ตอนที่ 40
==================กิลพาร่างปวกเปียกของผมจนพ้นชายป่าออกมา สู่ถนนเล็กๆ ผมสะอื้นเสียงดัง
“ชู่!!! กิลเอามือปิดปาก
เราได้ยินเสียงหมู่คน และเห็นแนวคบเพลิงเคลื่อนตรงมา
เสียงพวกโจรตะโกนเป็นภาษาแปลกถิ่นที่ผมไม่รู้จัก พวกมันมีประมาณสิบคนเห็นจะได้ ผมดำยาวรุงรัง กับใบหน้าโชกเหงื่อ
กิลกระซิบ “เราต้องไปที่แม่น้ำ..”
“ทางไหน?”
“ขวา เลียบถนน”
โจรคนสุดท้ายเลี้ยวหายไปในมุมไม้ พวกเราจึงออกวิ่งต่อ ผมพยายามควบคุมสติไว้
เสียงเหยียบไปไม้ แซ่ก แซ่ก ดังไปรอบป่ามืด
กิลจับมือผมไว้ตลอด ใบหน้าพวกเราชุ่มเหงื่อ ทางลาดชันลงเรื่อยๆ เหมือนกำลังไล่ระดับลงไปที่แม่น้ำ
กิลพาผมวิ่งต่อไป ผมเริ่มรู้สึกเจ็บปอด แล้วขาก็หน่วงช้าลงเรื่อยๆ เราวิ่งกันมาไกลมากฮะ ผมไม่คิดเลยว่าจะวิ่งได้ไกลขนาดนี้
ซักพักหนึ่ง ความหวังก็ผุดขึ้นมา ตอนที่พวกเราเห็น ยอดเรือลิบๆ พวกเรามุ่งตรงไปจน ผมเห็นกองทัพท่านบัท
“เร็ว!!เร็ว!!” เมยาพรวดออกมาจากแถวสนม ดึงใหล่ผมกับกิลขึ้นไปบนเรือ เมยาจิกเนื้อใหล่ผมจนเลือดออก ไม่ทันตั้งตัว เธอก็กอดผมไว้แน่นในอก แล้วรำให้
หน้าผมถูกอัดบี้กับนมของเมยา เสียงโหวกเหวกของพวกทหารดังสับสนไปหมด ทุกอย่างโกลาหลซักพัก จนเรือส่งเสียงต่ำๆ และแล่นออก
“ปลอดภัยแล้ว ปลอดภัยแล้วนะ นากัล”
“ท่านเซอซัส!” ผมเงยหน้าพรวด “ท่านเซอซัสกับท่านบาลิธล่ะฮะ เมยา!”
“พวกท่านเป็นนักรบ ไม่ต้องห่วงนะ นากัล โอ๋ๆ…โอ๋ อย่าร้อง เด็กดี..”
ผมซุกหน้าร้องให้ใส่ซอกคอเมยา ครางโฮๆ ก็ผมกลัวนี่หน่า ไม่อยากจากท่านเซอซัสอีกแล้ว ต่อไปนี้จะเดินตามท่านเซอซัสไปทุกทีเลย
ไม่เอาแบบนี้แล้ว
เรานั่งเงียบๆกันอยู่บนเรือ ทั้งๆที่แออัด แต่ทุกคนกลับเงียบสนิทเหมือนถูกสั่ง บนเรือนี้มีแต่ พวกสนมผู้หญิงกับเด็กไม่กี่คน ผม กิล และ คนงานชายแก่ๆบางนาย
“ฟึ่บ…”
เห… ผมว่าผมเห็นอะไรผ่านไปแว้บๆ
“กรี้ด!!!!!”
มีลูกธนูปักอยู่บนแขนของคนงานชาย และ อย่างที่คิดไว้ ลูกธนูอีกหลายสิบลูกลอยตามมา
ผมหลับตาอย่างสิ้นหวัง เมยากรี้ด คว้าผมไว้ พวกเราถูกทหารดันหมอบลง
เกิดความโกลาหลอีกครั้ง ไม่จบสิ้นเสียทีฮะ พวกทหารยิงโต้ตอบกลับ พวกโจรยืนอยู่ตามโขดหินสูง เมยาซุกผมไว้ใต้เธอ ผมมุดหน้ากับพื้น มองไม่เห็นอะไรอีก จนกระทั้งมีเสียงดังฉึก และแรงกระแทกหนักๆข้างหลัง
…..
….
… น้ำหนักของเมยาที่ทับอยู่บนตัวผม หนักขึ้นกว่าตะกี้
ผมรู้สึกหายใจไม่ออก… ไม่ มันไม่ได้เกิดขึ้น!!! ผมรู้สึกถึงเลือดที่ซึมออกมาจากเสื้อของเธอ เมยาเงียบสนิทไป
….เงียบจนผมกลัวจับใจจริงๆ
“เมยาฮะ… เมยา…”
ผมไม่กล้าหันหน้าไปมอง
รอบๆตัวเรา ทหารกำลังวิ่งกันอลหม่าน ไม่รู้ว่ามีใครถูกยิงไปบ้างแล้ว ลูกธนูบางอันติดไฟพุ่งลงมา และกำลังลามท่วมแผ่นไม้บางแผ่น
“เมยาฮะ…. “ ผมสะอื้น
“ ได้โปรดตอบสิฮะ”
ภาพเมยานอนซบหน้ากับใหล่ผม
ปากเธอเผยอเหมือนจะอุทานบางอย่าง ดวงตาเปิดค้าง
“นากัล!” กิลพุ่งตรงมา เขาดึงตัวผมออกจากใต้ร่างสิ้นลมของเมยา
“นากัล!! หลบเร็ว”
“นากัล…”
ขาผมอ่อนแล้วตัวก็แข็งชา
กิลอุ้มผมขึ้นหลัง และวิ่งไปยังที่ไหนซักแห่ง ผมมองไม่เห็น แสงทุกอย่างจ้าจังเลยฮะ
เป็นเเสงสีเหลืองนวลสว่าง เหมือนวันดีๆวันหนึ่ง
แล้วผมก็จำอะไรไม่ได้อีก
===========================
ผมว่ายวนอยู่ในน้ำ น้ำสีเขียวใส รอบๆผมมีปลาหลายสีเต็มเลย บ้างก็มีหางสีขาว น้ำเงิน เหลือง ส้ม
แล้วผมไม่ได้ตาฝาดแน่ฮะ ผมเห็นนางเงือกตัวหนึ่ง มีหางสีทอง ผมเธอดำยาวสวย เธอว่ายเข้ามาหาผม และยิ้ม
‘แม่เอง นากัล’
ผมอ้าปากทึ้งๆ
‘แม่เหรอฮะ ทำใมแม่เป็นนางเงือกล่ะ’
แม่ยิ้มตอบ ขนตาแม่ยาวมากเป็นแพ แม่สวยมากจนผมพูดไม่ออก แล้วแม่ก็เอามือมาลูบหน้าผม
‘เข้มแข็งนะ ลูก ’
แม่จูบหน้าผากผมอย่างอ่อนโยน ผมรุ้สึกอบอุ่นจังเลยฮะ ผมรักแม่
‘เข้มแข็งนะ นากัล’
…
ผมสะดุ้งเฮือก! ! ก่อนจะไอแค่กๆอย่าหยุดไม่ได้อีกสามสี่ที ผมกุมหน้าอกตัวเองที่เปียกโชกฮะ ไม่สิ ตัวผมทั้งหมดเปียกโชก และ…นอนอยู่บนโขดหิน ? ?
“ข้านึกว่าข้าเสียเจ้าไปแล้ว” เด็กหนุ่มผมดำรุงรังเอ่ย กิลปีนขึ้นมาแล้วดึงผมไปกอด
ผมขยับอย่างงุนงง กิลยิ้มปลอบ
“เรือแตกไปแล้วนากัล ข้าตัดสินใจพาเจ้าโดดและว่ายน้ำมาให้ได้ไกลที่สุด แต่เจ้าสลบและหนักมาก ข้าต้องขอโทษจริงๆนากัล ข้าว่ายต่อไม่ไหวแล้ว น้ำเชี่ยวมาก ข้าเลยพักที่โขดหิน”
เขาดึงมือ “มา นากัล เจ้าตื่นแล้ว ว่ายตามข้ามา น้ำตรงนี้เชี่ยวหนัก แต่ฝั่งอยู่ไม่ไกล
พอเราขึ้นฝั่ง เราจะหาทางไปต่อได้…มา”
.
พอเราว่ายมาถึงฝั่งอย่างทุลักทุเล ก็ต้องแบกสภาพสบักสบอม เดินต่อเข้าไปในป่า
“แล้วเราจะไปไหน เรือแตกแล้ว พวกผู้หญิงล่ะ? ” ผมถาม
กิลส่ายหน้า “น่าจะถูกพวกโจรจับไปหมดแล้ว เรือถูกเผาทั้งลำ ข้าตั้งใจจะว่ายขึ้นฝั่ง แต่ถูกน้ำพัดไปไกลมาก”
“เจ้าทำได้ยังไงน่ะ แบกข้าบนหลังแบบนั้น?? ในแม่น้ำเนี่ยนะ?!”
“ทำได้เพราะเจ้าไง…ข้ากลัวเจ้าจะตาย ” กิลตอบเรียบๆ
“…..”
“เราต้องออกจากหุบเขาเฮนน์ ให้พ้นเขตพวกโจร แล้วตอนนั้น เราพอจะหาทางกลับได้ หรือ เจอพวกกองทัพที่กระจัดกระจาย
ถ้ากองทัพท่านบาลิธยกทัพกลับ เราอาจจะไปดักรอแถวปากแม่น้ำโอปีส หรือ อาราปักฮา”
“เราต้องหาอะไรซักอย่างกิน” ผมบอก พลางทรุดลงพร้อมๆเขา “ข้าเดินต่อไม่ไหวแล้วกิล เจ้าก็ด้วย ”
กิลพยายามควบคุมลมหายใจ
“ เจ้าคงต้องไปหาแทนข้า ข้าว่ายน้ำจนขาเปลี้ยหมดแล้ว ข้าจะพยายามหาอะไรก่อไฟตรงนี้ นะ…”
ผมพยักหน้า ช่วยพยุงกิล ที่ตอนนี้ดูจะไร้เรี่ยวแรง ผมปล่อยเขาลงใต้ขอนไม้
“ขอบคุณนะกิล ที่ช่วยชีวิตข้าไว้” ผมกล่าว
“ไว้ก่อนเถอะ.. เราต้องรีบออกจากที่นี้ ก่อนจะพลบค่ำ ไม่งั้นเราได้ตายแน่ นากัล… อะ!” กิลชักมีดเปียกๆด้ามหนึ่งให้ผม
“ตกลง …”
กิลพยักหน้าและหลับตาลง
กิลช่วยผมไว้มากเหลือเกิน
============
==
มาต่อแล้วจ้าาา ตอนต่อไปกำลังเขียนนะคะ <3 ขอบคุณทุกๆเม้นค่า