กำลังใจ
ทุกอย่างกลับเป็นปกติหลังจากที่หยุดยาวในช่วงปีใหม่
คีย์กลับมาตั้งใจเรียนเพิ่มมากขึ้น เพราะระยะเวลาในการสอบของเทอมสองใกล้เข้ามาทุกขณะ
แต่คราวนี้ไม่เหมือนก่อนเพราะเจมส์ไม่ได้ตั้งป้อมเป็นศัตรูกับเขาเหมือนเมื่อก่อน
เจมส์กลับคอยช่วยเหลือพวกคีย์ในเรื่องการเรียน ทำให้คีย์เรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้น
เวลามักผ่านไปเร็วเสมอเมื่อเราได้เจอแต่เรื่องดี ๆ ตอนนี้เข้าสู่ช่วงสอบปลายภาคของเทอมที่สอง
คีย์ตั้งใจอ่านหนังสืออย่างมาก เพราะเทอมนี้จะเป็นตัววัดตามที่เขาสัญญากับพ่อของเขาไว้
“ลุงครับเป็นยังไงบ้าง” ธรถามอย่างเป็นห่วงจากปลายสายโทรศัพท์
“เค้ากลัวทำไม่ได้ล่ะปู่” คีย์ตอบอย่างกังวล
“ไม่ต้องคิดมากนะครับ ลุงทำใจให้สบาย แล้วตั้งใจทำก็พอแล้ว ผลออกมาเป็นยังไงเราค่อยว่ากันอีกที เดี๋ยวจะไม่สบายเอาเสียก่อน แล้วจะยิ่งแย่ลงกว่าเดิมนะครับ”
“ครับ แต่ว่าปู่เป็นไงบ้าง ช่วงนี้ต้องไปสัมนาเยอะ ขับรถดี ๆ นะครับ แล้วพักผ่อนเยอะ ๆ ด้วยนะ” คีย์แสดงความเป็นห่วงใยตอบ
“ขอบคุณครับ พี่จะดูแลตัวเองครับ พี่รักลุงนะครับ ฝันดีครับ”
“เค้าก็รักปู่เหมือนกันครับ ฝันดีครับ”
การสอบผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากสอบเสร็จคีย์กลับมาอยู่ที่บ้านสระแก้ว
เพราะว่าจะได้อยู่ใกล้ธรเดินทางไปหาได้ง่ายกว่าที่อยู่กรุงเทพฯ
วันนี้คีย์มาหาธรที่บ้านไร่เขามาช่วยงานเอกสารให้กับธร ถึงจะช่วยได้ไม่มากแต่ก็ทำให้ธรทำงานน้อยลงบ้างก็ยังดี
“ลุงครับเหนื่อยไหมครับ” ธรถามเมื่อเดินเข้ามาถึงห้องทำงาน
“ไม่นี่ครับ อยู่แต่ในห้องแอร์จะเหนื่อยเท่าปู่ได้ไง ตากแดดทั้งวัน” คีย์ลุกขึ้นไปหาพร้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่หน้าของธร
“ขอบคุณครับ แค่เห็นหน้าลุงพี่ก็หายเหนื่อยแล้วล่ะครับ” ธรจับมือคีย์ที่กำลังซับเหงื่อให้พร้อมกับมองตา
“ปู่ก็เวอร์อีกแล้ว” คีย์พูดแก้เขินก่อนดึงมือออก
“แต่พี่พูดจริง ๆ นะ ลุงเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดของพี่แล้วครับ” ธรดึงมือคีย์กลับมากุมไว้
“พอแล้วปู่ชอบทำให้เค้าเขินอยู่เรื่อยเลย” คีย์ก้มหน้าก้มตาพูด
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก็ลุงตอนนี้มันน่ารักที่สุดเลยนี่นา” ธรดึงตัวคีย์มากอดไว้ คีย์ซุกหน้าที่อกอุ่นเพื่อแก้เขิน
ตอนเย็นธรขับรถมาส่งคีย์ที่บ้าน ถึงเขาจะอยากให้คีย์ค้างที่บ้านเขาแต่ก็ยังต้องเกรงใจสุเมอยู่บ้าง
แต่วันนี้เมื่อมาถึงที่บ้าน ทางบ้ายคีย์ดูวุ่นวายเป็นพิเศษ
“คุณธรมาพอดีเลย นึกว่าจะไม่ทันเจอกันเสียแล้ว” สุเมธทักเมื่อกำลังเดินออกประตูมา
“ครับ แต่ว่ามีอะไรกันหรือครับ”
“พอดีพี่สาวผมอีกคนที่อยู่เมืองนอกเกิดอุบัติเหตุ ผมกับสุภาว่าจะไปดูเสียหน่อย”
“แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ ใช่คนที่คีย์อยู่ด้วยหรือเปล่าครับ”
“คนนั้นแหละครับ นี่ก็ยังไม่รู้อะไรมากเลย เขาเพิ่งโทรมาบอกไม่รู้รายละเอียดมากนัก ผมเลยคิดว่าจะบินไปเยี่ยมเสียหน่อย” สุเมธดูเป็นห่วงพี่สาวคนนี้มาก
“งั้นเดี๋ยวผมไปเก็บของแปบนะครับ” คีย์บอกเขาก็เป็นห่วงป้าเหมือนกัน
“เรายังไม่ต้องไปหรอก พอดีพ่อกับแม่รีบเลยจองตั๋วไปสองคนก่อน ถ้ามีอะไรจะโทรมาให้เราตามไปอีกทีแล้ว ยังไงตอนนี้ก็รบกวนฝากเจ้าตัวดีไว้กับคุณธรก่อนนะครับ เพราะบ้านจะไม่มีใครอยู่” สุเมธบอกคีย์ก่อนหันมาฝากไว้กับธรอีกที
“แต่ผมอยากไปเยี่ยมป้าเหมือนกันนี่นา”
“เดี๋ยวพ่อไปถึงก่อนแล้วจะโทรมาบอก ถ้าเรายังอยากจะไปค่อยตามไปอีกที ไปแล้วพ่อกับแม่ต้องรีบไปเดี๋ยวไม่ทันเครื่องเอา” สุเมธกับสุภารีบขึ้นรถออกไปทันที
“ลุงเป็นห่วงป้ามากหรือครับ” ธรถามเมื่อกลับมาถึงบ้านไร่แล้วคีย์ยังมีสีหน้ากังวลอยู่
“ครับ ผมอยากรู้ว่าป้าแกเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“เดี๋ยวคุณสุเมธก็ติดต่อกลับมาแล้ว ลุงก็ใจเย็น ๆ นะครับ” ธรรู้ว่าคีย์เป็นห่วงป้าคนนี้มาก
คงเพราะว่าคีย์อยู่กับป้าคนนี้มาตั้งแต่ยังเด็ก เลยทำให้ผูกพันธ์กันอย่างมาก
คีย์รออย่างร้อนรนตลอดเวลา ถึงแม้จะรู้การเดินทางของพ่อกับแม่ยังไม่ถึงก็ตาม
“มานั่งนี่สิครับ” ธรดึงตัวให้คีย์นั่งลงข้าง ๆ เขา หลังจากที่เห็นครักเดินวนไปวนมาหลายรอบ
“ลุงยังไม่ต้องคิดมากหรอกนะครับ พี่ว่ามันอาจไม่มีอะไรมากอย่างที่กลัวก็ได้นะ” ธรลูบศีรษะคนรักอย่างอ่อนโยนเพื่อให้กำลังใจ
“ลุงเชื่อพี่นะครับ อย่าเพิ่งคิดมากไปก่อนเลยนะ”
“ครับ ผมจะไม่คิดอะไรแล้วครับ” คีย์ซบลงที่ไหล่กว้างของคนรักเพื่อคลายความกังวลใจ
“ลุงตื่นได้แล้วครับ สายแล้วนะ” ธรปลุกคีย์ที่นอนหลับเพราะความเคลียดจากเมื่อคืน
“อืม.. สายแล้วหรือครับ” คีย์ขยี้ตาเล็กน้อยก่อนมองหน้าคนที่ปลุกพร้อมด้วยรอยยิ้ม
“พ่อลุงโทรมาแล้วนะครับ” คีย์รีบลุกขึ้นนั่งทันที
“พ่อว่ายังไงบ้างครับ” คีย์ยังดูกังวลอยู่
“ป้าของลุงไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ เห็นคุณสุเมธบอกว่าแค่แขนหัก ส่วนเรื่องอื่นไม่เป็นอะไรแล้วครับ”
คีย์ทำท่าโล่งอกออกมา ใบหน้าดูสดใสขึ้นมาบ้าง
“ลุงไปอาบน้ำได้แล้วครับ เดี๋ยวลงไปกินข้าวกัน วันนี้พี่จะพาไปเยี่ยมยายมีที่นาแกหน่อย ลุงยังจำยายมีแกได้ใช่ไหมครับ”
“จำได้ครับ ตอนนี้ปู่พาผมไปทำนาในที่ของแก ว่าไปก็คิดถึงตอนนั้นเหมือนกันนะ”
“งั้นรีบไปอาบน้ำเร็ว ๆ เลยครับ พี่ว่าป้าแกคงดีใจที่ได้เจอลุงอีก เพราะแกเคยถามถึงลุงกับเต้บ่อย ๆ”
คีย์รีบอาบน้ำแต่งตัวการได้ออกมาพบกับคนอื่นเป็นเรื่องที่เขารู้สึกชอบมาก
ธรพาคีย์มาที่นาของยายมีซึ่งตอนนี้ปลูกพืชคลุมดินจำพวกตระกูลถั่วไว้ เพราะยังไม่ใช่หน้าทำนา
และการปลูกพืชคลุมดินไว้เพื่อเป็นการเติมแร่ธาตุในดิน
และยังเก็บไปขายเพิ่มรายได้ได้อีกด้วย นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ธรแนะนำให้ชาวบ้านได้ทำกัน
ถึงแม้จะมีคนทำตามน้อยเพราะบางกลุ่มหันไปปลูกพวกมันสัมปะหลังแทนเพราะได้ราคาดีกว่า
แต่ก็แลกกับการเสียธาตุอาหารในดิน กลับมาปลูกข้าวได้ยาก
ยายมีนั่งรออยู่ที่ศาลาริมคันนา
“คุณยายสวัสดีครับ ยังจำผมได้ไหมครับ” คีย์ไหว้ทักทาย
“จำได้สิลูก ยายยังถามถึงบ่อย ๆ เลย” ยายมียิ้มให้อย่างอบอุ่นพร้อมดึงมือมาบีบไว้เบา ๆ
คีย์รู้สึกอบอุ่นจากการต้อนรับของคนต่างจังหวัดมาก โดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ ที่จะออกมาต้อนรับเขากับธรเหมือนลูกเหมือนหลานเสมอ
“ผมก็คิดถึงคุณยายนะครับ แต่คุณยายยังดูแข็งแรงอยู่เลยนะครับ”
“จะแข็งแรงอะไรล่ะลูก ยายปาเข้าไปจะแปดสิบแล้วนะ งานการก็เริ่มทำไม่ไหวแล้ว” ยายมีบ่นถึงสังขารตนเอง
“ยายยังดูแข็งแรงไม่เหมือนกับที่บอกเลยนะครับ” คำพูดคีย์ทำให้ยายมีทำตัวกระปี้กระเปาขึ้นมาอีก
“ลุงอยู่คุยกับยายไปก่อนนะ พี่ขอไปคุยกับลูกยายในนาก่อนเดี๋ยวพี่กลับมา” ธรปล่อยให้คีย์ได้อยู่คุยกับยายมี
ช่วงเวลาที่คีย์มาออกพบชาวบ้านกับธร ธรมักจะปล่อยให้คีย์ได้อยู่คุยกับชาวบ้าน ส่วนตัวเองจะออกดูไร่นาเพียงคนเดียว
คีย์ก็ช่วยทำหน้าที่คนคุยที่ดีนอกจากสอบถามสารทุกสุกดิบกันแล้ว ยังสอบถามผลผลิตที่ได้จาการทำตามคำแนะนำเผื่อไว้ด้วย
ทำให้ธรไม่ต้องกลับมาสอบถามซ้ำ งานของเขาเลยเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
“เดี๋ยวอยู่กินข้าวเที่ยงด้วยกันก่อนเลยนะลูก” ยายมีหันไปบอกธรก่อนที่จะเดินแยกไป
ระหว่างที่ธรลงไปดูงานยายมีชวนคีย์ให้ช่วยกันทำกับข้าวเที่ยงด้วยกัน
ยายมีสั่งหลานให้ไปซื้อของเพิ่มเติมเพราะว่าวันนี้คีย์มาด้วย ยายมีเลยอยากอวดฝืมือให้เต็มที่
คีย์ช่วยเป็นลูกมือให้ยายมี ครัวที่ทำขึ้นง่ายกลางแจ้ง ตอนนี้มีของเต็มไปหมด
“เมื่อวานได้ของดีมาพอดี” ยายมีหยิบสัตว์ที่รูปร่างเหมือนไก่แต่ตัวเล็กกว่ามากมาอวดคีย์
“ไก่อะไรทำไมตัวเล็กจังครับ” คีย์ถามด้วยความสงสัย
“โอ๊ย!! ไม่ใช่ไก่หรอกลูก นี่เขาเรียกนกกะทา เดี๋ยวยายจะทำผัดเผ็ดให้กิน” ยายมียิ้มอย่างภูมิใจกับอาหารจานนี้
“นกกะทา! รสชาติมันเป็นยังไงครับ” คีย์ยังอดสงสัยไม่ได้
“คอยชิมแล้วกันลูก แล้วจะติดใจมาขอให้ยายทำให้กินอีกคอยดูเถอะ”
ถึงจะมาอยู่ที่บ้านไร่บ่อยครั้ง แต่คีย์ก็ไม่เคยได้กินอาหารป่าหรืออาหารแบบนี้เลย
เขามองดูวิธีการทำด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ยายมีเริ่มจากทำความสะอาดนกกะทาอย่างดีแล้วนำมาสับทั้งตัวจนละเอียด
“ยายไม่ต้องเอากระดูกออกหรือครับ” คีย์แปลกใจที่เห็นยายมีสับทั้งกระดูก
“ไม่ต้องหรอกลูก กระดูกนกกะทามันเล็ก สับให้ละเอียดก็กินำได้แล้ว”
หลังจากสับนกจนละเอียด ก็ตำเครื่องแกงสูตรยายมีขึ้นมาเอง
กระทะตั้งไฟจนร้อนพริกแกงถูกเอาลงไปผัดจนหอมฉุนดีก็ใส่นำนกกระทาที่สับลงไปผัดต่อ
เติมเครื่องปลุงใบมะกรูดซอยหลังจากผัดจนสุกดีแล้ว
กับข้าวอย่างอื่นถูกทำออกมาอีกสองสามอย่าง คีย์อาสาทำไข่เจียวให้
หลังจากอาหารเสร็จหลานยายมีไปตามธรมากินข้าวด้วยกัน
การได้ออกมาคุยกับชาวบ้านได้ทำอย่างอื่นทำให้คีย์เลิกกังวลเรื่องของป้าไปได้
“เป็นไงบ้างลุงสบายใจขึ้นไหมครับ” ธรถามขณะขับรถกลับบ้าน
“ครับ ยายมีแกใจดีจังนะครับ”
“ก็แบบนี้แหละครับ คนบ้านนอกเวลาเราไปเยี่ยมแกก็ดีใจเหมือนมีลูกหลานมาเยี่ยม”
“ไว้ว่าง ๆ มาเยี่ยมแกอีกนะครับ”
“ฮ่า ฮ่า อย่าบอกนะว่าติดใจแกงเผ็ดสับนกของแก”
“ใช่ที่ไหนล่ะ ปู่ก็พูดไปเรื่อย แต่เค้าเพิ่งเคยกินนกเป็นครั้งแรกก็วันนี้แหละ”
“แล้วเป็นไงอร่อยไหมครับ”
“ก็อร่อยนะแต่เค้าว่ามันแปลกตอนกินพร้อมกระดูก มันกรุบ ๆ ยังไงไม่รู้”
“ยังดีนะที่ว่าแกได้นกกะทามาพอดี ถ้าเป็นอย่างอื่นลุงคงกินไม่ลงแน่ ๆ”
“ยังมีอะไรที่แปลกอีกเหรอปู่ มันคืออะไรครับ” คีย์เริ่มอยากรู้ เพราะแค่นกกะทาเขาก็ว่าแปลกแล้ว
“เยอะเลยลุงคนบ้านนอกอย่างเรา ๆ นี่นะ เขากินกันแทบทุกอย่างที่หาได้ พวกอึ่งอ่าง คางคก แย้ ตะกวด กระต่าย อีกสารพัดที่เขาจะหามาได้นั่นแหละครับ”
“โหย... แบบนั้นเค้าก็ไม่กล้ากินหรอกนะ อย่าบอกนะว่าปู่กินมาหมดแล้วทุกอย่างที่พูด”
“ก็หลายอย่างนะ บางตัวพี่ก็ไม่กล้ากินเหมือนกันแหละครับ”
“แล้วไป เค้าก็นึกว่าปู่จะกินมาหมดแล้วซะอีก” คีย์ทำท่าโล่งอก
“แล้วถ้าพี่กินมาหมดแล้วจะเป็นยังไงครับ” ธรสงสัย
“ก็ไม่มีอะไร เค้าก็จะแค่ไม่ให้ปู่นอนข้าง ๆ 3 วัน ทำใจก่อนเท่านั้นเอง”
“ลุงใจร้าย ถ้าเขาลองให้กินพี่ก็ต้องลองชิมนะ”
“เค้าล้อเล่นครับ ใครจะใจร้ายได้ลงคอ เค้าไม่อยากเห็นคนแก่ยืนอ้อนหน้าห้องนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“เดี๋ยวเถอะลุง”
“คีย์พ่ออยากให้ลูกกลับไปเรียนที่โน่น แล้วอยู่เป็นเพื่อนป้าเขาก่อนได้ไหมลูก”
สุเมธคุยกับคีย์เรื่องเรียน หลังจากที่กลับมาจากเมืองนอก
“ทำไมล่ะครับ ก็ไหนบอกว่าอยากให้ผมเรียนที่นี่ไม่ใช่หรือไง”
“ก็ใช่ แต่ตอนนี้ป้าเขาเจ็บแล้วก็อยู่ตัวคนเดียวด้วยเราก็รู้ หรือว่าเราไม่ห่วงป้าเขาเลย”
“ห่วงสิครับ แต่พ่อทำไมไม่ให้ป้าเขากลับมาอยู่บ้านเราก่อนล่ะครับ หายแล้วค่อยกลับไปก็ได้”
“ก็ป้าแกยอมมาที่ไหนล่ะ ห่วงกิจการที่โน่น ห่วงนั่นห่วงนี่ไปหมด พ่อพยายามชวนหลายครั้งแล้วก่อนกลับมาแต่ก็ไม่ยอมมานะสิ พ่อเลยอยากให้แกกลับไปเรียนที่โน่นแล้วดูแลป้าแกด้วย”
“แต่ว่าผมไม่อยากไปแล้วนี่ งั้นผมดรอปเรียนไว้ก่อน พอป้าหายผมก็ค่อยกลับมาได้ไหม”
“มันเสียเวลาแกเปล่า ๆ นะ อีกอย่างพ่อตกลงกันไว้แล้วว่า ให้เวลาป้าแกแค่ก่อนแกเรียนจบ พอแกเรียนจบแล้วให้ย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยด้วยกัน”
“อ่าว.. แล้วทำไมไม่ย้ายเสียเลยตอนนี้ล่ะครับ”
ก็ป้าแกกลัวญาติลุงเขยแกว่าเอานะสิ พอลูกเขาตายแค่ปีสองปีขายกิจการของลูกเขาแล้วหนีกลับมาเมืองไทย ป้าแกเลยอยากอยู่ต่ออีกสักหน่อย จะได้กลับมาอย่างสบายใจ”
“ไม่เห็นต้องสนใจอะไรเลย ญาติลุงเขาก็ไม่เคยมาสนใจป้าตั้งแต่แรกแล้วนี่ครับ”
“เอาน่า เหตุผลของผู้ใหญ่เขา ว่าแต่เราเถอะจะว่าไง ถ้าไม่ไปพ่อก็ไม่ว่าอะไรนะ แต่นึกให้ดีนะว่าป้าเขาเลี้ยงเรามาเหมือนกัน กลับไปดูแลเขาแค่สองสามปีเองนะ”
“แล้วเรื่องเรียนผมล่ะครับ”
“พ่อลงติดต่อมหาลัยที่นั้นแล้ว เขารับโอนจากที่นี่ไปได้ เพราะว่าเราเรียนหลักสูตรอินเตอร์อยู่แล้ว ช่วยพ่อหน่อยแล้วกันนะลูก ป้าแกก็แก่แล้วปีสองปีคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง หรือว่าลูกไม่อยากไกลกับคุณธรเขา”
คีย์ไม่ตอบแต่ทำหน้าลำบากใจ
“เดี๋ยวพ่อไปบอกให้ก็ได้ พ่อว่าเขาต้องเข้าใจเหตุผลแน่ ๆ แล้วถ้าแค่นี้เขารอลูกไม่ได้แสดงว่าเขาก็ไม่ได้รักลูกจริงนะสิ”
“มันไม่ใช่แบบนั้นนะพ่อ แต่ว่ามันกะทันหันเกินไปสำหรับผมตอนนี้ ขอผมคิดอะไรก่อนบ้างได้ไหมครับ”
“พ่อก็ยังไม่เร่งเอาคำตอบหรอกนะ งั้นถ้าแกตัดสินใจได้ก็บอกพ่อแล้วกัน แล้วพ่อจะไปบอกกับคุณธรเขาให้เอง”
คีย์กลับขึ้นห้องมาด้วยความสับสน เพราะเขาเองก็รู้สึกเป็นห่วงป้ามากเหมือนกัน แต่อีกใจก็ไม่อยากจากธรไปในตอนนี้
เขาจะทำอย่างไรดีนะ ระหว่างความรักกับความกตัญญู ความรู้สึกมันหนักอึ้งอยู่ในหัวเขาตอนนี้
โปรดติดตามตอนต่อไป
แอบมาลงหลังจากยุ่งมาหลายวัน
ขอบคุณที่ติดตามกันเสมอมานะครับ
อีกสองตอนก็จบแล้ว นะครับ สนใจสั่งจองได้นะครับ ตอนนี้กำลังเร่งทำปกอยู่
ถ้าสำเร็จเมื่อไหร่จะรีบเอามาอวดเลยครับ