Brother's Love By Noir
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Brother's Love By Noir  (อ่าน 87767 ครั้ง)

ออฟไลน์ วิหคท่องนภา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 4
«ตอบ #90 เมื่อ12-08-2010 00:59:05 »

โอย  พี่น้องคู่นี้นิ   เฮียก็ทีเล่นทีจริงอยู่ด้ายยย

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 4
«ตอบ #91 เมื่อ12-08-2010 01:18:32 »

ใคร คือ พระเอก? 555

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 4
«ตอบ #92 เมื่อ12-08-2010 01:23:26 »

เอะอะ ก็ขู่จะปล้ำ
แน่จริงก็ปล้ำเลยเซ่
คนอ่านตั้งตารออยู่  :laugh:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 4
«ตอบ #93 เมื่อ12-08-2010 01:24:13 »

บอกได้คำเดียวว่าน่ารักๆ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 4
«ตอบ #94 เมื่อ12-08-2010 15:27:35 »

เสียดายที่เฮียต้อมไม่ได้รักนิน ไม่งั้นหาคู่พระนายเจอแล้ว  :laugh:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 4
«ตอบ #95 เมื่อ12-08-2010 16:33:12 »

พอดีจะกลับบ้านต่างจังหวัดเสาร์อาทิตย์นี้ ดังนั้นขอโพสต์ล่วงหน้า 2 ตอนเลยค่ะ แล้วเจอกันวันอาทิตย์ค่ำๆ ตอนอวสาน

ตอนนี้มีแขกรับเชิญเป็นน้องโมจิ จากเรื่องเจ้านายจ๊ะจ๋าด้วย ไม่รู้ว่ารู้จักป่าว  :z2: :z2:

ตอนที่ 5

รถยนต์หรูคันเดิมจอดเทียบริมทางเท้าหน้าอาคารสำนักงานความสูงเจ็ดชั้น ธนินทร์ก้าวลงจากรถแล้วเงยหน้ามองหาป้ายชื่อตึกอย่างรวดเร็ว ‘FIRST LAND’ รับออกแบบ ก่อสร้าง ครบวงจร

“ตามมาเดะไอ้นิน จอดได้แค่บ่ายสามนะมึง เดี๋ยวพ่อมาล็อคขากู” เรวัตกวักมือเรียกแล้วเดินนำเข้าตัวอาคารอย่างรีบเร่ง มือใหญ่ถือสมุดภาพส่วนหนึ่งของธนินทร์ โดยมีเจ้าตัวหอบที่เหลือตามมา

“เฮีย เขาจะรับผมจริงอะ” หนุ่มร่างบางถามอย่างไม่มั่นใจนัก เพราะบริษัทนี้ก็ไม่ใช่บริษัทใหญ่มากมายที่พอจะมีตำแหน่งว่างให้เข้ามาทำง่ายๆ

“รับสิวะ แต่เป็นฟรีแลนซ์นะมึง ไม่ใช่งานประจำ เอาเปล่าล่ะ” สองหนุ่มเดินเข้าลิฟท์พร้อมกดชั้นที่ต้องการ ใจจริงเรวัตอยากให้ธนินทร์ทำงานกับเขามากกว่าแม้จะไม่ใช่สายที่เรียนมาแต่เขามั่นใจว่าน้องชายคนเก่งของเขาทำได้ และก็รู้อีกนั่นแหละว่าธนินทร์อยากเป็นสถาปนิกเต็มตัวมากกว่า ซึ่งเขาเองอยากให้ธนินทร์ได้ทำในสิ่งที่ชอบ และการให้ไปทำงานกับเขาคงต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมธนินทร์อีกมาก...ซึ่งเรวัต...ขี้เกียจ...เหนื่อยด้วย

“ฟรีแลนซ์จริงหรือเฮีย” เสียงใสร้องถามอย่างตื่นเต้น ไม่ใช่ว่าไม่อยากได้งานประจำ แต่อัมพุทยังเด็กนัก ซ้ำยังเป็นเด็กขาดพ่อแม่เสียด้วย เขาควรจะต้องมีเวลาให้กับหลานได้เต็มที่ การได้งานอิสระย่อมเป็นเรื่องที่ดี “ดีเลยเฮีย ผมจะได้ไม่ต้องห่วงพุด ไม่อยากเอาไปฝากเลี้ยงตอนทำงาน”

“เออสิ ถึงแล้ว มึงฉีกยิ้มหวานๆ ไว้นะ พี่วุฒิแพ้คนน่ารัก” เรวัตหันมากำชับ เขารู้อยู่แล้วว่าถ้าธนินทร์เลือกได้คงไม่อยากทำงานประจำ เพราะด้วยนิสัยส่วนตัวและภาวะบังคับในปัจจุบัน เรวัตจึงพยายามหางานที่เหมาะสมกับธนินทร์ที่สุด

“ไงไอ้ต้อม ตรงเวลาเชียวนะมึง” สุรวุฒิร้องทักมาแต่ไกล

“แหมพี่ ผมน่ะมันคนมีระเบียบ” อาตี๋หนุ่มยิ้มพร้อมยกมือไหว้ทักทาย

“ระเบียบเอี้ยน่ะสิมึงน่ะ มาเรียนไม่เคยตรงเวลาเลย”

“นั่นมันตอนพี่วุฒิอยู่ พอพี่จบตัวขี้เกียจมันก็หายไปด้วย ผมเลยกลับตัวกลับใจ เข้าตรงเวลาเป๊ะๆ” มือใหญ่แบตรงทำท่าฟันฉับๆ ย้ำว่าตัวเองตรงเวลาจริง

“อ้าวด่ากูเป็นตัวขี้เกียจซะงั้น” สุรวุฒิหัวเราะลั่น “ไหนวะเด็กมึง นี่เหรอ น่ารักนี่หว่า” สุรวุฒิหรี่ตามองจับผิด เรวัตที่เขารู้จักไม่เคยเห็นจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน แต่กลับควงหนุ่มน้อยหน้ามนมาหาเขาอย่างนี้มันน่าสงสัย ธนินทร์รีบยกมือไหว้เป็นรอบสอง เพราะดูเหมือนรอบแรกอีกฝ่ายจะไม่เห็น

“น้องผมนี่พี่ มันก็ต้องน่ารักเหมือนผม”
“ถ้ามึงน่ารัก โลกนี้ก็ไม่มีคนน่าเกลียดแล้ว ไหนชื่ออะไรว่ามาเลยน้อง” สุรวุฒิส่งสายตาเหยียดใส่เรวัตหนึ่งครั้งอย่างจงใจ

“ชื่อนินครับพี่วุฒิ” ธนินทร์รีบบอกพร้อมยิ้มหวานอย่างที่เรวัตสอนมา

“ไอ้นินมันก็รุ่นน้องเราแหละพี่ มันเข้ามาตอนพี่จบพอดี พี่ยังกลับมารับน้องรุ่นมันเลย” เรวัตรำลึกความหลังให้ฟัง

“นานเกินไอ้เอี้ย กูจำไม่ได้แล้ว” สุรวุฒิปฏิเสธ เจอหน้ากันครั้งเดียว แถมผ่านมาตั้งห้าปีแล้ว ถ้ายังจำได้แสดงว่าต้องมีเหตุการณ์ประหลาดให้จดจำ “ไปเข้าไปคุยข้างใน”

สุรวุฒิเดินนำสองหนุ่มไปที่โต๊ะตัวใหญ่ แล้วชวนนั่ง

“ไหนพอร์ตฯ เอามาโชว์เลยน้อง ขอดูฝีมือหน่อย”

“เห็นแล้วจะอึ้งพี่ ไอ้นินมันเอลุงยศสองตัวรวด” เรวัตรีบโม้สรรพคุณ มือก็กางผลงานเก่าของธนินทร์ออกมาให้ดูไปด้วย

“แหลแล้วมึง กูอยู่ครบห้าปีไม่เคยเห็นแกแจกสักตัว” สุรวุฒิเบะปากอย่างไม่เชื่อ จึงเจอมือใหญ่ยื่นผลการเรียนทิ่มหน้า

“เอาไปดูเลยพี่ คนเดียวในรุ่น ในรอบสิบปี”

“เฮ่ย ทำได้ไงวะ รุ่นกูบีบวกนี่ก็เทพแล้วนะ” ความสามารถระดับที่อาจารย์ทรงยศให้เกรดเอมาได้นี่มันไม่ธรรมดา สมัครงานบริษัทใหญ่ๆ ไม่น่ามีใครปฏิเสธ

“ก็บอกแล้วว่าน้องมันเก่ง เหมือนพี่มันนั่นแหละ” เรวัตยังไม่เลิกอวด

“โห เส้นสวยนี่หว่า เจ๋งน้องเจ๋ง” สุรวุฒิชมไม่ขาดปากขณะเปิดผลงานเก่าๆ ก่อนจะเอ่ยถามเรื่องที่ข้องใจ ”ทำไมไม่ไปสมัครที่ใหญ่ๆ วะ เฮ่ย ไม่ได้หมายความว่าจะไม่รับนะ” เสียงทุ้มรีบร้องบอกเมื่อเห็นธนินทร์หน้าเสีย “คือพี่แค่เห็นว่า นินฝีมือดี แล้วที่นี่ก็บริษัทเล็กๆ”

“ยังไม่ได้ลองสมัครที่อื่นเลยพี่วุฒิ เฮียต้อมบอกให้มาที่นี่ก็มาเลย” ธนินทร์บอกเหตุผลอย่างไม่ปิดบัง โดยความจริงเขาเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องขนาดบริษัทอะไรมากมาย ขอแค่มีงานให้เขาได้ทำ และทำได้อย่างมีความสุขก็น่าจะดีแล้ว
“มันอยากได้แค่ฟรีแลนซ์น่ะพี่ มันต้องเลี้ยงหลานด้วย ตอกบัตรไม่ไหวหรอก” เรวัตเป็นคนให้เหตุผลแทน

เขาไม่อยากให้น้องชายต้องเข้าไปแข่งขันกันในองค์กรใหญ่ๆ ให้เหนื่อยกายเหนื่อยใจ และนิสัยธนินทร์เองก็ไม่ใช่คนทะเยอทะยานอยากได้ดีเกินหน้าเกินตาชาวบ้านเขาเสียด้วย นอกจากนั้นเขาก็คิดไปไกลขนาดที่ว่า ธนินทร์เป็นคนเก่งและขยัน เจ้านายต้องเอ็นดูแน่ๆ อยู่แล้ว และมันจะทำให้เพื่อนร่วมงานอิจฉา ถ้าเป็นอย่างนั้นน้องเขาคงทำงานอย่างไม่มีความสุขแน่ๆ อยู่บริษัทเล็กๆ มีคนรู้จักคอยดูแลอย่างนี้ดีที่สุด

“เออก็ดี กูเลยโชคดีได้คนเก่งเป็นเด็กในสังกัด เรื่องค่าจ้างจะให้ตามเกณฑ์ของบริษัทนะ ส่วนเรื่องสัญญามาเซ็นต์อาทิตย์หน้าแล้วกัน ฝ่ายบุคคลลาพักร้อน” สุรวุฒิไม่คิดถามอะไรเพิ่มเติม เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว “งานที่นี่ก็เยอะนะ เจ้านายหาลูกค้าเก่งว่ะ นี่มีอยู่รายนึง ส่งไปสามแบบแล้วเขายังไม่ถูกใจเลยว่ะ นินจะลองดูไหม” สุรวุฒิเสนองานชิ้นแรกให้

“ลองครับ” ธนินทร์รับคำอย่างดีใจ วันนี้เขาหวังแค่ว่าจะได้รับการตอบรับเข้าทำงาน ไม่นึกว่าจะได้งานติดมือกลับไปด้วย

“เออดี เผื่อเขาจะชอบ” คนแก่สุดในกลุ่มพยักหน้าพอใจ มีเด็กเพิ่งจบจำนวนไม่น้อยที่มาสมัครงานแล้วดันทำตัวเก๋าเลือกงาน แม้บางคนจะฝีมือดีแต่ก็ยังไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดัง จนทางบริษัทปฏิเสธที่จะจ่ายงานและไม่ต่อสัญญาให้ทำงานต่อ “พี่พิมพ์ นัดคุณเตชิตเมื่อไหร่” สุรวุฒิร้องถามเพื่อนร่วมงาน

“มะรืนนี้เก้าโมงค่ะ นัดดูที่ดิน” ธุรการหญิงบอกตารางนัดหมายอย่างแม่นยำ

“นินว่างเปล่าล่ะ ไปคุยกับเจ้าของที่เขาเลย”

“ว่างครับ” เสียงใสรับคำอย่างตื่นเต้น ต่อให้ไม่ว่างเขาก็จะยกเลิกงานอื่นเพื่อมารับงานนี้ให้ได้ “เขาจะให้ทำอะไรครับพี่ เผื่อผมจะลองวาดไปพลางๆ ก่อน” ธนินทร์รีบขอข้อมูล

“คุณเตชิตเขาจะสร้างบ้านหลังใหม่ ที่ดินร้อยกว่าวา แต่เอาหลังเล็กๆ ขนาดครอบครัวสามคน เขาว่าลองๆ ส่งแบบไปดู ถ้าถูกใจก็ค่อยสร้าง ไม่รีบ”

“โห แล้วถ้าส่งไปเป็นร้อยแบบแล้วเขาไม่เอา ไม่ขาดทุนตายเหรอพี่วุฒิ” เรวัตร้องโวย

“ลูกค้ารายใหญ่ว่ะ คุณเตชิตเขาทำธุรกิจอสังหาฯ เป็นเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรด้วย รามิลกรุ๊ปอะ มึงเคยได้ยินเปล่า คราวก่อนบริษัทเราได้มาสองโซน ทั้งแบบทั้งสร้าง รับทรัพย์กันเปรมเลยมึง ถ้างานนี้ผ่านนะนิน งานอื่นมาอีกเพียบแน่”

“อ้าว รวยขนาดนั้น แล้วจะเอาบ้านขนาดครอบครัวไปทำอะไร” เรวัตแย้งอย่างไม่เข้าใจ รวยมหาศาลขนาดนั้นน่าจะสร้างคฤหาสน์มากกว่า

“มึงไปถามเขาเองเหอะไอ้ต้อม” สุรวุฒิทำหน้ายักษ์ใส่ “ที่อยู่เกือบถึงพัทยา เคลียร์คิวให้ว่างทั้งวันนะนิน เผื่อติดพัน”

“ได้ครับพี่วุฒิ” ทั้งวันก็ทั้งวัน เพื่องานเสียอย่าง แต่คงต้องฝากอัมพุทไว้กับเรวัต ธนินทร์ยังไม่ทันจะเอ่ยปากก็โดนเรวัตพูดแทรก

“ผมไปด้วยได้เปล่าพี่ จะได้เอาหลานไอ้นินไปเที่ยวด้วย”

“ถ้ามึงขับรถตามไปเองก็เรื่องของมึง” สรุวุฒิตอบง่ายๆ เพราะรู้ดีว่าถึงไม่ให้ไป เรวัตก็ตามไปจนได้

.................................

เมื่อถึงวันนัด ธนินทร์ เรวัต พร้อมด้วยอัมพุทเดินทางมาถึงบริษัทก่อนเวลานัดสิบห้านาที เรวัตจอดรถตู้คันใหญ่ตราสามแฉกไว้บริเวณที่จอดรถของบริษัท รถส่วนตัวของเขาต้องนำเข้าศูนย์ตั้งแต่เย็นวานเพื่อตรวจเช็คตามระยะทางที่เลยกำหนดมานานจนโดนมารดาตำหนิ

ธนินทร์หยิบแบบบ้านที่ร่างคร่าวๆ ออกมาสามสี่แผ่นที่ตั้งใจจะเอาให้ลูกค้าดูเป็นแนวทาง เผื่อจะมีสไตล์ที่ถูกใจปะปนอยู่บ้าง

สามหนุ่มนั่งรออยู่ในห้องรับรองบริเวณชั้นหนึ่งเพียงครู่เดียวสุรวุฒิก็ตามลงมา

“เฮ่ย กูไปด้วยไม่ได้แล้วว่ะ ติดงานด่วน” รุ่นพี่ไม่ทักไม่ทาย รีบบอกปัญหาที่เกิดทันที รู้สึกลำบากใจไม่น้อยที่จะต้องปล่อยเด็กใหม่ไปกับลูกค้ารายใหญ่ตามลำพัง แถมยังมีพี่ชายกวนตีนอย่างเรวัตติดตามไปด้วยอีก

“ต้องยกเลิกเหรอครับ” ธนินทร์ถามอย่างผิดหวัง อุตส่าห์เตรียมตัวกับงานแรกมาเต็มที่

“ยกเลิกไม่ได้ พี่หมายความว่าจะให้นินไปกับคุณเตชิตเขาเองได้เปล่า” สุรวุฒิโบกมือปฏิเสธ ขืนยกเลิกครั้งนี้ คงไม่มีนัดรอบสองให้แก้ตัว เพราะยังมีบริษัทอีกจำนวนมากที่อยากได้งานจากรามิลกรุ๊ป ชายหนุ่มได้แต่ทำใจให้เชื่อมั่นว่าธนินทร์จะไม่สร้างปัญหาให้กับเตชิต

“ได้ครับ” ดวงตาโตสดใสขึ้นทันที แค่ยังมีงานให้เขาอยู่จะไปคนเดียวหรือไปสิบคนก็ไม่ใช่ปัญหา

“เดี๋ยวพี่วุฒิ คุณเตชิตอะไรเนี่ยไว้ใจได้รึเปล่า ไม่ใช่นั่งรถกับไอ้นินสองคน แล้วเลี้ยวเข้าโรงแรมนะ” เรวัตถามอย่างไม่ไว้ใจ จะว่าเขาหวงน้องเกินไปก็ตามสบาย แค่ที่เรียนมาด้วยกันเขาก็ต้องคอยกันท่าพวกเกย์หูดำไม่รู้กี่ครั้ง ขนาดธนินทร์มีแฟนสาวเป็นตัวเป็นตน ยังไม่วายมีผู้ชายมาตามจีบ แล้วน้องเขาก็ซื่อเหลือเกินที่ไม่เคยรู้ตัวว่าถูกจีบสักครั้ง หวิดจะโดนมอมยา หรือพาเข้าโรงแรมก็ยังเคยมี

“ไอ้เอี้ย มึงก็คิดไปโน่น คุณเตชิตเขามีแฟนแล้วโว้ย หน้างี้อย่างหวาน ผู้หญิงอายเลยมึง แถมลูกเขาก็น่ารักแก้มงี้ยุ้ยน่าหยิก” รุ่นพี่หนุ่มบรรยายให้ฟัง แต่คำพูดฟังแล้วขัดแย้งกันพิกล

“หน้าหวาน? ผู้หญิงอาย?” เรวัตทวนคำทำหน้าเบี้ยวอย่างประหลาดใจ “แฟนเขาเป็นผู้ชาย แล้วคุณเตชิตนี่เป็นผู้หญิงหรือพี่ ผู้หญิงบ้าอะไรชื่อเตชิต”

“พ่อมึงสิไอ้ต้อม คิดได้นะมึง เก็บเอาไว้ตั้งชื่อลูกสาวมึงเหอะ คุณเตชิตเขาเป็นผู้ชายโว้ย แต่แฟนเขาก็ผู้ชาย ลูกก็ผู้ชาย ครอบครัวสามหนุ่มสามมุม” สุรวุฒิอธิบายพร้อมคำด่า
“อ้อ เข้าใจละ” ใจจริงอยากจะถามต่อว่า ในเมื่อเป็นผู้ชายทั้งคู่แล้วมีลูกได้อย่างไร แต่นึกไปนึกมา ถามไปก็เปล่าประโยชน์ ตราบใดที่ในศตวรรษนี้ยังไม่สามารถทำให้ผู้ชายท้องได้ ลูกของเตชิตก็ต้องมีแม่อยู่ดี แต่แม่จะเป็นใครอยู่ที่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องรู้

“แล้วนี่เด็กที่ไหนวะ หน้าตาน่าฟัด” สุรวุฒิหันมาเห็นเด็กชายตัวน้อยที่นั่งพนมมือค้างอยู่นานแล้ว

“สวัสดีครับน้าวุฒิ” อัมพุทรีบทักทายทันทีที่มีโอกาส

“หลานผมเองครับ” ธนินทร์ตอบพลางลูบศีรษะเล็กอย่างรักใคร่

“เออว่ะ หน้าเหมือนกันเลย บอกว่าลูกก็เชื่อนะเนี่ย” สุรวุฒิเอียงคอซ้ายขวาพิจารณาโครงหน้าจิ้มลิ้ม “ชื่ออะไรครับ”

“ชื่อพุดครับ”

“แหม ชื่อเข้ากั๊นเข้ากันกับน้าวุฒิเลย” ชายหนุ่มทำเสียงสูงล้อเลียนหนูน้อย ย่อตัวลงนั่งยองๆ ข้างหน้าอัมพุท “แล้วเอากล่องอะไรมาครับ หืม กล่องใหญ่เชียว” สุรวุฒิเคาะนิ้วลงบนกล่องพลาสติกที่วางอยู่บนตักของอัมพุท

“แซนด์วิชครับ พุดทำกับอาม่าตอนเช้าครับ” อัมพุทยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจ

“โห น้าวุฒิก็อดเลยสิ” ชายหนุ่มแกล้งร้องเสียดาย จนเด็กชายตกใจ

“น้าวุฒิชิมก่อนไหมครับ” มือเล็กกุลีกุจอเปิดฝากล่องออก สุรวุฒิหัวเราะเบาๆ แล้วจับมือน้อยเอาไว้

“น้าวุฒิล้อเล่นครับ เอาไว้คราวหน้าพุดค่อยทำให้น้าวุฒิกินแล้วกันนะ”

“นี่พี่วุฒิ พุดมันเพิ่งหกขวบ เดี๋ยวก็เจอข้อหาพรากผู้เยาว์หรอก” เรวัตสะกิดไหล่รุ่นพี่

“ไอ้เอี้ยต้อม ไอ้ปากหมา ไอ้อกุศล” หนุ่มรุ่นพี่ด่าเป็นชุด เขาแค่ชอบเล่นกับเด็กๆ เท่านั้นเอง

“พี่วุฒิคะ คุณเตชิตมาแล้วค่ะ” ประชาสัมพันธ์สาวส่งเสียงบอกมาจากทางประตูหน้า สี่หนุ่มจึงเคลื่อนขบวนออกไปต้อนรับ

“สวัสดีครับ คุณเตชิต คุณวีร์ ไงครับโมจิ” สุรวุฒิทักทายอย่างเป็นกันเอง วันนี้ครอบครัวสามหนุ่มมาในชุดลำลองสบายๆ โดยเฉพาะเจ้าหนูโมจิเด็กชายวัยสองขวบเศษที่อยู่ในชุดลายดอกไม้สีน้ำเงินเหมือนควันหลงงานสงกรานต์

“สวัสดีครับ” ครอบครัวรามิลโชติช่วงทักด้วยน้ำเสียงสดใส ยกเว้นพ่อหนูโมจิที่อยู่ในอาการง่วงงุนเพราะนอนดึกตื่นเช้า

“พอดีผมติดธุระน่ะครับ แต่จะให้คนอื่นไปแทน” สุรวุฒิบอกแล้วหันซ้ายหันขวากวักมือเรียกธนินทร์ที่ยืนตื่นเต้นอยู่ข้างหลังขึ้นมา

“สวัสดีครับ ผมธนินทร์ครับ” ธนินทร์ยกมือขึ้นไหว้ทั้งที่ยังหอบกระเป๋าเอกสารพะรุงพะรังจนเตชิตและกานต์รวีรับไหว้แทบไม่ทัน ดวงตาโตสบกับใบหน้าหวานของกานต์รวีแล้วยิ้มอย่างถูกชะตา หน้าหวานอย่างที่สุรวุฒิบอกไม่มีผิดเลยจริงๆ

“สถาปนิกคนใหม่ของเราครับ ส่วนนี่คุณเตชิต แล้วนี่คุณกานต์รวี ส่วนคนนี้น้องโมจิ ใช่ไหมครับ” สุรวุฒิแนะนำ พยายามหยอกหนูน้อยที่ซุกหน้าอยู่กับบ่ากว้างของเตชิต

“แล้วข้างหลังนั่นล่ะครับ” กานต์รวีทักไปถึงเรวัตที่จูงมืออัมพุทอยู่ไม่ห่างนัก
..................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-08-2010 16:39:41 โดย THIP »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 4
«ตอบ #96 เมื่อ12-08-2010 16:35:54 »

ตอนที่ 6

หลังจากทักทายกันพอหอมปากหอมคอ หกหนุ่มก็ออกเดินทางด้วยรถตู้ของเรวัต โดยมีคนขับรถของเตชิตขับตามไปอีกคัน ในตอนแรกเรวัตแค่จะขอติดตามไปด้วยโดยการขับรถตามรถเตชิตไปเพราะไม่อยากรบกวนการทำงานของธนินทร์ แต่เตชิตและกานต์รวียืนยันให้ไปด้วยกัน หนูน้อยทั้งสองคนจะได้เล่นกันระหว่างที่ป๋า อา น้า เฮีย ทำงานกัน แต่เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่มั่นใจว่าตัวเองจะมีธุระต่อที่ไหนหรือไม่ เตชิตจึงให้คนขับรถอีกคันตามไปเผื่อจะแยกกันกลับ

“ความจริงคุณเตชิตนั่งข้างหลังก็ได้นะครับ จะได้คุยเรื่องบ้านได้สะดวกๆ” เรวัตบอกเพื่อนร่วมทางที่ขึ้นมานั่งข้างหน้าคู่คนขับอย่างเขา หนุ่มร่างโตขับรถด้วยความเร็วพอเหมาะ แม้จะมั่นใจในประสิทธิภาพรถ แต่อุบัติเหตุเกิดไม่เลือกเวลา และเขาก็มีประสบการณ์มาแล้ว ดังนั้นจึงเลือกที่จะปลอดภัยไว้ก่อน โดยเฉพาะเมื่อมีเด็กเล็กๆ มาด้วยถึงสองคน

“ไม่เป็นไรครับ ให้วีจัดการไปคนเดียวดีกว่า ผมอยากให้เขาได้แบบที่เขาชอบ ผมไปคุยด้วยเดี๋ยวจะไปค้านเขาเปล่าๆ” เตชิตยิ้มให้หนุ่มตัวโตแต่อายุน้อยกว่า

ที่ดินผืนนี้เป็นของพ่อเตชิต เขาเคยออกปากขอเพื่อจะสร้างบ้านพักเวลามาเที่ยวทะเล พ่อเขากลับหวงไม่ยอมยกให้เสียที แต่เมื่อหนูน้อยโมจิเอ่ยปากบอกว่าอยากไปเที่ยวบ้านริมทะเลเหมือนในโทรทัศน์ที่ดู คุณพ่อเขาก็ทำตัวเป็นคุณปู่ใจดียกที่ดินให้หลานหน้าตาเฉย พอเขาออกอาการน้อยใจก็โดนต่อว่าว่าอิจฉากระทั่งลูก

เมื่อได้ที่ดินมาก็ตัดสินใจจะสร้างบ้าน ด้วยพื้นที่จำกัดเพียงร้อยตารางวาเศษที่กานต์รวีระบุชัดว่าต้องการให้มีต้นไม้มากๆ บ้านจึงต้องเล็กลงไปโดยปริยาย และค่าก่อสร้างนั้นกานต์รวียืนยันจะออกเองทั้งหมด หรืออย่างน้อยก็เกือบทั้งหมด เตชิตจึงต้องวางแผนเผื่อเหตุการณ์งบบานปลายเอาไว้ไม่ให้คนรักรู้

“คุณวีโชคดีจังครับ ได้แฟนตามใจอย่างนี้” เรวัตกล่าวชื่นชม ไม่ใช่เพียงความเอาใจใส่ แต่เขายังอิจฉาไปถึงการที่ได้ใช้ชีวิตคู่กับคนที่รัก ซึ่งผิดกับเขาที่ไม่มีทางสมหวัง

“ต้องตามใจสิครับ รายนั้นใจแข็งผิดหน้าตาเชียวล่ะ ผมไม่กล้าขัดใจเขาหรอก” เตชิตหัวเราะร่วน แต่ไม่กล้าเสียงดังนัก กลัวหัวข้อสนทนาจะได้ยินเข้าแล้วเขาจะลำบาก

...........................................

“ผมอยากได้ห้องครัวอยู่นอกบ้านน่ะครับ เวลาทำกับข้าวกลิ่นจะได้ไม่อบอยู่ในบ้าน” กานต์รวีอธิบายความต้องการของตัวเองให้ธนินทร์ฟัง มือเล็กจดรายละเอียดลงบนสมุดอย่างรวดเร็ว

“ครัวไทยนะครับ อืม เห็นพี่วุฒิ เอ่อ คุณสุรวุฒิน่ะครับบอกว่า คุณวีร์กับคุณเตชิตอยากได้บ้านหลังเล็กหน่อยใช่ไหมครับ” ธนินทร์เอ่ยถาม พลางคิดแบบคร่าวๆ ไว้ในหัว

“ครับ ผมอยากให้มีสวนมากกว่าตัวบ้าน โมจิจะได้มีที่ให้วิ่งเล่นเยอะๆ เนอะโมจิเนอะ” กานต์รวีหันไปพยักพเยิดกับหลานชายที่เบาะช่วงกลางแล้วหัวเราะขำ “โมจิแย่งพี่เขากินขนมได้ไงครับ หืม”

อัมพุทบิแซนด์วิชหลากหลายไส้ที่ทำมาเมื่อเช้าป้อนเข้าปากเล็กให้อย่างต่อเนื่อง หนูน้อยวัยสองขวบเศษเคี้ยวตุ้ยๆ จนแก้มป่องออกทั้งสองข้าง

“ไม่เป็นไรหรอกครับ พุดทำมาเยอะแยะเลย ใช่ไหมครับ” ธนินทร์หัวเราะตาม เหมือนแม่นกป้อนข้าวลูกไม่มีผิดเลย

“ครับ น้าวีเอาไส้อะไรครับ” อัมพุทชักชวนอย่างใจดี

“น้าวียังไม่หิวเลย นี่พุดทำเองเหรอครับ เก่งจัง” กานต์รวียอหนูน้อยจนเจ้าตัวยิ้มเขิน
“อาม่าสอนครับ พุดทำเองไม่เป็น” อัมพุทออกตัว แล้วต้องรีบหันไปป้อนโมจิอีกเมื่อมือเล็กกระตุกชายเสื้อเขา และทำท่าจะลุกขึ้นยืนมางับขนมปังในมือเสียเอง

“คุณพ่อคุณแม่ของพุดไปทำงานเหรอครับ” กานต์รวีหันมาถามธนินทร์ ปล่อยให้หลานชายสองคนป้อนขนมกันต่อไป

“เพิ่งเสียไปน่ะครับ ทั้งคู่เลย” ธนินทร์ยิ้มให้พร้อมคำตอบแต่สีหน้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด

“ขอโทษครับ ผมนี่แย่จริง ถามอะไรไม่เป็นเรื่อง” กานต์รวีรีบขอโทษ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ธนินทร์ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใครๆ จะถามถึงพ่อแม่ของเด็ก เพราะย่อมจะเป็นเรื่องที่แปลกกว่าถ้าเด็กอยู่กับน้าตลอดเวลาโดยไม่มีพ่อแม่

“งั้นพุดกับโมจิก็เหมือนกันเลยสิครับ” กานต์รวียิ้มให้บางๆ ธนินทร์กับเขาชะตากรรมคล้ายกันเสียเหลือเกิน

“เอ๊ะ? อา เสียใจด้วยนะครับ” ธนินทร์เอ่ยเบาๆ ชีวิตคนเราช่างไม่แน่นอนเสียจริง

“นานแล้วล่ะครับ ตั้งแต่โมจิอายุไม่กี่เดือน”

“คุณวีคงลำบากสินะครับ” ธนินทร์ถามอย่างเห็นใจ เด็กทารกต้องมีคนเอาใจใส่ใกล้ชิดตลอดเวลายิ่งกว่าเด็กวัยเดียวกับอัมพุทเสียอีก

“ก็มีบ้างน่ะครับ ช่วงแรกที่พี่เพิ่งเสีย ผมต้องเอาโมจิไปฝากเลี้ยงก่อนไปทำงาน ไหนจะยังเรื่องฟ้องร้องทางญาติฝ่ายพี่สะใภ้ผมอีก เขาอยากได้ตัวโมจิไปเลี้ยงน่ะครับ”

“แย่จัง” หนุ่มอายุน้อยกว่ารำพึงเสียงแผ่ว

“แต่ได้คุณทา...เอ้ย คุณเตชิตช่วยไว้น่ะครับ ให้เอาโมจิมาเลี้ยงที่ทำงานได้ แถมยังช่วยเรื่องทนายความจนผมชนะคดีได้อีก ถ้าไม่มีคุณเตชิต ผมกับโมจิก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงกันบ้าง” กานต์รวีเหลือบมองหนุ่มคนรักพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน เตชิตยังคงคุยกับเรวัต และดูเหมือนหัวข้อสนทนาจะเปลี่ยนไปเป็นเรื่องธุรกิจเสียแล้ว

“ดีจังนะครับ คุณเตชิตกับคุณวีก็ดูเหมาะสมกันดี ตอนแรกผมยังนึกสงสัยว่าครอบครัวสามหนุ่มที่พี่วุฒิบอกว่าน่ารักจะเป็นยังไง พอได้เห็นเองก็ไม่แปลกใจเลยครับ น่ารักจริงๆ” ธนินทร์เอ่ยชื่นชม ครอบครัวนี้ดูอบอุ่นไม่ต่างจากครอบครัวหญิงชายตรงไหนสักนิด

ธนินทร์ถอนหายใจเล็กน้อย เขายังโชคดีกว่ากานต์รวีตรงที่ไม่มีญาติฝ่ายไหนเข้ามาแย่งเลี้ยงดูหลาน เพราะไม่รู้ว่าเด็กเพิ่งจบ การงานยังไม่เข้าที่เข้าทางอย่างเขา จะมีปัญญาตรงไหนไปต่อสู้ให้ชนะคดี

“ขอบคุณครับ” กานต์รวียิ้มเขิน เสมองไปหาหลานชายแทน “อ้าว หลับทั้งคู่เลย” กานต์รวีและธนินทร์อมยิ้มกับภาพที่เห็น โมจินอนเหยียดบนเบาะใช้ขาของอัมพุทหนุนหัว บนปากจิ้มลิ้มยังมีเศษขนมปังติดอยู่ ส่วนอัมพุทเอนตัวพิงเบาะหลับสนิทในมือยังถือแซนด์วิชที่เหลือค้างไว้เกือบครึ่งชิ้น

....................................

เสียงคลื่นซัดสาด แสงแดดแรงจ้า ฟ้าใสแจ๋ว บรรยากาศเงียบสงบดูดีไปเสียหมดถ้าลดอุณหภูมิลงสักสิบองศา หกหนุ่มเดินทางมาถึงที่ดินในช่วงใกล้เที่ยง หลังจากแวะรับประทานอาหารตามร้านริมเส้นทางเรียบร้อยก่อนแล้ว เด็กชายสองวัยตาโตอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นชายหาดขาวสะอาดอยู่ใกล้แค่เอื้อม

“อาวีๆ โมจิจาว่ายน้ำ” มือน้อยๆ กระตุกขากางเกงคุณอาคนสวยยิกๆ

“โมจิว่ายเป็นเหรอครับ ทะเลมีคลื่นนะ” กานต์รวีถามหลานชายพลางหัวเราะเอ็นดู

“คื่นคืออาไย” เสียงเล็กใสยังพูดไม่ค่อยชัดเจนนัก

“โน่นไงครับ น้ำที่ซัดมาแรงๆ แล้วกลายเป็นฟองสีขาว แล้วมันก็ไหลกลับลงไปในทะเล” กานต์รวีอธิบายให้พ่อหลานชายแสนรักฟัง

“คื่นอาหย่อยไหมคับ” โมจิน้อยทำตาปริบๆ อย่างมีความหวัง

“ไม่อร่อยหรอกลูก คลื่นก็เป็นน้ำทะเลแหละครับ เค็มปี๋” คุณอาหนุ่มหัวเราะร่วน หลายชายอยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอน ป๊ะป๋ากับคุณปู่คุณย่าจึงตามใจ อยากกินอะไรก็หามาให้ จนเจ้าหนูของเขามองอะไรเป็นของกินไปเสียทุกอย่าง

“อยากเล่นน้ำเหรอลูก” เตชิตเข้ามาคว้าร่างเล็กจ้อยขึ้นอุ้ม หลังจากได้กินได้นอนมาจนเต็มอิ่มตั้งแต่นั่งรถ เจ้าหนูโมจิก็อารมณ์แจ่มใสขึ้นเป็นกอง

“คับป๋ม” โมจิรับคำแล้วกอดคอเตชิตออดอ้อนเอาใจ

“ยังให้เล่นไม่ได้หรอกครับ ตะวันตรงหัวอย่างนี้ ไม่สบายกันพอดี เสื้อผ้าก็ไม่ได้เอามาเปลี่ยนด้วย” กานต์รวีรีบบอกเสียก่อนที่เตชิตจะตามใจลูก

“งั้นรอแดดร่มกว่านี้ก่อนนะครับโมจิ ไปเล่นกับพี่พุดตรงโน้นดีกว่า” สามหนุ่มเดินไปหาธนินทร์ที่กำลังสำรวจพื้นที่อย่างตั้งอกตั้งใจ โดยมีหลานชายเดินตามทุกฝีก้าว

“เป็นยังไงบ้างครับคุณนิน” เตชิตเป็นคนเอ่ยถามขึ้นก่อน เพราะตั้งแต่ร่วมเดินทางกันมาเขาได้คุยกับธนินทร์เพียงไม่กี่คำ

“ที่สวยมากเลยครับ ติดทะเลหน้ากว้าง ทิศทางลมก็ดี” ตั้งแต่ก้าวลงจากรถเห็นที่ผืนนี้เต็มตา ภาพของบ้านหลังน้อยในส่วนร่มรื่นก็ผุดขึ้นมาในหัวทันที จึงรีบลองวางผังคร่าวๆ ลงในกระดาษ

“พุดครับ น้าวีฝากดูน้องหน่อยได้ไหมลูก” กานต์รวีถามอาสาสมัครรุ่นจิ๋ว “พาน้องไปเล่นกันตรงนั้นนะ น้าวีปูเสื่อไว้ให้แล้ว”
“ได้ครับ” อัมพุทยิ้มรับในทันที เตชิตจึงปล่อยลูกชายลงเดินเอง โดยมีอัมพุทคว้ามือน้อยจูงไปหาร่มเงาเล่นขุดทรายกัน

“บ้านเสร็จแล้วเรามาพักกันบ่อยๆ ดีไหมวี” เตชิตชวนคนรักเสียงอ่อนหวาน ตั้งแต่ที่กานต์รวีกลับไปช่วยทำงานที่บริษัท อีกทั้งยังย้ายไปอยู่กับพ่อและแม่ของเขา เวลาที่อยู่ด้วยกันสองต่อสองก็น้อยลงไป

“หาเรื่องโดดงานเหรอครับคุณทาโร่” กานต์รวีเบี่ยงตัวเล็กน้อยเมื่อแขนแข็งแรงที่โอบบ่าเขาอยู่ชักจะแนบแน่นเกินเลย ถ้าเป็นในบ้านกานต์รวีคงไม่ลังเลที่จะกอดตอบ แต่ต่อหน้าคนอื่นอย่างนี้ คงจะแสดงความรักกันอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้

สองหนุ่มครอบครัวรามิลโชติช่วงยังคงคุยกันกระหนุงกระหนิงจ๊ะจ๋าไปตามเรื่องตามราว ปล่อยให้สถาปนิกหนุ่มทั้งสองเดินสำรวจพื้นที่ต่อไป

“วุ้ย มดกัด” เรวัตบ่นอย่างอดไม่ได้ แต่ก็ยังเดินตามธนินทร์ช่วยเก็บรายละเอียดไปด้วย

“อิจฉาเขาเหรอเฮีย” เสียงใสหัวเราะเบาๆ พลางกดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูป เก็บภาพให้ได้ทุกมุม

“เออเดะ กูไม่มีแฟนบ้างให้มันรู้ไป” เรวัตยอมรับหน้าตาเฉย

“ไว้ชวนเทียนมาจู๋จี๋สิเฮีย เอาแบบทะเลกลายเป็นน้ำเชื่อมเลย”

“ฝันไปเหอะมึง เทียนมันจะได้ด่ากูเข้าให้น่ะสิ ชมหน่อยเดียวแทนที่มันจะเขิน มันตอบกลับมาคำเดียวว่า เสี่ยวแดก แล้วมึงว่ามันจะยอมมาเดินจูงมือกะกูเหรอวะ” เสียงทุ้มพูดอย่างขัดเคืองแต่อารมณ์แจ่มใส เมื่อนึกใบหน้าหวานใสของหนุ่มน้อยปากจัด ขี้งอนของเขา

“อ้าว งี้เฮียก็ต้องอิจฉาคุณเตชิตกับคุณวีร์ต่อไปน่ะแหละ”

“ไม่โว้ย เดี๋ยวกูจู๋จี๋กะมึงแทนก็ได้ มามะ ไอ้น้องนินที่รัก” คว้าร่างบอบบางของน้องชายมากอดแน่นจากด้านหลัง แถมหอมแก้มไปหนึ่งฟอดใหญ่ๆ

“เฮ่ย เฮีย เดี๋ยวฟ้าก็ผ่าหรอก” ธนินทร์ร้องเตือน แต่ไม่ได้นึกรังเกียจหรือตกใจแต่อย่างใด เพราะเรวัตมักกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับเขาจนเคยชินไปแล้ว

“แดดเปรี้ยงอย่างนี้จะผ่าได้ไงวะ แต่ผ่าหน่อยก็ดี กูอยากตัวดำ แม่งขาวเกินแล้วดูซีดๆ ว่ะ” ชายหนุ่มตัวโตผิวขาวตามแบบคนเชื้อสายจีน จึงหมั่นออกกำลังกายกลางแจ้งเพื่อให้สีผิวไม่ซีดจางจนเกินไป

“อ้าว ไหนว่าชอบคนตัวขาวไงล่ะเฮีย” ธนินทร์เอี้ยวตัวหันหน้าไปถามเพราะเรวัตยังกอดเขาไม่ปล่อย

“ก็ชอบน่ะสิวะ ขนาดมึงนี่กำลังแจ่มเลย แต่ไม่ชอบให้ตัวเองขาวว่ะ”

“อ้อ” เสียงใสรับคำในคอ “ว่าแต่ปล่อยก่อนเหอะเฮีย ร้อน” บิดซ้ายบิดขวาเริ่มเหงื่อแตกเพราะกล้ามเนื้อแขนทั้งสองข้างที่กอดรัดไว้ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ ถ้าอากาศหนาวๆ เขาจะยอมอยู่นิ่งๆ ให้เรวัตกอดเล่นจนพอใจ แต่อากาศร้อนตับแตกอย่างนี้เห็นทีจะไม่ไหว

“ไม่ กูจะจู๋จี๋กะมึง ใครจะทำไม” หน้ากวนโทสะมาพร้อมรอยยิ้มกว้างกึ่งสะใจ อากาศร้อนแค่นี้เทียบกับการจะได้แกล้งน้องนิดๆ หน่อยๆ เขาทนได้อยู่แล้ว แถมธนินทร์ก็ตัวเล็กๆ น่ากอด แก้มก็หอมชวนสูดกลิ่นหลายๆ รอบ

“เฮ่ยเฮีย พอแล้ว เดี๋ยวคุณเตชิตกับคุณวีร์เขาเข้าใจผิดหรอก” เสียแก้มไปอีกข้างอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างบอบบางพยายามหันมาดันตัวออก

“ช่างเขาเดะ อย่างมากกูก็ทำให้เขาเข้าใจถูกเท่านั้นเอง” เรวัตยักไหล่ไม่ใส่ใจ แต่ยอมคลายอ้อมกอดออกโดยง่าย ใครจะคิดว่าเขาเป็นแฟนกับธนินทร์เขาก็ไม่เห็นจะต้องใส่ใจ เพราะถ้าจะให้เป็นจริงๆ เขาก็เป็นได้

“เดี๋ยวก็รู้ไปถึงหูเทียนหรอกเฮีย” ธนินทร์เบะปาก สายตามองแบบไม่เชื่อในคำพูดของพี่ชาย เขาเคยเห็นเทียนงอนเรวัตครั้งที่เรวัตไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ทั้งกลุ่มรวมธนินทร์เองด้วย แต่เทียนดันไปเห็นเอาตอนที่เรวัตเดินควงแขนเล่นๆ กับเพื่อนผู้หญิง ตอนนั้นเขาจำได้ว่า เรวัตหน้าเสียวิ่งตามหนุ่มน้อยหน้าใสไปแทบไม่ทัน จนเพื่อนๆ รอบข้างงงเป็นไก่ตาแตก ร้อนถึงเขาที่ต้องตามไปช่วยอธิบายให้เทียนเข้าใจ

“โอ๊ย กะมึง เทียนไม่ว่าไรหรอก” เรวัตโบกไม้โบกมือพลางส่ายหน้า เทียนรู้ดีว่าเขารักและสนิทกับธนินทร์มากแค่ไหน

ในความเป็นจริงเทียนไม่เคยก้าวก่ายเรื่องที่เขาจะคบหากับใคร อาจจะมีงอนบ้างเป็นบางครั้งเท่านั้น เขาเองก็เช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไร ความรักครั้งนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้ จึงต้องเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้มีความรักครั้งใหม่ที่เป็นไปได้มากกว่า และดูเหมือนเทียนเองก็ต้องการให้เขาลงเอยกับธนินทร์เสียด้วย แต่สำหรับเขานั้นพูดได้แค่ปาก แต่หัวใจยังรับไม่ได้ถ้าเทียนจะมีคนรักขึ้นมาจริงๆ


....................................

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 4
«ตอบ #97 เมื่อ12-08-2010 16:37:06 »


“พี่พุด โมจิจากินแชนอิ๊ด” พ่อหนูน้อยโมจิละมือจากกองทรายมาดึงชายเสื้อของอัมพุทไว้แทน เด็กตัวโตกว่าทำตาปริบๆ กว่าจะเข้าใจว่า แชนอิ๊ด ที่โมจิพูดถึงคืออะไร เพราะน้องน้อยเพิ่งจะสองขวบเศษจะให้พูดชัดแจ๋วคงเป็นไปไม่ได้ ปีสองปีก่อนพ่อกับแม่ยังบอกว่าเขาพูดไม่ค่อยชัดอยู่เลย แต่โมจิก็เก่งที่ออกเสียงเรียกว่า พี่พุด จนได้ ทั้งที่เรียกอัมพุทว่า ปี้ปุ๊ด อยู่หลายครั้ง
“เดี๋ยวพี่พุดล้างมือก่อนนะ มือสกปรกมีเชื้อโรค” อัมพุทรีบคว้าทิชชู่เปียกสำหรับทำความสะอาดก้นเด็กขึ้นมาเช็ดมือสองสามรอบจนมั่นใจว่าสะอาด แล้วจึงเปิดกล่องเสบียงประจำตัวขึ้นมาบิแซนด์วิชไส้ทูน่าออกเป็นคำเล็กๆ ให้เหมาะกับปากน้อยจิ้มลิ้ม “อ้าม~~” ต้องอ้าปากกว้างประกอบการป้อนเพื่อให้ได้อรรถรส

“อาหย่อย โมจิจาเอาฉีเหยืองย่วย” ตาโตจ้องเป๋งไปยังแซนด์วิชไส้ไข่ต้มที่ยังเหลืออีกหนึ่งอัน อัมพุทจึงหยิบขึ้นมาป้อนอย่างตามใจ ความที่เป็นลูกคนเดียว ไม่เคยมีน้องให้ต้องดูแล อัมพุทจึงรู้สึกเหมือนเล่นพ่อแม่ลูก กับเพื่อนๆ ข้างบ้าน

“โมจิ กินอีกแล้วเหรอลูก อ้วนกลมป๊อกแล้วนะ” กานต์รวีอุทานกึ่งตกใจ เมื่อเดินกลับมาหาหลานชายแล้วพบว่าโมจิกำลังทำกิจกรรมประจำตัวแสนสำคัญอีกแล้ว อยู่บนรถก็กิน ข้าวเที่ยงก็ไม่เหลือ บ่ายก็เริ่มอีกรอบเสียแล้ว

“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่วี ลูกกำลังโตต้องกินเยอะๆ เนอะโมจิเนอะ” เตชิตนั่งลงข้างลูกชาย แล้วเอื้อมมือไปลูบหัวอัมพุทอย่างเอ็นดู ตัวแค่นี้รู้จักดูแลน้องด้วย

“คุณทาโร่” กานต์รวีเอ็ดเบาๆ แต่ดวงตาจ้องเขม็ง เขาไม่อยากให้โมจิถูกเลี้ยงดูแบบตามใจไปทุกอย่าง แค่คุณปู่คุณย่าก็ตามใจหลานจนเจ้าหนูตัวกลมป๊อก กลัวจะเป็นโรคอ้วนเสียก่อน

“ไม่เอาน่าวี เด็กๆ ก็ต้องกินเก่งอย่างนี้แหละ กินเยอะ นอนเยอะจะได้โตไวๆ”

“ผมกลัวโมจิจะอ้วนเกินมาตรฐานน่ะสิครับ” กานต์รวีนั่งลงตามแรงฉุด แต่ใบหน้ายังติดงอง้ำเล็กน้อย

“ไม่หรอกน่า เราคอยคุมสิจ๊ะ อย่าคิดมาก” คุมได้เสียที่ไหนกัน ทั้งป๊ะป๋า คุณปู่คุณย่า อาสาว เอาโน่นนี่มาให้โมจิกินจนกลายเป็นเด็กช่างกินไปเสียแล้ว โมจิก็เป็นเด็กกินง่ายเสียด้วย อะไรๆ ก็กินได้ไปทุกอย่าง แต่เอาเถอะ เขาไม่อยากจะเถียงกับคนรักเรื่องนี้นักหรอก เพราะโมจิกินเก่งย่อมดีกว่าเป็นเด็กกินยากและเลือกกินเป็นไหนๆ

.................................

สองหนุ่มสถาปนิกเดินกลับมารวมกลุ่มเมื่อเก็บรายละเอียดจนเป็นที่พอใจ เรวัตจูงมือข้างหนึ่งของธนินทร์ให้เดินตาม เพราะหนุ่มร่างบางนั้นเอาแต่ดูสำเนาโฉนดที่ดินเปรียบเทียบกับพื้นที่จริงจนไม่มองทางข้างหน้า

“คู่นี้ก็เหมาะกันดีนะ” เตชิตเอ่ยขึ้นกับคนรักที่นั่งอยู่ข้างๆ

“อ้าว พี่น้องกันไม่ใช่เหรอครับ” ตอนแนะนำตัว กานต์รวีจำได้ว่าเรวัตบอกว่าตัวเองเป็นพี่ชายของธนินทร์ ยังนึกแปลกใจว่าทำไมเป็นพี่น้องที่ไม่เหมือนกันเสียเลย คนพี่ตัวโตหุ่นเหมือนนักกีฬารักบี้ ผิวขาวจัดแต่ตากแดดจนคล้ำ หน้าตาคมเข้มแนวอาตี๋นักร้องไต้หวันฮ่องกงที่กำลังฮิตๆ กัน ส่วนคนน้องแม้จะสูงแต่หุ่นผอมบางแทบปลิวลม ผิวขาวนวลอมเหลือง ตาโต ขนตายาว ริมฝีปากอิ่มสีหวานสวย ออกไปทางน่ารักมากกว่าหล่ออย่างพี่ชาย

“ไม่ใช่หรอก ฉันคุยกับคุณเรวัตแล้ว แค่รุ่นพี่รุ่นน้องสมัยเรียนน่ะ” สนิทกันขนาดนี้ เตชิตเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นแค่พี่น้องได้อย่างที่บอก จูงมือ กอดคอ หอมแก้มมันคงจะเกินความเป็นพี่น้องไปมากโข และธนินทร์เองก็เป็นหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักเสียด้วย แม้จะไม่ใช่หน้าหวานแบบกานต์รวีคนรักของเขา แต่ก็น่ารักมากในสายตาของผู้ชายด้วยกัน ถ้าเรวัตจะนึกชอบเขาก็ไม่เห็นว่าจะใช่เรื่องแปลกตรงไหน ยิ่งกว่านั้น ธนินทร์เองก็ท่าทางเป็นคนเรียบร้อย ใจเย็น น่าจะเข้ากับบุคลิกห่ามๆ ของเรวัตได้ดีเสียด้วย

“เป็นยังไงบ้างครับคุณนิน” กานต์รวีร้องทักเมื่อสองหนุ่มเดินเข้ามาใกล้

“อ๊ะ เอ่อ อ๋อ” ธนินทร์เงยหน้าขึ้นมาอย่างงงๆ เพราะไม่ได้ยินคำถามของนายจ้าง แต่รู้สึกตัวเพราะเรวัตเป็นคนสะกิด “ง่า คุณวีว่าไงนะครับ” รอยยิ้มแห้งๆ ของธนินทร์ทำเอาเรวัตส่ายหน้า เขาไม่รู้จะเรียกธนินทร์ว่าเป็นคนสมาธิสูง หรือสติหลุดดี เพราะเวลาธนินทร์ให้ความสนใจกับอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะงาน ธนินทร์จะไม่รับรู้สิ่งรอบตัวเลยสักนิด

“เป็นไงบ้างครับ” กานต์รวีถามซ้ำ ลอบยิ้มขำขันกับความตั้งอกตั้งใจของธนินทร์

“อ๋อ ผมมีเรื่องจะถามพอดีครับ” ธนินทร์ย่อตัวลงนั่งกับพื้นเสื่อที่ไม่รู้ว่าเจ้าของที่เอามาปูไว้ตอนไหน “พอดีว่าผมหาหมุดที่ดินด้านทะเลไม่เจอ แต่ดูจากโฉนดแล้วน่าจะเป็นแนวต้นมะพร้าวต้นนั้นตัดตรงถึงก้อนหินก้อนใหญ่ ใช่รึเปล่าครับ” นิ้วชี้เหมือนกับวาดภาพในอากาศ ลากยาวจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งตามการคาดคะเน

“เอ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพิ่งจะมาครั้งแรก” กานต์รวี หรี่ตาสู้แสงแดดสะท้อนจากทะเลมองตามมือธนินทร์อย่างไม่แน่ใจ

“ใช่ครับ พอดีสองปีก่อนเขามีการทำความสะอาดชายหาด สงสัยหลักหมุดโดนกวาดไปด้วย” เตชิตเป็นผู้ยืนยันแทน

“อ้อ งั้น อืม” ธนินทร์เม้มปากอย่างใช้ความคิด “ผมขอเสนอว่าให้สร้างบ้านชิดไปทางรั้วด้านซ้าย ทรงบ้านจะเป็นตัวแอล (L) ตรงกลางจะได้ทำสระว่ายน้ำ”

“สระว่ายน้ำ? ผมไม่ได้เอาสระว่ายน้ำนี่ครับ” กานต์รวีขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ เพราะมั่นใจว่าตอนที่คุยรายละเอียดบนรถ เขาไม่ได้พูดเรื่องสระว่ายน้ำออกไปแน่

“เอ๊ะ ก็คุณเตชิต...”

“ฉันบอกเองแหละวี” เตชิตยิ้มแหย เขาแอบบอกเมื่อตอนรับประทานอาหารกัน แต่ลืมบอกธนินทร์ว่าเป็นความลับ

“จะเอาไปทำไมครับ ที่บ้านก็มี แล้วนี่ก็ริมทะเล จะว่ายน้ำในสระไปทำไม” กานต์รวีจ้องคนรักอย่างไม่พอใจ เขาอยากสร้างบ้านหลังนี้ด้วยเงินตัวเอง เพราะแค่ได้รับที่ดินมานี่ก็เกรงใจมากพอแล้ว แต่ถ้าเตชิตยังคิดจะสร้างสระว่ายน้ำด้วย งบประมาณที่ตั้งไว้คงจะไม่พอเป็นแน่

“ไม่เหมือนกันนี่ นั่นน้ำเค็มนี่น้ำจืด” เตชิตพยายามพูดเสียงอ่อนหวาน

“ถ้าจะเอาน้ำจืด จะมาอยู่ริมทะเลทำไมกันล่ะครับ”
“เอาอย่างนี้แล้วกันครับ” ธนินทร์ขัดขึ้น เพราะดูเหมือนนายจ้างทั้งคู่จะมีความเห็นไม่ตรงกัน “ผมจะเว้นพื้นที่ส่วนตรงกลางเอาไว้ก่อน ถ้าไม่เอาเป็นสระว่ายน้ำ เราก็จัดเป็นสวนแล้วก็มีบ่อปลายาวไปตามแนวบ้านก็ได้ครับ”

“โมจิจาเยี้ยงปา เอาปาฉีฉ้มตัวหย่ายๆ” เจ้าของที่ตัวจริงเสนอความเห็นพร้อมกางแขนบอกขนาดปลาจนเกือบหงายหลัง แล้วหันหน้าไปงับแซนด์วิชจากมือของอัมพุทได้อย่างต่อเนื่อง

“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ” เตชิตและกานต์รวีพยักหน้าเห็นด้วย สร้างบ้านให้ลูกก็ต้องตามใจลูก

“ตัวบ้านจะเป็นสองชั้นปรับระดับนะครับ ชั้นสองจะไม่เต็มพื้นที่จะแบ่งช่วงกลางเอาไว้เป็นพื้นที่ซักล้าง ตากผ้า” ธนินทร์ใช้ดินสอวาดภาพร่างหยาบๆ ลงบนกระดาษที่เตรียมมา โดยมีเจ้าหนูโมจิมานั่งจุ้มปุ้กอยู่ด้านหน้าขอมีส่วนร่วม

“ดีครับ ผมก็ไม่ชอบตากผ้าโชว์ชาวบ้าน ถ้าเป็นช่วงกลางคงจะบังไปได้เยอะ” ตากผ้าหน้าบ้านดูแล้วไม่ค่อยเรียบร้อย

“งั้นตีระแนงไม้ ปลูกไม้เลื้อยตรงดาดนี่ช่วยบังอีกนิดก็ได้ครับ จะได้ไว้วางโต๊ะมานั่งชมดาวกันตอนกลางคืนได้ด้วย”

“อืม ดีผมชอบ” เตชิตรีบเห็นด้วย จะได้มีพื้นที่มาสร้างบรรยากาศโรแมนติกกับคนรักเพิ่มขึ้น

“จะเอากี่ห้องนอนดีครับ”

“สักสามไหวไหมครับ”

“ได้ครับ งั้นห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว ส่วนอีกสองห้องจะใช้ร่วมกันเป็นห้องน้ำสองประตูได้ไหมครับ” ธนินทร์เสนองานไปตามความคิด โดยมีนายจ้างทั้งสองและเจ้าของที่ดินโมจิให้ข้อเสนอไปด้วย

เรวัตมองน้องชายทำงานแล้วยิ้มกับตัวเอง ธนินทร์เป็นคนมีเซ้นส์บางอย่างที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ งานส่วนใหญ่ที่ธนินทร์เสนอไปมักไม่ค่อยได้รับคำโต้แย้งจากนายจ้างหรืออาจารย์ หากงานนั้นธนินทร์ได้พูดคุยเองโดยตรง ธนินทร์มักจะเข้าใจความต้องการและความชอบของลูกค้าหรือแม้กระทั่งอาจารย์จากคำพูด บุคลิก หรือทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัว จึงสามารถออกแบบงานมาได้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

ตั้งแต่สมัยเรียนธนินทร์ก็เริ่มรับงานเล็กๆ หาเงินเป็นค่าเรียนค่าที่พักช่วยพี่สาว โดยรับงานจากคำแนะนำของอาจารย์หลายท่าน และทุกงานได้รับคำชมจนอาจารย์แต่ละคนได้หน้ากันไปหลายกระบุง ครั้งนี้เป็นงานแรกในฐานะมืออาชีพ ซึ่งเรวัตคิดว่าเตชิตและกานต์รวีจะต้องพอใจอย่างแน่นอน

..........................................

คณะหกหนุ่มเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ กว่าจะมาถึงก็เป็นเวลาใกล้เลิกงานเต็มที แต่ทั้งหมดก็ยังแวะเข้าไปหาสุรวุฒิตามที่ได้โทรศัพท์บอกล่วงหน้าเอาไว้ก่อนแล้ว เพื่อตกลงเรื่องรายละเอียดและราคาค่าก่อสร้าง

“ราคาประเมินนี่คงต้องรอแบบให้เสร็จก่อนนะครับ แต่เท่าที่ดูคร่าวๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องเกินงบ” สุรวุฒิแจงกับกานต์รวีด้วยน้ำเสียงพึงพอใจ แค่ส่งธนินทร์ไปครั้งเดียวก็ได้คำตอบรับมาในทันที

“ผมอยากให้คุณนินช่วยออกแบบสวนให้ด้วย จะได้เข้ากับตัวบ้าน” หนุ่มหน้าหวานตัดสินใจอย่างกะทันหัน ครั้งแรกเขาจะจ้างให้ออกแบบเฉพาะตัวบ้าน เรื่องสวนและการตกแต่งภายใน เขาคิดจะทำเองอย่างค่อยไปค่อยไป เพื่อเป็นการประหยัดเงินที่จะต้องจ่ายเป็นก้อน

กานต์รวีไม่มีแบบบ้านอยู่ในหัวเลย เขาจบบัญชีจึงดูออกแค่ตัวเลข ไม่รู้เรื่องการออกแบบอะไรสักนิด คิดแค่ว่าอยากได้บ้านหลังน้อยที่บรรยากาศอบอุ่น มีต้นไม้ร่มรื่น มีที่ทางให้หลานชายได้วิ่งเล่นเยอะๆ ก็เท่านั้น แบบบ้านสวยๆ ที่สุรวุฒิเคยส่งมาให้ดูสามสี่แบบนั้น กานต์รวียอมรับว่าสวย แต่ไม่ถูกใจ ไม่ใช่แบบที่เขาต้องการ แต่ภาพร่างที่ธนินทร์วาดให้ดูในวันนี้นั้น เขากลับรู้สึกถึงความเป็น ‘บ้าน’ อย่างที่ต้องการไม่มีผิดเพี้ยน

“เอ่อ เรื่องสวนนี่ผมไม่ชำนาญหรอกครับ” ธนินทร์รีบออกตัว ถ้าแค่แบบบ้านเขาก็ไม่ลังเลที่จะเสนอความคิดเห็น แต่เรื่องการแต่งสวนเขาเองก็ไม่ได้เรียนอะไรมามากมาย แค่ขออนุญาตอาจารย์เข้าไปเรียนแบบไม่มีหน่วยกิตเป็นบางวิชาเท่านั้น ที่สำคัญเขาเป็นคนจำชื่อต้นไม้ได้แย่มากๆ อีกด้วย

“ลองดูก่อนก็ได้ครับ แล้วค่อยมาปรับเปลี่ยนกันทีหลัง ได้รึเปล่าครับคุณสุรวุฒิ” เตชิตถามเองอย่างนี้ มีหรือที่สุรวุฒิจะกล้าปฏิเสธ

“ไม่มีปัญหาครับ” สุรวุฒิรับปากแทนเจ้าตัว พร้อมหันไปมองหน้ากึ่งบังคับให้ธนินทร์ยอมรับด้วย

“เอ่อ แล้วคุณวีอยากได้แบบไหนครับ” ถ้าให้แค่ลองก็ไม่เกี่ยง แต่ธนินทร์ก็ไม่คาดหวังว่าจะเป็นที่ถูกใจ

“เอาตามที่คุณนินว่าสวยเข้ากับบ้านแล้วกันครับ ผมเองก็ไม่มีไอเดียเหมือนกัน” โยนภาระให้เสร็จ กานต์รวีก็ยิ้มหวานเอาใจส่งไปทีหนึ่ง ก่อนจะเริ่มอีกรอบ “ไหนๆ ก็ทั้งบ้านทั้งสวนแล้ว ขอเรื่องตกแต่งภายในเพิ่มไปด้วยเลยแล้วกัน ฝากคุณนินด้วยนะครับ”

“ได้ครับ ไม่มีปัญหา” ยังไม่ทันจะได้อ้าปากชี้แจงอะไร สุรวุฒิก็จัดการตอบตกลงให้เป็นที่เรียบร้อยอีก เพราะถึงเขาจะพูดอะไร เตชิตและกานต์รวีก็คงให้เขาลองก่อนอยู่ดี

สุรวุฒิยิ้มหน้าบาน แทบจะยกมือปาดน้ำลาย งานเพิ่มขึ้น รายได้ก็ตามมาอีกเกือบเท่าตัว และถ้างานนี้ธนินทร์ทำได้ผ่านทั้งสามส่วน ก็เป็นไปได้สูงมากที่ครั้งต่อๆ ไป รามิลกรุ๊ปจะเลือกใช้บริการจาก First Land เพิ่มขึ้น ทั้งออกแบบบ้าน ก่อสร้าง ตกแต่งภายใน และการจัดสวนอีกด้วย

“อาวี ป๊ะป๋า โมจิฉูง ตัวฉูงแย้ว” เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างอารมณ์ดี ร้องเรียกให้หันไปมอง

“โมจิ ไปขี่คอคุณเรวัตอย่างนั้นได้ไงล่ะลูก” ร่างจ้ำม่ำใช้มือป้อมๆ เกาะหัวของเรวัตไว้ข้างหนึ่ง อีกข้างชูมือเพิ่มความสูงให้ตัวเองไปได้อีกหน่อย เรวัตใช้มือทั้งสองข้างประคองเอวกลมๆ ของเจ้าหนูเอาไว้อย่างระมัดระวัง เพราะถ้าทำขนมโมจิตก เขาคงไม่มีปัญญาไปปั้นมาใช้คืนให้ได้แน่ๆ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ เนอะโมจิเนอะ ดูสิตัวสูงกว่าป๊ะป๋าเลย” เรวัตหยอกล้อเจ้าหนู นานๆ เล่นกับเด็กสักทีก็สนุกดีเหมือนกัน

“โมจิตัวฉูงไหมคับ” เจ้าหนูน้อยยิ้มจนเห็นฟันซี่เล็กชัดเจน แล้วยื่นแขนทั้งสองข้างออกไปหาเตชิตเพื่อให้อุ้มลง

“ครับ โมจิของป๊ะป๋าตัวสูงที่สุดเลยลูก” เตชิตหอมแก้มลูกชายแรงๆ กินเยอะนอนเยอะอย่างโมจิ คงไม่มีทางตัวเล็กกว่ากานต์รวีแน่

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็กลับกันเถอะครับ รบกวนคุณเรวัตกับคุณนินมาทั้งวันแล้ว” หนุ่มหน้าหวานชักชวนคนรักพลางมองนาฬิกาที่บอกเวลาล่วงเข้าหกโมงเย็นแล้ว

“ด้วยความยินดีครับ”

“โมจิจาไปกับพี่พุด” พ่อหนูน้อยพยายามดิ้นลงไปยืนเอง

“พี่พุดเขาต้องกลับบ้านแล้วลูก”

“โมจิกับบ้านกับพี่พุด”

“ได้ไงล่ะครับ พี่พุดก็ต้องไปบ้านพี่พุดสิ โมจิก็ต้องกลับบ้านโมจิสิ” กานต์รวีเกลี้ยกล่อมอย่างมีเหตุผล เจอกันแค่วันเดียวขนมโมจิก็จะเอาขนมพุดดิ้งกลับไปเล่นที่บ้านด้วยเสียแล้ว

“ไว้วันหลังโมจิมาเล่นกับพี่พุดใหม่นะ” เมื่อเห็นเจ้าหนูทำปากยื่นอย่างไม่สบอารมณ์อัมพุทจึงรีบร้องบอก ริมฝีปากจิ้มลิ้มจึงยิ้มออกมาได้

“เอาแชนอิ๊ดอีกนะ โมจิชอบแชนอิ๊ดฉีเหยือง” เจ้าหนูรีเควสอย่างที่ต้องการ จนคุณอาคนสวยชักไม่แน่ใจว่า ขนมโมจิอยากเล่นกับขนมพุดดิ้ง หรือชอบแซนด์วิชมากกว่ากัน

....................................

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #98 เมื่อ12-08-2010 17:05:39 »

 :L1:

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #99 เมื่อ12-08-2010 17:14:19 »

อ่านไปอ่านมา
ชอบโมเม้น เรวัติ+นิน มากกกอ่ะ
ถึงรู้ทั้งรู้ว่า คิดกันแบบพี่น้อง
แต่เวลาเค้าอยู่ด้วยแล้ว อืมมมม บอกได้คำเดียว
"น่าีรัก"

หรือนี่จะเป็นที่มาของชื่อเรื่องกันน๊าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
« ตอบ #99 เมื่อ: 12-08-2010 17:14:19 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ อนันตกาล

  • กาลเวลา ไม่อาจทำให้คนเปลี่ยน แต่ทำให้ความคิดเปลี่ยน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +931/-14
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #100 เมื่อ12-08-2010 17:16:48 »

คิดว่าน่าจะเป็นนินกับเรวัตร


เพราะชื่อเรื่อง มัน Brother's Love

น่าจะหมายถึงเรวัตร กับเรนินทร์นะ

อีกอย่างความรักระหว่าง
เรวัตรกับเทียนเหมือนทั้งคู่จะรู้อยู่ว่าเป้นไปไม่ได้และก็ไม่ได้หวงห้ามอีกฝ่าย
พูดง่านๆสองคนไม่มีวันลงเอยกัน
และเรวัตรก็ออกตัวอยุ่แล้วว่านินเหมายสมกับตัวเองมากที่สุด


ดังนั้น........ รอดูตอนต่อไป คริคริ

ออฟไลน์ heefever

  • 영원히 그대만 사랑해
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #101 เมื่อ12-08-2010 17:47:53 »

เห็นด้วยกะรีบน


ว่าแต่เจ้าของเรื่องเนี่ยเป็นอะไรกับคนแต่ง daddy love หรือเปล่า

เพราะตัวละคร มี ทั้งอาวี ป๊ะป๋า ขนมโมจิ





ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #102 เมื่อ12-08-2010 17:48:35 »

น่ารักอะ น้องโมจิ เค้าจำได้จิ  :impress2: แต่อย่างกาลว่า คงเป็นเฮียต้อมกะนินแน่แล้ว  :laugh:
nc ไม่มีแต่ลงเอยด้วยดีก็พอใจแล้ว  :-[

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #103 เมื่อ12-08-2010 17:51:13 »

ความสดใสความน่ารักของเด็กๆได้อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆเลยครับ  ว่าแต่ตัวละครอีกสามคนคุ้นๆว่าเคยอ่านนิยายเรื่องอะไรแล้วหว๋า

aimsun

  • บุคคลทั่วไป
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #104 เมื่อ12-08-2010 17:54:10 »

รักใสๆ  :m1:

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #105 เมื่อ12-08-2010 18:16:25 »

เฮ้อ  ตอนหน้าจบแล้วเหรอ  น่ารักอะคับ  โมจิกับอัมพุด

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #106 เมื่อ12-08-2010 18:40:19 »

อืม..
คงเป็นเฮียกะ นิน แหละ

คงไม่ใช่ พุด กะ โมจิหรอก

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #107 เมื่อ12-08-2010 18:46:30 »

ชักเริ่มคิดเหมือนอย่างรีบน ๆ แล้วอะค่ะ

ว่าสงสัยจะต้องเป็นแค่ความรักของพี่น้องแน่ ๆ เลย กระซิก ๆ  :เฮ้อ:

ไม่เป็นไร รออ่านต่อไป 

ปล. เด็ก ๆ น่าร้ากกกกกก

ออฟไลน์ BP109

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-0
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #108 เมื่อ12-08-2010 19:21:05 »

นอกจากลุ้นเฮียต้อมกะนิน  ยังได้ลุ้นอีกคู่  โมจิกะพุดดิ้ง อิอิ  :-[ 

โตขึ้นสงสัยพุดดิ้งต้องตามใจน้องตลอดแน่ๆกินเก่งขนาดนี้ตัวโตกว่าพี่พุดแหงๆ :z1:


ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #109 เมื่อ12-08-2010 19:22:40 »

หนูโมจิ น่าร๊ากกกกกกกก
แหม๋ มาโชว์ตัวทั้งทีเอาแต่กินอย่างเดียวเลยนะลูก
อ่านจบแล้วอยากกินโมจิกับพุดดิ้งเลยอ่ะ :m3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
« ตอบ #109 เมื่อ: 12-08-2010 19:22:40 »





b27072010

  • บุคคลทั่วไป
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #110 เมื่อ12-08-2010 19:47:20 »

ต่อไปจะมีอีกคู่เพิ่มขึ้นมาหรือเปล่านะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #111 เมื่อ12-08-2010 20:13:23 »

แขกรับเชิญคุ้นอย่างแรง  แต่จำไม่ได้ว่าจากเรื่องอะไร

Inlover

  • บุคคลทั่วไป
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #112 เมื่อ12-08-2010 20:47:02 »

หวังว่าชืือเรื่องจะหมายถึง
นิน กับ พี่ต้อม นะคะ~~~~

รออ่านตอนต่อไปค่าาาา

ออฟไลน์ วิหคท่องนภา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #113 เมื่อ12-08-2010 21:09:09 »

น่ารักที่สุด!!!!    >_<  อยากอ่านภาคน้องพุดกับโมจิจัง ฮ่าๆๆ

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #114 เมื่อ12-08-2010 22:00:47 »

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกยิ้มตลอดเลยค่า รู้สึกถึงความอบอุ่น ความรัก ได้ดีมากๆๆเลย

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #115 เมื่อ12-08-2010 22:10:16 »

อ่านไป ยิ้มไป กับความน่ารักของทั้งคู่อา  คู่หลานจริงๆ
รู้สึกดีๆ กับคำว่าครอบครัวที่มีอยู่ในเรื่องนี้มากๆ เลยคะ :L2:

ออฟไลน์ CHIVAS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #116 เมื่อ12-08-2010 22:22:09 »

เชียร์ น้องโมจิกับพี่พุด   แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
น่ารักที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
อ่านแล้วอบอุ่นมากๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ NASS.NET

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #117 เมื่อ12-08-2010 22:59:53 »

อา...ไม่อยากให้เป็นแค่รักของพี่น้องเลยค่ะ...เฮ้อออ

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #118 เมื่อ12-08-2010 23:08:26 »

น่ารักทั้งสองบ้านเลย  :m1:
จะว่าไปยิ่งดู เฮียต้อมกับนินยิ่งเหมาะสมกัน
แอบลุ้นต่อไป เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
Re: Brother's Love By Noir ตอนที่ 5,6
«ตอบ #119 เมื่อ12-08-2010 23:28:16 »

ตกลงใครจะคู่กับใครหนอ T T

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด