โกลเด้น vs ขาวมณี
ว่ากันว่าสิ่งที่คอยรบกวนจิตใจคนเรามากที่สุด คือความเหงา...ผมไม่เคยรู้จักความเหงา จนกระทั่งได้เห็นแผ่นหลังของเพื่อน กับคนรักของมัน เคลื่อนห่างออกไป น่าแปลกที่ตอนมันคุยเล่นกันอยู่ในสายตา มันกลับไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแบบนั้น อาจเป็นเพราะ...ความรักของผมไม่ใช่การครอบครองได้มา ขอแค่ให้ได้เห็นมันยังยิ้มได้อยู่ตรงหน้า ผมก็พลอยมีความสุขไปด้วย
โฮ่ง! โฮ่ง!
ตอนที่หมอเนสกำลังเก็บของยัดใส่หลังรถบีเอ็มซีรีย์ 5 ที่มันเอามาแลกกับรถคุณปู่ไป แบบ...จับชายผ้าทั้งสี่มุมได้ก็รวบมันขึ้นมาทั้งหมด เพราะต่อจากนี้ ไอ้คุณเพื่อนมันสัญญาว่าจะทำเองทั้งหมด เสียงหมาที่เหมือนวิ่งไล่อะไรมาซักอย่าง ดังใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนต้องหันไปดู...สังหรณ์ใจ เหมือนงานจะเข้ายังไงก็ไม่รู้
"เฮ่ย!!!" ยังไม่ทันได้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น แมวตัวหนึ่งมันก็โดดขึ้นมา ดีที่ยังหันหน้าหลบทัน ไม่งั้นคงได้รอยเล็บข่วนเป็นทางยาว ข้างหน้าผมมีโกลเด้นตัวโต กำลังเห่าเสียงดังลั่นน้ำลายเยิ้ม ปลายจมูกมีรอยข่วนเล็ก ๆ มีเลือดซิบ นี่ซินะ สาเหตุของการวิ่งไล่กันในครั้งนี้
"s...sorry, very sorry!!" เจ้าของเจ้าตูบตัวโตวิ่งมาหยุดหอบตัวโก่งอยู่ตรงหน้า น้ำเสียงแบบนี้...มันคุ้น ๆ ว่าเคยได้ยินที่ไหนนะ...
โฮ่ง! โฮ่ง! คนกำลังใช้ความคิด ไอ้หมาบ้านี่ก็เห่าไม่เลิก
"หยุด!! เงียบ ๆ!!"
หงิง~~ โดยปกติแล้วหมาพันธุ์นี้จะอารมณ์ดี ฉลาด เพราะงั้น แค่พูดดัง ๆ มันก็เข้าใจ พอโดนตวาด ถึงขั้นหางลู่ หูตก ถอยกลับไปยืนข้างหลังนายของมัน ส่วนไอ้เจ้าแมวตัวขาวเจ้าปัญหา มันยังคงขู่ฟ่อขนพองอยู่ข้างหลัง ทั้งที่ตัวสั่น
"sorry!!..you!!?...คุณเนส!! เจอกันอีกแล้ว" เจ้าของหมาที่กำลังก้มหอบเงยหน้าขึ้นมา พอเห็นว่าคู่กรณีตัวเองเป็นใคร ก็ฉีกยิ้มออกมาทันที
"นายอีกแล้วรึ!!? ทำไมถึงไม่จับหมาของตัวเองเอาไว้ให้ดี ปล่อยให้มาวิ่งไล่แมวของคนอื่นได้ยังไง!!?" ประโยคยาวเหยียดที่อีกฝ่ายพูด ทำเอาคนที่ยังไม่ถนัดกับภาษาไทยถึงกับยืนนิ่ง ปากที่ฉีกยิ้มอยู่เมื่อครู่ ก็เลยกลายเป็นยิ้มแหย ๆ แทนเพราะฟังไม่ทัน ยกมือเกาหัวตัวเองแกรก ๆ
"หมา..ไม่ใช่ของผม แล้วแมว..ของคุณ..?" ธีโอชี้ไปทางแมวสีขาวปลอด ที่อีกฝ่ายอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขนเป็นเชิงถาม แต่หมอเนสก็ส่ายหน้าแทนคำตอบ มันยังสะบัดหางของตัวเองไปมาอย่างหงุดหงิด ส่วนไอ้โกลเด้นตัวโต มันคงลืมเรื่องหงุดหงิดเมื่อครู่ แล้วหันไปนอนเกลือกกับพื้นทรายแทน
ตอนที่กำลังจะออกมาถ่ายรูป กำลังเล็งกล้องถ่ายโน่นนี่อยู่ ธีโอก็เหลือบไปเห็นว่ามีหมาตัวโต กำลังวิ่งไล่แมว ขามันก็ออกวิ่งตามทั้งสองตัวมา ไม่รู้ว่าซวยอะไรเหมือนกัน แต่ตอนนี้ คงต้องขอบคุณมันทั้งสองตัวเสียแล้ว ที่ทำให้ได้มาเจอใครบางคนเข้า ใครบางคน...ที่อยากเจอ...
"หมา แมวของใครวะ ปล่อยให้ออกมาวิ่งไล่กันแบบนี้" เสียงบ่นพึมพำ พร้อมใบหน้าที่ดูก็รู้ว่ากำลังหงุดหงิด แต่ฝ่ามือก็ยังคงลูบหัวเจ้าแมวสีขาวเหมือนจะช่วยปลอบ
"จะปล่อยเอาไว้แบบนี้ได้เหรอ..?" ธีโอหันมาถาม พร้อมกับเอื้อมมือไปคว้าเชือกที่คล้องคอเจ้าโกลเด้นไว้ กลัวว่ามันจะวิ่งซนไปไหนอีก
"คงต้องเดินย้อนกลับไปทางเดิม ที่มันสองตัววิ่งมา.." คงเป็นหมาแมว ของซักบ้านแถวนั้น แล้วเผลอให้มันหลุดออกมาวิ่งเริงร่าข้างนอก ดูจากสภาพแล้ว มันทั้งคู่มีปลอกคอจะต้องมีเจ้าของแน่
สายตาของหมอเนสเหลือบไปเห็น ว่าที่ฝ่าเท้าของไอ้เด็กโข่งลูกครึ่ง มันยังพันผ้าเอาไว้ จากผ้าพันแผลสีขาว ตอนนี้แทบจะกลายเป็นสีเดียวกับทราย เก่งนะที่ยังวิ่งมาได้ แล้วยังจะมายืนจ้องหน้าตาแป๋ว..คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือก ไอ้เจ้าเหมียวมันก็จิกเล็บไปบนแขน อย่างเจ็บอ่ะ
แชะ แชะ
กว่าจะรู้ตัว ธีโอก็ยกกล้องที่ห้อยอยู่ที่คอตัวเองขึ้นมา แล้วกดชัตเตอร์ไปหลายครั้ง จนกระทั่งอีกฝ่ายรู้ตัวหันมามองด้วยสายตาดุ ๆ ก็เพิ่งจะเคยเห็น..รอยยิ้มอ่อนโยนแบบนั้นครั้งแรก ตั้งแต่เจอกันมา ถ้าไม่รีบเก็บไว้ก็กลัวจะไม่ทัน...
"ถ่ายรูปทำบ้าอะไร เดี๋ยวก็เก็บค่าลิขสิทธิ์ซะหรอก!!" หมอเนสหันไปตวาดไอ้ตากล้องมือบอน แค่แวบเดียวที่ก้มไปดูไอ้เจ้าเหมียว ไม่รู้มันจะถ่ายเอาไปทำไมของมัน
"เก็บค่า..? เออ!!..ชอบแมว" ยังไม่รู้หรอกว่าที่อีกฝ่ายพูดมันหมายถึงอะไร แต่ก็รู้ตัวว่าต้องโดนโกรธแน่ ก็เลยต้องหารีบเรื่องมากลบเกลื่อน โดยการชี้ไปที่แมวตัวนั้นแทน แล้วก็หันไปกดชัตเตอร์ถ่ายเจ้าหมาอีกที หันมาอีก แมวก็โดนอุ้มไปโน่นแล้ว
"ช้าอีก เอาไอ้เจ้านั่นมาด้วย จะไปหาไหมเจ้าของหมานะ!!?" ได้ยินแค่นั้น ธีโอก็รั้งเชือกที่คล้องคอไอ้เจ้าโกลเด้นไว้ แล้ววิ่งตามหลังคนที่อุ้มแมวไปทันที
ธีโอต้องเดินตามหลังอีกฝ่ายสองสามก้าว เนื่องจากไอ้เจ้าเหมียวมันระแวง และส่งเสียงขู่ตลอดเวลา เหลือบเห็นรอยข่วนที่แขนคนอุ้มหลายที แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมปล่อยมันลงไป ใช้มือลูบหัวและเกาคางจนมันยอมซบอยู่ที่อก ให้อุ้มอยู่แบบนั้น เพิ่งจะเข้าใจ..ว่าโลกนี้มีคนตั้งมากมายที่เดินสวนกันบนท้องถนน แต่จะมีอยู่เพียงคนเดียวที่แตกต่างจนเรามองเห็น แม้จะเป็นเพียงแผ่นหลังที่เผลอมองอยู่ตอนนี้ก็ตาม
เสียงโหวกเหวกที่ได้ยิน ทำเอาหมอเนสหันไปมอง แม่ลูกคู่หนึ่งที่ออกมาตามหาเจ้าเหมียวกับเจ้าตูบ สรุปว่าเป็นเจ้าของคนเดียวกัน เผลอปล่อยให้เจ้าเหมียวออกมาข้างนอกแป๊บเดียว วิ่งไล่กันออกไปนอกบ้าน จนต้องออกมาตามหากันถึงนี่ ทั้งสองขอโทษขอโพยพร้อมกับขอบคุณ ก่อนจะรับเอาไอ้ตัวก่อเรื่องทั้งคู่กลับไปบ้าน
"เสร็จเรื่องซักที ต้องเดินกลับไปที่รถอีก!!" หมอเนสบ่นพึมพำกับตัวเอง มากกว่าที่จะหันไปพูดกับเด็กโข่งที่ยืนงงอยู่ตั้งแต่เมื่อกี้ แต่หันหลังให้ ธีโอก็วิ่งเข้าไปคุยกับเจ้าของบ้าน ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร เพราะหมอเนสตั้งใจแค่จะเดินกลับรถ
"คุณเนส..!!" ธีโอตะโกนเรียกเอาไว้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินตัวปลิวกลับไปทางเดิม
"อะไร..!!?" พอหันกลับไปมอง ไอ้เด็กโข่งมันก็วิ่งมาถึงตัวแล้ว ...จะขายาวไปไหนฟ่ะ
"ขอบคุณครับ.." หมอเนสเลิกคิ้วมองอย่างงุนงง
"ขอบคุณทำไม..ยังไม่ได้ช่วยอะไรซักหน่อย" ธีโอฉีกยิ้ม ก่อนจะยื่นผ้าขนหนูชุบน้ำบิดหมาด ๆ ที่ตัวเองที่วิ่งไปขอมาจากเจ้าของไอ้สองตัวนั้นมาได้ ให้คนตรงหน้า ยิ่งมองเห็นรอยข่วนที่แขนก็ยิ่งร้อนใจ นึกโมโหตัวเองที่น่าจะรับเจ้าเหมียวนั่นมาอุ้มไว้เอง
"เจ็บไหม..?" คำถามธรรมดา แต่คนฟังกลับต้องเหลือบตามองตอนที่รับเอาผ้าผืนนั้นมาเช็ดที่แขน หมอเนสอยากจะสวนออกไปเหมือนกันว่าทั้งเจ็บทั้งแสบ แต่พอเห็นสีหน้า และแววตาเหมือนหมาหงอยของอีกฝ่าย ก็ทำเป็นใจร้ายไม่ลง เลยต้องพยักหน้าแทนคำตอบไป
"ไม่เจ็บมากหรอก ขอบใจ.." ไอ้เจ้าหมาลูกครึ่งตัวโตมันก็ยังไม่ยอมเงยหน้าไปจากแขนเสียที ทำยังกับว่าตัวเองเป็นคนทำเองอย่างงั้น
"อืม..ยังไม่ได้ช่วยซักหน่อย.." ประโยคเดิมที่พูดไปเมื่อกี้ มันกลับเอามาย้อนกลับได้ พร้อมกับรอยยิ้มกว้างจนตาปิด ทั้งที่อาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า แต่ทำไมดูเหมือนภาพตรงหน้ามันสดใส เหมือนตอนเช้าที่พระอาทิตย์กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมา
"จะกลับแล้ว...ไปด้วยกันไหม รีสอร์ทที่พัก ทางผ่านพอดี" หลังจากพูดจบนั่นแหละ หมอเนสก็เลยสรุปเอาว่าตัวเองตาฝาด เพราะจากพระอาทิตย์ขึ้น ก็กลายเป็นไอ้ตูบหูตั้งขึ้นมาทันที ไอ้เด็กโข่งพยักหน้ารัว พร้อมกับรอยยิ้มจนคนมอง เกือบจะยิ้มตาม ต้องหันหลังให้ แกล้งเดินกลับไปที่รถ โดยมีไอ้เด็กนอกตัวโตก้าวตามมาติด ๆ
"ผม..อยากเรียนภาษาไทย.." ธีโอหันมาบอกตอนที่ก้าวขึ้นไปนั่งเรียบร้อยข้างคนขับ
"เรียนทำไม เดี๋ยวนายก็กลับ รู้แค่นี้ก็พอ.." คนตัวโตที่อุตส่าห์อ้อน ทำเสียงหงุงหงิงฟังไม่ออกว่าพูดอะไร จนรถเคลื่อนตัวออกไป เมื่อไม่มีประโยคพูดต่อ ต่างคนก็ต่างเงียบ จนกระทั่งเหมือนไอ้เด็กโข่งมันจะนึกอะไรขึ้นมาได้
"คนที่ผมชอบ เค้าพูดภาษาไทย อยากพูดกับเค้า ก็เลยต้องเรียน" ธีโอสารภาพเสียงอ่อย แต่คนฟังกลับใจเต้นเป็นจังหวะแปลก ๆ ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้เอ่ยชื่อออกมา แต่แววตาระยิบระยับที่มองมา ทำเอาสมาธิในการขับรถกระเจิงได้ง่าย
"มีแรงจูงใจแบบนี้เอง แล้วถ้าเกิดว่าเลิกกันขึ้นมา ไม่เกลียดภาษาไทยไปเลยรึ" หมอเนสถามกลับ ทำเอาไอ้เด็กตัวโตทำหน้าจ๋อยอีกรอบ ซักพักถึงได้ยินเสียงถอนหายใจยาวเหยียด
"เค้าคงยังไม่รู้ แต่..ผมไม่เกลียดภาษาไทย รู้เอาไว้ เป็นสิ่งดี.." คำพูดที่เหมือนกับว่าที่นิ่งไป มันไปนั่งคิดหาคำแปลมา คนฟังหลุดหัวเราะออกมาจนได้ ธีโอเหลือบมองใบหน้าของคนที่กำลังหัวเราะ ราวกับว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่หาดูได้ยาก
"เอาชื่อภาษาไทยไปก่อนไหม เดี๋ยวตั้งให้.." หมอเนสหันมาถาม ตอนที่จอดรถตรงหน้าทางเข้ารีสอร์ท
"ชื่อผม...ภาษาไทย?" ไอ้เด็กโข่งพยักหน้ารับทันที ที่เรียบเรียงประโยคให้ตัวเองเข้าใจได้ สายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของคนที่บอกว่าจะตั้งชื่อให้
"ถ้ามีเวลา จะช่วยสอนภาษาไทยให้ ส่วนชื่อนายเอาเป็น..แตงกวา..โอเคไหม" ยังไม่ทันจะได้คิดถึงความหมายของมัน ธีโอก็พยักหน้ารับไปก่อนแล้ว ยิ่งได้ยินประโยคแรก ๆ ที่ว่าจะช่วยสอนก็ดีใจแทบแย่ ก่อนจะเปิดประตูรถลงไปอย่างเสียดาย
"ขอบคุณครับ.." คนที่ขับรถมาส่งยังคงอมยิ้มอย่างอารมณ์ดีซะเหลือเกิน ก่อนจะโบกมือให้ แล้วก็ขับรถออกไป
ธีโออมยิ้มแก้มแทบปริ ยืนมองจนกระทั่งรถของหมอเนสลับสายตาไป กำลังปลาบปลื้มกับชื่อใหม่ของตัวเอง แล้วพอมานั่งคิดไปคิดมา ถึงความหมายของมันแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน ทำไม...ต้องแตงกวา..!!?
"แตงกวา...cucumber!!?" ยังคงได้ยินเสียงพึมพำตลอด ตั้งแต่ทางเดินเข้ารีสอร์ท พร้อมกับเปิดรูปที่อยู่ในกล้องดู.. ที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะถามถึงความหมายของชื่อตัวเองในคราวหน้า ก็ลืมไปซะสนิท ตั้งแต่เห็นรูปใครบางคน ที่กำลังยืนยิ้มกับแมวสีขาว ในอ้อมแขน...
หมอเนสเหลือบมองกระจกหลัง เห็นว่า'แตงกวา'ที่ตัวเองเพิ่งจะตั้งชื่อให้ ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แปลกใจตัวเอง ที่ดันไปรู้สึกแปลก ๆ กับรอยยิ้ม แล้วก็สายตาระยิบระยับแบบนั้นได้ แต่...ที่แน่ ๆ ความเหงาที่มันก่อตัวขึ้นก่อนหน้านั้น ถูกลืมเลือนไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ไม่บ่อยนักหรอกที่จะได้หัวเราะเต็มที่กับคนอื่นแบบนี้...ทำไมกันนะ..
===================
แหะ แหะ คือแบบว่าตอนนี้ไม่รู้จะว่าไงดี
ยกให้เจ้าสองตัวนั่นเป็นพ่อสื่อก็แล้วกัน (เอามาตั้งชื่อตอนมันซะเร้ยยยย)
ว่าแต่...ตัวละครข้าพเจ้า Import ทั้งสองคนเลยนี่หว่า
ไม่เสียดุล ๆ หึหึ จะยังไง ไว้ติดตามกันต่อไป
แอบกอด ก่อนไป ฟิ้วววววว
แวะมาแก้ข่าว
อ่านไปสองสามเม้นท์ ไม่ไหว..ฮาน้ำหมากแทบพุ่ง กร๊ากกกกกก
จำได้ว่าเค้าเคยบอกไปแล้วนะ ว่า"แตงกวา"มันคือชื่อ..น้องหมาของหมอเนส
รู้นะว่้าคิดอะไรอยู่ 555
ไม่ไหว ๆ ปวดแก้มเหลือทนแล้วนั่น