไม่ได้ยินก็เพราะเสียงเธอนั่นแหล่ะ..”  ว่าเสร็จก็แนบหูฟังอย่างตั้งใจ
 
   
   คู่ที่สอง  ^.^  ^.^  ข้างเตียงนอนด้านขวา   

   “อย่าเบียดซีโว้ย!!..ที่ออกกว้าง”  หมูพูห์  หันไปดุ Bass ที่พยายามเบียดเข้ามาฟังใกล้ๆ จนหัวชนกัน
   “ก็ผมไม่ค่อยได้ยินอ่ะ” 
   “นายไม่ได้ยินแล้วฉันจะได้ยินเรอะ  ผนังห้องเดียวกัน กระเถิบไป!!..”
   สองหนุ่มสะบัดหน้าใส่กันก่อนหันไปแนบหูฟังต่อ


   คู่ที่สาม  ^.^  ^.^ อยู่ถัดจากคู่ที่หนึ่ง คนหนึ่งยืนคนหนึ่งนั่ง

   “โอ๊ย! พี่ Thip  ปั๊ดโธ่!!.. ยืนค้ำหัวเค้าแล้วยังเหยียบมืออีก”  น้ำค้าง  ร้องเสียงกระซิบเงยหน้าขึ้นค้อนขวับ
   “ขอโทษๆ มันไม่ค่อยได้ยินอ่ะ”  เพราะไม่ค่อยได้ยินสาว Thip   เลยขยับซ้ายขยับขวาหาที่เหมาะๆ จนเหยียบนิ้วเพื่อน


   คู่ที่สี่  ^.^  ^.^ อยู่ถัดจากคู่ที่สอง สุมหัวชนกัน  คู่นี้มีความสามัคคีกันดี

   “ได้ยินมั้ย พี่ Ken  เสียงใสๆ น่าจะเป็นคุณโยรึเปล่า” My love my Babe  กระซิบถาม
   “พี่ว่าน่าจะเป็นอาวีนะ”  Ken krub   ให้ความเห็น 


   คู่ที่ห้า  ^.^  ^.^ อยู่ถัดจากคู่ที่สาม สุมหัวชนกัน

   “ไม่ได้ยินเสียงพูดเลย พี่แน๋ว   ได้ยินแต่เสียงคราง.. จะรู้มั้ยเนี่ย..” Sun   กระซิบถาม
   “ก็เดาเอาซี  เสียงครางแบบนี้พี่ว่าต้องเป็นคุณโย..  หุ ๆ”


   คู่ที่หก  ^.^  ^.^  อยู่ถัดจากคู่ที่สี่  ในท่ายืนคนนั่งคน

   “นายได้ยินมั้ย ข้าวโพด  เราว่าต้องเป็นคุณจิมแน่ๆ เลย ” A-kung  กระซิบให้ความเห็นกับคู่หู
   “รู้ได้ไง  เราไม่ได้ยินอะไรเลยได้ยินแต่เสียงเตียง..  ”
   “ก็นั่นแหล่ะ  แค่เสียงเตียงก็รู้แล้วว่าต้องเป็นคุณจิม ฮุ ฮุ ”   ^.^   
   ใช่ !! มีเสียงเตียงแปลว่าต้องแรงเยอะ โฮะ โฮะ

(( ** คุณจิม เป็นพระเอกในนิยายเรื่อง สายใยรัก เป็นนิยายแด๊ดดี้เลิฟอีกเรื่องหนึ่งของเจ๊หมวยค่ะ  ** ))


   คู่ที่เจ็ด  ^.^  ^.^ อยู่ถัดจากคู่ที่หก  สุมหัวชนกัน  (คู่นี้ตัวละครสมมติขึ้น)

   “ได้ยินมั้ย พี่โจ.. ผมว่าต้องใช่คุณโยแน่ๆ”  Water กระซิบถาม แต่อีกฝ่ายเงียบไม่ตอบ  สีหน้าครุ่นคิดกับเสียงแผ่วๆ ที่ได้ยิน 


   สองคู่ที่เหลือ แนบหูเรียงแถวหน้ากระดานอยู่บนเตียง Poes ^.^   และ krappom  ^.^   อยู่ในท่านั่งตะแคงหูแนบผนังห้องหันหน้าชนกัน  เจ๊หนึ่งและ krappom นั่งเครื่อง (low cost) มา เพราะต้องมาเปิดห้องพักก่อน  อีกสองคนคือ bIueBoYhUb   และ มะนาว   สองคนนี้ขับรถมาเอง ซิ่งมาสุดๆ เลยมาถึงเป็นคู่ที่สอง ทั้งสี่ไม่พูดไม่จากัน  สีหน้าตื่นเต้นกับเสียงแว่วแผ่วๆ ที่ได้ยิน....

   “Ah ~~~ Ha ~~~~ ”
   
   งานนี้เจ๊หนึ่งและป๋าเรย์จับมือกันจัดทัวร์ “ตามไปสอดแนมคู่รัก”  ขึ้นตามคำยุยงของ krappom  และมะนาว  ทั้งสองแอบย่องไปที่บ้านพ่อล่วงรู้ข่าวการเดินทางไปพักร้อนของคู่รักสุดฮอทจึงรีบแจ้นมารายงานพี่ๆ ในเล้า 

   ทันที่ที่รู้ข่าวป๋าเรย์เรียกเหล่าโมเดอเรเตอร์สุมหัวกันหารือได้ข้อสรุปว่า ให้จัดทัวร์สอดแนมขึ้น โดยเรย์ยอมควักกระเป๋าส่วนตัวออกค่าห้องพักให้ 1 ห้อง เป็นห้องที่ติดกับห้องของคู่รักหนุ่ม ส่วนค่าใช้จ่ายการเดินทางตัวใครตัวมัน  ขนาดว่าต้องออกค่าใช้จ่ายเอง  ยังมีสมาชิกที่สนใจร่วมเดินทางถึง 18 คน  เป็น ชาย  10 คน  หญิง  8 คน  ทั้งหมดได้นัดแนะวันเวลาและสถานที่ จากนั้นก็จับกลุ่มเดินทางกันมา  ใครสนิทกับใครก็มาด้วยกัน



 :oni1: :oni1:


หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby special ตอน คู่รักพ&
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 02-04-2008 14:10:53
7.00 น.


   หนึ่งในห้องพักของโรงแรมสุดหรูขณะนี้มีสภาพไม่ต่างจากโรงทาน บอยคุง 10 ชีวิต นอนเรียงกันเป็นแพบนพื้นห้อง   ในขณะที่หญิงสาว 6  คนนอนเบียดกันบนเตียงนอนขนาดคิงไซดิ์  Yayoy  ยึดโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง นอนเหยียดยาวคนเดียวสบายใจ เพราะถ้าให้นอนเตียงต้องเสียพื้นที่เท่ากับ 2 คน  ในขณะที่ เจ๊หนึ่ง  ได้มุมสงบส่วนตัวนอนสบายอยู่บนโซฟาเบด  พรรคพวกพี่น้องยอมยกให้ในฐานะที่เป็นผู้นำทัวร์ฝ่ายหญิง   ส่วน ป๋าเรย์ แม้จะเป็นผู้นำทัวร์ฝ่ายชายแถมยังเป็นคนจ่ายค่าห้องกลับไม่ได้สิทธิพิเศษแต่อย่างใด  ต้องเสียสละนอนพื้นเหมือนบอยคุงคนอื่นๆ 

   เหตุการณ์เมื่อคืนเป็นที่ถกเถียงกันจนเกิดการพนันขันต่อขึ้น  กลุ่มหนึ่งเชื่อว่าเป็นคุณทอมและคุณจิม  อีกกลุ่มนั่งยันนอนยันว่าต้องเป็นคุณโจและคุณโยแน่นอน  มีพี่ ken คนเดียว ที่เชื่อว่าเป็นคุณทาโร่กับอาวีของน้องนู๋โมจิ  เมื่อไม่ได้ข้อสรุปทุกคนจึงตกลงกันว่าจะต้องรอดูตัวจริงในเช้าวันนี้ให้ได้ว่าเป็นใครกันแน่

   Yayoy ลุกจากโซฟาเดินกระย่องกระแย่งเข้าห้องน้ำ นึกภาพคนตัวใหญ่เดินข้ามธารน้ำที่มีหินก้อนเล็กๆ ให้เหยียบ  แต่ในความเป็นจริงตอนนี้จะต้องหาพื้นที่ว่างๆ เหยียบให้ได้  เพราะถ้าพลาดคนถูกเหยียบอาจถึงตายได้

   “อะไรกันเนี่ยยยย..” 

   Yayoy บ่นงึมงำ สภาพของสาวๆ ที่นอนเบียดกันอยู่บนเตียง  ไม่ได้มีความเป็นกุลสตรีซักนิด บางคนก็อยู่ในสภาพน้ำลายยืด แข้งขาป่ายไปมา  ส่วน 10 หนุ่มบนพื้นก็ไม่น้อยหน้า  นอนกอดก่ายกันไม่รู้เรื่อง   Bass นอนซบไหล่ หมูพูห์  ทำอย่างกับเป็นคู่รักกันงั้นแหละ เดี๋ยวตื่นขึ้นมาเหอะ สนุกแน่  ว้าย!!~~ นั่น ป๋าเรย์  และ พี่ ken  ขนาบน้อง มะนาว ซ้ายขวาเลยเหรอ..   ถ้า พี่เจส  มาเห็นละก็ระเบิดลง แขนขาขาดกระเด็นกันแน่ๆ   เฮ้อ~~ จะว่าไป  ผู้ชายด้วยกันป่ายกันเองก็ไม่น่าเกลียด ดีกว่ามาป่ายกับสาวๆ บนเตียง   อยู่บอร์ด y ก็ต้องทำอะไรวายๆ  ให้สอดคล้องหน่อย 

   Yayoy  นึกไอเดียเด็ดๆ รีบหยิบกล้องมาเก็บภาพแปลกๆ ไว้ เผื่อเวลาขัดสน อาจนำมาหารายได้พิเศษด้วยการแบล็คเมย์  ฮุ ๆ

   เข้าห้องน้ำทำธุระเสร็จ  yayoy   เดินปลุกเพื่อนๆ น้องๆ ตื่นทีละคู่ เพราะถ้าปลุกตื่นพร้อมกันจะต้องแย่งเข้าห้องน้ำมีปากเสียงกันอีก  ระหว่างนั้น เจ๊หนึ่ง  กับ Krappom  ก็ผลัดกันไปยืนเฝ้าหน้าห้อง เพื่อรอดูว่าห้องข้างๆ จะเปิดประตูโผล่ออกมาเมื่อไร ( ที่ต้องเป็นสองคนนี้ก็เพราะเป็นคนมาเช็คอิน  ถ้าขืนเปลี่ยนหน้าผลัดกันไปยืนเจ้าหน้าที่โรงแรมเห็นอาจสงสัยได้ )



8 โมงเช้า


   Krappom ยืนป้วนเปี้ยนไปมาหน้าห้อง ในมือถือกล้องดิจิตอลตัวจิ๋วไว้เผื่อต้องการเก็บภาพจะได้กดแช๊ะด้วยความรวดเร็ว สาวน้อยเริ่มมีสีหน้าเบื่อหน่ายและเซ็งเพราะท้องร้องจ๊อกๆ แล้ว 

   …..ทำไมไม่ออกมาซะทีน้าาา  อือมมม จะว่าไปเมื่อคืนหนักหนาสาหัสอยู่เค้าคงยังไม่ตื่นกันหรอก…

   คิดได้ดังนั้นสาวเจ้าก็ผลุบเข้าห้องทันที 

   สมาชิกตื่นกันหมดแล้ว ต่างพากันนั่งล้อมวงเอาเสบียงที่เตรียมมา ออกมารองท้องกัน ขนมปัง 12 แถวกับน้ำพริกเผา 4 กระปุกใหญ่ของ  เจ๊หนึ่ง    ข้าวเหนียวหมูหวานของ Yayoy   ไส้กรอกและไก่ทอดอภินันทนาการจาก พี่แน๋ว  และ Sun   สแน็คขบเคี้ยวอีกกองพะเนินของ พี่ Ken   

   Krappom ถลาพรวดเข้ามากลางวง

   “โฮ้ยย!!... ทำงี้ได้งัยอ่ะ ให้เราไปยืนเงกอยู่แล้วมานั่งกินกัน”
   “เฮ้ย!!.. เข้ามาแล้วใครจะเฝ้าล่ะ”  เจ๊หนึ่งเอ่ยถามก่อนกัดขนมปังคำโตเข้าปาก 
   “โอ้ย!!  ไม่ต้องเฝ้าหรอก  เมื่อคืนหนักขนาดนั้นไม่ตื่นง่ายๆ หรอกค้าบ  ไม่รู้หล่ะ เค้าจะกิน ใครอยากเฝ้าก็ออกไป” ว่าแล้วก็ฉกข้าวเหนียวหมูหวานเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ
   “ผมออกไปเฝ้าเอง”   A-kung   เสนอตัวเพราะไม่อยากพลาดซีนดี ๆ  ก่อนลุกออกไปฉกไก่ทอดติดมือไปสองชิ้น

   เด็กหนุ่มยืนเกาะประตูฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ สายตาคอยเหลือบมองห้องพักซ้ายมือคือห้อง 1003  มีเสียงพูดคุยของเด็กๆ ดังแว่วมาจากห้องด้านขวามือ  A-kung   รีบหันไปมองด้วยสัญชาติญาณอยากรู้ของมนุษย์ และเมื่อประตูเปิดออก  ภาพที่เห็นก็เป็นคำตอบที่ทำให้เด็กหนุ่มเบิกตากว้างด้วยความดีใจ      

   เด็กหญิงตัวน้อยวัยประมาณ 3 ขวบ ในชุดบิกินี่ตัวจิ๋ว เดินหัวเราะคิกออกจากห้องพร้อมกับเด็กชายร่างป้อมวัยเดียวกัน พี่เลี้ยงสาวถือเสื้อผ้าคุณหนูก้าวตามออกมา

   “คุณหนูขา สวมเสื้อก่อนเถอะค่ะ  ถึงสระน้ำแล้วค่อยถอด”
   “ไม่เอาค่ะ  จะใส่ไปเลย”
   “จะไปเล่นตอนนี้เลยหรือคะ  ยังเช้าอยู่เลย  รอคุณพ่อตื่นก่อนดีมั้ยคะ”
   “งั้นไปปลุกกัน.. ”   
   “อุ๊ย! อย่าค่ะ  ละเอียดพาไปเล่นเองก็ได้  ยืนคอยอยู่หน้าห้องแป๊บเดียวนะคะ  เดี๋ยวน้ามา”  สาวใช้ผลุบเข้าห้องไป
   เห็นสองหนูน้อยยืนอยู่ตามลำพัง   A-kung   ก้าวพรวดเข้าไปหาและส่งยิ้ม
หวานให้
   “หวัดดีครับ..  ใช่น้องเจมส์กะน้องเจนนี่รึเปล่าคร้าบ”
   “ใช่คับ  พี่เป็นใคร  ไม่รู้จักกันอย่าเข้ามาใกล้”  เจ้าหนูเจมส์รีบมายืนบังพี่สาวไว้   ผู้ชายต้องดูแลและปกป้องผู้หญิง
   “เอ่อ.. หนูไม่รู้จักพี่หรอกครับ แต่พี่รู้จักคุณพ่อและปะป๊าของหนูนะครับ”
   “รู้จักปะป๊ากะคุณพ่อจริงเหรอ..”   หนูน้อยเริ่มเสียงอ่อนลง
   ยังไม่ทันที่ A-kung   จะตอบคำถาม พี่เลี้ยงสาวก็ก้าวออกมาและมองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ รีบจูงมือคุณหนูทั้งสองเดินผละจากไปไม่พูดไม่จาสักคำ แต่มีเสียงพูดคุยกับเด็กชวนให้น่าหมั่นไส้
   “ไปเถอะค่ะ คุณหนู  เจอคนแปลกหน้าไม่รู้จักอย่าไปพูดคุยด้วยนะคะ”
   “พี่เค้าบอกว่ารู้จักปะป๊ากะคุณพ่อค่ะ”
   “อย่าไปเชื่อค่ะ  ถ้าไม่บอกงี้จะหลอกเด็กได้เหรอคะ..”
   "โธ่..ยัยบ้า!! ..หน้าตาผู้ดีขนาดนี้  มองเป็นคนร้ายไปได้งัยวะ แหวะ!..”  :m14:
   เด็กหนุ่มแลบลิ้นใส่ก่อนจ้ำอ้าวกลับเข้าห้องไปรายงานข่าวด่วนกับเพื่อนๆ


 
:oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 02-04-2008 14:14:08
   “จริงเหรอ..  ในที่สุดก็เป็นคุณพ่อกะปะป๊าจริงๆ กั๊ก กั๊ก กั๊ก ๆ ๆ ๆ ”  ยาโยย  ยักย้ายส่ายสะโพกด้วยความดีใจ   

   กลุ่มที่ทายผิดจะต้องแชร์กันออกค่าอาหารมื้อกลางวัน และค่าเข้าชมภูเก็ตแฟนตาซีให้เพื่อนๆ ที่ทายถูก  เพราะงั้นกลุ่มที่เชื่อว่าเป็นคู่ของคุณทอมต่างหน้าจ๋อยไปตามกัน 

   กลุ่มที่เชื่อว่าเป็นคู่คุณพ่อโจกับปะป๊าโย มี 8 คน  นำทีมโดย  ป๋าเรย์    พี่แน๋ว   sun   My love my Babe  ยาโยย  มาดามกุ้ง   Krappom  และมะนาว     ส่วนกลุ่มที่เชื่อว่าเป็นคู่คุณทอมและคุณจิม มี 7 คน   คือ  เจ๊หนึ่ง  หมูพูห์  Bass  Thip  A- kung  ข้าวโพด (โจลี่)   และน้ำค้าง  คุณ ken   ที่เดาว่าเป็นปะป๋าทาโร่กับอาวี ก็อยู่ในกลุ่มที่ทายผิดด้วย  ส่วนที่ไม่ยอมปักใจว่าเป็นคู่ไหนก็คือ โจ และ water    โจ แอบกระซิบบอก  Water  ว่าเสียงคุ้นๆ  แต่เชื่อว่าไม่ใช่สามคู่ฮอทของบ้านพ่อแน่นอน

   “หยู๊ดด!!!!..  อย่าเพิ่งดีใจ.. ”  เจ๊หนึ่ง ยกมือขึ้นห้ามเสียงหัวเราะ
   “แน่ใจเหรอ น้อง A    ว่าเด็กที่เจอเป็นน้องเจมส์กะเจนนี่  นายไม่เคยเจอเด็กนี่หว่า  ตอนไป meeting ที่สวนอาหาร  นายก็ไม่ได้ไปด้วย..”
   “อ๊ะ! เออ!!  จริงด้วย   ลูกใครรึเปล่า มาตู่ว่าใช่ ”  หมูพูห์   เห็นจริงด้วย
   “ผมจะตู่ทำไม ผมเดินเข้าไปถามชื่อแล้วว่าชื่อเจมส์กะเจนนี่รึเปล่า  น้องเค้าบอกว่าใช่..”
   “ถ้าใช่จริงก็ยังมีข้อโต้แย้งอยู่ดี”   เรย์   เกาคางขณะใช้ความคิด
   “อะไรเหรอ”  เสียงสมาชิกถามขึ้นพร้อมกัน
   “ทำไมห้องพ่อกับลูกไม่ติดกัน  ถึงจะมีพี่เลี้ยงอยู่ด้วยก็เถอะ”
   “เออ! จริงด้วย ไม่ใช่แหงมๆ ต้องเป็นลูกบ้านอื่นแน่ ไม่ใช่ลูกคุณโยหรอก”  Thip   เห็นด้วยอย่างยิ่งเพราะอยู่ฝ่ายเดียวกับที่เชื่อว่าเป็นคุณทอม
   “ตามใจ!!  ไม่เชื่อก็ตามใจ ไปดูกันเองล่ะกัน  เชอะ!! ”   A-kung   สะบัดหน้างอนตุ้บป่องออกไปที่ระเบียง 
   “บอกแล้วว่าให้เราคอยยืนเฝ้า เห็นมั้ย  A-kung  ได้เจอเด็กแล้วแต่ดันไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่าอีก”  เจ๊หนึ่ง  บ่น krappom  ที่ยืนทำหน้ายุ่งอยู่   

   สาวน้อยไม่กล้าเถียงผู้อุปการะค่าตั๋วเดินทางให้ สีหน้ายอมรับผิดแต่ในใจเถียงคอเป็นเอ็น
   ….ทำไมต้องเป็นเราคนเดียวด้วยฟระ!!..  คนอื่นมีเป็นสิบ ฮึ!…

   “เอางี้ผมกับ  Water   จะตามไปดูที่สระว่ายน้ำให้..” 
   โจรับอาสาเพราะเขารู้จักครอบครัวนี้ดี และยังอยากเห็นหน้าคุณโย.. ชายหนุ่มในดวงใจอีกสักครั้ง

   เหล่าสมาชิกเห็นชอบด้วยให้โจกับ Water  ไปดูว่าใช่หรือเปล่า  ที่เหลือพากันแยกย้ายไปหาที่เอนกายตามอัธยาศัย เมื่อไม่มีอะไรทำก็เปิดทีวีดูฆ่าเวลาไป   คอยอยู่พักใหญ่สองหนุ่มก็วิ่งหน้าตื่นกลับเข้ามา

   “ใช่จริงๆ  ด้วยพวกเรา”
   “ใช่ใคร”
   “ใช่น้องเจมส์กะเจนนี่น่ะซี  ตอนนี้กำลังเล่นน้ำสนุกอยู่เลย”
   “ว้าว !!  วี๊ด บู้ม!!!   ชะเอิงเอย ชะเอิงเอย” 

   กลุ่มที่ทายว่าเป็นคุณโจกับคุณโย ยิ้มแป้นหน้าบานไปตามกัน ส่วนอีกกลุ่มอยู่ในอาการคอตก   น้ำค้าง   กับ ข้าวโพด รีบนับเงินในกระเป๋าทันที

   “โห!! อะไรกันน่ะ แล้วโจกะวอเตอร์ล่ะ  ไม่ทายใครก็ไม่ต้องเสียงั้นเหรอ ไม่ยุติธรรมนี่”   Bass  ร้องหาความยุติธรรมขึ้นมาทันที
   “อ้าว!! ก็ถูกต้องแล้วไง ผมเป็นกลาง ไม่ได้ไม่เสียอะไรกะเขาก็ถูกต้องแล้ว”   โจ กล่าวยิ้มๆ
   “เอาเถอะน่า แพ้ก็ต้องยอมรับว่าแพ้ แค่อาหารมื้อกลางวันไม่กี่ตังค์หรอก  แชร์กันแล้วเหลือแค่นิดเดียว ส่วนค่าเข้าชมแฟนตาซี  ใครตังค์ไม่พอยืมพี่ก่อนได้”   ป๋าเรย์ ใจป้ำกับน้องๆ เสมอ 
   “ส่วนนายสองคนไม่ได้ไม่เสียกะใครเพราะงั้นออกค่าตั๋วเองนะเฟ้ย!!..”
   “แน่นอนคร้าบ”  โจหน้าระรื่น
   “ดี งั้นมื้อกลางวันนี้ก็ช่วยแยกโต๊ะไปกินกันสองคนด้วย  เพราะพวกเราเลี้ยงกันเฉพาะกลุ่มที่เล่นเฟ้ย...”
   “อ้าว!!.. เฮ้ย!!… ไหงงั้นอ่ะ..”  water โวย   โจ โอบไหล่รุ่นน้องกระซิบ
   “ไม่เป็นไรไอ้น้อง เราสองคนล่อข้าวผัดคนละสองจานยังประหยัดกว่าเยอะ” 



:oni1: :oni1:



    “เป็นอะไรหรือ พี่โยย ”  krappom  กระซิบถามเมื่อเห็น ยาโยย ทำหน้าไม่เหมือนผู้ชนะพนัน
   “แปลกใจอ่ะ ทำไมพ่อไม่นอนห้องติดกับลูก มาเป็นครอบครัวก็เห็นมีแต่จองห้องติดกันทั้งนั้น”
   “โธ่.. ไม่เห็นน่าสงสัยเลยพี่  แป๋มจะบอกให้  ก็เพราะไอ้เสียงที่ได้ยินเมื่อคืนไง ทำให้นอนติดไม่ได้  เข้าใจยังอ่ะ..”

   ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย  ทึ่งในความคิดของ สาวน้อย



:oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 02-04-2008 14:58:49
10.00  น. 


   เหล่าสมาชิกทยอยลงจากห้องไปเดินเล่นที่ชายหาดกัน  เหลือเพียง 5 คนที่ขี้เกียจเดินชอบนอนดูทีวีมากกว่า  ยาโยย  krappom  Poes   กุ้ง   และ หนุ่มโจ

   เสียงหัวเราะของเด็กๆ ดังแว่วเข้ามาในห้อง  จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากน้องเจมส์และเจนนี่ผู้น่ารัก  krappom   ผู้รักเด็กนั่งไม่ติดรีบลุกออกไปดู  กะว่าถ้าไม่มีผู้ใหญ่อยู่ใกล้ๆ จะขอกอดสักที

   krappom  โผล่หัวออกไปก่อน  ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อเห็นเด็กน้อยชายหญิงยืนเล่นลูกบอลลมอยู่หน้าห้อง  รีบเดินเข้าไปทัก

   “หวัดดีจ้า  น้องเจมส์  น้องเจนนี่..”
   สองหนูน้อยมอง krappom แปลกๆ ก่อนที่เจ้าหนูเจมส์จะถามคำถามเดียวกับ  A-kung
   “เป็นใครคับ  ไม่รู้จักกันมาคุยกันได้งัย..”
   “รู้จักซีจ๊ะ พี่แป๋ม ไง  เราเคยเจอกันแล้วที่ร้านอาหารของคุณพ่อ..”
   “ร้านอาหาร!!..  เป็นลูกค้าของคุณพ่อเหรอคะ”
   “ใช่ค่า  น้องสองคนมากับคุณพ่อเหรอ” 
   “ใช่คับ  พี่รู้จักคุณพ่อด้วยรึเปล่า  เมื่อกี้มีผู้ชายคนหนึ่งบอกรู้จัก”
   “ใช่จ้ะ  พี่รู้จักคุณพ่อกะปะป๊าด้วยเหมือนกัน”
   “จะพบมั้ยคับ เดี๋ยวเจมบอกให้”  เจ้าหนูเจมส์หยั่งเชิงพี่สาวแปลกหน้าว่ารู้จักพ่อจริงรึเปล่า.. ถ้ารู้จักก็ต้องกล้าเจอ….   
   “หา!!.. พบเหรอ เอ่อ.. คือ.. เดี๋ยวก่อนก็ได้เนอะ พี่แป๋มอยากคุยกับหนูสองคนก่อน”
   “จะคุย’ไร ก็รีบคุย เดี๋ยวเราจะไปกันแล้ว..” เจ้าหนูเจมส์เริ่มยอมเป็นมิตรด้วย
   “จะไปเที่ยวไหนกันเหรอจ๊ะ..” 
   “คุณพ่อจะพาไปนั่งรถกินลมค่า”
   “ไปหาอาหารทะเลอร่อยๆ กินด้วยฮะ“
   “โห!!~  น่าไปด้วยจังเลยเนอะ” 

          krappom  สนใจที่เจ้าหนูเจมส์พูดมากกว่า   ...อาหารทะเลอร่อยๆ นึกแล้วน้ำลายหก… อาหารเช้าเมื่อกี้กินยังไม่ถึงครึ่งท้องเลย...

   “ไปมั้ยคะ  เดี๋ยวเจนนี่ขอปะป๊าให้ค่ะ”  ว่าแล้วหนูน้อยก็วิ่งไปเคาะประตูห้อง
   “ว้าย!!  ไม่เอาค่า  พี่ไม่ไป  อย่าไปบอกนะ!!...” 

   krappom   หน้าตื่นเมื่อเด็กน้อยวิ่งไปไม่ยอมฟังที่เธอพูด  ทำไงดีล่ะ!!  เดี๋ยวคุณโจและคุณโยจะเห็นว่าเธอเห็นแก่กินรึเปล่า   แต่เอ๊ะ!!  เฮ้ย !!  ทำไมเจนนี่ไปเคาะห้อง 01 ล่ะ  ทำไมไม่ไปเคาะห้อง  03  ชักจะยังไงแล้วหว่า..
 
   krappom  หันมองซ้ายมองขวาระหว่างห้อง 1003 กับ ห้อง 1001 แต่แล้วเมื่อประตูห้อง 1001 เปิดออกก็พบชายหนุ่มหน้าสวยหวานยืนยิ้มอยู่

   ….เฮ้ย!! ....    ว้าว!!… ใช่คุณโยจริงๆ ด้วยอ่ะ… 

   “ปะป๊าขา.. พี่คนนั้นเค้าอยากไปกินอาหารทะเลกับเราค่ะ”    เด็กหญิงชี้นิ้วมาที่  krappom    ปะป๊าโยมองตามมา 

   krappom รู้สึกตื่นเต้นไหนจะได้เจอตัวจริงคุณโย  ไหนจะได้รู้ว่าห้องพักของคุณพ่อทั้งสองอยู่ห้องริมสุด ไม่ใช่ห้องที่เราแนบหูฟังในท่าตุ๊กแกตะกายฝาเมื่อคืน

   …ทำไงดีล่ะ คุณโยมองเราแล้วยิ้มให้ด้วย  รู้สึกผิดจังเลยที่เรามีเจตนาไม่ดีเมื่อคืน วิ่งหนีกลับเข้าห้องน่าเกลียดเปล่าหว่า เฮ้ย! ไม่ได้..ต้องเผชิญหน้าซีเฟ้ย!!!…

   กำลังจะเดินเข้าไปหาคุณโย  เสียงเพื่อน ๆ ในห้องก็ดังขึ้นก่อนที่ทุกคนจะเดินออกมา

   “แป๋ม!!!.. พวกเราจะลงไปเดินเล่นข้างล่างกันแล้วนะ ทำอะไรอยู่.. อุ๊ย!!..คุณโยขา~~~~ ”  ยาโยยเรียกคุณโยเสียงหลง

   “คุณโย~~~~”  นี่ก็อีกคน... 

   หนุ่มโจร้องเรียกเสียงหลง ก้าวพรวดเข้าไปหาชายหนุ่มหน้าหวานที่ตัวเองแอบปลื้มมาตลอด  แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อร่างสูงใหญ่ของคุณพ่อโจก้าวออกจากห้องสีหน้าตื่นกับเสียงเจี๊ยวจ๊าววุ่นวายหน้าห้อง

   “เอ่อ.. สวัสดีครับ  จำพวกเราได้มั้ยครับ”  โจ รวบรวมความกล้าเป็นผู้นำในการเจรจา   เพราะดันถลามายืนอยู่หน้าสุดของกลุ่มเพื่อนๆ
    “พวกเราเคยไปทานอาหารที่สวนอาหารของคุณครับ ผมยังนั่งคุยกับคุณด้วย   จำได้มั้ยครับ”
   “อ๋อ!.. ครับ.. สวัสดีครับ”  โยธิน พยักหน้าหงึก พอจะจำได้แต่ก็ลางเลือนเต็มที
   “แล้วไงครับ”   เสียงเข้มของภากรย้อนถามกลับมา 

   โจยิ้มแห้งๆ หันกลับมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ยืนเกาะกลุ่มกันอยู่  Poes   พาน้องๆ เดินเข้ามา
   “เอ่อ.. ไม่มีอะไรหรอกค่า คือพวกเรามาเที่ยวกัน แต่ได้มาพบพวกคุณโดยบังเอิญก็รู้สึกดีใจมากๆ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าจะได้มาพักใกล้ๆ กัน” 

   เจ๊หนึ่งยิ้มแย้มขณะพูดคุย  คุณโยก็ยิ้มตอบให้อย่างมีอัธยาศัยเช่นเคย  แต่นายภากรนี่ซิเก๊กเป็นบ้า....

   “พวกคุณพักห้องนั้นหรือครับ”   เสียงคุณโยธินหวานเชียว...
   “ใช่ค่ะ 1002  คุณโยกับคุณโจคงจะมากันทั้งครอบครัวเลยใช่มั้ยคะ ถึงเปิดห้อง 2 ห้อง”

   โยธินและภากรมองหน้ากัน  แปลกใจว่าทำไมหญิงสาวผู้นี้ถึงเข้าใจว่าเขาเปิดห้องพัก 2 ห้อง  และยังรู้สึกขำที่พวกเธอเปิดห้องพักหนึ่งห้องแต่มากันตั้ง 5 คน
   “เรามากัน 5 คน ผู้ใหญ่ 3 เด็ก 2  เปิดห้องสูท 2 ห้องนอนแค่ห้องเดียวครับ พวกคุณมา 5 คน เปิดหนึ่งห้อง ทางโรงแรมเขาให้หรือครับ”   ภากรถามน้ำเสียงสุภาพสุดๆ  แต่เป็นคำถามที่คนฟังถึงกับสะดุ้ง
   “อ๊ะ! เอ่อ..” 
   เห็น เจ๊หนึ่ง   ของเราเสียท่า  ยาโยย ปราดเข้าช่วยทันที
   “เราพักกันแค่ 3 คนค่ะ  อีกสองคนขึ้นมาจอยเฉยๆ ว่าแต่คุณโยกับคุณโจทำไมถึงไม่เปิดห้องพักติดกับลูกๆ ล่ะคะ” 

   ยาโยย รีบตัดบทและย้อนถามเรื่องที่คาใจอยู่ แต่สายตาของคนทั้งคู่กลับมองเธอแปลกๆ  krappom  ปราดเข้ามาช่วยสรุปเพราะถ้าขืนปล่อยไว้มีหวังหน้าแตกทั้งกลุ่มแน่

   “อย่าซักมากน่า.. พวกเรา  แป๋มจะสรุปให้ คุณผู้ชายสองคนนี้มากับลูกสองคนและพี่เลี้ยงเด็กอีกหนึ่งคน  พักอยู่ห้อง 1001 ซึ่งเป็นห้องสูทมีสองห้องนอนฮะ  1003  ไม่เกี่ยวววว~~~~ ”

   Krappom    เน้นคำว่า 1003  ทำเอาพี่ๆ ในกลุ่มยืนหน้าตื่นกัน   

   “ฮะ ๆ  แป๋มสรุปถูกมั้ยฮะ คุณโย..”
   “ถูกต้องแล้วคร้าบบ.” โยธินกระเซ้าสาวน้อยเพราะถูกชะตาในความทะเล้นไม่มีที่ติ
   “ตกลงพวกคุณมีธุระอะไรมั้ย  ถ้าไม่มีผมขอตัวพาลูกๆ ออกไปเดินเล่นหาอะไรกินหน่อย”

   ภากรรีบตัดบทเพราะรู้สึกไม่ชอบมาพากลกับหนุ่มสาวกลุ่มนี้

   “เอ่อ.. ขอโทษนะคะ  เมื่อคืนคุณสองคนมีอะไรกันรึเปล่าคะ”  กุ้ง  ถามโพล่งออกมาเล่นเอาเพื่อนๆ สะดุ้งเฮือก  ส่วนคนฟังหน้าเหรอ
   “เฮ้ย!! พี่กุ้ง!!..”   ยาโยย เอามือปิดปากเพื่อน  เหงื่อตกซิกๆ  รีบตัดบทการสนทนา
   “พูดจาน่าเกลียดน่ะพี่..   อย่าถือสาเลยนะคะ   เชิญตามสบายค่า  พวกเราไม่กวนแล้ว..” 
   กุ้ง   งัดมือ ยาโยย  ออกจนได้
   “ฉันไม่ได้หมายความน่าเกลียดซะหน่อย ก็เมื่อคืนเราได้ยินเสียงคนทะเลาะกันไม่ใช่เหรอ  ถ้าไม่ใช่คุณสองคนก็แล้วไปค่ะ  พวกเราแค่เป็นห่วง อยากให้รักกันมากๆ ไม่อยากให้ทะเลาะกันค่ะ..”
   “ปะป๊ากะคุณพ่อรักกัน ไม่ทะเลาะหรอกคับ” 
   “ใช่ค่ะ  คุณพ่อก็รักปะป๊า  ไม่ทะเลาะหรอก”
   ปะป๊าโยหน้าแดงนิดๆ คุณพ่อโจหันไปพยักหน้ากับสาวใช้ให้พาคุณหนูสองคนเดินลงไปก่อน   และหันมาพูดกับกลุ่มหนุ่มสาวด้วยสีหน้าเครียด
   “ขอบคุณที่สนใจและเป็นห่วงความเป็นอยู่ของครอบครัวเรา ถ้าจำไม่ผิดพวกคุณมาจากบอร์ดบอยเลิฟใช่มั้ยครับ   ..ผมคิดว่า...” 
   “เอ่อ.. โจ ผมว่าน้องๆ เขาหวังดีด้วยความจริงใจ  ทุกคนมีอัธยาศัยน่ารัก  ที่สำคัญพวกเขาเป็นลูกค้าที่สวนอาหารของเราด้วยนะ” 
   โยธินรีบดักคอคนรักและยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี  นี่เป็นนิสัยที่น่ารักของผู้ชายคนนี้…
   ภากรโอบไหล่ร่างเพรียวของคนรักและยิ้มให้กลุ่มหนุ่มสาวผู้นิยม Boy’s love
   “พวกคุณรู้อยู่เต็มอกว่าผมกับโยเป็นคนรักกัน เมื่อคืนจะมีเหตุการณ์ทะเลาะกันที่ห้องไหนผมไม่รู้แต่ที่ห้องของเราไม่มีการทะเลาะแน่ เรา make love กันครับ ” 
   คำพูดที่ออกจากปากอย่างหน้าตาเฉยของหนุ่มใหญ่มาดเข้ม ทำเอาสมาชิกในกลุ่มสะดุ้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่และมีอาการอายม้วนต้วนไปตามกัน
   งานนี้ปะป๊าโยก็ออกอาการอายด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ได้ยืนบิดไปมาอย่างกลุ่มหนุ่มสาว ปะป๊าฟาดกำปั้นเข้าที่ท้องพ่อโจเต็มแรงและเดินก้มหน้างุดจากไปไม่พูดไม่จา




:o8: :o8:




เวลาเที่ยง


   กลุ่มหนุ่มสาว 18 ชีวิต นั่งล้อมวงกินไก่ย่างส้มตำอยู่ใต้ต้นมะพร้าวริมชายหาด   ตกลงอาหารกลางวันมื้อนี้ทุกคนร่วมกันแชร์ค่าใช้จ่าย
 
   “แง๊ แง ๆ ๆ ๆ ๆ  ไม่ยอมอ่ะ ทำงี้ได้งัย  คุณพ่อโจน่ารักอ่ะ  พวกเราอดเห็นช็อตเด็ดเลย...”  น้ำค้าง   โวยวายลั่น
   ช็อตเด็ดที่ว่าก็คือตอนที่คุณพ่อโจบอกหน้าตายว่า ทำอะไรกะปะป๊าเมื่อคืน  และตอนที่ปะป๊าตุ๊ยท้องพ่ออีก
   “งั้นที่พวกเราแอบฟังตั้งนาน ก็เป็นคนอื่นน่ะซี ว้า!!...ปวดคอฟรีๆ เลยเรา ” หมูพูห์    บ่นงึมงำ
   “ช่าย!!~~ คอผมเคล็ดไปข้างเลยอ่ะ ”  Bass    พยักหน้าคอเอียงๆ 
   “พี่ก็ปวดคอ..  สงสัยเป็นเพราะผลกรฺรมที่เราทำกันน่ะ  มานึกดูแล้วที่เราทำเมื่อคืนมันเป็นเรื่องที่แย่มากเลย เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างน่าเกลียดที่สุด!!..”   เจ๊หนึ่ง  กล่าวกับน้องๆ ด้วยสีหน้าสำนึกผิด
   “ใช่!! เราก็เห็นด้วยว่ามันเป็นเรื่องที่แย่มากๆ  ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของพวกเรานะ”   ยาโยย กล่าวเสริมสีหน้ารู้สึกผิดเช่นกัน

   ทุกคนอ้าปากค้าง นึกไม่ถึงว่าผู้นำทัวร์ฝ่ายหญิง และยาโยย จะกลับตัวกลับใจในทันท่วงทีแบบนี้   นิ้วของ krappom  สะกิด เจ๊หนึ่ง   เบาๆ
   “แต่งานนี้เรามาถึงก่อนเพื่อนเลยไม่ใช่เหรอพี่  เสียดายค่าตั๋วเนอะ”
   “รู้แล้วน่า!!.. ไม่ต้องย้ำ”

   เหล่าสมาชิกเริ่มรู้สึกไม่ดีกับเรื่องเมื่อคืน 
   “จริงซี! งั้นที่พนันกันไว้ก็ยกเลิกเถอะนะ  ค่าบัตรแฟนตาซีก็ต่างคนต่างออกเถอะ ”   Thip   เสนอ  ตัวเองก็อยู่ในกลุ่มที่ทายผิดด้วย 
   “อ้าว!!   เล่นพนันแพ้แล้วจะเลิกดื้อๆ แบบนี้ได้งัยอ่ะ”   sun  ร้องโวย
   “แต่เลิกก็ดีเหมือนกันนะฮะ  นาว  ก็ไม่อยากได้บัตรฟรีจากเรื่องไม่ดีแบบนี้เท่าไหร่หรอก  อุ๊ย!!.. เขกหัวเค้าทำไมอ่ะ พี่เรย์.. ” 
   ป๋าเรย์แค่นยิ้ม
   “หึ!! เรื่องไม่ดี เมื่อคืนไม่เห็นพูดแบบนี้ กระซิบถามแต่ว่า เสียงใครอ่ะๆ ”   
   มะนาวยิ้มอายๆ   
   “ก็อยากรู้มันไม่ผิดนี่ฮะ   แต่เล่นการพนันมันผิดนะ”

   เจ๊หนึ่ง  ยกมือห้าม  กล่าวสีหน้าปลื้ม
   “อย่าเถียงกัน  ทุกคนจะได้ไปดูแฟนตาซีโดยไม่ต้องออกค่าใช้จ่าย มีคนออกค่าบัตรให้พวกเราแล้ว ”
   “มีคนออกให้!!!…”  เสียงทวนคำอย่างพร้อมเพรียง
   “ใครเหรอ หนึ่ง..  18 คนเป็นหมื่นเลยนะ  ใครเหรอ ยาโยย.. ”  My love my Babe    ข้องใจหันไปถาม ยาโยย ที่นั่งยิ้มเหมือนรู้ด้วย
   “เอาเถอะน่า  เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้เองว่าใคร”
   Poes  และ ยาโยย นั่งอมยิ้มไม่ตอบคำถามเพื่อนๆ น้องๆ  การได้มาของบัตรฟรี เป็นสาเหตุที่ทำให้สองสาวรู้สึกสำนึกผิด…
   ป๋าเรย์นั่งกอดอกอมยิ้ม  มีสาวๆ มาด้วยก็ดีแบบนี้   ไม่รู้ไปอ่อยเหยื่อกันท่าไหน  ได้บัตรฟรีมาตั้ง 18 ใบ ...



:oni1: :oni1:

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 02-04-2008 15:16:00
   โจวิ่งตามคุณโยไป กุ้ง และ krappom  วิ่งตามโจไปด้วย เหลือสองสาวยืนยิ้มแห้ง ๆ ให้หนุ่มใหญ่

   “ผมรู้ว่าคุณไม่ได้มากันแค่ 5 คน  แต่ไม่ว่าจะกี่คน  คืนนี้ผมจะพาลูกๆ ไปชมภูเก็ตแฟนตาซี ถ้าพวกคุณสนใจไปรอหน้าทางเข้าตอน 6 โมงเย็น ผมจะเตรียมบัตรไว้ให้  ถือเป็นการขอบคุณที่พวกคุณมีความจริงใจกับครอบครัวของผม  ”

   สองสาวอ้าปากหวอมองหน้ากันเลิ่กลั่ก (จริงใจตรงไหนฟระ!! พูดแบบนี้ประชดกันรึเปล่า)  ยาโยย รีบปฏิเสธตามมารยาท

   “เอ่อ.. คือเกรงใจค่ะ  อย่าเลย ”
   “พวกเรามากันทั้งหมด 18  คน เลยนะคะ”  เจ๊หนึ่งกล่าวเสริมอย่างเกรงใจ

   ภากรเลิกคิ้วกับคำตอบ  สีหน้าตกใจไม่ใช่เรื่องค่าบัตรแต่สงสัยเรื่องห้องพัก มากัน 18 คน  จองห้องพักกี่ห้องน่ะ  อย่าบอกนะว่าจองแค่ห้องเดียว..
 
   ภากรซ่อนยิ้ม
   “เจอกัน 6 โมงเย็นหน้าทางเข้านะครับ  ผมจะเตรียมบัตร 18 ใบไว้ให้”



:oni1: :oni1:



   สรุปแล้ว การเดินทางเพื่อร่วมกิจกรรรมสอดแนมครั้งนี้ เป็น trip ที่แสนจะวิเศษของเหล่าสมาชิกเล้าเป็ด   เพราะนอกจากจะได้เข้าชมภูเก็ตแฟนตาซีฟรีแล้ว ยังได้อภินันทนาการห้องพักฟรีจากปะป๊าโยมาอีก 5 ห้อง  เพราะเมื่อเริ่มสนิทกับกลุ่มเด็กหนุ่มสาวพวกนี้แล้ว คุณพ่อทั้งสองก็สัมผัสได้ถึงความน่ารักและมีอัธยาศัยของทุกคน    โยธินโทรไปจองห้องพักที่โรงแรมเพิ่มอีก 5 ห้อง  เขาได้ราคาพิเศษสุดๆ ในฐานะเจ้าของบริษัททัวร์ซึ่งเป็นคู่สัญญาของโรงแรมนี้




:oni1: :oni1:



ห้าทุ่มครึ่ง  ห้อง Suite สุดหรู…


   “ใจดีจังเลยนะครับคุณโย..  ออกค่าห้องพักให้หนุ่มสาว Boy’s love ตั้ง 5 ห้อง.. ผมขอพ่วงห้องนี้ไปด้วยได้มั้ยครับ ”  เสียงทุ้มเหน็บคนรัก นึกไม่ถึงว่าจะใจป้ำขนาดนี้  ทีห้องพักตัวเองกลับให้เขาออก
   “ฮะๆ ไม่ได้หรอกครับคุณโจ.. ห้องนี้มันแพงครับ  ที่ผมจองให้พวกเค้า  มันห้อง Standard ราคากันเองแค่ไม่กี่ตังค์   อีกอย่างคุณเป็นหัวหน้าครอบครัวนะ  ให้ผมออกได้ไง  น่าเกลียดตาย..”
   ร่างสูงยืดอกขึ้นเมื่อได้ยินคำว่า ‘ หัวหน้าครอบครัว ’  ลำแขนแกร่งรั้งคนรักเข้ามากอด
   “เข้าใจพูดนะ ช่างฉอเลาะที่สุด ไหนขอชิมหน่อยซิว่าปากหวานรึเปล่า”
   “บ้า~~ ”  ปากว่าแต่กายโอนอ่อนยอมให้ชิมโดยดี
   สัมผัสแรกแค่ชิมแต่กลับดูดดื่มมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างเพรียวค่อยๆ เอนกายลงนอน  ลำแขนเรียวโอบคอร่างสูงแน่น
   TT____TT 
   “ฮือ~~ ฮือออ ~~~ ไม่อาว  เจมจะหาปะป๊า  ฮือ ~~~ ” 
   อารมณ์เคลิ้มหวานของปะป๊ามลายหายในเสี้ยววินาที เมื่อเสียงร้องไห้และเรียกหาของลูกชายดังแว่วเข้ามา   สองมือผลักร่างสูงออกสีหน้าตื่น
   “ไปดูลูกหน่อย โจ..   ร้องไห้ทำไม.. ” 
   “ลูกร้องหาปะป๊า  ให้พ่อไปดูจะได้เรื่องเหรอจ๊ะ..”
   คิ้วเรียวขมวดริมฝีปากบางขบแน่น เมื่อถูกคนรักปฏิเสธอย่างนุ่มนวล นั่นหมายถึงเขาจะต้องเป็นคนลุกไปดู แต่ก็เป็นจริงอย่างที่โจพูด  หลายครั้งที่สองหนูน้อยไม่เอาพ่อเวลางอแง   เดือดร้อนเขาต้องเข้าไปปลอบถึงยอมหยุด
   ร่างเพรียวลุกพรวดขึ้นนั่ง   ค้อนขวับให้คนรักที่นั่งเอกเขนกอมยิ้มให้
     “ผมไปดูเองก็ได้..” 
   โยธินเข้ามาที่ห้องนอนลูกก็พบเจ้าหนูจอมซนกำลังออกฤทธิ์งอแงเต็มที่  ร่างเล็กป้อมนอนดิ้นอยู่บนเตียงไม่ยอมให้พี่เลี้ยงจับต้อง เจนนี่นั่งหน้างัวเงียอยู่ที่เตียงตัวเอง  สาวน้อยตกใจตื่นเพราะเสียงร้องของน้อง
   TT____TT 
   “ฮือ~~ ไปให้พ้น~~ ฮือออ ~~~”
   “น้องเจมส์ขา..  ไม่เอาค่ะ  อย่างอแงซีคะ.. ”
   “หยุดร้องซะทีได้มั้ย ~~  เจนนี่หนวกหูนะ..”   
   “เกิดอะไรขึ้นคร้าบ  เป็นอะไรลูก  ร้องไห้ทำไม”  ปะป๊าส่งเสียงหวานมาก่อนตัว  เด็กหญิงรีบฟ้องทันที
   “เจมงอแงค่ะ ปะป๊า..  อยู่ดีๆ ก็ตื่นขึ้นมาร้องไห้..”
   “คงจะฝันร้ายน่ะค่ะ คุณโย.. ตกใจตื่นร้องไล่ใครก็ไม่รู้ค่ะ..”  สาวใช้รีบรายงานสถานการณ์
   โยธินทรุดตัวลงนั่ง ร่างเล็กนอนคว่ำหน้าบนเตียงส่งเสียงร้องในลำคอ มือเรียวลูบศีรษะหนูน้อยเบาๆ ก็ถูกตวาดไล่
   “อย่ามาจับ ฮือ~~ ไป!!.. ฮือๆ ~~ ”
   โยธินส่ายหน้า อาการงอแงของเจ้าหนูคงเป็นเพราะเล่นมากเมื่อตอนกลางวัน   ร่างเพรียวโน้มตัวลงกระซิบปลอบ
   “นี่ปะป๊านะ~~ ร้องไห้ทำไมครับ หือ~~ ใครทำอะไรลูกเจมส์ของปะป๊า”
   เสียงร้องกระซิกดังขึ้นเมื่อได้ยินเสียงปลอบ ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมองเห็นปะป๊าก็ร้องโฮ  โยธินอุ้มหนูน้อยตัวป้อมขึ้นมาสวมกอดแนบอก
   “ปะป๊าอยู่นี่ลูก  หนูฝันร้ายหรือครับ... ไม่ร้องนะ คนเก่ง..”
   “ช้างจะเหยียบเจมแล้ว ปะป๊า~~ อือ~~” หนูน้อยหลับตาซุกหน้ากับอกปะป๊า สะอื้นฮึกๆ
   “ช้าง ?..”  คิ้วเรียวเลิกขึ้น และยิ้มออกเมื่อนึกถึงการแสดงโชว์ช้างเมื่อตอนเย็น  หนูน้อยกอดเขาแน่นและบอกว่ากลัวๆ  เขายังคิดว่าลูกแกล้งเพราะไม่เคยเห็นเด็กที่ไหนกลัวช้าง  ขนาดเจนนี่ยังบอกว่าอยากจะขี่ช้างด้วยซ้ำ
   “มีที่ไหนกันครับ แค่ฝันนะลูก ไม่มีช้างที่นี่หรอก.. ลืมตาขึ้นมาดูซีครับ ว่ามีรึเปล่า..”
   สาวน้อยเจนนี่กระโดดลงจากเตียงมาช่วยปะป๊าปลอบน้อง
   “ไม่มีช้างที่นี่หรอก เจม..  ที่นี่มีแต่คน..”
   “ฮะๆ ใช่ครับ  ที่นี่มีแต่คุณพ่อ ปะป๊า พี่เจนนี่ และน้าเอียด  ไม่มีช้างสักตัวเลย..”
   เจ้าหนูหรี่ตาขึ้นมองเห็นใบหน้าสวยหวานของปะป๊ายิ้มให้ก็หายกลัวเลิกโยเยแต่ยังสะอื้นอยู่
   “เจมฝันเห็นช้างตัวใหญ่ด้วย..”  หนูน้อยเล่าเสียงสะอื้น
   “ก็แค่ฝันนะครับ..  ไม่ใช่เรื่องจริงซะหน่อย..” 
   “ช่าย~~ แค่ฝันร้องไห้ซะตกใจหมด~~ ”  เจนนี่บ่นน้อง
   “ตัวเองฝันบ้างมั้ยล่ะ  ดูซิว่าจะกลัวรึเปล่า..” 
   โยธินหัวเราะเมื่อเจ้าหนูเถียงพี่สาวกลับเสียงดัง มือเรียวเสยผมชื้นเหงื่อและเช็ดแก้มยุ้ยที่ฉ่ำนองด้วยน้ำตา ก่อนหันไปบอกสาวใช้เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้ลูก
   ปลอบโยนจนหายกลัวแล้วแต่เจ้าหนูเจมส์ก็ยังไม่ยอมให้ปะป๊ากลับห้อง ร้องขอให้นอนด้วยกัน 
   “หนูนอนกับพี่เจนนี่และน้าเอียด ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้วนี่ลูก หือ..”
   “เจมจะนอนกับปะป๊า.. จะได้ไม่ฝันอีก” ลำแขนเล็กป้อมกอดปะป๊าแน่น 
   “ที่นี่เตียงเล็กนิดเดียวปะป๊าจะนอนยังไงครับ”
   “งั้นเจมจะไปนอนที่ห้องกับปะป๊า”  หนูน้อยไม่ฟังเสียงคว้าเจ้าอีริคตุ๊กตาหมาคู่ใจไถลลงจากเตียงและฉุดปะป๊าให้ลุกขึ้น
   โยธินทำหน้ายุ่งแต่แล้วก็ยิ้มออก พาลูกไปนอนที่ห้องด้วยก็ดีเหมือนกัน หมั่นไส้พ่อโจ..  ป่านนี้นอนหลับสบายไปแล้วมั้ง..
   เจนนี่ลุกพรวดขึ้นนั่งเมื่อเห็นปะป๊าเดินตามน้องชายโดยดี แปลว่าจะพาเจมส์ไปนอนที่ห้องแล้วปล่อยให้เจนนี่นอนกับน้าเอียดเหรอ  ….ไม่มีทาง ~~~ เรื่องอะไรจะยอมนอนคนเดียว….  ร่างเล็กบางกระโดดลงจากเตียงโดยไม่ลืมคว้าผ้าขนหนู่คู่กายติดมือไปด้วย
   “เจนนี่ก็จะนอนด้วยค่ะ  ไปนอนด้วยกันหมดเลยนะคะ ปะป๊า..”
   “โอเคจ้ะ  ไปนอนด้วยกันหมดเลย..”
   โยธินหันมาบอกให้สาวใช้พักผ่อน เขาจะพาลูกไปนอนที่ห้อง สาวใช้ละเอียดยิ้มให้ด้วยความเอ็นดูทั้งปะป๊าทั้งคุณหนู น่ารักกันจริงๆ..




กลางดึกคืนนั้น…

   ร่างสูงนอนตะแคงมือท้าวศีรษะจ้องมองคนรักและลูกๆ นอนหลับอย่างมีความสุข สองหนูน้อยนอนกลาง ปะป๊าโยนอนอยู่ริมซ้าย  เขาอยู่ริมขวานอนไม่ค่อยหลับเพราะถูกลูกสาวตัวน้อยป่ายแขนขาตลอดคืน  เขาเพิ่งรู้วันนี้เองว่ายัยหนูเจนนี่นอนดิ้นขนาดหนัก ...ทูนหัวจ๋า หนูเป็นเด็กผู้หญิงแท้ๆ ทำไมนอนดิ้นแบบนี้.. ดูน้องซิ!! ทั้งซนทั้งเฮี้ยว.. แต่เวลาหลับสนิทแล้ว อยู่ท่าไหนท่านั้นตลอดคืน… เห็นแล้วอิจฉาเจ้าหนูจัง นอนกอดปะป๊าสบายใจเฉิบเลยนะ  นั่นมันที่พ่อนะเฟ้ย !! …

   …ผับผ่าซี!!.. ถ้ารู้ว่าพาไปดูโชว์ช้างแล้วจะกลับมาฝันร้าย พ่อไม่พาไปให้เสียตังค์หรอก..  แถมยังเสียโอกาสที่พ่อจะจุ๊กกรูกับปะป๊าด้วย..  หึ!! พรุ่งนี้เช้าตื่นขึ้นมาต้องอบรมซะหน่อยแล้ว  ขี้กลัวไม่เข้าเรื่อง… ลูกผู้ชายกลัวช้างได้ไง...  แถมยังเป็นแค่ความฝันไม่ใช่เรื่องจริงซะหน่อย… 
          



:oni1: :oni1:




วันเดินทางกลับ

   เหล่าสมาชิกต่างทยอยแยกย้ายกันกลับ ใครมากับใครก็กลับกับคนนั้น   เหลือสองหนุ่ม โจ กับ วอเตอร์   ที่ยังโต๋เต๋รั้งท้ายกันอยู่เพราะกะว่าจะค่อยๆ ขับรถกลับไม่รีบร้อนเหมือนตอนขามา  ตอนมา ข้าวโพด กับ บาส  ติดรถมาด้วย  แต่ขากลับสองหนุ่มนั่นขอติดรถพี่เรย์กลับไปก่อนแล้ว

   “ผมเข้าห้องน้ำก่อนนะพี่”  วอเตอร์  ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนออกเดินทาง หนุ่มโจ แยกไปนั่งรอที่ล็อบบี้   
   เด็กหนุ่มเดินชนกับร่างสูงหน้าประตูห้องน้ำ
   “อ๊ะ!!.. ขอโทษครับ อ้าว!!.. พี่ max มาทำอะไรที่นี่ ไหนบอกว่าไปเชียงใหม่กับคุณดาไง”
   “ชูว์..”  มือใหญ่ปิดปากน้องชายไว้และลากตัวออกมาจากประตู
   “แล้วนายล่ะ มาที่นี่ได้ยังไง ”   ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามแถมยังเปลี่ยนเรื่องพูดเฉย
   “ผมมากับพี่โจ.. และเพื่อนๆ อีกหลายคน..นี่กำลังจะกลับแล้ว  พี่ล่ะ..”
   “ฉันยังอยู่อีกสองวัน  นายจะกลับก็รีบกลับ..”
   “อ้าว! ทำไมมาไล่กันยังงี้อ่ะ  ท่าทางพี่มีพิรุธแฮะ  มากับใครเหรอ..”
   “ไม่ใช่เรื่องของเด็กน่า กลับไปได้แล้ว ไป.. ขับรถมากันเองใช่มั้ย  ขับดีๆล่ะ ”   ร่างสูงดันน้องชายออกเดิน
   “เฮ้ย!.. ผมยังไม่ได้เข้าห้องน้ำ”  วอเตอร์ เบี่ยงตัวออกเดินวกกลับเข้าห้องน้ำ  ชะงักเมื่อประตูถูกผลักออกและมีชายหนุ่มเดินสวนออกมา
   “อ้าว!! เฮ้ย!! พี่ต้น...”  วอเตอร์ อุทานอีกครั้ง วันนี้เป็นวันรวมญาติรึไง เจอแต่คนรู้จัก  “ต้น” นายแบบหนุ่มรุ่นพี่ของเขาเอง
   “อ้าว!! วอเตอร์.. ”  ชายหนุ่มมีอาการตกใจเล็กน้อยก่อนยิ้มให้  สายตาเหลือบไปที่ร่างสูงซึ่งยืนทำหน้าเซ็งอยู่
   วอเตอร์ รู้ทันทีว่าทั้งสองคนมาด้วยกัน
   “โธ่เอ้ย!!  ที่แท้ก็มาด้วยกัน นึกว่าผมไม่รู้เหรอ”  เด็กหนุ่มค้อนพี่ชายก่อนเดินเข้าห้องน้ำ 
   Max  รีบเดินตามเข้ามาปรับความเข้าใจกับน้องชาย  และกำชับว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับคุณดา  หญิงสาวที่พ่อแม่หมายมั่นจะให้เขาแต่งงานด้วย
   วอเตอร์ พยักหน้าหงึกเบื่อหน่ายความเจ้าชู้ของพี่ชาย  ทั้งสาวทั้งหนุ่มไม่เว้น  พี่ต้นหายซ่าแน่ รายนี้เปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้าเหมือนกัน งานนี้ไม่รู้ใครจะเปลี่ยนใจชิ่งหนีก่อน
   ร่างสูงใหญ่ของหนุ่ม Max เดินเคียงคู่กับหนุ่มต้น นายแบบหนุ่มรูปงามที่พยายามปิดบังอำพรางตัวเองด้วยการสวมหมวกและใส่แว่นดำ  ร่างสูงเดินกอดคอพาน้องชายและหนุ่มโจมาส่งที่รถ
   “จริงซี พักอยู่สองวันพวกผมไม่เห็นพวกพี่เลย พักห้องไหนกันหรือครับ”
   โจ ถามตามมารยาท
   “ชั้น 10 ห้อง 03  พี่ไม่ค่อยได้ออกมาเดินน่ะ นอนดูทีวีในห้อง ”  Max ตอบยิ้มๆ หนุ่มต้นหน้าแดงนิดๆ วอเตอร์เห็นแล้ว get ทันที   
   “นั่นดิ  ถึงว่าไม่เจอกันเลย  ไปนะครับพี่  บ๊ายบาย”
   “ขับรถดีๆล่ะ”
   Max  โอบร่างเพรียวเดินไปสูดอากาศริมทะเล   สองวันสองคืนที่พักอยู่ที่นี่แทบจะไม่ได้ออกจากห้องเลย  จึงชวนกันไปเดินชายหาดให้สดชื่นก่อนจะกลับขึ้นไปดื่มด่ำกันต่อ



:oni1: :oni1:



   “สุดยอดว่ะ พี่ชายนาย”
   “นั่นดิ  ผมไม่คิดว่าเขายังคบกันอยู่  นึกว่าเลิกไปแล้ว”
   “ทำไมคิดงั้น  แสดงว่าพี่ชายนายเจ้าชู้เข้าขั้นเลยซี”
   “ทั้งคู่เลยแหล่ะ.. โดยเฉพาะ พี่ต้น ปากบอกรักคุณโยแต่เจอพี่ผมเท่านั้นเปลี่ยนใจเฉยเลย”
   “พอกันล่ะน่ะ ฮะ ๆ..  ว่าแต่ท่าทางรักกันจริงนะ  ก็เล่นไม่ออกจากห้องเลยนี่หว่า  สงสัยยังข้าวใหม่ปลามันอยู่”
   “โฮ้ย!! อยู่เข้าไปได้งัย  ห้องแคบ ๆ อยู่ทั้งวันอึดอัดตาย”
   “ชะ!! ถ้าได้อยู่กับคนที่นายรัก  นายจะไม่พูดแบบนี้”
   “.....................”
   “.....................”
   “เฮ้ย!!  วอเตอร์.. เมื่อกี้พี่นายบอกว่าเค้าพักอยู่ห้องอะไรนะ”
   “ชั้น 10 ห้อง 03”
   “อืมม์ ~~  ชั้น 10 ก็ 10...03 ..”
   “1003...  อ๊ะ!  เฮ้ยยยยย !!!….”
   เสียงทวนคำและอุทานดังขึ้นพร้อมกัน  รถส่ายไปมาก่อนจะทรงตัวได้เหมือนเดิม เสียงหัวเราะดังเป็นระยะตลอดทาง นึกขึ้นมาทีไรก็หัวเราะทุกที  แต่ถึงจะหัวเราะ วอเตอร์ ก็เค้นคอ โจ ว่า ห้ามบอกเรื่องนี้กับสมาชิกในบอร์ดคนอื่นเป็นอันขาด  คนหนึ่งพี่ชายอีกคนก็รุ่นพี่  เขาอายแทน…
   โจ รับปากแต่มีข้อแลกเปลี่ยน โดยหยุดรถให้ วอเตอร์ เป็นคนขับแทนจนถึงกรุงเทพฯ   ส่วนตัวเขาจะขอนอนสบายๆ  นึกถึงเสียงเซ็กซี่เมื่อคืนวาน 
   …อ๊า  ~~  อา ~~…
   …ถึงว่า!!.. เสียงไม่คุ้นเลยทำให้ทั้งเขาและ วอเตอร์ ทายไม่ถูกว่าเป็นใคร  ที่แท้ก็เป็นรุ่นพี่และพี่ชายหมอนี่เอง  หึ หึ…
 




The  :bye2:  end




หวังว่าจะชอบนะคะ

:a3: :a11: :a4: :a3: :a11: :a4:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 02-04-2008 15:47:09
 :m20: :m20: ชอบจ้า แต่ยังมะเคยแอบฟังใครเลย

(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/bil200ev.jpg) มีให้แค่นี้อะหมดตัวแระ


ขอบคุณเจ๊หมวยนะที่แต่งเรื่องสนุกๆมาให้อ่านจ้า
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: madamkung ที่ 02-04-2008 15:50:45
ได้ยินว่าได้เล่นเปงตัวประกอบ อิอิ   :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 02-04-2008 15:59:29
ชอบทั้งแอบฟังชอบทั้งนินทา ขอให้บอกว่าเรื่องนั้นเกิดที่ไหน ถ้าหากเรารู้ เราจะตามไปดู คึคึ  :m20:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: CorNnE PRiNCeS ที่ 02-04-2008 21:52:38
หลงคิว มาให้หายคิดถึง บ่อยๆ แล้วกันนะเจ้

:oni2: :oni2: :oni2: :oni2:



:m4: :m4: :m4: :m4:



Joly_Cornne_Ball
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 3 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-04-2008 13:21:11
ขอบคุณ สำหรับตอนพิเศษคร้าบบบบ

 :o8:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 03-04-2008 15:40:27
 :oni2: :oni2: :oni2:   กรี๊ดๆๆๆๆ


สรุปไม่มีคัยทายถูกเลยสิเนี่ย เอิ้กๆ

โห.. ไหง๋กลายเป็นคู่นี้ไปด้าย กรั๊กๆๆๆ

แต่ม่าเป็นไร ได้กินข้าวฟรี ฮ่าๆๆๆ   :m20:

ขอบคุณเจ๊หมวย สำหรับตอนพิเศษ น่ารักๆนะคะ

ป๋อล๋อ*-  เจ๊หนุ่งจ๋า... ขอซินด้วยดิ ใบนั้นอ่ะ จะเอามาเที่ยยวสงกรานต์ คิคิ   
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 03-04-2008 16:59:56
ถ้ามีรายการพิเศษอย่างนี้อีกอย่าลืมผมนะครับ
ยังคงเป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 03-04-2008 17:47:42
ดีใจจังครับ ที่เจ้หมวยมาเขียนตอนพิเศษใหอ่านกันครับ

รอตอนต่อไปครับ

ปล ตัวประกอบเพียบบบบบบบ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 03-04-2008 20:48:00

 :oni2: :oni2: :oni2:

ได้เจอป๋าโยด้วยอ่ะ

เหอๆ

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: CorNnE PRiNCeS ที่ 03-04-2008 22:39:44
ตอนนี้ อายุน้องเจมส์ กะ น้องเจนนี่ ลดไปมากเลย แล้วยัง ไม่ได้มีเจเจ ด้วย


แต่ว่า ข้าวโพด :m13: :m13: ไปโผล่  :เฮ้อ:กะเขาด้วยอ่ะ :m29:




 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: nuballe ที่ 08-04-2008 02:21:54
น่ารักมากเลยค่ะให้ความรู้สึกดีในแง่ของความรัก
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 08-04-2008 17:30:08
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษ น่ารักเหมือนเคย  :L2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 08-04-2008 19:21:30
เหอๆๆๆ
น่ารักมากมาย ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนพิเศษ  :m1:
เป็นอีกเรื่องที่ดีมากๆเลย
ขอบคุณนะคร๊าบบบ

 :bye2:  :bye2:  :bye2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 10-04-2008 11:38:59
555  ตัวประกอบเพียบเลย   

ขอบคุณที่แต่งตอนพิเสามาให้อ่านกันนะค้าบบ  :oni2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: Mp_qM ที่ 15-04-2008 21:39:05
ขอบคุณคร๊าบผม  ฮ่าฮ่า

มีความสุขคับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: thopia ที่ 24-04-2008 15:45:27
สนุกมากเลยค่ะ  เป็นครอบครัวที่สุขสันต์กันมากเลย

เราอ่านไปยิ้มไปตลอดเลยเขินแทนหนูโย  :o8:

ตอนพิเศษก็น่ารักมาก โดยเฉพาะตอนที่มีพี่ๆชาวบอร์ดโผล่มาตลกจริงๆ

อยากให้มีหลายๆตอนจัง  :m1:

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: CorNnE PRiNCeS ที่ 18-05-2008 01:11:55
http://board.goozaa.com/index.php?topic=18521.0ชื่อที่ไว้บอกให้คนคลิ๊ก (http://ใส่ลิงค์ที่นี่)


ฝากให้ดูแล นะครับ เป็นกำลังใจให้ ด้วยครับ


 :m13: :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: nuballe ที่ 23-05-2008 00:50:55
อยากได้หนังสือ sweet daddy ยังมีอีกมั้ยคะ ช่วยบอกหน่อยค่ะ ที่

nuballeอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com   ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: Berriiz ที่ 20-06-2008 18:47:15
เพิ่งอ่านบอรด์นี้
ชอบเรื่องนี้มากก*
น่ารักดี

หนังสือยังมีอยู่มั้ยค่ะ
ช่วยตอบที่เมล bung_geez@hot
ทีนะค่ะ

ขอบคุณค่า :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: Heater ที่ 27-06-2008 21:33:50
สนุกมากๆครับ
ชอบมากๆ :pig4:
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: baros ที่ 25-07-2008 21:24:49
 :m4:เยี่ยมมากครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: kiki ที่ 22-08-2008 13:23:20
 :a1:  ก่อนอื่น  สา-หวัด-ดี -จ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ    ชอบเรื่องแนวพ่อๆๆ  ลูกๆๆ
มากเลย  อ่านแล้วน่ารักน่าหยิกจริงๆๆๆๆ :a11:

  แล้วมีเรื่องแบบนี้อีกไหมแบบว่า :oni2: :m13:  อยากอ่านอีกจัง :o12:


   แฮะๆๆๆ  ขออีกน้าอยากอ่าน :bye2: :oni3:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: chalee1983 ที่ 26-08-2008 11:41:38
ขอบคุณนะค่ะ  สนุกมากเลยค่ะ ชอบ มาก ๆ เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: ThyRist ที่ 26-08-2008 17:44:58
คนแต่งเขียนเก่งจังฮะ

อยากเขียนนิยายขายแบบนี้มั่งจัง งิ ><"

..
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 31-10-2008 23:01:37
 :a1:สนุกสุดๆชอบมากเลยครับขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 06-11-2008 18:12:18
แวะเข้ามาอ่านตอนพิเศษ ^^*

 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: โพ่มือคลี่ ที่ 23-11-2008 08:40:07
อิ่มจังเลยเจ๊...
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 27-11-2008 14:41:52
แง่มๆๆๆ........ตามมาอ่านค้าบ :impress2:
สนุกตามเคย
เรื่องสนุกๆแบบนี้นู๋เกาะติดไม่ปล่อยอยู่แว้ว :pig4:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: lalala123 ที่ 22-03-2009 18:00:56
เพิ่งอ่าน แต่สนุกมากเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: tamtam ที่ 22-03-2009 23:53:14
กดบวกไม่ได้ ได้แต่ :pig4:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 16-04-2009 19:04:30
เป็นอีกเรื่องที่น่ารักมากกกกกกคร้าบ
 :m1: :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: npn* ที่ 18-04-2009 20:43:23
สนุกมั่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเรื่องนี้


เพิ่งได้มาอ่าน ก้มานั่งอยุกลางใจแล้วเนี่ย 555555
มาติดท็อปทรีในใจซะแล้ว อิอิอิ


ขอบคุณมากนะคะ



ชอบตัวละครทุกตัวเลยอ่า

ป๊ะป๊าโย ให้ความรู้สึกเป็นคุณแม่มั่กๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่คุณพ่อโจก้ชอบนะคะ เป็นผู้ชายที่อบอุ่นดีจัง โฮะๆๆๆๆๆๆ


ส่วนน้องเจนนี่กับน้องเจมส์ ไม่ต้องพูดถึง
รักหมดใจตั้งแต่นู๋ๆเกิดแล้วอ่าา เหอๆๆ


น่ารักมากๆๆๆๆๆเรื่องนี้ ชอบมากเลยค่ะ รักคนแต่งจัง เอิ๊กๆๆ


อยากได้มาเก็บไว้บ้างง่ะ  :impress2:

ยังพอมีเหลืออยุมั้ยเอ่ย??


จาเมลล์ไปถามนะคะ  :man1:



ขอบคุณอีกครั้ง ค่ะ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 20-05-2009 18:38:03
น่ารักกกกกกก
ก็ว่า ตะหงิดๆ ตั้งแต่ตอนเริ่มเรื่อง
สุดท้าย ไม่ใช่ว่าสองคนนี้ได้กันเองน่ะ
แล้วก็จริงด้วย น่ารักมากมาย
ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันความสุขครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 20-05-2009 20:22:20
ขอบคุณฮะ สำหรับเรื่องรางสนุกๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: Me_kame_nishi ที่ 14-06-2009 21:53:08
เรื่องนี้อ่านแล้วประทับมากๆค่ะ น่ารักกันทุกคนเลย...  o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: QUE1 ที่ 30-09-2009 22:21:20
น่ารักมากๆ เลยค่ะ
ป๊ะป๊าโย กับ พ่อโจ คิกๆๆ
เด็กๆ ก็น่ารัก ซะ

ขอบคุณมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 30-09-2009 23:22:26
ชอบเรื่องนี้มากกกก
น่ารัก อบอุ่น
ชอบตอนที่ ต่อปากต่อคำกันเเรกๆ เหอเหอ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 16-10-2009 00:05:15
เรื่องนี้สนุกมากค่ะ
พ่อโจ กะปะป๊าโย และคู่แฝดน่ารักมากๆ
เสียดายมาอ่านช้าไป
อยากได้หนังสือจัง
ขอบคุณเจ๊หมวยมากนะคะ  :L2:

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 29-10-2009 00:07:57
น่ารักมากๆเลย  สนุกๆ 
พล็อตเรื่องสุดยอดอ่ะ เป็นอะไรที่คาดไม่ถึง
คุณพ่อ ป๊ะป๋า แล้วก็ลูกๆ น่ารักๆ  o13

หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ 31-10-2009 16:59:26
น่ารักจัง สนุกมากเลยฮับ    :pig4:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay (ตัวอย่างตอ
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 04-12-2009 14:10:46
ตัวอย่างตอนพิเศษ  ใน   MY BABY 1   o13



ร่างเพรียวกระโดดลงสระว่ายมาหาลูกๆ เจมส์และเจนนี่ลอยคอมองดูปะป๊าตาค้างอยู่เหมือนกัน เพราะเป็นครั้งแรกที่เห็นปะป๊าโยใส่กางเกงว่ายน้ำแนบเนื้อ โยธินไม่เคยเล่นน้ำสระกับลูกเพราะถูกโจยื่นคำขาดไว้ว่า ถ้าเป็นสระว่ายน้ำพ่อจะเป็นคนดูแลลูกเอง ส่วนปะป๊ามีหน้าที่ดูแลลูกตอนเล่นน้ำทะเล ดังนั้นสองหนูน้อยจึงเคยเห็นแต่ปะป๊าใส่กางเกงขาสั้น ไม่เคยเห็นใส่กางเกงว่ายน้ำแบบนี้

โยธินว่ายน้ำมาหาลูกใกล้จะถึงตัวแล้ว จู่ๆ ก็หายลงไปในน้ำ สองหนูน้อยมองหน้ากันเลิ่กลัก

“ปะป๊า~~~ ” สาวน้อยเจนนี่หน้าเสียร้องเรียกปะป๊าเสียงสั่น

เจ้าหนูเจมส์หน้าตื่นอ้าปากจะตะเบ็งเสียงเรียก จู่ๆ ปะป๊าก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำ

“จ๊ะเอ๋!!..”

“ว้าย!!..” สองหนูน้อยอุทานลั่นทั้งตกใจและดีใจ เจนนี่โผเข้าสวมกอดพ่อด้วยความดีใจเมื่อรู้ว่าถูกหลอกเล่น

“ปะป๊าขา!!.. ตกใจหมดเลย เจนนี่นึกว่าหายไปในน้ำแล้ว..”

“ช่ายย!!.. ปะป๊าเล่นแบบนี้เจมตกใจหมดนะ”

“โอ๊ะ!! โอ๋!! ขอโทษคร้าบบ ปะป๊าขอโทษ..”

โยธินสวมกอดร่างเล็กของลูกสองคนไว้ พ่อลูกหัวเราะเล่นหัวกันสนุกสนาน การ์ดหนุ่มเห็นแล้วอดยิ้มตามไม่ได้ ไม่อยากเชื่อว่าชายหนุ่มหน้าหวานผู้นี้จะเป็นพ่อม่ายลูกติด น่ารักทั้งพ่อทั้งลูกแบบนี้สงสัยต้องตีสนิทให้มากกว่านี้หน่อยแล้ว…

ร่างสูงของการ์ดหนุ่มขยับเข้าไปร่วมจอยด้วย แต่ไม่สามารถเข้าใกล้ตัวพ่อได้ สองหนูน้อยไม่ยอมให้ผู้ชายแปลกหน้าเข้าใกล้ปะป๊าในระยะประชิด โดยเฉพาะเจ้าหนูเจมส์คอยกันสุดฤทธิ์ คิ้วเล็กขมวดอย่างไม่พอใจเมื่อมือของนายอาร์มเอื้อมมาหยิบเศษดอกไม้ที่ติดอยู่บนผมปะป๊า มือเล็กป้อมปัดมือใหญ่ที่รุ่มร่ามออก

“อย่ามาจับผมปะป๊า!!”

คิ้วเข้มเลิกขึ้นตกใจและขำอาการหวงพ่อของหนูน้อย

“โอว!!.. จับนิดหน่อยไม่ได้เลยเหรอ..”

“ไม่ได้ค่ะ คุณพ่อไม่ชอบให้ใครมาจับตัวปะป๊า..”

“ช่าย.. คุณพ่อหวงปะป๊าจะตาย”

“เจนนี่!!.. เจมส์!!.. พูดจาเหลวไหลนะ..” โยธินเอ็ดลูกๆ และยิ้มให้ชายหนุ่มที่ทำหน้างงๆ อยู่

“ไม่มีอะไรหรอกครับ เชิญคุณไปดูแลทางอื่นเถอะ ผมดูลูกๆ เองได้”

โยธินรีบตัดบทเพราะไม่อยากถูกซักมากความ แต่กลับยิ่งทำให้อีกฝ่ายสงสัย

“เด็กๆ พูดถึงใครหรือครับ คุณพ่อคือใครเหรอ..”

“เอ่อ..” โยธินนึกหาวิธีที่จะอธิบายแต่กลับถูกลูกชายแย่งตอบ

“คุณพ่อก็คือคุณพ่อ.. น้าไม่รู้จักเหรอคับ พ่อแปลว่าอะไร..”

“โน่นไง!!.. อยากรู้จักก็หันไปทางโน้นซีคะ คุณพ่อขา~~ เจนนี่อยู่ทางนี้ค่า..”

สาวน้อยตะโกนเรียกพ่อ.. โยธินหันขวับตามก็พบร่างสูงอยู่หน้าทางเข้าสระยืนกอดอกมองดูเขาและลูกๆ ในระยะที่เห็นภาพถนัดชัดเจนแต่อาจไม่ได้ยินเสียง ใบหน้าหวานซีดลงทันที รู้สึกเย็นสันหลังวาบกับสีหน้าและอาการนิ่งเฉยของคนรัก แค่เห็นแว่บเดียวก็รู้แล้วว่าบรรยากาศรอบตัวพ่อโจขณะนี้คุกรุ่นด้วยลมพายุเพชรหึง

ร่างเพรียวรีบพาลูกๆ ว่ายออกห่างร่างสูงของการ์ดหนุ่มมาที่บันไดทางขึ้นสระ

“พ่อค้าบบ~~~ อุ้มหน่อย~~”

“คุณพ่ออุ้มเจนนี่ด้วยค่ะ”

แฝดน้อยร้องเรียกพ่อที่กำลังเดินย่างสามขุมเข้ามา ภากรอุ้มลูกสองคนขึ้นจากสระ และบอกให้เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวห่มตัวไว้ โยธินยิ้มหวานให้คนรักแต่ไม่ได้รับยิ้มตอบ ทำใจดีสู้เสืออ้อนทักเสียงใส

“ตื่นแล้วเหรอ..โจ.. ผมเห็นคุณหลับสบายก็เลยไม่ได้ปลุก กำลังจะพาลูกขึ้นน้ำพอดี”

ภากรแค่นยิ้มให้

“แน่ใจหรือว่ากำลังจะขึ้น ว่ายน้ำเล่นกับผู้ชายหล่อๆ ฉ่ำชื่นหัวใจดีมั้ย ถ้ายังอยากอยู่ต่อก็เชิญตามสบาย ฉันจะพาลูกกลับ”

ร่างสูงลุกขึ้นยืนและเดินกลับไปหาลูกอย่างไม่ใส่ใจ

“……....”

ใบหน้าหวานเจื่อนลงน้อยใจที่ถูกคนรักค่อนขอดแบบไม่มีเหตุผล ถ้าโกรธที่เขาพาลูกมาโดยไม่ชวนตัวเองมาด้วยเขาจะไม่เสียใจเลย

ร่างสูงของหนุ่มใหญ่เดินมาตามครอบครัวกลับบ้านด้วยสีหน้าและอารมณ์ไม่จอย ทำให้การ์ดหนุ่มกระจ่างแจ้งกับความหมายของคำว่าพ่อ... รู้แล้วว่าคุณพ่อคือใคร ? และทำไมถึงหวงปะป๊า

ชายหนุ่มรีบ fade ตัวเองออกจากบริเวณนั้นด้วยการดำดิ่งลงใต้น้ำไปโผล่อีกฟากของสระ

ภากรเช็ดตัวและห่มผ้าให้สองหนูน้อยก่อนคว้าเสื้อผ้าของลูกและคนรักยัดใส่กระเป๋า เขาจูงร่างเล็กเดินย้อนกลับขึ้นมาจังหวะเดียวกับที่ร่างเพรียวของปะป๊ากำลังก้าวขึ้นจากสระพอดี

“คุณพ่อขา~~ รอปะป๊าก่อนซีคะ..”

ร่างสูงชะงักถึงลูกไม่เรียกให้หยุดก็ไม่อาจเดินผ่านไปอย่างไม่ใส่ใจได้ ดวงตาคมวาวโรจน์เมื่อร่างเพรียวเปียกโชกก้าวขึ้นจากสระยืนสะบัดผมไปมา กางเกงว่ายน้ำแนบเนื้อสีกรมตัดกับผิวกายขาวเนียน ผมหยักศกเปียลู่ระใบหน้าและลำคอ สภาพยั่วยวนของโยธินในเวลานี้ทำให้พ่อโจสะกดกลั้นอารมณ์หวงไม่อยู่ มือใหญ่ดึงผ้าเช็ดตัวที่คลุมร่างเล็กป้อมของลูกชายออกโยนให้ปะป๊า

“อ้าว!!.. แล้วเจมจะเอาไรห่มอ่ะ” หนูน้อยยืนเกาหัวเมื่อถูกพ่อแย่งผ้า เช็ดตัวไปให้ปะป๊า

โยธินซ่อนยิ้มในหน้ารู้ว่าคนรักโกรธด้วยสาเหตุอะไร ทั้งที่น้อยใจแต่ก็รู้สึกดีเพราะแสดงถึงความรักที่อีกฝ่ายมีให้ ถ้าไม่รักก็คงไม่หวง.. เขารีบเอาผ้าเช็ดตัวคลุมไหล่ไว้ แต่สายตาคมที่จ้องมองมาก็ยังไม่คลายความขุ่นเคือง

ภากรยืนนิ่ง เมื่อคนรักเอาผ้าเช็ดตัวห่มท่อนบนแทนที่จะพันท่อนล่างไว้ แต่จะว่าไปไม่ว่าท่อนไหนก็ไม่ควรเปิดโชว์ต่อที่สาธารณะแบบนี้

“ขอยืมผ้าให้ปะป๊าก่อนนะ เจนนี่..”

เด็กหญิงพยักหน้าหงึก มือใหญ่จึงคว้าผ้าเช็ดตัวที่คลุมร่างเล็กของลูกสาวออก ครั้งนี้ขอก่อนเพื่อไม่ให้สาวน้อยร้องโวยเหมือนเจ้าหนูเจมส์

ร่างสูงก้าวประชิดตัวคนรักและใช้ผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างให้ โยธินอ้าปากหวอใบหน้าหวานแดงเรื่อ เมื่อหันไปเห็นสายตาทุกคู่ในสระจ้องมองมาที่เขาและโจ รู้สึกอายมากที่ภากรทำเหมือนเขาเป็นลูกอีกคนหนึ่ง

“คุณทำอะไรน่ะ เอาผ้าเช็ดตัวของลูกมาห่มให้ผมเนี่ยนะ” เสียงใสกระซิบถามไม่กล้าโวยเสียงดัง

ภากรไม่ตอบคว้าร่างเล็กบางของลูกสาวขึ้นมาส่งให้โยธินอุ้ม ส่วนเขาก็อุ้มร่างเล็กป้อมของเจ้าหนูขึ้นมา สองหนูน้อยทำหน้าทะเล้นใส่กันเพราะถูกพ่อแย่งผ้าเช็ดตัวไปให้ปะป๊าด้วยกันทั้งคู่

ร่างสูงดันคนรักออกเดิน

“จะไปไหน ห้องน้ำอยู่ทางโน้น..”

“กลับไปอาบที่บ้าน!!” เสียงทุ้มคำรามใส่ ร่างเพรียวรีบจ้ำอ้าวไปที่รถโดยไม่มีข้อกังขาอีก

อารมณ์หึงหวงของภากรรุนแรงจนปะป๊าและลูกๆ นั่งไม่เป็นสุข ไม่มีใคร กล้าพูดอะไรเพราะพ่อโจหน้าดุยิ่งกว่าตอนอยู่ที่สระหลายเท่า ทุกคนต้องนั่งรถพ่อกลับและทิ้งรถปะป๊าไว้ที่สโมสร สองหนูน้อยยังอยู่ในชุดว่ายน้ำแต่ไม่มีใครบ่นหนาวเพราะพ่อไม่ได้เปิดแอร์ ปะป๊าซึ่งห่มผ้าเช็ดตัวสองผืนทั้งบนและล่างถึงกับเหงื่อตกแต่เห็นหน้ายักษ์ของคนรักแล้ว ยอมร้อนดีกว่าถูกบ่น..


 :m29:



TBC  >>>  ในรวมเล่ม



My baby 1 (พิมพ์ใหม่ ตอนพิเศษ เวอรชั่น เล้าเป็ด)


สนใจหนังสือรวมเล่ม  ตามไปดูรายละเอียดที่บ้านพ่อจ้า~


หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 06-12-2009 16:26:09
รออ่านในเล่มมมม :oni1:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: SongjiGun ที่ 18-01-2010 22:26:17
 :bye2: :z3:นิดนึง แต่ก้อชอบครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 09-02-2010 12:36:31
เข้ามาตามเก็บทีละเรื่องค่ะ  สนุกทุกเรื่องเลย  o13
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 10-02-2010 18:19:13
เจ๊หมวยคะ....น้องผึ้งตามมาอ่านเรื่องนี้ด้วยแล้วนะคะ....สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก o13 o13


ได้ซื้อเก็บอีกแล้ว (แต่ขอเป็นปลายๆเดือนนะคะ)

อ่านเรื่องนี้แล้วอมยิ้มไปกับความน่ารักของแฝดน้อย เจนนี้กับเจมส์ ความน่ารักของโยธินและคนขี้เก๊กๆและเจ้าเล่ห์ของโจ (เจ้าเล่ห์ขึ้นตั้งเยอะ หลังจากที่ชอบโยแล้ว)

สนุกจริงๆค่ะ .... :L2:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 25-03-2010 22:52:24
สนุกมาเลยครับ

ขอบคุณครับ

 :m25:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 26-03-2010 10:14:11
 o13
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 24-04-2010 02:11:35
 :o8: ไม่รู้จะช้าไปรึป่าว ที่เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้

เนื้อเรื่องน่ารักมากค่ะ สนุกด้วย (เพิ่งอ่านแนวนี้เป็นเรื่องแรก)

แล้วจะติดตามผลงานไปเรื่อยๆนะคะ

ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆ+สนุกๆ+น่ารักๆ มาให้อ่านค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: Rina ที่ 29-04-2010 18:52:33
อ๊ายสนุกมากเลยค่ะ  เรื่องนี้ชอบมาก อ่านไปยิ้มไป
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: fernnakab ที่ 29-04-2010 23:26:37
สนุกมากเลยค่ะ..เด็กสองคนน่ารักมาก..ป๊ะป๋าโยก็น่ารัก
ไม่แปลกใจเลยที่พ่อโจหลงรัก...อิอิ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 05-05-2010 11:02:56
สนุกกกก

ตอนนี้ยังมีหนังสืออยู่่ป่าวค่ะ

อยากได้อะ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: pimm ที่ 09-05-2010 08:53:11
สนุกมากเลยอ่าา
ยิ่งอ่านยิ่งหลงรักปะป๊าาาา

5555

คุณพ่อที่ตอนแรกเกลียดแสนเกลียด
ลุ้นตั้งนานนน
สุดท้ายก็ตกหลุมรักจนได้ ฮ่าๆ

อยากอ่านตอนพิเศษ
อยากอ่านภาคสอง สาม ด้วยอ่าาาา

กระซิก  กระซิก
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay update ตอนพิเศษ "คู่รักพักร้อน" 13 เมษา 2551
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 26-05-2010 12:52:26
น่ารักง่ะมีตอนพิเศษอีกน่ะ น่ารักทั้งพ่อโจ ป๊าโยเลยนิ ทั้งเจม ทั้งเจนนี่ น่ารัก
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: j-muay ที่ 03-10-2010 12:10:05
ตกกระป๋องไปหน้าท้ายๆ แล้ว ขอ up ขึ้นมาหน่อย ฮิ ฮิ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 03-10-2010 20:26:24
 :z13:เจ๊หมวย อิ อิ
มีอยู่ในครอบครองแล้ว อ่านแล้วอ่านอีก แต่อ่านทีไรก็มีความสุขกับครอบครัวนี้จริง ๆ
อีกเรื่องคือ เจ้านายจ๊ะจ๋า น้องโมจิ ขาวอวบน่ากิน สนุกมาก ๆ การันตีความสุขจ้า
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: RakorN ที่ 09-10-2010 10:21:15
อ่านจบ เหมือนได้กลิ่นหอมๆของแก้มปะป๊าติดจมูกมาด้วย
อ๊างงงง
 :m3:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 09-10-2010 21:37:55
น่ารักจัง
^^
ปะป๊า โยธินน่ารักมากกกกกก
ชอบ ๆ!!!!

หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: nano ที่ 10-10-2010 16:39:53
 :-[ ป๊ะป๋า น่ารักที่สุดเลย ยิ่งอ่านยิ่งหลง (คุณพ่อจะตามมาหึงไหมเนี่ย ฮ่าๆ)
คุณพ่อก็น่ารัก หื่นได้ใจ เด็กๆก็น่ารัก ครอบครัวสุขสัน
ชอบๆๆๆ
อยากอ่านต่อจังเลย หาซื้อได้ที่ไหมนะ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: butajang ที่ 14-10-2010 13:50:06
ขอบคุณนะคะสำหรับ นิยายดีๆ อ่านภาค 1 จบเเล้ว เเละตอนพิเศษ 1 ตอนท้าย น่ารักมากๆเลย คุคุคุ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: nano ที่ 31-10-2010 00:56:43
เจ๊ หนูอ่านจบหมดแล้วนะ ครบทั้ง 3 เล่มเลย
หนุกมากมายอ่ะ

ชอบจังเลย เป็นครอบครัวที่น่ารักมาก
แต่เล่มสองนี้เกือบทำหนูหัวใจวาย น้ำตาไหลเลย
ขอบคุณมากนะคะ

ไว้จะติดตามผลงานเจ้าคะ  :-[
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 01-11-2010 23:15:21
ตามมาอ่านอีกเรื่องค่ะ...โหย~ น่ารักอ่ะ(เกิดอาการรักเด็กขึ้นมากระทันหัน) :man1:
ก็ว่า...มิน่าฉากในร้านอาหารมันรู้สึกคุ้น ๆ เป็นเสี่ยใหญ่ที่เคยอ่านเจอจากเรื่อง เจ้านายฯ นี่เอง :mc4:

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: rainy_naja ที่ 25-12-2010 08:04:03
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 28-12-2010 03:53:46
หนุกมากคร้าบ o13
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: zombiepe ที่ 06-01-2011 04:05:30
น่าร้ากกกกกกกกกกก
ชอบเรื่องนี้จังเลยค่ะ
อยากได้ภาคสองจะตามหาตอนนี้ได้ไหมเนี่ยเรา
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 07-01-2011 04:07:05
อ๊ะ..  :-[
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 09-01-2011 12:17:59
อ่านแล้วน่ารักดีค่ะ
แต่ที่อ่านต่อบ้านพ่อคือที่ไหนค่ะ
ใครรู้ช่วยบอกหน่อยค่ะ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: lolilo ที่ 10-01-2011 05:39:27
อยากได้หนังสือเหมือนกัน TT
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: newly ที่ 11-01-2011 23:06:47
เรื่องนี้สนุกมากเรยอ่า

ชอบโยมากมาย

อ่านรวดเดียวจบเรย
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: kdragon ที่ 12-01-2011 20:36:44
เรื่องนี้น่ารักจริงอะไรจริง สนุกมากๆเลยครับ
อยากอ่านเป็นรวมเล่มจังเลย ไม่ทราบว่าพอจะยังมีเหลืออยู่บ้างมั้ยอ่ะครับ :m23:
แต่ถ้าหมดแล้วก็ไม่เป็นไรครับ ถ้ายังไงขอลิ้งบ้านพ่อไว้หน่อยได้มั้ยครับ
อยากอ่านนิยายเรื่องอื่นๆของเจ๊หมวยด้วย :o8:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 14-01-2011 04:57:37
น่ารักกก  อ่านเเล้วมีความสุข

ดูอบอุ่นมากๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณครับบบ


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 15-01-2011 22:09:56


เรื่องนี้น่ารักจังอยากอ่านอีกอ่า
 :impress2:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: pics ที่ 30-01-2011 19:08:36
มีให้อุดหนุนหนังสือได้ที่ไหนเหรอครับ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 31-01-2011 03:12:39
มีให้อุดหนุนหนังสือได้ที่ไหนเหรอครับ
ลองเข้าไปดูในนี้นะคะ > Daddy's Home (http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vboard.php?user=zenjhub)
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: pics ที่ 31-01-2011 21:15:57
มีให้อุดหนุนหนังสือได้ที่ไหนเหรอครับ
ลองเข้าไปดูในนี้นะคะ > Daddy's Home (http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vboard.php?user=zenjhub)

ขอบคุณมากคร้าบบบ ตามไปอย่างด่วน ๆ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 01-02-2011 18:33:00
น่ารักจังเลย น้องเจนนี่กับน้องเจมส์ อยากฟัดให้จมเขี้ยว
ปะป๊าก็น่ารัก แอร๊ยยยยยยยยย อยากฟัดด้วย แต่กลัวพ่อโจเตะกระเด็น
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 03-02-2011 16:47:52
เมื่อคืนหยิบมาอ่านอีกรอบ นึกแล้วอยากได้ตอนพิเศษๆ อีกสักกะเล่นมจังอ่ะเจ้  o13

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: VICTORY ที่ 17-02-2011 23:29:16
สนุกมากมายยย  คุนพ่อ กับป๊ะป๊า น่ารักจังเลยย
สองแฝด ก็น่ารักมากก
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: mook0007 ที่ 20-02-2011 14:40:08
สนุกจังค่ะ คุณพ่อขี้หึงจัง ก็ป๊ะป๊าน่ารักซะขนาดนี้นี่นา
ชอบตอนพิเศษด้วยค่ะโดยเพราะตอนที่ไปฮันนี่มูนที่เชียงใหม่  :m20:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 20-02-2011 23:48:29
น่ารักๆๆๆๆๆอ่ะ เจมส์กะเจนนี่น่ารักจัง
ปะป๊าก้ โฮก กกกก แบบนี้คุณพ่อจะไม่หวงได้ไงล่ะเค่อะ
แรกเริ่มมาเอาซะดราม่าเลย แต่จบได้น่ารักมาก คิคิคิ
คุณพ่อขี้หึงๆ ๆๆๆ ปะป๊าน่ารักๆ ๆๆ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ♫~Eristneth~♪ ที่ 18-04-2011 16:50:35
สนุกมากค่ะ

เราก็อยากได้ เเต่ไม่เคยซื้อหนังสือทางเว็บเลย

ทำไม่เป็นสักอย่าง เเต่พี่บอกว่ถ้าจะซื้อเดี๋ยวจะโอนให้อะ
 
เเล้วมันยังไง อะไร   :confuse:

มีเหลือมั๊ยคะ   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: kut ที่ 18-04-2011 18:49:38
สั่งจองหนังสือ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ♥Täsinä→l3€LL♥ ที่ 08-08-2011 18:31:07
สนุกมากๆเลยค่ะ  ^^
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 09-08-2011 02:58:38
สนุกมากมาย
ตอนแรกก้อไม่คิดว่า
ปะป๋ะเปงนายเอก และคุณพ่อเป็นพระเอก
แต่หลังๆ นี่
หวานซาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: 20227ple ที่ 22-08-2011 23:12:19
ชอบมากค่าา  :o8:
เรื่องนี้ เริดมากค่ะ o13
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FunnYtooN ที่ 23-08-2011 22:46:26
อ่า อ่านจบแล้ว สนุกมากกกกกกกกกกกกกก ^^
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: azure™ ที่ 25-08-2011 01:31:29
เป็นนิยายที่น่ารักมากๆเลยครับ ขอบคุณนะครับสำหรับเรื่องราวดีๆ ^^
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: indyska ที่ 25-08-2011 23:32:30
น่ารักอ่ะ♥
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 12-09-2011 15:35:29
แนวครอบครัวสุขสันต์ นี้ อ่านแล้วมีความสุขดีจัง

เจ๊หมวย แต่งภาษาอ่านง่ายดี ถูกใจ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 19-09-2011 00:49:40
อ่านกี่ทีก็ยังทำให้ยิ้มได้
น่ารักทั้งบ้านเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ¡ииσcэиτ ที่ 19-10-2011 21:51:49
เป็นครอบครัวที่น่ารักมาก
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 23-10-2011 16:28:51
ครอบครัวนี้น่ารักมากๆๆเลย :impress2:
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 03-02-2012 15:48:45
น่ารักมากกก พ่อโจ+ป๊าโย :z2:
หนูเจนกับเจมส์ก็น่ารัก
เคยเห็นตอนพิเศษที่ไหนซักที่ แล้วมันที่ไหนล่ะ
ที่ป๊าโยไม่สบาย แล้วพ่อโจก็บอกเด็กๆว่าจะฉีดยาให้ป๊า
แล้วเพื่อนซี้คุณพ่อโทรมา เด็กมันซื่ออออเลยบอกว่าพ่อฉีดยาให้ป๊าอยู่
เพื่อนพ่อได้ยินงี้แทบสำลัก แม่เจ้า!!ไม่เกรงใจลูกเลยนิ :m20:
อ่านแล้วมีความสุข ขอบคุณมากนะคะ

ขอบคุณ คุณพี่พูห์(เนียนเรียก) คุณJ-muay และเล้าเป็ด
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 04-02-2012 18:17:49
ยังอ่านไม่จบเลย
เดี่ยวมาอ่านต่อ
แต่น่ารักมากๆๆเลย
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: sbeam14 ที่ 04-02-2012 19:00:52
จิ้มๆ คนเขียนจ๊ะ :z13:

ชื่อเรื่องน่ารักเลยกดเข้ามาอ่าน :-[   ขอมาเป็นแฟนคลับด้วยคนนะ :-[
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 04-02-2012 21:47:19
 o13 o13

ชอบมากๆเลยค่ะ น่ารักจริงๆๆๆ :o8:
 o13 o13
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 05-02-2012 09:37:34
ในที่สุดก็อ่านจบแล้ว

เป็นครอบครัวที่น่ารักที่สู๊ดดดดดด
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 06-02-2012 20:51:50
ในที่สุดก็รักกัน  :mc4:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: The_Beggar ที่ 09-03-2012 23:35:41
 :L2: :L2:ชอบครอบครัวนี้ที่สุดเลย  น่ารัก แล้วก็หวานกันจริง
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay (อยากให้มีการรีปริ๊นท์จัง)
เริ่มหัวข้อโดย: venamama ที่ 11-03-2012 00:22:06
       ให้ตายเรื่องนี้อ่านกี่ครั้งก็ชอบ  :o8: น่าจะสัก 8-9 ครั้งแล้วล่ะมั้ง
อยากได้ร่วมเล่มมากเพราะภาค 2 ไม่ได้อ่านเลย และก็เรื่องลูกบุญธรรมของ คุณพ่อกับป๊ะป๋าด้วย  :เฮ้อ: เฮ้อ...อยากได้จัง
มีความเป็นไปได้หรือเปล่าอ่ะว่าจะ รีปริ๊นท์ (แถมยังมีเรี่องพิเศษตอนอพยพน้ำท่วม กับวันพ่อด้วยล่ะ)  o13
ถ้ายังไงก็รบกวนพิจารณาด้วยล่ะกันนะ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะรอล่ะ จริงๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: minsok ที่ 22-04-2012 00:46:44
เพิ่งเข้ามาอ่าน
ชอบมากเลย  น่าร๊ากกกกกสุดๆ
และอยากได้หนังสือมาก ทั้งสองภาดเลย  หรือภาดสองอย่างเดียวก้อได้
ไม่ทราบว่ามีอยู่อีกมั้ย
ถ้ายยังงัยก้อบอกด้วยนะค่ะ  หรือ mee_prn@อย่าแสดงเมลย์บนบอร์ด.com
นานแค่ไหนก้อจะรอ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 02-10-2012 23:05:27
นิยายเรื่องนี้น่ารักๆมากๆครับ ตอนแรกไม่ชอบนายเอก

คือคิดเหมือนพระเอกเลยว่านายเอกอยากได้อะไรกันแน่

แต่ก็นะ ... สุดท้ายคนที่ชอบสุดก็เป็นนายเอก :laugh:

แต่ก็นะ คุณพ่อนี่สเปคเลยหล่ะ ถ้ามีจริงจะไปแย่ง :o8:

ยังมีเรื่องราวของพี่ๆในเล้าด้วย น่ารักกันจัง


ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆนี้ครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Lisnary ที่ 04-10-2012 18:17:47
 :give2: น่ารักมากเลยอ่ะค่ะ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 16-10-2012 15:23:57
น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ ไม่ทราบว่ายังมีเหลือไหมจ้ะ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 16-10-2012 21:45:40
สนุกมากๆเลยค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 18-11-2012 21:05:56
ขอบคุณค่ะ น่ารักมาก ^^

 :L2:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 18-04-2013 02:45:17
มันน่ารักมากๆเลยคะ อยากได้หนังสือมากๆ ไม่รู้มีไหม อยากได้จริงๆเลย ขออดิเนอีกที
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: buff89 ที่ 18-04-2013 13:17:07
น่ารักจัง ชอบเวลาที่เด็กๆหวงปะป๊าแทนคุณพ่อ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 18-04-2013 15:51:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 18-04-2013 16:01:04
น่ารักเกินไปมั้ย  :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: cokebundit ที่ 07-05-2013 18:00:04
ขอบคุณนะครับสำหรับเรื่องราวดี o13
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 08-05-2013 21:05:07
นิยายน่ารักมากๆเลยค่ะ ทีแรกคิดอยู่ว่าจะลงเอยยังไงเพราะโยธินดูเห็นแก่ตัวมากเหลือเกินส่วนภากรก็เหม็นเบื่อขี้หน้ากันซะขนาดนั้น แต่เด็กน้อยสองคนเป็นโซ่ทองคล้องใจทั้งคู่สุดท้ายก็แฮปปี้ ดีใจจัง
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 22-06-2013 23:03:53
มาอ่านแล้วก็ประทับใจสุดๆ เลยค่ะ น่ารักมากๆ กว่าจะได้มาคู่กัน

ต้องบอกว่า ซักทีเถ๊อะะะะ 5555
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ฤดูใบไม้หลากสี ที่ 31-12-2013 06:12:29
ชอบอ่า น่ารักดี แต่อ่านแค่ภาคเเรก อิอิ เดี่ยวตามไปภาคสอง เอิ๊ก
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-01-2014 22:56:53
เพิ่งได้อ่านสนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 03-01-2014 01:24:44
อยากได้หนังสือจะทำยังไงคะ :z3:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: earng ที่ 03-01-2014 14:07:17
พึ่งได้อ่าน สนุกมากเลยค่ะ
อยากได้หนังสือ ยังมีอยู่ไหมคะ?
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: 7th SensE ที่ 06-01-2014 18:09:23
สนุกมากเลยค่ะ ชอบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 08-04-2014 15:42:01
น่ารักทั้งครอบครัวเลยทีเดียว
หัวข้อ: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 14-04-2014 11:01:03
หลงรักความขี้อ้อนเจ้าหนูเจมส์
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 14-04-2014 19:50:06
ขอบคุณค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 18-04-2014 22:13:20
น่ารักมาก
แรกๆหมั่นไส้ปะป๊าโย
แต่นานเข้าก็เริ่มหลงรักแทนเหมือนพ่อโจ
ชอบแฝดน้อยทั้ง2สุดๆ
น่ารักกันทั้งครอบครัวเลย
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: worlddark ที่ 25-07-2014 15:14:18
เรื่องน่ารักจังค่ะ  ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ฟ้าสีคราม ที่ 26-07-2014 01:10:26
โอ้ยยย เรื่องนี้น่ารักมากกกก พ่อโจ กับ ปะป๊าโย น่ารักมากอะ
น้องเจนนี่ และ เจมส์ ตัวป่วนสุดๆ ฉลาดเป็นกรด
อยากอ่านอีกก อยากได้หนังสือด้วยย

ขอบคุณที่เขียนเรื่องน่ารักๆมาให้อ่านนะค๊า
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 26-07-2014 09:22:37
เพิ่งเคยได้อ่าน สนุกมากๆ
น่ารักจริงๆ เลยครอบครัวพ่อโจกะปะป๊าโยเนี่ย
สองแฝดก็น่ารัก อยากจิฟัดแก้มยุ้ยๆ ของหนูเจนนี่กะพ่อหนูเจมส์จริงๆ
ว่าแต่พ่อโจค๊า จะหึงโหดไปไหนคะ แต่ก็นะปะป๊าโยออกจะน่าหวงขนาดนั้นนี่นา
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆ น่ารักๆ มาให้อ่านนะคะ <3
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 12-08-2014 00:23:34
สนุกมากเลยค่ะ..สองแฝดน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Miimiah ที่ 12-08-2014 16:11:56
สนุกมากกก ชอบฉากพิจารณาคดีในศาล  o13
จะตามอ่านเรื่องอื่นของคนเขียนนะ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 17-08-2014 00:15:09
ไม่ค่อยอ่านแนวเรือพ่วง แต่เรื่องนี้สนุกจริงๆ
ชอบมากเลยครอบครัวนี้ โจ โย&สองแฝด
ถ้ามีรีปรินท์จะตามไปอุดหนุนทั้ง 3 ภาคเลย
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 20-10-2014 21:44:22
 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
ชอบจังค่ะ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 21-10-2014 23:31:25
 :pig4: :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: kuroshix ที่ 22-10-2014 02:54:29
สนุกมากเลยอ่า น่ารักกกก ตอนแรกนี่ซีเรียสมากไม่คิดว่าจะรักกันได้ แต่พอรักกันแล้วแบบ โอ๊ยน่ารักจริงๆ  :hao5:
อ่านไปยิ้มไป :-[
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: naizoza ที่ 23-10-2014 22:45:34
ชอบมากเลยตามมาอ่านจากนิยายแนะนำ ว่าแต่หาภาค3ที่บอกส่าจะโพสลงบอร์ดไม่เจอ ใครมีลิ้งขอหน่อยจ้า
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 27-10-2014 16:58:06
ขอบคุณสำหรับนิยายดีค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 03-11-2014 22:48:27
สนุกและน่ารักมากครับ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 10-11-2014 06:22:16
มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งน่ารักมากกันทั้งครอบครัวเลยจ้าาาา     :o8:     :-[
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: real port ที่ 10-11-2014 18:11:23
 :mew1:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: teamkoyza ที่ 11-02-2015 18:17:04
อ่าฟินเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: llmup ที่ 22-05-2015 09:57:31
สนุกดีค่า อิอิ แรกๆนี้เครียดมากเลย เพราะอารมณ์แรงทั้งคู่ โยก็เห็นแก่ตัว
โจก็รักลูกมาก ก็เข้าใจอะเนอะ แต่พอสักพักไม่กี่ตอน แอร้ยยยยยยยย
อะไรจะหวานขนาดนี้ น่ารักมากเลย เด็กๆก็น่ารักมากค่ะ ชอบๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 15-11-2015 14:39:39
เข้ามาอ่านอีกรอบ
ขอบคุณค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: sawapalm ที่ 15-11-2015 18:37:37
น่ารักดี ชอบความป่วนของ สองแฝด อิอิ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 16-11-2015 09:21:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: ป๋า ที่ 20-12-2015 14:34:50
รักพ่อโจป๋าโย  :impress2:
อินฝุดๆ ครอบครัวแบบพ่อๆลูกๆเนี่ย  :กอด1:
อ่านแล้วรู้สึกถึงความอบอุ่นฟุ้งอยู่เต็มเรื่องครับ  o13
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: FowerPretty ที่ 26-02-2016 16:50:39
น่ารักมากกมายยย :mew1: :hao7:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 21-03-2016 09:48:35
อ่านตอนแรกๆ ด่าปะป๊าโยธินไปเพียบ (เค้าขอโต๊ดดด) พอปะป๊ายอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อลูก เรน่าวิ่งหน้าเริ่ดกลับไปเก็บคำด่าคืนแทบไม่ทัน   :hao7:

ขำตอนพิเศษรวมชาวเล้าเป็ด แบบว่า เผื..อะแฮ่ม อยากรู้กันอย่างจริงจังมาก ผนังโรงแรมแทบพัง 555
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 05-04-2016 15:22:43
กลับมาอ่านอีกครั้งแล้ว ก็ยังรู้สึกชอบและสนุกเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 16-08-2016 13:04:36
เพิ่งเข้ามาอ่านชอบมากๆๆ อยากได้หนังสือจะมีรีปริ๊นต์ไหม อยากได้เก็บไว้มากๆๆ ถ้ามี ช่วยเมล์มาบอกที่เมล์นี้ด้วยนะ  Punsa10อย่าแสดงเมลบนบอร์ด
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: KJ_Blue ที่ 16-08-2016 15:04:59
อยากให้มีรีปริ้นเหมือนกันค่ะ :z3:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Onlylyn ที่ 23-08-2016 12:02:17
เพิ่งได้มาอ่าน ชอบมากค่ะ
จะมีโอกาสรีปริ้นอีกไหม :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 23-08-2016 15:47:58
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน น่ารักมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 22-09-2016 22:42:42
พึ่งได้เข้ามาอ่าน
ครอบครัวนี้น่ารักมากๆเลยค่ะ
คุณพ่อขี้หึงสุดๆ ปาป๊าก้น่ารักกก
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 03-01-2017 21:26:19
ชอบบ มากกกก ไม่คิดว่าจะเปิดมั่วๆ แล้วมาเจอเรื่องสนุกขนาดนี้ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ แบบนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 04-01-2017 07:36:02
มันคือเรื่องตลกช่ายม้ายยยยยย
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 03-06-2017 20:40:55
สนุก+น่ารักมากๆๆค่ะ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 04-06-2017 16:57:34
ลางๆว่าจะอ่านเมื่อนานมาแล้ว
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 04-06-2017 20:04:26
ครอบครัวสุขสันต์
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 10-06-2018 16:02:55
เนื้อเรื่องสนุก
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 10-06-2018 21:47:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 16-01-2019 18:04:29
คิดถึงคุณนักเขียนจังเมื่อก่อนเราติดตามที่บอร์ดบ้านพ่อ
แต่ตอนนี้ไม่รู้จะติดตามคุณเจ๊หมวยทางไหน
ชอบนิยายของคุณทุกเรื่องเลย ไม่รู้ว่ายังแต่งอยู่มั้ย
ถ้าผ่านมาเห็น ถ้ายังแต่งนิยาย ช่วยบอกช่องทางการติดตามหน่อยนะคะ ยังคิดถึง และติดตามเสมอเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: snartza ที่ 23-02-2019 23:40:46
หวัดดีจ้า   o15


นิยายเรื่อง  My baby  และ  Sweet daddy   รวมเล่มเสร็จตั้งนานแล้วจ้ะ   ที่บ้านพ่อสั่งซื้อกันไปหลายรอบแล้วด้วย  แต่หนังสือยังพอมีเหลือเพราะมีหลายคนที่จองไว้แล้วหายยย~~ไปเลยก็หลายคน  :m15:

เจ๊หมวยไม่อยากโฆษณาขายหนังสือที่นี่เลย  เกรงใจ๊ เกรงใจ  แต่มีหลายคนถามถึง  ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้อธิบายคร่าวๆ นะคะ  :m1:

My baby  (ภาค 1)

เป็นเรื่องราวตั้งแต่เริ่มแรก (เกลียดและทะเลาะกัน) จนถึงตอนที่พ่อสองคนรักกัน Daddy in love จากนั้นก็เป็นตอนพิเศษที่มีการเดินเรื่องต่อเนื่องกันไปประมาณ 7  ตอน  (ไม่ post ในบอร์ด 4 ตอน)  เล่มนี้หนาประมาณ  304  หน้า  ราคา  250 บาท   

Sweet daddy  (ภาค 2)

เนื้อเรื่องต่อจากภาค 1  (เรื่องนี้ไม่ post ลงในบอร์ด) ความหนา 240 หน้า  ราคา 240 บาท    ภาคนี้  มีฉากไฮไลท์ของเรื่องด้วย 

หากชอบจริงๆ แนะนำให้ซื้อเก็บไว้ทั้งภาค 1 และ 2  หนังสือทำน้อย  หมดรอบนี้แล้วคงไม่ได้ทำอีก 

เจ๊หมวยขอรับประกัน  ไม่ผิดหวังแน่นอน (นิยายแด๊ดดี้เลิฟของเจ๊หมวยยังไม่ปรากฏว่ามีการปล่อยขายมือสองเลย   จริงๆ นะ  ไม่ได้คุย  น้องๆ เค้าบอกว่าเก็บไว้ที่หัวเตียงอ่านก่อนนอน  แล้วจะนอนหลับสบาย คริๆ   :m3:  )



ดูรายละเอียดเชิญที่กระทู้นี้เลยค่ะ


http://www.geocities.com/muay_siri2003/salenovel.htm      :m12:
 


มาช้าไป ผมพยายามตามหาแล้ว อยากได้หนังสือมาเก็บไว้มากๆเลยครับ
ใครสนใจจะขายต่อ สภาพไงก็ได้ ขอแค่ให้อ่านได้ ผมให้ราคาตามปกเลยก็ได้ครับ
อยากได้มากกก
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: snartza ที่ 23-02-2019 23:42:02
คิดถึงคุณนักเขียนจังเมื่อก่อนเราติดตามที่บอร์ดบ้านพ่อ
แต่ตอนนี้ไม่รู้จะติดตามคุณเจ๊หมวยทางไหน
ชอบนิยายของคุณทุกเรื่องเลย ไม่รู้ว่ายังแต่งอยู่มั้ย
ถ้าผ่านมาเห็น ถ้ายังแต่งนิยาย ช่วยบอกช่องทางการติดตามหน่อยนะคะ ยังคิดถึง และติดตามเสมอเลยค่ะ

เหมือนกันเลยครับ หาช่องทางติดต่อนักเขียนไม่ได้เลย T T
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 27-02-2019 10:31:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 14-02-2020 18:07:19
โอยน่ารักมาก พลอตแหวกดี ชอบค่ะ ชอบมากๆๆ กอ ไก่ล้านตัว
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 10-10-2020 02:02:49
คิดถึงเด็กแฝดครับ
หัวข้อ: Re: My Baby by j-muay
เริ่มหัวข้อโดย: Lambosasha ที่ 10-10-2020 17:38:23
โอย อ่านจบคือแก้มปริมาก หุบยิ้มไม่ได้ ใครช่วยที
 :pig4: :pig4: :pig4: