ตอน ยอมให้นายทุกอย่าง
ผมนั่งลังเลอยู่นานว่าจะทำหรือไม่ทำแต่จะให้ผมใช้วิธีไหนล่ะที่จะได้เงินครั้งละมากๆ และเร็วอย่างนี้ เสียงของคนที่เรียกว่าพ่อยังก้องอยู่ในหูของผมอยู่เลย แม้ว่าผมจะว่างสายไปนานแล้ว ว่าเขาอยากได้เงินแค่ไหน ถึงจะเป็นคำที่คุ้นจนชินหูแต่ทุกครั้งที่ได้ยินมันก็ทำให้ผมต้องมานั่งปวดหัวอย่างนี้ทุกครั้ง และเมื่อผมให้ในสิ่งที่เขาต้องการไม่ได้ผมก็จะถูกต่อว่าเป็นลูกอกตัญญู
แม้ว่าสิ่งที่ผมเลือกที่จะทำมันเป็นสิ่งที่ผมหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ทุกครั้งที่ผมทำมัน ผมก็รู้สึกรังเกียจตัวเองทุกครั้ง และถ้าหลีกเลี่ยงได้ผมก็จะหลีกเลี่ยงที่จะทำเอง ผมนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองจนไม่ได้สนใจในสิ่งรอบข้างเลย จนกระทั้งมีใครคนหนึ่งเดินมาจับที่บ่าของผม
“กลับบ้านได้แล้วครับคนเก่งรู้ไหมว่าพี่ตามเราจนเหนื่อยแล้วนะ”
ผมหันหน้ากลับไปตามเสียงที่ได้ยินแล้วรีบถอยหลังหนีทันที พร้อมกับสะบัดไหล่ของตัวเองเพื่อให้หลุดจากมือของมัน ผมตะลึงกับคนที่มาจับบ่าของผม คนที่ผมเพิ่งเจอเมื่อตอนเย็นก่อนที่ผมจะมาเที่ยวนี่เอง คนที่ทำให้ผมรู้ว่าความต่างชั้น มันเป็นอย่างไง
“มึง....”
ด้วยความตกใจทำให้ผมถึงกับพูดไม่ออก
“บอกให้เรียกพี่ไงครับ...ทำไมลืมง่ายอย่างนี้ครับไม่น่ารักเลย”
แม้ว่าผมจะสถบคำหยาบใส่มันสักเพียงใด ไอ้กันต์มันก็ไม่เคยจะสำนึกหรือทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของมันหายไปได้เลย รอยยิ้มที่ผมมองกี่ครั้งผมก็ยังกลัวอยู่ดี
“มึงตามกูมาทำไม”
ผมไม่สนใจในสิ่งที่มันบอกหรอก ผมแค่อยากรู้ว่ามันตามผมมาทำไม
“จะไม่ให้ตามมาได้ไงครับ ก็เมียทั้งคนจะไม่ให้ตามดูได้อย่างไง แล้วก็กลับบ้านได้แล้วครับ อย่าให้พี่ต้องใช้กำลังอีก คืนนี้เราต้องมีอะไรที่จะต้องคุยกันอีกยาว”
มันเดินมาจับแขนผมขณะที่ผมกำลังงง และมึนอยู่ สมองของผมสั่งการช้ามากคงมาจากเหล้านั้นเองที่ทำให้ผมเป็นอย่างนี้ ผมยังไม่คิดจะปฎิเสธมันเลยมันก็มาถึงตัวผมแล้ว
“ไม่.....กูไม่มีอะไรจะคุยกับมึงปล่อยกูนะ”
ผมทั้งดิ้น ทั้งสะบัดแขนเพื่อให้มือมันหลุดจากแขนของผม แต่ยิ่งดิ้นมันก็ยิ่งจับแน่นขึ้น จนผมรู้สึกเจ็บ
“ปล่อยกูเจ็บไอ้...สัด กูเจ็บ”
แต่มันก็ไม่สนใจผมเหมือนกันมันลากผมมาที่รถของมันที่จอดอยู่ไม่ไกลจากตรงที่ผมนั่งพักอยู่ ทำไมผมไม่ทันสังเกตเลยว่ามันตามผมมาตลอดและมันก็เข้ามาใกล้ผมอย่างไม่น่าเชื่อ ใกล้ขนาดที่ว่าหายใจรดต้นคอกันเลยที่เดียว คงเป็นเพราะผมมั่วกังวลอยู่กับเรื่องวิธีที่จะหาเงินนั้นเองเลยไม่ได้สังเกตเห็นมัน
“ไม่ปล่อย...อย่าทำให้พี่โมโหนะครับ ตอนที่อยู่ในร้านพี่เห็นนะว่าทำอะไร เห็นผู้ชายเป็นไม่ได้เห็นคุยกันสนุกสนาน ทำไมถึงร่านอย่างนี้ละครับ ไหนบอกว่าไม่ชอบผู้ชายไงครับ ทำไมไปจับมือกับไอ้หมอนั้นได้ แล้วยังที่ขึ้นไปเต้นบนเวทีอีกล่ะ”
นี่...มันรู้ลึกรู้จริงขนาดนี้ ผมว่ามันต้องตามผมมาตั้งแต่อยู่ในร้านแล้วล่ะ ไม่งั้นมันจะรู้พฤติกรรมทั้งหมดของผมได้อย่างไง แต่นั้นมันก็สิทธิของผม ไม่เกี่ยวกับมัน
“ก็เรื่องของกู กูจะทำอะไรก็ได้นี่มันชีวิตกู มึงอย่ามาเสือกได้ไหม แค่ที่ผ่านมากูก็วุ่นวายมากพอแล้ว ปล่อยกูไปเถอะ แค่นี่ยังไม่พอใจอีกเหรอ กูสัญญาก็ได้ว่ากูจะไม่ยุ่งกับไอ้บีมจริงๆ แม้แต่หน้ากูก็จะไม่ให้มันเห็น”
มันยิ้มให้ผมนิดนึงก่อนที่มันจะพูดว่า
“ไม่ครับ...สำหรับเรื่องของบีมพี่ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว”
“ไม่ติดใจแล้วทำไมมึงไม่ปล่อยกูไปล่ะไอ้สัด”
ผมด่ามันไปอย่า
รุนแรง หวังว่ามันจะปล่อยผมไป แต่เปล่าเลย
“เรื่องของบีมนะจบไปแล้วแต่เรื่องของเรานะ ยังไม่จบครับ มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นเอง”
“ไม่กูไม่เริ่มอะไรกับมึงทั้งนั้น เรื่องที่ผ่านมากูไม่โกรธมึงหรอกปล่อยกู”
ผมเริ่มดิ้นเพื่อให้หลุดจากมือของมัน คนที่ผ่านไปมาแถวนั้นก็มองๆ เหมือนกันแต่ไม่มีใครสนใจจะมาช่วยหรือแม้แต่ซักถามว่าเกิดเรื่องอะไรกันหรือเปล่า ผมคงต้องช่วยตัวเองแล้วล่ะ แต่ผลก็รู้ๆ กันอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันก็เหมือนเมื่อวันก่อนนั้นแหละผมไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย มีแต่ผมฝ่ายเดียวที่ต้องเจ็บ และเจ็บมากขึ้นกว่าเดิม
สุดท้ายผมก็ถูกโยนลงไปบนเบาะรถก่อนที่ไอ้กันต์มันจะออกรถ ผมนอนกุมท้องที่ถูกแตะจนจุกอยู่หลังรถของมัน จนกระทั้งมาถึงบ้านหลังที่มันเคยจับผมมานั้นแหละมันถึงได้ลากผมเข้าไปในบ้าน
“อยู่นิ่งๆ ซิ...อย่าดิ้นได้ไหม พี่ไม่อยากใช้กำลังอีกนะครับ”
ใครจะบ้านอนนิ่งๆ ให้มันถอดเสื้อผ้าให้กันละ พอมาถึงบ้านมันก็ลากผมขึ้นมาบนห้องของมันแล้วมันก็พลักผมให้ล้มลงบนที่นอนก่อนที่มันจะพยายามแก้เสื้อผ้าให้ผม
ผมพยายามดิ้นเพื่อไม่ให้มันทำอะไรผมได้
“อย่าทำ...ผมเลยขอร้องล่ะ”
แต่ไอ้กันต์เองมันก็ไม่ได้สนใจอะไร ผมเรียนรู้จากมันตลอดอาทิตย์ที่ผมโดนจับไปนั้นว่า...คนอย่างไอ้กันต์เวลาที่มันมีอารมณ์ทางเพศแล้วละก็ มันจะเหมือนสัตว์ป่า มันทำได้ทุกอย่างนั้นแหละ และหลักฐานที่ยืนยันได้ก็คือรอยแผลเป็นที่คอของผมไง
ผมรู้ว่ายังไงสุดท้ายผมก็ต้องยอมมันจนได้แม้จะไม่เต็มใจเลยก็ตาม ผมก็เลยขออะไรจากมันบางอย่างแลกกับการที่ผมต้องยอมมัน แม้ไม่อยากพูดคำนั้นออกไป มันเหมือนขายศักดิ์ศรีความเป็นคน แต่สุดท้ายผมก็ต้องเสร็จมันจนได้ ดังนั้นผมขอแลกกับสิ่งที่ครอบครัวผมต้องการ และผมกำลังจะหามาให้ได้จะดีกว่า
ใช่ว่าผมจะไม่เคยทำ แต่ไม่ใช่กับผู้ชายแต่เป็นผู้หญิง แต่ถ้ามันจะเสียแล้วก็ขออะไรคืนบ้างเถอะ
ตอนที่ผมขอไอ้กันต์มันก็ชะงักไปนิดหน่อยแต่สุดท้ายมันก็ยอมตกลง
“ก็ได้ครับถ้าน้องขิงต้องการมัน พี่ก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่พี่ขออะไรสักอย่าง ถ้าน้องขิงรับเงินจากพี่ไปแล้วน้องขิงจะต้องเป็นคนของพี่คนเดียวห้ามไปทำอย่างนี้กับใครอีก แล้วพี่จะให้ในสิ่งที่น้องขิงต้องการทุกอย่าง”
“ได้...ถ้ามึงให้ในสิ่งที่กูต้องการได้...กูจะเป็นคนของมึง จนกว่ามึงจะเบื่อกู”
ผมยอมรับข้อเสนอของมัน เพราะอย่างไงผมคิดดูแล้วว่าผมจะหนีมันไปถึงไหนผมก็คงจะหนีมันไม่พ้นแน่ๆสู้ยอมๆ มันไปเถอะอย่างน้อยผมก็จะได้ไม่ต้องดิ้นร้นเพื่อไปหาสิ่งที่คนในครอบครัวผมต้องการ ถ้าจะเสียแล้วก็ขออะไรคืนมาบ้างเถอะ ใช่ว่าจะไม่เคยเสียให้มันมาก่อน
“ถ้าอย่างนั้นน้องขิงก็ถอดเสื้อผ้าออกซิครับ พี่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย”
ผมค่อยๆ ถอดเสื้ออกอย่างอยากลำบากไม่ใช่เพราะว่าอายหรืออะไรหรอก แต่มันเจ็บไปทั้งตัวเพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี่เอง
“เจ็บมากหรือเปล่า พี่บอกแล้วว่าอย่าให้พี่โมโห เวลานั้นพี่จะลืมตัวทุกครั้งเลย”
มันเอามือของมันมาลูบบริเวณที่เป็นรอยช้ำจากแรงแตะของมัน ตามตัวผมเบาๆ
แล้วทุกอย่างก็เป็นเหมือนเดิม ตลอดเวลาที่ผมกับมันร่วมรักกัน ผมมีแต่ความเจ็บและทรมานจนถึงที่สุด ผมไม่มีแม้แต่อารมณ์ร่วมกับมัน แม้ว่ามันจะช่วยกระตุ้นทุกวิถีทางแล้วก็ตาม หรือแม้แต่ผมจะช่วยหลับตาแล้วจิตนาการว่ากำลังนอนอยู่กับผู้หญิงก็ตามแต่มันก็ไม่เป็นผล ความเจ็บมันคอยกระตุ้นความรู้สึกผมทุกครั้ง
ไอ้กันต์มันก็ใช้เวลารวมครึ่งชั่วโมงก่อนที่มันจะกระแทกอย่างแรงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่มันจะถอนน้องชายของมันออกไปจากตัวผม มันเป็นเวลาที่ทรมานเหมือนอยู่ในขุมนรกอย่างไงอย่างนั้น แม้ว่าผมจะไม่ได้ขยับตัวอะไรมากมายแต่ผมก็ยังรู้สึกเหนื่อยจนแทบก้าวขาไปห้องน้ำแทบไม่ได้
ผมเข้าไปในห้องน้ำแล้วรีบล้างคราบต่างๆ ออกจากร่างกายจนหมด แล้วออกมาใส่เสื้อผ้าเพื่อที่จะได้กลับห้องของผม อย่างน้อยวันนี้ผมก็ได้ทำหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว และพรุ่งนี้เงินจากน้ำพักน้ำแรงของผมจะได้ถูกส่งไปให้กับพ่อแม่ของผมอย่างที่พวกเขาต้องการ
“น้องขิงจะไปไหนครับ...”
ตอนที่ผมแต่งตัวเสร็จแล้วมานั่งรอเพื่อรับเงินในส่วนที่ผมสมควรจะได้ ไอ้กันต์มันก็ผงกหัวขึ้นมา เมื่อมันเห็นว่าผมแต่งตัวเสร็จแล้ว มันก็ใช้แขนของมันสองข้างผยุงตัวของมันขึ้นมาถามผม
“ก็กูทำงานเสร็จแล้วกูก็จะกลับบ้านนะซิ รอแต่ของที่ตกลงกันไว้เท่านั้นแหละ”
ผมบอกมันไป เมื่อทุกอย่างเสร็จแล้วจะให้ผมอยู่ทำไม
“ใครบอกว่าน้องขิงจะกลับได้ละครับ น้องขิงจะต้องอยู่ที่นี่”
“เฮ้ย......อะไรว่ะ กูไปตกลงอย่างนั้นกับมึงเมื่อไร กูแค่ยอมนอนกับมึงตอนที่มึงอยากเท่านั้นไม่รวมเรื่องอื่น แล้วตอนนี้กูก็ทำตามที่มึงต้องการเสร็จแล้ว กูก็จะกลับห้องกูมึงไม่มีสิทธิ์มาห้ามอะไรกูทั้งนั้น ถึงกูจะขายศักดิ์ศรีให้มึงแต่กูไม่ได้ขายชีวิตให้มึงนะโว๊ย”
“ถ้าน้องขิงคิดว่าจะรอดออกจากที่นี่ได้ก็ลองซิครับ...คนของพี่ก็ต้องอยู่กับพี่ห้ามขัดคำสั่ง ถ้าขัดคำสั่งนอกจากจะไม่ได้สิ่งที่ต้องการแล้ว น้องขิงเองจะเดือดร้อน”
“มึง...โกงกูนี่หว่า”
“ไม่ได้โกงครับ....แต่ถ้าน้องขิงอยากอยู่อย่างสุขสบายละก็ทำตามที่พี่บอกดีกว่าแล้วหน้าที่ของน้องขิงนะมันไม่ใช้ครั้งเดียวจบนะครับ”
ผมมาคิดทบทวนดูแล้วสิ่งที่ไอ้กันต์มันพูดไม่เคยมีสิ่งไหนที่เป็นไปไม่ได้ ไอ้กันต์มันทำได้ทุกอย่างที่มันพูดจริงๆ ท้ายที่สุดแล้วไอ้ความพยายามและความเคลียดที่ผมสะสมมาเพราะว่าต้องการหลบหนีจากมันก็เป็นสิ่งที่ศูนย์เปล่านะซิ สุดท้ายแล้วผมก็หนีมันไม่พ้นอยู่ดี
“ก็ได้...แต่ผมขอไปเก็บของก่อน”
“ไม่ต้องหรอกครับ...เดี๋ยวพี่จัดการให้หมดเลยซื้อของใหม่ดีกว่านะครับ คนของพี่ต้องไม่ใช้ของที่ไม่ดี ส่วนเรื่องเงินพี่จะให้ใช้เป็นอาทิตย์ส่วนเงินก้อนแรกพี่จะจ่ายให้พรุ่งนี้เช้า ตกลงนะครับคนเก่ง”
การที่เป็นคนไม่มีทางเลือกมันเป็นอย่างนี้ นี่เอง ผมหัวเราะให้กับตัวเอง สุดท้ายผมก็กลายมาเป็นผู้ชายที่มีเจ้าของหรือผู้ชายป้ายเหลือง แล้วแต่คนจะเรียกก็แล้วกัน และเจ้าของก็เป็นผู้ชายด้วย แต่จะเป็นด้วยสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้ผมต้องกลายสภาพมาเป็นอย่างนี้ ผมไม่โทษใครหรอก ผมเป็นคนเลือกเองทั้งหมด
ผมคงต้องยอมรับและทำใจกับสิ่งที่ผมเลือกเอง ไม่ต้องมาสงสารผมหรอก ชะตาชีวิตของทุกคนถูกกำหนดเอาไว้แล้ว และต่อไปนี้ผมก็จะต้องดำเนินชีวิตไปตามเส้นทางที่ผมเลือก