โอ๊ะ โอ สงสารคุณเกดจังเลย โดนด่าซะยับเลย แหะๆๆ
ไรเตอร์ว่าจะอัพให้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่ต่อเน็ตเท่าไหร่ก็ต่อไม่ได้
วันนี้ไรเตอร์จึงออกมาเล่นอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ เพื่ออัพตอนนี้ให้กับทุกคน
ตอนที่ 41
“อืม ยังไงก็ดูแลตัวเองดีๆละ ชั้นเป็นห่วงนายนะ” ผมพูดประโยคนี้ไป เมื่อใกล้จะถึงเวลาวางสายจากนายเต้แล้ว
“เพ่เต้ระวังข้างหลัง” เอ๊ะ นั่นมันเสียงเจเจตะโกนเข้ามาในโทรศัพท์นี่ เกิดอะไรขึ้นกันนะ
“โครมมมมมมมมมม !!” ไม่ทันที่ผมจะถามนายเต้ออกไปว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงการกระแทรกของสองชิ้นดังขึ้นผ่านทางเสียงโทรศัพท์อย่างสนั่น ผมหูอื้อ ตัวชาไปชั่วขณะกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากฝ่ายตรงข้าม
“นายเต้ !!!!!” ผมตะโกนผ่านสายโทรศัพท์เมื่อตั้วตัวได้ ก่อนที่จะออกจากบริษัทตรงไปยังที่ที่เกิดเหตุ
“ป้อคับ เพ่เต้จะเป็นยังไงบ้างคับ เจเจเป็นห่วงเพ่เต้” เจเจพูดประโยคซ้ำๆ ประโยคนี้มาหลายสิบรอบแล้ว และผมก็ตอบไปแบบเดิมๆทุกครั้ง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่เต้ต้องไม่เป็นอะไร เชื่อพ่อนะเจเจ” นั่นคือคำพูดที่ผมใช้ปลอบเจเจ และปลอบตัวผมภายในเวาเดียวกัน
“เอ่อ คุณคือคุณเท่ห์ใช่มั๊ยคะ” เสียงผู้หญิงที่ตามนายเต้มาตั้งแต่โรงเรียนอนุบาล ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นอาจารย์ของโรงเรียนนั้นถามผมขึ้น เอ เขารู้จักชื่อผมได้อย่างไรกัน
“ครับ ใช่ครับ ผมชื่อเท่ห์ ผมเป็นพ่อของเจเจ และก็เป็นญาติกับนายเต้” ผมตอบผู้หญิงคนนั้นไป
“คือดิชั้นชื่อแก้วนะคะ เป็นน้องสาวของคนที่ขับรถชนคุณเต้เมื่อกี้อ่าคะ” ผมลุกขึ้นพรวดตรงเข้าไปยังผู้หญิงที่พูดตรงหน้าผม
“แล้วพี่ของคุณไปไหน ทำไมเค้าไม่มารับผิดชอบ เค้าหายไปไหน พี่ของคุณเป็นใครทำไมถึงต้องขับรถเร็วๆในที่แบบนั้น ทำไมกัน” ผมยืนตะคอกหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวของผู้ที่ขับรถชนนายเต้ ด้วยอารมณ์และด้วยความเป็นห่วงในตัวนายเต้ ทำให้ผมเผลอทำอะไรออกไปโดยไม่ทันได้คิด
ผู้หญิงตรงหน้าผมร่ำไห้ด้วยความรู้สึกผิดอย่างกับตัวเองเป็นคนกระทำก่อนจูดอะไรออกมา
“ดิชั้นขอโทษนะคะ คือชั้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ปกติพี่สาวของดิชั้นจะมารับดิชั้นกลับบ้าน และวันนี้แกมาก่อนเวลา และแกก็ขับรถมาชนคุณเต้เค้าอย่างนั้น ทั้งที่ปกติพี่สาวของดิชั้นก็ไม่ได้ขับรถเร็วในโรงเรียนอย่างนั้น” เธอพูดมาด้วยอาการตื่นเต้นและกลัวๆในตัวผม ขนาดเจเจยังยืนห่างจากตัวผมเลย
“พี่สาวของคุณชื่ออะไร พี่สาวของคุณชื่ออะไร” ผมถามประโยคนี้ออกไปอย่างใจสั่น ภาวนาให้คำตอบนั้นไม่ใช่อย่างที่ผมคิด
“เกดสรินทร์ พี่ดิชั้นชื่อ เกด เกดสรินทร์คะ” ผมแทบล้มทั้งยืนหลังจากได้ยินประโยคนั้นจากผู้เป็นน้อง นี่คุณเกดกะเล่นงานนายเต้จริงๆหรือนี่ นี่คุณเกดกะเอากันให้ถึงตายกันหรือไง นี่มันจะมากเกินไปแล้ว
“เอ๊ย ไอ้เท่ห์ น้องเต้เป็นอะไรบ้าง” ไอ้เวย์ตามมาที่โรงพยาบาลหลังจากที่ผมโทรไปบอกมัน
“ยังไม่รู้แลยหวะ คงต้องรอหมอ” ผมตอบมันไป ใจก็ได้แต่ภาวนาขอให้นายเต้ปลอดภัย
“ป้อ หมอออกมาแล้ว” เสียงเจเจที่เดินเวียนไปเวียนมาหน้าห้องไอซียูตะโกนเรียกผม ผมรีบลุกขึ้นวิ่งไปหาหมอทันทีทันใด
“หมอครับ นายเต้เค้าเป็นยังไงบ้าง เค้าปลอดภัยดีใช่มั๊ยครับ เค้าไม่เป็นไรใช่มั๊ยครับ” ผมรัวคำถามใส่หมอไม่ยั้ง
“ใจเย็นๆครับคุณ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้ว ไม่เป้นอะไรมาก แค่โดนเฉี่ยวนะครับ แต่ที่หมดสติไปอาจเพราะอาการตกใจและก็แรงกระแทกที่ศรีษะ ซึ่งเดี๋ยวต้องรอผลเอ็กซ์เรย์อีกทีว่าสมองมีผลกระทบอะไรบ้าง เดี๋ยวก็ย้ายไปห้องปกติได้แล้วครับ หมอขอตัวนะครับ” หมอพูดจบก็เดินออกไป คลายความกังวลใจให้กับผมและคนที่คอยอยู่ด้านนอกมาก ผมหันไปมองน้องสาวคุณเกดที่ได้ยินหมอพูดเช่นเดียวกัน ถอนหายใจโล่งอกที่อาการของนายเต้ปลอดภัย
“ไม่เป็นไรแล้วมึง” ไอ้เวย์ตบบ่าผมเบาๆเพื่อสื่อเหมือนที่มันพูดบอกผมมา
“เออ ขอบใจมึงมาก” ผมตอบมันกลับไป
“เดี๋ยววันนี้ตอนดึกอ๊อฟจะมาเยี่ยม ตอนนี้กำลังนั่งเครื่องมา” ไอ้เวย์พูดบอกผมอีกครั้ง ผมได้แต่พยักหน้ารับคำ
ตำรวจที่ดำเนินคดีกลับมาจากที่เกิดเหตุเดินมาทางผม
“กรณีนี้เป็นคดีอาญา ถึงยังไงก็แล้วแต่ต้องบันทึกประจำวันไว้ ผมขอเชิญลูกของคุณและคุณครูแก้วไปให้ปากคำที่โรงพักหน่อยครับ เชิญครับ” ตำรวจนายนั้นพูดพร้อมนำเจเจและครูสาวไป ผมให้ไอ้เวย์ไปเป็นเพื่อนเจจไปโรงพัก เพราะผมอยากอยู่เฝ้านายเต้
นายเต้นอนไปนานมาก นี่ก็ราวๆ 5 ชั่วโมงได้แล้ว ผมนอนมองร่างที่หมดสติ หน้าผากพันด้วยผ้าสีขาว ตามตัวปิดด้วยผ้าพันแผลหลายจุด แขนขาที่ดามไว้เหมือนขาแข้งจะหัก ผมอยากจะเป็นคนที่เจ็บแทนนายเต้เหลือเกิน เพราะในเวลานี้ผมก็ยังคิดว่าต้นเหตุทั้งหมดเป็นเพระผมคนดียว
“ชั้นขอโทษนะนายเต้ ชั้นดูแลนายไม่ดี ชั้นขอโทษจริงๆ” ผมจับมือนายเต้พร้อมพูดพร่ำกล่าวขอโทษที่ดูแลนายเต้ไม่ดี
“นายอย่าเป็นอะไรไปนะ ชั้นรักนายนะ นายอย่าทิ้งชั้นไปอีกคนละ ชั้นคงอยู่ไม่ได้แน่ถ้าขาดนายไป” นั่นไม่ใช่เสียงผมครับ แต่เอ .... เสียงใครกัน
“นายเต้ !!!” เป็นเสียงนายเต้ที่พูดแซวผมครับ ผมเห็นหน้ามันยิ้มแป้นเลย
“ทำไมคุณไม่พูดแบบนี้ละครับ ผมจะได้ตื่นไวๆ รอฟังคุณพูดตั้งนานไม่เห็นพูดเลย คนเรานะคนเรา” ดูมันครับ พอรู้สึกตัวได้ก็กวนตีนผมไม่หยุดเลย มันน่านัก
“นี่นายรู้สึกตัวตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว”ผมถามมัน พร้อมเก็บสีหน้าดีใจ ปั้นหน้าโหดใส่มันแทน
“ก็นายพอจะได้ยินคนบางคนพร่ำเพ้อพรรณนาขอโทษฟ้าดินอยู่นั่นแหละครับ” ดูๆมันครับ มันร้ายจริงๆ
“เออ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ชั้นจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนพี่เลี้ยงเจเจ” ผมพูดไปพร้อมกับเดินไปหยิบแก้วมารินน้ำให้นายเต้
“เหรอครับท่าน เป็นห่วงผมก็บอกมาเถอะครับ อย่าปากแข็งไปเลย ผมไม่ว่าอะไรหรอก” ดูๆมันครับ นี่ขนาดบาดเจ็บอยู่ แต่ก็ยังปากดีไม่เลิก
“ไหน ใครเป็นห่วง ไม่มี๊” ผมพูดพร้อมกับยื่นแก้วน้ำพร้อมหลอดไปให้นายเต้
“โอ๊ยย !!” เสียงนายเต้ครับ ทำเก่งดีนัก
“ไม่ต้องลุก ดูดมันทั้งนอนแบบนี้นี่แหละ แผลมันยังไม่หาย” เล่นเอาผมต้องบ่นอีก มันเลยนอนให้ผมป้อนน้ำให้
“เพ่เต้ พื้นแล้วเหรอครับ เจเจดีใจจังเลย” เจเจครับที่โผล่มาจากประตูทางเข้า ก็วิ่งเข้ามาหาพี่เลี้ยงมันก่อนเพื่อนเลย
“ครับเจเจ เป็นห่วงพี่เต้เหรอครับ” นายเต้เริ่มอ้อนลูกผมแล้วครับ
“ใครบอกละคับ เจเจกลัวจะต้องเปลี่ยนเพ่เลี้ยงใหม่ตะหาก” ฮ่าๆๆ นี่สิครับ ลูกชายผม
“แหม พอๆกันเลยทั้งพ่อทั้งลูก ปากแข็งพอๆกัน” นายเต้อดบ่นอุบอิบไม่ได้
“น้องเต้ไม่เป็นไรแล้วใช่มั๊ยครับ พี่เวย์เป็นห่วงน้องเต้มากมายเลยนะครับเนี่ย กินไม่ได้นอนไม่หลับ กระส่ายกระสับ ตลอดทั้งวันเลย” ไอ้เวย์ครับ เสนอหน้ามาแต่ไกลเลย
“จริงเหรอครับคุณเวย์ ผมดีใจจังที่อย่างน้อยยังมีคุณเวย์เป็นห่วงผม ไม่เหมือนกับ...” นายเต้หยุดพูดพร้อมชายตามามองที่ผมกับเจเจ ก่อนจะพูดต่อ
“คนใกล้ตัวผม ที่คิดได้แต่งานๆ และงาน”
“ฮ่าๆๆ เจเจ พี่เลี้ยงเจเจน้อยใจแล้ว ทำไงดีละลูก” ผมเห็นเด็กโข่งงอนแล้วน่าแกล้งจริงๆครับ แล้วยิ่งตอนนี้ฤทธิ์น้อยๆ ยิ่งน่าแกล้งมากมาย
“นั่นสิคับป้อ น้อยใจใหญ่แย้วว ทำยังไงดีน้า....” วันนี้เจเจเป็นลูกรับผมได้ดีจริงๆครับ เล่นกันเข้าขาที่สุด
“ในเมื่อเจเจไม่เป็นห่วงพี่เต้ งั้นพี่เต้ไปเป็นพี่เลี้ยงให้อาเวย์ดีกว่า ใช่มั๊ยครับคุณเวย์” อ้าว งานเข้าแล้วครับ
“ใช่ครับน้องเต้ มาเป็นพี่เลี้ยงให้พี่เวย์ดีกว่านะครับ” น่านนน ไอ้เวย์เสริมทัพครับ
“ไม่อาววววว เจเจไม่ให้ เพ่เต้ของเจเจ อาเวย์อย่ามายุ่ง ใช่มั๊ยป้อเท่ห์” นี่สิครับลูกชายผม
“ใช่ นายเต้ของชั้นคนอื่นห้ามยุ่ง” ขอหวงด้วยคนครับ
“ใครบอกของป้อ ของเจเจต่างหาก” เอาแล้วไงครับ โดนเจเจแสดงความเป็นเจ้าของขนาดนั้นใครจะกล้าเถียงละครับ
“ใช่ครับใช่ พี่เต้ของเจเจ” เจ้าตัวยังยืนยันแบบนั้นเลย โห ตกลงใครคบกับใครกันแน่เนี่ย ... เฮ้อออ
หลังจากนั้นหมอก็เข้ามาดูอาการของนายเต้ และให้ยานายเต้หลับไปอีกครั้ง โดยมีเจเจที่นอนหลับอยู่ข้างๆ ผมได้คุยเรื่องการสอบสวนกับไอ้เวย์ ได้ความว่า คุณครูของเจเจชื่อครูแก้ว เป็นน้องสาวของคุณเกด โลกเรามันก็ช่างกลมเสียจริงๆ ไม่สิกรณีนี้ผมว่าโลกแคบ แต่ผมว่าหน้าตาของสองคนนี้ก็ดูไม่คล้ายกันเท่าไหร่ คุณเกดออกจะดูดีกว่ามาก เมื่อเทียบกับครูแก้ว และตอนไปโรงพักคุณเกดก็มามอบตัวพอดี มันบอกว่าคุณเกดจะเข้ามารับครูแก้วกลับบ้าน แล้วบังเอิญเห็นนายเต้เดินคุยโทรศัพท์อยู่ และเมื่อรู้ว่าเป็นผม เกิดโทสะขึ้นจึงบึ่งขับรถพุ่งชนซะงั้น เมื่อคิดได้ก็สายไปแล้วว่าตัวเองทำอะไรลงไป เลยขับรถหนีจากที่เกิดเหตุ
“แล้วตอนนี้คุณเกดเป็นไงบ้าง” ผมถามไอ้เวย์ที่เล่าเรื่องราวคร่าวๆทีเกิดขึ้นที่โรงพักให้ฟัง
“ก็ดูขวัญเสียนิดหน่อย จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว ตอนนี้ครูแก้วเค้าประกันตัวออกไปก่อนแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ตำรวจคงมาสอบปากคำน้องเต้เรื่องคดี” ไอ้เวย์ตอบผมมา
“ก๊อกๆๆ” เสียงคนเคาะประตูห้องดึงให้ผมกับไอ้เวย์หันไปสนใจที่ประตูบานนั้น
“สวัสดีครับคุณเท่ห์ ดีครับคุณเวย์” อ๊อฟนั่นเองครับ หอบกระเป๋ามาพะรุงพะรังดูออกโดยทันทีว่าตรงดิ่งมาจากสนามบินแน่นอน
“ยัยเต้เป็นอะไรบ้างครับ นี่ผมรู้ข่าวก็รีบเก็บข้าวของขึ้นมาเยี่ยมมันเลยนะครับเนี่ย” อ๊อฟพุดพร้อมกับวางสัมภาระเดินตรงดิ่งไปหานายเต้ที่นอนอยู่
“โอ๊ย โอย โอยยยย ชั้นไม่คิดเลยว่าชั้นกลับไปแค่สัปดาห์กว่าๆจะเกิดเรื่องแบบนี้กับหล่อนได้ ใจหายจริงๆ” อ๊อฟบ่นพรึมพรำกับนายเต้ที่นอนหลับใหลไม่รัยรู้อะไร
“แล้วนี่ใครกันที่ขับรถไม่ระวังไปชนมันได้ ตัวก็ใช่เล็กน้อย” อ๊อฟพูดพร้อมกับเดินมานั่งสมทบกับพวกเราที่โซฟา
“นี่ใจคอจะไม่บอกว่าคิดถึงพี่ พูดจาปราศรัยอะไรกันหน่อยเหรอน้องอ๊อฟ มาถึงก็บุ่มบ่ามเรื่องน้องเต้อย่างเดียว” ไอ้เวย์เกิดอาการงอนครับ ก็อีอฟมากล่าวสวัสดีแล้วก็บรรเลงเรื่องของนายเต้ทีเดียวเลย
“แล้วไงคุณเวย์ ให้รู้หน่อยเวลานี้ควรพูดเรื่องอะไร เรื่องของเราเอาไว้คุยกันที่ห้องก็ได้ ตอนนี้อ๊อฟเป็นห่วงยัยเต้มัน เข้าใจมั๊ยครับ” นั่นไงครับ โดนอ๊อฟเหวี่ยงใส่เข้าแล้วไง
“ได้จ๊ะน้องอ๊อฟ เรื่องของเราคุยกันที่ห้องสองคนเนอะ” นั่นไง ไอ้เวย์เริ่มเลื้อยแล้ว
“อย่ามาทะลึ่ง ตกลงว่าไง ใครหน้าไหนกล้าชนเพื่อนชั้น” ผมว่าอ๊อฟนี่ยังแรงดีไม่มีตกจริงๆนะครับเนี่ย
“ก็จะใครที่ไหนกันอีกละ สาวตกข้ามห้องไอ้เท่ห์ไง” ไอ้เวย์ตอบออกไปอย่างอารมณ์ขัน แต่คนที่รับฟังกลับไม่ตลกด้วย ถ้าผมดูไม่ผิดควันเหมือนจะออกหูอ๊อฟ หน้าแดงด้วยความโกรธ ไม่น้า........
“ยัยกรด แกกล้าดียังไงมาทำร้ายเพื่อนชั้น แกจะเล่นกับแม่ใช่มั๊ย !!!!” เอ่อ ... อธิบายไม่ถูก
“น่ากลัวจังเลยวะ ..” และนั่นคือความรู้สึกไอ้เวย์ และเป็นความรู้สึกเดียวกับผมตอนนี้
“เอะอะอะไรนะ ไอ้อ๊อฟ” เสียงนายเต้ตื่นแล้วครับ ว่าแต่นอนไปได้แป๊ปเดียวเอง
“อ้าวตื่นแล้วเหรอจ๊ะ ยัยเพื่อนรัก ไปพลาดเอาอีท่าไหนละ ถึงโดนชะนีขี่ยานยนต์ชนเอาได้” ทันทีที่ได้พูดกับนายเต้ อ๊อฟก็เริ่มบรรเลงฝีปากกนเลยสินะครับเนี่ย
“เหอะๆ ก็แค่อุบัติเหตุเล็กๆน้อยนะ ถือว่าฟาดเคราะห์” นายเต้พูดกลับมาเสียงเนือยๆ สงสัยยังหลับไม่เต็มอิ่มนัก เอ๊ะ ว่าแต่นายเต้จะรู้ยังเนี่ยว่าใครเป็นคนขับรถชนมัน
“แค่เหรอยะ นี่หล่อนคงยังไม่รู้ละสิว่าใครขับรถชนหล่อน” นั่นไงครับ ผมไม่ต้องบอกอีกแล้ว เพราะว่าอ๊อฟฟี่เริ่มรู้งาน
“เออ แล้วใครกันวะ” นายเต้ก็เช่นเดียวกัน ต่อมอยากรู้เริ่มจะทำงานขึ้นมาทันที
“ชั้นบอกไปแล้วมันจเหมือนละคร ที่นางร้ายจงจะทำร้ายนางเอก เพราะโดนนางเอกแย่งพระเอกไป ชั้นว่ารเองนี้กำลังเข้มข้นแล้วละ” นั่นไงครับ อ๊อฟทำเริ่มเรื่องให้มันน่าตื่นเต้นขึ้นจนได้
“แกอย่าบอกนะว่าเป็น...” นายเต้กำลังทาย และผมคิดว่าคงเป็นคนเดียวกับที่ทุกคนคิด
“โชเด๊ะ !!! แกนี่ก็ไม่ได้โง่เหมือนที่ชั้นคิดเลยนะเนี่ย” นั่นครับ หลอกด่านายเต้ซะงั้น ผมกับไอ้เวย์ได้ยินสองคนนั้นคุยกันมานาน เลยอยากร่วมแจม เดินเข้าไปร่วมคุยบ้าง
“คุยกันสนุกเชียวนะสาวๆ” ไอ้เวย์ครับ อยู่ดีไม่ว่าดีอยากตายซะงั้น
“ใครสาว !!” นั่นไงครับ ผมบอกแล้วว่ามันหาเรื่องตาย ก็สองสาว เอ๊ยสองนายนั้นประสานเสียงทำตาดุใส่มันใหญ่เลย
“ฮืออออ เงียบๆหน่อย เจเจจะนอน เอะอะอะไรกันก็ไม่รู้ ผู้ใหญ่เนี่ย” เสียงเจเจครับ มันบ่นพลิกตัวอยู่บนที่นอนไปมา แล้วลุกขึ้นมามองผม ไอ้เวย์ นายเต้ แล้วมาหยุดที่อ๊อฟ
“อ้าว ยายอ๊อฟ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คับ เจเจคิดถึงจังเลย” นั่นไงครับ มุกอ้อนของมันมาแล้ว มันลุกขึ้นยืนบนเตียงก้าวขาข้ามมาเพื่อจะกอดอ๊อฟ แต่คงลืมไปว่าคนที่นอนอยู่คือนายเต้
“โอ๊ยๆๆๆ เจเจ เหยียบขาพี่เต้ครับ โอ๊ยยยย” เสียงนายเต้ร้องออกมาเสียงหลงเลยครับ ก็จะให้ไม่ร้องได้ไง เจเจเล่นเหยียบซะแรงเลย
“เป็นไงบ้าง เจ็บมากมั๊ย” ผมถามนายเต้ออกไปด้วยความเป้นห่วง
“เพ่เต้ เจเจขอโทษ เจเจลืมตัว” เจเจครับ พูดพร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษนายเต้
“อ่าครับ พี่ไม่เป็นไรมาก” นายเต้คงจะพยายามกัดฟันพูดครับ เพราะดูสีหน้าเหมือนจะเจ็บมากๆ
“เจเจน้า ถ้าพี่เต้ขาหักไป จะเลี้ยงเจเจได้ไงเนี่ย ดูสิตัวก็เล็กซะที่ไหน ไปเหยียบพี่เค้า” อ๊อฟพูดขึ้นพร้อมกับยกตัวเจเจลงจากเตียง
“เจเจขอโทษนะครับเพ่เต้ มาครับเจ็บตรงไหน เจเจเป่าให้ ตรงนี้ใช่มั๊ยครับ เพี้ยงงงงง หายนะครับ” เจเจทำกับนายเต้เหมือนที่เคยทำกับผม พาทำให้พวกเราทั้งหมดอดขำกับพฤติกรรมนั้นไม่ได้
“ป้อครับ เจเจหิวแล้ว พาเจเจไปหาอะไรกินหน่อย” หลังจากซุกซนอยู่กับเตียงนอนของนายเต้ได้พักนึง เจ้าตัวก็เริ่มออกอาการหิวแล้วสิครับ นี่ก็ค่ำแล้ว เจเจยังไม่ได้กินอะไรเลย
“ไปครับ เดี๋ยวพ่อพาไปหาอะไรกิน” ผมตอบกลับเจเจไป
“เออดี เดี๋ยวกูไปด้วย รู้สึกหิวเหมือนกัน” ไอ้เวย์เสริมทัพ
“งั้นเดี๋ยวผมอยูเป็นเพื่อนเต้เองแล้วกัน” และนั่นคือหน้าที่ของอ๊อฟ
“ไปเถอะวะ ปล่อยให้สาวๆเค้าเมาท์กัน” ปากของไอ้เวย์หาเรื่องอีกแล้วครับ
“อยากตายมากใช่มั๊ย คุณเวย์ !!!!” เสียงเมียมันครับ ไม่ใช่เมียผม ... อิอิ
“ตลกอะไรของคุณ คุณเท่ห์” อูยยยยย โดนด้วย
ตอนต่อไป เน็ตต่อได้จะได้อ่านกัน