มาแล้วค่ะตอนพิเศษ 2 ของคุณอาที่รัก~ (เกือบลืมลง)
ยังเหลือตอนพิเศษอีกตอนนะคะ สำหรับเว้นวรรคประหลาด ที่อาจโผล่มา นั่นเป็นเพราะว่า ก๊อปมาจากไฟล์ที่จัดไว้สำหรับทำมือมาลงให้ค่ะ บางทีเลยตัด เคาะวรรค แปลก ๆ ไปบ้างน่ะค่ะ พยายามแก้ก่อนลงแล้ว แต่ถ้ายังมีหลุดตาบ้างก็ขออภัยค่ะ ^ ^"
คุณอาที่รัก
ตอนพิเศษ / 2
“คุณโชเฮครับ เร็ว ๆ สิครับ เดี๋ยวก็ไม่ทันรถเมล์หรอก!”
เสียงเล็ก ๆ เร่งคนที่กำลังเดินเรื่อย ๆ ออกจากบ้านตามมา ชายหนุ่มร่างสูงยิ้มน้อย ๆ ให้กับท่าทางกระตือรือร้นของอีกฝ่าย ซึ่งมองแล้วค่อยเหมาะกับอายุเจ้าตัวที่เพิ่งจะ 8 ขวบขึ้นมาหน่อย
“น่า ๆ สวนสนุกมันไม่หนีเธอไปไหนหรอก”
โชเฮบอกแล้วส่งยิ้มให้อย่างเอ็นดู จนคนกำลังโวยวายหยุดโวย แล้วเดินเข้ามาหา ท่ามกลางความสงสัยของชายหนุ่ม
“มีอะไรหรือไคริ?”
ร่างเล็กจ้องอีกฝ่ายตาแป๋ว แล้วทำท่าให้โชเฮย่อตัวลง ซึ่งชายหนุ่มก็ทำตามอย่างงง ๆ ทว่า ทันทีที่ระดับใบหน้าตรงกัน เด็กชายก็ชะโงกหน้าหอมแก้มของชายหนุ่มแรง ๆ ฟอดใหญ่
“เฮ่ย! มาทำอะไรแบบนี้ ข้างนอกน่ะ”
โชเฮยืดกายยืนขึ้นทันที ใบหน้าแดงก่ำ ท้ายประโยคพยายามลดน้ำเสียงลง แล้วมองซ้ายมองขวาว่ามีใครอยู่แถวนั้นด้วยหรือเปล่า
“ก็ช่วยไม่ได้ คุณอยากยิ้มน่ารักเองนี่นา”
ไคริตอบกลับด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี แล้วเดินนำหน้าไป ทำเอาชายหนุ่มที่ยืนหน้าแดงอยู่ สบถเบา ๆ กับตัวเองอย่างหงุดหงิด ที่มักถูกทำเหมือนเป็นของเล่นของปีศาจน้อยตรงหน้า อยู่เสมอ
“ทำหน้าบึ้งแบบนั้นไม่พอใจสินะครับ”
ไคริที่ขึ้นมานั่งอยู่บนรถประจำทางพร้อมกับโชเฮ เอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นสีหน้ายุ่ง ๆ ของชายหนุ่มที่นั่งใกล้ตน
โชเฮเงียบไม่ตอบ เห็นดังนั้นเด็กชายจึงเงียบบ้าง และสักพักเสียงสั่นเครือจึงเอ่ยขึ้น
“คงไม่อยากพาผมออกมาเที่ยว ... ไม่สิคุณคงไม่อยากไปเที่ยวกับผมสินะครับ”
น้ำเสียงเศร้า ๆ คล้ายสะอื้นทำเอาคนฟังใจเสีย รีบแก้ตัวทันทีอย่างตกใจ
“ไม่ใช่สักหน่อย ถ้าไม่อยากมากับเธอ ฉันก็คงไม่มาหรอกนะ นี่ ...”
โชเฮ ชะงัก เมื่อเห็นร่างนั้นสั่นเทิ้ม และแล้วเขาก็จับได้ว่า ไคริกำลังกลั้นหัวเราะอยู่
“เจ้าเด็กแสบ!” โชเฮสบถกับตัวเอง นึกหงุดหงิดที่เสียรู้เข้าอีกจนได้
“คุณโชเฮ คงเป็นผู้ชายประเภทแพ้น้ำตาคนอื่นสินะครับ”
ไคริหันมาถามหลังจากพยายามควบคุมตัวเองให้เป็นปกติ แต่น้ำเสียงยังคงมีความขบขันหลงเหลือให้จับได้อยู่บ้างเล็กน้อย
“รับรองว่าไม่มีคราวหน้าอีกแน่”
โชเฮหันมาบอกห้วน ๆ ด้วยใบหน้าบึ้งตึง ไคริหัวเราะเบา ๆ แล้วเอามือวางแหมะไว้ตรงเป้ากางเกงของชายหนุ่ม ทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งเฮือก รีบหยิบกระเป๋าสะพายของเด็กชาย ที่เจ้าตัวถืออยู่มาบังมือเล็กนั้นไว้ทันที
“..เอาออกไปไคริ” น้ำเสียงดุที่เค้นรอดไรฟันแผ่วเบา ใบหน้าบึ้งนั้นแดงระเรื่อ ด้วยความโมโหระคนอับอาย
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าโกรธผมนะครับ ...”
“.. ไค..ริ” น้ำเสียงเน้นหนักขึ้น เมื่อมือเล็กเริ่มซนไล้วนลูบไล้ไปมา ตรงบริเวณจุดอันตรายไม่หยุด
“สัญญาก่อนสิครับ แล้วยิ้มให้ผมด้วย”
เด็กชายบอกพลางช้อนตามองอีกฝ่าย คล้ายรอคำตอบ
“....ก็ได้ ฉันไม่โกรธเธอ”
โชเฮเค้นเสียงออกมา อย่างพยายามข่มอารมณ์หงุดหงิดแล้วจึงฉีกยิ้มกว้างอย่างจำใจ ให้อีกฝ่าย
“ก็แค่นั้น ... แต่ เสียดายจัง ชักอยากทำต่อแล้วสิ”
ไคริชักมือกลับ พร้อมรอยยิ้มเสียดายดุจคำพูด จนคงฟังเริ่มรู้สึกเครียดลงกระเพาะ ชักอยากจะกลับไปนอนพักที่บ้านเสียตอนนี้ ให้มันรู้แล้วรู้รอด
สวนสนุกเป้าหมายของทั้งสองคนที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ภาพเครื่องเล่นละลานตา หลากหลายชนิด และผู้คนที่มีสีหน้ามีความสุข เดินไปมาภายในนั้น ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวของโชเฮ เริ่มจางหายไปจนเกือบหมด
“คุณโชเฮครับ เล่นนี่กันนะครับ นะ!”
ไคริจูงมือโชเฮอย่างกระตือรือร้น มุ่งไปที่เครื่องเล่นชิ้นหนึ่ง แวบแรกที่โชเฮเผลอยิ้มกับท่าทางของอีกฝ่าย แต่เมื่อเห็นเครื่องเล่นที่เด็กชายอยากเล่นแล้ว เขาก็นิ่งเงียบแล้วจูงมือไคริออกมาทันที
“อ้าว ทำไมล่ะครับ ก็ผมอยากเล่นนี่นา”
โชเฮ หันมามองหน้าเด็กชาย ด้วยใบหน้าเคร่งเครียดแล้วถามด้วยน้ำเสียงเข้ม
“เธอสูงเท่าไหร่”
“130 พอดีตามเกณฑ์ที่จะเล่นได้ครับ”
ไคริตอบกลับอย่างฉะฉาน แล้วเอียงคอมองคนที่เบือนหน้ากลับไปคิดหาข้ออ้างอื่นต่อ
“อ้อ อย่าบอกนะว่าคุณโชเฮไม่ชอบเครื่องเล่นอะไรที่หวาดเสียว?”
โชเฮสะดุ้งเฮือก หันกลับมายิ้มแห้ง ๆ
“ใครบอกเธอ ถึงจะสูงตามเกณฑ์ แต่เครื่องเล่นพวกนี้ไม่เหมาะกับเด็ก 8 ขวบ หรอก ไปเล่นทื่อื่นดีกว่านะ”
โชเฮพยายามจะโน้มน้าว ให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจให้ได้ ไคริ หันไปมองเจ้ารถไฟเหาะตีลังกามหาโหด อย่างนึกเสียดาย ทว่า สำหรับเขาแล้ว
ชายหนุ่มที่ยืนหน้าซีด ๆ พยายามหาเรื่องชักจูงเขาให้เปลี่ยนใจ ดูแล้วช่างน่ารัก และน่าสนใจ กว่าการที่จะได้เล่นเครื่องเล่นดังกล่าวหลายเท่าตัวนัก
“ก็ได้ครับ ตามใจคุณโชเฮแล้วกัน ไหน ๆ วันนี้คุณก็เป็นเจ้ามือนี่นา”
ไคริบอกยิ้ม ๆ ซึ่งโชเฮก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก และส่งยิ้มให้กับเด็กชาย ที่คิดในใจว่าดีแล้ว ที่ไม่ได้ยืนกรานดื้อดึง ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เห็นรอยยิ้มน่ามองของชายหนุ่มแบบนี้
“แล้วตกลงจะไปเล่นอะไรกันครับ ...อ้อ ผมไม่ขึ้นม้าหมุนหรอกนะ”
ไคริรีบออกตัวก่อน ถึงใครจะมองว่าเขาเป็นเด็กยังไง แต่การไปเล่นอะไรเด็ก ๆ ให้สมวัยในบางครั้ง มันก็ไม่ได้อยู่ในความคิดของเขาสักนิด
โชเฮยิ้มกับคำพูดนั้น เขามองไปรอบ ๆ แล้วใช้ความคิด จากนั้นก็ไปสะดุดตาเข้ากับเครื่องเล่นที่โดดเด่นชนิดหนึ่ง
“นั่นล่ะ โอเคไหม พึ่งมาถึงใหม่ ๆ ขึ้นบนนั้นสำรวจรอบ ๆ ก็ดีเหมือนกันนะ”
ไคริมองตามไป พอมองเห็นเจ้าเครื่องเล่นดังกล่าว เด็กชายก็ยิ้มออก ก่อนพยักหน้ารับ
“เข้าท่าดีเหมือนกันครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ”
โชเฮบอก พร้อมกับยื่นมือให้เด็กชาย ที่ยื่นมือของตนให้ชายหนุ่มจูงโดยไม่ปฏิเสธ ภาพที่ทั้งคู่จูงมือกันไป เรียกสายตาหลายคนให้มองด้วยความเอ็นดู แต่ไม่มีเลยสักคนที่จะคิดว่า ทั้งคู่นั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ผิดกับที่เห็นภายนอกยิ่งนัก
ภาพทิวทัศน์ที่มองจากมุมสูงของเครื่องเล่นอย่างชิงช้าสวรรค์ ขนาดยักษ์ของสวนสนุก สร้างความเบิกบานใจให้กับคนที่นั่งอยู่ในกระเช้า ทั้งสอง ทั้งคู่เริ่มดูโน่นดูนี่ข้างล่าง จนถึงรอบที่กระเช้าขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของ เครื่องเล่น
“ถ้ามันค้างอยู่บนนี้เลยก็ดีนะครับ”
ไคริบอกขณะที่ก้มมองผ่านกระจกกระเช้า ดูวิวด้านล่างอย่างตื่นเต้น
“เอางั้นเลยเหรอ...”
โชเฮยังไม่ทันพูดจบก็ต้องสะดุ้ง เมื่อเครื่องเล่นทั้งคู่ จู่ ๆ ก็เกิดสั่นสะเทือน แล้วกระเช้าของเขาก็หยุดนิ่งอยู่เช่นนั้น
“ว้าว! ค้างจริง ๆ ด้วย”
ไคริบอกกับตัวเองอย่างทึ่ง ๆ มองไปที่กระเช้าอื่น ก็เห็นหลายคนเริ่มลุกแนบหน้าติดกระจกเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ขออภัยท่านผู้เล่นชิงช้าสวรรค์ทุกท่าน เนื่องจากระบบของทางสวนสนุกขัดข้องเล็กน้อย เราจะรีบดำเนินการซ่อมโดยด่วน ขอให้ท่านโปรดรออย่างใจเย็น ทางสวนสนุกขอรับรองความปลอดภัยของทุกท่าน และต้องขออภัยอย่างสุดซึ้ง กับความขัดข้อง ของทางเราในครั้งนี้”
เสียงประกาศดังขึ้น ได้ยินโดยทั่ว โชเฮถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่เมื่อเห็นไคริ ยังดูสนุกอยู่ เขาจึงนั่งยิ้ม ๆ มองหน้าเด็กชายไปเช่นนั้น จนคนถูกมองเริ่มรู้ตัว
“มีอะไรหรือครับ?”
ไคริถามอย่างสงสัย ซึ่งโชเฮ ที่เผลอมองอีกฝ่ายนานไปหน่อย ก็สะดุ้งแล้วเกาแก้ม ยิ้มเก้อ ๆ
“คือไม่มีอะไรมากหรอก ฉันก็แค่เห็นว่าเวลาเธอยิ้มแบบเด็ก ๆ แบบนั้น มันดูน่ารัก และเหมาะกับตัวเธอดีน่ะ”
ไคริทำเป็นมองไปทางอื่น คล้ายไม่สนใจ แต่เด็กชายก็แอบอมยิ้มกับคำชมนั้นตามลำพัง
ทั้งคู่นั่งไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางความเงียบสงบ ไม่เคลื่อนไหว ทว่า ระหว่างที่โชเฮกำลังเหม่อมองออกไปทางนอกหน้าต่าง กระเช้าก็ไหววูบนิด ๆ และเมื่อเขาหันกลับมาก็พบว่าไคริกำลังนั่งคุกเข่า อยู่ระหว่างขาของเขา
“คะ...ไคริ เดี๋ยวก่อน จะทำอะไรน่ะ!”
โชเฮบอกเสียงสั่น จริงอยู่ที่พวกเขาอยู่กันสองต่อสองในสถานที่ปิดมิดชิดแบบนี้ แต่ว่า มันก็ยังคงเป็นที่สาธารณะอยู่ดี แถมยังอยู่มันกลางฟ้าเสียด้วยซ้ำ
“อยากทำให้คุณโชเฮนี่ครับ ... ตอบแทนที่พาผมมาเที่ยวที่นี่”
สีหน้าและแววตาอ้อน ๆ ที่มองแล้วชวนใจสั่นไหว ทำเอาโชเฮกลืนน้ำลายลงคอ บอกตอบไปเสียงตะกุกตะกัก
“ไม่เป็นไร และไม่จำเป็นต้องตอบแทนแบบนี้ก็ได้ ..ดะ เดี๋ยวสิ ..”
โชเฮหลับตานิ่ง เมื่ออีกฝ่ายปลดซิบ และใช้มือและปากเล็ก ๆ กระทำในสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ต่อ โดยไม่ฟังเสียงทัดทานใด ๆ จากเขา
“อา... ไคริ” ความไร้เดียงสา และความตั้งใจที่เด็กชายปรนเปรอให้เขา ทำให้โชเฮเคลิบเคลิ้ม ไปกับรสสัมผัสดังกล่าว เขาอยากจะตอบสนองเด็กชายให้มากกว่านี้ ทว่า การขยับตัวแม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้กระเช้า
สั่นไหว จนกลายเป็นเป้าสังเกตจากผู้คนด้านล่างได้ง่าย ๆ
“ให้ตายสิ ... นี่เธอทรมานฉัน มากกว่าจะตอบแทนฉันนะ”
โชเฮครางเบา ๆ เมื่อไคริถอนริมฝีปากออกไป โดยที่เขายังไม่ได้รับการปลดปล่อย เนื่องจากเสียงประกาศจากทางผู้รับผิดชอบ ว่าขณะนี้ เครื่องได้ซ่อมเสร็จเรียบร้อย และกระเช้าเริ่มเคลื่อนที่อีกครั้ง
“แล้วฉันจะลงไปสภาพแบบนี้ได้ยังไงล่ะ”
โชเฮมองส่วนที่ยังคงแข็งตัว ไม่ได้รับการปลดปล่อยของตนอย่างกลุ้ม ๆ ไคริเห็นเช่นนั้นจึงส่งยิ้มหวานให้ พร้อมเสนอความคิด
“ถ้าอย่างนั้นก็ทำต่อสิครับ ... เสร็จเมื่อไหร่ค่อยลงแล้วกัน”
บอกแล้วเจ้าตัวก็ก้มหน้าลงไปทำกิจกรรมที่ยังค้างคาต่ออีก โดยไม่สนใจว่าคนที่นั่งอยู่จะรู้สึกยังไง แม้แต่เวลาที่ชายหนุ่ม ต้องรีบปฏิเสธพนักงานต้อนรับที่คอยเปิดปิดกระเช้า ว่าขอเล่นต่ออีกรอบ โดยต้องใช้ตัวบังกระจกสุดฤทธิ์ เพื่อไม่ให้ใครเห็นเหตุการณ์ข้างในกระเช้าก็ตาม ....
=== End ===