คิดถึงจังน้องจืด
ท่าจะสบายใจดีขึ้นบ้างแล้วนะ ใจเย็นๆ ค่อยๆ ค่อยแก้ไขปัญหาไปนะ ทุกปัญหามีทางออก ขอให้รู้สติในการกระทำนะ ในนี้มีหลายคนเป็นห่วงเป็นใยน้องจืดหลายคนที่เดียว ดูแลตัวและหัวใจตัวเองเผื่อคนในนี้ที่ห่วงใยน้องด้วยนะ
ดีใจที่กลับมา
คิดถึงเหมียนกัล พี่นัทนี่ต้องรู้จักจืดแน่ ๆ เลย สังหรณ์ใจยังไงไม่รุ้ มันแปลก ๆ อ้ะ
ยังไงก็ มีคนรัก ดีกว่า มีคนเกลียดหล่ะนะ เพราะตอนนี้ที่ทำงานเค้าคงจะเกลียดเรากันหมดแล้ว (โทษฐานที่แรงเกินไป อิอิ)
:m27:ต่อกันเลยละกัน ค้างสต๊อกไว้เยอะแล้ว
ตอนที่ 47 ระหว่างทางที่รถวิ่งมาเรื่อย ๆ นั้น ส่วนใหญ่ผู้โดยสารจะหลับกันหมดแล้ว อาร์ทก็หลับไปแล้วเหมือนกัน คงจะเพลียมากน่ะสิ ฉันก็ด้วยนะ แต่ก่อนที่จะหลับ ขอหอมแก้มสักฟอดแล้วกันนะ ดีที่ได้ความมืดช่วยพรางตาไว้ เลยทำได้ หุหุ
ฉันหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน แต่มารู้สึกตัวเอาตอนที่อาร์ทปลุกให้ตื่นนั่นแหละ ตอนนี้รถวิ่งมาจนจะถึงท่าเรือข้ามฟากไปยังเกาะช้างแล้ว
“จืด จืด ตื่นได้แล้วล่ะ” อาร์ทเขย่าแขนของฉัน
“อือออ ถึงแล้วหรอ” เสียงฉันยังงัวเงียอยู่
“จะถึงแล้วล่ะ เมื่อยตัวไปหมดเลยเนี่ย” อาร์ทบิดตัวขี้เกียจ ส่วนฉันก็เช็ดขี้ตาตัวเอง
“ยังไม่สว่างดีเลย กี่โมงแล้วเหรอ” อาร์ทมองดูนาฬิกาของเค้าเอง
“ตีห้าครึ่งแล้วล่ะ” อาร์ทเอาขวดน้ำมาให้ฉัน ฉันรับมันมาดื่ม ส่วนผ้าเย็นฉันไม่ได้เอามาเช็ดหน้าหรอก แต่เอาไว้เช็ดตามลำคอมากกว่า
“พวกนั้นตื่นรึยังน้า” ฉันหันไปดู ก็เห็นว่าตื่นกันหมดแล้ว
“อ๋า รถจะจอดแล้วล่ะอาร์ท” ฉันเอากระเป๋ามาเตรียมไว้ก่อน เพราะตอนนี้รถจอดแล้ว คนเริ่มทยอยลงกันไปหมดแล้ว เหลือแต่กลุ่มเราที่นั่งอยู่แถว ๆ หลัง ก็เริ่มเดินลงตามไป
“โอ้ยยยย เมื่อยชิบ...เลย” เสียงอิตั้มกรีดร้อง เอ้ย บิดตัวคลายความตรึงของกล้ามเนื้อ
“นั่นดิ นั่งรถไกล ๆ แบบนี้ไม่ชอบเลย” อิเฉาเห็นด้วย
“เอาน่า จะถึงแล้วอดทนกันหน่อย ความสนุกรอเราอยู่ข้างหน้าแล้วนะ” ฉันพูดไป
“แล้วนี่เราจะไปซื้อตั๋วต่อเลยมะ”
“ก็แหงล่ะสิ เด๋วฉันไปดูให้” ฉันอาสาอีกเช่นเคย
“เราไปด้วย” อาร์ทเดินตามฉันไปด้วย
ส่วนพวกนั้น บางคนก็ไปซื้อขนมนมเนย บางคนก็ไปซื้อน้ำดื่มมาเก็บไว้เป็นแพค ๆ เลย เพราะเราจะไปพักกันสามวัน สองคืน น้ำบนเกาะก็ขายแพงจะตายไป
ฉันกับอาร์ทเดินไปซื้อตั๋วเรือเที่ยว 6 โมงเช้า ซึ่งกำลังออกมาจากท่าเรือฟากโน้นแล้ว ฉันก็ได้สอบถามเค้าว่า ต้องไปต่อรถที่ไหน ยังไง คนขายตั๋วก็อธิบายให้ฟัง ฉันกับอาร์ทขอบคุณเขาแล้วเราก็เดินกลับไปหาเพื่อน ๆ
เรานั่งรอไปได้สักพัก เรือก็มาถึงแล้วจอดเทียบท่าเรือ พวกเรารอให้รถและคนบนเรือออกหมดเสียก่อนแล้วค่อยขึ้นไปหาที่นั่งบนนั้นกัน มีทั้งคนไทยแล้วก็ชาวต่างชาติมาเที่ยวกันมากอยู่ พวกฉันเดินไปเลือกนั่งด้านหน้าของเรือ เรือเฟอร์รี่มันจะมีสองชั้น ชั้นล่างเอาไว้จอดรถ ส่วนชั้นบนเป็นที่นั่งของผู้โดยสาร
“อา อากาศดีจังเลยอ้ะ มรึง” อิเจี๊ยบสูดอากาศเข้าไปเต็มปอด
“อืม ดีจริง ๆ ด้วยแหละ” อิเฉาก็สูดเอาอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าด้วยเช่นกัน
แสงทองยามเช้าสาดส่องมากระทบกับผิวน้ำของทะเล ทำให้เมองเห็นเป็นประกายคล้ายเพ็ชรเม็ดงามดาษดื่น ฉันยืนมองด้วยความเพลิดเพลิน ในจิตใจมีแต่ความสดชื่นเบิกบาน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเที่ยวทะเลของฉัน ฉันจะจดจำมันไว้จนตายเลยทีเดียว
“คิดอะไรอยู่เหรอจืด” อาร์ทมายืนข้าง ๆ ฉัน แล้วก็ถาม ตาเขามองลงไปยังที่ ๆ ฉันมองดูอยู่เช่น
“สวยใช่มั้ยล่ะ” ฉันถามเขา
“อืม สวยมาก ๆ เลย เรามีความสุขจังที่ได้มาเที่ยวกับคนที่เรารัก” อาร์ทหันมามองหน้าฉัน
“เราก็มีความสุขเหมือนกัน” ฉันตอบกลับไปเบา ๆ จิตใจเอิบอิ่มยิ่งนัก
“คุยอะไรกันเหรอสองคน” เสียงยัยเป้ยเดินมาขัดจังหวะเรา แหม มาไม่ดูกาลเทศะเลยนะ มันเนี่ย
“ปล่าวนี่ กำลังดูทะเลอยู่น่ะ” ฉันตอบไป
“ดูด้วยคนสิ” มันเดินไปยืนติดอาร์ท ฉันไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ไม่พูดอะไร
“แล้วแต่” ฉันก็ทำเป็นคุยกับอาร์ทต่อ มันก็ไม่ยอม ชวนอาร์ทคุยด้วยสิ
“อาร์ทเคยมาเที่ยวที่นี่รึยังอ่ะ” มันถามเสียงหวานแหวว นังนี่มันยังไงฟะเนี่ย เด๋วตาเบส ตาวิน แล้วก็อาร์ทเนี่ย
“ยังเลย ครั้งแรกน่ะ” อาร์ทก็ไปคุยกับมันอีกอ้ะ ไม่นะ
“เหรอ เป้ยก็ครั้งแรกเหมือนกัน อากาศที่นี่ดีเนาะ อยากไปถึงเร็ว ๆ จังเลย”
“อืม” อาร์ทคงรู้ว่าฉันเริ่มเครียด ก็เลยพูดน้อยลงเรื่อย ๆ ส่วนนังเป้ยก็เอาแต่จ้องหน้าของอาร์ท จนฉันชักจะมีน้ำโหแล้วนะ มายุ่งอะไรกะแฟนตรูวะเนี่ย
“อาร์ทไปนั่งกันเหอะ เค้าเมื่อยแล้วล่ะ” ฉันดึงแขนอาร์ทให้ตามไปนั่งที่ด้วย โดยที่ฉันเลือกนั่งข้าง ๆ เพื่อนสาวทั้งหลาย นังนั่นมันคงจะกลัวโดนตบอยู่ ถ้าแถเข้ามา
“จะถึงแล้ว อดทนไว้หน่อยละกัน” เสียงอิอั้มบอกอิตั้ม ซึ่งตอนนี้มันกำลังเมาเรือสุดฤทธิ์
“อ้าว อินี่ เมาเรือซะแล้ว” ฉันนั่งหัวเราะมัน
“มรึงก็ ไปหัวเราะมัน อินี่ ไม่เมาเรือบ้างไม่รู้หรอก” อิอั้มมันว่าฉัน
“กรูขอโทษนะ” ฉันก็หน้าจ๋อยตามระเบียบ
ฉันมองไปทางพวกหนุ่ม ๆ ตอนนี้ สามหนุ่มสามมุมก็กำลังยืนคุยกันอยู่อีกฟากหนึ่ง แล้วฉันก็เห็นว่าเรือใกล้จะถึงฝั่งแล้ว ฉันเลยลุกไปดูบ้าง ปล่อยให้อาร์ทนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่ซื้อติดมาด้วยไปก่อน
“ไงเจ๊ เพิ่งแยกตัวมาได้เหรอไง” ตานนท์ปากมอมเดินเข้ามาทักฉัน
“บ้าเหรอ พูดอะไรไม่รู้แกนี่”
“จืด กับอาร์ทยังรักกันดีอยู่ใช่มั้ย” ตานนท์ถามถึงเรื่องนี้ด้วย
“อืม ก็ดีนะ แล้วเมื่อไหร่แกจะหาแฟนกับเค้าสักทีล่ะ” ฉันถามมันกลับไป
“ก็กำลังดู ๆ อยู่” เอ๋ มีแล้วเหรอ ใครนะ ที่นายนี่ไปจีบเอาไว้
“ใครอ้ะ บอกได้ป่าว” ฉันชักเริ่มสนใจแล้วสิ
“ก็เพื่อนที่เรียนที่เดียวกันน่ะแหละ” มันหันหน้าไปอีกทาง ไม่กล้าสบตาฉัน
“สวย น่ารักมั้ย อยากเห็นจังเลย พามาแนะนำบ้างดิ”
“อย่ารู้เลยดีกว่า เอ่อ จะถึงแล้ว ไปเตรียมของกันดีกว่า” มันเดินกลับไปที่วางกระเป๋าไว้ ส่วนฉันก็เดินไปที่ ๆ อาร์ทนั่งรออยู่เช่นกัน แล้วพวกเราก็ทยอยลง เมื่อเรือจอดเทียบท่าแล้ว
********************************************