หลังจากที่ลูกค้าช่วงบ่ายของร้านกลับไปแล้ว เด็กหนุ่มผู้เรียนมหาวิทยาลัยในคณะนิติศาสตร์ภาคพิเศษต้องมานั่งหน้ามุ่ยไม่สบอารมณ์ อยู่ที่หลังร้าน เขานั่งคิดหาทางออกของเรื่องนี้อยู่นาน
" โอ๊ย ทนไม่ไหวแล้วโว้ย " ว่าพลางลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัว
" พี่แมน! "
"อะรายยยย" เสียงเฮียแมนดังยานคางอยู่ในครัว กำลังเคี้ยวข้าวหมุบหมับวันนี้ไม่ต้อง ออกไปไหน เพราะซื้อเตรียมไว้ ตั้งแต่เช้า เจ้าน้อยเองก็นั่งเปิบข้าวเหนียวอยู่ข้างๆ
"ซักหน่อยบ่อ้าย...." เจ้าน้อยว่าพลางยัดข้าวเหนียวปั้นโตเข้าปาก
" จิ้บยืมโน๊ตบุคพี่หน่อยดิ "เด็กหนุ่มจากเชียงใหม่เดินมาขอยืมของที่เขาไม่เคยยืม ท่าทางกระวนกระวายใจ
"เป็นอะไร มีเรื่องด่วนเรอะ" เชฟคนเก่งถาม แต่ก็ไม่ต้องการคำตอบ ชี้มือที่เคาท์เตอร์ใต้เครื่องคิดเงิน "อยู่ในนั้นน่ะ จะใช้ก็ไปเอาไป "
" ขอบคุณคร้าบ " เจ้าของผมสีน้ำตาลยิ้มร่าแล้วเดินไปหยิบโน๊ตบุคมาเปิดที่มุมติดกระจกของร้าน โชคดีจริงๆที่วันนี้ไม่มีใครมาเห็นว่าพนักงานเสิร์ฟของร้านกำลังทำเหมือนเป็นลูกค้า ไม่อย่างนั้นคงไม่ดีเท่าไหร่
ไม่รอช้า หลังจากที่เปิดเครื่อง และต่อสัญญาณไวเลสได้ เขาก็รีบเข้าเวปบอร์ดที่นานๆจะเข้ามาปรึกษาเสียที ดวงตาคู่สวยมองหากระทู้ของตนแล้วกดเข้าไป ... ด้วยว่าเขาไม่ค่อยได้มาเล่าอะไรเท่าไหร่นัก จึงทำทำให้กระทู้ตกอีกแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เมื่อเขาต้องการที่ปรึกษาจริงๆ
สวัสดีครับทุกคน
ผมมีเรื่องด่วนครับ!!!!!
ทำไงดีครับ พี่ปิ่นโต(ของทุกคน)กลายเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ยิ่งร้ายกว่านั้นเขาเป็นอาจารย์พิเศษที่สอนวิชาที่ไม่ต้องเช็คชื่อ
เพราะงั้น ... ผมก็เลย ไม่เคยไปเรียนเลยน่ะสิครับ ....จากนั้นเด็กหนุ่มก็เริ่มพิมพ์ข้อความยาวเหยียด และสุดท้าย
เห็นไหมล่ะครับ พี่ปิ่นโตที่แสนดีของทุกคน เขาข่มขู่ผมให้ไปทัศนศึกษา แถมยิ่งไปกว่านั้น พี่เขาจะเป็นอาจารย์พิเศษบรรยายที่โน่นด้วย ทำไงดีล่ะครับ ผมควรไปไหมเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย???y_A_o_I_FC :
.......ถามแบบนั้นได้ยังไงคะน้องหิว งานนี้ มีเดทชัดๆ เดี๋ยวพี่ปิ่นโตได้หิ้วปิ่นโตไปแน่เลย ฮ่ะๆ ไปเล้ย..........
tempura432:
....โห พี่ปิ่นโต เห็นใจดีมาของมาให้ตอนแรก แค่อ่อยเหยื่อใช่ม้า.....น้องหิวข้าวระวังตัวนะครับ....
RADIO_SURF:
.....งานเข้าแล้วววววว.....
gayIsha :
ไปเถอะครับ ถ้าไปแล้วได้คะแนนก็ควรไปครับ ผมว่าตอนที่ไปดูงานยังไงคุณปิ่นโตที่เป็นอาจารย์คงไม่ทำอะไรลูกศิษย์หรอกครับ .. เอาใจช่วยคุณหิวนะครับ..
pinkskull :
....เห็นด้วยกะพี่ข้างบนมาก....เขาเป็นอาจารย์ คงไม่ทำอะไรมั้งคะ เพื่อคะแนน ก็เพื่อ อนาคตค่ะคุณหิว เก็ทเอนะคะ.....++++++++++++++++++
หลังจากเก็บร้านเรียบร้อย จิ้บจึงมานั่งอ่านข้อความเหล่านั้น หนึ่งในนั้นมีคุณเกยชา ที่มักจะตอบอย่างเป็นผู้ใหญ่ และช่วยให้เขาตัดสินใจได้เสมอๆ
วันนี้ก็เช่นกัน เด็กหนุ่มยิ้มกับหน้าจอตรงหน้า แล้วปิดเครื่องส่งคืนให้เชฟของร้านแล้วยกมือไหว้เพื่อร่ำลากลับไปพักผ่อนที่หอพักซึ่งอยู่ห้างจากร้านอยู่พอสมควร
จิ้บเปิดเวปไซต์ของมหาวิทยาลัยแล้วกดเข้าหน้าจอเพื่อสมัครเข้าทัศนศึกษา อุทยานประวัติศาสตร์ที่อยุธยา มือเรียวชะงักเล็กน้อยเมื่อกวาดสายตาเจอว่าใครเป็นผู้ดูแลการไปทัศนศึกษา
จะใครเสียอีกถ้าไม่ใช่อาจารย์พิเศษที่เข้ามาก่อกวนการอ่านวิชากฎหมายที่หลังร้าน ช่วงบ่ายของวันนี้
" จิ้บเอ๊ย ยังไงก็ ... ลางานมาแล้วนี่นะ... สู้ๆหน่อย "
เขาเรียกกำลังใจให้ตัวเองแล้วกดปุ่มตกลง เพื่อยืนยันการลงทะเบียนทัศนศึกษาที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้แล้ว
++++++++++++++++++
ถึงวันที่จะออกเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับของการทัศนศึกษาเพื่อไปยังอยุธยา อาจารย์ก้องภพ หรือ อาจารย์ "พี่ก้อง" ที่ใครๆแอบเรียกลับหลัง ยืนชี้ไม้ชี้มือให้ นักศึกษา รีบขึ้นรถไปเพราะใกล้ออกเดินทางแล้ว
"เอ้า ในว่างๆ ชิดในหน่อยๆ"
แม้จะร้องโหวกเหวกเสียงดัง แต่เด็กสาว และ เด็กหนุ่มอีกหลายคนก็อดจะละลายไปกับความร้อนของอากาศประกอบกับ ภาพเสื้อเชิ๊ตเข้ารูปสีฟ้าอ่อนพับแขนขึ้นมาถึงข้อศอก ปลดกระดุมคอลงมาสองเม็ดนั่นไม่ได้ รูปร่างสมส่วนดูดียิ่งขึ้นกับกางเกงแสล็คสีน้ำตาลอ่อนดูสบายตา
"อาจารย์ กระบอกตั๋วล่ะ?" เสียงหนึ่งตะโกนแซวลงมาจากรถ
"เอ้อ นั่นซิ่นะ..."อาจารย์ก้องว่า ก่อนดึงกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขย่าไปมาเป็นเสียง
"เอ้าชิดใน.....เดี๋ยวๆ รถอย่าเพิ่งออก ผู้โดยสารคนสุดท้ายมาแล้ว" ทั้งๆที่รถก็ยังไม่ได้ขยับไปไหน แต่ก้องภพกลับตะโกนเสียงดัง เมื่อเห็นเด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาวิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกล
" ขอโทษที่มาสายครับ " นักศึกษาหน้าตาที่เพื่อนร่วมชั้นไม่คุ้นเคย เพราะไม่เคยมีใครได้เจอจนถึงวันนี้วิ่งขึ้นรถมา พร้อมกับกระเป๋าเป้สีแดงใบโปรด
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลจากเมืองเหนือมองหาที่นั่งให้ตัวเอง
"เอาล่ะ ...."อาจารย์หนุ่มเอ่ย ก่อนจะนับหัวตามรายชื่อที่ลงเอาไว้ "คันที่ หนึ่ง ครบนะ" ว่าพลางใช้วิทยุติดต่อกับรถอีกคัน "สองครบนะครับ" เสียงตอบรับกลับมาเรียกรอยยิ้มบาดใจอีกครั้ง ก่อนจะหันไปบอกให้คนขับรถออกรถได้
"โอเค ทุกคน ขอต้อนรับสู่ ก้องภพทัวร์...โปรดทำตัวตามสบาย อีกซักครู่ ทุกท่านจะต้องเสิร์ฟอาหารว่างทานกันเอง บริการตัวเอง นะครับ" พูดพลางก็เดินจากหน้ารถไปยังหลังรถตรวจความเรียบร้อย และแน่นอนว่าเดินผ่านคนที่ขึ้นรถมาหลังสุดด้วย
"หรือใครอยากจะทำตัวเป็นบริกรช่วยเหลือเพื่อนๆก็เชิญนะ"
นักศึกษาหนุ่มแปลกหน้าที่อยู่ๆก็ตามมาทัศนศึกษานั่งอยู่ด้านหลังคนขับ ใกล้ๆกับที่นั่งของเจ้าของทัวร์อย่างช่วยไม่ได้ เพราะรถเต็มแล้ว จิ้บถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อๆ
"ถอนหายใจทำไมครับ.... เอ้า เอานี่ไปแจกเพื่อนแก้เบื่อ" ว่าพลางก็สางขนมถุงโตให้เอาไปแจกเพื่อนทั้งรถ
"ไหนๆก็ให้เพื่อนเขารอลงโทษเสียหนึ่งทีจะเป็นไร" ก้องภพพูดออกมาเบาๆ
" ก็ได้ครับ แล้วแต่อาจารย์จะสั่งก็แล้วกัน " จิ้บทำหน้ามุ่ยแล้วลุกขึ้นดึงถุงขนมจากมืออีกฝ่าย
"เดี๋ยว...." มือแกร่งจับมือของอีกฝ่ายเอาไว้
จิ้บหันไปมองมือที่จับมือเขาไว้สลับกับใบหน้าของอาจารย์พิเศษ แต่เป็นลูกค้าประจำที่ร้าน อย่างแปลกใจ
"ถุงนี้กับถุงนี้ ขนมคนละอย่างกันนะ แจกคนละสองถุง"
ดวงตาคมของอาจารย์หนุ่มมองตาของอีกฝ่ายก่อนจะปล่อยมือของจิ้บออก ก่อนจะขยับเข้าไปนั่งด้านในที่วางกระเป๋าเอาไว้ตั้งแต่แรก
++++++++++++++++
" แจกขนมครับ " หลังจากที่ตั้งสติอยู่พักหนึ่ง เด็กหนุ่มจึงทำหน้าที่ๆคุ้นเคยเป็นอย่างดรในการบริการ ด้วยการเดินไปแจกขนมคนอื่นๆในรถพลางยิ้มและแนะนำตัวเองไปด้วย
"โดนใช้งานเลย...เรียนคณะอะไรอ่ะ...ไม่เคยเห็นหน้า"
เสียงเพื่อนคนหนึ่งเอ่ยทักเมื่อเห็นว่า จิ้บเดินหน้ามุ่ยส่งขนมให้เพื่อนมาตั้งแต่หัวรถ
" นิติฯครับผม ..แหะๆ เรียนภาคพิเศษน่ะครับ ต้องทำงานเลยไม่ได้เข้าเรียน " รอยยิ้มปรากฏพร้อมเขี้ยวเล็กๆทำให้เป็นรอยยิ้มที่น่าประทับใจแก่ผู้พบเห็นไม่น้อย
เสียงตอบรับคำถามนั้นทำให้คนที่นั่งอยู่ด้านหน้ารถหันไปมอง คงจะคิดถูกแล้วที่ให้จิ้บเอาขนมไปแจกเพื่อน ให้ใครๆได้เห็นหน้าตาเสียบ้าง
รอยยิ้มของจิ้บดูสดใสและเป็นมิตร เหมือนกับที่มอบให้ความประทับใจกับลูกค้า ที่ร้านมาโดยตลอด ท่าทาง เหมือนกับจะเป็นน้องชายของทุกคนนั้นทำให้เขาอดที่จะรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาไม่ได้
เพียงไม่นานเด็กหนุ่มแปลกหน้าที่เริ่มจะคุ้นหน้าสำหรับคนทั้งรถก็เดินกลับมานั่งประจำที่ ... ข้างกับ อาจารย์พิเศษ ที่คุ้นหน้ากับเขาดี..
" หน้าผมมีอะไรแปลกเหรอครับ? " จิ้บอดที่จะถามออกมาไม่ได้ เมื่อถูกมองอยู่แบบนั้น
"เปล่า... แค่คิดว่า เป็น ยิ้มที่ดีนะ เท่านั้นล่ะ" ก้องภพหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะหันไปสนใจกับหนังสืออ่านเล่นเล่มหนาที่ดึงออกมาจากกระเป๋า
" เล่มนี้ออกสอบรึเปล่าครับ? " เด็กหนุ่มชะโงกหน้าไปดูอย่างสนอกสนใจ
"ไม่รู้ซิ่...พี่ ไม่ได้เป็นคนออกข้อสอบนี่นา" ก้องภพหันมายิ้ม "แต่ถ้าสนใจให้ยืมไปอ่านก็ได้นะ มีที่จะพูดวันนี้ ด้วย"
" อาจารย์อ่านก่อนก็ได้ครับ ไว้ผมค่อยขอยืมวันหลัง " เพราะว่าอยู่ในรถแบบนี้ และด้วยบทบาทที่ต่างออกไป ในตอนนี้เขาจึงต้องรักษาระยะห่างไว้ก่อนเพราะลูกค้ามาเป็นอาจารย์แบบนี้
"เอางั้นเหรอ โอเค .... เดี๋ยววันไหนเอาไปให้ที่ร้านก็แล้วกัน" ก้องภพยักไหล่ก่อนจะหันกลับมาสนใจหนังสือต่อ
+++++++++++++++++++++++
ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่นาน กลุ่มนักศึกษาที่พากันคุย และ ถ่ายรูปกันมาตลอดทาง ก็เดินทางมาถึงอยุธยา ทีแรกที่พามาเดินชมกันคือ วัดพระศรีสรรเพชญ์
ยอดแหลมสูงของเจดีย์สามองค์ตั้งตระหง่านเป็นจุดเด่นเมื่อเดินเข้ามาถึงด้านใน นักศึกษา ถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มสี่กลุ่มใหญ่ ไปพร้อมกับวิทยากร และ อาจารย์ รวมสี่คน
ก้องภพบรรยายประวัติความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ โดยแทรกความรู้เกี่ยวกับศิลปะในสมัยนั้น ทั้งสภาปัตยกรรม และความเป็นอยู่ของคนในสมัยอยุธยา มือแกร่งชี้ไปที่พระศรีสรรเพชญ์องค์ใหญ่ที่ยังตั้งตระหง่านเด่นชัด แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต
เสียงทุ้มที่เอ่ยออกมา คำพูด และกริยาท่าทางในการ อธิบายนั้น ดูโดดเด่นเมื่อเทียบกับ อาจารย์คนอื่นๆ
รอยยิ้มที่เปิดเผย กับน้ำเสียงชวนฟัง ทำให้นักศึกษารู้สึกสนุกไปกับการเดินตาม ถ่ายรูปและจด เนื้อหาลงไปพร้อมๆกัน
มีเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากกลุ่มเด็กสาวบ้างเป็นบางครั้ง พอเจ้าตัวหันไปถามว่ามีอะไรหรือเปล่าก็จะมีเสียงแซวเรื่องหน้าตากลับมาเรื่อยทำเอา หน้าแดงเหมือนกัน
ส่วนจิ้บก็ตั้งหน้าตั้งตาจดอย่างตั้งอกตั้งใจ แล้วยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปสถานที่ต่างๆ เพื่อจะได้เอาไว้อ่านไปทำข้อสอบ
"เอาล่ะ ทุกคน เดี๋ยวจะปล่อยพักไปทานข้าวกลางวันนะ" เมื่อใกล้เที่ยง ท่ามกลางแดดร้อนจ้า กับอากาศอบอ้าว คงไม่มีใครตั้งใจจะทรมานทรกรรมเด็กไปมากกว่านี้ เสียงโทรโข่งดังขึ้น เพื่อบอกเวลา และจุดนัดพบ
นักศึกษาหลายคนแยกตัวกันออกไปเป็นกลุ่มๆ จะเหลือ ก็แต่จิ้บที่ยังยืนหันรีหันขวาง
"ไม่ไปกินข้าวกับเพื่อนล่ะ" ร่างสูงที่เดินเข้ามาทักนั้นยืนบังแสงแดดที่ส่องลงมากระทบ ภายใต้เงาดำนั้นยังมองเห็นรอยยิ้มกว้างเหมือนทุกครั้ง
" ฮ่ะๆ พอดี.. "เด็กหนุ่มเองก็ไม่รู้จะตอบยังไง
"ไปกินด้วยกันไหมล่ะ... น่าจะมีอะไรอร่อยๆ พอกินได้แถวนี้บ้าง"ก้องภพเอ่ยถามพลางมองซ้ายมองขวา
"อาจจะต้องเดินไกลกันหน่อย แต่... คงมีให้กินมากกว่าสายไหมกับมะม่วงดองแน่ล่ะ"
" ยังไงก็ได้ครับ " เด็กหนุ่มต้องตกลงอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ ในเมื่อก้องภพคงมาที่นี่บ่อย และรู้จักที่ทานอาหารอร่อยๆกว่าเขาแน่ๆ
+++++++++++++++++
พาเดินไปได้อีกหน่อยก็เจอร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่งที่มีขายก๋วยเตี๋ยวที่เป็นของขึ้นชื่อด้วย ไม่รอให้ จิ้บได้คิดอะไร ก้องภพก็สั่งอาหารมาเป็นจานๆ ให้เอามาวางตรงหน้าอีกฝ่ายแทบจะในทันที
ฉุ่ฉี่ปลา ต้มจืดผักกาด ไข่เจียวหมูสับและข้าวสวยร้อนๆสองจาน วางอยู่ตรงหน้าคนทั้งคู่
" ป้าครับ กาแฟเย็นสองแก้วครับ " เด็กหนุ่มหันไปสั่ง เมื่อเห็นโหลที่ใส่น้ำหวานเรียงกันอยู่หน้าร้าน ก่อนจะหันมาปล่อยมุกกับคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม
" วันนี้ ไม่มีคาปูชิโน่เย็นนะครับ "
"หึๆ.... รู้หรอก ที่แปลกน่ะคนอยู่ร้านกาแฟทั้งวัน ยังจะมากินกาแฟอีกต่างหาก" ก้องภพยังคงหัวเราะในลำคอเหมือนเดิม ท่าทางที่ผ่อนคลายลงของก้องภพทำให้จิ้บกล้าคุยมากขึ้น
" เคล็ดลับในการชงกาแฟให้อร่อยคืออะไรรู้ไหมครับ? "
"อะไรล่ะ..." ว่าพลางก็ยกกาแฟขึ้นดื่ม รสชาตินั้นสู้ที่เด็กหนุ่มตรงหน้าชงไม่ได้เลย
" ห้ามดื่มกาแฟระหว่างชงกาแฟ ... พี่แมนเขาสอนมาแบบนี้ล่ะครับ " จิ้บจับหลอดกาแฟคนไปมาแล้วลิ้มรสชาติ
" อ้า...โบราณของแท้ คิดถึงกาแฟแถวบ้านเลย "
"บ้านอยู่แถวไหนเหรอ..." อยู่ๆก็เอ่ยถามขึ้นมาทั้งๆที่ ตักข้าวเข้าปากไปด้วย
" เชียงใหม่ครับ ..อยู่อำเภอสะเมิงน่ะครับ เคยได้ยินไหมครับ?... อืม ที่ๆปลูกสตอเบอรี่เยอะๆน่ะครับ "จิ้บพูดทั้งๆที่ข้าวยังอยู่ในปาก
"....เหรอ ไม่เคยได้ยินแฮะ เคยไปก็แต่ตัวเมือง แล้วก็ เอ่อ ขึ้นดอยไปไหว้พระ เท่านั้นล่ะมั้ง" ก้องภพหัวเราะ
"สตรอเบอร์รี่อร่อยก็เอาเก็บมาฝากหน่อยก็แล้วกันนะ "
" ต้องขึ้นไปกินเองถึงจะอร่อยครับผม ... เพราะว่าการขนส่งมันทำให้สตอเบอรี่ไม่สดน่ะครับ เสียรสชาติหมด " พอพูดถึงสิ่งที่พบเจอมาอยู่ทุกหน้าหนาว ดวงตาสีดำกลมโตนั่นก็เป็นประกาย
"แล้วมาอยู่กรุงเทพ ไม่คิดถึงบ้านบ้างรึไง ถ้าได้อยู่อากาศดีๆอย่างเชียงใหม่นะ ให้ตายไงก็ไม่ย้ายที่หรอก ต่อให้มาเรียนก็เถอะ"
" ก็ได้กลับไปบ้างน่ะครับ ปีละครั้งได้มั๊ง เพราะพวกพี่ที่ร้านเขาก็กลับบ้านเหมือนกันน่ะครับ " จิ้บดูดกาแฟเสียจนหมดแก้ว ท่าทางอารมณ์ดีขึ้นเยอะหลังจากกินอิ่ม
"เหรอ...." กอ้งภพพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเอ่ยถามอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างนึกขึ้นได้ "เอ้ะ แล้วเราชื่อจริงชื่อว่าอะไรนะ"
" อ้าว ไหนบอกว่า จำลูกศิษย์ได้ทุกคนไงครับ? " จิ้บทำท่าล้อเลียนอีกฝ่ายก่อนจะหัวเราะเบาๆ
"อ้าว ก็ถ้าลูกศิษย์ไม่เข้าเรียนแล้วจะจำได้ไหมล่ะครับ" ก้องภพย้อนกลับ
"ถ้าเข้าเรียนล่ะก็ ต้องจำได้แม่นเลยล่ะ" ดวงตาคมของอาจารย์หนุ่มจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง ท่าทางเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันใด
ก้องภพคงไม่เคยจ้องกระจกกระมัง จึงไม่รู้ว่าเวลาตนเองจ้องมองใครอย่างจริงจังนั้น มันทำให้คนที่ถูกจ้องพาลใจสั่นได้ง่ายๆ
" โอเคๆ ผมผิด " จิ้บทำหน้ามุ่ยแล้วมองไปอีกทาง …. อรรถนันท์... "เขาบอกชื่อจริงออกไป
"อรรถนันท์ ดีนะ..." ก้องภพยิ้มอีกครั้ง เห็นท่าทางแบบนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้
"มองไปไหน จะไปขี่ช้างชมเมืองบ้างรึไง"
" นั่นไง .. ช้าง " นิ้วเรียวชี้ไปที่ช้างที่มีที่นั่งสำหรับชาวต่างชาติอยู่ข้างบน
" น่าสงสารนะครับ โดนใช้งานทั้งวัน "
"อืม...แต่ใช่ว่าเข้าป่าไปแล้วอะไรๆจะดีขึ้น ต้นไม้ไม่มีก็ต้องหนีตายลงมากินผลผลิตของชาวบ้าน สุดท้ายจะอนาถกว่าเจ้าพวกพลายพังที่เดินอยู่นี่ด้วยซ้ำไป...." ก้องภพเอ่ยเสริมแล้วถอนหายใจออกมา
" ที่เชียงใหม่ก็มีปางช้าง แต่ยังไงก็เป็นธุรกิจน่ะครับ .. เอ้อ พี่...เอ่อ อาจารย์เชื่อไหมครับว่าช้างวาดรูปได้? " จิ้บพยายามเปลี่ยนเรื่อง ก่อนที่จะเครียดกันไปกว่านี้
"อื้ม เคยไปดูนะ... ใช้สีเก่งทีเดียวล่ะ" ก้องภพหัวเราะออกมากับการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาแทบจะทันควัน
"ที่บ้านก็มีซื้อกลับมาด้วยเลย .... เอาไว้ดูมันก็เพลินๆดี"
" ฮะ ฮะ ผมจะบอกความลับให้เอาไหม? " เด็กหนุ่มทำท่าป้องปากอย่างกับกลัวว่าจะมีใครอื่นมาได้ยิน
"อะไรล่ะ" อาจารย์หนุ่มเอียงตัวเข้าไปใกล้
" มันไม่ได้วาดรูปเป็นหรอก ... มันก็เหมือนเวลาเราท่องว่าต้องทำอะไร มันก็ต้องฝึกทำแบบนั้นซ้ำๆกัน ก็แค่นั้นเอง " ด้วยความที่เห็นว่าอีกฝ่ายอยากรู้ เขาเลยยื่นหน้าไปกระซิบเบาๆ
"ฮ่ะๆ อย่างนั้นหรอกเหรอ..." ก้องภพหัวเราะ
"ช้างต้มเข้าให้ซี่เนี่ย..."ว่าพลางก็เรียกป้ามาคิดสตางค์ ยื่นแบงค์พันจ่ายไปเรียบร้อย
"แต่...ช้างก็ต้องมีหัวใจบ้างล่ะ เพราะคนเลี้ยงกำหนดลงไปไม่ได้หรอกว่า แต่ละฝีแปรงจะใส่แรงลงไปเท่าไร...นั่นล่ะ คือความรู้สึกของช้างล่ะ...ขอแค่นั้นก็วาดเป็นแล้ว แค่ใจเท่านั้นเอง"
++++++++++++++++++++
"
พี่ก้อง...ครับ.. " เพราะทำงานบริการจึงค่อนข้างไวต่อความรู้สึกของคนรับข้าง ในที่สุดจิ้บจึงตัดสินใจถามอาจารย์หนุ่มออกไปขณะที่เดินกลับไปยังจุดนัดพบของคณะทัศนศึกษา
"หืม?..." ก้องภพหันไปตามเสียงเรียกในขณะที่เดินนำต่อไปเรื่อยๆ
" เมื่อกี้ไม่พอใจรึเปล่าครับ? "
"เรื่องอะไรล่ะ" ชายสูงวัยกว่าถามกลับ
" ก็เรื่องความจริงของช้างไง...ไม่พอใจใช่ไหมล่ะ? "เด็กหนุ่มยกมือขึ้นป้องแดดร้อนๆยามเที่ยงพลางทำหน้ามุ่ย
...เพราะอากาศหรือเปล่า?..
"เปล่านี่ คนเราก็คิดกันไปได้หลากหลาย "ก้องภพยิ้ม
"ร้อนล่ะซี่...รีบเดินดีกว่า"
" ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่จะไม่คิดอะไร .. แต่ช่างเถอะ เอาเป็นว่าผมขอโทษก็แล้วกัน " ดวงตากลมนั้นสบตาอีกฝ่ายยืนยันในสิ่งที่ตัวเองคิด อากาศที่ร้อนทำให้ผิวขาวแบบชาวเหนือนั้นเริ่มแดงเพราะความร้อน แต่ก็ไม่ยอมไปไหน
"อ้าว ก็ไม่ได้คิดอะไรจริงๆนี่นา...."ก้องภพหัวเราะ
"แต่ไหนๆเราก็ขอโทษมาแล้ว..." มือแกร่งยกมือตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ "ไม่เป็นไรหรอกนะ พี่ไม่คิดมากหรอก" ช่วงขาเรียวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
"แต่ เรียกที่เรียกเมื่อกี้อีก จะยกโทษให้ก็แล้วกัน"
" ครับ? "ดูเหมือนจิ้บจะยังไม่รู้ตัว เพราะความไม่สบายใจ และอยากจะเคลียร์เมื่อครู่เลยทำให้เผลอเรียกสิ่งที่แอบเรียกอยู่ในใจได้หลายวันแล้วออกไป
"ที่เรียก ชื่อพี่เมื่อกี้... ถ้าเรียกอีก ถึงจะยกโทษให้" ดวงตาคมสบตาของเด็กหนุ่มตรงหน้านิ่ง
" .................................... " เพราะอากาศร้อนหรืออย่างไร จิ้บรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนขึ้นอีกแล้ว
และกลิ่นโคโลณจน์ผสมกับกลิ่นกาย และกลิ่นไอแดดของคนข้างๆนั่นอีก
" ....
พี่ก้องครับ .. โอเคไหม? ไปได้หรือยัง? " จิ้บพูดให้มันจบๆไปเสียก่อนที่ ใบหน้าของเขาจะร้อนไปมากกว่านี้
"พูดรัวจัง อะไรนะ เอาใหม่ได้ไหม"
ดูเหมือนก้องภพจะยังไม่ยอมปล่อยอีกฝ่ายไปไหนไกลง่ายๆ ทั้งที่ยืนกันท่ามกลางแดดร้อนระอุ และ นักท่องเที่ยวที่เดินไปมา
ได้ผล เด็กหนุ่มทำหน้าหงิก ... ผิดกับใบหน้าที่คุ้นเคยตอนทำงานที่ร้านกาแฟลิบลับ
"
พี่ก้องครับ .. ไปได้หรือยังครับ
จิ้บร้อนมากแล้ว "เด็กหนุ่มพยายามพูดช้าๆ ชัดๆ
"ฮ่ะๆ...โอเค ไปกันดีกว่า ใกล้เวลาแล้ว..." ก้องภพว่าพลางหลีกทางให้อีกฝ่ายเดินไปก่อน แต่พอจิ้บเดินผ่านไปก็อดจะหัวเราะออกมาไม่ได้
...เรียกชื่อตัวเองด้วยแฮะ.....