33.
หมอปุ่นยื่นกุญแจรถให้เพื่อนหมอ บอกให้กลับไปก่อนเพราะคืนนี้จะนอนค้างที่นี่ แม้ว่าหมอเนสออกจะแปลกใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถาม เพราะตั้งแต่ที่เจ้าของห้องตัวแสบกลับมาไอ้เพื่อนปุ่นมันก็ไม่ได้มาค้างที่นี่อีก จนมาวันนี้แหละ แต่จะให้ถามเอาความอะไรมากมาย เพราะคืนนี้ตัวเองก็ไม่ได้นอนเฝ้าบ้านคนเดียวหรอก เกิดเอ่ยถามแล้วโดนย้อนกลับมาจะต้องคิดหาคำตอบกันอีก
"พรุ่งนี้เช้าจะเข้าสายหน่อย..ได้ไหม..?" ประโยคคำถามที่ได้ยินเหมือนจะกึ่งขอร้องเสียมากกว่า
"เออ!! อย่าให้เกินเที่ยงละกัน เกิดมีคนหาตัวขึ้นมาจะยุ่ง" หมอปุ่นพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินแยกย้าย คนหนึ่งกลับไปที่รถ ส่วนตัวเองก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน
ไอ้เสือเดินสะบัดมือออกมาจากห้องครัวพอดี บ่งบอกว่างานจัดเก็บสถานที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่เป็นคนชวนให้ค้างเอง แต่พอหันไปมองแขกหน้าประจำของบ้าน มันก็อดหน้าร้อนวูบไม่ได้ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าระหว่างไปนอนค้างบ้านพักหมอ กับการชวนพี่หมอมาค้างที่บ้านมันก็ไม่เห็นต่างกัน แล้วทำไม...ใจมันสั่นก็ไม่รู้ซิ
"เก็บเสร็จแล้วเหรอ ว่าจะไปช่วยอยู่เชียว" หมอปุ่นเดินเข้ามาใกล้ เห็นรอยยิ้มแหยๆ ของไอ้เสือก็รู้ว่าเจ้าตัวคงกำลังเกร็งจัด ประมาณว่าทำหน้าไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเอามือไม้ไปไว้ตรงไหน ..ทีก่อนหน้านั้นไม่รู้ว่าไปเอาความกล้า(ยั่ว)มาจากไหน
"เออ..ผมไป..อาบน้ำก่อนดีกว่า" ไอ้เด็กแสบเดินนำหน้าเข้าไปในห้องของตัวเอง ลืมไปว่าข้างหลังมีแขกหน้าประจำเดินตามหลังมาด้วยติดๆ นอนกอดกันมาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนเปลือยก็เคยเห็นมาแล้ว แต่ครั้งนี้ตื่นเต้นมากกว่าทุกครั้ง ใจมันเต้นแรงเหมือนจะระเบิด
หมับ!!
ชีต้าห์ที่กำลังเปิดตู้หยิบผ้าเช็ดตัวถึงกับสะดุ้ง เพราะมีอ้อมแขนแข็งแรงสอดเข้ามารั้งตัวไปกอดจากทางด้านหลัง พร้อมกับจมูกโด่งที่กดลงมาแถวขมับ ..คนยังไม่ได้อาบน้ำมีแต่เหงื่อ มีแต่กลิ่นควันที่ลอยมาจากเตาย่าง มันน่าหอมตรงไหนกัน..
"พี่หมอ..จะอาบก่อนไหม..?" เจ้าของห้องทำใจกล้ายื่นผ้าเช็ดตัวให้ ก็ตอนที่ไปค้างที่บ้านพักหมอมีแต่ไปแย่งเค้าอาบน้ำก่อนทุกที คราวนี้ใจดีสละให้ก่อนก็แล้วกัน แต่...ไม่มีเสียงตอบรับจากบุคคลที่ท่านเรียกครับท่าน ไอ้พี่หมอยังยืนนิ่งอยู่แบบนั้น กอดซบไม่ยอมปล่อย ...จะให้คิดเอาเองรึไงเล่า!!
"อาบ.." คำตอบแบบสั้นๆ เล่นเอาคนรอฟังแทบจะแอบถอนหายใจ ก่อนจะยื่นผ้าเช็ดตัวไปให้ ไม่กล้าหันกลับไปมองหน้า
แต่แทนที่ผ้าเช็ดตัวที่อยู่ในมือจะโดนคว้าไป กลับกลายเป็นว่าคนที่ยื่นผ้าเช็ดตัวไปให้นั้นแหละ ที่โดนยกจนขาลอยขึ้นจากพื้น พร้อมกับขายาวๆ ที่ก้าวไปยังห้องน้ำ เจ้าของห้องถึงกับตาเหลือก กว่าจะโวยวายเรียกร้องสิทธิ์ให้ตัวเองได้ ก็ตอนที่ถูกวางลงบนพื้นในห้องน้ำแล้ว
"เฮ้ย!! อะไรเล่า..เอาผมเข้ามาด้วยทำไม" หมอปุ่นใช้หลังดันประตูปิด พร้อมกดล็อคเรียบร้อย ไอ้คนที่ทำท่าจะพุ่งตัวออกไปก็เลยหมดสิทธิ์
"ชีต้าห์อยากอาบ พี่หมอก็จะอาบ งั้นก็มาอาบพร้อมกันก็สิ้นเรื่อง มาช่วยกันประหยัดน้ำ" ไม่พูดเปล่า หมอปุ่นกำลังสาวเท้าเข้ามาใกล้
"ก็...ก็ไม่เห็นจะต้องมาประหยัดวันนี้...!!" ไอ้เสือมันก็ก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆเหมือนกัน สายตายังคงจับจ้องมาทางประตู แต่มันคงจะเสียหน้ามากหากจะวิ่งสวนกลับออกไป ทั้งที่ตัวเองเป็นคนชวนซะแบบนั้น หน้าขาวเริ่มขึ้นสีจัดกำลังเบือนหนีไปอีกทาง ริมฝีปากเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง กิริยาแก้เขินที่ไม่ได้เห็นมานาน
"พี่หมอ...ไม่อยากรอแล้วนี่.." ชีต้าห์แทบจะเบียดตัวหายเข้าไปในกำแพงด้านหลัง ตอนที่อีกคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ใช้สองมือยันผนังห้องน้ำเอาไว้ ไม่กล้า..หันไปสบสายตาหวานเชื่อมคู่นั้น มันเหมือน...หัวใจมันจะหยุดเต้น แต่ชั่วครู่ก็กลับเต้นแรงจนอกใจสั่นไปพร้อมๆกัน
"ตะ..แต่ว่าผม.." อยากจะเอ่ยปากบอกความรู้สึก ณ ตอนนี้ที่เป็นอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง จมูกของไอ้พี่หมอที่ยังคลอเคลียอยู่แถวแก้ม ยิ่งทำให้สมองมันคิดอะไรไม่ออก
"ดูซิ..พี่หมอกำลังเป็นโรคหัวใจแบบฉับพลัน!!" หมอปุ่นเอื้อมมาคว้ามือของไอ้ตัวแสบไปแนบอก แผ่นอกที่เปลือยเปล่าเพราะกระดุมเสื้อแกะออกหมดแล้ว
ตอนแรกก็ว่าจะดึงมือกลับ แต่..สัมผัสบางอย่างทำให้ต้องตวัดสายตามอง เจ้าของแผ่นอกที่แม้จะทำหน้าเรียบเฉย เอาแต่แกล้งหยอกเย้าไม่เลิกตรงหน้านี่ ก็กำลังใจเต้นแรงไม่แพ้กัน แววตาหวานฉ่ำช้อนลงมามอง ก่อนจะเบียดตัวเข้ามาใกล้ รั้งใบหน้าให้เงยขึ้นไปรับริมฝีปากที่กำลังก้มต่ำลงมา ชีต้าห์เผลอหลับตาเอียงหน้ารับสัมผัสนั้นอย่างว่าง่าย ฝ่ามือที่ยันอยู่บนอกไม่ได้ผลักไส เสียงเต้นของหัวใจที่เป็นจังหวะเดียวกัน
สายน้ำเย็นไหลออกมาจากฝักบัว หมอปุ่นรั้งเสื้อยืดของไอ้เสือออกไปให้พ้นหัว เพราะยิ่งเห็นตอนที่มันลู่แนบติดไปกับลำตัว เพลิงอารมณ์ก็ยิ่งลุกโชนขึ้นไปอีก เสียงครางหอบของอีกฝ่ายดังจนได้ยิน แต่ริมฝีปากก็ยังไม่ได้ห่างออกจากกัน แขนที่ยันอยู่บนอก กลายมาเป็นโอบอยู่รอบคอกดใบหน้าของคนตัวสูงกว่าให้เข้าหาตัวเอง
"อ๊ะ!! พี่หมอ...!!" ชีต้าห์ร้องประท้วง เพราะจู่ๆก็ถูกช้อนตัวขึ้นมาจากพื้น สองขาตวัดเกี่ยวเอวของหมอปุ่นเอาไว้ ทั้งที่บอกจะเข้ามาอาบน้ำ แต่นี่แค่ปล่อยให้น้ำไหลผ่าน ก็ทำท่าจะพาออกไปข้างนอกทั้งสภาพที่ไม่มีอะไรติดตัวแบบนี้ อายแทบตายแต่ก็โดนหิ้วออกมาวางที่เตียงอยู่ดี
"อีกเดี๋ยวค่อยอาบ..นะครับ.." หมอปุ่นคุกเข่าลงตรงหน้า จุมพิตที่หัวไหล่ ไล่ไปจนถึงแก้ม เพราะไอ้เสือมันยกขาตัวเองขึ้นมากอดเอาไว้แนบลำตัวด้วยความที่อายจัด โคมไฟสีเหลืองส้มที่หัวเตียง ยิ่งสะท้อนให้ผิวขาวดูนวลเนียนน่ามอง..น่าสัมผัสไปหมด
"อื้อ..แต่ผม.." คำที่จะร้องขอถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ เดินหน้ามาขนาดนี้แล้วจะให้เหยียบเบรกก็คงไม่ได้ ชีต้าห์ถูกดันให้ล้มลงไปกับเตียงทั้งที่ยังอยู่ในสภาพกอดเข่า แผ่นหลังกับเนื้อตัวเปลือยเปล่า โดนจูบพรมอย่างอ่อนโยนจนรู้สึกหัวใจหวิว ปลายผมที่เปียกน้ำแตะลงบนผิว ทุกครั้งที่ริมฝีปากร้อนแตะลงมา
"ตัวแสบของพี่..." เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหู ทำให้ใจลอยไปไกล ชีต้าห์ยกแขนขึ้นกอดตอบตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เนื้อตัวเปลือยเปล่าเบียดเข้าหากันเหมือนจะไม่มีใครยอมถอย ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปทั่วตัว ไม่เว้นแม้กระทั่งจุดสำคัญที่ทำให้สะดุ้ง ริมฝีปากที่เม้มเข้าหากัน เพิ่มแรงกัดเม้มกลั้นเสียงของตัวเองอย่างลืมตัว
เสียงหอบหายใจราวกับกับคนที่เหนื่อยจัด สมองอื้ออึงไม่สั่งการอะไรทั้งสิ้น ชีต้าห์คว้าหมอนขึ้นมากอดปิดบังหน้าตัวเอง แต่ก็ถูกไอ้พี่หมอใจร้ายคว้าออกไปจนได้ ก่อนที่จะโน้มหน้าเข้ามาจูบไม่เว้นจังหวะให้หายใจ หนีก็ไม่ได้ จะซ่อนหน้าก็ยังไม่ได้ ไอ้เสือมันก็เลยคว้าตัวหมอปุ่นเข้ามากอด ซุกหน้าลงไปบนไหล่
"ชีต้าห์...ขอพี่นะ...นะครับ.." เสียงกระซิบเรียกชื่อเหมือนจะร้องขอ แต่ตอนนี้มันกำลังคิดอะไรไม่ออก ก็เลยได้แต่มุดหน้าลงไปกับซอกคอ สัมผัสร้อนผ่าวที่เสียดสีกันอยู่ ทำเอาเลือดทั้งตัวไหลมารวมกันอยู่บนหน้า ในอกมันเหมือนกำลังจะระเบิด
"อือ..พี่หมอ.." ไม่รู้ว่าเผลอกัดฟันตัวเองหรืองับริมฝีปากตัวเองเข้า ความรู้สึกเจ็บจุกที่ทำเอาสะดุ้ง ขืนตัวเอาไว้สุดกำลัง แต่หมอปุ่นก็ปลอบประโลมด้วยจุมพิตหวานทั่วใบหน้าและขมับช่วยให้ผ่อนคลาย ก่อนจะรั้งสะโพกลงมา แล้วขยับไปตามจังหวะที่มันควรจะเป็น เสียงครางที่อุตส่าห์กลั้นเอาไว้หลุดลอดออกมาจนได้
ชีต้าห์ทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างหมดแรง ปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามอารมณ์ ให้หมอปุ่นนำ ส่วนตัวเองก็เป็นผู้ตามที่ดี หยดน้ำเย็นๆตามร่างกายตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำในตอนแรก กลายเป็นเหงื่ออุ่นร้อนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ สัมผัสร้อนแรงทำเอาหอบหายใจถี่ กว่าที่พายุลูกใหญ่จะสงบลงตอนที่คนสร้างล้มตัวลงมากอด แล้วจูบซ้ำๆทั่วใบหน้า แล้วไปหยุดอ้อยอิ่งอยู่ที่ริมฝีปากเนิ่นนานจนพอใจ
"รักนะครับ ตัวแสบ..รักที่สุด" คำหวานที่กระซิบข้างหู ทำเอาคนฟังแทบจะมุดหายไปกับหมอน แต่ไอ้คนพูดก็ยังไม่หยุด ยิ่งเห็นว่าอายก็ยังจะคว้าตัวเข้าไปกอดอีก จะหนีไปทางไหนได้ ก็ได้แต่ยึดผ้าห่มมาปิดหน้าเท่านั้นเอง
"ผม..จะไปอาบน้ำ" หมอปุ่นนอนมองคนในอ้อมแขนที่กำลังเอาผ้าห่มห่อตัวเป็นดักแด้ มันคงจะลุกไปไหนได้หรอกนะ เป็นแบบนี้อย่างเก่งก็ทำได้แค่กลิ้งลงไปข้างเตียงเท่านั้นแหละ
"ไปซิ!!" หมอปุ่นปล่อยแขนที่กอดตัวไอ้เสือออก แล้วแกล้งทำเป็นนอนเอาแขนยันไว้กับที่นอน ไอ้เด็กแสบหันมาทำตาดุใส่ แล้วก็ต้องหน้าร้อนฉ่าหันกลับไป เพราะอีกคนยังอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า
"อ๊ะ..!!" พอขยับ ชีต้าห์ก็รู้สึกเหมือนทั้งตัวมันปวดร้าวไปหมด เจ็บจนต้องครางออกมา น้ำตาแทบจะไหล คนที่จะทำเป็นแกล้งรีบโผเข้ามาใกล้ โดยที่ลืมไปว่าตัวเองยังว่างเปล่า จำต้องโดดไปคว้าผ้าเช็ดตัวอีกผืนในตู้มาพันเอว แล้ววิ่งกลับมาดูอาการไอ้เสือที่ยังนอนนิ่งอยู่ที่เดิม
"ชีต้าห์..ลุกไหวไหม พี่ขอโทษนะครับ" ไอ้เสือที่กำลังเจ็บ ตวัดสายตามองมาอย่างเคืองจัด แพขนตาเปียกชุ่มเหมือนคนที่ผ่านการร้องไห้มา แต่ไม่ยักจะได้ยินเสียงสะอื้น ขนาดเป็นเสือเจ็บ ยังทำหน้าโหดได้อีกเหอะ
เมื่อไม่มีวี่แววว่าคนเจ็บจะตอบกลับ ได้แต่ทำหน้าโหด ส่งสายตาขู่ฟ่อๆ ทำยังกับว่าตัวเองจะมีแรงลุกขึ้นมาอาละวาดไหวอย่างงั้นอ่ะ หมอปุ่นถอนหายใจเฮือก ก่อนจะตัดสินใจ ยกไอ้ตัวแสบทั้งที่ยังอยู่ในม้วนผ้าขึ้นมา แล้วพาไปยังห้องน้ำเสียเอง
"ไม่เอาแล้วนะ พี่หมอปล่อยผมลง!!" ชีต้าห์หันไปทำเสียงดุ แต่ก็ทำอะไรได้ไม่มากกว่านั้น เพราะสภาพตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่โดนมัดมือมัดเท้า ดิ้นมากก็ไม่ได้เจ็บไปหมด ยังดีที่พี่หมอแค่วางลงบนพื้นแค่นั้น
"อาบเองได้ไหม..ให้พี่อยู่ช่วยรึป่าว" น้ำเสียงที่ถามไม่ได้จงใจจะกลั่นแกล้ง เพียงแค่เป็นห่วงตามนั้นจริงๆ
"ได้..ผมจะอาบเอง" ชีต้าห์เกาะผ้าที่พันอยู่รอบตัวเองแน่นพร้อมกับพยักหน้ายืนยันคำตอบอีกรอบ สายตาที่มองมาอย่างอ่อนโยนทำให้คนขี้โมโหใจอ่อนขึ้นมา ปล่อยให้จุมพิตที่หน้าผากอีกที ก่อนเดินออกไปก็ไม่วายหันหลังกลับมามองดักแด้ตัวแสบอีกรอบ พร้อมกับปิดประตูให้
ชีต้าห์ทรุดลงนั่งกับพื้นห้อง ซบหน้าลงบนฝ่ามือสองข้างของตัวเอง จนป่านนี้แล้วหน้าก็ยังรู้สึกร้อนวูบวาบไม่หยุด พอลองเอามือวางแปะที่หน้าตัวเองดู ก็พบว่าเรื่องที่ผ่านไปเมื่อกี้มันเป็นเรื่องจริง ไม่ได้ฝันไปแน่ๆ หลักฐานก็อาการเจ็บนี่ไง ไม่กล้า...ไม่กล้าจะออกไปมองหน้า แล้วจะทำหน้าแบบไหนออกไปล่ะทีนี้ นอนในห้องน้ำซะเลยดีไหม...!!
--------------
คนที่เพิ่งอาบน้ำล้างตัวเสร็จ ค่อยๆแง้มประตูโผล่หัวออกมาจากห้องน้ำ แปลกใจที่ทั้งห้องเปิดไฟสว่างไม่ใช่โคมที่หัวเตียงเหมือนตอนแรก ผ้าปูที่นอน กระทั่งปลอกหมอนเป็นของใหม่ ไม่ใช่อันเดิมเหมือนเมื่อเช้า กลอกตามองไปรอบๆห้องเพื่อหาร่างของใครอีกคน
หมอปุ่นนั่งหลับเอามือเท้าคางตัวเองอยู่บนเก้าอี้ที่มุมห้อง เหมือนกำลังรอใครสักคน แล้วเผลอหลับไปเสียก่อน สภาพเหมือนคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ แล้วชุดที่ใส่ก็ดูเหมือนจะไม่คุ้นเอาเสียเลย ชีต้าห์ย่องไปทางตู้เสื้อผ้า ก่อนจะคว้าชุดนอนของตัวเองมาสวมอย่างเร็วที่สุด แม้ว่าจะยังรู้สึกเจ็บอยู่ แต่ก็ยังไม่อยากให้คนที่กำลังหลับตื่นมาเห็นเข้าตอนนี้
"เสร็จแล้วเหรอ.."
"เหวอ!! พี่หมอทำผมตกใจนะ!!" ยังดีที่แต่งตัวเสร็จพอดี พอหันกลับไป ไอ้พี่หมอก็มายืนอยู่ข้างหลังแล้ว แทนที่ใบหน้าจะเหมือนคนที่มีความสุข แต่ทำไมดูเหมือนคนอมทุกข์นักก็ไม่รู้
หมอปุ่นเพิ่งจะกลับมาจากการวิ่งไปอาบน้ำที่บ้านพักของไอ้เจ้าเด็กโข่งแตงกวา พร้อมกับยืมชุดมาด้วยเสร็จสรรพ เพราะเมื่อก่อนตอนที่ตัวเองมาค้างที่นี้ก็อาบน้ำแต่งตัวมาเลย ถึงไม่มีเสื้อผ้าตัวเองทิ้งไว้ที่นี่ แล้วก็เดินเลยไปหยิบยาแก้ปวดกับยาแก้อักเสบในตู้ยาพร้อมน้ำมาให้
พอกลับมาไอ้เสือก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะออกมาจากห้องน้ำ ลองเอาหูแนบกับประตูก็ยังได้ยินเสียงคนเคลื่อนไหว ไม่ได้เงียบไปจะได้เปิดเข้าไปดู ..ตัดสินใจเปิดตู้ค้นหาผ้าปูที่นอนกับปลอกหมอนเอามาเปลี่ยนให้ใหม่ เพราะอันเก่าจะใช้ได้..คงต้องเอาไปซักก่อน สุดท้ายก็เลยเผลอหลับไปบนเก้าอี้ ตื่นมาอีกทีก็ตอนที่ไอ้เสือมันกำลังสวมเสื้อผ้าแล้ว..
"นี่ยาแก้อักเสบกับยาแก้ปวดนะ เผื่อเอาไว้.." ชีต้าห์เหลือบมองใบหน้าของคนที่ยื่นยามาให้ รู้แล้วสาเหตุที่ทำให้คุณหมอตรงหน้าเป็นแบบนั้น ...สงสัยจะรู้สึกผิดเกินขนาดไปหน่อยมั้ง
“ไม่กินได้ไหม..” ไอ้เสือทำหน้าเบ้ มองเม็ดยาเหมือนอะไรซักอย่างที่มันน่ากลัว
“กินหน่อยนะ..คนเก่ง..” คำขอที่ใช้ได้เสมอตอนที่รักษาคนไข้เด็ก แล้วไอ้เจ้าเด็กแสบตรงหน้านี่ล่ะ ยังทำหน้าบูด แต่ก็ยอมยื่นมือมารับแก้วน้ำกับยาไปถือไว้
ชีต้าห์ยืนมองเม็ดยาในมือตัวเอง สลับกับมองหน้าคุณหมอแวบหนึ่ง เหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง ก่อนจะกรอกยาเข้าปากตัวเอง ยกน้ำกระดกตาม แล้วส่งแก้วน้ำคืน ด้วยใบหน้าที่เริ่มบูดบึ้ง ก่อนจะเอ่ยปากถาม
"พี่หมอ..เสียใจเหรอ.." หมอปุ่นขมวดคิ้วเข้าหากันเหลือบมองคนที่ทิ้งคำถามเอาไว้แล้วก็ไม่ยอมหันมาสบตา..เรื่องที่เสียใจงั้นเหรอ...!!?
"คิดไปถึงไหนแล้ว..พี่ไม่ได้เสียใจที่ทำ แค่..รู้สึกผิดที่ทำให้เราเจ็บนะ" ไอ้เสือตัวแสบค่อยๆทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ดูก็รู้ว่ายังเจ็บ แล้วก็กลัวว่าพรุ่งนี้ลูกชายคนเล็กของบ้านจะตื่นไปวัดทำบุญไม่ไหว จะเอาเหตุผลอะไรไปบอกทั้งพ่อทั้งพี่ชายเค้าล่ะ ว่าไอ้เสือมันเป็นอะไร
"..รับผิดชอบด้วยล่ะ!!" คนที่นอนตะแคงหันหลังให้พูดเสียงเบาเหมือนตั้งใจจะให้ไม่ได้ยิน หรือไม่คนพูดก็เขินจัดเกินกว่าจะพูดออกมาดังๆ หมอปุ่นวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ ก่อนจะปิดไฟ แล้วขึ้นไปนอนเคียงข้างคว้าเจ้าของเตียงมากอดเอาไว้
"กระผมยินดีรับผิดชอบ..ไปชั่วชีวิตเลยครับ" คำหวานที่น่าฟังกว่าคำไหนๆ กระซิบที่ข้างหูพร้อมกับดึงตัวเข้าไปกอด
“ก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วซิ” ชีต้าห์พลิกตัวกลับมาอาศัยความมืดยื่นหน้าเข้าไปขโมยหอมแก้มหมอปุ่น ก่อนจะซุกหน้าลงไปกับอก แม้จะไม่ใช่คำบอกราตรีสวัสดิ์เหมือนคืนที่ผ่านมา แต่คืนนี้ก็คงได้นอนหลับฝันดีภายใต้อ้อมแขนอบอุ่นคู่นี้แน่....
.
.
.
.
.
.
ย้อนกลับไปที่บ้านพักตอนที่หมอเนสขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน พร้อมกับไอ้เด็กโข่งที่จะมานอนเป็นเพื่อน พอลงจากรถก็รีบวิ่งขึ้นไปบนบ้าน ให้แตงกวามันรออยู่ในรถก่อน เพราะหน้าบ้านไม่ได้เปิดไฟทิ้งเอาไว้มันก็เลยมืด เปิดบ้าน เปิดไฟเสร็จถึงจะชะโงกหน้าออกมาส่งสัญญาณให้ดับเครื่องยนต์ แล้วตามขึ้นไปบนบ้าน
"คุณเนสครับ ผมเจอไอ้นี่ที่เบาะหลัง" แตงกวาชูของที่ตัวเองเก็บได้มาจากเบาะหลังรถให้เจ้าของบ้านอีกคนดู
"อะไร!!?" หมอเนสเหลือบมอง...ริบบิ้นสีฟ้าขนาดความยาวกะด้วยตาก็ประมาณหนึ่งถึงสองเมตรเห็นจะได้ ริบบิ้น...!!? ยาวขนาดนี้เหมือนกล่องของขวัญจะชิ้นใหญ่มากเหอะ แต่ตอนไอ้เพื่อนปุ่นมันไปที่งาน ไม่เห็นมันจะถือของขวัญอะไรไปเลยนี่หว่า...!!???
====================
คือแบบ...มิมีอะไรจะพูด (ผกก. มัวเขินอยู่)
ยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้ไอ้เสือ-พี่หมอ
และ..ริบบิ้น ทำไมไปอยู่ที่แตงกวามันได้ กร๊ากกกกก
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตาม ตอนเดินออกจากที่นั่งอย่าลืมเช็คของก่อนนะ
ขาดตกบกพร่องอะไรไป ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยขอรับ ป้อล้อ..ใครที่จองบัตรรอบแรกทัน มาถ่ายรูปเป็นที่ระทึกกันหน่อยเร็ว!! เอ้า..ชีสสสสส