ผมเป็นโรคเหงาอ่ะ อยากให้เพื่อนมาช่วยกันโพส

**********************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน จังหวะเผลอ
วันนี้ไอ้ทานมันไม่ไปซ้อม ใช่มันไม่ไปซ้อมจริง ๆ และมันก็กำลังนั่งกระดิกขาดูรายการโทรทัศน์อยู่ เห็นมันเหลือบมามองเป็นพัก ๆ แล้วมันก็หันหน้ากลับไปสนใจกับรายการโทรทัศน์ต่อ
แปลก มันมาแปลก แปลกมากด้วยไม่ใช่แปลกแบบธรรมดา ไอ้ทาน มันเป็นห่าอะไรของมันวะวันนี้
อ้อนนั่งมองหัวเข่าของตัวเอง ก้มมองที่มือที่ยังมีผ้าพันแผลพันแบบหลุดรุ่ย มองหน้าของทานตะวันแล้วก็หันกลับไปมองหัวเข่าของตัวเอง ก้มลงมองที่มือ
แล้วก็หันไปมองหน้าของทานตะวันอีกหลาย ๆ ครั้ง ซ้ำไปซ้ำมาอย่างนั้น
ส่วนไอ้ตัวต้นเหตุของการที่ทำให้อ้อนเกิดอาการมึนงงแต่เช้า กำลังเพลิดเพลินกับรายการ แฟชั่นโชว์ที่มีสาว ๆ เดินไปเดินมาตลอดเวลา
บางทีเห็นมันนั่งยิ้ม บางทีมันก็ทำหน้าเอ๋อ ๆ บางครั้ง ก็ตาเยิ้ม และบางครั้ง ก็หันมามองหน้าของอ้อนเป็นพัก ๆ แล้วก็หันไปยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้าอีก
"เฮ้ย เอากูมาไว้เนี่ย เพื่อให้กูนั่งมองหน้ามึงเหรอ จะให้กูทำอะไรให้มึงได้มั่งวะ รีบ ๆ บอกมาเหอะ กูทำตัวไม่ถูก"
เป็นอ้อน ที่อดรนทนไม่ไหว ต้องพูดออกมา
ไม่เข้าใจว่าไอ้ทานตะวันบ้า มันอุ้มพามานั่งที่โซฟานอกห้องนอนทำไม ผีเข้าจริง ๆ ขับรถไปซื้อโจ๊กมาให้กินแต่เช้า ป้อนข้าวป้อนน้ำ
แล้วก็พามานั่งดูรายการโทรทัศน์ด้วย โดยที่วันนี้มันยังไม่ออกฤทธิ์ออกเดชอะไรเลยสักอย่างนอกจาก แหกปากโวยวาย เรื่องที่โจ๊กในชามร้อน
แล้วกินเข้าไปแทบลวกปาก เอ้า ก็มึงโง่เองจะไปโทษถุงโจ๊กมันก็ใช่ที่ ไอ้นี่ประสาทแต่วัน บ้าอะไรของมันนักหนาวะ
นั่นแหละอาการผีบ้าแต่เช้าของคนที่ใจจดใจจ่อกับการดูรายการแฟชั่นโชว์ ไม่นับรวมเรื่องบ่นนั่นบ่นนี่ เรื่องที่ขับรถออกไปหน้าปากซอยแล้วหมาตัดหน้ารถ เรื่องที่เดินเข้าบ้านแล้วอากาศร้อน
สารพัดสารเพ ในที่สุดก็ได้รู้ ไอ้ห่าทาน มันเป็นคนที่โคตรขี้บ่นเลย บ่นนั่นบ่นนี่ ดีแต่โวยวายทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง ไร้สาระสิ้นดี
นอกจากไม่โวยวายเรื่องเตะบอลแล้ว มีเรื่องไหนอีกมั้ย ที่ทำให้ไอ้ทานไม่แหกปากได้ สงสัยว่าคงจะไม่มีแน่ ๆ
"เฮ้ย มึงดูกางเกงในดิ ไอ้เหี้ยหุ่นมันล่ำว่ะ กูซื้อมาใส่เล่นเสักตัวสองตัวดีมั้ย เอามาใส่เล่น หุ่นกูสู้มันได้สบาย ๆ ชัวร์"
นั่นก็อีกหนึ่งอาการ เขาเรียกอาการหลงตัวเอง อาการยังไม่รุนแรงเท่าไหร่ แต่หนักกว่านั้น อาการเริ่มมาอีกแล้ว เมื่อเริ่มเปลี่ยนไปดูช่องกีฬา ไอ้บ้าทานก็ไปคว้านั่นคว้านี่มาเล่น
ประกอบการชมกีฬา ฟุตบอล มันก็เอาลูกฟุตบอลออมาเดาะเล่น ตามองโทรทัศน์
พอถึงคราวเบสบอล มันก็เอาไม้เบสบอลออกมาหวดเล่น จะโดนหัวอยู่ร่อมมะร่อ แต่ต้องปล่อยมันไป เพราะที่นี่บ้านมัน
นี่ถ้ามีรายการยิมนาสติกลีลามันจะไปคว้าคทากับริบบิ้นมาด้วยมั้ยวะเนี่ย
และเมื่อถึงรายการยิมนาสติกลีลาจริง ๆ ทานตะวันก็ทำให้อ้อนถึงกับอ้าปากค้างได้
"เฮ้ยยยยยยยยยยย ไอ้เป๋ กูมีนะโว้ยริบบิ้นกับคทาเดี๋ยวกูไปหยิบมาให้ดู นี่ไง นี่ไง กูเก็บใส่กล่องไว้อย่างดีเลยนะโว้ย"
เฮ้ย เอาจริงดิ มีจริงดิ ไอ้ทานมันต้องเป็นบ้าแน่ ๆ ทำบ้าอะไรของมันวะนั่น อ้อนหน้านิ่วคิ้วขมวดมองคนบ้าอย่างปลง ๆ
ไอ้ทานมันเข้าขั้นบ้า บ้าหนักเลยล่ะ อย่างกับเด็กได้ของเล่น แล้วก็เอาของเล่นมาอวด นี่มันจะบ้าไปถึงไหนวะเนี่ย
สาว ๆ นักยิมนาสติกกำลังวาดลีลาอย่างสวยงาม ส่วนทานตะวันกำลังสะบัดริบบิ้นไปมา อย่างสนุก มองไปมองมาเหมือนเด็กตัวโต ๆ กำลังทำเรื่องบ้าๆ บอ ๆ อยู่
ภาพของคนที่ลงไปนั่งบนพื้นและแกะริบบิ้นที่พันหัวพันคอ มั่วไปหมด จนแกะไม่ออก แต่ดวงตายังมองไปที่หน้าจอโทรทัศน์อยู่
ทำให้อ้อน ถึงกับหัวเราะออกมาเบา ๆ ด้วยความขำ เออนะ ไอ้ทานหนอไอ้ทาน เป็นไปได้ขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อ
คิดแล้วก็ขำ ขำแล้วก็มองใบหน้าหล่อเหลาของคนตัวโตพร้อมกับต้องปลง
ไอ้ห่านี่ สาว ๆ ชอบมันเยอะ เห็นมายืนกรี๊ด ๆ กันข้างสนาม ขอบงขอเบอร์ก็เยอะ แต่โดนไอ้ทานด่าเข้าให้ เลยหายกันไปหมด สาเหตุของการเดินไปด่าผู้หญิง
เพราะมันหาว่าสาว ๆ ชอบมาส่งเสียงดังหนวกหูน่ารำคาญ แถมซ้ำมันยังไม่รู้ตัวเองว่ามันมีสเน่ห์แบบโง่ๆ อย่างไม่น่าเชื่ออีก ก็หน้าอย่างนี้ นักกีฬาขนาดนี้ ที่บ้านยังมีฐานะอีก
เป็นใครก็ต้องสนทั้งนั้น แต่ไม่มีใครรู้ ว่ามันมีพฤติกรรมเพี้ยน ๆ แบบนี้ ขืนผู้หญิงคนไหนได้มันไปเป็นแฟน คงนึกว่าได้ลูกชายเอาแต่ใจไปเลี้ยงแน่ ๆ
"เฮ้ย แกะไม่ออกอ่ะ มึงแกะทีเด่ะ ทำไงเนี่ย มันพันข้างหลังด้วย"
อ้าว ก็แล้วไปทำอีท่าไหนวะนั่น สมควรอยู่หรอกที่มันจะแกะไม่ออก ก็เล่นวาดลวดลายซะขนาดนั้น
คนตัวโตขยับร่างกายมานั่งอยู่บนพื้นหน้าโซฟา และเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของคนที่นั่งยืดขาอยู่ตรงหน้า เพื่อขอความช่วยเหลือ
อ้อนหัวเราะน้อย ๆ แล้วก็เอื้อมมือข้างที่ดีพยายามช่วยแกะให้ สายริบบิ้นพันกันไปพันกันมา แต่ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงในการแกะเท่าไหร่นัก
ใบหน้าขาว ๆ ที่ยังซีดเผือด ริมฝีปากสีซีดที่ลอยผ่านไปผ่านมา อยู่ตรงหน้าของทานตะวัน
ดวงตากลมโตที่มองไปที่สายริบบิ้น รอยยิ้มอ่อนโยนที่ไม่ค่อยได้เห็นมากนัก ทำให้ทานตะวันเผลอมองโดยไม่ได้ตั้งใจ และกระพริบตาปริบ ๆ
นิ่งมองอยู่อย่างนั้น
"อ่ะ เสร็จแล้ว มันพันตรงข้างหลังด้วยแหละเลยแกะยาก" น้ำเสียงทุ้ม ๆ แผ่วเบาเอ่ยบอก พร้อมกับยื่นสายริบบิ้นส่งให้ที่มือของทานตะวัน
ดวงตาคมก้มลงมองที่สายริบบิ้น และเงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง กระพริบตาปริบ ๆ หลายครั้ง พร้อมกับขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ
"เวลายิ้ม ดีกว่าเวลาทำหน้าเฉย หรือทำหน้าบึ้ง มึงยิ้มนาน ๆ ซิเดี๋ยวกูลดหนี้ให้"
ห๊า
ยิ้มนาน ๆ
ดีกว่าทำหน้าบึ้ง
ถ้ายิ้มแล้วจะลดหนี้ให้
เอ่ะ หรือว่าหูจะฝาด อะไรนะ อีกที ฟังไม่ถนัด
"จริงเหรอ ถ้ากูยิ้มเยอะ ๆ จะลดหนี้ให้จริงอ่ะ อย่ามาหลอกเลย ลดให้จริงก็ตลกสิ ใครเชื่อก็บ้าแล้ว"
เป็นคำพูดของอ้อนที่ทำให้ทานตะวันเกิดอาการไม่พอใจขึ้นมา
ทำไมวะ ถ้าเชื่อก็บ้าเหรอ คนอย่างกูนี่ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือเลยหรือไง ถึงขนาดต้องพูดเล่นหรือพูดโกหกเลยเหรอ ดูถูกมากเกินไปแล้วนะเว้ย
ไอ้อ้อน เห็นกูเอาใจหน่อย เลยปากดีพูดจาอย่างนี้ใช่มั้ยวะ ต้องให้มันรู้ฤทธิ์หน่อยแล้วมั้งแบบนี้ ดีกับมันมาก ๆ ชักเหลิง
คนตัวโตลุกพรวดพราดขึ้นยืน โยนม้วนริบบิ้นทิ้งลงบนโต๊ะแล้วเดินไปปิดรายการโทรทัศน์ ก่อนจะมาหยุดยืนจ้องหน้าของอ้อนพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น
หน้าตายุ่งเหยิงขึ้นมาแบบไม่ต้องให้รอ
เอาแล้วไงล่ะ ผีเข้าไอ้ทานอีกแล้ว คราวนี้มันจะบ้าเรื่องอะไรอีกวะเนี่ย ซวยอีกแล้วกู ไปพูดอะไรไม่เข้าหูอีกแล้ววะเนี่ย
"มึงเป็นแฟนกูนะ ทำไม กะอีแค่ยิ้มนี่มันจะตายหรือไง มึงอยากลองดีเหรอห๊า ไอ้เป๋ อยากลองดีหรือไง"
กูเปล่า กูยังไม่ได้อยากลองดีอะไรกะมึงเลยเนี่ย กูนั่งอยู่เฉย ๆ เลยนะ เป็นเหี้ยอะไรอีกล่ะ
"จำไว้เลยนะมึง มึงจำไว้เลย มึงอ่ะเป็นหนี้กู ถ้าไม่อยากให้กูไปบอกแม่มึงนะ มึงอย่าพูดไม่เข้าหูกูอีกจำไว้เลย"
พูดไม่พูดเปล่า แถมนิ้วยังจิ้มเข้าที่กลางหน้าผากของอ้อนอีก กดจนอีกฝ่ายหน้าหงาย แล้วก็ยืนทำหน้าโมโหใส่ จนอ้อนที่กำลังยิ้มๆ กลายเป็นหน้าบึ้ง
เออ ลืม อุตส่าห์นึกว่าวันนี้ไอ้ทานจะเป็นคนดีสักวัน แต่ที่ไหนได้ มันก็เป็นพวกบ้าบอสติเสีย ชอบหาเรื่องอีกเหมือนเดิมนั่นแหละ
เอาอะไรกับมันล่ะ คนสติแตกแบบนี้
"แล้วก็นะ" พูดแล้วทานตะวันที่หน้าบู้บี้ เพราะอารมณ์โมโห ก็ย่อกายลงและนั่งลงตรงหน้าของอ้อน ก่อนจะเอียงแก้มให้กับคนที่นั่งเงียบ พร้อมกับใช้นิ้วจิ้มไปที่ข้างแก้มของตัวเอง
เอ่ยบอกออกมาทั้งที่อารมณ์ยังครุกรุ่นอยู่
"หอมแก้มกูเลย เร็ว ๆ" อ่ะนั่นไง ไอ้เรื่องสติเสียขอให้บอก ไอ้ทานมันทำได้เสมออยู่แล้ว นี่จะทำอะไรของมันอีกวะเนี่ย
"เร็ว เร็ว เร็ว เร็ว" เสียงที่เร่งเร้าอยู่ในทีทำให้อ้อนต้องขยับกายเข้ามาใกล้ ๆ และเตรียมจรดปลายจมูกเข้าที่ข้างแก้มของทานตะวันอย่างปลง ๆ
อะไรล่ะคราวนี้ กดให้ดมเสื้อเน่า ๆ หรือว่าจะทำอะไรอีก เชื่อใจอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ กับไอ้คนสติแตกคนนี้
ปลายจมูกกำลังจะโน้มลงมาหา แต่ทานตะวันกลับหันหน้ากลับมาอีกครั้งเหมือนจงใจให้เป็นแบบนี้
ริมฝีปากสีสดแตะสัมผัสเบา ๆ กับริมฝีปากซีดขาว
ก่อนจะผละออกห่างอย่างรวดเร็ว
อ้อนรีบปิดปากตัวเองเอาไว้แน่น ดวงตากลมโต เบิกกว้างขึ้น เพราะเพิ่งรู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ฝ่ามือขัดถูไปที่ริมฝีปากของตัวเองเหมือนคนที่กำลังตกใจอย่างถึงที่สุด
"ไอ้ ไอ้ ไอ้ วิปริต อี๋ เหี้ยเหอะ แม่ง แหวะ กูอยากจะอ้วก นี่มึงเล่นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ไอ้เหี้ยเอ้ย ถุย ถุย ถุย อุบาทว์ชิบหายเลยโว้ย"
อ้อนที่ทำหน้าเฉย นิ่งเงียบ ด่าออกมาเป็นชุด และขัดถูริมฝีปากของตัวเองเป็นการใหญ่
ส่วนไอ้คนก่อเหตุ กำลังยิ้มแป้น และหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ที่ได้เห็นท่าทางของอ้อนแบบนี้
คนตัวโต ยืนขึ้นและหัวเราะเสียงดังลั่น อย่างสนุกสนาน ส่วนอ้อน เอาแต่เช็ดปากของตัวเองด้วยความรู้สึกโมโห หันไปมองคนบ้าบอตาขวาง แล้วยังด่าต่อไปไม่เลิก
"สบายใจเว้ย สบายใจ สบายใจ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
ร่างสูงใหญ่ เดินหัวเราะร่า เข้าไปในครัว ทิ้งให้อ้อนนั่งขัดปากของตัวเองและยังด่าตามมาอีกหลายชุดชนิดไม่กลัวตาย
ส่วนทานตะวันเดินมาหยุดในครัว ยืนหัวเราะเบา ๆ เงียบ ๆ คนเดียว นัยน์ตาคมที่เคยไร้สีสันครั้งนี้ดวงตาคู่นั้นพราวระยับ และยกมือขึ้นแตะสัมผัสที่ริมฝีปากของตัวเอง
นึกถึงใบหน้าของอีกฝ่ายแล้วยิ่งขำ จนต้องหัวเราะออกมา และแอบชะโงกหน้าไปมองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาห่างออกไป
"ถ้ารู้ว่าจุ๊บมันตอนตื่นแล้วสนุกขนาดนี้ รู้งี้ทำไปนานแล้ว ตลกว่ะ ขำดีจริง ๆ "
ทานตะวันเอ่ยบอกกับตัวเองเสียงเบา และยังหัวเราะไม่เลิก
ไอ้อ้อนเหรอ ไอ้อ้อน ไอ้อ้อน มึงนี่มันน่าสนุกจริงๆ เลยว่ะ ตลกดีโว้ยยยยยยยยย
TBC.....
โดย aoikyosuke