ดึกๆ มาโพสให้
..........................................................
ตอนที่ 16
สุดท้ายผมก็เคลียร์งานเสร็จทันเวลาที่เลื่อนไว้จริงๆ ผมกับคุณอรเหนื่อยใช่ย่อยเลยงานนี้ ไว้กลับไปค่อยพาไปเลี้ยงขอบคุณวันหลังแล้วกัน ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนเครื่องบินกำลังบินกลับเมืองไทย รู้สึกผ่อนคลายกับงานเล็กน้อย อย่างน้อยมันก็กำลังไปได้สวย
“อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเมืองไทยแล้วนะคะบอส ได้เจอคนที่อยากเจอซักทีสินะคะ” คุณอรที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดเชิงแซวผมที่รีบกลับเมืองไทยในคราวนี้
“ไม่หรอกครับ คุณอรก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ เดี๋ยวก็ได้เจอกับคนที่อยากเจอแล้วนิครับ” ยังไงเราสองคนก็ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายในการกลับก่อนครั้งนี้
“ไม่จริงหรอค่ะ อรยังอยากอยู่ที่ญี่ปุ่นอยู่เลย ... อย่างน้อย” คุณอรพูดอะไรเหรอครับ ทำไมอยู่ๆถึงเบาลง
“คุณอรว่าอะไรนะครับ”
“อ๋อ เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร คืออรยังช็อปไม่จุใจเลยอ่าค่ะ” อืมมม อย่างนี้เองเหรอ
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเราคงได้มีโอกาสมากันอีก คราวหน้าค่อยช็อปกันอีกที โอเคมั๊ยครับ” ผมก็ลืมไปสินะครับ ว่าสาวๆเค้าคงอยากมีเวลาเดินเลือกซื้อของมากกว่านี้ ลืมคิดถึงคุณอรเลยนะเนี่ย
“ค่ะ ไว้คราวหน้าแล้วกันนะคะ” พวกเราจบบทสนทนาลงด้วยประโยคของคุณอร ก่อนผมจะขอพักผ่อนสายตา ขอซักงีบแล้วกัน
อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ผมก็มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เลยไปที่จุดนัดเจอที่บอกให้ไอ้เวย์มารับ และแยกทางกับคุณอรไป
“มึงอยู่ไหน กูลงมาจากเครื่องแล้ว เออๆ รอนั่นแหละ เดี๋ยวกูเดินไปหา” ผมโทรไปเช็คว่าไอ้เวย์มาถึงแล้วหรือยัง แล้วก็ลากกระเป๋าไปหาตามที่นัดกันไว้
“เอ๊ยไอ้เท่ห์ กูอยู่นี่” เสียงไอ้เวย์เรียกผม ในขณะที่ผมเหมือนจะเดินเลยมัน
“เออ ทำไมมานั่งแอบอยู่ตรงนี้วะ กูมองไม่เห็น” มองไม่เห็นครับ เกือบเดินเลยแล้วเนี่ย
“อง แอบไรมึง กูก็นั่งซะชัดเจน มึงอ่ามัวใจลอย เดินไม่มองอะไร” ผมกำลังคิดอะไรอยู่วะเนี่ย
“ไปๆ รีบไปกัน เอาของมากูช่วยถือ” ไอ้เวย์รีบให้ผมรีบกลับห้อง สงสัยจะหิว แถมยังใจดี ช่วยผมถือของด้วย เอาไปเลย เอาไปเยอะๆ
ตลอดการเดินทางกลับคอนโด ไอ้เวย์ก็โม้เรื่องที่เกิดเกี่ยวกับเจเจ ในช่วงที่ผมไม่อยู่ให้ฟัง แต่ส่วนมากจะเป็นเรื่องของพี่เลี้ยงเจเจซะมากกว่า ได้ยินแล้วหมั่นไส้มันจะอะไรกันนักกันหนา
“กูว่ากูคงรุกน้องเต้มากเกินไปหวะ น้องเค้าคงตั้งตัวไม่ทัน” ไอ้พี่ไอ้น้องนี่อีก ขัดๆหูชอบกล
“เออ แล้วมึงจะทำไง”
“นั่นดิ มึงช่วยกูหน่อยสิ นะนะ นะไอ้เท่ห์ ช่วยกูหน่อย” เอ๊ยยย เป็นขนาดนั้นเชียวเหรอมึง
“เรื่องดิ อยากจีบ อยากได้ ก็จัดการเอาเอง กูไม่เกี่ยว” ต้องขอตัวละครับสำหรับเรื่องนี้
“อะไรว้า แค่นี้ก็ช่วยเพื่อนไม่ได้ หวงก้างเหรอไงวะ” ก้างอะไรของมึง
“หวงก้างอะไรวะ ทำไมกูต้องหวง มึงจะทำอะไรก็ทำ อย่าลากกูเข้าไปยุ่ง” ทำไมผมต้องร้อนตัวนี่
“เออ ถือว่าเป็นคำอนุญาตจากมึงแล้วกัน อย่ามากลับคำเอาตอนหลังละ” ตามสบายเลยเพื่อน เรื่องไรกูจะกลับคำ ทำไมผมถึงตัวร้อนละทีนี้
ในที่สุดผมก็มาถึงคอนโดจนได้ ต้องทนฟังไอ้เวย์พร่ำพรรณนาถึงพี่เลี้ยงของมันมาตลอดทาง หมั่นไส้เว๊ยย ผมรีบเดินไปให้ถึงห้องก่อน เห็นไอ้เวย์เดินต้อยๆตามหลังมา เฮ้ออ คิดถึงเจเจจังเลย
“เซอร์ไฟรสสสสสสสสสสสสสสสส์ ปัง ปัง ปัง” เสียงคนตะโกนออกมาเมื่อผมเปิดประตู และเสียงดังของเปเปอร์ ชูทก็ดังตามมา
“โอ้ อะไรกันนี่” ตกใจสิครับ เล่นเอาไม่ทันตั้งตัวแบบนี้
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านคับป้อ” เสียงไอ้ตัวเล็กของผมดังมาเป็นคนแรกเลยครับ
“เป็นไงบ้างคะ เหนื่อยรึป่าว” ต่อมาด้วยคำถามจากคุณเกด มาร่วมวงกะเค้าด้วยเหรอเนี่ย
“ขอบคุณมากครับทุกคน ก็เหนื่อยนิดหน่อยอ่าครับ พักซักวันก็คงหาย” ทั้งขอบคุณ ทั้งตอบคำถามคุณเกด ว่าแต่...
“แล้วนายละ จะไม่พูดอะไรบ้างเหรอ นายเต้” จะไม่พูดอะไรซักหน่อยเหรอ เห็นคนอื่นเค้าอยากจะพูดกันทั้งนั้น
“อืออออออ
ไหนละครับ ของฝากผม” เฮ้อออ เห็นหน้าผม ก็ต้องถามถึงของฝากสินะ
“เออหน่า ซื้อมาให้อยู่แล้ว ว่าแต่นี่แผนใครเนี่ย” อดสงสัยไม่ได้ร้อยวันพันปีไม่เคยมี
“ความคิดกูเองแหละ แต่ได้รับความร่วมมือจากทุกคน” ไอ้เวย์โผล่ออกมาจากหลังประตู เดินมาช้านะมึง
“อ๋อเหรอ ไม่น่าเชื่อว่ามึงจะคิดอะไรแบบนี้กะคนอื่นเค้าเป็นด้วย” ขอเหน็บหน่อยแล้วกันนะครับ
“ทำไมวะ คนอย่างกูโรแมนติกออก ทำไมเรื่องแค่นี้กูจะคิดไม่ได้ ใช่มั๊ยครับเจเจ” หาพวกซะงั้นไอ้เวย์เพื่อนผม
“ใช่ๆครับ นี่ต้องเป็นมุขจีบหญิงของอาเวย์แน่เลย” ฮ่าๆๆ เออวะ คงต้องเป็นอย่างที่เจเจบอกแน่ๆ ผม เจเจ คุณเกด และเจ้าเต้ร่วมกันหัวเราะในสิ่งที่เจเจจับติดอามัน
พวกเรานั่งทานอาหารด้วยกัน พร้อมกับคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันไป โดยส่วนมากจะมีผม ไอ้เวย์ แล้วก็คุณเกดที่จะเป็นคนเริ่มบทสนทนา ส่วนเจ้าเต้ก็มีตอบบ้าง ส่งมุขบ้าง แต่มันคงจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่เราคุยกันเท่าไหร่สินะ ไอ้เด็กเกรียนเอ๊ย
แล้วผมก็เอาของฝากมาให้ทุกคน ด้วยเวลาอันเร่งรีบจึงไม่ได้อะไรมามาก ผมซื้อเนคไทลายญี่ปุ่นมาฝากไอ้เวย์ ซื้อหมวกรูปธงชาติญี่ปุ่นและมีปักภาษาญี่ปุ่นมาฝากพี่เลี้ยง ซื้อน้ำหอมมาฝากคุณเกด (เลขาผมเลือกให้) แล้วก็ซื้อหุ่นยนต์ พร้อมกับสีเทียนรูปการ์ตูนมาให้เจ้าเจเจ
“ป้อครับ นี่ของขวัญให้ป้อครับ” เจเจพูดเสียงใส พร้อมยื่นกรอบรูปที่มีรูปผมกับเจเจมาให้ รูปมันมีแต่หัว ส่วนตัวเจเจๆวาดนะครับ น่ารักไม่เปลี่ยนจริงๆนะเรานี่
“โอ้โห เจเจทำเองเลยเหรอครับเนี่ย สวยจังเลย แค่พ่อกลับมาจากญี่ปุ่นนี่ก็ต้องมีของขวัญด้วยเหรอ” น่ารักจริงๆครับ
“ก็มีงานเลี้ยง ก็ต้องมีของขวัญไงครับ เพ่เต้ช่วยเจเจทำด้วย น่ารักใช่มั๊ยครับ” เจเจยังอวดของขวัญที่ให้ผมไม่หายครับ
“เอ เจเจ อาเกดว่าทำไมรูปมันเอียงมาทางนี้เยอะจังเลยละคะ” คุณเกดก็สงสัยอย่างเดียวกะที่ผมสงสัยเหมือนกัน ว่าจะถาม แต่คุณเกดก็ไวกว่า
“ตรงนี้ไว้ติดรูปแม่คนใหม่ครับ”
เท่านั้นแหละครับ ทุกคนก็เงียบไปหมด ผมหันมองทุกคน เจ้าเต้แอบๆหลบสายตา ไอ้เวย์แอบทำหน้ากรุ่มกริ่ม คุณเกดนั่งหน้าแดง เอ... เอาไงดีละตู
“เต้ เอาเจเจไปอาบน้ำหน่อย รู้สึกเหมือนจะเหนียวตัวยังไงนี่” เปลี่ยนเรื่องดีกว่าครับ ทำไมพอประเด็นนี้เข้ามา ทุกคนจะต้องแปลกด้วยเนี่ย เจ้าเต้ได้ยินก็มาอุ้มเจเจเข้าไปในห้องนอน เจเจก็ตามไปอย่างว่าง่ายครับ สงสัยจะเพลียด้วยละมั้ง
“ขอบคุณคุณเท่ห์มากเลยนะคะ สำหรับของฝาก น่ารักเชียว ” คุณเกดชมของฝากนะครับที่น่ารัก ไม่ใช่ผม
“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ คนกันเองทั้งนั้น” ยังไงก็คนบ้านใกล้เรือนเคียง จริงมั๊ยครับ
ผมเหลือบไปเห็นเจ้าเต้เดินออกมาจากห้องเจเจ แต่ไม่เห็นเจเจเดินออกมา เลยส่งสายตาถามประมาณว่า ลูกผมอยู่ไหนนนน
“เจเจหลับแล้วครับ สงสัยคงเหนื่อยมาก วันนี้ไปเดินซื้อของมาทั้งวัน” พี่เลี้ยงผมก็คงรู้ความหมายนัยๆดี จึงตอบผมมาอย่างนั้น
“โอ้ดีเลย เจเจนอนแล้ว งั้นปาร์ตี้ก็เริ่มขึ้น เย้ !!!!!” อะไรของไอ้เวย์อีกเนี่ย ลุกขึ้นกระโดดโลดเต้น
“นี่เพิ่งเริ่มเหรอวะ กูนึกว่าจะเสร็จแล้วนะเนี่ย” ก็เห็นกินข้าวกัน ให้ของฝาก นึกว่าจะกลับๆห้องกันแล้ว
“จะเสร็จอะไร เรายังไม่ได้ดื่มกันเลย เอ้า น้องเต้ ไปหยิบแก้วมาหน่อย มาๆครับคุณเกด มาดื่มกันหน่อย นานๆที” ไอ้เวย์เริ่มต้นคืนนี้ของมันแล้วสิครับ เดี๋ยวก็ได้เมากลิ้งกันหรอก
“นี่เป็นไวน์ที่พ่อผมเอามาฝากจากฝรั่งเศสเลยนะครับ รสชาตินี่กลมกล่มเหลือเกิน มาลองชิมกันดูครับ” ไอ้เวย์พูดสรรพคุณ พร้อมเทไวน์ใส่แก้วให้ทุกๆคน
“เอ้า เรามาชนให้กับค่ำคืนแห่งความสุขกันหน่อยครับ” เหมือนว่ามันจะมีความสุขอยู่คนเดียวนะนั่น พวกเราชนแก้วและดื่มไวน์กันอยู่ซักพักใหญ่ พี่เลี้ยงผมก็ดื่มจังเลย
“คุณเวย์ครับ ไวน์นี่อร่อยจังเลยนะครับ ผมกินแล้วลิ้นมันหวานมากๆเลย” เริ่มพูดแล้วครับ เจ้าเต้ แปลกใจทำไมวันนี้พูดน้อยจัง รอให้เมาก่อนหรือไงถึงจะพูด
“น้องเต้ชอบเหรอครับ ถ้าชอบเดี๋ยวคราวหน้าพี่จะเอามาฝากใหม่” ไอ้เวย์ก็เริ่มสนอง ในสิ่งที่เจ้าเต้ยังไม่ได้เสนอเลยครับ
“ชอบครับ ปกติกินแต่เหล้าถูกๆ ไวน์นี่นับครั้งได้เลยที่ได้กิน เพื่อนมันบอกว่าผมกินไวน์แล้วพูดมาก ไม่จริงใช่มั๊ยครับ คุณเวย์ ใช่มั๊ยครับคุณเกด ใช่มั๊ยเจ้านายยยยยยย ” ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่อย่างที่แกพูด เพื่อนแกอ่าพูดถูกแล้ว คุณเกด ไอ้เวย์หัวเราะกันใหญ่
“คุณเวย์ กับเต้นี่ ดูสนิทกันเร็วจังเลยนะคะ เจอกันไม่กี่วันเอง” คุณเกดคงสังเกตเห็นความสนิทสนมของทั้งสองคนเลยยกประเด็นนี้ขึ้นมา
“อ๋อ แน่นอนครับ ผมเข้ากับคนง่าย โดยเฉพาะคนน่ารักๆอย่างน้องเต้แล้ว สิวๆครับ” สิวๆ นี่คงเป็นศัพท์ประมาณว่า ชิวๆ สบายๆ อะไรของมึงสินะ
“จริงๆด้วยคะ คนน่ารักอย่างเต้นี่ ใครอยู่ด้วยก็มีความสุข ใช่มั๊ยคะคุณเท่ห์” ในขณะที่ผมกำลังมองหน้าเจ้าเต้อยู่ คุณเกดก็ถามคำถามนี้ขึ้นมา
“คงงั้นมั้งครับ” เจ้าเต้คงจะกลายเป็นที่รักของใครหลายๆคนอีกไม่ช้าสินะ กะล่อนซะอย่างนี้
“คุณเกดครับ ผมว่าคุณเกดน่ารักดี ทำไมยังไม่มีแฟนละครับ” นั่นไงครับ คราวนี้เป็นฝ่ายที่เต้ชวนคุณเกดคุยแล้วครับ
“อืม ทำไมถามอย่างนี้ละคะ เกดเขินอ่าคะ ไม่รู้จะตอบไงดี เอาเป็นว่ายังไม่เจอคนที่ใช่ ไม่ใช่สิ เจอแล้วแต่ไม่รู้ว่าเค้าจะใช่สำหรับเรารึป่าวอ่าคะ” คุณเกดตอบไปเขินไป ผู้หญิงเวลาเขินนี่ น่ารักทุกคนจริงๆเลยนะครับ
“แล้วเต้ละคะ มีแฟนยัง” คราวนี้ในวงคุยก็มีแต่คุณเกด กับเจ้าเต้ที่สนทนากัน ผมกับเวย์ได้แต่ฟัง และดูๆเหมือนไอ้เวย์จะสนใจเป็นพิเศษ
“ยังครับ เต้โสดเต็มร้อย” ดูท่าครับ มีการเอากำปั้นมาทุบหน้าอกด้วย จะมั้นใจอะไรขนาดนั้น
“เดี๋ยวก็คงไม่โสดแล้วมั้ง คนตามจีบเต็มเยอะแยะไปหมด ผมเห็น” ขอเหน็บหน่อยครับ บอกแล้วไงว่าหมั่นไส้
“อันนั้นช่วยไม่ได้ครับคุณเทห์ คนมันมีเสน่ห์ จะห้ามไม่ให้เค้ามาชอบได้ยังไงกัน จริงมั๊ยครับคุณเวย์” ดูมันสิครับ พูดกับผม แต่หันหน้าไปคุยต่อกับคู่กรณีมัน เรียกคู่กรณีนี่ถูกหรือเปล่าครับ
“จริงครับน้องเต้ คนเราห้ามให้รักให้ชอบกันมันห้ามย๊าก ยาก” ไอ้เวย์ได้ทีก็ใส่ใหญ่เชียวนะมึง
พวกเรานั่งดื่มกันอีกซักพักก่อนที่ผมจะส่งแขกกลับห้อง ก็คุณเกด กับไอ้เวย์นั่นแหละครับ เรียกให้ดูหรูไปงั้นๆ ไอ้เวย์นี่มันดื้อครับ จะไม่ยอมกลับท่าเดียว บอกจะนอนที่นี่ มันจะอะไรมากมายก็ไม่รู้ ผมละไม่เข้าใจ หลังจากส่งคุณเกดครับไอ้เวย์กลับห้องเสร็จ ผมก็เข้ามาตรงห้องรับแขก ที่นั่งดื่มกันเมื่อกี้ เพื่อมองหาเจ้าเต้ แต่ก็ไม่เห็น หันซ้ายหันขวาก็เห็นยืนอยู่ตรงระเบียงห้องซะแล้ว
“มายืนทำอะไรตรงนี้ ดึกแล้วไม่นอนอีกเหรอ” ผมถามมัน พร้อมกับแทรกตัวไปยืนเกาะระเบียงกับมันด้วย
“ทำไมกรุงเทพนี่ ไม่มีดาวเลยอ่ะครับ ผมมองไม่เห็นดาวเลยซักดวง สู้บ้านผมก็ไม่ได้” นี่ผมว่ามันต้องกรึ่มๆแน่ๆ ผมถามอย่าง กลับตอบอีกอย่าง
“ก็นี่มันกรุงเทพ แสงสว่างซะขนาดนั้นจะมองดาวได้อย่างไร ที่นายอยู่มันบ้านนอก มันก็เห็นดาวเป็นธรรมดา” คุยกับมันหน่อยครับ ตั้งแต่กลับมา ยังไม่ได้คุยเป็นจริงเป็นจังเลย
“อย่ามาว่าบ้านผมบ้านนอกนะ เดี๋ยววันนึง ผมจะพาคุณเท่ห์ไปดูดาวที่นึงนะครับ ไม่ไกลจากกรุงเทพด้วย ดาวสวยชะมัด” ที่ไหนของมันวะ ดาวสวยๆ ใกล้กรุงเทพ
“คุณเท่ห์ครับ คุณเท่ห์เคยรอใครมั๊ยครับ รออย่างไม่มีความหวัง แต่ก็ยังจะรอ รู้ว่ารอยังไงเค้าก็ไม่รู้ เค้าก็ไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดีใจที่จะรอ และก็ขอที่จะรอ รอแค่เค้าคนนั้น” ทำไมวันนี้มันมาแปลกจังวะ แล้วมันรอใครละ เฮ้อออ
“เคยสิ อย่างตอนนี้ชั้นก็รอเหมือนกัน รอใครสักคนมาเติมเต็ม แต่การรอของชั้นมันแตกต่างกับของนาย นายรอคนที่มีตัวตน แต่ชั้นเปล่า ชั้นยังไม่รู้ว่าเค้าคนนั้นเป็นใคร แต่ก็เหมือนกับนายที่ว่า ที่ไม่รู้ว่าจะมาตอนไหน และทำได้แค่รอ” ผมก็ไม่ต่างอะไรจากมันหรอกครับ รอใครคนนึงเหมือนกัน ตอนนี้มันมองหน้าผมเหมือนจะสงสัยในที่ผมพูด สายตาของมันตอนนี้ดูเหมือนคนกังวล กลัวอะไรซักอย่าง หรือว่ากำลังคาดหวังอะไรอยู่
“คุณเกดไง คุณไม่ชอบเค้าเหรอ” มันละสายตาจากผม แล้วพูดประโยคนี้ออกมา
“สนดิ ทำไมไม่สนละ” ผมพูดออกไปมองหน้ามันที่เหมือนจะกำลังเหวอ
“แต่ชั้นรู้สึกว่าไม่ใช่ ชั้นรู้สึกเหมือนมันยังว่างเปล่า คุณเกดเค้ายังไม่ได้เติมเต็มในส่วนที่ชั้นกำลังตามหา ชั้นเลยต้องค้นหาคนๆนั้นต่อไป” ผมพูดพร้อมมองหน้าขึ้นมองฟ้าทั้งๆที่ไม่เห็นอะไร แม้แต่พระจันทร์ หางตาผมพอรู้ว่าตอนนี้นายเต้กำลังมองผมอยู่ ถ้าผมหันหน้ากลับไปมองมัน ผมคงรู้สินะ ว่าสายตาของมันสื่ออะไรอยู่ แต่ก็นั่นหละ ผมไม่กล้าพอที่จะสบตากับมันในตอนนี้ ผมไม่กล้าจริงๆ
“ผมว่าผมจะลืมคนที่ผมรอ ... แล้วเริ่มต้นใหม่กับใครซักคน คุณเท่ห์ว่าไง” ลืมคนที่รอ แล้วเริ่มต้นใหม่เหรอ
“นายไม่เสียดายเวลาที่รอเค้าบ้างเหรอ” น่าเสียดายออกผมว่า
“ถ้ามัวแต่เสียดาย เมื่อไหร่จะได้เมียละ ฮ่าๆๆ จริงมั๊ยครับคุณเท่ห์” อ่าว ตกลงจะหาเมียเหรอนี่ ผมงงในตัวมันหมดแล้ว
“แล้วไอ้เวย์ละ นายคิดอะไรกับมันรึเปล่า” ว่าจะไม่ถามแต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้
“คิดครับ
คิดว่าเค้าเป็นเพื่อนเจ้านายผม เป็นอาของเจเจไงครับ” เวลานี้มันยังตลกอีกนะ แต่พอมันตอบมาแบบนี้ ผมก็ไม่รู้จะเริ่มถามต่ออะไรอีก อย่างน้อยมันก็บอกเป็นนัยๆว่า ยังไมได้คิดอะไรสินะ
ผมกับมันยืนมองท้องฟ้าที่ไม่มีแม้ดาวซักดวง มันยังคงเล่าเรื่องต่างๆให้ผมฟังอีกมากมาย ขำบ้าง ฝืดบ้างตามประสาเด็กเกรียนอย่างมัน แต่แปลกใจจัง ที่ผมกลับไม่เบื่อเลยเวลาที่มันพูดอยู่อย่างนี้ และแปลกใจจัง ที่ผมกลับรู้สึกมีความสุข โดยที่ผมไม่รู้ตัว
ตอนนี้ผมคงยิ้มอยู่สินะ ... ว่ามั๊ยย
............................................
ฝันหวานนะครับ ทุกคน !!!!!!