เด็กหนุ่มนั่งที่โต๊ะจีนหรูหราอย่างเก้ๆกังๆ ไม่รู้จะหยิบจะจับอะไรก่อนดี สุดท้ายการมาที่งานแต่งงานนี่ทั้งๆที่เขายังไม่รู้จะพูดกับคนที่อุตส่าห์พามาด้วยยังไงนั้นอาจจะเป็นความคิดที่แย่ก็ป็นได้ ผิดกับพศวัตที่คุ้นเคยกับงานแบบนี้เป็นอย่างดี เมื่อมานั่งเป็นเพื่อนสมปองได้ไม่นาน คุณหญิงคุณนายหลายๆคนก็เดินมาทักทายซึ่งเขาเองก็คุ้นเคยกับการเข้าสังคมเป็นอย่างดี แม้จะพอเข้าใจว่าสมปองคนจะอึดอัดไปบ้าง แต่ชายหนุ่มก็ถามด้วยความเป็นห่วงตลอด อาหารโต๊ะจีนที่หรูหราถูกนำมาเสิร์ฟ โดยที่ชายหนุ่มร่างสูงเป็นคนดูแลการกินของเด็กหนุ่ม
"ผม...ทำเองได้ แค่บอกว่า..ผมต้องทำยังไงก็เท่านั้น" เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมา ก็ทำให้เด็กหนุ่มยิ่งอึดอัดเข้าไปใหญ่คิ้วเรียวขมวดคิ้วแน่น สมปองถอนหายใจเฮือกๆในตอนนี้มันไม่สนุกเอาเสียเลย รอบข้างก็มีแต่คุณหญิงคุณนายไฮโซใส่เพชรใส่แหวนสะท้อนแสงวาบเข้าตา
"ก็ตามใจ อยากกินยังไงก็กิน"ท่าทางปฏิเสธหรือหลีกหนีเป็นครั้งที่เท่าไหร่ในรอบสัปดาห์ทำให้พศวัตขยับตัวออกห่างจากเด็กหนุ่มเล็กน้อย อาหารที่มีเต็มโต๊ะ เขาไม่ได้สนใจมันสักเท่าไหร่นัก สิ่างที่อีกฝ่ายเป็นมันทำให้เขากินไม่ลง พศวัตดื่มเพียงแต่เหล้าผสมจางๆที่โรงแรมจัดเอาไว้ให้กับออเดิร์ฟเล็กน้อยเท่านั้น
เด็กหนุ่มเองก็อาศัยมองที่คนอื่นกินแล้วก็กินตามจนสุดท้ายแล้วก็พลาดใช้ส้อมจิ้มลูกเกาลัดพลาดกระเด็นตกใส่กางเกงของพศวัต
"เหวอ ขอโทษฮะๆ " ไม่วายมือก็ล้วงลงไปหมายจะคว้าเกาลัดนั้นเอาไว้
"ไม่ต้องๆ เดี๋ยวพี่เก็บเอง"มือแกร่งปัดมือนั้นออก แล้วใช้กระดาษเช็ดปากหยิบเอาเกาลัดนั้นวางลงบนจานของตน
+++++++++++++++++
เมื่ออาหารถูกเสิร์ฟจนหมด พิธีกรมืออาชีพที่ถูกจ้างมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะก็เดินขึ้นมาบนเวทีเพื่อเริ่มพิธีเลี้ยงในช่วงเย็นอย่างไม่มีบกพร่อง ดีที่พศวัตเป็นคนไม่ต้องการจะมายุ่งเกี่ยวอะไรกับงานนี้ตั้งแต่แรก ไม่รับเป็นทั้งเพื่อนเจ้าบ่าว หรือเป็นคนกล่าวแสดงความยินดีอะไร เขาจึงไม่ต้องเกี่ยวข้องอะไรกับพิธีแต่งงานนี้เลย
"ผม...ไปเข้าห้องน้ำนะครับ" เด็กหนุ่มเอ่ยแล้วลุกขึ้นยืน เห็นพศวัตมองขึ้นไปบนเวทีแบบนั้นพลางนึกถึงคำพูดของทินกฤตในคืนวันนั้นทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกแปลกๆ ความจริงแล้วสองคนนี้ก็ท่าทางจะชอบกันมาก...แค่...อาจจะจัดการปัญหากันแปลกๆไปเท่านั้น แต่สมปองก็ไม่ได้รีบกลับมา เขาออกมาจากห้องน้ำได้ก็นั่งแกร่วอยู่ตรงแถวหน้างาน ทางโรงแรมมีระเบียงยื่นออกไปเห็นคุ้งน้ำ เด็กหนุ่มจึงเดินออกไปรับลม ได้ยินเสียงดนตรีแว่วมาจากห้องที่จัดงาน ตามมาด้วยเสียงปรบมือของแขกในงาน พิธีแต่งงานของทินกฤตกับเจนสุดาคงเริ่มขึ้นแล้ว
".....ชักอยากกลับบ้านแฮะ" เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ ดวงตาเหม่อมองออกไปไกล ในตอนนี้ ทั้งกตัญญูก็ไม่อยู่ที่ร้าน ทั้งอรรถนันท์เองก็มาลาออกไปแล้ว น้าที่บ้านอยู่ฝั่งธนฯ ก็งานยุ่งเสียจนไม่กล้าจะโทรไปกวน เขาไม่กล้าจะโทรไปหาใครหรือปรึกษาใคร พอคิดว่าอาจจะมีคนที่คุยด้วยได้บ้างตอนนี้ก็กลับไม่กล้าคุยด้วยเสียแล้ว สมปองถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าแต่ทนของน้อยก็ดังขึ้น เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู หมายเลขที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอนั้นไม่คุ้นเอาเสียเลย
"สวัสดีครับ"
"น้อย น้อยใช่ไหม นี่ลุงดำนะ"
"อ้าว ลุงดำ โทรมาได้ไงนี่...." เสียงจากปลายสายคือเสียงของลุงข้างบ้านของเขาเอง
"เอ้อ นี่เอ็งรีบกลับมาขอนแก่นเลยได้ไหม แม่เอ็งอ่ะ เข้าโรงพยาบาลไปแล้ว"
"หา...แม่ แม่เป็นอะไรลุง" เด็กหนุ่มอุทานลั่น
"เห็นเขาบ่นปวดท้อง ข้าก็พาไปโรงพยาบาลตั้งแต่กลางวัน ...มาดูเขาหน่อยเถอะ เนี่ย น้าเอ็งก็กำลังนั่งรถกลับมาเนี่ยข้าให้ ไอ้แดงไปรับแล้ว" น้ำเสียงของอีกฝ่ายนั้นฟังดูแล้วร้อนใจไม่ได้ต่างไปกับในใจของคนที่ฟังข่าวสารนั้นเอง
"ได้ลุง ได้ เดี๋ยวฉันจะรีบกลับไปเลยนะ แม่อยู่ที๋โรงพยาบาลที่อำเภอ ใช่ไหม...โอเค เดี๋ยวผมรีบกลับไปเลยแล้ว...แล้วผมจะโทรไปหานะ"
+++++++++++++++++
เด็กหนุ่มรีบวิ่งกลับไปเข้ายังห้องจัดเลี้ยงทันที โดยไม่ได้ใส่ใจว่ากำลังมีพิธีการบนเวทีแม้แต่น้อย
"คุณแมกซ์ฮะ...ผม.....ผม.....ผมต้องกลับบ้าน" น้ำเสียงของเด็กหนุ่มติดขัด เขานึกหาใครอื่นไม่ได้แล้วจริงๆ น้าของเขาก็กลับไปแล้ว แต่ตอนนี้กว่าจะพาตัวเองไปขึ้นรถได้ เขาต้องกลับไปเก็บของที่ร้านก่อน
"พาผมกลับร้านนะครับ...ผมต้องรีบกลับไปเก็บของ"
"เฮ้ย เดี๋ยว เกิดอะไรขึ้นๆ "ท่าทางของสมปองเหมือนตั้งสติไม่ค่อยอยู่ มือแกร่งจับข้อมือเล็กนั่นเอาไว้ ก่อนจะดึงให้เดินออกจากห้องจัดเลี้ยงทันที คุณหญิง คุณนายที่รู้จักกับคุณหญิงจิตตราคงโทรไปรายงานให้แม่เขาทราบแน่ๆ แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ
"ผมต้องกลับบ้าน ที่ขอนแก่น..." เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก ได้ยินเสียงเปียโนบนเวทีด้วยการบรรเลงของน้องชายเจ้าสาว และเสียงร้องของเจ้าบ่าวแว่วมา แต่เขาก็ไม่มีกระจิตกระใจจะชื่นชมความไพเราะนั้น
"แม่...แม่ไม่สบาย..."
"งั้น..ได้ เดี๋ยวพี่ไปส่ง กลับร้าน เก็บเสื้อผ้า แล้วไปกัน"พศวัตตอบกลับมาง่ายๆ พลางเร่งฝีเท้าไปยังที่จอดรถของโรงแรม
"ขอบคุณครับ...ขอบคุณ...." เด็กหนุ่มเอ่ยเบาๆ มือสั่นขยับไปมาด้วยเพราะเป็นกังวล
+++++++++++++++++
พอถึงร้านก็รีบจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดา แล้วจับทุกอย่างที่จับได้ใส่ลงกระเป๋าแล้วกระโดดขึ้นรถพศวัตอีกรอบ
"ไปถึงตอนนี้น่าจะยังมีรถตรงไปขอนแก่น "เด็กหนุ่มคิดว่าอีกฝ่ายจะขับพาเขาไปยังหมอชิต แต่พศวัตขับขึ้นทางด่วนไปทันทีทำเอาเด็กหนุ่มตกใจไม่น้อย
"คุณแมกซ์ฮะ จะไปไหน"
"ไปขอนแก่นไง .. บอกแล้วนี่ว่าพี่จะไปส่ง "พศวัตตอบโดยที่ไม่มองหน้าอีกฝ่าย
"แล้ว...คุณแมกซ์จะไปทั้งแบบนี้เหรอฮะ..."เด็กหนุ่มถามเพราะอีกฝ่ายยังใส่สูทเนี้ยบอยู่เลย
"ไม่เป็นไร มีกระเป๋าเสื้อผ้าไปฟิตเนสอยู่ "คนขับรถตอบกลับมา ความเร็วบนทางด่วนนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สมปองถอนหายใจยาว ก่อนจะยกมือไหว้
"ขอบคุณครับ....ขอบคุณครับ"ก่อนจะหันไปนั่ง ดวงตากลมเหม่อมองออกไปยังความมืดภายนอก แสงสีของกรุงเทพห่างออกไปทุกทีๆ และเขาหวังว่าจะเปลี่ยนเป็นความมืดมิดของทุ่งนาแถวบ้านเขาเร็วๆ
+++++++++++++++++
ดวงตาของเด็กหนุ่มเปิดขึ้นมาเห็นท้องฟ้าที่ยังไม่สาง ผิวกายสัมผัสได้ถึงลมเย็นที่พัดผ่านเข้ามาสัมผัสร่างกาย รู้สึกเย็นจนต้องขยับตนเองจากที่นั่งที่ยกขาขดตัวนั่งมาตลอดทาง หันไปเห็น ชายหนุ่มในชุดสูทเรียบร้อยที่ตอนนี้ ปลดเนคไทออกเอนกายหลับอยู่ข้างๆ ตรงที่นั่งคนขับ แสงไฟจากร้านสะดวกซื้อกลางปั้มน้ำมัน สาดส่องเข้ามาให้เห็นความอิดโรยบนใบหน้าคมของพศวัต สมปองหันหน้าซ้ายขวา ก่อนปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเปิดประตูเดินลงจากรถ ไปล้างหน้าตา โดยไม่ลืมที่จะแวะเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ เพื่อกาแฟร้อนๆแก้วหนึ่งกับน้ำเปล่าเย็นๆหนึ่งขวด
" ความจริงอยากจะซื้อลิโพให้อีกซักขวด แต่หน้าแบบนี้กินไม่เป็นแหงม..." เด็กหนุ่มพูดกับตัวเอง ก่อนจะเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับเข้าไปนั่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซักพักกลิ่นหอมของกาแฟที่แม้ไม่ใช่ของที่ร้าน แต่มันก็คงจะทำหน้าที่คล้ายๆกันได้เอง
"เป็นเด็กเป็นเล็ก กินกาแฟแล้วเหรอ? "พศวัตเหลือบมองแก้วกาแฟร้อนในมือของเด็กหนุ่มในชุดสูท หลังจากที่เขากลับมาจากการเข้าห้องน้ำและยืดเส้นยืดสาย
"อ้าว..ตื่นแล้วเหรอครับ" เด็กหนุ่มตกใจ เขาตั้งใจว่าจะไม่กวนให้อีกฝ่ายตื่น แต่กลับกลายเป็นตรงกันข้ามไปเสียได้
"ผมคงทำเสียงดังจนคุณแมกซ์ตื่น"
"ไม่เป็นไร .. เดี๋ยวคงถึงโรงพยาบาล ตอนเช้าๆ เขาให้เยี่ยมกี่โมงนะ? "ดวงตาคู่คมมองนาฬิกาที่คอนโซลรถของตน
"ก็คงเก้าโมง...มั้งครับ..." เด็กหนุ่มตอบเสียงเบา
" แต่ผมว่า ไปหาที่พักให้คุณแมกซ์ก่อนจะดีกว่า...ใกล้ถึงแล้วอีกไม่กี่กิโล " พูดไปแบบนั้น สมปองก็ยกมือไหว้ชายหนุ่มตรงหน้าอีกรอบ
"ขอโทษนะฮะ ที่ทำให้คุณแมกซ์ต้องลำบากขนาดนี้...ผม.....ผม.....ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ"
"ไม่เป็นไร"ชายหนุ่มพูดแบบนี้อีกไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ แต่ความห่างเหินในน้ำเสียงมันกลับชัดเจน
+++++++++++++++++
พศวัตขับรถออกจากปั๊มน้ำมัน แล้วตรงไปยังตัวอำเภอที่น่าจะพอมีทีพักให้พวกเขาบ้าง โชคยังดีที่บ้านของน้อยที่ไม่ได้ไกลจากตัวเมืองขอนแก่นเท่าไรนัก ทำให้เด็กหนุ่มพูดจนอีกฝ่ายยอมเลี้ยวเข้าไปหาโรงแรมดีๆในตัวเมืองนอนพักจนได้ คีย์การ์ดของห้องที่ดีที่สุดอยู่ในมือของชายหนุ่ในชุดสูท ที่ถึงจะไม่เรียบร้อยนักและดูอิดโรย แต่ก็ยังดูดีอยู่มาก พศวัตใช้การ์ดเสียบที่หน้าประตูแล้วเปิดห้องออกกว้าง
ไม่ได้ชวน หรือ บังคับให้เด็กหนุ่มตามเข้ามาเพียงแต่เปิดไว้แบบนั้นแล้วดึงการ์ดออกเสียบกับช่องที่ผนังด้านในเพื่อเปิดระบบไฟฟ้าเสียงเครื่องปรับอากาศดังขึ้นทันที
"งั้น...ผมลงไปรอข้างล่างนะครับ..." เด็กหนุ่มส่งเสียงจากหน้าประตู เมื่ออีกฝ่ายไม่เรียก หรือ ดึงเข้าไป เขาก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เด็กหนุ่มมองตามแผ่นหลังกว้างนั้น รู้สึกเจ็บแปลบอยู่ในอก เขารู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างแปลกไป แต่เขาไม่แน่ใจ ว่ามันเป็นเรื่องอะไร เพราะในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขา มันได้ผ่านเข้ามาเหมือนพายุที่พัดผ่าน ยุ่งเหยิง สับสน วุ่นวาย และเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก
...เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้อยากกลับบ้าน แต่ไม่ใช่ในรูปแบบเช่นนี้ ไม่ใช่ การที่ได้รับโทรศศัพท์จากน้า ที่โทรมาบอกว่าแม่เพียงคนเดียวของเขา ....กำลังทรุดหนักแบบนี้
"เข้ามาล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำก็ได้ ถ้าอยาก แต่ถ้าไม่ก็ไม่เป็นไร"พศวัตพูดขึ้นมาลอยๆ ขณะที่ถอดสูทออกพาดกับเก้าอี้แล้วนอนลงกับเตียงขนาดใหญ่
"...ก็ถ้าคุณแมกซ์จะไม่ว่าอะไร ....." เด็กหนุ่มอึกอัก
"ขอผมเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าซักแป๊บนึง...นะครับ" เด็กหนุ่มว่าพลางเดินก้มหน้าเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว เสียงน้ำเปิด เด็กหนุ่มเข้าไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว กลิ่นน้ำหอมที่อีกฝ่ายฉีดใส่มาให้นั้นจางลงไปมาก และมันคงจะยิ่งจางลงไปอีกเมื่ออาบน้ำเสร็จและแทนที่ด้วยกลิ่นสบู่ไร้ราคาค่างวดในของโรงแรม เด็กหนุ่มเช็ดตัวลวกๆ ด้วยผ้าขนหนูของโรงแรมก่อนจะพับผ้าขนหนูที่ใช้แล้วไว้ที่มุมหนึ่งของห้องน้ำเพราะป้ายในห้องน้ำบอกให้กองเอาไว้อะไรประมาณนั้น แต่สมปองก็ยังบรรจงพับมันอยู่ดี เด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ผมยังไม่แห้งดี แต่เดี๋ยวก็คงต้องออกไปข้างนอกแล้ว เด็กหนุ่มคิดว่าจะปล่อยให้มันแห้งไปเอง แต่เมื่อสมปองออกจากห้องมาก็ต้องพบว่า พศวัตหลับสนิทอยู่เตียงไปเสียแล้ว
"เสร็จแล้วฮะ...." เด็กหนุ่มเดินออกมา สวมเพียงกางเกงสแลคที่ใส่มากับเสื้อกล้าม มือถือเสื้อเชิ๊ตกับเสื้อสูทเอาไว้ กลัวว่าจะยับไปมากกว่านี้ แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหลับสนิท จึงเดินไปขอผึ่งเสื้อแขวนไว้กับเก้าอี้ก่อนจะนั่งลงพื้นหน้าเก้าอี้ ตรงมุมห้องนั้นเอง ดวงตากลมมองไปยังร่างสูงที่เหยียดกายยาวบนเตียงกว้าง ก่อนจะดึงสองขาเข้าชิดอกตัวเองกอดเข่าเอาไว้แบบนั้น
...ผมไม่รู้จริงๆ...ว่าที่ผมรู้สึกเจ็บแบบนี้ มันเป็นเพราะ ผม.......ชอบคุณจริงๆ หรือ มันเป็นแค่ความรู้สึกที่คุณ...ช่วยปั้นให้มันเกิดขึ้นมา...
...ถ้ามันไม่จริงตั้งแต่แรก ผมก็ไม่ควรจะรู้สึกเสียใจกับทุกเรื่องแบบนี้ใช่ไหม....
....ทั้งๆที่อยากจะให้คุณยิ้มให้ผมเหมือนเดิมอีก....แต่ก็เป็นผมเองที่ยิ้มให้คุณไม่ได้อีกแล้ว....
...ผมควรจะทำยังไงดี.... ดวงตากลมร้อนผ่าวเหมือนน้ำตาจะไหล แต่สมปองรีบก้มหน้าลง กดใบหน้าลงกับท่อนแขนเสียงจนรู้สึกเจ็บ แต่ก็คงไม่เจ็บเท่ากับภายในใจของตัวเอง ณ ตอนนี้
+++++++++++++++++
talk : เอามาม่าน้ำ(ตา)ใสๆ(ของเจ้าน้อย)ไปทานกันก่อนนะคะ โฮะๆๆ

ตอนนี้ไรเตอร์กำลังกรี๊ด
คุณอินทัช (โฆษณากันหน้าด้านๆ)ยิ่งดู ปฐพีเล่ห์รัก ไม่เป็นอัทำอะไรค่ะ ขอตัวไปดูละครก่อนนะคะ!
