31.5 ไม่ตอบ=ไม่ปฏิเสธ
จากวันที่บอกว่า..กลับไปรอที่บ้าน แล้วจะได้ฟังคำตอบ..สุดท้ายก็แห้วรับประทาน เพราะคุณเนสติดเคสคนไข้ด่วน แต่ก็ยังใจดีฝากให้พี่ปุ่นมาบอกว่าอาจจะไม่ได้กลับ แอบคิดในแง่ลบ ว่าต้องโดนหลบหน้าแน่ๆ ก็เลยย้อนกลับไปดูที่โรงพยาบาลถึงได้รู้ว่าเกิดอุบัติเหตุรถคนงานคว่ำ ทั้งคนเจ็บ ญาติคนเจ็บ หมอและพยาบาลวิ่งกันให้วุ่นไปหมด ขนาดว่าพี่หมอปุ่นเองที่เพิ่งกลับไปบ้านพักยังโดนเรียกตัวให้กลับมาช่วย
เพราะไม่อยากไปขวางทางสถานการณ์ที่กำลังวุ่นวาย วันนั้นก็เลยจำใจต้องเดินคอตกกลับบ้านพักของตัวเอง แต่...ไม่ได้ยอมแพ้หรอก ไม่ว่าพรุ่งนี้ หรืออีกกี่วัน ก็จะไปเฝ้ารอเอาคำตอบจากปากคุณเนสให้ได้ ..ก็นะ..ทนรอมาขนาดนี้แล้ว จะใจร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์
.
.
.
"มานั่งจ้องทำไม..?" หมอเนสม้วนหนังสือในมือแล้วฟาดกบาลไอ้เจ้าเด็กโข่งที่มานั่งทำหน้าหงอยอยู่ข้างเก้าอี้ แล้วก็ไม่พูดไม่จา มานั่งจ้องเอาๆเหมือนจะอ้อนขออะไรซักอย่างแต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา พอโดนฟาดกบาลไปทีก็เหมือนเหมือนจะรู้สึกตัว
"ก็..ผมกำลังรอฟังคำตอบ นานแล้วนะ..." กลายเป็นคนเอ่ยถามเองที่เริ่มทำหน้าไม่ถูก เพราะดันไปบอกว่าจะคุยๆแล้วก็เลี่ยงไปเรื่องโน้นเรื่องนี้ มาจนป่านนี้..ทำไมไอ้เจ้าเด็กโข่งมันยังไม่ลืมอีก.. แล้ววันนี้ไอ้คุณเพื่อนมันก็ไม่อยู่ซะด้วย จะหาตัวช่วยที่ไหนมาล่ะวะ!!
"หิวแล้ว..ไปหาอะไรกินกัน"
หมับ!!
แทนที่ลุกขึ้นยืนได้แล้วจะเดินไปข้างหน้า แต่หมอเนสกลับโดนใครอีกคนคว้าแขนเอาไว้ เท่านั้นยังไม่พอครับท่าน!! ไอ้เจ้าเด็กโข่งพักนี้มันมีลูกเล่นแพรวพราวให้ใจเต้นแรงได้ง่าย ทั้งแววตาและการกระทำเริ่มจะอัพเกรดขึ้น แล้วตอนนี้..ผลจากการโดนดึงก็เลยกลายเป็นว่าไปนั่งซ้อนตักไอ้หมาตัวโตหน้าตาเฉย เหมือนกับว่ามันวางแผนเอาไว้แล้ว
"เฮ้ย!! ทำบ้าอะไร แตงกวา!!" อย่าได้หวังว่าหมาเชื่องๆของคุณจะฟังคำสั่งเจ้าของมันทุกอย่าง เพราะตอนนี้ไอ้คนที่ถือไพ่เหนือกว่า ยกแขนขึ้นมารวบกอดเอาไว้ พร้อมกับส่ายหัวแทนทำตอบ แล้วหมอเนสจะไปทำอะไรได้ แขนสองข้างก็โดนกดแนบลำตัว แถมยังโดนยึดให้นั่งบนตักอีก
"บอกซักคำให้ผมดีใจหน่อยเถอะ..นะ.." ขนาดว่าจับตัวประกันเอาไว้ได้แล้ว ธีโอก็ยังคงเป็นไอ้เจ้าแตงกวาแสนซื่อและขี้อ้อนเหมือนเคย สายตาที่มองมาเหมือนจะอ้อนขอมากกว่าจะเป็นการบังคับหรือคำสั่ง ทั้งที่ถ้าจะทำ..ก็ไม่น่ายาก
หมอเนสถอนหายใจออกมายาวเหยียด จะหลีกหนีไปได้อีกเท่าไหร่หนอ ก็ในเมื่อหมาหน้าซื่อมันมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา แม้ยามเจ้าตัวจะไม่ได้อยู่ตรงหน้า ทุกวันนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสายตาของตัวเอง เอาแต่คอยมองหา ว่าไอ้เจ้าเด็กโข่งตัวโตมันจะมาหาเวลาไหน จะทำอะไร ทำแบบไหนมันถึงจะยิ้ม แกล้งแบบไหนมันถึงจะหงอย แล้ว...ถ้าหากวันหนึ่งไม่ได้อยู่ใกล้ๆกันขึ้นมาล่ะ จะเอาคำหนึ่งคำนั้นไปผูกมัดเด็กคนหนึ่งเอาไว้กับตัวได้ยังไง...มันไม่ได้เรียกว่าเห็นแก่ตัวเกินไปหรอกรึ..
"เราจะกลับบ้านเมื่อไร.." หลังจากที่ปล่อยให้ทั้งบ้านเงียบมาได้ซักพัก หมอเนสก็ตัดสินใจถามออกมา แม้ว่าไม่อยากจะรู้คำตอบเลยก็ตาม
"ผมจะกลับบ้าน!!?...มันเกี่ยวกันยังไง..?" แตงกวาเงยหน้าขึ้นมาถาม สีหน้าบ่งบอกว่างงจัด เพราะสิ่งที่ตัวเองอยากได้ยิน ไม่ใช่คำถาม..
"เกี่ยวซิ.. ถ้ากลับไปบ้านแล้วเมื่อไรจะกลับมาที่นี่อีกล่ะ จะให้คนทางนี้ต้องรอคอยเหมือนไอ้คุณพี่ปุ่นนั่นไหม เหมือนไร้วิญญาณเข้าไปทุกวัน" หมอเนสเริ่มขึ้นเสียง
ที่จริงไม่ได้อยากพาดพิงถึงคนอื่น แต่มันก็เป็นตัวอย่างการอยู่ไกลกันที่เห็นได้ชัดสุด คนหนึ่งรอ..ถ้าอีกคนไม่ได้เฝ้ารอด้วย..จะเป็นยังไง คิดไปสารพัด ถ้าหาก..ไม่ได้พูดออกมาจากปาก วันหนึ่งก็อาจจะเถียงกับตัวเองได้ว่าเราไม่ได้เคยรู้สึกอะไรแบบนั้น แต่..ถ้าพูดออกไปแล้ว มันก็เหมือนพันธะผูกพันที่จะรัดตัวคนพูดไปจนตาย หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแปรเปลี่ยน
"พี่ปุ่น..? กลับ..? อะไรทำไมต้องรอคอยด้วยล่ะ..?" ประโยคยาวเหยียด แถมยังพูดเร็วปรื๋อจนคนฟังจับใจความได้แค่นั้น แล้วก็งงเอง...ในใจธีโอกำลังเต้นตูมตาม เพราะแอบเข้าข้างตัวเองตอนที่ได้ยินบางประโยคที่ฟังไงก็เหมือนว่าคนพูดกำลังน้อยใจ..ว่าต้องรอ..
"ไอ้เด็กบ้านี่!! ทีตอนนี้ทำไมเข้าใจอะไรยากจริง เลิกพูดๆ" แล้วคนรอฟังที่กำลังหูตั้ง ก็เริ่มห่อเหี่ยว เอะอะก็ขู่ เอะอะก็เดินหนี ไม่เคยให้โอกาสบ้างเลยซักครั้ง แต่คราวนี้ยึดตัวเอาไว้ได้แล้ว ยังไงก็ไม่ปล่อยให้หลุดมือหนีไปไหนได้อีก
"ไม่เอาด้วยหรอก บอกผมมาก่อน ใครรอใคร..?" หมอเนสเริ่มออกแรงรั้งแขนที่โอบอยู่รอบตัวออก ไอ้เด็กโข่งมันก็ตัวใช่เล็กซะเมื่อไร ถ้ามันไม่ยอมปล่อยเอง อย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้
"งั้นเอางี้..เอาไว้กลับมาจากทางโน้นเมื่อไหร่ค่อยบอก โอเค!!?" ธีโอขมวดคิ้วเข้าหากันอีกรอบบนหน้าเหมือนมีเครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด ก่อนจะเรียบเรียงประโยคที่ตัวเองได้ยินอีกรอบ ..กลับมาจากบ้านโน้น? รอคอยทางนี้? และพี่หมอปุ่น..? หรือว่า...คุณเนสคิดมาตลอดว่าซักวันเราสองคนต้องอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆเหมือนคู่นั้น...อ่า..ดีใจชะมัด คุณเนสของผม~!
"แล้วถ้าผม..จะบอกว่าไม่กลับล่ะ..?"
"ถ้าเอาอนาคตมาทิ้งไว้ที่นี่ โดนฆ่าแน่!! เด็กที่ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่รักตัวเอง แล้วใครอยากจะไปยุ่งเกี่ยวด้วย หาเลี้ยงตัวเองเหอะ!!" มาเป็นชุด.. คราวนี้ธีโอรู้ว่าต้องโดนแน่ นี่ขนาดแค่ลองหยั่งเชิงเองนะ โดนมาชุดใหญ่..
"แล้วถ้าผม..จะบอกว่าเรียนจบแล้วล่ะ มีงานทำแล้ว แค่มาที่นี่เพราะลาพักร้อน.." หมอเนสกำลังนั่งอึ้งกับข้อมูลที่ตนเพิ่งจะรู้ เห็นว่าชอบทำตัวเด็กๆช่างอ้อนแบบนี้ มองดูแล้วอายุไม่น่าจะเกินน้องเสือแสบ เพราะเด็กทางฝั่งยุโรป อเมริกามันโตเร็วกว่าเด็กฝั่งเอเชียอยู่แล้ว ...แล้วยังไงสรุปว่าตัวเองประเมินพลาดไปเอง!!!
"ไม่จริงอ่ะ..!!" ไอ้เจ้าแตงกวาพยักหน้าหงึกๆแทนคำตอบ พร้อมกับรอยยิ้มเริงร่า หางหูกระดิกราวกับว่ามันดีใจมากถึงมากที่สุด เท่านั้นยังไม่พอมันยังเอาหน้าถูไถไปกับต้นแขนอีกต่างหาก...มันจั๊กจี้เว้ยเฮ่ย!!
"ผมเข้าเรียนเร็วกว่าเด็กคนอื่นนะ" ธีโอบอก เพราะความโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ ที่การเจริญเติบโตเร็วกว่าคนอื่น ขนาดว่าเรียนเร็วกว่าเด็กคนอื่นหนึ่งปี ยังตัวสูงกว่านักเรียนคนอื่น
"อะไร...ไม่อยากจะเชื่อ!!" คนฟังยังคงขมวดคิ้ว สลับกับหันไปมองไอ้เจ้าเด็กโข่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ
"ดีใจจัง คิดเผื่อผมขนาดนั้น แสดงว่าคุณเนสก็สนใจผมเหมือนกันน่ะสิ" เป็นหมอเนสอีกรอบที่อ้าปากค้าง โทษใครไม่ได้เพราะพลาดเอง ใครว่าหมามันซื่ออย่างเดียว บางพันธุ์มันก็ฉลาด...มากเสียด้วย เหมือนไอ้เจ้าหมาตัวโตนามว่าแตงกวาข้างหลังนี่
"อย่ามาสรุปเอาเองนะโว้ย!!" อาการโวยวายกลบเกลื่อน ที่ธีโอเห็นจนชิน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังกอดเอาไว้ไม่ปล่อย...เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ต้องรีบๆพูดให้จบก่อนที่คนปากแข็งจะหนีไปได้อีก
"แม่..ให้ผมมาอยู่ที่นี่ มาอยู่กับคุณยาย,..คุณตา ที่กรุงเทพ..."
แล้ว...ถ้าจะกลับไปบ้านโน้นที่คุณเนสว่าก็คือบ้านคุณยายที่อยู่กรุงเทพ ผมเป็นช่างภาพอิสระที่แม่บอกว่าถอดแบบมาจากคุณตาซึ่งทำกิจการเกี่ยวกับการถ่ายรูป เปิดเป็นสตูดิโอเล็กๆจนถึงเดี๋ยวนี้ ส่วนคุณยายท่านเป็นช่างตัดเสื้อ ไม่ใช่ดีไซน์เนอร์..เพราะไม่ได้ออกแบบเอง แค่ตัดชุดไปตามแบบที่ลูกค้าเอามาให้
ปัจจุบันก็เลยเปิดเป็นสตูดิโอถ่ายรูป พร้อมกับเช่าชุด และรับตัดเย็บเสื้อผ้าที่ใช้ในงานต่างๆ แม้ว่าจะขยายกิจการจากเมื่อก่อนมาก แต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร และท่านทั้งสองก็อายุมากแล้ว มีลูกจ้างประมาณสิบชีวิต พอแม่บอกจะส่งมาอยู่ที่นี่...ผมก็เลยจะมาขอรับช่วงต่อซะเลย
"เป็น..ช่างภาพ..แต่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน เพิ่งจะเรียนจบด้วย" ยังดีที่คุณเนสยอมนั่งนิ่งฟังที่เล่าจนจบ ..แต่..นิ่งเกินไปไหม เล่าจบตั้งนานก็ยังไม่เห็นว่าจะมีปฏิกิริยาใดๆตอบกลับมา จนเจ้าของเรื่องต้องยื่นหน้าเข้าไปดู
.
.
"คุณเนส...ไม่ได้กำลังโกรธผมอยู่....ใช่ไหมครับ..?" พอถามออกไปแล้วก็ต้องกลั้นใจรอฟังคำตอบ กลัวว่ามันจะเป็นอย่างที่คิด แต่ก็เปล่าเลย ได้ยินแค่เสียงถอนหายใจเบาๆ
"อยากจะบ้า..ปล่อยให้กลุ้มอยู่ได้ตั้งนาน ทำไมไม่บอกก่อน!!" หมอเนสหันกลับมาโวยหลังจากที่ฟังเรื่องทั้งหมดของไอ้เจ้าเด็กโข่ง
"ก็..คุณเนสไม่เคยถาม.."
คำที่ย้อนกลับมาทำเอาหมอเนสหน้าชา มันเป็นเรื่องจริง ที่เถียงกลับไม่ได้ เพราะก่อนหน้านั้นเป็นตัวเองนี่แหละที่ไม่ได้ไปสนใจใยดีไอ้เจ้าเด็กโข่งมันเลย พอเริ่มจะรู้สึกว่ามีอยู่ในสายตา ก็เริ่มกลัวไปต่างๆนานา คิดเอาเองทั้งนั้น จะไปโทษใครได้
"เออ...ผิดเองก็ได้!!" ธีโอส่งยิ้มกว้างมาให้ พร้อมกับซุกหน้าลงไปบนท่อนแขน ดันเผลอกดจมูกลงไปด้วย ..ทำเอาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาเพราะกลัวจะโดนดุ แต่ก็เหนือความคาดหมายอีกรอบ...แบบนี้ต้องรีบรุกทำคะแนน
"คุณเนส..บอกผมได้รึยัง 'ชอบ'ผมบ้างไหม" หมอเนสหันมาสบเข้ากับนัยน์ตาหวานฉ่ำของคนถามพอดี เล่นเอาทำหน้าไม่ถูก ทั้งโล่งใจ หวั่นไหว และสับสนในคราวเดียว แต่ที่แน่นอนคือความรู้สึกดีใจที่ไม่ต้องบอกลากัน เพราะคิดถึงตอนนั้นทีไรใจก็หายทุกที
"ไม่บอก.."
"ใจร้าย!!"
"เก่งนักไม่ใช่รึไง ก็คิดเอาเองซิ" คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเหมือนกับว่ากำลังเศร้าสลด พอได้ยินคำอนุญาตบางคำก็เงยหน้าขึ้นมาทำตาเป็นประกาย..
“ผม..คิดเอาเองได้จริงๆนะ จริงเหรอ!!?” หมอเนสเหลือบมองไอ้เด็กโข่งที่กำลังคะยั้นคะยอรอเอาคำตอบ ขนาดว่าบอกให้คิดเอง แล้วมันก็คิดไปไกลจนยิ้มหน้าบานขนาดนั้น ไม่รู้ว่ามันจะมาถามหาเอาความอะไรอีก..ไอ้หมาช่างตื๊อ!!
“...อืม..” คำตอบรับในลำคอ ฟังเหมือนไม่เต็มใจนัก แต่ถ้ามองให้ดี เป็นเพราะกำลังเบือนหน้าไปไปทางอื่นต่างหาก ..เบือนหนีเพื่อซ่อนใบหน้าของตัวเอง แค่เพียงเท่านั้นธีโอก็พอจะเดาคำตอบได้..
“จูบได้ไหม”
โป๊ก!!
“เจ็บ!!” แค่เผลอปล่อยคนในอ้อมแขนออกตอนที่เอ่ยถาม ฝ่ามือพิฆาตของคุณเนสก็ฟาดลงกลางหัว ระยะใกล้ขนาดนี้ จะหลบก็ไม่ได้ด้วยโดนไปเต็มๆ ธีโอยกมือลูบหัวตัวเอง พลางเหลือบมองคนที่โดดออกไปยืนห่าง
“สมน้ำหน้า ยังเร็วไปโว้ย!!” หมอเนสยืนกอดอกเหล่มองไอ้คนที่บังอาจขอ..เรื่องที่...ไม่สมควรจะขอ ของแบบนี้..ใครเค้าขออนุญาตกัน มันจะมารยาทดีไปถึงไหน
“อ๊ะ!! ตรงนั้น..” ไอ้เด็กโข่งมันลุกพรวดขึ้นมาด้วยสีหน้าตกใจ พร้อมกับชี้ไปข้างหลัง ตามสัญชาตญาณปกติของมนุษย์แล้ว ร้อยทั้งร้อยต้องหันไปมองแน่
“ไม่เห็นจะมี....อะ...”
จุ๊บ!!
อ๊ากกกกก....ไอ้หมอเนส แล้วแกก็เสียท่าจนได้!! ตอนที่หันกลับมากำลังจะด่า เพราะตรงที่ชี้ไปมันไม่มีเงา หรือสิ่งมีชีวิตอะไรเคลื่อนไหวซักตัว แต่..ไอ้ตอนที่หันมานี่แหละไอ้เจ้าเด็กโข่งมันยื่นหน้ามารออยู่แล้ว นิ่งดิ อึ้งไปเลย ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะหลงกลด้วยมุขเด็กๆแบบนี้
“ไอ้เด็กบ้า..ตายซะ!!” คนที่ได้ชิมแก้มของคนปากแข็งกระโดดหนีไปอยู่อีกฟากโต๊ะ ไม่งั้นคงได้โดนหมัดตรงเสยเข้าที่ปลายคางแน่... เป็นหมอทำไมมือหนักขนาดนี้นะ!!
“ก็คุณเนสไม่ได้ห้ามนี่..ผมก็เลย.. ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี แม้ว่าจะกำลังวิ่งหลบขายาวๆของคุณหมอสุดโหด
ไม่ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์จะอยู่ในขั้นไหน และจะเรียกมันว่าอะไร ขอพียงแค่ได้อยู่ใกล้ ได้ยินเสียงหัวเราะ และรอยยิ้ม(แม้ว่าจะนานๆทีก็ตาม) ตอนนี้ผมคงต้องยอมรับกับตัวเองแล้ว..ว่าพรหมลิขิตที่แม่เคยเล่าให้ฟังมันมีอยู่จริงๆ หลักฐานเหรอ..ก็..คนที่กำลังวิ่งไล่เตะผมอยู่นี่ไง..ถ้ารู้ว่าจะโดนเล่นงานขนาดนี้ เปลี่ยนเป้าหมายจากแก้มเป็นริมฝีปากก็ดีหรอก... แต่ไม่เป็นไร โอกาสหน้ายังมีอีกมากนี่นะ..!!
“แตงกวา!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!”
แต่...วันนี้คงต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ก่อนเหอะ=======================
แตงกวาเอ๊ยยยย กว่าเอ็งจะได้เข้าใกล้เค้า คงได้โดนไล่เตะอีกหลายรอบ
คราวหน้าก็วางแผนให้เนียน ๆ ก็แล้วกัน
(รับบทจะเป็นหมาต้องวิ่งให้เร็วให้ไว พอเผลอก็งับซะเลย 5555)
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม... ![:a1:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/25.gif)