เด็กหนุ่มจากเชียงใหม่ในลุคแบบนักร้องเกาหลีคนดังยังคงไปทำงานตามปกติ วันนี้เป็นวันเสาร์แล้ว คนยิ่งเยอะ พลังงานยิ่งถดถอย แต่ก็ยังหิ้วปิ่นโตมาเก็บไว้ที่หลังแคชเชียร์จนได้
" หวัดดีครับ พี่แมน " เดินเข้าครัวไปพลางยกมือไหว้เชฟคนเก่งของร้าน หลังจากที่ผูกผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลตัดกับเสื้อเชิ๊ตสีดำ ยิ่งทำให้ผิวขาวและผมสีน้ำตาลทองของเด็กหนุ่มดูเด่นขึ้นอีก
"ดีๆ แจจิ้บ วันนี้ ก็ยังเกาหลีไม่เปลี่ยนนะ....ฮ่ะๆๆ คิดได้ไงวะไปตัดทรงนี้" ถึงเฮียแมนจะเป็นคนไม่ตามแฟชั่นมากนัก แต่ก็พอจะดูรู้ว่าผมทรงไหนเหมาะ ไม่เหมาะกับใคร... นิสัยอย่าง "ไอ้จิ้บ" ไม่ได้เหมาะกับการเป็น "แจจิ้บ" เลยแม้แต่น้อย
"โหย เฮีย ไปว่าพี่เขา เดี๋ยวก็เสียเซลฟ์หมดหรอก อุตส่าห์กล้าไปตัด" เจ้าน้อยเดินถือถาดใส่แก้วน้ำมาจัดวางไว้ ตรงชั้นหลังเคาท์เตอร์
" พอเลย ข้าคิดสั้นเองโว้ย .. แม่งตามใจช่างอะดิ ออกมาเป็นทรงนี้ เดี๋ยวเงินเดือนออกก่อนเถอะ .. พี่แมน เตรียมเรียกผมว่า สกอลฟิลล์ได้เลย " ด้วยว่าถูกล้อทรงผมไม่เว้นแต่ละวัน จิ้บจึงตัดสินใจจะไว้ทรงสกินเฮดให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ด้วยการประกาศกร้าวกับลูกมือของเชฟ และเชฟใหญ่ของร้าน
"โอ้ย สกอฟิลด์....แหกคอกเถอะพี่ เฮียกลัวจะกลายเป็นกาฟิลด์อ่ะดิ่ไม่ว่า.... ระวังเถอะ ลูกค้า จะตามกลับไปถึงหอ....จริงไหม เจ้าน้อย" เจ้าน้อยไม่ตอบพยักหน้าหงึกหงัก กลั้นหัวเราะเต็มที่ รู้ตัวว่าอยู่ใกล้มือจิ้บมากกว่า ขืนหัวเราะออกไป โดนจิ้บเขกกะโหลกตายก่อน
"เอ้อ พี่จิ้บ....ไอ้ปิ่นโตนี่เอาไง วางไว้นี่เหรอ ให้เอาไปเก็บข้างหลังไหม จะเกะกะเปล่าๆ ตอนพี่มาชงกาแฟ" น้อยว่าพลางหยิบปิ่นโตขึ้นมา
"อ้าว กินหมดจริงด้วยเว้ยเฮ้ย อร่อยป่ะ แขกคนไหนบอกด้วยนะ ว่างๆจะฝากผูกปิ่นโตมาให้เฮียซักเถา ร้อนว่ะ ขี้เกียจออกไปหาอะไรกิน....ในนี้ก็มีแต่จะทำขนมกะอะไรก็ไม่รู้ ไม่หนักท้องเล้ยยย"
"โห นี่ขนาดไม่หนักยังขนาดนี้ พี่จิ้บคิดดูเวลา หนักจะขนาดไหน" พูดจบก็โดนพ่อครัวคว้ากระทะมายื่นมาเคาะกะโหลกให้เสียที เจ้าน้อยถึงยอมสงบปาก
" ฝากไว้แถวนี้แหละ เผื่อเจ้าของมา จะได้ไม่ต้องหา "จิ้บชี้ไปที่ปิ่นโตก่อนจะเห็นลูกค้ารายแรกของร้านเข้ามา มือเรียวหยิบเมนูแล้วเดินไปทำหน้าที่ทันที พร้อมรอยยิ้ม
แต่สุดท้าย ปิ่นโตเถานั้นก็ยังอยู่ที่เดิม
+++++++++++++++
และเวลาผ่านไปอีกสามวัน ปิ่นโตเถานั้นก็ยังตั้งอยู่ที่เดิม ไม่มีวี่แวว ของลูกค้าขาประจำที่อยู่ๆ ก็ เอาปิ่นโตมายื่นให้จะกลับมาเอาตามที่เคยบอกเอาไว้
"เฮ้ย จิ้บ"
" อะไร พี่? " เด็กหนุ่มหันมาตามเสียงเรียกหลังจากที่เสิร์ฟลาเต้ร้อนให้ลูกค้าเสร็จ
"ไอ้ปิ่นโตเนี่ย ใครเอามาให้วะ ไม่เห็นมาเอา" เฮียแมนถามพลาง เช็ดโต้ะสแตนเลสที่ใช้เตรียม ส่วนประกอบไปพลาง ยังไม่มีออเดอร์ใหม่เข้ามาก็จะ ทำความสะอาดพื้นที่ไปพลางๆ
" อ้อ.. "
หลังจากที่เอาไปวางไว้ที่แคชเชียร์ จิ้บก็มองหาลูกค้าคนนั้นอยู่ทั้งวัน แต่ในเมื่อเจ้าตัวไม่ได้มาเอา เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก ไหนจะต้องเริ่มอ่านหนังสือสอบกลางภาค เลยทำให้ไม่ได้ใช้อินเตอร์เนตด้วย เขาจึงแทบจะลืมเรื่องปิ่นโตไปเสียสนิท
" รอลูกค้ามาเอาไง .. เขา ลืมไว้..มั๊ง "จิบว่า พลางเดินไปจัดหนังสืออ่านเล่นยังบริเวณที่นั่งแบบโซฟาของร้าน
... คงลืม เหมือนเรานั่นแหละ ลืมไปเลยแฮะ ...
"คนที่เอามาให้นี่ ลูกค้าประจำไม่ใช่เหรอพี่...เหมือนพี่เคยบอก" เสียงเจ้าน้อยถามต่อ เดินออกจากด้านในมาช่วยทำความสะอาดโต๊ะด้านนอก
" ก็ใช่..แต่เขาคงลืมไปแล้วว่าต้องมาเอาคืนมั่ง ช่างเถอะ เดี๋ยวมาก็ค่อยคืน ปล่อยไว้อย่างนั้นไม่ได้รึไงวะ? " หนุ่มรุ่นพี่ พนักงานเสิร์ฟด้วยกัน หันมาบอกประโยคหลัง พาลหน่อยๆ
"โกรธไรผมเนี่ย.... ก็เห็นว่ามันอยู่ตรงนั้นทั้งวันอ่ะ.... เกะกะ...ไม่งั้นจะได้เอาไปเก็บหลังร้าน" เจ้าน้อยว่า
" ฝากไว้แถวนี้แหละ เผื่อเจ้าของมา จะได้ไม่ต้องหา "จิ้บชี้ไปที่ปิ่นโตก่อนจะเห็นลูกค้ารายแรกของร้านเข้ามา มือเรียวหยิบเมนูแล้วเดินไปทำหน้าที่ทันที พร้อมรอยยิ้ม
"เออ ที่ว่าแขกประจำนั่น ใช่คนที่ตัวสูงๆ ขอบมานั่ง โต๊ะข้างในนั่นรึเปล่า "
" เออ คนนั้นแหละ .. "มือเรียวจัดหนังสือบนชั้นเสร็จแล้วหันมาจัดการแจกันดอกไม้บนโต๊ะบ้าง ดอกเดซี่สีขาวบางดอกก็เริ่มเหี่ยวเฉาแล้ว จึงดึงมันออกมาแล้วเอาไปทิ้งถังขยะ
"อ๋อ...ก็ทำไมไม่เอาไปคืนล่ะ "เฮียแมนที่ฟังอยู่ก็ ร้องอ๋อขึ้นมาทันที
"นั่นดิ พี่จิ้บ....ไม่เอาไปคืนล่ะ" เจ้าน้อยเองก็หันไปเออออกะเฮียแมนทันที
แต่แทนที่จะตอบคำถามนั้น จิ้บกลับเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉย
" เอ้อ .. พี่แมน ช่วงนี้ผมใกล้สอบแล้วนะ "
"เฮ้ย อย่างเปลี่ยนเรื่องดิ่ พูดจริงนะนี่ วันนี้ เลิกงานแกรีบหิ้วไอ้ปิ่นโตนี่ไปคืนเลย " เฮียแมนชี้นิ้วสั่ง
ก่อนจะเดินหนีเสียงที่อาจจะเถียงเข้าไปด้านใน
" ไม่ช่ายยยย ... พี่อะ พี่รู้รึไงว่าลูกค้าคนนี้อยู่ไหน ผมจะเอาไปส่งได้ไงเล่าา " เป็นอย่างนั้นจริงๆ จิ้บรีบเดินตามพ่อครัวตัวโตเข้าไปในครัว
" ถ้าเขามาอีกที แล้วผมไปสอบ พี่ก็ให้เจ้าน้อยหรือใครก็ได้เอาไปคืนให้ที ก็แค่นั้นแหละ "
"ก็ทำไมจะไม่รู้ ตัวสูงๆ นั่งโต๊ะด้านใน ชอบเอาสมุดเอากระดาษอะไรไปวาดรูปใช่ป่ะ... คุณก้องไง...บ้านอยู่ในซอยเนี่ย เปิดแกลลอรี่อยู่อ่ะ"
มือใหญ่ของเฮียแมนชี้เข้าไปด้านในบอกทิศทาง
" ไม่เอา " เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนๆส่ายหน้าไปมา
" ตามนั้นแหละ ถ้าเขามาค่อยคืน " พูดจบก็เดินออกจากครัวไปดูแลลูกค้าด้านนอก
"เอ้อ...แปลกคน อยากคืน ไม่ใช่รึไง" เจ้าน้อยบ่นพึมพำ ก่อนจะเดินเข้าไปหลังร้าน
++++++++++++++++++++
จิ้บกลับไปเปิดเวปบอร์ดกระทู้ที่ตนเองถามความเห็น แล้วก็ต้องตกใจกับข้อความตอบกลับมาที่ดูเหมือนจะมากขึ้น หลายๆคนเชียร์ซะเหลือเกินให้เขา "จีบพี่ปิ่นโต" เสียที เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนจะพิมพ์กลับไปถามด้วยความกลุ้ม
สวัสดีครับทุกคน
ขอโทษที่หายไปหลายวันนะครับ พอดีที่ร้านยุ่งๆ ผมเองก็ใกล้สอบมิดเทอมแล้วน่ะครับ
โห..ตกใจมาก ไม่นึกว่าจะมีคนเชียร์ผมเยอะแยะขนาดนี้ ตกใจมากจริงๆ
ก่อนอื่น ตอนนี้ .. ปิ่นโตนั่นยังอยู่ที่ร้าน เพราะเจ้าของเขายังไม่มาเอาน่ะครับ คือ เขาไม่ได้แวะมาที่ร้านเลย ตั้งแต่วันนั้น
และผมเองก็ยุ่งมากจนลืมๆไป
แต่วันนี้ได้ข้อมูลใหม่จากพี่ที่ร้านน่ะครับ เขาคงรำคาญมั๊ง มันคงเกะกะร้านไปหน่อย เลยใช้ผมให้เอาไปคืน เจ้าของเขาซะที่บ้าน แถมบอกข้อมูลมาซะเสร็จสรรพ
(รู้จักก็ไม่บอกอีกนะ)
สรุปแล้วผมต้องเอาไปคืนเขาจริงๆเหรอครับ ทั้งๆที่เขาต้องมาเอาไม่ใช่เหรอ มันไม่แปลกๆเหรอครับที่ไปหาเขาถึงบ้านน่ะ .. คงไม่สะดวกหรอกมั๊งครับ
ผมควรทำยังไงดีครับ (แต่ผมไม่อยากเอาไปให้เขาหรอก เขาน่าจะมาเอาที่ร้านนะครับ ผมว่า )พิมพ์เสร็จก็ลุกไปอาบน้ำแล้วอ่านหนังสือ มีเพียงเสียงเพลงmp3ที่ดังจากโน๊ตบุคอยู่ในห้องพักที่พักเพียงลำพัง
กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ถึงจิ้บจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐไม่ได้เหมือนกับเอก แต่เรื่องความขยันและตั้งใจเรียนก็ไม่แพ้กัน พอได้อ่านหนังสือ เด็กหนุ่มก็ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าเสมอ และเมื่อหมดเวลาที่ตั้งไว้เขาก็พร้อมที่จะทำอย่างอื่น เช่นการเช็คกระทู้ก่อนนอน
มันมีข้อความตอบกลับมาแล้ว หลายข้อความเสียด้วย
pinkskull :
"ถ้าไม่ลำบากนักก็เอาไปคืนเลยไม่ดีกว่าเหรอ?"
y_A_o_I_FC :
"ไปเลยๆๆๆๆๆๆ บุกขึ้นห้อง เอ้ย บุกถึงหน้าบ้าน ได้ผลแล้ว รายงานด้วยยยยยย"
tempura432:
" คุณพี่ที่ร้านนี่ก็ใช่ไม่ได้เลย ทำไมไม่บอกแต่แรก จะได้ตามไปถึงบ้าน"
RADIO_SURF:
"เดลิเวรี่ เลยซิ่ครับ" ....นี่ยุให้จีบจริงจังเลยนะเนี่ย....
เด็กหนุ่มถอนหายใจ ก่อนจะปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วไปนอน
..เอาเถอะ แค่เอาคืนก็แล้วกัน...
"สรุปจะเอาไปคืนแล้วใช่ป่ะ" เห็นท่าทาง จิ้บ จดๆจ้องๆ กับปิ่นโตเจ้าปัญหา อยู่นาน เฮียแมนจึงเอ่ยถาม เพิ่งจะวางสายจากเจ้าของร้านเมื่อครู่ โทรมาก็สั่งนั่นโน่นนี่ แต่ไม่เคยเข้าร้าน พอถามว่าอยู่ไหน ก็ได้ยินแต่ว่า ไปเที่ยวๆ....อดสงสัยไม่ได้ว่า รายได้ที่ร้านมันดีขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร ทั้งๆที่ ตอนกลางวัน หลังเที่ยงไป ก็ ออกจะโล่งจนต้องปิดครัวแบบนี้ทุกที
" สอบเสร็จแล้วจะเอาไปคืน .. พี่ไม่ต้องสนใจมันหรอก "จิ้บตัดบทแล้วหามุมนั่งอ่านช๊อตโน๊ตวิชากฎหมายของตัวเอง
+++++++++++++++
จากวันนั้น เกือบเดือนเลยทีเดียวกว่าที่จิ้บจะสอบมิดเทอมเสร็จ และเขาก็ตัดสินใจจะเอาปิ่นโตเปล่าๆที่ล้างและเช็ดมาหลายรอบไปคืนเจ้าของที่แกลอรี่ในซอย ด้วยการเดินหา ทั้งๆที่ใส่ชุดนักศึกษา ตามที่เฮียแมนบอกมา จิ้บก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าในซอยแบบนี้ จะมีแกลลอรี่โชว์ผลงานศิลปะมาซ่อนอยู่ได้อย่างไร
ทั้งๆที่ บริเวณนี้ก็รายล้อมไปด้วย อาคาร สูงของบริษัทหางร้าน ไม่ ของที่ขายส่วนใหญ่ก็จะทำมาเอาใจพนักงาน ส่วนใหญ่ก็เป็นแผงลอย ที่ตั้งร่มกันสลอน พอเข้าซอยมาก็จะมีร้านอาหารขายอยู่สองข้างทาง
สองเท้าเดินไปพร้อมความสงสัยจนกระทั่งเห็น แผ่นป้ายเล็กๆที่ติดไว้กับเสาไฟฟ้า ชี้ลูกศรเข้าไปด้านใน พร้อมด้วยชื่อสถานที่ ที่พิมพ์ด้วยตัวอักษรเก๋ไก๋
"Kong's Arts& +Gallery"
เดินเลี้ยวเข้าตรอกเล็กๆ เข้ามาก็เห็นเป็นประตูบ้านที่เปิดกว้างอยู่ที่ท้ายตรอก มีป้ายเขียน ด้วยตัวอักษรอย่างเดียวกัน ตั้งเด่นอยู่ด้านหน้า มีน้ำพุเล็กๆ ตั้งอยู่ด้านหลัง ล้อมรอบด้วย ต้นไม้ที่ออกดอกสีแดงสด
ด้านในเป็น บ้านดีไซน์สวย หน้าต่างประตูเป็นกระจก ดูโปร่ง ผ้าม่านสีอ่อน เปิดให้เห็นงานศิลปะที่จัดแสดง ทุกอย่างดูกลมกลืนไปกับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านหลังบ้านและเขียวชะอุ่มไปด้วยไม้ประดับขนาดเล็กที่ปลูกล้อมอยู่โดยรอบ ไม่น่าเชื่อว่าจะมี แกลลอรี่ งานศิลปะหลบซ่อนอยู่ใจกลางกรุง ขนาดของพื้นที่อดที่จะทำให้คิดถึงราคาของมันไม่ได้
" โห..อย่างรวย.. "
เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาที่ตอนนี้จัดการทรงผมตัวเองใหม่ เป็นทรงที่เข้าท่ามากขึ้น และสีผมก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลที่เข้มขึ้น เข้ากับชุดนักศึกษาที่สวมอยู่ สะพายเป้สีแดง ดูสะดุดตา ยิ่งถือปิ่นโตมาด้วยแล้ว ในตอนนี้จิ้บจึงไม่เหมือนพนักงานเสิร์ฟร้านกาแฟเท่าไหร่เลย
แต่ยังไม่ทันที่ผู้มาเยือนจะได้กดออด เสียงกริ่งแปลกหูก็ดังขึ้น
"โฮ่งๆๆๆๆ " เสียงสุนัขเห่าดังลั่นแต่มองไม่เห็นตัว
"เห่าอะไรเจ้าเคน... ลูกค้า มานะ เห่าทำไม " เสียงโหวกเหวกดังแข่งกับเจ้า "เจ้าเคน" ที่เห่าดังมาจากหลังบ้าน ร่างสูงโปร่งของเจ้าของแกลลอรี่ปรากฏขึ้นที่หน้าประตูกระจก
"เชิญครับเชิญเลย" น้ำเสียงเอ่ยอย่างเป็นมิตร พร้อมมือแกร่งที่ผายออก
" เอ่อ.. " เสียงของเจ้าของปิ่นโต ไม่ผิดแน่ ทำให้จิ้บหันไปตามเสียงและนั่น...
คุณก้อง ตามที่เฮียแมนเรียก เดินมาพร้อมใบหน้าคมคายที่เปื้อนรอยยิ้มอ่อนโยน เดินมาพร้อมกับผ้ากันเปื้อนหนังที่มีรอยเปื้อนแห้งกรังติดอยู่ มือทั้งสองข้างยังถือผ้าขนหนูที่คงจะเพิ่งคว้ามา
ทั้งเสื้อเชิ๊ตสีฟ้าอ่อนที่สวมใส่นั้นพับแขนขึ้นเท่ากับข้อศอก กับกางเกงยีนส์สีเข้มนั้นมีรอยเปื้อนสีเดียวกับที่ติดอยู่บนผ้ากันเปื้อนหนังติดกรังอยู่เช่นกัน
"ขอโทษนะครับ พอดี เจ้าเคนคงดีใจ มีคนมา"ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะมองหน้าของอีกฝ่าย
"อ้าว เรานี่เอง นึกว่าใคร มาดูของเหรอ เข้ามาดูข้างในซิ่"
" อ้อ เปล่าครับ .. ผมแค่เอานี่มา "จิ้บส่ายหน้าไปมาเป็นการปฏิเสธแล้วยื่นปิ่นโตให้อีกฝ่ายทันที
" คุณก้องคงลืมไว้ ผมเลยเอามาคืนน่ะครับ "จิ้บเรียกชื่อตามที่เขาได้ยินมาจากเชฟคนเก่งของร้าน คำพูดของอีกฝ่าย ทำให้เจ้าของชื่อขมวดคิ้ว ก่อนจะจ้องปิ่นโตสลับกับหน้าของเด็กหนุ่มไปมา
"อ้อๆๆๆๆ จำได้ๆ .... เอ้อ ขอโทษทีนะ พี่ก็ลืมไปเลย มัวแต่ทำงาน ไม่ได้ที่ร้านเลย อ้อๆๆ จำได้แล้ว ขอบใจๆ" มือแกร่งยื่นไปรับปิ่นโตมา
ริมฝีปากฉีกรอยยิ้มกว้างอย่างยินดี เจ้าของปิ่นโต ก้มลงมองปิ่นโตในมือเล็กน้อย
"เอ้อ...ว่าแต่ อร่อยไหม"
" เอ่อ..ครับ ขอบคุณครับ " รอยยิ้มของ"คุณก้อง"ที่น่าจะเป็นคนดัง ทำให้จิ้บเริ่มหายใจติดขัด จึงไม่สมควรที่จะมาอยู่ต่อในเวลาแบบนี้
" งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ คุณก้องคงกำลังทำงาน "
"จะกลับแล้วเหรอ... เจ้าของร้านจะว่าเอา?"
" เปล่าครับ วันนี้ผมไปสอบ .. ไม่ต้องทำงาน แต่คุณกำลังทำงานอยู่นี่ครับ " เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มแบบเด็กมหาวิทยาลัยมองไปที่ผ้ากันเปื้อนของอีกฝ่าย
"อ้าว เหรอ วันนี้ไปสอบมาเหรอ ต้องอ่านหนังสือหนักแน่เลย ... เอาเถอะ พี่ไม่กวนหรอก สอบเสร็จก็ต้องอยากนอนใช่ไหม" ว่าพลางก็หัวเราะด้วยเสียงต่ำๆอยู่คนเดียว
" ไม่หรอกครับ.. " จิ้บส่ายหน้าไปมาพลางยิ้มให้ ใบหน้าคมคายยามที่ยิ้มและหัวเราะอย่างเปิดเผยนั้น เจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์ เขาไม่เคยเห็นชายหนุ่มในอารมณ์นี้มาก่อน
...ก็นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ตลอด จะเห็นดวงอาทิตย์ได้ยังไงล่ะ..
" แต่ไม่รบกวนดีกว่า .. สวัสดีครับ " มือเรียวทั้งสองข้างยกขึ้นไหว้ชายหนุ่มเจ้าของบ้านได้อย่างสนิทใจ คะเนจากอายุคงห่างจากเขาเกือบสิบปีได้
"ไม่เป็นไร... เอ้อนี่... " ก้องภพเอ่ยเรียกเด็กหนุ่มเอาไว้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้เดินไปไหน
"ชื่ออะไรนะเรา..."
" ครับ?..เอ้อ..เรียก จิ้บ ก็ได้ครับ "เด็กหนุ่มหันไปตามเสียงเรียก เขาตอบคำถามนั้นก่อนจะโค้งให้น้อยๆแล้วเดินกลับไปยังทางเดิม
"เอ้อ จิ้บ......" เสียงตะโกนเรียกดังมาจากทางด้านหลัง พร้อมมือแกร่งที่โบกไปมา
"โทษทีนะที่คราวก่อนพี่ทำแก้วแตก"
คุณก้อง ตะโกนไล่หลังไป เด็กหนุ่มที่พยักหน้ารับคำดูมีท่าทีงงๆ แต่เขาก็โบกมือเป็นเชิงให้อีกฝ่ายเดินต่อไป
คำพูดของอีกฝ่ายทำให้เด็กหนุ่มอดที่จะหัวเราะไม่ได้ เมื่อนึกถึงตอนนั้น และเขาเองนั่นแหละที่เป็นคนคิดเงิน แต่อีกฝ่ายคงไม่ได้สนใจว่าทำไม วันนั้นกาแฟถึงได้แพงนัก
" ไม่เป็นไรครับ .. คุณจ่ายค่าเสียหายแล้วนี่ครับ " จิ้บหันมาบอก โดยที่ใบหน้าสวยนั้นยังคงระบายยิ้ม ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปทางเดิม
รอยยิ้มของเด็กหนุ่ม ทำให้ คุณก้องยิ้มตาม น่าแปลกที่รอยยิ้มนั้นให้รู้สึกดี ชายหนุ่มมองดูเถาปิ่นโตในมือ
"คิดว่าไม่พอ เลยส่งเจ้านี่ไปขอโทษไง...."