[fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke  (อ่าน 475364 ครั้ง)

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ความสุขบางทีเราก้ไม่คาดคิดว่ามันจะได้มาง่ายๆ อย่างนี้เหมือนเก่าเนอะ

ขอมีความสุขด้วยคนนะเคอะ  o22

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
วันนี้อ่านกันเร็วแหะ ถึงสิบ reply ละ งั้นโพสอีกตอน
 :impress2:
********************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ทำไม

ทานตะวันหนอทานตะวัน ท่านจะทำตัวให้เหมือนคนดี ๆ เขาเป็นกันบ้างไม่ได้เชียวหรือ
ทำไมถึงได้เป็นบ้าได้ขนาดนี้ จะวิ่งทำไมมากมาย น่าปวดหัว มันเป็นอะไรของมันกันล่ะเว้ย

อ้อนนั่งอยู่ข้างสนามฟุตบอลแล้วก็เอามือกุมขมับ ขายังไม่ทันหายเจ็บ ไอ้คุณท่านทานตะวันก็ลากมาอยู่ข้างสนามกับมันแล้ว

แล้วมันก็เข้าอีหรอบเดิม

น้ำ

ผ้าขนหนู

น้ำ

ผ้าขนหนู

น้ำ

ผ้าขนหนู

วิ่งไปวิ่งมาทำไมหลายสิบรอบ ไม่เวียนหัวบ้างหรือไงวะ แล้วไอ้เรื่องหวานแหววเมื่อคืนล่ะ นั่นมันเรื่องอะไรกัน สงสัยจะเป็นความฝัน ชัวร์
เพราะไอ้ทานเมื่อคืนนี้ แม่งเอ้ย เจ้าชายกลับชาติมาเกิดแท้ ๆ ช่างแสนดี และเปี่ยมล้นไปด้วยความเหงาและอ้างว้าง ใบหน้าหรือก็หล่อคม แฝงความเศร้าแต่เย้ายวน
เจ้าชายแท้ ๆ เลยมึง หญิงเห็นรับรองหลงชัวร์

อ้อนได้แต่ประชดประชันคนที่บ้าแหกปากวิ่งอยู่กลางสนาม พร้อมกับสมาชิกชมรมอีกนับสิบชีวิตที่ต้องบ้าวิ่งตาม คนที่ไม่ยอมหยุดพักเลยสักนิด

เมื่อคืนนี้ มีคนช่วยอาบน้ำ ไม่เรียกว่าอาบน้ำหรอก เขาเรียกว่ากดให้จมน้ำมากกว่า
ตีสามครับตีสาม ไอ้คนโรคจิตมันนึกว่ากี่โมงกี่ยามกัน มันถึงได้ตักน้ำราดเอาราดเอาตัวเปียกไม่พอ ผ้าไม่ช่วยเปลี่ยน แถมยังโยนผ้าขนหนูครอบไว้บนหัว
ตามมาด้วยเสื้อผ้าชุดอย่างกับยักษ์กับมารต้องมานั่งพับขากันอีก วุ่นวายน่าปวดหัวกบาลไม่เลิก แล้วมันก็ลากขึ้นเตียงไปนอนกอด

อุ่นสบายเหลือเกินนะมึง นอนอย่างเดียวไม่พอมันยังมีเอาขามาก่ายแล้วหัวเราะคิกคักชอบใจ ก่ายไม่พอมันเอาขามาล็อคขาเอาไว้อีก ไม่ให้ขยับ
เออสนุก มึงสนุก แต่กูไม่สนุกด้วยเลย แต่ทำอะไรไม่ได้ ต้องเงียบ เซ็งแม่งจริง ๆเลยเว้ย สุดยอดของความเซ็งเลย ยังไม่ทันได้นอนยังไม่ทันหลับครับ

ไอ้เวรนี่มันก็ลุกขึ้นแล้วแหกปากเสียงดังลั่น แต่มืดแต่ดึก เมื่อเจ็ดโมงเช้า แล้วเป็นไงล่ะ ก็ต้องตามมันออกมานั่งเฝ้ามันอยู่ข้างสนามฟุตบอลนี่ไง
ไม่มีอะไรเลยที่ต้องทำนอกจากต้องปรนนิบัติไอ้คุณท่านทานตะวัน เฮ่อ เซ็ง เซ็งจังเลยโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย


อ้อนนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วแกว่งขวดน้ำเล่น ตามองไปที่คนตัวโตที่วิ่งจนเหงื่อโทรมกาย และนั่น มันกำลังมาแล้ว มันกำลังวิ่งมาแล้ว และมันก็กำลังก้าวเข้ามาแล้ว

กล้องแพลนไปที่ภาพของตะวันที่วิ่งเข้ามาอย่างช้า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ และ และ และ

อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ตุ๊บ

เสียงไม่ดังเท่าไหร่ ก็แค่กัปตันทีมฟุตบอลตัวโตล้มลงไปกองอยู่แทบเท้าอ้อน และนิ่งเงียบไปแล้ว

"พี่ทาน ไอ้ทาน ทาน และ เฮ้ยยยยยยยยยยยย

ทุกคนกรูกันเข้ามาช่วยประคองคนที่เสียฟอร์มหล่อแต่วัน แต่ทานตะวันค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง และลุกขึ้นยืน ทั้งที่เลือดกำเดาไหลพราก

"กูยังไม่ตาย ไม่เป็นอะไรโว้ย ไอ้เป๋ ผ้าขนหนู แล้วก็น้ำด้วย ไม่ต้องตาม ใครตามกูพ่อมึงตายกูจะไปเปลี่ยนเสื้อ"

รวดเร็วทันใจ อ้อนส่งน้ำและผ้าขนหนูให้กับทานตะวัน และร่างนั้นก็เดินลิ่ว ๆ ๆ ๆ ๆ เข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อของนักกีฬา ท่ามกลางสายตาของใครหลายคนที่ยังตื่นตะลึง
และยังนึกไม่ออกว่าเมื่อ 20 วินาทีก่อนนี้มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่าการเสียฟอร์มอย่างยิ่งใหญ่และใหญ่หลวงของกัปตันทีมจะเป็นภาพหลอน เอ๊ะหรือว่ายังไง
ท่ามกลางความตื่นตะลึงของใคร ๆ ที่ยังตั้งตัวไม่ถูก แต่อ้อน รู้ว่าต้องทำอะไร

ไม้ค้ำยันถูกนำมาพยุงร่าง และอ้อนก็พาตัวเองเดินกระโผลกกระเผลกตามเข้ามาในห้องเปลี่ยนเสื้อ

ทานตะวันเงยหน้าขึ้นมองเพดาน และใช้ขวดน้ำดื่มวางไว้บนหน้าผาก เพื่อหยุดเลือด

เสียฟอร์ม เสียฟอร์มมาก ๆ เสียฟอร์มอย่างแรง จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนวะกู เสียฟอร์มโว้ยยยยยยยยยยยย แล้วล้มที่ไหนไม่ล้ม เสือกมาล้มแทบเท้าไอ้เป๋
ชีวิตกู ชีวิตชายมาดแมนอย่างกู ทำไมมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้วะ

"เฮ้ย เข้ามาทำไมวะ ใครใช้ให้เข้ามา เกะกะ" น่านนนนนนนนนนนน ไม่ทันไร มันก็แผลงฤทธิ์นี่ขนาดเลือดกำเดาไหล ยังแหกปากได้ไม่เลิก

อ้อนส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับคนบ้าบอที่ยังบ้าไม่เลิก ไม่มีคำพูดอะไร นอกจากอ้อนทิ้งกายลงนั่งข้าง ๆ ทานตะวัน และรั้งต้นคอของคนที่นั่งเงยหน้าอยู่ ให้เอนกายนอนลง

 


"เฮ้ยทำไรวะ เห็นกูเลือดออกหน่อย ทำเป็นเก่งเลยนะ คิดจะทำอะไรกันแน่วะ"

ปากโวยวายไม่เลิก แต่สุดท้ายเมื่อถูกรั้งมาก ๆ เข้า ทานตะวันก็จำใจต้องเอนกายลงนอนหนุนตักของอ้อน

"นอน ๆ ไปเหอะ เลือดยังไม่หยุดไหลเลยนี่ นั่งอย่างนั้นเดี๋ยวก็มึนหัวหรอก" คำพูดเรียบเรื่อย แต่แฝงมากับความห่วงใยลึก ๆ
ทำให้คนที่ใช้หน้าขาของอ้อนแทนหมอน ต้องเหล่สายตาไปมอง
คนที่พูดประโยคนี้ แล้วถึงได้รู้ว่าหัวใจของตัวเองกำลังเต้นตึกตัก ตึกตัก และเริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ

"ทำไมต้องมึนด้วย" รู้ว่าทำไมถึงมึน แต่คนบ้า ๆ ก็ยังอดถามไม่ได้ นัยน์ตาคมใสแจ๋ว จ้องมองใบหน้าของอ้อนที่หันกลับมาแล้วก็ส่ายหน้ากับความไร้เดียงสาของคนตัวโต

"ก็เพราะว่าเสียเลือดไงล่ะ"

อ๋อ เหรอ งั้นถ้าไอ้อ้อนเสียเลือดมันก็มึนเหมือนกันน่ะสิ

"แล้วทำไมเสียเลือดล่ะ"

"ก็เพราะว่าคนบางคนหกล้มหัวทิ่มไง"

"แล้วทำไมหกล้มหัวทิ่มล่ะ"

"ก็เพราะว่ามันซุ่มซ่ามไง"

"ก็ทำไมมันซุ่มซ่ามล่ะ"

"กูจะไปรู้เหรอ"

"เหรอ" หมด จบการสนทนาทันที

อ้อนหันหน้าไปอีกทาง ส่วนทานตะวันหรุบสายตาลง และหรี่ตาลงอย่างช้า ๆ

"มึน สงสัยเสียเลือดเลยมึน แล้วก็ง่วงนอน" โห เหตุผลของมัน มึนเพราะเสียเลือดสองสามหยด นี่ดูเหมือนว่าเลือดจะหยุดไหลแล้วด้วย แต่ไอ้ทานมันหาเหตุไม่ยอมลุกขึ้น
สงสัยว่ามันคงจะขี้เกียจล่ะมั้ง

"น่าจะตายไปเลยนะ เสียเลือดเยอะ ๆ ควรตายไปเลย"

พูดไปแล้ว และไม่ทันคิดถึงผลที่ตามมาของคำพูดนี้

ทานตะวันปรือตาตื่นขึ้นและลุกพรวดพราดขึ้นนั่ง เหวี่ยงผ้าขนหนูผืนเล็กใส่หน้าของอ้อน ตามด้วยการขว้างขวดน้ำไปที่ประตูล็อคเกอร์จนน้ำในขวดไหลออกมานองพื้น

"อ๋อ ถ้าตายจะได้ไม่ต้องใช้หนี้ คิดงั้นล่ะสิ เออ กูมันเป็นมารชีวิตมึงนี่ ถ้าไม่มีกู มึงก็ไม่ต้องมีหนี้มีสิน แล้วก็มาทำหน้าลำบากใจอย่างนี้หรอก ใช่มั้ยล่ะ ใช่มั้ย"

แล้วนี่ไปสะกิดต่อมบ้าที่ไหนเข้าล่ะ ผีหมาบ้ามันถึงได้เข้าสิงอีกเนี่ย

คอเสื้อถูกกระชากอย่างแรง แล้วทานตะวันก็ทำหน้าเหมือนโกรธใครมาสิบปีสิบชาติ นัยน์ตากลมโตจ้องมองใบหน้าที่ยังชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อของทานตะวันแล้วก็ส่ายหน้า

โดนอีกแล้วชัวร์เลยกู คราวนี้อะไรอีกล่ะ

"ออกไปเลยไป เดินออกไปเลย วันนี้อย่าให้กูเห็นหน้ามึงนะไม่งั้นมึงโดนดีแน่"

นั่นไง ดีหน่อยที่วันนี้ไล่ให้ออกห่าง ไม่งั้นตายยยยยยยยย

อ้อนหัวเราะออกมาเสียงเบา แล้วก็กลับไปตีหน้าเฉยอีก เด็กชะมัด ทำได้แค่โวยวาย เด็กจริง ๆ เล้ย

"ไปตอนนี้เลย ออกไปเลยไป๊ ไปสิวะ"

เหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขำ ทำได้อย่างมากก็แค่ไล่ให้ไปไกล ๆ หรือไม่ก็แหกปากโวยวายแหละวะคนอย่างไอ้ทานเนี่ย

"ไปเลย เอานี่ ไม้ค้ำ มึงรีบ ๆ เดินออกไปเลยไอ้เป๋"

เดาไม่ถูกว่าอารมณ์นี้ทานตะวันคิดอะไร แต่ที่แน่ ๆ รอดพ้นตีนมันไปหนึ่งวันแล้ว โชคดีจริง ๆ เลยเว้ยกู
อ้อนลุกขึ้นยืน และรับไม้ค้ำที่ถูกยื่นมาให้ เตรียมเดินออกไปจากห้อง หัวใจพองโตเริงร่าเป็นที่สุด

อ้อนก้าวออกไปแล้ว และทานตะวันก็เดินเข้าห้องน้ำเตรียมอาบน้ำ เสื้อผ้าถูกผลัดเปลี่ยน และแขวนไว้ที่บานประตู หยดน้ำรินรดร่างกายให้สดชื่นขึ้นบ้าง

ในวินาทีนั้น ทานตะวันไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด

เหมือนที่อ้อนเองก็ไม่รู้สึก
 


ก็ไม่เห็นจะสำคัญตรงไหน ไม่ได้เป็นอะไรกันเลยด้วยซ้ำ แค่อยู่ด้วยกันมาหลายวัน มากกว่าหนึ่งวัน มากกว่าสองวัน และมากกว่าสามวัน มากกว่าหนึ่งสัปดาห์ ก็แค่นั้นเอง

ก็แค่นอนกอดกัน หยอกล้อกันเล่นแบบแรง ๆ หาเรื่องทะเลาะกันบ้าง แล้วก็ขัดใจกันอยู่บ่อย ๆ ไม่มีอะไรน่าจะต้องคิดเลยสักนิด

ทานตะวันอาบน้ำต่อไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว และยักไหล่ส่ายหน้าช้า ๆ สะบัดศีรษะไล่หยดน้ำออกไปจากเส้นผม คว้าผ้าขนหนูมาซับผิว และพันรอบเอวเอาไว้ เดินออกจากห้องน้ำ
และมาหยุดยืนมองกระเป๋าใบใหญ่ ที่พกไว้สำหรับใส่อุปกรณ์และเสื้อผ้า

เปิดกระเป๋าออกและหยิบเสื้อผ้าออกมาเตรียมผลัดเปลี่ยน

"เฮ้ย พับแขนเสื้อให้กูด้วยนะ" คำสั่งเหมือนทุกวัน ถูกเปล่งออกมา แล้วทานตะวันก็ชะงักนิ่ง หันไปมองรอบ ๆ ตัว

อ้าว ก็ไล่มันไปแล้วนี่หว่า บอกมันแล้วว่าวันนี้ไม่อยากเห็นหน้ามันอีก

เสื้อถูกหยิบขึ้นมาสวม

กางเกงถูกหยิบขึ้นมาใส่

ใบหน้าคมราบเรียบนิ่งเฉย และก้มลงผูกเชือกรองเท้าคนเดียวเงียบ ๆ

ไม่รู้สึกรู้สา แต่จู่ ๆ ภายในหัวใจก็ไหววูบอย่างน่าประหลาด
จนต้องเงยหน้าขึ้นมองหาคนที่ก้าวเท้าออกไปไม่นาน


ก็แค่ไม่เจอไม่ถึงชั่วโมงเอง เมื่อกี้ก็ไล่มันไปห่าง ๆ จะอะไรนักหนาวะ

ทานตะวันก้มลงผูกเชือกรองเท้าอีกข้าง แล้วต้องรีบเงยหน้าขึ้นเพื่อมองหาอ้อน

สุดท้ายรีบคว้ากระเป๋าสะพายและวิ่งออกไปตามหา คนที่เพิ่งเดินจากไปไม่ถึงสิบนาที

ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิดเดียว ก็แค่รำคาญไอ้อ้อน แล้วก็โมโหมันที่มันได้เห็นสภาพแย่ ๆ แบบตอนที่เสียฟอร์ม ก็เลยไล่มันไปแล้ว

แล้วนี่อะไรวะ จะวิ่งออกมาหามันทำไม เป๋ขนาดนั้นไม่เห็นต้องวิ่งเลย ไม่เห็นต้องรีบเลยสักนิด


ภาพของคนที่ใช้ไม้ค้ำยันกำลังยืนพูดอะไรอยู่คนเดียวและมีโทรศัพท์แนบไว้ที่ข้างหู ทำให้ทานตะวันหยุดชะงักเท้าและแอบยืนหลบอยู่บริเวณมุมตึก

ไม่ได้ตั้งใจ แต่จงใจฟังให้ชัด ๆ เท่านั้นว่าอ้อนกำลังคุยกับใคร


"แม่ อย่ามายุ่งกับผมมากได้มั้ย ผมก็บอกว่าอยู่กับเพื่อนไงล่ะ แม่อย่ามาเซ้าซี้ผมมากกว่านี้อีกเลย แค่นี้นะครับ ผมจะขึ้นเรียนแล้ว"

โห มึงพูดอย่างนี้กับแม่มึงได้ไงวะ ต้องตบหัวสั่งสอนหน่อยแล้ว ไอ้อ้อนนะไอ้อ้อนมึง เดี๋ยวน่าดู เดี๋ยวน่าดู

อ้อนกดตัดสายไปแล้ว และยืนขมวดคิ้วมุ่น พูดกับโทรศัพท์ในมือ ดวงตากลมโตไหวระริก และเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว

"แม่ครับ ผมขอโทษครับแม่ ผมมันเป็นลูกที่ไม่ดี สร้างแต่ภาระให้แม่ตลอดเวลา ถ้าผมตายไปตอนที่รถชน ผมคงไม่ต้องเป็นคนพิการเพื่อเป็นภาระกับแม่อย่างนี้
ผมขอโทษครับแม่ ผมขอโทษ"

ไม่มีสักวันที่ทานตะวันจะรู้สึกว่าหัวใจไหววูบได้มากขนาดนี้ คำขอโทษและแววตาที่แสนเจ็บปวด ทำให้ความคิดที่ว่าจะรีบผวาออกมาจากมุมตึกเพื่อมาจัดการกับอ้อนถูกพับเก็บไปในทันที

คนตัวโตใช้กำแพงเป็นที่พิงหลัง และแอบมองอ้อน อยู่ไม่ไกลนัก

"ผมขอโทษงั้นเหรอ ทำไมล่ะ ทำไมต้องขอโทษแล้วทำไมต้องทำเหมือนจะร้องไห้อย่างนั้น ทำไมวะ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ "

TBC......


 
โดย aoikyosuke

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสารอ้อนจัง รีบมาต่อไวๆนะคับแง่มม

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
เวลาอ่านเรื่องนี้ แล้ว อารมเปลี่ยนไปเรื่อยๆจิงๆ  เดี๋ยวก็ยิ้ม เดี๋ยวก็รู้สึกสงสาร - -*

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เห็นด้วยกะรีบนครับ

ไม่ไหวแล้ว ปรับอารมณืมะทันอะ

 o2

meeza31

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกว่าเรื่องนี้ออกแนวโรคจิตร เหอๆ

แต่ก็สนุกดี ^^

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ชอบเรื่องนี้มากๆๆๆๆ  ดึงอารมณ์ดีจริงๆ 
เด็กสองคนขาดความรักความอบอุ่นจากครอบครัว  ทำให้ไม่มีความมั่นคงทางอารมณ์
แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจการกระทำและอารมณ์ของตัวเองเลย
แต่คนสองคนกำลังจะพยายามเข้าใจกันและกัน  ผูกพันกันไปเรื่อยๆ แล้ว

ทานจะปลอบอ้อนป่าวเนี่ย  อยากอ่านซึ้งๆ หวานๆ อีกจัง  รอตอนต่อไปอยู่นะเรย์   :impress:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เรื่องนี้มีหลายอารมณ์จัง  :try2:  :try2:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :sad4: :sad4:  สงสารอ้อนก็สงสาร  สงสารทานก็สงสาร  เมื่อไหร่จะดีกันซะทีก็ไม่รู้ :o7: :o7:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
สงสารทั้งอ้อนและทาน

ปวดใจจริงๆ  :dont2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Felm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไม่มีคำบรรยายกับนิยายเรื่องนี้เลยอะครับ
บอกได้อย่างเดียวว่า ร้องไห้ไปหลายรอบละ
กระชากอารมณ์อย่างสุดๆ เฮ้อ!!!

ตอนนี้ก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ไม่รู้จะพูดอะไร



เอาเป็นว่า รีบๆ มาต่อให้ไวๆนะค้าบ

esabella

  • บุคคลทั่วไป
   
..............เข้ามาเชียร์อ้อนกับทานอีกแรง........




ปล.....นี่เกินสิบ reply แล้วนะคุณเรย์......มาลงเพิ่มซะดีๆ...... :interest:

ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
10 rep. เลยหรอ หูยย เหลือเป็น 1 rep. ได้เปล่าอะ  :impress:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
กว่าเรื่องนี้จะจบ . . .

พอดีแหละ คนอ่านได้โรคจิตก่อนพอดี :try2:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ค่อยๆ เริ่มเรียนรู้กันแล้ววว  อิอิ

นี่แหละน้า

ของใกล้ตัวมักจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญ

จนเมื่อไหร่ไม่มีขึ้นมา 

ถึงจาได้รู้คุณค่าของสิ่งนั้น  ว่ามีค่ามากแค่ไหน

แต่นี่ยิ่งกว่า  เพราะสิ่งๆ นั้น  คือ  คนสำคัญ

คุณค่าเลยยิ่งมากไปด้วยย

 :impress:


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
อ้างถึง
ของใกล้ตัวมักจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญ

จนเมื่อไหร่ไม่มีขึ้นมา 

ถึงจาได้รู้คุณค่าของสิ่งนั้น  ว่ามีค่ามากแค่ไหน
:like6:


*******************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน อ้อน

แล้วมันอะไรกันวะเนี่ย อุตส่าห์เดินได้หน่อยแล้ว ก็ต้องมานั่งปวดหัวเพราะไอ้บ้าทานอีก มันอะไรกันล่ะโว้ยยยยยยยยยยยยยย

อ้อนพยายามดึงแขนของทานตะวันให้ลุกขึ้นแต่ร่างนั้นก็เอาแต่นอนฟุบบนโซฟาและส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอ จับใจความไม่ได้ด้วยซ้ำว่ากำลังพูดอะไร

ทานตะวันไล่ให้อ้อนกลับมาที่บ้านก่อนในช่วงเย็น และตัวเองก็ไปเลี้ยงรุ่นน้อง เหตุผลไม่มี ไอ้ทานมันบอกว่ามันอยากเลี้ยงมีอะไรมั้ย แล้วตัวมันเองก็หายไปตั้งแต่เย็น แถมซ้ำยังมีการบังคับให้อ้อนกลับมารอที่บ้าน และโยนกระเป๋าใส่อุปกรณ์ใบโตให้เอากลับมาด้วย ส่วนตัวเองไปเที่ยวเล่นสบายใจเฉิบ คำสั่งถัดมาคือบอกว่า ซักผ้าให้ด้วย แล้วไม่บอกให้กวาดบ้าน หุงข้าวทำกับข้าวด้วยเลยล่ะ อย่านะ อย่าคิดว่าอ้อนไม่พูด แค่คิดในใจไม่ออกเสียงนิดหน่อย อีกฝ่ายก็เลยทำหน้าเหมือนรู้ดี ทำหน้าตาล้อเลียนใส่ แบบไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด

นี่ขนาดอายนะ นี่ขนาดอายที่หกล้ม อายได้ไม่ถึงห้านาที ก็ไปเที่ยวได้ต่อ คงจะสนุกน่าดู ถึงได้ต้องให้รุ่นน้องในชมรมหิ้วปีกมาในสภาพกลิ่นเหล้าคลุ้ง และหมดสภาพได้ขนาดนี้

แล้วทีนี้เป็นไงล่ะ กะว่าจะเมามาให้กูเช็ดอ้วกใช่มั้ยล่ะมึงไอ้ทานนะไอ้ทาน มึงนี่มัน โว้ยยยยยยยยย หงุดหงิดโว้ย

"อ้อน อ้อน กี่นิ้วเหรอ นี่ทำไมมียี่สิบนิ้วอ่ะ ไม่เอายี่สิบนิ้วนะ ไม่เอา ไม่เอา"

เออ ยี่สิบนิ้วบ้านมึงสิ นิ้วงอกหรือไง เมาแล้วบ้า ปกติก็บ้าอยู่แล้ว นี่ยังจะบ้าหนักขึ้นอีก

"มายไม่ต้อบก๊านเลยเนอะ เนอะ แอ่ะ จาอ้วกกกกง่ะ"

พูดจาลิ้นพันกันแบบนี้แถมยังจะอ้วกอีกเหรอวะ โธ่โว้ย ผ้าขนหนูอยู่ไหนวะ นี่กูต้องเช็ดอ้วกมันจริงเหรอเนี่ย แค่คิดก็สุดทนแล้ว

"โห่เว้ย น่าเบื่อจริง ๆ เลย ปกติก็บ้าอยู่แล้ว นี่ยังเมาอีก กูจะทำยังไงดีวะ" ปากบ่นแต่มือก็ต้องทำงาน สภาพร่างกายไม่ได้เอื้ออำนวยมากนัก แต่ตอนนี้ถึงเจ็บขาจนต้องใช้ไม้ค้ำยันบ้างในบางเวลา แต่จะให้ใช้ตอนนี้ก็คงไม่ได้ ไอ้ยักษ์นี่ก็ตัวโตชะมัดปกติก็แทบพยุงมันไม่ไหว แล้วนี่ขาเจ็บอีก เลยไปกันใหญ่

อ้อนรั้งแขนของทานตะวันให้มาอยู่บนต้นคอของตัวเองพยายามใช้มือจับที่เอวของอีกฝ่ายและพยุงให้ลุกขึ้นแต่คนตัวโตก็ไม่ยอมลุกขึ้นตามแถมซ้ำยังพร่ำพูดคำพูดที่ฟังไม่รู้เรื่องอีก

"อ้อนอ่ะ อ้อน อ้อน หอมแก้มทีดิ" ห๊า นี่ มันยังจะเล่นอีกเหรอเนี่ย อะไรกันวะเนี่ย ใบหน้าคมทำท่าจะเบี่ยงลงมาหาแล้ว และอ้อนก็รีบเบี่ยงหน้าหนี ผลักแผ่นอกกว้างของอีกฝ่ายให้ล้มลงไปกองบนโซฟา ส่วนตัวเองมายืนเหนื่อยหอบ ทิ้งร่างของทานตะวันในสภาพเมาเละให้นอนคว่ำหน้า ส่วนตัวเองมายืนเสยผมที่มีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นเต็มหน้า หลังจากที่ต้องเหนื่อยกับการรบกับคนเมามาเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก็เลยทิ้งให้ทานตะวันนอนแน่นิ่งอยู่บนโซฟานั่นเอง

"เออ ดี นอนไปเลยนะมึง กูไม่ช่วยแล้ว เมาเละนอนไปเลย น่าเบื่อจริง ๆ เลยโว้ย"

อ้อนทิ้งกายลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม และทอดสายตามองร่างของคนตัวโตที่เอียงกะเท่เล่จะตกลงมาจากโซฟาอยู่แล้ว

"อื้ออออ ร้อนอ่ะ กินเหล้าอีก กินอีก อ้อนหายอ่ะ อ้อน ทำมายไม่เห็นบอกว่าทะเลาะกับแม่เลยอ่ะ ทำไมไม่เห็นบอกเลย เป็นภาระอะไรเหรอ ห๊า ภาระอะไร"

ภาระอะไรงั้นเหรอ นี่มันไปได้ยินอะไรมาวะเนี่ย

เพียงแค่ได้ยินสิ่งที่ทานตะวันพูด อ้อนก็ลุกพรวดพราด ลากขาเข้าไปนั่งอยู่ข้างโซฟาและพยายามฟังที่ทานตะวันพูดให้ชัด ๆ

"อะไร พูดใหม่อีกทีซิ พูดว่าอะไร" ถามไปก็ป่วยการชื่อตัวเองยังจำไม่ได้ แล้วจะถามให้ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา

"ไอ้ทาน ถามว่าภาระอะไร" อ้อนพยายามจะดึงให้ใบหน้าของทานตะวันหันมาหา แล้วคนเมาก็ลุกพรวดพราดขึ้นนั่ง และผงกหัว

"เฮ้ย ตกใจหมด จะลุกขึ้นทำไมไม่บอกวะ"

อ้อนผงะหนีและทำหน้าเบื่อหน่ายชีวิตที่เห็นใบหน้าโทรม ๆ หน้าตายับยู่ยี่ของทานตะวันที่ทำตาปรือและค่อย ๆ ฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาจนตาหยี

"อ้าว อ้อน มาตอนไหนอ่ะ ป่ะ ป่ะ อาบน้ำให้หน่อย เร็วไปอาบน้ำกัน ไปกันเร็ว ทานจะอาบน้ำแล้ว จะอาบตอนนี้เลย"

แล้วไอ้บ้าที่เมาจนแทบไม่ได้สติ ก็จัดการปลดเสื้อของตัวเองและเหวี่ยงลงพื้น ตามมาด้วยการรูดซิปกางเกงลงเตรียมถอดกางเกงกองไว้ต่อหน้าต่อตาของอ้อน ที่ต้องเบะหน้าแล้วก็ลุกขึ้นคว้าแขนของทานตะวันและกดไหล่ให้อีกฝ่ายนั่งลง

"พอเหอะ แค่แก้ผ้าก็ทุเรศพอแล้ว นี่ยังต้องอาบน้ำให้คนเมาอีก กูได้ตายกันพอดี แม่ง"

ทานตะวันนั่งลงแล้ว และทำตาปรือ ยกมือขึ้นเสยผมตัวเองและเอนหลังพิงพนักโซฟาก่อนจะหลับตาลงและค่อยๆ เลื้อยลงไปนั่งกับพื้น

"เฮ้ย ไอ้ทาน ไอ้ทาน ทำอะไรวะ อะไรของมึงอีกเนี่ย"

แค่ลงไปกองกับพื้นยังไม่พอ แต่กระตุกแขนอ้อนลงมาด้วยและคนตัวโตก็บังคับใช้หน้าขาของอ้อนต่างหมอนหนุนนอน และหัวเราะอย่างชอบใจ

"อ้อนอือ จะนอนแล้ว" ฝ่ามือของทานตะวันถูกเอาไปซุกไว้ที่ซอกคอ และคนที่บ้าบอในยามปกติ ก็หลับตาลง นอนอมยิ้มมีความสุข ทิ้งให้อ้อนทำหน้าเซ็งโลกอยู่คนเดียว

"ห่าอะไรอีกวะเนี่ย ต้องนั่งให้เหน็บกินขาอีกแล้วเหรอวะ"

เสียงบ่นงึมงำอย่างไม่พอใจของอ้อนตามมาด้วยการที่มือค่อยๆ เอื้อมไปหยิบหมอนอิงที่โซฟา เอามารองที่ศีรษะของทานตะวัน และคนเมาก็ปรือตาตื่นขึ้นมองหน้าของอ้อนพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น

.........
"ปายหนาย ไม่เอาไม่ให้ปาย" เออ ห้ามไปเหอะอย่างกับว่ากูจะเชื่อมึงนี่ อ้อนเหลือบสายตามองหน้าของทานตะวันแล้วก็ลุกพรวดพราดขึ้นเตรียมเดินหนี แต่ก็ต้องชะงักเท้ายืนนิ่งและทิ้งกายลงนั่งอีกครั้ง เมื่อได้ฟังคำพูดของทานตะวันที่แทบฟังไม่รู้เรื่อง

"ไปเลย ทิ้งกันไปให้หมดเลย เป็นหมาหัวเน่านี่ แม่ก็ทิ้งทานไป พ่อก็ไม่รัก ไม่มีใครรักทานเลย ไปกันให้หมดเลยไป๊ ไม่ต้องกลับมากันแล้ว ปายกันเลย"

ไม่มีใครรักเหรอ อย่ามาทำเป็นตลกหน่อยเลย เงินทองมีใช้ขนาดนี้ยังจะเอาอะไรอีกวะ

อ้อนนั่งลงข้าง ๆ ของคนที่หลับตาลงขมวดคิ้วมุ่นและเอาแต่พร่ำพูดประโยคที่คนฟังนึกสงสารขึ้นมาจับใจ

"ไม่รักใครแล้ว ไม่รักใครทั้งนั้นแหละ มีแต่คนใจร้ายกันทั้งนั้นเลย ไม่รักใครแล้ว ไปไหนก็ไปกันให้หมดเลยไป๊"

คนเมายังคงพร่ำพูดคำพูดที่อ้อนไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของคนอย่างทานตะวัน ไม่สงสารก็ต้องสงสารอยากนิ่งเฉยก็ทำไม่ได้ สุดท้ายต้องจำใจนั่งฟังทุกคำพูดเอาไว้และจดจำได้ทุกคำพูด

"ไม่รักใครแล้ว เกลียดทุกคนในโลก เกลียด อย่ามายุ่งนะ ไปให้หมดเลยไป๊ ไปให้พ้นหน้าเดี๋ยวนี้เลย ไปให้พ้นมีแต่คนใจร้าย คนใจร้ายเต็มไปหมดเลย เยอะแยะไปหมดมีแต่คนใจร้าย"

คนใจร้ายบ้าบออะไรล่ะ มึงนั่นแหละที่ร้ายไปกับใครเขาซะทั่ว แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าทุกคนใจร้ายอีก

"ทาน ลุกไหวมั้ย ไปนอนเถอะ นอนไม่ใส่เสื้อแบบนี้ได้ยังไง น้ำก็ยังไม่ได้อาบนะ ข้าวกินหรือยัง ทานลุกเร็ว ทาน"

ตีแขนก็แล้ว แตะที่ไหล่ก็แล้ว เขย่าหัวก็แล้ว แต่ทานตะวันกลับนอนนิ่งเงียบ และหันหน้าหนีไปอีกทาง จนหัวตกลงมาจากหมอน แล้วก็เป็นภาระของอ้อนที่จะต้องรั้งต้นคอของร่างนั้นให้มาหนุนอยู่ที่หน้าขาของตัวเอง

แล้วไอ้บ้านี่ก็ทำท่าจะกลิ้งไปกลิ้งมาอีก จนอ้อนต้องเป็นฝ่ายที่ค่อยรั้งไม่ให้คนตัวโตกลิ้งไปกลิ้งมาได้อีก

มือถูกดึงไปแล้วและทานตะวันก็เอามือของอ้อนไปซุกที่คอ แต่ยังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่เปลี่ยน

"เป็นแฟนกันเหอะนะ เป็นแฟนกันจริงๆ เถอะ จะไม่ให้ไปคุยกับใครแล้ว"

เออ เชิญบ้าไปคนเดียวเหอะไม่เอาด้วยหรอก ใครอยากเป็นแฟนกับมึงกันล่ะวะ กูไม่เอาด้วยคนนะเว้ย

"นะ เป็นแฟนกันนะอ้อนนะ เป็นแฟนกันเถอะนะ" อ้าวไหงอยู่ดี ๆ กลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ เรื่องบ้าอะไรอีกวะเนี่ย

"ไม่เอาหรอก อย่าบ้าน่ะ นอนไปเลยไป" ปฏิเสธไปแล้ว แต่คนที่นอนหนุนตักก็ยังเซ้าซี้ไม่เลิก

"น๊า เป็นเหอะนะ เป็นเหอะ เป็นจริงๆ เถอะนะอ้อน เป็นเถอะ" นี่มันจะบ้าอีกนานมั้ย กูจะได้รีบ ๆ บ้าไปก่อนมันซะให้รู้แล้วรู้รอดกันไป

"ไม่"

"ไม่เป็นจะจูบ" กลัวตายเลย เมาไม่รู้เรื่องขนาดนี้ ยังจะกล้าพูด ไอ้เวรเอ้ย

"ลองสิ จะเอาหนังสือฟาดหัวเลยมึงคอยดู" ท้าไปอย่างนั้นเอง แค่คำพูดพล่อย ๆ ของตัวเองที่พูดออกไปโดยไม่ทันคิดอะไร

เพียงเท่านั้นทานตะวันก็ลุกขึ้นนั่งแบบคนสร่างเมา จนอ้อนถึงกับผงะหนี เมื่อเห็นรอยยิ้มแปลก ๆ ของอีกฝ่าย ท่าทางแบบนี้ ต่างจากเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัด แล้วไอ้ที่ร้องเอะอะโวยวายจะเอานั่นเอานี่ มัน มัน ไอ้ทาน มีใครทำได้แบบไอ้ทานบ้างเนี่ย ทำไมมันถึงได้มารยาสาไถได้ถึงขนาดนี้

"เฮ้ย ไหนว่าเมาไง เมาไม่จริงเหรอเนี่ย มึงอย่ามาบ้านะ หยุดเลยไอ้ทาน ไอ้คนโกหก กูไม่น่าเชื่อมึงเลย โธ่โว้ย " มือถูกเอามาประกบปิดไว้ที่ปากแล้ว และอ้อนก็เตรียมลุกขึ้นเดินหนี

ขนาดไม่เมามันยังบ้า แล้วนี่แกล้งเมาอีก เลยไม่ต้องคุยกันแล้วแบบนี้

"ไปไหน มาเลย ขอจูบที เร็ว" เมาดิบ ตกลงมึงไม่ได้เมาจริง ๆ ใช่มั้ยเปล่าเนี่ยไอ้เลวเอ้ย

อ้อนลุกขึ้นเตรียมเดินหนีแล้ว และทานตะวันก็รั้งแขนของอ้อนเอาไว้ให้นั่งลงข้าง ๆ กัน จนร่างนั้นเซถลาลงมา ตามด้วยใบหน้าคมที่โน้มเข้าหาอย่างรวดเร็ว

ได้ ไม่ให้จูบงั้นหอมแก้มก่อนเป็นไง จมูกกดหนัก ๆ เข้าที่ข้างแก้มของอ้อนแล้ว และก็ตามมาด้วยกำปั้นหนัก ๆ ของอ้อน ที่ชกมาที่ใบหน้าของทานตะวัน แต่ข้อมือก็ถูกพลิกและแขนของอ้อนก็ถูกกดให้ไขว่อยู่ด้านหลังด้วยกำลังที่เหนือกว่าของอีกฝ่าย

พื้นที่เปิดโล่ง ปากไม่มีสิ่งกีดขวาง แถมแผ่นอกบางยังแอ่นกายแนบชิดอยู่กับร่างที่เปลือยเปล่าท่อนบนของทานตะวันด้วย ลมหายใจหอบเหนื่อย ส่งผลให้ร่างที่ถูกกลั่นแกล้งสั่นไหวไปมาเพราะอาการเหนือยหอบที่ต้องออกแรงต่อสู้กัน

ดวงตากลมโตสบนิ่งอยู่กับดวงตาคม และสะบัดใบหน้าหนีให้พ้นคนที่ค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงมาหาในทันที

"ไอ้ทาน ไม่เอานะโว้ย มึงแกล้งกู อย่าเล่นบ้า ๆ นะ ไอ้ทาน อื้อ" อ้อนหลับตาแน่น และเอียงหน้าหนีนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้นเตรียมสะบัดทันทีที่ถูกแตะต้อง แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อปรือตาขึ้น และได้พบกับใบหน้าที่กำลังยิ้มชอบใจกับปฏิกิริยาของอีกฝ่าย

"เล่นบ้าอะไรวะ แม่งเอ้ย" หายใจหายคอได้ยังไม่ทันไร ใบหน้าที่ชะงักนิ่งอยู่แค่คืบก็ก้มลงมาหา และแนบริมฝีปากลงมาลิ้มลองรสชาติที่อยากลิ้มลองมานานทันที

ไอ้ทาน ก็เมื่อกี้มันไม่จูบ แล้วทำไมพอลืมตาขึ้นมองมันถึงทำแบบนี้
..............
"ไอ้ทาน ไม่เอา อึก ไอ้ทา....อื้อออออ ปล่อยอึก" ทั้งปากทั้งจมูกถูกกดเข้าหาทั้งที่ผิวแก้มและต้นคอจนอ้อนต้องใช้กำลังที่เหลืออยู่ดิ้นรนหนีหาทางเอาตัวรอด มันบ้าไปแล้ว เมื่อก่อนมันก็เล่นแบบนี้หยอกล้อแบบนี้ แล้วมันก็หัวเราะชอบใจ ที่ได้เห็นว่าทำท่าไม่พอใจได้ แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป สายตาที่บ่งบอกมันทำให้รู้สึกว่า ไม่ใช่การล้อเล่นอีกแล้ว

"ห้ามหนี หือ หนีทำไม อื้อ หนีทำไม เร็ว จูบนิดจูบหน่อย ทำเป็นหนี หื้อ ทำไม อื้อ"

พูดไปแล้วแกล้งไปแล้ว และก็ยิ่งสนุก ปล้ำผู้ชายด้วยกันไม่เห็นสนุกตรงไหน แต่ไอ้อ้อน มันน่าแกล้งเล่นชะมัด ไม่เคยสนุกขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตายเถอะวะ

"เมาไม่จริงนี่หว่า เมาดิบแล้วทำไมต้องแกล้งแบบนี้ด้วย อื้ออออออออออ ไอ้ทาน พอแล้ว อึก"

ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จนเมื่อได้แกล้งแตะจมูกเข้าที่แก้ม ได้กอดรัดฟัดเหวี่ยง และใช้ริมฝีปากแตะเข้าหานิด ๆ หน่อย ได้ออกแรง ได้แกล้งจนพอใจ แล้วทานตะวันก็หยุดเล่น

"โอ้ย เหนื่อยได้ออกแรงก่อนอาบน้ำ สนุกดีจะตายใช่มั้ย"

สนุกสิ สนุกตายเลย มึงสนุกอยู่คนเดียว กูไม่ได้สนุกด้วยเลย ไอ้ทาน ไอ้ทาน ทำไมมันถึงเป็นคนที่ โธ่โว้ย ไม่รู้จะพูดยังไงกับมันแล้ว

เสื้อผ้าของอ้อนหลุดลุ่ยเพราะการต่อสู้กันเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เผยให้เห็นร่างกายที่โผล่พ้นเนื้อผ้าออกมา ทานตะวันผละใบหน้าออกห่างและแอบลอบมองร่างกายของอีกฝ่ายเงียบ ๆ โอ้โห เป็นผู้ชายแท้ ๆ มันยังยั่วได้ขนาดนี้ ไม่เลวไม่เลว แต่กูไม่ได้พิศวาสมึงแค่นั้นแหละเลยไม่มีกระใจเล่นด้วย ทานตะวันนั่งหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งให้อ้อนออกอาการฮึดฮัดได้ สองมือยังกระชับอยู่ที่ต้นแขนของร่างที่นิ่งเงียบอยู่ตรงหน้า และสายตายังสำรวจใบหน้าที่แดงก่ำ และหอบหายใจหนักเพราะความเหนื่อยจากสงครามเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

อ้อนยกมือขึ้นเช็ดถูที่ริมฝีปากของตัวเอง และเบะหน้า เช็ดซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้นไม่เลิก จนทานตะวันต้องหัวเราะออกมาด้วยความขำ

"โธ่ อยากจูบตายเลย แบบนี้ไปหาเอาจากไหนก็ได้ ไม่ได้อยากจะจูบเลยสักนิดเดียวทำเป็นดีดดิ้น น่ารักตายเลย"

ปากก็พูดไปอย่างนั้นเอง แต่นัยน์ตาพราวระยับ และยังจับจ้องปฏิกิริยาของอีกฝ่ายไม่กระพริบตา

"เออ สนุก คนใช้มึงนี่ เป็นหนี้มึงนี่ คิดอยากเล่นอะไรก็เล่นไปสิ เห็นว่าเมาหรอกถึงได้เป็นห่วง จะได้รู้ไว้ว่าคนอย่างมึงห้ามใช้ความเสน่ห์หาส่วนตัว ให้คิดเรื่องเงินอย่างเดียว ห้ามพูด ห้ามถาม ห้ามทุกอย่าง สนุกนักนี่ มาหลอกว่าเมาแบบนี้ก็สนุกด้วยงั้นสิ จะได้รู้ไว้ คนอย่างมึงมันเป็นแบบนี้ ห้ามเห็นใจเด็ดขาด เออ กูจะจำไว้"

เป็นครั้งแรกที่ถูกพูดตอกกลับใส่หน้า แล้วคนที่ทำตัวเชื่องทุกครั้งที่ขู่เรื่องใช้หนี้ก็ลุกพรวดพราดขึ้นเดินกระโผลกกระเผลกขึ้นไปชั้นบนของตัวบ้านทิ้งให้ทานตะวันนั่งเงียบ เพราะไม่คิดว่าจะถูกตอบกลับด้วยคำพูดแบบนี้ของอีกฝ่าย

รสชาติหวาน ๆ แปลก ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายลิ้นจากการที่ได้หยอกล้อแตะต้องร่างกายของอีกฝ่ายจนคนตัวโตต้องใช้นิ้วแตะซ้ำ ๆ ที่ริมฝีปากไล้เลียเล่นแต่รสชาติหวาน ๆ ก็ยังคงติดแน่นอยู่ทั้งที่เป็นแบบนั้น แต่ใบหน้ากลับมีริ้วรอยของความเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

"ก็แกล้งมึงสนุกดีนี่ มึงอยากทำหน้าทำตาแบบนี้เองทำไมล่ะ แล้วทำไมเรื่องแค่นี้ต้องโกรธด้วย กะอีแค่จูบเล่น ๆ ทีสองทีจะจริงจังอะไรกันนักกันหนาวะ"

ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่ใจก็ยังครุ่นคิดและเป็นกังวลไม่เลิก ใบหน้าแหงนเงยขึ้นมองไปที่ชั้นบนและลุกขึ้นคว้าเสื้อที่กองอยู่บนพื้น ก่อนจะวิ่งตามขึ้นไปหาคนที่เพิ่งลากขาเดินหนีขึ้นไปแล้ว

"เออ มึงสนุกนี่ สนุกตายเลย เหี้ยเอ้ย สนุกมากเลยสิ สนุกตาย ไม่อยากสนุกด้วยหรอกนะ ไอ้บ้า"

แค่ได้เห็นใบหน้าแค่ได้เห็นท่าทาง แค่ได้เห็นคนที่ยืนนิ่งเงียบอยู่หน้าประตูห้องและยังใช้มือขัดถูที่ริมฝีปากไม่เลิกแถมออฟชั่นพิเศษด้วยการที่ดวงตากลมโตนั้นมีน้ำตาไหลพราก ๆ พูดจาไม่รู้เรื่องด้วยแล้ว

เพียงเท่านี้ ทานตะวันที่ไม่เคยรู้สึกผิดกับใครมาตลอดชีวิต ก็ได้รู้สึกถึงคำว่าผิดเป็น

..............
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกว่าไม่ควรทำให้คนอื่นเสียใจ เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่ได้รู้ ฝ่ามือเอื้อมรั้งร่างของคนที่กำลังโกรธเข้ามากอดไว้แนบอกทันที

ถึงอีกฝ่ายจะขัดขืน ถึงจะสะบัดหนี ถึงจะไม่ยอมให้แตะ แต่สุดท้าย ก็ยอมยืนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ให้ทานตะวันกอดเอาไว้ได้ และยอมซุกซบใบหน้าแนบอกของคนที่ขยันสร้างเรื่องอย่างทานตะวัน

"เออ ไม่เล่นแบบนี้แล้ว พอใจยัง ไอ้คนใช้ ไอ้เป๋เอ้ย หยุดร้องซะทีสิวะกูปลอบใจใครไม่เป็นนะโว้ย เร็ว หยุดร้องเหอะ ถ้าไม่ร้องแล้วจะลดหนี้ให้ทันที สัญญา สัญญา โธ่โว้ย หยุดเถอะวะ มึงจะร้องหาห่าอะไรมากมายเนี่ย จูบทีสองทีเอง กูแค่ล้อเล่นน่า อ้อน หยุดเหอะนะ"

ตอนนี้ทานตะวันไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้อีกฝ่ายหยุดร้องไห้ ได้แต่พูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย และกอดร่างของอ้อนที่ยังร้องไห้ไม่เลิกเอาไว้แน่น

ใบหน้าคมขมวดคิ้วมุ่น ไม่รู้จะจัดการยังไงกับคนในอ้อมแขน ทำได้แค่กอดเอาไว้ และลูบหลังลูบไหล่ของอ้อนไปเรื่อย ๆ

ท่ามกลางความกลัดกลุ้มเล็ก ๆ แต่มีบางสิ่งที่ทำให้ใบหน้าที่เครียดขรึมมีรอยยิ้มเล็ก ๆ จุดขึ้นที่มุมปาก

ท่ามกลางความรู้สึกที่สับสน กลับมีความรู้สึกอย่างอื่นตามมาด้วย

เออน่ะ เกิดมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยมีใครมาซบหน้าร้องไห้อยู่แนบอก ไอ้เป๋นี่แหละคนแรก ที่จริงการที่มีคนมาร้องไห้ให้ปลอบใจแล้วก็ทำให้คิดอะไรไม่ออกบ้าง มันก็ไม่เลวนักนี่หว่า..........ถึงแม้มันจะออกมาไม่ค่อยสวยหรูนักก็เถอะ

แต่แบบนี้มันก็..

"เฮ้ย หยุดร้อง กูรำคาญ นะ นะ ขอร้องเถอะอ้อน ต่อไปทานไม่แกล้งอ้อนแล้วจริงๆ นะจริง ๆ"

ปากพร่ำบ่น แต่ใบหน้าคมกลับแอบลอบยิ้มเล็ก ๆ อ้อนเหรอ เออ เรียกมันว่าอ้อนเฉย ๆ มัน.....ก็น่ารักดีนะ.......แต่จะให้เรียกบ่อย ๆ มันก็แปลกเหมือนกัน

มันยังไงไม่รู้ อ้อนเหรอ ชื่อน่ารักชิบหาย เออ อ้อน อ้อนก็อ้อนวะ อารมณ์นี้อยากเรียกมันว่าอ้อน ใครช่างตั้งให้ชื่อน่ารักดีจริง ๆ

"อ้อน อ้อน อ้อน" ฝ่ามืออุ่น ๆ ตบเบา ๆ ที่แผ่นหลังของคนที่ยังร้องไห้ไม่เลิกและหัวเราะน้อย ๆ อย่างพอใจ

เออเว้ย ไอ้อ้อนนี่มันน่ารักถูกใจจริง ๆ ก็หัดอ้อนให้มันสมชื่อหน่อยสิวะ ถ้ามันทำอย่างนี้ตั้งแต่แรกใครจะไปแกล้งมันได้ลงคอ จริงมั้ย

TBC.....


 
โดย aoikyosuke 

jammy

  • บุคคลทั่วไป
ต่อเร็วๆจิ o11 :impress: o11

taebin7

  • บุคคลทั่วไป
 o9ไม่ไหวแล้วนะต่อเลยได้ไหมเนี้ย o7




ออฟไลน์ akitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไอ่ทานมันบ้า
ท่าทางมันจะสับสนในชีวิตอีกนาน  o12

มันจะปลอบเค้า  มันยังขู่เค้าอีก
น่ากลุ้มใจจริง ๆ  :onion_asleep:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ทานจะทำไงต่อไป อยากรู้มากๆ

ออฟไลน์ Felm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 o14 o14 ขอบคุณพี่เรย์ค้าบบบบ o15



มาต่อตอนต่อไปไวๆ นะค้าบบบบบ    รอลุ้นอยู่

เมื่อไหร่อ้อนกับทานจะรักกันน๊า  :impress2:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
แล้วจะเป็นไงต่อไปเนี่ย

อยากรู้ไวๆ แล้ว

มาต่อไวๆนะค่ะ  :impress:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
แอบอ่านเงียบๆ  :haun5:

โผล่หน้าเข้ามาเพื่อจะบอกว่า ชอบเรื่องนี้มากมายคับ  :like6: :like6: :like6:

ขอบคุณท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน สำหรับเรื่องราวดีๆ  o1 o1

 :o12: .............


ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

เข้ามาสงสารอ้อนอย่างเดียว  คิดดูเดะ   อ้อนมันมีปมว่าตัวพิการ  ต้องเป็นภาระคนอื่น  แถมยังต้องมาเจอการกวนประสาทที่ไม่สามารถตอบดต้หรือหลีกหนีได้อีก  แถมยังโดนเรียกว่าไอ้เป้  เป็นเจ้นะ....เจ้คงกัดลิ้นตายไปสามตลบแล้ว

น้องอ้อนของเจ้  น่าสงสารที่สุดเลย  :sad4: :sad4:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
น้านดิคับรีบต่อเลยไม่ไหวแล้ว o9

VicOSe

  • บุคคลทั่วไป
ค้าง  อย่างแรง   - -*     

ความรู้สึกที่เข้ามาแบบไม่รู้ตัว  เหอะๆ   

สงสารทั้งคู่เลยอ่ะ  - -*

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
มามะ เรย์จะปล่อย อย่าร้องไห้กันนะคนดี
 o11
................................................
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน นิ้วก้อย

ก็แล้วตอนนี้จะให้ทำยังไง ในเมื่อไอ้อ้อนมันเอาแต่เงียบแล้วก็ไม่พูดด้วยตั้งแต่เมื่อคืน ให้ช่วยอาบน้ำมันก็ช่วยให้นวดขามันก็นวด แกล้งใช้ให้ไปซักผ้าตอนตีสอง มันก็ไป เหมือนปกติที่แกล้งมัน ถึงมันจะทำหน้าไม่พอใจบ้าง แต่มันก็ทำ แต่นี่ ไม่เหมือนเดิม มันเงียบ ให้ทำอะไรก็ทำ แกล้งสั่งให้หันซ้าย หันขวา หรือบอกให้มันหมุนตัว มันก็ทำ

แต่..........

บรรยากาศอึมครึม เพราะมันเงียบ ถึงขู่มันก็เฉย ว่าอะไรไปมันก็เงียบ ไม่มองหน้า ไม่เบะหน้าเวลาโดนแกล้ง แต่กลับนิ่งเฉย จนทานตะวันนึกหวั่นใจอยู่ลึก ๆ แต่ก็ยังคงทำเหมือนปกติ ทำเป็นพูด ทำเป็นแกล้งเหมือนเดิม แต่คนที่ไม่เหมือนเดิม แถมซ้ำยังเงียบจนน่าตกใจ ทำให้ทานตะวันอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ เช้านี้บอกให้อ้อนช่วยผูกเชือกรองเท้าให้ บอกให้ติดกระดุมเสื้อ แล้วยังไงล่ะ ไอ้อ้อนมันก็ทำให้หมด แต่มันไม่พูดอะไรเลย ทำเหมือนเป็นหุ่นยนต์ไปได้ แบบนี้มันจะสนุกตรงไหน

"อยากกินบ๊วยหวาน" ปากก็ออกคำสั่ง ส่วนมือยังจับพวงมาลัยรถเอาไว้ และแหกปากพูดเสียงดัง ถ้าเป็นปกติอ้อนจะหันมาทำตาขวางใส่เล็กน้อย แต่ก็ยอมหยิบบ๊วยหวานให้แต่โดยดี แต่ครั้งนี้ ใช่ เหมือนเดิม ทุกประการ แต่พอแกล้งงับนิ้วของคนที่ป้อนบ้วยเล่น อ้อนกลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ อีกเลย

ไม่เบะหน้า ไม่มองตาขวาง และไม่ทำท่าฮึดฮัดเหมือนที่เคยทำ

"เบื่อคนเป็นใบ้" พูดไปแล้ว แต่สายตาแอบเหลือบมองหน้าของอ้อนที่นิ่งเฉย เป็นระยะ ระยะ สุดท้ายก็เหมือนเดิม ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับของคนที่นั่งเคียงข้างอีกเหมือนเดิม

วันทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จรดเย็น จนกลับบ้านด้วยกัน ปฏิกิริยาแบบนี้ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงหรือดีขึ้นเลย

นั่นทำให้ทานตะวันที่ไม่เคยรู้ร้อนรู้หนาวกับความรู้สึกของใคร ต้องเกิดอาการทุรนทุราย จนแทบจะทนไม่ได้

"เฮ้ย"

"เฮ้ย"

"ไอ้เป๋"

"ไอ้ใบ้"

"พิการเหรอ หูตึงเหรอพูดไม่ได้หรือไง เป็นใบ้เหรอ ห๊า ไหนบอกซิว่าเป็นใบ้"

แล้วก็ยังคงเหมือนเดิม คำตอบที่ได้ยังคงเป็นเหมือนเดิม

คนที่นั่งเคียงข้าง ยังคงนั่งเฉยเป็นหุ่นยนต์ไม่แสดงท่าทีใด ๆ ออกมา เพียงเท่านี้ก็เร่งให้ความรู้สึกผิดของคนชอบแกล้งแสดงตัวออกมาอย่างชัดเจน มากขึ้น มากขึ้น




ทานตะวันหน้าเครียด หันไปมองใบหน้าของอีกฝ่ายแล้วขมวดคิ้วมุ่น

ไอ้เป๋มันเป็นคนใช้นะ แล้วมันก็ติดเงินตั้งเกือบแสน

มันยอมเป็นคนใช้ แต่นี่มันเริ่มแข็งข้อไม่เชื่อฟังคำสั่ง อีกหน่อยมันไม่ยิ่งกล้ามากกว่านี้หรือไง ถ้าไม่กำหราบไว้บ้างสงสัยต่อไปจะยิ่งไม่เชื่อฟังมากขึ้นแน่ ๆ

สมองคิดจิตใจครุ่นคิดแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง

รีโมทถูกกดเพื่อเปิดประตูรั้วบ้าน และเมื่อรถเคลื่อนเข้าไปจอดเรียบร้อย ทานตะวันก็รั้งแขนของคนที่เตรียมจะลุกออกจากที่นั่ง แล้วกระชากข้อมือของอ้อนให้หันมาหา

จ้องลึกลงไปในดวงตากลมโตเหมือนอยากจะเอาเหตุผลว่าเพราะอะไร แต่นอกจากแววขุ่นเคืองแล้ว ไม่มีสิ่งใดส่งออกมาเลย

"เป็นอะไร ทั้งวันแล้วนะ จะโกรธอะไรมากมาย นึกว่าแคร์หรือไง นึกว่าสนใจหรือไง อยากทำก็ทำไปเลย เป็นแค่คนใช้แต่กล้าทำแบบนี้ ระวังให้ดีจะฟ้องแม่มึงว่ามึงติดเงินอยู่ ให้แม่มึงเครียดที่มึงทำตัวมีปัญหาอีกแล้ว คอยดูก็แล้วกัน"

พูดได้เท่านั้น แล้วทานตะวันก็จับข้อมือของอ้อนเหวี่ยงกลับไป ไม่สนใจกับท่าทีนิ่งเฉยของอ้อนอีกเลย

โกรธ หงุดหงิด รำคาญ ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยสักนิด แต่ไม่รู้จะทำยังไงให้อีกฝ่าย เลิกทำเป็นนิ่งเฉย เพราะมันอึดอัด แล้วก็ทำให้รู้สึกแย่ เหมือนตอนที่พ่อแม่โกรธกันแล้วทานตะวันต้องนั่งกินข้าวอยู่ท่ามกลางความอึมครึมของพ่อแม่ มันแย่ความรู้สึกแบบนี้มันแย่ยิ่งกว่าแย่ เกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุด

ทานตะวันเปิดประตูรถและกระแทกปิดเสียงดัง ก่อนจะเดินลงส้นเท้าหนัก ๆ เข้าบ้าน ทิ้งให้อ้อนนั่งนิ่ง ๆ อยู่ในรถเพียงคนเดียว

แล้วมันก็แย่ เป็นแบบนี้ยิ่งแย่กว่าเวลาปกติ เวลาปกติก็แย่แล้ว แต่เวลานี้มันยิ่งแย่มากขึ้นเรื่อย ๆ

ประตูรถถูกเปิดออก พร้อมกับที่กระเป๋าใส่อุปกรณ์ใบใหญ่ถูกคว้าออกมาจากเบาะด้านหลังด้วย

อ้อนเดินลากขากระโผลกกระเผลกเข้าไปในตัวบ้าน

ผ่านหน้าคนที่นั่งยืดขาอยู่บนโซฟา และสายตายังคงจับจ้องมองทุกกิริยาท่าทางของคนที่เดินผ่านหน้าไป

เงียบ อะไรก็เงียบ

จะเล่นสงครามประสาทกันหรือไง นึกว่าอยากสนใจนักหรือไง

"วันนี้จะอาบน้ำคนเดียว ไม่ต้องช่วยถูหลัง ไม่ต้องนวดขาให้ด้วย ไม่เมื่อย แล้วก็ไม่ต้องซักผ้าให้ด้วย แล้วก็มานั่งเฉย ๆ อยู่ตรงนี้เดี๋ยวนี้"

น้ำเสียงดุดันและแววตาที่บ่งบอกว่ากำลังโกรธทำให้อ้อนเหลือบสายตาขึ้นมอง แต่แค่เพียงแว่บเดียวเท่านั้น กระเป๋าใบใหญ่ถูกวางลงแล้ว และร่างของคนที่อยู่ห่างออกไป ก้าวมานั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับทานตะวัน นั่งนิ่ง ๆ นั่งเฉย ๆ ไม่พูดไม่จา ไม่มองหน้าของคนที่จ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย

โกรธเรื่องเมื่อวานที่แกล้งเมา ก็ไม่น่าจะโกรธขนาดนี้ ทีแกล้งมากกว่านี้ มันยังไม่โกรธเท่านี้เลย แล้วทำไมล่ะ กะอีแค่....จูบเล่น ๆ ไปสองสามที แทบไม่โดนด้วยซ้ำ ทำไมต้องโกรธขนาดนั้นด้วย ก็ถูกที่ผู้ชายไม่เล่นแบบนี้กัน แต่เพราะเล่นแบบนี้ กับไอ้อ้อนมันจะทำหน้าตาเหมือนโกรธจัด เห็นแล้วสะใจดี แต่มันก็ไม่เคยเป็นแบบนี้

ใบหน้าเนียนขาวที่ก้มหน้าอยู่ตลอดเวลา ดวงตาที่หรุบลงมองที่พื้น ใบหน้าที่นิ่งเฉย ไร้ชีวิตชีวา

เบื่อ

ไม่ชอบหน้าแบบนี้ของไอ้อ้อนเลย ไม่ชอบมากที่สุด

เห็นแล้วเครียด


 ...................

ดวงตาคมจ้องมองคนที่นั่งเงียบ เข็มนาฬิกาค่อย ๆ เคลื่อนอย่างช้า ๆ จากวินาทีเป็นนาที เป็นชั่วโมง

สุดท้ายคนที่ทนไม่ไหวก่อนก็คือทานตะวัน ที่เอนศีรษะลงพิงกับพนักโซฟา นัยน์ตาที่บ่งบอกว่ากำลังโกรธค่อย ๆ อ่อนแสงลง

ไม่เอาแล้ว เล่นแบบนี้ มันปวดหัว จะเล่นอีกนานมั้ย

ใครอยากเล่นกัน ไม่เอา เหนื่อย ไม่อยากเหนื่อย ก็คงต้อง......

ทานตะวันครุ่นคิดสิ่งที่ลำดับได้ในสมองและถอนหายใจยาวเหยียด ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน และก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนที่ยังนั่งนิ่งเงียบ ทิ้งกายลงนั่งตรงหน้าของอ้อนที่ช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าที่มาลอยหน้าลอยตาให้เห็น

มือทั้งสองข้างถูกทานตะวันยกขึ้น เกี่ยวปลายนิ้วก้อยเข้าด้วยกันและเขย่าเล่นอย่างช้า ๆ

"ขอโทษน๊า ขอโทษนะ" คำพูดที่เบาหวิว จนต้องเงี่ยหูฟังถึงจะฟังได้ชัด ๆ ทำให้อ้อนนึกประหลาดใจ

"แค่นี้แหละ"

นั่นคงเป็นวิธีการง้อคนของทานตะวัน ที่เกิดมาชาตนี้ยังไม่เคยง้อใคร นอกจากง้อแม่ของตัวเอง เวลาที่แม่โกรธ แล้วมันก็ได้ผลทุกที แต่ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะได้ผลหรือเปล่า

นัยน์ตาคมช้อนสายตาขึ้นมองคนที่ยังทำหน้านิ่งเฉยแล้วก็ไม่รอเอาคำตอบ

ลุกพรวดพราดขึ้นยืนแล้วเดินลิ่วเข้าห้องน้ำไปทันที

อ้อนขมวดคิ้วมุ่น และยังคงแปลกใจกับการกระทำของคนที่เดินจากไปแล้ว

เกี่ยวก้อยเหรอ จะให้ดีกันเพราะเกี่ยวก้อยกันเหรอ ใครมันจะบ้า ไม่ใช่เด็ก ๆ นะโว้ย โตเป็นควายขนาดนี้แล้ว ใครมันจะไปดีด้วย

ถึงจะคิดอย่างนั้น ถึงจะยังไม่หายโกรธ แต่อ้อนก็ก้มลงมองที่ปลายนิ้วก้อยของตัวเอง ที่ยังหลงเหลือสัมผัสแผ่วเบาอยู่เจือจาง

รอยยิ้มเล็ก ๆ จุดขึ้นที่มุมปาก ของคนที่ปั้นหน้าเฉยทั้งวัน

อ้อนค่อย ๆ หันกลับไปมองที่หน้าประตูห้องน้ำอีกครั้ง และก้มกลับลงมามองที่ปลายนิ้วของตัวเอง

ไอ้ทานมันง้อใครไม่เป็นหรอก อย่างมันเหรอจะมาง้อ

ถือตัวขนาดนั้น ไม่มีทางหรอก มันแค่แกล้งเล่นล่ะสิ

คราวนี้จะมาไม้ไหนอีกล่ะ

ใจคิด แต่ใบหน้ากลับอมยิ้มไม่เลิก อ้อนยังคงพยายามปั้นหน้าให้นิ่งเฉยแต่กลับทำเหมือนเดิมไม่ได้อีก

ใบหน้าค่อยๆ หันไปมองที่ประตูห้องน้ำอีกครั้ง และบ่นเสียงเบางึมงำกับตัวเอง

"ไอ้บ้าทาน.....บ้าได้ทุกชั่วโมง...เกลียดจริง ๆ คนแบบนี้ชอบทำอะไรตามอารมณ์ตัวเอง...แม่ง..นึกว่าจะง้อใครไม่เป็นซะอีก ถ้าจะทำก็ทำได้นี่หว่า...ก็แค่เนี้ย..ทำแบบนี้ตั้งแต่แรก ก็หมดเรื่อง"

TBC...


 
โดย aoikyosuke

sun

  • บุคคลทั่วไป
คุนชายทานตะวันเป็นคนห้ามนู่น ห้ามนี่แล้วไหง๋... :o9:

กลับมางอลเองซ้างั้น เหอๆ  :laugh3:

แล้วยังไงเนี่ย....ไหง๋ กลับมาง้อ น้องอ้อนซ้าเอง งอลเอง...... ง้อเอง  :laugh:

วิธีง้อ..เริ่มใช้ได้แล้วทาน อีกนิดนึง ๆ :teach:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
ชอบจังเลยครับ เอาอีกๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด