คนอ่านน่ารัก เลยมาโพสให้อีกตอน
:m15:ถึงบอลจะแพ้ แต่เราจะโพสต่อไป
----------------------------------------------------Title : จอมไตรซีรี่ส์-คนมืดมนที่หลงรักคุณหมดใจ
Chapter : 6“ลงมา”
ทันทีที่จอดรถคุณไม้ก็ลงจากรถและมาเปิดประตูด้านผม พร้อมออกคำสั่ง
มีหรือผมจะเชื่อ คุณไม้เลยลากแขนผมลงจากรถพาเข้าไปในบ้าน
แขนผมแทบจะหักเพราะโดนลากไปลากมาหลายทีแล้ว
“อยู่สงบจิตสงบใจที่นี้สักพักแล้วกัน”
บ้านที่คุณไม้พามาเป็นบ้าน1ชั้นใต้ถุนยกสูงหลังเล็กๆ สร้างด้วยไม้ ใกล้ๆมีทางน้ำที่ขุดเชื่อมมาเพื่อนนำน้ำมาใช้ที่บ้านนี้ได้สะดวกขึ้น อาณาเขตของที่ๆผมอยู่ทำให้ผมนิยามที่นี้ได้ทันที่ว่า บ้านกลางป่า
“พามาที่นี้ทำไม”นึกโมโหอยู่ที่โดนพามาในที่ๆไม่รู้จัก
แต่ก็พยายามไม่พูดด้วยอารมณ์ เขาคิดอะไรของเขาอยู่นะคุณไม้ หรือจะพาเรามาฆ่าทิ้ง
“ดัดนิสัยนายน่ะสิ”
ตอบโดยไม่หันมามองหน้าผม สายตาคุณไม้มองไปรอบๆบ้านราวกับจะสำรวจ
แต่ดัดนิสัยบ้าอะไรอีกล่ะ ผมยังไม่เข้าใจจนประโยคถัดมา
“ถ้าคิดว่าอยู่คนเดียวได้ก็เอา อยู่มันที่นี้ล่ะ ตามสบาย ฉันไปก่อนนะ”
พูดจบคุณไม้ก็เดินลงจากบ้านและขับรถออกไป ทิ้งผมที่ยังปะติดปะต่อเรื่องไม่ได้นั่งอึ้งอยู่ที่กลางบ้าน พอเวลาผ่านไปสักห้านาทีก็เพิ่งตระหนักได้ว่า ผมโดนคุณไม้เอามาปล่อยกลางป่าซะแล้ว แล้วมันเรื่องอะไรผมถึงต้องโดนปล่อยป่าแบบนี้ล่ะ “ดัดนิสัย” ผมเหมือนจะได้ยินคุณไม้พูดแบบนั้นนะ แล้วทำไม ทำไมผมต้องมาโดนคนอายุน้อยกว่าดัดนิสัยด้วยเล่า
...............................................................................
ผมรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าคุณไม้จะไม่กลับมาทีนี้อย่างน้อยก็อีกสองวัน และผมต้องอยู่ที่นี้โดยมีแค่อาหารแห้งนิดหน่อยที่เก็บอยู่ในตู้กับข้าว ข้าวสารเล็กน้อย ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ไม่มีร้านขายของ
คุณไม้คงคิดว่าผมอยู่ไม่ได้ล่ะสิ แค่คิดว่าคุณไม้จะสะใจแค่ไหนที่เห็นผมอยู่ในสภาพทนอยู่ที่นี้ไม่ได้ผมก็ฮึดขึ้นมา รู้จักผมน้อยไปซะแล้ว
ตอนแรกผมคิดว่าจะไม่ขยับไปไหน ไม่กินไม่นอนถ้าผมตายขึ้นมาคุณไม้จะรู้สึกยังไงนะ เขาจะรู้สึกเสียใจบ้างหรือเปล่า
แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ทำไมผมต้องมาตายเพราะคนๆนี้ ผมรักคุณไม้ก็จริง แต่คุณไม้ไม่เคยรักผม เกลียดผมด้วยซ้ำ ผมจะทำให้เขาเห็นว่าผมอยู่ได้ ต้องไม่ให้เขามาดูถูกผมได้
ผมเริ่มลงมือเก็บที่นอนก่อนเป็นอย่างแรก บ้านถูกจัดไว้อย่างดี ดูแล้วก็รู้ว่าเคยมีคนมาอยู่ที่นี้ถึงไม่บ่อยนัก ที่นอนและผ้าห่มมีฝุ่นบ้าง แต่ก็ไม่มาก ตู้เสื้อผ้าเล็กๆมีผ้าปูที่นอน และปลอกหมอน รวมถึงเสื้อผ้าที่ผมเดาว่าคงเป็นของคุณไม้ ห้องน้ำอยู่ส่วนหลังของบ้านก็ดูสะอาดดี แต่ในบ้านไม่มีเครื่องมือที่ใช้ปรุงอาหาร คงอยู่ข้างล่าง ผมเดินลงไปสำรวจข้างล่างและพบเตาถ่าน กระทะ จานช้อนส้อม ใต้ถุนบ้านมีกระสอบใส่ถ่านที่เหลือถ่านอยู่ครึ่งกระสอบ และน้ำมันใส่ตะเกียง อ่า...จริงสิ ผมเห็นมันในห้องนอน
แค่นี้ก็เกินพอแล้วสำหรับผม ลำบากกว่านี้ผมก็เคยมาแล้ว ก็ตอนที่มาอยู่คนเดียวสมัยม.ต้น ไม่มีเงินจ่ายค่าไฟโดนตัดประจำ ดีที่เป็นห้องน้ำรวมเลยไม่โดนตัดน้ำก็เท่านั้น ข้าวปลานี่ไม่ต้องพูดถึง อดมื้อกินมื้อมาตลอด บางทีไม่ได้กินข้าวสองวันติดกันก็เคยมาแล้ว อยู่ที่นี้ ไม่ได้ลำบากซักเท่าไหร่เลย
ที่ผมเป็นห่วงมากที่สุดคือความปลอดภัยน่ะสิ กลางป่าแบบนี้ไม่รู้จะเจออะไรบ้าง เกิดเสือโผล่มาจะทำไงล่ะเนี่ย
ผมทำความสะอาดบ้าน ตักน้ำจนเต็มโอ่งในห้องน้ำ แล้วก็อาบน้ำมันซะเลย ถึงจะพูดว่าทางน้ำแต่ก็กว้างและลึกพอประมาณทีเดียว ผมขึ้นจากน้ำในสภาพเปียกโชก นี่ผมต้องใส่ชุดคุณไม้สินะ ผมเปลี่ยนชุดแล้วเอาเสื้อผ้าไปตาก แล้วลงมาต้มมาม่ากินครึ่งซอง อีกครึ่งเก็บไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าคุณไม้จะมาอีกเมื่อไหร่ ไม่รู้ผมจะออกจากที่นี้ได้วันไหน ถ้าอาหารหมดขึ้นมาล่ะจะยุ่ง
....................................
จนสี่วันผ่านไปคุณไม้ก็ยังไม่มา ผมอยู่โดยไม่ทุกข์ร้อนนัก ถึงต้องอยู่คนเดียว และออกจะลำบาก ที่ผมเป็นห่วงคือคนอื่นๆ น้ำตาลจะสบายดีไหม ปามจะมีเรื่องอะไรกับท่านประธานอีกรึเปล่า ผมนึกถึงคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยๆ อยู่คนเดียวเวลาว่างก็เลยเยอะ ตอนที่อยู่ที่บ้าน ก็รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว แต่ก็ยังได้พูดคุยกับคนข้างห้องบ้าง คนที่ทำงานบ้าง ปามโทรมาบ้าง แต่มาอยู่ที่นี้ เป็นการอยู่คนเดียวอย่างแท้จริง ไม่มีใครให้พูดด้วย ไม่มีโทรศัพท์ให้โทรหาใคร คนๆเดียวที่เหมือนจะติดต่อกับผมได้ก็ไม่มาซักที คำว่า เหงา เริ่มแทรกเข้ามาในจิตใจ
ไม่ได้ ผมจะรู้สึกอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นก็เข้าทางคุณไม้น่ะสิ
ระหว่างที่ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้นก็มีเสียงกุกกักดังออกมาจากนอกห้อง
คุณไม้รึเปล่านะ
เสียงฝีเท้าที่ดังด้านนอกบอกจำนวนคนที่มากกว่าหนึ่ง หรือคุณไม้จะมากับใคร เสียงฝีเท้าเดินเลยห้องนอนไปยังส่วนท้ายบ้าน มีเสียงรื้อข้าวของ
มาตอนนี้ผมแน่ใจแล้วว่าคงไม่ใช่คุณไม้แน่
พยายามมองหาทางหนีทีไล่แต่ก็ไม่เจอ เสียงฝีเท้าตรงมาที่ห้องนอนและลูกบิดถูกจับ
“ล๊อกว่ะ”
เสียงคนข้างนอกตะโกน ไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าตรงมาที่หน้าห้องอีก เสียงกุกกักหน้าประตูพอจะบอกได้ว่าคนข้างนอกพยายามจะเข้ามาข้างใน ผมหาที่ซ่อนตัว แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องโดนเจอแน่ๆ มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วตัดสินใจกระโดดลงไป ดีที่พื้นไม่สูงนัก ผมออกวิ่งทันที และไปหยุดอยู่หลังต้นไม้ไม่ไกลจากตัวบ้านนักพลางลอบมองเข้าไปในห้อง มีแสงสว่างลอดออกมาแปลว่าพวกนั้นเข้าไปในห้องได้แล้ว ผมมองอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งแสงดับไป
ผมนั่งลงโดยหันหลังพิงต้นไม้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ถ้าผมไม่โดดลงมาจากห้องจะเป็นไงไม่รู้ พวกมันอาจจะฆ่าผมตายก็ได้ ผมนึกอย่างอกสั่นขวัญแขวน
ถ้าผมตายจะมีคนเสียใจไหม ผมไม่รู้หรอก แต่ตอนนี้ที่ผมนึกออกคือ ผมยังไม่อยากตาย หากผมต้องตายจริงๆก็ขอผมกลับไปกอดน้ำตาลอีกสักครั้ง ผมจะบอกว่าผมรักแกมากแค่ไหน ผมอยากจะไปบอกปามก่อนว่า สำหรับผมปามเป็นเพื่อนที่ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว อยากบอกพี่กุ้งกับพี่กั้งว่าผมดีใจแค่ไหนที่ยังมีญาติที่ต้องการผมอยู่ อยากบอกคุณไม้ว่าผมรักเขา...
.................................................
“นี่นาย นาย ตื่น นี่”
ผมโดนเขย่าอย่างแรงจนรู้สึกตัวตื่น
“ไม่เป็นไรนะ”
เสียงคุณไม้พูดอย่างเป็นกังวล ผมมองรอบๆตัวอย่างมึนๆ เช้าแล้วนิ่ พยายามเรียบเรียงความคิด เมื่อคืน อ๊ะใช่ เมื่อคืนมีคนเข้ามาในบ้านนิ่ ผมกำลังจะอ้าปากพูดคุณไม้ก็อุ้มผมขึ้นซะก่อน
“เฮ้ย! คุณปล่อยผมนะ”
“ไม่เป็นไรใช่ไหม”
ผมมองไปที่หน้าบ้านมีรถจอดอยู่สองคัน คันนึงเป็นของคุณไม้ แล้วอีกคันละ
คุณไม้อุ้มผมขึ้นบ้านอย่างง่ายดาย ผมที่ดิ้นมาตลอดทางกลับต้องกลายเป็นเกาะคุณไม้ไว้แน่นก็ตอนขึ้นบันไดบ้านเนี่ยแหละ
“เจอแล้วหรือ”
ผู้ชายในเครื่องแบบตำรวจยืนอยู่กลางบ้าน เงยหน้าจากสมุดจดมาถามคุณไม้ คุณไม้พยักหน้าแล้วพาผมไปนั่งบนเก้าอี้
“อยู่ตรงนี้ก่อนนะ”
พูดจบก็เดินไปหานายตำรวจอีกครั้ง สองคนคุยกันหน้าเครียด ในบ้านยังมีตำรวจอีกสามคน ผมมองไปทางหลังบ้านที่เจ้าหน้าที่สองคนกำลังตรวจสอบอยู่ ข้าวของถูกรื้อกระจายจนหมด ห้องนอนที่เปิดประตูทิ้งไว้ก็โดนรื้อด้วยเช่นกัน
“คุณกานทขอสอบถามเรื่องเมื่อคืนหน่อยได้ไหมครับ”
นายตำรวจที่คุยกับคุณไม้เดินมาหาผม คุณไม้หายไปไหนแล้วไม่รู้
“ครับ”
ผมตอบทั้งที่ยังมองหาคุณไม้อยู่ ถึงมันจะผ่านเรื่องเมื่อคืนมาแล้ว ถึงจะมีตำรวจอยู่ แต่ผมก็อุ่นใจมากกว่าหากมีคุณไม้อยู่ในสายตา
“ไม้ลงไปหาอะไรอุ่นๆให้คุณดื่มน่ะครับ”
คุณตำรวจเหมือนจะรู้ความคิดผม จากนั้นเขาก็ถามเรื่องเมื่อคืน ผมเองก็ตอบเท่าที่ผมรู้เท่านั้น ไม่นานคุณไม้ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมแก้วในมือสองใบ ส่งให้คุณตำรวจใบนึ่งแล้วจึงส่งอีกใบให้ผม
กลิ่นกาแฟผสมโกโก้ลอยขึ้นมาจากแก้ว ผมจิบดื่มช้าๆ คุณไม้ลงนั่งที่เก้าอี้ตัวเดียวกับผม และคุยกับคุณตำรวจ จากที่ผมฟังก็พอเดาได้ว่าเขาสองคนรู้จักกันมาก่อนหน้านี้ คุณตำรวจว่าคุณไม้ที่ทิ้งผมไว้ที่นี้คนเดียว เพราะช่วงนี้โจรเริ่มออกปล้น เมื่อคืน หมู่บ้านข้างล่างก็โดนปล้น ดีว่าเด็กและผู้หญิงหนีไปซ่อนในป่าหมดแล้วโจรจึงได้ไปแค่ข้าวของเงินทองเท่านั้น คิดว่าระหว่างทางพวกโจรเห็นบ้านหลังนี้เข้าก็เลยมาแวะเข้ามารื้อข้าวของ
“ดีนะที่คุณกานทหนีไปซะก่อน ไม่งั้นไม่รู้จะเจออะไรบ้าง”
คุณตำรวจพูดเหมือนบ่นซะมากกว่า
.........................TBC....................................