๔
[/color]
ชายหนุ่มจัดแจงแต่งตัวเรียบร้อย
เสื้อกล้ามผ้าบางสีดำ และกางเกงบ็อกเซอร์สีดำขลิบขาว สวมอยู่อย่างพอดีๆ บนร่างของชายหนุ่มหุ่นบาง สูงสะโอดสะอง ผมที่เปียกอยู่ แม้จะเช็ดแล้วก็ยังชื้นลู่แนบต้นคออยู่ดี ชายหนุ่มเดินออกจากบริเวณหน้าต่างมานั่งบนเตียงแล้วหยิบคอมพิวเตอร์โน้ตบุคที่วางอยู่กลางเตียงขึ้นมา เขาใช้นิ้วเลื่อนบริเวณที่บังคับเมาส์ไปๆมาๆเร็วๆ เพื่อให้หน้าจอที่ดับมืดสนิทกลับมาติดสว่างและใช้งานได้อีกครั้ง แต่ไม่ยักติด ชายหนุ่มกดปุ่มเปิดเครื่องค้างไว้ไม่กี่วินาที หวังให้เครื่องติดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ทำอย่างไร จอก็ยังดับสนิท ไม่มีการเปลียนแปลงใดๆ เหมือนเดิม
"บ้า ฉิบ" ชายหนุ่มสบถก่อนที่จะเดินไปหยิบสายชาร์ตในกระเป๋าเดินทางมาเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์โน้ตบุค ก่อนจะนั่งยอง ที่พื้นเลื่อนโต๊ะหัวเตียงตัวเล็กนั้นออกนิดหนึ่ง เพื่อจะพบว่า ปลั๊กไฟของที่นี่เป็นแบบโบราณ มีเพียงสองรูเท่านั้น สายชาร์ตของเขาดันมี สามขาเสียอย่างนั้น ... จะชาร์ตอย่างไรเล่าทีนี้ "แม่ง เอ๊ย"
ชายหนุ่มสบถอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปหยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กสีดำมาเขียนไว้หน้าแรก
"ซื้อปลั๊กสามตา
ซื้อพัดลม
ซื้อแอร์การ์ดเล่นเน็ต..."
ความเงียบ และบรรยากาศที่วังเวง ทำให้พาทิศเขียนลงไปอีกรายการหนึ่ง "...ซื้อหนังสือสวดมนต์"
พาทิศนั่งคุกเข่าลงกับพื้นก้มลง เสียบปลั๊กโคมไฟเข้าที่เดิมอีกครั้ง ก่อนที่สายตาซุกซนจะเหลือบไปเห็น รูเล็กๆ ที่อยู่ฝั่งตรงหน้าเขา พาทิศหายใจเข้าออกหนักๆ ความคิดวิ่งไปมาอยู่ในหัวมากมายพอที่จะทำให้เจ้าหนูของเขา ผงาดขึ้นมาอย่างห้ามไว้ไม่ได้ ทันทีที่แนบดวงตาลงไปที่รูนั้น พาทิศก็พบกับ ห้องน้ำของอีกฝั่งหนึ่ง บริเวณใต้ฝักบัวพอดิบพอดี ไม่ต่างจากคราวที่แล้ว ที่เขาลองมองลอดรูนี้ไปเลย หากเพียงแต่เด็กหนุ่มตี๋ คนนั้นจะปรากฏตัวให้เขาเห็นบ้าง...
ป่วยการจะหวังแล้ว จะเป็นไปได้ได้อย่างไรที่เด็กคนนั้นจะเข้าอาบน้ำพร้อมกับพี่นายพาทิศมาแอบส่องดูพอดี ความน่าจะเป็นเท่ากับศูนย์
ชายหนุ่มเดินกลับไปที่เตียง ทิ้งตัวลงนอน หมดปัญญาจะฟุ้งซ่านต่อไป เขาเหนื่อยพอแล้วสำหรับวันนี้ พรุ่งนี้เขาจะตื่นแต่เช้า กินข้าวเช้าที่นี่ ขับรถไปหาเพื่อนคุยเล่น หรือชวนใครสักคนไปกินข้าวกลางวัน อ้อโทรหาเป๊ก ... เอ๊ะไม่ซีเขาเลิกกับเด็กคนนั้นแล้วนี่นา เวลาอย่างนี้เขานึกถึงเพื่อนขึ้นมาเลยจริงๆ แม้พาทิศจะไม่เคยคบใครเป็นแฟนแบบจริงจัง แต่เขาก็มีความรักได้ทุกที่ ทุกสถานการณ์ที่พาเขาไปอยู่ใกล้ ด้วยความที่เพื่อนเยอะพาทิศจึงไม่เคยเหงาเลยแม้แต่วันเดียว ชีวิตเขาจะมีอะไรเล่า เที่ยวเล่นไปวันๆ มีเงินใช้ตลอดชีวิต แบบไม่ต้องขวนขวายหา มีไอเดียก็แต่งนิยาย ไม่มีก็ตกหนุ่มมานอนกก คืนละคนสองคน ดูเป็นชีวิตที่ไม่น่ามีปัญหาอะไรเลย ... ปัญหาแรกในชีวิตก็เรื่องบ้านนี้นั่นแหละ
พอใจมันพาลไปคิดถึงเพื่อนแล้ว ไม่กี่คนก็ลอยเข้ามาในหัว เพื่อนเขาแต่ละคนนอกจากจะเฮฮาปาร์ตี้ได้แล้ว ยังมีประโยชน์กับเขาในอีกหลายๆเรื่อง ในบรรดาเพื่อนทั้งหมด วรวิทย์เป็นเพื่อนที่รู้จักกับเขามานานที่สุด เพราะพ่อกับแม่ของทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน พ่อของวรวิทย์เป็นเมกซิกัน ที่รู้จักกับพ่อเขาตอนที่พ่อไปดูงานที่สหรัฐอเมริกา คนนี้เป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว ยังไม่ถึงกับขั้นเพื่อนตาย เพราะถ้าไม่ใช่เพราะงานสังสรรค์ต่างๆ หรือความต้องการทางเพศแล้ว วรวิทย์และพาทิศจะไม่เคยได้เจอกัน ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นชายรักสนุกทั้งคู่ จึงพอรู้แหล่งว่า จะต้องไปหาบริการที่ไหน อย่างไร มีคนอย่างวรวิทย์ไปด้วยจะช่วยทำให้เขาเป็นดาวเด่น จะสาว จะหนุ่มก็ติดตรึม แปลกที่ แม้ทั้งคู่เคยมีบทเซ็กส์พร้อมกันหลายครั้งต่อหลายหน สองคนนี้ก็ไม่เคยตกลงปลงใจหันมากินกันเองสักครั้ง
เลมอน เพื่อนหนุ่มออกสาว ขานี้เป็นที่ปรึกษาขาประจำ มีปัญหาเรื่องซื้อของให้แม่ หรือบรรดากิ๊กทั้งหลายของเขา ก็เลมอนนี้แหละคนคอยดูแลรับผิดชอบด้านนี้ เพื่อนผู้ตุ้งติ้งคนนี้ เจอกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย ชอบแฟชั่น จำน้ำหอมได้ทุกกลิ่นทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น พอๆกับที่วรวิทย์จำชื่อผับ คลับ บาร์ ซาวน่า และเด็กๆดาวเด่นประจำที่เหล่านั้นได้ขึ้นใจ นอกจากนี้ เวลาที่พาทิศตัดสินใจเรื่องกิ๊กไม่ถูกก็ได้เลมอนนี้แหละเป็นที่ปรึกษา หลายครั้งที่ทะเลาะกับเป๊ก หรือคนอื่นๆ ก็ได้เลมอนนี้แหละเป็นคนช่วยไกล่เกลี่ย และเสนอแนวคิดบรรเจิดให้เขาได้เสมอ
พิพัฒน์เพื่อนหนุ่มหน้าตี๋ เป็นแฟนเก่าเลมอน แต่ก็เลิกกันเพราะความที่เป็นเพื่อนกันมาก่อน ก็เลยไม่สามารถสวีทกันได้ บวกกับนิสัยชอบเที่ยวของพิพัฒน์แล้วด้วย เลมอนจึงขอถอยลงมาเป็นเพียงเพื่อนสนิทคนหนึ่งก็พอ พิพัฒน์เป็นนักเที่ยวตัวยง ไม่ใช่เที่ยวกลางคืนแบบวรวิทย์ แต่เป็นแบบเที่ยวไทยคึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก คือรู้หมดว่าอะไรอยู่ตรงไหน ไปที่ไหนยังไง เวลาแบบนี้ควรไปเที่ยวที่ไหน ร้านอาหารอะไรอร่อย ย่านไหนขึ้นชื่อด้านไหน พิพัฒน์รู้หมด ดังนั้น เวลาที่เขานึกเบื่อๆขึ้นมาก็มักหนีบเพื่อนหนุ่มคนนี้ ขับรถกันไปเรื่อยๆตรงไหนดีพิพัฒน์บอกก็แวะ อย่างบรรดาบ้านตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆ พิพัฒน์ก็เป็นคนเลือกทำเลให้ด้วย
คนสุดท้ายคือ ณัฐ ถ้าถามว่าเพื่อนคนไหนที่พาทิศมักนึกถึงก่อนเป็นคนแรกก็คือ ณัฐนี่แหละ ชายหนุ่มตาโตผิวขาว ปากแดงคนนี้คือคนที่พาทิศเคยเกือบตกหลุมรักเมื่อนานมาแล้ว ตั้งแต่ทั้งคู่เรียนประถมด้วยกัน แต่ด้วยความดี ความเข้าใจคน เอาใจใส่ และ ฉลาดรอบรู้ไปหมด ทำให้พาทิศไม่กล้าตัดสินใจคบกับณัฐ เหมือนกับเป๊กเลยซักที เพราะหนุ่มรักสนุกถึงไหนถึงกันอย่างเขา ต้องเหมาะกับเด็กแก่แดด กล้าได้กล้าเสีย แบบเป๊กต่างหาก คนที่เรียบร้อย น่ารัก นิสัยดีไปหมดอย่างณัฐ เขาไม่สามารถคบได้ เพราะเขากลัวนิสัยไม่ดีทั้งหลายของเขาจะไปทำร้ายจิตใจเพื่อนหนุ่มตากลมโตคนนี้เข้าสักวัน เพราะพาทิศ ไม่เคยคิดจะหยุดรักใครไปตลอดชีวิต เหมือนอย่างณัฐที่เฝ้ารออะไรแบบนี้มาโดยตลอด ดังนั้น หากเครียดเรื่องอะไร หรือเซ็งอะไรขึ้นมา ขับรถพาณัฐไปเที่ยว หรือไปกินข้าว หรือไปดูหนัง จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
สังเกตว่าไม่ได้พูดถึงอาชีพของแต่ละคนเลย
เพราะทุกคนเป็นหนุ่มรวย หล่อ ไม่ง้องานอย่างไรเล่า
นอนคิดถึงเพื่อนสักพักพาทิศก็ตัดสินใจดับไฟ แล้วทิ้งตัวนอนอยู่ในความมืด หน้าต่างไม่ปิดสักบานเพราะเขามั่นใจว่าไม่มีขโมยหน้าไหนกล้าปีนเข้าบ้านโบราณแบบนี้แน่นอนอยู่แล้ว พาทิศนอนพลิกตัวไปมาอยู่ในความเงียบ พรุ่งนี้ ไปหาณัฐที่บ้านก็แล้วกัน พอได้ข้อสรุป ชายหนุ่มก็พยายามกล่อมตัวเองให้หลับให้ได้...
แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียง ซ่า เหมือนฝนตก
ชายหนุ่มลุกขึ้น เดินไปที่หน้าต่าง ก็พบว่าฝนไม่ได้ตกซักหน่อย แค่ลมพัดให้กิ่งไม้มาเสียดสีกันดังโกรกกราก อย่างน่ากลัว ดีที่ชายหนุ่มเคยอยู่บ้านบนดอย เสียงลมแค่นี้ไม่ทำให้เขากลัวหรอก ที่กลัวก็คือเสียงน้ำสาดซ่าอย่างนี้ มันมาจากไหนกันแน่ ชายหนุ่มเดินไปที่ห้องน้ำดูว่าตัวเองลืมปิดน้ำ หรือฝักบัวเสียเป็นอะไรไปหรือเปล่า แต่ก็เปล่าห้องน้ำเขาอยู่ในสภาพปกติดี เงียบสงัด ไม่มีน้ำตกลงมาจากไหนเลย
หรือว่า?