พิมพ์หน้านี้ - [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 20-04-2007 20:58:29

หัวข้อ: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 20-04-2007 20:58:29
ขอบคุณคุณ aoikyosuke
ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวดีๆ มาฝากเพื่อนๆนะครับ
ผมเห็นว่านอกจากสร้างความเพลินเพลินพักผ่อนหย่อนใจ ที่จะใช้เวลาว่างที่เป็นประโยชน์แล้ว
ยังเป็นประสบการณ์เตือนในการใช้ชีวิตที่ดีด้วย


***********************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



*************************************************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke




--------------------------------------------------------------------------------





“ไอ้อ้อน...เก็บลูกฟุตบอลมาเดะ”

“อ้อน ซื้อน้ำให้กูแดกหน่อย”

“โง่อีกแล้ว....ควายเอ้ย ตาถั่วจริง ๆ ว่ะ”

และ....................................................

เหนื่อย

ใครคนหนึ่งที่ชื่อไม่ค่อยเข้าท่า หน้าตาก็ธรรมดา หอบหนังสือ หอบลูกฟุตบอล หอบกระติกน้ำ หอบ ชุดนักกีฬา นั่งพักให้หายเหนื่อยอยู่ข้างสนาม แล้วก็เหม่อมองคนที่ออกคำสั่ง ที่วิ่งไล่ตามลูกฟุตบอลอยู่ในสนาม

อิจฉา

เพราะขาใช้การไม่ได้เหมือนคนอื่น หมอห้ามเล่นฟุตบอลอีกตลอดชีวิต เลยอิจฉาพวกที่ได้วิ่งอยู่กลางสนาม
ได้แต่นั่งมองและเป็นได้แค่ เด็กเก็บของ เป็นคนใช้ประจำกลุ่ม ก็เท่านั้นเอง
มองคนที่วิ่งไล่ลูกกลม ๆ แล้วมีความสุข แต่ไม่มีวันที่จะไปทำอย่างนั้นได้อีกแล้ว

“เฮ้ยยยยยยยยยยยย ขวดน้ำกูอยู่ไหนวะ ไอ้อ้อน มึงจะนั่งหลับหรือไงวะ”

เสียงตะโกนโหวกเหวก ทำให้ต้องลุกขึ้น เดินลิ่ว ไปข้างสนาม และส่งขวดน้ำให้คนที่ตะโกนบอก

“เก็บหนังสือให้กูด้วย ห้ามหนี ห้ามเลี่ยง ห้ามหาข้ออ้าง ไม่งั้น....มึงตายยยยยยยยยยย”

เสียงของคนที่เหงื่อหยดเป็นน้ำ ขณะพูดยังยกแก้วขึ้น และดื่มน้ำไปด้วย

อีกแล้ว มึงตายอีกแล้ว ทำไมดีแต่ขู่นักหนาวะ ชาตินี้จะขู่กันไปตลอดชีวิตเลย ว่างั้นเถอะนะ

“แม่กูทำกับข้าว....ไปกินด้วย...เข้าใจมั้ย อย่าให้กูพูดซ้ำซาก...ไปเลยไอ้เตี้ย” ฝ่ามือที่ฟาดเข้ากลางหลัง ทำให้คน ๆ หนึ่งต้องเบะหน้าด้วยความเจ็บ

แต่ก็จำใจต้องพยักหน้าอย่างเซ็ง ๆ
“อย่ามาทำสำออย...กูบอกแล้ว ไม่ไปมึงตาย ถ้าไม่เข้าใจ มึงเจอแทงเข่าแน่”

อือ เข้าใจแล้วแหละ ว่าโหด สั่งได้สั่งดี ขัดใจได้ที่ไหน โดนเตะทุกที เซ็ง เบื่อ
“นอนค้างบ้านกูด้วย กูบอกแม่มึงแล้ว อย่าทำตัวมีปัญหากูไม่ชอบ”

ครับท่าน กระผมทราบแล้วครับ คืนนี้จะให้กระผมนวดขาให้ก็บอกเถอะครับท่าน เป็นอะไรพูดดี ๆ ไม่ได้เลยสักคำ สงสัยชอบพูดแบบแรง ๆ โรคจิตป่าววะ

“อีกอย่าง อย่ามาทำหน้าเบื่อโลกใส่กู กูเห็นแล้วจะพาลแดกข้าวไม่ลง พยักหน้าด้วยเวลาที่กูพูด ไม่ใช่ทำหน้าเหมือนคนอยากตายแบบนั้น โอ้ย พูดกับมึงนี่น่าเบื่อจริง ๆ กูเซ็งว่ะ”

ครับท่าน พูดกับกระผมน่าเบื่อครับ ผมก็พยักหน้าจนคอจะหลุดแล้วนี่ไง ครับ หรือว่าท่านมองไม่เห็น

“แล้วก็....มานี่เลยมึง” แขนถูกลากให้เดินตาม และเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างซอกตู้เหล็ก อยากจะถามว่าคุณท่านจะเอาอะไรอีก แต่เพียงไม่นานก็ได้รู้ว่าคุณท่านต้องการอะไร

 


“อย่าให้กูเห็นนะว่ามึงไปมองใคร....มึงเป็นคนของกู...แม่มึงฝากฝังมึงไว้กับกู...อย่าหือ อย่าเถียง เข้าใจ๋มั้ย ถ้าเข้าใจแล้ว ก็เร็ว ๆ “

ครับ ท่าน กระผมทราบแล้ว ว่าต้องทำอะไรบ้าง

อ้อนเขย่งขาขึ้น และแตะจมูกไปที่แก้มของคนที่ด่าได้ด่าดี ด่าตลอดทั้งวัน ด้วยความเซ็ง แล้วก็ผละออก พร้อมกับที่คน ๆ นั้นยิ้มพราว เหมือนทุก ๆ ครั้ง ที่ลากแขนมาเพื่อจะให้มาหอมแก้ม

“อย่าทำหน้าแบบนี้กูไม่ชอบ...ไปได้แล้ว...กูรำคาญ”

ครับท่าน รำคาญ แต่ลากมาเพื่อให้กระผมหอมแก้มท่านที่เลอะเทอะไปด้วยเหงื่อ แหมเป็นพระคุณจริง ๆ ครับท่าน ชาตินี้จะไม่ลืมบุญคุณเลย

“แล้ววันนี้มึงพูดกับใครหรือยัง”

จะให้พูดกับใครล่ะครับท่าน ผมก็หุบปากเงียบทั้งวันแบบนี้ เพราะท่านห้ามผมพูดหนึ่งวันอ่ะ

“ทำไมไม่ตอบวะ หรือมึงอยากทำตัวมีปัญหา” ท่านห้ามผมพูดไม่ใช่เหรอวะ หรือว่าท่านลืมไปแล้วครับ

“มองหน้านะ ทำไม มองทำไม มึงเป็นแฟนกูนะ มึงกล้าหือเหรอ” แฟนไม่ใช่ขี้ข้านะ นี่กูว่ามึงชักมากไปแล้วนะเนี่ย ไอ้ห่าเอ้ย

อ้อนลุกขึ้นยืน วางกระเป๋า กระป๋อง กระปุก และต่าง ๆ นา ๆ ที่ถือมาลงหมดแล้ว ก่อนจะแหกปากตะโกนออกมาเสียงดัง

“กูทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย ไปหาแฟนใหม่เถอะไอ้เหี้ย ไปตายห่าที่ไหนก็ไปเลยโว้ยยยยย”

กระเป๋าถูกโยน พร้อมกับที่อ้อนเดินกระโผลกกระเผลกจากไปแล้ว ท่ามกลางสายตาของผองเพื่อนที่หันมามองกันเป็นตาเดียว

ส่วน ทาน ยืนอึ้ง อ้าปากค้างไปแล้ว

“มันกล้าทำงี้เหรอ เดี๋ยวสวยแน่ไอ้อ้อน เดี๋ยวมึงสวย เดี๋ยวมึงเจอกู จะไปลากถึงบ้านเลยมึง”

กัปตันทีมฟุตบอลโรงเรียน ข่มความโมโหเอาไว้ ขบฟันพร้อมกับกำมือแน่น ก่อนจะยกน้ำในกระตึกขึ้นดื่ม และเช็ดหยดน้ำที่มุมปากอย่างช้า ๆ หมายมั่นปั้นมือว่า กลับไปต้องไปจัดการกับไอ้คนกล้าหือ เอาให้หมอบเลย ในฐานะที่ชักจะทำตัวมีปัญหามากขึ้นทุกวัน

“เฮ้ย ซ้อมต่อโว้ยย เข้าที่เลยพวกมึง” ทานเดินออกมาสั่งบรรดาลูกทีม แล้วหันไปมองทางเดินที่มีคน ๆ หนึ่งเดินกระโผลกกระเผลกจากไป แล้วยิ้มเยาะอีกครั้ง

นึกว่ากูอยากเป็นแฟนมึงเหรอ แต่ที่ทำไปเนี่ย ก็เพราะว่า กูมีเหตุผล แล้วอย่างมึงก็ปั่นหัวง่ายด้วย หรือว่าไม่จริง
มึงหือเองนะ เดี๋ยวมึงรู้แน่ไอ้อ้อน เดี๋ยวมึงรู้ ว่ามึงจะต้องโดนอะไรบ้าง แล้วอย่ามาหาว่ากูโหดทีหลังแล้วกัน

TBC….

 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 20-04-2007 21:13:15
เกิดเป็นคนต้องอดทน แต่ขนาดนี้ก็มะไหวนะ ทนไปได้ไงเนี่ยๆๆๆ  :serius2: เป็นเราหน่อยมะได้  :pigangry2:

เรื่องใหม่มาอีกแย้ววววว  :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 20-04-2007 21:13:36
สนุกดีครับ  อ่านแล้วนึกถึงแนวละครพิศาล ทันทีทันใด :haun5: :laugh3: :haun5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 20-04-2007 21:15:38
เรย์เอาเรื่องนี้มาลงแล้วเหรอชอบอ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-04-2007 22:08:22
โอ๊ะ โอ๋ ละครพิศาลมาแล้ว  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: inimeg ที่ 21-04-2007 00:34:44
ง่ะ.....

ปี้เรย์ขี้โกงง่า.....

เค้าอยากจาโป๊ดมั่ง... เอารีพลาย

แง้ๆๆๆๆๆ โกดปี้เรย์แร้ว....
-------------------------------------------------------------------------

ก่อนจะไป.... มายืนยันว่า เรื่องนี้ หนุกมากๆ น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ที่สุดเลย.....
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: LonelyBoiZ ที่ 21-04-2007 00:43:43
รออ่านต่อไปนะคับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 21-04-2007 00:56:02
อยากมีแฟนแบบนี้บ้างอ่า . . .

รสชาติของชีวิต :interest:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 21-04-2007 01:09:11
ขึ้นเรื่องมาก็โหด ได้จัย...
ตบ จูบ ตบ จูบ แบบนี้ ชอบนัก...
โอว์ จอร์จ มันมันยอดมากเลยเรย์ ....  :จ้อบจัง1:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 21-04-2007 01:24:48
ชีวิตนี้ต้องอดทน :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 21-04-2007 20:47:11
อ่าววันก่อน ต๊อบบอกให้เรย์โพสเยยไง อิอิ
ต๊อบหาของนักเขียนในบอร์ดที่ต๊อบเข้าประจำมาโพสอีกสิ
เก่งหลายคนเลยอ่ะ เรย์ไม่ค่อยรู้จัก
 :yeb:

อ่าวเพื่อนๆซาดิสทั้งหลาย ใครชอบตบจูบยกมือขึ้น
 :laugh5:
*******************************************************


เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน กล้องตัวละเป็นแสน



--------------------------------------------------------------------------------



เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน กล้องตัวละเป็นแสน

กฎข้อที่ 1 ห้ามทำตัวมีปัญหา ไม่งั้นตาย
กฎข้อที่ 2 ห้ามโวยวายไม่งั้นตาย
กฎข้อที่ 3 กูคือประกาศิต ถ้ามึงหือ มึงตาย
กฎข้อที่ 4 อ่านให้เข้าใจไม่งั้น มึงตาย
กฎข้อที่ 5 กูคิดออกก่อนแล้วจะมาบอกว่า มึงจะตายเพราะอะไรบ้าง แล้วแต่อารมณ์กูเว้ย

กระดาษแปะเข้ากลางหน้าผาก ไม่เรียกว่าแปะ แต่เรียกว่าตบมากกว่า เสียงไม่ดังมาก แค่หน้าผากสะเทือนแค่นั้นเอง

“เงียบ ทำเป็นเงียบ ค่ากล้องกูตัวละเป็นแสน ให้มาเป็นแฟนหน่อยทำเป็นมีปัญหา เดี๋ยวกูถีบ”

หายโมโหแล้วตอนนี้ หลังจากได้โวยวายใส่หน้าไอ้ทานไปเมื่อตอนบ่ายเลยสงบปากสงบคำได้ ให้มันอาละวาดของมันให้พอ เดี๋ยวมันหายมันก็กลับมาเป็นบ้าเหมือนเดิมเองแหละ

แม่นะแม่ปล่อยมันขึ้นมาได้ไง คนจะหลับจะนอน มาเจอไอ้โรคจิตนี่เข้าไปเซ็งแต่วัน

ใครก็รู้ว่าไอ้ห่าทาน มันเป็นโรคหมาบ้า แล้วที่ต้องมานั่งอดทนกับมันเพราะ ทำกล้องมันพัง เมื่องานถ่ายภาพของห้อง ไม่ได้ตั้งใจ แต่กล้องมันแพง แล้วทีนี้ทำไงล่ะ ไอ้ห่านี่ได้ทีเลย
โดยหน้าที่มันก็ต้องชดใช้อะนะ แล้วรู้มั้ยชดใช้ของมันคืออะไร ให้เป็นขี้ข้ามัน โอเคครับ ขี้ข้าก็ขี้ข้า ค่ากล้องเป็นแสน เป็นขี้ข้าก็พอ
กลัวแม่ลำบากหาเงินมาใช้มัน จะยิ่งซวย แถมโดนด่าอีก ขี้เกียจมีปัญหา

“มึงชอบกูเปล่า....” ตอนไอ้ทานพูดแบบนี้ มันยิ้มเยาะด้วยนะ แถมยังลูบคิ้วตัวเองเล่น แล้วก็ทำหน้าสะใจ ตอนที่นั่งผูกเชือกร้องเท้าให้ตามคำสั่งมัน

“ชอบ” กัดฟันประชดเอออกับมัน ไปงั้น

“โอเค...งั้นกูกับมึงเป็นแฟนกัน”

ตอนนั้นนึกว่าไอ้ทานมันพูดเพราะมันประชดกลับ แต่เป็นไงล่ะ คราวนี้ดูท่ามันจะอินเกินไปแล้ว กะอีแค่คำพูดคำเดียวนี่นะ ไม่น่าเล้ย ซวยจริง

ตอนนั้นคิดว่า อะไรนะ....ไอ้ห่านี่ประสาทแดกหรือเปล่าวะ มึงขอกูเป็นแฟนง่ายขนาดนี้เลยเหรอ ไอ้ทาน แล้วก็โวยวายใส่มันไป

“ขอกูงี้เลยนะ...เล่นง่ายจริงมึง...กูไม่เป็นโว้ย”

แค่แหกปากพูด กลับโดนตบหัวแทบทิ่ม จนต้องเอามือกุมหัวเอาไว้ กัดฟัน ทนไว้ ทนไว้ กล้องแม่งเป็นแสน ทนไว้ ทนไว้

โว้ย ขอเป็นแฟน แต่เล่นงี้เลยเหรอ ตบกูแทบหัวหลุดไอ้เวร ใครอยากเป็นแฟนมึงวะเนี่ย

“มึงชอบกู...มึงต้องเป็นแฟนกู จำไว้...ถ้ามึงนอกใจกู...มึงตาย” ร่างที่ก้าวเดินจากไปแล้ว หันมาบอกด้วยใบหน้าจริงจัง ทิ้งให้คนที่กุมหัวด้วยความเจ็บ มองตามด้วยความหงุดหงิดโมโห

จำได้สิ ไอ้เหตุการณ์ห่าเหวนั่นอ่ะ ไม่น่าประชดมันเล้ย คราวนี้นอกจากตำแหน่งขี้ข้าใช้หนี้ค่ากล้องแล้ว เลยต้องเป็นแฟน กระสอบทรายมากกว่า สงสัยว่าเป็นกระสอบทรายให้ไอ้ทานด้วย

มีชั่วโมงหวานแหววด้วยนะ มันบังคับให้หอมแก้มมันตอนมันหน้าเลอะตัวมอม หอมมาก เห็นมันอมยิ้ม สงสัยคงสะใจที่ข่มได้




ท่องเอาไว้ ค่ากล้อง ค่ากล้อง ถ้าแม่รู้ตายเลย เหตุผลฟังขึ้นมั้ย ไม่ขึ้น แล้วนี่เป็นอะไรทำไมมาทำเป็นเอ๋ออยู่เนี่ย

“แม่มึงเรียกกินข้าว รีบ ๆ ลงมาด้วย อย่าให้แม่ย่ากูรอนาน เก็บเสื้อผ้ามึงด้วย ไปนอนบ้านกูเลย กูเมื่อยขา ไปนวดกูด้วย กล้องกูเป็นแสน หรือให้กูบอกแม่มึง”

เด็ดมั้ยล่ะ ทีต่อหน้าคนอื่นทำเป็นคนดี ทีกับกระผมคุณท่านทำตัวเยี่ยงนี้

“เฮ้ยจะแดกไม่แดกข้าวอ่ะกูรีบ หรือให้กูไปลากมึงจากเตียง”

ขอบใจมากครับท่านที่มาตามกระผมแทนคุณแม่ของกระผม แค่นี้ก็เป็นเกียรติจะแย่แล้ว ไปก็ไปวะ กล้องตัวละเป็นแสน กล้องตัวละเป็นแสน จำไว้ กล้องตัวละเป็นแสน

ทานเดินยิ้มทำหน้าแป้นแล้นลงมาแล้ว หลังจากไปตามอ้อนถึงในห้องแล้วก็เห็นว่าอีกฝ่ายเดินกระโผลกกระเผลกตามลงมา เลยได้โอกาสประจบแม่ของอ้อนทันที

“อาหารคุณแม่อร่อยครับ ยังไงวันนี้ผมคงต้องรบกวนให้อ้อนไปค้างที่บ้านด้วยนะครับ อยู่บ้านคนเดียวไม่ดีเลยครับคุณแม่ ผมเหงา”

เหงามากครับท่าน เห็นนั่งเล่นเกมส์ทั้งวันทั้งคืน แล้วให้กระผมนวดขาให้ เหงาตายเลย

“เนี่ยถ้าไม่ได้อ้อนไปค้างเป็นเพื่อน ผมต้องลำบากแน่ ๆ เลยครับคุณแม่”

ลำบากเพราะไม่มีใครปรนนิบัติพัดวีให้ยังไงล่ะ

“อยากมาขอเป็นลูกคุณแม่ด้วยจัง คุณแม่ใจดี๊ใจดีนะครับ”

ไอ้ตอแหลเอ้ย

อ้อนนั่งมอง คุณท่าน ที่ตีหน้าเป็นคนซื่ออยู่นานแล้วก็ส่ายหน้า แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เพราะสายตาที่มองมาเหมือนเยาะเย้ยอยู่ในที แล้วก็ชะงักนิ่ง

กล้องตัวละเป็นแสน
กล้องตัวละเป็นแสน
กล้องตัวละเป็นแสน

เออ กระผมยอมเป็นขี้ข้าคุณท่านครับไอ้ทาน อย่าให้ใช้หนี้หมดแล้วกัน ฮึ่ม ใจเย็นไว้ ใจเย็นไว้ ถ้าแม่รู้เดี๋ยวซวย ใจเย็นไว้ ใจเย็นไว้ ปลง ปลงกับคุณท่านซะ คนเยี่ยงนี้ ต้องปลงกับมันอย่างเดียว

TBC….


 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-04-2007 21:04:58
เหอเหอ

ตบจูบๆๆๆๆ

ชอบชอบ

 :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 21-04-2007 21:10:02
อืมม์  เข้าใจแล้วคับ  ทำไมคุณทานถึงมีกระสอบทราบเคลื่อนที่ส่วนตัว :fox2: :haun5: :fox2: :haun5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 21-04-2007 21:54:14
เหอ เหอ ดูจากกฎ 5 ข้อแล้ว อ้อนคงตายไปหลายรอบแล้วล่ะ  :laugh3:  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: inimeg ที่ 21-04-2007 21:55:12
มันส์ สุดๆ เรื่องนี้ บีบใจตลอดเรื่อง

โมโหตัวละครอย่างเดียว....

เมิงตั้แง่กันเกินไปแร้วว้อย..............................

อุๆ ปี้เรย์ อัพ วันละคอนแบบนี้ 3 เดือนถึงจะจบนะเนี่ย.... (มันมี120 ตอน ขู่คนอ่าน... 555)
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 21-04-2007 23:23:27
อยากใช้หนี้แบบอ้อนบ้างง่ะ

ว่าแล้วก็ไปก่อหนี้ดีก่า :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 22-04-2007 16:29:42
หนี้สินใหญ่หลวงนัก :o :o แล้วอ้อนต้องใช้เวลาทั้งหัวใจเพื่อชดใช้แน่ๆเลยคับ :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เล่นน้ำ 22-4-50 โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 22-04-2007 19:41:42

อัพตามคนอ่านเลยครับ อ่านไวอัพไว
 : 222222:

--------------------------------------------------------------------------------



เพราะเรากัดกัน(ผูกพัน) ตอน เล่นน้ำ

“โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย หงุดหงิดโว้ยยยยยยยยย”

ตาเหลือกและตาขวาง สภาพไม่ต่างกับหมาบ้า
ทานตะวัน ชื่อน่ากิน แหกปากโวยวายอยู่ในห้อง หลังจากเดินนำหน้าลิ่ว ๆ ให้คนที่เดินขากระโผลกกระเผลกเดินตามมาถึงในห้อง แล้วก็โยนกระเป๋าลงบนเตียง ก่อนจะล้มตัวลงนอนกลิ้งไปกลิ้งมา ทิ้งให้อีกคนยืนทำหน้าเซ็งเบื่อโลก อยู่ห่างออกไป

เซ็งห่าอะไร เห็นใช้กระผมงก ๆ มันบอกว่ามันเซ็ง กระผมไม่เซ็งยิ่งกว่าเหรอ ที่ต้องมาเป็นขี้ข้ามันเนี่ย หรือยังไง หรือจะต้องให้กระผมช่วยมันแหกปากด้วยดี

“กูจะสระผม กูจะอาบน้ำ กูจะกินข้าว แล้วกูก็จะนอนด้วย งานมึงไปเลย ไปรองน้ำเลย กูจะแช่น้ำอุ่น ๆ แหน่ะ ทำมามองตาขวาง กล้องกูมึงรู้จักมั้ยว่ากล้องกูแพง”

เออครับ กระผมทราบแล้วว่ากล้องมันแพง กระผมทราบแล้วว่ากระผมเป็นคนใช้ และทราบแล้วว่ามึงมัน ตอแหลมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ของความมาก

อ้อนเดินลากขาเข้าห้องน้ำไปแล้ว และจัดการรองน้ำจนเต็มอ่าง ปรับเปลี่ยนอุณหภูมิเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาเชิญท่านชายลงไปแช่น้ำอุ่น

สภาพตอนนี้ ไอ้เวรนั่น เปลี่ยนเป็นนุ่งผ้าขนหนู ยืนหมุนไปหมุนมา ทำหน้าหล่ออยู่หน้ากระจก เห็นมันลูบ ๆ ผมสองสามที เออ เท่ห์ตายห่า นักฟุตบอลก็งี้ หุ่นมันดี แล้วไง ก็หุ่นดี ไม่เกี่ยวกะกระผมเลย อุตส่าห์ชื่นชมนะเนี่ย
แต่ก็ชื่นชมไปงั้นแหละ ไม่มีอะไรมากเลย

“น้ำอุ่นแล้ว” พูดออกไปอย่างแกน ๆ ทำหน้าเซ็ง ๆ แล้วอ้อน ก็พับแขนเสื้อ เตรียมเข้าไปช่วยท่านชายอาบน้ำ

“รวดเร็วทันใจดีจัง แหม้ แค่คิดว่าจะมีคนใช้แบบสบายมือไม่ต้องทำอะไรเลยตั้งสองปี มันก็แสนมีความสุขแล้ว”

พูดจากวนตีน แบบนี้ มีแฟนได้ไง ตอแหลไง ผู้หญิงคงไม่รู้ว่าไอ้เวรตะไลนี่มัน ตอแหล สร้างภาพ ดูห้องมันเด่ะ รกเละเทะอย่างกะอะไร ใครมาเห็นคงรักมันไม่ลงหรอกสภาพนี้

“ไปเร็ว คนใช้ ถูหลังหน่อย”

เออ ทราบแล้วแหละ คุณท่าน

อ้อนเดินตามเข้ามาในห้องน้ำทำหน้าเซ็งสุดชีวิต เมื่อนายท่าน โยนผ้าขนหนูสะบัดมาโดนหน้าแล้วก็ลู่ลงกับพื้นแล้วส่วนตัวไอ้ท่านชาย ก็กระดี้กระด้าลงอ่างไปแช่น้ำอย่างสบายใจเฉิบ สบายจริงนะมึง
เหี้ย อุบาทว์ชิบหายไอ้เวร
กร่นด่าในใจเป็นที่หายเครียดแล้ว อ้อนก็เลยจัดการ พับผ้าขนหนูแบบลวก ๆ แล้วก็ลงมือนั่งลงข้างอ่างน้ำ เตรียมถูกหลังให้ทันที

ส่วนไอ้เจ้านายตัวแสบ นั่งร้องเพลงสบายอารมณ์วักน้ำล้างหน้าอยู่นั่น

เฮ่อ ชีวิต อยู่กันอย่างสงบ ๆ ดีกว่า มันให้ทำห่าอะไรก็ทำไปซะ ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ไม่อยากมีเรื่องกับพวกบ้าพลัง
เดี๋ยวอีกไม่กี่นาที นวด ๆ เสร็จ มันก็หลับแล้วแหละไอ้ห่าเนี่ย วัน ๆ วิ่ง ๆ ๆ ๆ ๆเดิน ๆ ๆ ๆ เตะบอล ห่าอะไรไม่รู้ทำนั่นทำนี่ตลอดเวลา ไฮเปอร์โคตรพ่อ แต่กลับมาถึงบ้าน เห็นมันน็อคเอ้าท์แบบไม่กี่นาที ก็หมดลม

“ถูแรงๆ หน่อยดิ”

เออ รู้แล้ว แรง ก็แรง



อ้อนจัดการใช้ผ้าขนหนูถูแรง ๆ ที่แผ่นหลังของคนที่นั่งยืดขาหันหลังให้
เบื่อว่ะ ทำไมกูต้องมาทำอะไรให้มันแบบนี้ด้วยวะ กล้องมันแพง ค่ากล้องไง แพงมากกกกกกก แม่รู้ด่าตายห่า

ไว้อาลัยให้กับชีวิตตัวเอง แล้วก็นั่งเหม่อ ๆ ถูแบบเหม่อ ๆ แล้วก็เลยพาลไปนึกถึงวันแรกที่หนักหนาสาหัสจนเกินจะรับได้ ก่อนหน้าที่จะนั่งกันอย่างสงบ ๆ อย่างนี้ บางทีลงไม้ลงมือกัน หัวร้างข้างแตกมาแล้ว กว่าจะคุยกันรู้เรื่องกว่าจะสงบได้ขนาดนี้ ใช้เวลานานถึงสามเดือน แต่ก็ผ่านมาถึงวันนี้แล้ว อะไรอะไรมันก็ดีขึ้นบ้าง ไม่ได้มีเรื่องต้องเดือดร้อนอะไรอาจเพราะอ้อนเป็นคนเฉื่อยชาด้วยก็ได้ เลยไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก แล้วนั่น

ยังไม่ทันนวดขาให้

ไอ้เวรตะไล สุดยอดตอแหล มันก็หลับซะแล้ว หลับคาอ่างน้ำเลย
เพราะเสียงกรนเบา ๆ นั่นแหละ ถึงได้รู้ว่ามันหลับไปแล้ว

“ทาน เฮ้ย ไอ้ทาน”

“หือ” เห็นว่าคนในอ่างน้ำ ขยับตัวเล็กน้อย แล้วก็ถึงรู้ว่ามันเพิ่งรู้สึกตัวแล้ว เห็นทานตะวันหันหน้ามาหาเล็กน้อยแล้วก็ปรือตาขึ้นมองก่อนจะยิ้มแหย ๆ มาให้ แล้วก็ยิ่งงงกับพฤติกรรมแปลก ๆ ของคน ๆ นี้เหลือเกิน

กลางวัน มันบ้าบอ งี่เง่า เอะอะโวยวาย แหกปากตะโกน แต่พอลงอ่างอาบน้ำถูหลังให้แค่นั้นแหละ

ไอ้คนตอแหล กวนส้น เมื่อกลางวัน มันจะกลายเป็นคนเงียบ ๆ เหม่อลอย ขึ้นมาทันที

“กินข้าวหรือยัง”

ถามมาได้ว่ากินข้าวหรือยัง ก็กินแล้วไง กินที่บ้านแล้ว พร้อมมึงนั่นแหละ ไอ้โง่

“ถามทำไม” พูดไปงั้น ให้บรรยากาศเงียบ ๆ มันดีขึ้นหน่อย

“เหรอ” เหอะ ถามหาหอกอะไรวะ เมื่อกลางวันแหกปากด่าเราโวยวายใส่เราอยู่แท้ ๆ ทีตอนนี้มาเสือกถามว่ากินข้าวหรือยัง ละเมออะไรหรือเปล่าวะ

ทานตะวันนอนนิ่ง ๆ อยู่ในอ่างน้ำ ให้อ้อนถูหลังให้ แล้วก็วักน้ำเล่นไปเรื่อย ๆ ดวงตาที่ฉายแสงเมื่อกลางวันเลื่อนลอย และกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง คิดอะไรบางอย่าง ที่อ้อนไม่รู้ ว่าพฤติกรรมแปลก ๆ ของทานคืออะไร จะเป็นแบบนี้ตลอดเวลาที่อาบน้ำ เหมือนกับว่า มันกำลังจะทำอะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้ทำ แล้วมันจะทำอะไรวะ

“ไอ้เตี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย เป๋ ไอ้ขาเป๋ แบบนี้เขาเรียกว่าถูหลังเหรอวะไอ้ห่า นิ่มนวลจริง ๆ ขัดแรง ๆ เข้าสิโว้ยยยย”

น่านไง วิญญาณผีบ้าเข้าสิงมันอีกแล้ว แหกปากไม่พอ ยังใช้มือตีน้ำในอ่างให้กระเด็นเป็นวงกว้าง ดิ้นกระแด่วกระแด่ว หัวหูเปียกไปหมดแล้ว ตัวเองเปียกไม่พอ ยังพลอยทำให้คนถูหลังเปียกไปด้วย

โอ้ยยยยยยยยยยยยย กูอยากจะบ้า เสื้อผ้าเปียกอีกแล้ว แล้วนี่จะทำยังไงวะเนี่ย ได้แต่นั่งให้ไอ้บ้านี่วักน้ำใส่ให้เปียกเล่น เพราะมันบอกว่าห้ามหือ ห้ามโวยวาย เออ กระผมก็ต้องอยู่อย่างนี้แหละ
ให้นายท่านสาดน้ำผมเล่นให้พอ นี่อยู่กับพวกโรคจิตอยู่ใช่มั้ยเนี่ยยยยยยยยยยย เบื่อโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย
มันจะเป็นคนดี ๆ เหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขาได้ถึง ห้านาทีมั้ยเนี่ย เวลาแสนสุขหมดลงอีกแล้ว
เฮ่อ เซ็งโว้ยยยยยยยย เมื่อไหร่จะได้ไปให้พ้น ๆ ไอ้บ้านี่ซะทีวะ เมื่อไหร่จะใช้หนี้หมดวะกู

“ทำหน้ากวนตีน ทำหน้ากวนตีน เอานี่ไปกินก่อนเลยมึง”

เฮ้ย อย่านะเว้ย เล่นอะไรของมันอีกวะเนี่ย ไอ้ห่าเอ้ย

ขวดสบู่เหลว ถูกเทลงในมือ แล้วจุ่มลงไปในน้ำ ทานตะวันสะบัดมือให้เกิดฟองก่อนจะวักน้ำขึ้นและมุ่งมั่นจะทำให้อีกฝ่ายเปียก แล้วก็เละเทะให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

“เอาไปเลยมึง จะได้แสบตา ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไอ้บ้าเอ้ย มันเป็นบ้าอะไรของมันเนี่ย กูเบื่อมันเต็มทีแล้วโว้ยยยยยยยยย ทำให้คนอื่นแสบตามันสนุกมากนักหรือไงวะ ไอ้โรคจิตเอ้ย TBC


 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-04-2007 20:16:38
เหอ เหอ ขอทำนายว่าซักวันอ้อนต้องระเบิดออกมาแน่ ๆ เลย
กดดันซะขนาดนั้น  :kikkik:
ปล.อ่านแล้วนะ รีบมาอัพด้วยล่ะ  :ฮึ่มม:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 22-04-2007 22:48:52
เอ่อ  ตกลงคุณทานเนี่ยะ  เปนโรคจิตอ่อนๆรึป่าวครับ :kikkik: :kikkik:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 22-04-2007 23:25:38
สงสัยจะเป็นโรคขาดความรักม้างเนี่ย :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 23-04-2007 20:30:32
ทานน่ารักดี  เรียกร้องความสนใจดิเนี่ย ชอบอ้อนแล้วมาทำเป็นแกล้งเค้า
ว่าแต่ทานคิดอะไรตอนอาบน้ำอะ  มีอดีตอยู่ป่าวเนี่ย (คงไม่ใช่หื่นๆ555)

รออ่านต่อจ้า   :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ขา โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 23-04-2007 21:09:48
อยากเจอจัง พวกโรคขาดความรักเนี่ยะ
ถามจริงมีคนเคยเจอแบบนี้ปะ
 :kikkik:



--------------------------------------------------------------------------------



เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ขา

หลับไปแล้ว หลังจากเอะอะโวยวายบ้าบอเป็นโรคประสาทจนพอใจ หลับพริ้มกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแถมยังนอนกอดหมอนข้างหลับไปอีกต่างหาก ดูชุดที่มันใส่นอนแล้วจะหนาว

กางเกงบอล เสื้อมันก็ไมใส่ หัวเปียกมันก็ไม่สน แต่ไม่ยักกะเป็นหวัดแฮะ ไอ้ห่าตอแหลทานนี่มันอึดดีจริง ๆ

หลังจากสาดน้ำจนทำให้กระผมเปียกเละแล้ว คุณท่านก็กระโดดขึ้นจากน้ำ ปล่อยกระผมอ้าปากค้าง
ตัวเปียกโชก แถมยังแสบตาเพราะฟองสบู่อีกต่างหาก

ส่วนไอ้คุณท่านทาน ลุกขึ้นจากน้ำวิ่งลิ่วๆ มาคว้าผ้าขนหนูมาพันไว้แบบลวก ๆ
ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำแล้วจัดการ เทแป้งเด็กกลิ่นหอมฟุ้งมาทา ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ทั้งตัวทั้งหน้า จนเหมือนเด็กตกถังแป้ง ก่อนจะคว้ากางเกงมาใส่ กระโดดขึ้นเตียง
แล้วกระดิกนิ้ว เรียกให้กระผมซึ่งอยู่ในสภาพเละเทะมานวดขาให้

ส่วนมันหลับพริ้มเลยนะ ไม่ถึงสองนาที มันก็หลับแล้ว หลับกรนคร่อก ๆ เหมือนเด็ก ๆ

นี่มันรู้ตัวบ้างมั้ยวะ ว่ามันหลุดมาดโหด ๆ โวยวายประสาทแดกของมันอีกแล้ว

ถ้าเป็นกลางวันหลังมันตื่นนอน มันจะออกฤทธิ์ออกเดชชิบหาย โวยวายตะโกนเสียงดัง ลากให้วิ่งตาม เป็นกิโล
แล้วก็ไปวิ่งอยู่กลางสนามตั้งแต่เช้าตรู่ เตะบอลคนเดียวไม่พอ ยังตะโกนด่ารุ่นน้องในชมรมไปด้วย

วัน ๆ อยากรู้จริง ๆ มันวิ่งกี่กิโล โคตรบ้าพลังเลย น้ำนี่ขาดไม่ได้เลยนะ
ถ้าไม่มีน้ำกินไอ้ห่านี่ จะแหกปากอารมณ์เสียเหมือนไปโกรธใครมาสิบชาติร้อยชาติ
ถ้าไม่ได้อย่างใจ โอ้โหเฮ้ย ธรณีแทบพินาศ เพราะมันจะออกฤทธิ์อาละวาด เตะนั่นเตะนี่ไปเรื่อย

ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นกัปตันชมรมฟุตบอล บ้าขนาดนี้ ชาวบ้านชาวเมืองเขากลัวมันกันหมดแล้ว มันรู้บ้างมั้ยวะเนี่ย

อ้อนสะบัดเสื้อเปียก ๆ แล้วก็หาไม้แขวนเสื้อสำหรับแขวนเสื้อที่เปียกเละเทะ แขวนเอาไว้
ส่วนกางเกงก็หยิบออกมาจากเป้ผลัดเปลี่ยนเรียบร้อย ก่อนจะมาทิ้งกายลงนั่งอยู่บนเตียงนอนของคนที่นั่งยิ้ม
นอนหลับไปแล้วไอ้ท่านทานมันยืดขาให้นวด แต่นวดไม่กี่ทีก็หลับไปแล้ว
หลับไปชนิดที่ว่าคนนวดยังนวดไม่ถึงสองนาที

อ้อนผละออกจากร่างของคนที่นอนกอดหมอนข้างมีความสุข
แล้วก็เลยถอยมานั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงของทานตะวัน

นั่งมองคนนอนหลับ

นั่งมองคนบ้า

นั่งมองไอ้ห่าบ้าพลัง

นั่งมองไอ้ตอแหลโรคจิตเมื่อตอนกลางวัน ที่ทำให้ปวดกบาลจนอยากจะเป็นบ้า แต่ตอนนี้สงบนิ่ง สิ้นฤทธิ์ไปเรียบร้อยแล้ว
แปลก ไอ้ทานมันเป็นคนแปลก ๆ วันแรกที่รู้ว่าต้องมาเป็นขี้ข้ามัน ก็ทำใจแล้ว ว่าต้องโดนอะไรเยอะแยะมากมาย

แล้วก็โดนมันแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ใส่จริง ๆ นั่นแหละ เล่นเอาแทบบ้า

โดนถีบบ้าง ตบหัวบ้าง ไม่ได้ดั่งใจ มันตะคอกด่า ชนิดไม่มีเลี้ยง แล้วก็ต้องทำหูทวนลมไป
ทำเหมือนไม่ได้ยิน แล้วก็แบกกระเป๋าให้มัน

จนสุดท้าย ต้องมาอาบน้ำให้ แล้วก็นวดคลายกล้ามเนื้อให้ไอ้ทานตอนมันนอนนี่แหละ อะไรมันจะขนาดนั้น

ตอนนี้มานั่งดูคนนอนหลับแล้ว ก็ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นคนเดียวกับที่แหกปากโวยวายเมื่อตอนกลางวัน

มันเหมือนเด็ก เด็กตัวเล็ก ๆ แต่มันแค่ตัวโตแรงเยอะผิดจากเด็กทั่วไปก็เท่านั้น

อ้อนนั่งอมยิ้มแบบไม่รู้ตัวว่าตัวเองยิ้มออกไปได้ยังไง ก่อนจะลุกจากเก้าอี้ลงมานั่งข้าง ๆ เตียง
วางมือสองข้างแนบกันแล้วเอาคางเกยเอาไว้
นั่งจ้องมองหน้าของคนหลับแล้วก็ยิ้ม ก่อนจะใช้นิ้วดีดไปที่ปลายจมูกของคนหลับ อย่างนึกหมั่นไส้
แต่ทานก็ปัดมือที่มารบกวนเวลานอนออกก่อนจะทำเสียง ฮึ่ม ๆ อยู่ในลำคอ
เหมือนถูกขัดใจ นั่นยิ่งเรียกรอยยิ้มของอ้อนให้มีมากขึ้น

 


"เฮ้ย ท่านครับ ไม่ลุกขึ้นมาอาละวาดกระผมอีกเหรอท่าน เฮ้ย ๆ ไม่ตื่นเหรอ"
มือแตะ ๆ ที่แก้มของทานตะวัน แล้วก็กดนิ้วเล่นที่แก้มของอีกฝ่าย
โดนแดดจนผิวคล้ำหมดแล้ว แต่หน้ามันยังเนียนชะมัด
ไม่มีรอยอะไรเลย นอกจากรอยเขียว ๆ ของหนวดที่เพิ่งโกน

มึงเหมือนเด็กจริงๆ เลยว่ะไอ้ทาน มึงรู้ตัวบ้างมั้ยเนี่ย

"โว้ย เหี้ย อย่าให้กูเห็นนะมึง จะกระทืบให้จมตีนเลย โว้ยยยยยยยย"

เสียงโวยวายขึ้นมากะทันหัน ทำให้อ้อนผงะออกห่าง ด้วยความตกใจ ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงเบา

ให้ตายเหอะ ขนาดหลับ มึงยังฝันว่าจะกระทืบใครเหรอวะเนี่ย แม่งไอ้ทานนี่มันโคตรจะบ้าพลังเลยว่ะ

เหี้ยตลกชิบหาย เวลานี้แหละที่ได้รู้สึกว่าเหนือกว่ามัน ทนมันได้ก็ตอนนี้ล่ะว้า
เพราะว่าตอนหลับ ๆ จะได้เห็นไอ้ทานบ้าเลือดเมื่อตอนกลางวัน
เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
จะได้เห็นสภาพของลิงยักษ์ นอนหลับม้วนเป็นกุ้งกอดหมอนข้างแน่น แล้วเคี้ยวฟันกรอบ ๆ แกร่บ ๆ
นอนยังนอนกัดฟันเลย เครียดอะไรนักหนาวะไอ้ทาน

อ้อนลงไปนั่งที่เดิมแล้วใช้นิ้วจิ้มที่แผ่นอกของอีกฝ่ายเล่น

เหี้ยเอ้ย อยากหุ่นล่ำ ๆ อย่างมึงบ้างจัง อิจฉาว่ะ

อ้อนคิดอย่างปลง ๆ กับสภาพร่างกายของตัวเอง
ก้มมองที่ขาแล้วก็ถลกกางเกงขึ้นดู

รอยยาวตั้งแต่หัวเข่าจนถึงข้อเท้าทำให้ต้องรีบดึงขากางเกงลงเพราะไม่อยากเห็น
ก่อนจะหันไปมองที่ขาของทานตะวันแล้วก็ยิ่งนึกอิจฉา

"กูเหมือนคนไม่มีขาเลยว่ะ เวลาที่เห็นมึงวิ่งกูยิ่งอิจฉา ถ้ามึงตกอยู่ในสภาพเหมือนกูมึงจะทำยังไงวะ
มึงคงโวยวายไม่ออกแน่เลยไอ้ทาน มึงคงจ๋อยไปเลยล่ะ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ๆ เลย"

TBC....




 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 23-04-2007 21:27:41
หุหุ อ้อนคงเก็บกดเนอะ พอกลางคืนก็มาแหย่ ๆ ทานระบายอารมณ์ซะงั้น  :laugh3:  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 23-04-2007 21:29:16
สงสารอ้อนจัง  :เศร้า1:

รออ่านต่อน้า  :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 23-04-2007 21:31:31
สู้ต่อไปนะ อ้อน  ต้องมีสักวันแหละ เอาคืนให้ให้หนักๆเลย  :yeb:


จะรออ่านนะงับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 23-04-2007 23:02:43
มารอลุ้นอ้อนกะคุณชายทานต่อ...
โอ้เถื่อนได้ใจเจงๆ...  :myeye:
สู้ต่อไปทาเคอ้อน...
อยากเจอจัง พวกโรคขาดความรักเนี่ยะ
ถามจริงมีคนเคยเจอแบบนี้ปะ
 :kikkik:
แฮะๆ มายกมือ เพราะเป็นโรคจิตขาดฟามรักคับ เรย์..
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 24-04-2007 19:20:00
ทานโคตรทารุนคนพิการเลย  :angry2:

สงสารอ้อน  :dont2:

รอวันที่อ้อนแข็งข้อ แล้วทานจะรู้สึก   :laugh5:

หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน อาบน้ำ โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 24-04-2007 20:47:59
อิอิ สงสัยตามจะเป็นได้แค่อ้อนแหละ
 :kikkik:


--------------------------------------------------------------------------------



เพราะเรากัดกัน(ผูกพัน) ตอน อาบน้ำ



น้ำ

ผ้าขนหนู

น้ำ

ผ้าขนหนู

น้ำ

ผ้าขนหนู



โอ้ยยยยยยยยย ห่าอะไรของมันวะเนี่ย ไม่ใช่เสานะโว้ย วิ่งไปวน ๆ ในสนามเสร็จแล้ววิ่งมาเรียกเอาน้ำ แล้วก็ผ้าขนหนู พอมันเช็ดเสร็จมันก็โยนใส่หน้า ไอ้ห่าเอ้ย ถือว่ากระผมเป็นคนใช้ของมึง เลยไม่สนเลยนะว่ากูเหม็นเหงื่อมึงมากเลยเนี่ย



อ้อนยืนแข็งเป็นหิน หัวมีผ้าขนหนูแปะอยู่

มือซ้ายถือขวดน้ำ

มือขวา ถือหนังสือ

ส่วนไหล่มีสายกระเป๋าใบใหญ่ของไอ้บ้าพลังกลางสนามฟุตบอลคล้องอยู่

แดดกำลังเปรี้ยง ตะวันตรงหัว แต่ทานตะวันกำลังวิ่งไล่ลูกฟุตบอลอยู่กลางสนาม พร้อมกับรุ่นน้องในชมรม วิ่งไปแหกปากไป ช่างเป็นอะไรที่น่ามองซะเหลือเกิน



"เฮ้ย ไอ้เตี้ย เก็บลูกฟุตบอลเด่ะ ยืนโง่อยู่นั่น" เออสั่งกระผมเข้า ของก็พะรุงพะรัง แถมยังต้องไปตามเก็บลูกฟุตบอลอีกเนี่ยนะ ห่าเอ้ย



อ้อนวางขวดน้ำและกระเป๋าลงก่อนจะวิ่งกระโผลกกระเผลกไปข้างสนามเพื่อเก็บลูกฟุตบอล และเตะเข้าไปที่กลางสนาม แต่กลับถูกเตะอัดกลับมาแบบไม่ทันตั้งตัว จนล้มกลิ้ง

"เฮ้ย ไอ้เหี้ยเอ้ย" ลงไปนอนตัวงอเป็นกุ้ง แต่ใบหน้าแหงนเงยมองคนที่เตะฟุตบอลอัดเข้าใส่ท้อง แล้วก็มองด้วยความแค้นปนจุก



"ไอ้เหี้ยทาน มึง แอ่ก ห่ามึงจำไว้นะมึง" เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ แต่ร้องไม่ออกลงไปนอนกองกับพื้น โดยที่ไม่มีใครเข้ามาช่วย



"พี่ทาน เขาจุกนะนั่น เดี๋ยวผมไปดู" รุ่นน้องในชมรมตะโกนบอกแต่กลับถูกทานตะวันโบกมือห้ามเอาไว้



"มันไม่ตายห่าหรอก โทษฐานเก็บบอลช้า ช่างมัน"



ไร้น้ำใจ....คำพูดที่แสนไร้น้ำใจ ทำให้อ้อน นอนมองอีกฝ่าย แล้วกัดฟันแน่นก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืน และเก็บขวดน้ำและผ้าขนหนูมาถือเอาไว้

จ้องมองอีกฝ่ายตาหยี เพราะดวงตาต้องสู้แสงอาทิตย์ และมองคนที่วิ่งไล่ลูกกลม ๆ อยู่กลางสนาม

มือยกขึ้นป้องที่หน้าผาก เพื่อมองดูให้ชัดว่าอีกฝ่ายวิ่งไปถึงไหนแล้ว



ใกล้ถึงหน้าประตู แล้วสุดท้าย ทานตะวันก็หลบหลีกคู่แข่งไปได้ และเป็นฝ่ายยิงทำประตูขึ้นนำเป็นลูกที่สอง ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของรุ่นน้อง แล้วก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน



มันแค่การซ้อม แต่ไอ้ทานก็วิ่งอย่างกะว่าชีวิตนี้ไม่เคยวิ่ง วิ่งวนไปมา

แล้วก็ทำท่าดีอกดีใจ แถกไถอยู่กลางสนาม

"เฮ่อ กูอยากวิ่งได้อย่างมึงว่ะ ไอ้ทาน กูอิจฉามึง" อ้อนบ่นกับตัวเองเสียงเบาก่อนจะเตรียมยื่นขวดน้ำให้คนที่วิ่งเข้ามาหา

"น้ำ" นั่นไง มันสั่งอีกและ

"ผ้าขนหนู" อ่ะเอาไปเลย ผ้าขนหนูมึงมันเน่าเต็มทีแล้ว

"เฮ้ย ป่ะ ไอ้เตี้ย ไปหอมแก้มกูหน่อย กำลังหอมได้ที่เลย"

ห๊า อีกแล้วเหรอวะ ไอ้ทาน โอ้ยยยยยยยย ประสาทกูจะแดก มิน่าล่ะ มันวิ่งซะแทบเป็นแทบตาย แถกไถดีดดิ้นขนาดนั้น ที่แท้มัน มัน มัน โธ่โว้ย

"เร็วเด่ะ แฟน" หน้าตากวน ๆ พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นมันอะไรวะ แม่งอีกแล้ว ต้องไปดมกลิ่นเหงื่อเน่า ๆ ของมันอีกแล้ว ใครก็ได้ช่วยกูด้วยเถอะ



ทานตะวัน ลากแขนให้คนใช้เดินตาม แม้อ้อนจะส่ายหน้า และทำหน้าเหมือนกับจะตายซะให้ได้ อีกฝ่าย ก็ไม่สนใจ ลากให้วิ่งตามมา แล้วหันซ้ายหันขวา มองหาทางสะดวก แล้วทานตะวันก็เอียงแก้มที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ทำแก้มป่อง แล้วชี้ไปที่แก้มของตัวเอง ให้อ้อนจรดปลายจมูกลงมา



"เร็ว" สั่งอีกแล้ว โธ่โว้ย ห่าอะไรกันวะเนี่ย



อ้อนทำหน้าเบื่อโลก คิ้วขมวดมุ่น ตั้งท่าจะจรดปลายจมูกลงไป แต่นัยน์ตาวิบวับเหมือนเด็กได้ของเล่นนั่นกลับทำให้เอะใจ

ไม่ทันที่จะได้ตั้งตัว คนที่ทั้งตัวเละเทะมีแต่กลิ่นเหงื่อ ก็กดหน้าของอ้อนให้ซุกลงที่แผ่นอก แม้อีกฝ่ายจะดิ้นรนขัดขืน ก็ไม่สนใจ แถมซ้ำยังหัวเราะชอบใจอีกต่างหาก



"ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นไง กำลังเหม็นได้ที่เลย ฮ่า ฮ่า สะใจเว้ย"

กว่าจะสะบัดหลุดออกมาได้ ก็เล่นเอาอ้อนหายใจแทบไม่ออก ได้แต่กระฟัดกระเฟียดด้วยความโมโห ส่วนไอ้หนุ่มโรคจิต เดินหัวเราะร่ามีความสุข ไปที่ห้องอาบน้ำแล้ว ทิ้งให้อ้อนยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว



"ไอ้ทาน มึง ไอ้ ไอ้ กูไม่รู้จะว่ายังไงกับมึงดีแล้ว" ยืนบ่นทำหน้าเบื่อโลกหงุดหงิดโมโหที่สุด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่ออีกฝ่ายตะโกนเรียกให้เดินตาม



"เสื้อผ้ากูอยู่ในกระเป๋า เร็วสิวะ กูจะอาบน้ำ มายืนหน้าห้องน้ำนี่เร็ว"

นั่นไง มันสั่ง

กล้องตัวละเป็นแสน จำไว้ กล้องตัวละเป็นแสน โธ่โว้ย ไม่อยากทนแล้วโว้ย

ปากบอกไม่ทน หงุดหงิดโมโห แต่ก็เดินลากขามาหยุดยืนหน้าห้องน้ำที่เป็นไม้ประตูครึ่งซีกเรียบร้อย

เสื้อผ้าของทานตะวันถูกแขวนไว้ที่บานประตูไม้ โผล่แค่ช่วงไหล่ขึ้นไป

และเผยให้เห็นช่วงขา ส่วนตรงกลางลำตัวมีประตูบานไม้ปิดเอาไว้

ทานตะวันยืนร้องเพลงอาบน้ำอย่างแสนอารมณ์ดี หัวหูเละเทะไปหมด

ไม่สนใจมองคนที่กำลังค้นหาผ้าขนหนูและเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน

แถมยังร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีอีกต่างหาก

"กล้องมันแพง แพ้ง แพง แพง คนใช้เอ๋ย กล้องมันแพง มากมาย มากมาย"

นั่นไง เพลงดี ๆ มันคงไม่ร้อง แต่เพลงเหี้ย ๆ มันร้อง

อ้อนชะงักมือด้วยความโมโห หันไปมองคนที่ยืนร้องเพลงอาบน้ำ

แล้วทำตาขวางใส่


 


ส่วนทานตะวัน กำลังยืนยักคิ้วให้ พร้อมกับชูนิ้วกลางส่งให้เป็นของขวัญ

มากเกินไปแล้ว ไอ้ทาน มึงมากเกินไปแล้ว แม่งเอ้ย

"แฟนจ๋า ทานมาแล้วจ๊ะ มาอาบน้ำให้ทานหน่อยสิจ๊ะนะจ๊ะแฟนจ๋า"

นี่มันจะให้กูบริการมันไปถึงไหนวะเนี่ย

"เฮ้ย เป๋ เร็วดิ นั่งเป็นอนุสาวรีย์อยู่นั่น เร็ว"

ไม่เอาอ่ะ ไม่ได้ยินเว้ย อ้อนแกล้งทำเป็นหูทวนลม ทำเป็นไม่ได้ยินแต่สุดท้ายประตูก็เปิดออกพร้อมกับที่ ทานตะวัน เดินมาลากแขนให้อ้อนลุกขึ้นยืนและลากพาเข้าไปเบียดกันในห้องอาบน้ำแคบ ๆ นั่นจนได้

"ไม่อาบ กูอาบให้เอง ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

แชมพูถูกเทลงที่ฝ่ามือ และขยี้ไปที่เส้นผม ของคนที่ยังไม่ถอดเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว



"สระหัวเว้ย กูสระผมให้ ฮ่า ฮ่า เอ้าคนอุตส่าห์ใจดี ไม่มีขอบคุณจะไปไหนมานี่เลย กูจะสระผมให้"



อ้อนพยายามปัดมือของอีกฝ่ายออก แล้วร้องเอะอะโวยวายเพราะสำลักน้ำแต่ทานไม่มีทีท่าจะยอมปล่อยเลย ยิ่งละเลงแชมพูใส่เข้าไปที่เส้นผมให้อย่างสนุกสนาน แถมซ้ำตอนนี้เสื้อผ้าทั้งชุดเปียกโชกไปด้วยน้ำแล้ว

"ไอ้ทาน แค่ก แค่ก เหี้ยเอ้ย ทำอะไรวะ" ยิ่งปัดมือยิ่งดิ้น ยิ่งถูกกันไม่ให้ออก อ้อนแหกปากโวยวาย แต่สุดท้าย เมื่อหายสำลักน้ำ ก็ต้องยืนนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น ใช้มือลูบหน้าของตัวเอง ให้ฟองแชมพูไม่เข้าตา



คราวนี้ทานตะวันเลยหมดสนุก

"อะไรวะ ออกไปเลยไป แม่ง เสียอารมณ์" ไหล่ถูกผลัก พร้อมกับที่ประตูเปิดออก โดยมีมือของทานตะวัน ยันให้อีกฝ่ายออกไปนอกห้องอาบน้ำ



ทั้งที่หัวและผมของอ้อนยังมีฟองแชมพูติดอยู่ ยิ่งเสื้อผ้ายิ่งเปียกโชกไปทั้งตัว ออกมายืนข้างนอกได้ก็นับว่าบุญแล้ว



คนที่หงุดหงิดโมโหกลับกลายเป็นคนที่ยืนอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ เตะประตูห้องน้ำ แล้วก็สะบัดผมไล่น้ำอีกสองสามที ก่อนจะเดินลิ่ว ๆ ออกมาคว้าผ้าขนหนูไปสวม แล้วลงมือเช็ดผม แต่งตัว ไม่มองคนที่ยืนตัวเปียกหัวลู่อยู่ห่างออกไป

"เร็วสิ ห้องน้ำว่างแล้ว มึงจะยืนหาห่าอะไรวะ หงุดหงิดโว้ยยยยยยยยย"

เตะเก้าอี้เรียบแล้ว แล้วก็ลากคนที่ยืนงง ตัวเปียกเข้าไปในห้องอาบน้ำ ส่วนตัวเอง ก็เดินออกมาแต่งตัว

"เร็ว ๆ นะ กูหิว กูเมื่อย กูเหนื่อย กูจะไปกินข้าวบ้านมึง" สั่ง สั่ง สั่ง

อ้อนหันไปมองอีกฝ่ายอีกครั้ง แล้วลงมือถอดเสื้อผ้าแขวนเอาไว้ที่บานประตู



"เฮ่อ กูจะตายก่อนใช้หนี้มันหมดมั้ยวะเนี่ย" บ่นกับตัวเองแล้วถึงค่อยลงมือเปิดฝักบัว เตรียมอาบน้ำด้วยความเซ็ง

ก่อนจะปรายตาไปมองคนที่กำลังแต่งตัวแต่ทำหน้ายุ่งเหยิง

มึงคิดอะไรของมึงอยู่กันแน่วะไอ้ทาน มึงคิดอะไรของมึง



TBC...
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 24-04-2007 20:51:57
 วิ่งไปแหกปากไป ช่างเป็นอะไรที่น่ามองซะเหลือเกิน
หุหุ บรรยายซะ ฮากรั่ก ๆ  :laugh5:  :laugh5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 24-04-2007 20:54:12
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 24-04-2007 23:03:49
 :pigangry2: :pigangry2:  ทีของทาน อ้อนไม่ว่า   :pigangry2: :pigangry2:

ว่าแล้วก็รอทีของอ้อน :fox2: :fox2:  เอาให้เหลือเฟือเลยนะครับ :kikkik: :kikkik:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 24-04-2007 23:40:06
ทำไมเรื่องราวมัน โหดร้ายแบบนี้อ่ะ คนแบบนี้ขออย่าได้เจอเลยยยยยย

เท่าที่เจอมาก้อรับไม่ได้จะแย่อยู่แล้ว  :เฮ้อ: นึกถึงแล้วเครียดวุ้ย :เศร้า2:

รออ่านนะงับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 26-04-2007 00:02:18
เจอมาแบบไหนหรือ เล่าให้ฟังบางดิเอ
*****************************************

เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ตะกอนในใจ

"กลับมาแล้วแม่" อ้อนเดินหูลู่ผมเปียกเสื้อผ้าที่ใส่ตัวหลวมโครก จนต้องพับแขนและขากางเกงเอาไว้ นี่คงเป็นความเมตตาของทานตะวัน
ที่โยนเสื้อชุดนักศึกษาให้ใส่กลับบ้านได้ ส่วนเสื้อผ้าของตัวเองอยู่ในถุงพลาสติกใสที่หาได้ตามมีตามเกิด
แล้วก็เดินลากขาขึ้นบันไดบ้านไป โดยมีสายตาของแม่มองตาม แล้วก็ส่ายหน้า เพราะความไร้มนุษย์สัมพันธ์ของลูกชาย
ไม่รู้ว่าวันนี้ไปทำอะไรมาอีกถึงได้เละเทะกลับมา แต่ก็ทำได้แค่ถามว่ากินข้าวมาหรือยัง หรือว่าทำไมวันนี้กลับเร็ว

เพราะถ้าถามมากกว่านั้น อ้อนจะโมโหใส่แม่ แล้วเดินปึงปังปิดประตูโครมคราม ไม่ยอมพูดอะไรอีกเลย เงียบไปบางทีนานเป็นวัน เป็นสัปดาห์
อยากจะถามว่าลูกเป็นอะไร แต่ก็ได้คำตอบเหมือนเดิมว่า

"เปล่า ไม่ได้เป็นอะไรเลยอย่ามายุ่งกับผมได้มั้ย"

ตั้งแต่อุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อน อ้อนที่เป็นเด็กน่ารัก สมชื่ออ้อน ก็เปลี่ยนไป ไม่พูดไม่คุย ไม่อยากยุ่งกับใครอีก แม้กระทั่งแม่ก็ไม่ยอมพูดด้วย
ส่วนคนเป็นแม่ได้แต่ถอนใจ แล้วก็นั่งคำนวณเงินสำหรับนำไปใช้หนี้สินค่าซ่อมรถที่อ้อนยืมเพื่อนไปขับ ซ่อมไปเกือบสี่แสน สองปีผ่านไป
ยังผ่อนใช้หนี้ไม่หมด แถมซ้ำกระดูกหัวเข่าของอ้อนก็แตก ต้องผ่าตัดซ้ำแล้วซ้ำอีก ใส่เหล็กดามเอาไว้ และวิ่งไม่ได้อีกเลย
สงสารลูก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะอ้อนไม่เคยพูดคุยอะไรอีกเลย นับตั้งแต่อุบัติเหตุคราวนั้น
คนเป็นแม่ส่ายหน้าแล้วยกมือกุมศีรษะ คิดไม่ตกว่าเมื่อไหร่จะหาเงินมาจ่ายค่าซ่อมรถได้หมดสักที

ส่วนตัวของอ้อนเมื่อเดินขึ้นห้องได้ ก็หยุดยืนมองที่หน้ากระจกนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น ก่อนจะทิ้งกายลงนั่งลงบนเตียง แล้วดึงขากางเกงขึ้น
ก้มมองที่รอยแผลยาว แล้วลองใช้นิ้วคลึงบริเวณที่เจ็บ จนต้องนิ่วหน้า
บอกแม่ไม่ได้หรอกว่า เริ่มเจ็บกระดูกที่หัวเข่าอีกแล้ว ไม่อยากผ่าตัดอีก
แม่จะไปเอาเงินที่ไหนมามากมาย แถมตัวเองยังไปทำภาระเพิ่มให้แม่อีก ถ้าแม่รู้ว่าไปติดหนี้ค่ากล้องตัวละเป็นแสนของไอ้ทานอีก
แม่จะทำยังไง หางานทำ ที่ไหนเขาก็ไม่รับ พอเห็นเดินขาลาก เขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะติดต่อมาอีกที
สุดท้าย ก็เป็นได้แค่ไอ้ตัวถ่วง แถมยังทำให้แม่ลำบากซ้ำ ๆ ซาก ๆ อีก

"เฮ่อ ทำไมไม่ตายห่าไปซะวะ จะอยู่ทำไมวะ อยู่เป็นภาระชาวบ้าน" อ้อนทิ้งกายลงนอนบนเตียง แล้วก็มองเพดานนิ่ง ๆ หลับตาลงอย่างช้า ๆ
แล้วก็หรี่ตาขึ้น สมองครุ่นคิดถึงเรื่องของคนที่เหนือกว่า
อิจฉาไอ้ทาน อิจฉาร่างกาย อิจฉาตัวตนของมัน อิจฉาความรวยของมัน อิจฉา อิจฉา อิจฉาทุกสิ่งทุกอย่างที่รวมเป็นมัน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่เคยมี แล้วก็ไม่เคยได้ สุดท้ายยิ้มเหยียดหยามตัวเองที่ไม่มีแม้แต่ขาที่จะวิ่งได้เหมือนใคร ๆ

แล้วก็จำใจต้องข่มตาให้หลับลงอย่างช้า ๆ

แม่ แม่อย่ารู้เลยว่าผมเป็นอะไร แค่นี้ผมก็เป็นภาระให้แม่จะแย่อยู่แล้ว ผมมันเป็นลูกที่แย่ หาเรื่องมาให้แม่ทุกวัน ทำให้แม่มีความทุกข์
ผมทุเรศตัวเองเต็มทีแล้วแม่ ไม่มีอะไรที่ผมทำได้เลย ไม่มีเลยสักอย่าง

อ้อนยกแขนขึ้นก่ายหน้าผาก แล้วเลื่อนแขนลงมาปิดตา ก่อนจะปล่อยให้หยดน้ำหลั่งรินจากหน่วยตาหยดลงที่ข้างแก้ม แต่ไม่มีเสียงสะอื้นไห้เลยแม้แต่นิดเดียว
เจ็บที่ขา ปวดที่ใจ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ไอ้เฮงซวยนั่นจะออกฤทธิ์ออกเดชอะไรอีก ไม่อยากให้แม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แค่นี้ก็สร้างปัญหาพออยู่แล้ว
ไม่อยากให้แม่รู้เลยจริง ๆ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 


ทานตะวันกดรีโมทโทรทัศน์ กดเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แล้วนั่งชันขาใช้คางเกยหัวเข่าเอาไว้ ตามองที่หน้าจอไม่กระพริบ
เปิดโทรทัศน์เอาไว้ และปิดไฟหมดทั้งบ้าน นั่งดูหนังสยองขวัญคนเดียว เสียงกรีดร้อง ไม่ได้ทำให้รู้สึกตื่นเต้น แต่ทำให้ง่วงงุนมากขึ้นเล็กน้อย
เพราะความเบื่อหน่าย จนต้องล้มตัวลงนอน และดึงหมอนข้างมากอดเอาไว้ ดวงตายังจับจ้องมองที่หน้าจอโทรทัศน์

ทั้งที่ตามองอยู่ที่ภาพเคลื่อนไหวตรงหน้า แต่ความคิดกลับหลุดลอยไปไกลแสนไกล

คิดไปถึงการแข่งในไม่กี่วันข้างหน้า คิดไปถึงวินาทีที่ตัวเองจะได้รับถ้วยรางวัล คิดไปถึงวินาทีที่ทำประตูได้ แล้วก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
ต้องซ้อม ซ้อมเยอะ ๆ ซ้อมมาก ๆ ถ้าได้ถ้วยรางวัลแล้วจะบอกพ่อ พ่อต้องบอกว่าเก่ง หรือไม่ก็บอกแม่ แม่คงจะบอกว่า ทานตะวันเป็นที่หนึ่งแน่ ๆ
คิดไปถึงพ่อแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะยกแขนของตัวเองขึ้นจ้องมอง รอยยังอยู่เลยรอยบุหรี่ที่ถูกจี้ที่แขน บางทีเห็นรอยนี้แล้ว ก็เกลียดพ่อ พ่อที่ตบตีอาละวาด
พ่อที่โหดร้าย พ่อที่ต้องการอยากให้เป็นที่หนึ่งมากกว่าใคร ๆ เกลียด เกลียด เกลียด จนอยากจะฆ่าให้ตาย เกลียดที่สุด
แต่ก็รัก อยากให้พ่อบอกว่า เก่ง อยากให้พ่อชม อยากให้พ่อดีใจ อยากให้พ่อทำหน้าดีใจเวลาที่บอกว่าได้เป็นที่หนึ่ง

พ่อกับแม่แยกทางกันแล้ว พ่อได้เป็นนักธุรกิจเพราะการเพาะกล้วยไม้ขาย พ่อเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ พ่อแต่งงานใหม่ไปแล้ว
ส่วนแม่ ก็แต่งงานไปกับผู้ชายที่อายุอ่อนกว่า ไม่ได้เจอกันอีก นาน ๆ จะได้เจอกันที แต่ไม่ว่ายังไง ก็อยากให้มีคนชมว่าเก่ง อยากให้มีใครชื่นชม

ทานตะวันนอนอมยิ้ม เมื่อนึกถึงวันที่ตัวเองจะทำให้พ่อกับแม่ดีใจ แล้วรอยยิ้มก็เปลี่ยนเป็นความหม่นหมอง เมื่อมองไปรอบ ๆ ตัวแล้วพบกับความมืด
บ้านหลังใหญ่ แต่อยู่คนเดียว ทำไมมันถึงได้เหงาอย่างนี้ มืดไปหมด มองไปทางไหนก็มีแต่ความมืด มีแต่ความมืดกับความเงียบงัน

ร่างที่นอนอยู่บนเตียงผุดลุกขึ้นนั่ง แล้วเดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง เหมือนไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเองดี ก่อนจะลงไปวิดพื้น วิดพื้นเป็นร้อย ๆ ครั้ง
ให้มันเหนื่อย ให้ร่างกายมันล้า ให้ร่างกายอ่อนเพลีย จะได้หลับ
ต้องออกกำลังกายเยอะๆ จะได้หลับ จะได้ไม่ต้องนึกถึงอะไรอีก ใช่แล้ว ใช่แล้ว
แต่ก็เพียงเท่านั้น เมื่อร่างกายหยุดนิ่งและนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นไม้ปาเก้เย็น ๆ

เหนื่อย ร่างกายมันล้า แต่ไม่ยอมหลับ จะทำยังไงดี จะทำยังไง

ใครคนหนึ่งที่ดูเหมือนคนบ้าบอในสายตาใคร ๆ ปล่อยให้น้ำตารินไหลลงอย่างช้า ๆ และขดตัวกอดร่างกายของตัวเองเอาไว้แน่น
หนาว พื้นมันเย็น บ้านก็มืด แถมยังเงียบอีก จะทำยังไงดี จะทำยังไงถึงจะข่มตาให้หลับลงได้สักที

แม่อยากกอดแม่ พ่ออยากให้พ่อชื่นชม แต่ทำไมไม่เห็นมีใครเลย ทำไมต้องอยู่คนเดียวด้วย ทำไม ทำไม ทำไม

จะทำยังไง ถึงจะหลับได้ในคืนนี้

จะต้องทำยังไง ถึงหลับตาลงได้สักที

จะต้องทำยังไง แม่ถึงจะรัก จะทำยังไงพ่อถึงจะสนใจ จะทำยังไง

จะต้องทำยังไงต่อไปดี

TBC.....
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 26-04-2007 00:18:22
ทานน่าสงสาร :monkeysad:

มามะเดี๋ยวเราจะปลอบทานเอง :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 26-04-2007 17:18:30
สงสารอ้อน

สงสารทาน

เก็บกดด้วยกันทั้งสอง

 :เฮ้อ: แล้วจะเป็นยังงัยต่อหวา
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-04-2007 19:24:54
ในความโหดร้าย ยังมีความเหงาซ่อนอยู่แฮะ  :impress3:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 26-04-2007 21:19:44
เพราะเรากัดกัน(ผูกพัน) ตอน หลับตา

"กับข้าวที่คุณแม่ทำอร่อยมากเลยครับ เนี่ยผมไม่เคยกินข้าวที่ไหนอร่อยขนาดนี้มาก่อนเลยนะครับ" ทานตะวันตักนั่นตักนี่ใส่จานข้าว แล้วก็กินข้าวอย่างมีความสุข เอ่ยชมอาหารที่แม่ของอ้อนทำไม่ขาดปาก ทำหน้ามีความสุข แล้วก็พูดคุยกับแม่ของอ้อน อย่างสนิทสนม ส่วนอ้อนได้แต่นั่งเงียบ ๆ แล้วก็กินข้าวไปเรื่อย ๆ



ตอแหลชะมัด คุณแม่ครับ คุณแม่ครับ ผมอย่างนั้นผมอย่างนี้ ไอ้ตอแหล เกิดมาไม่เคยเห็นใครตอแหลเท่ามันเลย

ทำเป็นพูดดี แม่กระผมครับไม่ใช่แม่ของท่าน อย่ามาทำเป็นพูดดีไปหน่อยเลย แม่ ถ้าแม่รู้ว่าไอ้ทานมันเลวแค่ไหนแม่จะไม่มีทางอยากคุยกับมันเด็ดขาด แต่ตอนนี้ขอแค่มันไม่พูดเรื่องกล้องออกมาก็พอ มันจะทำอะไรก็เรื่องของมันผมไม่สนหรอก ขอแค่อย่าให้มันหลุดพูดอะไรที่ทำให้แม่ต้องลำบากใจแค่นั้น ผมขอแค่นั้นเอง



"อ๋อ อยู่ที่มหาลัยเหรอครับ ก็เป็นเพื่อนกันครับ สนิทกันดีครับ เนี่ยจนเพื่อน ๆ พากันเข้าใจผิดว่าผมกับอ้อนเป็นแฟนกันไปเลยล่ะครับ จริง ๆ นะครับคุณแม่"



มันยังไม่หยุดตอแหล รักกันงั้นเหรอ รักกันจนมึงเตะกูเล่นเช้าเย็น ตะคอกใส่ทุกทีที่ไม่พอใจสินะ เนี่ยเหรอเพื่อนรักกันมาก พูดออกมาได้ไม่อายปากเลยนะ คนอย่างมึงนี่มัน ทุเรศจริง ๆ



ช้อนถูกรวบเข้าด้วยกัน พร้อมกับที่อ้อนยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเป็นสัญญาณให้รู้ว่าไม่อยากกินข้าวร่วมโต๊ะกับทานตะวันอีกแล้ว แต่แล้วก็จับช้อนแล้วก็ตักกับข้าวกินอีกอย่างจำใจ เพราะรับรู้ได้ถึงแรงกระแทกที่ขา ที่ทานตะวันเตะเข้าให้ที่หน้าแข้ง พร้อมกับที่คนตัวโตถลึงตาใส่ ให้รู้ว่า ห้ามไปเด็ดขาด เท่านั้น อ้อนก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวอีก ทั้งที่ไม่อยากอยู่ตรงนั้นแล้วแท้ ๆ ส่วนทานตะวัน ก็เอาแต่พูดคุยกับแม่ของอ้อน แล้วก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

อ้อนได้แต่นั่งมองตาปริบ ๆ แล้วเม้มปากแน่น ด้วยความไม่พอใจ

แม่กูนะ นั่นแม่กู มึงทำเหมือนกับว่า จะแย่งแม่กูไปงั้นแหละ ไอ้สารเลว กูเกลียดมึง ให้ตายเถอะ กูเกลียดมึงจริง ๆ มึงมันตอแหล แถมยังเลวชนิดที่ชาตินี้กูไม่เคยเห็นใครทุเรศเหมือนมึงเลยจริง ๆ

อ้อนนิ่งคิด ส่วนทานตะวันเหลือบสายตามองร่างของคนที่นั่งนิ่งเงียบ แล้วก็หรุบสายตาลงก้มมองที่จานข้าวของตัวเองเล็กน้อย



แม่ของไอ้เป๋ ใจดีจังเลยนะ ถ้ามีแม่แล้วแม่ใส่ใจแบบนี้ จะดีแค่ไหนนะ อิจฉามัน อิจฉาที่มันมีสิ่งที่อยากได้

ไม่อยากได้เงินทอง แต่อยากได้ความรัก อยากให้มีคนเห็นว่ามีตัวตนอยู่ อิจฉาที่ไอ้เป๋มันมีสิ่งที่อยากได้

อิจฉามัน แล้วก็พาลไม่ชอบหน้าของมันไปด้วย ดีแล้วแหละ ดีแล้วที่เป็นแบบนี้ คอยดูนะ กูจะแกล้งมึงเอาให้มึงทนไม่ได้เลย กูอิจฉามึง กูเกลียดมึง มึงมีสิ่งที่กูอยากได้ ไอ้อ้อน คอยดูเถอะ มึงอย่าหวังจะมีความสุขเลย

กูเกลียดที่มึงมีคนรักมึงมาก ๆ กูเกลียดที่มึงมีคนมาใส่ใจ เกลียด เกลียด เกลียด คอยดูเถอะ กูจะแกล้งมึงให้มึงเป็นบ้าตายไปเลยยิ่งดี สมน้ำหน้า สมน้ำหน้าจริง ๆ

ทานตะวันนิ่งคิด แล้วอมยิ้มเล็กน้อย อย่างมีความสุข ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและพูดคุยกับแม่ของอ้อนอย่างมีความสุขส่วนอ้อนได้แต่ตักกับข้าวใส่จาน แล้วก็กินข้าวอย่างเงียบ ๆ เหลือบตาขึ้นมองไอ้คนตอแหล แล้วก็ก้มกลับลงมาอีก

ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ไม่อยากเย็นชา ไม่อยากนิ่งเฉยกับแม่ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงถึงจะกลับเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้

ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงจริง ๆ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++





 



"ไอ้เป๋....พรุ่งนี้กูก็จะมากินข้าวกับแม่มึงอีกนะ วันถัดไปด้วย วันถัดไป ถัดไป ถัดไปก็จะมา" ทานตะวันนอนอมยิ้มแล้วก็กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงนอนของอ้อน ส่วนเจ้าของเตียง ลงไปนั่งชันเข่าอยู่บนพื้น แล้วดึงหมอนมากอดเอาไว้นัยน์ตาหม่นหมอง หรุบต่ำลง ไม่ได้พูดอะไรเลยสักนิด นิ่งฟังเงียบ ๆ ให้คนยึดเตียงพล่ามพูดอยู่คนเดียว

"ทำไมเงียบ มึงไม่ฟังกูหรือไง" ทานตะวันลุกพรวดพราดขึ้น แล้วยื่นขาไปเตะที่แขนของคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงด้วยความหงุดหงิดโมโห

"แล้วจะให้พูดอะไร" เป็นคำถามที่ทำให้ความอดทนของคนบ้า ๆ บอ ๆ อย่างทานตะวันถึงจุดสิ้นสุด ร่างนั้นลุกขึ้นแล้วลงมานั่งอยู่ตรงหน้าของอ้อนที่นิ่งเงียบและแสดงท่าทางให้เห็นว่าไม่พอใจ นั่นยิ่งทำให้ทานตะวันหงุดหงิดโมโหมากขึ้น สองมือแกร่งเกาะกุมที่ต้นแขนของอีกฝ่ายแล้วออกแรงบีบอย่างแรง ก่อนจะเขย่า จนร่างตรงหน้าสั่นสะท้านหัวสั่นหัวคลอนไปมา จนต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะทำให้อีกฝ่ายหายโกรธเลยสักนิดเดียว

"อย่ามาพูดอย่างนี้กับกูนะไอ้เป๋ มึงก็รู้ว่าตอนนี้มึงเป็นใคร ถ้ามึงไม่อยากให้กูวิ่งลงไปบอกแม่มึงตอนนี้ หัดพูดจาให้เข้าหูกูหน่อย ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน"

เพียงเท่านั้นแล้วคนที่ทำให้อ้อนต้องเจ็บก็ลุกขึ้นยืนแล้วไปทิ้งกายลงนอนบนเตียงกระดิกขาเล่น ทั้งที่ยังรู้สึกว่าความหงุดหงิดยังคุกรุ่นอยู่ ดวงตาสีดำสนิทหันไปมองคนที่นั่งอยู่ห่างออกไปอีกครั้ง เห็นว่าฝ่ายนั้นถลกแขนเสื้อขึ้นจ้องมองรอยแดงช้ำที่ต้นแขน แล้วก็นิ่วหน้าด้วยความเจ็บ นั่นยิ่งทำให้คนที่นอนยิ้มอยู่บนเตียงมีความสุข

เจ็บไปสิ ก็เจ็บไปสิ เห็นมึงเจ็บมาก ๆ ยิ่งดี อยากพูดไม่เข้าหูทำไมล่ะ ถ้ายังกล้าพูดแบบนี้ด้วยอีก เดี๋ยวจะทำให้ยิ่งเจ็บมากกว่านี้อีก คอยดูก็แล้วกัน

"มานวดขากูนี่ เร็ว ๆ กูง่วง ปิดไฟด้วยไอ้เป๋ พรุ่งนี้กูจะตื่นตั้งแต่เช้ากูจะไปซ้อมเช้า ปลุกกูด้วย ถ้ากูไปสายมึงโดนดีแน่" พูดได้เพียงเท่านั้น ทานตะวันก็ยื่นขาให้อ้อนนวด ส่วนตัวเองนอนร้องเพลงหงุงหงิง หงุงหงิงมีความสุขอยู่คนเดียว

อ้อนลุกขึ้นแล้วเดินลากขาไปปิดไฟก่อนจะลงมานั่งอยู่ข้างเตียง จัดการออกแรงกดมือไปที่ขาของคนที่ยึดเตียงของตัวเองไปแล้ว ด้วยความไม่พอใจ แต่จะทำอะไรได้ ก็ทำได้แค่ต้องตามใจไอ้เลวนี่เท่านั้น ถ้าไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ ก็ต้องทำ สาธุชาติหน้าฉันท์ใด อย่าให้ผมต้องเจอกับไอ้ห่านี่อีกเลย แค่ชาตินี้ชาติเดียวก็เกินจะพอแล้ว อย่าไอ้ให้ผมต้องเจอะเจอกับมันอีกเลย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 


"เจ็บ โอ้ย ไม่เอาปล่อยผม เจ็บ กลัวแล้ว ฮึก ฮือ" เสียงเอะอะโวยวาย พร้อมกับร่างที่นอนอยู่บนเตียงกระสับกระส่ายไปมา แถมยังร้องโวยวายอย่างเจ็บปวด ทำให้อ้อนสะดุ้งตื่นในกลางดึก ก่อนจะผุดกายลุกขึ้นนั่งหรี่ตาขึ้นมองในความมืดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

"ไอ้ทาน ไอ้ทาน เป็นอะไรเฮ้ย เป็นอะไร" แม้จะพยายามเรียก และพยายามจะเขย่าแขนให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว แต่ก็ไม่มีประโยชน์เลย ทานตะวันนิ่งเงียบไปแล้ว และเพียงไม่นาน ก็ร้องโวยวายขึ้นอีกแต่คราวนี้มาพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้

"มาดูทานนะ มานะแม่ต้องมานะ ฮืก ฮือ อย่าทิ้งทานไปเลย มาหาทานนะแม่ แม่"

ประโยคที่พูดฟังไม่ได้ศัพท์แต่ก็พอจับใจความได้บ้าง อ้อนยืนขึ้นแล้วก้มหน้าลงไปดู ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฝ่ามือที่ไขว่คว้าหาทำให้ต้องเอื้อมมือเข้าไปเกาะกุมเอาไว้ แล้วฝ่ามือเย็นเฉียบของทานตะวันก็คว้าทั้งมือ คว้าทั้งร่างของอ้อนลงมากอดเอาไว้แน่น

"เฮ้ย ไอ้ทาน เฮ้ย เฮ้ย"

"แม่ ทานรักแม่นะ แม่อย่าทิ้งทานไปเลย แม่ แม่"

เสียงของทานตะวันขาดหายไปแล้ว แต่ร่างของอ้อนกลับเกยทับอยู่บนร่างของคนที่กอดรัดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

พยายามจะขืนตัวขึ้น แต่ก็ทำได้แค่เพียงการขยับกายเล็กน้อย เพราะว่าคนที่ยึดเตียงไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ

ร่างกายอุ่น ๆ แผ่นอกกว้าง เสียงสะอื้นในลำคอเบา ๆ ทำให้อ้อนไม่กล้าขยับกายกลัวจะทำให้อีกฝ่ายตื่นขึ้นมาอาละวาด เพราะทำให้ไม่ได้นอน

อ้อมแขนแข็งแกร่ง เสียงเต้นของหัวใจ ลมหายใจที่ค่อยปรับให้สม่ำเสมอ ใบหน้าที่ซุกซบลงมาที่เส้นผม

อันที่จริงถ้าจะขืนตัวออก มันก็คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่อ้อนเลือกที่จะนอนนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น พร้อมกับขมวดคิ้วมุ่นพยายามจ้องมองฝ่าความมืดเพื่อจะมองใบหน้าของอีกฝ่ายให้ชัด ๆ

แล้วก็ได้เห็น

หยดน้ำใส ๆ ที่สะท้อนกับแสงจันทร์ ยังคงหลงเหลืออยู่ที่ข้างแก้มของคนที่หลับสนิทไปแล้ว

ฝ่ามือเรียวเอื้อมแตะที่หยดน้ำแล้วก็รับรู้ได้ว่ามันคือน้ำตา

เรียวคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของทานตะวันให้ชัด ๆ อีกครั้ง แล้วก้มกลับลงมาซุกซบที่แผ่นอกกว้าง ก่อนจะลองเอื้อมแขนกอดรัดไปรอบเอวของอีกฝ่ายเอาไว้

เตียงมันแคบ นอนไม่ค่อยถนัด ถ้าไม่กอด ก็กลัวตก ถ้าแค่นี้ไม่เป็นไรมั้ง

อย่ามาโทษกูทีหลังแล้วกํน ก็มึงเป็นคนลากกูลงมานอนด้วยนี่หว่า ช่วยไม่ได้ แล้วอีกอย่างนี่มันก็เตียงกูด้วย

ไม่รู้ว่าตอนนั้นอ้อนคิดอะไรอยู่ อยู่ ๆ ก็รู้สึกว่าไม่อยากปล่อยให้ทานตะวันต้องนอนคนเดียวอีก ไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นมันเรียกว่าสงสารหรือเปล่า แต่จำได้ว่า ไม่ว่ายังไงก็ไปไม่ถึงคำว่าสงสาร คนอย่างทานตะวันไม่มีอะไรให้ต้องสงสารเลย เหนือกว่าทุกอย่าง ดีกว่าทุกอย่าง แล้วจะน่าสงสารไปได้ยังไงกัน

แล้วอีกอย่างนี่มันก็เตียงกูนะ มึงเองที่มายึด ถ้าไม่ติดว่าง่วง กูก็ว่าจะลงไปนอนที่พื้นต่อ แต่ตอนนี้ง่วงเต็มทน ขอหลับก่อนก็แล้วกัน

ยังไงกูก็ต้องปลุกมึงอยู่แล้ว เอาไว้ตอนตื่นค่อยมาเคลียร์กันอีกที ตอนนี้กูขอนอนหลับสบาย ๆ อุ่น ๆ ก่อนแล้วกันวะ

แม่ง ง่วงจริง อ้อนหลับตาลงแล้ว และไม่คิดจะสนใจคนที่กอดร่างของตัวเองเอาไว้อีก เรียวแขนยังโอบรัดร่างของทานตะวันเอาไว้แน่น นอนฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่ายที่เต้นอย่างสม่ำเสมอ แล้วก็หลับลงอย่างช้า ๆ อีกครั้ง

คืนนั้นทานตะวันฝัน ฝันว่าแม่มากล่อมนอนเหมือนตอนเด็ก ๆ แล้วก็กอดเอาไว้ มีแต่ความสุข ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้ามีแต่เสียงหัวเราะ มีแต่ความอบอุ่น จนต้องยิ้มออกมา ร่างที่นอนหลับสนิท กอดกระชับร่างในอ้อมแขนมากขึ้นแน่นขึ้น เหมือนอยากจะย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง อยากจะมีความสุขไปนาน ๆ และไม่อยากตื่นจากความฝันอีกเลย

TBC.....


 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 26-04-2007 22:28:22
 
:angry2:  ทำไมทานร้ายแบบนี้อ่ะ  คิดจะแย่งความรักจากอ้อนด้วยอ่ะ   :เฮ้อ:

 อ้อนสู้ๆ  รออ่านอยู่นะงับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 26-04-2007 22:37:40
เศร้าจัง... ไม่รู้จะสงสารใครดี อ้อน หรือทาน...
มาต่อเร็วๆ นะเรย์..
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 26-04-2007 23:01:15
ทานน่าสงสารง่ะ :monkeysad:

รออ่านนะครับ :เศร้า1:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: GoneOn ที่ 26-04-2007 23:19:37
พอตื่นมาจะเป็นงัยเนี่ย  ต่ออีกนิดไม่ได้เหรอเรย์

แบบว่า มันรู้สึกค้างๆคาๆ    :serius2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-04-2007 19:58:23
สงสารทาน สงสารอ้อน ทุกคนล้วนมีปัญหาของตนเอง
ขึ้นอยู่กับว่าจะยอมรับและจัดการกับปัญหานั้นอย่างไร  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เช้าวันใหม่ โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 27-04-2007 20:10:18
มาแว้วครับ โทษทีให้รออ่าน มีคนติดตามดีจายจังเยย
 :loveu:
*******************************************************************
เพราะเรากัดกัน(ผูกพัน) ตอน เช้าวันใหม่

แขนรู้สึกว่ามันกำลังชา ขยับไม่ได้ แล้วพอหรี่ตาขึ้นเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงยิ่งทำให้รับรู้มากยิ่งขึ้น ทานตะวันรู้สึกว่ามีอะไรทับอยู่บนร่าง เรียวแขนของใครสักคนที่โอบรัดที่รอบเอว ศีรษะของใครสักคนที่เอนซบอยู่บนต้นแขน

ใคร?

ใบหน้าคม ผมเผ้ายุ่งเหยิง หันไปมองคนที่มานอนซบอยู่ที่ไหล่ แล้วก็ถึงกับลมหายใจสะดุด

เฮ้ย...?!?

ไอ้เป๋นี่หว่า มาไงวะเนี่ย

นัยน์ตาคมเบิ่งตาขึ้นดูให้ชัด ๆ แล้วเมื่อขยับกายเตรียมจะลุกขึ้นนั่ง กลับได้ยินเสียงบ่นงึมงำจนต้องทิ้งกายลงนอนอีกครั้ง เมื่อเรียวแขนที่โอบรัดไม่ยอมปล่อย แถมยังกอดแน่นขึ้นอีก

“ขอนอนต่ออีกหน่อยไม่ได้หรือไง” อ้าว แล้วทำไมมึงต้องมานอนบนตัวกูด้วยวะ ไอ้เป๋

ถ้าเป็นปกติ ทานตะวันคงโวยวายโมโหแต่เช้า แต่ตอนนี้ยังไม่ตื่นเต็มตา ปฎิกิริยาตอบสนองแบบปกติก็เลยหยุดชะงักไปชั่วขณะ

ใบหน้าคมเหลือบตามองใบหน้ายามหลับของอีกฝ่ายอีกครั้ง ไม่ได้ตั้งใจจะมองให้มาก แต่ก็เผลอมองไปจนได้

สิ่งที่เห็นคือผิวแก้มเนียนใส แพรขนตายาวจนอยากจะเอานิ้วจิ้มเล่น และริมฝีปากสีสดน่าลิ้มลอง

เฮ้ย ไอ้เป๋......นี่มันผู้ชายแน่เหรอวะเนี่ย มองดี ๆ แบบนี้น่ารักใช้ได้นะเนี่ย
หรือว่าตอนนี้ยังเช้าอยู่ สติสตังเลยยังไม่ค่อยสมประกอบ หรือว่ายังไงกันวะ

ทานตะวันขมวดคิ้วมุ่น หันกลับไปนอนมองเพดานห้องอีกครั้ง แต่ในใจกลับครุ่นคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง จนต้องหันกลับมามองคนที่ซุกซบอยู่บนไหล่

ปลายนิ้วเกลี่ยไล้เส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่ปรกที่หน้าผากมนของคนที่ยังหลับใหล
และลองใช้ปลายนิ้วแตะไปที่ริมฝีปากของคนที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยสักนิด ลองแตะแล้วถึงได้รู้ว่ามันน่าสัมผัส จนต้องใช้นิ้วเกลี่ยเล่นจากหัวคิ้ว มาที่ปลายจมูกเล็ก ๆ ลงไปที่ข้างแก้ม และแตะซ้ำที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายเล่น แล้วก็เผลอยิ้มออกมา เพราะถูกใจกับสัมผัสที่ได้รับ

แก้มโคตรนิ่มเลยว่ะ เนียนด้วย เหมือนอะไรนะ เหมือน เหมือน .........

ยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรต่อ แพรขนตาที่ไหวยุกยิก ก็ทำให้ทานตะวันรีบชักมือกลับ แล้วแกล้งหลับตาลงนอนตัวแข็งทื่อในทันที

แล้ว กูทำแบบนี้ทำไมวะเนี่ย

อ้อนยกมือขยี้ตาของตัวเองซ้ำ ๆ เพื่อให้ตื่นเต็มตา นัยน์ตาเหลือบมองไปที่นาฬิกาที่ข้างฝา แล้วก็ขยับกายลุกขึ้นนั่ง

ดีนะเนี่ย ตื่นก่อน ไม่งั้น ไอ้เวรนี่แหกปากโวยวายหาว่าปลุกมันช้าแน่ ๆ ทั้งที่อยากจะตื่นแต่ร่างกายกลับต่อต้าน อยากนอนอีกนิด นิดเดียวจริง ๆ คงไม่เป็นไรน่า

อ้อนกำลังจะทิ้งกายลงนอนอีกครั้ง ฝ่ามือเอื้อมจับที่ข้อมือของอีกฝ่ายที่แผ่หลา ยกขึ้นเพื่อให้ไปวางอยู่บนตัวของทานตะวัน แล้วก็เบียดร่างขดตัว เตรียมจะดึงผ้าห่มคลุมร่าง แต่ทานตะวัน ก็ลุกพรวดพราดขึ้นนั่ง เหมือนไม่สามารถทนอยู่นิ่งเฉยได้อีก

“ร้อนโว้ยยยยยยยยยยย แม่งเอ้ย” เสียงแหกปากแต่เช้า ทำให้อ้อนได้รู้ว่าเวลาแห่งความสุขหมดลงแล้ว แถมซ้ำไอ้คนที่ยึดเตียง ยังเขย่าร่างของอ้อนไปมา ไม่ยอมให้หลับให้นอนได้อีก

“ลงไปเลยมึง เฮ้ย เฮ้ย ตื่นสิวะ”

เฮ่อ สวรรค์ล่มอีกแล้วกู ไอ้ทานนะไอ้ทาน มึงจะตื่นมาทำไมตอนนี้วะ อ้อนอยากจะตะโกนด่าอีกฝ่ายให้สาแก่ใจ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ทานตะวันกลับสอดมือเข้าไปที่แผ่นหลังบางของคนที่กำลังเตรียมจะลุกขึ้น แล้วยกร่างนั้นขึ้นทั้งตัว เขย่าที่ไหล่แรง ๆ จนอ้อนรู้สึกมันหัว แล้วก็ได้รู้ว่าเช้านี้ มันเป็นเช้าแห่งวันนรกแตกแท้ ๆ

“ตื่น ตื่น ตื่น ตื่นนนนนนนนนนน”

กูรู้แล้วโว้ย ไอ้เหี้ยเอ้ย จะตะโกนหาห่าอะไรวะ

ก่อนที่อ้อนจะโวยวาย ร่างกายก็หล่นลงบนพื้นซะแล้วเพราะแรงถีบจากคนบนเตียง หล่นลงมาแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะเยาะเย้ยสะใจของทานตะวัน

“โอ้ย เจ็บนะโว้ย เหี้ยเอ้ย ซวยแต่เช้าเลยแม่ง” อ้อนบ่นออกไปอย่างนั้นแล้วรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวเข่า

เจ็บอีกแล้ว ทำไมมันยิ่งเจ็บขึ้นเรื่อย ๆ นะ ยังไม่อยากผ่าตัดตอนนี้ ทำยังไงดี อ้อนขมวดคิ้วมุ่นมองที่ขาของตัวเอง แล้วค่อย ๆ ถลกขากางเกงขึ้นดู โดยเหลือบมองคนที่ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ ร้องเพลงมีความสุขแต่เช้า ทานตะวันไม่ทันมองแล้วก็ไม่คิดจะมองว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร แต่รู้สึกว่าเช้านี้สนุกสนานกว่าทุกวัน ได้แกล้งไอ้เป๋แต่เช้า สวรรค์จริง ๆ เลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า

คนตัวโตเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว ส่วนอ้อนพยายามลุกขึ้นยืน แต่ก็ลุกไม่ได้ พยายามลุกขึ้นอีกครั้งแต่ก็เจ็บจนต้องนั่งลงกับพื้น แล้วนวดคลึงที่หัวเข่าของตัวเอง กัดฟันแน่น แล้วพยายามลุกขึ้น และสุดท้ายก็ลุกขึ้นได้

เฮ่อ โล่งอก ไม่ค่อยเจ็บมาก แต่คงพอเดินไหว ไม่เป็นไรหรอกไอ้อ้อน ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย เดี๋ยวก็หาย น่ะ ของแค่นี้ เดี๋ยวก็หาย

ริมฝีปากขบกันแน่น แล้วก็ยิ้มออกมาได้ เมื่ออาการเจ็บแปลบทุเลาลง

นึกว่าจะแย่ ไม่เป็นไรแล้วนี่หว่า ตกใจไปได้ เฮ่อ เดี๋ยวก็ต้องแบกกระเป๋าไอ้ทานอีก แต่คงพอไหวมั้ง ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร

ปลอบใจตัวเองอย่างนั้นแต่อ้อนก็ยังรู้สึกเจ็บที่ขาอยู่ดี
เหลือบมองไปที่ห้องน้ำ แล้วก็ยกนิ้วกลางขึ้นส่งให้ลับหลัง คนกวนประสาท

“เหี้ยไอ้ทาน อย่าให้กูใช้หนี้หมดนะ น่าดูแน่มึง”

ถึงจะคิดก็เป็นได้แค่ความคิด เพราะทานตะวันไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย ส่วนอ้อนก็ได้แต่โมโหโวยวายอยู่เงียบ ๆ คนเดียว

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




มองมันชัด ๆ มันก็น่ารักนะไอ้เป๋เนี่ย

เฮ้ย......น่ารักตรงไหน ไม่มีอ่ะ อย่างนั้นเขาไม่เรียกน่ารักนะ คิดอะไรบ้า ๆ

แต่น่ารักจริง ๆ นะ เนื้อนิ่ม ผิวนุ่ม เอามานอนกอดเล่นได้สบาย

งั้นเหรอ.......ตัวหนักจะตายแถมยังมาทำให้เมื่อยแขนอีกต่างหาก

มองดี ๆ สิตาว้าน หวานด้วยนะ ยิ้มทีมีลักยิ้มที่แก้มสองข้างด้วย แต่นาน ๆ มันจะยิ้ม น่ารักจริง ๆ

พอเหอะไอ้ทาน คิดห่าอะไรแต่เช้าวะเพ้อเจ้อ แม่งกูนี่ท่าจะบ้า

ทานตะวันสะบัดหัวไล่ความคิดเพี้ยน ๆ แล้วก็ปลดเสื้อผ้า เตรียมอาบน้ำ เพื่อไปซ้อมในตอนเช้า วันนี้อารมณ์ดี เพราะฝันว่าเมื่อคืนอยู่กับแม่ แล้วแม่ก็กอด อุ่นมาก ๆ มีความสุขที่สุด

ทานตะวันอาบน้ำเรียบร้อยแล้วยืนอมยิ้มอยู่หน้ากระจก ลองยกมือขึ้นโอบร่างของตัวเองแล้วก็ยิ้มออกมา

เดี๋ยวถ้าได้ถ้วยชนะเลิศนะ แม่จะวิ่งเข้ามาแล้วก็กอด กอดเอาไว้ แล้วบอกว่าทานเก่งที่สุดเลยลูก

นั่นไงล่ะ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ๆ เลย แค่คิดก็มีความสุขแล้ว ต้องไปซ้อม ต้องรีบไปซ้อม
ยังไงแชมป์ปีนี้ ก็ไม่มีทางพลาดหรอก ชัวร์อยู่แล้ว ซ้อมขนาดนี้ ไม่ได้ถ้วยรางวัลก็ให้มันรู้ไป
ไปซ้อมดีกว่า เช้านี้มีความสุขจริงโว้ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ทานตะวัน มีแต่ความมุ่งมั่น รอบตัวมองไม่เห็นใคร นอกจากคำชมของพ่อแม่ที่ว่า

“ทานเก่ง ทานเยี่ยมที่สุด”
ถึงแม้มีคนมากมายมาสนใจ อยากเข้าหา แต่กลับถูกปฎิเสธด้วยคำพูดร้าย ๆ จนพากันต้องวิ่งหนี แม่ถามหลายครั้ง ว่ามีแฟนหรือเปล่า แต่ทานตะวันก็โกหกไปทุกครั้งว่ามี
ทั้งที่ในความเป็นจริง ชีวิตนี้ คนตัวโต บ้า ๆ บอ ๆ ไม่เคยสนใจที่จะมองใครเลย

ไม่เคยมีใครรู้ว่าคนอย่างทานตะวัน ไม่เคยหลงรักใคร และไร้เดียงสากับเรื่องความรักอย่างไม่น่าเชื่อ จนถึงตอนนี้ สิ่งเดียวที่ทำให้ทานตะวันคงอยู่ คือสายตาและความชื่นชมของพ่อแม่นั่นเอง

TBC….

 
โดย aoikyosuke



หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-04-2007 20:21:33
ทานตะวัน ก็แค่เด็กที่โหยหาความอบอุ่นคนหนึ่งเท่านั้น  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 27-04-2007 23:56:29
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:  รู้สึกไม่ชอบกันเพราะขาดในสิ่งที่อีกฝ่ายมีเนี่ยะ  เขาเรียกว่าไรดีคับ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 28-04-2007 12:56:07
ขอให้สองคนเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ซักวันหนึ่ง   :เศร้า1:

แอบกลัววันแข่งแฮะ เหมือนจะมีอะไร   รออ่านต่อจ้า  เรย์ เป็นกำลังใจให้นะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 28-04-2007 14:50:28
สงสารอ้อนอะ

ถ้าขาเป็นอะไรขึ้นมาอีก แล้วจะทำยังงัยดี

 :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) แผลที่ขา โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 29-04-2007 02:36:19
เกิดมาพึ่งเคยได้ยินนะ ว่าไม่ชอบกันเพราะว่าขาดสิ่งที่ตัวเองมี
พูดหรือคิดอะไรผิดหรือป่าว
 :pandalaugh:
***********************************

เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน แผลที่ขา

น้ำ เหมือนเดิม ผ้าขนหนูเหมือนเดิม แล้วก็แหกปากโวยวายเหมือนเดิม
แล้วไอ้ทานก็วิ่งเป็นบ้าอยู่กลางสนามแดดร้อนเปรี้ยง ๆ เหมือนเดิม

อ้อนยืนแบกทั้งกระเป๋า ทั้งขวดน้ำและผ้าขนหนู ของทานตะวันเหมือนทุก ๆ วัน แต่วันนี้มันแปลกกว่าทุกวัน
เพราะรู้สึกยิ่งขยับขามากขึ้นเท่าไหร่ ความเจ็บก็แล่นพล่านเร็วขึ้นเท่านั้น

ลองยืนนิ่ง ๆ แล้วเหมือนกับว่ากระดูกจะหลุดออกมาซะให้ได้ เจ็บจนต้องนิ่วหน้า เจ็บจนร้าว แต่ก็กัดฟันฝืนทน

ไอ้เหี้ยทาน เมื่อไหร่มึงจะซ้อม ๆ ให้มันเสร็จ เมื่อไหร่จะหมดวัน แล้วเมื่อไหร่กูจะได้พักสักทีวะ

อ้อนยืนกัดฟันแน่น แล้วก็ค่อย ๆ ย่อกายลงนั่งข้างสนามฟุตบอล เจ็บจนทนไม่ไหว จนต้องลงนั่ง ส่วนทานตะวันยังคงแหกปากโวยวายต่อไป จนเสียงนกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน ทานตะวันถึงวิ่งโร่หน้าตายิ้มแฉ่ง เหงื่อโทรมกายเข้ามาหา และเรียกขอน้ำ และผ้าขนหนู ก่อนจะลากให้อ้อนลุกขึ้นยืน และกระตุกแขนให้เดินตาม

แต่เพราะว่าเจ็บจนแทบไม่อยากยืนทำให้อ้อนฝืนกายเอาไว้ และค่อย ๆ ก้าวขาโขยกเขยกตามอย่างช้า ๆ นั่นยิ่งทำให้ทานตะวันหงุดหงิด

เป๋แล้วยังเสือกช้า ห่าอะไรวะเนี่ย

“เฮ้ย มึง เดินให้มันเร็ว ๆ หน่อยไม่ได้หรือไง กูอยากอาบน้ำจะแย่แล้ว เหี้ยช้าชิบหายเลยโว้ย” ถึงจะพูด ถึงจะด่าถึงจะตะคอกใส่ แต่อ้อนก็ทำได้แค่กดฟันแน่น แล้วพยายามเดินให้เร็วขึ้น

โอ้ยยยยยยยยย ทำไมมันเจ็บอย่างนี้วะ เจ็บจนแทบก้าวขาไม่ออกแล้ว

คนอื่น ๆ ทยอยกันเข้าไปอาบน้ำ ส่วนอ้อนสะบัดมือของทานตะวัน เพราะทนไม่ไหวอีกต่อไป สุดท้ายทิ้งกายลงนั่ง ไม่สนใจเสียงโวยวายของอีกฝ่าย ที่ตะโกนด่าอย่างไม่พอใจ

“กูรีบ ไม่ได้ยินหรือไงวะ ไอ้เหี้ยเอ้ย เร็วสิวะ” เรียกแล้ว แต่ไม่มีเสียงตอบรับ

อ้อนทิ้งกายลงนั่งข้างสนาม ไม่สนใจจะมองอะไรอีก เพราะความเจ็บปวดที่บริเวณหัวเข่า มันร้าวจนแทบไม่มีแรงลุกขึ้นยืน เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นที่หน้าผาก พร้อมกับที่ใบหน้าเนียนขาว ยิ่งซีดขาวเหมือนกระดาษ

“วันนี้ไม่แกล้งกูสักวันได้มั้ย ขอร้องล่ะ ขอร้อง” ไม่มีคำว่าอดทนหลงเหลืออีก เสียงที่เอ่ยบอกแทบเป็นเสียงกระซิบ ทานตะวันฟังคำพูดนั้นไม่ชัดจนต้องเดินย้อนกลับมาหา คนที่ทรุดนั่งกับพื้น แล้วเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ

“มึงพูดอะไรนะไอ้เป๋….กูรีบ มึงได้ยินมั้ยโว้ยยยยยยยยยยยยยย” คนที่ไม่เคยมองเห็นใครมีตัวตนตะโกนใส่หน้าของคนที่นั่งนิ่ง ๆ อยู่บนพื้นสนามแล้วเตรียมตัวจะเตะที่แขนของอ้อน เพราะความรำคาญ

สำออยจริงนะมึง สำออยจริง ๆ แม่ง

ถึงจะคิดมากเท่าไหร่ ถึงจะโมโห แต่อ้อนไม่มีกระใจพูดอะไรอีกต่อไปแล้ว เพราะความเจ็บปวดกำลังแล่นพล่านไปทั้งร่าง

“ทาน ขอร้องล่ะนะ วันเดียว อย่าแกล้งกูเลย” น้ำเสียงที่เบาหวิว ฝ่ามือแตะที่หัวเข่า แล้วก้มหน้านิ่ง ๆ มองที่ขาของตัวเอง มือกำแน่นเข้าหากัน แล้วจิกเล็บเข้าที่ฝ่ามือแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้คลายความเจ็บปวด ไม่เว้นแม้กระทั่งริมฝีปากที่ถูกขบเม้มจนขึ้นห้อเลือด ปฏิกิริยาและท่าทางของร่างตรงหน้าทำให้ทานตะวัน ต้องเอียงคอมองด้วยความไม่เข้าใจ

มันเป็นอะไรของมันวะ พูดอะไรไม่รู้เรื่อง เอามือกุมที่หัวเข่าตลอด แล้วมันเป็นเหี้ยอะไรของมัน

“ไหน กูดูหน่อยดิ หัวเข่ามึงเป็นอะไร” ฝ่ามือกำลังจะวางทาบอยู่ที่หัวเข่าของอ้อน แต่ร่างนั้นต้องรีบชักขาหนี เพราะคิดว่าทานตะวันคงหาเรื่องแกล้งอีกแน่ ๆ

“อย่า ไม่เอา ไม่เป็นไร ไม่ได้เป็นไร เดี๋ยวตามไปแล้วกันนะ ขอโทษ ขอโทษจริง ๆ” คำตอบที่ตอบกลับมายิ่งทำให้คนฟังไม่พอใจ เป็นเหี้ยอะไรวะ นึกว่ากูอยากจะดูหรือไงว่ามึงเป็นอะไร ไม่มีทางหรอก

แต่กูอยากเห็นเฉย ๆ ไม่ให้ดูกูก็จะดู ไหนดูซิมึงเป็นอะไร ถึงสำออยนัก ไหน ไหน ขอดูหน่อย

กลายเป็นเรื่องสนุกของทานตะวันที่จะได้เห็นอะไรอย่างที่ใจต้องการ

ยิ่งอ้อนพยายามหนีหรือหลีกเลี่ยง คนบ้า ๆ อย่างทานยิ่งหัวเราะเพราะเห็นเป็นเรื่องสนุก ต้องการที่จะดูให้ได้

และสุดท้าย ฝ่ามือก็กระแทกเข้าที่หัวเข่าของอ้อนอย่างแรง จงใจให้เจ็บ จงใจให้ปวด แล้วก็ได้ผลจริง ๆ
แต่ผลที่ได้มันแย่กว่าที่คิด เพราะอ้อนลงไปนอนกับพื้นแล้วคู้ตัวกุมเข่าของตัวเองเอาไว้แน่น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน ทำให้ทานตะวันตกตะลึง นิ่งงันอยู่อย่างนั้น



“โอ้ยยยยยยยยยย เจ็บ ไอ้ทาน ไอ้สัตว์เอ้ย กูจะฆ่ามึง กูจะฆ่ามึง โธ่โว้ยยยยยยยยยยย”

เฮ้ย มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ เป็นอะไรของมันอ่ะ ใช้เวลาตั้งสติไม่นาน คนตัวโตรีบถลกขากางเกงข้างที่อ้อนกุมเอาไว้แน่น แล้วดูให้ชัดเต็ม ๆ ตา

ห่าอะไรวะเนี่ย

ทั้งเลือด ทั้งหนอง ทั้งรอยช้ำ แถมซ้ำ บางสิ่งบางอย่างที่โผล่ออกมาจากผิวเนื้อ

“เฮ้ย มึงเป็นอะไรเนี่ย ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย” ทานตะวันที่ยังตกตะลึง รีบช้อนร่างของอีกฝ่ายและอุ้มขึ้นโดยง่าย สีหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวด และเสียงกรีดร้อง ยิ่งทำให้หัวใจของทานตะวันเต้นไม่เป็นส่ำ

ไม่ได้ห่วง แต่ตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะเห็นอะไรแย่ ๆ อย่างนี้ ความรู้สึกเก่า ๆ หวลกลับมาอีกครั้ง
เหมือนกับว่าได้ยินเสียงร้องของตัวเองสมัยเด็ก ๆ เสียงร้องที่แสดงถึงความเจ็บปวดทรมาน เสียงร้องที่ทำให้อยากจะร้องไห้ตาม

“อย่าไปโรงพยาบาลเลยนะ ไม่มีเงิน ถ้าแม่รู้แม่ต้องด่าแน่ ๆ อย่าไปเลย ขอร้อง ขอร้อง กินยาแก้ปวดเดี๋ยวก็หายนะ โอ้ยยยยยยยย เหี้ยเอ้ย ไอ้ทานปล่อยกูลงเถอะ เดี๋ยวก็หาย ปล่อยกูสิโว้ยยยยยยยยย”

กินยาแก้ปวด บ้าหรือเปล่า ยาแก้ปวดเหี้ยอะไรวะ ขาแบบนี้มันเกินจะกินยาแก้ปวดแล้วนะ ไอ้โง่เอ้ย

“ต้องไป กูจะให้มึงไป มึงต้องไป” เสียงตะคอกยิ่งทำให้อ้อนยิ่งอยากจะลงเดินให้ได้ ดิ้นรนไม่ยอมอย่างเดียว ฝ่ามือรัวทุบหนัก ๆ ไปที่แผ่นอกของคนอุ้ม เพียงเท่านั้นกลับเพิ่มแรงโมโหของคนบ้ามากขึ้น

“โธ่ไอ้นางเอก คิดว่ากูอยากอุ้มมึงนักหรือไง มึงยังตายไม่ได้หรอกตอนนี้ มึงยังใช้หนี้กูไม่หมดเลย จำไม่ได้หรือไง ห๊า เดี๋ยวกูออกให้ก็ได้ค่าหมอไม่กี่บาท แต่มึงต้องใช้หนี้กูเพิ่มเป็นสองเท่าเข้าใจมั้ย แล้วกูจะไม่บอกแม่มึง”

ฝ่ามือหยุดชะงักแล้ว พร้อมกับที่อ้อนขบริมฝีปากสะกดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่ยังชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ แล้วยิ่งอยากจะร้องไห้ แค่เกือบแสนกูยังไม่มีปัญญาจ่าย มากกว่านี้ กูจะไปเอาที่ไหนมาให้

ไอ้ทานทำไมมึงถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้ กูเกลียดมึง เกลียดจนไม่รู้ว่าจะเกลียดยังไงแล้ว ทำไมมึงถึงได้เป็นคนแล้งน้ำใจขนาดนี้ ทำไมกูถึงต้องมาเจอมึงด้วย ทำไม ทำไม

ทั้งเจ็บที่ขา แถมยังเจ็บที่ใจ อ้อนยกแขนขึ้นปาดน้ำตาที่หยดลงที่ข้างแก้ม แล้วเอ่ยบอกคนที่อุ้มเอาไว้ด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน

“อย่าบอกแม่กูนะทาน อย่าบอก แล้วมึงจะให้กูใช้หนี้มึงเท่าไหร่กูก็ยอม” น้ำเสียงที่เบาหวิวและขาดหายไปเป็น
ช่วง ๆ ของคนในอ้อมแขนทำให้คนอุ้มต้องรีบวิ่งให้เร็วขึ้น

เจ็บ

แบบนี้มันเจ็บ

น่ากลัว เวลาเห็นคนเจ็บปวดมาก ๆ ขนาดนี้ยิ่งกลัว ก็แล้วทีแต่ก่อนแกล้งมันตั้งเยอะไม่เห็นมันเป็นอะไร
ไม่เห็นมันเคยร้อง แต่ทำไมคราวนี้ มันถึงต้องร้องด้วย แล้วมันยังร้องไห้อีก ไอ้อ้อนมึงอย่าร้องไห้สิวะ กูกลัวคนร้องไห้ อย่าร้องไห้เลย เห็นแล้วมันทรมาน เหมือนกูตอนเด็ก ๆ ไม่มีผิด ขอร้องล่ะมึงอย่าร้องไห้เลย

“หยุดร้องซะทีสิวะ กูรำคาญโว้ย เดี๋ยวกูโยนทิ้งไว้ตรงนี้เลย” เสียงตะคอกทำให้อ้อนต้องรีบปาดน้ำตาทิ้ง แล้วยกแขนขึ้นโอบรัดรอบคอคนอุ้มเอาไว้แน่น กลัวว่าอีกฝ่ายจะโยนทิ้งให้เจ็บยิ่งกว่าเดิม

ท่ามกลางความรู้สึกขัดแย้งมากมาย

ทานตะวันคงไม่รู้ ว่าหนึ่งในนั้นคือความรู้สึกแปลก ๆ ภายในใจระหว่างคนอุ้มกับคนถูกอุ้ม

บางสิ่งบางอย่างที่ทานตะวันไม่เคยรู้จัก

บางสิ่งบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ

บางสิ่งบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นโดยที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่ทันได้รู้ตัว

TBC….

 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-04-2007 06:48:44
ทานตะวันกำลังจะเริ่มรักอ้อนแล้วใช่ม้าย  :kikkik:  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 29-04-2007 13:34:33
สนุกอ่ะ ทานเริ่มใจอ่อนแล้ววุ้ย    :give2:

อยากอ่านต่อเร็วๆแล้วนะงับ :yeb:
 
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 29-04-2007 21:45:33
มาเป็นกำลังใจให้ครับ

 :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน นิยามของคำว่าดูแล โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 29-04-2007 22:57:42
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน นิยามของคำว่าดูแล

“อ้อนมันช่วยผมทำรายงานน่ะครับแม่ มันเลยต้องค้างที่บ้านผม รายงานด่วนด้วยแหละครับ ใช่ครับ คุณแม่อยู่ได้นะครับ รบกวนด้วยนะครับ อยากทานอาหารฝีมือคุณแม่จังครับ แต่ต้องทำรายงานเสร็จก่อน ครับ ได้ครับ”

ทานตะวันยืนคุยโทรศัพท์ห่างออกไป โดยมีคนที่เพิ่งออกจากห้องผ่าตัด นอนอยู่บนเตียง และค่อยเงี่ยหูฟังตลอดเวลา

“ทาน.....แม่ฝากดูอ้อนด้วยนะ”

ประโยคถัดมาที่แม่ของอ้อนบอก ทำให้ทานตะวันชะงักนิ่ง หันไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียงห่างออกไป ด้วยความไม่เข้าใจ

ฝากแปลว่าอะไร

ฝากคือให้อยู่ด้วยเหรอ หรือมันจะแปลว่าอะไร

“อะไรนะครับ” ทานตะวันทวนคำพูดอีกครั้งอย่างสงสัย แล้วก็ได้รับคำตอบกลับมา

“แม่ฝากดูแลอ้อนด้วยนะทาน”

ฝากดูแล

แปลว่าต้องดูแล

การดูแลคืออะไร ไม่เคยมีอะไรที่ใครมาฝากให้ดูแลสักอย่าง คำว่าดูแล มันแปลว่าอะไรกันแน่ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ แต่ทานตะวันก็ตอบออกไป

“ได้ครับคุณแม่ ผมจะดูแลให้ดีที่สุดเลยครับ คุณแม่ไม่ต้องห่วง”

ปลายสายวางไปแล้ว พร้อมกับที่ทานตะวัน ยังขมวดคิ้วมุ่น ครุ่นคิดถึงคำว่า ดูแลหรือคำว่าฝาก ที่แม่ของอ้อนพูด
ทำไมต้องดูแล ทำไมต้องฝาก อย่างกูเนี่ย ฝากอะไรไว้ได้ด้วยเหรอ หรือว่า อย่างกูจะดูแลอะไรได้วะ
ไม่เคยเห็นมีใครมาฝากอะไรเลย คนตัวโตยังคงขมวดคิ้วมุ่น และครุ่นคิดประโยคง่าย ๆ แต่ตัวเองกลับแปลไม่ได้ขึ้นมา แล้วก็ยิ่งสับสน หันไปมองคนที่นอนมองอยู่บนเตียงผู้ป่วย แล้วยิ่งต้องขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจ

ไอ้เป๋นี่เหรอ ที่ต้องดูแลมัน ทำไมกูต้องดูแลมันด้วยวะ ในเมื่อมันติดหนี้กู แล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องมาดูแลมันเลยนี่หว่า แล้วเรื่องอะไร ทำไมต้องดูแลมันด้วยวะ คนที่ต้องดูแลหรือห่วงใยกันโดยปกติแล้ว เขาเป็นอะไรกันถึงต้องมาดูแล ในเมื่อ กูกะไอ้เป๋นี่ ก็แค่เจ้านายกับคนใช้

อ้อนทิ้งกายลงนอนแล้ว และหันไปมองคนที่มายืนขมวดคิ้วมุ่นอยู่ข้างเตียง

“ค่าหมอเท่าไหร่วะ” เสียงของอ้อนทำให้คนที่กำลังครุ่นคิดถึงกับสะดุ้งสุดตัวแล้ว จ้องมองใบหน้าซีดขาวนั้นให้ชัด ๆ ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ

“ไม่มากไม่น้อย แต่ก็มากพอที่มึงต้องใช้หนี้กูอีกนาน”

อ่อ เหตุผลไม่ต้องรู้ใช้มั้ย รู้แค่ว่าต้องใช้หนี้นานเท่าไหร่ก็พอ นั่นสินะ ไม่น่ามาเลย ไม่น่าให้มันพามาโรงพยาบาลเลย ที่จริงกินยาหรือเอาผ้าพันแผลพันไว้ ก็คงไม่เป็นไรมากแท้ ๆ

“กระดูกลูกสะบ้าตรงหัวเข่าอ่ะ มันเป็นเหล็กที่ต้องใส่ดามเอาไว้เหรอ แล้วอย่างนี้มึงก็ไม่มีหัวเข่าอะสิ”

ก็ใช่น่ะสิ ถ้ามีกูคงวิ่งได้แล้ว ไม่ต้องเดินขาเป๋แบบนี้หรอก ดีแค่ไหนแล้วที่ยังมีขาให้เดิน แค่นี้ก็นับว่าบุญแล้ว
ไม่น่ามาถามอะไรโง่ ๆ อย่างนี้เลย สมองเท่าเม็ดถั่วเขียวมั้งเลยคิดได้แค่นี้

“เหรอ เออ หมอบอกว่า พักอีกสองสามวัน แผลคงประสานกันมากขึ้น แต่อย่าขยับเดินไม่งั้นแผลจะอักเสบ”

เหรอ ไม่ต้องบอกกระผมก็รู้ครับท่าน แล้วนี่ต้องนอนที่โรงพยาบาลนานแค่ไหนวะ หัวเข่าก็เริ่มปวดหนึบ ๆ แล้วสงสัยฤทธิ์ยาชาคงหมดแล้วแน่ ๆ ทำไมไม่ตายห่าไปซะวะ จะได้หมดเรื่องหมดราว

“ถึงไม่ขยับ ก็คงต้องขยับใช้มั้ยล่ะ ขืนนอนนาน หนี้แม่งก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นช่วยเอากูออกจากโรงพยาบาลวันนี้เลยแล้วกัน เดี๋ยวก็เดินได้แล้ว มีไม้ค้ำหน่อย ก็ลากกระเป๋าให้มึงได้แล้วแหละไอ้ทาน”

 


ก็เพราะอย่างนี้ พูดจาอย่างนี้ เป็นใครก็ต้องของขึ้น แล้วยิ่งทานตะวันด้วยแล้ว ยิ่งอาการหนักกว่าคนอื่น

“มึงควรรู้นะว่ามึงอยู่ในฐานะอะไร อย่ามาปากดีได้มั้ย จะออกวันนี้เหรอ ได้เลย จัดให้ได้ เดี๋ยวไปบอกหมอเลยว่าให้มึงออกจากโรงพยาบาล แล้วเดี๋ยวเอาบิลมาให้มึงดูด้วย เป็นไง”

ทานตะวันเอ่ยบอกพร้อมกับยักไหล่ ทำหน้าเหมือนมันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลยสักนิด นั่นยิ่งทำให้อ้อน ต้องหรุบสายตาลงต่ำ แล้วกัดฟันแน่น ก็ต้องยอมมันสิ มันมีเงินนี่ ตอนนี้มันจะเอาอะไร จะให้ทำอะไรก็ต้องทำทุกอย่างแหละ

“น้ำก็ยังไม่ได้อาบ เหม็นเหงื่อก็เหม็น แถมยังต้องพาคนเป็นง่อย มาส่งโรงพยาบาลให้เสียเงินอีก เซ็งชิบหาย”

คำพูดร้ายกาจแล้งน้ำใจ ยิ่งทำให้อ้อนเจ็บไปถึงหัวใจ อยากจะเงยหน้าขึ้นแล้วตะโกนด่าออกไปบ้าง ให้อีกฝ่ายรู้ว่าไม่ได้อยากเป็นอย่างที่มันพูดสักนิด แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงในเมื่อมันแย่ขนาดนี้แล้ว

ทานตะวันก้าวขาเดินออกจากห้องไปแล้ว โดยที่อ้อนยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง

ขอไปอยู่บ้านไอ้ทานสองสามวัน ไม่รู้มันจะคิดเงินอีกเท่าไหร่ กลับบ้านตอนนี้ไม่ได้ ขืนกลับไปแม่ต้องรู้แน่ ๆ เพราะฉะนั้น อีกสองสามวัน ขอร้องเถอะนะ อีกแค่สองสามวัน ขอให้หายเจ็บขาเถอะ ขอให้ไม่เป็นอะไรขอให้อีกสามวันอาการเจ็บที่ขาทุเลาด้วยเถอะ จะได้ใช้หนี้ใช้สินให้มันหมดซะที ก่อนที่จะมีหนี้พอกพูนไปมากกว่านี้

ใครคนหนึ่งที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย ทำให้ทานตะวันต้องหันกลับไปมองอีกครั้ง แล้วก้มลงมองที่มือของตัวเอง

ฝากด้วยงั้นเหรอ การที่พาไอ้เป๋มาโรงพยาบาล เขาเรียกว่าดูแลห่วงใยได้หรือเปล่า
แต่ว่า ตอนนั้นที่เห็นมันร้องไห้เพราะความเจ็บ รู้สึกว่า หัวใจมันเต้นแปลก ๆ ใจเต้นไม่เป็นส่ำเลย แล้วยิ่งเห็นว่าแผลที่ขามันลึกขนาดไหน ยิ่งกลัว รู้สึกกลัวขึ้นมา เห็นมันจิกเล็บเข้าที่ฝ่ามือของมันด้วยแล้ว ยิ่งรู้ว่าความเจ็บปวดสุด ๆ มันเป็นยังไง

ถ้าสิ่งที่ทำลงไปเรียกว่าปกป้อง แล้วนี่กูได้ปกป้องมันหรือเปล่าวะ

ไม่รู้

ไม่รู้โว้ย ทำไมคำถามพวกนี้มันตอบยากจังวะ

ก็แค่คนใช้

ก็แค่คนนวดขาให้ แล้วก็คนคอยถูหลัง หอบของด้วย ใช่มันเป็นคนหอบของ แล้วมันเป็นอะไรอีกล่ะไอ้อ้อนเนี่ย

มันเป็นคนขาเป๋ไง ใช่ ใช่ มันเป็นคนขาเป๋

ไอ้อ้อนมันเป็นคนขาเป๋ คนขาเป๋ที่แก้มใสแจ๋ว แล้วก็ร้องไห้ได้น่ารักที่สุด

เออ ใช่ ใช่ คนขาเป๋ที่แก้มใสแจ๋ว น่าจูบที่สุดในโลกเลย

เฮ้ยยยยยยยยยย เป็นบ้าอะไรวะเนี่ย

TBC…..

 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 29-04-2007 23:42:58
โอ๊ยแอบมาติดนิยายอีก1เรื่องแล้วนะนี่ อินๆๆ :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-04-2007 16:18:31
ฮือๆๆๆๆ

สงสารอ้อนที่สุดเลย

ทานใจร้ายยยย

อ่านไปน้ำตาก็ไหลไป

ฮือๆๆๆๆๆๆ

 :เศร้า1:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 30-04-2007 17:47:46
เฮ้อกว่าจะได้มาอ่าน พี่เรย์ลงไปหลายตอนละ ทานเริ่มรู้สึกกะอ้อนเเล้วซิเนี่ย :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 30-04-2007 20:35:40
อ้อนน่าสงสารจัง :monkeysad:

ทานตะวันใจร้ายง่ะ :-[
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-04-2007 21:32:54
ตกลงทานตะวันนี่ ใจร้ายหรือไร้เดียงสาแน่หว่า  :angry2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 30-04-2007 23:15:59
ตกลงทานตะวันนี่ ใจร้ายหรือไร้เดียงสาแน่หว่า  :angry2:
อันนี้ไม่รู้เหมียนกัลซัน แต่ที่รู้ๆ เรย์ใจร้ายหว่ะ...กั๊กจาง... ลงเอะๆ หน่อยก็ไม่ได้...  :interest:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 30-04-2007 23:55:05
ชอบ ๆ เรื่องนี้เคยอ่าน  หนุกมาก ๆ  :110011:

ทานตะวันคงกะลังสับสนกะตัวเอง  คนอ่านเลยสับสนกะทานตะวันไปด้วย   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 01-05-2007 04:08:45
อ้างถึง
มันเป็นคนขาเป๋ไง ใช่ ใช่ มันเป็นคนขาเป๋
ไอ้อ้อนมันเป็นคนขาเป๋ คนขาเป๋ที่แก้มใสแจ๋ว แล้วก็ร้องไห้ได้น่ารักที่สุด
เออ ใช่ ใช่ คนขาเป๋ที่แก้มใสแจ๋ว น่าจูบที่สุดในโลกเลย


^
^
อ๊ากกกกกส์....!~   อยากกรีดร้องให้ลั่นกระทู้     :loveu:

ได้ใจมั่กส์ๆ ทำให้เราเสียน้ำตาด้วยง่า...สงสารน้องเป๋          :monkeysad:
แต่ก้อ  น่าร๊ากกกกก...ชะมัดเลย      :give2:   
เรย์จ๊ะ... ขอด่วน โฮ่ะๆ    :haun5:    วิ๊ๆๆ       :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-05-2007 05:18:46
หึหึ อ่านกันทันแล้วหรือ อ่ะเอาไปอีกตอน บอกแว้วว่าตามใจคนอ่าน
 :pigha2:
คิกคิก ใครไม่พอใจมาเจอกันตัวต่อตัว
 :ฮึ่มม:
 :kikkik:
ซันมานะนี่เลยโพสให้ก่อน
 : 222222:
หุหุ เท็นมาแอบอ่านมาป่าวเนี่ยะ ยิ่งกวนประสาทอยู่ เอิ้กๆ
ไม่ได้แกล้งคนอ่านนะครับ คิกคิก
 :haun5:


เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ชื่อ

เฮ้ยนี่มันเป็นภาระอะไรของกูวะเนี่ย ต้องคอยอุ้มไอ้เป๋เนี่ย แล้วดูซิกระเป๋าก็ต้องแบกเอง น้ำก็ต้องอาบเอง แล้วนี่มันห่าอะไรวะเนี่ย

ทานตะวันช้อนร่างของคนที่เดินไม่ได้อุ้มไว้ในวงแขน แล้วเดินลิ่ว ๆ เข้าบ้านด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องมาทำอย่างนี้ด้วย

ทำไมต้องอุ้ม ทำไมต้องทำนั่นทำนี่ให้คนใช้ด้วย ไม่เข้าใจ

อ้อนโอบแขนรัดรอบคอของทานตะวันเอาไว้แน่น เพราะกลัวตก แล้วก็เงยหน้ามองใบหน้าของอีกฝ่ายที่ขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจ
คราวนี้เลยยิ่งใจหายเข้าไปใหญ่ ไม่รู้ว่าคราวนี้ทานตะวันจะออกฤทธิ์ออกเดชอะไรอีก แค่เห็นก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่โวยวายออกมาเท่านั้น นอกจากเสียงบ่นที่เริ่มพูดออกมาอย่างไม่ขาดสายแล้วในตอนนี้

“ทำไมมึงต้องมาเป็นภาระกูด้วยวะแม่ง แทนที่จะได้อยู่อย่างสบาย ๆ แล้วต้องมาอุ้มมึงอีก มึงนี่ โว้ยกูเบื่อจริง ๆ เลยโว้ย เบื่อชิบหายแม่งโว้ย ให้อยู่บ้านกูนี่ก็เกะกะพอแล้ว กูเบื่อโว้ย เบื่อ เบื่อ เบื่อ”

ก็ใช่สิ เบื่อ ไม่มีเหตุผลที่ต้องมาทำอะไรให้นี่หว่า อ้อนก้มหน้าลงแล้วมองที่ขาของตัวเองที่ยังมีผ้าพันแผลพันอยู่ คราวนี้แหละวะได้ตายของจริงแน่ ๆ เจ็บขาไม่พอยังเจ็บใจอีกต่างหาก

“ปล่อยกูลงเดินเองก็ได้ ถ้าเดินไม่ได้เดี๋ยวกูคลานเข้าบ้านไปเองแหละ แค่นี้กูก็เป็นภาระของมึงมากมายแล้วนี่ ปล่อยกูลงหน้าประตูนี่แหละ”

ปากพูดไปแล้ว และใจก็คิดอย่างนั้น คลานไปก็ได้ ไม่ตายหรอก มากกว่านี้ยังเคย แค่นี้จะเป็นอะไรไปวะ

อ้อนขบริมฝีปากตัวเอง แล้วพยายามจะออกจากอ้อมแขนของทานตะวันให้ได้ ถ้าหากคนบ้า บ้าเลือดกว่านี้ คงโยนร่างของอ้อนทิ้งลงพื้นแบบไม่สนใจ แต่คงเป็นโชคช่วยที่ตอนนี้ คนบ้าอย่างทานตะวัน ยังมีความเป็นคนอยู่บ้าง ไม่ปล่อยคนเจ็บทิ้งลงบนพื้นแค่นี้ก็นับว่าเป็นโชคดีของอ้อนแล้ว

ทานตะวันเดินเข้าบ้าน แล้วปล่อยร่างในอ้อมแขนลงบนโซฟาวางไม้ค้ำไว้ให้ข้างกายคนเจ็บ

อ้อนหยิบไม้ค้ำมาไว้ใกล้ตัวแล้วเงยหน้ามองทานตะวันที่เดินไปรินน้ำมาดื่มด้วยความกระหาย แล้วก็เลยกลืนน้ำลายลงคอ
หิวน้ำเหมือนกัน แต่ไม่กล้าบอกว่าหิวน้ำ ได้แต่นั่งมองเงียบ ๆ แล้วก็ก้มหน้ามองขาของตัวเองอยู่อย่างนั้น

“เหี้ยเอ้ย แล้วกูจะอาบน้ำยังไงวะเนี่ย คนถูหลังก็ไม่มี คนนวดขาก็ไม่มี เซ็งชิบหายเลย เมื่อไหร่มึงจะหายซะทีวะ เสียเวลากูจริง ๆ”

คนตัวโตบ่นเสียงดังอย่างไม่คิดจะสนใจความรู้สึกของคนฟังเลยสักนิด เพียงเท่านั้นอ้อนก็แทบอยากจะร้องไห้แล้ว แต่ก็ไม่กล้าร้อง ตอนนี้เหมือนตัวเองเป็นตัวอะไรสักอย่างที่แย่จนไม่รู้จะเปรียบเทียบตัวเองเป็นอะไร ไม่มีขา ไม่มีแรง ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ไม่มีแม้แต่ศักดิ์ศรีที่จะเงยหน้าบอกใครๆ ว่า ถึงเป็นคนพิการ แต่ก็ไม่เป็นภาระใคร คนตาบอด คนขาด้วน ยังมีประโยชน์ทำนั่นทำนี่ได้ แต่อ้อนไม่มีประโยชน์อะไรเลย นอกจากเป็นภาระให้ใครต่อใคร

อ้อนนั่งนิ่ง ๆ อยู่บนโซฟา ส่วนทานตะวัน เดินจากไปแล้ว ทิ้งให้คนเจ็บนั่งกลืนน้ำลายและมองแก้วน้ำที่อยู่ห่างออกไป ด้วยความกระหาย แต่ก็ทำได้แค่นั่งมอง และลองใช้ไม้ค้ำช่วยในการยืน

แต่ก็เจ็บแปลบที่ขา จนไม่สามารถจะพยุงร่างขึ้นยืนได้

แม้แต่น้ำ แม้แต่จะดื่มน้ำ ก็ยังไปไม่ได้

ทำไมวะ ทำไมไม่ตายไปเลยวะ โธ่โว้ยยยยยยยยยยย

ปลายเล็บที่จิกเข้าที่ฝ่ามือ แนวฟันที่ทั้งขบทั้งกัดริมฝีปากจนขึ้นห้อเลือด
น้ำตาที่ยังหลั่งรินอยู่ภายในใจ ยังไม่หยดออกมาที่หน่วยตา

ทั้งที่ตอนนี้ ควรจะร้องไห้หนัก ๆ ร้องไห้ให้พอ แต่มันรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า และไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ไม่รู้ว่าต้องจัดการกับความรู้สึกเลวร้ายนี้ยังไง ไม่รู้ว่าต้องร้องไห้ หรือร้องโวยวาย เรียกหาใคร

ไม่รู้อะไรเลย

ไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 


ร้อนชิบหายเลยวันนี้ เหงื่อออกมาก แต่คงจะนอนหลับฝันดีเหมือนวันก่อนแน่ ๆ วันที่ฝันว่ามีแม่มากอด ครอบครัวมีความสุข อยากฝันอย่างวันนั้นอีก อยากจะฝันว่ามีความสุขแบบนั้นอีก

ร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำ ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยและใช้
ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดที่เส้นผมที่ยังเปียกชื้น พร้อมกับที่คนบ้าพลังเดินร้องเพลงหงุงหงิง หงุงหงิง มีความสุข หลังจากได้อาบน้ำจนร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่าแล้ว ดูเหมือนว่า อารมณ์หงุดหงิดโมโหที่ครุกรุ่นเมื่อช่วงเย็นของทานตะวัน เจือจางลงไปบ้างแล้ว

ร่างสูงใหญ่เดินลิ่ว ๆ ออกจากห้องน้ำเตรียมไปเปิดรายการโทรทัศน์ดู แล้วก็ได้เห็นคนที่ตัวเองเรียกว่าคนใช้ กำลังพยายามลุกขึ้นยืนและใช้ไม้ค้ำยันร่างเพื่อจะเดินให้ได้

“อ้าว แล้วไอ้โง่นั่นทำอะไรวะ ก็หมอบอกว่า ห้ามขยับร่างกายไม่ใช่เหรอ แล้วมันจะขยับทำไม เดี๋ยวแผลก็อักเสบหรอกนี่มันทำห่าอะไรของมันวะเนี่ย เห็นแล้วรำคาญลูกกะตาจริง ๆ “

ร่างที่ยืนยิ่งมองอีกฝ่ายตาไม่กระพริบ เดินมาหาคนที่พยายามจะใช้ไม้ค้ำพยุงกายขึ้น แล้วผลักให้อ้อนนั่งลงบนโซฟา ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ แล้วก็ตวาดเสียงดัง

“เฮ้ย จะไปไหนวะ จะหนีหนี้หรือไง รู้หรอกนะคิดอะไร”

ร่างกายกระแทกลงบนโซฟาจนอ้อนต้องนิ่วหน้า เพราะแผลที่หัวเข่ากระทบกระเทือน แถมซ้ำคำพูดบ้าบอไร้สาระของทานตะวันยิ่งทำให้ปวดใจมากขึ้น

หนีหนี้เหรอ ไอ้เวรเอ้ย กูเกลียดมึงจริงๆ เลยไอ้ทาน กูเกลียดมึงโว้ย

“กูแค่จะไปกินน้ำ ไม่ได้หรือไง ถ้าไม่ได้กูก็จะได้ไม่ต้องกิน มึงจะคิดค่าน้ำกูเท่าไหร่อีกล่ะไอ้ทาน เอาเลยสิ กูมันคนใช้มึงนี่ ไม่เคยหวังให้มึงมาดูแลกูอยู่แล้ว”

ไม่ได้หวังให้ดูแล
อะไรของมัน

แม่ของไอ้อ้อนบอกว่า ฝากดูแลไอ้อ้อนด้วย อ้าว แล้วทำไมมันบอกว่าไม่ต้องดูแล กูทำไม่เป็นนี่ แล้วจะให้กูทำยังไงวะ ไอ้ดูแลนี่เขาทำกันยังไงละโว้ย กูไม่รู้นี่

“เออ จะกินน้ำใช่มั้ย ก็บอกสิวะ ว่าจะกิน จะคลานไปหรือไง ไอ้ง่อย ง่อยแล้วยังปากเก่ง”

ไอ้ง่อย คำพูดนี้มันกระทบกระเทือนใจของอ้อนอย่างแรง

กูเป็นง่อยเหรอ

กูเป็นไอ้ง่อยเหรอ เป็นง่อยเหรอเนี่ย ทำอะไรไม่ได้หรอกเหรอเนี่ย
ขนาดจะกินน้ำยังไม่มีปัญญาเดินเลย กูเป็นง่อย กูเป็นไอ้ง่อย

น้ำในแก้วเย็น ๆ ถูกรินส่งให้ แต่อ้อนกลับนิ่งมองเงียบ ๆ

“เอ้ากิน ๆ ซะ หิวน้ำไม่ใช่เหรอ” อ้อนนั่งมองแก้วน้ำอยู่อย่างนั้น หิวน้ำ ต้องมีคนเอาน้ำมาส่งให้ ทำไมไปเองไม่ได้
ทำไมล่ะ
ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ความรู้สึกเจ็บปวดวิ่งแล่นไปทั่วร่าง ฝ่ามือเย็นชื้นสั่นระริก ดวงตากลมโตนิ่งมองใบหน้าของทานตะวันนิ่งงันอยู่อย่างนั้น

อ้อนไม่รู้สึกตัวอีกแล้ว ว่าทำอะไรออกไปบ้าง ฝ่ามือปัดป่ายจนแก้วน้ำในมือร่าวหล่นแตกกระจายเต็มพื้น มาพร้อมเสียงเอะอะโวยวายของอ้อนที่กรีดร้องเหมือนกำลังคลุ้มคลั่งไม่ได้สติ

 


“ไอ้ทาน ไอ้ทานกูเกลียดมึง ไอ้เลว กูเป็นง่อยเหรอ ไม่เอา ไม่เป็น
อ๊ากกกกกกกกกกก จะเดิน จะเดิน ไม่เอา กูไม่ได้เป็นง่อย ไม่ได้เป็น ฮือ ฮือ อ๊ะ จะเดินให้ดู จะเดินเดี๋ยวนี้แหละ อ๊ากกกกก ไม่ได้เป็นง่อยนะ ไม่ได้เป็น ปล่อยกูปล่อย ปล่อย ปล่อย ”

เสียงกรีดร้องโวยวายดังขึ้น ร่างตรงหน้ากำลังไม่ได้สติ ตะเกียกตะกายอ้อนพยายามลุกขึ้นยืน ด้วยขาของตัวเอง แต่ยังไงก็ทำไม่ได้ สุดท้ายร่างกายที่พยายามฝืนก็ทิ้งกายลงบนพื้นและพยายามตะเกียกตะตายคลานออกห่างจากคนที่ดูถูกเหยียดหยามอย่างรุนแรงคนนั้น

ทานตะวันเองยิ่งตกใจ ไม่เคยเห็นสิ่งที่ได้เห็น ไม่เคยรู้จักกับสิ่งที่ได้รู้ ยืนนิ่งด้วยความตกใจ มองเศษแก้วที่กระจัดกระจาย และตอนนี้มือของอ้อนที่พยายามเอื้อมคว้าไม้ค้ำยัน กำลังแดงฉานไปด้วยเลือด เพราะเศษแก้วบาดที่ฝ่ามือ

“เฮ้ย ไอ้เป๋ เฮ้ย มึงเป็นอะไรวะ แก้วบาดมือแล้ว เฮ้ยเลือดออกเต็มเลย ไอ้เป๋ เฮ้ย เฮ้ย”

เหมือนคนที่กำลังตะเกียกตะกายไม่รับรู้สิ่งใดอีก นอกจากร้องโวยวายและร้องไห้อย่างบ้าคลั่งแล้ว ยังสะบัดมือหนีคนที่พยายามจะฉุดรั้งเอาไว้ให้ออกไปให้พ้นตัว หยดน้ำตามากมายหลังรินอาบแก้ม

เจ็บที่ขา

เจ็บที่มือ

เจ็บไปหมด

เจ็บไปทั้งร่าง

เจ็บ แต่ไม่รู้จะร้องเรียกให้ใครช่วย เจ็บจนแทบขาดใจตาย

“ปล่อยกูไอ้ทาน ปล่อย ปล่อย กูไม่ได้เป็นง่อยนะ ไม่ได้เป็น ไม่ได้เป็นจริงๆ นะ กูไม่ได้เป็น ฮือ ฮือ”

ทานตะวันทิ้งกายลงและกอดรัดรั้งร่างของคนที่ไม่ยอมอยู่นิ่งเฉยเอาไว้แน่น เป็นนานที่อ้อนไม่ยอมหยุดนิ่ง เป็นนานที่ดิ้นรนขัดขืน เป็นนานที่เอาแต่กรีดร้องโวยวาย ไม่ยอมหยุด แต่เพราะเรี่ยวแรงที่เหนือกว่าทำให้ร่างที่อ้อนล้า ค่อย ๆ นิ่งเงียบลง และซบใบหน้าลงที่ไหล่ของทานตะวัน พร้อมทั้งกำปั้นยังคงทุบรัวที่แผ่นหลังของคนกอดเอาไว้ไม่ยอมหยุด
ปากยังคงพร่ำพูดแต่สิ่งที่ทานตะวันไม่เข้าใจ

“ไม่เป็น ไม่เป็น กูไม่ได้เป็นง่อย กูไม่ได้เป็น ปล่อยกู ปล่อยกูฮึกฮือ"”

เสียงร้องค่อย ๆ เงียบลงแล้ว พร้อมกับร่างที่กำลังดิ้นรน นิ่งสงบลงเรื่อยๆ หลังจากออกแรงจนเหนื่อย

ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป แต่คนกอดก็ช้อนร่างของคนที่หลับตานิ่ง ๆ ขึ้นแล้วพาเดินเข้าไปในห้องนอน ผ่อนร่างนั้นให้เอนลงบนเตียงอย่างช้า ๆ

ดวงตาคมจับจ้องไปที่ฝ่ามือที่ยังแดงฉาน และมองลงไปที่หัวเข่าที่มีรอยเลือดซึมออกมาจากผ้าพันแผล

ใบหน้าซีดขาว ยังมีคราบน้ำตาเปรอะเปื้อนอยู่ แต่ทานตะวันกลับไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป ได้แต่ยืนมองนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น ก่อนจะวิ่งไปคว้าโทรศัพท์แล้วกดหมายเลขโทรหาแม่ของตัวเองด้วยมือที่สั่นระริก

“แม่ แม่ ถ้าคนร้องไห้แล้วเขาก็โวยวายใหญ่เลย แล้วมือก็เป็นเลือด แล้วขาก็เลือดออกด้วยแล้วเขาก็หิวน้ำ แล้ว แล้ว แล้ว แล้วเขาก็หลับไปแล้ว ต้องทำยังไงบ้างแม่”

น้ำเสียงที่สั่นระรัวทำให้คนที่รับสายแทบจะฟังไม่ทันจนต้องให้ทานตะวันอธิบายอย่างช้า ๆ

“หลับแล้วครับ เลือดออกที่มือ แล้วขาก็เป็นแผล ร้องไห้ด้วยนะแม่ ใช่ ใช่ ต้องทำแผลก่อนเหรอ ทำแผลก่อน แล้ว แล้ว เช็ดน้ำตาให้ด้วยใช่มั้ย ครับ ครับ ถ้าเขาตื่นมาก็เอายาแก้ปวดกับแก้อักเสบแล้วก็เอาน้ำให้กินด้วยเหรอ ต้องเอาใจมาก ๆ เหรอ เอาใจทำยังไงเหรอแม่ เอาใจ คืออย่าทำให้ร้องไห้เหรอ ครับ ครับ แล้ว แล้ว

แม่จะมาดูทานแข่งมั้ย”

คำถามที่ถูกเรียบเรียงเป็นประโยคเพื่อรอคำตอบ และในประโยคสุดท้ายของคำถามทำให้ทานตะวันหน้าเศร้า

“เหรอครับ ทานจะรอแม่นะ แม่ต้องมาให้ได้นะครับ ทานจะรอ”

ปลายสายถูกวางไปแล้ว พร้อมกับที่คน ๆ หนึ่งนั่งมองโทรศัพท์ในมือด้วยใบหน้าหมองเศร้า ถอนหายใจยาว และลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ

เตรียมค้นหาอุปกรณ์สำหรับทำแผล ด้วยความรีบร้อน

กล่องปฐมพยาบาลถูกเปิดออก พร้อมกับที่อุปกรณ์ทำแผลมากมายถูกนำมาใช้ สำลีและยาล้างแผล ถูกเช็ดเบา ๆ ที่แผลที่ยังมีเลือดไหลซึม ทั้งที่หัวเข่าและที่ฝ่ามือ และปิดทับด้วยผ้าพันแผล

กล่องปฐมพยาบาลถูกนำไปเก็บแล้ว พร้อมกับที่คนตัวโตลงมานั่งข้าง ๆ คนที่ยังไม่ลืมตา หยดน้ำตาถูกปลายนิ้วแกร่งเกลี่ยไล้จนไม่เหลือคราบน้ำตาอีก

แต่มากกว่านั้น คือสายตาของทานตะวันที่จับจ้องมองใบหน้าขาวซีด และไล้ปลายนิ้วลงมาที่ดวงตาที่ยังปิดสนิท เกลี่ยไล้ไปมาที่ข้างแก้มเนียน แตะนิ้วลงที่ริมฝีปากสีซีด และค่อยวางมือไว้บนหน้าผากของอ้อนอย่างแผ่วเบา เพื่อลูบไล้ที่หน้าผากของอีกฝ่ายเล่น

หลับ.........

ถ้าตื่นแล้วต้องเอาน้ำแล้วก็ยาให้กิน

แล้วก็ต้องเอาใจด้วย เอาใจคืออย่าทำให้ร้องไห้ อย่าทำให้ร้องไห้เหมือนเมื่อกี้นี้เหรอ

ดวงตาคมจับจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายเงียบ ๆ แล้วเอียงคอมองด้วยความสงสัย ทำไมต้องอาละวาดด้วย ทำไมต้องโกรธ ไม่เข้าใจ

“ไม่เป๋เหรอ ไม่เป๋ก็ไม่เป๋ แล้วก็ไม่ง่อยด้วย ไม่ง่อยก็ได้ ชื่ออะไรนะ มึงชื่ออะไร ไอ้คนใช้มึงชื่ออะไรนะ ชื่ออ้อม ชื่ออ้อมเหรอ ไม่ใช่นี่หว่า มันชื่อไอ้อ้อน ชื่อไอ้อ้อน เออกูจำได้แล้วว่ามึงชื่ออ้อน
ต่อไปกูเรียกมึงว่าไอ้อ้อนแล้วกันนะ ไม่เรียกมึงว่าไอ้เป๋แล้ว ไอ้อ้อน ไอ้อ้อน เออ มึงชื่ออ้อนนี่เอง”

TBC…..

 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 01-05-2007 06:18:11
 :เฮ้อ: สงสารอ้อนจิงๆ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-05-2007 08:15:29
ทานตะวันเอ๊ย  :เฮ้อ: จะไร้เดียงสาแบบแปลก ๆ ไปถึงไหน  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 01-05-2007 08:30:59
ทานเริ่มเรียนรู้วิธีดูเเลเเล้วดีจัง  :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 01-05-2007 12:36:24
น่าสงสารทั้งคู่เลยอ่ะ  ทานตะวัน  ก็ไม่เคยจะมีใครดูแล เฮ้อ........    รีบๆเรียนรู้การดูแล  นะจ๊ะ   จาได้ไว้ดูแลน้องอ้อน  :เชิป2: :110011:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 01-05-2007 15:02:57
       :monkeysad:     กาซิก  กาซิก .........แง๊ๆๆๆๆๆๆๆๆ             :เศร้า2: 

เรย์ง่ะ..... ทำ เค้าร้องไห้ง่า.......
ไม่ยอมง่า.....      :dont2:    จะเอาอีก จะเอาน้องอ้อนเยอะๆๆ อ่ า....     :impress:


นะๆๆ เรย์ นะ ไม่ งั้นก้อส่งๆๆๆ เลย ......
ถ้า ไม่ยอม ( ซินจะลงไปดิ้นปัดๆ แย๊ว...น๊า)     :like2:




 :impress2:   นะเรย์ นะ พลีสสสสสสสสสสส....   :pigangry2:  ถือมีดรอ แย้ว ...แง่งๆๆ

ส่งมา.........ส่งมา ซ้าดีๆ ( นี่คือการปล้น)  :ฮึ่มม:

   อิอิ     :interest:

+++++++++++++++++++++++++++++++++++

*ป๋อล๋อ... นายทานมัน บื้อ ฟ่ะ เอิ้กๆ (แต่โค้ดได้ใจเลย)

 ไม่รู้จักวิธีดูแลคนอื่น ต้องถามแม่ โฮ้ววว .. ทานตะวัน
   เหอ  เหอ  (   สนใจให้ซันเทรน  ให้มะจ๊ะ ทาน)
**ชีวิต น้องอ้อน ช่างน่า รันทดหดหู่ซ้าเจงๆ มาเจอหนุ่ม โหด โค้ดอาแต่ใจ
แถมยังดูแลคน ไม่เป็นอีกเนี่ย..(ไม่อยากคิดภาพต่อไปเลย เอิ้กๆ)

จะรอ น้องอ้อน.....ต่อปาย กาซิก  กาซิก..   :เศร้า1:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 01-05-2007 16:46:09
โอ้ยทานจะวันไร้เดียงสาสุดๆๆ :interest:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 01-05-2007 17:30:03
โอ้ยทานจะวันไร้เดียงสาสุดๆๆ :interest:

เหอเหอ

ยิ่งกว่าไร้เดียงสาซะอีก
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 01-05-2007 17:34:12
ทานตะวันเอ๊ย  :เฮ้อ: จะไร้เดียงสาแบบแปลก ๆ ไปถึงไหน  :monkeysad:
อ่านครั้งแรกขำอะ  ไร้เดียงสาแบบแปลกๆ  อืมม.... รอทานเรียนรู้ที่จะรักคนอื่นก่อนนะ

รออ่านต่อจ้า  เรย์  :yeb: 
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-05-2007 23:12:04
ค่อยๆลุ้นกันละกันนะ
เพราะเรื่องนี้ ความสนุกอยู่ที่ตอนลุ้นเหมือนกัน
 :yeb:
******************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน หมอนข้าง

หนัก

ความรู้สึกแรกที่ปรือตาตื่นขึ้นก็คือหนัก
หนักเพราะมีอะไรบางอย่างทาบทับอยู่บนตัว

แล้วนี่อะไร นี่มันแขนของใคร

อ้อนหรี่ตาขึ้น แล้วรับรู้ได้ถึงความปวดหนึบที่หัวเข่า
และเหมือนมีเส้นเลือดเต้นตุบ ๆ อยู่ที่ฝ่ามือ

เมื่อยกมือขึ้นมอง ก็พบว่ามีผ้าพันแผลพันไว้แบบทุเรศทุรังเต็มที
เหมือนคนทำแผล พันผ้าพันแผลไม่เป็น เห็นแล้วอ้อนกลับหัวเราะด้วยความขำ

อะไรวะเนี่ย พันเข้าไปได้ไงวะ

คิดได้ดังนั้น แล้วคิดไปถึงคนที่ทำแผลให้ อย่าบอกนะว่าเป็นไอ้ทาน ไอ้ทานเนี่ยนะ ตอนทำแผลให้ มันคงทำไปด่าไปแน่เลย ที่จริงปล่อยทิ้งไว้ก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องสนใจเลย
แล้วนี่อะไร มานอนอยู่บนเตียงได้ไง
แล้วนี่มันแขนของใครวะเนี่ย

อ้อนหันไปมองเจ้าของร่างที่กอดเอาไว้ และรับรู้ได้ถึงลมหายใจแผ่ว ๆ ที่เป่ารดอยู่ที่ข้างแก้ม

“ไอ้ทาน” อ้อนอุทานออกมาเสียงเบา และจ้องมองคนที่นิ่งเงียบอยู่ข้าง ๆ

มาไงอีกวะเนี่ย ไอ้ทานมาไงวะ สมองเริ่มลำดับความจำว่าก่อนหน้านั้นทำอะไรไปบ้าง .......แล้วก็ขมวดคิ้วมุ่น ตายห่า นี่มันจะคิดค่าทำข้าวของมันเสียหายเพิ่มมั้ยวะเนี่ย

ร่างกายเริ่มขยับ แล้วค่อย ๆ ยกแขนของคนที่กอดเอาไว้ออก
แต่แล้วทานตะวันก็ขยับกายแล้วปรือตาตื่นขึ้น งัวเงีย ๆ เหมือนกับว่าเริ่มรู้สึกตัว

แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ไอ้คนตัวโตชอบแหกปากบ้อบอโวยวายมันตื่นแล้วจริง ๆ แล้วท่อนแขนที่ทับอยู่บนร่างของอ้อน ที่กำลังจะถูกยกออกก็ต้องถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น

ทานตะวันหรี่ตาขึ้นมองคนที่หันหน้ามาหา

ร่างในอ้อมแขนหันมาสบตากับคนตัวโตและนิ่งมองกันอยู่นาน

ดวงตากลมโตเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และหรุบสายตาลงมองที่แผ่นอกของคนที่กอดเอาไว้ เตรียมจะยกแขนที่พาดทับอยู่บนลำตัวออก แต่ทานตะวันกลับยึดร่างนั้นเอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย

“ทำไม” คำถามง่าย ๆ แต่ทำให้อ้อนนิ่งเงียบ และช้อนสายตาขึ้นจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายอีกครั้ง ก่อนจะหยุดเคลื่อนไหวร่างกายและนอนนิ่งเงียบ

“เจ็บหัวเข่าหรือเจ็บมือ” น้ำเสียงเบาหวิวราบเรียบเอ่ยถาม และยังคงจ้องมองใบหน้าขาวซีดไม่กระพริบทำให้อ้อนต้องส่ายหน้าและก้มหน้าลงอีกครั้ง

“เปล่า” ถามคำก็ตอบคำ แต่คำตอบนั้นกลับทำให้คนตัวโตขมวดคิ้วและลุกขึ้นนั่ง ปล่อยร่างในอ้อมแขนเป็นอิสระ แล้วลุกขึ้นเดินไปค้นหาเม็ดยาในถุงที่ทางโรงพยาบาลจัดมาให้
ทานตะวันยืนอ่านวิธีการกินยา แล้วก็เลือกเม็ดยาหลากสีเทใส่มือยื่นให้กับคนตรงหน้า พร้อมกับน้ำในแก้วที่ถูกส่งให้

อ้อนนิ่งมองเม็ดยาในมือของทานตะวัน ก่อนจะแบมือรับเอาไว้ และเทเม็ดยาเข้าปาก ตามด้วยน้ำหนึ่งแก้ว จนหมด แล้วส่งแก้วคืน

แก้วน้ำถูกวางไว้ที่เดิม และทานตะวันแผ่นขึ้นมานอนอยู่บนเตียง จัดการปิดไฟที่หัวเตียงเรียบร้อย และกางแขนรอให้อีกฝ่ายนอนลงมาแต่อ้อนกำลังสงสัย และกำลังคิด ขยี้ตาซ้ำ ๆ เพราะไม่เข้าใจกับสถานการณ์ในตอนนี้

เอาน้ำให้
ส่งยาให้
มันหัวสมองได้รับความกระทบกระเทือนหรือไงวะ หรือไอ้ทานมันจะเป็นอะไร หรือว่าฝันอยู่กันแน่วะเนี่ย

 


“ง่วง กูต้องซ้อมเช้า มึงจะถ่างตานั่งอยู่อีกนานมั้ย หรือจะให้กูถีบลงไปนอนบนพื้น ให้อภิสิทธิ์มากไปหรือไง อย่าคิดนะว่าจะลดหนี้ให้ แล้วก็ไม่ต้องคิดเลยว่าจะเลื่อนลำดับจากคนใช้ให้มาเป็นเพื่อนน่ะ คิดอยู่ล่ะสิ นอนลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ กูคือประกาศิตจำได้มั้ย กฎข้อ 3 หรือมึงไม่เข้าใจ”

นั่นแหละ ทานตะวันตัวจริง ปากคอแบบนี้ อคติแบบนี้ และการไม่สนใจไยดีคนอื่นแบบนี้ นี่แหละทานตะวัน

อ้อนลงมานอนข้าง ๆ ร่างสูงใหญ่แล้ว
และนอนตัวเกร็งไม่กล้าขยับ
จนเมื่อท่อนแขนหนัก ๆ พาดทับบนร่างอีกครั้ง และร่างกายอุ่น ๆ ของคนที่นอนเคียงข้างเบียดกายเข้าหา ถึงได้ต้องหันไปมอง
ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ

“หมอนข้าง.....กูจะให้มึงเป็นหมอนข้างวันนี้ มีปัญหามั้ย”

อ่อ หมอนข้างงั้นเหรอ นึกว่าอะไร เข้าใจแล้ว หึ ก็บอกมา
ว่าท่านให้กระผมเป็นหมอนข้าง จะได้รู้เอาไว้

อ้อนหลับตาลงอย่างปลง ๆ และไม่นอนตัวแข็งทื่ออีกเมื่อเข้าใจความหมายของคนบ้า

ทานตะวันหรี่ตาลงแล้ว พร้อมกับที่อ้อนค่อย ๆ หลับใหลเพราะฤทธิ์ยา แต่คนที่ดูเหมือนว่าหลับ กลับปรือตาตื่นขึ้น และจ้องมองฝ่าความมืดเพื่อมองใบหน้าของร่างในอ้อมแขนให้ชัด ๆ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกลี่ยไล้ไปตามแนวสันจมูก และลูบไล้ที่ข้างแก้มเนียนของคนที่นอนนิ่งเงียบ อยู่ข้าง ๆ และท้าวคางนอนมองใบหน้าของอ้อนเงียบๆ ก่อนจะโน้มหน้าลงไปหาและแตะริมฝีปากเบา ๆ ที่ริมฝีปากสีซีดของคนหลับ แล้วก็ผละออกห่าง ก่อนจะมานอนท้าวคางจ้องมองใบหน้าของอ้อนอีกครั้ง และอมยิ้ม

“ไอ้เป๋ เอ้ย ไอ้ ไอ้อ้อน เอาใจนี่เขาทำยังไงวะ ถ้าเอาใจแล้วจะหายเร็วขึ้นป่าว ถ้าหายช้าไม่ดีนะเว้ย ไม่มีใครถูหลังให้ ไม่มีใครถือกระเป๋าให้ ไม่มีใครถือขวดน้ำให้ แล้วก็ไม่มีใครถือผ้าขนหนูรออยู่ข้างสนาม แค่คิดมันก็แปลก ๆ แล้ว”

ร่างสูงใหญ่ ทิ้งกายลงนอนและดึงผ้าห่มมาคลุมร่างเอาไว้ และเผื่อแผ่ผ้าห่มให้กับคนที่นอนให้กอดด้วย

“โอ้ยยยยยยยย ง่วง ไอ้หมอนข้างนี่ก็นอนหลับดีจริง ๆฮ้าววววววว นอนดีกว่าเว้ย”

ทานตะวันนอนอมยิ้ม ยิ้มแล้วก็หลับไปพร้อมกับรอยยิ้ม

ทั้งที่ไม่เข้าใจอะไรนัก แต่กลับรู้สึกว่า การมีคนมาอยู่ใกล้ ๆ ให้โมโห ให้โวยวายใส่ แล้วก็ให้กอด มันก็ดีเหมือนกัน

ทานตะวันลืมคิดว่าสิ่งที่ทำลงไป ผู้ชายด้วยกัน ไม่มีใครทำอะไรแบบนี้ แต่เพราะไม่เคยเข้าใจอะไรเลย จึงทำให้ทำบางสิ่งบางอย่างลงไปโดยไม่คิดอะไรให้วุ่นวายปวดหัว

โดยที่ไม่ทันรู้ตัว ทานตะวันเปิดรับคน ๆ หนึ่งเข้ามาในชีวิตแบบเงียบ ๆ โดยที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าค่อย ๆ ยอมรับใครคนนั้นเข้ามาเป็นบางส่วนในชีวิตได้ยังไง

TBC….

 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 02-05-2007 02:48:23
รอลุ้นให้ทานป่วยมั่ง  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 02-05-2007 04:03:13
ฮู้วววววววววว   :110011:  :เชิป2:     ทาน ได้ใจมั่กส์ ๆ

มีแอบคิส.... น้องอ้อนด้วย ฮิ้ววววว....    :haun5:

แบบนี้เรียกว่า ลักหลับป่ะ อิ อิ       :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 02-05-2007 08:11:23
เริ่มเปลี่ยนไปทีละนิดเเล้วซินะทานตะวัน อุอุ  :fox2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 02-05-2007 09:21:19
 :-[ 
 :myeye:

ตอนนี้ทานน่ารักจัง
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 02-05-2007 12:26:11
ตั้งกะอ่านมา พึ่งจะยิ้มออกนี่แหละ :-[

ทานตะวันใจร้ายที่สุด :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 02-05-2007 15:37:36
ทานน่ารักขึ้นอีกนิดนึง
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 02-05-2007 17:53:18
เหอเหอ

ฟ้าหลังฝนมันจะสดใสหรือเปล่าหนา

 :serius2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 02-05-2007 18:41:09
ค่อยยังชั่ว ถ้าร้ายกว่านี้คงทนอ่านไม่ไหว
สงสารอ้อมมากๆ เลย

 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 02-05-2007 18:52:19
 :impress: :impress: ยังไม่มาอีกเหรอครับ  :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-05-2007 18:54:52
 :interest: เอาละวุ้ย ทานเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีแล้ว  o7
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 02-05-2007 19:36:05
ทานน่ารักดี  ขอให้น่ารักแบบนี้ขึ้นเรื่อยๆ นะ อย่าลมขึ้นลมลงละ  เหนื่อยแทนอ้อน  o7

จุ๊บๆ อีก  จุ๊บทุกวันจิตแจ่มใส  :laugh5:  :laugh5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-05-2007 19:44:05
ไม่มีใครสงสารทานมั่งเลยหรือ
 o7
***************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ทานตะวันโฉมใหม่

เช้านี้อากาศเย็นชื้น จนอ้อนต้องเบียดกายแทรกเข้าหาแผ่นอกกว้าง แล้วซุกซบค้นหาไออุ่นของร่างที่กกกอดเอาไว้
ก่อนจะหรี่ตาขึ้นและกระพริบตาปริบ ๆ หลายครั้ง ทบทวนว่าเวลานี้ตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน

อ้าว ไอ้ ไอ้ ไอ้ทานนี่หว่า กี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย ถ้าไม่ปลุกมันตื่นเดี๋ยวมันจะแหกปาก
หรือไม่ก็หาเรื่องตบหัว หรือถีบตกเตียงอีกแน่ ๆ ยังไม่ทันสว่าง ก็ต้องหาทางเอาตัวรอดแต่เช้าอีกแล้ว
อ้อนขยี้ตาซ้ำ ๆ อีกหลายครั้ง แล้วลุกขึ้นนั่ง

เจ็บแปลบที่หัวเข่าจนต้องนิ่วหน้า แล้วก็ก้มมองที่มือตัวเอง ผ้าพันแผลหลุดลุ่ยจนแทบจะหลุดออกมาหมด
แถมซ้ำยังมีเลือดซึมไหลออกมาเล็กน้อยจนเป็นจุดสีแดง ๆ เห็นได้ชัด

ฝ่ามือเอื้อมเขย่าที่แขนของคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ และคนตัวโตก็ส่งเสียงฮืมฮัมในลำคอ ก่อนจะปรือตาขึ้นมองและหลับลงไปอีกครั้ง

"โห่ ไอ้เหี้ยเอ้ย อื้ออออออออ" ร่างนั้นหันกายเข้าที่ฝาผนัง แล้วอ้อนก็ต้องเขย่าซ้ำ ๆ อีกหลายครั้ง

"ทาน ตื่น ไอ้ทานตื่นเร็ว" เรียกอยู่เป็นนาน แล้วไม่นาน คนที่ไม่ยอมตื่น ก็ลุกขึ้นนั่ง ปิดปากหาวนอนและเริ่มบ่นแต่เช้า

"ง่วงโว้ยยยยยยยย เพราะมึงอ่ะ ทำกูไม่ได้หลับไม่ได้นอน ไหนจะทำแผล ไหนจะต้องดูแล ป้อนยา ไหนจะเรื่องนั้นเรื่องนี้
แล้วมึงเห็นมั้ย เช้านี้กูก็เหมือนคนไม่ได้นอนเพราะมึง เซ็งเป็นบ้าเลยโว้ยยยยยยย"

แต่เช้า หมาเข้าปากแต่เช้า ทานตะวันหันมามองคนที่นั่งหน้าจ๋อยอยู่ข้าง ๆ แล้วขมวดคิ้ว แถมยังโวยวายไม่เลิก แต่อ้อนก็ทำอะไรไม่ได้
ไม่เถียง ไม่พูด ไม่รู้จะให้ทำยังไงดี ก็เป็นภาระจริง ๆ อึดอัดใจมาก ๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องเงียบ แล้วจะให้ทำยังไง
ที่นี่บ้านมัน ทุกอย่างของมัน เดี๋ยวไม่พอใจมันก็โวยวาย หาเรื่องถีบ ต่อย เตะ ไปตามเรื่อง
หรือไม่อีกที ก็ด่าไม่เลิก ชินแล้ว มันเป็นเวรเป็นกรรม ทำอะไรไม่ได้

ถึงจะบอกว่าชิน แต่สิ่งที่รู้สึกก็คือ แบบนี้ มัน............แย่...............แย่ มาก

"ไม่เข้าห้องน้ำหรือไงวะ" คนที่ด่าจนหนำใจ หันมาถาม อ้อนเงยหน้าขึ้นเพื่อมองใบหน้าของอีกฝ่าย แล้วก็ส่ายหน้า
แน่ละ ทำไมจะไม่อยากเข้าห้องน้ำ แต่จะให้ทำยังไง ในเมื่อมันเดินไปเข้าไม่ได้ เดี๋ยวถ้าไอ้ทานมันเข้าแล้ว ค่อยคลานไปก็ได้
คงไม่ตายหรอก

"เออดี ขี้เกียจมีภาระ" พูดเพียงเท่านั้นแล้วคนใจร้ายใจดำแล้งน้ำใจ ก็ลุกขึ้นเดินไปคว้าผ้าขนหนูพาดบ่า แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
ทิ้งให้อ้อนนั่งก้มหน้าเงียบ ๆ อยู่บนเตียง

ทานตะวันเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว ส่วนอ้อนนั่งนิ่ง ๆ อยู่และมองไปที่ห้องน้ำ สายตาหันไปมองที่ไม้ค้ำยัน แต่ก็ไม่พบ

หายไปไหนวะ จำได้ว่าเมื่อคืน

เมื่อคืนงั้นเหรอ

เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำอะไรไปบ้าง ไอ้ทานพาไปหาหมอ แล้วมันก็รอจนหมอผ่าหัวเข่าเอาหนองออกแล้วก็ดามหัวเข่าให้ใหม่
ระยะเวลาหลายชั่วโมง แต่ไอ้คนบ้านั่นก็นั่งรอ รอจนได้เปลี่ยนไปนอนพักที่ห้องผู้ป่วย แต่เพราะบอกว่าไม่มีเงินจ่ายค่ายา
ค่าหมอ ไอ้เวรนั่นถึงได้พากลับมาที่บ้านของมัน ทะเลาะกันเกือบตลอดทาง ทานตะวันโมโห และพูดอะไรร้าย ๆ ใส่หลายอย่าง
แต่สุดท้ายถ้าจะทิ้งไว้ก็ได้ แต่ไอ้หมอนั่นกลับยอมพามาที่บ้าน และช่วยบอกแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ทำรายงานอยู่กับมัน

จะบอกว่ามีน้ำใจ

นั่นมันก็ดูฝืนเต็มทน เพราะดูเหมือนคนที่ควรมีนิยามของคำว่า มีน้ำใจ ออกอาการไม่พอใจและหงุดหงิดโมโหอยู่ตลอดเวลา
ขาของอ้อนไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้ และแถมซ้ำยังเอะอะบ้าบอโวยวายจนได้แผลที่มือเพิ่มมาด้วย
คราวนี้เลยยิ่งทำอะไรไม่ได้เข้าไปใหญ่ แล้วแบบนี้ ไอ้หมอนั่น คงจะโมโหยิ่งกว่าเดิม เพราะนอกจากจะนวดขาให้ไม่ได้
ช่วยถูหลังไม่ได้ ช่วยหิ้วกระเป๋าอยู่ข้างสนามไม่ได้ ตอนนี้ก็ไม่มีค่าอะไรเลย แถมซ้ำยังกลายเป็นภาระให้อีก
หนี้สินก็พอกพูนจนไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงแล้ว ทำไมถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนอย่างนี้วะ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

"เฮ่ออออออออ ชีวิตกูนี่มันอะไรนักหนาวะ" อ้อนบ่นเสียงเบา และพยายามจะขยับร่างกายอีกครั้ง พยายามที่จะกระเสือกกระสนลุกขึ้นจากเตียงให้ได้
และสุดท้าย

....ตุบ.....

เสียงหนัก ๆ ของร่างกายที่หล่นลงมากองกับพื้น คราวนี้เลยยิ่งเจ็บหนักเข้าไปใหญ่ เพราะใช้มือที่เป็นแผลยันร่างเอาไว้

"โอ้ยยยยยยยย" ความเจ็บแล่นพล่าน และอ้อนก็นิ่วหน้า สะบัดมือไปมา ก่อนจะหดขาและก้มมองดูที่รอยเลือดที่หัวเข่า

"โธ่โว้ย เหี้ยเอ้ย แม่ง ฮื่อ" เพราะความหงุดหงิดโมโห เพราะว่าร่างกายไม่ได้ดั่งใจ อ้อนเลยได้แต่นิ่วหน้าและมองขาและมือของตัวเองนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น
อยากจะร้องไห้ ตอนนี้อยากจะร้องไห้ แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งเงียบและปลงกับร่างกายของตัวเอง

ทำไมมันถึงได้เป็นอย่างนี้ ทำไมถึงได้ซวยซ้ำซวยซากอย่างนี้ เจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้ เจ็บใจ ได้แต่เจ็บใจ และยกมือขึ้นลูบที่หน้าของตัวเอง

"ทำไมไม่ตายไปซะวะ แม่งเอ้ย" เสียงบ่นเสียงด่าตัวเอง และเสียงของหล่นหนัก ๆ ทำให้ทานตะวัน รีบออกจากห้องน้ำ เดินมาหยุดยืนตรงหน้าของคนที่นั่งเงียบ

"คลานลงมาทำไม"

น้ำเสียงเย็นชา ท่าทางเย็นชา ไม่ช่วยไม่ทำอะไรทั้งนั้น นอกจากเดินไปนั่งอยู่บนเตียง และใช้ผ้าขนหนูซับหยดน้ำที่ใบหน้าและนั่งมองคนที่ลงไปนั่งอยู่บนพื้นห้อง

อ้อนหันไปมองไอ้คนบ้านั่น แล้วก็หันกลับมานั่งมองขาของตัวเอง ไม่รู้จะตอบอะไร รู้เพียงว่า เจ็บที่ขา ก็เท่านั้น

"กูถามว่าจะหัดคลานไปทำไม บ้าเหรอ"

บ้าเหรอ เออก็บ้าน่ะสิ ถ้าไม่บ้าคงไม่คลานเหมือนหมาอย่างนี้หรอก ใช่มั้ยล่ะ ถ้าไม่คลานเหมือนหมาอย่างนี้ก็ทำอะไรไม่ได้
ได้แต่นอนเป็นง่อยอยู่บนเตียงอย่างเดียวน่ะสิ
 


"หูตึงเหรอ ถามแล้วยังไม่ตอบ น่าเบื่อว่ะ"

ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ ไม่แม้แต่จะมอง คนตัวโตลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากห้องเพียงไม่นาน และเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง

"เออ มึงพอจะถือกระเป๋าไหวมั้ย" คำถามที่ถาม ทำให้อ้อนแทบอยากจะเอาหัวโขกเสาให้ตาย พยักหน้าดีมั้ย หรือจะบอกไปตรง ๆ ดี

ทำไมมันเป็นได้ถึงขนาดนี้ กูจะตายห่าอยู่แล้ว มันมองไม่เห็นหรือไง ไอ้ทานมันใจดำมาก โคตรของความใจดำเลย
ไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนแบบนี้อยู่ในโลก

"ใบแค่นี้ ก็ถือไม่ได้เหรอวะ ทำไมถึงได้ยุ่งยากขนาดนี้เนี่ย" เสียงบ่นดังเข้าสู่โสตประสาท และอ้อนก็เข้าใจทุกประโยคดี

ยังไม่ได้ตอบ ยังไม่ได้พูดอะไร แต่จู่ ๆ ร่างกายก็ลอยลิ่วขึ้น และถูกพาเข้าไปในห้องน้ำ

"อะ อะไรวะ" อ้อนเอ่ยถามเสียงละล่ำละลัก เมื่อถูกวางลงประคองให้ยืนได้ในห้องน้ำ ยืนอยู่หน้าชักโคก

"เยี่ยวเด่ะ หรือให้กูช่วยจับด้วย ไม่เซอวิสขนาดนั้นหรอกนะโว้ย แค่ช่วยประคอง แล้วก็ยืนดูมึงเยี่ยวเนี่ย กูก็ว่าเหลือเกินแล้วนะ"

ห๊า พามาเข้าห้องน้ำ แล้วแถมซ้ำยังช่วยประคองให้ยืนอีก ผีเข้าไอ้ทานหรือไงเนี่ย

"เร็วสิวะ รีบ ๆ เยี่ยวซะที จะให้รอนานแค่ไหนเนี่ย" ทานตะวันทำหน้าเซ็ง และหันหน้าหนีไปอีกทาง

"เออก็ได้ รอแป๊บ" เพียงเท่านั้นปฏิบัติการปลดทุกข์ยามเช้าก็เริ่มขึ้น เสียงน้ำหยดลงในชักโคกยาวนาน ตามมาด้วยเสียงถอนใจยาว
ทำให้ทานตะวันต้องหันกลับมามองและอมยิ้ม เอ่ยบอกเสียงเบา จนทำให้อ้อนต้องหันมาจ้องอีกฝ่ายด้วยความหงุดหงิดโมโห

"เฮ้ย ถึงพิการ แต่ของมึงใช้ได้นี่หว่า ไม่อายใครนะแบบนี้"

คำพูดบ้า ๆ บอ ๆ ทำให้อ้อนแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่ายด้วยความโมโห แต่ทานตะวันเห็นเป็นเรื่องสนุก แถมยังหัวเราะเล็กน้อย เหมือนเห็นเป็นเรื่องตลกนักหนา
อ้อนอยากจะกระโดดถีบให้อีกฝ่ายหายบ้า แต่กลับทำอะไรไม่ได้ ไม่ได้คิดอะไรมากนัก แต่โดนแซวแบบนี้เป็นใครก็เขินทั้งนั้น อายเหมือนกันนะโว้ย ดูอะไรของมันวะเนี่ย ไอ้ห่าทาน ตัวเองใหญ่นักเหรอ ถึงได้เที่ยววิจารณ์ของคนอื่น ไอ้บ้าเอ้ย
อ้อนไม่ทันได้พูดอะไรมาก เพราะร่างกายถูกประคองมาที่อ่างล้างหน้าเพื่อจัดการล้างมือให้เรียบร้อย โดยมีทานตะวันคอยช่วยเหลือ

"แป๊บ" คนตัวโตประคองคนที่ตัวเล็กกว่าและเอื้อมมือไปคว้ายาสีฟันมาบีบลงบนแปรง ยัดเยียดใส่มืออีกฝ่ายให้รับเอาไว้

"อ่ะ เร็ว แปรง ๆ เข้า แม่มึงฝากดูแลมึง กูจะดูแลมึงตามที่คุณแม่บอก เอ้า ยังเสือกมองอีก เร็วสิวะ ยืนนาน ๆ กูเมื่อย"

จะขอบใจดีมั้ย หรือว่าจะสมเพชตัวเองดี อ้อนได้แต่หันกลับมาใช้แปรงสีฟันแปรงฟันอย่างรวดเร็ว ล้างหน้าให้เสร็จเรียบร้อย ด้วยมือข้างเดียว
เมื่อหันไปหาคนที่ชอบแกล้งอีกครั้ง ผ้าขนหนูที่พาดอยู่ที่บ่าของทานตะวันถูกส่งมาให้เพื่อใช้สำหรับเช็ดหน้า

ยังไม่ทันจะเช็ดหน้า คนตัวโตกว่าก็ก้มลงและช้อนร่างของอ้อนไว้ในอ้อมแขน อุ้มขึ้นและพากลับมานั่งอยู่บนเตียงที่เดิม ท่ามกลางความประหลาดใจของอ้อน
เพราะไม่คิดว่าคนอย่างทานตะวันจะทำให้ได้

"อย่าคิดว่ากูจะใจดีนะ แต่เพราะมึงไม่สบายกูถึงต้องเอาใจ กูเอาใจได้แค่นี้แหละ หายเร็ว ๆ แล้วกัน กูขี้เกียจเอาใจมึงนาน"

พูดเพียงเท่านั้น แล้วคนผีเข้าผีออกบ้าบอ ก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้อ้อนนั่งอยู่ในห้องเงียบ ๆ คนเดียวพร้อมกับที่สายตาไล่ตามคนบ้า ๆ บอ ๆ คนนั้นอย่างไม่รู้ตัว

สิ่งที่อ้อนกำลังคิด คือ ผีคงเข้าสิงทานตะวัน คุ้มดีคุ้มร้าย เดี๋ยวดีจนน่าใจหาย เดี๋ยวก็ร้ายจนแทบจะทำให้เป็นบ้า

อ้อนหันไปมองที่ประตูอีกครั้ง และมีรอยยิ้มจุดขึ้นน้อย ๆ ที่มุมปาก สิ่งที่ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เจอ กลับได้เจออย่างไม่คาดฝัน

อย่างน้อยเช้านี้ก็ยังไม่เจ็บตัว เพราะฝีมือของทานตะวันแล้ว

เอาน่ะ ยังไงก็ถือว่าฤกษ์ดีแต่เช้า โดนด่าหน่อย ก็ยังดีกว่าเจ็บตัว
ถือว่าวันนี้เป็นวันดีอีกวัน สาธุ ขอให้ผีคนดีเข้าสิงไอ้ทานนาน ๆ หลายวันด้วยเถอะ สิงมันไปจนกว่าจะพอเดินได้แค่นี้ก็นับว่าบุญแล้ว

TBC.....


 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-05-2007 19:54:17
สาธุ ขอให้ผีคนดีเข้าสิงไอ้ทานนาน ๆ หลายวันด้วยเถอะ สิงมันไปจนกว่าจะพอเดินได้แค่นี้ก็นับว่าบุญแล้ว 

สาธุด้วยคน  :call:  :call: ขอให้ผีสิงทานนาน ๆ  :call:  :call:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 02-05-2007 20:17:57
ค่อยๆ รับอีกคนเข้ามาอยู่ในใจแล้ว 
ความรัก ความผูกพัน มันก็มาคู่กันอะนะ 
ช่วยกันเติมเต็มสิ่งที่ขาดไป  ทานกับอ้อน สู้สู้    รอเรย์เสมอจ้า  :5555:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 02-05-2007 20:33:10
มันจริงๆเลยวุ้ย  :laugh3:

ทานเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง แล้ว ดีใจจังเลยยยยย

อ้อนสู้ๆนะ :yeb:

เป็นกำลังใจให้คนโพสนะงับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 02-05-2007 20:56:46
ตาทานเอ้ย... สู้ๆโว้ย .. อยู่คนเดียวมันเหงาเน้อ.. เปิดๆใจบาง  :yeb:
เอาอีก เรย์ เอาอีก
ให้คนอายุ 30 ก่าๆ ไปนอนดิ้นกะพื้นพราดๆ มันไม่ดีนา เสียอาการหมด  :laugh5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มะนาว ที่ 02-05-2007 22:16:06

ชอบจริงๆเล้ยเรื่องนี้อ่ะ....
พี่เรย์เอามาลงเยอะๆจิค้าบ...น้า..น้า....สงสารมะนาวเถอะน้า...
ลงทุนอ้อนซะขนาดนี้... พี่เรย์จะใจร้ายกะน้องๆได้ลงคอเหรอค้าบ....อิอิ.........

เป็นกำลังใจให้น้า............ลงเยอะๆ แล้วลงเร็วๆด้วยล่ะค้าบ......จุ๊บจุ๊บ.....
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 02-05-2007 23:05:26
อ้อนสู้ๆๆ ว่าแต่อ้อนยังไม่เคยเห็นของทานเหรอ เห้นขัดหลังให้ทานบ่อยๆนี่อิๆ :5555:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 03-05-2007 03:24:41
เกลียดทานตะวันที่สุด ชิส์ๆ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 03-05-2007 09:57:32
แต่อีกๆไม่นานอ้อนคงได้เห็นของทานเเล้วมั้งคิกๆ  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-05-2007 12:13:11
พวกชอบกั๊ก

ชิส์

 :pigangry2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 03-05-2007 13:45:14
หงะ

อ่านไปก้อเกลียดทานไปด้วย

แต่อ่านไปอีกก้อชอบทานอีก

เอ๊ะยังไงเนี่ย

งงตัวเองจิง

อิอิ  ยังไงก้อรอคุนบลูต่อน้า   :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 03-05-2007 18:40:58
 :laugh3:  ทานเริ่มจะเป็นคนดี ขึ้นมาแล่ะ
แต่จะดีได้เท่าไหร่ว๊า...
เด๋วก้อมา โหวกเหวกโวยวาย อีกตามเคย เวลาไม่ได้ดั่งใจ อิอิ
น้องอ้อน น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก.....    :-[

 o3  เหอ..เหอ..ไม่ง้อเรย์แล้วล่ะ   หึหึหึ    o7
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 03-05-2007 21:55:15
ผมเป็นโรคเหงาอ่ะ อยากให้เพื่อนมาช่วยกันโพส
 :pandalaugh:
**********************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน จังหวะเผลอ

วันนี้ไอ้ทานมันไม่ไปซ้อม ใช่มันไม่ไปซ้อมจริง ๆ และมันก็กำลังนั่งกระดิกขาดูรายการโทรทัศน์อยู่ เห็นมันเหลือบมามองเป็นพัก ๆ แล้วมันก็หันหน้ากลับไปสนใจกับรายการโทรทัศน์ต่อ
แปลก มันมาแปลก แปลกมากด้วยไม่ใช่แปลกแบบธรรมดา ไอ้ทาน มันเป็นห่าอะไรของมันวะวันนี้

อ้อนนั่งมองหัวเข่าของตัวเอง ก้มมองที่มือที่ยังมีผ้าพันแผลพันแบบหลุดรุ่ย มองหน้าของทานตะวันแล้วก็หันกลับไปมองหัวเข่าของตัวเอง ก้มลงมองที่มือ
แล้วก็หันไปมองหน้าของทานตะวันอีกหลาย ๆ ครั้ง ซ้ำไปซ้ำมาอย่างนั้น
ส่วนไอ้ตัวต้นเหตุของการที่ทำให้อ้อนเกิดอาการมึนงงแต่เช้า กำลังเพลิดเพลินกับรายการ แฟชั่นโชว์ที่มีสาว ๆ เดินไปเดินมาตลอดเวลา
บางทีเห็นมันนั่งยิ้ม บางทีมันก็ทำหน้าเอ๋อ ๆ บางครั้ง ก็ตาเยิ้ม และบางครั้ง ก็หันมามองหน้าของอ้อนเป็นพัก ๆ แล้วก็หันไปยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้าอีก

"เฮ้ย เอากูมาไว้เนี่ย เพื่อให้กูนั่งมองหน้ามึงเหรอ จะให้กูทำอะไรให้มึงได้มั่งวะ รีบ ๆ บอกมาเหอะ กูทำตัวไม่ถูก"

เป็นอ้อน ที่อดรนทนไม่ไหว ต้องพูดออกมา

ไม่เข้าใจว่าไอ้ทานตะวันบ้า มันอุ้มพามานั่งที่โซฟานอกห้องนอนทำไม ผีเข้าจริง ๆ ขับรถไปซื้อโจ๊กมาให้กินแต่เช้า ป้อนข้าวป้อนน้ำ
แล้วก็พามานั่งดูรายการโทรทัศน์ด้วย โดยที่วันนี้มันยังไม่ออกฤทธิ์ออกเดชอะไรเลยสักอย่างนอกจาก แหกปากโวยวาย เรื่องที่โจ๊กในชามร้อน
แล้วกินเข้าไปแทบลวกปาก เอ้า ก็มึงโง่เองจะไปโทษถุงโจ๊กมันก็ใช่ที่ ไอ้นี่ประสาทแต่วัน บ้าอะไรของมันนักหนาวะ

นั่นแหละอาการผีบ้าแต่เช้าของคนที่ใจจดใจจ่อกับการดูรายการแฟชั่นโชว์ ไม่นับรวมเรื่องบ่นนั่นบ่นนี่ เรื่องที่ขับรถออกไปหน้าปากซอยแล้วหมาตัดหน้ารถ เรื่องที่เดินเข้าบ้านแล้วอากาศร้อน
สารพัดสารเพ ในที่สุดก็ได้รู้ ไอ้ห่าทาน มันเป็นคนที่โคตรขี้บ่นเลย บ่นนั่นบ่นนี่ ดีแต่โวยวายทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง ไร้สาระสิ้นดี
นอกจากไม่โวยวายเรื่องเตะบอลแล้ว มีเรื่องไหนอีกมั้ย ที่ทำให้ไอ้ทานไม่แหกปากได้ สงสัยว่าคงจะไม่มีแน่ ๆ

"เฮ้ย มึงดูกางเกงในดิ ไอ้เหี้ยหุ่นมันล่ำว่ะ กูซื้อมาใส่เล่นเสักตัวสองตัวดีมั้ย เอามาใส่เล่น หุ่นกูสู้มันได้สบาย ๆ ชัวร์"

นั่นก็อีกหนึ่งอาการ เขาเรียกอาการหลงตัวเอง อาการยังไม่รุนแรงเท่าไหร่ แต่หนักกว่านั้น อาการเริ่มมาอีกแล้ว เมื่อเริ่มเปลี่ยนไปดูช่องกีฬา ไอ้บ้าทานก็ไปคว้านั่นคว้านี่มาเล่น
ประกอบการชมกีฬา ฟุตบอล มันก็เอาลูกฟุตบอลออมาเดาะเล่น ตามองโทรทัศน์
พอถึงคราวเบสบอล มันก็เอาไม้เบสบอลออกมาหวดเล่น จะโดนหัวอยู่ร่อมมะร่อ แต่ต้องปล่อยมันไป เพราะที่นี่บ้านมัน

นี่ถ้ามีรายการยิมนาสติกลีลามันจะไปคว้าคทากับริบบิ้นมาด้วยมั้ยวะเนี่ย

และเมื่อถึงรายการยิมนาสติกลีลาจริง ๆ ทานตะวันก็ทำให้อ้อนถึงกับอ้าปากค้างได้

"เฮ้ยยยยยยยยยยย ไอ้เป๋ กูมีนะโว้ยริบบิ้นกับคทาเดี๋ยวกูไปหยิบมาให้ดู นี่ไง นี่ไง กูเก็บใส่กล่องไว้อย่างดีเลยนะโว้ย"

เฮ้ย เอาจริงดิ มีจริงดิ ไอ้ทานมันต้องเป็นบ้าแน่ ๆ ทำบ้าอะไรของมันวะนั่น อ้อนหน้านิ่วคิ้วขมวดมองคนบ้าอย่างปลง ๆ
ไอ้ทานมันเข้าขั้นบ้า บ้าหนักเลยล่ะ อย่างกับเด็กได้ของเล่น แล้วก็เอาของเล่นมาอวด นี่มันจะบ้าไปถึงไหนวะเนี่ย

สาว ๆ นักยิมนาสติกกำลังวาดลีลาอย่างสวยงาม ส่วนทานตะวันกำลังสะบัดริบบิ้นไปมา อย่างสนุก มองไปมองมาเหมือนเด็กตัวโต ๆ กำลังทำเรื่องบ้าๆ บอ ๆ อยู่
ภาพของคนที่ลงไปนั่งบนพื้นและแกะริบบิ้นที่พันหัวพันคอ มั่วไปหมด จนแกะไม่ออก แต่ดวงตายังมองไปที่หน้าจอโทรทัศน์อยู่
ทำให้อ้อน ถึงกับหัวเราะออกมาเบา ๆ ด้วยความขำ เออนะ ไอ้ทานหนอไอ้ทาน เป็นไปได้ขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อ

คิดแล้วก็ขำ ขำแล้วก็มองใบหน้าหล่อเหลาของคนตัวโตพร้อมกับต้องปลง

ไอ้ห่านี่ สาว ๆ ชอบมันเยอะ เห็นมายืนกรี๊ด ๆ กันข้างสนาม ขอบงขอเบอร์ก็เยอะ แต่โดนไอ้ทานด่าเข้าให้ เลยหายกันไปหมด สาเหตุของการเดินไปด่าผู้หญิง
เพราะมันหาว่าสาว ๆ ชอบมาส่งเสียงดังหนวกหูน่ารำคาญ แถมซ้ำมันยังไม่รู้ตัวเองว่ามันมีสเน่ห์แบบโง่ๆ อย่างไม่น่าเชื่ออีก ก็หน้าอย่างนี้ นักกีฬาขนาดนี้ ที่บ้านยังมีฐานะอีก
เป็นใครก็ต้องสนทั้งนั้น แต่ไม่มีใครรู้ ว่ามันมีพฤติกรรมเพี้ยน ๆ แบบนี้ ขืนผู้หญิงคนไหนได้มันไปเป็นแฟน คงนึกว่าได้ลูกชายเอาแต่ใจไปเลี้ยงแน่ ๆ

"เฮ้ย แกะไม่ออกอ่ะ มึงแกะทีเด่ะ ทำไงเนี่ย มันพันข้างหลังด้วย"

อ้าว ก็แล้วไปทำอีท่าไหนวะนั่น สมควรอยู่หรอกที่มันจะแกะไม่ออก ก็เล่นวาดลวดลายซะขนาดนั้น
คนตัวโตขยับร่างกายมานั่งอยู่บนพื้นหน้าโซฟา และเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของคนที่นั่งยืดขาอยู่ตรงหน้า เพื่อขอความช่วยเหลือ

อ้อนหัวเราะน้อย ๆ แล้วก็เอื้อมมือข้างที่ดีพยายามช่วยแกะให้ สายริบบิ้นพันกันไปพันกันมา แต่ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงในการแกะเท่าไหร่นัก

ใบหน้าขาว ๆ ที่ยังซีดเผือด ริมฝีปากสีซีดที่ลอยผ่านไปผ่านมา อยู่ตรงหน้าของทานตะวัน
ดวงตากลมโตที่มองไปที่สายริบบิ้น รอยยิ้มอ่อนโยนที่ไม่ค่อยได้เห็นมากนัก ทำให้ทานตะวันเผลอมองโดยไม่ได้ตั้งใจ และกระพริบตาปริบ ๆ
นิ่งมองอยู่อย่างนั้น

"อ่ะ เสร็จแล้ว มันพันตรงข้างหลังด้วยแหละเลยแกะยาก" น้ำเสียงทุ้ม ๆ แผ่วเบาเอ่ยบอก พร้อมกับยื่นสายริบบิ้นส่งให้ที่มือของทานตะวัน
ดวงตาคมก้มลงมองที่สายริบบิ้น และเงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง กระพริบตาปริบ ๆ หลายครั้ง พร้อมกับขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ


"เวลายิ้ม ดีกว่าเวลาทำหน้าเฉย หรือทำหน้าบึ้ง มึงยิ้มนาน ๆ ซิเดี๋ยวกูลดหนี้ให้"

ห๊า

ยิ้มนาน ๆ

ดีกว่าทำหน้าบึ้ง

ถ้ายิ้มแล้วจะลดหนี้ให้

เอ่ะ หรือว่าหูจะฝาด อะไรนะ อีกที ฟังไม่ถนัด

"จริงเหรอ ถ้ากูยิ้มเยอะ ๆ จะลดหนี้ให้จริงอ่ะ อย่ามาหลอกเลย ลดให้จริงก็ตลกสิ ใครเชื่อก็บ้าแล้ว"

เป็นคำพูดของอ้อนที่ทำให้ทานตะวันเกิดอาการไม่พอใจขึ้นมา

ทำไมวะ ถ้าเชื่อก็บ้าเหรอ คนอย่างกูนี่ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือเลยหรือไง ถึงขนาดต้องพูดเล่นหรือพูดโกหกเลยเหรอ ดูถูกมากเกินไปแล้วนะเว้ย
ไอ้อ้อน เห็นกูเอาใจหน่อย เลยปากดีพูดจาอย่างนี้ใช่มั้ยวะ ต้องให้มันรู้ฤทธิ์หน่อยแล้วมั้งแบบนี้ ดีกับมันมาก ๆ ชักเหลิง

คนตัวโตลุกพรวดพราดขึ้นยืน โยนม้วนริบบิ้นทิ้งลงบนโต๊ะแล้วเดินไปปิดรายการโทรทัศน์ ก่อนจะมาหยุดยืนจ้องหน้าของอ้อนพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น
หน้าตายุ่งเหยิงขึ้นมาแบบไม่ต้องให้รอ

เอาแล้วไงล่ะ ผีเข้าไอ้ทานอีกแล้ว คราวนี้มันจะบ้าเรื่องอะไรอีกวะเนี่ย ซวยอีกแล้วกู ไปพูดอะไรไม่เข้าหูอีกแล้ววะเนี่ย

"มึงเป็นแฟนกูนะ ทำไม กะอีแค่ยิ้มนี่มันจะตายหรือไง มึงอยากลองดีเหรอห๊า ไอ้เป๋ อยากลองดีหรือไง"

กูเปล่า กูยังไม่ได้อยากลองดีอะไรกะมึงเลยเนี่ย กูนั่งอยู่เฉย ๆ เลยนะ เป็นเหี้ยอะไรอีกล่ะ

"จำไว้เลยนะมึง มึงจำไว้เลย มึงอ่ะเป็นหนี้กู ถ้าไม่อยากให้กูไปบอกแม่มึงนะ มึงอย่าพูดไม่เข้าหูกูอีกจำไว้เลย"

พูดไม่พูดเปล่า แถมนิ้วยังจิ้มเข้าที่กลางหน้าผากของอ้อนอีก กดจนอีกฝ่ายหน้าหงาย แล้วก็ยืนทำหน้าโมโหใส่ จนอ้อนที่กำลังยิ้มๆ กลายเป็นหน้าบึ้ง

เออ ลืม อุตส่าห์นึกว่าวันนี้ไอ้ทานจะเป็นคนดีสักวัน แต่ที่ไหนได้ มันก็เป็นพวกบ้าบอสติเสีย ชอบหาเรื่องอีกเหมือนเดิมนั่นแหละ
เอาอะไรกับมันล่ะ คนสติแตกแบบนี้

"แล้วก็นะ" พูดแล้วทานตะวันที่หน้าบู้บี้ เพราะอารมณ์โมโห ก็ย่อกายลงและนั่งลงตรงหน้าของอ้อน ก่อนจะเอียงแก้มให้กับคนที่นั่งเงียบ พร้อมกับใช้นิ้วจิ้มไปที่ข้างแก้มของตัวเอง

เอ่ยบอกออกมาทั้งที่อารมณ์ยังครุกรุ่นอยู่

"หอมแก้มกูเลย เร็ว ๆ" อ่ะนั่นไง ไอ้เรื่องสติเสียขอให้บอก ไอ้ทานมันทำได้เสมออยู่แล้ว นี่จะทำอะไรของมันอีกวะเนี่ย

"เร็ว เร็ว เร็ว เร็ว" เสียงที่เร่งเร้าอยู่ในทีทำให้อ้อนต้องขยับกายเข้ามาใกล้ ๆ และเตรียมจรดปลายจมูกเข้าที่ข้างแก้มของทานตะวันอย่างปลง ๆ
อะไรล่ะคราวนี้ กดให้ดมเสื้อเน่า ๆ หรือว่าจะทำอะไรอีก เชื่อใจอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ กับไอ้คนสติแตกคนนี้

ปลายจมูกกำลังจะโน้มลงมาหา แต่ทานตะวันกลับหันหน้ากลับมาอีกครั้งเหมือนจงใจให้เป็นแบบนี้

ริมฝีปากสีสดแตะสัมผัสเบา ๆ กับริมฝีปากซีดขาว

ก่อนจะผละออกห่างอย่างรวดเร็ว

อ้อนรีบปิดปากตัวเองเอาไว้แน่น ดวงตากลมโต เบิกกว้างขึ้น เพราะเพิ่งรู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ฝ่ามือขัดถูไปที่ริมฝีปากของตัวเองเหมือนคนที่กำลังตกใจอย่างถึงที่สุด

"ไอ้ ไอ้ ไอ้ วิปริต อี๋ เหี้ยเหอะ แม่ง แหวะ กูอยากจะอ้วก นี่มึงเล่นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ไอ้เหี้ยเอ้ย ถุย ถุย ถุย อุบาทว์ชิบหายเลยโว้ย"

อ้อนที่ทำหน้าเฉย นิ่งเงียบ ด่าออกมาเป็นชุด และขัดถูริมฝีปากของตัวเองเป็นการใหญ่

ส่วนไอ้คนก่อเหตุ กำลังยิ้มแป้น และหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ที่ได้เห็นท่าทางของอ้อนแบบนี้

คนตัวโต ยืนขึ้นและหัวเราะเสียงดังลั่น อย่างสนุกสนาน ส่วนอ้อน เอาแต่เช็ดปากของตัวเองด้วยความรู้สึกโมโห หันไปมองคนบ้าบอตาขวาง แล้วยังด่าต่อไปไม่เลิก

"สบายใจเว้ย สบายใจ สบายใจ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

ร่างสูงใหญ่ เดินหัวเราะร่า เข้าไปในครัว ทิ้งให้อ้อนนั่งขัดปากของตัวเองและยังด่าตามมาอีกหลายชุดชนิดไม่กลัวตาย

ส่วนทานตะวันเดินมาหยุดในครัว ยืนหัวเราะเบา ๆ เงียบ ๆ คนเดียว นัยน์ตาคมที่เคยไร้สีสันครั้งนี้ดวงตาคู่นั้นพราวระยับ และยกมือขึ้นแตะสัมผัสที่ริมฝีปากของตัวเอง
นึกถึงใบหน้าของอีกฝ่ายแล้วยิ่งขำ จนต้องหัวเราะออกมา และแอบชะโงกหน้าไปมองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาห่างออกไป

"ถ้ารู้ว่าจุ๊บมันตอนตื่นแล้วสนุกขนาดนี้ รู้งี้ทำไปนานแล้ว ตลกว่ะ ขำดีจริง ๆ "

ทานตะวันเอ่ยบอกกับตัวเองเสียงเบา และยังหัวเราะไม่เลิก

ไอ้อ้อนเหรอ ไอ้อ้อน ไอ้อ้อน มึงนี่มันน่าสนุกจริงๆ เลยว่ะ ตลกดีโว้ยยยยยยยยย

TBC.....
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 03-05-2007 22:08:47
 :laugh5:  ทานชอบแกล้งคนเหมือนเราเลยแฮะ 

อ่านะเรย์เหงาเหรอจ๊ะ มะน่าเชื่อเลยนะ  :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 03-05-2007 22:12:45
ทานใกล้เป็นคนดีแล้วชะมะงับ
เร็วๆ หน่อยนะคับ เห็นอ้อนถูกรังแกแล้วปวดใจ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-05-2007 22:15:38
หุหุ ตอนนี้ทานน่ารักมาก  :-[  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: bbboy ที่ 03-05-2007 22:20:42
ชอบครับ มาต่อไวๆนะครับ :haun4:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 03-05-2007 23:07:03
ทานตะวันอ่ะนิสัยไม่ดี ชิส์ๆ เกลียดทานตะวัน :beat: :จุ๊บๆ: :beat: :จุ๊บๆ:

จุ๊บบ่อยๆ เดี๋ยวเกิดติดใจจนขาดไม่ได้แล้วจะรู้สึก : 222222:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 03-05-2007 23:08:52
 :laugh3: :laugh3:  วันนี้ทานทำถูกใจผมเจงๆเลย  ว่าแล้วก็เชียร์ซะหน่อย : 222222: : 222222:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 03-05-2007 23:42:31
ทานนี่ ผีเข้าผีออกจิงๆ   555+ :pandalaugh:      สงสัยอีกไม่นานจากหอมแก้ม  คงต้องเปลี่ยนมาเป็น จุ๊บกัน ทุกวันแน่ๆ   :kikkik:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 04-05-2007 00:14:59
จุ๊บๆๆ :loveu:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 04-05-2007 07:54:55
ถ้าเข้าใจกันก้อคงจาดีนะ...

อิอิ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 04-05-2007 11:01:56
ร้ายจริงๆเลยนะ คุณทานนนนนนนนนน  :laugh3:


ชอบตอนนี้ที่สุดเลยนะงับ ทานได้ใจอย่างแรง o7

พ่อบ้านงับ สะกดคำว่า" เหงา" เป็นด้วยหรอ งับ  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-05-2007 15:55:39
จุ๊บกันแล้นนนนน

 :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 05-05-2007 13:04:05
ทานจะเเกล้งอะไรอ้อนต่อน้า หึๆ  o4
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 06-05-2007 12:54:10
น่ารักมั่กๆๆ
อยากอ่านแบบนี้อีกหน่อยอะ  อ่านแล้วมันลอยตาม  o18

รอเรย์จ้า  o15
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เป็นอะไร โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 06-05-2007 18:19:58
คนเราต่างมีมุมของตัวเอง จะมีสักกี่คนที่มองเห็นมุมนั้นของเรา
 o7
*******************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เป็นอะไร



--------------------------------------------------------------------------------





“แต่ว่าแม่ครับ แม่ครับ แม่ แม่” ทานตะวันกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์เสียงดัง แล้วยืนนิ่งเงียบไปเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดไปแล้ว มือยังคงกำหูโทรศัพท์เอาไว้แน่น และกระแทกหูโทรศัพท์เสียงดังโครมคราม
เดินกระแทกเท้าปึงปัง เจอเก้าอี้ เตะเก้าอี้ เจอหนังสือหล่นอยู่ก็เตะจนหนังสือกระเด็นไปคนละทิศละทาง

“โธ่โว้ยยยย” เสียงแหกปากโวยวายดังลั่น และเสียงของหล่นโครมครามทำให้อ้อนรู้ว่าผีเข้าทานตะวันอีกแล้ว และอีกไม่กี่อึดใจไอ้บ้านั่นคงมาพาลอารมณ์เสียลงที่อ้อนอีกเป็นแน่

“ไอ้เป๋ ไอ้เป๋ นั่งมองทำห่าอะไร โอ้ย เห็นหน้ามึงแล้วกูรำคาญโว้ย เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อโว้ยยยยยยยยยยยยย”

ปากตะโกนว่าเบื่อ แต่สุดท้ายก็ทิ้งกายลงนั่งบนโซฟาข้าง ๆ อ้อนขยับกายออกห่าง ให้มีพื้นที่ว่างพอสำหรับให้ทานตะวันนั่งได้สบาย ๆ ร่างนั้นยกขาขึ้นทั้งสองข้างและนั่งชันเข่าอยู่บนโซฟา นัยน์ตาที่บ่งบอกอารมณ์พลุ่งพล่าน เปลี่ยนเป็นหม่นหมอง และคนตัวโตที่ทำท่าโมโหเมื่อไม่กี่นาทีก่อน นิ่งเงียบไปแล้ว ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย

เป็นอะไรของมันอีกวะ ท่าทางไม่ค่อยดี เดี๋ยวจะลุกขึ้นมาทำอะไรอีกก็ไม่รู้ ยิ่งไว้ใจไม่ค่อยได้อยู่ น่ากลัวชิบหายคนแบบไอ้ทานนี่เดาอารมณ์ยากชะมัด มันจะคลั่งแล้วลุกขึ้นมาบีบคอวันไหนก็ไม่รู้ จะตายห่าซะก่อนที่จะใช้หนี้หมดหรือเปล่าวะกู คิดผิดหรือเปล่าว๊า

อ้อนแอบเหลือบสายตามองคนที่ซบใบหน้าอยู่บนหัวเข่า ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาพูดอะไรสักคำ แล้วก็อยากจะหายเจ็บเร็ว ๆ จะได้วิ่งหนีไปตั้งหลัก ไม่ต้องมานั่งทนทุกข์ในบรรยากาศอึมครึมแบบนี้

ร่างกายขยับเล็กน้อย ดวงตามองหาไม้ค้ำยัน และกำลังจะพยายามลุกขึ้นยืน แต่เพราะการเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้คนที่นั่งซุกหน้าอยู่บนหัวเข่า ต้องเงยหน้าขึ้น และหันไปมอง นัยน์ตาที่เคยเปล่งประกายยามเมื่อหัวเราะ หรือโมโห เปลี่ยนเป็นหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด คนตัวโตไม่พูดอะไรอีก ไม่มองไม่สนใจด้วยซ้ำว่าตอนนี้อ้อนจะพยายามลุกขึ้นยืนเพื่อไปไหน หรือจะทำอะไร

ทานตะวันหันหน้ากลับไปซบใบหน้าลงบนหัวเข่าของตัวเองอีกครั้ง และนิ่งเงียบไม่พูดหรือแสดงท่าทางอะไรอีกเลย

เป็นนานที่อ้อนนิ่งเงียบ เมื่อสบตากับดวงตาคู่นั้น เหมือนถูกตรึงให้หยุดนิ่ง และไม่กล้าขยับร่างกายไปไหนอีก

เศร้า นัยน์ตาเศร้า ๆ หม่นหมอง ทำไมถึงทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว ทุกครั้งจะเหม่อแค่เวลาที่อาบน้ำ หรือก่อนนอน แต่ตอนนี้ ทำไมถึงได้..............................

ไม่ทันได้คิดอะไรอีก ร่างที่นั่งอยู่เคียงข้างก็ลุกขึ้นยืน และคว้าหมอนอิงใบเล็ก ๆ มากอด เดินไปทิ้งกายลงนั่งที่ฝั่งตรงข้าม ยืดขายาวเหยียด และกอดหมอนอิงเอาไว้แน่น เอนศรีษะให้อยู่บนโซฟา และใช้นิ้วแกว่งพวงกุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะไปเรื่อย ๆ ทั้งที่ยังหลับตา แต่หัวคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากัน

อ้อนนั่งมองจากฝั่งตรงข้าม และไม่ได้เอ่ยปากถาม หรือพูดคุยกับทานตะวันอีกเลย แต่ความรู้สึกที่แผ่ซ่านออกมาจากเจ้าของร่างทำให้ต้องเอ่ยถาม เพราะเหมือนกับว่า ถ้าไม่ถามอะไรออกไป คงไม่สบายใจแน่ ๆ
ทั้งที่ทานตะวันร้ายกาจขนาดนั้น แต่เห็นแบบนี้ เป็นใครก็อดสงสารไม่ได้





“ไอ้....ทานคือว่านะ”

อ้อนกำลังจะพูด แต่อีกฝ่ายยกมือห้ามเอาไว้ และยิ่งขมวดคิ้วมุ่นหนักเข้าไปอีก

“ห้ามถาม ห้ามพูด ห้ามโวยวาย ถ้ากูไม่ได้สั่ง หุบปากมึงไปเลย”

นั่นเป็นกฎขั้นพื้นฐานที่อ้อนต้องท่องจำเอาไว้ให้ขึ้นใจ ไม่ว่ายังไง คนบ้าบออย่างทานตะวันก็ไม่ยอมให้อ้อนเปลี่ยนสถานะจากคนใช้ ของเล่น หรือคนยกของ กลายไปเป็นเพื่อน หรืออย่างอื่นที่มากกว่านั้น

เพียงคำพูดเดียว ที่สั่งห้าม ทำให้อ้อนหุบปากเงียบ ไม่ได้พูดอะไรอีก ทั้งที่สายตายังจับจ้องไปที่ใบหน้าคม ที่หลับตาเงียบ ๆ และแกว่งพวงกุญแจเล่น อย่างใช้ความคิด

ถ้า..................

ถ้าไอ้ทานมัน................

ถ้าเพียงแต่มันจะเป็นคนดีกว่านี้สักนิด ...................

ถ้ามันจะหัดยอมรับหรือสนใจความรู้สึกของคนอื่นบ้าง

ถ้าหากว่า มันจะเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่ใช่ไอ้ทานบ้า ที่ไม่สนใจใครเลย มันจะเป็นยังไงนะ

ถ้าหากว่า มันไม่เอะอะโวยวาย

ถ้าหากว่ามัน จะหัดยิ้มหรือหัวเราะกับใครมาก ๆ ถ้าหากว่ามัน...............

ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอคิดเรื่องของอีกฝ่ายไปได้ยังไง
แต่ก่อนที่จะคิดอะไรไปมากกว่านี้ ดวงตากลับเหลือบไปเห็น หยดน้ำใส ๆ ที่คลออยู่ที่หน่วยตาของอีกฝ่าย และรินหยดลงที่ข้างแก้ม แต่เจ้าตัวรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งอย่างรวดเร็ว หากใครไม่สังเกตอาการอยู่ตลอดเวลาก็คงไม่เห็น

แต่นี่อ้อนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม และจ้องมองกิริยาอาการของอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา ภาพตรงหน้าจึงไม่สามารถหลุดรอดสายตาไปได้

ความรู้สึกแรก คือปวดหนึบที่หัวใจอย่างแรง มันไหววูบและโอนเอนอย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่ว่าใครก็ตาม ถ้ามีใครมาร้องไห้ให้เห็นต่อหน้า จะทำเป็นเย็นชาหรือไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงไม่ได้ และก็ไม่เว้นแม้แต่คนบ้าอย่างทานตะวัน ที่ทำให้หัวใจของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามไหววูบโอนเอนอย่างไม่น่าเชื่อ

“ร้อนโว้ยยยยยยยยย อาบน้ำดีกว่า”

ทานตะวันที่ไม่สามารถนิ่งเฉยได้นาน ๆ ลุกพรวดพราดขึ้นและพูดเสียงดัง เดินเข้าห้องแล้ว ทิ้งให้อ้อนนั่งนิ่งเงียบอยู่คนเดียวบนโซฟาหน้าห้อง

สายตาของอ้อนไล่ตามทานตะวันไปแล้วโดยไม่รู้สึกตัว

แต่ทานตะวันไม่ได้สนใจมองด้วยซ้ำ

เดินเข้าห้องแล้วคนที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองเหมือนไม่มีที่อยู่ก็ทิ้งกายลงนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ซุกซบใบหน้าลงที่หมอนใบใหญ่

ฝ่ามือกำแน่นไปที่ผ้าปูเตียง เจ็บร้าวไปหมด และรู้สึกเหมือนมีอะไรหล่นทับร่างกายจนไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายไปไหนได้
ร่างกายสั่นไหวเพราะแรงสะอื้นไห้

หัวใจอ้อนล้า

ทานตะวันคนตัวโต ที่เอะอะโวยวาย ทำแต่เรื่องบ้าบอ กำลังร้องไห้ อยู่คนเดียวเงียบ ๆ ร้องไห้เพราะความเหงา

ร้องไห้โดยที่คิดว่า ไม่มีใคร ๆ มาสนใจตัวเองเลยสักคน

TBC….

 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 06-05-2007 18:44:45
 :try2: :try2: สงสารทานจังคับ  อย่างนี้อ้อนต้องไปปลอบอะป่าวครับเนี่ยะ  ยิ่งเดี้ยงๆอยู่ด้วย o6 o6
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-05-2007 19:39:43
หุหุ รู้สึกว่าช่วงนี้ทานกำลังเรียกคะแนนกับแฟน ๆ อยู่นะ  :o9:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 06-05-2007 22:00:59
ทานผู้น่าสงสาร อย่าร้องนะเด็กดี :give2: :give2:

ขอบคุณที่มาต่อให้นะงับ o15
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 07-05-2007 02:12:41
สงสัยถ้าอ้อนรู้เรื่องทานแล้วให้กำลังใจทาน  ทานคงขาดอ้อนไม่ได้แน่เลย
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 07-05-2007 09:46:31
ทานน่าสงสารจัง  :sad2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 07-05-2007 21:44:28
อ้อนอยากไปปลอบใจทานจะแย่อยู่แล้วใช่มั๊ยครับ แต่เดินไปไม่ได้
อึดอัดแทนจัง เมื่อไหร่จะหายเน้อ

 o7
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 08-05-2007 00:55:10
โถ . . . ทานตะวันของผม :เศร้า1:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 08-05-2007 02:41:07
^
^
อ้าว ไปแย่งมาจากอ้อนแล้วหรอคับ  :o
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 08-05-2007 08:36:15
เมื่อไหร่ทั้งสองคนนี้จายอมพูดเรื่องที่คิดไว้ออกมาซะทีนะ

เก็บไว้แล้วก้อไม่เข้าใจกันซะที  เฮ้ออออ  :sad3:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-05-2007 18:01:42
อ่านแล้ว ปวดใจจังเลยคร้าบบบบบ

 :o7:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 08-05-2007 19:33:08
ตกลงเพื่อนๆสงสารทานกันแว้วเหยอ
 :o10:
ความรู้สึกช้านะ คิกคิก
 :laugh3:
บางคนบางมุมมองทำอะไรลงไป ก็ต่างมีเหตุผลของตัวเอง ขอแค่ใครสักคนที่เข้าใจ
 :o7:
*********************************************************************
เพราะเรากัดกัน(ผูกพัน) ตอน หนูน้อยแก้มแดง



ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน ไม่รู้ว่เผลอหลับไปเมื่อไหร่แต่สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีทานตะวันก็พบว่า มีผ้าห่มคลุมร่างของตัวเองอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่ามาได้ยังไง



ดวงตาคมเหลือบไปมองคนที่นิ่งเงียบอยู่ข้างเตียง

ทานตะวันนิ่งมองอยู่อย่างนั้นและขมวดคิ้วมุ่น



ไอ้เป๋



มันมาได้ยังไง



ขามันยืนได้ที่ไหนกัน มันมาได้ยังไงวะ



ดวงตาคมเหลือบสายตามองดูที่ไม้ค้ำยันแล้วก็พบว่ามันวางอยู่ข้าง ๆ คนที่หลับสนิทนิ่งเงียบ



อะไรวะ ไอ้ห่าอ้อน มาตอนไหนกันวะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย แล้วนี่มัน มันเห็น มันเห็น กู กู ร้องไห้หรือเปล่าวะ



ไม่หรอกมั้ง ไม่มีทางหรอก ใครมันจะร้องไห้ให้ไอ้เป๋เห็นกันล่ะ เห็นก็ตลกตายเลยสิ ไม่มีทางหรอกที่จะให้มันเห็น ตลกน่ะ

ร่างสูงใหญ่หยัดกายลุกขึ้นนั่ง และเตรียมจะเดินลงจากเตียงนอน เพื่อจัดการล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นขึ้นบ้างหลังจากที่รู้สึกว่าก่อนจะเผลอหลับไป หัวใจมันอ่อนล้าพิกล แต่ตอนนี้ก็ตื่นขึ้นมาแล้ว เป็นอย่างนี้บ่อยๆ ความรู้สึกเหนื่อย เหนื่อยใจ เหนื่อยมาก ๆ แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาอยู่ตัวคนเดียวอีกเหมือนเดิม เป็นคน ๆ เดียวในโลกที่ไม่มีใครต้องการ



สมองคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไหลเรื่อย และย้อนกลับไปในช่วงวัยเด็ก



ไม่มีความสุขเลย

ไม่มีอะไรทั้งนั้น

จำได้แค่เพียง พ่อชอบทะเลาะกับแม่ แล้วพ่อก็เดินออกจากบ้านไป แม่วิ่งไล่ตามไปง้อพ่อ แล้วก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ทะเลาะกันเสียงดังโวยวาย ถ้าพ่อโกรธจัด ๆ ก็ลงไม้ลงมือ แล้วก็พาลมาลงไม้ลงมือกับเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่ไม่รู้เรื่องด้วยเลย แต่ถึงอย่างนั้น ถึงพ่อจะทำอย่างนั้น ถึงจะเลวร้ายขนาดนั้น แต่เมื่อโตขึ้นเมื่อพ่อกับแม่หย่าร้างกัน ทานตะวันจึงเหมือนเด็กที่ต้องนั่งรอความรักจากพ่อแม่ ที่จะเผื่อแผ่เหลือมาให้บ้าง



ทำทุกอย่างให้พ่อแม่ภูมิใจ

ทำทุกอย่างให้พ่อแม่กลับมาร่วมยินดีด้วย.




 


แต่ก็เท่านั้น มันก็แค่เท่านั้น เพราะทุก ๆ วันก็ผ่านไปอย่างช้า ๆ และรับรู้ว่า ในที่สุดตัวเองก็ต้องกลับไปอยู่ตัวคนเดียว เพื่อทำทุกสิ่งทุกอย่างให้พ่อแม่สนใจอีกครั้ง

มันเหงา และเหนื่อยล้ามากแค่ไหนคงไม่มีใครรู้



ทานตะวันทิ้งกายลงนอนอีกครั้ง และยิ้มเยาะตัวเอง



เงินทองมีจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไร

มีทุกอย่างที่อยากได้



แต่ไม่มีความรัก ไม่มีความใส่ใจจากใครสักคนแค่นั้นเอง



อยากจะร้องไห้อีกครั้ง แต่ก็ทำได้แค่เพียงหลับตาลงเงียบ ๆ และยิ้มรับกับสภาพน่าสมเพชของตัวเอง

ได้แต่นอนถอนหายใจยาวเหยียด เหมือนอยากจะปลงกับชีวิต แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้



ร่างของคนที่นั่งหลับอยู่เคียงข้าง ขยับกายเพื่อเปลี่ยนท่าทางการนั่ง แต่ร่างนั้นไม่ได้ปรือตาตื่นขึ้น ยังคงนิ่งเงียบอยู่เหมือนเดิม



ทานตะวันคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

ก่อนจะหันหน้าไปหาคนตัวเล็กกว่าที่หลับสนิท

นิ่งมองเงียบ ๆ ไม่ทันได้คิดอะไร

ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะเผลอมอง



ไม่คิดว่าจะเผลอมองนาน ๆ ขนาดนั้น

ไม่คาดคิดว่าจะนั่งพิจารณาและนึกถึงดวงตากลมโตที่ฉายแววระยับยามเมื่อสบตากัน และในขณะนี้ดวงตาคู่นั่นยังปิดสนิท



ไม่เคยคิดว่าจะเผลอจ้องผิวแก้มเนียนขาว และริมฝีปากที่ยังซีดเผือดของอีกฝ่าย



และก็ไม่เคยคิดว่า เส้นผมที่หล่นลงปรกหน้าผากของคน ๆ นั้น จะน่าสัมผัสแตะต้อง จนต้องเผลอเอื้อมมือเกลี่ยเส้นผมออกจากหน้าผากมนให้กับคนที่ยังไม่รู้สึกตัว



ทานตะวัน ค่อย ๆ ขยับกายเข้ามาใกล้อ้อนแล้วจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายเงียบ ๆ ใช้ปลายคางเกยที่หลังมือที่วางทาบกัน เอียงคอมองหน้าของอ้อน ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมา



"หนูน้อยแก้มแดงเหมือนมะเขือเทศ ตื่นเหอะ ตื่น ๆ ๆ "

ไม่ใช่เสียงดังนักเวลาที่ปลุก แต่เป็นเสียงเรียกเบา ๆ แผ่ว ๆ พร้อมกับที่คนที่ตัวโตอมยิ้มไปด้วยในขณะที่พูด

ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแตะเบา ๆ ที่ผิวแก้มของอีกฝ่ายและเรียกซ้ำ ๆ อย่างนึกสนุก



"หนูน้อยแก้มแดง ตื่นเหอะน่ะ เร็ว เร็วสิวะ"



ทานตะวันอมยิ้มและยังคงใช้ปลายนิ้วจิ้มไปที่แก้มของอ้อนที่ขมวดคิ้วมุ่น เหมือนกำลังเริ่มรู้สึกตัว

เพียงเท่านั้น เด็กชายทานตะวันขี้เหงา ค่อย ๆ กลายร่างเป็นไอ้ทานตัวแสบที่ชอบเอะอะแหกปากโวยวายทันที

ฝ่ามือเอื้อมไปแตะที่ไหล่ของอ้อนที่ค่อย ๆ ปรือตาตื่นขึ้นและเขย่าที่ไหล่ของอีกฝ่ายอย่างแรง จนอ้อนถึงกับสะดุ้งตื่น และหน้าหงิกหน้างอเมื่อรู้ตัวเองถูกแกล้งอีกแล้ว



"เฮ้ย ตื่น ตื่นสิวะ เสือกเข้ามาอยู่ในห้องกูได้ยังไง ใครใช้ให้มึงหลับวะ แม่ง น่าเบื่อ น่ารำคาญ โว้ย หลีกทางโว้ย เกะกะ แม่ง"



เสียงโวยวายมาแล้ว พร้อมกับที่คนตัวโตลุกพรวดพราดขึ้นกระโดดลงจากเตียง เตรียมเดินเข้าห้องน้ำ



อ้อนอยากจะด่าทานบ้าง แต่ก็ได้แต่หุบปากเงียบและขมวดคิ้วมุ่น พยายามระงับความโมโหเอาไว้



กูหนอกู ไม่น่าเล้ย ไม่น่าเห็นใจมันเลย รู้อย่างนี้ไม่ตะเกียกตะกายใช้ไม้ค้ำ พยายามเดินเข้ามาหามันให้เมื่อยหรอก



ไอ้ทานมันก็คือไอ้ทานอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ ไม่มีทางเป็นคนดีกับใครได้หรอก อย่าฝันไปหน่อยเลย ที่เห็นมันร้องไห้น่ะ มันต้องเป็นภาพลวงตาแน่ ๆ คนอย่างไอ้ทานเนี่ย ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าเป็นคนดีได้เลย ไม่น่าโง่สงสารมันเลย ไม่น่าเลยจริง ๆ กู



อ้อนนั่งหน้ายุ่งอยู่ข้างเตียง และหันไปมองคนที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำห่างออกไป



จะแอบด่าไปสักนิด แต่ไม่ทันได้พูด ดวงตากลับไปสบตากับดวงตาคมของคนที่ยืนอยู่ห่างออกไป



อ้าว มันยืนมองกูอยู่นี่หว่า อะไรของมันวะ มองหน้าทำไม

หรือว่ามันคิดจะหาเรื่องอะไรอีก



ไม่มีเสียงพูดเสียงด่าอะไรออกมา นอกจากคนตัวโตรีบก้มหน้าหลบสายตาของอ้อนที่มองมาแล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้อ้อนยกมือขึ้นเกาหัวแกรก ๆ ด้วยความไม่เข้าใจจนต้องบ่นกับตัวเองเงียบ ๆ



"ไอ้ห่านี่จะเอายังไงของมันวะ มองหน้าแล้วยิ้ม แม่งน่ากลัวชิบหายเลย"



อ้อนบ่นนั่นบ่นนี่ไปเรื่อย



ส่วนทานเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับรอยยิ้ม จนต้องพึมพำกับตัวเองเสียงเบา



"หนูน้อยแก้มแดง แม่ง น่ารักดีเว้ย ไอ้เป๋นี่มันก็มีข้อดีเหมือนกันนะเนี่ย เออดีเหมือนกัน ดีที่เอามันมาเป็นคนใช้ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จจะไปเอานิ้วจิ้มแก้มมันเล่นดีกว่าสนุกดี"

TBC....


หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-05-2007 19:57:09
ทานตะวันจึงเหมือนเด็กที่ต้องนั่งรอความรักจากพ่อแม่ ที่จะเผื่อแผ่เหลือมาให้บ้าง   :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 08-05-2007 20:07:37
ทานตะวันเริ่มน่ารักแล้ว อิอิ 

"หนูน้อยแก้มแดงเหมือนมะเขือเทศ ตื่นเหอะ ตื่น ๆ ๆ "   อิอิ    น่าร๊ากกกกก


"หนูน้อยแก้มแดง แม่ง น่ารักดีเว้ย "   หุหุ

มาปูเสื่อ  นอนรออ่านต่อ คริคริ


หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 08-05-2007 20:24:48
น่าร้ากกกจัง อยากรู้จังว่าถ้าทานรู้ว่าวันนั้นที่หลับฝันดีเป็นเพราะอ้อนมากอด ทานจะเป็นไงน๊า o3
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 08-05-2007 20:26:42
ทาน รู้ตัวไหมน๊า ว่าช่วงนี้พูดคำว่า "น่ารัก" บ่อยขึ้นนะ  :impress:


ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o1

หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 08-05-2007 23:28:34
ฮี่ฮี่  หนูน้อยแก้มแดง   ... :-[
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 08-05-2007 23:30:13
 :o9: :o9: เริ่มเหนอารายดีๆของดีฝ่ายแล้วชะมะคับ  o17 o17 เอาใจช่วยแล้วกันครับ :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 09-05-2007 10:19:51
ผมเห็นทานตะวันน่าสงสารแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ไม่งั้นผมกับทานตะวันจะเป็นของกันและกันเหรอ :o9:




 o3 o3 o3 o3 o3
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-05-2007 12:07:57
ผมเห็นทานตะวันน่าสงสารแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ไม่งั้นผมกับทานตะวันจะเป็นของกันและกันเหรอ :o9:




 o3 o3 o3 o3 o3

หมี!!!

หมี!!!

หมีว้อยยยยย

ตื่น ! ตื่นได้แล้ว

ฝันกลางวันอีกแล้ว

เช็๋ดน้ำลายด้วย

 :laugh3: :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 09-05-2007 14:08:33

เมื่อไหร่จามาต่อยะหล่อน
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 09-05-2007 20:06:33
คนขาดความอบอุ่นมาตลอดชีวิต  ถ้าหาใครซักคนที่มาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายได้ 
เป็นคนที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น  ชีวิตมีความหมาย ไม่อ้างว้างอีกต่อไป....แค่นี้ก็มีความสุขแล้วละ

ทานก็โชคดีแล้วไง  ที่มาเจอหนูน้อยแก้มแดง ทานจิตใจอ่อนโยนเข้าถึงคนอื่นขึ้นตั้งเยอะแนะ

รออ่านต่อจ้า เรย์  คิดถึงเรย์จังเยยยย  o15
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 09-05-2007 20:25:58
หนูน้อยแก้มแดงเนี่ย

หลังๆ มานจามีหมาป่าช่ายมั้ยอะ

นี่เรื่องเดียวกันปะเนี่ย   o2

วะ 555+

รีบวิ่งหนีออกไปก่อน  อิอิ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 09-05-2007 22:17:33
shell  ทุกๆคนมักจะมองหาคนที่อยู่ด้วยแล้วอุ่นใจ  o4

VicOSe  ปูเสื่อนานจนหลับยัง  :laugh:

ifwedo  แล้วนอนกอดใคร เป็นไงบ้างหล่ะ คงจะนอนไม่หลับสินะ แถมคนโดนกอดสะดุ้ง อุ้ยไรทิ่ม  :laugh3:

Se7olution  อาจจะรู้สึกมานานหล่ะ พึ่งจะยอมรับ  :interest:

akitt  หง่ะ นายแก้มแดงปะ อยากหอมแก้มแดงๆ  :haun5:

A GE  ยังๆๆ ยังไม่เห็นของดีกัน  :laugh:

السلام عليكم  น่านมาขี่ตู่เฉย เด่วแฟนที่บ้านหยิกหูเอาหรอก  o3

หมูพูห์   คนน่ารักมีไว้มอง  o17

oaw_eang  มาแว้ว อ่านไวดี  o13

มูมู่น้อย  บางทีน้อยคนจะรู้สึกตัวได้เร็วไง ว่าสิ่งที่ทำๆๆลงไปเพื่อหาคนที่เติมเต็ม แต่พอเดินทางไปแล้วลืมเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ เลยหลงๆๆไปเรื่อยจนสายเกินไป

eye_can_tell  อันนี้คงไม่ต้องบอกนะว่าใครจะเป็นหมาป่า  o3




เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน กัด



--------------------------------------------------------------------------------



"เร็วสิวะ เร็ว เร็ว โอ้ย ทำห่าอะไรของมึงอีกวะเนี่ย ไอ้เป๋เอ้ย เร็วสิวะ" เสียงตะโกนของทานตะวัน ทำให้อ้อนที่กำลังพยายามใช้ไม้ค้ำยันพยุงขา แทบอยากจะโยนไม้ใส่หน้าของคนที่เร่งรีบ
เหมือนกำลังจะรีบไปไหน แต่ที่เห็นคือไอ้ทานมันแหกปากเสียงดัง แต่มันแอบอมยิ้ม สนุกมากนักใช่มั้ย สงสัยคงสนุกมากเลยใช่มั้ยวะ ที่ได้แกล้ง ไอ้โรคจิตเอ้ย

"เดินห่าอะไรช้าชิบหาย หรือยังไง หรือจะให้อุ้ม ฝันเหรอมึง คนใช้นะ คนใช้ หัดสำนึกไว้บ้างว่าเป็นคนใช้"

อ่อ ก็ใช่ไง เป็นคนใช้ไง ขนาดกูเจ็บขนาดนี้ เมื่อคืนมึงยังให้กูนั่งนวดขาให้มึงสบายใจเฉิบเลย เลวจริง ๆ สองวัน เดินได้ กูก็เป็นเทวดาแล้ว ไอ้โง่ทานเอ้ย

อ้อนแอบด่าคนที่เดินลิ่ว ๆ หิ้วกระเป๋ายืนเรียกอยู่หน้ารถที่จอดอยู่หน้าบ้าน ไอ้ทานนะไอ้ทาน แม่ง ไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมมันถึงเป็นคนไม่อยู่กับร่องกับรอยได้มากขนาดนี้วะ
เดี๋ยวมันก็ทำตัวเศร้า เดี๋ยวมันก็บ้า เดี๋ยวมันก็ด่า เดี๋ยวมันก็ดี ทำดีด้วย แบบเว่อร์ ๆ แต่พอมันคิดอะไรได้หน่อย มันก็จะออกอาการแหกปากด่าเหมือนเดิม
คนแปลก ๆ แบบนี้ เป็นกัปตันทีมฟุตบอลมหาวิทยลัยได้ไงวะ อ๋อ รู้แล้ว ที่ได้เป็นก็เพราะว่า มันรวย มันบ้าพลัง มันด่าใครได้ แบบไม่ต้องสำนึกนี่เอง มันก็เลยเป็นกัปตันทีมได้
อ้อนคิดอะไรไปเรื่อย ขากำลังจะก้าว ก็พอดีกับมีเสียงโทรศัพท์ดังที่กระเป๋าเสื้อ ทำให้คนที่เดินโขยกเขยกต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แล้วยืนนิ่งคิดเพียงชั่วอึดใจ กดรับสาย และกรอกเสียงลงไป

"มีอะไร ผมบอกว่าค้างบ้านเพื่อนแม่ไม่เข้าใจเหรอ รู้แล้ว เดี๋ยวอีกสามสี่วันจะกลับแล้วกัน มีอะไรอีกมั้ย แม่อย่าเซ้าซี้ได้มั้ย แค่นี้นะครับ"

อ้อนวางสายไปแล้ว และยืนมองโทรศัพท์ในมือนิ่ง ๆ สีหน้าบ่งบอกว่าไม่สบายใจ แต่ก็ทำได้แค่นิ่งคิดอะไรบางอย่างนิดเดียว แล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าเสื้อเหมือนเดิม
ใช้ไม้ค้ำยันช่วยพยุงร่างให้ก้าวเข้ามาหาทานตะวันได้เร็วขึ้น แต่เมื่อมาหยุดยืนตรงหน้า ฝ่ามือใหญ่โต กลับผลักให้ร่างที่เดินมาหยุดยืนนิ่ง ๆ ล้มลงกับพื้น

"ทำอะไรวะ กูเจ็บนะ" อ้อนลงไปนั่งกับพื้น พร้อมอาการเจ็บแปลบที่หัวเข่าอีกครั้ง ไม้ค้ำยันหล่นไปอีกทาง และเมื่อเอื้อมมือจะคว้า
คนตัวโตที่ยืนอยู่ตรงหน้ ก็รีบก้มลงไปคว้าไม้ค้ำยันโยนทิ้งไปอีกทาง อ้อนเงยหน้าขึ้นมองทานตะวัน ที่ยืนท้าวเอว มองหน้าอ้อน พร้อมกับพยักหน้าให้หนึ่งครั้ง
ท่าทางแบบนี้ คงกำลังโมโหอยู่แน่ ๆ หรือว่าจะทำอะไรให้ไม่พอใจอีก
 


"มึงมีปัญหาอะไรกับแม่นักหนา เขารักมึงขนาดนี้ มึงพูดอย่างนี้เหรอ" เป็นเสียงของคนที่อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ที่เอ่ยถามอ้อน

แล้วทำไม ยุ่งอะไรด้วย
เป็นคนใช้ไม่ใช่หรือไง
จะยุ่งเรื่องส่วนตัวทำไม ไม่เกี่ยวกันนี่

อ้อนนิ่งเงียบไปแล้ว และพยายามจะเอื้อมมือหยิบไม้ค้ำเพื่อพยุงร่างกายของตัวเองขึ้น

แต่เมื่อเอื้อมมือใกล้จะถึง คนที่ยืนทำหน้าไม่พอใจ กลับเตะไม้ค้ำให้กระเด็นออกไปที่กลางสนาม

เพียงเท่านี้ อ้อนก็รู้แล้ว ว่าวินาทีต่อไปจะเจอกับอะไรบ้าง พายุลุกใหญ่ พายุของคนที่ไม่มีเหตุผล คราวนี้จะทำอะไรอีก ตบหัว ด่า หรือว่า จับเหวี่ยงเล่น ให้มันเจ็บยิ่งกว่าเก่า
แผลที่กำลังจะหายดี จะยิ่งหนักขึ้นอีกแล้วใช่มั้ย

"กูถาม พูดไม่เป็นเหรอ เป็นใบ้หรือไง" นั่นไงล่ะ หาว่าเป็นใบ้ หาว่าเป็นง่อย หาว่าเป๋ แต่พอจะพูดอะไรขึ้นมา ก็ถูกด่ากลับ แล้วจะให้ทำยังไงจะให้พูดอะไรได้อีก

"ไม่มีอะไรจะพูด" อ้อนนั่งอยู่บนพื้นพูดประโยคสั้น ๆ ออกมา แล้วก็ก้มหน้านิ่ง

ไหนบอกให้เดินเร็ว ๆ รีบนักหนา แล้วเป็นบ้าอะไรถึงได้มาหาเรื่องกันอีก จะเอายังไงกันแน่ ไม่รีบแล้วหรือไง

"กูถามว่า มึงมีปัญหาอะไรกับแม่นักหนา ทำไมมึงพูดจาเหี้ย ๆ แบบนี้ใส่แม่ตัวเอง ไม่ได้ยินหรือไง" คราวนี้จากที่ยืนอยู่ ทานตะวันทรุดกายลงนั่งและกระชากคอเสื้อของอ้อน
ตะคอกถามเสียงดัง แต่อ้อนก็ยังเงียบอีกเหมือนเดิม นั่นยิ่งสร้างความหงุดหงิดโมโหให้กับทานตะวันมากขึ้นอีก

"กูบอกให้พูด พูด พูด พูด พูด พูดสิโว้ย" ทานตะวันตะโกนเสียงก้อง แล้วยิ่งเขย่าคอเสื้อของอ้อน โดยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยิ่งเจ็บมากขึ้นหรือไม่

"ก็แล้วพูดทีไร ก็โดนด่ากลับมาทุกที จะให้พูดอะไรวะ" อ้อนตะคอกกลับมา แล้วก็ทำให้ทานตะวันชะงักนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น ดวงตาคมจ้องกลับที่ดวงตากลมโตที่แฝงด้วยความโกรธไม่แพ้กัน

"จะให้พูดอะไร ห้ามพูด ห้ามถาม ห้ามทุกอย่าง แล้วจะให้พูดอะไร ทีตัวเองล่ะ พอพูดอะไรไม่ถูกใจเข้าหน่อย ก็ทำแบบนี้ ทำให้เจ็บแบบนี้ แล้วจะให้พูดอะไรอีก ถ้าหาเงินมาใช้หนี้ได้ ถ้าทำให้แม่ไม่ต้องมาลำบากใจ
ถ้าไม่กลัวว่ามึงจะไปฟ้องแม่กู กูจะไม่มานั่งให้มึงแกล้งแบบนี้หรอกนะ แล้วตัวเองเป็นอะไรนักหนา เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย เดี๋ยวก็บ้าแหกปากโวยวาย เรื่องส่วนตัวของใครก็ของคนนั้นอย่ามายุ่งได้มั้ย
กูเป็นคนใช้ไม่ใช่เหรอ จะใช้กูทำอะไรล่ะ จะแกล้งกูแค่ไหนล่ะ เอาเลยแล้วกัน แต่อย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัว กูเป็นคนใช้ ไม่ใช่คนในครอบครัวมึง คราวนี้จะทำอะไรอีก ไม่พอใจล่ะสิ เอาเลย จะเตะเล่นจะตบหัว
หรือจะด่ากูอีก ก็เอาเลยเถอะ ยังไงกูก็เป็นขี้ข้ามึงอยู่แล้วนี่ ไม่มีทางไปอยู่แล้ว"

คำพูดยืดยาว คำพูดที่มาพร้อมกับความหงุดหงิดโมโห อ้อนตะโกนด่าอีกฝ่ายกลับไปอย่างนั้น แล้วก็ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมของตัวเองโดยดี คงได้เจออะไรแน่ ๆ หลังจากพูดจบ ไม่อะไรก็อะไรสักอย่าง
คนอย่างไอ้ทาน มันไม่ใช่คนดีนักหรอก ทำใจยอมรับซะก็สิ้นเรื่อง ยังไงก็หนีสภาพนี้ไม่พ้นอยู่ดี

คอเสื้อที่ถูกกระชากถูกปล่อยลงแล้ว พร้อมกับที่คนที่ตะโกนโวยวาย ลุกขึ้นยืน และเดินไปคว้าไม้ค้ำยัน ที่ถูกเตะไปคนละทิศละทาง กลับมารวมกัน และนำไปโยนไว้ที่เบาะด้านหลังรถ
พร้อมทั้งโยนกระเป๋าเสื้อชุดนักกีฬาไปไว้รวมกัน

ทานตะวันเดินกลับมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของคนที่เอาแต่นั่งเงียบ และมองที่หัวเข่าของตัวเองที่มีเลือดซึมออกมา

สิ่งที่อ้อนคิดในตอนนี้ก็คือ เจ็บที่ขา แต่มันก็แค่ เจ็บ
เจ็บ
มันก็แค่เจ็บ

แล้วก็คงไม่หายไปอีกนานเลยล่ะ

คงต้องอยู่ในสภาพนี้ไปอีกนาน ถ้าขืนไอ้ทานมันยังเป็นแบบนี้อยู่ ทำอะไรไม่ได้มันก็ต้องยอมรับสภาพเท่านั้นเอง

ไม่มีคำด่า ไม่มีอารมณ์โมโหโวยวาย ไม่มีพายุพัดพาอีก มีแต่ร่างสูงใหญ่ ที่ทรุดกายลงนั่งและสอดมือเข้าไปที่ใต้หัวเข่าของอ้อน
ช้อนร่างนั้นขึ้น และอุ้มพาเดินมาหยุดที่ประตูรถด้านข้างตรงเบาะผู้โดยสาร

"เปิดประตูซิ" คำสั่งของทานตะวันทำให้อ้อนเอื้อมมือไปเปิดประตูรถให้กว้างขึ้น
แต่ในใจยังอดสงสัยไม่ได้ อีกแล้ว ที่จู่ ๆ ไอ้คนบ้านี่ก็กลายเป็นคนดีขึ้นมา ทั้งที่ไม่กี่นาทีก่อนทำเหมือนคนที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่ในนาทีถัดมา กลับกลายเป็นคนดีขึ้นมาอีก

ดวงตากลมโตเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของคนที่พามาส่งที่รถอีกครั้ง แล้วก็ถอนหายใจเบา ๆ

ส่วนทานตะวันเดินอ้อมมานั่งอีกด้านของรถและขึ้นไปนั่งอยู่บนที่นั่งของคนขับแล้ว

สิ่งที่คนบ้าบอทำหลังจากนั้น คือ นั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ไม่พูดอะไรอีกเลย เหมือนกับว่าตอนนี้คน ๆ นั้นกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
และเป็นความคิดที่อ้อนไม่กล้าถามเลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้ อีกฝ่ายกำลังคิดอะไร

"แผลเลือดออกอีกแล้ว ไปโรงพยาบาลกัน ไปให้หมอเขาดู ว่ามันอักเสบหรือเปล่า"

บ้าน่ะ ประสาทอะไรอีก จะเล่นอะไรอีก จะทำบ้าบออะไรของมันอีกวะเนี่ย

"อะไรนะ" อ้อนหันหน้าไปถามคนที่ผีเข้าผีออกอีกครั้ง ทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน ไปหาหมอเนี่ยนะ บ้าหรือเปล่าวะ

"คาดเข็มขัดด้วย ไม่อยากเสียค่าปรับ หยุดถามหยุดพูดอะไรได้แล้ว หุบปากไปเลย"

อ่อ นี่ไงไอ้ทานตัวจริง ถึงเสียงจะเบาลงแล้ว แต่ก็ยังใช้อำนาจอยู่ดี
 


"แล้วอีกอย่าง เห็นมั้ยว่ามีกระปุกใส่บ้วยอยู่นั่นน่ะ หยิบกินได้ อม ๆ ไปจะได้หุบปากไม่ต้องพูดอะไรอีก รำคาญ"

ถือเป็นคำสั่งหรือเปล่า ที่ให้หยิบบ๊วยหวานในกระปุกขึ้นมากิน ถ้าเป็นคำสั่ง งั้นกินก็ได้ คงไม่ใส่ยาพิษหรอกนะ

อ้อนเอื้อมมือคว้ากระปุกใส่บ๊วยหวานที่วางอยู่หน้ารถ เปิดกระปุก และหยิบเม็ดบ๊วยใส่ปาก ด้วยความไม่เข้าใจ
เออ อร่อยดี แต่มันให้กินทำไม กินเก็ได้วะ กินเข้าไปเผื่อมันจะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง ถ้าจะตายห่าก็ช่างแม่งเถอะ มาถึงขนาดนี้แล้ว

"คงไม่คิดจะกินคนเดียวใช่มั้ย"

ไม่คิดจะกินคนเดียว หมายความว่าไงวะ อ้อนก้มลงมองกระปุกบ๊วยแล้วก็หันไปมองหน้าของคนถามอีกครั้ง
หมายถึงให้ป้อนเหรอ บ้า เอาจริงเหรอ ป้อนเนี่ยนะ

"ป้อนเหรอ" คำถามที่ไม่ค่อยแน่ใจกับสิ่งที่ถาม กลับไปเพิ่มความหงุดหงิดโมโหให้กับคนที่เหยียบคันเร่ง และตบมือเข้าที่พวงมาลัยรถอย่างหงุดหงิดโมโห

"โง่ของแท้ เออ ป้อน เรื่องแค่นี้ไม่น่าควายเลยนะมึง"

อ้าว ก็แล้วกระผมจะทราบเหรอครับว่าท่าน จะให้กระผมป้อน ก็พูดเหมือนกับว่าไม่พอแล้วก็กำลังโมโหขนาดนั้น เป็นใครเขาก็คาดไม่ถึงกันทั้งนั้นแหละ

เม็ดบ๊วยถูกส่งให้ที่ริมฝีปากของคนบ้า
แล้วทานตะวันก็อ้าปากรับเอาไว้ แต่ไม่เพียงแค่รับเม็ดบ๊วยเท่านั้น แต่ยังงับนิ้วของอ้อนด้วย

แล้วก็หัวเราะชอบใจ เมื่ออีกฝ่ายรีบดึงมือกลับ และสะบัดมือเพราะความเจ็บ

"โอ้ย ทำอะไรวะ ไอ้บ้าเอ้ย" เป็นเสียงของอ้อนที่อุทานออกมา และหรุบสายตาลงมองที่ปลายนิ้วของตัวเองที่เป็นรอยฟันของคนที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถวันนี้

อ้อนหันไปมองใบหน้าของทานตะวัน ด้วยความไม่พอใจ และพอดีกับที่ได้สบสายตากับดวงตาคมของอีกฝ่ายที่หันกลับมาพอดิบพอดี

ทานตะวันหันกลับไปแล้ว และสนใจกับการมองถนน
ส่วนอ้อนหันกลับมาก้มมองที่ปลายนิ้วของตัวเอง และยังคงนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

"นิ้วหวานกว่าบ๊วยอีกนี่หว่า นึกว่านิ้วจะเค็ม"

คำพูดที่มาพร้อมกับรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากของทานตะวัน ทำให้อ้อนต้องหันกลับไปมองอีกฝ่ายให้เต็มตาอีกครั้ง

พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงวะ จงใจแกล้งกันชัด ๆ เลยนี่หว่าแบบนี้น่ะ

"มองอยู่นั่น ตาจะถลนแล้วมึง อยากหอมแก้มกูอีกหรือไง"

บ้าแน่ ใครจะอยากหอมแก้มมันวะ เดี๋ยวแม่งก็ทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ ใส่อีก ใครจะไปอยากทำกันล่ะ

"เออ เงียบ ๆ แบบนี้แหละดีแล้ว เป็นแฟนกูพูดมากกูรำคาญ เนอะ.........อ้อน.........."

เป็นครั้งแรก ที่ได้ยินชื่อของตัวเอง แบบไม่มีคำว่า ไอ้ หรือคำสรรพนามแทนตัวแบบที่ทานตะวันเคยใช้เรียกเวลาที่คุยกัน

"อะไรนะ" ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมไอ้ทานถึงได้ทำแบบนี้อีกแล้ว มันชอบทำให้งง กับพฤติกรรมอยู่เสมอ แล้วนี่ล่ะ อะไรของมันอีก

"อ้อนไง ชื่ออ้อนไม่ใช่เหรอเราน่ะ อ้อนก็อ้อน ก็อ้อนไง ทำไม จำชื่อของตัวเองไม่ได้หรือไง"

ชื่อน่ะจำได้ แต่ท่านล่ะ จำชื่อของกระผมได้เมื่อไหร่กัน

"ผมชื่อทานครับ ทานตะวัน ครับอ้อน คราวหลังถ้าจะเรียกชื่อผม เรียกว่า ทานเฉย ๆ ไม่ใช่มึง หรือไอ้ เข้าใจมั้ย ต่อไปผมไม่เรียกเราว่าไอ้เป๋แล้ว เก็ทมั้ย เราน่ะ"

นั่นไง นี่ไง อีกเรื่องแล้ว ที่ทำให้อ้อนตาโต เหมือนไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ฟังกับหู

"เข้าใจมั้ยครับ"

หา เข้าใจมั้ยเหรอ เออ เข้าใจ เข้าใจก็ได้

"ครับเป็นมั้ย" ต้องครับด้วยเหรอ ครับ ก็ ครับวะ

"เออ ครับ"

อ้อนตอบออกไปแล้ว และทานตะวันก็หัวเราะเบา ๆ พอใจกับคำตอบที่ได้รับ และหันไปสนใจกับการขับรถ

ไม่มีคำพูดอะไรอีก ไม่ได้ทะเลาะกัน มีเพียงสายตาที่แอบเหลือบมองกันเป็นระยะ

อ้อนมองนิ้วมือของตัวเอง ทานมองถนน แต่ในไม่ช้า บางครั้งที่เผลอ นัยน์ตาคมจะหันมามองใบหน้าเนียนขาวของอีกฝ่ายนิ่ง ๆ แล้วก็หันไปสนใจกับการขับรถต่อ

อ้อนไม่เข้าใจ

พอ ๆ กับที่ทานตะวันเองก็ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองมันคืออะไรกันแน่

หลายครั้งที่สบตากัน แต่กลับไม่เข้าใจเลยว่าสิ่งที่เผลอสื่อออกมา มันคือความรู้สึกที่อยู่ลึกภายในใจ และอยู่เหนือการควบคุมของตัวเอง
เพราะความรู้สึกเล็กน้อยเหล่านั้น มักจะแสดงออกมาในจังหวะที่เผลอทุกที จนแม้แต่ตัวเองก็ไม่เคยรู้ตัวเลย
ว่าการที่อยู่ใกล้กันนั้นจะเป็นการสร้างสายใยเส้นเล็ก ๆ ขึ้น และพร้อมกับผูกมัดคนสองคนเอาไว้

อ้อนไม่รู้

ทานตะวันไม่รู้

ในเวลานี้ สิ่งที่รู้ คือแม้แต่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ ว่ารู้สึกยังไงกับอีกฝ่ายกันแน่

TBC....
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 09-05-2007 22:30:31
แล้วเราก็ตามติด ติดตาม เหมือนเดิม...
 555 พูดคับกันแล้ววุ้ย...  :like6:
หมดบทตบจูบแล้วเรย์.. โอ้ย ขัดใจ  :sad2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 09-05-2007 22:36:19
 o17 o17  เริ่มจะมีใจผูกพันกันแล้วชะมะคับ  :like6: :like6:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 09-05-2007 23:17:29
ต่อไปก็จะมีหึงมีหวงรึเปล่านี่อิๆ o14
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-05-2007 00:05:30
เริ่มรักกันแล้วใช่มั้ยเนี่ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อยากเห็นนายทานทำตัวน่ารักจังเลย คับ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 10-05-2007 01:25:27
โหยพี่เรย์ ทานตะวันเค้าไม่หยิกหูผมหรอก o16

เห็นมะ เริ่มน่ารักขึ้นเรื่อยๆแล้ว ยังงี้จะไม่ให้เรารักได้ไงว้า . . .  :impress2:

และขอย้ำอีกครั้งนี่คือเรื่องจริงไม่ใช่ความฝัน ชิส์ๆพี่พูห์คนกำลังเคลิ้มเลย o18
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 10-05-2007 01:57:12
 :give2:   เหมือนน้องทาน จะน่ารักขึ้นโนะอิอิ
มีคง  มีคับกันแล้วอ่ะน่าร๊ากกกกกกก :like6:

หวังว่า น้องทานจะน่ารักไปนาน นาน  เนอะ  :o8:

น้องอ้อน จะได้ม่ายโดนดุบ่อยๆเนอะ :o9:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 10-05-2007 02:02:17
อิอิ   ทานเริ่ม เป็นปกติแล้ว - -*             


ต่อ  ไปจะเปงไงน๊า    อยากอ่านต่อแล้ววววว    ใจจะขาด  อ่านไปยิ้มไป อิอิ  :haun5:


น่าร๊ากจิงๆ  ทานตะวัน   :o9: :o9:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 10-05-2007 07:56:32
รักจากความผูกพันธ์งั้นเหรอ...

ค่อยๆ เรียนรู้กันและกัน  อุอุ

อยากมีไว้สักคนจัง

วะ 5555+  :laugh:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 10-05-2007 09:50:40
โอย !!.. ใครก็ได้ช่วยป้อนลูกชิ้นปิ้ง  แล้วทำแก้มใส ๆ ให้ดูทีดิ๊   :o9:

ก็ ..ก็  มันไม่มีบ๊วยหวานอยู่ในรถนิหน่า...   o22
 
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 10-05-2007 11:14:53
อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ จริงๆ
เหมือนเค้าเลยอะตะเอง เอิ๊กๆๆ

 :laugh3:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 10-05-2007 15:15:18
เริ่มเปิดใจให้กันแล้ว ชิมิคับ

คิกคิก

 :o9:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 10-05-2007 17:31:02
 :o

ตามอ่านครับ...

ทาน มันอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ จริงๆ ด้วย
แถมยังโรคจิต ซาดิสซ์ วิปริต

เย้ยยย...

สงสารอ้อนอย่างแรง
อ่านตอนแรกๆ น้ำตาจะไหล T-T

 :sad5:


รอตอนต่อไปฮะ


ป.ล. หวังว่า 'ผีดี' ที่เข้าสิง 'ทาน' จะไม่ออกไปเสียก่อน
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-05-2007 19:00:06
หุหุ อ้อนไม่รู้ ทานก็ไม่รู้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่   o16

แต่  o8 คนอ่านรู้ค๊าบบบบบบบบ  :o9:  :o9:
เขาชอบกันแล้วครับ  :-[  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 10-05-2007 19:45:55
ว้าคนอ่านรู้หมดแล้วหรือ ว่าสองคนนี่จะชอบกัน
 :o11:
แต่อะไรอาจไม่ได้ลงตัวอย่างที่คิด
 o22
ความรักนั้นสวยงามแต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้เจอ
 :o7:
*****************************************************************

เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เตะ

อ้อนนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องพักของชมรม เปิดสมุดพลิกไปพลิกมาแล้วก็นั่งกรอกรายละเอียดลงไปในสมุดรวมรายชื่อของสมาชิกในชมรมฟุตบอล
ที่ทานตะวันโยนทิ้งไว้ให้ก่อนจะออกไปซ้อมที่สนาม

วันนี้ไอ้ทานมันใจดี มันพาไปหาหมอ แล้วก็พามาซ้อมที่สนามด้วย ไม่ให้ไปยืนตากแดดถือขวดน้ำกับผ้าขนหนูให้มัน
แต่ให้มานั่งรอในห้องพัก แล้วก็ให้แยกรายชื่อคนที่มาคัดตัวให้ด้วย อ้อนก็เลยต้องทำไปเรื่อย ๆ

ขวดน้ำดื่มวางทิ้งไว้อยู่ข้าง ๆ แล้วอ้อนก็ดึงหลอดขึ้นมาหมุนเล่น ในขณะที่มือก็จดรายชื่อไปด้วย

มืออีกข้างยังมีผ้าพันแผลพันอยู่ แต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากนัก ถึงมีเลือดซึมออกมานิด ๆ หน่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากเหมือนวันแรก

ทำไมถึงได้เป็นคนที่พิกลพิการได้ขนาดนี้วะกู ขาเดี้ยง มือเดี้ยง ชาติไหนจะหายวะเนี่ย เซ็งชิบหาย

"อ้าว มาด้วยเหรอพี่ ทุกทีเห็นไปยืนรอพี่ทานที่ข้างสนามทุกที แล้ววันนี้ยังไงเนี่ย มานั่งในห้องซ้อมได้ไง เดี๋ยวพี่ทานมันก็ตามมาลากหรอกพี่"

แคป นักกีฬาว่ายน้ำที่เดินผ่านมาเอ่ยถามรุ่นพี่ที่กำลังนั่งจดอะไรยุกยิก ยุกยิกในสมุด เพราะว่าห้องชมรมฟุตบอลกับห้องชมรมว่ายน้ำติดกัน
จึงได้เห็นหน้ากันบ่อย ๆ และแคปก็เป็นรุ่นน้องของอ้อนด้วยจึงไม่แปลกที่จะได้พูดคุยกันบ่อย ๆ

"วันนี้มันปล่อยหนึ่งวัน สงสัยสงสารคนขาเป๋มั้ง" อ้อนเงยหน้าขึ้นเอ่ยทักทายกับรุ่นน้อง และแคปก็เดินมาวางกระเป๋าใบใหญ่ไว้ข้าง ๆ อ้อน
และทิ้งกายลงนั่ง พูดคุยกันอย่างสนิทสนม เมื่อก่อนเคยอยู่หอเดียวกัน แต่ช่วงหลัง ๆ อ้อนย้ายกลับไปอยู่บ้าน เลยไม่ค่อยได้คุยกับแคปบ่อยเหมือนก่อน
และหลายครั้งก็ได้พึ่งพาอาศัยกันอยู่ตลอด จึงไม่แปลกที่จะได้สนิทกัน

"ระวังนะพี่ สงสารมาก ๆ เดี๋ยวกลายเป็นรักแล้วจะยุ่งน๊า" แคปเอ่ยแซวรุ่นพี่ และอมยิ้ม เมื่อนึกถึงใครคนหนึ่งที่ชอบทำหน้าเฉยและชอบพูดจาร้าย ๆ ใส่ตลอด
ทั้งที่คน ๆ นั้นทั้งน่ารักน่าสงสารยิ่งกว่าใคร ๆ

"โห่ ใครมันจะมาสงสารพี่วะน้อง อย่างไอ้ทานนี่สงสารใครไม่เป็นหรอก ใครมันจะไปแสนดีเหมือนเราล่ะใช่มั้ย ไอ้น้องชาย"

อ้อนหัวเราะออกมาเสียงเบา และวางปากกาลง

"พี่ก็พูดเกินไป พี่ทานเขาหล่อนะพี่ จิตใจเขาก็ต้องดีบ้างล่ะน่า เสียอย่างเดียวพี่แกเป็นคนเสียงดังไปหน่อย ใช่มั้ยพี่ แล้วแกก็บ้าพลังเกินคนปกติแค่นั้นเอง
พูดก็พูดเหอะพี่ ทำไมพี่ทานเขาชอบแกล้งพี่นักหนาไม่รู้นะ เขาแอบชอบพี่หรือเปล่าเนี่ย ขำขำนะพี่ เผื่อเขาขอความรักพี่ พี่จะได้ทำตัวถูกไง"

โห ไอ้ห่าแคปมันแซวซะใจหายวูบเลย อย่างไอ้ทานนี่นึกสภาพมันไม่ออกจริง ๆ ขอความรักบ้าอะไร มันไม่ขอกระทืบก็บุญแล้ว เรื่องขอความรักนี่มันสุดตีนเลย
ไอ้แคปนี่มันก็หาเรื่องพูดให้อยากอ้วกขึ้นมาได้ เก่งจริง ๆ เล้ย

"โห ถ้ามันขอความรักนี่ คงไม่ไหวมั้ง รักไม่ลงว่ะ กลัวตายคาตีนก่อนที่จะได้รักกับมันเด่ะ จริง ๆ อย่างมันรักใครไม่เป็นหรอกแคปเอ้ย"

อ้อนหัวเราะออกมากับมุกตลกของรุ่นน้อง แล้วเริ่มจดชื่อนักกีฬาต่อ โดยมีแคปนั่งหัวเราะอยู่ข้าง ๆ

"เกลียด มาก ๆ ระวังหลงรักแบบไม่รู้ตัวนะพี่ คงได้ฮากันจริง ๆ จัง ๆ แน่" เป็นคำพูดของรุ่นน้องที่ทำให้อ้อน หัวเราะด้วยความขำ

แต่ก่อนที่จะได้พูดคุยอะไรกันมากกว่านั้น

ลูกฟุตบอลที่ไม่มีที่มาที่ไปก็ลอยละลิ่วกระแทกที่ประตูตู้สำหรับใส่อุปกรณ์เสียงดัง

"ปึง"

เสียงกระแทกมาพร้อมกับที่ขวดน้ำลอยละลิ่วเฉียดหัวอ้อนไปนิดเดียว ตามมาด้วยผ้าขนหนูที่เปียกชื้นโยนมาคลุมหัวของอ้อนอย่างรวดเร็ว

ไม่ใช่ใคร แทบไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคนที่ทำเรื่องร้ายกาจแบบนี้เป็นใคร

"หรือว่ามันสบายไปใช่มั้ยไอ้เป๋ นั่งหัวเราะใหญ่เลยนะมึง สงสัยกูจะใจดีกับมึงมากไปนะ เลยเอาใหญ่เลยล่ะสิ"

เสียงตะโกนดังลั่นตามมาด้วยร่างสูงใหญ่ที่เปียกซ่กไปด้วยน้ำ และปนไปด้วยเหงื่อมายืนหน้าถมึงทึงอยู่ตรงหน้า และสายตาเชือดเฉือนก็ลามไปถึงแคปด้วย

แคปถึงกับสะดุ้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากับรุ่นพี่ ท่าทางแบบนี้ขืนอยู่ต่อ คงไม่ได้ตายดีแน่ ๆ ก่อนที่ลางร้ายจะมาเยือน แคปรีบยกมือไหว้รุ่นพี่ และขอลาในทันที

"ผมรีบนะพี่ เดี๋ยวยังไงค่อยคุยกัน" แคปรีบชิ่งจากไปด้วยความเร็วเร่งด่วน ส่วนอ้อนดึงผ้าขนหนูเน่า ๆ ออกจากศีรษะของตัวเองโยนทิ้งไว้ข้างตัว
และเงยหน้าขึ้นมองหมาบ้าที่เพิ่งกลับออกมาจากสนามด้วยความเบื่อหน่าย

เป็นห่าอะไรของมันอีกวะ จะเป็นคนดีได้เกินห้านาทีเหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขาบ้างได้มั้ยวะเนี่ย กูอยากจะบ้าจริง ๆ เลย ไอ้ทานนะไอ้ทาน จะเป็นเจ้าชีวิตกูหรือไง

"ปล่อยทิ้งไว้ไม่ถึงชั่วโมง มีความสุขจริงนะมึง ระริกระรี้เหลือเกิน ปล่อยมึงมากไปใช่มั้ย เลยไปเที่ยวหัวเราะน่าชื่นตาบานกับไอ้เวรนั่นน่ะ
สงสัยพรุ่งนี้คงต้องให้กลับไปยืนข้างสนามอีกแล้วใช่มั้ยมึงถึงจะชอบ ดีด้วยหน่อย เหลิงใหญ่เลยนะ ทำไมมองหน้าทำไม อย่าให้กูโมโหนะ กูเล่นไม่เลี้ยงแน่"

อ่อ มองหน้าไม่ได้ งั้นก้มหน้าก็ได้วะ ยังไงก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่องอยู่แล้วนี่

"ทำเป็นหลบตา พูดแค่นี้ทำเป็นหลบสายตา ทำไมหน้ากูนี่ไม่น่ามองเหมือนไอ้หน้าขาวรุ่นน้องมึงหรือไง ถึงได้ระริกระรี้ยิ้มร่ากับมันนักหนา ไหนพูดซิ หุบปากเงียบทำไมวะ"

แล้วจะให้กระผมพูดห่าอะไรล่ะครับท่าน พูดแล้วก็โดนด่า เงียบก็โดนด่า ไม่มองหน้ามึงก็ด่า มองหน้ามึง มึงก็แหกปากใส่แบบนี้ แล้วจะให้กระผมทำยังไงวะ

 


"เฮ้ย พูดสิวะ เงียบทำไม ไอ้เป๋ พูดเดี๋ยวนี้เลยนะมึง"

พูดก็โดน ไม่พูดก็โดน กูเลือกไม่พูดแล้วกัน อย่างมากมึงก็แค่ตบหัวกู เอาอย่างนั้นก็ได้ กูแล้วแต่มึงแล้วกันนะไอ้ทาน

อ้อนนั่งเงียบและก้มหน้าก้มตาลอกลายชื่อใส่ในสมุด ปลง บอกได้คำเดียวว่าปลง ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้อีก นอกจากเงียบ แล้วก็ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา
ยังไงก็โดน ยังไงก็ต้องโดนด่าหรือไม่ก็ต้องโดนหาเรื่องอยู่ดี สู้ทำเป็นเฉย ๆ ซะดีกว่า เผื่อจะเจ็บตัวน้อยลง

"หยุดเขียนเลย เอามานี่" สมุดถูกกระชากออกไปจากมือ แล้วโยนทิ้งลงบนพื้น ปากกาในมือถูกดึงออกแล้วโยนตามไปด้วย แล้วทานตะวันคนบ้าบอ ก็รั้งไหล่ของอ้อนให้หันหน้ามามองกันชัด ๆ

จ้องหน้าของอ้อนนิ่ง ๆ นัยน์ตาคมวาวโรจน์ จ้องตรงไปที่ดวงตากลมโตที่พยายามจะเบี่ยงหน้าหลบสายตาอยู่ตลอดเวลา
เป็นอย่างนั้นอยู่นาน อ้อนได้ยินเหมือนเสียงถอนหายใจยาวเหยียดของคนตรงหน้า เมื่อเหลือบสายตาขึ้นมองเพราะอยากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร

แก้มขาว ๆ ของตัวเองกลับถูกปลายนิ้วแข็งแกร่งหยิกเข้าให้ จนต้องเบะหน้าด้วยความเจ็บ พร้อมกับที่คนผีเข้าผีออกลุกพรวดพราดขึ้นยืน และพูดสิ่งที่ทำให้อ้อนเกิดอาการอึ้ง เพราะไม่เข้าใจ

"ไปอาบน้ำก่อนนะ รอแป๊บนึง"

ทานตะวันลุกเอ่ยบอก แล้ววิ่งไปเก็บลูกฟุตบอลมาวางไว้บนตักของอ้อน ส่วนเจ้าตัววิ่งลิ่วไปที่ห้องอาบน้ำ ก่อนจะวิ่งกลับมาอีกครั้ง เพื่อค้นหาผ้าขนหนูในกระเป๋าใบใหญ่

"เมื่อเช้าเห็นหรือเปล่าว่าหยิบผ้าขนหนูมาด้วย จำได้ว่าหยิบมานะ ใช่มั้ย" เป็นคำถามที่อ้อนถึงกับมึนงง และอ้าปากค้าง ก่อนที่จะอึ้งไปมากกว่านี้
คนที่ยิ้มจนตาหยีก็เงยหน้าขึ้นและผลักไหล่ของอ้อนเล่นแล้วเอ่ยบอกสิ่งที่ทำให้คนฟังยิ่งไม่เข้าใจยิ่งขึ้น

"เดี๋ยวไปกินข้าวกัน อยากได้ของเล่นชุดแฮปปี้มิลด์ ไปมั้ย"

ห๊า ไปมั้ย ไป ไปไหนวะ อะไรของมันอีกวะเนี่ย กูตามอารมณ์มึงไม่ทันแล้วนะ

"ไปไหนนะ ตัวร้อนเหรอวะ" อ้อนยกมือขึ้นแตะที่หน้าผากของตัวเอง แล้วก็ยกมาแตะที่หน้าผากของทานตะวันด้วย ตัวก็ไม่ร้อน ทำไมมันเพี้ยนไปได้ขนาดนี้วะ

มือถูกดึงออกและทานตะวันก็จับมือของอ้อนเอาไว้ ทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจว่าอ้อนจะทำหน้าแบบนี้ทำไม ก็แค่ชวนไปกินข้าวด้วยกัน จะงงทำไม แปลกคนจริง ๆ

"อ้าวก็ไปกินข้าวไง อยากกินเบอร์เกอร์หมู จะเอาชุดแฮปปี้มิลด์ อยากได้ของเล่น งงอะไรวะ โง่จริง ๆ หน้าตาโง่ ๆ แล้วก็โง่สมหน้าหน้าตาจริง ๆ ด้วย"

ทานตะวันหยิบผ้าขนหนูในกระเป๋าออกมาแล้ว และถอดถุงเท้ารองเท้าทิ้งไว้ข้าง ๆ อ้อนที่ยังตาค้างไม่หาย

"เดี๋ยวมานะแป๊บเดียว"

กระผมไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย คือมัน ไอ้ทานมันพูดอะไรของมัน กูไม่ได้เพี้ยนไปคนเดียวแน่นะ

อ้อนหันหน้าตามคนที่วิ่งลิ่วไปที่ห้องอาบน้ำ แล้วก็หันกลับมานั่งมองรองเท้าถุงเท้าและขวดน้ำที่ระเนระนาดไปคนละทิศคนละทาง
ลองยกมือขึ้นแตะที่หน้าผากของตัวเองก็พบว่าตัวไม่ร้อน หรือว่าตาฝาด หรือว่า เอ๊ะ เอ๊ะ หรือว่า ตอนนี้กำลังฝันอยู่ อ้อนลองหยิกที่เนื้อของตัวเอง แล้วก็รับรู้ได้ว่ามันเจ็บจริง ๆ

ไม่ได้ฝัน ไม่ได้ฝันจริง ๆ ด้วย ตายห่าแล้ว ไอ้ทานมันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ เลย

อ้อนหันไปมองคนที่เดินไปอาบน้ำ แล้วทำตาโต เริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของคนบ้า

ไอ้ทานมันบ้าถึงขั้นไหนแล้ววะเนี่ย มันบ้าถึงขั้นไหนแล้ว มันถึงขั้นที่ประเมินอารมณ์ไม่ได้แล้วใช่มั้ยเนี่ย

ในขณะที่อ้อน นั่งคิดด้วยความเครียด

ทานตะวันกำลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเปิดฝักบัวเตรียมอาบน้ำอยู่ในห้องอาบน้ำ สมองครุ่นคิดถึงแต่ภาพที่เห็นอ้อนหัวเราะร่าเริงอยู่กับรุ่นน้องคนนั้น
แล้วก็ยิ่งไม่พอใจอยากจะเตะให้ไอ้รุ่นน้องหน้าใสกระเด็นไปมาเหมือนลูกฟุตบอล แล้วไอ้เป๋ตัวดี ก็ระริกระรี้ดีเหลือเกิน คิดว่าจะตบหัวมันให้หายโมโห ด่าไปแล้ว กำลังจะลงไม้ลงมือแล้วแท้ ๆ

แต่พอเห็นหน้าของไอ้โง่นั่น ได้เห็นดวงตากลมโตที่มีแววของความไม่พอใจอยู่ลึก ๆ ได้เห็นใบหน้าที่นิ่งสนิทไม่ยอมแสดงอารมณ์ออกมา อยากจะตะบันหน้าไปให้หายโมโห

แต่เพียงแค่เห็นแววไหวระริกในดวงตา และใบหน้าที่ค่อย ๆ ก้มหรุบต่ำลง ใจมันพาลจะหวั่นไหวขึ้นมา แล้วก็ทำอย่างที่ใจคิดไม่ได้

สงสาร

ไม่อยากให้อ้อนเจ็บ

ไม่อยากให้ทำหน้าเศร้า

ไม่อยากทะเลาะกัน

มันเหมือนหัวใจไหว ๆ เอน ๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก

หยดน้ำหลั่งรินรดร่างกาย พร้อมกับที่ทานตะวันเงยหน้าขึ้นมองสายน้ำ ใจคิดไปถึงใบหน้าของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ในห้องชมรม

แล้วก็ยิ้มออกมา เมื่อนึกถึงแก้มแดง ๆ และดวงตากลมโตที่ชอบทำหน้าเหมือนไม่เชื่อในทุกสิ่งทุกอย่าง เพียงแค่นั้นก็ยิ่งทำให้ยิ้มกว้างได้มากขึ้น

คอยดูเถอะอ้อน คอยดูก็แล้วกัน

เดี๋ยวจะทำให้ตาโตยิ่งกว่านี้เลยคอยดู ทำตาโตทีไร มันน่ารักทุกที

"หนูน้อยแก้มแดงเอ้ย เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จก่อน แล้วจะไปให้หอมแก้มนะ รับรองวันนี้ไม่เหม็นเหงื่อแล้ว แล้วจะติดใจอยากหอมกูทุกวันเลย"

ทานตะวันอมยิ้ม และใช้มือลูบไล้ใบหน้า หัวเราะคนเดียวเงียบ ๆอยู่ใต้ฝักบัว

โดยที่ไม่รู้เลยว่าอาการบ้า ๆ ของตัวเองมันเป็นเพราะอะไร

TBC....


 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-05-2007 19:58:16
"หนูน้อยแก้มแดงเอ้ย เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จก่อน แล้วจะไปให้หอมแก้มนะ รับรองวันนี้ไม่เหม็นเหงื่อแล้ว แล้วจะติดใจอยากหอมกูทุกวันเลย"
 :-[  :-[  :-[
ตอนหน้าจะมีฉากหวาน ๆ มั๊ยน้า  :o8:  :o8:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 10-05-2007 22:21:02
หวานอีกๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-05-2007 22:40:59
นายทานเริ่มทำตัวน่ารักแล้วคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

น่ารักจังเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 10-05-2007 23:07:19
ทาน เหมือนเด็ก ๆ เลยแฮะ  :try2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 10-05-2007 23:21:35
มดเริ่มมาแล้ว..
เอาอีก พี่เรย์  เอามาลงอีก..  :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 11-05-2007 09:48:29
อยากหั้ยค่อยๆ เปน ค่อยๆ ไปจังเลย

กลัวแต่จารับร้อนซะจน  รุนแรงเกินไป

เดวจาพาลมีเรื่องเอาอีกอะจิ

แต่ไง ก้อเชียร์ทาน  ให้ทำสำเร็จละกัน

วะ 555+
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 11-05-2007 10:04:03
กว่าจะผูกพันกัน

พอดีคนอ่านบ้าซะก่อน

กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก

 :oak:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 11-05-2007 14:52:34
เด็กมหาลัย?

อืมๆๆ  มันก็เด็กจริงๆ อะนะ  แล้วมันก็เด้กด้วยกันทั้งคู่  ทำไงดีหว่า

เอางี้!  มาขึ้นครูกะเจ้ไหมคร้า  :-[
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 11-05-2007 16:27:11
 
                      ..............อ่านตามทันแล้ว......เย้.... o7...........


                     ..... คุณเรย์เอาเริ่องนี้มาลงได้ถูกใจจังเลย.ครับ.. :o7:.....     


                      .....อ่านแล้วอยากมีแฟนแบบทานบ้างจัง......ซาดิสดี...ชอบ..ๆ...... :haun5:


                      ................มาต่อเร็วๆนะครับคุณเรย์.......... :dont2:.                   
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 11-05-2007 16:44:16
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่อ่านแล้วรู้สึกว่าน่าติดตามมากๆ  คนแต่งเก่งเลยละ
มีอะไรดึงดูดให้น่าค้นหา  น่าติดตามความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ต่างก็ขาดในสิ่งที่แต่ละคนโหยหา
บทบรรยายก็น่ารัก  สรุป ชอบอะ จริงๆ นะ

อยากอ่านต่อแย้ววว  เรย์จ๋า  มาให้ไว้  o15
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 11-05-2007 17:14:01
น่าร๊ากกกกกกกกกก

อ่ะ ให้พื้นที่ในใจอีก10ตารางกิโลเมตร :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 11-05-2007 22:52:16
คิกคิก เห็นด้วย รักแท้มักจะเห็นมาจากการเรียนรู้กันและกัน
***********************************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน แพ้ดวงจันทร์

ทำไมคนมันน้อยจังวันนี้ นี่มันวันอะไรวะ คนในร้านแทบไม่มีเลย หรือว่าเขาไปไหนกัน

ทานตะวันนั่งหมุนหลอดในแก้วใบใหญ่ที่ใส่น้ำอัดลมแล้วก็เหลียวมองไปรอบตัว ก้มหน้าใช้ความคิดเล็กน้อย แล้วก็หันไปมองซ้ายมองขวาอีกหลายรอบ

"เฮ้ย เขาไปไหนกันหมดวะ"

ถามกูแล้วให้กูไปถามใครละวะ กูก็นั่งมองหน้ามึง แล้วก็รอมึงไปซื้อของเล่นชุดแฮปปี้มิลด์ของมึงอยู่เนี่ย แล้วกระผมจะไปทราบได้ยังไงครับท่านทานตะวัน
อ้อนเงยหน้าขึ้นมองหน้าของทานตะวันแล้วก้มหน้าลงไปอีก นั่งเงียบ ๆ เป็นหุ่นปั้นให้ทานตะวันพูดนั่นพูดนี่เพ้อ ๆ ไปคนเดียวแล้วกัน

แล้วคนที่ตอนนี้วิญญาณผีเด็กเข้าสิงก็กำลังสนุกสนานกับชุดของเล่นที่ได้แถมมากับอาหารสองชุดที่ซื้อมา ของกินเหลือเต็มโต๊ะ แต่คนที่ถูกวิญญาณผีเด็กเข้าสิงก็ไม่มีทีท่าจะสนใจเลยสักนิด
ยังคงใช้มือเลื่อนรถของเล่นคันเล็ก ๆ ไปมา แล้วก็หน้านิ่วคิ้วขมวด เงยหน้าขึ้นมองหน้าอ้อนอีกครั้ง

"อยากได้สีอื่นอีก มีตั้ง 7 สี เนี่ยได้แค่สามสีเอง ไปแลกซื้ออีกอันดีมั้ยวะ" เป็นคำถามที่ทำให้อ้อน อยากจะเอาหัวโขกโต๊ะตาย นี่ก็กินไม่หมดแล้ว ยังจะไปซื้ออะไรอีกล่ะ

"ของเก่ายังกินไม่หมดเลย จะเอามาทำอะไรอีกมากมายวะ เนี่ยดูเบอร์เกอร์เนี่ยก็ยังกินไม่หมดเลย ยังจะเอาอะไรอีก"

เป็นคำพูดของอ้อนที่ทำให้ทานตะวันนิ่วหน้า แล้วทำหน้าหงิกหน้างอ ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

"ก็อยากได้อ่ะ จะเอา ไม่รู้แหละ จะไปซื ้อเดี๋ยวนี้เลย" ห้ามก็คงไม่ฟังกันแน่ ๆ คนตัวโตลุกพรวดพราดขึ้นแล้วไปสั่งเบอร์เกอร์ที่แถมของเล่นมาอีกหลายชุด นำมาวางไว้ตรงหน้าอ้อนแล้วก็ดูเหมือน
เจ้าตัวเขาภูมิใจนักหนาที่ได้ของเล่นมาเล่น ดูนั่นวางเรียงกันเต็มไปหมดแล้ว กลุ้มเว้ย เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็บ้า เดี่ยวก็ร้าย เดี๋ยวก็น่ารักขึ้นมาอีก เป็นใครก็ต้องหัวหมุนกันทั้งนั้นแหละ

"อิ่มยัง กลับเหอะ ง่วงนอน วันนี้วิ่งทั้งวันเลย อาบน้ำก็ต้องอาบเอง เมื่อไหร่มึงจะหายซะทีวะ กูไม่มีใครอาบน้ำให้ มันไงไม่รู้"

บ้าหรือเปล่า โตขนาดนี้แล้ว ยังต้องมีคนอาบน้ำให้ ถ้าจะบ้าก็น่าจะมีขอบเขตบ้าง ไม่ใช่เพ้อเจ้อได้ขนาดนี้ แต่อ้อนจะไปทำอะไรได้ ก็ได้แต่ก้มหน้าเงียบ แล้วก็ปลงกับตัวเองแค่นั้นเอง

ถุงพลาสติกใบใหญ่ถูกนำมาห่อเบอร์เกอร์มากชิ้นพร้อมกับที่ทานตะวัน ลุกขึ้นยืน เตรียมเดินออกจากร้าน โดยมีอ้อนใช้ไม้ค้ำยันเดินตามอย่างช้า ๆ มาห่าง ๆ เพื่ออ้อมไปด้านหลังของห้างสรรพสินค้า
เตรียมจะขับรถกลับบ้านด้วยกัน

"ไม่โทรหาแม่หน่อยเหรอ เห็นทะเลาะกันอีกแล้ว" เป็นเสียงของทานตะวันที่เอ่ยถาม และก้าวขาให้เดินช้าลง เพื่อให้อ้อนเดินตามทันได้ ในใจยังคงพะวงครุ่นคิดอยู่กับการจะเอาของเล่นไปจัดเรียง
ใส่กล่อง ไม่ได้คิดอะไรให้มากกว่านั้น ถามคำถามไปแล้ว แต่คนที่ตอบคำถามกลับนิ่งเงียบไป ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเลย นอกจากก้าวขาเดินตามมาอย่างช้า ๆ

ไม่รู้สิ

ไอ้เป๋มันแปลก ๆ

คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้

ใครจะไปเดาได้ว่ามันคิดอะไรอยู่

ทั้งที่บอกว่าห้ามพูด มันก็พูดในบางครั้ง บอกว่าห้ามถาม บางครั้งมันก็ถาม รู้หรอกว่าแอบถามอยู่ในใจ แต่ไม่ยอมพูดออกมาแค่นั้นเอง

ก็ไม่ชอบนี่ ไม่ชอบตอบคำถาม ถ้าถามอะไรมาก ๆ คำถามที่ไม่อยากตอบ ถ้าอย่างนั้นอย่าถามซะดีกว่า จะได้ไม่ต้องตอบ ไม่ต้องคิดอะไรเลย

คนสองคน เดินเรื่อย ๆ เชื่องช้า มาหยุดอยู่ที่รถ ทานตะวันไขกุญแจรถและปลดล็อกประตูเพื่อให้ใครอีกคน ก้าวขึ้นมานั่งเคียงข้างได้

ถุงเบอร์เกอร์ถูกเหวี่ยงไว้ที่เบาะด้านหลัง โดยมีสายตาของอ้อนมองตาม

อยากรู้จริง ๆ ซื้อไปมากมายมันจะกินหมดมั้ย ไม่หมดชัวร์ แล้วมันก็ทิ้ง คนรวยนี่มันรวยจริง ๆ นะ กินทิ้งกินขว้าง เงินมันเยอะ ไอ้ลูกคนรวย พูดอะไรไม่ได้หรอก
เพราะตอนนี้ก็ติดหนี้มันอยู่

ไม่มีบทสนทนาอะไรอีก นอกจากความเงียบ ทานตะวันขับรถอออกจากลานจอดรถ แล้วทั้งสองคนก็ไม่ได้สนใจอะไรกันอีก

ดวงตาคมจ้องมองที่ถนน ส่วนอ้อนหันมองไปที่ข้างทางที่มีแสงไฟประดับประดามากมาย
วันนี้มันวันอะไรวะ ทำไมคนออกมาเที่ยวกันเยอะจัง แล้วนั่นที่ขายอยู่ข้างทางมันอะไรวะ แต่คำถามที่สงสัยกลับถูกกลืนหายไปกับการไม่สนใจในการและกัน

เมื่อขับรถมาถึงปากซอย ความสงสัยที่เก็บมานานถึงได้ถูกเปิดเผยออก

"วันนี้มันวันลอยกระทงนี่หว่า" ทานตะวันหันมาถามคนที่นั่งอยู่เคียงข้าง แล้วอ้อนก็หันไปมองหน้าคนที่ทำหน้าดีใจ ยิ้มแฉ่ง ส่ายหน้าไปมาด้วยความปลง

กูรู้ตั้งแต่เห็นไฟข้างทางแล้ว มันเสือกเพิ่งรู้ตอนที่มาถึงปากซอย เวรแท้ ๆ เลยไอ้ทาน ความรู้สึกมันช้าจริง ๆ

"อยากลอยกระทง" เหรอ แล้วไง บอกกู กูจะพามึงไปลอยได้มั้ย กูเป๋ขนาดนี้จะไปยังไงล่ะ ไอ้โง่

"อยากลอยกระทง" เสียงที่ค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้อ้อนหันกลับไปมองหน้าของคนที่ทำหน้าเหมือนกับว่าอยากได้ของเล่น

ก็ไปสิ มาบอกกูทำไมวะ กูพามึงไปได้ที่ไหนล่ะ ขากูเดี้ยง ไม่เห็นเหรอ

"บอกว่าอยากลอยกระทง ไม่ได้ยินหรือไง" ทานตะวันตะคอกถามคนที่นั่งเงียบเสียงดัง

แต่อ้อนก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม ไม่มีคำตอบอะไรออกมา นั่นทำให้คนที่นั่งเงียบต้องถอนหายใจด้วยความเซ็ง รู้แล้ว ไม่ใช่ไม่รู้ แต่มึงบอกว่าห้ามถามห้ามพูด
กูก็ทำตามที่มึงบอกอยู่นี่ไง แล้วอะไรอีกล่ะวะ

"เออ ไม่อยากลอยแล้ว แม่งเอ้ย คุยกับคนใบ้ ชอบทำหูทวนลม น่าเบื่อ" ก็ดีแล้ว รู้ว่ากูน่าเบื่อแล้วจะพูดกับกูทำไม ท่ามกลางความเงียบ อ้อนได้แต่ปลงกับนิสัยบ้า ๆ บอ ๆ อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของอีกฝ่าย
แล้วก็รอรับชะตากรรม เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวได้ดูไอ้ทานแผลงฤทธิ์กันบ้างล่ะ คอยดูแล้วกัน

แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีอะไรตอบกลับมาเลย นั่นเลยทำให้อ้อนต้องขมวดคิ้วมุ่น และหันหน้าไปมองคนที่กำลังสนใจกับการมองถนน ทานตะวันที่ชอบทำหน้าตาถมึงทึง
ชอบทำเป็นโกรธชอบทำเป็นโวยวาย กลับทำสีหน้านิ่งเฉย ไม่พูดอะไรออกมาอีกเลยสักคำ สร้างความสงสัยให้กับอ้อนมากขึ้น

เป็นอะไรของมันอีกวะ อารมณ์ไหนอีกเนี่ย เงียบไปซะเฉย ๆ
 


ก่อนที่รถจะขับถึงบ้าน คนที่ทำหน้านิ่งเฉย กลับชะลอรถแล้วจอดเทียบที่ริมฟุตบาท วิ่งลงไปจากรถ และไปยืนเลือก กระทงที่ทำขายอยู่ข้างทาง และวิ่งกลับมาที่รถโดยเร็ว
โดยมีสายตาของอ้อนที่มองตามลงไปด้วยความสงสัย ไอ้บ้า อยู่ดี ๆ จอดรถวิ่งลงไปทำอะไร รถคันหลังเขาบีบแตรไล่แล้ว ขับรถไม่มีมารยาทแบบนี้ เดี๋ยวได้โดนใบสั่งกันบ้างหรอก

ทานตะวันกลับขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อย และโยนกระทงหนึ่งใบวางไว้บนมือของอ้อน ส่วนตัวเองตีหน้าเฉย และขับรถเลี้ยวเข้าบ้านโดยมีสายตาของอ้อนมองตามด้วยความไม่เข้าใจ

เอามาทำไม เอามาทำบ้าอะไรของมันอีกเนี่ย แล้วจะไปลอยตอนไหนวะนั่น

รถเข้ามาจอดเทียบที่หน้าประตูบ้าน รีโมทคอนโทรลถูกกดให้ประตูบ้านเปิดออก แล้วทานตะวันก็ขับรถเข้ามาในโรงจอดรถ เปิดประตูรถและวิ่งลงมาอย่างรวดเร็วเพื่อไปเปิดประรตูทางด้าน
ข้างให้อ้อนลงมาด้วยกัน

"เร็วสิ อยากลอยกระทงแล้ว เร็ว เร็ว"

บ้าน่ะ จะลอยยังไง โอ้ยยยยยยยยยยยยย ทำไมต้องดึงแขนด้วย กูลุกไม่ไหวนะ ไอ้บ้าเอ้ย อ้อนทำสีหน้าให้เห็นว่าเจ็บที่ถูกกระชากแขนให้ลงมาจากรถ แต่ดูเหมือนว่าการเอื้อมมือไปคว้าไม้ค้ำยัน
เพื่อมาช่วยพยุงตัว ไม่ได้ทันใจทานตะวันเลย เพราะร่างนั้นรีบเอื้อมมือคว้าถุงเบอร์เกอร์ที่อยู่เบาะหลังรถมาให้อ้อนถือแล้วรีบช้อนร่างของอ้อน ที่ถือถุงใบใหญ่พร้อมกระทงใบสวยเอาไว้ในมือ
ให้เดินลิ่วเข้ามาในบ้านพร้อมกัน และตรงไปที่สระว่ายน้ำเล็ก ๆ หน้าบ้าน

เมื่อก้าวมาถึง จึงได้ปล่อยร่างของอ้อนลงและตัวเองก็เดินไปหย่อนขาลงในน้ำ สะบัดขาตีน้ำเล่น แล้วก็หัวเราะชอบใจ ใบหน้าคมแหงนเงยขึ้นมองพระจันทร์เต็มดวงแล้วก็อมยิ้ม

"พระจันทร์เหมือนเบอร์ เกอร์หมูเลยว่ะ" ช่างจินตนาการเหลือเกินนะมึง

ถุงใบใหญ่ถูกเปิดออก โดยมีของเล่นชุดแฮปปี้มิลด์มากมายวางเกลื่อนอยู่ข้างสระ

อ้อนไม่รู้ว่าวันนี้ทานตะวันเป็นอะไร แต่เหมือนบางครั้ง คนบ้า ๆ บอ ๆ คนนี้ชอบพูดคนเดียว ชอบเล่นคนเดียว บางครั้งก็เหมือนกำลังคุยกับตัวเอง ไม่ได้สนใจคนรอบข้างเลยสักนิด

คำถามนี้ ก็ไม่ได้ต้องการคำตอบเลย หลายครั้งที่สังเกตได้ว่า คนตัวโตมักจะทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ เป็นประจำ แต่ทั้งหมดนั่น ก็เหมือนกำลังทำอะไรอยู่คนเดียว
ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนที่อยู่ใกล้ ๆ เลยสักนิด

ทำไมถึงได้เป็นคนแบบนี้ ไม่เข้าใจเลย

ดวงตากลมโตมองภาพของคนตรงหน้าที่กำลังเล่นของเล่นที่แถมมากับชุดอาหาร แล้วยิ่งขมวดคิ้วมุ่น

ทำไมคน ๆ นี้ไม่มีความมั่นคงทางอารมณ์ได้มากขนาดนี้ บางครั้งเหมือนผู้ใหญ่แต่บางครั้ง กลับกลายเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ขึ้นมา
ทานตะวันเป็นอะไรกันแน่ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

"อ้อน ลอยกระทงกันเถอะ มาเร็ว" มือเอื้อมคว้าไปที่กระทงใบสวย ไม่มีการจุดเทียน ไม่มีการอธิษฐาน มีเพียงมือของทานตะวันที่เอื้อมมือคว้าฝ่ามือเย็นชื้นของอ้อนให้มาแตะที่กระทงด้วยกัน
แล้วกระทงใบสวย ก็ถูกโยนลงน้ำ โดยมีมือของทานตะวันวิดน้ำเพื่อให้กระทงลอยไปไกล ๆ

แต่ก็เท่านั้น ในเมื่อสระน้ำกว้างได้เท่าที่ตาเห็น กว้างแค่นี้ ลอยไปไกลแค่ไหนก็ได้แค่นี้

ใบหน้าคมที่ยิ้มร่าหมองเศร้าลงเมื่อจ้องมองกระทงที่ลอยคว้างอยู่กลางน้ำ ทานตะวันนิ่งเงียบไปอีกแล้ว และนั่งมองกระทงของตัวเองที่ซื้อมา
นั่งมองเงียบ ๆ โดยมีสายตาของอ้อนที่หันไปมองหน้าของทานตะวันด้วยความสับสน



ไม่มีคำพูดอะไรอีก มีเพียงความเงียบงัน

ทานตะวันเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์ดวงใหญ่ แล้วถอนใจยาวเหยียด ทิ้งกายลงนอนบนพื้นหิน ข้างสระน้ำ และสะบัดขาตีน้ำเล่นไปเรื่อย ๆ

พื้นมันเย็น บ้านมันกว้าง อยู่คนเดียวมันเหงา โลกกว้างใหญ่ แต่ไม่มีใครรักเลยสักคน แบบนี้จะมีตัวตนไปทำไม

"everytime I try to fly, I fall .......... อยากบินแต่บินแล้วก็ตกลงมา แล้วถ้าตกลงมากูจะขาเป๋เหมือนมึงมั้ย"

คำถามเรียบ ๆ ง่าย ๆ แต่คนฟังถึงกับใจสั่นสะท้านกับคำถามของคนตรงหน้า ใบหน้าหันไปมองคนที่นอนมองพระจันทร์เงียบ ๆ แล้วเอ่ยเรียกคนที่นอนนิ่ง ๆ ไม่พูดอะไรอีก

เพราะอยู่กันแค่สองคน ความรู้สึกอ้างว้างเคว้งคว้างจึงถูกส่งไปถึงคนที่อยู่เคียงข้าง แม้แต่อ้อน ยังสัมผัสได้ถึงความเหงาอย่างรุนแรงของคนตัวโตที่มักจะตะโกนโวยวายอยู่เสมอ

"ทาน" น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยถาม และเจ้าของชื่อก็ขานรับ

"หื อ ว่าไง" ไม่มีคำพูดอะไรอีกนอกจากการขานรับเงียบ ๆ และร่างนั้นปรือตาลงอย่างช้า ๆ

"เราพักรบกันวันหนึ่งเถอะ เหนื่อยมากเลยวันนี้" ทานตะวันเอ่ยบอกทั้งที่ยังหลับตา แล้วค่อย ๆ หรี่ตาขึ้นอย่างช้า ๆ เมื่อพบว่ามีฝ่ามือเย็นชื้นแตะที่หัวเข่า

"ถ้าพักรบวันหนึ่ง งั้นมานอนหนุนตักก็ได้ นอนตรงนั้นพื้นมันแข็ง" คงเป็นเพราะความรู้สึกสงสารหรืออะไรก็ตามที่อ้อนไม่รู้ว่ามันคืออะไร ตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันถาโถมขึ้นมาอย่างหนัก
จนต้องให้ความช่วยเหลือกับคนที่บอกว่าอยากบินแต่บินไม่ได้

ทานตะวันผุดลุกขึ้นนั่ง และเอนกายลงนอนบนหน้าขาของคนที่เอื้อเฟื้อให้ที่พักพิง เงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์ที่เปล่งแสงนวล ช่วยขับไล่ความรู้สึกบางอย่างที่เกาะกินภายในหัวใจให้เจือจางลงบ้าง

ฝ่ามือของคนที่เอื้อเฟื้อ แตะลงที่หน้าผากของทานตะวัน ที่ค่อย ๆ ปรือตาหลับลงเงียบ ๆ ไม่ได้ออกอาการโวยวายบ้าบอเหมือนที่เคยอีก

เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ บ่งบอกให้รู้ว่าคนที่ทำให้ตัวเองเหนื่อยมาทั้งวันหลับลงแล้ว

แต่คนที่ยังไม่หลับ กลับได้พบบางสิ่งที่แม้แต่คนที่จิตใจเข้มแข็งที่สุด ยังอดสงสารคนตรงหน้าไม่ได้

...............อยากบินแต่บินไม่ได้ งั้นเหรอ .......................

แล้วทานจะบินไปไหนล่ะ

ที่ไหน ที่นายอยากไป

ที่ไหนที่ทำให้นายไม่ต้องเป็นทานตะวันในวันนี้.......................ให้นายเป็นไอ้บ้าที่น่ารังเกียจ..............
มันยังดีกว่าให้นายเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ที่พร้อมจะแหลกสลายลงไปต่อหน้าต่อตาถ้าหากมีอะไรมากระทบจิตใจ

ทานตะวัน

มีใครรู้มั้ยว่านายเป็นแบบนี้ แล้วก็อาการหนักถึงขั้นนี้แล้ว

มีใครรู้บ้างมั้ย

มีใครรู้บ้าง.........................

ชื่อทานตะวันงั้นเหรอ

ทานตะวัน.................ทานตะวัน.......

ชื่อของนาย.............ทานตะวัน

ชื่อที่ทนทานอยู่ภายใต้แสงตะวัน

แต่กลับพ่ายแพ้แสงนวลเย็นของพระจันทร์ พ่ายแพ้ให้กับความเหงา ที่น่ากลัว

TBC
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-05-2007 23:14:42
หุหุ ทานตะวันกลายร่างเป็นเด็กไปแล้ว  :give2:  :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 11-05-2007 23:19:17
น้ำตาซึมเลยนะตอนนี้   :o11:

อ่าน 2 รอบแล้วก็ยังน้ำตาซึมกับฉากนี้ทุกที
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 11-05-2007 23:49:42
อ้อนสู้ๆๆใกล้ชนะใจทานได้ล่ะ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 12-05-2007 00:58:07
เติมเต็มกันและกัน แล้วก็ วี๊ววว..  :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 12-05-2007 12:10:29
 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 12-05-2007 13:02:13
เริ่มเรียนรู้แล้วเข้าใจกันแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 12-05-2007 20:14:36
ซึ้งจัง  :sad4:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 13-05-2007 01:49:09
 :-[ :-[ :-[

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 13-05-2007 05:35:36
น่าสงสารจังมาลงเพิ่มไวๆนะ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 13-05-2007 19:47:34
นอกจากทานจะเข้าถึงอ้อนแล้ว  ตอนนี้อ้อนก็เริ่มจะเข้าถึงจิตใจทานแล้วเหมือนกัน
น่ารักมั่กๆ บรรยากาศจินตนาการได้เลย  ซึ้งจริงๆ  :impress2:

รออ่านต่อจ้าเรย์  o15
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 13-05-2007 21:26:35
 :impress2:  เริ่ม แสดงความรู้สึกออกมาแล้ว  o13

 อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆแล้วนะเนี้ย   o11


ขอบคุณนะงับ เป็นกำลังใจให้คนโพสนะงับ o15


หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 13-05-2007 22:40:36
เสียน้ำตากันบ้างยังเอ่ยหรือ akitt คนเป็นคนเดียว คิกคิก
******************************************

เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน วิธีการชำระหนี้

หือ หา เอ่อ เฮ้อ เอ่ะ อ๊ะ อะไรวะ

ทานตะวันคนตัวโต ปรือตาตื่นขึ้น และยกมือขึ้นขยี้ที่ดวงตาของตัวเอง
อะไรวะ จำได้นะ จำได้ว่า ว่าหลับอยู่ข้างสระว่ายน้ำ แล้วที่นี่ที่ไหนวะ ที่ไหนเนี่ย

แล้วใครมาทับหัวกูวะเนี่ย หนักชิบหาย เดี๋ยวก็หายใจไม่ออกตายห่าหรอกโว้ยยยยยยย

ทานตะวันขยับกายตื่นขึ้น และคนที่ใช้ศีรษะของคนนอนหลับเป็นหมอนก็ปรือตาตื่นขึ้นตามกัน อ้อนหยัดกายขึ้นนั่งเต็มตัว ขยี้ตาของตัวเองช้า ๆ ยังงัวเงียไม่หาย

"เฮ้ย ทำไมมาหลับกันตรงนี้ล่ะวะ กี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย" ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นนั่ง และส่งเสียงเอะอะโวยวายกลับเป็นไอ้บ้าทานเหมือนเดิม

"ก็เห็นหลับเลยไม่ได้ปลุก ใครจะรู้ว่าจะเผลอหลับยาว ตีสามแล้ว ดีนะไม่มียุง ไม่งั้นสงสัยยุงหามแน่ ฮื้อออออออ เมื่อยชะมัด ขาเป็นเหน็บเลยว่ะ"

อ้อนใช้มือทุบที่หน้าขาของตัวเองสองสามที และยังขยี้ตาไม่เลิก ตอบออกไปน้ำเสียงงัวเงียอย่างเห็นได้ชัด เพราะยังไม่ตื่นเต็มตา

ส่วนคนที่ลุกขึ้นนั่ง ก็ปิดปากหาวนอน และบิดร่างกายให้คลายความเมื่อยขบ และยกขาขึ้นนั่งชันเข่ามองท่าทางของอีกฝ่ายที่ยังคงทุบขาของตัวเองไม่เลิก

"เป็นอะไรมากมายวะ เหน็บกินขนาดนั้นเลยเหรอ"

ถามอะไรโง้โง่ มีหัวยักษ์หัวมารมาทับขาเป็นชาติ ๆ จะไม่ให้เป็นอะไรได้ยังไง ทำตัวเป็นไดโนเสาไปได้ ตัวโตแต่สมองเล็กนิดเดียว เฮ่อ เบื่อคนไม่สำนึกบุญคุณอย่างไอ้ทานจริง ๆ เลยว่ะ

"เฮ้ย ถามอ่ะ หูตึงเหรอ ทำไมไม่ตอบวะ" ทานตะวันออกอาการหงุดหงิดเมื่ออ้อนไม่ยอมตอบคำถาม เพียงเท่านั้น คนที่ต้องทนเจ็บขา ก็เงยหน้ามองหน้าของทานตะวันทันที
แต่ยังเล่นแง่ไม่ยอมพูดอะไรอีก

"ถามไม่ได้ยินเหรอ หูตึงหรือไง น่าเบื่อโว้ย พูดกับคนขาเดี้ยง มือพิการ แถมเป็นใบ้อีก เซ็งว่ะ"

ตีสามนะ นี่มันตีสาม กระผมต้องมารบกับท่านตอนตีสามเหรอเนี่ย กูจาบร้าาาาาาาาาาา อ้อนจ้องหน้าของทานแล้วก็ก้มหน้าลงสนใจกับการบีบนวดที่ขาของตัวเอง
แล้วก็ส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา ก็ใครกันล่ะวะที่บอกกระผมว่า ห้ามพูด ห้ามถาม ห้าม ห้าม ห้าม แล้วยังมาบ่นว่าเป็นใบ้อีก กระผมก็เบื่อท่านเหมือนกันแหละวะ

"ไอ้เป๋ ถามไม่ได้ยินเหรอวะ" คำถามรอบที่ร้อย ทำให้ทานตะวันยิ่งหงุดหงิดหัวเสียหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อคนที่นั่งอยู่ใกล้กัน ทำเหมือนทองไม่รู้ร้อน
ถามไปก็เท่านั้น ยิ่งพาลหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ ขอตบหัวเล่นซะทีเหอะ จะได้หายแค้น แม่งกวนประสาทตั้งแต่ตื่นแล้ว น่าเบื่อ น่ารำคาญที่สุดเลยเว้ย

มือเตรียมพร้อม และหากเรียกคำสุดท้าย อ้อนยังไม่ยอมตอบอีก คงได้เจอฝ่ามือพิฆาตของคนบ้าบออย่างทานตะวันแน่ ๆ

 


"เฮ้ย มึงอ่ะ ไอ้เป๋ มือพิการ แถมเป็นใบ้ กูถามว่าเป็นเหน็บที่ขาเหรอ ไม่ได้ยินหรือไงวะ ห๊า"

มือที่กำลังเงื้อ เตรียมฟาด ทำให้อ้อนยกแขนขึ้นเป็นการ์ดกำบัง ชินแล้ว ถ้าแหกปากมาแบบนี้ ต้องมีมือถึงกันบ้าง ก็แล้วทำไมล่ะ โดนจนชิน กะอีแค่กวนประสาทให้มันบ้าขึ้นอีกหน่อย
แค่นิด ๆ หน่อย ๆ สนุกดีพิลึก

"หือ เดี๋ยวนี้มีตั้งการ์ดนะ เดี๋ยวนี้มีตั้งการ์ด เจอแบบนี้บ้างเป็นไง มานี่เลยมึง" วิญญาณคนบ้าเข้าสิงอีกแล้ว แทนที่จะตบหัว คราวนี้เลยกลายเป็นว่าคนตัวโตโผเข้าหาร่างที่นั่งอยู่เคียงข้าง
จัดการล็อคคอของอ้อนเอาไว้แน่น จนอ้อน ต้องดิ้นรนหนีเพราะหายใจไม่ออก

ตายห่าแล้ว นี่มันจะทำห่าอะไรอีกวะเนี่ย แม่งเอ้ย อยู่ดี ๆ หาเรื่องตายอีกจนได้ กูหนอกูไอ้อ้อนนะไอ้อ้อน เอาไงต่อดีวะ
มือรีบยกขึ้นดึงแขนที่ล็อคคอออกห่าง แต่ยิ่งดิ้นรนก็ยิ่งหายใจไม่ออก เพราะอีกฝ่ายดูเหมือนเพิ่มแรงกดมากขึ้น มากขึ้น

"อึก อื้อ ไอ้ทานปล่อยนะหายใจไม่ออก อื้อ ไอ้บ้าเอ้ย"

อ้อนแหกปากร้องโวยวายเสียงดังลั่น เพียงเท่านั้น ทานตะวันที่กำลังล็อคคออ้อนเอาไว้ ก็คลายวงแขนออก เปลี่ยนเป็นล็อคคออีกฝ่ายเอาไว้อย่างหลวม ๆ แต่ยังไม่ยอมปล่อย
ให้ร่างในอ้อมแขนเป็นอิสระ เพราะเห็นเป็นเรื่องสนุก คนบ้า ๆ อย่างทานตะวันเลยหัวเราะออกมาด้วยความสนุกสนาน

ส่วนอ้อนได้แต่สำลักและรีบหายใจเอาอากาศเข้าปอดแรงให้มากที่สุด มืออีกข้างยังตรึงอยู่ที่แขนแข็งแกร่งของทานตะวันเอาไว้

"เอ้า ไม่สู้อีกล่ะ ไหนว่าเป็นใบ้ไง เมื่อกี้ก็เห็นพูดได้นี่หว่า ทีตอนนี้ทำไมไม่สู้อีกล่ะวะ ตอบได้ยังว่าขาเป็นเหน็บหรือเปล่า ตอบได้ยังวะไหนตอบซิ เร็วเลย"

เออสนุกตายเลยนะมึง เห็นคนใกล้ตายนี่สนุกมาก แม่งเอ้ยคนอย่างมึงนี่มันห่วยแตกจริง ๆ อย่าให้กูหมดหนี้หมดสินกับมึงนะ สาธุชาตินี้อย่าให้กระผมต้องเจอะเจอ
กับไอ้เวรทานตะวันนี่อีกเลย

"ตาไม่ได้บอดก็น่าจะเห็นนะ นวดขาแบบนี้ สงสัยเป็นเหน็บที่ปลายนิ้วตีนมั้ง ถามอะไรโง่ ๆ"

ทั้งที่รู้ว่าจะเป็นการไปยั่วอารมณ์ของคนบ้า แต่อ้อนก็ทำ เป็นไงเป็นกันสิวะ โดนทำให้เกือบตายขนาดนี้ เป็นหนี้เนี่ยถ้ามันถึงขนาดต้องชดใช้ด้วยชีวิตนะก็ให้มันรู้ไปสิวะ

"เหรอ หัวแม่ตีนเหรอ ข้างซ้ายหรือข้างขวา ไหนดูซิ หนายยยยยยยยยยยยย มันข้างไหนล่ะว๊าาาาา"

กลายเป็นเรื่องสนุกไปแล้ว คนตัวโตปล่อยแขนออกจากรอบคอของอ้อน และก้มลงไปดึงขาข้างที่เจ็บของอ้อนยกขึ้น

"โอ้ยยยยยยยยยยย เจ็บ ไอ้ทาน เจ็บนะโว้ยยยยยยยย" เสียงร้องโวยวายด้วยความเจ็บ ทำให้คนบ้า ๆ บอ ๆ ยิ้มจนตาหยี แล้วก็นั่งหัวเราะชอบใจ มีความสุขนักหนา
เมื่อเห็นว่าอ้อนทำหน้าเหมือนเจ็บปวดมากขนาดนั้น

นัยน์ตาคมจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง ๆ มองทุกกิริยาอาการ มองใบหน้าที่เหยเกเพราะความเจ็บ จ้องมองริมฝีปากที่ขบเม้มเข้าหากัน
และจ้องมองดวงตากลมโตที่มองมาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้ มองเลยไปถึงผิวแก้มเนียนละเอียดอีกครั้ง แล้วนึกอะไรสนุก ๆ ขึ้นมาได้

"เฮ้ย ไม่ได้หอมแก้มกูมากี่วันแล้ว เดี๋ยวนี้ปล่อยหน่อย ลืมหน้าที่เลยนะมึง เร็ว ๆ เลย มาหอมแก้มกูซะดี ๆ "

ห๊า เป็นห่าอะไรตอนตีสามอีกวะ ไอ้เรื่องหอมแก้มนี่กระผมโคตรเกลียดเลย มันเรื่องล้อเล่นบ้าอะไรวะ โธ่โว้ย ซวยรอบดึกหรือไงวะเนี่ย
อ้อนทำตาโตแล้วมองใบหน้ายียวนกวนประสาทของอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ใครมองก็รู้ว่าตอนนี้คนที่ทำหน้าเบ้อยากจะร้องไห้เต็มที

"เร็วเด่ะ วันนี้ไม่ค่อยมีเหงื่อ วันนี้อารมณ์ดี เอาหน่อย เร็ว อ่ะ หอมซิ หอม เร็ว ๆ สิวะ"

นรกมาเยือนกูอีกแล้ว อ้อนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ยังมีพระจันทร์เต็มดวง ส่องแสงนวลผ่อง ให้เย็นใจ แต่ตอนนี้สงสัยจะเย็นไม่ไหวแล้ว
ก็ไหนเมื่อหัวค่ำ มันยังดูน่าสงส้านนนนนนนนนน น่าสงสารอยู่เลย แล้วพอตกดึกมันเสือกเป็นห่าอะไรขึ้นมาอีกแล้ววะเนี่ย กูอยากจะบ้าตายแล้วโว้ยยยยยยยย

แก้มของคนบ้าถูกเอียงเข้ามาใกล้ และทำแก้มป่อง ปลายนิ้วของทานตะวันชี้ไปที่แก้มของตัวเอง และเรียกให้อ้อน จรดปลายจมูกลงมา
 


"เร็วววววววววว ฮื่อ อย่าให้พูดซ้ำซากสิวะ เร็ววววววววว" เป็นเสียงข่มขู่ที่ทำให้คนฟังอยากจะร้องไห้ เพราะปลงอนิจจังกับตัวเอง

ถ้าแค่หอมมันก็พอทน แต่นี่ มันบอกให้หอมแก้มมันทีไร มันต้องไปตรงอื่นทุกทีสิน่ะ คราวก่อนก็หลอกให้ดมกลิ่นเหงื่อเหม็นเน่าของมัน แล้วคราวนี้มันอะไรอีกวะ
สนุกนักหรือไงได้แกล้งคน ไอ้ทานมันโรคจิตชัด ๆ เลย

อ้อนเตรียมจรดปลายจมูกลงมาทั้งที่ใบหน้าบ่งบอกว่าไม่อยากจะทำสิ่งที่ถูกบังคับเลยสักนิดแต่ยังไม่ทันที่ปลายจมูกจะแตะเข้าที่ข้างแก้มของคนที่บังคับขู่เข็ญ
เพียงชั่วเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที คนบ้าบอก็กระชากแขนของอ้อนให้โผเข้ามาหา และใช้แขนของตัวเองล็อครอบคอของอ้อนเอาไว้แน่น

อีกแล้ว คราวนี้ตายแน่ ตายแน่แล้วกูโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ดวงตากลมโตหรี่ปรือลง และรวบรวมพละกำลังที่มีสะบัดหนีจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย แต่คนอย่างทานตะวันก็ไม่มีทางยอมปล่อยง่าย ๆ

"ไฮ้ทานโอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อึก อ๊ะ"

แขนที่ล็อคคอเอาไว้แน่น ถูกปล่อยออกแล้ว พร้อมกับที่ปลายจมูกของทานตะวันแตะเข้าหาที่ผิวแก้มเนียนขาวของร่างในอ้อมแขนอย่างรุนแรง

ดวงตากลมโตเบิกกว้าง และนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น มือถูกปล่อยออกจากแขนของคนบ้าที่ล็อคเอาไว้แน่นหนา
ฝ่ามือเย็นชื้น แตะไปที่แก้มของตัวเอง และหันหน้าไปหาคนที่บังอาจมาขโมยหอมแก้มในจังหวะที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
แต่เมื่อเตรียมจะหันไปหา กลับถูกปลายจมูกโด่งนั้นกดซ้ำลงมาอีกครั้ง และอีกครั้งนับไม่ถ้วน

"ไอ้ทะ ทะ ทาน ทำ ทำอะไรของ ของ มึงกันวะ"

อยากจะพูดให้ชัดถ้อยชัดคำแต่ทำยังไงก็ไม่หายตกใจ มือยกขึ้นเช็ดที่แก้ม แต่ก็ถูกหอมแก้มอีกซ้ำ ๆ แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง

เฮ้ยยยยยยยยยยยยย อารายว๊าาาาาาาาาา อารายกันว๊าเนี่ยยยยยยยยย เล่นบ้าอะไรของมันกันวะ ไอ้ทานมันเป็นบ้าอีกแล้ว ห่าอะไรกันวะ

ทานตะวันคลายอ้อมแขนออกแล้ว และเหมือนกอดร่างของอ้อนเอาไว้หลวม ๆ
อากาศยามดึก เริ่มเย็นยะเยือกขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่อ้อนได้สัมผัสคือไออุ่นที่ได้รับจากแผ่นอกกว้าง

ใบหน้าเนียนขาว ค่อย ๆ หันกลับไปหาคนร่างที่กอดเอาไว้ด้วยความประหลาดใจ
ตอนนี้มันทำหน้ายังไงอยู่วะ ไอ้ทานมันอารมณ์ไหนของมันกันวะเนี่ย อ้อนได้เพียงแค่คิดเท่านั้น
เพราะเมื่อหันไปหา ทานตะวันกลับเบี่ยงหน้าหนี และวางปลายคางของตัวเองเกยอยู่ที่บนศีรษะของคนที่ยังนิ่งอึ้งเพราะไม่เข้าใจอารมณ์ของอีกฝ่ายเลยสักนิด

"พระจันทร์เต็มดวง เดี๋ยวจะแปลงร่างเป็นหมาป่าบ้า มากัดหนูน้อยแก้มแดง กลัวมั้ยวะ"

อารมณ์ไหนวะ หมาป่าบ้าบออะไร หนูน้อยแก้มแดงห่าเหวอะไรของมัน สิ่งที่ทานพูดยิ่งทำให้อ้อนขมวดคิ้วมุ่นและมึนงงมากขึ้นเรื่อย ๆ

"ห้ามดิ้น ห้ามทำตัวน่ารำคาญ ห้ามแหกปากโวยวาย ห้ามถามด้วย นั่งอยู่เฉย ๆ นิ่งๆ แล้วจะลดหนี้ให้ สองพัน"

ท้ายประโยคอ้อนได้ยินเหมือนเสียงหัวเราะแผ่วเบาของอีกฝ่าย แล้วก็ทำได้แค่หุบปากเงียบ และยกมือขึ้นลูบที่แก้มของตัวเองซ้ำ ๆ หวังจะให้รอยสัมผัสจากผิวแก้มเจือจางลงบ้าง
แต่เมื่อลูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลับดูเหมือนว่าร่องรอยจากความรู้สึกจะเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ จนต้องนิ่วหน้า และกอดแขนที่ล็อคอยู่รอบลำคอของทานตะวันเอาไว้แน่นด้วยความไม่เข้าใจ

"เฮ่ออออออออ เหนื่อยว่ะ เล่นกับมึงมาก ๆ มันก็มีเหนื่อยกัน อยู่เฉย ๆ นะ เดี๋ยวลดหนี้ให้สองพันจริง ๆรับรอง ไม่โกหก"

แค่ได้ยินว่าจะลดหนี้ให้สองพัน เพียงแค่นั้นอ้อนก็ยิ้มได้แล้ว ดวงตากลมโตเงยหน้าขึ้นจ้องมองพระจันทร์สีส้มอ่อนที่ทอแสงเรือง ๆ ให้เย็นใจ
แผ่นหลังสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจของร่างที่กอดเอาไว้ในคืนนี้

สาธุขอให้ไอ้ทานมันอารมณ์ดีแบบนี้ไปตลอดด้วยเถอะ อย่าให้มันใจดีวันเดียวเลย ขอให้มันเป็นแบบนี้นาน ๆ ด้วยเถอะคร้าบบบบบบบบบบ

ในขณะที่อ้อนกำลังเฝ้าภาวนาเรื่องสำคัญของตัวเอง

ทานตะวันกลับนั่งอมยิ้ม และกระชับอ้อมแขนกอดรัดร่างที่ได้แนบชิดให้แน่นขึ้น

ตามองที่ดวงจันทร์กลมโต แต่ใบหน้ากลับอมยิ้มออกมาอย่างมีเป็นสุข

วันนี้มีความสุขดีนะ

อยู่เงียบ ๆ กับคนขาเป๋ มือพิการ เป็นใบ้แบบนี้ มันก็มีความสุขได้เหมือนกัน

ที่จริงอยากนั่งเงียบ ๆ แบบนี้ไปนาน ๆ แล้วก็หลับตาลงพักผ่อน ถ้าได้เป็นแบบนี้ทุกวัน คงมีความสุขที่สุดในโลกเลย

TBC....
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 13-05-2007 22:52:39
 :laugh3: :laugh3:  อ่านไปอ่านมานึกถึงเรื่องเชลยรักยังไงมะรู้นะครับ 555555 o17 o17
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 13-05-2007 22:54:49
ลงเยอะกว่านี้หน่อยไม่ได้หรอ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 13-05-2007 23:26:54
เฮ้อ เหนื่อย
:serius2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 13-05-2007 23:59:49
นายทานนี้ก็แกล้งไม่เลิกจิงๆ สงสัยบทหวานของนายทานนี้ จะออกแนวโหดปนหวานซะละมั้ยเนี่ย  :o11:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 14-05-2007 01:16:32
เสียดายจัง ทำไมหมาป่าไม่กินหนูน้อยแก้มแดงน๊า . . .  :impress2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 14-05-2007 01:17:03
กักขังฉันเถิดกักขังไป ขังตัวอย่าขังหัวใจดีกว่าอิๆ :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 14-05-2007 02:08:40


................ชอบตอนนี้จังเลยครับ...........ใครก็ได้ช่วยหาหมาป่าแบบทานมาให้ที.... :haun5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 14-05-2007 09:34:59
เวลาความสุขที่นานๆ มาที 

มันมักจาหอมหวานกว่าความสุขที่ผ่านมาแบบติดๆ กัน  :yeb:

หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 14-05-2007 10:13:13
เรื่องนี้หนุกมากจนรู้สึกว่าสั้นเกินไปเลยอะ อยากอ่านเยอะกว่านี้  o11
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 14-05-2007 10:26:22
  :serius2:  ไม่ไหวแล้วนะ มาต่อเดี๋ยวนี้เลยได้ไหมอ่ะ

ตอนนี้โดนใจคนอ่านอย่างแรง o7


ขอบคุณที่มาต่อให้นะงับ o15
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 14-05-2007 11:59:36
ความสุขบางทีเราก้ไม่คาดคิดว่ามันจะได้มาง่ายๆ อย่างนี้เหมือนเก่าเนอะ

ขอมีความสุขด้วยคนนะเคอะ  o22
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 14-05-2007 12:43:35
วันนี้อ่านกันเร็วแหะ ถึงสิบ reply ละ งั้นโพสอีกตอน
 :impress2:
********************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ทำไม

ทานตะวันหนอทานตะวัน ท่านจะทำตัวให้เหมือนคนดี ๆ เขาเป็นกันบ้างไม่ได้เชียวหรือ
ทำไมถึงได้เป็นบ้าได้ขนาดนี้ จะวิ่งทำไมมากมาย น่าปวดหัว มันเป็นอะไรของมันกันล่ะเว้ย

อ้อนนั่งอยู่ข้างสนามฟุตบอลแล้วก็เอามือกุมขมับ ขายังไม่ทันหายเจ็บ ไอ้คุณท่านทานตะวันก็ลากมาอยู่ข้างสนามกับมันแล้ว

แล้วมันก็เข้าอีหรอบเดิม

น้ำ

ผ้าขนหนู

น้ำ

ผ้าขนหนู

น้ำ

ผ้าขนหนู

วิ่งไปวิ่งมาทำไมหลายสิบรอบ ไม่เวียนหัวบ้างหรือไงวะ แล้วไอ้เรื่องหวานแหววเมื่อคืนล่ะ นั่นมันเรื่องอะไรกัน สงสัยจะเป็นความฝัน ชัวร์
เพราะไอ้ทานเมื่อคืนนี้ แม่งเอ้ย เจ้าชายกลับชาติมาเกิดแท้ ๆ ช่างแสนดี และเปี่ยมล้นไปด้วยความเหงาและอ้างว้าง ใบหน้าหรือก็หล่อคม แฝงความเศร้าแต่เย้ายวน
เจ้าชายแท้ ๆ เลยมึง หญิงเห็นรับรองหลงชัวร์

อ้อนได้แต่ประชดประชันคนที่บ้าแหกปากวิ่งอยู่กลางสนาม พร้อมกับสมาชิกชมรมอีกนับสิบชีวิตที่ต้องบ้าวิ่งตาม คนที่ไม่ยอมหยุดพักเลยสักนิด

เมื่อคืนนี้ มีคนช่วยอาบน้ำ ไม่เรียกว่าอาบน้ำหรอก เขาเรียกว่ากดให้จมน้ำมากกว่า
ตีสามครับตีสาม ไอ้คนโรคจิตมันนึกว่ากี่โมงกี่ยามกัน มันถึงได้ตักน้ำราดเอาราดเอาตัวเปียกไม่พอ ผ้าไม่ช่วยเปลี่ยน แถมยังโยนผ้าขนหนูครอบไว้บนหัว
ตามมาด้วยเสื้อผ้าชุดอย่างกับยักษ์กับมารต้องมานั่งพับขากันอีก วุ่นวายน่าปวดหัวกบาลไม่เลิก แล้วมันก็ลากขึ้นเตียงไปนอนกอด

อุ่นสบายเหลือเกินนะมึง นอนอย่างเดียวไม่พอมันยังมีเอาขามาก่ายแล้วหัวเราะคิกคักชอบใจ ก่ายไม่พอมันเอาขามาล็อคขาเอาไว้อีก ไม่ให้ขยับ
เออสนุก มึงสนุก แต่กูไม่สนุกด้วยเลย แต่ทำอะไรไม่ได้ ต้องเงียบ เซ็งแม่งจริง ๆเลยเว้ย สุดยอดของความเซ็งเลย ยังไม่ทันได้นอนยังไม่ทันหลับครับ

ไอ้เวรนี่มันก็ลุกขึ้นแล้วแหกปากเสียงดังลั่น แต่มืดแต่ดึก เมื่อเจ็ดโมงเช้า แล้วเป็นไงล่ะ ก็ต้องตามมันออกมานั่งเฝ้ามันอยู่ข้างสนามฟุตบอลนี่ไง
ไม่มีอะไรเลยที่ต้องทำนอกจากต้องปรนนิบัติไอ้คุณท่านทานตะวัน เฮ่อ เซ็ง เซ็งจังเลยโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย


อ้อนนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วแกว่งขวดน้ำเล่น ตามองไปที่คนตัวโตที่วิ่งจนเหงื่อโทรมกาย และนั่น มันกำลังมาแล้ว มันกำลังวิ่งมาแล้ว และมันก็กำลังก้าวเข้ามาแล้ว

กล้องแพลนไปที่ภาพของตะวันที่วิ่งเข้ามาอย่างช้า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ และ และ และ

อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ตุ๊บ

เสียงไม่ดังเท่าไหร่ ก็แค่กัปตันทีมฟุตบอลตัวโตล้มลงไปกองอยู่แทบเท้าอ้อน และนิ่งเงียบไปแล้ว

"พี่ทาน ไอ้ทาน ทาน และ เฮ้ยยยยยยยยยยยย

ทุกคนกรูกันเข้ามาช่วยประคองคนที่เสียฟอร์มหล่อแต่วัน แต่ทานตะวันค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง และลุกขึ้นยืน ทั้งที่เลือดกำเดาไหลพราก

"กูยังไม่ตาย ไม่เป็นอะไรโว้ย ไอ้เป๋ ผ้าขนหนู แล้วก็น้ำด้วย ไม่ต้องตาม ใครตามกูพ่อมึงตายกูจะไปเปลี่ยนเสื้อ"

รวดเร็วทันใจ อ้อนส่งน้ำและผ้าขนหนูให้กับทานตะวัน และร่างนั้นก็เดินลิ่ว ๆ ๆ ๆ ๆ เข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อของนักกีฬา ท่ามกลางสายตาของใครหลายคนที่ยังตื่นตะลึง
และยังนึกไม่ออกว่าเมื่อ 20 วินาทีก่อนนี้มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่าการเสียฟอร์มอย่างยิ่งใหญ่และใหญ่หลวงของกัปตันทีมจะเป็นภาพหลอน เอ๊ะหรือว่ายังไง
ท่ามกลางความตื่นตะลึงของใคร ๆ ที่ยังตั้งตัวไม่ถูก แต่อ้อน รู้ว่าต้องทำอะไร

ไม้ค้ำยันถูกนำมาพยุงร่าง และอ้อนก็พาตัวเองเดินกระโผลกกระเผลกตามเข้ามาในห้องเปลี่ยนเสื้อ

ทานตะวันเงยหน้าขึ้นมองเพดาน และใช้ขวดน้ำดื่มวางไว้บนหน้าผาก เพื่อหยุดเลือด

เสียฟอร์ม เสียฟอร์มมาก ๆ เสียฟอร์มอย่างแรง จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนวะกู เสียฟอร์มโว้ยยยยยยยยยยยย แล้วล้มที่ไหนไม่ล้ม เสือกมาล้มแทบเท้าไอ้เป๋
ชีวิตกู ชีวิตชายมาดแมนอย่างกู ทำไมมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้วะ

"เฮ้ย เข้ามาทำไมวะ ใครใช้ให้เข้ามา เกะกะ" น่านนนนนนนนนนนน ไม่ทันไร มันก็แผลงฤทธิ์นี่ขนาดเลือดกำเดาไหล ยังแหกปากได้ไม่เลิก

อ้อนส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับคนบ้าบอที่ยังบ้าไม่เลิก ไม่มีคำพูดอะไร นอกจากอ้อนทิ้งกายลงนั่งข้าง ๆ ทานตะวัน และรั้งต้นคอของคนที่นั่งเงยหน้าอยู่ ให้เอนกายนอนลง

 


"เฮ้ยทำไรวะ เห็นกูเลือดออกหน่อย ทำเป็นเก่งเลยนะ คิดจะทำอะไรกันแน่วะ"

ปากโวยวายไม่เลิก แต่สุดท้ายเมื่อถูกรั้งมาก ๆ เข้า ทานตะวันก็จำใจต้องเอนกายลงนอนหนุนตักของอ้อน

"นอน ๆ ไปเหอะ เลือดยังไม่หยุดไหลเลยนี่ นั่งอย่างนั้นเดี๋ยวก็มึนหัวหรอก" คำพูดเรียบเรื่อย แต่แฝงมากับความห่วงใยลึก ๆ
ทำให้คนที่ใช้หน้าขาของอ้อนแทนหมอน ต้องเหล่สายตาไปมอง
คนที่พูดประโยคนี้ แล้วถึงได้รู้ว่าหัวใจของตัวเองกำลังเต้นตึกตัก ตึกตัก และเริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ

"ทำไมต้องมึนด้วย" รู้ว่าทำไมถึงมึน แต่คนบ้า ๆ ก็ยังอดถามไม่ได้ นัยน์ตาคมใสแจ๋ว จ้องมองใบหน้าของอ้อนที่หันกลับมาแล้วก็ส่ายหน้ากับความไร้เดียงสาของคนตัวโต

"ก็เพราะว่าเสียเลือดไงล่ะ"

อ๋อ เหรอ งั้นถ้าไอ้อ้อนเสียเลือดมันก็มึนเหมือนกันน่ะสิ

"แล้วทำไมเสียเลือดล่ะ"

"ก็เพราะว่าคนบางคนหกล้มหัวทิ่มไง"

"แล้วทำไมหกล้มหัวทิ่มล่ะ"

"ก็เพราะว่ามันซุ่มซ่ามไง"

"ก็ทำไมมันซุ่มซ่ามล่ะ"

"กูจะไปรู้เหรอ"

"เหรอ" หมด จบการสนทนาทันที

อ้อนหันหน้าไปอีกทาง ส่วนทานตะวันหรุบสายตาลง และหรี่ตาลงอย่างช้า ๆ

"มึน สงสัยเสียเลือดเลยมึน แล้วก็ง่วงนอน" โห เหตุผลของมัน มึนเพราะเสียเลือดสองสามหยด นี่ดูเหมือนว่าเลือดจะหยุดไหลแล้วด้วย แต่ไอ้ทานมันหาเหตุไม่ยอมลุกขึ้น
สงสัยว่ามันคงจะขี้เกียจล่ะมั้ง

"น่าจะตายไปเลยนะ เสียเลือดเยอะ ๆ ควรตายไปเลย"

พูดไปแล้ว และไม่ทันคิดถึงผลที่ตามมาของคำพูดนี้

ทานตะวันปรือตาตื่นขึ้นและลุกพรวดพราดขึ้นนั่ง เหวี่ยงผ้าขนหนูผืนเล็กใส่หน้าของอ้อน ตามด้วยการขว้างขวดน้ำไปที่ประตูล็อคเกอร์จนน้ำในขวดไหลออกมานองพื้น

"อ๋อ ถ้าตายจะได้ไม่ต้องใช้หนี้ คิดงั้นล่ะสิ เออ กูมันเป็นมารชีวิตมึงนี่ ถ้าไม่มีกู มึงก็ไม่ต้องมีหนี้มีสิน แล้วก็มาทำหน้าลำบากใจอย่างนี้หรอก ใช่มั้ยล่ะ ใช่มั้ย"

แล้วนี่ไปสะกิดต่อมบ้าที่ไหนเข้าล่ะ ผีหมาบ้ามันถึงได้เข้าสิงอีกเนี่ย

คอเสื้อถูกกระชากอย่างแรง แล้วทานตะวันก็ทำหน้าเหมือนโกรธใครมาสิบปีสิบชาติ นัยน์ตากลมโตจ้องมองใบหน้าที่ยังชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อของทานตะวันแล้วก็ส่ายหน้า

โดนอีกแล้วชัวร์เลยกู คราวนี้อะไรอีกล่ะ

"ออกไปเลยไป เดินออกไปเลย วันนี้อย่าให้กูเห็นหน้ามึงนะไม่งั้นมึงโดนดีแน่"

นั่นไง ดีหน่อยที่วันนี้ไล่ให้ออกห่าง ไม่งั้นตายยยยยยยยย

อ้อนหัวเราะออกมาเสียงเบา แล้วก็กลับไปตีหน้าเฉยอีก เด็กชะมัด ทำได้แค่โวยวาย เด็กจริง ๆ เล้ย

"ไปตอนนี้เลย ออกไปเลยไป๊ ไปสิวะ"

เหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขำ ทำได้อย่างมากก็แค่ไล่ให้ไปไกล ๆ หรือไม่ก็แหกปากโวยวายแหละวะคนอย่างไอ้ทานเนี่ย

"ไปเลย เอานี่ ไม้ค้ำ มึงรีบ ๆ เดินออกไปเลยไอ้เป๋"

เดาไม่ถูกว่าอารมณ์นี้ทานตะวันคิดอะไร แต่ที่แน่ ๆ รอดพ้นตีนมันไปหนึ่งวันแล้ว โชคดีจริง ๆ เลยเว้ยกู
อ้อนลุกขึ้นยืน และรับไม้ค้ำที่ถูกยื่นมาให้ เตรียมเดินออกไปจากห้อง หัวใจพองโตเริงร่าเป็นที่สุด

อ้อนก้าวออกไปแล้ว และทานตะวันก็เดินเข้าห้องน้ำเตรียมอาบน้ำ เสื้อผ้าถูกผลัดเปลี่ยน และแขวนไว้ที่บานประตู หยดน้ำรินรดร่างกายให้สดชื่นขึ้นบ้าง

ในวินาทีนั้น ทานตะวันไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด

เหมือนที่อ้อนเองก็ไม่รู้สึก
 


ก็ไม่เห็นจะสำคัญตรงไหน ไม่ได้เป็นอะไรกันเลยด้วยซ้ำ แค่อยู่ด้วยกันมาหลายวัน มากกว่าหนึ่งวัน มากกว่าสองวัน และมากกว่าสามวัน มากกว่าหนึ่งสัปดาห์ ก็แค่นั้นเอง

ก็แค่นอนกอดกัน หยอกล้อกันเล่นแบบแรง ๆ หาเรื่องทะเลาะกันบ้าง แล้วก็ขัดใจกันอยู่บ่อย ๆ ไม่มีอะไรน่าจะต้องคิดเลยสักนิด

ทานตะวันอาบน้ำต่อไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว และยักไหล่ส่ายหน้าช้า ๆ สะบัดศีรษะไล่หยดน้ำออกไปจากเส้นผม คว้าผ้าขนหนูมาซับผิว และพันรอบเอวเอาไว้ เดินออกจากห้องน้ำ
และมาหยุดยืนมองกระเป๋าใบใหญ่ ที่พกไว้สำหรับใส่อุปกรณ์และเสื้อผ้า

เปิดกระเป๋าออกและหยิบเสื้อผ้าออกมาเตรียมผลัดเปลี่ยน

"เฮ้ย พับแขนเสื้อให้กูด้วยนะ" คำสั่งเหมือนทุกวัน ถูกเปล่งออกมา แล้วทานตะวันก็ชะงักนิ่ง หันไปมองรอบ ๆ ตัว

อ้าว ก็ไล่มันไปแล้วนี่หว่า บอกมันแล้วว่าวันนี้ไม่อยากเห็นหน้ามันอีก

เสื้อถูกหยิบขึ้นมาสวม

กางเกงถูกหยิบขึ้นมาใส่

ใบหน้าคมราบเรียบนิ่งเฉย และก้มลงผูกเชือกรองเท้าคนเดียวเงียบ ๆ

ไม่รู้สึกรู้สา แต่จู่ ๆ ภายในหัวใจก็ไหววูบอย่างน่าประหลาด
จนต้องเงยหน้าขึ้นมองหาคนที่ก้าวเท้าออกไปไม่นาน


ก็แค่ไม่เจอไม่ถึงชั่วโมงเอง เมื่อกี้ก็ไล่มันไปห่าง ๆ จะอะไรนักหนาวะ

ทานตะวันก้มลงผูกเชือกรองเท้าอีกข้าง แล้วต้องรีบเงยหน้าขึ้นเพื่อมองหาอ้อน

สุดท้ายรีบคว้ากระเป๋าสะพายและวิ่งออกไปตามหา คนที่เพิ่งเดินจากไปไม่ถึงสิบนาที

ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิดเดียว ก็แค่รำคาญไอ้อ้อน แล้วก็โมโหมันที่มันได้เห็นสภาพแย่ ๆ แบบตอนที่เสียฟอร์ม ก็เลยไล่มันไปแล้ว

แล้วนี่อะไรวะ จะวิ่งออกมาหามันทำไม เป๋ขนาดนั้นไม่เห็นต้องวิ่งเลย ไม่เห็นต้องรีบเลยสักนิด


ภาพของคนที่ใช้ไม้ค้ำยันกำลังยืนพูดอะไรอยู่คนเดียวและมีโทรศัพท์แนบไว้ที่ข้างหู ทำให้ทานตะวันหยุดชะงักเท้าและแอบยืนหลบอยู่บริเวณมุมตึก

ไม่ได้ตั้งใจ แต่จงใจฟังให้ชัด ๆ เท่านั้นว่าอ้อนกำลังคุยกับใคร


"แม่ อย่ามายุ่งกับผมมากได้มั้ย ผมก็บอกว่าอยู่กับเพื่อนไงล่ะ แม่อย่ามาเซ้าซี้ผมมากกว่านี้อีกเลย แค่นี้นะครับ ผมจะขึ้นเรียนแล้ว"

โห มึงพูดอย่างนี้กับแม่มึงได้ไงวะ ต้องตบหัวสั่งสอนหน่อยแล้ว ไอ้อ้อนนะไอ้อ้อนมึง เดี๋ยวน่าดู เดี๋ยวน่าดู

อ้อนกดตัดสายไปแล้ว และยืนขมวดคิ้วมุ่น พูดกับโทรศัพท์ในมือ ดวงตากลมโตไหวระริก และเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว

"แม่ครับ ผมขอโทษครับแม่ ผมมันเป็นลูกที่ไม่ดี สร้างแต่ภาระให้แม่ตลอดเวลา ถ้าผมตายไปตอนที่รถชน ผมคงไม่ต้องเป็นคนพิการเพื่อเป็นภาระกับแม่อย่างนี้
ผมขอโทษครับแม่ ผมขอโทษ"

ไม่มีสักวันที่ทานตะวันจะรู้สึกว่าหัวใจไหววูบได้มากขนาดนี้ คำขอโทษและแววตาที่แสนเจ็บปวด ทำให้ความคิดที่ว่าจะรีบผวาออกมาจากมุมตึกเพื่อมาจัดการกับอ้อนถูกพับเก็บไปในทันที

คนตัวโตใช้กำแพงเป็นที่พิงหลัง และแอบมองอ้อน อยู่ไม่ไกลนัก

"ผมขอโทษงั้นเหรอ ทำไมล่ะ ทำไมต้องขอโทษแล้วทำไมต้องทำเหมือนจะร้องไห้อย่างนั้น ทำไมวะ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ "

TBC......


 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 14-05-2007 14:26:08
น่าสงสารอ้อนจัง รีบมาต่อไวๆนะคับแง่มม
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 14-05-2007 15:49:07
เวลาอ่านเรื่องนี้ แล้ว อารมเปลี่ยนไปเรื่อยๆจิงๆ  เดี๋ยวก็ยิ้ม เดี๋ยวก็รู้สึกสงสาร - -*
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-05-2007 16:03:17
เห็นด้วยกะรีบนครับ

ไม่ไหวแล้ว ปรับอารมณืมะทันอะ

 o2
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 14-05-2007 16:12:49
รู้สึกว่าเรื่องนี้ออกแนวโรคจิตร เหอๆ

แต่ก็สนุกดี ^^
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 14-05-2007 19:01:22
ชอบเรื่องนี้มากๆๆๆๆ  ดึงอารมณ์ดีจริงๆ 
เด็กสองคนขาดความรักความอบอุ่นจากครอบครัว  ทำให้ไม่มีความมั่นคงทางอารมณ์
แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจการกระทำและอารมณ์ของตัวเองเลย
แต่คนสองคนกำลังจะพยายามเข้าใจกันและกัน  ผูกพันกันไปเรื่อยๆ แล้ว

ทานจะปลอบอ้อนป่าวเนี่ย  อยากอ่านซึ้งๆ หวานๆ อีกจัง  รอตอนต่อไปอยู่นะเรย์   :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-05-2007 19:11:34
เรื่องนี้มีหลายอารมณ์จัง  :try2:  :try2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 14-05-2007 19:19:27
 :sad4: :sad4:  สงสารอ้อนก็สงสาร  สงสารทานก็สงสาร  เมื่อไหร่จะดีกันซะทีก็ไม่รู้ :o7: :o7:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 14-05-2007 19:25:15
สงสารทั้งอ้อนและทาน

ปวดใจจริงๆ  :dont2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 14-05-2007 21:27:39
 o12
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Felm ที่ 14-05-2007 22:33:34
ไม่มีคำบรรยายกับนิยายเรื่องนี้เลยอะครับ
บอกได้อย่างเดียวว่า ร้องไห้ไปหลายรอบละ
กระชากอารมณ์อย่างสุดๆ เฮ้อ!!!

ตอนนี้ก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ไม่รู้จะพูดอะไร



เอาเป็นว่า รีบๆ มาต่อให้ไวๆนะค้าบ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 15-05-2007 00:19:23
   
..............เข้ามาเชียร์อ้อนกับทานอีกแรง........




ปล.....นี่เกินสิบ reply แล้วนะคุณเรย์......มาลงเพิ่มซะดีๆ...... :interest:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 15-05-2007 00:38:35
10 rep. เลยหรอ หูยย เหลือเป็น 1 rep. ได้เปล่าอะ  :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 15-05-2007 03:29:44
กว่าเรื่องนี้จะจบ . . .

พอดีแหละ คนอ่านได้โรคจิตก่อนพอดี :try2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 15-05-2007 08:20:48
ค่อยๆ เริ่มเรียนรู้กันแล้ววว  อิอิ

นี่แหละน้า

ของใกล้ตัวมักจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญ

จนเมื่อไหร่ไม่มีขึ้นมา 

ถึงจาได้รู้คุณค่าของสิ่งนั้น  ว่ามีค่ามากแค่ไหน

แต่นี่ยิ่งกว่า  เพราะสิ่งๆ นั้น  คือ  คนสำคัญ

คุณค่าเลยยิ่งมากไปด้วยย

 :impress:

หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 15-05-2007 09:04:33
อ้างถึง
ของใกล้ตัวมักจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญ

จนเมื่อไหร่ไม่มีขึ้นมา 

ถึงจาได้รู้คุณค่าของสิ่งนั้น  ว่ามีค่ามากแค่ไหน
:like6:


*******************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน อ้อน

แล้วมันอะไรกันวะเนี่ย อุตส่าห์เดินได้หน่อยแล้ว ก็ต้องมานั่งปวดหัวเพราะไอ้บ้าทานอีก มันอะไรกันล่ะโว้ยยยยยยยยยยยยยย

อ้อนพยายามดึงแขนของทานตะวันให้ลุกขึ้นแต่ร่างนั้นก็เอาแต่นอนฟุบบนโซฟาและส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอ จับใจความไม่ได้ด้วยซ้ำว่ากำลังพูดอะไร

ทานตะวันไล่ให้อ้อนกลับมาที่บ้านก่อนในช่วงเย็น และตัวเองก็ไปเลี้ยงรุ่นน้อง เหตุผลไม่มี ไอ้ทานมันบอกว่ามันอยากเลี้ยงมีอะไรมั้ย แล้วตัวมันเองก็หายไปตั้งแต่เย็น แถมซ้ำยังมีการบังคับให้อ้อนกลับมารอที่บ้าน และโยนกระเป๋าใส่อุปกรณ์ใบโตให้เอากลับมาด้วย ส่วนตัวเองไปเที่ยวเล่นสบายใจเฉิบ คำสั่งถัดมาคือบอกว่า ซักผ้าให้ด้วย แล้วไม่บอกให้กวาดบ้าน หุงข้าวทำกับข้าวด้วยเลยล่ะ อย่านะ อย่าคิดว่าอ้อนไม่พูด แค่คิดในใจไม่ออกเสียงนิดหน่อย อีกฝ่ายก็เลยทำหน้าเหมือนรู้ดี ทำหน้าตาล้อเลียนใส่ แบบไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด

นี่ขนาดอายนะ นี่ขนาดอายที่หกล้ม อายได้ไม่ถึงห้านาที ก็ไปเที่ยวได้ต่อ คงจะสนุกน่าดู ถึงได้ต้องให้รุ่นน้องในชมรมหิ้วปีกมาในสภาพกลิ่นเหล้าคลุ้ง และหมดสภาพได้ขนาดนี้

แล้วทีนี้เป็นไงล่ะ กะว่าจะเมามาให้กูเช็ดอ้วกใช่มั้ยล่ะมึงไอ้ทานนะไอ้ทาน มึงนี่มัน โว้ยยยยยยยยย หงุดหงิดโว้ย

"อ้อน อ้อน กี่นิ้วเหรอ นี่ทำไมมียี่สิบนิ้วอ่ะ ไม่เอายี่สิบนิ้วนะ ไม่เอา ไม่เอา"

เออ ยี่สิบนิ้วบ้านมึงสิ นิ้วงอกหรือไง เมาแล้วบ้า ปกติก็บ้าอยู่แล้ว นี่ยังจะบ้าหนักขึ้นอีก

"มายไม่ต้อบก๊านเลยเนอะ เนอะ แอ่ะ จาอ้วกกกกง่ะ"

พูดจาลิ้นพันกันแบบนี้แถมยังจะอ้วกอีกเหรอวะ โธ่โว้ย ผ้าขนหนูอยู่ไหนวะ นี่กูต้องเช็ดอ้วกมันจริงเหรอเนี่ย แค่คิดก็สุดทนแล้ว

"โห่เว้ย น่าเบื่อจริง ๆ เลย ปกติก็บ้าอยู่แล้ว นี่ยังเมาอีก กูจะทำยังไงดีวะ" ปากบ่นแต่มือก็ต้องทำงาน สภาพร่างกายไม่ได้เอื้ออำนวยมากนัก แต่ตอนนี้ถึงเจ็บขาจนต้องใช้ไม้ค้ำยันบ้างในบางเวลา แต่จะให้ใช้ตอนนี้ก็คงไม่ได้ ไอ้ยักษ์นี่ก็ตัวโตชะมัดปกติก็แทบพยุงมันไม่ไหว แล้วนี่ขาเจ็บอีก เลยไปกันใหญ่

อ้อนรั้งแขนของทานตะวันให้มาอยู่บนต้นคอของตัวเองพยายามใช้มือจับที่เอวของอีกฝ่ายและพยุงให้ลุกขึ้นแต่คนตัวโตก็ไม่ยอมลุกขึ้นตามแถมซ้ำยังพร่ำพูดคำพูดที่ฟังไม่รู้เรื่องอีก

"อ้อนอ่ะ อ้อน อ้อน หอมแก้มทีดิ" ห๊า นี่ มันยังจะเล่นอีกเหรอเนี่ย อะไรกันวะเนี่ย ใบหน้าคมทำท่าจะเบี่ยงลงมาหาแล้ว และอ้อนก็รีบเบี่ยงหน้าหนี ผลักแผ่นอกกว้างของอีกฝ่ายให้ล้มลงไปกองบนโซฟา ส่วนตัวเองมายืนเหนื่อยหอบ ทิ้งร่างของทานตะวันในสภาพเมาเละให้นอนคว่ำหน้า ส่วนตัวเองมายืนเสยผมที่มีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นเต็มหน้า หลังจากที่ต้องเหนื่อยกับการรบกับคนเมามาเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก็เลยทิ้งให้ทานตะวันนอนแน่นิ่งอยู่บนโซฟานั่นเอง

"เออ ดี นอนไปเลยนะมึง กูไม่ช่วยแล้ว เมาเละนอนไปเลย น่าเบื่อจริง ๆ เลยโว้ย"

อ้อนทิ้งกายลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม และทอดสายตามองร่างของคนตัวโตที่เอียงกะเท่เล่จะตกลงมาจากโซฟาอยู่แล้ว

"อื้ออออ ร้อนอ่ะ กินเหล้าอีก กินอีก อ้อนหายอ่ะ อ้อน ทำมายไม่เห็นบอกว่าทะเลาะกับแม่เลยอ่ะ ทำไมไม่เห็นบอกเลย เป็นภาระอะไรเหรอ ห๊า ภาระอะไร"

ภาระอะไรงั้นเหรอ นี่มันไปได้ยินอะไรมาวะเนี่ย

เพียงแค่ได้ยินสิ่งที่ทานตะวันพูด อ้อนก็ลุกพรวดพราด ลากขาเข้าไปนั่งอยู่ข้างโซฟาและพยายามฟังที่ทานตะวันพูดให้ชัด ๆ

"อะไร พูดใหม่อีกทีซิ พูดว่าอะไร" ถามไปก็ป่วยการชื่อตัวเองยังจำไม่ได้ แล้วจะถามให้ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา

"ไอ้ทาน ถามว่าภาระอะไร" อ้อนพยายามจะดึงให้ใบหน้าของทานตะวันหันมาหา แล้วคนเมาก็ลุกพรวดพราดขึ้นนั่ง และผงกหัว

"เฮ้ย ตกใจหมด จะลุกขึ้นทำไมไม่บอกวะ"

อ้อนผงะหนีและทำหน้าเบื่อหน่ายชีวิตที่เห็นใบหน้าโทรม ๆ หน้าตายับยู่ยี่ของทานตะวันที่ทำตาปรือและค่อย ๆ ฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาจนตาหยี

"อ้าว อ้อน มาตอนไหนอ่ะ ป่ะ ป่ะ อาบน้ำให้หน่อย เร็วไปอาบน้ำกัน ไปกันเร็ว ทานจะอาบน้ำแล้ว จะอาบตอนนี้เลย"

แล้วไอ้บ้าที่เมาจนแทบไม่ได้สติ ก็จัดการปลดเสื้อของตัวเองและเหวี่ยงลงพื้น ตามมาด้วยการรูดซิปกางเกงลงเตรียมถอดกางเกงกองไว้ต่อหน้าต่อตาของอ้อน ที่ต้องเบะหน้าแล้วก็ลุกขึ้นคว้าแขนของทานตะวันและกดไหล่ให้อีกฝ่ายนั่งลง

"พอเหอะ แค่แก้ผ้าก็ทุเรศพอแล้ว นี่ยังต้องอาบน้ำให้คนเมาอีก กูได้ตายกันพอดี แม่ง"

ทานตะวันนั่งลงแล้ว และทำตาปรือ ยกมือขึ้นเสยผมตัวเองและเอนหลังพิงพนักโซฟาก่อนจะหลับตาลงและค่อยๆ เลื้อยลงไปนั่งกับพื้น

"เฮ้ย ไอ้ทาน ไอ้ทาน ทำอะไรวะ อะไรของมึงอีกเนี่ย"

แค่ลงไปกองกับพื้นยังไม่พอ แต่กระตุกแขนอ้อนลงมาด้วยและคนตัวโตก็บังคับใช้หน้าขาของอ้อนต่างหมอนหนุนนอน และหัวเราะอย่างชอบใจ

"อ้อนอือ จะนอนแล้ว" ฝ่ามือของทานตะวันถูกเอาไปซุกไว้ที่ซอกคอ และคนที่บ้าบอในยามปกติ ก็หลับตาลง นอนอมยิ้มมีความสุข ทิ้งให้อ้อนทำหน้าเซ็งโลกอยู่คนเดียว

"ห่าอะไรอีกวะเนี่ย ต้องนั่งให้เหน็บกินขาอีกแล้วเหรอวะ"

เสียงบ่นงึมงำอย่างไม่พอใจของอ้อนตามมาด้วยการที่มือค่อยๆ เอื้อมไปหยิบหมอนอิงที่โซฟา เอามารองที่ศีรษะของทานตะวัน และคนเมาก็ปรือตาตื่นขึ้นมองหน้าของอ้อนพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น

.........
"ปายหนาย ไม่เอาไม่ให้ปาย" เออ ห้ามไปเหอะอย่างกับว่ากูจะเชื่อมึงนี่ อ้อนเหลือบสายตามองหน้าของทานตะวันแล้วก็ลุกพรวดพราดขึ้นเตรียมเดินหนี แต่ก็ต้องชะงักเท้ายืนนิ่งและทิ้งกายลงนั่งอีกครั้ง เมื่อได้ฟังคำพูดของทานตะวันที่แทบฟังไม่รู้เรื่อง

"ไปเลย ทิ้งกันไปให้หมดเลย เป็นหมาหัวเน่านี่ แม่ก็ทิ้งทานไป พ่อก็ไม่รัก ไม่มีใครรักทานเลย ไปกันให้หมดเลยไป๊ ไม่ต้องกลับมากันแล้ว ปายกันเลย"

ไม่มีใครรักเหรอ อย่ามาทำเป็นตลกหน่อยเลย เงินทองมีใช้ขนาดนี้ยังจะเอาอะไรอีกวะ

อ้อนนั่งลงข้าง ๆ ของคนที่หลับตาลงขมวดคิ้วมุ่นและเอาแต่พร่ำพูดประโยคที่คนฟังนึกสงสารขึ้นมาจับใจ

"ไม่รักใครแล้ว ไม่รักใครทั้งนั้นแหละ มีแต่คนใจร้ายกันทั้งนั้นเลย ไม่รักใครแล้ว ไปไหนก็ไปกันให้หมดเลยไป๊"

คนเมายังคงพร่ำพูดคำพูดที่อ้อนไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของคนอย่างทานตะวัน ไม่สงสารก็ต้องสงสารอยากนิ่งเฉยก็ทำไม่ได้ สุดท้ายต้องจำใจนั่งฟังทุกคำพูดเอาไว้และจดจำได้ทุกคำพูด

"ไม่รักใครแล้ว เกลียดทุกคนในโลก เกลียด อย่ามายุ่งนะ ไปให้หมดเลยไป๊ ไปให้พ้นหน้าเดี๋ยวนี้เลย ไปให้พ้นมีแต่คนใจร้าย คนใจร้ายเต็มไปหมดเลย เยอะแยะไปหมดมีแต่คนใจร้าย"

คนใจร้ายบ้าบออะไรล่ะ มึงนั่นแหละที่ร้ายไปกับใครเขาซะทั่ว แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าทุกคนใจร้ายอีก

"ทาน ลุกไหวมั้ย ไปนอนเถอะ นอนไม่ใส่เสื้อแบบนี้ได้ยังไง น้ำก็ยังไม่ได้อาบนะ ข้าวกินหรือยัง ทานลุกเร็ว ทาน"

ตีแขนก็แล้ว แตะที่ไหล่ก็แล้ว เขย่าหัวก็แล้ว แต่ทานตะวันกลับนอนนิ่งเงียบ และหันหน้าหนีไปอีกทาง จนหัวตกลงมาจากหมอน แล้วก็เป็นภาระของอ้อนที่จะต้องรั้งต้นคอของร่างนั้นให้มาหนุนอยู่ที่หน้าขาของตัวเอง

แล้วไอ้บ้านี่ก็ทำท่าจะกลิ้งไปกลิ้งมาอีก จนอ้อนต้องเป็นฝ่ายที่ค่อยรั้งไม่ให้คนตัวโตกลิ้งไปกลิ้งมาได้อีก

มือถูกดึงไปแล้วและทานตะวันก็เอามือของอ้อนไปซุกที่คอ แต่ยังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่เปลี่ยน

"เป็นแฟนกันเหอะนะ เป็นแฟนกันจริงๆ เถอะ จะไม่ให้ไปคุยกับใครแล้ว"

เออ เชิญบ้าไปคนเดียวเหอะไม่เอาด้วยหรอก ใครอยากเป็นแฟนกับมึงกันล่ะวะ กูไม่เอาด้วยคนนะเว้ย

"นะ เป็นแฟนกันนะอ้อนนะ เป็นแฟนกันเถอะนะ" อ้าวไหงอยู่ดี ๆ กลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ เรื่องบ้าอะไรอีกวะเนี่ย

"ไม่เอาหรอก อย่าบ้าน่ะ นอนไปเลยไป" ปฏิเสธไปแล้ว แต่คนที่นอนหนุนตักก็ยังเซ้าซี้ไม่เลิก

"น๊า เป็นเหอะนะ เป็นเหอะ เป็นจริงๆ เถอะนะอ้อน เป็นเถอะ" นี่มันจะบ้าอีกนานมั้ย กูจะได้รีบ ๆ บ้าไปก่อนมันซะให้รู้แล้วรู้รอดกันไป

"ไม่"

"ไม่เป็นจะจูบ" กลัวตายเลย เมาไม่รู้เรื่องขนาดนี้ ยังจะกล้าพูด ไอ้เวรเอ้ย

"ลองสิ จะเอาหนังสือฟาดหัวเลยมึงคอยดู" ท้าไปอย่างนั้นเอง แค่คำพูดพล่อย ๆ ของตัวเองที่พูดออกไปโดยไม่ทันคิดอะไร

เพียงเท่านั้นทานตะวันก็ลุกขึ้นนั่งแบบคนสร่างเมา จนอ้อนถึงกับผงะหนี เมื่อเห็นรอยยิ้มแปลก ๆ ของอีกฝ่าย ท่าทางแบบนี้ ต่างจากเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัด แล้วไอ้ที่ร้องเอะอะโวยวายจะเอานั่นเอานี่ มัน มัน ไอ้ทาน มีใครทำได้แบบไอ้ทานบ้างเนี่ย ทำไมมันถึงได้มารยาสาไถได้ถึงขนาดนี้

"เฮ้ย ไหนว่าเมาไง เมาไม่จริงเหรอเนี่ย มึงอย่ามาบ้านะ หยุดเลยไอ้ทาน ไอ้คนโกหก กูไม่น่าเชื่อมึงเลย โธ่โว้ย " มือถูกเอามาประกบปิดไว้ที่ปากแล้ว และอ้อนก็เตรียมลุกขึ้นเดินหนี

ขนาดไม่เมามันยังบ้า แล้วนี่แกล้งเมาอีก เลยไม่ต้องคุยกันแล้วแบบนี้

"ไปไหน มาเลย ขอจูบที เร็ว" เมาดิบ ตกลงมึงไม่ได้เมาจริง ๆ ใช่มั้ยเปล่าเนี่ยไอ้เลวเอ้ย

อ้อนลุกขึ้นเตรียมเดินหนีแล้ว และทานตะวันก็รั้งแขนของอ้อนเอาไว้ให้นั่งลงข้าง ๆ กัน จนร่างนั้นเซถลาลงมา ตามด้วยใบหน้าคมที่โน้มเข้าหาอย่างรวดเร็ว

ได้ ไม่ให้จูบงั้นหอมแก้มก่อนเป็นไง จมูกกดหนัก ๆ เข้าที่ข้างแก้มของอ้อนแล้ว และก็ตามมาด้วยกำปั้นหนัก ๆ ของอ้อน ที่ชกมาที่ใบหน้าของทานตะวัน แต่ข้อมือก็ถูกพลิกและแขนของอ้อนก็ถูกกดให้ไขว่อยู่ด้านหลังด้วยกำลังที่เหนือกว่าของอีกฝ่าย

พื้นที่เปิดโล่ง ปากไม่มีสิ่งกีดขวาง แถมแผ่นอกบางยังแอ่นกายแนบชิดอยู่กับร่างที่เปลือยเปล่าท่อนบนของทานตะวันด้วย ลมหายใจหอบเหนื่อย ส่งผลให้ร่างที่ถูกกลั่นแกล้งสั่นไหวไปมาเพราะอาการเหนือยหอบที่ต้องออกแรงต่อสู้กัน

ดวงตากลมโตสบนิ่งอยู่กับดวงตาคม และสะบัดใบหน้าหนีให้พ้นคนที่ค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงมาหาในทันที

"ไอ้ทาน ไม่เอานะโว้ย มึงแกล้งกู อย่าเล่นบ้า ๆ นะ ไอ้ทาน อื้อ" อ้อนหลับตาแน่น และเอียงหน้าหนีนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้นเตรียมสะบัดทันทีที่ถูกแตะต้อง แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อปรือตาขึ้น และได้พบกับใบหน้าที่กำลังยิ้มชอบใจกับปฏิกิริยาของอีกฝ่าย

"เล่นบ้าอะไรวะ แม่งเอ้ย" หายใจหายคอได้ยังไม่ทันไร ใบหน้าที่ชะงักนิ่งอยู่แค่คืบก็ก้มลงมาหา และแนบริมฝีปากลงมาลิ้มลองรสชาติที่อยากลิ้มลองมานานทันที

ไอ้ทาน ก็เมื่อกี้มันไม่จูบ แล้วทำไมพอลืมตาขึ้นมองมันถึงทำแบบนี้
..............
"ไอ้ทาน ไม่เอา อึก ไอ้ทา....อื้อออออ ปล่อยอึก" ทั้งปากทั้งจมูกถูกกดเข้าหาทั้งที่ผิวแก้มและต้นคอจนอ้อนต้องใช้กำลังที่เหลืออยู่ดิ้นรนหนีหาทางเอาตัวรอด มันบ้าไปแล้ว เมื่อก่อนมันก็เล่นแบบนี้หยอกล้อแบบนี้ แล้วมันก็หัวเราะชอบใจ ที่ได้เห็นว่าทำท่าไม่พอใจได้ แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป สายตาที่บ่งบอกมันทำให้รู้สึกว่า ไม่ใช่การล้อเล่นอีกแล้ว

"ห้ามหนี หือ หนีทำไม อื้อ หนีทำไม เร็ว จูบนิดจูบหน่อย ทำเป็นหนี หื้อ ทำไม อื้อ"

พูดไปแล้วแกล้งไปแล้ว และก็ยิ่งสนุก ปล้ำผู้ชายด้วยกันไม่เห็นสนุกตรงไหน แต่ไอ้อ้อน มันน่าแกล้งเล่นชะมัด ไม่เคยสนุกขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตายเถอะวะ

"เมาไม่จริงนี่หว่า เมาดิบแล้วทำไมต้องแกล้งแบบนี้ด้วย อื้ออออออออออ ไอ้ทาน พอแล้ว อึก"

ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จนเมื่อได้แกล้งแตะจมูกเข้าที่แก้ม ได้กอดรัดฟัดเหวี่ยง และใช้ริมฝีปากแตะเข้าหานิด ๆ หน่อย ได้ออกแรง ได้แกล้งจนพอใจ แล้วทานตะวันก็หยุดเล่น

"โอ้ย เหนื่อยได้ออกแรงก่อนอาบน้ำ สนุกดีจะตายใช่มั้ย"

สนุกสิ สนุกตายเลย มึงสนุกอยู่คนเดียว กูไม่ได้สนุกด้วยเลย ไอ้ทาน ไอ้ทาน ทำไมมันถึงเป็นคนที่ โธ่โว้ย ไม่รู้จะพูดยังไงกับมันแล้ว

เสื้อผ้าของอ้อนหลุดลุ่ยเพราะการต่อสู้กันเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เผยให้เห็นร่างกายที่โผล่พ้นเนื้อผ้าออกมา ทานตะวันผละใบหน้าออกห่างและแอบลอบมองร่างกายของอีกฝ่ายเงียบ ๆ โอ้โห เป็นผู้ชายแท้ ๆ มันยังยั่วได้ขนาดนี้ ไม่เลวไม่เลว แต่กูไม่ได้พิศวาสมึงแค่นั้นแหละเลยไม่มีกระใจเล่นด้วย ทานตะวันนั่งหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งให้อ้อนออกอาการฮึดฮัดได้ สองมือยังกระชับอยู่ที่ต้นแขนของร่างที่นิ่งเงียบอยู่ตรงหน้า และสายตายังสำรวจใบหน้าที่แดงก่ำ และหอบหายใจหนักเพราะความเหนื่อยจากสงครามเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

อ้อนยกมือขึ้นเช็ดถูที่ริมฝีปากของตัวเอง และเบะหน้า เช็ดซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้นไม่เลิก จนทานตะวันต้องหัวเราะออกมาด้วยความขำ

"โธ่ อยากจูบตายเลย แบบนี้ไปหาเอาจากไหนก็ได้ ไม่ได้อยากจะจูบเลยสักนิดเดียวทำเป็นดีดดิ้น น่ารักตายเลย"

ปากก็พูดไปอย่างนั้นเอง แต่นัยน์ตาพราวระยับ และยังจับจ้องปฏิกิริยาของอีกฝ่ายไม่กระพริบตา

"เออ สนุก คนใช้มึงนี่ เป็นหนี้มึงนี่ คิดอยากเล่นอะไรก็เล่นไปสิ เห็นว่าเมาหรอกถึงได้เป็นห่วง จะได้รู้ไว้ว่าคนอย่างมึงห้ามใช้ความเสน่ห์หาส่วนตัว ให้คิดเรื่องเงินอย่างเดียว ห้ามพูด ห้ามถาม ห้ามทุกอย่าง สนุกนักนี่ มาหลอกว่าเมาแบบนี้ก็สนุกด้วยงั้นสิ จะได้รู้ไว้ คนอย่างมึงมันเป็นแบบนี้ ห้ามเห็นใจเด็ดขาด เออ กูจะจำไว้"

เป็นครั้งแรกที่ถูกพูดตอกกลับใส่หน้า แล้วคนที่ทำตัวเชื่องทุกครั้งที่ขู่เรื่องใช้หนี้ก็ลุกพรวดพราดขึ้นเดินกระโผลกกระเผลกขึ้นไปชั้นบนของตัวบ้านทิ้งให้ทานตะวันนั่งเงียบ เพราะไม่คิดว่าจะถูกตอบกลับด้วยคำพูดแบบนี้ของอีกฝ่าย

รสชาติหวาน ๆ แปลก ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายลิ้นจากการที่ได้หยอกล้อแตะต้องร่างกายของอีกฝ่ายจนคนตัวโตต้องใช้นิ้วแตะซ้ำ ๆ ที่ริมฝีปากไล้เลียเล่นแต่รสชาติหวาน ๆ ก็ยังคงติดแน่นอยู่ทั้งที่เป็นแบบนั้น แต่ใบหน้ากลับมีริ้วรอยของความเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

"ก็แกล้งมึงสนุกดีนี่ มึงอยากทำหน้าทำตาแบบนี้เองทำไมล่ะ แล้วทำไมเรื่องแค่นี้ต้องโกรธด้วย กะอีแค่จูบเล่น ๆ ทีสองทีจะจริงจังอะไรกันนักกันหนาวะ"

ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่ใจก็ยังครุ่นคิดและเป็นกังวลไม่เลิก ใบหน้าแหงนเงยขึ้นมองไปที่ชั้นบนและลุกขึ้นคว้าเสื้อที่กองอยู่บนพื้น ก่อนจะวิ่งตามขึ้นไปหาคนที่เพิ่งลากขาเดินหนีขึ้นไปแล้ว

"เออ มึงสนุกนี่ สนุกตายเลย เหี้ยเอ้ย สนุกมากเลยสิ สนุกตาย ไม่อยากสนุกด้วยหรอกนะ ไอ้บ้า"

แค่ได้เห็นใบหน้าแค่ได้เห็นท่าทาง แค่ได้เห็นคนที่ยืนนิ่งเงียบอยู่หน้าประตูห้องและยังใช้มือขัดถูที่ริมฝีปากไม่เลิกแถมออฟชั่นพิเศษด้วยการที่ดวงตากลมโตนั้นมีน้ำตาไหลพราก ๆ พูดจาไม่รู้เรื่องด้วยแล้ว

เพียงเท่านี้ ทานตะวันที่ไม่เคยรู้สึกผิดกับใครมาตลอดชีวิต ก็ได้รู้สึกถึงคำว่าผิดเป็น

..............
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกว่าไม่ควรทำให้คนอื่นเสียใจ เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่ได้รู้ ฝ่ามือเอื้อมรั้งร่างของคนที่กำลังโกรธเข้ามากอดไว้แนบอกทันที

ถึงอีกฝ่ายจะขัดขืน ถึงจะสะบัดหนี ถึงจะไม่ยอมให้แตะ แต่สุดท้าย ก็ยอมยืนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ให้ทานตะวันกอดเอาไว้ได้ และยอมซุกซบใบหน้าแนบอกของคนที่ขยันสร้างเรื่องอย่างทานตะวัน

"เออ ไม่เล่นแบบนี้แล้ว พอใจยัง ไอ้คนใช้ ไอ้เป๋เอ้ย หยุดร้องซะทีสิวะกูปลอบใจใครไม่เป็นนะโว้ย เร็ว หยุดร้องเหอะ ถ้าไม่ร้องแล้วจะลดหนี้ให้ทันที สัญญา สัญญา โธ่โว้ย หยุดเถอะวะ มึงจะร้องหาห่าอะไรมากมายเนี่ย จูบทีสองทีเอง กูแค่ล้อเล่นน่า อ้อน หยุดเหอะนะ"

ตอนนี้ทานตะวันไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้อีกฝ่ายหยุดร้องไห้ ได้แต่พูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย และกอดร่างของอ้อนที่ยังร้องไห้ไม่เลิกเอาไว้แน่น

ใบหน้าคมขมวดคิ้วมุ่น ไม่รู้จะจัดการยังไงกับคนในอ้อมแขน ทำได้แค่กอดเอาไว้ และลูบหลังลูบไหล่ของอ้อนไปเรื่อย ๆ

ท่ามกลางความกลัดกลุ้มเล็ก ๆ แต่มีบางสิ่งที่ทำให้ใบหน้าที่เครียดขรึมมีรอยยิ้มเล็ก ๆ จุดขึ้นที่มุมปาก

ท่ามกลางความรู้สึกที่สับสน กลับมีความรู้สึกอย่างอื่นตามมาด้วย

เออน่ะ เกิดมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยมีใครมาซบหน้าร้องไห้อยู่แนบอก ไอ้เป๋นี่แหละคนแรก ที่จริงการที่มีคนมาร้องไห้ให้ปลอบใจแล้วก็ทำให้คิดอะไรไม่ออกบ้าง มันก็ไม่เลวนักนี่หว่า..........ถึงแม้มันจะออกมาไม่ค่อยสวยหรูนักก็เถอะ

แต่แบบนี้มันก็..

"เฮ้ย หยุดร้อง กูรำคาญ นะ นะ ขอร้องเถอะอ้อน ต่อไปทานไม่แกล้งอ้อนแล้วจริงๆ นะจริง ๆ"

ปากพร่ำบ่น แต่ใบหน้าคมกลับแอบลอบยิ้มเล็ก ๆ อ้อนเหรอ เออ เรียกมันว่าอ้อนเฉย ๆ มัน.....ก็น่ารักดีนะ.......แต่จะให้เรียกบ่อย ๆ มันก็แปลกเหมือนกัน

มันยังไงไม่รู้ อ้อนเหรอ ชื่อน่ารักชิบหาย เออ อ้อน อ้อนก็อ้อนวะ อารมณ์นี้อยากเรียกมันว่าอ้อน ใครช่างตั้งให้ชื่อน่ารักดีจริง ๆ

"อ้อน อ้อน อ้อน" ฝ่ามืออุ่น ๆ ตบเบา ๆ ที่แผ่นหลังของคนที่ยังร้องไห้ไม่เลิกและหัวเราะน้อย ๆ อย่างพอใจ

เออเว้ย ไอ้อ้อนนี่มันน่ารักถูกใจจริง ๆ ก็หัดอ้อนให้มันสมชื่อหน่อยสิวะ ถ้ามันทำอย่างนี้ตั้งแต่แรกใครจะไปแกล้งมันได้ลงคอ จริงมั้ย

TBC.....


 
โดย aoikyosuke 
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 15-05-2007 09:08:34
ต่อเร็วๆจิ o11 :impress: o11
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 15-05-2007 10:00:57
 o9ไม่ไหวแล้วนะต่อเลยได้ไหมเนี้ย o7



หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 15-05-2007 10:31:26
ไอ่ทานมันบ้า
ท่าทางมันจะสับสนในชีวิตอีกนาน  o12

มันจะปลอบเค้า  มันยังขู่เค้าอีก
น่ากลุ้มใจจริง ๆ  :onion_asleep:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 15-05-2007 11:01:32
ทานจะทำไงต่อไป อยากรู้มากๆ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Felm ที่ 15-05-2007 12:07:18
 o14 o14 ขอบคุณพี่เรย์ค้าบบบบ o15



มาต่อตอนต่อไปไวๆ นะค้าบบบบบ    รอลุ้นอยู่

เมื่อไหร่อ้อนกับทานจะรักกันน๊า  :impress2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 15-05-2007 12:19:15
แล้วจะเป็นไงต่อไปเนี่ย

อยากรู้ไวๆ แล้ว

มาต่อไวๆนะค่ะ  :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 15-05-2007 12:53:15
แอบอ่านเงียบๆ  :haun5:

โผล่หน้าเข้ามาเพื่อจะบอกว่า ชอบเรื่องนี้มากมายคับ  :like6: :like6: :like6:

ขอบคุณท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน สำหรับเรื่องราวดีๆ  o1 o1

 :o12: .............

หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 15-05-2007 13:29:19

เข้ามาสงสารอ้อนอย่างเดียว  คิดดูเดะ   อ้อนมันมีปมว่าตัวพิการ  ต้องเป็นภาระคนอื่น  แถมยังต้องมาเจอการกวนประสาทที่ไม่สามารถตอบดต้หรือหลีกหนีได้อีก  แถมยังโดนเรียกว่าไอ้เป้  เป็นเจ้นะ....เจ้คงกัดลิ้นตายไปสามตลบแล้ว

น้องอ้อนของเจ้  น่าสงสารที่สุดเลย  :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 15-05-2007 14:25:53
น้านดิคับรีบต่อเลยไม่ไหวแล้ว o9
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 15-05-2007 15:24:27
ค้าง  อย่างแรง   - -*     

ความรู้สึกที่เข้ามาแบบไม่รู้ตัว  เหอะๆ   

สงสารทั้งคู่เลยอ่ะ  - -*
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 15-05-2007 16:07:45
มามะ เรย์จะปล่อย อย่าร้องไห้กันนะคนดี
 o11
................................................
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน นิ้วก้อย

ก็แล้วตอนนี้จะให้ทำยังไง ในเมื่อไอ้อ้อนมันเอาแต่เงียบแล้วก็ไม่พูดด้วยตั้งแต่เมื่อคืน ให้ช่วยอาบน้ำมันก็ช่วยให้นวดขามันก็นวด แกล้งใช้ให้ไปซักผ้าตอนตีสอง มันก็ไป เหมือนปกติที่แกล้งมัน ถึงมันจะทำหน้าไม่พอใจบ้าง แต่มันก็ทำ แต่นี่ ไม่เหมือนเดิม มันเงียบ ให้ทำอะไรก็ทำ แกล้งสั่งให้หันซ้าย หันขวา หรือบอกให้มันหมุนตัว มันก็ทำ

แต่..........

บรรยากาศอึมครึม เพราะมันเงียบ ถึงขู่มันก็เฉย ว่าอะไรไปมันก็เงียบ ไม่มองหน้า ไม่เบะหน้าเวลาโดนแกล้ง แต่กลับนิ่งเฉย จนทานตะวันนึกหวั่นใจอยู่ลึก ๆ แต่ก็ยังคงทำเหมือนปกติ ทำเป็นพูด ทำเป็นแกล้งเหมือนเดิม แต่คนที่ไม่เหมือนเดิม แถมซ้ำยังเงียบจนน่าตกใจ ทำให้ทานตะวันอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ เช้านี้บอกให้อ้อนช่วยผูกเชือกรองเท้าให้ บอกให้ติดกระดุมเสื้อ แล้วยังไงล่ะ ไอ้อ้อนมันก็ทำให้หมด แต่มันไม่พูดอะไรเลย ทำเหมือนเป็นหุ่นยนต์ไปได้ แบบนี้มันจะสนุกตรงไหน

"อยากกินบ๊วยหวาน" ปากก็ออกคำสั่ง ส่วนมือยังจับพวงมาลัยรถเอาไว้ และแหกปากพูดเสียงดัง ถ้าเป็นปกติอ้อนจะหันมาทำตาขวางใส่เล็กน้อย แต่ก็ยอมหยิบบ๊วยหวานให้แต่โดยดี แต่ครั้งนี้ ใช่ เหมือนเดิม ทุกประการ แต่พอแกล้งงับนิ้วของคนที่ป้อนบ้วยเล่น อ้อนกลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ อีกเลย

ไม่เบะหน้า ไม่มองตาขวาง และไม่ทำท่าฮึดฮัดเหมือนที่เคยทำ

"เบื่อคนเป็นใบ้" พูดไปแล้ว แต่สายตาแอบเหลือบมองหน้าของอ้อนที่นิ่งเฉย เป็นระยะ ระยะ สุดท้ายก็เหมือนเดิม ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับของคนที่นั่งเคียงข้างอีกเหมือนเดิม

วันทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จรดเย็น จนกลับบ้านด้วยกัน ปฏิกิริยาแบบนี้ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงหรือดีขึ้นเลย

นั่นทำให้ทานตะวันที่ไม่เคยรู้ร้อนรู้หนาวกับความรู้สึกของใคร ต้องเกิดอาการทุรนทุราย จนแทบจะทนไม่ได้

"เฮ้ย"

"เฮ้ย"

"ไอ้เป๋"

"ไอ้ใบ้"

"พิการเหรอ หูตึงเหรอพูดไม่ได้หรือไง เป็นใบ้เหรอ ห๊า ไหนบอกซิว่าเป็นใบ้"

แล้วก็ยังคงเหมือนเดิม คำตอบที่ได้ยังคงเป็นเหมือนเดิม

คนที่นั่งเคียงข้าง ยังคงนั่งเฉยเป็นหุ่นยนต์ไม่แสดงท่าทีใด ๆ ออกมา เพียงเท่านี้ก็เร่งให้ความรู้สึกผิดของคนชอบแกล้งแสดงตัวออกมาอย่างชัดเจน มากขึ้น มากขึ้น




ทานตะวันหน้าเครียด หันไปมองใบหน้าของอีกฝ่ายแล้วขมวดคิ้วมุ่น

ไอ้เป๋มันเป็นคนใช้นะ แล้วมันก็ติดเงินตั้งเกือบแสน

มันยอมเป็นคนใช้ แต่นี่มันเริ่มแข็งข้อไม่เชื่อฟังคำสั่ง อีกหน่อยมันไม่ยิ่งกล้ามากกว่านี้หรือไง ถ้าไม่กำหราบไว้บ้างสงสัยต่อไปจะยิ่งไม่เชื่อฟังมากขึ้นแน่ ๆ

สมองคิดจิตใจครุ่นคิดแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง

รีโมทถูกกดเพื่อเปิดประตูรั้วบ้าน และเมื่อรถเคลื่อนเข้าไปจอดเรียบร้อย ทานตะวันก็รั้งแขนของคนที่เตรียมจะลุกออกจากที่นั่ง แล้วกระชากข้อมือของอ้อนให้หันมาหา

จ้องลึกลงไปในดวงตากลมโตเหมือนอยากจะเอาเหตุผลว่าเพราะอะไร แต่นอกจากแววขุ่นเคืองแล้ว ไม่มีสิ่งใดส่งออกมาเลย

"เป็นอะไร ทั้งวันแล้วนะ จะโกรธอะไรมากมาย นึกว่าแคร์หรือไง นึกว่าสนใจหรือไง อยากทำก็ทำไปเลย เป็นแค่คนใช้แต่กล้าทำแบบนี้ ระวังให้ดีจะฟ้องแม่มึงว่ามึงติดเงินอยู่ ให้แม่มึงเครียดที่มึงทำตัวมีปัญหาอีกแล้ว คอยดูก็แล้วกัน"

พูดได้เท่านั้น แล้วทานตะวันก็จับข้อมือของอ้อนเหวี่ยงกลับไป ไม่สนใจกับท่าทีนิ่งเฉยของอ้อนอีกเลย

โกรธ หงุดหงิด รำคาญ ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยสักนิด แต่ไม่รู้จะทำยังไงให้อีกฝ่าย เลิกทำเป็นนิ่งเฉย เพราะมันอึดอัด แล้วก็ทำให้รู้สึกแย่ เหมือนตอนที่พ่อแม่โกรธกันแล้วทานตะวันต้องนั่งกินข้าวอยู่ท่ามกลางความอึมครึมของพ่อแม่ มันแย่ความรู้สึกแบบนี้มันแย่ยิ่งกว่าแย่ เกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุด

ทานตะวันเปิดประตูรถและกระแทกปิดเสียงดัง ก่อนจะเดินลงส้นเท้าหนัก ๆ เข้าบ้าน ทิ้งให้อ้อนนั่งนิ่ง ๆ อยู่ในรถเพียงคนเดียว

แล้วมันก็แย่ เป็นแบบนี้ยิ่งแย่กว่าเวลาปกติ เวลาปกติก็แย่แล้ว แต่เวลานี้มันยิ่งแย่มากขึ้นเรื่อย ๆ

ประตูรถถูกเปิดออก พร้อมกับที่กระเป๋าใส่อุปกรณ์ใบใหญ่ถูกคว้าออกมาจากเบาะด้านหลังด้วย

อ้อนเดินลากขากระโผลกกระเผลกเข้าไปในตัวบ้าน

ผ่านหน้าคนที่นั่งยืดขาอยู่บนโซฟา และสายตายังคงจับจ้องมองทุกกิริยาท่าทางของคนที่เดินผ่านหน้าไป

เงียบ อะไรก็เงียบ

จะเล่นสงครามประสาทกันหรือไง นึกว่าอยากสนใจนักหรือไง

"วันนี้จะอาบน้ำคนเดียว ไม่ต้องช่วยถูหลัง ไม่ต้องนวดขาให้ด้วย ไม่เมื่อย แล้วก็ไม่ต้องซักผ้าให้ด้วย แล้วก็มานั่งเฉย ๆ อยู่ตรงนี้เดี๋ยวนี้"

น้ำเสียงดุดันและแววตาที่บ่งบอกว่ากำลังโกรธทำให้อ้อนเหลือบสายตาขึ้นมอง แต่แค่เพียงแว่บเดียวเท่านั้น กระเป๋าใบใหญ่ถูกวางลงแล้ว และร่างของคนที่อยู่ห่างออกไป ก้าวมานั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับทานตะวัน นั่งนิ่ง ๆ นั่งเฉย ๆ ไม่พูดไม่จา ไม่มองหน้าของคนที่จ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย

โกรธเรื่องเมื่อวานที่แกล้งเมา ก็ไม่น่าจะโกรธขนาดนี้ ทีแกล้งมากกว่านี้ มันยังไม่โกรธเท่านี้เลย แล้วทำไมล่ะ กะอีแค่....จูบเล่น ๆ ไปสองสามที แทบไม่โดนด้วยซ้ำ ทำไมต้องโกรธขนาดนั้นด้วย ก็ถูกที่ผู้ชายไม่เล่นแบบนี้กัน แต่เพราะเล่นแบบนี้ กับไอ้อ้อนมันจะทำหน้าตาเหมือนโกรธจัด เห็นแล้วสะใจดี แต่มันก็ไม่เคยเป็นแบบนี้

ใบหน้าเนียนขาวที่ก้มหน้าอยู่ตลอดเวลา ดวงตาที่หรุบลงมองที่พื้น ใบหน้าที่นิ่งเฉย ไร้ชีวิตชีวา

เบื่อ

ไม่ชอบหน้าแบบนี้ของไอ้อ้อนเลย ไม่ชอบมากที่สุด

เห็นแล้วเครียด


 ...................

ดวงตาคมจ้องมองคนที่นั่งเงียบ เข็มนาฬิกาค่อย ๆ เคลื่อนอย่างช้า ๆ จากวินาทีเป็นนาที เป็นชั่วโมง

สุดท้ายคนที่ทนไม่ไหวก่อนก็คือทานตะวัน ที่เอนศีรษะลงพิงกับพนักโซฟา นัยน์ตาที่บ่งบอกว่ากำลังโกรธค่อย ๆ อ่อนแสงลง

ไม่เอาแล้ว เล่นแบบนี้ มันปวดหัว จะเล่นอีกนานมั้ย

ใครอยากเล่นกัน ไม่เอา เหนื่อย ไม่อยากเหนื่อย ก็คงต้อง......

ทานตะวันครุ่นคิดสิ่งที่ลำดับได้ในสมองและถอนหายใจยาวเหยียด ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน และก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนที่ยังนั่งนิ่งเงียบ ทิ้งกายลงนั่งตรงหน้าของอ้อนที่ช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าที่มาลอยหน้าลอยตาให้เห็น

มือทั้งสองข้างถูกทานตะวันยกขึ้น เกี่ยวปลายนิ้วก้อยเข้าด้วยกันและเขย่าเล่นอย่างช้า ๆ

"ขอโทษน๊า ขอโทษนะ" คำพูดที่เบาหวิว จนต้องเงี่ยหูฟังถึงจะฟังได้ชัด ๆ ทำให้อ้อนนึกประหลาดใจ

"แค่นี้แหละ"

นั่นคงเป็นวิธีการง้อคนของทานตะวัน ที่เกิดมาชาตนี้ยังไม่เคยง้อใคร นอกจากง้อแม่ของตัวเอง เวลาที่แม่โกรธ แล้วมันก็ได้ผลทุกที แต่ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะได้ผลหรือเปล่า

นัยน์ตาคมช้อนสายตาขึ้นมองคนที่ยังทำหน้านิ่งเฉยแล้วก็ไม่รอเอาคำตอบ

ลุกพรวดพราดขึ้นยืนแล้วเดินลิ่วเข้าห้องน้ำไปทันที

อ้อนขมวดคิ้วมุ่น และยังคงแปลกใจกับการกระทำของคนที่เดินจากไปแล้ว

เกี่ยวก้อยเหรอ จะให้ดีกันเพราะเกี่ยวก้อยกันเหรอ ใครมันจะบ้า ไม่ใช่เด็ก ๆ นะโว้ย โตเป็นควายขนาดนี้แล้ว ใครมันจะไปดีด้วย

ถึงจะคิดอย่างนั้น ถึงจะยังไม่หายโกรธ แต่อ้อนก็ก้มลงมองที่ปลายนิ้วก้อยของตัวเอง ที่ยังหลงเหลือสัมผัสแผ่วเบาอยู่เจือจาง

รอยยิ้มเล็ก ๆ จุดขึ้นที่มุมปาก ของคนที่ปั้นหน้าเฉยทั้งวัน

อ้อนค่อย ๆ หันกลับไปมองที่หน้าประตูห้องน้ำอีกครั้ง และก้มกลับลงมามองที่ปลายนิ้วของตัวเอง

ไอ้ทานมันง้อใครไม่เป็นหรอก อย่างมันเหรอจะมาง้อ

ถือตัวขนาดนั้น ไม่มีทางหรอก มันแค่แกล้งเล่นล่ะสิ

คราวนี้จะมาไม้ไหนอีกล่ะ

ใจคิด แต่ใบหน้ากลับอมยิ้มไม่เลิก อ้อนยังคงพยายามปั้นหน้าให้นิ่งเฉยแต่กลับทำเหมือนเดิมไม่ได้อีก

ใบหน้าค่อยๆ หันไปมองที่ประตูห้องน้ำอีกครั้ง และบ่นเสียงเบางึมงำกับตัวเอง

"ไอ้บ้าทาน.....บ้าได้ทุกชั่วโมง...เกลียดจริง ๆ คนแบบนี้ชอบทำอะไรตามอารมณ์ตัวเอง...แม่ง..นึกว่าจะง้อใครไม่เป็นซะอีก ถ้าจะทำก็ทำได้นี่หว่า...ก็แค่เนี้ย..ทำแบบนี้ตั้งแต่แรก ก็หมดเรื่อง"

TBC...


 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 15-05-2007 16:19:10
คุนชายทานตะวันเป็นคนห้ามนู่น ห้ามนี่แล้วไหง๋... :o9:

กลับมางอลเองซ้างั้น เหอๆ  :laugh3:

แล้วยังไงเนี่ย....ไหง๋ กลับมาง้อ น้องอ้อนซ้าเอง งอลเอง...... ง้อเอง  :laugh:

วิธีง้อ..เริ่มใช้ได้แล้วทาน อีกนิดนึง ๆ :teach:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 15-05-2007 16:35:34
ชอบจังเลยครับ เอาอีกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Felm ที่ 15-05-2007 17:33:58
 :give2: :give2: มีเกี่ยวก้อยกันแล้ว  :o8: :o8:

ตอนแรกเครียดแทบตายว่าอ้อนเป็นอะไร
ที่แท้ก็โดน first kiss นี่เอง เอิ๊กๆ :laugh:

มาให้กำลังใจพี่เรย์ด้วยค้าบบบ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 15-05-2007 17:49:25
สงสัยไกล้จะได้กันแล้ว สู้ๆนะคับ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 15-05-2007 19:09:11
ดีกันเตอะมีกันอยู่เเค่สองคน  o13
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-05-2007 19:10:00
จะมีหวังได้เห็นฉากอ้อน อ้อนทานบ้างมั๊ยนี่  :try2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 15-05-2007 19:48:04
 :like6:   :like6:   :like6:
เกี่ยวก้อยคืนดี
 :o8:   :-[   :o8:   :-[ 
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 15-05-2007 20:58:38
เฮ้อ... สงสัยเราผิดปกติอยู่คนเดียวที่สงสารตาทานตะวัน  :o11:

ทานสู้ๆๆ ...
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 15-05-2007 21:17:55
ท่าทางอ้อนจะ เริ่มเห็นสิ่งดีๆในตัวทานทีละนิดซะแล้วสิ อิอิ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 15-05-2007 22:03:39


..........งอนง้อกัน....แบบว่าน่ารักจัง.......ชอบ.ๆ........ :haun5:


                                 ...............คุณแรย์.....มาลงไวนะก๊าบบบบบ..... :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 15-05-2007 22:19:49
 :confuse: :confuse: ยังสับสนในใจอยู่อีกเหรอครับทาน :o9: :o9:  ยิ่งทำให้สงสารอ้อนใหญ่เลย :sad5: :sad5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 16-05-2007 01:18:39
ยังไม่คืบหน้า

 :o11:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 16-05-2007 08:35:18
อ่านตอนนี้แล้วก็รู้สึกดีอะ

เกี่ยวก้อยขอโทษเหรอ  อิอิ

เดวแอบเอาไปใช้มั่งดีก่า  วะ 555+  :haun5:

แต่ว่านะถ้ารู้ตัวว่าผิดแล้วขอโทษเนี่ยมานดีจริงๆ อะ

ทานคงเริ่มที่จะใส่ใจแล้วจิเนี่ย 

แต่ท้ายที่สุด  คงจาดีก่าถ้าจาคิดให้ดีก่อนที่จะทำ  อิอิ

จะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง   :teach:

หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 16-05-2007 13:09:43
อ่านแล้วเครียดอะ

อ้อนเป็นอะไรรึป่าวววว

มาต่อไวไวนะค้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-05-2007 21:03:11
ฉากเรทจะมีไหมน้า ยังไม่ได้หวานกันเท่าไหร่เล้ย
*********************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน แฟน



--------------------------------------------------------------------------------



เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน แฟน



"พี่ จริง ๆ พี่ ขนาดผมยังไม่อยากเชื่อตัวเองเลย แค่เห็นแฟนมายืนเชียร์ข้างสนาม ผมก็วิ่งไม่ถอยแล้วพี่ ไม่รู้สิ คนมันรัก อยากเห็นหน้าอยากอยู่ด้วยตลอดเวลาไม่มีเบื่อเลย พี่ทำไมไม่หาล่ะ เห็นกี่คน กี่คนพี่ก็ตะเพิดไปหมด ไม่สนใจบ้างเหรอ สวย ๆ ทั้งนั้นเลยนะ"



ไอ้ห่านี่มันพูดอะไรของมันวะ ถามไปหน่อยว่ามีแฟนแล้วรู้สึกยังไงมันร่ายซะยาวเหยียดเลย กะอีแค่แฟน


จะอะไรกันนักกันหนา ทานตะวันส่ายหน้าแล้วก็ยืดแขนเอียงซ้ายเอียงขวาวอร์มอัพร่างกายไปพลาง ๆ แล้วก็มองหน้ารุ่นน้องที่ยังยิ้มกริ่มและหันไปโบกไม้โบกมือทักทายสาวน้อยที่ยืนยิ้มถือขวดน้ำและผ้าขนหนูโบกไม้โบกมืออยู่ข้างสนาม



มีความสุขกันจริงนะมึง

แค่นี้ทำเป็นโบกมือ โธ่ กะอีแค่แฟน คิดแล้วก็เบะหน้า ส่ายหัวด้วยความเอือมระอา ก็แค่แฟน

ที่มาทำตัวจุ้นจ้านวุ่นวายน่ารำคาญจะตาย มีกันทำไมวะ น่าเบื่อ มีคนใช้ดีกว่า ใช้ให้ทำอะไรก็ได้



นั่นไง นั่งหน้าบูดหน้าบึ้งอยู่ข้างสนามนั่นไง



ว่าแล้วทานตะวันก็หันเหสายตาไปหาคนที่นั่งชันเข่าถือขวดน้ำอยู่ข้างสนาม สภาพหน้าตาบู้บี้ผิดกับสาวน้อยที่ยืนโบกมือให้แฟนลิบลับ

ทานตะวันอมยิ้ม แล้วยกมือขึ้นโบกไม้โบกมือ เหมือนอยากให้อ้อนโบกมือตอบ แต่คนที่นั่งอยู่ข้างสนามไม่ได้สนใจจะมองคนบ้าที่ยืนโบกมือเป็นบ้าอยู่คนเดียว



เพียงเท่านั้น คนตัวโตที่ยืนเอียงซ้ายเอียงขวาเพื่ออบอุ่นร่างกายอยู่กลางสนาม ก็หน้าบึ้งตึงขึ้นทันที



อะไรวะ ให้มาคอย แล้วทำไมไม่ยอมมอง ไอ้อ้อน เป๋แล้วยังไม่เจียม กูมีคนอยากมานั่งรอเป็นสิบ ๆ คน

แล้วทำไมมึงนั่งทำหน้าเซ็งโลกอย่างนั้นวะ



สายตาจับจ้องไปที่คนที่ยังนั่งทำหน้าเซ็ง แล้วก็เลยพาลหงุดหงิดไม่ชอบใจขึ้นมา

เดี๋ยวก่อนเถอะ เดี๋ยวออกไปนอกสนามก่อนเถอะ เดี๋ยวน่าดูแน่



ว่าแต่ จะไปทำอะไรมันดีวะ



มันเพิ่งยอมเลิกทำหน้าเฉย แล้วก็เพิ่งจะยอมพูดด้วยเมื่อวานนี้ ขืนวันนี้ไปแหย่มันอีก คงได้เกิดบรรยากาศอึมครึมเหมือนวันก่อนอีกแน่ ๆ



แล้ว ........... นี่กูจะต้องแคร์มันทำไมวะ

มันเป็นคนใช้นะ ต้องทำตามคำสั่งสิ แต่ไอ้อ้อนนะ มันทำตามคำสั่งทุกอย่างแหละ แต่ทำแบบไม่เต็มใจ



อะไรของมันก็ไม่รู้ ทำอะไรก็ทำได้หมด แต่ไม่เต็มใจ ถ้าทำแบบเต็มใจทำให้มันก็คงดีหรอก

แบบนี้ ไม่ค่อยชอบเลย มันแปลก ๆ ยังไงไม่รู้

แล้วดูมันนั่งเซ็งชีวิตแบบนั้น นึกว่าอยากให้มารอหรือไง ไม่ได้อยากให้มารอเลยด้วยซ้ำ



แล้วมันอะไรกันวะนั่น เฮ้ย ยัยคนนั้นมันมีแฟนแล้วนะ แล้วไปยิ้มให้ทำไม แล้วมันคุยอะไรกันวะนั่น

โธ่โว้ย หัวเราะระริกระรี้ใหญ่เลยนะไอ้อ้อน แม่งโมโหโว้ยยยยยยยยยยยยย



คนตัวโตหยุดการวอร์มร่างกายและหันไปตะโกนสั่งสมาชิกในชมรม



"เฮ้ย วันนี้กูไม่ว่างแล้ว พวกมึงซ้อมกันไปก่อนเลย เดี๋ยวกูมา" พูดจบทานตะวันก็เดินจ้ำอ้าว แทบจะกลายเป็นวิ่งออกนอกสนามไปแล้ว ทิ้งให้เหล่าบรรดา ลูกทีมมองตาม แล้วก็ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป



สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะหลายคนชินกับพฤติกรรมผีเข้าผีออกของกัปตันทีม จนปรับตัวได้หมดแล้ว



"ผีเข้าพี่ทานอีกแล้วว่ะมึง อยู่ดี ๆ พี่แกก็อารมณ์ขึ้นอีกแล้ว คราวนี้เรื่องอะไรอีกวะเนี่ย ใครไปแหย่หนวดแกวะ"



เสียงวิจารณ์เล็ก ๆ ของหลายคนไม่เคยเข้าหูทานตะวันเลยสักนิด ส่วนทานตะวันเดินลิ่วไปกระชากแขนอ้อนให้ลุกขึ้นและเดินตามเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในชมรมทัน และแหกปากโวยวายเสียงดัง คาดคั้นจะเอาคำตอบว่าอ้อนและสาวน้อยคนนั้นคุยอะไรกัน
 



เฮ้ย



ตายห่าแล้ว



มันรู้ได้ยังไงว่าคุยกับผู้หญิงคนนั้น แล้วนี่มันจะอยากรู้เรื่องที่คุยกันไปทำไมวะ ไอ้บ้า ไอ้ทานมันจะอยากรู้ไปทำไมกัน



"ไม่มีอะไรนี่" ตอบไปแล้ว แต่ตอบแบบอึกอัก อึกอัก ตอบไม่เต็มเสียง ท่าทางมีพิรุธแบบนี้ยิ่งทำให้คนรอฟังคำตอบโกรธเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า



"ไม่มีอะไรได้ไงวะ ก็เห็นยืนคุยทำหน้ายิ้มแฉ่งแบบนั้นอ่ะ ห๊า แล้วแบบนี้จะบอกว่าไม่มีอะไรได้ยังไงวะ

รู้ไว้ด้วยนะ ว่ายัยนั่นเป็นแฟนกับรุ่นน้องกูโว้ย อย่าคิดจีบเชียวนะ เขาไม่สนใจมึงหรอกไอ้เป๋เอ้ย"



คำก็เป๋

สองคำก็ใบ้

สามคำก็พิการ



เออ ใช่สิ กูมันพิการนี่ มึงอยากจะพูดอะไรก็พูดไปสิ กูมันก็พิการ เป็นหนี้มึง เป็นคนใช้ เป็นทาส เป็นเหี้ยอะไรอีกล่ะ อยากให้เป็นอะไรก็เอาเลยแล้วกัน



คิดว่าตัวเองโกรธเป็นคนเดียวหรือไง คิดว่าโมโหเป็นคนเดียวเหรอ เป็นคนใช้ รับใช้มึง เป็นหนี้มึงแต่ไม่ได้หมายความว่า กูจะต้องทำทุกอย่างตามคำสั่งมึงหมดหรอกนะ กูก็มีหัวใจ มีความรู้สึกเหมือนกัน ไม่ใช่คิดอยากจะพูดอะไรก็พูดได้ไม่เคยสนใจความรู้สึกกันเลย



"เออ เงียบก็ดี จำเอาไว้เหอะ ไม่มีใครมาสนใจคนพิการอย่างมึงหรอก ต่อให้มึงหน้าใสปิ๊ง หน้าตาน่ารักแบบนี้ก็เถอะ ยังไงก็ไม่มีใครชอบมึงหรอก"



อ้อนนั่งนิ่งเงียบฟังคำพูดของทานตะวัน แล้วก็สะดุดใจกับคำพูดของคนตรงหน้า



อะไรนะ ใครหน้าตาน่ารัก หน้าใสปิ๊ง



หมายถึงใครวะ



ไม่มีอ่ะ ไม่ใช่กูมั้ง



"แล้วไม่ต้องไปยิ้มให้ใครอีกล่ะ กูไม่ชอบ ทำเป็นหัวเราะกับคนนั้นคนนี้ บอกมาเลย คุยอะไรกับยัยคนนั้น คุยอะไรบอกมาเดี๋ยวนี้เลย"



เอ้า แล้วจะรู้ไปหาพระแสงของ้าวอะไรวะ เรื่องเพ้อเจ้อทั้งนั้น ไร้สาระ จะถามเอาโล่หรือไงวะ ไอ้บ้านี่



"ก็บอกว่าไม่มีอะไรไง"



ไม่มี ไม่มีก็แปลว่าต้องมีอยู่แล้ว อะไรวะ มันคุยอะไรกันวะ ไอ้อ้อนนะไอ้อ้อน โมโหแล้วนะโว้ย



"มึงจะบอกดี ๆ หรือมึงจะบอกด้วยน้ำตา บอกกูมาเดี๋ยวนี้ เร็ว"



กลายเป็นเสียงตะคอกไปแล้ว ทานตะวันเอะอะเสียงดังโวยวาย แล้วอ้อนก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตา ไม่อยากตอบคำถามเลยสักนิด



ก็คุยกันเรื่องเพ้อเจ้อ มันจะรู้ไปทำไมกันเล่า



"ไอ้อ้อน ตอบ ตอบเดี๋ยวนี้ เร็วสิวะ" อาการเซ้าซี้ และยังโวยวายไม่เลิกทำให้อ้อน ต้องถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย และตอบออกไปพร้อมกับก้มหน้านิ่ง ๆ รอฟังเสียงหัวเราะของคนบ้าอย่างทานตะวัน



"เขาถามว่าเป็นแฟนมึงเหรอ เห็นมึงหันมาโบกมือให้"



เป็นแฟนมึงเหรอ



หมายถึงใคร หมายถึงกูกะไอ้อ้อนอ่ะ ที่ว่าเป็นแฟนกันงั้นเหรอ



คนฟัง ฟังคำถาม แล้วตีความให้เป็นประโยคที่จะทำให้เข้าใจได้ชัดเจนขึ้น



"เขาถามเหรอว่ากูเป็นแฟนมึงหรือเปล่า" ประโยคคำพูดของอ้อนถูกทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วอ้อนก็พยักหน้า



"แล้วตอบไปว่าไง" อารมณ์ที่ครุกรุ่นเมื่อไม่กี่นาทีก่อน จางลงทันที หลังฟังคำตอบ แล้วทานตะวันที่หน้าบูดบึ้งบู้บี้ ก็ยิ้มออกมาได้



"ก็เลยตอบว่าใช่"



อ้อนแกล้งพูดยั่วยุให้อีกฝ่ายโมโหหงุดหงิด แต่ผลกลับกลายเป็นตรงกันข้าม

แทนที่ทานตะวันจะโวยวาย หรือแหกปากตะโกนด่ามากขึ้น กลับกลายเป็นว่า คนตรงหน้ายืนนิ่ง ๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก



อ้อนเงยหน้าขึ้นเพื่อจะมองว่าเกิดอะไรขึ้น

สงสัยมันตกใจจนช็อคไปแล้วแน่ ๆ เออ สะใจกูจริงโว้ย



แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น กลับพบกับสายตาที่จับจ้องมองมา ทานตะวันไม่ได้ทำหน้าโกรธ ไม่ได้ยิ้ม แต่นิ่งเฉย

จนอ้อนประหลาดใจ หรือว่ามันจะช็อคไปแล้วจริง ๆ อย่างนี้สิ มันต้องให้ได้อย่างนี้ สะใจจริง ๆ เลยโว้ย



คนตัวโตเอื้อมคว้าข้อมือของอ้อน และจูงให้ลุกขึ้นเดินไปพร้อมกัน



ครั้งนี้ไม่ได้รีบร้อนเหมือนคราวแรก แต่เป็นการเดินไปเรื่อย ๆ พร้อมกันจนอ้อนยังแปลกใจกับท่าทางของคนที่จูงแขนให้เดินตาม



"เดี๋ยวจะไปซ้อมต่อแล้ว ไปนั่งรอข้างสนามแหละ เออ แล้วอย่าลืมบอกน้องคนนั้นด้วยนะ ว่าเราอยู่บ้านเดียวกัน แล้วน้องเขาว่างวันไหนก็ชวน ๆ ให้หน่อยนะ จะพาไปเลี้ยงข้าว พอดีน้องเขาเป็นแฟนรุ่นน้องที่ชมรม ซ้อมเสร็จไปหาอะไรกินกันนะ อยากกินอะไรก็คิดไปเรื่อย ๆ เลยเดี๋ยวพาไป"



เอ่อ



เอ่อ



เอ่อ



อึ้ง



ผีคนดีเข้าไอ้ทานอีกแล้ว กลายเป็นอ้อนที่อึ้ง และ ตั้งรับไม่ทันกับการเปลี่ยนอารมณ์ของทานตะวัน

ตอนนี้ทำหน้าเหมือนเจอสิ่งที่ไม่คาดฝัน ส่วนทานตะวัน ยังคงเดินพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อยไม่ยอมหยุด

ก่อนจะหันหน้ามาบอกอ้อน อีกครั้งพร้อมกับส่งยิ้มให้จนตาหยี



"ไม่ยักรู้ว่ามึงยอมรับกูเป็นแฟนตั้งนานแล้ว เห็นเล่นตัวอยู่ได้ตั้งนาน หลงรักกูแล้วล่ะสิ"



อ้วกจะแตก ใครหลงรักมึงก็บ้าแล้ว อ้อนคิดในใจ แต่ไม่ได้พูดออกไป ยังคงเดินตามคนที่รั้งข้อมือให้เดินไปด้วยกันอย่างช้า ๆ



มามุกไหนวะเนี่ย กูตามไม่ทันนะโว้ย เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับไอ้ทาน กูหนอกู ซวยจริง ๆ แล้วนี่มันมีอะไรแอบแฝงไว้เนี่ย แค่คิดก็ขนหัวลุกแล้ว ทำยังไงดีวะ ใครก็ได้ช่วยด้วย ผีเข้าไอ้ทานอีกแล้ว ใครก็ได้ช่วยที



TBC....


 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 16-05-2007 21:50:18
นั้นแน่ ทานต้องเปิดใจให้อ้อนไปเต็มๆแล้วแน่ๆ

แหมถ้าพูดจาดีๆได้ตลอดก็ดีสิเนอะ แต่เอ๊ะอย่าดีกว่าเดี่ยวหมดสนุก อิอิ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 16-05-2007 21:51:46
เป็นแฟนกันแล้ววววว   o7 o7 o7 o7

 :laugh: :laugh: :laugh:

สู้เค้านะอ้อน  :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 16-05-2007 22:07:53
น่าร๊ากกกก ใครแอบชอบใครกันแน่เนี่ย ทาน :impress2:  :impress2:

อ่านสองรอบทุกทีเลยอ่ะ เรื่องเนี่ย  
แล้วทำไมตรูต้องอ่านซ้ำไปซ้ำมาด้วยอะรู้  บ้าตามทานกับอ้อนไปแย้ววว  o22
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 16-05-2007 22:21:12
ช่วยให้สมหวังเร็วขึ้นหรอจ๊ะ อ้อนจ๋า  :impress2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 16-05-2007 22:21:48
โหย  น่าร๊าก มากมายยยยยยยยยยยยย


ปล.   มาต่อเร็วๆน๊าคับ อิอิ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 16-05-2007 22:45:50
เอามาลงเยอะๆหน่อยไม่ได้หรอกำลังมันเลย  o13
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 16-05-2007 22:52:42
ค่อยยังชั่ว
 o4
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 17-05-2007 00:33:29


...............แฟนกัน.....แฟนกัน.....กิ๊ว...ๆ............ :haun5:


                          ...............ยิ่งอ่านยิ่งน่ารัก.....โอย..... :give2:...มาต่อเร็วๆนะครับ........ o8


หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 17-05-2007 01:39:41
 :-[ :-[ :-[

คุยกันดีๆซะก็เสร็จ คนอ่านจะได้สบายใจ :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 17-05-2007 09:20:01
กลายเป็นเเฟนทานไม่รู้ตัวเลยนะอ้อน หึๆ  o16
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 17-05-2007 09:31:47
ไม่น่าเลย อ้อน  เข้าทาง ทาน เลยนะนั่นอ่ะ  :laugh3:


ขอบคุณที่มาต่อนะงับ o15

หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 17-05-2007 09:39:53
อ่านสองรอบทุกทีเลยอ่ะ เรื่องเนี่ย  
แล้วทำไมตรูต้องอ่านซ้ำไปซ้ำมาด้วยอะรู้  บ้าตามทานกับอ้อนไปแย้ววว  o22

ไม่อยากบอกเลยว่าเป็นแบบมูมู่น้อยเหมือนกาน   :o10:
ขนาดเคยอ่านมาก่อนแล้วนะเนี่ย  พอมาอ่านที่นี่ยังต้องอ่านอีกคราวละ 2 รอบ
บ้ากว่าอีกอ่ะ   :sad5:

......คนมันอยากมีแฟนอ่ะเนอะ  ไอ่ทานมันอยากมีแฟน  ..แฟนแบบหนูน้อยแก้มแดงไง... :-[   :o9:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 17-05-2007 13:47:09
ว้าย ว้าย ว้าย  :impress2:

เป็นแฟนกันแล้ว (แบบงง งง)
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-05-2007 15:14:15
เหอเหอ

ทาน version หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

 :haun5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-05-2007 19:19:48
เหอ เหอ ทานคงปลื้มน่าดู  อ้อนยอมรับว่าเป็นแฟน  :like6:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-05-2007 22:28:34
เรื่องดีๆแบนี้ต้องตั้งใจอ่านครับ คุ้มค่าแน่นอน
แต่ต้องอ่านถึงสองรอบนี่ไม่แน่ใจ เพราะว่าเรย์อ่านช้าอยู่แว้ว เอิ้กๆ
ค่อยๆซึมซับเด่วจบเร็ว
 :-[
*************************

[wma=300,50]http://img73.imageshack.us/img73/5625/thernilz8qo.swf[/wma]

เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน กุมมือ

"แผลที่ขาหายแล้ว มือก็ไม่มีแผลแล้ว จะกลับไปนอนบ้านแล้วนะ"

ทานตะวันเงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่ ๆ ก็พูดประโยคนั้นออกมา ไม่ได้รู้สึกเลย เฉย ๆ ไอ้อ้อนมันจะกลับไปนอนที่บ้านมัน ก็เรื่องของมันเด่ะ ไม่เห็นเกี่ยวกับกูเลยนี่
ก็ไปเลยสิ อยู่ด้วยก็เกะกะเปล่า ๆ ไม่เห็นมีประโยชน์เลย มาอยู่ให้รกบ้าน ทำอะไรก็ไม่ได้ ขาก็เดี้ยงมือก็พิการ แถมซ้ำยังทำให้เสียอารมณ์อยู่บ่อย ๆ
หงุดหงิดเพราะไอ้อ้อนบ่อยจะตาย เดี๋ยวมันก็นิ่งเดี๋ยวมันก็เฉย เดี๋ยวอารมณ์ดี มันก็มียิ้มให้บ้าง เดี๋ยวมันอารมณ์เสีย มันก็ชอบทำให้บรรยากาศอึมครึม

มันไม่อยู่แหละดีแล้ว จะได้ใช้มันเป็นสองเท่าเวลาที่เจอกัน คราวนี้จะได้ใช้ให้มันทำนั่นทำนี่ให้สองเท่าเลย สะใจดี สนุกด้วย สนุ้ก สนุก สนุกมาก มาก มาก มาก เลย
สะใจโว้ย ให้มันไปเลย ไล่มันไปเลย ไล่มันไป ไล่มันไป แต่ว่า สงสัยที่ไอ้อ้อนมันพูด กูคงฟังผิดม๊างงงงงงงงงงงง สงสัยฟังผิดแน่ ๆ เลย ฮ่า ฮ่า ฟังผิดชัวร์

"อะไรนะ ไม่ได้ยิน พูดอะไรวะ ฟังไม่รู้เรื่อง เสียงเบาขนาดนั้น จะไปได้ยินได้ยังไง ไม่ได้ยิน มึงหยุดพูดไปเลยไป๊ กูรำคาญ"

ทานตะวันเฉไฉไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็หรุบสายตาลงมองในชามราเม็งชามที่สี่ แล้วก็ลุกขึ้นลากอ้อนออกจากร้าน ไม่ยอมให้กินราเม็งชามที่สอง จ่ายเงินเสร็จ ก็จ้ำอ้าวเดินลิ่ว
ไม่ยอมรออ้อนที่ต้องพยายามเดินให้เร็วขึ้น ทั้งที่หัวเข่ายังไม่เข้าที่เข้าทางดีนัก

มันเป็นอะไรของมันอีกแล้วไอ้ทาน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อารมณ์ดีก็ดีจนน่าใจหาย อารมณ์ร้าย ก็ตามไม่ทัน เข้าหน้าไม่ติด แบบนี้ จะมีใครที่ไหนทนมันได้บ้างมั้ยวะเนี่ย ใครได้มันเป็นแฟน สงสัยปวดหัวตาย

ประตูรถถูกเปิดออก โดยมีคนตัวโตก้าวเข้ามานั่งประจำที่นั่งคนขับ และมีอ้อนขึ้นมานั่งเคียงข้าง

ทำไมต้องกลับบ้านด้วย
ก็อยู่ด้วยกันทุกวันมาเป็นอาทิตย์แล้ว ยังจะกลับอีก จะกลับไปไหนมากมายบ้านไม่ได้หนีไปไหนหรอก ทำไมต้องรีบกลับด้วยวะ ทำไมต้องกลับบ้านด้วยไม่เอาโว้ยยยยยยยยยย ไม่อยากให้กลับ

ทานตะวันหน้าบูดบึ้ง บู้บี้ อารมณ์ไม่ดี เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออ้อนมานั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วเอ่ยบอกเสียงดังขึ้น

"ขาหายแล้วจะกลับบ้านแล้วนะโว้ยยยยยยยยยยย ได้ยินมั้ย" อ้อนป้องปากแล้วพูดเสียงดังที่สุดเท่าที่จะดังได้ คราวนี้คงไม่มีคำว่าไม่ได้ยินอีกแล้วหรอกนะ ถ้าไม่ได้ยินนี่เขาเรียกว่าหูตึงแล้ว

อ้อนไม่ได้คิด
ไม่ทันคิด ว่าคนที่ทำหน้าบึ้ง กำลังหงุดหงิดเพราะเรื่องของตัวเองอยู่ ไม่ทันคิดเลยจริง ๆ จนเมื่อทานตะวันหันหน้ามาทำตาขวางใส่ แล้วดึงข้อมืออ้อนเข้าหาตัว แล้วจ้องหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายนั่นแหละ ถึงได้รู้ว่าเรื่องของตัวเองไปทำให้ทานตะวันโกรธอีกแล้ว

"บอกให้หุบปากไม่ใช่เหรอ แล้วจะพูดทำไมอีก ไม่อยากฟังใครพูดอะไรตอนนี้ ไม่เข้าใจหรือยังไง"

อ้าว แล้วกูจะรู้เหรอ ว่ามึงจะอยากฟังใครตอนไหน เห็นมึงไม่เคยอยากฟังใครตลอดเวลา ขืนไม่บอกตอนนี้ แล้วจะให้บอกตอนไหนวะ

ข้อมือถูกบิดจนต้องนิ่วหน้า เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายเพิ่มแรงบีบมากขึ้น จนอ้อนต้องใช้มืออีกข้างแกะมือของทานตะวันออก

"เจ็บ" บอกไปแล้วแต่ทานตะวันไม่ยอมฟังเลยสักนิด เพิ่มแรงกดมากกขึ้น จนอ้อน ต้องนิ่วหน้า และสะบัดข้อมือหนี

"ทาน ปล่อย กูเจ็บ" เสียงของอ้อนไม่ได้เบาเลยสักนิด

แต่ทานตะวันที่ยังเกิดความรู้สึกไม่พอใจ ไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด ยังคงกดมือลงไป จนอ้อนเบะหน้า แล้วตะคอกกลับมาเสียงดัง ถึงได้รู้สึกตัว เพราะเมื่อปล่อยมือแล้ว ข้อมือของอ้อนก็เป็นรอยแดงจ้ำ ๆ ยิ่งเห็นอ้อนสะบัดมือด้วยความเจ็บแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าไม่ควรทำแบบนี้เลย

"เจ็บหรือไง เจ็บมากเลยเหรอ เจ็บทำไม แค่นี้ทำเป็นเจ็บ ทำเป็นเจ็บหรือไง" ทานตะวันตะคอกถาม แล้วก็ขบริมฝีปากตัวเองแน่น

ดึงข้อมือของอ้อนมาดู แล้วก้มลงมอง

อ้อนมันเจ็บ
แขนมันเป็นจ้ำเลย
เจ็บมากเลยเหรอ

เจ็บมากมั้ย

ก็อยากจะกลับบ้านไปทำไม กลับบ้านทำไม อยู่ดี ๆ ก็จะกลับบ้าน จะทิ้งกันอีกแล้ว มีแต่คนทิ้งกันไปหมด ไม่มีใครเคยสนใจ
 


ถึงจะเป็นการตะคอกถาม แต่หน้ากลับไม่ได้ดุดันเลยสักนิด เป็นใบหน้าเศร้า ๆ ที่อ้อนต้องมองนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น
และยิ่งเห็นคนตัวโตที่ชอบทำเสียงดัง ก้มลงเป่าที่ข้อมือให้ อ้อนยิ่งอยากจะดึงมือกลับ แต่ทานตะวันก็ยังขืนดึงเอาไว้

"หายยัง หายเจ็บหรือยัง" ไม่เคยแคร์ใคร ไม่เคยสนใจใคร เมื่อก่อนต่อให้อ้อนจะเป็นจะตายก็ไม่เคยคิดจะสนใจ แต่ตอนนี้ เหมือนไม่กล้า
ไม่อยากให้เจ็บ สงสาร ถ้าอ้อนเจ็บก็สงสาร สงสารมัน

ไม่อยากสงสาร
ไม่อยากสนใจใคร
ไม่อยากแคร์ใคร

อยู่คนเดียวมาได้ตั้งนาน อยู่กับลูกฟุตบอล อยู่กับการวิ่งอยู่กลางสนาม อยู่กับตัวเอง อยู่กับความเหงา อยู่กับความรู้สึกอยากถูกรักมานาน
และอยู่คนเดียวมานาน จนคิดว่าตัวเองชินแล้ว กับความเหงา

แต่อยู่ ๆ คนที่ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะเข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตก็เข้ามา เข้ามาอย่างเงียบ ๆ เข้ามาโดยไม่บอกกล่าว
เป็นแค่คนใช้ เป็นแค่ไอ้คนขาเป๋ เป็นแค่ไอ้คนพิการ หน้าตาโง่ ๆ แถมยังชอบทำให้อารมณ์เสีย

มันก็แค่นั้น

แค่นั้นจริง ๆ

ทานตะวันสะบัดมือของอ้อนทิ้ง และไม่ยอมมองหน้าของอ้อนอีก ไม่พูด ไม่ถาม ไม่สนใจจะหาคำตอบอะไรทั้งสิ้น ไม่ถามว่าจะกลับบ้านวันไหน
ไม่ถามว่าอ้อนจะอยู่หรือไป ไม่ถาม ไม่อยากถาม บอกตัวเองว่าไม่อยากถาม

...................แต่ไม่อยากให้ไป.........................

ทานตะวันกระชากเกียร์ และเหยียบคันเร่งสุดฝีเท้า แล้วก็เลี้ยวรถออกจากลานจอดรถ จนอ้อนแทบหัวทิ่ม ได้แต่เกร็งร่างกายเอาไว้ ไม่ให้เอียงซ้ายเอียงขวา
พ่อไอ้ทานมันสร้างถนนหรือยังไง มันถึงกล้าขับรถได้ขนาดนี้

"เหี้ย ขับรถภาษาห่าอะไรวะ" เพราะมีรถแซง ปาดหน้าไป อารมณ์ที่กรุ่น ๆ อยู่ของคนขับรถ เลยยิ่งแรงมากขึ้น ด่ารถคันที่แซงหน้าไปแล้วค่อยๆ ลดความเร็วลง

เหนื่อยแล้ว

อยากไปไหนก็ไปเลย

เชิญ

ไม่ต้องกลับมาอีกได้ยิ่งดี
หนี้แค่ไม่กี่บาท ไม่เอาก็ได้
แต่เกลียดไอ้อ้อน เกลียดมัน เกลียด เกลียด เกลียด กูเกลียดมึงโว้ย ไอ้เป๋ ไอ้คนพิการ ไอ้โง่

เพียงไม่นาน ทานตะวันก็เลี้ยวรถออกข้างทาง และจอดรถไว้นิ่ง ๆ

ใช้มือตบไปที่พวงมาลัยรถเสียงดัง และหันหน้าไปหาคนที่ทำหน้าเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ข้าง ๆ

อ้อนนั่งเฉย แต่ในใจกลับเต้นระทึก

เฮ้ย อยู่ดี ๆ มันเลี้ยวรถเข้าข้างทางทำไมวะ อะไรวะเนี่ย จะฆ่ากูหมกป่าหรือไงวะ ม่ายอาวนาโว้ย กูสู้ตายแน่

ทานตะวันหันหน้ามาแล้ว และจ้องหน้าอ้อนอย่างเอาเป็นเอาตาย จ้องอย่างจริงจัง จ้องอย่างกับว่าไม่เคยเจอะเจอกันมาก่อน
เล่นเอาอ้อนถึงกับขวัญผวา มือเย็นเฉียบ และเตรียมตัวปลดเข็มขัดนิรภัย ชิ่งหนีถ้าหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน

อะไรวะ มึงจะจ้องกูทำมาย กูไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะโว้ย จะจ้องหาห่าอะไรวะ

"อ้อน ถ้าไม่รีบกลับได้มั้ย เดี๋ยวรอให้ขามันหายเจ็บกว่านี้ก่อนดีกว่ามั้ง"

อารมณ์ไหนอีกวะเนี่ย อารมณ์ไหน กะอีแค่บอกว่าให้อยู่ต่อ มันถึงกับต้องสร้างสถานการณ์ให้น่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอวะ
ตกลงมันอยากได้คำตอบแบบไหนวะ แบบ............ เออ ได้ หรือ ...........อย่าเลย กูไม่อยากรบกวน มันอยากได้คำตอบแบบไหนวะ

"อ่ะ อ่ะ เหรอ เหรอ เอ่อ แฮะ ยังไงล่ะ มึงว่ากูควรอยู่หรือไม่ควรอยู่วะเนี่ย ฮ่า ฮ่า เหอ ไอ้ทานมึงมองอะไรกูนักหนาวะ หน้ากูก็ปกตินะเนี่ยไม่ได้มีอะไรเลย"
พูดด้วยความสับสน พูดด้วยความมึนงง และคนที่ถามคำถาม ก็สะบัดหน้าด้วยความไม่พอใจขึ้นมาอีก

"ก็อยากอยู่หรือไม่อยากอยู่วะ กูถามแค่เนี้ย มึงจะโง่ไปถึงไหน ก็ตอบมาแค่ว่าอยู่ต่อก็ได้ แค่นี้มันจะยากอะไรนักหนาวะ"

เอ้า ก็บอกมาสิ ว่าจะบังคับให้เป็นคนใช้อยู่กับมึงต่อ กูจะรู้เรอะว่ามึงเกิดจะอยากให้อยู่หรือไม่อยากให้อยู่ กูไม่ได้เก่ง ฉลาด หน้าตาดี มีฐานะ แต่นิสัยเลวแบบมึงนี่หว่า
 


"เหรอ เออ ก็แล้วแต่มึง"

แค่นี้เอง ก็แค่นี้แหละ อยากอยู่ก็บอกสิว่าอยาก โธ่เอ้ย มันก็อยากอยู่เหมือนกันล่ะวะ ไอ้อ้อนชอบทำให้อารมณ์เสียเรื่อยเลย
ทานตะวันยิ้มออกแล้ว และเลี้ยวรถออก สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่ง ขับไปแบบสบาย ๆ ไม่รีบร้อนเหมือนคราวแรก
และลอบมองหน้าของอ้อน ที่ยังคงตามอารมณ์ของทานตะวันไม่ทัน ทำได้แค่ทำหน้าเอ๋อ และอ้อนก็แอบลองมองหน้าของคนผีเข้าผีออกอีกหลายครั้ง

กูจะอยู่รอดไปได้สักกี่น้ำกันวะ ถ้ามันเล่นทำอะไรปุบปับตามอารมณ์แบบนี้ เห็นท่าจะตายซะก่อนแน่ ๆ

"อ้อน เอามือมาซิ"

มือ มือกูเหรอ เอา เอา เอาไปทำไมวะ

อ้อนพลิกมือของตัวเองไปมา แล้วก็ค่อย ๆ ยื่นมือไปหา ทานตะวันคว้ามือของอ้อน เอาไว้ และกุมเอาไว้แน่น ในขณะที่สายตายังมองไปบนถนน
และใช้มือเพียงข้างเดียวจับพวงมาลัยรถ

"อะไรวะจับทำไม ไม่ได้หนีไปไหนนะโว้ย" อ้อนเอ่ยถาม และดึงมือกลับ แต่ถูกรั้งเอาไว้

"อย่าเรื่องมากได้มั้ย หัดอยู่เฉย ๆ มั่งเหอะ กูขี้เกียจฟังคำถามมึงเต็มทีแล้ว น่าเบื่อ"

อ่อ น่าเบื่อ ขี้เกียจฟัง แต่เล่นจับมือกูแน่นเลยนะ เอาไงแน่มึงไอ้ทาน ตกลงมึงจะเอายังไง

อ้อนก้มลงมองที่มือของตัวเองที่ถูกดึงไปวางไว้ที่หน้าขาของทานตะวัน แล้วก็เลยหันหน้าไปมองข้างทาง ไม่ได้พูดอะไรต่อ

เออ อุ่นดีนี่ อันที่จริงจับมือกันเล่น ๆ มันก็อุ่นดีเหมือนกัน

ไม่รู้ว่าไอ้ทานมันคิดยังไงของมันนะ รู้แต่ว่า

บางที มันก็ทำให้ประหลาดใจอยู่บ่อย ๆ แต่บางครั้ง ก็ทำให้สงสาร บางครั้งก็ทำให้โมโหแบบสุด ๆ บางครั้ง ก็ทำให้อยากอยู่เงียบ ๆ กันแค่สองคน
โดยไม่ต้องพูดอะไรให้มากไปกว่านี้ ปล่อยความคิดไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องเร่งรีบร้อน ไม่ต้องดิ้นรน เหมือนอย่างเวลานี้ที่แค่จับมือกันก็พอ
แค่ให้รู้ว่ามือของไอ้ทาน มันอุ่น
ให้รู้ว่าถึงตอนนี้จะคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คิดอะไรที่ทำให้ตัวเองต้องเครียดหรือเสียใจ
แต่อย่างน้อย ก็ไม่ได้อยู่คนเดียว ยังมีคนอยู่ข้าง ๆ

คนที่ห่างกันแค่ช่วงตัว
ใกล้กันจนกระชับฝ่ามือเข้าหากันได้

อ้อนอมยิ้มเล็ก ๆ เมื่อหันกลับไปลอบมองคนที่ตั้งใจกับการขับรถแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ ก่อนจะหันไปมองที่ถนนข้างทางอีกครั้ง
ไม่ต่างจากทานตะวันที่ลอบมองใบหน้าด้านข้างของอ้อนในจังหวะที่เผลอ แล้วก็ยิ้มได้ไม่ต่างกัน อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว ก็แค่อยากอยู่เงียบ ๆ แบบนี้กันแค่สองคน

อย่างน้อยเวลานี้ ก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะรู้สึกได้ถึงไออุ่น และความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาจากฝ่ามือของคนที่นั่งอยู่เคียงข้างกัน

TBC....
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 17-05-2007 22:54:27
จับมือกันด้วย หุหุ แล้วพรุ้งนี้เอามาลงอีกน๊า  o13
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 17-05-2007 23:40:29
ไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดๆ มาเมนต์เรื่องนี้ดี   :-[

รู้แต่ว่าเป็นเรื่องที่เขียนได้ดีมากๆ คับโดนสุด  o7 o7 o7

(ขออนุญาตเซฟนะคับ จะเก็บไว้อ่าน :impress: :impress:)

ขอบคุณสำหรับท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน สำหรับเรื่องราวดีๆ  o1 o1 o1


... ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ ก็สามารถรับรู้และสัมผัสได้ ... :teach: :teach:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-05-2007 23:43:55
หวานอีกแล้ววววว

เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 :try2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 18-05-2007 01:09:23
 :haun5: :haun5:  ทานยังสับสนอีกเหรอครับ  แค่อ้อนบอกจะกลับบ้านก็รู้สึกเหงาแล้วเนี่ยะ  เมื่อไหร่จะยอมรับความรู้สึกตัวเองซะที :o9: :o9:  อ้อนก็ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอครับว่าทานแอบมีใจให้ อย่างนี้เมื่อไหร่จะได้อยู่อย่างสงบๆซะทีเนี่ยะ :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 18-05-2007 03:33:05
"..........อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว ก็แค่อยากอยู่เงียบ ๆ แบบนี้กันแค่สองคน .........."

แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ(ในบางทีนะ)

 :impress2:

ปล. เอาไปหนึงบวกสำหรับเรื่องโดนใจเจ้นะเคอะ


หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 18-05-2007 10:51:25
บางเรื่องที่ไม่เข้าใจกันคงเป็นเพราะ  เราเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานซะมาก

คงเป็นอย่างทานกะอ้อน  เลยไม่ทันคิด  เลยไม่ทันเข้าใจ  ความรู้สึกของอีกคน

แต่ว่า  การเรียนรู้  และความผูกพันธ์คงจะทำให้ทุกอย่างค่อยๆ ดีขึ้นได้ (มั้ง)

อิอิ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 18-05-2007 11:00:28
จับมือเหมือนคนรักกันเลยเนอะ

เมื่อไหร่ทานจะบอกรักอ้อนล่ะ ถ้ารอให้อ้อนเองบอกคงหมดหวังแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-05-2007 19:59:24
คนอ่านจาลุ้น ก็ตอนทานผีเข้าผีออกนี่แหละ  :try2: กลัวอ้อนโดนลูกหลง  o6
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 18-05-2007 22:12:08
เรย์ที่ร๊ากกก  มาต่อได้แว้ววววว

อย่าให้อ่านเป็นรอบที่สิบ  เด๋วจาบ้า (เนอะๆ น้อง Akitt อิอิ)  :serius2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 19-05-2007 01:11:55
กิ๊ว ๆ เราจะมีกันและกันตลอดไป  :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 19-05-2007 10:02:56
ต่อจากจับมือเเล้วจะทำไรต่อน้าอยากรู้จัง  :o9:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-05-2007 11:30:09
เฮ้ยยยยยย มันเกิน 10 เนนท์แล้วนี้หวา

มาต่อให้ไวเลยไอ้ตี๋

ชิส์

 o12
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 19-05-2007 13:59:22
หุหุ ยังอ่านกันไม่ครบเยย หายไปไหนกันหวา
 o16
*******************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เพราะอะไร...



--------------------------------------------------------------------------------



"อยากว่ายน้ำมั้ย"

ห๊า อยากว่ายน้ำ สามทุ่ม ว่ายตอนสามทุ่มเนี่ยนะ ไอ้บ้า กูไม่บ้าด้วยคนหรอก
อ้อนเหลือบสายตามองหน้าของทานตะวันแล้วรีบปลดล็อคเข็มขัดนิรภัย เอื้อมมือคว้ากระเป๋าอุปกรณ์ใบใหญ่ที่อยู่เบาะหลัง แล้วเตรียมรีบหนีขึ้นบ้านทันที
ลางร้ายมาอีกแล้ว เพิ่งกุมมือกันหวานชื่นเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เอาอีกแล้วมึงไอ้ทาน
พอกลับมาถึงบ้านนี่เตรียมแกล้งกูอีกแล้ว ไอ้เวรเอ้ย เป็นคนดีไม่ทันไร เอาอีกแล้วมึง ไม่เอาด้วยหรอกเว้ย ให้มึงแกล้งเนี่ยนะ ไม่เอา

"เฮ้ย กูรู้มึงอยากว่ายน้ำ"

ไม่ใช่กูแล้ว นั่นมันมึงแล้ว ไม่ใช่กูเลย กูไม่มีอารมณ์อยากว่ายน้ำตอนนี้หรอกเว้ย

"ไปหนายยยยยยยยย ไม่ต้องรีบนะจ๊ะ แฟนจ๋า ร้อน ๆ ต้องว่ายน้ำ"

เหวออออออออออออ ไอ้ทาน ไม่เอาโว้ย ไม่เอา กูไม่ว่ายน้ำตอนนี้โว้ยยยยยยยยยยยย
อ้อนรีบจ้ำอ้าวเตรียมหนี แต่สายกระเป๋าอุปกรณ์ถูกทานตะวันดึงเอาไว้ และไอ้คนตัวโตมันก็อมยิ้มแปลก ๆ ทำหน้ากวน ๆ แบบที่อ้อนเห็นแล้วรู้แน่ว่างานนี้มีรายการแกล้งเกิดขึ้นอีกแล้วแน่ ๆ

"ว่ายน้ำเป็นเพื่อนหน่อย" นั่นไง มาแล้วไอ้คำพูดชวนสยองของมันมาอีกแล้ว

ทานตะวันเดินเข้ามาใกล้อีกนิด และอ้อนก็เตรียมผละหนี ม่ายเอาโว้ย ม่ายอาว

"เล่นน้ำกันเร็ว" ไม่มีจังหวะหนี ไม่มีจังหวะหลบหลีก เพราะมือของทานตะวันกระชากกระเป๋าโยนไว้ตรงทางเดินเข้าบ้าน
และย่อกายลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะคว้าร่างของอ้อนเอาไว้ และแบกขึ้นพาดบ่าเดินลิ่วไปที่สระว่ายน้ำ

"เฮ้ย ไอ้ทาน ไม่เอากูไม่เล่นน้ำโว้ย ไอ้ทาน ไม่เอา"

ไม่เอาเหรอ ไม่เอาใช่มั้ย ไม่เอานี่แหละต้องเอา
ทานตะวันยิ้มกริ่ม และยิ่งสนุกมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อร่างที่อยู่บนบ่า ทั้งดิ้นทั้งตะกุย และพยายามจะลงให้ได้ แต่ก็สายไปแล้ว
รองเท้าไม่ต้องถอด เสื้อผ้าไม่ต้องเปลี่ยน

"ไม่เอา ไอ้ทาน ไม่เอา ไอ้ทาน โว้ยยยยยยยยย ปล่อยกูโว้ย ไอ้บ้า จิต ไอ้ทานไอ้โรคจิต"

ด่าใช่มั้ย ดี ด่าใช่มั้ย ลงไปว่ายน้ำเลยไอ้เป๋

ทานตะวันโยนร่างของอ้อนลงน้ำทั้งอย่างนั้น และคนที่ตกลงน้ำเสียงดังตูม ก็ตะเกียกตะกายดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำ สำลักน้ำ หัวหูเปียกลู่
ต้องพยายามหาที่ยืนให้ได้ กว่าจะหายสำลัก ไอ้คนตัวโตก็กระโดดตามลงมาทั้งเสื้อผ้า แล้วก็ว่ายไปมาในสระอย่างมีความสุข

"โง่ มาเด่ะ ชอบล่ะสิ ดึก ๆมันต้องว่ายน้ำหัวมันจะได้เย็น ๆ ฮ่า ฮ่า สะใจโว้ยยยยยยยยย"

เออ มึงสนุก แต่กูไม่สนุกด้วยหรอกนะโว้ย ไอ้บ้า กูไม่ชอบนิสัยมึงเลยจริง ๆ ขี้แกล้ง ชอบแกล้ง เลว
อ้อนหน้าหงิกหน้างอ เตรียมจะขึ้นจากน้ำแต่อีกฝ่ายก็ทำให้ต้องหันไปมองแล้วก็เบะหน้าด้วยความหมั่นไส้

"เป๋เอ้ย จับกูให้ได้สิ นี่ต่อให้แล้ว ถ้าเล่นน้ำมึงก็เดินได้เร็วขึ้น ไม่ช้าเหมือนอยู่บนบกนะโว้ย จะลองดูมั้ยล่ะ ฮ่า ฮ่า"

ทานตะวันโผไปทางนั้นทีทางนี้ทีลัดหน้าลัดหลัง จนอ้อน ต้องยกมือขึ้นตีน้ำจนกระจายโดนใบหน้าของทานตะวันที่ต้องยกมือขึ้นลูบไล้ที่ใบหน้าของตัวเองเพราะน้ำเข้าตา

"หือมึง ไอ้เป๋ กล้านะ กล้า มานี่เลยมึง กูจะจับกดน้ำเดี๋ยวนี้แหละโว้ย"

ทานตะวันใช้แขนตีน้ำและโผเข้ามาหา เพียงเท่านั้นอ้อนก็รู้ตัวว่าต้องหนี ว่ายหนีไปอีกทาง แล้วก็หัวเราะ เมื่ออีกฝ่ายทำหน้าหงุดหงิดที่ไม่สามารถจับตัวได้

"มานี่เลยมึง กล้าเหรอ" ทานตะวันโผเข้าหาแล้ว แต่อ้อนก็หลบหลีกไปอีกทาง เมื่อทานอีกฝ่ายกำลังจะเข้ามาใกล้

"จับได้นะมึง น่าดูแน่" ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ใบหน้าของคนพูดกลับมีรอยยิ้มสดใส ยอมอ่อนข้อให้กับคนที่ว่ายหนีไปอีกทาง ไม่ได้จริงจังนัก
เหมือนเล่นไล่จับกันในน้ำมากกว่า เมื่อเข้าใกล้อ้อนมากขึ้น คนที่ปากก็บอกว่าไม่สนุกเลยที่ต้องลงมาเล่นน้ำกลางดึกแบบนี้ กลับใช้มือตีน้ำให้กระจายมาโดนใบหน้าของคนที่ว่ายเข้าหา

หัวเราะทั้ง ๆ ที่หงุดหงิด
ควรจะโกรธ แต่กลับสนุก

แกล้งกันไปแกล้งกันมาอยู่อย่างนั้น จนเหนื่อย

อ้อนว่ายเข้าหาขอบสระและกระโดดขึ้นจากน้ำ นั่งชันเข่าและถอดรองเท้าโยนทิ้งไว้ข้างสระน้ำ โดยมีทานตะวันโผเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ และกระโดดขึ้นจากน้ำถอดรองเท้าและทำตามที่อ้อนทำ

อ้อนรวบปลายเสื้อเข้าหากัน และใช้มือบิดน้ำที่ชายเสื้อ ทุกกิริยา ทุกท่าทาง อยู่ในสายตาของทานตะวันตลอดเวลา
และนั่นก็ทำให้คนที่คิดเจ้าเล่ห์อมยิ้ม และนิ่งมองเงียบ ๆ

ขาวไม่เบา เสื้อบางจนเห็นชัดถึงจุดแดงเข้มที่แผ่นอก หยดน้ำยังเกาะพราวที่ใบหน้า เส้นผมที่เปียกลู่น้ำ ยิ่งทำให้ละสายตาไม่ได้

"แม่ง เละ เปียกหมด ประสาทชิบหาย เล่นอะไรไม่เคยดูเลย" เสียงบ่นงึมงำ กระทบเข้าโสตประสาทของทานตะวันที่นั่งยิ้มอยู่ข้าง ๆ

น่ามองโว้ยแบบนี้ ผิวขาว ๆ เสื้อผ้าหัวหูเปียกลู่ แบบนี้ มันน่ามองดีพิลึก

"รองเท้าก็ถอดแล้ว งั้นก็ลงเล่นน้ำได้แล้วสิวะ"

ทานตะวันปลดเสื้อออกจากร่างกาย และโยนทิ้งไว้ข้างสระว่ายน้ำ ลุกขึ้นและกระตุกแขนของอ้อนให้ลุกตาม

"ไปเร็ว ไปว่ายน้ำต่อเร็ว"

เหวอ ไม่เอาแล้วโว้ย กูไม่เล่นแล้ว ไอ้ทานปล่อยกูนะโว้ย

"ไม่เอาแล้ว ไอ้ทาน ไม่เอา พอแล้วโว้ย ไอ้ทาน โธ่โว้ยยยยยยยยยยย"

ถึงอ้อนจะตะโกนแค่ไหน ก็กลับเข้าสู่สภาพเดิมคือโดนโยนลงสระ จนสำลักน้ำ

"แค่ก แค่ก ไอ้ทานมึงนะมึง ไอ้บ้าเอ้ย" อ้อนบ่นด้วยความหงุดหงิด แล้วเตรียมจะขึ้นจากน้ำอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ง่ายนัก เมื่อคนตัวโตที่โผตามลงมาในน้ำ
ยืนกั้นเอาไว้ ไม่ยอมให้ขึ้น

"ไปไหน"

"ไม่เอาแล้ว จะขึ้นแล้วโว้ย" อ้อนตอบออกไปอย่างนั้น และโผไปอีกทาง แต่ก็ถูกทานตะวันโผตามและรั้งเอาไว้

"ไม่ให้ไป"
 


คำพูดประกาศิตมาอีกแล้ว อ้อนยืนนิ่งเงียบ และเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่อยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน หัวหูลู่เปียกน้ำไม่ต่างกัน
จะเอาอะไรอีกวะ คราวนี้ ไม่ให้ขึ้นจากน้ำ จะเอาอะไรอีก

ไม่เข้าใจ
อ้อนไม่เข้าใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำ แต่นัยน์ตาคมที่จ้องมองมา กลับทำให้เริ่มเห็นความผิดปกติ

ไม่ให้ขึ้น ก็ไม่ขึ้น แล้วทำไมต้องมายืนชิดขนาดนี้ หน้าห่างกันแค่คืบ สายตาสั้นเหรอ มองทำไมวะ
อ้อนรีบหรุบตาลงต่ำ และโผว่ายหนีแต่กลับถูกรั้งแขนเอาไว้ให้เข้ามายืนอยู่ตรงหน้าของทานตะวัน

สายตาที่มองมันแปลกไป ผิดไปจากปกติ ไม่ใช่ไอ้ทานคนเดิมที่เคยมอง มองเหมือนจะทะลุผิวเนื้อแบบนั้น มองอะไรของมันวะ

"อ้อน"

ข้อมือถูกรั้งเข้าหาตัวของคนเรียก และอ้อนก็เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของอีกฝ่าย
อะไรวะ
ไอ้ทานมัน.......มันมองแปลก ๆ แถมยังเรียกชื่อเสียงเบาขนาดนั้น มันจะเอาอะไรของมัน

"อะไร..." อ้อนพยายามจะดึงข้อมือของตัวเองกลับ แล้วก็ได้ผลทานตะวันยอมปล่อย แต่เปลี่ยนเป็นรั้งเอวของอ้อนเข้าหาตัวและกอดเอวของคนที่อยู่ในอาการตกใจเข้ามากอดเอาไว้แน่น
ร่างกายแนบชิด จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ และสายตาแปลก ๆ ที่ส่งมา

"อ้อน" ทานตะวันยังเรียกชื่อของคนในอ้อมแขนเหมือนเดิม แต่น้ำเสียงทุ่มนุ่มกลับแผ่วเบาจนแทบจะกลายเป็นเสียงกระซิบ เพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน

"อะ...อะ..อะไรวะ" ไม่ใช่ไอ้ทานปกติแน่ ๆ แบบนี้มันทำให้รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เป็นไอ้ทานผีเข้าที่แหกปากโวยวายดีกว่า ไม่ใช่ไอ้ทานที่ทำตาหวานซึ้งแล้วก็มองแปลก ๆ แบบนี้
อ้อนมองหาทางหนีทีไล่ แต่ดูเหมือนว่าคนที่กอดเอวเอาไว้จะไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ

"เล่นอะไรวะ" ไม่รู้ว่าตัวเองเสียงสั่นแค่ไหนตอนที่เอ่ยถาม แต่มันก็สั่นจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ แม้กระทั่งตัวเองยังรู้สึก

"ไม่เล่น เอาจริง"

เฮ้ย เอาจริงอะไรวะ กูไม่เอาจริงด้วยคนหรอกนะโว้ย
เพียงแค่นี้ก็รู้แล้ว ว่าทานตะวันจะเอาอะไร เพราะสายตาคม ๆนั้น จับจ้องที่ริมฝีปากของอ้อนตลอดเวลา ถึงไม่อยากรับรู้ แต่ก็รู้จนได้ว่าทานตะวันกำลังจะหมายถึงอะไร

"ขอจูบ แบบจูบจริง ๆ ไม่ใช่จูบเล่น ๆ "

เฮ้ย ไม่เอา ใครจะบ้าก็บ้าไป ไม่เอานะโว้ย อ้อนตาโต กับคำขอของคนที่ไม่ยอมปล่อย กอดไว้และรั้งเอวเข้าหาตัวมากขึ้น ใบหน้าใกล้กันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ

ไม่เคยรู้ว่านอกจากตัวสั่นแล้ว ใจก็สั่นด้วย

หน้าแดงหรือเปล่าไม่รู้ แต่รู้ว่าริมฝีปากแห้งผาก และฝ่ามือก็เริ่มเย็นชื้น เมื่อสบตากลับสายตาคมที่ทอดมองลงมาอย่างจริงจังและบ่งบอกว่าไม่ได้พูดเล่น

"ไอ้ทาน เล่นอะไรวะ กูผู้ชายนะโว้ย เล่นอะไรให้มันมีขอบเขตหน่อย อึก อื้อ"

ไม่ต้องรอให้เสียเวลา ไม่ทันได้ตอบ ไม่ทันได้หนี ริมฝีปากอุ่นร้อนทาบทับลงมาแล้ว

อ้อนที่กำลังคิดหนี ตัวแข็งทื่อ ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ดวงตากลมโตเบิกโพลง เมื่อสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแผ่วหวานที่ริมฝีปาก และผละออกอย่างช้า ๆ

"ไม่ได้เล่น จูบจริง ๆ " ทานตะวันเอ่ยบอก จริงจัง หนักแน่น ดวงตาคมจับจ้องที่ใบหน้าของอ้อน นิ่งงัน แต่มั่นคง
อ้อนยังคงนิ่งอึ้ง กระพริบตาปริบ ๆ หลายครั้ง ไม่ใช่ว่าไม่เคยเล่นอะไรกันแบบนี้ แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนการเล่นสนุก มันจริงจังเกินไป

"ไอ้ทาน มึงบ้าไปแล้ว กูไม่เล่นด้วยแล้วนะโว้ย"

อ้อนสะบัดหน้าหนีและโผออกจากอ้อมแขนของทานตะวัน แต่ก็ไม่พ้น เมื่อร่างนั้นรั้งให้เข้าหาอีกครั้ง และคราวนี้ ริมฝีปากที่ทาบทับลงมา
ร้อนแรงจนรู้สึกได้

"อึกอื้อ ไอ้ อื้อ" คิดว่าคงเหมือนทุกครั้งที่หยอกล้อ ไม่นานก็ผละออกห่าง แต่ครั้งนี้ รีมฝีปากอุ่นร้อนแนบชิดมากกว่าครั้งไหน และรุกเร้าเอาแต่ใจจนตั้งรับไม่ทัน
ฝ่ามือยันแผ่นอกของคนตัวโตให้ออกห่าง แต่ก็เท่านั้น เพราะไม่มีทีท่าว่าทานตะวันจะยอมปล่อยเลย

แต่กลับรั้งร่างของอ้อนเข้าหามากขึ้น

เรียกร้องมากขึ้น

ริมฝีปากเลาะเล็มค้นหาความหวานจากกลีบปากนุ่ม เนิ่นนาน คลึงเคล้าหยอกล้อ
ต่างฝ่ายต่างไม่รู้สึกตัวอีก ความรู้สึกแตกกระเจิง ไม่เป็นตัวของตัวเอง รวมทั้งความรู้สึกโหยหาและอยากจะลิ้มลองรสชาติหวานละมุนให้มากขึ้น และเพิ่มขึ้น
เป็นนานที่สัมผัสร้อนแรง ค่อย ๆแผ่วเบา ปลายลิ้นร้อนสอดปลายลิ้นเข้าไปหยอกล้อกับปลายลิ้นนุ่มชื้นเนิ่นนาน กว่าที่อีกฝ่ายจะยอมตอบรับกลับมา

มือที่ผลักไสหยุดนิ่ง ร่างกายไม่กล้าขยับอีก

ดวงตากลมโตหรี่ปรือลง สัมผัสได้ถึงไออุ่น และความรู้สึกอ่อนหวานที่ถูกมอบให้ ไม่ได้เร่งเร้าหรือกลั่นแกล้งเหมือนคราวแรก
แต่เหมือนโหยหา และอยากได้รับการตอบกลับ
ฝ่ามืออุ่น ๆ ที่ลูบไล้แผ่วเบาที่แผ่นหลัง และประคองต้นคอของอ้อนเอาไว้ให้รับความรู้สึกได้มากขึ้น
อ่อนหวานจนรู้สึกได้ ไม่เรียกร้อง ไม่รุนแรง แต่หวานล้ำ จนไม่กล้าผละจาก และไม่อาจผลักไส

เป็นนานที่ต่างอยู่ภายใต้ความรู้สึกที่เหนือการควบคุม
เป็นนานที่ถูกครอบงำจากความรู้สึกอ่อนหวาน จนไม่เป็นตัวของตัวเอง

และเมื่อริมฝีปากร้อนรุ่มผละจาก
ดวงตากลมโตค่อยหรี่ปรือขึ้น นิ่งมองใบหน้าของทานตะวันนิ่ง ๆ

รับรู้ได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งใบหน้า ดวงตากลมโตหรุบสายตาลง ไม่กล้าจ้องกลับ ไม่กล้าท้าทายกับสายตาที่จ้องนิ่ง ไม่กระพริบ

อ้อมแขนที่เคยโอบรัดที่รอบเอว ยอมคลายออก เพื่อให้ร่างในอ้อมแขนเป็นอิสระ

เพื่อเปิดโอกาสให้คนในอ้อมแขนผละหนี
 

ไอ้ทาน มัน จูบ
มันกอด
มันทำทำไมวะ เพื่ออะไร

"ไม่ได้เล่น ทำจริง ๆ ทำเพราะอยากจูบจริง ๆ ไม่ได้ล้อเล่น"

น้ำเสียงที่เอ่ยบอกจริงจัง หัวใจของคนฟังสั่นไหว จนต้องขบริมฝีปากของตัวเองเอาไว้แน่น

มีแต่คำถามมากมายเต็มหัว ไม่รู้ว่าถามทำไม ตอบตัวเองไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้
อ้อนผลักอกของคนที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าออกห่าง และโผว่ายเข้าหาขอบสระ กระโดดขึ้นจากน้ำ และเดินลิ่วเข้าบ้านไปด้วยความรู้สึกสับสน

ไอ้ทานมันกอด
ไอ้ทานมันจูบ
มันทำทำไม
ไม่มีเหตุผล เพราะอะไรมันถึงทำแบบนี้ เพราะอะไรถึงยอมให้มันทำขนาดนี้ ไม่รู้ ไม่รู้อะไรแล้ว
ใครก็ได้ช่วยที ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ทำไมวะ ทำไม

อ้อนยกมือขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง และขัดถูอย่างแรง
อยากร้องไห้ แต่ร้องไม่ออก ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำแบบนั้น ไม่รู้ว่าทำไมถึงเคลิบเคลิ้มไปกับการชักนำของอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้หลงเคลิ้มไปได้ขนาดนั้น

อ้อนยังคงสับสนกับรู้สึกแปลก ที่ก่อตัวขึ้นเงียบ ๆ เงียบซะจนไม่เคยรู้สึก จนกระทั่งวันนี้
และไม่ต่างจากทานตะวัน ที่ยังยืนนิ่งเงียบ อยู่กลางสระน้ำ

หวาน ความรู้สึกที่ได้สัมผัสคือความอ่อนหวาน
แต่ที่มากกว่านั้นคือความรู้สึกบางอย่างที่ตามมาด้วย
แค่คิดว่าอยากลองจูบแบบจริง ๆ จัง ๆ แต่ไม่นึกว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้
ไม่คิดว่าตัวเองจะเรียกร้องขนาดนี้

ไม่นึกว่า พอลองสัมผัสแล้วทำให้หยุดไม่ได้ และไม่เป็นตัวของตัวเองมากขนาดนี้

ทานตะวันโผเข้าหาที่ขอบสระ กระโดดขึ้นจากน้ำ มานั่งเงียบ ๆ
ดวงตาคมมองเข้าไปภายในตัวบ้าน
แต่ไม่กล้าลุกขึ้นยืน และไม่กล้าเดินเข้าไปหาคนที่เพิ่งเดินเข้าบ้านไปก่อนหน้านี้

ไม่รู้ว่าทำไมไม่กล้า
แต่รู้ว่ายังไม่อยากเผชิญหน้า

กลัวอ้อนโกรธ กลัวว่าจะกลายเป็นแบบวันก่อนอีก กลัวไปหมด กลัวจนไม่รู้จะมองหน้าได้ยังไง
แต่ไม่ว่ายังไง ก็ตัดใจจากความรู้สึกที่ได้รับรู้ไม่ได้เลย

TBC.....

 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-05-2007 14:24:48
ว้อยยยยยยยยยยยยยยย

อ่านแล้วเครียดดดดดดด

เอาใจช่วยคร้าบบบบบบบบบบบบ

 :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 19-05-2007 14:33:12
 :undecided:
ทาน  ทำไรอ่ะ
 :o8:   :o8:   :o8:
ตั้งใจทำ  ...แต่ไม่เป็นตัวของตัวเอง
:myeye:   :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 19-05-2007 14:53:42
เมื่อไหร่จะเข้าใจตัวเองซักทีอ่า  :haun5:

 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-05-2007 15:57:30
หุหุ จูบกันกลางสระน้ำ   :-[  :-[ แต่ทำไมตอนท้ายดูเครียด ๆ หว่า  :sad2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 19-05-2007 17:43:43
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 19-05-2007 20:51:13
จุ๊ฟฟฟฟ กันแล้วว  :-[  ทาน นาย o13 มากกกกกกกกกกก  :laugh:


ขอบคุณที่มาต่อนะงับ  o15


หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 19-05-2007 21:28:33
โอ๊ะๆๆ จุ๊บกันแล้ว ... กลางสระด้วย... ลุ่นต่อปาย.....  o8
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 19-05-2007 21:46:18



               ...........เฮ้อ..........หวานกันอีกแล้ว..... :-[..........แบบว่าอิจฉาจัง....... :haun5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 19-05-2007 23:16:31
ค่อยยังชั่ว

 o16
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 20-05-2007 00:28:38
เป็นฉากซึ้งที่เครียดนะเนี่ย แต่ก็ดีน่า.........สองคนนี้ต้องเริ่มรู้สึกดีๆขึ้นบ้างแล้วใช่ม่ะ

ปล.สังเกตุกันม่ะ เวลาคนเราจูบกัน ต้องปิดตาตลอดเลย..................อยากรู้จังว่าทำไม
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 20-05-2007 09:13:18
สุดยอดดดด  :serius2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 20-05-2007 15:20:05
 :impress: :impress: First Kiss ในสระว่ายน้ำ  :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 20-05-2007 23:00:54
งั้นก็ลองจูบแบบลืมตาดูจะจิ
จะรู้ว่า ถ้ากับคนที่รัก เวลาจูบมันจะเขิน และเคลิ้มไปกับอารมณ์ที่มีความสุขไงครับ
จึงมักจะหลับตา แต่ถ้าใครลืมตาอันนี้อาจจูบแบบมีจุดประสงค์อื่นแฝงไว้ป่าว
เอิ้กๆ
**************************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ป่วย

อ้อนส่งกระดาษเช็ดหน้าให้กับคนที่ทำท่าเหมือนหายใจไม่ออก ดวงตาคมแดงก่ำ และเหมือนมีไอร้อนแผ่ออกมาจากร่างกาย
ทานตะวันรับสิ่งที่อ้อนส่งให้ และยังคงขับรถต่อไปเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย

เรื่องของคืนก่อนหน้านั้น ผ่านไปแล้ว และต่างฝ่ายต่างก็ทำเหมือนไม่มีอะไรขึ้น
คืนนั้นกว่าทานตะวันจะเดินเข้าบ้านก็กินเวลาหลายชั่วโมง ไม่รู้ว่าจะแช่น้ำให้ตัวเปื่อยหรือยังไง แต่หลังจากนั้น
ไม่มีการพูดคุยไม่มีการหยอกล้อ ไม่มีแม้แต่จะมองหน้ากันเลยสักนิด

ต่างฝ่ายต่างทำเป็นนิ่งเฉย ไม่พูด ไม่คุย ทำเหมือนไม่สนใจกันอีกเลย

นอนด้วยกันบนเตียง แต่หันหน้าหนีออกไปคนละทิศละทาง
ไม่เหมือนวันก่อน ๆ ที่ยังมีการหยอกล้อให้ปวดหัวเล่นก่อนนอน แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป ทำไมถึงได้ทำเย็นชา เมินเฉยกัน
เพียงเพราะว่าไม่อยากรู้สึกแปลก ๆ ไปมากกว่านี้ ก็เลยต้องแกล้งทำเป็นนิ่งเฉย

อ้อนเหลือบสายตามองใบหน้าด้านข้างของคนที่มีอาการไม่สู้ดีนัก
ก็สมควรหรอก พี่ท่านเล่นแช่น้ำตั้งแต่สามทุ่ม เกือบตีสอง แล้วค่อย ๆ เดินย่อง เข้าบ้าน มาอาบน้ำ ปิดไฟนอน
ทำเหมือนหลบหน้ากัน ทำอะไรเอาไว้ไม่มีความรับผิดชอบเลยหรือยังไง

ประตูบ้านถูกเปิดออก และเมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่ประตูบ้านทานตะวันที่มีอาการเหมือนคนหายใจไม่ออก ดวงตาแดงก่ำ
ก็เปิดประตูรถ วิ่งลิ่วไปเข้าห้องน้ำ และยืนโก่งคออาเจียนแทบเป็นแทบตาย จนอ้อนต้องรีบเดินตามเข้าไปช่วยลูบหลังลูบไหล่ให้

กับคนที่มีอาการไม่สู้ดีนัก

"ไปหาหมอมั้ย" คนตัวโตที่มีอาการย่ำแย่ส่ายหน้าไม่ยอมไปหาหมอ และเดินมาบ้วนปากล้างมือ และเดินออกจากห้องน้ำไปทิ้ง

กายลงนั่งเอนศีรษะพิงกับพนักโซฟา แล้วแหงนเงยใบหน้าขึ้น ก่อนจะหรี่ตาลง และนั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ

"ไอ้ทาน ไปหาหมอดีกว่ามั้ง" อ้อนพยายามเรียกคนที่นั่งนิ่ง ๆ แต่ใบหน้าแดงก่ำ และเมื่อลองใช้หลังมือสัมผัสความร้อนรุ่มของ

ร่างกายของคนที่หรี่ปรือตาขึ้นมอง และหลับลงไปอีก ทำให้อ้อนต้องเรียกให้ทานตะวันรู้สึกตัวอีกครั้ง

เล่นแช่น้ำขนาดนั้นก็สมควรหรอก เมื่อเช้าก็เห็นยังดี ๆ อยู่เลย เพียงแต่ไม่พูดมากเหมือนทุกวัน แล้วก็เงียบ ๆ ไปเห็นวิ่งอยู่กลาง

สนามได้ปกติสุข แหกปากโวยวายได้ แต่ทำไมพอกลับมาบ้านถึงได้ตัวร้อนจัดขึ้นมาแบบนี้

ฝืนสังขารกันเห็น ๆ

ทำไมจะต้องทำเป็นเข้มแข็งตลอดเวลาด้วย หัดอ่อนแอบ้างไม่ได้หรือไงวะ กะอีแค่บอกมาว่าไม่สบาย มันจะเป็นจะตายหรือยังไง

"อาบน้ำแล้วนี่ตอนที่จะกลับจากชมรมน่ะ งั้นเดินขึ้นห้องไหวมั้ย ไปนอนเถอะ เดี๋ยวกินยาแล้วนอนพักหน่อยนะ ทานตื่นเร็ว
เดินไหวมั้ย"

อ้อนเขย่าร่างของคนที่หรี่ตาขึ้นมองอีกครั้ง และร่างนั้นก็ฝืนลุกขึ้นยืน ทั้งที่เดินโซเซ แม้แต่ตัวเองยังเดินไม่ไหว
แล้วนี่มันขับรถกลับมาได้ยังไง มันไปวิ่งกลางสนามได้ยังไง มันแหกปากคุยกับคนอื่นตั้งนานสองนานได้ยังไง
ฝืนตัวเองเก่งจริง ๆ เลยนะ

อ้อนยกแขนของทานตะวันมาวางพาดไว้ที่ไหล่ของตัวเองและช่วยพยุงร่างของคนที่เดินโซเซขึ้นห้อง แต่ทานตะวันกลับสะบัดหนี
และไม่ยอมให้ช่วย

"ไม่ต้อง เดินเองได้ อย่ามายุ่งไปไกล ๆ เลยคืนนี้ไปนอนห้องเล็ก ไม่ต้องมายุ่งด้วยนะ จะล็อคห้อง"

บ้าสิ ไม่สบายขนาดนี้ จะล็อคห้องทำไม ไอ้ทานนี่มันใกล้บ้าแล้วแน่ ๆ ทำไมมันทำตัวน่าโมโห น่าตบกบาลขนาดนี้วะ

"พูดจาให้เหมือนคนดี ๆ เขาสักวันไม่ได้หรือไง" อ้อนนึกโมโหขึ้นมา และตะโกนถามคนที่พยายามพยุงร่างกายขึ้นไปบนห้อง

นอนแต่ร่างนั้นกลับไม่ยอมตอบ และไม่ยอมหให้ช่วยเหลือเลยสักนิด

ทำไมทำตัวน่าหงุดหงิดขนาดนี้วะไอ้ทาน มึงมัน โธ่โว้ย ไม่เคยเห็นใครนิสัยกวนประสาทขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตายสิ จะยอม

อ่อนแอบ้างไม่ได้เลยใช่มั้ย

"เดินไม่ไหวแล้ว ยังจะฝืนอีก เดี๋ยวได้ตกบันไดคอหักตายหรอก" อ้อนเดินกระโผลกกระโผลกเข้าไปช่วยพยุง แต่ทานตะวันก็

สะบัดมือหนีอีกครั้ง ไม่ยอมให้แตะตัวเลยสักนิด นัยน์ตาคมแดงเรื่อ ที่ทอดมองมา แข็งกร้าวและเห็นได้ชัดว่าไม่ยอมรับความช่วย

เหลือจากใคร

"อย่ามายุ่งกับกู ไปห่าง ๆ ไอ้เป๋" แม้จะป่วย แม้จะไม่สบาย แต่คนป่วยก็ยังตะคอกเสียงดัง
ทานตะวันก้าวขึ้นบันไดขั้นสุดท้าย และเดินเข้าห้อง ปิดประตูเสียงดัง แล้วจัดการล็อคห้องเอาไว้ ไม่ยอมให้อ้อนเข้ามาได้

เสียงกระแทกประตูดังๆ และเสียงตะโกนด่าหลายครั้งไม่ได้ช่วยให้ทานตะวันหันไปสนใจเลยสักนิด

คนตัวโตเดินมาทิ้งกายลงนอนบนเตียงกว้าง และหลับตาลง
ไม่มีแรง เดินแทบไม่ไหว แต่ไม่อยากให้ใครรู้ ไม่ชอบ เกลียด ไม่อยากให้ใครมาสงสาร
อยู่มาได้ตั้งนาน ป่วยมากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว เรื่องอะไรจะให้คนอย่างไอ้เป๋มาเห็นสภาพแย่ ๆ เหมือนตอนนี้
ตอนนี้รู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวไปทั่วร่าง ห้องทั้งห้องหมุนคว้าง ลำคอแห้งผาก หายใจอึดอัด จนต้องปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออก
และยกแขนขึ้นวางไว้ที่หน้าผาก

ร่างกายขยับไม่ได้ มีเพียงแววตาที่เลื่อนลอย และรู้สึกได้ถึงความปวดร้าวที่ศีรษะจนต้องใช้มือกุมเอาไว้
ไม่อยากคิดอะไร คิดเพียงแค่ไม่อยากให้ใครมาเห็นสภาพแย่ ๆ แบบนี้
ทานตะวันนอนหลับตานิ่ง ๆ

แค่ไข้หวัด อยู่ได้สบายมาก ไม่ตายหรอกของแค่นี้

ต้องไม่เป็นอะไรสิ ต้องไม่เป็นอะไร
ทานตะวันบอกกับตัวเองเหมือนทุกครั้ง และบอกว่าต้องทำให้ได้ เหมือนทุกครั้งที่เคยผ่านช่วงเวลานี้มาแล้ว
ดวงตาคมหรี่ปรือลง ไม่อยากคิดอะไรอีก ไม่อยากครุ่นคิด เพราะร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง
เพราะพิษไข้ที่รุมเร้า เพราะจิตใจอ่อนแอ ในไม่ช้า ทานตะวันก็เผลอเคลิ้มหลับไป

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

สัมผัสเย็น ๆ ที่หน้าผาก จนต้องรีบเอื้อมมือคว้าเอาไว้ ทำให้ร่างกายที่ร้อนรุ่มเย็นลง และรู้สึกได้ถึงความรู้สึกมีความสุขลึก ๆ

ในใจ

แม่มาหาทานแล้วเหรอ ทานไม่สบายอยู่นะ ทานไม่อยากไปโรงเรียนนะครับแม่ ทานไม่สบายงั้นทานไม่ไปหรอกนะครับ
แม่ครับทานอยากกินข้าวต้มกุ้งฝีมือแม่ด้วย ทานจะทำตัวเป็นเด็กดี ไม่ดื้อนะครับแม่ แม่ครับ แม่

"แม่ครับแม่ ทานจะทำตัวเป็นเด็กดีนะครับแม่"

เสียงพูดงึมงำฟังแทบไม่รู้เรื่อง แต่ใบหน้าที่มีรอยยิ้มจาง ๆ บ่งบอกได้ถึงความรู้สึกของคนพูดก็ทำให้อ้อนที่กำลังใช้ผ้าขนหนู

ชุบน้ำเช็ดที่หน้าผากของคนที่นอนนิ่ง ๆ ต้องขมวดคิ้วมุ่น เมื่อมือถูกรั้งมือให้ไปแนบที่ข้างแก้มของคนที่กำลังไม่ได้สติ
และเพ้อเพราะพิษไข้ พูดคำพูดแปลก ๆ จนต้องเงี่ยหูฟังหลายครั้ง ว่าทานตะวันพูดอะไร

กว่าจะเข้ามาได้ ทั้งทุบประตู ทั้งพยายามผลัก ที่ไหนได้ พอบิดลูกบิดประตู ถึงได้รู้ ว่าลูกบิดประตูเสีย เลยได้เข้ามาในห้อง
ห้องทั้งห้องมืดสนิท แเละเมื่อเปิดไฟให้สว่าง ถึงได้เห็นคนที่นอนแผ่หราอยู่เต็มเตียงในสภาพโทรมสุด ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ
ลมหายใจที่ติดขัด และไอร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกายทำให้ต้องรีบหาผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดตามร่างกายให้เพื่อลดความร้อน

จนถึงเวลานี้ คนที่ปากดี อวดดี ว่าไม่เป็นอะไรก็ยังคงไม่รู้สึกตัว

โถ ไอ้ทานเอ้ย อย่ามายุ่ง อยู่คนเดียวได้ ปากดี จะตายห่าแล้วเห็นมั้ย ยังทำเป็นอวดดีอีกนะมึง

อ้อนลงมือเช็ดตามตัวให้กับคนที่ยังคงหลับใหล และยกกะละมังน้ำออกมาไว้ที่ข้างเตียง ก่อนจะมานั่งมองใบหน้าของคนที่ไม่ยอมกินยา และหลับสนิทไปแล้ว

ก็ป่วยเป็นนี่หว่า
นอนเงียบ ๆ ไม่พูดอะไรก็เป็น
ง้อใครก็ง้อได้

หัวเราะเก่ง และชอบแกล้ง
ร้องไห้เป็นหรือเปล่าไม่รู้ เพราะไม่เคยเห็น
แต่เรื่องชอบโวยวาย มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ วันหนึ่งมีร้อยอารมณ์ใครมันจะไปตามทันวะ
เวลาแบบนี้ เวลาไม่สบาย ก็ทำหน้าสงบสุขได้เหมือนกันนี่หว่า หน้าตาสงบสุขงั้นเหรอ

สงบสุข

ตั้งแต่กูรู้จักมึงมา ไม่มีวันไหนเลยที่ชีวิตจะสงบสุข ปวดหัวทุกวัน ประสาทจะแดกทุกวัน เพราะทั้งโดนแกล้ง ทั้งถูกปั่นหัว
แต่ก็อยู่ด้วยกันมาได้จนถึงวันนี้ โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงทนได้ขนาดนี้

อ้อนลองใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเล่นที่เส้นผมของคนที่นอนหลับใหล ถ้าเป็นปกติคงไม่มีทางที่จะมาแตะผมเล่นหัวไอ้ทานได้แบบนี้แน่ ๆ แต่ตอนนี้ถือว่ามีโอกาสดี นาน ๆ ทีได้เล่นหัวไอ้ทานบ้างสะใจดีชะมัด

ปลายนิ้วเกลี่ยไล้ที่หน้าผาก แต่สายตากลับจับจ้องลงมาที่ริมฝีปากสีซีดของทานตะวัน

โดยไม่ต้องรอ สมองสั่งการให้รื้อฟื้นความจำเรื่องของคืนก่อน ที่กลางสระน้ำขึ้นมา

ไอ้..... ไอ้ทานมัน .... มันบ้า ทำห่าอะไรของมันวะ

อ้อนรีบชักมือกลับ และเดินมานั่งอยู่บนโซฟาห่างออกไป นัยน์ตายังจ้องมองร่างที่คู้กายอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา
แล้วความหงุดหงิดโมโหก็จู่โจมอย่างรวดเร็ว

มึงเลย เพราะมึงเลย เพราะมึงคนเดียว ถึงทำให้กู ไม่กล้ามองหน้ามึง ไอ้ทาน ไอ้บ้าเอ้ย แม่ง

อ้อนยกมือขึ้นขัดถูไปที่ริมฝีปากของตัวเองอีกครั้ง แต่กลับสลัดความรู้สึกแปลก ๆ ในใจออกไปไม่ได้
ดวงตายังจับจ้องคนที่นอนกระสับกระส่ายไปมา แล้วเดินเข้าไปหาอีกครั้ง เมื่อรู้สึกว่าทานตะวันกำลังเพ้อพูดอะไรบางอย่าง

และเมื่อก้มหน้าลงฟังชัด ๆ ถึงได้รู้สิ่งที่ทานตะวันพูด

"ขอโทษ....อ้อน...ทานขอโทษ..ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว..อึก..ฮือ"

ขอโทษจริง ๆ เหรอ ขอโทษทำไม ทำไมต้องขอโทษ จะขอโทษกูทำไมวะ แล้วทำไมถึง ทำไมถึงได้

ปลายนิ้วเกลี่ยไล้ที่ข้างแก้มของคนที่ยังกระสับกระส่ายและพร่ำพูดคำพูดที่อ้อนไม่คิดจะได้ฟัง
อ้อนนิ่งฟังเงียบ ๆ แล้วก็ถอนหายใจยาวเหยียด
ไม่รู้ว่าทำไมถึงสงสาร แต่ก็สงสารจับใจ

"เออ พอแล้วไม่ต้องขอโทษ หยุดร้องไห้ด้วย ไม่เป็นไรหรอกน่ะ ทาน หยุดร้องไห้ได้แล้ว ไม่เป็นไร บอกว่าไม่เป็นไรไง"

เสียงกระซิบดังแผ่ว ๆ ส่งผ่านเข้าไปในความรู้สึกของคนป่วยด้วย ทานตะวันนิ่งเงียบลงแล้ว และหลับสนิทไม่รู้สึกตัวอีก

ส่วนอ้อนได้แต่นั่งเงียบ และครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างที่ยังคงหาคำตอบไม่ได้

แล้วนี่ทำไมกูต้องมานั่งดูแลไอ้ทานด้วยวะเนี่ย

งงโว้ย จะสนใจมันทำไมนิสัยเสียขนาดนี้ กูทำอะไรอยู่วะเนี่ย ทำอะไรอยู่ จะห่วงมันทำไม ไม่เข้าใจเลยโว้ย

อ้อนเกาหัวตัวเองแกรก ๆ แล้วก็หันไปมองหน้าของทานตะวันอีกครั้ง
จะยิ้มก็ยิ้มไม่ได้ จะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก

จะไปสนใจไอ้ทานมันทำไมวะ ปล่อยมันให้ตาย ๆ ไปเลยแหละยิ่งดี
ถึงจะคิดอย่างนั้น ถึงอยากจะทำอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำ ตลอดทั้งคืน
อ้อนวนเวียนเช็ดตัวให้ทานตะวันและคอยดูแลด้วยความเป็นห่วง ทั้งที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน
สุดท้ายเผลอหลับไปในตอนเกือบสว่าง เพราะการอดนอนมาตลอดทั้งคืน

TBC.....
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 20-05-2007 23:57:25
   


กริก...ๆ.....มาเป็นคนแรกดีใจจัง........ :haun5:

                 ............แต่เมื่อไรจะรู้หัวใจตัวเองกันซะที............ :angry2:.
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 21-05-2007 00:29:25
ทานตื่นขึ้นมาเจออ้อนแล้วจะทำยังไง อยากรู้แล้วอ่ะ  o9
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 21-05-2007 00:37:39
เอามาต่อไวๆน๊า  o14
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 21-05-2007 01:56:48
รอต่อไป :give2:
อ่านตอนนี้แล้วยิ้มกันไม๊อะ  ?
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 21-05-2007 08:09:31
ยิ่งชิดใกล้เข้าไปเรื่อยละ  :haun5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 21-05-2007 08:28:45
งั้นก็ลองจูบแบบลืมตาดูจะจิ
จะรู้ว่า ถ้ากับคนที่รัก เวลาจูบมันจะเขิน และเคลิ้มไปกับอารมณ์ที่มีความสุขไงครับ
จึงมักจะหลับตา แต่ถ้าใครลืมตาอันนี้อาจจูบแบบมีจุดประสงค์อื่นแฝงไว้ป่าว
เอิ้กๆ

คุณบลูนี่ท่าทางจะ ชำนาญ ทางด้านนี่นะเนี่ย  o3
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-05-2007 12:40:03
งั้นก็ลองจูบแบบลืมตาดูจะจิ
จะรู้ว่า ถ้ากับคนที่รัก เวลาจูบมันจะเขิน และเคลิ้มไปกับอารมณ์ที่มีความสุขไงครับ
จึงมักจะหลับตา แต่ถ้าใครลืมตาอันนี้อาจจูบแบบมีจุดประสงค์อื่นแฝงไว้ป่าว
เอิ้กๆ

คุณบลูนี่ท่าทางจะ ชำนาญ ทางด้านนี่นะเนี่ย  o3

เห็นด้วยคร้าบบบบบ

หนูบลูหื่น

เอิ๊กๆๆๆๆ

 o3
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 21-05-2007 13:09:19
 :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 21-05-2007 18:58:35
เม้นต์ที่เก้าแย้วววววว
อยากต่อแล้วอะ  o9  o9

ปล  เห็นด้วยว่าเรย์ท่าทางจะเชี่ยว หุหุ  หลับตาพริ้มตลอดเลยอะดิ   o3
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 21-05-2007 19:09:40
เม้นที่สิบ  :interest: มาลงได้แล้ว  o11  o11 มาด่วนเลย  o11
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 21-05-2007 19:25:30
 :-[


เฮ้อๆ

มะไหร่จะเข้าใจกันน้า
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 21-05-2007 19:29:16
 :impress:

รออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 21-05-2007 19:51:50
 :haun5: :haun5:  มารอว่าใครจะตื่นก่อนกันระหว่างคนป่วยกะคนเฝ้าไข้ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 21-05-2007 23:17:56
ตื่นก่อนแล้วจะได้เปรียบหรือ หุหุ
*************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน วิธีการอ้อน





"กินยาเดี๋ยวนี้"





"ไม่เอาโว้ยยยยยยยยยย แค่ก แค่ก ไอ้อาวไอ้อ้อนน อ่อยอู แอ่ก"



แปลได้ใจความว่าไม่เอา ไอ้อ้อน ปล่อยกู



มึงกล้าเหรอ มึงกล้าพูดอย่างนี้กับกูใช่มั้ยไอ้อ้อน

ช่วยด้วย ไม่เอา ไม่กินยา ไม่อยากกินยา

มันขมโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย



ทานตะวันที่เคยแข็งแรง นอนแอ้งแม้งและอยากจะร้องไห้ เมื่อถูกจับกรอกยาเม็ดขม ๆ หลายเม็ด คายทิ้งก็แล้ว ดิ้นกระดุ๊กกระดิ๊กหนี ไม่ยอมกินก็แล้ว

แถมยังกัดนิ้วของอ้อนเข้าอีก จนคนที่พยายามจะกรอกยา เกิดอาการโมโหขึ้นมาบ้าง



ดี มันป่วยแบบนี้แหละดี เอาคืน ตอนนี้ไม่มีคำว่าคนใช้กับเจ้านายหรอก มีแต่คำว่าคนป่วย กับคนดูแลคนป่วย แล้วถ้าไอ้คนป่วยนี่มันไม่ยอมกินยา จะจัดการฆ่าหมกศพมันซะให้สิ้นเรื่องสิ้นราว หนี้สินก็ไม่ต้องจ่ายมันแล้ว กัดมาได้นิ้วแทบขาด โมโหเป็นเหมือนกันนะโว้ย ไม่มีแรงแบบนี้แหละดี นาน ๆ ทีจะได้เอาคืนไอ้ทานบ้าง จะจับหักคอซะให้เข็ดเลยมึง ถ้าไม่ยอมกินยาวันนี้ ก็ให้มันรู้ไปสิวะ



อ้อนโมโหคนป่วย



แต่ทานโมโหคนดูแลคนป่วย



ก็เพราะอย่างนี้ไงล่ะ ถึงไม่อยากให้ใครมาดูแลตอนป่วย

พวกนั้นชอบบังคับขู่เข็ญให้กินยา แม้จะปวดหัวแทบตาย แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมกินยาเด็ดขาด



ขมปาก กินอะไรก็ขมไปหมด



แล้วยาเม็ดขม ๆ ที่ปกติมันเคยขมยังไงก็ขมเพิ่มขึ้นสิบเท่า แบบนี้ไม่ว่าใครก็กินไม่ลงหรอก



"ไอ้ทานกินเดี๋ยวนี้ กินสิวะ" อ้อนขึ้นไปนั่งทับอยู่บนตัวคนป่วยและจัดการง้างปากของทานตะวันด้วยช้อน กัดเหรอ กัดนักใช่มั้ย เอาสิวะ กัดช้อนไปก็แล้วกัน อยากกัดก็กัดเลย



"อ่อก แอ่ก ไอ้อ้อน อื้อออออออออ งื่อ" ทานตะวันรวบรวมพละกำลังเฮือกสุดท้าย ที่จะขัดขืน แต่ว่าพละกำลังที่เคยมากมายมหาศาลกลับเหลือเพียงเล็กน้อย แรงจะสะบัดหน้าหนีมือที่บีบปากยังไม่มี แล้วแบบนี้จะทำอะไรได้



น้ำถูกกรอกตามลงมา จนทานตะวันสำลัก น้ำหูน้ำตาเล็ด สุดท้ายเม็ดยาขม ๆ ก็หลุดลงไปในลำคอ



"น้ำ น้ำ น้ำอยู่ไหน" อ้อนปล่อยให้ทานตะวันเป็นอิสระแล้ว และฝ่ายนั้นก็เรียกหาน้ำมาดื่มเป็นการใหญ่ น้ำในเหยือกน้ำใบใหญ่ถูกเทลงคออึก ๆ เพียงไม่นานน้ำก็หมดเหยือก



ทานตะวันปล่อยเหยือกน้ำลงแล้ว แต่ทั้งผ้าปูเตียงและฟูกนอนก็เละเทะและเนืองนองไปด้วยน้ำ แต่คนป่วยก็ยังพยายามจะนอนลงจนได้



"ลุก ลุกไหวมั้ย ไปนอนบนโซฟาก่อน จะเปลี่ยนที่นอนให้ เร็ว ไอ้ทานลุกขึ้นก่อน เร็ว"



กลายเป็นอ้อนที่ส่งเสียงเอะอะและเอ็ดตะโรคนป่วย ที่ไม่ยอมลุกขึ้น นอนหันหลังให้นิ่ง ๆ และขบริมฝีปากตัวเองแน่น



ห้องทั้งห้องหมุนได้ และตามมาด้วยอาการอยากอาเจียน

กินข้าวไม่ได้



แต่ไอ้อ้อนมันบังคับให้กินยาได้



ก็เพราะอย่างนี้เกลียดที่สุดก็ตอนที่ป่วย เพราะตัวเองจะกลายเป็นคนอ่อนแอไม่สามารถทำอะไรได้ กลายเป็นทานตะวันที่แม้แต่แรงยืนยังไม่มี



แถมยังต้องเป็นแบบนี้ต่อหน้าไอ้ขาเป๋นี่อีก แล้วแบบนี้จะไม่ให้รู้สึกสมเพชตัวเองได้ยังไง



คนป่วยมักจะน้อยใจในยามที่ปกติไม่เคยเป็น ไม่เว้นแม้กระทั่งทานตะวันตัวโตที่มีแรงแหกปากโวยวายด่าคน แต่เวลานี้ได้แต่นอนนิ่ง ๆ และกลายเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ถูกอ้อนรังแกให้ทำตามคำสั่ง



ทานตะวันเพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่ควรให้ใครมาเห็นตอนที่ไม่สบายก็เวลานี้นี่เอง



"ลุก" ไม่ต้องรอให้คนตัวโตลุกขึ้นเอง แต่เป็นอ้อนที่คว้าแขนของทานตะวันมาพาดไว้ที่ลำคอ และจัดการทั้งลากทั้งพยุงคนที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งให้มานอนลงบนโซฟา ส่วนทานตะวันได้แต่เบะหน้า ถึงไม่อยากทำตาม แต่ก็ต้องจำใจทำตามมาทิ้งกายลงนอน แล้วก็ได้แต่มองตามคนที่จัดการเก็บกวาดทำความสะอาดเตียง



ไอ้อ้อน มันเปิดประตูเข้ามาได้ยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่ามันคอยเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อป้อนข้าวแล้วก็บังคับให้กินยา


 


ไม่อยากยอมรับหรอกว่าตอนนี้ไม่มีแรงทำอะไรเลย



แต่ก็ทำได้แค่ทำเป็นปากดี ไม่ยอมรับความช่วยเหลือ สุดท้ายก็กลับกลายเป็นว่ามาเป็นภาระให้ไอ้อ้อนจนได้



มันคงไม่อยากมาดูแลหรอก มันคงเห็นว่าใกล้ตายแล้ว ถึงได้ดูแลแบบจำใจ ก็ดูเอาสิ กินข้าวไม่ได้ มันก็ยังจะยัดเยียดให้กิน



ไม่อยากกินยามันก็ยังฝืนบังคับ ไม่ยอมมันก็จับกรอก

แล้วแบบนี้มันน่าทุเรศขนาดไหน



จำเอาไว้เลยนะไอ้อ้อน ถ้ากูหายนะ ถ้ากูหายกูจะเอาคืนมึงเป็นสิบเท่าเลย



ทานตะวันนึกอาฆาตแค้นอยู่ในใจ

โดยที่ไม่ทันคิดเลยว่าเพราะตัวเองทำตัวงี่เง่าแบบนี้ ถึงต้องเจอไม้แข็งจากคนดูแลบ้าง



อ้อนจัดการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเรียบร้อยแล้ว และเดินลากขาไปเปลี่ยนผ้าขนหนูชุบน้ำบิดพอหมาด ๆ แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง วางกะละมังใบเล็กลงและเดินมานั่งอยู่ตรงหน้าของทานตะวันที่ยังนอนตาลอย อยู่บนโซฟา



"เปลี่ยนเสื้อหน่อย เหงื่อเต็มเลย มีแต่กลิ่นยา" โดยไม่รอช้าอ้อนจัดการปลดกระดุมเสื้อของทานตะวันที่นอนนิ่ง ๆ ทันที



ไอร้อนที่เคยแผ่ซ่านลดลงแล้ว และดูเหมือนว่าอาการป่วยของทานตะวันทุเลาลงบ้าง คนที่ไม่เคยเจ็บไม่เคยป่วย แข็งแรงมาก ๆ เวลาป่วยจะเป็นหนักกว่าคนอื่น ๆ แต่ก็ดีที่หายเร็ว คงเป็นเพราะการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ ถึงได้ทำให้สุขภาพดี



"ยาก็ฝืน ๆ กินไปเถอะ กินแล้วเดี๋ยวก็หาย เพิ่งรู้ว่าไอ้ทานตะวันคนนี้เกลียดการกินยาที่สุด ทำไม กลัวเหรอกะอีแค่ยาเม็ดเล็ก ๆ ไม่กี่เม็ด กิน ๆ เข้าไปเถอะน่ะ ถามจริงๆ เถอะ แฟนก็ไม่เห็นมีเลย แล้วเมื่อก่อนเวลาไม่สบายใครดูแลวะ อย่าบอกนะว่าปล่อยให้หายเอง เชื่อก็โง่แล้ว"



อ้อนใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กซับไปตามผิวเนื้อของคนป่วย

ไม่เคยดูแลใคร ก็ทำได้แค่นี้ ไม่ขัดไม่ถูอย่างรุนแรง แต่ก็ดูงก ๆ เงิ่น ๆ เต็มที จนแม้แต่คนป่วยยังรู้สึกว่า อ้อนเองก็คงไม่เคยดูแลใครเหมือนกัน



คำถามเรียบ ๆ คำถามเรื่อย ๆ ของอ้อนที่ถามออกไป ไม่ได้หวังได้คำตอบอะไรเลยสักนิด แต่เป็นคำถามที่ไปทำให้หัวใจของคนฟังกระตุกอย่างแรง



เมื่อก่อนเวลาไม่สบายทำยังไงเหรอ ก็นอนนิ่ง ๆ นอนเฉย ๆ เดี๋ยวทนไม่ไหวมันก็ตายไปเองแหละ หรือถ้าเกิดทนไหว เดี๋ยวก็ลุกขึ้นมาเดินได้วิ่งได้เอง



แค่ไม่สบายเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ถึงกับทำให้ตายได้หรอกน่ะ

จะไปหวังให้ใครดูแลล่ะ ไม่เคยคิดหวังอยู่แล้ว ขนาดไม่สบายหนัก ๆ พ่อกับแม่ยังไม่ยอมกลับมาเลย โทรบอกให้หมอมารักษาถึงบ้านก็แค่นั้นเอง



ใบหน้าคมซีดเผือดหมองเศร้าลง และหรุบสายตาลงต่ำ

แกล้งทำเป็นหลับตาแต่ในใจหม่นหมอง



อย่าถือว่าดูแลกูนะ คิดล่ะสิ พอถามนั่นถามนี่กูก็คงจะตอบหมด

ไม่มีทางหรอก



"เวลาไม่สบายนะ กูอยากให้มีคนเอาใจที่สุดเลยว่ะ แต่มึงคงไม่อยากให้ใครมาเอาใจหรอก เพราะอย่างมึงคงมีคนเอาใจมากแล้วแหละ ใช่มั้ยล่ะ"





ใช่กะผีน่ะสิ ไม่เห็นว่าจะมีเลยสักคน ไม่มีหรอกคนที่จะมาเอาใจเวลาไม่สบายน่ะ จะให้กูอ้อนมึงเหรอ ฝันไปเถอะ ไม่มีทางหรอก มึงมันเป็นแค่คนใช้นี่ ทำหน้าที่ดูแลกูก็ถูกแล้ว



อ้อนซับผ้าไปตามร่างกายของคนที่นอนหลับตานิ่ง ๆ และลอบมองใบหน้าซีดขาวของทานตะวันหลายครั้ง



ทำเป็นหลับนะมึง ฟังตลอดแหละวะ แต่ทำเป็นหลับ



ให้มันจริงนะ ไม่อยากอ้อน แต่พอจะเดินออกนอกห้องหน่อย

เรียกไม่ยอมให้ไปเลยนะ แล้วทำเป็นปากดีว่าอยู่คนเดียวได้ ไหนล่ะอยู่คนเดียวแค่ห่างไปแค่ไม่ถึงห้านาที กลับมาอีกที หน้าบูดหน้าบึ้ง ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ แล้วแบบนี้จะให้คิดยังไง



อ้อนอมยิ้มกับท่าทางของคนที่งอแงเป็นเด็ก ๆ แต่ยังวางมาดไม่เลิก

นี่ขนาดมันป่วยนะ มันยังฟอร์มจัดขนาดนี้ เวลาดี ๆ อย่าไปหวังเล้ย ว่ามันจะเป็นผู้เป็นคนกับเขาน่ะ ไม่มีทางหรอก แต่ก็ดี แบบนี้แหละจะได้แกล้งมันเยอะ ๆ เอาคืนมันบ้าง ไอ้ทานนะไอ้ทาน ทีใครทีมันโว้ย



"วันนี้ไม่เป็นอะไรมากแล้วนี่หว่า งั้นกูกลับบ้านได้แล้วมั้ง ไม่ได้กลับบ้านเกือบอาทิตย์แล้ว แผลก็หายดีแล้ว กลับไปให้แม่เห็นหน้าหน่อย เขาจะได้ไม่ต้องโทรตามเช้าเย็น ป่านนี้แม่คงเป็นห่วงแย่แล้ว"



อ้อนเอ่ยบอกออกมา เสียงพูดเรียบเรื่อย แต่ทำให้คนแกล้งหลับ ลืมตาขึ้นทันที แล้วก็เหมือนเดิม ทานตะวันพลิกกายหันหน้าหนีไปอีกทาง แล้วไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย



งอน แล้วยังงอแง งี่เง่า



ก็แค่บอกว่าไม่ให้ไป พูดไม่ได้เอง ก็ต้องเจอแบบนี้แหละ



"หันหลังแบบนั้น แล้วจะใส่เสื้อได้ยังไงวะ หันมานี่เลยไอ้ทาน"



แต่จนแล้วจนรอด ทานตะวันก็ยังไม่ยอมหันมา จนอ้อนต้องรั้งให้ไหล่หนาหันมาหา เพียงเท่านั้นก็ได้เห็นนัยน์ตาเศร้า ๆ แดงก่ำ



แต่ไอ้คนที่ไม่ยอมลดฟอร์มลง ก็ยังคงทำเป็นเฉยอยู่ไม่ยอมเอ่ยปากรั้งอ้อนเอาไว้


 
เออ กูไม่สบายนี่ ตัวร้อนด้วย

ไอก็ไอ เจ็บคอก็เจ็บคอ



แถมยังกินยายาก ลำบากล่ะสิ อยู่ด้วยแล้วก็คงโมโหไม่อยากทำอะไรให้หรอกใช่มั้ยล่ะ งั้นก็รีบ ๆ ไปเลย ปล่อยให้ตายไปเลยสิโว้ย ไม่ต้องมาทำเป็นเห็นใจหรอก กูมันไม่มีแรงทำอะไรเองแล้วนี่ จำไว้เลย กูจะจำไว้เลยว่ามึงใจดำ



ทานตะวันขบริมฝีปากตัวเองแน่น ไม่ยอมเงยหน้ามองคนที่กลัดกระดุมเสื้อให้ ไม่ยอมพูด ไม่ยอมห้าม ไม่ยอมรั้ง นอนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ จนอ้อนนึกสงสาร



เออ กูล้อเล่น ทำเป็นหน้าบูดหน้าบึ้ง เข้าใจแล้ว ไอ้ทาน เข้าใจแล้ว ว่ามึงนี่มันเด็กจริง ๆ



"ไปแล้วนะ" อ้อนแกล้งลุกขึ้น ตั้งใจจะเอาน้ำในกะละมังไปเปลี่ยน แต่กลับถูกรั้งข้อมือเอาไว้ พร้อมกับที่คนป่วย เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ จนอ้อนต้องหันกลับมามองใบหน้าของคนพูดให้เต็มตา



"ไปเลย แล้วไม่ต้องกลับมาอีกนะ ยกหนี้ให้หมดเลย แต่อย่ามาให้เห็นหน้าอีกก็แล้วกัน ไม่งั้นมึงโดนกูอัดเละแน่ ๆ ไอ้อ้อน"



โห



นี่ขนาดไม่สบาย โดนกรอกยายังสู้ไม่ได้เลย แล้วยังจะขู่อีกนะมึงไอ้ทาน



พูดให้มันดี ๆ ไม่เป็นหรือไงวะ



อ้อนแอบลอบยิ้มเล็กน้อย และเตรียมจะเดินหนี แต่ก็ยังคงถูกรั้งแขนเอาไว้ไม่ยอมปล่อย



"ไปแล้ว ไม่ต้องกลับมาด้วย จำเอาไว้เลยนะมึง ไอ้อ้อน ไอ้เป๋ ไอ้คนขาเป๋"



ไอ้ทาน มึงนะมึง นี่ขนาดป่วยนะ นี่ขนาดป่วย ยังด่าได้อีกนะ เออ เดี๋ยวกูก็ไม่มาจริง ๆ หรอก



"เออ รู้แล้ว รับรองไม่มาให้เห็นหน้าหรอก" พูดออกไปด้วยความนึกสนุกของตัวเอง แต่จิตใจของคนฟังสั่นไหวอย่างรุนแรง



"ไม่ต้องมาให้เจอหน้าอีกนะ ไม่ต้องมาให้เห็นอีก กูจะเป็นจะตายยังไงก็ปล่อยกูตายไปเลย ยังไงกูก็แกล้งมึงตลอดเวลาอยู่แล้ว นี่แหละโอกาสดี ทิ้งกูให้ตายไปเลย แล้วแต่ใจมึงเถอะ"





ถึงจะพูดถึงจะเป็นคำพูดที่ไม่ดีนัก แต่น้ำเสียงที่สั่นเครือน้อย ๆ และใบหน้าที่หมองเศร้าก็ทำให้อ้อนแกล้งต่อไปไม่ลง



เออ รู้แล้วแหละ เข้าใจที่พูดทุกอย่างเลย ไอ้ทานเอ้ย มึงนี่มันเด็กจริงๆ เลยว่ะ นี่ไล่ให้ไปนะ ไล่ขนาดนี้ แต่มือนี่ไม่ยอมปล่อยเลยนะ



อ้อนแกะมือของทานตะวันออก

และฝ่ามือร้อน ๆ ก็ยอมปล่อยออกอย่างช้า ๆ

ในตาคมหรุบต่ำลง และค่อย ๆ หรี่ตาลงในสุด



มันคงไปจริง ๆ นั่นแหละ โอกาสดี ๆ แบบนี้หาได้ที่ไหนกัน งั้นก็ไปเลย

อยากจะไปไหนก็ไปเลย ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว ไม่ว่ามันหรอก



ทานตะวันคิดอย่างนั้น

บอกตัวเองอย่างนั้น

แต่ความรู้สึกหมองเศร้าก็ถาโถมเข้าหาตัวอย่างรุนแรง



หูคอยเงี่ยฟังเสียงปิดประตู แต่ก็ไม่มีเสียงปิดประตูของคนที่ทานตะวันคิดว่าเดินจากไปเลยสักนิด



ฝ่ามือเย็น ๆ วางแตะที่หน้าผากที่ยังมีไอร้อน



ทานตะวันปรือตาตื่นขึ้นและยังเห็นใบหน้าของคนที่บอกว่าจะทิ้งกันไป ลอยไปลอยมาอยู่ตรงหน้า



"ยายังไม่หมดถุงเลย ขืนไปก็ไม่ได้กรอกยามึงน่ะสิ ไหนดูซิ ตัวยังร้อนอยู่เลย เดี๋ยวอีกสองสามวันก็หายแล้ว เดี๋ยวมึงก็ตะโกนด่ากูได้อีกเหมือนเดิมแหละนะ เออช่วยไม่ได้ กูยอมรับชะตากรรมของตัวเองก็ได้ ว่าพอมึงหายแล้วมึงคงเอาคืนหลายสิบเท่าเลยใช่มั้ยล่ะ งั้นก็ถือว่ากูซวยเองแล้วกันนะ"



อ้อนยังพูดต่อไปเรื่อย ๆ และนั่งลงข้าง ๆ คนที่นอนลืมตามองแถมยังทำตาแป๋วกระพริบตาปริบ ๆ หลายครั้ง



รอยยิ้มสดใสถูกส่งให้กับคนป่วยที่นอนอยู่บนโซฟา



ฝ่ามือที่กำลังจะผละจากหน้าผากร้อน ๆ ถูกรั้งเอาไว้ และทานตะวันรั้งมือเย็น ๆ เอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย ก่อนจะเอาไปซุกไว้ที่ซอกคอของตัวเองและปรือตาหลับลงอย่างช้า ๆ



เปล่า...........



ไม่ได้อยากจับมือไอ้เป๋หรอก ไม่ได้สนใจด้วยถ้ามันจะไปไหน

แค่มือมันเย็น



ก็เลยยังไม่อยากปล่อย แค่นั้นเอง



คนป่วยสิ้นฤทธิ์แล้วคงเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่อ้อนกรอกเข้าไป



อ้อนนั่งมองคนที่ค่อย ๆ หลับลงอย่างช้า ๆแล้วพยายามจะดึงมือของตัวเองออก แต่ทานตะวันก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาทุกครั้งที่ทำอย่างนั้น



ปลายนิ้วเรียวแตะเล่นที่ปลายจมูกโด่งของคนที่หลับตาพริ้มเหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ แล้วก็อมยิ้ม



ก็อ้อนเป็นนี่หว่า



เรื่องแค่นี้เอง ก็เห็นทำได้นี่ หัดทำแบบนี้บ้างมันไม่ตายหรอกน่าไอ้ทานเอ้ย



บอกให้กูไป บอกให้ไป แต่ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้



แล้วแบบนี้ใครมันจะทิ้งได้ลง



ปากแข็งชะมัด



คนอะไรวะ ปากบอกให้ไป แต่ไม่ยอมปล่อยมือ แล้วทำหน้าแบบนั้นใครมันจะทิ้งไปได้ลงคอ เอาเถอะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เกิดมาก็ยังไม่เคยดูแลใครเหมือนกัน มึงนี่แหละคนแรกเลยที่กูมานั่งเช็ดตัวให้ ก็ถือซะว่า คืนกำไรแล้วกัน ไหน ๆ ช่วงนี้มึงก็ไม่ได้อาละวาดมาก ๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว



เอาเป็นว่า ตอนนี้มึงป่วย



กูก็ดูแลมึงเต็มที่แล้วกันนะ ไอ้ทาน



อ้อนนั่งยิ้มและยังพยายามดึงมือของตัวเองกลับอีกหลายครั้ง แต่ไม่ว่ากี่ครั้ง

ทานตะวันก็ไม่ยอมปล่อยให้จากไปแม้แต่ครั้งเดียว



TBC.....




 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 21-05-2007 23:32:20
ออ้นนี่ใจดีจังเป็นเราหนีทานไปตั้งแต่วันแรกแล้ว 5555+  :haun5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 21-05-2007 23:39:19
 o12  o12  ผมก็นึกว่าถ้าตื่นแล้วจะหวานกันสักหน่อย 

o16 o16  ปากแข็งกันจริงๆเลย

 o22 o22  หรือว่าทานกะอ้อนยังเด็กมากเกินที่จะรู้ความรู้สึกของตัวเองครับ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 21-05-2007 23:54:20
ทานเอ๊ย  ฟอร์มจัดจริง ๆ  o8
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: mumumama ที่ 22-05-2007 08:15:32
 :like6: ก็ตอนนี้แหละน้า  :like6:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 22-05-2007 08:52:33
หงะ

อ่านแล้วอิจฉาจริงๆๆ

ม่ายสบายก็มีคนมาดูแลด้วยอะ  อิอิ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 22-05-2007 10:14:11
คุณทาน  สบายเจงเจง เลยนะนั่น อ่ะ   อ้อน นายเอก ฉุดๆๆ :laugh:



มาต่อเร็วๆนะงับ นั่งรออยู่นะเนี้ยยยย :o10:



ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15


หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 22-05-2007 10:46:11
อ้อนทำดีแบบไม่รู้ตัวน่ะเนี่ย

ส่วนทานเองก็ต้องแอบดีกับอ้อนขึ้น แบบไม่รู้ตัวเหมือนกัน

แล้วเมื่อไหร่สองคนนี้จะรู้ตัวเนี่ย
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 22-05-2007 15:33:36
 

..................บางครั้ง...ความรัก......ก็แอบก่อตัวขึ้นโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว.......  :-[

                          ..............มาต่อเร็วนะครับ.... o13
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 22-05-2007 17:05:16
รอฉากหวานๆ คร้าบบบบบ

 :laugh3:





ลป.

เมนท์นี้อันที่ 9 แล้วนะตี๋

เมนท์หน้าอันที่ 10

มาต่อให้ว่องเลย

 o12
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-05-2007 18:27:40
เม้นต์ที่ 10  อีกแล้ว  :interest: มาต่อด่วนเลย  o11 ด่วน  o11  o11
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 22-05-2007 18:45:03
ความรักเกิดขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ตัว  :like6: :like6:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 22-05-2007 19:31:16
ถ้ารีบหนีก็ไม่ได้รู้จักกันและกันจริงๆนะสิครับ
************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ขอโทษ

"กินข้าวเสร็จแล้วก็ต้องกินยาช่ายม้าย กินยาก็ต้องกินยาเม็ดช่ายม้าย ทานตะวันคนดี๊คนดี อย่าให้ต้องเอาช้อนง้างปากเลยนะอ้าปากซะดี ๆ "

อ้อนพยายามทำเสียงให้ดูใจดีมากที่สุดแล้ว แต่แววตาไม่เป็นไปตามน้ำเสียง
ตายซะเถอะมึงไอ้ทาน กรูจาจับเมิงกรอกยา ณ บัดนาว หึ หึ หึ

"ไม่ ไม่กิน ให้ตายก็ไม่กิน ไม่กินเด็ดขาด ไม่กิน ม่ายกิน ม่ายเอาโว้ยยยยยยยยย"

ทานตะวันใช้หมอนอุดปากตัวเองเอาไว้แน่น ยอมหายใจไม่ออกดีกว่ายอมกินยา เอาสิวะ ให้มันรู้ไปว่ามันยังจะเอายายัดปากได้

อ้อนนั่งขำ ขำแล้วก็ขำอีก ที่พ่อเจ้าประคุณละเลียดกินข้าวต้มไม่หมดชามสักที ก็คงเพราะสาเหตุนี้

...............เพราะไอ้ทานมันจะดื้อไม่ยอมกินยานั่นเอง..................

"อย่ามาตลก เร็ว กินเถอะ ไม่ขม รับรอง สัญญาคราวนี้ไม่ขมแล้วจริง ๆ ว่าง่าย ๆ หน่อยสิวะ ไม่กินแล้วมันจะหายได้ยังไง
น่า เอาหน่อย นิดเดียว นะทานนะ จะได้หายไว ๆ ไง"

เล่นไม้แข็งก็แล้ว ไม้อ่อนก็แล้ว สุดท้าย อ้อนก็เลยต้องเทยาไว้ในมือ แล้วก็ต้องพูดปลอบใจไปตามเรื่องตามราว
หวังว่าไอ้ทานมันจะเชื่อนะ เชื่อก็ตลกแหละ ไม่มีทางหรอก เออ ไม่กินอย่ากินก็แล้วกัน นอนแอ้งแม้งป่วยอยู่อย่างนี้ไปตลอด
ก็ช่วยไม่ได้นะ เลือกเองไม่มีใครบังคับ

"ไม่ขมจริง ๆ เหรอ"

ถามทั้ง ๆ ที่รู้ว่ายาขมขนาดไหน แต่ทานตะวันก็ค่อย ๆ ก้มมองเม็ดยาในมือของอ้อนที่ส่งให้
มองแล้วก็มองอีก มองอยู่อย่างนั้น แล้วเบะหน้า

เอาจริง ๆ เหรอ จะให้กินยาเม็ดใหญ่ขนาดนี้เนี่ยนะ ไม่เอา ไม่อยากกินเลย จะทำยังไงดี
แต่ไอ้เป๋มันก็ทำหน้าเซ็งขนาดนั้น มันคงไม่อยากป้อนยานักหรอก

มันคงไม่ค่อยชอบ ที่ต้องมาจับกรอกยาอยู่ได้ทุกวัน แล้วมันก็คงเบื่อแล้วด้วย

"อย่าเชื่อเล้ย ยาเม็ดขนาดนี้ ขมปี๋เลยแหละ เออ ไม่กินก็ไม่กินวะ เหนื่อยเหมือนกัน บังคับเด็กกินยาพอไหว
แต่บังคับผู้ใหญ่ตัวโตแต่นิสัยเด็กให้กินยา หมดแรงทุกทีว่ะ เหนื่อย โอเคไม่กินก็ไม่กิน ทิ้งไว้อย่างนี้แล้วกัน"

ยาลดไข้ แก้หวัด ลดน้ำมูก แก้อักเสบ นับสิบรายการถูกเทกลับไปอยู่ในซองยา และอ้อนก็วางซองยาไว้บนหัวเตียง


คนที่ทำหน้าเบื่อหน่ายเต็มที คว้าถ้วยข้าวต้มแล้วก็เตรียมเดินออกจากห้อง
หน้าแบบนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเบื่อ

ทานตะวันมองตาม คนที่ลุกขึ้นเตรียมเดินออกจากห้อง แล้วก็หันกลับไปมองถุงยาบนหัวเตียงอีกครั้ง

ยาเม็ดใหญ่ขนาดนั้น ขมจะตาย แต่ว่า...........

ดวงตาคมนิ่งมองถุงยา แล้วค่อย ๆ เอื้อมมือไปหยิบถุงยาออกมาคลี่ดูว่ามียากี่ชนิด

"โหย เพียบเลย กินไม่ไหวหรอกแบบนี้"

ถุงยาถูกผลักให้ออกห่างตัว แล้วทานตะวันก็นั่งท้าวคางมองอยู่อย่างนั้น
ตัดสินใจอยู่นาน แล้วก็เอื้อมมือไปคว้าสิ่งที่ไม่อยากจะเห็นกลับมาอีกครั้ง ค่อยๆ คลี่ซองยาออก
เทยาหลายชนิดลงบนฝ่ามือ แล้วก็เบะหน้า

"หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด โหตั้งเจ็ดเม็ด ตายกันพอดี เอาเม็ดไหนก่อนล่ะ เม็ดนี้สีสวยดี หรือว่าเม็ดนี้ดีวะ"

ปลอบใจตัวเองไปอย่างนั้น เม็ดยาสีสวย แต่ก็รู้ว่ามันขมแสนขม ยิ่งมองก็ยิ่งเครียด ยิ่งเครียดก็ไม่รู้จะทำยังไงดี
ได้แต่นั่งมองยาเม็ดหลากสี แล้วก็ถอนหายใจ

"เพียบเลย หนึ่งสองสามสี่ห้าหกเจ็ด นับยังไงก็ไม่เห็นลดลงเลย จะทำยังไงดีวะ"

ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเม็ดไหน แล้วก็ได้แต่ใช้นิ้วเกลี่ยเม็ดยาเล่นอยู่อย่างนั้น จนต้องขมวดคิ้วมุ่น

"เลือกไม่ถูกแล้วนะโว้ย แม่ง จะกินเม็ดไหนดีวะ"

สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตของทานตะวันคือการเลือกเม็ดยาเข้าปาก และคราวนี้ก็เช่นกัน ไม่เคยมีสักวันที่ทานตะวันจะยอมกินยาเองแบบนี้
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่คนตัวโตที่เกลียดเม็ดยาขม ๆ มากที่สุด ตัดสินใจที่จะทำ ทั้ง ๆที่ยังไม่มั่นใจนักว่าจะทำได้

"ไอ้ทานมันทำอะไรของมันวะนั่น บ้าอีกแล้ว กะอีแค่ยา กินแล้วมันจะตายหรือยังไง เอาเข้าไป นับเข้า มันคงลดลงหรอกนะถ้าไม่กินเข้าไป
ยามันจะหายไปได้ยังไงล่ะ"

อ้อนถือกะละมังน้ำ แอบยืนอยู่หน้าห้องยืนพิงประตูแอบมองคนป่วยที่เอาแต่นับเม็ดยาซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น
ถึงปากจะบ่น แต่ก็อดจะลุ้นตามไม่ได้

กินไปเหอะน่ะไอ้ทานไม่ขมหรอก

ในใจลุ้นตาม และนัยน์ตาก็จ้องมองนิ่งกับภาพของคนตัวโตที่นั่งนับเม็ดยาซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น ด้วยใจลุ้นระทึก

 


"เอาเหอะน่าไอ้ทาน เม็ดไหนก็ได้ กิน ๆ ไปเหอะ เร็วสิวะ"

อ้อนยืนลุ้น ด้วยใจเต้นระทึก และภาพที่ได้เห็นหลังจากคนตัวโตนั่งขมวดคิ้วอยู่นาน ก็คือการที่เม็ดยาในมือของทานตะวันถูกกรอกลงไปในปากทั้งหมดกำมือ
ตามด้วยน้ำเหยือกใหญ่ที่เทตามลงไป

เพียงเท่านั้น อ้อนที่ยืนลุ้นระทึกอยู่ ก็ยิ้มกว้าง แล้วหัวเราะออกมาเสียงเบา

"ถ้าจะทำก็ทำได้นี่หว่า เฮ่อ ก็แค่เนี้ย จะอะไรมากมายล่ะ"

คนที่แอบอยู่ข้างประตู เปิดประตูและเดินถือกะละมังน้ำเข้ามาภายในห้อง ส่วนทานตะวันวางเหยือกน้ำลงแล้วและ
ชะงักมองใบหน้าของคนที่เพิ่งเดินเข้ามา รีบทำหน้านิ่งเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทันที

"หิวน้ำเหรอ"

อ้อนแกล้งถามและทานตะวัน ก็แค่พยักหน้า ไม่ได้บอกว่าก่อนหน้านี้ทำอะไรบ้าง

"หิวน้ำก็เลยกินน้ำ"

เสียงตอบเบา ๆ ทำให้อ้อนที่กำลังบิดผ้าขนหนู อมยิ้ม และเงยหน้าขึ้นมองคนปากแข็ง ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้และเข้าใจ

"แล้วสรุปว่าก็ไม่กินยา ว่างั้นเถอะ" อ้อนแกล้งพูด และคนตัวโตก็เบะหน้าทันที

ไม่ได้กินบ้าอะไรล่ะ กินเข้าไปจนหมดแล้ว ไม่อยากมาดูเอง ของดีมีครั้งเดียว ช่วยไม่ได้อยากมาช้าเอง

"ใครจะกินลง เม็ดขนาดนั้น กินก็บ้าสิ" เสียงตอบแบบไม่ค่อยพอใจจะตอบ ทำให้อ้อนกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่อยู่

เออ ไม่กิน ไม่อยากกิน แต่ก็เห็นกินได้นี่ ปากแข็ง ทีนี้ล่ะก็ไม่ยอมยกยอตัวเอง ไอ้ทานหนอไอ้ทาน เด็กจริง ๆ เล้ย

"เหรอ เออ ไม่กินก็ไม่กิน แต่จะบอกว่า ใครกินยาได้ คนนั้นก็เก่งนะ ยาเม็ดขม ๆ ขนาดนั้น เป็นกู กูก็ยังไม่อยากจะกินเลย
เห็นแล้วอยากจะอ้วกว่ะ มันเยอะเกิน ใครที่กินได้นะ แล้วก็กินแบบรวดเดียวเจ็ดเม็ดเลยนะ โห คนนั้นเก่งมาก ๆ เลย
ยอมรับเลยจริง ๆ ว่ะ"

อ้อนแกล้งทำน้ำเสียงตื่นเต้น และคนฟังก็ยิ้มจนตาหยี

เหรอ จริงอ่ะ เอ้า คนมันเก่งนี่หว่า ยาเม็ดแค่นี้ โธ่ แค่เท ๆ ลงคอ กินน้ำตามก็หมดแล้ว โธ่ เรื่องง่าย ๆ แค่นี้เอง

"เหรอ อือ งั้นเหรอ" เสียงตอบของคนที่นั่งยิ้ม และกอดหมอนอยู่บนเตียง ทำให้อ้อนอยากจะหัวเราะให้ดัง ๆ

มันฟอร์ม เออ ไอ้ทานนี่มันฟอร์มได้ตลอดเลยจริง ๆ ให้ตายเถอะว๊า

"มาเถอะเช็ดตัวหน่อย เหงื่อออกเยอะเลย สงสัยใกล้หายแล้วมั้ง หายแล้วก็ออกฤทธิ์อาละวาดได้เหมือนเดิมแหละนะใช่มั้ย"

คำถามของอ้อน ทำให้คนที่เตรียมปลดกระดุมเสื้อ และยื่นแขนให้เช็ดตัว รีบดึงแขนกลับ แล้วก็ทำหน้ามุ่ย

ไม่น่ากินยาเลย กินยาแล้วก็หายป่วยเร็ว ๆ หายแล้ว ก็ไม่มีใครป้อนข้าว แล้วก็ไม่มีใครคอยเช็ดตัวให้ ไม่มีใครคอยดูแลเหมือนเวลาไม่สบาย แบบนี้จะดีตรงไหน

"เป็นอะไรอีก ทำไมมึงเอาใจยากจังวะ เวลาปกติก็เอาใจยาก พอเวลาไม่สบายยิ่งยากเข้าไปใหญ่ เฮ่อ เหนื่อยว่ะ"

ก็แค่คำพูดเรือย ๆ เท่านั้น แค่พูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่ทานตะวันเก็บเอามาคิด และก้มหน้า ทำหน้าเศร้า จนคนที่ช่วยถอดเสื้อให้คนป่วย
และกำลังจะลงมือเช็ดตัวให้ ชะงักมือค้างอยู่อย่างนั้น

ใบหน้าหมอง ๆ ยังคงซีดขาว
แต่นัยน์ตาคมที่เคยสดใส กลับหม่นหมองลงอีกครั้ง เมื่อช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าของคนที่คอยดูแลมาตลอดสองสามวันนี้

"เหนื่อยสิ ก็คนอย่างกูน่ะ ไม่มีใครเขาอยากดูแลหรอก เอาใจก็ยาก นิสัยก็เอาแต่ใจตัวเอง จริงมั้ย เอามานี่เหอะ แค่เช็ดตัว เช็ดเองก็ได้
เมื่อก่อนก็ทำเองได้ เดี๋ยวนี้ก็ทำเองได้ ไม่ตายหรอก"

ผ้าขนหนูถูกกระชากมาแล้ว และทานตะวันก็ลงมือเช็ดที่แขนของตัวเอง ไม่ยอมมองหน้าของอ้อนที่ได้แต่นิ่งเงียบ พยายามดึงผ้าขนหนูออกมาจากมือของทานตะวัน
แต่คนที่บอกว่าไม่อยากได้รับการดูแลก็ดึงผ้าขนหนูกลับไปเช็ดที่แขนของตัวเองเหมือนเดิม

"อย่าทำแบบนี้ได้มั้ย มันน่าเบื่อ แล้วก็ยิ่งทำให้เหนื่อยเพิ่มขึ้น เข้าใจมั้ย"

อ้อนเริ่มหงุดหงิดโมโห และเอ็ดคนป่วยที่ยังดื้อดึง เสียงเอ็ดดังจนทานตะวันต้องเงยหน้าขึ้นมอง และขว้างผ้าขนหนูทิ้งลงพื้นทันที

"เออ ก็มันเหนื่อยไง เหนื่อย น่าเบื่อ งั้นไม่ต้องมาดูแลหรอก อีกสองสามวันก็หาย ไม่ต้องมาทำเป็นใส่ใจทั้งที่ไม่อยากทำ"

เวียนหัว แต่ความน้อยใจ และความเสียใจมีมากกว่า ทานตะวันพูดออกไปอย่างที่ใจตัวเองคิด รีบกลัดกระดุมเสื้อ และคว้าผ้าห่มที่ร่นลงอยู่ที่ปลายเตียงขึ้นมาห่ม
และคลุมไว้ทั้งตัว

น้อยใจ

เสียใจ

โมโห

แต่ก็ทำได้แค่มุดเข้าไปอยู่ในโปงผ้าห่ม และขดตัวนอนนิ่งเงียบ ไม่ยอมพูดจาอีกเลย
 


อ้อนดึงผ้าห่มของคนที่แกล้งนอนนิ่ง ๆ ออก แต่ทานตะวันก็ยังไม่ยอมออกจากโปงผ้าง่าย ๆ

ในเวลาไม่นาน หลังจากที่พยายามยื้ดยุดกัน อ้อนก็จัดการซักผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำและบิดจนพอหมาด
เช็ดที่แขนที่โผล่พ้นออกมาจากโปงผ้าของทานตะวันจนได้

ผ้าห่มผืนหนา ถูกดึงออก เผยให้เห็น ใบหน้า และร่างกายของคนที่ยังคงนิ่งเงียบได้แล้ว

อ้อนลงมือปลดกระดุมเสื้อของคนที่นิ่งเฉยอีกครั้ง และใช้ผ้าซับไปตามร่างกายให้กับคนป่วย
ทานตะวันไม่ยอมพูดจา ไม่ยอมมองหน้า และเพียงเท่านั้น อ้อน ก็ยิ่งรู้ว่าตัวเองไม่ควรพูดจาแบบนั้นออกไปเลย

"หายโกรธหรือยัง" คำถามเรียบ ๆ เรื่อย ๆ แผ่ว ๆ ทานตะวันรับรู้ทุกอย่าง แต่ไม่ยอมตอบ

อ้อนถอนหายใจ อีกครั้ง แน่ล่ะทำแบบนี้มันเหนื่อย เหนื่อยทั้งใจเหนื่อยทั้งกาย
ดวงตากลมโตนิ่งมองใบหน้าที่ยังคงนิ่งเฉยของคนป่วยอีกครั้ง และก็ถอนใจ
ก่อนจะคว้ากะละมังน้ำเตรียมไปเปลี่ยนน้ำอีกครั้ง

"อย่าหายโกรธเลย โกรธต่อไปเรื่อย ๆ แบบนี้แหละดี จะได้อึดอัดด้วยกันทั้งสองคน ใช่ว่าตัวเองจะอึดอัดใจเป็นคนเดียวนะ
คนอื่นก็มีความรู้สึกเหมือนกัน"

คำพูดของอ้อน ทำให้ทานตะวัน เงยหน้าขึ้นมองคนพูดอีกครั้ง
คนที่ดูแลมาตลอดหลายวันจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน มันใครกันล่ะ ถ้าไม่ใช่ไอ้เป๋

มันดูแลตลอดเวลา หาข้าวหาน้ำให้กิน ทำให้ทุกอย่าง ก็พอจะรู้ว่ามันก็เหนื่อยเหมือนกัน แต่ยังไปทำแบบนี้ใส่อีก
เป็นใคร ก็ต้องเหนื่อยใจเป็นธรรมดา

อ้อนกำลังจะเดินออกจากห้องไปแล้ว แต่ก่อนที่จะเดินออกไป คนที่ไม่ยอมพูดยอมจาก็คว้าข้อมือของอ้อนเอาไว้
และเอ่ยบอกเสียงเบา

"ขอโทษ"

คำพูดสั้น ๆ คำพูดง่าย ๆ แต่ได้ใจความ ทำให้อ้อนชะงักนิ่ง และหันกลับมามองหน้าของคนที่นั่งอยู่บนเตียง

"เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ" แค่คิดว่าตัวเองคงหูฝาดไปที่ได้ฟังคำขอโทษ แต่คนตัวโตก็พูดอีกครั้งให้แน่ใจ

"ขอโทษนะ..." คนป่วยเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของคนที่อยากฟังคำตอบอีกครั้ง นั่นทำให้อ้อนถึงกับอมยิ้ม
ความโกรธที่มีหายไปในทันที

"อื้อ ไม่เป็นไร แล้วก็.....กินยาเองก็ได้แล้วนี่หว่า เก่งขึ้นเยอะแล้วนี่"

อ้อนเอ่ยบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้ทานตะวัน

เพียงเท่านั้น คนที่ทำหน้านิ่งเฉย ก็มีอันต้องรีบลงไปนอน และคว้าผ้าห่มมาคลุมร่างของตัวเองเอาไว้ ไม่ยอมให้อ้อนเห็นหน้าอีก

ไอ้อ้อนมันเห็นหมดเลยนี่หว่า ว่ากินยา โหย อายโว้ย อายชิบหาย แม่ง มาตอนไหนทำไมไม่ยอมบอก ปล่อยให้พูดอะไรโง่ ๆ อยู่ได้

ถ้าเป็นทุกที ทานตะวันคงอาละวาดโวยวาย แต่คราวนี้ กลับนอนคลุมโปงเงียบ ๆ

นั่นทำให้อ้อนยิ่งหุบยิ้มไม่ได้

คนเรานะ ทำตัวน่ารักก็เป็นนี่หว่า อย่างไอ้ทานเนี่ย เวลามันทำอะไรแบบนี้

ใครเห็นก็ต้องบอกว่ามันน่ารัก ทำแบบนี้ก็เป็นนะคนเรา ป่วยนาน ๆ ก็ดีนะไอ้ทาน

ป่วยแล้วทำตัวดีแบบนี้ สมควรจะป่วยให้มันนาน ๆ ไปเลย

TBC.....
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-05-2007 19:38:33
เหอ เหอ ตกลงคู่นี้จะรักกันแบบไหนนี่ ฟอร์มจัดกันจริง ๆ  :try2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 22-05-2007 19:43:33
 :o9: :o9:  จะพูดกันดีๆก็ทำได้นี่ครับ  o17 o17
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 22-05-2007 20:02:20
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย น่ารักอ่ะ ไม่ไหวแล้ว อ่านแล้วใจหวิวๆ(สงสัย อินจัด อิอิ)
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 22-05-2007 21:02:28
โหย  น่าร๊ากมากมายอ่า   อ่านไปยิ้มไป   เมื่อไหร่ สองคนนี้จะรู้ใจตัวเองน๊า -0-
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 22-05-2007 21:43:05
น่ารักฉุดๆเลย  :give2:


ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 22-05-2007 22:08:49
น่ารักอะตอนนี้  :impress2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 22-05-2007 22:29:42
 :laugh:
ทานไม่สบายแล้วทำตัวน่ารัก 

อ้อนเลยอยากให้ป่วยไปนาน ๆ   คิดได้ไงเนี่ย  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 22-05-2007 23:32:46
น่ารักมั่กๆ
อย่างนี้จิงโจ้ปลื้ม
 :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 23-05-2007 01:46:15
นับวันจะยิ่งน่ารักขึ้นเรื่อยๆนะเนี่ยคู่นี้ :impress2:

ขอบคุณครับ o1
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 23-05-2007 08:13:54
อ่านแล้วก็ลองคิดดูอะ

อาจจะเคยเป็นอย่างทานก็ด้ายนะ

ที่ทำตัวเป็นร่าเริง  สดใส  หรือทำอะไรก็เป็นผู้นำไปหมด

แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่ทำก็เพื่อปกปิดอีกด้านนึงเอาไว้

ด้านที่  อ่อนแอ

แต่ว่านะ  คงจาดีจิงๆ

ถ้าเจอใครสักคนที่เราจะสารมารถแสดงด้านที่  อ่อนแอ  นั้น

ออกมาได้เต็มที่  ไม่ต้องเสแสร้งอีกต่อไป

มันคงจะมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว

ก็เหมือนทานในตอนนี้  ที่มีอ้อนอยู่ใกล้ๆ

หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 23-05-2007 09:11:03
เริ่มคุยกันดีๆ แล้ว ดีใจจัง

แล้วก็ลุ้นต่อไป









ลป.

11 เมนท์แล้ว กรุณามาต่อด่วนคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

 :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 23-05-2007 17:02:29
อ่านแล้วก็ลองคิดดูอะ

อาจจะเคยเป็นอย่างทานก็ด้ายนะ

ที่ทำตัวเป็นร่าเริง  สดใส  หรือทำอะไรก็เป็นผู้นำไปหมด

แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่ทำก็เพื่อปกปิดอีกด้านนึงเอาไว้

ด้านที่  อ่อนแอ

แต่ว่านะ  คงจาดีจิงๆ

ถ้าเจอใครสักคนที่เราจะสารมารถแสดงด้านที่  อ่อนแอ  นั้น

ออกมาได้เต็มที่  ไม่ต้องเสแสร้งอีกต่อไป

มันคงจะมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว

ก็เหมือนทานในตอนนี้  ที่มีอ้อนอยู่ใกล้ๆ



อ่านแล้วน้ำตาจะไหล จะมีไหมใครสักคน คนนั้น
คนเราแทบทุกคนมักปิดกั้นความรู้สึกในใจตัวเองตลอดมา
จนบางครั้งมีเหตุต้องเผยมันออกมา ถ้าใครคนนั้นรับได้ เขาคงจะเข้ามาอยู่ในใจโดยไม่ยาก
ปกติจึงมักจะเป็นเพื่อนมากกว่าที่สามารถพูดอะไรๆออกมาได้
เพื่อนดีๆรู้ใจก็มีค่ามากเหมือนกันนะครับ

 :o12:


*******************************************************************************************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เรื่องของคนเกลียดยา

ตัวมันก็ไม่ร้อนแล้วนะ หน้าตาก็ดูผ่องใสดี แต่ทำไมไอ้ทานมันถึงได้นอนซมอยู่ตลอดเวลา แน่ใจนะว่าป่วย ชักไม่ค่อยแน่ใจแล้ว นี่มันผ่านมาหกวันแล้วนะ ปกติมันก็น่าจะดีขึ้นบ้าง
แล้วทำไม ทั้งที่ตัวก็ไม่ร้อนแล้ว ไอ้ทานก็ยังคงทำเหมือนมันป่วยซะขนาดนั้น ชักแปลก ๆ แล้วสิ

อ้อนขมวดคิ้วมุ่น เมื่อวางกะละมังน้ำไว้ในห้องน้ำ และลงมือขยำผ้าขนหนูผืนเล็ก ที่ใช้เช็ดตัวให้กับคนป่วยทุกวัน

แปลกแฮะ จะว่ามันแกล้งป่วย ก็ไม่น่าจะใช่ มันจะทำแบบนั้นไปทำไม ทำให้เอาใจมันเหรอ ก็ไม่น่าจะจริง ปกติแล้ว ถึงมันไม่ได้เป็นอะไรมันก็สั่งให้ทำนั่นทำนี่ได้
แล้วทำไมมันจะต้องแกล้งไม่สบายด้วย หรือว่าจะคิดมากไปเอง

อ้อนสะบัดหัวไล่ความคิดแปลก ๆ ออก แล้วเดินลากขาเข้าไปในห้องของทานตะวัน
คนป่วยนอนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แล้วก็หรี่ตาขึ้นเมื่อรับรู้ว่ามีใครเข้ามาในห้อง

เมื่อยชะมัดให้มานอนซมอยู่อย่างนี้ หายตั้งนานแล้ว แต่อยากป่วยต่ออีกสักสองสามวัน ไม่รู้สิ คิดเอาเองว่าเวลาไม่สบายไอ้อ้อนมันดูแลดีเป็นพิเศษ
แล้วก็ชอบที่มันมาดูแลแบบนี้ด้วย ชอบมาก ๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

"กินข้าวต้มได้หรือยัง จะได้กินยา" อ้อนเดินมานั่งอยู่ข้าง ๆ คนที่แกล้งทำตาปรือ แล้วก็เห็นทานตะวันส่ายหน้า ไม่ยอมลุกขึ้นมากินข้าวต้มที่อ้อนเทใส่ชามวางไว้ให้ที่หัวเตียง

"ทำไมไม่กิน จะหนีไม่ยอมกินยาอีกล่ะสิ" ผู้ดูแลคนป่วย ยกชามข้าวต้มขึ้นมาและเป่าเบา ๆ เพื่อให้ความร้อนคลายลงบ้าง

"ลุกขึ้นมากินข้าวเลย อย่ามาหาเหตุไม่กินยา เร็วสิวะ"

ทำไมต้องวะด้วย กูป่วยนะครับ ทำไมไม่พูดดี ๆ ทำไมต้องมีคำว่า วะ ด้วย พูดไม่เพราะเลย แบบนี้น้อยใจ ไม่อยากกินข้าวแล้ว

เกิดน้อยใจด้วยเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ ขึ้นมา คนตัวโตพลิกกายไปอีกทาง และเบะหน้า อยากจะบอกว่า งอน แต่ไม่ต้องให้พูด ท่าทางแบบนี้ก็ฟ้องให้เห็นโดยไม่ต้องใช้คำพูด

"ไม่บังคับ ไม่กินก็ไม่กิน" ชามข้าวกำลังจะถูกวางไว้ที่หัวเตียง และทานตะวันก็รีบหันกลับมารีบลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว

"ไหนอ่ะ ป้อนหน่อยสิ ไม่สบายอยู่นะ จะให้กินเองหรือไง" ช่างเป็นการขอร้องที่น่ารักเหลือเกินในสายตาของอ้อน น่ารักษา น่ามาก น่ารักษาด้วยการเอาข้าวต้มคว่ำใส่หัว
กินเองไม่เป็นหรือไง ไม่สบายไม่ใช่ว่าเป็นง่อยนี่หว่า แต่ก็ทำให้มันซะหน่อย เป็นคนใช้ส่วนตัวของท่านชายทานตะวันแล้วนี่ ใครมันก็ไปกล้าหือล่ะ กลัวจะแย่แล้ว กลัวตายเลย

"อ้าาาาาาาาาาา" คนตัวโตอ้าปากกว้าง และอ้อนก็ถึงกับหัวเราะด้วยความขำ

ไม่ได้น่ารักหรอก

ทุเรศต่างหากล่ะ นับวันมันก็ยิ่งเพี้ยน ไอ้ทานหนอไอ้ทาน ถ้าพวกที่ชมรมมันมาเห็นท่าทางติงต๊อง ของมึงแบบนี้ มันยังจะศรัทธากันอยู่อีกมั้ย
สงสัยคงไม่มีรุ่นน้องคนไหนให้ความเคารพยำเกรงหรอก

อ้อนยกช้อนขึ้นตักข้าวต้มป้อนอุ่น ๆ ป้อนให้กับคนป่วย และก็เห็นว่าคนป่วยอ้าปากรับ ด้วยความยินดี ไม่มีอิดออด
เวลากินยาให้มันง่าย ๆ แบบตอนกินข้าวเหอะ นี่กว่าจะกินได้แต่ละที เล่นเอาปวดหัว และทำให้เหนื่อยได้ไม่มีหยุดหย่อน

"ยาชุดสุดท้ายแล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องมาบังคับเด็กกินยาอีก รีบ ๆ หายซะทีเถอะ จับเด็กกรอกยาเรื่องใหญ่นะ เหนื่อยด้วย"

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดคุยกันได้อย่างสนิทใจขนาดนี้ เมื่อก่อนไม่ว่ายังไง ทานตะวันก็จะเอะอะโวยวายอยู่เสมอ ไม่เคยฟังใคร ไม่เคยง้อ ไม่เคยอ้อนใคร
ไม่เคยขอโทษใคร แต่ไม่รู้ว่าทำไม ในเวลานี้ถึงได้ซึมซับเอาความรู้สึกบางอย่างมาจากคนที่ตัวเองเรียกว่า คนใช้ ได้มากถึงขนาดนี้ ซึมซับความรู้สึกดี ๆ เอาไว้โดยที่ตัวเองไม่เคยรู้ตัวเลย

ไม่ต่างจากอ้อน ที่อยู่ใกล้ ๆ กับคนบ้าอย่างทานตะวันมานาน
ก่อนหน้านี้ ทำได้แค่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ไม่คุย ไม่แม้แต่อยากจะมองหน้าคนที่มักจะสั่งให้ทำตามคำสั่งอยู่เสมอ
แต่ยิ่งนานวัน กลับรู้สึกว่า ตัวเองพูดคุยกับคนที่ใคร ๆ ต่างก็ไม่อยากมีเรื่องด้วยเพราะความโหด แบบไม่ปราณี ได้อย่างสนิทใจ
จะมีใครรู้บ้าง ว่าเวานี้คนที่ทุกคนไม่กล้ายุ่งด้วย กลับมานั่งทำตาใส่แป๋วอยู่ตรงหน้าและยอมให้ป้อนข้าวแต่โดยดี ผิดจากภาพลักษณ์ครั้งแรกที่ได้รู้จักกัน

 


"ชุดสุดท้ายแล้วเหรอ ดี ไม่อยากกินยา ขม ไม่ชอบ ทำไมยาต้องมีขม ๆ ด้วยวะ ทำไมของในโลกนี้ต้องขมด้วย" เป็นคำถามง่าย ๆ ที่ทานตะวันรู้คำตอบดี แต่ก็พูดไปเรื่อย ๆ

เรื่องราวต่าง ๆ ที่พูดคุยกัน ก่อนหน้านี้ ทานตะวันไม่ชอบฟังใครพูด เอาแต่คิดว่ารำคาญ อยากอยู่เงียบ ๆ และมีคนรับใช้ส่วนตัวก็พอ แต่ตอนนี้กลับพบว่าตัวเองอยากพูดคุย
เรื่องง่าย ๆ ธรรมดากับใครสักคนที่จะพูดจาตอบโต้กันได้อย่างปกติ และพูดคุยกันได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องมีเหตุผลอะไรมาขัดจังหวะการสนทนา

"ก็กินจนเหลือชุดสุดท้ายแล้วนี่ อ่ะ อีกคำ จะหมดแล้ว พรุ่งนี้ก็กินข้าวสวยได้แล้วแหละ แล้วก็หายได้แล้วมั้ง รู้สึกว่าจะหายป่วยนานแล้วนี่ แต่มารยาเยอะเหลือเกิน รีบ ๆ หายป่วยได้แล้ว"

อ้อนพูดคุยกับทานตะวันไปเรื่อยเปื่อย แต่คนที่ได้ฟังก็รีบเถียงทันที

"อะไร ยังไงก็ยังต้องกินยาอยู่ จะเรียกว่าหายได้ยังไง เนี่ย ตัวยังร้อนอยู่เลยไม่เชื่อจับสิ ตัวร้อน ไอด้วย แค่ก แค่ก นี่ไง ปวดหัวอีกต่างหาก ไม่เชื่อหรือไง"

เออ เชื่อตายเลย

อ้อนวางชามข้าวต้มไว้บนหัวเตียง แต่ทานตะวันที่ยังสาละวนกับการดึงมือของอ้อนมาแตะที่หน้าผาก ก็ยังคงจะพยายามป่วยไม่เลิก

"เนี่ย แตะที่หัวสิ ยังร้อน ๆ อยู่เลย เห็นมั้ย"

เห็นแล้ว เห็นว่าไม่ได้ตัวร้อนเลย พอใจมั้ย หรือว่ายังไม่พอใจ จะได้พาไปหาหมอเดี๋ยวนี้เลย ว่าเป็นอะไรกันแน่

"เออ รู้แล้ว อ่ะ กินยาเถอะ จะได้หายซะที" อ้อนพูดไปแล้ว ก็อมยิ้ม เมื่อเห็นคนที่รับยามาไว้ในมือนั่งมองเม็ดยานิ่งๆ อยู่อย่างนั้น
กินก็กินไม่กินก็ตามใจ ไม่รู้จะบังคับไปทำไม เหนื่อย

ทานตะวันนั่งเงียบ มืออีกข้างยังจับมือของอ้อนเอาไว้แน่น แล้วก็เขย่าเล่น

"อีกเดี๋ยวค่อยกินก็ได้ เนอะ " เอาเถอะ จะกินตอนไหนก็กินตามใจแล้วกัน ขี้เกียจพูดมาก เข้าใจว่าต้องทำใจ คนไม่ชอบยังไงก็ไม่ชอบอยู่ดี จะเอาอะไรมากมาย

ฝ่ามือของอ้อน ถูกปลายนิ้วเรียวของทานตะวันเกลี่ยเล่น คนตัวโตกำเม็ดยาไว้ในมือ แล้วก็เขย่ามือของอ้อน เหมือนไม่รู้ว่าจะทำอะไร

แน่ล่ะ การจะกินของที่ไม่ชอบ ยังไงก็ทำใจให้ชอบไม่ได้อยู่ดี ยังไงก็ไม่อยากกิน

นัยน์ตาคมจ้องมองเม็ดยาในมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า และนั่งเงียบ ๆ โดยมีคนดูแลคนป่วย นั่งมอง รอเวลาว่าเมื่อไหร่ทานตะวันจะกินยา ลีลามากเหลือเกิน ชุดสุดท้ายแล้ว ทำไมต้องเรื่องมากด้วย

"ถ้าหายแล้ว .............." ทานตะวันเอ่ยคำพูดออกมาและชะงักนิ่ง นัยน์ตาคมหรุบต่ำลง นิ่งเงียบลงทันทีทั้งที่ยังพูดไม่จบประโยค

ถ้าหายแล้ว...........
ถ้าหายแล้ว..........
ถ้าหายแล้ว...........

ก็คงกลับไปเหมือนเดิมสินะ ไปเป็นคนเดิม ๆ ก่อนหน้านี้ ไอ้อ้อนมันจะกลับไปเป็นไอ้อ้อนคนเดิมที่เงียบ ๆ เฉย ๆ ไม่พูดไม่จา ไม่ห่วงใย เหมือนเมื่อก่อนหรือเปล่านะ

อ้อนนิ่งมองใบหน้าของทานตะวันที่ก้มต่ำลง ไม่เข้าใจว่าอยู่ดี ๆ คน ๆ นี้ก็เกิดเป็นอะไรขึ้นมาอีก
ถ้าหายแล้วทำไมล่ะ หายแล้ว ก็เป็นเหมือนเดิม เป็นเจ้านายกับคนใช้เหมือนเดิมไง ไอ้ทานมันคงไม่อยากป่วยนาน ๆ หรอก
เห็นวันแรก ล็อคประตูไม่ให้เข้า แถมซ้ำยังไล่ออกห่างขนาดนั้น หายแล้วก็ดี มันก็คงกลับไปเหมือนเดิมแหละ แล้วไอ้ที่ทำมันไว้ มันคงจะเอาคืนทั้งต้นทั้งดอก
ก็ช่วยไม่ได้ เป็นคนใช้มัน แล้วก็เป็นลูกหนี้มัน จะไปทำอะไรได้ล่ะ


คนที่นั่งอยู่บนเตียงและก้มมองเม็ดยาไม่ได้พูดอะไรอีก แต่กลับจ้องมองที่ฝ่ามือของอ้อน แถมยังเขย่าเล่นไปมาอยู่อย่างนั้น

มืออุ่น ๆ ที่เช็ดตัวให้ตลอดทั้งคืน มืออุ่น ๆ ที่แตะที่หน้าผาก

มือของไอ้อ้อน ขาเป๋ ที่ชอบทำหน้าเย็นชา แล้วก็ชอบทำให้หงุดหงิดโมโหอยู่เสมอ
ทำไมนะ
ทำไมถึงไม่อยากปล่อยมือของคน ๆนี้ให้หลุดลอยไปเหมือนใคร ๆ

ทำไม

แล้วมันเป็นเพราะอะไรกัน

"ถ้าหายแล้ว ตอนที่กูไม่สบายเนี่ย ก็ถือซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน มึงไม่เห็นตอนที่กูตัวร้อน มึงไม่รู้ตอนที่กูปวดหัว เข้าใจมั้ย"

ทานตะวันเงยหน้าขึ้น และเอ่ยบอกกับคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เสียงเบา

อย่างนั้นเองหรอกเหรอ จะพูดแค่นี้ใช่มั้ย ถึงไม่พูดก็จะทำให้อยู่แล้วล่ะ
แล้วจะลืมให้หมด ว่ากังวลแค่ไหนตอนที่มันเพ้อ และนอนกระสับกระส่าย จนต้องจับมือมันเอาไว้แน่น ไม่กล้าปล่อยมือ ไม่กล้าไปไหน
ได้แต่เอามือแตะหน้าผากมัน เพราะกลัวว่ามันจะตัวร้อนมากกว่านี้
จะลืมด้วยว่า กลุ้มใจแทบตาย ที่เห็นว่าไข้ไม่ยอมลด

จะไม่จำ ว่าห่วง จนไม่กล้าเผลอหลับ เพราะกลัวว่าไอ้ทานมันจะไข้ขึ้นสูง และกลัวว่ามันจะเป็นอะไรมากกว่าที่เห็น

ก็ได้ ถ้าให้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ได้ ไม่ลืมหรอกว่าตัวเองเป็นคนใช้
ทำให้ได้ทุกอย่างแหละถ้าไอ้ทานมันจะให้ทำ

อ้อนน้อยใจกับคำพูดไร้เยื่อใยของทานตะวัน แต่ก็ทำได้แค่นิ่งเงียบ และก้มหน้านิ่ง ๆ พยักหน้าทำความเข้าใจสิ่งที่คนตัวโตต้องการ

มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เรื่องบุญคุณมันไม่มีอยู่แล้วล่ะ มันไม่อาละวาดที่ไปกรอกยามันก็บุญแค่ไหนแล้ว
อ้อนเงยหน้าขึ้นและนิ่งมองทานตะวันอยู่อย่างนั้น ดวงตากลมโตสบนิ่งอยู่กับดวงตาคมที่จ้องกลับมา แล้วต่างฝ่ายต่างรีบก้มหน้าหลบสายตาของกันและกัน


ทานตะวันปล่อยมืออ้อน และอ้อนก็ลุกขึ้นจัดการยกชามข้าวต้มเดินออกจากห้อง โดยมีสายตาของทานตะวันมองตามจนร่างนั้นเดินออกไปลับตา

คนตัวโตหันมามองเม็ดยาในมืออีกครั้ง

ทำไมถึงได้พูดอย่างนั้น
ทำไมล่ะ

ก็เพราะไม่อยากให้ใครมารับรู้เวลาที่ไม่สบายไง ไม่อยากให้ใครรับรู้เวลาที่เจ็บป่วย ไม่อยากให้ใครมาเห็นเวลาที่ตัวเองดูทุเรศ และน่าสมเพชที่สุด

แต่ไอ้เป๋นั่น ก็ได้เห็นหมดแล้ว

ไม่เห็นหรอก มันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น สั่งมันแล้วมันก็ต้องเข้าใจสิวะ

แล้วทำไมต้องพูดเหมือนไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ทั้งที่ตอนนี้อยากจะป่วยต่อไปอีกนาน ๆ เพื่อให้คนดูแล

บ้า ใครอยากให้ไอ้เป๋นั่นมาป้อนข้าวป้อนน้ำให้ ไม่ได้อยากให้ใครมาทำอะไรให้หรอก อีกอย่างนั่นมันก็นอกเหนือคำสั่งด้วย
มันคงจำใจทำให้นั่นแหละ อย่าไปคิดอะไรมาก

ร่างสูงใหญ่เอนกายลงนอน และยังคงกำเม็ดยาเอาไว้ในมือแน่น

ทำไมถึงได้มีความคิดพวกนี้เข้ามาในสมอง ทั้งที่เมื่อก่อนก็ไม่เคยอยากได้การดูแลเอาใจใส่จากใครอยู่แล้วแต่กับไอ้อ้อนทำไมถึงอยากให้มันคอยทำอะไรห้

อยากให้มันดูแลด้วยความเต็มใจไม่ใช่ทำให้ตามคำสั่ง

คนตัวโตลุกขึ้นอีกครั้ง และแอบยัดเม็ดยาไว้ใต้หมอน ไม่ยอมกินยาชุดสุดท้าย ตอนนี้เพิ่งรู้ว่าไม่ใช่เพราะยาขมจนไม่อยากกิน
แต่เป็นเพราะว่า ไม่ว่ายังไง แต่ไหนแต่ไร ก็เอาแต่หลอกตัวเองว่า ถ้าไม่กินยา แล้วจะทำให้ป่วยไปนาน ๆ ยิ่งป่วยนานเท่าไหร่ ก็จะมีคนมาโอ๋และเอาใจมากเท่านั้น มีแต่คนเป็นห่วงเป็นใย
อันที่จริง ยาไม่ได้ขมเลย จะให้กินก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ตอนนี้ทานตะวันเพิ่งรู้ ว่าทำไมตัวเองถึงได้เกลียดการกินยานักหนา

มันเป็นเพราะว่า

อยากเป็นคนป่วยนาน ๆ เพื่อจะได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคนรอบข้าง
และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้ง ที่คนตัวโตทำเหมือนสมัยเด็ก ๆ อีกครั้ง

เหตุผลเพราะอยากให้ คนที่คอยดูแลเอาใจตลอดสองสามวันนี้ อยู่ข้าง ๆ และอยากให้คน ๆ นั้นเป็นห่วงและดูแลด้วยใจจริง

สิ่งที่ทานตะวันอยากได้จากอ้อน ไม่ใช่การทำตามคำสั่ง

แต่เป็นแค่การอยากได้รับการเอาใจใส่จากใครสักคนเท่านั้น เพียงแค่นั้นที่ทานตะวันอยากได้ เพียงแค่ความเอาใจใส่ แค่นั้นเอง แต่กลับลืมคิดว่าไม่ใช่ตัวเองที่มีหัวใจและความรู้สึก

คนที่เดินออกไปจากห้อง ก็มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนกัน จึงไม่น่าแปลกใจเลย ถ้าอ้อนจะเสียใจกับคำพูดของทานตะวัน

TBC....
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 23-05-2007 17:13:28
คนที่ถูกทอดทิ้ง ไว้ตามลำพัง พอมีใครที่เขามาในชีวิต

ก็มักจะยึดเขาเอาไว้ ไม่อยากเสียเขาไป

กลัวว่าจะโดนทิ้งให้อยู่คนเดียวอีก

อ้อนอย่าทิ้งทานไปนะ

  :o7:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 23-05-2007 18:59:20
ยิ่งอ่านยิ่งเครียด เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย  :try2: ตามอารมณ์ไม่ทันเลยวุ้ย  :o12:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 23-05-2007 20:20:51
เราก็นึกว่าหลังจากทานหายแล้ว ก็จะมีดอกรักผลิบาน

แต่ที่ไหนได้กลับเข้าสู่โหมดเดิม เฮ้อ.....................................เซ็ง
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 23-05-2007 21:09:37
สงสารออ้นอะ  :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: mumumama ที่ 23-05-2007 21:30:55
 :o10:  คิดว่า ทาน ต้องไปง้อ อ้อน อีกแน่นอนเล้ย   o16
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 23-05-2007 22:51:40
ก็เด็กขาดความอบอุ่นคนหนึ่ง  ซึ่งมีอยู่มากมายหาได้ทั่วไปในโลกนี้และมีแนวโน้มว่าจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยในเมื่อทุกวันนี้....ช่างมันเถอะขี้เกียจพูด

มีคนเคยบอกเจ้ว่า....การอยากถูกรัก....เป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในวัยเจริญพันธุ์   จริงเหรอ?
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 23-05-2007 22:53:05
กลับมาเหมือนเดิมอีกแล้วอ่ะ  :onion_asleep:

ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 24-05-2007 00:03:57
   

    .............ถ้าเราอยากได้ความรักจากใคร....เราต้องเรียนรู้ที่จะมอบความรักให้กับเค๊าก่อน......


         ..........เช่นกัน....ถ้าเราอยากรู้ความในใจจากใคร.....เราต้องมีความกล้า....กล้าที่จะเปิดใจกับเค๊าก่อน.....
                                                         
                                                                  :teach:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 24-05-2007 00:18:23
 o12 o12  ขัดใจอย่างแรง  ทำไมทานไม่รู้จักเรียบเรียงความคิดก่อนพูดนะครับ  :angry2: :angry2:  ทำอย่างนี้อ้อนก็น้อยใจแย่เลย :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 24-05-2007 09:16:31


ทำไมนะ
ทำไมถึงไม่อยากปล่อยมือของคน ๆนี้ให้หลุดลอยไปเหมือนใคร ๆ

ทำไม

แล้วมันเป็นเพราะอะไรกัน


ชอบตรงนี้มากเยยอะครับ

คิดไงก็ไม่เห็นภาพสักที  มันคงจาดีมากเลยนะครับเนี่ย

ถ้าได้รู้สึกอย่างนี้บ้าง

ได้รู้สึกว่า  ไม่อยากปล่อยมือของใครบางคนไป

ได้รู้สึกว่าไม่อยากจากใครบางคนไป

มันคงจะต้องเป็นความผูกพันธ์ที่แนบแน่นจริงๆ ละมั้ง

ก็คงเหมือนกับทาน  และอ้อนในตอนนี้


หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 24-05-2007 09:40:59
10 เมนท์แล้ว กรุณามาลงด่วนเลยครับ

ขอบพระคุณ

 o14
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 24-05-2007 19:10:52
 :impress: :impress: :impress:

 o1 o1
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 24-05-2007 19:12:07
ปูเสื่อรออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 24-05-2007 21:45:53
กรรม เราไปมีเจ้าหนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ มาตรงเวลาด้วยวุ้ย
 :sad3: :sad3: :sad3:
***************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เพิ่งเข้าใจ

"คุณกนกพัฒน์ คุณยังเป็นลูกของฉันอยู่หรือเปล่า" เสียงของแม่ คำถามที่ทำให้อ้อนกลั้นเสียงสะอื้นไว้ในลำคอ

ผมขอโทษครับแม่ ผมขอโทษ ที่ไม่เคยกลับไปดูแลแม่เลย ผมขอโทษที่ไม่ยอมติดต่อกับแม่ ผมขอโทษที่ไม่ยอมกลับไปหา
ไม่ยอมกลับไปเจอแม่หลายวัน

อ้อนนิ่งเงียบ ไม่ตอบคำถามของแม่ และค่อย ๆ กดวางโทรศัพท์อย่างช้า ๆ

ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงทำกับแม่แบบนี้ ทำไมไม่พูดกับแม่ แต่ถ้าให้เลือกได้ ถ้าผมไม่เกิดเป็นลูกของแม่คงดีกว่านี้
แม่คงไม่ต้องลำบากใจ ไม่ต้องใช้หนี้แทนผม แม่ต้องเป็นทุกข์เพราะผม แค่นี้มันก็มากเกินพอแล้ว

อ้อนค่อย ๆ ทิ้งกายลงนั่งบนพื้นในห้องครัวอย่างช้า ๆ หลังจากจัดการล้างแก้วน้ำ ล้างชามจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว

แม่โทรมาทุกวัน วันละหลาย ๆ รอบ เพียงแค่อยากจะถามว่า "เมื่อไหร่ลูกจะกลับบ้าน ทำไมทำรายงานนานเหลือเกิน แม่คิดถึง"

แต่ก็เหมือนเดิม คำตอบของอ้อนยังเหมือนเดิม คือนิ่งเงียบ และบอกว่ารำคาญ เดี๋ยวก็กลับไปหาเอง

รู้ทั้งรู้ว่าคำพูดนั้นจะทำให้แม่เสียใจ แต่ก็ยังทำ ยังคงทำแบบนั้น ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พูดอย่างนี้ทุกครั้ง
พูดทั้ง ๆ ที่ปวดใจ เมื่อก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้ เมื่อก่อนเราสองคนแม่ลูกมีความสุขมากกว่านี้ พูดคุยกันได้อย่างมีความสุข

ผิดที่ผมเอง ผิดที่ผมดีแต่ทำให้เกิดปัญหา ผมขอโทษครับแม่ ผมขอโทษ ผมคิดถึงแม่ ผมจะกลับบ้าน....อีกสองสามวันนี้นะครับ

อ้อนนั่งมองโทรศัพท์เงียบ ๆ แล้วก็เอนศีรษะพิงอยู่กับผนัง

เหนื่อย อยากร้องไห้ อยากอยู่เงียบ ๆ เฉย ๆ ไม่อยากคิดอะไรอีก เรื่องเล็กน้อยที่กัดเซาะจิตใจมาตลอดสองปี
นับตั้งแต่รู้ว่าตัวเองจะวิ่งไม่ได้อีก นับตั้งแต่ที่รู้ว่าแม่ต้องมีภาระจากการหาเงินมาใช้หนี้ค่าซ่อมรถ
ไหนจะต้องเลี้ยงลูกที่เหมือนคนเป็นง่อย และยังภาระต่าง ๆ อีกมากมาย

ทั้งที่เป็นลูกชายแท้ ๆ กลับได้แต่แบมือขอเงินไปวัน ๆ แล้วแบบนี้จะไม่ให้สมเพชตัวเองได้ยังไง

ตอนนี้น้ำตารินไหลอยู่ในอก ร้องไห้ กับตัวเองเงียบ ๆ ร้องไห้โดยที่ไม่มีน้ำตาสักหยด

"เฮ่อ ทำไมมันถึงได้เป็นแบบนี้ตลอดเลยวะ ทำไมไม่ตายห่าไปตั้งแต่ตอนรถคว่ำก็ไม่รู้ ไอ้ขาเฮงซวยนี่ก็ จะเป็นแบบนี้อีกนานมั้ยวะ"

อ้อนมองขาของตัวเองที่ไม่สามารถวิ่งได้อีก และไม่สามารถงอเข่าได้เหมือนคนปกติ มองแล้วก็ยิ่งสมเพชตัวเอง ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่นิ่งมองอยู่อย่างนั้น
ก่อนจะค่อย ๆ พยุงร่างกายขึ้นอย่างช้า ๆ และเดินลากขาขึ้นไปบนห้องนอน

ดึกมากแล้ว อยากพักผ่อน หลายวันมานี้เหนื่อยเหลือเกินจากการที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอนมา ดูเหมือนอาการอ่อนเพลียทั้งทางกายและทางจิตใจจะเพิ่มขึ้นมากกว่าทุกวัน

ไหนจะเรื่องไอ้ทาน
ไหนจะเรื่องที่บ้าน
ไม่ว่าเรื่องไหน ๆ ก็ทำให้เป็นทุกข์ได้ทั้งนั้น

"หายไปไหนมาตั้งนาน ง่วงนอนแล้ว ทำไมถึงมาช้า"

ทานตะวันลุกขึ้นจากเตียงและก้าวเดินเข้ามากอดเอวของอ้อนไว้แน่นจากด้านหลังแถมยังซบหน้าลงบนลาดไหล่บางของคนที่กำลังหันหลังไปปิดประตูห้อง
เพราะถูกกอดรัด ทำให้อ้อนไม่ทันได้ตั้งตัว รีบหันกลับมาหวังจะผลักให้อีกฝ่ายออกห่างทันทีด้วยความตกใจ

"เฮ้ย อะไรวะ อะไรของมึงอีกเนี่ย" ฝ่ามือยันแผ่นอกกว้างของคนที่นอนป่วยมาหลายวันให้ออกห่าง แต่ทานตะวันกลับใช้สองแขนกอดรัดร่างของอ้อนเอาไว้แน่น

ลืมตัวไปชั่วขณะไม่รู้ว่าอยู่ดี ๆ ทำไมถึงได้เดินมากอดอ้อนเอาไว้แบบนี้

"ไม่มีอะไร ไม่รู้จักเหรอ กอดไง ถามมาได้ ไม่น่าโง่" ทานตะวันเพิ่งรู้สึกตัว รีบปล่อยร่างในอ้อมแขนให้เป็นอิสระ และยังคงไม่เข้าใจตัวเอง ได้แต่ยืนเกาหัวแกรก ๆ
ไม่รู้จะตอบคำถามของอ้อนยังไง

"ทำอะไรบ้า ๆ ไข้กลับหรือไงวะ" เสียงบ่นงึมงำ ทำให้ทานตะวันเงยหน้ามองใบหน้าของคนที่เดินไปนั่งบนโซฟา และยังคงหันไปมองหน้าของคนตัวโตที่ค่อย ๆ ก้าวมานั่งลงบนเตียง
ทานตะวันยังคงครุ่นคิดถึงคำตอบของตัวเอง ที่ตอบออกไป

 


ทำไมวะ

เออ ทำไมอยู่ดี ๆ เดินไปกอดไอ้อ้อนมันอย่างนั้นวะ แปลก เป็นอะไรของกูวะเนี่ย

"จะกลับไปบ้านแล้ว หายดีแล้วนี่ ถึงเป็นคนใช้ก็อยากกลับบ้านบ้าง ได้หรือเปล่า" คำถามของอ้อนทำให้ทานตะวันถึงกับหน้าซีด

กลับบ้านอีกแล้วเหรอ จะบ้าหรือไงวะ อยู่ด้วยกันตั้งหลายวันแบบนี้ อยู่ดี ๆ จะให้กลับไปนอนคนเดียวในบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้เหรอ ไม่เอานะ นอนคนเดียวมันแปลก
อยู่ด้วยกันทุกวัน แต่มาบอกว่าจะไม่อยู่ด้วยแบบนี้แล้วจะให้ทำยังไงวะ

"ได้มั้ย เป็นคำขอร้อง ได้หรือเปล่า" อ้อนถามย้ำอีกครั้ง ใบหน้าเครียดขรึม จนคนฟังถึงกับต้องก้มหน้านิ่ง ๆ และลุกขึ้นเดินไปนั่งข้าง ๆ อ้อนบนโซฟา

มาทำไมวะ เดินไปเดินมาอยู่นั่น กะอีแค่จะกลับไปอยู่บ้านเหมือนปกติ เหมือนเมื่อก่อน ไหนตอนแรกไอ้ทานมันไม่ค่อยชอบให้มานอนที่นี่ไง แล้วนี่เกิดเป็นอะไรขึ้นมาอีก
ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนี้ จะทำอะไรอีกล่ะ

"ทำไมต้องกลับด้วย" คำถามง่าย ๆ ทำให้อ้อนหันกลับไปมองหน้าของทานตะวันและยิ่งไม่เข้าใจคำถามของคนบ้ามากขึ้น

ก็ไม่ทำไม ก็จะกลับ จะทำไม อย่าบอกนะว่าจะมาพูดข่มขู่กันอีก ไม่ไหวแล้วนะถ้าจะทำแบบนั้นอีก มหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ไปหลายวันเพราะต้องอยู่ดูแลไอ้ทาน
แล้วนี่อย่าบอกนะว่าแม้แต่บ้านก็จะไม่ให้กลับ จะให้ตัวติดกันตลอดเวลาเลยหรือไง

"แล้วทำไมถึงไม่ให้กลับ ก็กลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนไง หายแล้ว กูก็กลับบ้านกู มึงก็อยู่บ้านมึง แค่วันหยุดเท่านั้นไม่ใช่เหรอที่กูต้องมาช่วยมึงทำนั่นทำนี่ แค่ถูหลังทำวันเสาร์อาทิตย์เหมือนปกติ
แล้วเรื่องอื่น ๆ ก็ทำตามปกติไม่ใช่หรือไง แล้วก็.....ให้ลืมเรื่องที่มึงไม่สบายให้หมดด้วย ก็นี่ไง ทำให้อยู่นี่ไง"

แล้วทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย ไม่เห็นจำเป็นขนาดนี้เลย

"ปวดหัวอีกแล้วนะ ตัวร้อนด้วย" ทานตะวันรีบดึงมือของอ้อนให้มาแตะที่หน้าผาก และทำหน้าเศร้า หวังเรียกร้องความเห็นใจอีกครั้ง แต่อ้อนขมวดคิ้วมุ่นไม่เข้าใจท่าทางของคนตัวโต

ไอ้ทานมันทำอะไรของมันวะ หายแล้วชัด ๆ ยังจะมาทำเป็นไม่สบายอีกทำไม

"แล้วยังไง สรุปว่าที่บอกว่าไม่ต้องมายุ่งตั้งแต่แรกนี่มันยังไงกันแน่ไอ้ทาน ตกลงมึงจะเอายังไงของมึงกันแน่
เดี๋ยวมึงก็หาว่ากูยุ่งกับมึง ไล่ให้ไปไกล ๆ เดี๋ยวก็จะให้อยู่ด้วย ตกลงจะเอายังไง กูเหนื่อยแล้วนะ ถ้ามีเงินล่ะก็กูคงไม่ต้องมาเป็นหนี้มึง
แล้วก็ไม่ต้องมาคอยรับใช้มึงแบบนี้ ไม่ต้องมานั่งเครียดเรื่องนั้นเรื่องนี้จนแทบจะบ้า ไม่ต้องกังวลไม่ต้องกลัวอะไรเลย
ทำไมล่ะทาน ตกลงกูจะต้องทำตามใจมึงอีกนานแค่ไหน กูอยากตาย ๆ ไปให้พ้น ๆ มึงจะเอาอะไรกับกูนักหนาวะ แม่งเอ้ย"

ไม่เคยเป็นแบบนี้ อ้อนไม่เคยเครียดขนาดนี้ แต่หลายอย่างที่สะสมมากขึ้น และถูกกักเก็บไว้ในใจ อยู่ ๆ กลับถูกเปิดออกมา
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนนี้ อ้อนมาพูดแบบนี้ คงได้ลงไปกองกับพื้นตั้งแต่พูดได้ไม่ถึงประโยค และในอีกไม่กี่นาทีถัดมา ทานตะวันคงกดโทรศัพท์โทรหาแม่ของอ้อนและบอกทุกสิ่งทุกอย่าง
แบบไม่สนใจความรู้สึก ว่าอีกฝ่ายจะเป็นยังไง แต่วันนี้ สิ่งที่ควรจะเป็นเหมือนวันก่อน กลับเปลี่ยนไป

คนตัวโตได้แน่นั่งฟังคำพูดของอ้อนเงียบ ๆ ในใจไหวเอน และเอาแต่ก้มหน้านิ่ง ไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงกับความรู้สึกน้อยใจ
ที่พุ่งสูงขึ้นเพราะคำพูดของอ้อนได้ยังไง

"เอาเลยก็ได้ ไม่ได้เป็นอะไรแล้วนี่ จะเตะจะต่อย จะทำอะไรก็เชิญเลย เหนื่อยแล้ว มึงอยากจะทำอะไรกูก็เอาเลยเถอะ
ยังไงซะ มึงก็ไม่เคยสนใจความรู้สึกของใครอยู่แล้ว กูเหนื่อยไอ้ทาน กูเหนื่อย มึงเข้าใจมั้ย กูเหนื่อย มึงเข้าใจบ้างมั้ย ว่ากูเหนื่อย"

อ้อนยังคงพูดสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจมานาน พูดออกไปเรื่อย ๆ พูดมากขึ้น มากขึ้น และสุดท้ายก็หยุดนิ่งเงียบ เอนแผ่นหลังลงพิงกับพนักโซฟา และหลับตานิ่ง ๆ

ใช้ท่อนแขนพาดไว้ที่หน้าผาก ขบริมฝีปากแน่น เหมือนร่างกายกำลังสั่นสะท้านและควบคุมความรู้สึกไม่ได้ ฝ่ามือกำแน่น ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากสนใจเรื่องรอบตัว
อยากจะมีสวิตไฟในตัว ที่สามารถเปิดปิด ไม่ต้องรับความรู้สึกอะไรอีก

เหนื่อยแล้ว
เหนื่อยเหลือเกิน

เหนื่อยทั้งใจเหนื่อยทั้งกาย

จนเกินขีดความสามารถที่ตัวเองจะรับได้อีก

ความรู้สึกอึดอัดกดดัน ถูกส่งผ่านไปถึงทานตะวัน ที่ได้แต่นั่งมองภาพใบหน้า และท่าทางที่อ่อนล้าของคนที่ยังใช้ท่อนแขนปิดบังใบหน้าของตัวเอง

เกิดมาไม่เคยคิดว่าจะต้องมานั่งปลอบใจใคร ก็ได้ทำ
ไม่เคยเข้าใจใคร ก็ต้องพยายามเข้าใจในวันนี้

ฝ่ามือของทานตะวันเอื้อมคว้ามือที่ยังกำแน่นของอ้อน มาลูบไล้อย่างช้า ๆ และกุมเอา
ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง คนที่กำลังเครียดถึงจะรู้สึกดีขึ้นบ้าง ไม่รู้ต้องทำยังไง ถึงจะทำให้อาการแบบนี้ของอ้อนหายไป

มือที่ยังกำแน่นเตรียมสะบัดหนีอย่างที่คิด แต่ทานตะวันก็ยังคงไม่ยอมปล่อย ยังรั้งเอาไว้ และสอดปลายนิ้วเข้าหาที่ข้อนิ้วแต่ละข้อของอ้อน
และรั้งร่างของคนที่ยังหลับตาพิงศีรษะอยู่บนพนักโซฟา ให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขน

อ้อนปรือตาขึ้นอย่างช้า ๆ และจ้องมองใบหน้าของทานตะวันเหมือนไม่เข้าใจกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของคนตรงหน้า ไม่ว่าจะหนี ไม่ว่าจะใช้แขนยันแผ่นอกกว้างให้ห่างกาย
แต่สุดท้าย เพราะสายตาดุ ๆ ที่จ้องมองมา ทำให้อ้อน ยอมให้ทานตะวันดึงเข้าไปกอด และยอมซบหน้าลงกับแผ่นอกกว้างของคนที่ไม่เอะอะโวยวายเหมือนทุกวัน

หัวคิ้วที่ขมวดมุ่นค่อยคลายลงแล้ว และนิ่งเงียบอยู่ภายในอ้อนแขนที่ให้ที่พักพิง

ดวงตากลมโตหรี่ปรือลงอย่างช้า ๆ



เอาเถอะ ไม่รู้ไอ้ทานมันจะเป็นคนดีไปได้นานแค่ไหน ไม่ใช่ว่าจะมันจะดีด้วยอย่างนี้ตลอดหรอก แค่วันนี้มันไม่ออกฤทธิ์ออกเดชก็นับว่าโชคดีแล้ว
เพราะฉะนั้นในเมื่อมันหยิบยื่น ความอบอุ่นมาให้แค่ชั่ววินาที ก็ต้องรีบคว้าเอาไว้ ขออยู่เงียบ ๆ อย่างนี้สักวันเถอะ ขืนต้องทะเลาะกันอีกคงได้แย่ไปกว่านี้แน่ ๆ

"ไปสิ อยากกลับบ้านก็ได้ ไม่ได้เจอแม่มาหลายวันแล้วนี่ ป่านนี้แม่คงเป็นห่วงแย่แล้วเนอะ เห็นโทรมาหาทุกวันเลยแล้วบอกแม่ไปบ้างหรือเปล่าว่าคิดถึง
เนี่ย แม่กูนะ ถ้าโทรมากูก็บอกไปว่าคิดถึงตลอดแหละ แต่แย่หน่อยที่พ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลา ถึงอยากโทรไปหา ถึงอยากคุยก็ทำไม่ได้หรอก
เขาไม่ว่าง แม่เขาก็มีลูกใหม่แล้ว พ่อเขาก็ทำแต่งาน เขาสัญญาว่าจะมาดูกูแข่งบอลนัดชิง แต่ไม่รู้ว่าเขาจะมาได้หรือเปล่านะ ต้องซ้อมหนัก ๆ ทุกวันเลย
ถ้าได้ถ้วยชนะเลิศ พ่อแม่เขาคงภูมิใจบ้าง พูดว่าคิดถึงแม่บ้างก็ได้นี่ แม่ของมึงเขาคงอยากฟัง แม่กูสิ ต่อให้บอกว่าคิดถึงแค่ไหน เขาก็ได้แต่บอกกลับมาว่า
แม่ก็คิดถึงทาน แต่เขาไม่เคยว่างเลยทุกครั้งที่โทรหาเขา ขนาดไม่สบายหนัก ๆ เขายังไม่กลับมาดูเลย เขาโทรตามหมอมารักษาที่บ้านแทน
แบบนี้น่าอิจฉามั้ย น่าอิจฉาพิลึกเลย ไม่ต้องไปโรงพยาบาลเอง ไม่ต้องมีใครจับกรอกยา ถ้าเป็นหนัก ๆ ฉีดยาเข็มสองเข็มก็หายเองแหละ ดีมั้ย ดีเนอะ ไม่ต้องกินยา ใช่มั้ย"

อ้อนเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าทานตะวัน ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างออกไป เมื่อไม่กี่นาทีก่อน กำลังรู้สึกโกรธ และหวังเพียงแค่ให้ทานตะวันทำดีให้บ้างแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ
แต่เวลานี้ ความทุกข์ใจของตัวเองเบาบางลงไปมากกว่าครึ่ง

มือที่กุมเอาไว้ยังคงให้ความอบอุ่นได้

แต่อ้อนกลับยกมือของทานตะวันขึ้นมาแนบไว้ที่อก

ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกสงสารจับใจ ไม่รู้ว่าทำไม ตัวเองถึงได้รับรู้เรื่องที่ไม่คิดว่าจะได้รู้

ทานตะวันเงียบเสียงลงแล้ว และยังคงกอดรัดร่างของคนในอ้อมแขนเอา

ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้กล้าเล่าเรื่องของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง แต่รู้สึกไว้วางใจและสนิทใจที่จะเล่า

"คราวหน้าถ้าไปบ้านมึงอีก กูจะซื้อของไปฝากแม่มึงบ้างนะ แม่ใจดี อย่างน้อยแม่มึงก็รอมึงกลับบ้าน ไม่เหมือนกู กลับบ้านมาก็อยู่คนเดียว
เหงาจะตาย ไม่ชอบเลย ไม่ชอบเลยว่ะ เวลาที่เหงา กลัว ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน"

ทานตะวันไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปบ้าง รู้แต่ว่าพูดออกไปตามความรู้สึกที่แท้จริงจากหัวใจ

และนั่นก็ทำให้อ้อนถึงกับต้องเป็นฝ่ายกุมมือของทานตะวันเอาไว้แน่น และนิ่งฟังคำพูดที่หลุดออกมาอย่างไม่ตั้งใจของทานตะวัน ที่ยังคงเล่าเรื่องที่อ้อนไม่รู้อีกมากมาย
ให้ได้รับรู้

ใบหน้าของอ้อนแหงนเงยขึ้นจ้องมองคนพูด ที่ยังพูดต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างออกไป

ทำไม....

ทั้ง ๆ ที่คิดว่า อิจฉาไอ้ทานยิ่งกว่าใคร ๆ

แต่ตอนนี้ไม่รู้สึกถึงสิ่งนั้นอีกเลย

ทานมันเป็นแค่ เด็กตัวเล็ก ๆ ในร่างของผู้ใหญ่ที่อยากได้ความรักความห่วงใยจากใครสักคน
เพราะอย่างนี้หรือเปล่ามันถึงได้เอาแต่ทำตัวงี่เง่า เพื่อเรียกร้องความสนใจจากใคร ๆ

ทาน

ถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก

กูคงจะพยายามทำความเข้าใจมึงให้มากกว่านี้ ที่เอาแต่เหม่อเวลาที่อาบน้ำ ที่เอาแต่เอะอะโวยวายเพราะมันเหงา มันไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ อย่างนั้นหรอกเหรอ

ทาน

กูขอโทษ ถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก กูคง.......กูคงเข้าใจมึงมากกว่านี้ และคงไม่มีอคติกับมึงมากมายถึงขนาดนี้

กูขอโทษ กูขอโทษจริง ๆ ที่เข้าใจมึงผิดไป

กูขอโทษ สัญญาเลย ต่อไปนี้ กูจะพยายามเข้าใจมึงให้มากกว่านี้ กูสัญญา

TBC....
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 24-05-2007 22:02:24
น่าสงสารน้ำตาจะใหล  :sad4:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 24-05-2007 22:57:48
เกินกว่าจะบรรยายความรู้สึกในตอนนี้ออกมาได้  o7 o7 o7

ฉากนี้นี่ สุดยอดค้าบบบบบ  o13 o13 o13


 o1 o1 o1
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 24-05-2007 23:07:50
อ่านแล้วก็พลอยรู้สึกเหงาไปด้วย :undecided:

ชีวิตนี้ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบ มีอย่างก็ขาดอีกอย่าง

นี่ละหนาธรรมดาของมนุษย์ สัตว์โลกผู้เกิดมามีกรรม :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 24-05-2007 23:09:41
มาร่วมด้วยช่วยเม้นต์ครับ...  
ทานนี่บทจะดีก็ดีใจหาย... บททานเขาจะงี่เง่าก็เอาการ.. เฮอๆๆๆ จาเอาแบบนี้ หาได้ที่ไหนอะเรย์...  :o11:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 24-05-2007 23:20:00
             

            .......เศร้าจัง..... :o12: ........แต่ก็เริ่มกล้าบอกความรู้สึกตัวเองออกมาแล้ว.....

                          ...............ขอเอาใจช่วยอีกแรง..... o7
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Felm ที่ 24-05-2007 23:34:49
 :freeze:
 :sad2:
 :dont2:


ไม่รู้จะพูดอะไร บอกได้แค่เนี้ย
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 25-05-2007 08:48:10
ทานเริ่มเปิดใจขึ้นมาแล้วดิ

อยากให้ทานเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อะ

อิอิ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 25-05-2007 11:25:12
โอ๊ะๆๆๆๆๆ เริ่มเข้าใจปัญหาในใจของแต่ละคนกันแล้ว

เดี่ยวก็จะมีฉากหวานแล้วละซี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 25-05-2007 15:47:23
 :sad4: :sad4:

ไม่ไหวอะ

สงสารทาน สงสารอ้อน

หวังว่าคนทั้งสอง จะเติมเต็มส่วนที่ขาดไปของกันและกันได้

 o7
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-05-2007 19:19:37
ตอนแรก ... ต่างก็อิจฉาในสิ่งที่อีกฝ่ายมี  :impress:
ตอนนี้ .... เริ่มจะเข้าใจและเห็นใจในสิ่งที่อีกฝ่ายขาด   :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 25-05-2007 20:07:49
 คนเหงามาเจอคนอ่านขี้เหงา คิกคิก
 o16
****************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน มาเล่นกันเถอะ

ทานตะวันไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดอะไรดี หลังจากขับรถมาเรื่อย ๆ ได้แต่นิ่งเงียบแล้วก็นิ่ง แล้วก็เงียบ นิ่ง ๆ เงียบ ๆ อยู่อย่างนั้นเป็นนาน
ในที่สุดหลังจากแอบลอบมองใบหน้าด้านข้างของคนที่นั่งมาบนรถด้วยหลายรอบ ก็ตัดสินใจพูดสิ่งที่คิดออกมา

"วันนี้ไม่กลับบ้าน กูจะนอนบ้านมึง"

อ้าว ไหงงั้นวะ

อ้อนที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ รีบหันกลับไปมองคนที่พูดคำพูดนี้ทันที
เป็นอะไร เกิดบ้าอะไรนอนที่ดี ๆ ไม่ชอบ ชอบไปนอนเตียงแคบ ๆ บ่นว่าอึดอัด แล้วก็ไล่กูมานอนพื้นอีกงั้นสิ
หายดีแล้ว ออกฤทธิ์ทันทีเลยนะมึงไอ้ทาน

อ้อนเพียงแค่หันไปมองหน้าด้านข้างของทานตะวันที่กำลังขมวดคิ้วมุ่น แล้วก็รีบหันกลับมาโดยเร็ว
คนอย่างไอ้ทานดีได้สองสามวัน มันก็กลับมานิสัยเดิมจะแก้หายได้ยังไง นี่คงคิดแล้วสินะ ว่าจะไล่ให้ไปนอนพื้น
ห้องส่วนตัวของกูแท้ ๆ มันก็ยังอุตส่าห์จะตามไปให้หนักใจเล่น นี่คิดอะไรไว้อีกล่ะ

เดี๋ยวกูจะซื้อของไปฝากแม่มึงนะ พูดจาน่ารัก แต่ทำตัว ........... เออ ช่างหัวแม่งเหอะ อย่างน้อยมันก็ยังบอกให้รู้ตัวว่ามันจะไปนอนที่บ้าน
ไม่เห็นจะมีข้อดีตรงไหน แต่ก็นั่นแหละ ก็ยังมีโอกาสเตรียมตัว แบบห้านาทีก่อนเข้าบ้านก็ยังดี

อ้อนนิ่งคิด แล้วก็ทำหน้าเซ็ง ได้แต่เงียบไปตลอดทาง ไม่ทันสังเกตท่าทีที่นิ่งเงียบไปของคนขับรถที่มีท่าทางกระสับกระส่ายอย่างเห็นได้ชัด

ทำไมวะ แค่บอกว่าจะไปค้างด้วย ทำไมมันทำท่าเหมือนไม่สนใจกันแบบนี้ล่ะ
จะตอบสักคำสองคำให้ชื่นใจว่า ...........ได้ หรือไม่ได้ ก็ไม่มี แต่นี่ไอ้อ้อนมันกลับไม่พูด แล้วนี่ตกลงอยากให้ไปมั้ยล่ะ หรือว่าไม่อยากให้ไป

"งั้นไม่ไปดีกว่า" คนตัวโตที่กำลังคิดกังวลกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เอ่ยบอกอีกครั้ง และรีบหันหน้าไปบอกคนที่ยังนิ่งเงียบ แล้วก็ไม่เห็นว่าท่าทางของอ้อนจะเปลี่ยนไปสักนิด
ยังคงนิ่งเฉยเหมือนเดิม คราวนี้ ทานตะวันเลยไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่กระสับกระส่ายไปตลอดทางระหว่างที่ขับรถ
ตามองถนนจริง แต่จิตใจมัวพะวงอยู่กับคนที่ทำท่าไม่ยินดียินร้ายอยู่ข้าง ๆ

ไม่สนใจที่พูดเลยนี่หว่า ทำไมล่ะ ไม่ให้ไปก็บอก หรือจะให้ไปก็บอก ไม่ใช่เอาแต่เงียบ แล้วแบบนี้ใครเขาจะไปรู้ว่าตัวเองคิดยังไง
ชักเริ่มหงุดหงิดอีกแล้วนะ

"เฮ้ย ตกลงมึงจะเอายังไง จะให้กูไปมั้ยเนี่ย ไม่เห็นพูดอะไรเลย แล้วจะรู้มั้ยว่าจะเอายังไงกันแน่"
ทานตะวันทำเสียงฮึดฮัดโมโห โดยที่ไม่รู้เลยว่า ท่าทางแบบนั้นของตัวเองทำให้อ้อนขมวดคิ้วและนิ่งเงียบยิ่งกว่าเดิม

อะไรของมันวะไอ้ทาน ก็แล้วจะรายงานกูทำไมเนี่ย อยากไปก็ไป ไม่อยากไปก็ไม่ไป ทุกทีอยากทำอะไรก็ไม่เคยเห็นต้องมารายงานเลย
แล้วนี่เกิดเป็นอะไรขึ้นมา อยากได้ความเห็นอะไรอีกล่ะ เพี้ยนไปแล้วหรือยังไง ไม่ให้กูพูด ให้กูฟังอย่างเดียว คำสั่งของมึงคือประกาศิต แล้วไงล่ะ จะมาบอกกูทำไม
ไปไม่ไป ก็ตัดสินใจเอาเองสิวะ

"ถึงห้าม ถ้าจะไป ก็ไปอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง มีใครห้ามได้ด้วยเหรอ" อ้อนตอบกลับไปแล้ว และยิ่งแปลกใจมากขึ้น เมื่อทานตะวันชะงักกับพูดนั้นของตัวเอง แล้วเจ้าตัวคนถาม
ก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ยอมพูดอะไรอีกเลย

อ้าว แล้วเป็นบ้าอะไรของมันอีก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวเงียบ เดี๋ยวก็พูดมาก แล้วไม่พอใจอะไรขึ้นมาอีกล่ะ ทำท่าแบบนี้ ก็เห็นไม่พอใจทุกที เดาอารมณ์ไม่ถูกจริงๆ พ่อเจ้าประคุณ

"ถึงแล้ว รีบ ๆ เข้าบ้านมึงไปเลยไป เห็นหน้าแล้วหงุดหงิด นี่ไงถึงบ้านแล้ว ไปสิ รีบ ๆ ลงไปเลย ไป๊"

ไล่

ทำไมแค่นี้ต้องไล่ด้วย

เป็นอะไรอีกล่ะ ไม่พอใจอะไรก็ไม่พูด ขับรถมาส่ง แล้วก็ไล่ เบื่อมากเลยสินะ ไม่อยากเห็นหน้ากันก็บอกกันตรง ๆ ก็ได้
ไม่เห็นต้องไล่กันเลย นึกว่าอยากอยู่ด้วยตายเลย

อ้อนแอบเหลือบสายตามองหน้าของคนที่รีบ ๆ ไล่ตัวเองลงจากรถ แล้วก็เลยรีบเปิดประตูรถ เดินกระโผลกกระเผลกเข้าบ้าน
ทั้งที่ไม่ได้พูดอะไรกับทานตะวันอีกเลย
ไม่เข้าใจว่าความหงุดหงิดลึก ๆ ในใจนี่มันอะไรกันแน่ ก่อนหน้านี้ แสนดีใจที่ทานตะวันไล่ให้ไปไกล ๆ เพราะนั่นหมายความว่าจะได้เป็นอิสระได้คิดอะไรเองสักพัก
แต่นี่...........พอถูกไล่ให้เข้าบ้านเร็ว ๆ เพราะทานตะวันบอกว่าไม่อยากเห็นหน้า กลับรู้สึกโมโหขึ้นมา และแอบน้อยใจเล็ก ๆ โดยไม่รู้ตัว

กุญแจประตูรั้วบ้านถูกไข และอ้อนก็เดินกระโผลกกระเผลกลากขาเดินเข้าบ้านไปแล้ว

ส่วนคนที่ขับรถมาส่ง ได้แต่มองตามจนร่างของอ้อนที่เดินเข้าสู่ตัวบ้าน แล้วก็ใช้ฝ่ามือที่กำแน่น กระแทกลงที่พวงมาลัยรถ ด้วยความโมโห

"โธ่โว้ย ไอ้อ้อน ไม่อยากให้อยู่ด้วยขนาดนั้นเลยหรือไง ทำเหมือนรังเกียจกันแบบนั้น เออไปเลย ไม่ได้อยากสนใจนักหรอก จะหันกลับมาขอบคุณที่ขับรถมาส่งสักคำก็ไม่มี
ที่ไม่ให้มันต้องโหนรถเมล์ด้วยความลำบากกลับบ้านเอง ขอบคุณสักคำมีมั้ย ไม่มีเลย ไม่มีเลยนะ ไอ้อ้อนนะไอ้อ้อน แม่งเอ้ย"

แค่ไม่ได้รับคำขอบคุณ กลับทำให้โมโหได้มากขนาดนี้ แต่จริง ๆ แล้วน่าจะเป็นความน้อยใจมากกว่า ที่อีกฝ่ายทำเหมือนไม่สนใจกันเลย
ทานตะวันออกรถ และขับออกจากบริเวณหน้าบ้านของอ้อนแล้ว โดยที่ไม่รู้ ว่าอ้อนแอบเปิดม่านลอบมองรถที่แล่นผ่านไปแล้วก็ถอนใจยาว

"รีบขนาดนั้นเลย ไม่อยากเห็นหน้ากันขนาดนั้นเลยไอ้บ้าทาน รีบ ๆ ไปเลยไป๊" คำพูดของทานตะวันกลายมาเป็นคำพูดของอ้อนที่ยืนบ่นงึมงำ ก่อนจะชะงักนิ่ง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแม่ของตัวเอง ที่รีบลงมาหาลูกชายทันทีที่ได้ยินเสียงรถมาจอดที่หน้าบ้าน
 


"ทานมาส่งเหรอลูก กินอะไรมาหรือยัง แม่ทำกับข้าวไว้เผื่ออ้อนด้วย หิวหรือเปล่าลูก"

แค่เห็นหน้าแม่ แค่ได้ยินประโยคทักทาย อ้อนอยากจะร้องไห้ และบอกว่าคิดถึงแม่ แค่ไม่เจอหน้าแม่ไม่กี่วัน ยังคิดถึงได้มากขนาดนี้
แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำยังไง

ไม่เอ่ยทักทายแม่แถมซ้ำยังรีบก้าวขาเดินขึ้นบ้านไปทันที

แม่ของอ้อนได้แต่มองตามลูกชายที่นิ่งเงียบ ไม่ยอมทักทาย และเดินหนีไปแล้ว
ลูกกลับมาให้เห็นหน้าบ้าง ได้รู้ว่าลูกสบายดี คนเป็นแม่ก็ดีใจ แม้ลูกชายที่เคยหัวเราะร่าเริงสดใส จะกลับกลายเป็นคนละคน ไม่ยอมพูดไม่ยอมจาอีกเลย
แต่ก็ยังรู้ว่าลูกอยู่ด้วย ยังเห็นว่าลูกสุขสบายดี แค่นี้ ก็พอใจแล้ว

"อ้อน....แล้วไม่หิวเหรอลูก ไม่กินข้าวหรือยังไง" แม่ตะโกนถามคนที่เดินขึ้นบ้านไปแล้ว และได้รับเสียงตะโกนตอบรับกลับมา

"เดี๋ยวลงไปกิน ขออาบน้ำก่อน"

ทุกครั้ง คำตอบที่ได้รับ คืออย่ามายุ่งกับผมได้มั้ย หรือไม่....ก็ได้รับแต่ความเงียบ ไม่มีเสียงตอบกลับ แต่ครั้งนี้ คำตอบที่ได้รับ ทำให้แม่ของอ้อนยิ้มออกมา

เดี๋ยวลงมากินงั้นเหรอ
แม่รีบเดินเข้าไปในครัวและรีบอุ่นกับข้าวที่เตรียมไว้ตั้งแต่บ่าย ด้วยรอยยิ้ม
แค่ลูกบอกว่าจะลงมากินข้าว แค่นี้แม่ก็ดีใจแล้ว แม่ของอ้อนรีบลงมืออุ่นกับข้าวอย่างขะมักเขม้นอยู่ในครัว
ขณะที่อ้อนกำลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ

"เดี๋ยวลงไปกินงั้นเหรอ..........." ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงกล้าพูด ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ แม้จะเอ่ยปากทักทายแม่เวลาที่กลับมาถึงบ้าน ยังไม่กล้าพูด แต่ทำไมวันนี้ถึงกล้าพูดออกมา

เรื่องส่วนตัวที่ทานตะวันเล่าให้ฟังถูกลำดับเข้ามาในสมอง แล้วก็บอกตัวเองว่าจะรวบรวมความกล้ากลับมาพูดคุยกับแม่ให้ได้อีกครั้ง
โดยที่ไม่ทันรู้ตัว วันนี้ก็พูดคำพูดที่ท่องมาเป็นสิบ ๆ รอบก็ได้พูดออกไปแล้ว รอยยิ้มสดใสปรากฎที่ใบหน้าของอ้อน และยิ่งอมยิ้มเล็ก ๆ เมื่อนึกถึงคนที่บอกให้พูดกับแม่

บ้า.....อย่างไอ้ทานเหรอจะเป็นแรงบันดาลใจให้ ไม่มีซะล่ะ ไม่ใช่เพราะมึงเล่าเรื่องตัวเองหรอกนะ กูถึงทำแบบนี้ แต่เป็นเพราะกูทำเพราะกูอยากทำต่างหากล่ะ
อ้อนเดินมานั่งลงบนเตียงภายในห้องของตัวเองที่ไม่ได้กลับมาหลายวัน เหลียวมองไปรอบ ๆ ห้อง และก็เห็นว่าไม่มีฝุ่นเลยสักนิด นี่แม่คงเข้ามาทำความสะอาดให้ตลอดเลยสินะ
เมื่อล้มตัวลงนอน และลองใช้จมูกสูดดมกลิ่นแดดบนที่นอน แล้วก็ได้แต่นอนอมยิ้ม แม่คงลากที่นอนไปตากให้ล่ะมั้ง ถึงได้อุ่นขนาดนี้

อ้อนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงของตัวเอง และหลับตาลงอย่างมีความสุข ก่อนจะรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
และเดินไปหยิบผ้าขนหนู รีบเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อค้นหาเสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงใส่นอนแบบสบาย ๆ มาโยนไว้บนเตียง และเดินผิวปากเข้าห้องน้ำไปอย่างมีความสุข
ไม่ได้กลับมาหลายวัน คิดถึงห้องของตัวเองจัง ไม่มีที่ไหนที่นอนหลับได้สบายเหมือนนอนที่บ้านของตัวเองอีกแล้ว
เฮ่อ ป่านนี้ไอ้ทานมันคงกลับบ้านแล้วมั้ง

กลับถึงบ้านแล้วเหรอ แล้วมันก็...........

อยู่คนเดียว.........

เวลาอยู่คนเดียวมัน....จะเหงาหรือเปล่านะ
บ้า....อย่างไอ้ทานปากมันก็คงบอกว่าเหงา แต่มันก็อยู่มาได้ตลอด จะมาเหงาอะไรกัน ออกไปกินไปเที่ยวกับเพื่อนมันก็ได้นี่
ทำไมมันจะต้องมานั่งจับเจ่าอยู่ที่บ้านคนเดียวด้วย ไม่มีทางหรอก อย่างมันเหรอจะปล่อยให้ตัวเองเหงา ปากมันก็พูด แต่มันรีบไล่ให้เข้าบ้านแบบนี้จะให้คิดยังไง

อ้อนรีบสะบัดหัวไล่ความคิดของตัวเอง และลงมือเปิดฝักบัวอาบน้ำ พยามยามไม่คิดถึงเรื่องของคนที่อุตส่าห์ขับรถมาส่งอีกเลย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 


"ทานมาน่ะลูก แม่ก็นึกว่าทะเลาะกันไม่เห็นทานเข้าบ้าน อ้อนมากินข้าวเร็ว แม่อุ่นกับข้าวไว้แล้ว" อ้อนชะงักเท้า รีบหันไปหาคนที่แม่พูดถึง แล้วก็ยังเกิดอาการงงไม่หาย
เมื่อเดินลงมาจากบนบ้านแล้วพบว่ามีแขกที่ได้รับเชิญจากแม่กำลังช่วยแม่ยกจานยกช้อน ออกมาวางบนโต๊ะอาหาร

ตอนที่อาบน้ำได้ยินเหมือนใครมากดกริ่งที่หน้าบ้าน แต่ไม่ได้สนใจ พออาบน้ำเสร็จ เดินลงมาก็ได้เจอกับคนที่พยายามไม่คิดถึง แต่ตอนนี้คน ๆ นั้นมายืนปั้นหน้ากึ่งบึ้งกึ่งยิ้มช่วยแม่จัดข้าวของอยู่ในครัว

มาไงล่ะมึง

ไหนไล่ให้กลับบ้าน แล้วยังไงถึงได้มาอยู่ในครัวบ้านกูได้ล่ะเนี่ย

"เปล่า ไม่ได้ทะเลาะกันครับแม่ พอดีทานลืมกล่องขนมไว้ที่ร้านทานเลยต้องรีบขับรถย้อนไปเอา เลยบอกให้อ้อนเข้าบ้านก่อนน่ะครับ"

ตอแหลได้โล่ห์ บอกตอนไหนว่าจะไปเอาขนมที่ลืมไว้ แล้วไปซื้อขนมตอนไหน ไม่เห็นรู้เรื่องเลย
อ้อนเงยหน้าขึ้นมองคนที่หันมาส่งยิ้มเก้อ ๆ ให้ แล้วก็แสยะยิ้มตอบกลับไปด้วยความหมั่นไส้

ทานอย่างนั้นทานอย่างนี้ ครับแม่ ครับผม ทีกับกูจิกหัวเรียกตลอด ช่างปรับตัวได้ดีจริง ๆ เลยนะมึงไอ้ทาน

"เดี๋ยวกินข้าวเสร็จค่อยกินขนม แม่เห็นทานซื้อแต่ขนมที่อ้อนชอบกินมาเยอะเลย นั่งเร็วอ้อน กินข้าวได้แล้วลูก ทานก็ไปนั่งที่โต๊ะ กินข้าวเยอะ ๆ ไม่อิ่มเติมข้าวได้ แม่หุงไว้เผื่อเยอะเลย"

แม่ทำท่าดีใจ ที่มีผู้มาร่วมโต๊ะอาหารด้วย แต่อ้อนแอบลอบมองคนที่มาร่วมโต๊ะอาหาร ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้จะระแวงเล็ก ๆ แต่วันนี้รู้สึกเฉย ๆ และออกจะดีใจอยู่ลึก ๆ ที่ลงมาแล้วเห็นหน้าคนที่กลัวว่าจะต้องกลับไปเหงาอยู่ที่บ้านเพียงลำพังมาอยู่ในห้องครัว
ข้าวถูกตักใส่จาน และการรับประทานอาหารและคุยกันไปเรื่อยเปื่อยก็เกิดขึ้น แม่ดูมีความสุขเมื่อคุยกับทานตะวัน และอ้อนก็แอบหัวเราะเล็กน้อย เมื่อไอ้คนบ้านั่นพูดอะไรเพี้ยน ๆ

แต่ก็ยังคงนั่งกินข้าวไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

"แล้วรายงานเสร็จแล้วเหรอลูก ทานไม่สบายหลายวันหายดีแล้วเหรอ"

"หายดีแล้วครับแม่ อ้อนก็ดูแลทานตลอด ยังคิดอยู่เลยครับว่าจะเอาหวัดมาฝากอ้อนหน่อย จะได้หายเร็ว ๆ แต่ก็เห็นว่าอ้อนแข็งแรงดีไม่ยอมป่วย แบบนี้เลยเสียใจครับ ไม่ได้ดูแลกลับคืน"

อยากดูแลตายแหละ ทำเป็นพูด สร้างภาพน่ะสิไม่ว่า ถ้ากูไม่สบายมึงคงเพิ่มความสามารถในการแกล้งกูให้เพิ่มขึ้นล่ะสิ อย่างมึงเชื่อไม่ได้หรอกไอ้ทาน เพราะมึงตอแหลเก่ง

"ป่วยยากลูกคนนี้ แต่เป็นอะไรทีก็หนัก แม่ก็ห่วง แม่ฝากทานดูด้วยนะ ดีที่มีทาน ไม่งั้นแม่ก็ไม่รู้จะไปฝากใคร"

ฝากผิดคนแล้วแม่ ฝากไว้กับไอ้ทาน ผิดคนแล้วแม่ ผมอ่วมจนเละทุกวัน แม่ไม่รู้หรอกว่าฝีมือใคร ไอ้คนที่บอกว่าจะดูแลผมอย่างดีนั่นแหละ

"ไม่เป็นไรครับ ทานจะดูแลให้อย่างดีเลย"

ดีมาก ดูแลดีมากกกกกกกกกกกกกก จนกูเป็นอย่างที่เห็นไง ไอ้ทาน ไม่ต้องมาทำเป็นหัวเราะเลย แน่ะ มองหน้าแล้วยังไม่สำนึกยังจะมายักคิ้วหลิ่วตาให้อีก
ไม่กินแล้วอิ่ม แล้วนี่แม่เติมข้าวให้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เผลอแป๊บเดียวกินข้าวไปกี่จานแล้ววะเนี่ย

"โอ้ยยยยยยยย อิ่มจังเลยครับ กับข้าวที่แม่ทำอร้อย อร่อย ทานกินจนพุงจะแตกแล้ว ยังอยากเติมอีก แต่สงสัยกินเข้าไปไม่ไหวแล้ว"

อร่อยเป็นพิเศษเลยสิ ก็มึงเล่นกินไปนินทากูแบบซึ่ง ๆ หน้าไปด้วยนี่ กับข้าวชั้นดีเลย กินล้างกินผลาญ หันกลับมาอีกที ตักอะไรใส่จานกูเต็มจานเลยวะ แล้วเผลอกินไปจนหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

"อ้าว ยังไม่อิ่มอีกเหรอ ตัวแค่นี้ กินไปตั้งสามจาน แม่ดูสิครับ อ้อนมันเริ่มเขี่ยข้าวอีกแล้ว อยู่บ้านทานก็แบบนี้แหละครับ กินอิ่มแล้วก็ไม่บอกชอบเขี่ยข้าวเล่น"

เคยทำแบบนั้นด้วยเหรอ นอกจากแม่แล้วไม่เห็นมีใครมาสังเกตว่ากูเขี่ยข้าวหรือไม่เขี่ย

"อิ่มแล้วเหรอลูก วันนี้อ้อนกินได้เยอะเลย เอาข้าวเพิ่มมั้ย เดี๋ยวแม่ตักให้"

อ้อนส่ายหน้า และรวบช้อนไว้ด้วยกัน ก่อนจะช่วยทานตะวันยกจานข้าวและจานกับข้าวที่กินหมดแล้วไปวางไว้ในอ่างล้างจาน

"เดี๋ยวทานล้างจานเองครับแม่ ทานล้างจานเก่งนะครับเห็นแบบนี้ทานทำได้นะ"

เหรอ ไม่เห็นเคยทำสักที ใช้กูตลอด ไม่ก็เห็นแม่บ้านทำให้ตลอด ล้างเป็นตอนไหน อย่ามาทำเป็นปากดีหน่อยเลย

แม่อมยิ้มกับสิ่งที่เพื่อนลูกชายพูด และหันไปมองลูกชายที่เห็นอมยิ้มเล็ก ๆ และเดินนำหน้าทานตะวันไปที่อ่างล้างจาน

ลูกดูมีชีวิตชีวามากกว่าแต่ก่อน จากไม่เคยพูดก็เห็นพูดจาได้มากขึ้น เคยนิ่งเฉย ก็มีท่าทางอ่อนโยนลงไม่แข็งกร้าวเหมือนเมื่อก่อน

"ถ้าแม่มีลูกสาวแม่ยกให้ทานไปแล้ว พ่อบ้านพ่อเรือนแบบนี้ใคร ๆ ก็อยากได้นะ"

ทานตะวันที่กำลังลงมือล้างจานโดยมีอ้อนยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ้มกว้าง และรีบเหลือบสายตาไปมองคนที่กำลังเขี่ยเศษอาหารและนำมาลงในอ่างล้างจาน

"ลูกชายก็ยกให้ได้ครับแม่ ลูกชายก็เอา"

ทานตะวันก้มลงมากระซิบบอกกับอ้อนเสียงเบา และก็เห็นว่าคนที่ทำหน้าเฉย ๆ รีบเงยหน้าขึ้นจ้องหน้าทานตะวันและรีบก้มกลับลงไปทันที
หัวใจกำลังเต้นโครมครามอย่างไม่มีสาเหตุ อ้อนก้มหน้าก้มตาหยิบจานใส่ในอ่างล้างจานที่มีฟองอยู่เต็ม แต่กลับถูกดึงมือเอาไว้
แถมซ้ำไอ้คนจับมือมันยังทำหน้าทะเล้นใส่อีก

"แม่กูอยู่นะมึง ทำเหี้ยอะไรของมึงวะ"

อ้อนรีบหันไปมองแม่ แล้วรีบหันกลับมาดึงมือตัวเองออก แต่ทานตะวันก็ไม่ยอมปล่อย ยังดึงฝ่ามืออ้อนไม่ให้ยกขึ้นจากอ่างล้างจานที่มีฟองอยู่เต็มอ่าง

"อะไร ยังไม่ได้ทำอะไรเลย กลัวอะไร แค่จับมือ หรืออยากหอมแก้มกูตอนนี้"

เอาแล้ว โดนไอ้ทานมันเล่นแล้วไง
ใบหน้าของอ้อน เริ่มมีริ้วรอยแห่งความกังวลอย่างเห็นได้ชัด พยายามดึงมือของตัวเองออก แต่ก็ไม่ได้ผล จนต้องเงยหน้าขึ้นมองว่าสิ่งที่คนบ้าบอพูดเป็นความจริงหรือไม่



"อย่านะโว้ย มึงอย่าแกล้งกูนะ"

อ้อนรีบบอกเสียงสั่น และหันไปมองแม่ที่กำลังเช็ดโต๊ะอาหารหลายครั้ง กลัวว่าแม่จะหันกลับมาเห็น

"ก็ให้จับมือดี ๆ แบบไม่สะบัดมือแค่นิดเดียวแหละ แล้วเดี๋ยวปล่อย ทำได้มั้ยล่ะ แค่นี้เอง"

ไม่รู้ว่าทำไมถึงเชื่อสิ่งที่คนตัวโตพูด แต่อ้อนที่กำลังใจเต้นไม่เป็นส่ำ ก็ยอมที่จะหยุดมือไว้นิ่ง ๆ
ภายใต้ฟองสบู่ในอ่างล้างจาน มือของทานตะวันยังคงเกาะกุมมือของอ้อนเอาไว้แน่น นิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้นเป็นนาน และต่างคนต่างก็ไม่ได้พูดคุยกันอีก

ทานตะวันหันไปมองหาแม่ของอ้อนอีกครั้ง และยอมปล่อยมือของอ้อนอย่างแสนเสียดาย

"ก็แค่เนี้ย ไม่ได้อยากทำอะไรซะหน่อย แค่จับมือนิดเดียวเอง"

ใบหน้าที่ก้มลงมาหา และเสียงบอกเบา ๆ ทำให้อ้อน รีบร้อนลนลาน ทำหน้าไม่ถูก ทำตัวไม่ถูก รู้แต่ว่าเหมือนมีไฟกำลังนาบอยู่บนใบหน้า จนร้อนผ่าว
ในขณะที่อ้อนกำลังเกิดอาการลนลาน ทานตะวันกลับสงบนิ่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ดวงตาคม ๆ เหลือบมองข้างแก้มของอ้อนแล้วยิ่งคิดอยากจะเข้าใกล้ให้มากขึ้น รีบหันไปมองแม่ของอ้อนอีกครั้ง และก้มลงหอมแก้มคนที่กำลังวางจานใส่อ่างทันที

"เฮ้ยยยยยยย ทำอะไรวะ"

อ้อนรีบยกมือขึ้นแตะที่ข้างแก้มของตัวเอง ฟองสบู่ลอยคว้างในอากาศ และเปียกเลอะใบหน้า

"อะไรกันเรา เล่นอะไรกันอีกล่ะ ฟองเต็มเลย แม่บอกว่าแม่ล้างเองก็ไม่เชื่อ" แม่หันมาบอก และเตรียมเดินเข้ามาช่วย แต่อ้อนรีบห้ามเอาไว้

"ไม่ ไม่ ไม่ ต้อง เดี๋ยวล้างเองแม่ เดี๋ยวล้างเอง แค่เล่นกันเฉย ๆ ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรจริง ๆ " เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่อ้อนพูดกับแม่ได้อย่างปกติ
แม่ที่กำลังเดินเข้ามายิ้มกว้าง และหันไปสนใจกับการจัดเก็บโต๊ะอาหารอีกครั้ง

"งั้นก็ตามใจ อ้อนอุตส่าห์ช่วยแม่ล้างจาน แม่ล่ะดีใจ๊ดีใจ แบบนี้น่าชวนทานมากินข้าวที่บ้านบ่อย ๆ ทานมาทีไร อ้อนร่าเริงทุกทีเลย"

ร่าเริง เริงร่าตายเลย กำลังจะตายแล้วจริง ๆ เนี่ย แม่ ตายแหง ๆ งานนี้

"เป็นอะไรหนูน้อยแก้มแดง หน้าแดงแล้วเป็นอะไร หรืออยากให้หอมอีกที"

ใครจะไปอยาก ไม่เอาด้วยหรอก ทำบ้าอะไรของมันวะ นิสัยประหลาด ไอ้บ้าทาน กูเกลียดมึง

"เดี๋ยววันนี้จะค้างที่นี่ จะนอนด้วย จะให้นวดขา จะให้ช่วยอาบน้ำ ทำหน้าที่ด้วย วันนี้ทานตะวันคัมแบ็ค แต่ไม่มีเสื้อเอาเสื้อมาให้เปลี่ยนด้วยล่ะ เอาตัวเดิมที่ใส่คราวก่อน
ตัวนั้นใส่สบาย แล้วก็เอากางเกงตัวนั้นด้วย ที่เอามาทิ้งไว้วันก่อนโน้นแหละ เอาตัวนั้น เข้าใจนะ"

เออ เข้าใจ สั่งได้สั่งดี สั่งทั้งปีทั้งชาติ

"ครับผม เดี๋ยวอ้อนหาเสื้อให้ทานเปลี่ยน พูดสิ พูดเป็นมั้ย ครับผม เดี๋ยวอ้อนหาเสื้อให้ทานเปลี่ยน แค่เนี้ยะ พูดได้เปล่า"

ไอ้ ไอ้ ไอ้ทาน มึง มัน มัน เออ ก็ได้วะ

"ครับผมไอ้ทาน เดี๋ยวอ้อนจะหาเสื้อให้มึงปลี่ยนนะคร้าบบบบบบบบ"

อ้อนแกล้งลากเสียงยาว ๆ และทำหน้าหมั่นไส้คนที่บังคับให้พูด
ทานตะวันอมยิ้มและหัวเราะออกมาเมื่อมองท่าทางของอ้อน ด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป
ถ้าเกิดอยู่ที่บ้านไม่มีใครเห็นมึงโดนไปแล้วไอ้อ้อน เอาแบบกลางสระน้ำนั่นอีกสักรอบคงดี จะได้ไม่กล้าพูดอีก คอยดูเถอะ ขึ้นห้องก่อนเถอะ เจอดีแน่ จะเล่นให้ร้องไม่ออกเลย
คอยดูก็แล้วกัน ปากดีนักนะเราตัวแค่เนี้ย

"ขึ้นห้องขอจูบที แล้วจะไม่ขออะไรอีกเลย ได้ป่าว"

อ้อนชะงักมือที่กำลังล้างจาน แล้วเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนพูดตาโต

ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่จริง ไม่จริง

ในขณะที่อ้อนกำลังทำตาโต ทานตะวันกำลังยืนอมยิ้ม

"นะ ทีเดียว แล้วจะไม่แกล้งอีก นะ"

ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่เอาโว้ยยยยยยยยยยยยย ไอ้บ้า ไม่เอาโว้ยยยยยยยยยยยย

ในขณะที่อ้อนกำลังร่ำร้องตะโกนบอกอยู่ในใจ ทานตะวันกลับถือเอาความเงียบนั่นเป็นการตอบรับ

"ล้างจานเสร็จแล้ว ไปเร็ว อยากอาบน้ำ ขึ้นห้องกันเร็ว"

จานถูกคว่ำจนหมด และทานตะวันก็ดึงแขนอ้อนให้เดินลิ่ว ๆ ตามกันขึ้นมาบนห้อง

"แม่คร้าบบบบบบบบ ทานไปอาบน้ำก่อนนะครับแม่ เดี๋ยวอ้อนจะพาทานไปอาบน้ำแล้วครับแม่ เดี๋ยวทานจะมาดูรายการโทรทัศน์เป็นเพื่อนแม่นะครับ"

ใครกันแน่ที่จะพาไปอาบน้ำ มึงลากแขนกูแต่มึงบอกว่ากูจะพาไปอาบน้ำ ไม่เอาโว้ยยยยยยยยย กูไม่ไป ไอ้ทานปล่อยกู

แม่ช่วยด้วย แม่ ไอ้ทานมันจะเอาลูกแม่ไปเชือดนะแม่

แม่ แม่ แม่มองอ้อนสิแม่
ไอ้ทานมันจะเอาลูกแม่ไปเชือดแล้วแม่ไม่เห็นหรือไง แม่รีบรั้งเอาตัวมันไว้สิแม่ เร็ว แม่ช่วยด้วย

ปากอยากจะพูด แต่ตอนนี้อ้อนก็ถูกดึงแขนให้เดินขึ้นมาอยู่บนห้องเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับที่ทานตะวันหันมาส่งยิ้มให้ อย่างแสนหวานเชื่อมและรั้งร่างของอ้อนเข้าไปหา

"ว่าไงเรา หนูน้อยแก้มแดง มาให้จูบซะดี ๆ เร็ว เริ่มจากตรงไหนดี เลือกมาซิ ตรงไหนน่าจูบบ้าง ตรงไหนดีน๊า"

TBC...
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-05-2007 20:12:10
หมายความว่าไงนี่  :angry2:  มาแล้วทำไมไม่ลงให้อ่านล่ะ  o9  o9
เกิน 10 เม้นต์แล้วนา  o12
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 25-05-2007 20:15:02

หมายความว่าไงนี่  :angry2:  มาแล้วทำไมไม่ลงให้อ่านล่ะ  o9  o9
เกิน 10 เม้นต์แล้วนา  o12

คิกคิก ผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อย
 :haun5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-05-2007 20:22:25
หุหุ จูบตรงแก้มแดง ๆ สิ  :-[  :-[  :-[

ปล. ผิดพลาดทางเทคนิค หรือ หลง ๆ ลืม ๆ  กันแน่ อิอิ   :o9:  :o9:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 25-05-2007 21:02:05
^
^
ทิพย์จ๋า  จาหอมมันทำไมแค่ตรงแก้มแดงๆ  จิ้นไปไกลเกินกว่าที่คิด  :-[

ทานน่ารักมากๆ  ทานเริ่มอ่อนลงมาตั้งเยอะแล้วอะ อ่อนมากกว่าที่อ้อนอ่อนให้ทาน
เด็กขาดความอบอุ่นมาแต่เด็ก  ขอแค่ใครสักคน ที่พร้อมจะเดินไปด้วยกัน  ร่วมทุกข์ร่วมสุข  แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

เรื่องนี้ออกแนวไร้เดียงสากันเนอะ  จามีหื่นๆ ป่าวหว่า  :o8:
รออ่านต่อนะเรย์  :impress: 
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 25-05-2007 23:27:25
เอามาลงอีกนะ  o1
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 26-05-2007 10:05:24

หมายความว่าไงนี่  :angry2:  มาแล้วทำไมไม่ลงให้อ่านล่ะ  o9  o9
เกิน 10 เม้นต์แล้วนา  o12

คิกคิก ผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อย
 :haun5:

แก่แล้วก็งี้แหละ หลงๆ ลืมๆ โก๊ะเหมือนทวดแน๋วเลย


ว่าแต่ตอนนี้ ทำไมทานกะอ้อนน่ารักกันจัง

รักมากมายยยยยยยยยย :-[
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 26-05-2007 14:20:28

         
              ...............โห....ทานน่ารักโคตร......... :impress2:.

            ปล.1......เฮ้อ....อยากมีแฟนน่ารัก....ขี้เล่น....และหื่นเล็กๆแบบทานบ้างจัง.......  :haun4:

            ปล2.....เรย์...มาต่อเร็วๆนะ...อยากรู้ว่าทานจะจูบอ้อนตรงไหน..... :haun5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 26-05-2007 22:50:10
ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15


ตอนนี้น่ารักกันจังเลยน๊า :-[
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 27-05-2007 00:17:43
แค่ใครสักคนที่เข้าใจเรา.....มันหมายถึงต้องเป็นคนที่เรารักด้วยหรือเปล่าเคอะ  :confuse:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 27-05-2007 01:42:45
ทาน  น่ารักจิงๆ   

 แต่2คนนนี้มีไรชอบเก็บไว้กานจังน๊า  - -*   
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 27-05-2007 02:02:48
ทำไมสองคนนี้ชอบคิดอะไรให้ตัวเองรู้สึกแย่อยู่บ่อยๆด้วยน๊า

น่าจะคิดในด้านที่ดีบ้าง มองโลกในแง่ร้ายกันจังเลย ท่ามกลางความเลวร้ายมันก็ต้องมีข้อดีอยู่ในตัวมันเองอย่างน้อยก็ซักข้อละว๊า

ว่าแต่ทานจะจุ๊บตรงไหนก่อนดีหว่า ปล.ถ้าเป็นไปได้อยากให้จุ๊บทั้งตัวอ่ะ :haun5:

ขอบคุณมากครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 27-05-2007 05:31:42
จุ๊บ ๆ ๆ กิ๊ว ๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 27-05-2007 14:27:07
เกิน 10 เมนท์แล้วครับ

กรุณามาต่อด่วน อย่าให้มีน้ำโหนะ

 o12
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 27-05-2007 14:45:14
อยากจูบตรงไหนกันเอ่ย
 :o8:
**********************************************************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ตกลงเราเป็นอะไรกัน

"ไอ้ทาน อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไอ้เวรเอ้ย"

อ้อนตะโกนใส่หน้าคนที่ลากขึ้นมาบนห้อง และร่างนั้นก็ชะงักนิ่งไม่ได้แสดงท่าทางหยอกล้อให้ใจเต้นเหมือนคราวแรก
ใบหน้าที่เจือไปด้วยรอยยิ้ม หมองลงอย่างเห็นได้ชัด คนตัวโตไม่ได้ใช้กำลังบังคับดึงดันอีก แต่ยอมปล่อยตัวอ้อนง่าย ๆ แล้วเดินไปทิ้งกายลงนั่งบนเตียง
นัยน์ตาที่ฉายแววสดใสแปรเปลี่ยนเป็นหม่นหมอง และท่าทีที่แปลกออกไป ทำให้อ้อนที่หายใจหายคอได้แค่เพียงเสี้ยวนาที ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดตามอีกฝ่าย
เมื่อได้เห็นท่าทางของทานตะวัน ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างรวดเร็ว
อะไรอีกวะเมื่อกี้ยังหัวเราะร่าอยู่เลย แล้วก็ทำท่าสนุกเหลือเกินที่ได้แกล้ง แล้วนี่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนท่าทีไปอีกแล้ว

"มองอะไร ไม่เคยเห็นคนเหรอ"

เคย แต่ไม่เคยเห็นคนอารมณ์แปรปรวนง่ายยิ่งกว่าสภาพดินฟ้าอากาศ คนกลัวแทบตายว่าจะทำอะไรเพี้ยน ๆ บ้า ๆ แต่แล้วมันก็ยอมปล่อยง่าย ๆ แล้วดูมันทำ
ไปนั่งหน้าเฉย อีกแล้ว จะเอายังไงกันแน่ ตามอารมณ์ไม่ทันแล้วนะ

"เมื่อกี้โทรมาหา ทำไมไม่รับ โทรมาเป็นสิบ ๆ สายแล้ว บอกว่าจะไปซื้อขนม เดี๋ยวมาแล้วลงไปเปิดประตูบ้านให้หน่อย แล้วทำไมถึงไม่ยอมรับสาย"

เฮ้ย โทรมาจริงอ่ะ ตอนไหนวะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ก็ใครจะไปทราบว่าท่านทานเกิดนึกถึงกระผมขึ้นมาอย่างกะทันหันรีบร้อนโทรตามจิกหัวไม่ให้เว้นว่างกันบ้างเลย

"อย่ามาทำเป็นมองนะ ถามไม่ได้ยินหรือไง ทำไมไม่รับโทรศัพท์ ไม่อยากรับ หรือว่าทำอะไรอยู่ ตอบมาเดี๋ยวนี้นะอย่าให้โมโห"

เฮ้ย ไอ้บ้าเมื่อกี้มันไม่ใช่แบบนี้นะ มันออกจะอารมณ์ดี แล้วนี่แค่ไม่ให้จูบเนี่ย มันบ้าได้เลยเหรอ ไม่จริงใช่มั้ย เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย

"อาบน้ำอยู่" ตอบไปแล้ว และอ้อนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่พูดออกมาได้ แล้วนี่จะไปเครียดตามไอ้ทานมันทำไมวะ

"เออ งั้นเอาโทรศัพท์ไป เดี๋ยวจะโทรไปหาอีก เดินไปหน้าห้องเลย ล็อคประตูด้วย จะโทรไปหาเดี๋ยวนี้แหละ"

เอ่อ .............
มึง...............
เป็นบ้า...........
ใช่มั้ย..............

จะบ้าเหรอ อยู่ดี ๆ จะโทรหาทำไม ก็เนี่ย อยู่นี่แล้ว มีอะไรก็พูดมาสิวะ จะโทรให้เปลืองค่าโทรศัพท์ทำไม ประสาทแล้วมึงไอ้ทาน
ใครจะบ้าเล่นกับมึงวะ ไอ้บ้า

"เร็วสิ ไม่ได้ยินเหรอ เอาโทรศัพท์ไป เดี๋ยวจะโทรไปหาเดี๋ยวนี้แหละ ไปหน้าห้องเลย ล็อคประตูด้วย"

คำสั่ง ยังคงเป็นคำสั่ง อ้อนทำหน้างงเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปคว้าโทรศัพท์ของตัวเองและเดินไปยืนอยู่หน้าห้อง เสียงล็อคประตูทำให้รู้ว่าห้องตัวเองถูกทานตะวันยึดไปแล้ว
พร้อมกับที่ โทรศัพท์ในมือดังขึ้น ไม่ใช่ใครโทรมา ก็ไอ้บ้าในห้องนั่นแหละ เล่นอะไรของมันวะ เพี้ยนไม่หยุด สงสัยสนุกมั้ง ที่ได้แกล้งให้ได้ ไม่รู้ว่าอีกนาทีถัดมามันจะเป็นอะไรอีก
ตามไม่ทันจริง ๆ เลยโว้ย

"ฮาโหล ทำไมต้องให้มารับโทรศัพท์หน้าห้องด้วยเล่นอะไรวะ"

เสียงของอ้อนที่เอ่ยถาม ทำให้ทานตะวันนิ่งเงียบ และถอนหายใจยาว เดินไปนั่งข้างเตียง และยังคงนิ่งเงียบฟังเสียงของอ้อนต่อไป

"พูดไป อยากพูดอะไรก็พูดไปเรื่อย ๆ เลยห้ามหยุดพูด กูจะฟัง"

ไอ้บ้า บอกมาได้ให้กูพูด แล้วจะฟัง ประสาทกลับหรือยังไงวะ แล้วจะพูดอะไรล่ะ ไม่มีอะไรจะพูดหรอกนะโว้ย

"อะไร จะพูดอะไร ไม่รู้จะพูดอะไรหรอกนะ"

อ้อนตอบออกไป แล้วก็มองหาที่นั่ง ยืนก็เมื่อย นั่งมันหน้าประตูนี่แหละวะ ไม่รู้ว่ามันจะสั่งอะไรกูอีก

"เกลียดกูมากมั้ยอ้อน ถ้ากูยกหนี้ให้มึงไปเลย ยังจะอยู่ข้าง ๆ กูมั้ย"

อะไรของมันวะ เกลียดมั้ย ก็.........แล้วจะให้ตอบยังไง บอกว่าเกลียดหรือไม่เกลียดงั้นเหรอ พูดได้เหรอ เรื่องแบบนั้น

เกลียดมั้ยเหรอ

เกลียดมั้ย

ถ้าเมื่อก่อนจะตอบได้โดยไม่ต้องคิด
แต่ตอนนี้ จะให้บอกว่าเกลียดเหรอ แล้วเกลียดหรือเปล่าวะ เกลียดมั้ย งั้นเหรอ
บางทีก็ตอบไม่ได้ว่าเกลียดหรือเปล่า บางทีก็เกลียดมาก ที่มันทำอะไรแบบแปลก ๆ แต่ว่า.........
 

"ถามทำไม" อ้อนเอ่ยถามออกไป แล้วตัวเองก็ยังขมวดคิ้วมุ่น ใจยังจดจ่ออยู่กับคำว่าเกลียด หรือไม่เกลียด

ตอบตัวเองไม่ได้ว่าความรู้สึกที่ได้รับ มันเป็นยังไงกันแน่

"อยาก........เป็นอิสระเร็ว ๆ หรือเปล่า เบื่อมั้ยที่ต้องคอยตามใจคนแบบนี้"

อะไรของมัน อยู่ดี ๆ ถามอะไรแบบนั้น
ใช่......ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะยอมรับว่าอยากเป็นอิสระเร็ว ๆ ไม่อยากให้ใครมาแกล้งแบบนี้ แต่แล้วทำไมตอนนี้ ถึงได้ตอบคำถามของไอ้ทานไม่ได้ล่ะ
อ้อนนิ่งเงียบ ไม่ได้ตอบคำถามของทานตะวัน ขมวดคิ้วมุ่น กำโทรศัพท์เอาไว้แน่น ไม่รู้ว่าทำไมรู้สึกแปลก ๆ กับคำถาม

"เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันใช่มั้ยวะ เราเป็นลูกหนี้กับเจ้าหนี้แค่นั้นจริง ๆ เหรออ้อน แล้วทำไม ตอนที่มึงเดินเข้าบ้าน กูถึงต้องรู้สึกว่าเหงามาก ๆ ด้วย
แล้วก็ไม่อยากกลับบ้านไปอยู่คนเดียว พอรู้ว่าต้องกลับไปอยู่คนเดียวอีก ทำไมมันถึงได้รู้สึกจะทนไม่ไหวขึ้นมาก็ไม่รู้ แล้วกูก็เลยต้องมา......หา.....ไม่มีเหตุผลมาอ้างเลย
นอกจากคำว่าการเอาแต่ใจตัวเอง........อยากทำอะไรก็ทำ.....ทำไมแค่ได้มองหน้ามึง กูก็ไม่อยากไปไหน แค่ได้จับมือมึงบ้าง กูก็อยากอยู่ใกล้ ๆ มึงไปนาน ๆ แต่ถ้ามากกว่านั้น
ทำไม่ได้ใช่มั้ยวะ ....... แปลกใช่มั้ย ที่กูอยากทำอะไรมึงมากขึ้นเรื่อย ๆ ...... แบบนี้มึงก็เลยเกลียดถ้ากูจะจูบ หรือถ้าเกิดทำอะไรเลยเถิดมากกว่านี้ มึงก็คงรับไม่ได้....ใช่มั้ย"

ทานตะวันพูดความคิดของตัวเองไปเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด และเอนศีรษะลงซบบนฟูกนอน รอฟังความรู้สึกของอีกฝ่าย แต่อ้อนก็ไม่ได้ตอบกลับมา

"ฟังอยู่หรือเปล่า"

เสียงที่เอ่ยถาม ทำให้คนที่นั่งอยู่หน้าประตูห้อง ถึงกับสะดุ้งสุดตัว และยกปลายนิ้วขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง ในใจหวลคิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่กลางสระน้ำ
ทั้ง ๆ ที่คิดว่าลืมไปแล้วแท้ ๆ แต่ตอนนี้ พอได้ฟังสิ่งที่คนที่อยู่ในห้องพูด ใบหน้ากลับร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ภายในใจเต้นระทึกไม่เป็นส่ำ

อะไรที่ไอ้ทานมันพูดถึง

ทำไมต้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมาด้วย

จะให้เข้าหน้ากันไม่ติดงั้นเหรอ หรือว่าอยากจะแกล้ง หรืออยากให้อาย หรือมันต้องการอะไร ....แล้วอะไรที่มันต้องการกันแน่ ไอ้ทานมันจะถามแบบนี้ทำไมกัน

"ทำไมเงียบล่ะ ฟังอยู่มั้ย"

เสียงที่เอ่ยถามย้ำ ทำให้อ้อน ต้องรีบตอบรับ

"อะ อือ ฟังอยู่....แล้วยังไงต่อล่ะ"

ยังไงต่อ ไอ้อ้อนมันฟังอยู่จริง ๆ หรือเปล่า ทำไมไม่มีท่าทีอะไรเลย มันไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยหรือไง ทั้ง ๆ ที่ถามความรู้สึกมันออกไปมากขนาดนี้แล้ว มันยังทำเป็นเฉยอีก
จะเอายังไงกันแน่วะ คนอุตส่าห์ถาม ชักโมโหแล้วนะโว้ย

"อะไรที่ว่าอือล่ะ มึงไม่ได้ฟังเลยไม่ใช่เหรอไอ้อ้อน ที่กูพูด ๆ ไปน่ะ เออ ไม่ฟังก็ไม่ฟัง กูแค่อยากรู้ ว่ามึงไม่ชอบใช่มั้ยที่โดนกูจูบน่ะ หรือว่ามึงไม่เคยรู้สึกอะไรเลย
แต่กูไม่ลืมนะ ว่าเราทำอะไรกันบ้าง อย่ามาทำเป็นลืมนะไอ้อ้อน เล่นกลอะไรวะ มึงทำยังไง กูถึงขาดมึงไม่ได้แบบนี้ คงวางแผนไว้แล้วล่ะสิ ว่าจะทำให้กูทุรนทุรายเวลาที่มึงไม่อยู่ให้เห็นหน้าน่ะ"

ตอนนี้ไอ้ทานมันทำหน้าแบบไหนเวลาที่มันพูดคำนี้ออกมานะ มันคงกำลังหงุดหงิด หรือไม่ก็คงเตรียมอาละวาดอีกแล้ว หรือว่า ........

อ้อนนึกภาพของทานตะวันไปต่าง ๆ นานา คิดว่าคงกำลังโมโห หรือกำลังหงุดหงิด แต่ผิดถนัด ตอนนี้คนที่ทำเสียงฮึดฮัดโมโห กำลังทำหน้าเศร้า และแทบอยากจะร้องไห้ เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาของอ้อน

ป่านนี้ไอ้เป๋มันก็คง กำลังทำหน้านิ่ง ๆ เฉย ๆ ไม่รู้สึกรู้สาอะไร กับคำพูดที่พูดออกไปสินะ แล้วก็คงคิดในใจ ว่าไอ้ทานมันเป็นอะไรของมัน เกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีกแน่ ๆ

"แล้ว....มึงอยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ ตอบไปก็ไม่พอใจทุกคำตอบไม่ใช่เหรอ...กำลังโมโหอยู่ล่ะสิ แล้วถ้ากูตอบแบบทำให้มึงไม่พอใจ มึงก็คงเดินออกมาลากกูเข้าห้อง
แล้วก็ลงไปบอกแม่ว่า ตอนนี้ กูติดหนี้มึงเป็นแสน ๆ ที่มึงแกล้งมาทำดีที่บ้านกูก็เพราะว่า ...มึงน่ะอยากจะ..."

"หยุดพูดเรื่องที่กูไม่ได้คิดซะทีเถอะ ที่อยากรู้ คือตอนนี้เราเป็นอะไรกันแค่นั้นแหละ....รีบ ๆ พูดมาซะที ว่าเราเป็นอะไรกัน
เป็นลูกหนี้เป็นเจ้าหนี้ เป็นคนใช้ หรือมึงเป็นอะไรกับกูกันแน่นะอ้อน ทำไม....กูไม่รู้ว่ามึงเป็นอะไรของกูกันแน่
แล้วมึงคิดว่ากูเป็นอะไรของมึง....เป็นเจ้าหนี้เหรอ หรือว่า เป็นอะไร"

อ้อนอยากจะบอกออกไปว่า เห็นเป็นคนงี่เง่าไงล่ะ แต่ก็ไม่ได้ตอบออกไป ได้แต่นั่งเงียบ ๆ และถามความความรู้สึกทั้งหมดของตัวเอง
แต่ไม่ทันได้พูดอะไรออกไปเสียงของแม่จากข้างล่าง ก็ทำให้รีบเคาะประตูห้องเพื่อให้ทานตะวันเปิดประตูให้

"อ้อน บ่นอะไรอยู่หน้าห้องน่ะลูก หาเสื้อให้ทานเปลี่ยนหรือยัง แม่เก็บผ้าขนหนูไว้ให้ในตู้แล้วไง หาไม่เจอเหรอ"

ประตูห้องถูกเปิดออกแล้ว และอ้อนก็ต้องรีบเดินเข้าห้องอย่างรวดเร็ว มาเผชิญหน้าอยู่กับคนที่ยังถือโทรศัพท์ไว้ในมือ
ทานตะวันนิ่งมองใบหน้าของอ้อนที่ยังคงเรียบเฉย แล้วค่อยกดวางสาย เมื่ออ้อนเดินไปค้นหาผ้าขนหนูมาเพื่อมายื่นส่งให้

"อาบน้ำก่อนดีกว่ามั้ง เดี๋ยวอยากเล่นอะไรแปลก ๆ อีกค่อยเล่น"

น้ำเสียงที่แผ่วเบาและใบหน้าที่ก้มนิ่งไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตา ทำให้ทานตะวัน จำใจรับผ้าขนหนูมาถือเอาไว้ และยืนนิ่งเงียบ
อ้อนเงียบ ทานตะวันเงียบ ไม่รู้ว่าความรู้สึกอึดอัดใจที่อบอวลไปทั้งห้อง จนไม่กล้าขยับ และต้องรอดูปฏิกิริยากันแบบนี้ ทำเพื่ออะไรกันแน่

"อย่ามาทำเป็นเฉยนะ....คิดยังไงกันแน่...กูเป็นอะไรกับมึงกันแน่ สำหรับมึงแล้วกูเป็นอะไร"

อะไรวะ จะคาดคั้นเอาคำตอบอะไร ถ้าตอบได้ก็ตอบไปแล้ว แต่นี่ไม่รู้จะตอบว่าเป็นอะไรถึงได้เงียบแบบนี้ยังไงล่ะ ไม่เข้าใจกันบ้างเลยหรือไง

คนตัวโตหน้านิ่วคิ้วขมวด หันไปเหวี่ยงผ้าขนหนูทิ้งลงบนเตียง และรั้งร่างของอ้อนมากอดเอาไว้แน่น โดยที่ไม่รอให้อีกฝ่ายตั้งตัว
 


"อะไรวะ กูเป็นอะไรของมึงกันแน่ กูคิดไม่ออกแล้วนะไอ้อ้อน โทรมาเป็นสิบ ๆ สายทำไมไม่ยอมรับ แล้วพอมาหาก็ทำเป็นเฉย อะไรของมึงวะ กูไม่รู้จะทำยังไงหรอกนะ
จะให้กลับบ้านไปคนเดียวใช่มัย ไม่สงสารกันบ้างเลย ทั้งที่มึงก็รู้ว่ากูอยู่คนเดียวเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วแท้ ๆ แล้วทำไมยังไม่ยอมรั้งกูไว้อีก ให้กูเสียศักดิ์ศรี วิ่งไล่ตามมาหามึงถึงที่แบบนี้
ต้องการอะไรกันแน่วะ....."

อะไรเล่า ไม่ได้ต้องการอะไรเลย ไม่มีอะไรที่ต้องการเลยสักอย่าง....แล้วใครจะไปรู้ว่ามึงจะอยู่คนเดียวไม่ได้ล่ะ ใครจะไปรู้ ว่าถ้าเกิดไม่รั้งเอาไว้ มึงจะเศร้ามากขนาดนี้
ถ้ารู้ว่าการเงียบแล้วทำให้มึง งอแงงี่เง่าได้มากขนาดนี้ ใครจะไปทำล่ะ ไอ้ทานนะไอ้ทาน นึกว่าไม่ห่วงหรือไง ที่ปล่อยมึงกลับบ้านคนเดียวน่ะ

เรียวแขนของคนที่ถูกกอดยกขึ้นกอดตอบ คนที่ยืนตัวสั่น กอดร่างของอ้อนเอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย

ก็เห็นแกล้งได้แกล้งดี เห็นทำเหมือนสนุกซะขนาดนั้น จะไปรู้ได้ยังไง ว่าที่จริงแล้วเหงา แล้วก็ไม่อยากกลับไปอยู่บ้านคนเดียว ก็แค่บอกมาคำเดียวแท้ ๆ อยากพูดไม่เป็นเอง

"จะนอนค้างที่นี่ ไม่กลับบ้านหรอก ไม่ให้ไปไหนด้วย อย่าคิดว่าจะกลับมานอนที่บ้านตัวเองอย่างสงบสุขนะ จะตามมาอย่างนี้แหละ ให้มึงบ้าไปเลย เอาให้มึงไม่รู้จะทำยังไงเลยคอยดูเถอะ
คอยดูก็แล้วกันไอ้อ้อน อยากทำให้กูเหงาเอง"

สิ่งที่ทานตะวันพร่ำพูด ทำให้อ้อน ลูบไล้แผ่นหลังกว้างที่สั่นสะท้านอย่างแผ่วเบา กลัวแทบตายว่ามันจะบ้าบอมากกว่านี้
แต่ที่ไหนได้ ที่ตามมาก็แค่เหงา ไม่อยากกลับบ้านไปอยู่คนเดียว เลยมาคอยตามแกล้งกันแบบนี้เนี่ยเหรอ ทำไมมันถึงได้เป็นเด็กขยันเรียกร้องความสนใจได้มากขนาดนี้วะ
แค่บอกว่าเหงาคำเดียวเอง.........

"เหงาเหรอวะ แค่เนี้ยต้องเหงาด้วยเหรอ" อ้อนเอ่ยถามออกมาเบา ๆ และทานตะวันก็ยังคงกอดร่างของอ้อนเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

"ถ้าเหงาก็บอกว่าเหงาสิ ทำไมต้องหาเรื่องกันด้วยล่ะ"

อ้อนยังคงยืนนิ่ง ๆให้ทานตะวันกอด แล้วก็ได้รับคำตอบเป็นการ ที่คน ๆ นั้นปล่อยร่างของอ้อนให้เป็นอิสระ แล้วมายืนเผชิญหน้าด้วย คราวนี้จะทำอะไรของมันอีกล่ะ

"เมื่อกี้ที่ขอจูบ กูขอจริง ๆ นะ เลือกมาเลย มึงจะให้กูจูบตรงไหน ไม่งั้นกูจะแกล้งมึงทั้งวันเลยคอยดูสิ"

ทานตะวันทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วเอ่ยถามคำถามที่ทำให้อ้อน ถึงกับหน้าแดงก่ำ รีบแกะมือของคนตัวโตออก แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมปล่อย

"เร็ว จะให้จูบตรงไหน เลือกเลย อุตส่าห์ให้โอกาสนะ หรือว่าจะให้เลือกเอง ไม่เลือกกูจะเลือกเดี๋ยวนี้แหละไอ้อ้อน"

รู้แน่ว่าทานตะวันเอาจริง แล้วถ้าไม่ได้ก็ต้องได้ อยากได้อะไรก็เห็นจะเอาให้ได้ทุกที อ้อนไม่รู้ว่าต้องทำยังไงบ้างในสมองรีบประมวลความคิด และส่งมือให้อย่างรวดเร็ว
ก่อนที่อีกฝ่ายจะตัดสินใจให้

"เออ เออ ก็ได้ ตรงนี้เลย อ่ะ อยากจูบเหรอ เอาเลย ให้พอใจเลย ตรงนี้แหละ"

ฝ่ามือที่ยื่นมาให้ตรงหน้า
ท่าทางที่เหมือนหวาดหวั่น ทำให้ใบหน้าคมที่ขมวดคิ้วมุ่น เริ่มยิ้มออกมาได้

เลือกแล้วเหรอ ก็แค่เนี้ย ทานตะวันรีบคว้ามือของอ้อนและจ้องมองนิ่งอยู่อย่างนั้น รอยยิ้มจาง ๆ และแววตาพราวระยับทำให้อ้อนใจเต้นไม่เป็นส่ำ
กะอีแค่มือ มันจะมองอะไรขนาดนั้นวะ โธ่โว้ย

ปลายจมูกที่ประทับลงมาอย่างช้า ๆ พร้อมกับริมฝีปากร้อน ๆ ที่นาบลงตรงกลางฝ่ามือ เหมือนมีกระแสไฟอ่อน ๆ วิ่งพล่านจากมือขึ้นมาที่แขนอย่างรวดเร็ว และลามเข้าไปถึงหัวใจทำให้ใจเต้นระทึกรัวเร็ว
จนหายใจติดขัด ใบหน้าเนียนขาวแดงเรื่อ เมื่อเจ้าของริมฝีปากอุ่น ๆ แหงนเงยใบหน้าขึ้นมอง และแตะริมฝีปากซ้ำที่ข้อมือบาง จนทำให้สัมผัสได้ถึง จุดชีพจรที่เต้นระรัว

"พอใจแล้ว.....วันนี้จะไม่แกล้งอีก"

อีกหนึ่งอารมณ์ของท่านทานตะวัน หลังจากเป็นที่พอใจ ก็ยิ้มร่า เมื่อได้เห็นท่าทางเขินอายของอ้อนก็ยิ่งพอใจเป็นที่สุด
จะอยู่ดูหน้าให้ชัด ๆ อีกสักนิดก็ได้ แต่สงสารหนูน้อยแก้มแดงที่กำลังทำหน้าไม่ถูก อยากจะแกล้งต่ออีกนิด แต่ก็สงสาร แค่นี้ไอ้อ้อนมันก็อายแย่แล้ว แต่ก็ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ แค่นี้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวมันจะยิ่งไม่ชอบหน้าขึ้นมาอีก
ทานตะวันตัดสินใจเดินไปคว้าผ้าขนหนูที่อยู่บนเตียง ก่อนจะเดินผิวปากมีความสุขเดินเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้อ้อนยืนหน้าแดงทำอะไรไม่ถูกอยู่กลางห้อง
เสียงน้ำจากฝักบัว เสียงผิวปากอย่างอารมณ์ดี ช่างน่าหมั่นไส้ แต่ไม่รู้จะทำอะไรได้

อ้อนทิ้งกายลงนั่งที่พื้นกลางห้อง อยากจะกลิ้งลงไปนอนตายซะตรงนั้น หรือไม่ก็เอาหน้ามุดพื้นหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้
สุดท้ายได้แต่นั่งนิ่ง ๆ และจ้องมองไปที่ข้อมือของตัวเองทำได้เพียงแค่บ่นเงึมงำเสียงเบา

"ไหนว่าไม่แกล้งอีกไง แบบนี้มันแกล้งกันชัด ๆ เล่นมาแตะข้อมือแบบนี้ก็รู้หมดสิว่าตื่นเต้น ไอ้ทานนะไอ้ทาน เกลียดมึงโว้ยยยยยยยยย ขอถอนคำพูด ตอนนี้กูเกลียดมึง ไอ้บ้า ไอ้ทานบ้า เกลียดมึงโว้ยยยยย"

TBC.............
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-05-2007 15:00:03
แหม๋ อุตส่าห์ลุ้นซะ  o12 จูบมือ แค่นี้  o22
มะยอม มะยอม  o9  o9  o9
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 27-05-2007 15:29:13
 o12 o12  ส่งแค่มือให้จูบซะงั้น   :haun5: :haun5:แต่ก็ยังดีที่เริ่มจะเปิดเผยความรู้สึกกันแล้วนะครับ  o17 o17
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 27-05-2007 15:47:49


                .........โห .....อุตส่าห์ลุ้นระทึก.....นึกว่าทานจะกระฉากอ้อนมาจูจุ๊บแบบดุเดือดซะอีก.....  :interest:
               
                      ..........แต่จุ๊บที่มือก็โอเคล่ะ.....หยวนๆ........ดีก่าไม่ได้จุ๊บเลย.... :laugh3:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 27-05-2007 16:50:21
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  o22 o22
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 27-05-2007 21:11:48
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :-[  :-[

เอาวะ  แค่มือก็เอา หุหุ
ว่าแต่ที่จริง  มันก็นะ  มันจิ้นไปไกลอะ  กระชากลากถู ตบจูบๆ (เว่อร์ไปปะ)
มะยอม  o9  o9 

รออ่านต่อนะเรย์  มันคงมีสักวัน  เริ่มเปิดใจแล้วนิ  :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 27-05-2007 21:56:29
และแล้วเรื่องนี้ก็เรียกน้ำตาเราไปจนได้  o7
ทั้งๆ ที่ตอนแรกสุดจะทนกับพฤติกรรมของทานตะวัน  o12

คุยกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น (นึกถึงโฆษณาของ Orange ขึ้นมาอ่ะคับ)

เยี่ยม!

 o13
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 28-05-2007 10:07:24
เวลาเหงาๆ เนี่ย  ถ้ามีคนอยู่ข้างๆ คอยแบ่งความรู้สึกดี 

ความรู้สึกอบอุ่นมาให้คงจาดีไม่น้อยเลยทีเดียวอะ

แต่อ่านไปแล้วก็ขัดใจจริงๆ คิดอยู่ได้  ไม่ยอมพูดสักที

เลยไม่เข้าใจกันอะ  แง่งๆๆๆ

ยังงัยๆ ก็ต้องตามเชียร์คู่นี้กันต่อไปปปป  :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 28-05-2007 10:08:57
นู๋น้อยแก้มแดง :-[   

ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 28-05-2007 13:18:06
อ่านแล้วใจหวิวๆมากเลยอ่ะคับ

นายทานน่ารักจังเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 28-05-2007 14:16:39
ฮือ   o7
น้ำตาไหลอ่ะ  ขออกอุ่น ๆ ซบหน่อย o3
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 28-05-2007 14:16:58
น่ารักจริงๆ  :like6:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 28-05-2007 18:02:53
ว้อยยยย

ไม่ไหวแล้ว อึดอัดอะ

 :serius2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Felm ที่ 28-05-2007 18:34:24
มารอค้าบบ  :o10:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 28-05-2007 19:00:03
รู้สึกตอนที่แล้วเพื่อนๆจะมากันหลายอารมณ์ดีเนอะ
************************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ได้เวลานอน

ทานตะวันใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กขยุ้มเส้นผมของตัวเองอย่างไม่สนใจไยดีนัก
จะเรียกว่าเช็ดก็ไม่ได้ เพราะเป็นการขยำผ้าขนหนูลวก ๆ ให้หยดน้ำที่เกาะพราวอยู่บนเส้นผมเหือดแห้งลงเท่านั้น

เมื่อก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นเจ้าของห้อง กำลังสาละวนอยู่กับการจัดเตรียมฟูกนอนอีกผืน
ทำเหมือนเป็นกิจกรรมยิ่งใหญ่ที่ใช้เวลาและสมาธิสูงจนไม่สนใจเรื่องรอบตัวเลยสักนิด
ท่าทางแบบนั้นทานตะวันไม่ทันได้รู้ว่าอ้อนพยายามทำทุกอย่างเป็นปกติมากที่สุด ไม่ให้มีพิรุธ

สาเหตุเป็นเพราะเวลานี้ไม่กล้ามองหน้าคนที่เพิ่งก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำนั่นเอง

หลายครั้งที่นั่งนิ่งเฉย เหมือนไม่รู้จะทำอะไรดี ได้แต่รอว่าเมื่อคนที่อาบน้ำจะอาบน้ำเสร็จสักที
แต่เมื่อทานตะวันก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำ อ้อนก็ต้องรีบแกล้งทำทีเป็นวุ่นวายอยู่กับการจัดที่นอนและหมอนให้เข้าที่เข้าทาง
ส่วนคนตัวโตกำลังยืนขมวดคิ้วทำหน้ายุ่งเหยิงด้วยความสงสัยอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมอ้อนต้องรีบร้อนลนลานขนาดนั้นด้วย

"ทำอะไรวะ" ทานตะวันเอ่ยทักทายและเดินมาหยุดยืนข้าง ๆ คนที่โยนหมอนอีกใบลงมาบนฟูกนอนที่ปูไว้บนพื้น

"ก็จัดที่นอน เดี๋ยวจะลงไปหาแม่เหรอ งั้นนอนก่อนแล้วกัน ตอนที่ขึ้นมานอนจะได้ไม่ต้องเปิดไฟปัดที่นอนอีก"

อะไรของมัน พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง เวลาพูดทำไมไม่ยอมสบตา จะเกิดขยันอะไรขนาดนั้น ทุกทีไม่เห็นอยากจัดที่นอนเลย

แล้ววันนี้ไอ้อ้อนมันจะนอนบนพื้นเหรอ มันก็นอนของมันบ่อย ๆ นี่หว่า แล้วทำไม รู้สึกแปลก ๆ วะ
ทีนอนด้วยกันที่บ้านโน้น ยังนอนเตียงเดียวกันเลย แล้วมานอนบ้านนี้
จะให้นอนเตียงแล้วไอ้อ้อนก็ไปนอนพื้นงั้นเหรอ พื้นที่มันห่างกันเกินไปหรือเปล่าวะ
แต่จะว่าไปเตียงก็แคบแค่นี้นอนคนเดียวก็เต็มแล้ว ขืนไอ้อ้อนมันมานอนด้วยอีกคนเดี๋ยวได้ตกเตียงกันพอดี

"นี่....เมื่อยขา...อย่าเพิ่งหลับนะ เดี๋ยวจะลงไปหาแม่ก่อน เดี๋ยวขึ้นมา"

ผ้าขนหนูถูกโยนกองทิ้งไว้บนเตียง แล้วคนตัวโตก็รีบเดินไปเปิดประตูเดินลงไปที่ชั้นล่างของตัวบ้าน ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ของอ้อนว่าจะลงมาดูรายการโทรทัศน์เป็นเพื่อน

อ้อนนั่งมองคนที่วิ่งพรวดพราดจากไป และหันกลับมาสนใจกับการจัดเตรียมที่นอน
ก่อนจะลุกขึ้นและนำผ้าขนหนูของทานตะวันที่โยนทิ้งไว้และไปตากให้เรียบร้อย หน้าที่กูอีกแล้ว ทิ้งนั่นทิ้งนี่ไว้ให้ตามเก็บ เออ สมแล้วที่ให้กูเป็นคนใช้ เบื่อไอ้ทานจริง ๆ
อ้อนแอบบ่นกับตัวเองเสียงเบา และเดินกลับมานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่บนฟูกนอนของตัวเองที่ปูไว้บนพื้น

"เฮ่อ เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ ทำไมหายใจไม่ทันวะ ไม่กล้ามองหน้าไอ้ทานเลย มันคงไม่สังเกตหรอกมั้งว่ายังตื่นเต้นอยู่ แล้วจะตื่นเต้นบ้าบออะไรกันวะเนี่ย ประสาทอีกแล้วกู"

อ้อนบ่นงึมงำกับตัวเอง และค่อย ๆ เอนกายลงนอนบนฟูกนอน เอื้อมมือคว้าหมอนใบใหญ่อีกใบมากอดเอาไว้ และใช้มือขยำหมอนเล่นเหมือนไม่รู้จะทำอะไรดี

หลายครั้งที่สายตาเหลือบมองไปที่บานประตู
หลายครั้งที่ได้ยินเสียงแว่ว ๆ เหมือนคนกำลังเดินขึ้นมาบนห้อง
และหลายครั้งที่ใจเต้นระทึก เมื่อคิดว่าทานตะวันจะเปิดประตูเข้ามา
ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เอาแต่ลุ้นอยู่อย่างนั้น ตามองไปที่ประตูและหูก็ยังแว่วได้ยินเสียงเพราะการคิดไปเองคนเดียวของตัวเอง
เป็นอยู่อย่างนั้นเป็นนาน ไม่รู้ว่าลุ้นอยู่นานแค่ไหน แต่โดยที่ไม่ทันรู้ตัว ในที่สุดอ้อนก็เผลอหลับ ทั้งที่ใจยังพะวงรอทานตะวันที่ยังไม่ยอมขึ้นห้องมาสักที

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 


คนที่อ้อนรอคอยจนเผลอหลับ ค่อย ๆ แง้มประตูห้องและย่องเข้ามาอย่างช้า ๆ เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดเสียงจนอีกฝ่ายตื่น
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทั้งที่ไฟยังสว่างโร่
แต่คนที่นอนนิ่ง ๆ อยู่บนฟูกนอนบนพื้นก็ดูเหมือนจะหลับสนิทไม่ทันรู้ตัวเลยว่าเวลานี้มีใครมานั่งอยู่ข้าง ๆ และท้าวคางมองหน้ายามหลับของตัวเอง

คนตัวโตขมวดคิ้วมุ่น และ เอื้อมมือคว้าหมอนอีกใบที่อยู่บนเตียงก่อนจะลุกขึ้นเดินไปปิดไฟ และเดินมาเอนกายลงนอนข้าง ๆ คนที่ยังหลับใหล

"บอกว่าเมื่อยจะมาให้นวดขา...ทำไมไม่ฟังวะ หลับไปได้ยังไง รอแค่นิดเดียวรอหน่อยไม่ได้หรือไงหนูน้อยแก้มแดง"

นัยน์ตาคมจ้องนิ่งอยู่ที่ปลายจมูกโด่งและใบหน้าที่หลับสนิทของอ้อน ท่ามกลางความมืดยังพอมีแสงไฟที่สาดส่องเข้ามาบ้าง พอให้เห็นได้ลาง ๆ

ทานตะวันนอนมองใบหน้าของอ้อนอยู่อย่างนั้น และก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

ถ้าเป็นเมื่อก่อน คงทำอะไรเสียงดังเอะอะ แล้วไอ้อ้อนก็คงลุกขึ้นมาทำหน้างัวเงีย ๆ แล้วมันก็นวดขาให้
แต่เวลานี้ไม่รู้ทำไม ถึงไม่อยากทำเสียงดัง ไม่อยากรบกวนคนนอนหลับ รู้สึกว่าไม่ค่อยดี ทั้งที่เมื่อก่อนก็ทำอยู่บ่อย ๆ
ถึงฟูกจะแคบไปหน่อย แต่ก็พอเบียดกายเข้ามานอนข้าง ๆ กับไอ้คนที่หลับไม่รู้เรื่องนี่ได้ นอนมองหน้ามันแล้วมีความสุขดี
ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยคิดจะสนใจมันเลยสักนิด แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้แคร์ความรู้สึกมันมากขนาดนี้ก็ไม่รู้

ไม่ชอบเลยถ้าไอ้อ้อนจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วก็ไม่ชอบให้มันเฉยด้วย ชอบเวลามันยิ้ม หรือเวลาที่มันทำท่าทางลนลาน เหมือนตอนที่ขอจูบมือมันเมื่อตอนหัวค่ำ
น่ารักดี ดูแล้วรู้สึกว่ามันน่ารักไม่เหมือนใคร

"นี่...หลับจริง ๆ หรือแกล้งหลับวะ ตื่นมาคุยกันหน่อยไม่ได้หรือไง หนูน้อยแก้มแดง"

ทานตะวันค่อย ๆ ยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ คนที่หลับสนิทและกระซิบบอกที่ข้างหูของอีกฝ่ายเสียงเบา

อ้อนขยับกายเล็กน้อย และหันหน้าหนีไปอีกทาง ส่งเสียงอืออาในลำคอ เหมือนไม่พอใจที่ถูกรบกวน

ทานตะวันแอบหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดโมโหในยามหลับของอ้อน
คราวนี้เลยถือโอกาสวางมือลงไปที่เอวของคนที่นอนหันหลังให้ และขยับกายเข้าไปใกล้ ๆจัดการยึดหมอนของอ้อนมาเป็นของตัวเอง
และวางปลายคางไว้บนศีรษะของอ้อน ก่อนจะก้มลงแตะปลายจมูกที่เส้นผมนิ่มเบา ๆ

"อือ" ร่างที่นิ่งเงียบขยับกายอย่างช้า ๆ และปรือตาตื่นขึ้น เมื่อถูกรบกวน
สายตาค่อย ๆ ปรับให้ชินกับความมืด และต้องสะดุ้งสุดตัว รีบผุดลุกขึ้นนั่งเมื่อสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากร่างที่กกกอดเอาไว้

"เฮ้ย ไอ้ ไอ้ทาน มานอนอะไรตรงนี้เนี่ย เตียงมีทำไมไม่นอน"

อ้อนทำเสียงเอะอะโว้ยวาย และทานตะวันที่แกล้งหลับ ก็ลุกขึ้นนั่งทันที

"อารายของเมิงวะไอ้อ้อน คนจะหลับจะนอนโอ้ย ทำเสียอารมณ์หมด ทำไมแค่นอนด้วยแค่นี้ทำเป็นหวง รีบ ๆ นอนซะทีง่วงจะตายแล้วโว้ยยยยยยยย"

เล่นได้เนียนที่สุด อ้อนไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับคนที่มาแย่งที่นอน จะขึ้นไปนอนบนเตียง ก็ไม่ใช่ จะให้ลงไปนอนใกล้ ๆ ทานตะวันก็ไม่กล้า
จนเมื่อถูกฝ่ามือของคนที่นอนนิ่ง ๆ รั้งให้ลงไปนอนเคียงข้าง คราวนี้ในใจเลยเต้นระทึกไม่เป็นส่ำ ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง ดีที่ดับไฟแล้วไม่อย่างนั้น คงได้อายและทำหน้าไม่ถูกแน่

"อือ หนาว"

ทานตะวันแกล้งนอนตะแคงข้างและคว้าตัวของอ้อนเข้ามากอดเอาไว้แน่น ใบหน้าห่างกันแค่คืบ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ

ส่วนอ้อนเวลานี้นอนเกร็งตัวแข็งทื่อ อยากจะยกท่อนแขนหนัก ๆ ของอีกฝ่ายออก ก็ไม่กล้า ดวงตากลมโตหลุกหลิกไปมา และหลับตาแน่นหายใจไม่ทั่วท้อง
จนทานตะวันต้องอมยิ้มกับท่าทางขัดเขินของคนในอ้อมแขน

"ไม่ดิ้นรนขัดขืนหน่อยเหรอจ๊ะตัวเอง เอาแบบนางเอกหนังไทยจะโดนพระเอกปล้ำน่ะ นึกว่าจะเล่นตัวซะหน่อยนี่ดันยอมง่าย ๆ ...พระเอกก็ไม่สนุกสิจ๊ะ"
 


ไอ้ทาน ไอ้ทานมัน มันแกล้งอีกแล้ว ไอ้ ไอ้ ไอ้ อร๊ากกกกกกกกกกกก นี่กูจะทำยังไงกับมึงดีเนี่ย ไอ้บ้าเอ้ยยยยยยยย

เพียงเท่านั้น อ้อนที่นอนนิ่ง ก็พยายามลุกขึ้น แต่ก็สู้แรงของคนตัวโตที่กดแขนลงมาไม่ได้

"ไม่ได้หลับจริง แล้วจะมาแกล้งอะไรอีกวะ ไหนบอกวันนี้ไม่แกล้งแล้วไง ไอ้ทาน อึก โอ้ยยยยยยย จะมาเล่นมวยปล้ำรอบดึกหรือไงวะ ไม่เหนื่อยบ้างเลยมึง ไอ้บ้าโอ้ยยย"

อ้อนพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่อีกฝ่ายกลับมีเรี่ยวแรงมากกว่า ทั้งใช้แขนกดที่ฝ่ามือของอ้อน ทั้งหัวเราะชอบใจอย่างสนุกสนาน ยื้อยุดกันอยู่อย่างนั้นเป็นนาน
จนในที่สุดคนที่อ่อนแอกว่าก็พ่ายแพ้ และนอนหอบหายใจหนัก เพราะสู้แรงของคนแกล้งไม่ไหว

"แฮ่ก แฮ่ก ไอ้ทาน อื้อ เหนื่อยแล้วนะ โธ่โว้ย"

อ้อนสบถออกมา และยังคงพยายามแกะมือที่รัดที่รอบเอวเอาไว้ให้ออกไปจากตัว แต่ยิ่งแกะก็ดูเหมือนว่าคนที่กอดจะกอดรัดแน่นขึ้น

"เฮ้ย หยุดซะทีเหอะ เหนื่อยแล้ว ง่วงแล้วด้วย ทักว่าเป็นนางเอกหนังไทยหน่อยทำเป็นสะดีดสะดิ้งทันทีเลยนะ สงสัยอยากเป็นนางเอกหนังไทยจริง ๆ"

ถ้อยคำที่หยอกล้อ ให้หงุดหงิดโมโห และเสียงหัวเราะแผ่ว ๆ มันช่างกวนประสาท จนอ้อนได้แต่ทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ เพราะไม่รู้จะเถียงยังไงให้ชนะ

"รีบ ๆ นอนซะทีสิวะ กูบอกว่าง่วงแล้ว อย่ามาตั้งเงื่อนไขให้มากนักได้มั้ย กะอีแค่ขอใช้เป็นหมอนข้างกอดเล่นแค่เนี้ย ทำเป็นมีมารยาอยู่เฉย ๆ เลย กูจะนอน"

ไม่ใช่การหยอกล้ออีกแล้ว น้ำเสียงของทานตะวันกลายเป็นเสียงที่เคร่งขรึมและจริงจัง และอ้อนก็จำใจต้องนอนนิ่ง ๆ เป็นหมอนข้างให้คนตัวโตกอดเล่น
หงุดหงิดโมโห เมื่อได้ยินคำว่าหมอนข้าง นี่เห็นเป็นหมอนข้างจริง ๆใช่มั้ย สงสัยจะจริงถึงได้ทำเป็นเฉยแบบนี้ ทีกูตื่นเต้นแทบตาย ไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลยนะมึงไอ้ทานบ้า

อ้อนนอนคิดด้วยความหงุดหงิดโมโห และเมื่อถูกกดใบหน้าให้ซุกซบลงที่แผ่นอกกว้างของทานตะวัน ก็ยิ่งโมโหหนักมากขึ้น
เห็นเป็นหมอนข้างจริง ๆใช่มั้ย ถึงได้แกล้งกันแบบนี้ ไอ้ทานนะไอ้ทาน กูเกลียดมึงโว้ยยยยยยยยยย

"นี่...รีบ ๆ หลับ ๆ ไปซะทีเหอะ หมอนข้างห่าอะไรวะ แข็งเป็กไปทั้งตัว กอดไม่สบายเลย จะนอนเกร็งอะไรกันขนาดนั้นวะ สงสัยอยากเป็นนางเอกหนังไทย
กลัวกูปล้ำหรือไง ถ้ายังทำตัวแข็งทื่อแบบนี้...เดี๋ยวกูก็ปล้ำจริง ๆ หรอก..เอางั้นมั้ย"

ทานตะวันอมยิ้มเมื่อได้แกล้งให้อ้อนโมโห ฝ่ามือที่กำแน่นของอ้อนทุบเข้าที่แผ่นอกของคนกอด และทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ เพราะความไม่พอใจ แต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้น
ไม่ได้ออกฤทธิ์ออกเดชมาก เพราะไม่อยากต่อปากต่อคำกับคนที่เถียงเท่าไหร่ก็ไม่เคยชนะอย่างทานตะวัน

"เออ ให้มันมีชีวิตชีวาหน่อย นอนตัวแข็งทื่อ ไม่ชอบ ชอบแบบมีอารมณ์โกรธแบบนี้แหละ สะใจดี กูชอบบบบบบบบ"

เหมือนได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของคนบ้า อ้อนอยากจะดิ้นรนอีกสักรอบ แต่ติดที่ว่าร่างกายไม่อยากทำตาม
ไม่เคยมีใครมากอดเวลานอน อึดอัดหรือเปล่า คำตอบก็คือไม่ ออกจะชอบด้วยซ้ำ ที่ได้สัมผัสไออุ่นร่างกายกันแบบนี้

คนตัวโตเงียบเสียงไปแล้ว และอ้อนก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ยังคงนอนลืมตาโพลงในความมืดทั้งที่ร่างกายถูกกอดเอาไว้แน่น

มีคำถามมากมายผุดขึ้นในหัว แต่ก็ไม่มีข้อไหนที่อยากจะตอบ

ได้แต่ปล่อยให้ความคิดไหลเรื่อย

ไม่ต่างจากทานตะวันที่ไม่ยอมหลับตา ยังคงกอดกระชับร่างในอ้อมแขนเอาไว้แน่น ทั้งที่มีคำถามเกิดขึ้นกับตัวเอง
หนึ่งในนั้น คือคำถามที่ว่า ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ แล้วทำไมถึงได้มานอนกอดอ้อนแบบนี้

ตอบตัวเองไม่ได้ และไม่คิดจะหาคำตอบ

จากที่หยอกล้อกันอย่างแรง และทำเหมือนอึดอัดใจที่ต้องมากอดกัน แต่ในเวลาไม่นาน
อ้อมแขนที่ทำเหมือนแกล้งรัดร่างของอ้อนก็คลายออก แปรเปลี่ยนเป็นการกอดเอาไว้หลวม ๆ อย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นไม่ใช่การกลั่นแกล้งกันเหมือนในคราวแรก
ไม่ต่างจากอ้อนที่ค่อยๆ เบียดกายเข้าหาไออุ่นของอีกฝ่าย อย่างช้า ๆ โดยไม่รู้ตัว

ไม่ได้นอนเกร็งแข็งทื่อเหมือนหลายนาทีก่อนและออกจะรู้สึกดีด้วยซ้ำ ที่ได้นอนเงียบ ๆ และปล่อยความคิดให้ไหลไปเรื่อย ๆ อย่างนี้

ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ แต่รู้สึกถึงความอบอุ่น
ไม่รู้ว่าตกอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันด้วยความเต็มใจได้อย่างไร

เปลือกตาค่อย ๆ หนักอึ้งอย่างช้า ๆ แม้จะกระพริบตาถี่ ๆ ซ้ำหลายครั้งก็ไม่อาจห้ามให้ตัวเองฝืนความง่วงได้
ร่างสองร่างยังคงมอบอ้อมแขนอันแสนอบอุ่นให้กันและกัน โดยลืมคิดเรื่องกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ไปชั่วขณะ

อ้อนหลับตาลงอย่างช้า ๆ

และในเวลาต่อมา ทานตะวันก็เผลอหลับโดยไม่ทันรู้ตัวด้วยเช่นกัน

ไม่รู้ว่ารู้สึกดีมากแค่ไหน
ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกดีมากขนาดนี้

แต่สิ่งที่ได้รับรู้

คือรู้สึกดีจนไม่อยากห่างกันไปแม้สักวินาทีเดียว

TBC...
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 28-05-2007 19:53:57
   


             ...........หือ............ขัดใจอย่างแรง..........เมื่อไรทานจะเลิกทำเป็นเล่นซะที..... :angry2:



                 ...แต่มาต่อเร็วนะครับเรย์.......รูปลูกน่ารักจัง.... :laugh3:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-05-2007 19:57:48
หุหุ ทานนี่ลูกเล่นเยอะจัด  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 28-05-2007 20:50:19
"รู้สึกดีจนไม่อยากห่างกันไปแม้สักวินาทีเดียว"  ก้อบอกรักกันเร็วๆจิ ลุ้นจะแย่แล้วเนี้ยย  :onion_asleep:


ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 28-05-2007 22:14:35
 :-[ :-[  นอนกอดกันแบบไม่ขัดขืนแล้ววววว  :haun5: :haun5:  เมื่อไหร่จะยอมสารภาพความรู้สึกกันก็มะรู้นะครับ  o17 o17
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 28-05-2007 23:43:03
น่ารักมากเลย ชมเลยว่าเขียนได้ถูกใจผมมากๆอ่านมาหลายตอนแล้ว

แอบอมยิ้มคนเดียวประจำเลย (จนพี่ที่ทำงานข้าง แอบรู้แล้วว่าอู้งานมาอ่าน เนี่ยอิอิ)
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 29-05-2007 09:10:46
รีบๆบอกความในใจกันซะทีเถ้อ . . . ลุ้นจนตัวโก่งแล้วเนี่ย

อย่ามัวแต่วางฟอร์มกันนักเลย คนอ่านเหนื่อยแทนอ่ะ :try2:

ขอบคุณมากครับ o1
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 29-05-2007 10:46:07
ตามลุ้นติดๆ ไปอีกคน

คงน่าจะเหมือนกับทุกคนแหละมั้ง

อยากให้รีบๆ เข้าใจกันซะที

จาได้ happyๆ

ปล or ลป.  เหนว่ารูปนั่นเป็นรูปลูก  แต่เอ๊ะ  :o  ลูกใคร  ลูกคุนบลูเหยอ   อิอิ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 29-05-2007 16:34:15
กอดกันแล้ววววว

ต่อไปก็...

 :o8:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 29-05-2007 23:52:16
 :amen: :amen:  มารอต่อครับผม  :amen: :amen:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Felm ที่ 30-05-2007 02:51:48
มายังน๊า.... :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 30-05-2007 07:53:12
เช้าแล้ว มาต่อได้แล้วคร้าบคุณเรย์   :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 30-05-2007 09:18:05
เอิ้กๆ รูปเด็กทั่วไปอ่ะ เอามาขู่พวกชอบก่อกวนในบอร์ด
*********************
เรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เล่น...



--------------------------------------------------------------------------------



ทานตะวันนอนตะแคงข้างและท้าวแขนไว้ที่ศีรษะ
ถือวิสาสะใช้ปลายนิ้วสอดไปที่ระหว่างข้อนิ้วมือของอ้อนและเขย่าเล่นนอนคุยกันไปเรื่อยเปื่อย โดยไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำทุกอย่างได้เหมือนปกติขนาดนี้

"คุณแม่บอกว่าน่าจะไปทำบุญเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้ากัน วันเกิดหนูน้อยแก้มแดงทั้งที นาน ๆ ทีถึงจะมีโอกาสเอาขนมเอาอะไรไปแจกบ้าง
ไปมั้ย เนี่ยไม่เคยไปเหมือนกัน วันหยุดนี้ไปกันเถอะแล้วจะทำอะไรเลี้ยงเด็กดีชอบกินอะไรอ่ะ ไม่เห็นเคยบอกเลย"

อ้อนทำหน้าครุ่นคิดและเอ่ยบอกออกไป

"เลี้ยงกับข้าวที่กินได้ง่าย ๆ แล้วก็ไม่เผ็ดดีกว่ามั้ง เดี๋ยวเด็กกินไม่ได้ ยุ่งเลย"

การให้ข้อคิดเห็นทำให้ทานตะวันพยักหน้า แล้วก็เลยนอนคุยกันเรื่อยเปื่อย ทั้งที่ฝ่ามือของคนตัวโตยังเขย่ามือของอ้อนเล่นอยู่อย่างนั้น

"เหรอ เอางั้นเหรอ คุณแม่บอกว่าให้ถามว่า....มึง...อ้อน...เอ่อ ไอ้อ้อน มึง...ทำไมไม่ยอมคุยกับคุณแม่วะท่านรักมึงจะตายแต่มึงชอบทำเป็นเฉย
โกรธอะไรแม่ของตัวเองแท้ ๆ ทำไมถึงไม่ยอมคุยกันวะ บอกหน่อยได้มั้ย"

เป็นเพราะคืนก่อนได้มีโอกาสนั่งคุยกับแม่ของอ้อนเลยทำให้ทานตะวันได้รู้อะไรหลาย ๆ เรื่อง
แม้แต่เรื่องที่ไม่คิดว่าจะได้รู้ คงเป็นเพราะเรื่องแย่ ๆ สมัยก่อนของคนที่นอนจ้องหน้าทำตาแป๋วคนนี้แหละนะ
ถึงทำให้เมื่อคืนนี้ทานตะวันใจอ่อน ไม่อยากส่งเสียงรบกวนให้อีกฝ่ายสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก
แล้วก็อยากจะโอบกอดร่างที่หลับใหลเอาไว้ จะว่าสงสารก็ไม่ใช่ แต่มันรู้สึกแปลก ๆ
อยากลองปกป้องใครสักคนดู คนที่น่าปกป้อง และน่าดูแลมากกว่าใคร คนที่ชอบทำหน้าเฉยชา แต่ในใจแฝงไปด้วยความรวดร้าวที่เจ้าตัวปกปิดเอาไว้ไม่ยอมให้ใครรับรู้

ใบหน้าของอ้อนซีดเผือดลง และพยายามดึงมือของตัวเองออกจากมือของทานตะวัน เตรียมหยัดกายลุกขึ้นหนีทันที แต่ก็ถูกกดไหล่ให้นอนลงอีกครั้ง

เรื่องเดียวไม่ได้หรือไง

แค่เรื่องเดียวไม่รู้สักเรื่องได้มั้ย

จะให้บอกเล่าถึงความงี่เง่าของตัวเองกับคนอื่นอย่างนั้นเหรอ ก็รู้ว่าไม่มีทางทำได้ แล้วจะอยากรู้ไปทำไม

"ทำไมล่ะ ทำไมถึงไม่ยอมคุยกับแม่ของตัวเอง กู...เอ่อ...ทาน..ทีเรา..เอ่อทีกูยังอยากได้แม่น่ารัก ๆ แบบนี้มาเป็นแม่ของตัวเองเลยนะอ้อน"

ยิ่งถามซ้ำซากจะเอาคำตอบให้ได้ อ้อนก็ยิ่งหุบปากเงียบ ไม่เอ่ยปากพูดอะไรออกมาอีก

เพราะการเงียบคือคำตอบ เพราะความรู้สึกกดดันเข้ามาแทนที่ ทานตะวันนอนเอนกายลงนอนเคียงข้างกับคนที่นิ่งเงียบและหลบสายตาไม่ยอมพูดจาอีก
แล้วก็เลยพาลไม่เข้าใจยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้คาดคั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อน อยากรู้อะไรก็จะต้องรู้ให้ได้ไม่มีทางปล่อยให้อีกฝ่ายมาอมพะนำไม่พูดไม่จาแบบนี้

แต่ถึงวันนี้แล้ว ก็กลับไม่อยากทำอย่างนั้น ถ้าจะต้องทำให้คนที่ไม่ยอมเล่าเรื่องของตัวเองคนนี้ยอมปริปากพูดอะไรออกมาบ้าง คงเป็นเรื่องยากเต็มที
ก็หนูน้อยแก้มแดงมันดื้อเงียบ ไม่พอใจมันก็เงียบ เกลียด หรือโกรธมันก็ไม่ยอมพูด ไม่ยอมแสดงท่าทางอะไรออกมา แต่ชอบสร้างบรรยากาศกดดันให้เครียด
มันคงไม่รู้ตัวหรอกมั้ง ว่าเป็นคนแบบนี้

"ปวดหัวเข่าอีกมั้ย เออ เดี๋ยวนี้เห็นเดินได้ดีขึ้นนี่ ยังปวดหัวเข่าอยู่หรือเปล่า ไหนขอดูหน่อยสิ ไม่เคยเห็นแผลซะทีว่ะ แต่ดูแล้วหายเร็วเหมือนกันนะ"

คนตัวโตลุกพรวดพราดขึ้น และเอื้อมคว้าผ้าห่มที่คลุมอยู่ที่ปลายเท้าของคนอ้อนขึ้นเพราะอยากจะเห็นให้ชัดอีกสักครั้ง

"ไม่ต้องดูหรอกน่า" คนที่แกล้งนิ่งเงียบ หยัดกายลุกขึ้นนั่ง และพยายามดึงผ้าห่มลง ไม่ยอมให้ทานตะวันได้เห็นขาของตัวเอง

แล้วคนที่หาเรื่องเบี่ยงเบนความสนใจก็ยอมหยุดแต่โดยดี

"อือ ไม่ดูก็ได้ กี่โมงแล้วอ่ะ นาฬิกาวางไว้ตรงไหน เช้า ๆ แบบนี้หนาวเหมือนกันนะ หนาวมั้ย"
 


คงเป็นเพราะเป็นเช้าของวันหยุด เลยพาลทำให้ไม่อยากตื่นนอน คนที่บอกว่าหนาวทิ้งกายลงนอนอีกครั้งและดึงแขนให้อ้อนตามลงมานอนเคียงข้างกัน

ที่นอนแสนคับแคบ หมอนใบใหญ่ของอ้อนทานตะวันก็ยึดไปเกือบหมด เหลือพื้นที่ไว้ให้นิดเดียว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

"นาน ๆ เปิดพัดลมนอนก็ดีเหมือนกันนะ อยู่บ้านก็ห่มผ้าผืนหนาแต่เปิดแอร์ซะเย็น พอมานอนแบบนี้แล้วก็ดีไปอีกแบบเหมือนกัน
ไม่ได้ไปซ้อมหลายวันแล้ว ไอ้พวกที่ชมรม แม่งคงตีปีกดีใจกันแล้วป่านนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะฝึกโหด เอาให้มันตายกันเกลื่อนพื้นเลยคอยดู"

เข้าสู่ช่วงโหดร้ายอีกครั้ง ดีได้ไม่กี่วัน ทานตะวันก็เข้าสู้ช่วงโหดร้าย อ้อนหัวเราะเสียงเบา รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกกับแผนการณ์ร้ายของทานตะวัน

สะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วพบว่านอนอยู่ในอ้อมแขนของคนตรงหน้า โดนทานตะวันกอดรัดแน่นไม่ยอมปล่อยเพราะอารมณ์อยากแกล้งของคนบ้าตั้งแต่เมื่อคืน
แต่พอตื่นขึ้นในตอนเช้ากลับไม่ได้รู้สึกแย่ แถมยังเผลอซุกกายเข้าหาแผ่นอกกว้างที่กอดเอาไว้ด้วยซ้ำ

แล้วก็ไม่ยอมตื่น หลับไปทั้งอย่างนั้น จนเมื่อคนตัวโตขยับกาย ถึงค่อยปรือตาตื่นขึ้น หลังจากนั้นก็เลยนอนคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยเปื่อย
ทั้งที่ยังมืดอยู่แท้ ๆ แต่ทานตะวันก็ชวนคุย จนกระทั่งรุ่งสาง

"หัวเราะทำไม ตัวเองก็เหมือนกัน ทำดีด้วยตั้งหลายวันแล้ว เบื่อ ไม่ทำดีด้วยแล้ว เมื่อคืนขาก็ไม่ยอมนวดให้ น้ำก็ไม่ช่วยอาบ
แถมต้องเอาเสื้อไปซักแล้วก็ตากเองอีกต่างหากเป็นเจ้าบ้านประสาอะไร ไม่รู้จักดูแลเจ้าหนี้อย่างเรา"

ช่างเป็นคำพูด ที่สมควรโมโห
แต่อ้อนก็ขมวดคิ้วมุ่น และอมยิ้มอย่างสบายใจ

"ก็ว่างั้น ถ้าเกิดวันไหนเป็นคนดีเต็มขั้นขึ้นมา กลัวว่ะ กลัวว่าจะคิดดอกเบี้ยเพิ่มด้วย แค่นี้ก็ไม่มีปัญญาจะใช้หนี้ให้อยู่แล้ว ขู่อยู่นั่นแหละ ขู่อยู่ได้ทุกวัน กลัวจะแย่"

แล้วก็โดนประชดเข้าให้

ใบหน้ายิ้ม ๆ ของคนตัวโตหุบยิ้มและทำหน้าบึ้งกะทันหัน อ้อนเองก็หุบยิ้มเหมือนเพิ่งรู้สึกตัวว่าคงพูดคำพูดที่ทำให้ทานตะวันโกรธขึ้นมาอีกแล้ว

"เป็นคนดีไม่ชอบ อยากให้เล่นบทโหดหรือไง เดี๋ยวเล่นให้ดู มานี่เลยยยยยยยยยย หนูน้อยแก้มแดงจงกลายเป็นโรตีไปซะ เดี๋ยวนี้"

ผ้าห่มผืนบางถูกทานตะวันตลบผ้าและผลักคนที่นอนอยู่บนฟูกให้กลิ้งไปกลิ้งมาจนตอนนี้ตัวของอ้อนถูกผ้าห่มห่อเอาไว้ จนไม่สามารถขยับร่างกายได้

"ไอ้ทาน อ่ะ อื้อออ แกะไม่ออก อร๊ากกกกกกกกกกกก อย่าเล่นเซ่ ปล่อยโว้ยยยยยยยย ไอ้บ้าทาน"

อ้อนทั้งอยากจะหัวเราะและอยากจะบ้าตายกับสิ่งที่คนบ้าหามาเล่น อะไรของมันโตป่านนี้ยังจะเล่นอะไรของมันวะเนี่ย

"อะไรไม่พอใจ ไม่พอใจเหรอ ดี ไม่พอใจแหละดี มานี่เลยเมื่อยใช้มั้ย มาจะทำให้หายเมื่อย รับรองหายแน่นอน"

ร่างกายของอ้อนถูกจับให้พลิกคว่ำลง ตามมาด้วยมือของทานตะวันที่จัดการยกขึ้นประสานกัน และสวมวิญญาณบ๋อยประจำคาเฟ่
ใช้มือที่พนมเข้าหากัน สับเข้าไปที่กลางหลังของอ้อนอย่างหมั่นเขี้ยว ส่วนคนที่โดนแกล้งเอาแต่หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง พยายามตะเกียกตะกายออกมาจากผ้าห่มให้ได้

"อร๊ากกกกกกกกกกก ทาน ไอ้ทานพอแล้ว ฮ้า หายใจไม่ออก ช่วยด้วย แฮ่ก แฮ่ก"

อ้อนพยายามดึงผ้าห่มออกจากตัวให้ได้ แต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อมือกำลังจะเอื้อมไปดึงผ้าห่มได้ คนแกล้งก็จัดการดึงมือของอ้อนออกทันที และยังคงสวมวิญญาณบ๋อยคาเฟ่ไม่เลิก

"เหนื่อยแล้ว ทาน หายใจไม่ออกแล้ว อั่ก เร็ว หายใจไม่ออกจริง ๆ ไม่เล่นแล้ว"

ออกแรงกันเล็กน้อยตอนเช้า แล้วคนตัวโตก็ยอมให้อ้อนแกะผ้าห่มออกจากตัวได้ ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งเคียงข้างกัน
ฝ่ามือเรียวปัดเส้นผมที่ปรกที่หน้าผากของตัวเองออก และยังมีอาการเหนื่อยหอบอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนคนตัวโต ยังหัวเราะไม่เลิก เมื่อหันมามองแก้มขาว ๆ ที่แดงเรื่อของอีกฝ่าย แล้วก็หุบยิ้มไม่ได้

"ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายสิเรา..เล่นแค่นี้ก็เหนื่อยแล้วนี่"

คำถามที่เอ่ยถาม ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าช้า ๆ และรอยยิ้มจืดชืดของอ้อนก็ทำให้ทานตะวันอมยิ้มไม่เลิก

"ก็จะไปทำอะไรได้ กระดูกเดาะตอนรถคว่ำ ออกกำลังกายอะไรไม่ได้ซักอย่าง ไม่งั้นจะเจ็บกระดูก ขาก็เป๋ แก่ตัวไปสงสัยลำบากแน่ ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน"

เพียงแค่นิดเดียว
เพียงเรื่องเล็กน้อยที่อ้อมยอมพูดออกมาบ้าง
แต่ทานตะวันกลับตั้งใจฟังเป็นอย่างดี

.........รถคว่ำ....เมื่อสองปีก่อน........งั้นเหรอ
 


"ก็แก่ไปพร้อมกันไม่ใช่หรือไง ใครจะไปรู้เรื่องของพรุ่งนี้วะ คิดมาก"

ฝ่ามืออุ่น ๆ ยกขึ้นแตะที่เส้นผมของอ้อนที่แทบผงะหนี กับท่าทางของคนตรงหน้า

เฮ้ย อะไรของมันอีกล่ะเนี่ย ตามไม่ทันนะโว้ย

ถึงแม้จะคิดอย่างนั้น แต่อ้อนก็นั่งนิ่ง ๆ ให้อีกฝ่ายแตะมือลงมาที่ศีรษะของตัวเองได้
อบอุ่นใจเล็ก ๆ แต่ไม่อยากบอก แอบเหลือบสายตามองใบหน้าที่ยังหัวเราะไม่เลิกของทานตะวัน ก็ทำให้ต้องยิ้มตาม

ไม่เคยรู้ว่าแท้จริงแล้ว คนที่ทำท่าทางร้ายกาจจนทำให้เกลียดยิ่งกว่าเกลียด จะดีด้วยขนาดนี้ ถึงไม่รู้จุดประสงค์ว่าทานตะวันทำอย่างนี้เพราะอะไร
แต่ก็อดดีใจไม่ได้


"ขอจูบทีสิ"

และแล้วก็กลับสู่สภาวะไอ้บ้าโรคจิตเหมือนปกติ อ้อนอ้าปากค้าง และทำตาโตอีกรอบกับคำขอที่เอ่ยออกมาดื้อ ๆ ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยของทานตะวัน

อีกแล้ว

มันเอาอีกแล้ว

มันดีได้ไม่ถึงห้านาทีมันก็หาเรื่องแกล้งอีกแล้ว

คราวนี้อะไรอีกล่ะ อะไรของมันอีก

"ไม่เอาที่นี่แล้วนะ นี่ก็ไม่เอา ขอตรงนี้"

ปลายนิ้วของคนที่เอ่ยปากขอสิ่งที่ทำให้อ้อนตาค้าง ชี้นิ้วไปที่ข้อมือและข้างแก้มของอ้อน ก่อนจะส่ายหน้า และแตะปลายนิ้วชี้อย่างแผ่วเบาไปที่ริมฝีปากแดงเรื่อของคนที่นั่งทำตาโตอยู่ตรงหน้า

ไม่ทันได้ปฏิเสธ ไม่ทันได้บอกปัด แต่ดวงตาคมที่จ้องนิ่งมองมา ทำให้ลมหายใจของอ้อนติดขัด ใจเต้นระทึก ใบหน้าเนียนขาว แดงเรื่อ และเตรียมขยับออกห่าง
แต่ก็ช้ากว่าฝ่ามือของทานตะวันที่คว้าร่างของอีกฝ่ายเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้หนี

นัยน์ตาคมจ้องนิ่งสบตากับดวงตากลมโตที่มีแววไหวระริกและหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย
อ้อนแทบหยุดหายใจเพราะรู้สึกถึงความจริงจังยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ของทานตะวัน

"นะ...."

ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา แต่ในไม่ช้าเมื่อใบหน้าคมเคลื่อนเข้ามาใกล้ อ้อนกลับยอมปิดเปลือกตาลงอย่างช้า ๆ
ไม่รู้ว่ายอมทำแบบนี้ได้ยังไง
แต่เหมือนเป็นการยอมรับสัมผัสที่อีกฝ่ายกำลังจะมอบให้แบบกลาย ๆ โดยไม่ทันรู้ตัว

TBC.....


 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 30-05-2007 09:31:20
ย๊ากกกก   ยอมจูบกันแล้ว   

วิ๊ด  วิ่วววววว   ชอบเรื่องนี้จางงง
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 30-05-2007 09:53:51
จุ๊ฟฟ กันอีกแล้ว :-[


ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 30-05-2007 09:56:03
จู๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-05-2007 10:26:36
กอดแล้ว..

จูบแล้ว..

ที่เหลือก้อออออออออออออออออออออออ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 30-05-2007 11:08:17
 :-[ :-[ :-[

ลุ้นตามแทบขาดใจ  :try2:

 o1 o1
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 30-05-2007 13:14:04
อิอิ จูบกันแล้ว รีบๆบอกรักกันเลยดิ อิอิ :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 31-05-2007 01:51:25
เมื่อไหร่จะยอมรับรักกันน๊ออออ :give2:

ขอบคุณครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 31-05-2007 11:40:45
 o17 o17  เด๋วนี้ขอจูบก็ให้จูบ   o17 o17

แล้วเมื่อไหร่จะสารภาพซะทีนะครับเนี่ยะ :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-06-2007 06:31:36
ว้าว จูบกันแล้ว  :like6:  :like6:  :like6:  :like6:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 01-06-2007 06:55:50
รออ่านฉากต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ  :-[  :-[  :-[

เมนต์ที่สิบแล้วเรย์  มาต่อให้ไว  o11

ปล  คิดถึงคนโพสจัง  :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-06-2007 07:46:19
ยอมจูบกันแล้ว แสดงว่าใจที่เคยปิดกั้นคงเปิดรับกันแล้ว

ปล.คิดถึงคนอ่านมากๆเลย รู้ตัวมากไหม
 :-[
*****************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน กัด

ไม่รู้ตัวว่าแผ่นหลังเอนลงแตะฟูกนอนตั้งแต่เมื่อไหร่
อาจจะนับตั้งแต่ช่วงเวลาที่หัวหมุนเพราะรสหวานจากริมฝีปากร้อนรุ่มและปลายลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดแนบแน่นแทบไม่เปิดโอกาสให้หายใจ
หรืออาจจะเป็นเพราะสัมผัสร้อนรุ่มแต่แผ่วหวานในทีที่ทำให้แทบหยุดลมหายใจ
ความรู้สึกที่ได้สัมผัสคือความอ่อนโยน นุ่มนวล ไม่ได้เรียกร้องให้ตอบสนอง แต่ก็ร้องขออยู่ในที

ดวงตากลมโตหรี่ปรือ ลมหายใจหอบหนัก
แทบไม่รู้สึกตัวเมื่อปลายจมูกโด่งเคลื่อนประทับที่ข้างแก้มและไล้เรื่อยลงมาที่ซอกคอซุกไซร้กลั่นแกล้งให้ส่งเสียงครางเพราะความรู้สึกที่ถูกปลุกปั่นมากขึ้น
ใบหน้าเนียนขาวแดงเรื่อ ไม่ต่างจากความรู้สึกรุมร้อนของคนที่แตะต้องร่างที่ไหวสะท้านและมอบสัมผัสอ่อนโยนให้

ใบหน้าคมเคลื่อนเข้าหาแนบชิดกับผิวแก้มเนียน และลากไล้ริมฝีปากสัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากสีแดงเรื่อจูบซับที่ริมฝีปากบนล่างก่อนจะแทรกปลายลิ้นเข้าหาอีกครั้ง
และร่างนั้นก็เปิดรับสัมผัสแต่โดยดี

สติเริ่มเลือนลาง ความรู้สึกยามปกติถูกกลืนหายไปท่ามกลางความรู้สึกอบอุ่นที่ต่างมอบให้กันและกันโดยไม่รู้ตัว

หวาน ยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ

อ่อนโยนมากกว่าครั้งใด ๆ

"อื้อ อึก"

ดวงตากลมโตหรี่ปรือตื่นขึ้น เมื่อรับรู้ถึงความอุ่นร้อนของฝ่ามือที่ลากสัมผัสค่อย ๆ เคลื่อนเข้าไปภายในเสื้อนอนและลูบไล้แผ่นอกบางอย่างถือวิสาสะ

"อ้อน" เหมือนได้ยินเสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยนแผ่วโหยที่ลากเสียงยาว ๆ เรียกชื่ออยู่ห่างไกลออกไป แต่อ้อนไม่อยากรับรู้ว่าเป็นเสียงของใคร

ฝ่ามือเรียวแตะปลายนิ้วลงบนลาดไหล่กว้าง กดปลายเล็บลงไปอย่างช้า ๆ ตอบรับความเย็นชื้นของปลายลิ้นร้อนที่โลมเล้าอยู่ภายในโพรงปาก
สัมผัสความรู้สึกอ่อนหวานได้ไม่นาน ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว ปฏิกิริยตอบสนองทันใจ เมื่อฝ่ามือเรียวรีบผลักไหล่ของร่างที่คร่อมทับออกห่าง
และรีบผุดลุกขึ้นนั่ง จัดแต่งเสื้อผ้าผมเผ้าให้เข้าที่ และถอยหนีห่างจากคนตรงหน้า ต่างฝ่ายต่างรีบผละจากกันไปคนละทิศละทาง
เมื่อได้ยินเสียงเคาะหนัก ๆ ที่ประตูหน้าห้องหลายครั้ง

ตามมาด้วยเสียงเรียก

"อ้อน...ตื่นยังลูก...ทานด้วย...เดี๋ยวแม่จะไปตลาดหน่อย เฝ้าบ้านนะลูก"

อ้อนเงยหน้าขึ้นและเอ่ยตะโกนตอบออกไป ทั้งที่น้ำเสียงยังสั่นไหว และแผ่วโหย แทบไม่มีแรงพูด
ไม่ต่างจากทานตะวันที่ นั่งลูบผมตัวเองอยู่อีกมุมหนึ่งของฟูกนอน รู้สึกว่าหัวใจเต้นตึก ๆ ตัก ๆ ชาวูบไปทั้งใบหน้า
และนาทีต่อมาถึงได้รับรู้ว่าใบหน้าร้อนวูบเมื่อหันไปสบตากับดวงตากลมโตที่ยังมีแววหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย

คำถามถัดมาคือเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้น

แค่จูบแบบอยากรู้อยากลอง อยากจริงจังดูสักครั้ง
แต่กลับเลยเถิดไปเกือบถึงไหนต่อไหน โดยที่ไม่ทันรู้สึกตัว

มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน

ทานตะวันยกฝ่ามือขึ้นลูบไล้เส้นผมของตัวเองไปมา ไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปดี เลยได้แต่นั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ อยู่อย่างนั้น

ส่วนคนที่อยู่ห่างออกไปอีกมุม อยู่ในอาการไม่ต่างกัน เพราะนอกจากจะรู้สึกถึงความร้อนที่ใบหน้า
ความรู้สึกที่ริมฝีปากและข้างแก้มก็ยังไม่ยอมจางลงสักนิด

ไม่กล้าสบตากับคนตัวโตที่นั่งเงียบห่างออกไป

คิดไม่ออกว่าควรโวยวายโมโหดีหรือไม่ หรือควรทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นดี

สมองครุ่นคิดด้วยความสับสน

และในนาทีต่อมาถึงเพิ่งรู้สึกว่าทำเรื่องแย่ ๆ แปลก ๆ ลงไปแล้ว

อ้อนจัดการเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยของตัวเอง และขบเม้มริมฝีปากแน่น ภายในใจยังเต้นระทึก ต้องใช้เวลาเป็นนานกว่าจะปรับลมหายใจให้เป็นปกติได้

และเมื่อร่างที่นั่งอยู่ห่างออกไปขยับกาย อ้อนก็ถึงกับสะดุ้งสุดตัว รีบก้มหน้าก้มตา ทำทีเป็นเอื้อมไปคว้าผ้าห่มมาพับ แต่กลับใจตรงกันกับทานตะวันอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อฝ่ายนั้นก็กำลังทำสิ่งที่อ้อนคิดจะทำเหมือนกัน

ฝ่ามือแตะเข้าหากันอย่างรวดเร็ว และก็ต้องรีบผละจากกันอย่างรวดเร็ว

ทำหน้าไม่ถูก ทำตัวไม่ถูก ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูดก่อน

นอกจากความรู้สึกที่ได้ส่งให้กันไม่ยอมจางหาย แถมซ้ำกลับจะเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ
 


ทำอะไรอยู่วะกู......ทำอะไรลงไปเนี่ย
ทำอารายลงปายยยยยยยยยยยยย

ทานตะวันได้แต่ร่ำร้องอยู่ภายในใจ เหมือนคนบ้า เกิดมาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองจะหน้าชา และรู้ซึ้งถึงคำว่าอายได้มากขนาดนี้

แล้วยิ่งเรื่องที่ทำลงไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน นั่นมันอะไร มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แค่ขอจูบไอ้เป๋เล่น เพราะว่าเห็นว่าปากมันน่าจูบ แค่นั้น แค่นั้นจริง ๆ อยากจะย้ำกับตัวเองว่าเพียงแค่นั้น

แต่ทำไมมันถึงเลยเถิดไปได้ ทำอะไรลงไปวะ

ลูกหนี้ คนใช้ ไอ้เป๋เนี่ยนะ ไอ้อ้อนหน้างอเนี่ยเหรอ มันเป็นผู้ชายเหมือนกันนะโว้ยยยยยยย

"เฮ้ย จงใจเหรอ กะ กะ อีแค่ผ้าห่มผืนแค่นี้เดี๋ยวพับเองแหละน่า...ไป..ไปเก็บหมอนก็ได้นั่นไงกระเด็นไปถึงมุมห้องแล้ว"

เป็นคำพูดที่ไม่ค่อยสวยหรูมากนัก แต่อ้อนก็รีบทำตามที่ทานตะวันบอกอย่างรวดเร็วไม่ต้องให้รอช้า

อะไรก็ได้ อะไรก็ได้ที่จะทำให้รู้สึกอึดอัดใจน้อยลงกว่านี้ อยากทำอะไรก็ได้ ที่จะทำให้ไม่ต้องเงียบเหมือนคนใบ้

บรรยากาศมันแปลกเกินไป

ไม่ได้อึมครึม

แต่เหมือนต่างฝ่ายต่างกำลังเขินกันเอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน


คนตัวโตพยายามพับผ้าห่มโดยวิธีการรวบเข้าหากันแต่ก็แทบจะทำไม่ได้ดั่งใจ เมื่อรู้สึกว่าตอนนี้มือกำลังสั่น แอบเหลือบสายตาไปมองใครอีกคน
ก็เห็นว่าอ้อนจัดหมอนไปวางไว้บนเตียงไม่เสร็จสักที

ในวินาทีต่อมา ริมฝีปากของคนที่พยายามพับผ้าห่มกลับมีรอยยิ้มจุดอยู่ที่มุมปาก เมื่อจ้องมองภาพของอ้อนที่กำลังจัดหมอนวางไว้บนเตียง
แล้วก็ต้องรีบหันกลับมาทำเป็นฟอร์มด้วยการพับผ้าห่ม และพยายามหุบยิ้มเพื่อปั้นหน้าขรึมให้ได้ แต่กลับทำไมได้ ไม่ว่ายังไงก็ทำไม่ได้

เป็นนานที่ทานตะวันยืนหันหลังอยู่อย่างนั้น และรวบรวมความกล้าหันไปถามอ้อนที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย

เอาวะ เพื่อให้บรรยากาศมันดีขึ้น มันจะอะไรนักหนา เรื่องปกติน่า จะเป็นห่าอะไรแต่เช้าว่ะ เรื่องจิ๊บจ๊อยแค่นี้เอง

"เฮ้ย อ้อน...รอยอะไรที่คอวะแดงเลย สงสัย...ยุง....กะ....กะ..."

เข้าตัว

ขุดหลุมฝังตัวเอง

ตอกย้ำเรื่องที่ต้องพยายามทำเป็นลืมให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

พูดไม่ทันจบ แล้วทานตะวันก็กลายเป็นใบ้ภายในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที

ดวงตากลมโตเบิกกว้างรีบตะครุบมือที่ซอกคอของตัวเองและวิ่งไปยืนอยู่ที่หน้ากระจกเพื่อจ้องมองรอยแดงช้ำจาง ๆ ที่ปรากฎให้เห็นชัดแล้วคราวนี้ใบหน้า
ยิ่งแดงก่ำเมื่อรู้ว่าไม่ใช่รอยยุง.......แต่เป็นฝีมือของคนที่เอ่ยถาม

ไอ้ทาน

มึงแกล้งกูให้อาย แล้วตัวมึงเองก็ทำเป็นเฉย ที่ได้ยั่วให้กูสติแตกเป็นแค่คนบ้าในสายตาของมึง

นี่เหรอการทำดี

แค่ทำให้ตายใจว่าจะดีด้วย ทำให้อาย ทำให้เขิน ทำให้ใจสั่นกับผู้ชายด้วยกัน ทำให้กลายเป็นแค่ไอ้บ้าคนหนึ่ง แล้วมึงก็ทำเป็นนิ่งเฉย หัวเราะเยาะเย้ยหยันอยู่ในใจคนเดียวสินะ

ทั้งที่รู้ว่าอาย ทั้งที่รู้ว่ากำลังจะไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่สิ่งที่อ้อนทำหลังจากนั้นคือ..........

การขบริมฝีปากแน่น และหลับตาลงสูดลมหายใจลึก ๆ ให้เต็มปอด และรีบหันมาเผชิญหน้ากับคนตัวโตที่ยืนเป็นใบ้อยู่กลางห้อง

ทานตะวันเลิกคิ้วขึ้น เหมือนอยากจะรู้ว่าอ้อนจะพูดอะไร

แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่ออ้อนเดินเข้าหาอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้ตั้งตัวและใช้มือยึดไหล่ของคนที่ยืนนิ่ง ๆ เอาไว้แน่น
ฝังรอยฟันไว้ที่ซอกคอของร่างสูงใหญ่ในทันที

การกัดอย่างรุนแรง ทำให้คนตัวโตร้องลั่น และผลักร่างของอ้อนออกห่างตัว ใช้มือกุมที่ซอกคอด้วยความเจ็บ
และผละหนี

 
..................

"ไอ้อ้อน โอ้ยยยยยยยยย เจ็บ กัดทำไมวะ....หือ งับลงมาได้ เป็นหมาบ้าหรือไง เจ็บนะโว้ยยยยยย"

ถึงจะแหกปากร้องโวยวายลั่น แต่อ้อนก็ใช้หลังมือเช็ดถูที่ริมฝีปากของตัวเองด้วยความรู้สึกสะใจเล็ก ๆ ที่ได้เอาคืนได้
แล้วในเวลาไม่นานถึงได้รู้ว่าสึกตัว......ว่าหลังมือไม่ได้แตะแค่ริมฝีปากแต่กำลังเช็ดถูคราบน้ำตาที่หลั่งทะลักออกมาจากดวงตา และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้ง่าย ๆ

"อยากแกล้งเอง สนุกล่ะสิ....ถ้ากูมีรอยตอนนี้มึงก็มีรอยมากกว่ากูแหละวะไอ้ทาน...ฮืออออออออ ไอ้บ้า...กูอายเป็นนะโว้ย...ต่อไปกูกับมึงเป็นแค่ลูกหนี้เจ้าหนี้กันเหมือนเดิมไปเลย
ไม่ต้องมาแกล้งทำดีด้วยหรอก คอยดูนะ คอยดู จะหาเงินมาใช้หนี้ให้หมดเลย แล้วก็จะเลิกข้องเกี่ยวกับมึงให้ได้ ไอ้ทาน ไอ้โรคจิต บ้า ไอ้บ้าทานกูเกลียดมึงโว้ยยยยยย"


เจ็บที่ซอกคอ

และงง

ทานตะวันยืนหน้าเอ๋อ จะเข้าไปปลอบใจคนที่ยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ไม่ได้

หรืออยากจะร้องไห้แทนอีกฝ่ายก็ร้องไม่ออก

จะยิ้มหรือจะโกรธ หรือจะทำหน้ายังไงก็ยังไม่รู้ ได้แต่ยืนลูบคอตัวเองและยังรู้สึกถึงความเจ็บเพราะคมเขี้ยวของคนที่กัดลงมาไม่ยั้ง

อ้อนเปิดประตูห้องและรีบเดินลากขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ลงมาข้างล่าง ทั้งที่ยังร้องไห้ไม่หยุด

ส่วนทานตะวันได้แต่ยืนเป็นใบ้ อยู่กลางห้อง ยังคงมึนงง ไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อไป

"อายเป็นเหมือนกันเหรอ....เออกูก็อาย.....บ้า...แล้วเล่นมากัดแบบนี้จะให้กูเดินเอามือกุมคอไปให้แม่มึงเห็นหรือไงวะ ทำไมไม่มาช่วยกันคิด รอยฟันชัดขนาดนี้จะให้บอกว่าหมาที่ไหนกัดดีล่ะวะ"

ทานตะวันยืนบ่นงึมงำอยู่อย่างนั้น ก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเตียง
ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและหัวเราะเหมือนคนบ้าแทบจะหยุดไม่ได้รู้สึกชอบใจกับการเอาคืนของคนที่ร้องไห้โวยวายจากไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เอาคืนอะไรของมัน เอาคืนแบบนี้ ก็ได้กำไรสิวะ ไอ้เป๋มันเป็นบ้าอะไรของมันไม่รู้
แต่ที่รู้คือมันน่ากอดรัดฟัดเหวี่ยงชะมัด

ผิวเนื้อนุ่ม ๆ ริมฝีปากหวาน ๆ ใบหน้าขาว ๆ ที่เอียงหลบตอนที่ฝังปลายจมูกลงไปหนัก ๆ
อะไรมันจะเร้าอารมณ์ขนาดนั้น ไม่น่าเชื่อว่าอย่างไอ้อ้อนจะทำให้รู้สึกแบบนี้ได้ ไม่น่าเชื่อ ไม่อยากเชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้ว

แล้วมันเริ่มน่ารักน่าฟัดน่าหมั่นเขี้ยวตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

ห้านาทีก่อนนี้

หนึ่งชั่วโมงก่อน

วันก่อน

สัปดาห์ก่อน

หรือเดือนก่อนวะ

ไม่รู้โว้ย ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ รู้แต่ว่าตอนนี้ ต้องไปหามันก่อน ป่านนี้ร้องไห้ไปถึงไหนแล้วล่ะนั่น

"จูบนิดจูบหน่อยทำเป็นเล่นตัว กอดนิดกอดหน่อยทำเป็นเขิน กัดนิดกัดหน่อยทำเป็น.......ทำเป็น...ทำเป็นอาย....ถ้าไม่ชอบขนาดนั้นแล้วตอนที่จูบ
ทำไมถึงได้ครางเสียงอ่อนเสียงหวานแบบนั้นวะ......ยั่วให้อยากแล้วจากไปนี่หว่า......เดี๋ยวถ้าเจอกูจะทบต้นทบดอกนะโว้ยยยย"

ทานตะวันพูดไปยิ้มไป

แล้วก็ลุกขึ้นเปิดประตูะก้าวเดินออกจากห้อง เดินลงบนไดมาอย่างช้า ๆ สายตาสอดส่ายหาคนที่ฝากรอยฟันเอาไว้ที่ซอกคอ อยากจะรู้ว่าตอนนี้อ้อนไปอยู่ที่ไหน

"อย่าให้เจอนะมึง......อย่าให้เจอ....ถ้าเจอนะไอ้อ้อน......สวยแน่...จะกัดคืนทั้งตัวเลยคอยดู"

TBC

 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 01-06-2007 08:10:10
เมือไรทานจะหายโรคจิตร  :o11:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 01-06-2007 09:50:22
ทานจะกัดคืน  ทั้งตัว  เลยเหรอ

อุอุอุ :haun5:

ง้านเดวไปรอดูละกัน  คริๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 01-06-2007 10:08:53
 :interest:
ฮิ้วววว...
อายแล้วกัดคอ   :haun5:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 01-06-2007 10:31:54
ว่ะฮะๆ  :laugh: :laugh:

อ้อนเอ้ยยย  :o9:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 01-06-2007 11:10:52
กลายเป็นซาดิสม์ไปซะแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 01-06-2007 11:19:55
 :haun5: :haun5:  คาดว่าทั้งทานทั้งอ้อนคงอารมณ์กระเจิดกระเจิงไปหมดแล้วชะมะคับ o3 o3
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 01-06-2007 11:43:42
ไม่พูดไรมาก

แต่อันนี้เมนท์ที่เจ็ดแล้ว อีกสามครบสิบ

มาต่อด่วนเลย อย่าให้วิบนะ

 :angry2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-06-2007 13:58:21
เม้นต์ที่ 8  :interest: รอลุ้นด้วยคน  :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 01-06-2007 14:11:28
อ่านเรื่องนี้แล้วอมยิ้มฟามสุขเนอะ

ว่ามะ นู๋ shell รีบนจ๋า  :-[
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 01-06-2007 14:27:57
ขอเจือกตอบแทนทิพย์ได้มะ เจ้ที่ร๊ากก   
มีความสุขจริงๆ ด้วย  น่ารักเจงๆ อิอิ

ปนกับโรคจิตอีกอย่าง คือ เข้าทู้นี้ต้องเข้ามานั่งนับเมนต์อะ 
เม้นต์ที่สิบแล้วเฟ้ยยยยย  เรย์มาต่อให้ไว มามะ o11  o11

ปล  คิดถึงคนโพสเหมือนเคยนะ  จุ๊บๆ  :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 01-06-2007 15:11:25
เร้าอารมณ์ขึ้นเรื่อยๆ

 :-[

เม้นท์ที่ 11
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-06-2007 16:36:42
รู้สึกจะร่วมแรงร่วมใจกันคอมเม้นต์นะ นัดกันป่าวเนี่ยะ คิกคิก
*********************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน สงครามประสาท

ทานตะวันใช้หน้าแข้งเดาะบอลอยู่กลางสนาม ทั้งที่สายตาคอยแต่จะมองหาคนที่นั่งทำตาหยีอยู่ข้างสนามห่างออกไป

อ้อนมันไม่เต็มใจมาหรอก ไม่ใช่เพิ่งไม่เต็มใจ แต่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้วนี่

ไม่พูดกันมาเกือบสามวันแล้ว แล้วก็คงไม่พูดกันไปอีกหลายวัน

นับตั้งแต่วันนั้น ที่........

คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วกัปตันทีมก็ใช้หน้าแข้งเดาะบอลขึ้นไปอยู่บนหัว พยายามเลี้ยงลูกบอลให้อยู่ให้ได้นานที่สุด
อยากมีสมาธิอยู่กับการวอร์มอัพร่างกาย แต่สายตาก็คอยแต่จะมองหาคนที่อยู่ห่างออกไปตลอดเวลา

อ้อนไม่ยอมพูดด้วย แล้วก็แทบจะไม่ยอมมองหน้า

ก่อนหน้านั้นต้องรีบกลับบ้านโดยด่วน เพราะไม่กล้าโชว์รอยฟันของใครบางคนที่จงใจกัดให้เจ็บ แล้วก็ยังเหลือรอยมาจนถึงวันนี้
ถ้าคุณแม่เห็นเข้า จะให้อธิบายยังไง ไม่มีเหตุผลที่สมเหตุสมผลเลยสักข้อ

แล้วไงล่ะ วิ่งลงมาหา ไอ้เป๋มันก็ยืนหน้างอ เช็ดน้ำตาป้อย ๆ อยู่อย่างนั้น พูดด้วยก็ไม่ยอมพูด คุยด้วยก็ไม่ยอมคุย
เห็นแล้วอยากจะคว้ามากอด มันกลับไม่ยอมให้แตะตัวซะนี่
สุดท้ายเลยต้องถอยทัพกลับบ้านแต่โดยดี แอบน้อยใจอยู่ลึก ๆ แต่จะให้ทำอะไรได้

กลับบ้านมาก็นอนไม่หลับ โทรไปหาก็ไม่ยอมพูด ตะคอกก็แล้ว โมโหใส่ก็แล้ว ก็ยังทำเป็นเฉย ก็เลยเอาบ้างเหมือนกัน
โกรธได้ โกรธไป นึกว่าโกรธเป็นคนเดียวหรือไง คนอื่นโกรธไม่เป็นอย่างนั้นสิ

สุดท้ายแล้วตอนนี้ก็อยู่ด้วยกันแบบโกรธ ๆ กันไม่พูดไม่จากันมาหลายวัน

แต่คราวนี้แปลกตรงที่ว่า อยากจะโกรธกันทะเลาะกันแบบนี้ให้นาน ๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ไอ้อ้อนนะไอ้อ้อน นึกว่าง้อตายเลยนะ หน้าอย่างนั้น แก้มแดง ๆ หน้างอหงิก หงิก ๆ งอ ๆ ไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหน

ทานตะวันหน้าบึ้ง ทั้งที่คิดแต่เรื่องไม่ดี แต่กลับแอบอมยิ้มเล็ก ๆ จัดการใช้เท้าเตะลูกฟุตบอลอัดเข้าเสาสองและเดินหงุดหงิดหัวเสียมาหารุ่นน้องที่ยืนผวาอยู่ไม่ไกลจากกันนัก

"เฮ้ย....เอ็งอ่ะ...พกหมวกมาเปล่าวะ...เห็นเอ็งมีนี่วันก่อนพี่ยังเห็นอยู่เลย เอามายืมหน่อยเด่ะ"

รุ่นน้องยืนเอ๋อ อ้าปากค้าง และวิ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ไปหยิบหมวกที่วางอยู่ข้างสนาม แฟนไม่มาเชียร์วันนี้ หมวกที่พกมาด้วยเลยไม่มีความจำเป็น

แล้วพี่ทานจะเอาไปทำอะไรของแก หรือว่า แกกลัวร้อนเลยขอยืมหมวก

รุ่นน้องยังคงงง แต่ทานตะวันรีบคว้าหมวกแก๊ปจากมือของคนที่ทำหน้างงมาไว้ในมือโดยไม่มีการขอบคุณสักคำ

แล้วก็ก้าวขายาว ๆ วิ่งลิ่ว ๆ ออกไปนอกสนาม

เพื่อไปหาคน ๆ นั้น........... และหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร่างที่นั่งชันเข่าอยู่บนพื้นข้างสนาม

 


ดวงตากลมโตที่เหลือบขึ้นมอง แววตาที่เฉยชา

เออ ทำให้ได้ตลอดแล้วกัน โกรธเข้า โกรธให้บ้ากันไปข้างหนึ่งเลยดีมั้ย โกรธให้เป็นบ้าตายไปเลย

ทานตะวันจัดการยัดเยียดหมวกแก๊ปใส่บนหัวของอ้อน แต่อ้อนก็พยายามจะดึงออกไม่ยอมรับสิ่งที่ทานตะวันมอบให้

"อย่ามามากเรื่องได้มั้ย ไม่เห็นหรือไง วันนี้แดดร้อน ใส่ ๆ เข้าไปเหอะ จะตายหรือไง เรื่องแค่นี้ทำไมต้องทำตัวมีปัญหาด้วย"

คำพูดรุนแรงจนกลายเป็นตะคอก อ้อนปล่อยมือออกแล้ว และก้มหน้าลงนิ่งเงียบไป
ส่วนคนตัวโตที่วิ่งออกมาจากสนาม ได้แต่ถอนหายใจยาวเหยียด

"เฮ่อออออออ โกรธกันให้ตายไปข้างหนึ่งเลยแล้วกัน แม่ง ดูแล้วกันว่าใครมันจะบ้าไปก่อนกัน แล้วจะคอยดู"

เป็นคำพูดของทานตะวันที่บ่งบอกถึงความหนักอกหนักใจอย่างเห็นได้ชัด

อยากจะคิดว่านี่มันอะไรกันวะ คนใช้บ้าอะไรกล้ามาโกรธเจ้าหนี้รายใหญ่อย่างเรา คอยดูเถอะ คอยดูเถ๊ออออออออออออ อย่าให้.....อย่าให้
อย่าให้.......

โธ่โว้ยยยยยยยยยยย

แทนที่จะทำหน้าเบื่อโลก แต่ทานตะวันกำลังจะหัวเราะและหยุดรอยยิ้มของตัวเองเอาไว้ไม่ได้
ต้องรีบวิ่งเหยาะ ๆ กลับไปที่กลางสนามด้วยความเร็วก่อนที่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ

โดยมีสายตาของอ้อนจ้องมองร่างที่ผละจากตาไม่กระพริบ

อาจจะใช่ที่แสดงท่าทางปันปึงแบบนี้ แล้วจะให้ทำยังไง ในเมื่อเข้าใกล้ไอ้ทานทีไร ใจมันจะเต้นรัว มือก็สั่น
สมองก็เอาแต่รีเพลย้อนกลับไปที่ภาพเก่า ๆ ภาพนั้นตลอดเวลา

เป็นแบบนั้นตลอด กินก็เห็น นอนก็เห็น หลับก็เห็น

เผลอทีไร ปลายนิ้วก็มาแตะที่ริมฝีปากตัวเองทุกที แล้วก็คิดถึงเรื่องนั้นอีกนับครั้ไม่ถ้วน

หน้าแดง

ร้อนไปหมดทั้งตัว ........

ทำตัวไม่ถูก ไม่กล้าสบตา ไม่กล้ามองหน้า ไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะทันสังเกตเห็นอาการแปลก ๆ แบบนี้
ถ้าไอ้ทานมันรู้ล่ะ ถ้ามันรู้.......ถ้าเกิดมันรู้ขึ้นมา

แล้ว........จะ...จะ...จะ...จะบอกมันได้ยังไง....ว่าเป็นอะไร

อีกครั้งที่อ้อนต้องรีบหรุบสายตาลง พยายามไม่มองตามแผ่นหลังกว้างของคนที่วิ่งห่างออกไป และพยายามตั้งสติให้มั่นคงเข้าไว้

สูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ อีกครั้ง แต่สุดท้ายก็อยากจะตะโกนร่ำร้องออกมาให้ดังที่สุด แต่ทำได้แค่รีบปิดปากตัวเองเอาไว้

เมื่อเงยหน้าขึ้น จิตใจยังคงคิดถึงสัมผัสอบอุ่นจากปลายนิ้วของคนที่หาหมวกมาให้ใส่คนนั้น สัมผัสเบาบางยังไม่จางลงแม้สักนิดเดียว

"ห่าเอ้ย...เอาอีกแล้วไงกู...ไอ้ทาน..แม่ง..แง่ง..งื้อ...ฮือออออออออออ อย่าเข้าใกล้กูมากกว่านี้ได้ม้ายยยยยยย กูจะตายอยู่แล้วนะ ไอ้บ้าเอ้ย"

เสียงบ่นงึมงำ พร้อมกับที่อ้อนยกมือขึ้นตบแก้มของตัวเองเบา ๆ หลายครั้ง เพื่อเรียกสติกลับคืนมา

แต่ทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้น

สายตากลับมองหาและไล่ตามคนที่วิ่งไปวิ่งมาอยู่กลางสนามทุกครั้ง

ทานตะวันเจิดจรัสอยู่ภายใต้แสงตะวัน

แต่อ้อนที่นั่งอยู่ห่างออกไป กำลังจะละลายเพราะไม่อาจทานทนกับความร้อนรุ่มภายในใจของตัวเอง

สาเหตุทั้งหมดไม่ได้มาจากใคร
แต่มาจากคนตัวโตที่วิ่งไล่ตามลูกฟุตบอลอยู่กลางสนามคนนั้นเพียงคนเดียว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



"บ๊วย...."

คำสั่งห้วน ๆ ทำให้อ้อนที่แทบจะหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของประตูรถต้องรีบคว้ากระปุกบ๊วยหวานที่วางอยู่หน้ารถมาและรีบเปิดฝากระปุกทันที

แน่ล่ะ มือสั่น........แต่คิดเข้าข้างตัวเองว่าทานตะวันคงไม่ทันเห็น เพราะเอาแต่ทำหน้าขรึม บวกทำหน้าบึ้ง และสายตาก็จับจ้องมองที่ถนน

แต่ใครจะรู้ถึงจิตใจของคนที่ทำหน้าบึ้งคนนั้น

ไม่ให้กลับบ้านหรอกวันนี้...........

ไปนอนบ้านกูนี่แหละไอ้อ้อน เป็นไงเป็นกันสิวะ ทะเลาะกันให้ตายไปข้างเลยแล้วกัน

ทานตะวันคิดไปคนละเรื่อง แต่อ้อนคิดไปคนละทาง

นึกถึงเรื่องเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะเป็นบ้าแล้วแน่ ๆ

ใบหน้าร้อนวูบเมื่อเดินตามเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อ

ทุกอย่างเป็นปกติเหมือนทุกวัน

ไอ้ทานมันก็หน้าด้านเหมือนทุกวัน โยนเสื้อผ้าให้ตามเก็บ แล้วก็คว้าผ้าขนหนูเดินลิ่ว ๆ ไปอาบน้ำเหมือนทุกวัน แต่ที่แปลกออกไปคือคนที่นั่งตัวลีบอยู่ติดประตูรถ

ตาเยิ้มหวานหยด จ้องมองอย่างไม่คิดจะเกรงใจ แล้วสุดท้ายเมื่อรู้สึกตัวต้องรีบก้มหน้าก้มตาหนีทันที
พยายามทำหน้าบึ้งเข้าไว้ แต่จิตใจเอนไปเอนมาอย่างไม่ต้องเดาว่าสาเหตุมาจากใคร


จนเมื่อเดินตามมาขึ้นรถด้วยกันใจก็ยังเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่ยอมหาย แล้ว........เวลานี้......

บ๊วยเม็ดเล็ก ๆ ถูกส่งให้ที่ริมฝีปากของทานตะวัน แต่เจ้าตัวเม้มปากไม่ยอมรับเอาไว้ แล้วก็แกล้งทำหน้าเฉยจนอ้อนต้องรีบลดมือลง
เตรียมหย่อนเม็ดบ๊วยลงกระปุกเหมือนเดิม

"ใครให้เอามือลง บอกว่าให้ป้อนไม่ได้ยินหรือไง จะกินไม่กินไม่เกี่ยวมีหน้าที่ป้อนก็ป้อนมาสิ"

เสียงพูดห้าวห้วน ท่าทางหงุดหงิดโมโหที่แสดงออกมาให้เห็นได้ชัดทำให้อ้อนถึงกับหน้าซีดเผือดลง
ครั้งนี้ไม่ใช่ใจเต้นรุนแรง ตามมาด้วยอาการหน้าแดง
แต่เป็นใจเต้นรุนแรงตามมาด้วยอาการหน้าซีด

มือยังคงถือเม็ดบ๊วยค้างอยู่อย่างนั้น และจ่อให้ที่ริมฝีปากของทานตะวันอยู่เป็นนาน

แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าคนที่ออกคำสั่งจะยอมกินบ๊วยที่ป้อนให้สักที

ใจแกว่งไปแล้ว ตามมาด้วยอาการเมื่อยมือ

แล้วในวินาทีที่คิดจะลดมือลง พร้อมกับความรู้สึกที่ว่า ............วันนี้โดนแกล้งอีกแล้ว..............

อยากจะโกรธคนที่ทำหน้าบึ้งที่กำลังสนใจกับการขับรถ แต่กลับทำไม่ได้อย่างที่ใจคิด

ดวงตากลมโตค่อย ๆ เหลือบสายตาไปมองหน้าของทานตะวันอีกครั้ง ด้วยความน้อยใจลึก ๆ

กำลังจะยกมือกลับ ปลายนิ้วของคนแกล้งกลับดึงเม็ดบ๊วยเอาไปไว้ในมือของตัวเอง และหันหน้ากลับมาหาอ้อน พร้อมกับป้อนเม็ดบ๊วยหวานให้กับคนที่นั่งชิดติดกับประตูรถ

"กินเดี๋ยวนี้....เป็นคำสั่งเข้าใจมั้ย"

น้ำเสียงเข้ม ๆ ห้าว ๆ ที่สั่งให้ทำตามคำสั่ง เพียงเท่านั้น อ้อนก็ยอมเปิดปากรับสิ่งที่ทานตะวันป้อนให้แต่โดยดี

ความรู้สึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ค่อย ๆ ไหลบ่าเข้ามาในภายในใจอย่างรวดเร็วจนท่วมท้นล้นทะลักออกมา

ความรู้สึกนั้น ..........คือความเขินอาย............

ถึงแม้จะเป็นคำพูดห้าวห้วน การกระทำที่ไม่น่าชื่นชมเลยสักนิด แต่กลับให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป

ใช่.......มันเป็นคำสั่ง....

คำสั่งที่เหมือนการออดอ้อนอยู่ในที โดยที่ตัวคนพูดไม่ทันรู้ตัว
ถ้าเป็นการยัดเยียดให้ คงรู้สึกแย่
แต่วินาทีที่นัยน์ตาคมทอดมองมา...กลับส่งผ่านความรู้สึกอ่อนหวาน และอ่อนโยนที่ทำให้อ้อนรู้สึกขัดเขินและทำตัวไม่ถูกขึ้นมาได้ในทันที

"เอามือมาเดี๋ยวนี้......."

เสียงเข้ม ๆ แต่มีแววสั่นไหวอยู่ลึก ๆ อ้อนยอมยกมือขึ้นและทานตะวันก็รีบคว้าฝ่ามือเย็นชื้นนั้นเอาไว้ กุมไว้แน่น ทั้งที่มืออีกข้างยังจับพวงมาลัยรถ

จะมีใครรู้ ตลอดระยะเวลาสามวันที่ผ่านมา ทานตะวันออกคำสั่งแปลก ๆ แบบนี้นับครั้งไม่ถ้วน

ไม่ใช่การพูดว่าขอกอดหน่อยเหมือนเมื่อก่อน แต่บอกมา "มานี่เดี๋ยวนี้ จะกอด"

ทานตะวันคิดว่ามันได้ผลดีที่สุด

ไอ้อ้อนทำเหมือนฝืนใจ แต่ก็ยอมให้กอด....แย่หน่อยที่ว่า มันจะให้กอดทั้งที่ทำหน้าบึ้งแล้วก็ทำเหมือนไม่เต็มใจ

แล้วตัวสั่นขนาดนั้นทำไม.........ยั่วชัด ๆ

อ้อนนั่งตัวลีบแก้มแดงอยู่แทบติดประตูรถ

ส่วนทานตะวันทำหน้าบึ้ง เงียบขรึม ทั้งที่ไม่ยอมปล่อยมือของอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ และยังคงกุมมือเย็นชื้นของอ้อนเอาไว้แน่น

ดูท่าสงครามประสาทคราวนี้ ต่างฝ่ายต่างก็คงอยากจะยืดเยื้อให้นานแสนนาน

TBC...
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 01-06-2007 17:23:35
จะมีแบบว่า หวานกันแบบจริงๆจังๆ อ่ะ มีบ้างป่ะ

ดีแป๊ปเดียว สงครามเกิดขึ้นอีกแล้ว   :onion_asleep:



ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-06-2007 18:03:33
ตอบเจ้สองน้า รู้สึกเหมือนพิมเลย มีความสุขปนโรคจิตนิด ๆ เลย   :try2:
แต่ก็ลุ้นน่าดูเนอะ สองคนก็คิดกันไปคนละทาง บางทีก็โกรธกัน ทะเลาะกัน งอนกัน เขินกัน  :o8:
มีหลายรสชาติดี แต่ที่แน่ ๆ อ่านแล้วก็อมยิ้มมีความสุขค่ะ  :like6:
ขอบคุณเรย์ที่เอาเรื่องดี ๆ มาลงให้อ่านกัน  o15
ปล.เม้นต์ที่สองแล้ว  :teach:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 01-06-2007 19:06:00
เมื่อไรจะคุยกันดีๆซะทีน๊า  :amen:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 01-06-2007 19:38:40


               ..............จะทะเลาะกันอีกนานไหมก๊าบ.......แบบว่าขัดใจ....... o12


               ..............แต่เข้ามาอ่านทีไรได้ยิ้มกลับไปทู๊กกกกกกกกกที.....ชอบ..ๆ.... o13
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 01-06-2007 20:30:52
555 เป็นสงครามประสาทที่ออกแนวหวานปนจิตๆนิดๆนะเนี่ย ชอบคร้าบบบบบบบบบบบ :impress2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 01-06-2007 21:05:49
ก็คนมันเขินนี่นา  :-[ :-[ :-[


ปล. เมนต์ที่ 6  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 02-06-2007 01:20:16
อ่า . . . ชอบชอบ

น่ารักปนโรคจิตหน่อยๆแบบนี้แหละดี เร้าใจดี ชอบ . . .  :impress2:

ขอบคุณนะครับ รีที่7แล้วเน้อ :yeb:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 02-06-2007 12:09:25
เครียด ไม่พูด

รู้แต่อันนี้เมนท์ที่ 8

เข้าใจ๋

 o12
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 02-06-2007 12:34:38
 :haun5: :haun5:  เล่นอารายกันเนี่ยะ  น่ารักจังเยย  o17 o17

รี9 แล้วนะครับ :o10: :o10:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 02-06-2007 12:49:50
555 สงครามประสาท  ยังไงก็เป็นประสาทแบบน่ารักๆ อะเนอะ   :laugh3:  :laugh3:

แล้วเม้นต์นี้ก็..... เม้นต์ที่สิบแล้วคร๊าบบบบบบพี่น้อง   :laugh:  :laugh:  :laugh:

เรย์ที่ร๊าก อยู่ไหน  มาต่อให้ไว มามะ  o11  o11
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-06-2007 13:38:19
ว่างๆนัดไปจีบคนแถวศรีธัญญากันดีปะ
ตรงสเป็คเพื่อนๆแน่
 :laugh3:
**************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เรื่องอะไร

"แฟนไง แฟน ก็คนเป็นแฟนกัน คิดถึงกันมาเฝ้ากันไม่เห็นแปลกเลย"

เหรอ มาเฝ้ากันด้วยเหรอแฟนเนี่ย

"คิดถึงไง อยากเจอ อยากอยู่ด้วยตลอด อยากทำอะไรดี ๆ ให้ คนเป็นแฟนกันนี่หว่า"

เหรอ เออ คนเป็นแฟนกันงั้นเหรอ

"เพราะรักไง...รักมาก ๆ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข"

ทานตะวันสะดุ้งสุดตัว รีบเหลียวมองหาคนที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ

ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง ก็มันได้ยินเอง

ไม่ได้อยากรู้อยากเห็น แต่หูมันฟังตลอดเวลา

รัก.........เลยเหรอ

ทานตะวันที่นั่งเก็กหน้ามาตลอดทั้งวัน เงยหน้าขึ้นมองอ้อน ที่ยกแก้วขึ้นจิบน้ำ ไม่ยอมสบตา และมือยังคงพยายามจะคีบปลาหมึกแต่คีบไม่ได้สักที

อยู่ด้วยแล้วมีความสุขงั้นเหรอ ความสุขที่ว่า

ใช่แค่การนั่งมองหน้าแล้วก็กินข้าวด้วยกันเงียบ ๆ แบบนี้โดยไม่ต้องรู้สึกอึดอัดใจหรือเปล่า

ถ้าใช่.........

แล้ว...........
แล้ว..........

ทานตะวันเริ่มขมวดคิ้ว แล้วเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ตางหน้า อ้อนยังคงพยายามกับการจับตะเกียบอยู่แต่ก็ไม่เห็นว่าความพยายามจะสัมฤทธิ์ผลตอนไหน
ปลาหมึกถูกคีบส่งใส่จานให้กับคนที่มีความพยายามแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ อ้อนเงยหน้าขึ้นและชะงักนิ่งเล็กน้อย เมื่อเห็นทานตะวันทำหน้าเครียด

โกรธอะไร

คีบปลาหมึกไม่ได้เลยไม่พอใจอย่างนั้นเหรอ ก็เลยสมเพชจนต้องคีบมาส่งให้

ตะเกียบถูกวางลงแล้ว

พร้อมกับที่อ้อนนั่งมองปลาหมึกในชามใบเล็ก ๆ
นั่งนิ่ง....นั่งเงียบ....ไม่ได้พูดอะไรออกมา
แต่ในความเงียบกลับมีบางอย่างแฝงอยู่

เจ็บนิด ๆ
แค่นิดเดียวเมื่อรู้ว่าตัวเองนอกจากจะไม่เป็นลูกหนี้หรือคนใช้ที่ดีแล้ว ยังทำให้ทานตะวันหงุดหงิดอยู่บ่อย ๆ
แล้วนี่ก็คงหงุดหงิดที่แค่หมึกตัวนิดเดียวยังไม่มีปัญญาคีบใช่มั้ย

คงใช่

ใช่แน่ ๆ

ใบหน้าเนียนขาว หมองเศร้าลง จนทานตะวันที่กำลังสนใจกับการคีบผักใส่จานต้องเงยหน้าขึ้นมอง

ไม่ชอบที่คีบปลาหมึกให้งั้นเหรอ

หรือว่าเกิดไม่พอใจอะไรขึ้นมาอีก ทำไมถึงได้ทำหน้าแบบนี้

"ไม่อร่อยเหรอ" ไม่ใช่น้ำเสียงที่ตะคอกเหมือนครั้งก่อน แต่เป็นเพราะเผลอเลยถามออกไป ด้วยน้ำเสียงที่แสนอ่อนโยน
รวมทั้งสายตาที่ทอดมองทำให้อ้อนต้องส่ายหน้า เพราะกลัวจะทำเรื่องที่ทำให้ทานตะวันไม่พอใจขึ้นมาอีก

"แล้วทำไมไม่กินไม่อยากกินหรือไง เห็นว่าคีบให้เลยไม่อยากกินงั้นสิ"

คำถามนั้นยิ่งทำให้อ้อน ส่ายหน้าแรงขึ้น

ไม่ใช่ไม่อยากกิน
ไม่ใช่อย่างนั้น ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่จริง ๆ

....................

"แล้วทำไมถึงไม่กิน"

ใบหน้าที่ยุ่งเหยิง ท่าทางที่เหมือนกำลังขัดใจ ยิ่งทำให้อ้อนรู้สึกแย่มากขึ้นแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดยังไงดี

แย่ที่ต้องอยู่ต่อหน้าคนที่ทำให้ใจสั่น และไม่เป็นตัวของตัวเอง
แล้วยังต้องมาแย่ที่คิดอะไรแล้วพูดไม่ออกแบบนี้

จะมีเรื่องแย่กว่านี้อีกมั้ย

"รักมันบอกไม่ได้หรอกว่ารักตอนไหน เวลาไหน รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว ขาดไม่ได้ว่ะ"

บทสนทนาจากโต๊ะแถวหลังห่างออกไป ยังคงแว่วเข้ามาในโสตประสาทของทานตะวันต่อไป
นัยน์ตาคมเหลือบขึ้นมองหน้าของอ้อนอีกครั้ง
และคิดตามทุกประโยคคำพูดนั้น

....ไม่ทันรู้ตัวก็รักไปแล้วงั้นเหรอ.....

แล้ว...มันเป็นยังไงเหรอ...รักใครสักคนเนี่ย
เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เข้าใจยากชะมัด ไม่อยากสนใจหรอก สนใจไอ้อ้อนดีกว่า เป็นอะไรอีกวะ

"เฮ้ย...จะกินหรือไม่กิน"

เสียงตะคอกกลับมาอีกครั้ง และอ้อนก็ค่อย ๆ เอื้อมมือไปคว้าตะเกียบมาถือไว้ในมือ แต่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองหน้าทานตะวันอีกเลย

ทำไมถึงได้คิดอะไรมากมายขนาดนี้
กังวล

ตกอยู่ภายใต้ความกังวล และความทุกข์ใจเล็ก ๆ
สับสน
ไม่รู้ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่กันแน่ บางครั้ง หน้าก็ร้อนขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ บางครั้ง แค่คำพูดเล็กน้อยที่แสดงความไม่พอใจของคนตรงหน้า
ก็ทำให้อยากร้องไห้ได้ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

ทำไมกันนะ

เป็นคนใช้ไม่ใช่เหรอ

ก็ในเมื่อเป็นคนใช้ ก็ต้องยอมรับอารมณ์ความรู้สึกของเจ้านายไม่ใช่หรือไง

"เย็นนี้....จะให้ช่วยถูหลังมั้ย"

นานหลายวัน กว่าจะมีประโยคคำพูดออกมาจากปากของอ้อน และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เป็นประโยคคำถาม
คำถามที่ทำให้ทานตะวัน ที่แกล้งทำเป็นไม่สนใจ ต้องเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง

......ทานถูหลังให้อ้อนดีกว่ามั้ง.....

ในใจคิดอย่างนั้น ไม่ยอมตอบคำถาม แต่ก้มหน้าลงซ่อนรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่จุดขึ้นที่มุมปากของตัวเองเอาไว้

อ้อนเงียบไปแล้ว เมื่อเห็นทานตะวันทำหน้าไม่พอใจ และไม่ยอมตอบคำถาม

มือยังคงจับตะเกียบและเขี่ยอาหารไปมา

ไม่อยากพูดดี ๆ ด้วยแล้วสินะ

ถึงไม่เคยพูดดี ๆ ด้วยอีกเลย

"เอ้า นั่งมองอยู่นั่นไม่กินหรือไง"

อ้อนวางตะเกียบลงแล้ว แล้วยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังกลายเป็นคนงี่เง่าทีเก็บเอาคำพูดทุกคำของทานตะวันมาคิด

ทุกเรื่อง ทุกคำ

ทุกท่าทาง ติดอยู่ในสมองจนไม่สามารถจะละสายตาไปไหนได้

ทั้งที่ไม่มีคำพูดไหนที่ทำให้รู้สึกดีได้เลย แต่ก็ยังคงฟัง ฟังเงียบ ๆ นิ่งฟัง แล้วก็รู้สึกเจ็บลึก ๆ ในใจคนเดียว

"ไม่พอใจอีก ไม่พอใจ เอาใจยาก เป็นคนใช้แบบไหน ถึงได้เอาใจยากแบบนี้"

เป็นคำพูดร้าย ๆ ตลอดสามสี่วัน แล้วทานตะวันก็ถอนใจยาวเหยียด รีบกดกริ่งเรียกให้เจ้าหน้าที่เดินมารับออเดอร์ของกินที่จะสั่งเพิ่ม

"วานิลลา ช็อคโกแล็ต วิปปิ้งครีมด้วย สองครับ คนหน้างอคนนี้เขาชอบผมรู้"

อ้อนฟังทุกคำพูดของทานตะวันด้วยความไม่เข้าใจ
คนหน้างอคนนี้เขาชอบ ผมรู้ งั้นเหรอ

"ไม่ได้ชอบ"

น้ำเสียงแผ่วเบาที่บ่นงึมงำกับตัวเองของอ้อนยิ่งทำให้ทานตะวันอมยิ้ม
 
............

ยอมรับเหรอว่าเป็นคนหน้างอ นึกว่าไม่รู้ตัวซะอีกว่าตัวเองหน้างอ

"ไม่ชอบก็รักซะสิ จะได้ไม่ต้องชอบอีก"

ได้ผล...

คนที่นั่งบ่นพึมพำ เงยหน้าขึ้นทันทีทันใด แต่เหมือนตัวเองฟังผิดไป อยากจะถามอีกครั้งว่าคนบ้าคนนี้พูดอะไรแต่ก็ไม่กล้าถาม

ฟังไม่ผิดนะคิดว่าฟังไม่ผิด .....ไม่ชอบก็รัก.....

แต่คงผิด...ผิดแน่ ๆ ไอ้ทานไม่มีทางพูดแบบนี้หรอก หลักฐานน่ะเหรอ ก็ท่าทางเฉย ๆ เย็นชานั่นไงล่ะ
ถึงทำให้ตอบตัวเองได้ว่าฟังผิด

ถ้วยไอศกรีมเล็ก ๆ สองถ้วย ถูกยกมาวางไว้ตรงหน้า

อ้อนได้แต่นั่งมอง เพราะของที่กินไปยังกินไม่หมด แล้วนี่ของหวานก็มาอีกแล้ว จะสั่งมาประชดกันหรือไง

"กินอะไรที่มันหวาน ๆ เย็น ๆ บ้าง จะได้เข้ากับหน้า..หน้าก็ออกจะหวาน มือก็เย๊นเย็น กินแบบนี้แหละดี เอ้ากินสิ ช้อนก็มี ไหนถือซิ หรือต้องให้สอนวิธีจับช้อน"

ช่างประชดประชันด้วยคำพูดได้ดีนัก

"กินแล้วเผื่อจะอารมณ์เย็นขึ้นบ้าง เป็นบ้าอะไรวัน ๆ ทำหน้าแบบนี้ทั้งวันกินซิหรืออยากให้ป้อน"

ทานตะวันทำท่าจะหยิบช้อนขึ้นมาตักไอศกรีมส่งให้อ้อนจริง ๆ จนอีกฝ่ายต้องรีบดึงช้อนเอากลับมาไว้ในมือ และก้มหน้าก้มตาตักครีมเย็น ๆ เข้าปากอย่างช้า ๆ

ไม่รู้รสชาดว่าอร่อยหรือเปล่า แต่กินไปเพราะจำใจ

"เปื้อนแล้ว"

ถูกทักแบบนั้น แล้วอ้อนก็เลยต้องรีบใช้หลังมือเช็ดที่แก้มของตัวเองโดยไม่รู้ว่าไอ้ที่มันเปื้อนมันเปื้อนตรงไหนกันแน่

"ตรงนี้..."

แค่เพียงปลายนิ้วสัมผัสแตะเบา ๆ ที่ริมฝีปาก
แค่เพียงนิดเดียว

ช้อนในมือหล่นลง พร้อมกับสัมผัสได้ถึงดวงตาคมที่ส่งความรู้สึกบางอย่างมาให้

"กินที่ปากจะให้เปื้อนที่ไหน มันก็ต้องเป็นตรงนี้"

ถูกแกล้ง......โดยไม่ต้องสงสัย

แกล้งให้เศร้า แกล้งให้รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นตัวตลก

ช้อนคันเล็ก ๆ ถูกยกขึ้นเพื่อตักไอศกรีมอีกครั้งเพื่อป้อนเข้าปากตัวเอง

แต่มือที่จับช้อนกำลังสั่นสะท้าน

อาจเป็นเพราะกำลังอยู่ในช่วงสับสน หลายวันที่คร่ำเครียด เหมือนกำลังถูกต้อนให้จนมุมด้วยความคิดของตนเอง
อยากจะเข้มแข็งให้มาก ๆ ไม่หวั่นไหวกับคำพูดแปลก ๆ แต่ทำไม่ได้ เวลานี้กลับทำไม่ได้

รสชาดของไอศกรีมไม่หวาน ไม่เย็นอีกแล้ว

แต่เป็นรสเฝื่อน ๆ ด้วยความขื่นใจเล็ก ๆ

"เคยหลงรักใครมั้ย แบบไม่ทันรู้ตัว แบบไม่รู้ตัวว่าที่จริงกำลังหลงรักคนที่อยู่ตรงหน้าเรา....โดยที่เรายังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าไอ้คำว่ารักมันคืออะไร
เคยเป็นกังวลจนนอนไม่หลับมั้ย...กังวลจนไม่รู้ต้องทำยังไงถึงจะทำให้ถูกใจคนที่อยู่ตรงหน้าเราเวลานี้....."

พูดอะไร....กำลังจะพูดอะไร...ไอ้ทานมันกำลังจะพูดอะไรของมันกันแน่ จะแกล้งพูดอะไรอีก จะแกล้งอะไรอีก

"ที่บอกว่าเราเป็นแฟนกัน....แค่ล้อเล่นใช่มั้ย.....แต่ทาน....จริงจัง..นะ."

คำพูดนิ่ง ๆ พร้อมกับที่คนตัวโตนั่งตัวตรง สายตาจ้องนิ่งสงบและมองมาอย่างมั่นคง

อ้อนเงยหน้าขึ้นและวางช้อนลงแล้ว

ไม่รู้ว่าสิ่งที่ได้ยินคืออะไร ไม่รู้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งแบบไหน
แต่ก็ยังคงตั้งใจฟังเงียบ ๆ

"รักทานเถอะ.....ขอร้องล่ะ"

หูแว่ว...หูฝาด .....หรืออะไร หรือว่าที่ได้ยินกำลังฝันไป อ้อนนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น ทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของทานตะวัน
และยังคงชะงักค้างอยู่อย่างนั้นเป็นนาน......นานจนลืม....ลืมว่าสิ่งที่คนตรงหน้าพูด หมายความว่าอะไร

TBC......

 
โดย aoikyosuk
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 02-06-2007 14:29:48
หวัยบอกรักแล้วววววว

เขิลลลลลลล

 :o8:













ลป.

วันนี้เมนท์แรก ดีใจจางงงงงงงงงง

 o17
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 02-06-2007 14:42:12
เย่ บอกรักกันแล้ว  :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 02-06-2007 17:27:41
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ทานบอกรักอ้อนแล้วอ่ะ

อยากรู้แล้วคับว่าอ้อน จะทำไง รีบเอามาลงด่วยเลยน้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :impress2:

หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 02-06-2007 18:29:36

.... เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เข้าใจยากชะมัด ไม่อยากสนใจหรอก สนใจไอ้อ้อนดีกว่า ....  :-[ :-[ :-


... "เคยหลงรักใครมั้ย แบบไม่ทันรู้ตัว แบบไม่รู้ตัวว่าที่จริงกำลังหลงรักคนที่อยู่ตรงหน้าเรา....โดยที่เรายังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าไอ้คำว่ารักมันคืออะไร
เคยเป็นกังวลจนนอนไม่หลับมั้ย...กังวลจนไม่รู้ต้องทำยังไงถึงจะทำให้ถูกใจคนที่อยู่ตรงหน้าเราเวลานี้....."  :-[ :-[ :-[


"ที่บอกว่าเราเป็นแฟนกัน....แค่ล้อเล่นใช่มั้ย.....แต่ทาน....จริงจัง..นะ."  :-[ :-[ :-[ :-[



"รักทานเถอะ.....ขอร้องล่ะ"   o7 o7 o7 o7



รักทานเถอะนะอ้อนนะ  :impress: :impress:

 น๊าาาาาาาา  o9 o9
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-06-2007 19:29:16
ว้าว บอกรักกันแล้ว  :loveu: :loveu:
ปล.เม้นต์ที่ 5 จ้า  :teach:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 02-06-2007 19:58:15
ทานน่ารักที่สุดเลย   :impress2:
ตอนแรกเหมือนคนไม่มั่นคงทางอารมณ์  แต่กลับกลายเป็นคนที่เข้าใจกับหัวใจและอารมณ์ของตัวเองได้ดีและเร็วซะด้วย

ลุ้นๆๆ  อยากอ่านต่อ มาให้ไว  เม้นต์ที่หกแว้วว  :teach:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 02-06-2007 20:09:59
    ...........วี๊ดดดดดดดดวิ้ววววววววววว.. :like6:...สารภาพออกมาแล้วว่ารักอ้อน........มันต้องอย่างงี้ซินายทาน o13
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 02-06-2007 20:21:41
ทานไม่ได้บอกรัก
แต่บอกให้อ้อนบอกรักตะหาก
มันต่างกันป่ะ

แต่เอาเป็นว่าเข้าใจ
 o13

8th comment
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 02-06-2007 20:26:34
 :impress: :impress:  บอกรักกันแล้ว   :haun5: :haun5:  ต่อไปคงไม่ต้องคอยประชดประชันกันอีกนะครับ o7 o7

รี9 อีกละ 
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 02-06-2007 20:45:49
อยากเป็นเม้นต์ที่สิบจริงเฟ้ยยยยยย  :laugh:  :laugh:  :laugh:

ไม่มีไร  แค่อยากอ่านก่อนนอนอะ  จาไปนอนแย้ววว  :impress:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-06-2007 22:02:23

ตื่นๆๆๆมาอ่านแล้วเร็ว
 o3
********************




เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ความรู้สึก

กินข้าวเสร็จแล้ว ดีใจมั้ย ดีใจมากเลยเนอะ ฮ่า ฮ่า กินข้าวเสร็จก็ดูหนังไง ตามฟอร์ม ไปดูหนัง หนังเรื่องอะไรดี ดูเรื่องอะไรดีนะ

ทำหน้าให้ร่าเริงเข้าไว้

ทำใจซะ ทำใจ ไม่มีอะไรเลย ดูหนังกินข้าว ปกติธรรมดา แค่มากับไอ้อ้อนแค่นั้นเอง นี่ไง ไอ้อ้อน ตัวเล็กเดินลากขาเป๋ ๆ มาด้วยแล้ว

ทานตะวัน อยากจะหัวเราะให้ดัง ๆ อยากจะหัวเราะให้คนทั้งโลกได้รับรู้ด้วย

รับรู้ว่าหลังจากเหตุการณ์ในร้านอาหารเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนผ่านไป ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เป็นปกติทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ทานตะวันยังคงเป็นทานตะวัน

อ้อนก็ยังคงเป็นอ้อน

แต่มีบางอย่างที่ต่างออกไปเล็กน้อย

นั่นคือ ทานตะวันร่าเริงเกินเหตุ พูดมากเกินเหตุ หัวเราะเกินเหตุ เห็นอะไรขำไปหมด ขนาดเลือกหนังผี มองภาพผียังตลก

ส่วนอ้อน ทำได้แค่ทำหน้าเรียบเฉย และไม่ได้ออกความคิดเห็น แม้จะถูกถามกี่ครั้ง คำตอบก็ยังคือความเงียบเหมือนเดิม

ไม่นานความอดทนของคนที่มองเห็นอะไรเป็นเรื่องตลกไปหมด ก็มีอันสิ้นสุดลง

เมื่อสายตาหันมาหาคนที่ยืนหน้าเครียดอยู่ข้าง ๆ

"ไม่อยากดูแล้ว ไม่มีอะไรน่าดู เกลียดการดูหนัง เกลียดทุกอย่าง เกลียด จะกลับบ้านเดี๋ยวนี้แล้ว"

พูดแค่นั้น แล้วใบหน้าที่พยายามจะฝืนยิ้มฝืนหัวเราะมานานครึ่งชั่วโมงก็บูดบึ้งทันที พร้อมกับทีคนตัวโตรีบก้าวเดินอย่างรวดเร็ว ลงมาที่บันไดเลื่อน
โดยมีอ้อนพยายามเดินตามให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

เกิดอะไรขึ้นเมื่อครึ่งชั่วโมงในร้านอาหารงั้นเหรอ

"รักทานเถอะ...ขอร้องล่ะ"

เวลาพูด นึกถึงใจคนฟังบ้างมั้ย ว่าจะรู้สึกยังไงคงไม่รู้สึกอะไรเลยสินะ ถึงได้พูดออกมาแบบนี้
อ้อนนั่งจ้องหน้าของทานตะวันนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น

ส่วนทานตะวันก็จ้องหน้าของอ้อนจนแทบไม่กระพริบตา

เงียบ บรรยากาศเงียบซะจนเหมือนโลกนี้มีกันอยู่สองคน ไม่สนใจนรอบข้าง หรือใคร ๆ อีกเลย

"กูล้อเล่นน่ะ....รักอะร้ายยยยยยยยย มันเป็นวิธีการจีบเล่น ๆ สนุก ๆ แค่นั้นเอง คนเรามันต้องมีเล่ห์เหลี่ยมบ้างสิ จะให้มารักจริงอยู่คนเดียว
ชีวิตนี้จะไปหาความสุขได้ยังไง"

เสียงของคนที่อยู่ที่โต๊ะห่างออกไป ปลุกความคิดของอ้อนให้ตื่นขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ

ไม่ได้ตั้งใจฟัง ไม่ได้อยากฟัง ไม่ได้แอบฟังแต่ก็ได้ยิน และยังได้ยินเสียงหัวเราะตามมาเหมือนอยากจะเยาะเย้ย

เชื่อความรู้สึกของตัวเองในครั้งแรก หัวใจเต้นระรัว สั่นระทึก
 
............................

แต่ในนาทีต่อมา แค่เพียงข้อความสะกิดใจ กลับทำให้ความเชื่อมั่น ถูกขยำทิ้งและขว้างลงพื้น
เหมือนกำลังถูกเหยียบย่ำเยาะเย้ยด้วยเสียงหัวเราะของใครคนหนึ่งซึ่งไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกัน

ทานตะวันลุกพรวดพราดขึ้น หันไปมองไอ้ตัวต้นเหตุให้เต็มตา แล้วก็ตะโกนด่าออกไปเสียงดังลั่น

"มึงอยากมีเรื่องนักใช่มั้ยวะ"

เพียงแค่นั้น ทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัย ทั้งคนทั้งร้าน แทบลุกขึ้นหนี เพราะหวุดหวิดจะมีการวางมวย
โชคดีที่เพื่อนของคู่กรณีลากเพื่อนปากหมาออกไปได้

พอ ๆ กับที่เมื่อทานตะวันหันมามองคนที่วิ่งตามและเรียกชื่อให้หยุด ให้พอ ถึงได้สติ
ไม่ใช่กลัวตัวเองจะเป็นอะไร

แต่กลัวคนที่มาห้ามจะเป็นอะไรไปด้วย

เดินออกมาจากร้านด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ไม่มีคำตอบ ไม่มีกล้าทวงคำตอบ ไม่รู้ว่าจะถามย้ำอีกครั้งดีมั้ย หรือต้องทำยังไง
ในเมื่อคนที่เดินลากขาตามมาเรื่อย ๆ คนนี้ ไม่ยอมพูดอะไรให้รับรู้เลยแม้แต่อย่างเดียว

จะพูดให้โลกถล่มทลายไปเลยก็ได้

หรือจะทำให้โลกทั้งใบเป็นสีชมพู

แต่อ้อนก็ไม่ยอมพูด ไม่ยอมโวยวาย ไม่ถาม และไม่พูดถึง เรื่องที่ทานตะวันขอร้อง

แล้วใครจะทนไหว อดทนแล้ว ทั้งที่เป็นคนไม่มีความอดทนกับสิ่งใดเลย ทนมาได้ถึงนาทีนี้ทั้งที่แทบอยากจะกระชากคอมาถามว่า

"ตกลงจะเอายังไงวะ....จะรักหรือไม่รัก"

แต่ก็ไม่กล้าทำ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมถึงไม่กล้าแม้แต่จะสัมผัสร่างกายของอีกฝ่ายแม้แต่ปลายนิ้ว

กลัว...

กลัวไปหมด

ปลอบใจตัวเองให้หัวเราะ ให้ยิ้ม แต่ทำไม่ได้ เหมือนกับว่าตอนนี้ไม่ใช่คนเดิม

คนที่ไม่เคยกลัวอะไรเลยอย่างทานตะวัน กลับมีสิ่งที่กลัวที่สุดที่ไม่มีใครเคยรู้
กลัวที่สุด คือการถูกปฏิเสธความรัก....ถ้าไม่ถูกรัก...แล้วจะทำยังไง

จะยืนอยู่ได้ยังไง จะให้ทำยังไง ทำอะไรไม่ได้ แล้วถ้าเกิดแสดงความรู้สึกเสียใจออกมา ใคร ๆ จะเข้าใจหรือเปล่า

อ้อนเปิดประตูรถตามเข้ามาแล้ว โดยมีทานตะวันเป็นคนขับ

ที่เดิม แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว

รถเคลื่อนออกจากลานจอดรถอย่างช้า ๆ

พร้อมกับความรู้สึกบางอย่างกำลังจะหล่นหาย

ไม่รู้ว่าร้องไห้ได้ยังไง แต่ก็ร้องออกไปแล้ว

หยดน้ำที่กลั้นเอาไว้ ความรู้สึกที่ไม่เคยอยากยอมรับ กำลังถล่มทลายลงอย่างช้า ๆ

อ้อนนิ่งมองค้างอยู่อย่างนั้น เมื่อหันมามองใบหน้าของคนที่ยังนิ่งเฉย แต่กลับได้ยินเสียงสะอื้นไห้เบา ๆ ที่เจ้าตัวคงพยายามเก็บกักเอาไว้

ไอ้ทานมันเป็นอะไร

ร้องไห้เหรอ

ร้องทำไม

ทำไมถึงร้อง

เสียใจอะไร มีเรื่องเสียใจอะไร ทั้งที่ไม่น่าจะมีเรื่องเสียใจ ทำไมถึงได้ร้องไห้

แม้ไม่เห็นชัดนัก แต่ในความเงียบงัน และความมืด อ้อนกลับมองเห็นได้ชัดถึงหยดน้ำใส ๆ ที่หลั่งรินออกมาจากดวงตาของคนที่ยังคงมองออกไปนอกถนน
น้ำตาที่ไหลอย่างช้า ๆ

ไม่มีการปาดทิ้ง แต่หลั่งรินอยู่อย่างนั้น

ท่ามกลางความรู้สึกอึดอัดใจ อ้อนกลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่าง

อะไรบางอย่างที่กำลังแผ่กระจายอย่างรุนแรง

ความเหงา

ที่เผื่อแผ่ความรู้สึกมาให้จากคน ๆ นี้ คนที่อยู่ใกล้กันแค่นี้

 
...................

"ทาน.....เรา.."

อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่เหมือนมีบางอย่างตีตื้นขึ้นมา จนทำให้พูดไม่ออก

"เรา..."

อ้อนพยายามแล้วที่จะพูด พยายามแล้วที่จะปลอบใจ แต่กลับไม่แน่ใจอะไรเลย ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เห็น กับคำพูดของคน ๆ นี้มันคืออะไรกันแน่

หมายความว่ายังไง ที่พูดออกมา แล้วบางอย่างที่แสดงออกมา ตกลงจะเอายังไง

"ไอ้บ้าทาน คนที่อยากจะร้องไห้มันคือกูนะโว้ยยยยยยยยย ฮืออออออออ แม่ง บ้าเอ้ย เกลียดแล้ว ไอ้ทาน ไอ้บ้ากูเกลียดมึงโว้ยยยยย"

เสียงโวยวายลั่น ตามมาด้วยการที่อ้อน ใช้กำปั้นชกมาที่ไหล่ของคนขับรถอย่างรุนแรง และปล่อยโฮออกมา อย่างไม่คิดจะสะกดกลั้นเอาไว้อีก

แล้วใครกันที่จะต้องเกิดอาการ งง....

รถถูกเลี้ยวเข้าข้างทาง พร้อมกับที่ทานตะวันต้องรับมือกับอาการแปลก ๆ ของอ้อนอีกครั้ง กำปั้นที่รัวทุบลงมาอย่างแรง
ทำได้แค่ใช้ฝ่ามือรับเอาไว้ และพยายามยื้อยุดให้อ้อนหยุดการอาละวาดนี้ให้เร็วที่สุด

แล้วก็ไม่นาน เพียงไม่นานจริง ๆ ที่ร่างในอ้อมแขนหอบหายใจหนัก และหยุดโวยวาย แต่ยังมีเสียงสะอื้นในลำคอให้ได้ยินเป็นพัก ๆ

"เกลียด ไอ้เลว เจ้าหนี้อะไรวะ ทวงหนี้เช้าเย็น ทำไมถึงทำอย่างนี้ เกลียดมึงโว้ยยยยยย"

ใช่มันเป็นเสียงพูดไปร้องไห้ของอ้อน ที่ทานตะวันไม่เข้าใจ แต่ก็คว้าร่างนั้นเข้ามากอดรัดเอาไว้แน่น

ศึกระหว่างทานตะวันกับอ้อนจบลงแล้ว

เหลือเพียงความเงียบงัน กับลมหายใจที่ถ่ายทอดให้กันอีกครั้ง

ไม่รู้ว่า...ใกล้ชิดกันมากแค่ไหน

แต่ใกล้กันจนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัวไม่เป็นส่ำ


ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาอีก นอกจากสัมผัสอบอุ่นที่ถ่ายทอดให้กันเงียบ ๆ
อ้อนเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง

ค่อย ๆ เคลื่อนร่างกายเข้าหาคนที่ที่กอดรัดเอาไว้แน่น และแตะปลายจมูกที่ข้างแก้มของทานตะวันอย่างช้า ๆ

แค่เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ความรู้สึกบางอย่างกำลังถูกเปิดออก

โดยที่ไม่ทันคาดคิด โดยที่ไม่ทันรู้ตัว สิ่งที่ทำลงไป มาจากหัวใจและความรู้สึกภายในทั้งหมด

"ทำให้เรารับรู้ว่าทานรักเราบ้างเถอะ....ขอร้องละได้มั้ยทาน..ทำให้เรารู้สึกบ้างว่าทานรักเรา"

TBC....


 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Felm ที่ 02-06-2007 23:58:35
 :sad4:   จุกอก บอกได้คำเดียวคำนี้คับ  :dont2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 03-06-2007 00:34:32
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก อ่านแล้วบีบขั้นหัวใจมากกกกกกกกกกกก

ทานจะพิสูจน์ตัวเองให้อ้อนเห็นได้มั้ยอ่ะ ลุ้นๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 03-06-2007 01:19:00
อ่า . . .  :impress3:

จะเป็นไงต่อน๊อ . . .

รออ่านต่อครับ ขอบคุณครับ :yeb:

รีที่สามค๊าบบบบ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 03-06-2007 01:21:16
มาดัน... 4
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 03-06-2007 01:23:01
ขออีกรอบ 5.. 6 .. 7 .. 8 .. 9
 เม้นต์ต่อไปเม้นต์ที่ 10 แล้วนะคับเรย์...
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 03-06-2007 01:27:41
อ่ะ เข้ามาช่วยพี่ตามอีกแรงนึง (ช่วยกันทำมาหากินหน่อย)  :laugh:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 03-06-2007 02:32:33
อะให้ อีกเมนท์  :laugh:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 03-06-2007 07:35:36

"ทำให้เรารับรู้ว่าทานรักเราบ้างเถอะ....ขอร้องละได้มั้ยทาน..ทำให้เรารู้สึกบ้างว่าทานรักเรา"



o9 o9 o9

หัวใจแทบหยุดเต้น พร้อมๆ กับการลืมหายใจไปชั่วขณะ  :try2: :try2:

บีบหัวใจสุดๆ  o7 o7

ฉากนี้ให้พี่เรย์ 1+  o1 o1

ปล. จะรอฉากรักหวานแหว๋วนะฮับ  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 03-06-2007 08:16:22
เกือบจะร้องให้ สงสารและเข้าใจออ้น
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Felm ที่ 03-06-2007 08:32:09
มายังน๊า  :undecided:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 03-06-2007 09:34:57
 :serius2: o9 o12 :angry2: :amen: :o10: :try2: :confuse: o21 :o12: :o11: o3 :laugh3: :impress: :o8: :-[ :like6: :haun5: :sad5: o22 :sad2: :dont2: :sad4:

อธิบายไม่ถูกจริงๆ

หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 03-06-2007 09:51:39
ชอบเรื่องนี้จัง 

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 03-06-2007 12:19:23
 :dont2:

13th Comment
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 03-06-2007 12:35:40
เด่วเตอะตาตาม จับจูบปากซะเลย หนีเที่ยวไม่ค่อยเข้ามาอ่าน  แล้วยังมาเล่นมุขอีก
 o18

ขอบคุณคับคับที่ช่วยโหวตคะแนนให้ครับ เอาไปสองจุ๊บ
 :give2: :give2:
เปลี่ยนงี้ดีกว่า รอดูคะแนนชื่นชมสักสิบคะนแนนมั่ง อิอิ แล้วจะรีบมาต่อ กร๊าก
 :laugh3:
เพื่อนๆที่น่ารักช่วยกันคอมเมนต์มาตลอดเอาไปคนละบวก
นี่ถ้าตาเท็นคนเขียนเรื่องมาเจอคงดีใจ มีการรวมพลังกันคอมเม้นต์อีก
 :impress:


****************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน โมโห

หมอนมีไว้หนุนนอน แต่สำหรับอ้อนในเวลานี้หมอนมีไว้รองรับกำปั้นหนัก ๆ ที่ทุบลงไปหลาย ๆ ครั้ง
ไม่รู้จะทำอะไร...นอนไม่หลับ ก็เลยซ้อมต่อยหมอนเล่น
แล้วหลังจากนั้นก็โยนหมอนลงไปบนพื้นห้อง....ก่อนจะกระโดดลงจากเตียงเพื่อลงไปนอนบนพื้น กลิ้งไปกลิ้งมาหลายตลบและลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง

"เฮ่อออออออออ"

อาการถอนหายใจยาวเหยียด รอบที่หนึ่งร้อยยังคงดำเนินต่อไป ลองใช้ฝ่ามือแตะที่หัวใจก็พบว่ามีก้อนอะไรหนัก ๆ กำลังกดทับอยู่

ใช่...กำลังรู้สึกอึดอัดใจ แล้วก็รู้สึกกลัว กลัวสิ่งที่มองไม่เห็น กลัวสิ่งที่เรียกว่าความรู้สึก ความรู้สึกบางอย่างที่ถูกพังทลายลงแต่กลับทำให้รู้สึกหนักใจมากขึ้น

""ทำให้เรารับรู้ว่าทานรักเราบ้างเถอะ....ขอร้องล่ะได้มั้ยทาน..ทำให้เรารู้สึกบ้างว่าทานรักเรา"

พูดไปได้ยางงายว๊า

เลี่ยนขนาดน้านนนนนนนนน พูดปายด้ายยางงายยยยยยยยย โธ่โว้ยยยยยยยยย กูหนอกู

แถมซ้ำยังไปหอมแก้มไอ้ทานอีก เป็นห่าอะไรวะเนี่ย อยากจะบ้าตายแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยย หอมแก้มไอ้ทานอย่างเดียวไม่พอ ยังร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร
ร้องทำไม ร้องทำไมวะนั่น จะร้องให้ได้อารายยยยยย

โธ่เอ้ยยยยยยยย กูหนอกู ไอ้อ้อนหนอไอ้อ้อน มึงทำอารายของมึงวะเนี่ย

นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย พลิกไปพลิกมาหลายครั้ง ลุกขึ้นนั่งหลายหน เดินวนไปวนมา เดินลงไปชั้นล่างของตัวบ้าน แล้วก็เดินกลับขึ้นมานอน
แต่ก็นอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าอาการบ้า ๆ ที่เป็นอยู่นี้ทำยังไงถึงจะหายซะที

ช่วงหัวค่ำ เจอเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ เรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิต....ตั้งแต่เกิดมาจนอายุขนาดนี้ไม่เคยรู้สึกว่ามีเรื่องไหนที่ทำให้ตัดสินใจไม่ได้เท่ากับเรื่องนี้

"ชอบกูได้ไงวะ ชอบตรงไหน มีอะไรน่าชอบ มันล้อเล่นหรือเปล่า หรือว่ามันคิดยังไง โธ่โว้ย กูจะบ้าแล้วนะ จะเอายังไงกับกูกันแน่เนี่ย"

บ่นอยู่คนเดียว พูดคนเดียว พึมพำอยู่คนเดียว แล้วสุดท้ายอ้อนก็ลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง พร้อมกับถอนหายใจยาวเหยียดอีกเป็นรอบที่หลายร้อย

"กลับบ้านเถอะ วันนี้อย่าไปบ้าน...กู...เรา..เอ่อ..อย่าไปบ้านทานเลยนะ ป่ะกลับบ้าน พากลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย"

พูดแค่นั้นจริง ๆ ไอ้ทานมันพูดแค่นั้นจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ยอมแตะตัวอีกเลย

เงียบ

ไม่บอกเหตุผลว่าทำไมถึงต้องพากลับบ้านด้วย
แล้วไหนว่าจะให้ทำนั่นทำนี่ให้ เห็นโวยวายว่าไม่มีคนช่วยถูหลัง งี่เง่าถึงเรื่องที่ไม่มีใครนวดขาให้ แล้วเป็นอะไรขึ้นมาอีก ทำไมถึงได้บึ่งรถพากลับบ้านอย่างนี้

แล้วไอ้เรื่องที่ขอร้องให้รักมันเนี่ย มันจะเอายังไงวะ กูกลุ้มใจนะโว้ยยยยยยยยย แม่งเอ้ย มาทำให้นอนไม่หลับ ไอ้ทาน จำเอาไว้เลยมึง จำเอาไว้เลย

อ้อนหน้าหงิกหน้างอ อยู่ในอารมณ์ของคนฟุ้งซ่านคิดแต่เรื่องของทานตะวัน ทาน ทาน ทาน ไอ้คนตัวโตชอบแกล้ง ชอบทำหน้ากวนประสาท ชอบทำหน้าโหด
ชอบตบหัว อะไรอีก ชอบตะโกน ขี้โวยวาย งี่เง่า ไม่มีอะไรดีเลย ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง

แล้วทำไมถึงทำให้.......ทำให้.....

ทำให้เป็นบ้าได้ขนาดนี้....เมื่อนึกถึงคนบ้าบอคนนั้น

"ทานอ่ะ ไอ้ทาน ไอ้ทาน ไอ้ทาน...นอนไม่หลับแล้วนะโว้ย ทำอย่างนี้ได้ยังไงวะ ทำอย่างนี้ใช้ได้ที่ไหน"

แล้วอ้อนก็ลงไปนอนกอดหมอน พร่ำเพ้อละเมอถึงชื่อของคนที่ทำให้นอนไม่หลับ
ภาพใบหน้ายิ้ม ๆ ของคน ๆ นั้นลอยไปลอยมาอยู่ตรงหน้าคนที่ไม่เป็นอันหลับอันนอนเอาแต่พูดถึงชื่อของทานตะวันเป็นรอบที่หลายร้อยเข้าไปแล้ว

 
...................

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในกลางดึก ทำให้อ้อนถึงกับสะดุ้งสุดตัว และมองหาที่มาของเสียง รีบคว้ามาดูหมายเลขของคนที่โทรมาหา หัวใจเต้นระทึกไม่เป็นส่ำ เมื่อรู้ว่าใครที่โทรมา

เอาไงดีวะ ทำไงดี แล้วจะพูดอะไรดีวะเนี่ย รับดีมั้ย กดรับดีมั้ย สุดท้ายมือไปก่อนความคิด กดรับสายและเอ่ยตอบออกไปแล้ว

"ง่าาาาาาาา อื่อ มีอารายยยยยคนกำลังนอนนน"

ก็ได้มาจากไอ้คนเจ้าเล่ห์คนนั้นนั่นแหละ มารยาเยอะนัก เลยขอมาใช้บ้าง แกล้งลากเสียงยาว ๆ เหมือนกำลังงัวเงีย ทั้งที่ไม่มีวินาทีไหนที่เผลองีบหลับเลยด้วยซ้ำ

"เหรอ เอองั้นนอนไปเหอะ แค่นี้แหละ"

น้ำเสียงห้าวห้วนที่ตอบกลับมายิ่งทำให้ใจเต้นระทึก...แค่ได้ยินเสียงอ้อนก็แทบจะหุบยิ้มไม่ได้ แต่เมื่ออีกฝ่ายกำลังจะวางสาย จึงต้องรีบรั้งเอาไว้

"ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ได้นอน คุยได้ คุยได้ จริง ๆ คุยได้ มีอะไรเหรอ มีอะไร"

ละล่ำละลักพูดออกไปแล้ว และดูเหมือนว่าปลายสายจะเงียบเสียงไม่ยอมตอบอะไรกลับมา

เป็นไรอ่ะ ไมม่ายพูด โกรธไรง่ะ

อ้อนใช้ปลายนิ้วหมุนชายผ้าห่มเล่น นั่งรอด้วยใจเต้นระทึกว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร มีเพียงความเงียบงัน แต่ก็ยังรับรู้ว่าทานตะวันยังไม่ได้วางสาย

"ยังไม่ได้อาบน้ำว่ะ"

เหรอ ยังไม่ได้อาบเหรอ แต่นี่มันเกือบตีสามแล้วนะ ทำไมไม่อาบล่ะ

"อื้อ..." ตอบรับออกไปแล้ว และก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะพูดอะไรได้อีก คิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร หัวสมองไม่ทำงาน มีแต่หน้าที่ยิ้มไม่หุบ แล้วแบบนี้จะให้ทำยังไง

แล้วก็เงียบกันไปนาน นานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่รู้ว่านานจนหน้ายิ้ม ๆ ของอ้อนเริ่มหุบยิ้ม หน้ายิ้มกลายเป็นหน้าค่อย ๆ นิ่ง .....นิ่ง นิ่ง กลายเป็นเรียบเฉย

"มีเรื่องอื่นอีกมั้ย" อดใจไม่ไหว เลยต้องถามออกไป ปกติก็เก็บความเงียบเอาไว้เป็นสมบัติส่วนตัวได้ตลอดเวลา แต่ตอนนี้เริ่มทนความเงียบไม่ไหว

ไอ้ทานมันทำอะไรของมันวะ พูดอะไรมาก็ได้ หรือจะพูดจางี่เง่า งี่เง่าเหมือนเมื่อก่อนก็ยังดี แต่ไม่ใช่เงียบแบบนี้ ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันนะโว้ย

"ก็มี...แต่แค่นิดเดียว...ไม่สำคัญอะไรหรอกน่า ไปนอนเหอะไป๊"

อ้าว แล้วไหงไล่ไปนอนดื้อ ๆ อย่างนี้ล่ะ จะพูดอะไรก็พูดมาสิวะ หาเรื่องก็ได้ อะไรก็ได้ ทำสักอย่างเหอะ ใจเต้นจนจะหลุดออกมาจากอกแล้วนะโว้ย

"เหรอ...ไม่สำคัญเหรอ...ไม่สำคัญก็ฟังได้..อะไรเหรอที่ว่าไม่สำคัญ"

อ้อนไม่ใช่คนพูดมาก คนที่พูดมาก ๆ และกวนประสาทกลายเป็นคนใบ้ไปแล้ว ส่วนคนที่ชอบทำตัวเหมือนคนใบ้ ไม่รับรู้เรื่องรอบตัว กำลังพยายามทำตัวเป็นคนเจ้าปัญหา
ซักนั่นถามนี่ และคิดว่าจะทำยังไงให้มีเรื่องคุย ทุกอย่างสลับที่กันโดยไม่ได้ตั้งใจ

"เออ ไม่สำคัญหรอก..จะไปอาบน้ำแล้ว"

เฮ้ยยยยยยย ทำไมมาทำให้อยากรู้แล้วจะจากไปง่าย ๆ อย่างนี้ล่ะ เป็นปีเป็นชาติไม่ยอมอาบน้ำ แต่ตอนนี้เสือกจะอยากอาบขึ้นมาอีก ไอ้เรื่องที่ว่าไม่สำคัญน่ะมันเรื่องอะไร
อยากรู้นะโว้ย อยากรู้ เรื่องอะไรวะ บอกหน่อยไม่ได้หรือไง

"ไม่เอา บอกก่อนสิ ไม่สำคัญก็อยากรู้ ยังไงก็ต้องบอกไม่ใช่เหรอ งั้นอยากรู้ตอนนี้เลย"

ความพยายามรอบที่สองในการรั้งให้อีกฝ่ายพูดคุยให้มากขึ้น ไม่เป็นผล เมื่อทานตะวันเอาแต่บ่ายเบี่ยงหาทางตัดบทจะปิดการสนทนาดื้อ ๆ

"อย่ามาถามมากได้มั้ยวะ จะไปอาบน้ำนอนแล้วแค่นี้แหละ"

อยากจะขว้างโทรศัพท์ทิ้งให้แหลกกระจาย อยากจะเจอหน้าไอ้คนกวนประสาทคนนั้นนัก ถ้าอยู่ตรงหน้าจะชกไม่ยั้งเลย ไอ้บ้า โทรมากวนประสาทให้ใจเต้น มาทำให้ยิ้ม
แล้วก็มายั่วให้โกรธ แล้วพอไม่พอใจ ก็ตะคอกตอบกลับมา แถมซ้ำยังตัดสายไปดื้อ ๆ แล้วแบบนี้จะไม่ให้โมโหได้ยังไง

"ไอ้ทาน ไอ้บ้า แม่งเอ้ย โทรมาทำไมวะ โทรมาแล้วก็ไม่พูด ไอ้บ้าทาน ไอ้ทาน ไอ้ทาน ฮื่อ"

อ้อนขว้างปาทั้งหมอนทั้งผ้าห่มด้วยความหงุดหงิดโมโห แล้วก็ลงไปคว้าหมอนขึ้นมากระหน่ำชกไม่ยั้ง พร้อมกับด่าว่าทานตะวันไปด้วย

"ฮื้อ ไอ้บ้าทาน ไอ้บ้า ไอ้ทาน งี่เง่า ไอ้งี่เง่าทาน"

เอาอารมณ์โมโหมาลงที่หมอน จนเหนื่อย แล้วอ้อนก็ทิ้งกายลงนอนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ไม่รู้จะจัดการกับอารมณ์บ้า ๆ บอ ๆ ที่เป็นอยู่นี้ด้วยวิธีการใด ถึงจะหาย
 
......................

ในเวลาไม่นาน ความคิดยิ่งเตลิดไปเรื่อย ๆ คิดแล้วก็เครียด เครียดแล้วก็หงุดหงิด ไม่รู้จะจัดการกับตัวเองยังไง

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง และอ้อนก็หยิบขึ้นมาดูหมายเลขที่โทรเข้ามาหา ไม่ใช่ใครก็ไอ้คนกวนประสาทเจ้าเดิมนั่นแหละ

กำลังจะกดทิ้ง แต่มือกลับไปกดรับ ไม่ได้อยากคุย แต่ปากก็เอ่ยทักทายไปแล้ว

"มีอะไร" อ้อนเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงห้าวห้วน ไม่คิดจะพูดจาให้เพราะ ๆ เลยสักนิด

"อาบน้ำเสร็จแล้ว"

แล้วมาบอกทำไมวะ ไม่อยากรู้โว้ยยยยยยยยยยย

"เหรอ...แล้วไง...ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ยจะได้วาง"

อ้อนไม่รู้ตัวเองว่าอาการที่เป็นอยู่ เรียกว่า งอน ...เผลอทำออกไปทั้งที่ไม่รู้ตัว...กำลังจะกดวางสายแต่อีกฝ่ายกลับรีบห้ามเอาไว้ จนทำให้อ้อนต้องขมวดคิ้วมุ่น

ทำไม คราวนี้จะเอาอะไรอีก จะไปกินข้าว จะไปนอน หรือจะไปไหนก็ไป จะมารายงานทำไม

"มีอะไรถ้าไม่มีจะได้วาง จะนอน...ง่วงนอน"

ไม่มีคำพูดหวาน ๆ มีแค่น้ำเสียงและคำพูดที่กระแทกกระทั้นที่เอ่ยตอบกลับมา โดยไม่คิดจะรักษาน้ำใจของคนฟังสักนิด

"ไม่มี...ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ....แค่นี้แหละจะนอนเหมือนกัน"

เออ วางไปเลย รีบ ๆ วางไปเลย ไอ้บ้า ไปตายที่ไหนก็ไปเลยไป๊

อ้อนนิ่งเงียบไปแล้ว แต่ไม่ยอมกดวางสาย ยังคงถือโทรศัพท์ค้างไว้อย่างนั้น เดี๋ยวไอ้ทานมันก็วางไปเองแหละ

ใช่เดี๋ยวก็วางไปเอง

แต่คนที่บอกว่าจะนอนก็ไม่ได้วางสายไปเหมือนกัน คิดตรงกันคือ เดี๋ยวอ้อนก็วางสายไปเอง

ต่างคนต่างเงียบ นิ่งฟังกันอยู่อย่างนั้นเป็นนาน ทานตะวันก็ตะโกนออกมาจนสุดเสียง

"ไอ้อ้อนนนนนนนนน"

หูแทบแตก โทรศัพท์แทบหลุดจากมือ สะดุ้งสุดตัว เมื่อถูกตะโกนกรอกหู

ไอ้บ้าเอ้ย จะตะโกนทำไมวะ แกล้งได้ตลอดเลยใช่มั้ย นิสัยไม่ดี ไอ้เลวเอ้ยยยยยยย

"ทำไม เรียกทำไม แม่ง"

ความหงุดหงิดพุ่งสูงขึ้นจนเกินรับได้ อ้อนเตรียมกดวางสายในทันทีโดยไม่คิดจะรีรอ

แต่คำพูดถัดมาที่ได้ยิน กลับทำให้ความรู้สึกที่จางหาย ถูกปลุกเร้าขึ้นอีกครั้ง

"ทานคิดถึงอ้อนว่ะ...."

แล้วไอ้คนกวนประสาทคนนั้น ก็ตัดสายไปดื้อ ๆ โดยไม่มีคำพูดอะไรออกมาอีกเลย

อ้อนยังคงถือโทรศัพท์ค้างอยู่อย่างนั้น และยังคงงงกับคำพูดที่ได้ยินชัดเต็มหู

อะไรนะ....

"ทานคิดถึงอ้อนว่ะ"

ใช่....ได้ยินไม่ผิด ไม่ผิดเลยสักคำเดียว ใบหน้าที่บึ้งตึง ค่อย ๆ มีรอยยิ้มจุดขึ้นที่มุมปาก

สุดท้าย หมอนถูกดึงขึ้นมาอีกครั้ง และกำปั้นหนัก ๆ ก็ทุบลงไปไม่ยั้ง
คราวนี้ไม่ได้ทุบเพราะหงุดหงิดโมโห แต่ทุบเพราะเขิน อาย หน้าแดง หุบยิ้มไม่ได้ รอยยิ้มกว้างมาพร้อมกับความรู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้า
ตามมาด้วยการที่อ้อนยังคงพร่ำด่าคนที่ทำให้เกิดอาการเขินอายได้มากขนาดนี้

"ไอ้ทาน บ้า บ้า ไอ้เวรทาน บอกดี ๆ ไม่ได้หรือไงทำไมต้องตะโกนด้วย โธ่เอ้ย บอกแค่นี้บอกดี ๆ ก็ไม่ได้ ไอ้บ้า กวนประสาทจริง ๆ เลย"

ทั้งที่ด่า ทั้งที่ว่า ทั้งที่บ่น แต่อ้อนกลับหยุดความดีใจของตัวเองไม่ได้ ใบหน้ายังคงยิ้ม ยิ้มอยู่อย่างนั้นทั้งคืน
สุดท้ายเผลอหลับไปพร้อมความรู้สึกหวาน ๆ ที่คนบางคนที่ทำตัวกวนประสาท น่าโมโห นำมาหยิบยื่นให้ในกลางดึก

อ้อนหลับตาลงแล้ว พร้อม ๆ กับคนอีกคน ที่นอนกอดหมอนหลับไปพร้อมรอยยิ้มและความรู้สึกที่ไม่แตกต่างกัน

TBC....


 
โดย aoikyosuke

หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Abracadabra ที่ 03-06-2007 12:39:20
เด่วไว้จะมาตามอ่านนะครับ

 :เฮ้อ:  ผมไปอยู่ไหนมาเนี่ย



ปล.จิ้มให้แล้วนะคับ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 03-06-2007 12:50:51
น่ารักจัง วันนี้ลง2ตอนเลยเอามาลงอีกนะกำลังสนุกเลย  o13
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-06-2007 12:51:20
เอ่อ อ่านเรื่องนี้มาก ๆ จะเป็นโรคจิตมั๊ยนี่  :try2: รู้สึกอารมณ์หลากหลายจริง ๆ  o18
แต่ก็ชอบมาก ๆ เลย  :give2:  :give2:  :give2:
ปล. เม้นที่ 3 และเอาไป +1  (ถ้าไม่มาต่อเร็ว ๆ ละก็  :ฮึ่มม: :ฮึ่มม:)
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 03-06-2007 13:00:45
 :like6: :like6: :like6:
โทรมาบอกว่าคิดถึง  o7 o7

... กว่าจะได้นอน ....  :laugh: :laugh:

ขอบคุณพี่เรย์ฮับ  o1 o1
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 03-06-2007 14:32:25
ชั้นโทรมาเพื่อจะบอกว่ารัก ถึงเวลาที่ต้องบอกซักที
ไม่กลัวแล้วจะดูไม่ดี นาทีนี้ต้องพูดไป
เสียงข้างใน ดังออกมา แสดงออกมา
ว่ารักแล้วให้ทำไง วันนี้หัวใจ
กำความรักไว้ ไม่อยู่ซะแล้วเทอ

 :-[ :o8: :give2:
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 03-06-2007 14:57:02
 :haun5: :haun5:  บอกรักแล้วก็ยังเขินกันไปเขินกันมาอยู่อีกนะครับ  :haun5: :haun5:

รี6 ครับผม
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 03-06-2007 15:05:56
เอ๋า  ไม่ได้อ่านวันเดียว  ไมมันพรวดไปตั้งหลายตอนแบบนี้อ่ะ  :o

อ่านเรื่องนี้ทำให้รู้สึกเหมือนใกล้บ้าเข้าไปทุกที 
เดี๋ยวโมโห  เดี๋ยวร้องไห้  เดี๋ยวหมั่นไส้  เดี๋ยวแอบอมยิ้ม  ตอนนี้ต้องมานั่งเขินคนเดียวอีก   :o8:  :give2:
คนเขียนจะรู้มั่งไม๊เนี่ย  ว่าที่บอร์ดนี้ใกล้โรคจิตเข้าไปทุกที  :laugh:

เม้นต์ที่ 7 ....
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 03-06-2007 15:38:51
น่ารักอ่า :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 03-06-2007 19:58:00
   

..................:sad4:........ฮือ...ๆ..ไม่ยอม.......มาเทนท์ตอนที่แล้วไม่ทัน ..........
               
                                .................แต่ขอบอกว่าได้ใจมากๆอ่านแล้วน้ำตาจะไหล.... :sad4:


                          ............เริ่มมีโทรมาบอกคิดถึงแล้ว.......ดีมากนายทาน.... o13..


ปล...เอ่อ....เรย์ครับอันนี้นับเป็น 2 เมนท์นนะครับ......อย่าขี้โกง.....

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 04-06-2007 00:31:23
อ้ากกกกกกกก ตอนนี้น่ารักมาก สงสัยอ่านเรื่องนี้มากจนชอบอารมณืแบบนี้ไปแล้วนะเนี่ย อิอิ

ปล.+1 คืนให้สำหรับตอนสนุกๆอิอิ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 04-06-2007 02:52:58
เขิลจังตอนนี้   :o8:

เรย์ 10 กว่าเม้นต์ พร้อม+1 ต่อไวไวจิ  :o9:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 04-06-2007 09:26:00
อย่าโรคจิตกันนะ เพราะว่าผมรู้สึกตัวว่า มักชอบแอบหลงรักคนโรคจิตทุกที
 :-[


****************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เรื่องบ้า ๆ ของทานตะวัน

"แม่ครับ... สวัสดีตอนเช้าครับผม....อ้อนอาบน้ำเสร็จยังครับแม่"

ช่างเป็นเด็กที่น่ารักเหลือเกิน กิริยามารยาทดี หน้าตาดี ฐานะดี โชคดีที่อ้อนมีเพื่อนแบบนี้
ถ้าไม่ได้ทานตะวันคอยดูแลให้ไม่รู้ว่าป่านนี้ลูกชายจะกลายเป็นคนแบบไหนกัน

แม่ของอ้อนรับไหว้ของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่แล้วก็เปิดประตูให้ทานตะวันเดินเข้ามานั่งเล่นภายในบ้าน

"อาบน้ำนานเจ้านั้น เมื่อคืนเป็นอะไรไม่รู้แม่ได้ยินเสียงปึงปังไม่รู้ไปโกรธใครมาอีก เด็กคนนี้ใช้ไม่ได้เลยกลางคืนไม่หลับไม่นอนทำอะไรอยู่ไม่รู้ดึกดึกดื่น ๆ
พอเช้าก็ไม่ค่อยยอมตื่น แม่เรียกหลายครั้งแล้วถึงได้ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว"

แม่ของอ้อนบ่นให้ทานตะวันที่นั่งยิ้มอยู่บนเก้าอี้หน้าบ้าน แล้วก็ตะโกนเรียกลูกชายอีกครั้ง

"อ้อน ทานมารอแล้ว...แต่งตัวเสร็จหรือยังลูก"


แต่งตัวเสร็จตั้งนานแล้ว อาบน้ำเรียบร้อยนานแล้วด้วย แล้วก็นั่งมองหน้าตัวเองอยู่หน้ากระจกเนี่ยไงล่ะ

ดูยังไงก็หน้าตาจืด ๆ ขาว ๆ ซีด ๆ.....ไอ้ทานมันชอบได้ยังไงวะ ชอบได้ยังไงไม่เข้าใจ

อ้อนนั่งมองหน้าตัวเองแล้วก็คว้าหนังสือสองสามเล่มมาถือเอาไว้ เตรียมจะเดินออกจากห้องหลายครั้งแล้วก็เลี้ยวกลับมายืนทำใจอีกเป็นรอบที่หนึ่งร้อย

อร๊ากกกกกกกกกกก ไม่กล้าเจอเว้ย ทำไงดี ใจเต้นอ่ะ เอ้าสูดหายใจลึก ๆ หนึ่งสองสาม

"แอ่ะ เฮ้ออออออ" อ้อนลงไปนั่งอยู่ที่เดิมแล้วก็ยกมือขึ้นกุมหน้าผาก ไม่กล้าเว้ย ไม่กล้าเจอหน้า ทำไงดี ทักอะไรก่อนดีวะ เจอแล้วทักไอ้ทานมันยังไง

หากำลังใจให้ตัวเองไม่เจอ ไม่รู้จะทำยังไง สุดท้ายตัดสินใจลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ดวงตามุ่งมั่น จ้องมองที่ลูกบิดประตูและ และ และ

"เฮ้ย จะให้ต้องรออีกนานมั้ย มีซ้อมเช้า จะมัวทำอะไรอืดอาดยืดยาดมากมาย กี่โมงกี่ยามแล้ว ห๊า"

ประตูไม่ต้องเปิด ก็มีคนเปิดให้ แถมไอ้คนบ้านั่น ยังมายืนทำหน้ายุ่งเหยิงอยู่ตรงหน้า ตามมาด้วยการบ่นออกมาเสียงดังชนิดไม่ต้องเกรงใจกันก็ว่าได้

อ้อนยืนอ้าปากค้าง เรื่องที่คิดอยู่ในหัวปลิวว่อนออกไปจากสมอง

ต้องยิ้ม แล้วทักทายว่า "สวัสดีทาน" ต้องพูดหวาน ๆ ว่า "เช้านี้อากาศดีเนอะ"

แต่ไอ้ที่คิดอยู่หลุดหายไปหมดแล้ว ที่ท่อง ๆ เอาไว้ ไม่มีเหลือ ทั้งที่ควรจะเป็นการพบเจอกันที่หวานชื่น แล้วดูประโยคทักทายของคนตรงหน้าคนนี้

"ทำไม เป็นอะไรมองอยู่ได้ รีบตามมาเร็ว ๆ สิ ยืนอยู่อย่างนั้นแล้วจะไปเรียนได้ยังไง หรือจะเหาะไปล่ะ ตามมาเร็ว"

อ่อ

เนี่ยเหรอครับ คำทักทายแสนหวานชื่นไพเราะ ของคนที่บอกว่า ขอร้องล่ะมารักผมเถอะ

เนี่ยเหรอวะ เนี่ยเหรอ เนี่ยเหรอ เนี่ยเหรอ โธ่เว้ย

มันก็ยังเหมือนเดิม ใจร้ายปากร้าย นิสัยเสียเหมือนเดิมไม่มีอะไรดีขึ้นเลยนี่ แล้วจะตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวรอมานั่งเครียดเพราะเรื่องของไอ้ทานทำไม
ในเมื่อมันดูเหมือนไม่ได้สนใจไยดีอะไรเลย โง่หรือเปล่า รู้อย่างนี้ไม่น่าตื่นเต้นดีใจเพราะมันเลย

อ้อนเดินหน้าหงิกลงมาจากบนห้อง เดินตามหลังคนตัวโตที่ก้าวเท้าลงมาที่บันได แล้วก็ได้แต่คิดอย่างปลง ๆ กับตัวเอง

ตื่นเต้นไปคนเดียว

บ้าไปคนเดียว

ท่องทำไม เรื่องที่จะพูดดี ๆ กับไอ้ทาน ท่องไปทำมายยยยยยยย ในเมื่อมันไม่เคยสนใจกันอยู่แล้ว ประสาทไปคนเดียวแค่นั้นเอง

กูหนอกู บ้าไปคนเดียวแท้ ๆ อยู่เฉย ๆ ก็ดีอยู่แล้ว หาเรื่องให้ตัวเองแท้ ๆ
 
.............

ทานตะวันเดินนำหน้า โดยมีอ้อนเดินลากขาตามมาห่าง ๆ ใบหน้าคมยิ้มกว้างเมื่อเจอหน้าแม่ของอ้อน แล้วก็เลยเอ่ยทักทายอีกครั้งก่อนจะยกมือไหว้เมื่อต้องจากลา

"เดี๋ยวทานไปเรียนก่อนนะครับแม่ แม่สวัสดีครับ"

ช่างเป็นคนมารยาทดี ท่าทางดีเหลือเกิน แม่คงชื่นชมมันซะเต็มประดา แต่ไม่ใช่ผมหรอกนะแม่ มันน่ะ ไอ้ทานเนี่ย มันสร้างภาพ กับผมมันด่าเอา ด่าเอา กับแม่มันยกมือไหว้ยิ้มแฉ่ง
ลูกแม่มันโชคร้าย ช่วยไม่ได้....ซวยเอง

อ้อนเหลือบมองหน้าแม่อีกครั้งก่อนจะเดินไปคว้ารองเท้ามาโยนไว้ที่หน้าประตูบ้าน แล้วก็ลงไปนั่งผูกเชือกรองเท้า ทั้งที่ขาอีกข้างต้องเหยียดยาวเพราะไม่สามารถงอเข่าได้
ส่วนคนตัวโตเดินลิ่วไปเปิดประตูรถและเข้าไปนั่งประจำที่นั่งคนขับเรียบร้อย ทิ้งให้อ้อนนั่งผูกเชือกรองเท้าและทำหน้าเรียบเฉยอยู่หน้าบ้าน

ทำเหมือนไม่สนใจกันเลยสักนิด

ใช่ ทำเหมือนไม่สนใจ

แต่จริง ๆ สนใจ

สนใจมากด้วย สนใจมากอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าคนอย่างทานตะวันจะคิดสนใจใคร

อ้อนเดินลากขามาเปิดประตูรถแล้วก็ขึ้นไปนั่งที่ประจำของตัวเอง ไม่ได้อารมณ์ดีเลยสักนิด แต่ก็ทำเป็นนิ่งเฉยเหมือนทุกวันที่ผ่านมา

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง วันนี้ก็เหมือนเมื่อวานแล้วก็เหมือนวันก่อน ๆ ไอ้ทานยังคงด่าคนที่ขับรถปาดหน้าเหมือนเดิม

แถมซ้ำยังทำหน้าโหดยิ่งกว่าเมื่อวานด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าตอนนี้คิดอะไรอยู่ คงไม่คิดอะไรหรอก ก็เห็นอยู่ว่าเหมือนเดิม แล้วจะไปคาดหวังอะไร

อ้อนมองไปนอกหน้าต่างรถ และนั่งชิดติดกับประตูรถเหมือนเดิม แต่คราวนี้อะไร อะไรดูเหมือนต่างจากเดิมในความคิดของทานตะวัน

ไอ้คนข้าง ๆ นี่มัน....ทำหน้าเฉยได้ดีจริง ๆ เลยนะ
ไม่คิดอะไรเลยหรือไง ทำตัวเป็นปกติได้ขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อวานเจอเรื่องมากมายขนาดนั้นแล้ววันนี้ก็ทำตัวปกติได้ขนาดนี้เลยหรือไง

อ้อนมันคิดอะไรของมันกันแน่ ทำเป็นเฉย ทำเป็นนิ่งอีกแล้ว คิดอะไรก็ไม่ยอมพูดไม่ยอมบอก จะให้นั่งเดาใจแบบนี้อีกนานแค่ไหนกันเนี่ย
ไม่รู้บ้างเหรอ ว่าเดาความคิดใครไม่เป็น อ้อนมันไม่รู้บ้างเลยหรือยังไงว่าตอนนี้ไม่รู้จะชวนคุยเรื่องอะไรดี

"วันนี้ซ้อมเช้า แม่งถ้าขืนโดดกันอีก เอาตายแน่"

เหรอ แล้วไง ก็เห็นตายกันทุกวัน จะพูดทำไม ไม่เห็นอยากรู้เลย เห็นทุกวันจนเบื่อแล้ว

"คอยดูเหอะ ถ้าแม่งมาเลทกันอีก เละแน่"

เออ ก็เห็นเละกันทุกวัน ไม่เห็นว่าไอ้พวกนั้นจะรอดตายกันตอนไหน โดนขนาดนั้นมันก็ยังอยู่ชมรมมหาโหดนี้ได้อีกนะ เชื่อมันเลยจริง ๆ

อ้อนนั่งเฉย ฟังทุกคำพูดที่ทานตะวันพูด แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา วันนี้ไม่ต่างจากเมื่อวาน คนสองคนที่ไม่ค่อยเข้าใจกันก็ยังคงเป็นแบบนั้นเหมือนเดิม

ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ มีแต่ท่าทางเมินเฉย ส่วนคนขับรถ เหลือบสายตามองหน้าคนที่นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ หลายครั้ง แล้วก็เริ่มคิดไม่ออกว่าตัวเองจะพูดอะไร
ถึงจะได้คุยกับคนที่เงียบ ๆ เฉย ๆ คนนี้

"วันนี้ซ้อมเช้า เหนื่อยอีกแล้วแน่เลย"

เหรอ ไม่เห็นอยากรู้เลย บอกทำไม เหนื่อยก็เหนื่อย เหนื่อยไม่เหนื่อยก็ไม่เห็นจะต้องมาบอกกันเลยนี่ ไม่ได้อยากรู้เลย

หมดแล้วมุก ไม่มีสัญญาณตอบรับใด ๆ ตอบกลับมา

ทานตะวันเริ่มหน้าเสีย ใจแกว่ง ๆ หวั่น ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคนที่นั่งเงียบทำท่าทางเหมือนไม่สนใจกันเลยสักนิด
ทำไม.....ไม่ถามอะไรเลย

"เหรอ เหนื่อยแย่เลยเนอะ ใช่มั้ย" พูดแบบนี้แล้วก็ส่งยิ้มหวาน ๆ มาให้น่ะ ได้มั้ย ทำแบบนั้นเป็นมั้ย ทำไม่ได้เลยเหรอ หรือต้องให้สั่งถึงจะทำได้

"เอ่อ....เมื่อ เมื่อ คืน...เป็นไงมั่ง เมื่อคืนว่าจะนอนหัวค่ำหน่อย แต่นั่งดูบอลดึกจนได้ แม่งไอ้คู่ที่เตะก็ไม่ได้เรื่องเลย อุตส่าห์อยากดูฟอร์มการเล่นที่ไหนได้
ไม่ได้เรื่องจริง ๆ บ้านตัวเองแท้ ๆ ยังเล่นแบบนี้ สมควรแล้วที่ตกชั้น"

เหรอ ไม่พอใจก็ไปเล่นเองสิ มานั่งบ่นทำไม ไม่เห็นอยากรู้เลย

อ้อนยังคงนั่งเงียบ และนิ่งเฉย ไม่แสดงท่าทางอะไรออกมาเลยสักนิด

แค่นี้ทานตะวันก็อยากจะร้องไห้แล้ว ทำไมทำเหมือนไม่สนใจกันได้ขนาดนี้ หน้าก็ไม่ยอมมอง แล้วแบบนี้จะให้ทำยังไง ทำตัวไม่ถูกแล้วนะโว้ย

หมดหัวข้อที่จะเอามาคุย ยุติบทสนทนาแต่เพียงเท่านั้น

คนขับรถก็ทำได้แค่มองถนน และแอบเหลือบมองคนที่นั่งอยู่เคียงข้างหลาย ๆ ครั้ง แล้วก็หันกลับไปตั้งสมาธิอยู่กับการขับรถ

นาน ๆ เข้า ความอดทนน้อยนิดก็เริ่มหมด จะให้ทำยังไงถึงจะพูดด้วย จะให้ทำยังไงถึงจะคุยด้วย จะให้ทำยังไง ถึงจะยิ้มให้กันสักนิด

จะให้ทำยังไง

แค่บอกมาคำเดียว ว่าจะให้ทำยังไงแล้วจะทำ
 
.....................

"เฮ้ย....หยิบสมุดให้หน่อยซิ อยู่เบาะหลังรถน่ะ มีซองปากกาอยู่ด้วย พอดีไปเจอสมุดเก่า ๆ อยู่เลยหยิบมาเมื่อเช้า
ตอนแรกกะเอาไว้จดรายงาน แต่ฉีกหน้าแรกออกแล้ว พอมีที่ว่างให้จดอยู่หรอก หยิบไปหน่อยสิ"

เหรอ หยิบสมุดให้หน่อย เออก็ได้ เล่มนี้ล่ะมั้ง คงเป็นเล่มนี้ อ้อนพยายามเอื้อมไปหยิบสมุดเล่มบาง ที่วางไว้ที่เบาะหลังรถแล้วก็ยื่นส่งให้กับคนที่กำลังขับรถ

"เอามาให้ทำไม เอากลับบ้านไปเลย แล้วพรุ่งนี้เขียนรายงานมาส่งด้วย"

เขียนรายงาน รายงานอะไร ไม่มีรายงานอะไรทำไมต้องเขียน

"รายงาน รายงานอะไร " อ้อนเอ่ยถามออกมาและพยายามครุ่นคิดว่ามีงานค้างอยู่หรือเปล่า แต่ก็คิดไม่ออกว่าต้องเขียนอะไร

แล้วทำไมต้องเอาไอ้สมุดเละ ๆ เล่มนี้ไปด้วย ดูหน้าปกสิ เขียนตัวเท่าหม้อแกงด้วยปากกาหมึกซึม

..............พันตำรวจเอกดอกเตอร์นายแพทย์ทานตะวัน.................พ่อทุกสถาบัน...............

เออเขียนเข้าไปได้นะ มีการวาดรูปสัญญลักษณ์เป็นพระอาทิตย์อมยิ้มด้วย น่ารักตายเลย
แล้วจะให้ทำอะไร ให้ร่างรายงานให้หรือไง ใช้อีกแล้ว เออลืม....เป็นคนใช้มันก็งี้แหละ จะไปหวังอะไรมากมาย

"รายงานเรื่องการทำหน้าที่แฟนที่ดี รีบ ๆ เขียนสรุปมาให้หมดนะ จะเอาไว้เป็นคู่มือ การทำตัวให้คนบางคนรู้สึกว่ารัก แค่นั้นแหละ"

ห๊า คู่มือ

คู่มือ

คู่มือการทำหน้าที่แฟนที่ดีเหรอ

บร้าาาาาาาาาาา พูดอารายออกมา ล้อเล่นหรือเปล่า แล้วใครจะไปเขียนได้วะ

อ้อนอยากจะหัวเราะ แต่ก็อยากจะร้องไห้ เขิน เมื่อรู้ว่าไอ้คู่มือที่ทานตะวันจะเอาไปใช้หมายถึงเอาไว้ใช้กับใคร

"ล้อเล่นใช่ป่าว"

น้ำเสียงที่เอ่ยถาม ทำให้ทานตะวันชะงักไปเล็กน้อยและหันมามองหน้าของคนถามให้เต็มตา

"บ้าเหรอ เรื่องแบบนี้ล้อเล่นได้หรือไง จริงจังนะ ไม่ใช่ไม่จริงจัง เมื่อคืนนอนคิดทั้งคืนเลยว่าจะทำตัวยังไงดี
แล้วดูพูดเข้าสิ หาว่าล้อเล่น ตกลงไม่จริงจังหรือไง หรือนึกว่าแกล้ง.....นี่นั่งอยู่ด้วยกันอย่างนี้ยังไม่รู้จะทำตัวยังไง
ก็ช่วย ๆ หน่อยเถอะ อยากได้อะไรอยากให้ทำอะไรก็บอกมา จะได้ทำตัวถูก...ไม่ใช่เป็นไอ้บ้าพล่ามอยู่คนเดียว
โดยที่คนบางคนก็ทำหน้าเฉยไม่สนใจจะฟังแถมยังมาหาว่าเราล้อเล่นซะอีก ....... ทำอย่างนี้ได้ยังไง.....ไม่เห็นใจกันบ้างเลย"

ทานตะวันพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกไปเรื่อย ๆ แถมซ้ำยังทำหน้าเหมือนเด็กขี้งอน แก้มป้อง พูดไปมีการทำหน้าตางี่เง่าเล็กน้อย พอให้รู้ว่าคิดอย่างที่พูดจริง ๆ

แล้วอย่างนี้จะให้คนฟังทำยังไง

อ้อนม้วนสมุดเล่มบางสภาพเละ แล้วก็สะกดกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ไม่ได้

อ้าว ไม่รู้นี่ รู้แล้วจะถามเหรอ ไหนว่าดูบอลทั้งคืน แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาบอกว่านอนคิดทั้งคืนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน

ก็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง

"ทำไม หัวเราะอะไร เออ เรื่องคนอื่นทำเป็นหัวเราะดีนัก ไม่สนุกนะไม่สนุก คนเครียดแทบตายหัวเราะอยู่ได้"

เอ้า เป็นงั้นไป มีการมาต่อว่ากันอีก ตกลงใครผิดกันแน่เนี่ย

"ไม่ได้หัวเราะ จะหัวเราะอะไรล่ะ ยังไม่ได้หัวเราะเลย แค่ยิ้มเฉย ๆ "

อธิบายไปแล้วและหวังว่าคนตัวโตหน้างอคนนี้จะเข้าใจ แต่ทานตะวันก็ทำเหมือนไม่เข้าใจขึ้นมาทันที

"เออ ยิ้ม ยิ้มได้ยิ้มไป สนุกไปเลย ไอ้เราก็บ้าไปคนเดียวสิ ไม่หลับไม่นอน ดูแต่นาฬิกาว่าเมื่อไหร่จะเช้าจะได้มาหา รีบอาบน้ำแต่งตัวบึ่งรถมาตั้งแต่ไก่โห่
ก็เข้าบ้านไม่ได้ ได้แต่จอดรถรอให้สว่างก่อน แล้วถึงไปกดกริ่งเรียก สนุกล่ะสิ เออ ยิ้มไปเลย สนุกไปเลย คนไม่เคยรักใครนะโว้ยย ทำตัวไม่ถูก
ใครจะไปเหมือนตัวเองล่ะ ยิ้มระรื่น มีความสุขไม่เดือดร้อน ดี จะได้จำไว้ คนบางคนชอบเห็นความรู้สึกชาวบ้านเป็นเรื่องล้อเล่น"

นั่นมันคุณไม่ใช่เหรอครับ คุณทานตะวัน แล้วมาตัดพ้ออะไรซะใหญ่โตขนาดนั้นล่ะ

อารมณ์หงุดหงิดงอแงงี่เง่าเมื่อช่วงเช้าหายไปแล้ว เมื่อได้รับรู้ความคิดของคนที่ยังบ่นไม่เลิก

ก็แค่บอกมา ว่าคิดยังไง บอกให้รู้บ้างทำให้เห็นบ้างว่าแคร์ ว่าใส่ใจ ก็แค่นี้เอง แค่พูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาบ้างแค่นี้เอง
คนฟัง ฟังแล้วก็ชื่นใจ ไม่ต้องมานั่งเดาเอาเองเหมือนที่เคยทำ พูดออกมาแบบนี้ดีกว่าเป็นไหน ๆ

"นะ ช่วยเขียนหน่อย อะไรก็ได้ เขียน ๆ ไปเถอะ"

บอกเองนะว่าให้เขียน งั้นเขียนก็ได้ เขียนตอนนี้เลยแล้วกัน

..............ทานบ้า.............

ตัวโตกว่า ตัวหนังสือตัวใหญ่เต็มหน้ากระดาษแล้วอ้อนก็ยื่นส่งให้กับคนที่ตั้งใจขับรถ

"ห๊าาาาาาาาาอะไรเนี่ย เขียนอะไร อ้อน เขียนไรเนี่ย โธ่เว้ย เอามาเลย ไม่ต้องมีแล้วคู่มงคู่มืออะไรเนี่ย โห่เอ้ยเอามาเลย"

สมุดถูกดึงไปแล้วและโยนกลับไปไว้ที่หลังรถ

ส่วนอ้อนก็ได้แต่นั่งหัวเราะจนหน้าแดง เมื่อเห็นว่าทานตะวันยิ่งหน้าหงิกหน้างอหนักกว่าเดิม เอ้า ก็บอกให้เขียน ก็เขียนให้แล้วจะมาโกรธทำไมล่ะเนี่ย

....................

ทานตะวันเงียบไปแล้ว และไม่ยอมพูดอะไรอีก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่างอน
จนอ้อนต้องเลิกคิ้วขึ้น และหันไปมองคนที่ทำหน้าเครียด ไม่ยอมพูด

"กินบ๊วยมั้ย เดี๋ยวป้อน"

แต่สิ่งที่ได้รับเป็นคำตอบคือความเงียบ.......

อ้อนทำท่าจะเอื้อมไปหยิบกระปุกบ๊วยแต่ต้องรีบหันไปมองหน้าของคนที่ทำหน้าเฉยด้วยความตกใจ

มือถุกรั้งไปหาคนหน้าหงิกหน้างอคนนั้น...และหลังมือยังถูกปลายจมูกของทานตะวันประทับลงมาอย่างรวดเร็วก่อนจะถูกยึดกุมเอาไว้เหมือนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ

คนที่ทำเหมือนโมโหก็ขับรถด้วยมือข้างเดียว ไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีก

อ้อนนั่งมองอีกฝ่ายตาค้างอยู่อย่างนั้น แล้วต้องสูดหายใจลึก ๆ เพราะกลัวจะแสดงท่าทางให้รู้ว่าเขินออกมานอกหน้า

ไม่รู้จะพูดอะไร เลิกคุย เลิกพูดกันแล้ว

ได้แต่พยายามทำหน้านิ่ง ๆ เฉย ๆ แล้วก็นับหนึ่งถึงร้อย เพื่อระงับอาการตื่นเต้นและหัวใจที่เต้นระทึกจนแทบจะหลุดออกมาจากอก
รวมทั้งพยายามจะหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างรถเพื่อไม่ให้ทานตะวันเห็นว่าตอนนี้หน้าคงแดงไปถึงไหนต่อไป

เลิกพูด เลิกคุย

ทานตะวันอมยิ้มส่วนอ้อนได้แต่ทำเป็นนิ่งเฉย คนสองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก แต่กลับรับรู้ถึงความรู้สึกหวาน ๆ จากสัมผัสที่สื่อถึงกันได้ไม่ยาก

ดวงตาของทานตะวันยังจ้องมองอยู่ที่ถนน

ส่วนดวงตาของอ้อนยังมองออกไปที่ข้างทาง

ไม่ได้มองหน้ากัน แต่ก็รับรู้ถึงความอบอุ่นจากฝ่ามือที่สัมผัสกันอย่างแนบแน่น

คู่มือการเป็นแฟนของทานตะวันคงไม่ต้องใช้ เพราะเพียงแค่สิ่งที่เป็นอยู่ก็ทำให้อ้อนใจเต้นระทึกได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว
ใบหน้าคมมีรอยยิ้มแต้มอยู่ที่ริมฝีปาก เมื่อหันไปมองคนที่นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ

ใครจะรู้ว่าในขณะที่ทานตะวันกำลังเก็กหน้าให้เป็นปกติ แต่ตอนนี้ใจกำลังเต้นระทึกไม่ต่างจากอ้อนนัก เพียงแต่เก็บอาการได้ดีกว่า
ทั้งที่อยากจะโวยวายและตะโกนออกมาให้ดัง ๆ เพื่อให้ชาวบ้านรับรู้

"ใครหว่า ทำหน้าเฉย ๆ อ๋อ ไอ้อ้อนไง อ้อนอ่ะ อ้อน อ้อน อ้อน...แฟนทานไงไม่รู้จักเหรอ...แฟนทานเองแฟนทาน ไม่รู้จักจริงๆ เหรอ...โห่ เชยยยยยยยย"

TBC ....

 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 04-06-2007 09:53:31
ทานน่ารักอะ  :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 04-06-2007 10:06:52
โอ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น่ารักมากๆเลยอ่ะ อ่านแล้ว เขิลแทน อิอิ :impress2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Felm ที่ 04-06-2007 10:10:26
 :o8: :o8:

สุดๆ อะ ไม่รู้จะพูดอะไร ช่วงนี้สมองเบลอ นู๋งง
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 04-06-2007 12:14:46
อ่านแล้วมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเยยอะ   :haun5:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 04-06-2007 12:30:46
ชอบอ่า     น่ารักมากๆๆ เลยตอนนี้อ่า :like6: :like6: :like6: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :give2: :give2: :o8: :o8: :o8: :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 04-06-2007 13:08:37
ไม่ไหวแล้ววววว  น่ารักเป็น บ้า ><"
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 04-06-2007 13:49:30

"ใครหว่า ทำหน้าเฉย ๆ อ๋อ ไอ้อ้อนไง อ้อนอ่ะ อ้อน อ้อน อ้อน...แฟนทานไงไม่รู้จักเหรอ...แฟนทานเองแฟนทาน ไม่รู้จักจริงๆ เหรอ...โห่ เชยยยยยยยย"


 :like6: :like6: :like6:
 :-[ :-[ :-[ :loveu: :loveu:

ไม่เชยอ่ะ  แต่เขินว้อยยย.... o17
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-06-2007 14:22:39
เด่วเตอะตาตาม จับจูบปากซะเลย หนีเที่ยวไม่ค่อยเข้ามาอ่าน  แล้วยังมาเล่นมุขอีก
 o18

ขอบคุณคับคับที่ช่วยโหวตคะแนนให้ครับ เอาไปสองจุ๊บ
 :give2: :give2:
เปลี่ยนงี้ดีกว่า รอดูคะแนนชื่นชมสักสิบคะนแนนมั่ง อิอิ แล้วจะรีบมาต่อ กร๊าก
 :laugh3:
เพื่อนๆที่น่ารักช่วยกันคอมเมนต์มาตลอดเอาไปคนละบวก
นี่ถ้าตาเท็นคนเขียนเรื่องมาเจอคงดีใจ มีการรวมพลังกันคอมเม้นต์อีก
 :impress:


****************



เราก็ว่าทำไมเรทติ้งมันพุ่งกระฉูด

ชิชิ มาเรียกร้องคะแนนอยู่นี้เอง

เอาไปเลยเพ่ เมนท์ที่แปด กะลบหนึ่ง

 :laugh3:

กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ล้อเล่น กดให้แล้นนนน 1 บวกคร้าบบบบบ

มาต่อเลยนะครับ

พูห์คร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 04-06-2007 15:11:17
 o7 o7 o7 o7

อ๊า ไม่ไหวแล้ว คู่นี้ น่ารักสุดๆ  :-[ :-[ :-[ :-[

คะแนนนิยมพี่เรย์พุ่งแน่ๆ  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-06-2007 18:50:15
เหอ เหอ เรื่องนี้อ่านแล้วโรคจิตดีแท้ อิอิ   :laugh:  :laugh:
เม้นท์ที่สิบแล้ว ต่อด่วยเลยจ้า  o11  o11  o11
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 04-06-2007 19:23:54
กระซิกๆ ไม่มีใครเห็นใจผมเยย
 :o12: :o12: :o12:
***********************************************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน คนเห็นแก่ตัว

"หิวน้ำ"

"หยิบผ้าขนหนูให้หน่อยได้มั้ย"

"เหงื่อออกเยอะเลย เดี๋ยวไปอาบน้ำก่อนนะ"

เป็นแบบนี้มาเกือบสองชั่วโมงแล้ว เห็นชัด ๆ ว่าคนพูดทำหน้าแบบว่าฝืนใจที่จะพูด คงจะรู้สึกแปลก ๆ ตัวเอง แล้วก็คงเขินที่จะพูดแบบนี้
อยากจะหัวเราะก็อยาก อยากฟังก็อยากฟัง
เลยไม่รู้ว่าควรจะบอกให้ทานตะวันหยุดพูดจาแบบนี้ หรือว่า ควรจะสนับสนุนให้พูดต่อไปดี

ในใจก็แอบขำ แต่แสดงออกไม่ได้ เดี๋ยวหาว่าไปหัวเราะเยาะได้ซวยกันอีก

คิดแล้วก็ตลก มีแต่เรื่องตลกเยอะแยะไปหมด เริ่มจากคนตัวโตบ้าบอที่ขยันทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมเกินเหตุ ทำตาปริบ ๆ เดินตัวตรงเป็นหุ่นยนต์ไปได้
เหตุผลคือ เดินหลังค่อมไม่ดี เดี๋ยวไม่น่าภูมิใจ เกี่ยวกันตรงไหน

ไม่เห็นต้องสนเรื่องภูมิใจหรือไม่ภูมิใจในเมื่ออ้อนก็เดินลากขาแบบนี้ ทานตะวันควรจะอายที่ต้องมาเดินกับคนขาเป๋ ทำอะไรเชื่องช้าเป็นเต่าคลานมากกว่า

อ้อนเดินหิ้วกระเป๋าและนำมาวางไว้บนม้านั่งตัวยาว ส่วนทานตะวันค้นหาผ้าขนหนูในกระเป๋าแล้วก็วิ่งลิ่วไปอาบน้ำ ปล่อยให้อ้อนนั่งเล่นอยู่คนเดียวและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

หน้าที่แฟนที่ดีเหรอ

หน้าที่แฟนที่ดีเป็นยังไง

ให้ไอ้ทานทำหน้าที่แฟนที่ดีได้เหรอ เรื่องตลก ๆ แบบนั้น จะให้บอกเหรอ จะให้บอกว่าช่วยเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้เพื่อมาเป็นอย่างที่อยากได้งั้นเหรอ

ถ้าไอ้ทานมันไม่เป็นอย่างที่เป็นตอนนี้ จะรักเหรอ ถ้าต่างจากนี้ ถ้าหน้าตาไม่ใช่แบบนี้ ถ้าไม่โวยวายอย่างนี้

ถ้าทานมันเป็นเฮียก๋วยของไอ้รัก....คนที่ทำให้ไอ้รักนั่งร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรเพียงเพราะว่าเฮียโกรธที่ไม่ยอมกินข้าวให้ตรงเวลาจนปวดท้อง
คนแบบนั้นจะทำให้รักได้หรือไง

แล้วจะชอบมั้ย.....ถ้าไม่ใช่ไอ้ทานบ้าคนนี้

คนที่แหกปากโวยวาย เพราะแกะริบบิ้นที่พันหัวไม่ออก

คนที่เอาแต่พูดปาว ๆ อยู่ทุกวันว่ากูคือประกาศิต คำสั่งกูเป็นสิทธิ์ขาด

คนที่แทบจะกระโดดเตะรุ่นน้องเพียงเพราะมันวิดพื้นช้า ไม่ยอมมาซ้อม หรือโดดซ้อม

คนที่ยิ้มแฉ่ง พูดจาดี มารยาร้อยแปดเวลาต้องเข้าหาผู้ใหญ่

คนที่ทำหน้าเศร้า เวลาที่มีปัญหากับครอบครัว

คนที่ท่าทางเหงา ๆ เวลาที่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง

คนที่ร้องไห้ให้เห็น โดยไม่คิดจะวางฟอร์มอีกต่อไป

และเป็นคน ๆ เดียวกับที่บอกว่า "รักทานเถอะ....ขอร้องล่ะ"

คิดได้ถึงตรงนี้ แล้วอ้อนก็ได้แต่นั่งอมยิ้ม ก้มมองที่ฝ่ามือของตัวเอง แล้วก็ยิ่งยิ้มได้มากขึ้น

ทานตะวันยังคงเป็นทานตะวันไม่เปลี่ยนแปลง

ถ้าทานไม่ใช่คนนี้แล้วจะรักมั้ย คนมีเป็นร้อยเป็นพัน ทำไมต้องเป็นคน ๆ นี้
ทำไมถึงทำให้รู้สึกถึงความพิเศษ ทำไมถึงได้รู้จักกัน ได้ทะเลาะกัน เกลียดกันมาก ๆ ไม่เคยเข้าใจกันเลย

มีแต่เรื่องให้ขัดแย้งกันตลอดเวลา

แล้วทำไม...........วันนี้ถึงได้ยิ้มได้เพราะคน ๆ นี้
แปลกดีนะ บางทีเรื่องตลก ๆ ก็มักเกิดขึ้นกับชีวิตโดยไม่ทันรู้ตัว

อ้อนนั่งคิดอะไรไปเรื่อย ๆ แล้วก็ยิ่งแปลกใจตัวเอง จะกลายเป็นคนฉวยโอกาสหรือเปล่า รู้ตัวว่าไม่ใช่คนดีอะไรนักหนา
หนี้ก็ยังติดไอ้ทานอยู่ไม่ได้ใช้คืนให้ ถ้าจะให้เป็นแฟนจริง ๆ แน่ใจหรือไงว่าจะเป็นได้
ในเมื่อ.......ไม่มีอะไรน่าพิสมัยเลยสักนิด

เอาใจไม่เป็น พูดหวาน ๆ ไม่ได้ ถ้าจะให้ปรับปรุงตัวก็คงได้ แต่จะทำได้ตลอดไปงั้นเหรอ จะรับปากได้ยังไงว่าจะทำไปได้ตลอด

แล้วอนาคตล่ะ อนาคตจะเป็นยังไง วันหนึ่งถ้าทานมันเปลี่ยนไปจะทำยังไง
ในเมื่อโอกาสในชีวิตของคนเรามีไม่เท่ากัน แล้วคนอย่างทาน มันจะมีความอดทนขนาดมาจมอยู่กับคนแบบนี้ได้ยังไง

ความอดทน

รู้อยู่แก่ใจตัวเองว่า ทานมันทนอะไรนาน ๆ ไม่ได้ แล้วก็พร้อมจะระเบิดออกมาเสมอ

ดีแน่แล้วเหรอ ที่เป็นแบบนี้

แน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าดีแล้ว
 
..............................

"หิวแล้ว......ไปหาข้าวกินกันเถอะ" เสียงของคนที่มายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับผ้าขนหนูถูกเหวี่ยงโยนไว้ที่กระเป๋า หน้าที่ของอ้อนคือจัดการให้เรียบร้อย ใช่ หน้าที่คือจัดการให้เรียบร้อย

แล้วทานตะวันก็ก้าวยาว ๆ จากไปโดยไม่รอ เหมือนทุกวัน.......

เหมือนทุกวัน

เหมือนเมื่อวาน

เหมือนวันก่อน ๆ

แล้วแบบนี้แน่ใจแล้วใช่มั้ย.........ว่าทุกอย่างจะเป็นอย่างนี้ไปตลอด

ดีแล้วเหรอ ที่เดินอยู่ข้างหลัง แล้วมองตามแผ่นหลังของคน ๆ นี้ ดีแล้วใช่มั้ย แน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าดีแล้ว

รู้ได้ยังไงว่าทานมันจะรักกันจริง ๆ อย่างที่ปากมันพูด

ความคิดของอ้อนบั่นทอนความรู้สึกได้มากที่สุด ทั้งที่ควรจะยิ้ม ควรจะมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่ใช่ สิ่งที่รู้สึกไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

หวังให้ใส่ใจมากกว่าที่เป็น หวังให้อีกฝ่ายแสดงให้รู้ว่ารัก หวังสูงเกินไป กำลังหวังบางสิ่งบางอย่างที่สูงเกินไปใช่มั้ย

"อ้อน หิ้วกระเป๋าไปให้ตลอดนะ เดินตามหลังเราไปแบบนี้เรื่อย ๆ อ้อนทำหน้าที่ของอ้อน เราทำหน้าที่ของเรา
ชั่วโมงนี้เวลานี้ อ้อนทำหน้าที่ของอ้อน แต่ชั่วโมงถัดไปเราจะทำหน้าที่ของเรา เราไม่อยากให้อ้อนมองว่าตัวเองไม่มีค่าแล้วก็ไม่อยากให้อ้อนหาเงินมาใช้หนี้
เราแค่อยากให้อ้อนช่วยหิ้วกระเป๋าให้ อยากให้อ้อนช่วยถูหลัง ช่วยซักผ้า ช่วยทำนั่นทำนี่ให้เรา เพราะเราอยากให้อ้อนทำ...ทำให้เรา..ทำให้เพราะอยากทำให้เราคนเดียว"

แล้วคนที่ยืนหันหลังพูดอะไรยืดยาวก็หันกลับมา แล้วส่งยิ้มเศร้า ๆ มาให้

อ้อนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาเศร้า ๆ ของคนพูด แล้วความรู้สึกแย่ ๆ ที่คิดเมื่อไม่กี่นาทีก่อนก็ถูกพังทลายลงอย่าง ช้า ๆ

"เราเห็นแก่ตัวใช่มั้ย.....ที่อยากให้อ้อนทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เราคนเดียว...เราไม่อยากให้อ้อนไปทำแบบนี้ให้ใครอีก....เรายอมรับ....ว่าเราเป็นคนเห็นแก่ตัว..เห็นแก่ตัวมาก ๆ กับอ้อนคนเดียว"

น้ำเสียงสั่น ๆ ท่าทางเศร้า ๆ

ทานตะวันหันกลับไปแล้ว และก้าวเดินอย่างช้า ๆ โดยมีคนที่เดินลากขา หิ้วกระเป๋าใบใหญ่เดินตามอยู่ข้างหลัง

กำแพงสูงเริ่มพังทลาย

คนบางคนเรียกร้องความสนใจ อยากให้มีคนทำบางสิ่งบางอย่างให้ ถ้าได้รับแล้วจะดีใจมากกว่าคนที่ได้รับอยู่เสมอแต่ไม่เห็นค่า
คนบางคนอย่างทานตะวัน
ต้องการคนที่เต็มใจช่วยถือกระเป๋า เต็มใจช่วยทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้

โยนภาระหน้าที่บ้า ๆ บอ ๆ เพื่อให้คน ๆ หนึ่งทำ และอยากให้คน ๆ นั้นทำเพียงแค่คนเดียว

มันคือความต้องการ มันคือความรู้สึกต้องการความรักที่จะถูกหยิบยื่นให้ แบบเป็นรูปธรรมไม่ใช่คำพูดลอยลม

แล้วทำไมถึงไว้วางใจให้คนๆ หนึ่งทำให้

ก็เพียงแค่อยากออดอ้อน อ้อนให้รักให้ดูแล ให้ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อย

คนตัวโตบ้าบอคนนั้น กลับมีจิตใจที่ละเอียดอ่อนยิ่งกว่าใคร ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ
และพร้อมจะเสียใจตลอดเวลาหากถูกปฏิเสธความรัก

กระเป๋าไม่ได้หนัก ในเมื่อทั้งรองเท้าและของบางส่วน ถูกดึงออกหมด และก็เห็นอยู่ว่าทานตะวันเอาไปถือไว้เองหมดแล้ว

สิ่งที่อยากได้คืออยากให้ถือกระเป๋าให้ อยากให้เดินตามหลังไปด้วยกันเรื่อย ๆ อยากเก็บไว้เพียงคนเดียวเท่านั้น

"ทาน......อยากเห็นแก่ตัวงั้นเหรอ....ทำให้ตลอดไปแล้วกัน...แล้วอย่าไปทำแบบนี้กับใคร...ให้ทำกับเราได้คนเดียวพอ"

เสียงที่บอกออกมา คำพูดของคนที่อยากฟังมากที่สุด

ทานตะวันหันกลับมาแล้ว และไม่รีรอที่จะเดินไปรั้งข้อมือของอ้อนให้เดินเคียงข้างกันอย่างช้า ๆ
รอยยิ้มสดใสถูกส่งให้กับคนที่ยอมรับความเห็นแก่ตัวของทานตะวันเอาไว้คนเดียว

รอยยิ้มที่อยากได้มากที่สุด จากคน ๆ นี้

"แน่ล่ะสิ....ก็ต้องเห็นแก่ตัวให้เยอะ ๆ อยู่แล้ว หนี้เป็นแสน ๆ เงินนะนั่น เงิน..เรื่องอะไรจะปล่อยทิ้ง...จริงมั้ย"

แทบจะสะบัดมือหนีและหยุดความซึ้งไว้เพียงเท่านั้น ดีกรีความดีลดลงจนแทบติดลบ อ้อนเงยหน้าขึ้นมองหน้าของทานตะวันอีกครั้ง แล้วก็เห็นว่า
ไอ้บ้าตรงหน้ากำลังยืนยิ้มกว้าง แถมนัยน์ตาคมยังส่องประกายระยิบระยับ เห็นแล้วน่ากระโดดต่อยให้หน้าหงายมากที่สุด

"แต่ไม่เป็นไร จะเพิ่มให้ตามที่แม่อ้อนเรียก เดี๋ยวเอาสมุดไปจดรายการมาแล้วกันว่าจะเรียกสินสอดเท่าไหร่ จะได้ให้แม่เตรียมเงินไปขอได้ถูก..
อย่าลืมไปนอนคิดมานะ แล้วพรุ่งนี้มาให้คำตอบเรา....รออยู่....ห้ามลืมเด็ดขาดรู้มั้ย"


TBC....
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-06-2007 19:31:47
 :try2: พูดให้เข้าใจกันแบบนี้ตั้งแต่แรก คนอ่านก็คงไม่ต้องลุ้นเหนื่อยขนาดนี้  :try2:
ปล.เม้นต์ที่ 1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 04-06-2007 20:00:14
อิอิ ทานนี้เดี่ยวก็น่ารัก เดี่ยวก็พูดจาน่ากระทืบมาก แต่ไงก็น่าร้ากกกกกกกกกกกก อิอิ

ปล. หวังว่าเป็นเม้นต์ที่ 2 ถ้าไม่มีใครปาดน่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 04-06-2007 20:33:04
 :impress2: :impress2:  เริ่มยอมพูดความในใจแบบนี้ก็ดีแล้วครับ  แต่ว่าอ้อนกะทานเนี่ยะเปนพวกคิดมากแล้วก็คิดไปเองทั้งคู่เลยนะครับ :haun5: :haun5:

รี3แล้วคร้าบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 04-06-2007 21:06:28
เห็นด้วยกับ age อ้อนจะคิดมากและเข้าข่ายคิดเองเออเอง มากกว่าทานนิดนึง  o3

จากเด็กที่ขาดความอบอุ่น  ต้องการแค่ใครสักคนที่คอยใส่ใจ  เหงา เดียวดายมาทั้งชีวิต
พอมาได้พบเจอกับใครอีกคนที่คอยเต็มเติมสิ่งที่ขาดหาย
ความรัก ความผูกพัน  มันช่างทำให้โลกสวยงามจริงๆ  :give2:  :give2:  :give2:

เรื่องนี้เล่นกับอารมณ์คนอ่านจริงๆ แค่ไม่กี่ประโยค เนื้อเรื่องก็ไม่ได้เดินไปมาก
แต่มีพลังดึงดูดให้อ่านได้มากมายจริงๆ บวกหนึ่งให้เรย์ด้วยสำหรับเรื่องดีๆ

รออ่านต่อจ้า  เม้นต์ที่สี่แล้วค๊าบบ  :teach:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 04-06-2007 21:42:43
งะจะแต่งงานกันแล้วหรอ
 
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 04-06-2007 22:50:02
มีสินสิดด้วย  เอาซี๊ เอากะไอ้ทานมัน  ชอบเรื่องนี้อ่าดูโรคจิตดี   ชอบๆๆๆๆ :like6: :like6: :like6: :like6:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 04-06-2007 23:06:19
กว่าจะบอกได้อ่ะนะ  เล่นเอาคนอ่าน ลุ้นซะ  :laugh3:


ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 05-06-2007 00:45:02
 :give2: :give2: :give2:

ความรัก ช่างสวยงาม :-[ :-[

ปล. เมนต์ที่ 8  :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 05-06-2007 05:18:01
เม้นต์ที่เก้า สิบ สิบเอ็ด (แอบเนียนๆ)  o3

อยากอ่านต่อแล้วอ่า   :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 05-06-2007 05:32:39
ต๊ายยย เรย์แผนสูงมีนับเม้นท์ด้วยอ่ะ นี่ถ้าไม่ย่องเข้ามาอ่านไม่รู้เลยนะเนี่ย  o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 05-06-2007 07:44:14
กระซิกๆ ซึ้งจิงๆ  o7

ข้าวใหม่ปลามัน
 :o8:

เม้นที่ 11
 o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 05-06-2007 08:25:05
อ่านกันทันอ่ะป่าว เอิ้กๆ
******************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เจ้าชายเอ๋อ

"ทานเฮ้ย ทาน...ทานตื่นก่อนเริ่มมืดแล้ว..ตื่นก่อนเร็ว"

เขย่าเข้าไปสิ เขย่าให้ตายก็คงตื่นหรอก แถมซ้ำคนตัวโตที่นอนตัวเอียงกะเทเร่อยู่บนเก้าอี้ตัวยาวข้างสระน้ำยังเริ่มออกอาการงี่เง่าอีกต่างหาก

"ไม่เอ้า ไม่ตื่น โว้ยยยยยยยย รำคาญ ไปห่าง ๆ ไป๊"

เสียงตะโกนโวยวายมาพร้อมกับน้ำเสียงครางเครือในลำคอ เหมือนไม่สบอารมณ์ที่ถูกปลุกในขณะที่กำลังหลับสบาย

แล้วใครกันที่บ้าตื่นตั้งแต่เช้ามืด แล้วก็ไปวิ่งเตะฟุตบอลอยู่กลางสนาม เสร็จแล้วยังต้องไปเรียนอีก แล้วยังต้องมาผจญกับการขับรถที่ต้องตั้งสมาธิเพราะรถติด
กลับมาถึงบ้าน เห็นทานตะวันบ่นอะไรเล็กน้อย แล้วก็เดินไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวข้างสระว่ายน้ำ
เอากระเป๋าไปวางเผลอแป๊บเดียวกลับมาอีกที คนตัวโตนั่นก็นอนขดตัวอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว หลับสบายไปแล้ว
ทั้งที่เพิ่งบ่ายแก่ ๆ สงสัยคงจะเพลียจัดถึงได้เคลิ้มหลับไปง่าย ๆ แบบนี้
ใครมาเห็นทานตะวันในสภาพแบบนี้ ไม่คิดว่าน่ารัก ก็ให้มันรู้ไป

หรือถ้าหมั่นไส้มาก ๆ สภาพแบบนี้ มันน่าแกล้งนัก

"ทาน ตื่นก่อน มันจะค่ำแล้วเดี๋ยวยุงก็หามหรอก" อ้อนทั้งเขย่า ทั้งเรียกทั้งปลุก ทั้งดึงแขน แต่ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
แถมซ้ำคนบ้านอน ยิ่งขมวดคิ้วมุ่น และส่งเสียงฮึมฮัมอยู่ในลำคอ แสดงให้รู้ว่าไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมตื่นง่าย ๆ

ปลุกแล้ว ทั้งลากทั้งดึง แต่ทานตะวันไม่คิดจะสนใจ อยากนอน ง่วงนอน จนอ้อนได้แต่ส่ายหน้า และเดินไปทิ้งกายลงนั่งข้างสระน้ำและดึงขากางเกงขึ้นก่อนจะค่อย ๆ หย่อนเท้าลงแช่ในน้ำ

เย็น....บรรยากาศยามเย็น ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า แต่ยังพอมีแสงสว่างสีส้มอ่อน เงยหน้ามองท้องฟ้าสีส้มแล้วก็รู้สึกได้ถึงความเหงาหงอย

รู้สึกไปเอง ว่าท้องฟ้ายามเย็นมันแสนเหงา ยิ่งถ้าอยู่คนเดียว นั่งดูพระอาทิตย์คนเดียว คงยิ่งเหงามาก เหงาจนไม่รู้จะบรรยายเป็นคำพูดให้ใครรับรู้ได้ยังไง

อ้อนเงยหน้ามองท้องฟ้าอยู่อย่างนั้น และแกว่งขาเล่นในน้ำ นั่งเงียบ ๆ ท่ามกลางสายลมอ่อน ๆ

ความคิดไหลเรื่อย ไปกับสายลม

คิดถึงข้อผิดพลาด คิดถึงเรื่องต่าง ๆ ที่ผ่านมา คิดถึงวันเวลาที่ค่อย ๆ ผ่านไปอย่างช้า ๆ ปล่อยความคิดต่าง ๆ ไปกับสายลมที่ผัดแผ่ว
ฝ่ามือค่อย ๆ ยกขึ้นและลองกำมือเอาไว้

อยากลองคว้าสายลม แต่เมื่อแบมืออีกครั้ง มันก็มีเพียงแค่ความว่างเปล่า แต่ก็รับรู้ได้ถึงสายลมแผ่ว ๆ ที่รายล้อมอยู่รอบกาย

ท่าทางเหม่อลอย ดวงตาที่จ้องมองไปข้างหน้า
ทำให้ทานตะวันที่ยกมือขึ้นขยี้ตา และปรือตาตื่นขึ้นอย่างช้า ๆ ต้องนิ่งมองและจ้องมองภาพของคนที่นั่งอยู่ห่างออกไป

.........รักคืออะไรไม่รู้...........

ทุกวันนี้จะให้บอกความหมายของคำว่ารัก.....ก็ไม่สามารถบอกออกมาเป็นคำพูดได้

รู้แต่ว่า....คน ๆ หนึ่ง อยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา อยู่ด้วยความไม่เต็มใจ อยู่เพราะหน้าที่...ที่ต้องฝืนใจ

อ้อนไม่เคยอยู่ในสายตา เป็นใครที่ไม่เคยคิดจะใส่ใจหรือสนใจเลยสักครั้ง ไม่สนใจว่าจะมีคน ๆ นี้อยู่ในโลกหรือไม่
แล้ววันหนึ่ง วันที่ทำให้ชีวิตได้รับรู้ความเปลี่ยนแปลงก็มาถึง

แค่ถ่ายภาพประกอบงานธรรมดา ๆ แต่เพราะความซุ่มซ่ามของคนขาเป๋ ที่ทำให้กล้องถ่ายรูปหล่นลงมาแตกกระจาย

จำได้ว่าตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักกับของแค่นั้น แต่สะดุดใจคนที่ทำแตกมากกว่า

ใบหน้าที่ตื่นตะหนกจนเกินเหตุ และมองหาเจ้าของกล้อง ก่อนจะละล่ำละลักถามว่าราคาเท่าไหร่ ไม่มีการขอโทษสักคำ
ไม่รู้ตอนนั้นสมองของอ้อนมันมีคำว่าขอโทษอยู่หรือเปล่า สงสัยคงกำลังประเมินราคาของกล้อง
เห็นแล้วมันน่าขำ ดูแล้วเหมือนกระต่ายตื่นตูม ที่มีท่าทางตื่นกลัว ถ้าไม่เรียกว่าสนุกที่ได้เห็น จะให้เรียกว่าอะไร

หลังจากนั้นก็แค่คิดว่า อยากลองมีคนใช้ส่วนตัวดู ใช้ข้อแม้มาบังคับ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยึดมั่นขนาดนั้น เป็นคนอื่นคงหนีหายไปแล้ว
แต่คน ๆ นี้กลับไม่ได้หนีหายไปไหน

รู้ว่าทำตัวแย่ ๆ ใส่แต่ก็อยากจะทำ ชอบที่ได้แกล้ง สนุกที่ได้เห็นใบหน้าซีดขาว และทำหน้าลำบากใจอยู่เสมอ
ชอบที่อ้อนชอบพยายามทำหน้าเฉย ทั้งที่ในใจคงด่าไปถึงไหนต่อไป

จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคนขาเป๋ตัวเล็ก แก้มแดง ที่ชอบทำหน้านิ่งเฉยชื่ออะไร

ไม่เคยจำ ไม่เคยคิดจะจำ แต่สุดท้าย.....กลับซึมซับรับบางอย่างเข้ามาอย่างไม่รู้ตัว
จากชื่อ กลายเป็นอยากทำความรู้จัก จากทำความรู้จักกลายเป็นอารมณ์หงุดหงิดโมโห เมื่อเห็นคนที่อยู่ข้างตัวไปพูดจาสนิทสนมกับใคร

มันเป็นความหวง

ไม่ใช่หวงของ

แต่หวงคน......คนที่ทำให้รู้สึกทุรนทุราย คนที่ทำให้ยิ้มได้แค่เพียงได้มองหน้า ได้สบตา คนที่ทำให้รู้สึกว่าความสุขเกิดขึ้นได้ทุกวัน
เพียงแค่ได้พูดคุยและเรียนรู้สิ่งที่อีกฝ่ายเป็น และเริ่มปรับตัวเข้าหากันอย่างช้า ๆ

ไม่ได้ดีนัก

ไม่ได้เข้ากันนัก

แต่ก็รู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อ

รู้สึกดี.....จนอยากครอบครองอยากเก็บเอาไว้เพียงคนเดียว ไม่อยากให้คน ๆ นี้ห่างไปไหน อยากให้อยู่ข้างกายตลอดไป

อยากได้ไออุ่น อยากได้อ้อมแขน และรอยยิ้มหวาน ๆ อยากได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่อ้อนเป็น

ทั้งความรู้สึกโกรธ หงุดหงิดโมโห รอยยิ้ม ท่าทางเขินอาย ทั้งข้อดีข้อเสีย อยากจะรับเอาไว้ และจะยอมรับทุกอย่างที่เป็น

นัยน์ตาคมพราวระยับจ้องมองภาพของอ้อนนิ่งงันเหมือนถูกสะกดความรู้สึกเอาไว้อย่างนั้น

ก่อนที่ขายาว ๆ จะก้าวเดินพาร่างให้มานั่งอยู่ข้าง ๆ คนที่ค่อย ๆ หันหน้ามามองและหันกลับไปอีกครั้ง

ไม่ได้พูดคุยกัน ไม่ได้มองหน้ากัน........เนิ่นนาน

แต่กลับรู้สึกถึงความอบอุ่น
 
..............................

"นี่...เรา...ไม่ได้เป็นแค่คนใช้กับเจ้าหนี้แล้วใช่ป่ะ...."

ถามคำถามแล้ว และทานตะวันก็ได้แต่ก้มหน้าอมยิ้มอย่างเขิน ๆ ก่อรจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของอ้อนตรง ๆ
อย่กพูดอะไรให้มากกว่านี้ก็คิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร

คำถามที่ถามทำให้อ้อนขมวดคิ้วมุ่น และเริ่มขยับกายออกห่าง
เมื่อทานตะวันเริ่มไม่หยุดแค่รอยยิ้มแต่กลายเป็นเสียงหัวเราะแปร่ง ๆ ที่อ้อนเข้าใจและรับรู้ว่ามันเป็นการหัวเราะด้วยความรู้สึกแบบไหน

สิ่งที่ไม่อยากให้อีกฝ่ายได้เห็นที่สุด ก็คือการ ถูกจ้องหน้าและถูกเรียกว่า หนูน้อยแก้มแดง

ใช่ หน้าจะเริ่มแดง ใจจะเริ่มเต้นระทึก ตอบคำถามอะไรไม่ได้ แล้วก็จะพาลพูดผิด ๆ ถูก ร่างกายร้อนวูบ เมื่อภาพเก่า ๆ กลางสระน้ำย้อนกลับเข้ามาในสมองอีกครั้ง

"อะ...อะ...อะไร..เป็นไรกัน..เป็นไรก็เป็นงั้นแหละ...เข้าบ้านเหอะเนอะทานเนอะเข้าบ้านกันดีกว่านะ เดี๋ยวยุงกัด"

เริ่มแล้ว อาการพูดติดอ่าง และเริ่มร้อนรน อ้อนทำท่าจะยกขาขึ้นจากน้ำ แต่กลับถูกรั้งข้อมือเอาไว้

"ทำไมอ่ะ...ไม่อยากว่ายน้ำกลางสระเหรอ...."

คำพูดของทานตะวัน มาพร้อมรอยยิ้มหวานเชื่อม และประกายตาระยิบระยับอย่างไม่น่าเชื่อ

จงใจพูดให้รู้สึก เน้นทุกคำพูด ที่รู้กันว่าหมายถึงอะไร และนั่นยิ่งทำให้อ้อนเกิดอาการลุกลี้ลุกลนจนไม่สามารถนั่งอยู่เฉย ๆ ได้

"กลัวทำไมยุง...เนี่ยเคยโดนกัดตรงนี้ตั้งหลายวันกว่าจะหาย ยังรู้สึกเฉย ๆ เลย โดนกัดนิดกัดหน่อย ไม่เป็นไรหรอกน่ะ"

ใช่........ไม่เป็น

แต่จะเป็นแน่ ถ้าเกิดหน้ามืดเป็นลมเพราะไอ้สายตาระยับระยับแบบนั้นของคนที่ยังพูดไม่ยอมหยุด

อ้อนนิ่งเงียบไปแล้ว ทำได้แค่ก้มหน้าก้มตาและพยายามแกะมือที่รั้งแขนเอาไว้ แต่ทานตะวันก็ไม่มีทีท่าจะยอมปล่อยง่าย ๆ

"ช่วยถูหลังให้หน่อยสิ....ได้ป่ะ...นะ...."

ในไม่ช้า เพียงแค่ข้อมือคงไม่พอ เพราะทานตะวันเปลี่ยนเป้าหมายจากข้อมือของอ้อนมาเป็นการเคลื่อนฝ่ามือขึ้นโอบไหล่ของคนที่ร่างกายเริ่มสั่นสะท้านจนระงับเอาไว้ไม่ได้

"ทาน ไปเหอะ ลุกเถอะ...นะ...เข้า...เข้าบ้านกะ กะ กัน"

คำขอร้องพร้อมกับน้ำเสียงสั่น ๆ ไม่ได้ทำให้ทานตะวันสนใจนัก แต่กลับสนใจอยู่กับการใช้ปลายนิ้วเกลี่ยไล้ที่เส้นผมที่หล่นลงมาปรกใบหน้าของอ้อน
ทำเหมือนไม่สนใจสิ่งที่อ้อนพยายามพูดเลยสักนิด

"ม่ายอาว...ไม่เข้าบ้าน...ทำมายอ่ะ..ทำมายต้องเข้าด้วย...ก็ทานไม่อยากเข้าบ้านนี่นา"

แต่กูอยากเข้าแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยย อย่ามาทำท่าทางแปลก ๆ เหมือนไม่ใช่ไอ้ทานคนปกติที่ทำเสียงเอะอะโวยวายได้มั้ย
แล้วหยุดทำตากรุ้มกริ่มแบบนี้สักทีเถอะ ไม่เคยเห็นทำแบบนี้เลยสักครั้ง แล้วอยู่ดี ๆ เป็นอะไรขึ้นมา ทำไมถึงได้พูดจาหวาน ๆ แล้วก็ทำท่าแปลก ๆ แบบนี้

ชักจะรับไม่ได้แล้วนะโว้ยยยยยยยย

"อ้อน...ห้ามไปนะ.......ห้ามลุกขึ้นเด็ดขาด...ห้าม..." จากน้ำเสียงที่ทอดยาวเหมือนเด็ก ๆ ออดอ้อนอยากได้ของ กลายเป็นน้ำเสียงห้าวห้วนที่มาพร้อมคำสั่ง

ปลายนิ้วของทานตะวันยังไม่ยอมหยุดอยู่ที่ปอยผมแต่กำลังแตะมาที่ปลายจมูกและค่อยเกลี่ยไล้ข้างแก้มใส ที่เริ่มแดงเรื่อ
ทั้งที่ใบหน้าเรียบเฉย แต่เหมือนรับรู้ได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ใจสั่น

ใบหน้าที่พยายามจะหันหนีและก้มหน้าลง ทำให้ปลายนิ้วของทานตะวันต้องเชยคางของคนตรงหน้าขึ้นเพื่อสบตากันอีกครั้งแต่อ้อนก็ยังบ่ายเบี่ยงคิดหนี

"ห้ามหันหน้าหนี .... มองหน้าด้วย .... เร็ว"

เพราะเป็นคำสั่ง เพราะทำตามสัญชาติญาณ หรือเพราะอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่า ไม่กล้ามองตาของทานตะวัน ไม่กล้าสบตา ไม่กล้าแม้แต่จะถอยหนี ทำได้แค่นิ่งเงียบ
และรู้สึกถึงเสียงหัวใจที่เต้นแรงรัวของตัวเองจนแทบจะหลุดออกมาจากอก

"มองตาสิ....แล้วตอบมา....ว่าคืนนี้ลิเวอรพูลเตะกี่ทุ่ม"

ลิเวอร์พูลเตะกี่ทุ่ม.........เอ่อ.....มัน.......เกี่ยวกับมองตาตรงไหนวะเนี่ย ไอ้บร้าาาาาาาาาาา

ถ้าไม่ให้หัวเราะจะให้ทำยังไง เสียงหัวเราะดังลั่นของอ้อน มาพร้อมกับการที่มนต์สะกดของทานตะวันคลายลงอย่างรวดเร็ว
ไม่รู้ว่าตัวเองหัวเราะมากขนาดไหน แต่หัวเราะจนน้ำตาไหล กับคำถามที่คนบ้า ๆ ถาม

"อะไรวะ......ถามดี ๆ ดันหัวเราะ....ไม่ได้เรื่องเลยเว้ย เข้าบ้านดีกว่า คนอะไรหัวเราะอยู่คนเดียว สงสัยท่าจะบ้า"

เสียงบ่นงึมงำของคนตัวโต ยิ่งทำให้อ้อนหัวเราะไม่ยอมหยุด จนทานตะวันต้องรั้งแขนของคนที่หัวเราะไม่หยุดให้ลุกขึ้นยืนและจูงเข้าบ้านมาพร้อมกัน

..........................................

"ขำอยู่นั่น เอ้า ตลก ตลกตรงไหน มีเรื่องไหนให้ตลก มีอะไรให้น่าหัวเราะนักหนาวะ บ้า"

เออ บ้า ยอมรับก็ได้ว่าบ้า แต่มีคนบ้ากว่าอยู่ตรงหน้านี่ไม่ใช่หรือไง แล้วจะไม่ให้ตลกได้ยังไง

ภายในเวลาไม่นาน เสียงหัวเราะของอ้อนก็ต้องหยุดลง
หยุดทันที แบบชะงักงัน และคราวนี้คนที่ได้หัวเราะกลายเป็นทานตะวันที่คว้าเอวของร่างนั้นเข้าหา กอดรัดเอาไว้แน่น
พร้อม ๆ กับที่กระดุมเม็ดบนของอ้อนถูกปลดออกอย่างรวดเร็ว

"เฮ้ย ทำไรวะ ทาน ทำรายยยยย"

หัวเราะไม่ออก เพราะท่าทางคนที่ทำหน้าเฉยจะไม่ได้ล้อเล่นอีกต่อไปแล้ว

"ทำอะไร ก็อาบน้ำไง จะอาบน้ำก็ต้องถอดเสื้อผ้าสิ หรือจะใส่แบบนี้อาบ เนี่ยลงทุนช่วยเลย เห็นความดีกันบ้างสิ เข้าใจมั้ย"

ไม่ ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้นแหละ ไม่เข้าใจ

"อ้อน อยู่เฉย ๆ ห้ามหนี ถ้าไม่ยอมอาบด้วยกัน ..... เป็นเรื่องแน่"

เป็นเรื่อง เรื่องอะไร จะมีเรื่องอะไร ไม่มีหรอกน่ะ ไม่มีใช่มั้ย ไม่มีจริง ๆ หรอก คราวนี้แกล้งล่ะสิ เดี๋ยวต้องมีอะไรมาพูดให้ตลกอีกแน่ ๆ เลยใช่มั้ย ใช่มั้ย ใช่ม้ายยยยยยยยยยย

"เป็นเรื่องแน่ ๆ เช่นเรื่องนี้เป็นต้น....จะลองใช่มั้ย...งั้นดี..."

ไม่ใช่แค่เอว...คราวนี้ทานตะวันรั้งร่างของอ้อนเข้าหาตัวและกอดรัดเอาไว้แนบแน่น ไม่ยอมปล่อย ส่วนคนที่ถูกรั้งเข้ามากอดเอาไว้ ทำตาโต และได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ
เมื่อทานตะวันส่งยิ้มแปลก ๆ มาให้ และก้มหน้าลงมาหาอย่างช้า ๆ

"อาบแล้วทาน อาบแล้ว อาบพร้อมกันก็ได้ อย่านะโว้ยยยยยย แค่อาบน้ำใช่มั้ยล่ะ เออ อาบ อาบเลย ป่ะ ไปเลยอาบน้ำกัน อร๊ากกกกกกกก"

เพราะลมหายใจร้อน ๆ กำลังเป่ารดอยู่ที่ข้างแก้ม ยิ่งทำให้อ้อนแทบจะยืนไม่อยู่ ได้แต่เบี่ยงหน้าหลบและร้องเอะอะโวยวาย นั่นยิ่งเพิ่มรอยยิ้มให้กับทานตะวันมากขึ้น

"จริงเหรออออออ...หือ...จริงใช่มั้ย...งั้นไปกันเลยอ้อน...ป่ะ..ไปอาบน้ำกัน"

ทานตะวันยอมปล่อยร่างของอ้อนให้เป็นอิสระ และลากข้อมือให้คนที่ไม่ยอมเดินตามให้เดินตามมาด้วยกันในห้องอาบน้ำจนได้

ทานตะวันยืนกางแขนและรอให้คนที่ยืนหน้าแดงมาช่วยปลดกระดุมให้เหมือนทุกวัน แต่มือของคนปลดกระดุมเหมือนทุกวัน ชักสั่นจนยากเกินควบคุม

"เอ้า รีบ ๆ แกะกระดุมเข้าสิ จะได้รีบ ๆ อาบ....ง่วงนอนจะแย่...ทำอะไรชักช้าอืดอาดไปได้.."

น้ำเสียงของคนพูดยังคงเป็นปกติ แต่คนที่กำลังจะแย่คืออ้อน เมื่อคนที่ยืนกางแขนเริ่มเลื้อยมือลงมากอดรัดที่รอบเอวอีกครั้ง

"อย่านะทาน......" อยากจะทำให้เสียงตัวเองมีพลังกว่านี้ แต่ทำไมกลายเป็นเสียงสั่น ๆ ไปได้ แถมซ้ำอีกฝ่ายยังไม่ยอมหยุดมือเลยด้วยซ้ำ

"ทาน.....อย่า..."

พูดไปแล้วฟังบ้างมั้ย ไม่มีเลย ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย แถมซ้ำทานตะวันยังเลื่อนตัวเข้ามาประชิดมากขึ้นกว่าที่เคย

"ทานตะวัน......อย่านะโว้ยยยยยยยยย หยุดได้แล้ววววววว"

น้ำเสียงที่โวยวายของอ้อน มาพร้อมกับที่กำปั้นหนัก ๆ ทุบเข้าที่ไหล่ของทานตะวันจนรู้สึกถึงความเจ็บ แต่ก็ไม่ทำให้ความรู้สึกบางอย่างหยุดลงได้

"ทาน ไม่เอา อย่า.....ปล่อย ไอ้ทานหือ...ไอ้บ้าเอ้ย.....ปล่อยเดี๋ยวนี้นะโว้ยยยยยย"

อ้อนทั้งดิ้นทั้งทุบจนทานตะวันต้องยอมคลายอ้อมแขนออกและมายืนขมวดคิ้วมุ่นอยู่ห่างออกไป

"เป็นไรอ่ะ....แค่อยากกอดนิดเดียวเอง...ทำไมต้องทุบด้วย..เจ็บนะ...ไม่อยากให้กอดขนาดนั้นไม่กอดก็ได้...แค่กอดอย่างที่อยากกอดไม่ได้หรือไง"

น้ำเสียงตัดพ้อและใบหน้าหม่นหมองที่บ่งบอกว่าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้อ้อน ต้องรีบยกมือขึ้นลูบผมของตัวเอง และพยายามระงับความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

"อย่ากอด อย่าหอม..อย่ามาจูบ อย่ามาแตะตัวให้มากนักได้มั้ย มันจะไม่หยุดแค่นี้น่ะสิ.......ตัวเองไม่รู้สึก...แต่เราเป็นคนนะโว้ยยยยย...มันรู้สึกกันได้ง่าย ๆ นะของแบบนี้ไม่รู้หรือไง"

พูดเพียงเท่านั้นแล้วคนที่ทำเสียงดังโวยวาย ก็รีบก้าวขาออกจากห้องอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ทานตะวันยืนทำหน้าเอ๋ออยู่คนเดียว ด้วยความไม่เข้าใจ

อะไรวะ เป็นคน มีความรู้สึก

แล้วไง รู้สึกอะไร ไม่เข้าใจ ทำให้รู้สึกอะไรวะ ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ ยิ่งไม่เข้าใจก็ได้แต่เกาหัวตัวเองด้วยความสับสน ก่อนจะตะโกนถามคนที่เดินออกไปจากห้องน้ำอีกครั้ง

"อ้อน เป็นคนมีอารมณ์คืออะไร....คืออะไร........คืออะไร เฮ้ย ไม่ได้จะทำอะไรเลยนะ บ้าเหรอ แค่กอดเฉย ๆ ไม่ใช่นะโว้ยยยยยยยย อย่าเข้าใจผิดนะอ้อน"

เสียงตะโกนของทานตะวันยังคงดังลั่น
ส่วนอ้อนได้แต่รีบพาตัวเองออกมาให้ห่างจากคนบ้าคนนั้นให้มากที่สุด และมาทรุดกายลงนั่งเอนแผ่นหลังพิงกำแพง ก่อนจะบ่นงึมงำกับตัวเองด้วยความรู้สึกที่ยากเกินจะสะกดกลั้น

"ลืมหรือไง ว่านี่ก็ผู้ชายเหมือนกัน..แค่แตะหน่อยก็เตลิดแล้ว..ไอ้ทานไอ้บ้าเอ้ยยยยย...แล้วแบบนี้จะให้กระผมทำไงล่ะคร้าบบบบ..อยากจะบ้าตายกับไอ้ทานจริงโว้ยยยยยย"

TBC...
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 05-06-2007 09:12:29
อิอิ  เม้นท์ที่ 1   o3  o17

ตกลงไอทานมันโตรึยังหว่า   :confuse:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 05-06-2007 09:16:00
เยยอาบน้ำด้วยกันแล้ว  :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 05-06-2007 09:24:43
อิอิ แบบนี้จะมีบทรักของสองคนนี้มั้ยเนี่ย อิอิ  :o8:

เม้นท์ที่ 3 แล้วนะคร้าบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 05-06-2007 09:35:06
สงสัยรีแรกอะ  ที่ว่าโตเนี่ย  อารายเหรอ

อิอิ  :haun5:

ม่ายด้ายคิดมากนะ  แค่คิดๆๆๆๆๆๆ  เฉยๆๆๆ  หุหุ  o3

ปล. ตอนที่แล้วคุนบลูเปนรายอะ  เหนบอกว่าม่ายมีใครเหนใจอะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 05-06-2007 11:35:25
ไม่ได้ดั่งใจเลย ทานเนี่ย

 o12
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 05-06-2007 14:20:19
ตกลงทานเป็นเฒ่าทารกเหรอ

กร้ากกกกกกกกกกกกกกก

เมนท์ที่ 6 ครับเพ่

 o12
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 05-06-2007 14:29:19
 :-[ :-[ :-[

รู้สึกดีกรีความหื่นจะเริ่มเพิ่มระดับขึ้นทีละนิดนะ  :o9: :o9:

 :give2: :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 05-06-2007 15:56:44
เริ่มปรับตัวเข้าหากันช้าๆ หรอ?

รู้แต่ว่า....คน ๆ หนึ่ง อยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา อยู่ด้วยความไม่เต็มใจ อยู่เพราะหน้าที่...ที่ต้องฝืนใจ หรอ?

จนบ้างที  เราก็อาจตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าเรา รักและผูกพันกันตอนไหน

เจ้ชอบเรื่องนี้เพราะคนเขียน  เขียนถึงความผูกผันที่มองไม่เห็นแต่แนบแน่น ได้อย่างดีที่เดียว

ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆ ให้อ่านนะเคอะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 05-06-2007 16:30:52
ไรอ่ะทาน :serius2:

เฮ้อ .. FC รมณ์เสียเลยอ่ะ

ไม่ได้ดั่งใจเลย   o9
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 05-06-2007 16:34:50
ทำไมทานบื้อได้ไม่รู้เวลาเล้ย  :laugh:


เมนท์ที่ 10 แล้วจ้า ต่อ ต่อ รออยู่  :o9:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 05-06-2007 16:45:09
หื่นกะคนรัก มะเป็นรายหรอก ทำให้รู้ว่าเรารักเขามากมาย
*************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน หรือว่าจะเป็นโรคเลือด

"อ้อน อ้อน ทำไงดีผมเปียก อาบน้ำอยู่ดี ๆ มันก็เปียกเละเลยอ่ะ ช่วยหน่อยสิ"

ทานตะวันเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งสภาพผมเปียกลู่ เสื้อผ้าที่สวมใส่ยังเปียกน้ำจนมองเห็นแผ่นหลังกว้าง
เพียงแค่เห็น แค่เพียงได้เห็นเท่านั้น อ้อนที่คิดว่าตัวเองตั้งสติได้ดีแล้ว ก็แทบอยากลงไปนั่งกับพื้น แล้วร้องไห้ให้หายบ้าให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไป

เข้าจายม้ายยยยยยยย ว่าตัวเองเป็นผู้ชายแบบไหน

หุ่นอย่างนี้ หน้าอย่างนี้ สภาพแบบนี้ ใครเห็นมันก็ต้องอยากกระโจนเข้าใส่ทั้งนั้น
ไอ้ทานหนอไอ้ทาน คุณทานตะวันคร้าบบบบบบบ เข้าใจชีวิตผมเถิด แค่นี้ชีวาผมก็จะวายอยู่แล้ว เหตุใดท่านจึงนิยมชมชอบที่จะทำให้ผมสติแตกได้มากขนาดนี้

ใครก็ได้ ช่วยเอาไอ้คนหน้าหล่อ หุ่นสุดยอดนายแบบ ในสภาพเซ็กซี่ยั่วยวนแบบสมชายจรดปลายเท้าคนนี้ออกไปจากตรงนี้ทีเถอะ

จะเป็นลมแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยย

"ทะ ทะ ทาน ทาน เดี๋ยวขอเวลาสิบนาทีนะ เดี๋ยวมานะ เดี๋ยวมา โอเค้ โอเคมั้ย เดี๋ยวมา"

อ้าว ไหงงั้นวะ แล้วนี่ทำไงอ่ะ หัวเปียกเละขนาดนี้เลย แทนที่จะมาจัดการทำให้ผมแห้ง ทำยังไงก็ได้ เหมือนที่เคยทำ เป็นบ้าอะไร เอาแต่เดินวนไปวนมาอยู่ได้

คนใช้ภาษาอะไรไม่ได้เรื่องเล้ย หรือว่าจะให้ทำเองหรือไง เดี๋ยวปั๊ด.........งอนแม่งเลย

"ไปไหน ไม่ให้ไปแล้ว มานี่เร็ว"

ไม่ต้องรอช้า แค่เอื้อมมือคว้าเอวของอ้อนได้ ทานตะวันก็ออกแรงรั้งร่างนั้นให้ลงมานั่งอยู่บนหน้าขา แล้วก็รีบจัดการล็อคคอคนที่ทำท่าทางแปลก ๆ ให้อยู่นิ่ง ๆ ให้ได้

"อะไรเล่า ทำไมดิ้นจังวะ เป็นอะไร จะไปไหนมากมายเนี่ย เช็ดผมให้หน่อยเร้ววววววว"

ทั้งลมหายใจที่เป่าลดที่ข้างแก้ม ทั้งเรียวแขนที่โอบรัดอยู่ที่รอบเอว และรอบคอ ทั้งกลิ่นไอหอมอ่อน ๆ และสัมผัสอุ่น ๆ แทบทำให้คนที่ไปเกยอยู่บนหน้าขาของทานตะวันแทบหลอมละลาย

ความดันเลือดพุ่งสูงขึ้น รวมทั้งอัตราการสูบฉีดเลือดของหัวใจกำลังจะเข้าสู่ 120 ครั้งต่อนาที
อะ อะ อ๊ะ อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ใครก็ได้ช่วยด้วย

ก่อนที่จะตายเพราะอาการหน้าแดงใจเต้นรัว ขอสวดอ้อนวอนก่อนตาย

........ทานครับทาน มึงช่วยปล่อยกูเถิดนะครับ ก่อนที่จิตใจจะเตลิดไปมากกว่านี้ ช่วยกรุณาอย่าทำหน้าใสแป๋วแหวว และเลิกทำตาวิบวับวิบวับแบบนี้สักทีเถอะ
ไม่อยากจะเชื่อ ทานตะวันมันเป็นผู้ชายตาหวานเยิ้มใช่เล่น เพิ่งจะรู้ ทำไมไม่สังเกตวะ ทำมายยยยยยยย

อร๊ากกกกกกกกกกกกก จาตายแล้วเว้ยยยยยยยยยยยย

"เฮ้ย ไรวะ จะดิ้นอะไรมากมายเนี่ย อยู่เฉย ๆ หนึ่ง สอง สาม นิ่ง"

และแล้วอ้อนก็นั่งตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น โดยมีทานตะวันเป็นเก้าอี้ที่นุ่มที่สุดในโลกรองรับร่างกายเอาไว้

"อ้อน เช็ดผมให้หน่อยนะคร้าบบบบบบบ นะครับ นะครับ"

น้ำเสียงแผ่ว ๆ ทุ้มนุ่มที่กระซิบบอกที่ข้างหู ทำให้ภายในใจยิ่งไหววูบ และร่างที่นั่งตัวตรงแข็งเป็นหิน ก็ได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ สองสามที
ก่อนจะก้มลงมองที่ฝ่ามือที่โอบรัดไว้ที่รอบเอว

อ่ะ อ่ะ เหอะ เหอะ เหอะ หึ หึ ตาหลกเนอะ ดูเด่ะ ไอ้ทานกอดเอวด้วยแหละ เฮอะ เฮอะ ฮ่า ฮ่า

...........ขำ.............แต่ว่าหัวเราะ...........ม่ายออก.............เพราะว่า...........

"อ้อนอะไรเนี่ย เฮ้ย เลือด เลือดนี่หว่า อ้อนเลือดออกอ่ะ ทำไมเลือดออกอ่ะ"

ก็เพราะเมิงยางงายล่ะอ้ายทานนนนนนนน

กรูเลยเป็นอย่างที่เมิงเห็นนี่งายยยยยยยยย ฮ่า ฮ่า ฮ่า เฮ่อ เฮ่อ ฮือ ฮือออออออออออออ แง แง ไอ้ทานมันแกล้งผมอ่ะ ไอ้ทานมันแกล้ง

ไม่เฉพาะเลือดกำเดา แต่คราวนี้บ่อน้ำตาแตกอีกด้วย อ้อนใช้หลังมือปาดทั้งเลือดทั้งน้ำตาของตัวเอง แล้วก็ได้แต่ร้องไห้ ฮือ ฮือ งอแงเป็นเด็ก ๆ

จนทานตะวันตกใจ ต้องรีบไปคว้ากระดาษทิชชู่มาเช็ดทั้งเลือดทั้งน้ำตาให้

ก่อนจะรั้งให้คนตัวเล็กกว่าที่ร้องไห้งอแง เอนหลังลงนอนบนโซฟา และใช้หน้าขาของทานตะวันเป็นหมอนหนุนนอน

"ร้องไห้ทำไมอ่ะ เดี๋ยวสำลักหรอก เนี่ย อยู่เฉย ๆ ก่อน เลือดติดตรงนี้แล้ว เช็ดก่อนเร็ว ไม่มีแล้ว เอ้า หยุดร้องได้แล้ว ร้องทำไมเนี่ย อ้อน เฮ้ย หยุดร้องก่อนเร็ว"

เป็นการปลอบโยนแบบงก ๆ เงิ่น ๆ ทานตะวันได้แต่ลูบผมของอ้อนที่เอาแต่ยกหลังมือปิดดวงตา ที่มีหยดน้ำหลั่งรินไม่ยอมหยุด แถมยังสะอื้นไห้เป็นพัก ๆ
เห็นแล้วทำให้ทานตะวันนึกถึงตัวเองตอนเด็ก ๆ ที่เวลาร้องไห้แล้วหยุดไม่ได้ จะมีอาการสะอื้นแบบนี้
อยากจะตลกก็ตลกไม่ออก อยากจะขำก็ขำไม่ได้

มันทั้งตลก ทั้งสงสารปนเปกันไป

เออเนอะ คนที่ชอบเก็กหน้าเฉยอย่างไอ้อ้อน ก็มีเวลาทำอะไรเอ๋อ ๆ แบบนี้เหมือนกันเหรอเนี่ย ดูไปดูมามันก็น่ารักดีเหมือนกันเนอะ
 
..............................

"ทำไมเวลาแซวหน่อย ก็หน้าแดง กอดหน่อยก็หน้าแดง แตะตัวทีไรก็เห็นเป็นแบบนี้ทุกที ออกแรงอะไรนิดหน่อยก็แก้มแดงแล้ว ทำไมถึงเป็นคนที่เลือดลมสูบฉีดดีจัง
เวลาปกติก็หน้าซี้ด ซีด แต่เวลาเรากอดหน่อย ทำไมถึงได้หน้าแดงจัง...แปลกเนอะ รู้มั้ยว่าเป็นเพราะอะไร"

คำตอบคือการส่ายหน้า แล้วคนที่นอนนิ่ง ๆ ก็ยังสะอื้นไห้ไม่เลิก ทานตะวันก็เลยได้แต่อมยิ้มแล้วก็ลูบไล้เส้นผมของอ้อนไปพลาง ๆ

"เลือดหยุดยัง"

อ้อนรีบรพยักหน้าตอบรับ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังใช้หลังมือปิดดวงตาคงตัวเองเอาไว้ไม่ให้มองเห็นว่ายังไม่หยุดร้องไห้

"แล้วร้องไห้ทำไมอ่ะ ไม่เห็นมีเหตุผลเลย"

ทานตะวันเอ่ยถามและหัวเราะออกมาด้วยความรู้สึกว่าคนที่ทำตัวเหมือนเด็ก ๆ คนนี้ ทำไมน่ารักจนอยากจะจับมากอดรัดฟัดเหวี่ยงเล่นให้หายหมั่นเขี้ยว
แต่ก็ไม่ทำ เพราะใจหนึ่งก็อดสงสารไม่ได้ ไม่รู้ว่าที่อ้อนร้องไห้ ร้องไห้เพราะอะไร

"ไม่รู้ อยู่ดี ๆ มันก็ร้องเอง ไม่รู้จะทำยังไงนี่ ฮึก ฮึก ฮื่อ"

ยังไม่หยุดสะอื้น แต่เลือดกำเดาคงหยุดแล้ว ทานตะวันได้แต่อมยิ้มมองที่ข้างแก้มของอ้อนก็ยังเห็นว่าแก้มแดงก่ำเหมือนลูกมะเขือเทศ

แปลกเว้ย

ทำไมแก้มยังแดงอยู่อีกล่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า ต้องไปหาหมอมั้ยเนี่ย

"นี่ทำไมหน้ายังแดงอยู่ล่ะ.......เป็นอะไรหรือเปล่าไปหาหมอมั้ยให้หมอตรวจดีมั้ยอ้อน"

ทานตะวันเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงและก็เห็นว่าอ้อนเอาแต่ส่ายหน้า

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็หาย เดี๋ยวมันก็หายเอง เป็นอย่างนี้แหละ เวลาทำอะไรเหนื่อย ๆ หรือตื่นเต้นมันจะเป็นเอง เดี๋ยวมันก็คงหายแหละ ฮึก ฮึก"

เหรอ เดี๋ยวก็คงหายเหรอ แล้วนานมั้ยเนี่ย กว่าจะหาย แล้วตื่นเต้นอะไร ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้นเลย เป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย อยากเห็นหน้าให้ชัด ๆ อ่ะ แปลกดีเนอะ
ไหนขอลองแตะหน่อยได้มั้ยแก้มเนี่ย อยากลองแตะดู

ปลายนิ้วเรียวค่อย ๆ เกลี่ยไล้ที่ข้างแก้มเนียนใสที่ยังแดงเรื่อ แต่ก็ถูกปัดมือออกไม่ยอมให้แตะ แล้วแบบนี้มีหรือคนที่ทั้งดื้อทั้งรั้นอย่างทานตะวันจะยอมง่าย ๆ

ถูกปัดมือออก ก็ยิ่งอยากแตะ ยิ่งถูกปัดออก ยิ่งอยากแกล้ง กลายเป็นเรื่องสนุกไปแล้ว

กลายเป็นเรื่องหยอกล้อกันไป จนในที่สุด อ้อนก็ถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมาและลุกขึ้นนั่ง ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างเขิน ๆ
เมื่อต้องพบเจอกับสายตาของคนตัวโตที่จ้องมองมา พร้อมกับที่คน ๆ นั้นส่งยิ้มหวานเชื่อมมาให้

"ตลกว่ะ คนอะไรวะ เลือดกำเดาไหลเลยร้องไห้ เป็นไรมากป่ะ เราอ่ะ"

พูดได้เพียงแค่นั้น แล้วทานตะวันก็คว้าผ้าขนหนูมาขยำที่เส้นผมของตัวเองที่ยังมีหยดน้ำหยดลงมาจากเส้นผม

"เข้าห้องแล้ว เดี๋ยวตามมาแล้วกัน ง่วงนอนว่ะ อาบน้ำแล้วค่อยเข้ามานอนก็ได้ นวดขาให้หน่อยนะ เมื่อย เดี๋ยวตามมาแล้วกัน"

คนตัวโตลุกขึ้นยืนและเตรียมก้าวเท้าเดินเข้าห้องนอนไปแล้ว ส่วนอ้อนได้แต่พนักหน้าและมองตาม

"เออ เดี๋ยวตามไป"

ตอบไปแค่นั้น แล้วอ้อนก็ทำท่าจะลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ แต่ก็ต้องกลับมานั่งตัวแข็งทื่อตาโต อีกรอบ เพราะทานตะวันที่ก้าวเท้าเดินจากไปเพียงไม่กี่ก้าว
หันกลับมาอีกครั้ง และก้มลงแตะปลายจมูกที่ข้างแก้มของอ้อนเบา ๆ ก่อนจะผละจากและส่งยิ้มให้

"ตามมานะ เร็ว ๆ ทานรออยู่........"

แล้วไอ้คนที่ชอบทำให้เกิดอาการหน้ามืดวิงเวียน ก็เดินร้องเพลงจากไปอย่างมีความสุข ทิ้งให้อ้อนนั่งกระพริบตาปริบ ๆ อยู่อย่างนั้น ก่อนจะค่อย ๆ เลื้อยลงไปนอนบนโซฟาอีกครั้ง
และต้องยกหลังมือขึ้นก่ายหน้าผาก ก่อนจะบ่นพึมพำกับตัวเองเสียงเบา

"คุณทานตะวันครับ...ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว กระผมนายกนกพัฒน์คนนี้...จะขอยอมเขินตายเพราะคุณ อร๊ากกกกกกกกกกกก ไอ้อ้อนมึงนะมึง มึงเป็นอะไรของมึง..อยากจะบ้า...กูเป็นบ้าอะไรวะเนี่ย โว้ยยยยยยย จะบ้าตายแล้วโว้ยยยยย"

TBC...



 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: AcOustic_Guitar ที่ 05-06-2007 17:40:48
สมาชิกใหม่ฮะ  o14 ชอบเรื่องนี้จังทานกะอ้อนน่ารัก  o4
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 05-06-2007 17:52:01
มาลงตอนไหนหวา

อุตสาห์กด F5 รอ

หุหุหุหุ

ทานนี้น่ารัก ใฉฉือบริฉุด เจงๆๆๆๆ

 :o8:







ลป

เมนท์ที่สองคร้าบบบบ เพ่

 o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-06-2007 18:56:49
หุหุ กลายเป็นว่าทานใสชื่อซะงั้น  :laugh:  :laugh:
ปล.เม้นต์ที่ 3
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 05-06-2007 20:38:29
อยากอ่านหื่นๆ   :interest:
จะใสซื่อบริสุทธิ์กันไปถึงหนายยยยยยยยยยยยย  :angry2:
^
^
พูดเล่นนะ  อิอิ  ใสๆ เดะๆ ก็น่ารักดี  :give2:
รออ่านต่อนะเรย์

ปล  เม้นต์ที่ 4 สงสัยวันนี้ไม่ได้อ่านก่อนนอนแน่ๆ เยย  o9
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 05-06-2007 22:06:55
ใสซื่อกันทั้งสองคน   แล้วจาได้เห็นฉากอัศจรรย์เมื่อไหร่เนี่ย

ปล.ชอบเรื่องนี้จัง :like6: :like6: :like6: :like6:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 05-06-2007 22:18:07
ไม่รู้ว่าต้องรอให้ครบสิบเม้นก่อน ได้แต่แอบอ่านเรื่อย ๆ -.-  :o10:


ปล.เม้นต์ 6 คร้าบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 05-06-2007 22:19:38
 :laugh: :laugh: :laugh:
ทานเนี่ยน่ารักสุดยอดเลย เจ๋งมาก   o13 o13


"คุณทานตะวันครับ...ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว กระผมนายกนกพัฒน์คนนี้...จะขอยอมเขินตายเพราะคุณ อร๊ากกกกกกกกกกกก "

ชอบประโยคนี้ อ่านแล้วมันรู้สึกแบบว่า  o7 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 05-06-2007 22:36:49
เดี๊ยวเรย์ก็มาอัพต่อให้ เค้ารู้หรอก
เรย์น่ารักมั่กๆ จุ๊บๆ

 :give2:

เม้นท์ที่ 8
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 05-06-2007 22:39:48
อ้อนท่าทางอาการหนักนะเนี่ย แต่ทำไงได้เจอนายทานเข้าไปก็ก็หาทางทานทนได้ อิอิ :laugh3:

อิอิ หลังเพื่อนๆขยันสามัคคกันเม้นท์จังเลย ได้อ่านวันละตั้ง 2 ตอนแนะ อิอิ

ปล.เม้นท์ที่ 9 แล้นนนนนนนนนนนนนนนนนนน :impress:

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 06-06-2007 03:00:29
   

..................หุ...ๆ...ท่าทางอ้อนคงไม่รอดนายทานในเร็ววันนี้......... :haun5:


 ปล......เมนท์ที่ 10 แล้วครับเรย์.... :haun5:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-06-2007 05:18:31
ทาน หนอ ทาน  ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วเมื่อไหร่จาได้แอ้มล่ะ  :haun5:

เม้นต์ที่ 11 แล้วจ้า  o19 หลับรอเรย์
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 06-06-2007 08:27:50
อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขจัง

อ่านไป  ยิ้มไป

อิอิ  o3
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 06-06-2007 08:37:42
ทำไมหลับกันเช้าจัง เอิ้กๆ
******************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ความหลังฝังใจ

หลังจากกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงได้ไม่นาน ทานตะวันที่ใช้พลังงานมาตลอดทั้งวันก็มีอันแบตหมด ต้องชาร์จไฟด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที
เพียงไม่ถึงนาทีที่หัวถึงหมอน คนที่สามารถออกแรงได้มาก ๆ ในช่วงกลางวัน ก็หลับเป็นตาย

นอนกอดหมอนข้างแน่นเหมือนเด็ก ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเลยสักนิด จนอ้อนที่ค่อย ๆ เดินย่องเข้ามาในห้องต้องเดินมาหยุดยืนมองให้ชัด ๆ

โถถถถถถถถถถถถถถ พ่อเจ้าประคุณ นอนหลับซะไม่รู้เรื่องเลยนะ ไอ้เราก็แทบบ้าอยู่คนเดียว เดินวนไปวนมาเป็นหนูติดจั่นไม่กล้าเข้ามาหา
กลัวได้คิดอะไรเตลิดเปิดเปิงอีกรอบ คราวนี้คงสงบใจได้ยาก
แล้วก็กลัวเจออิทธิฤทธิ์ของท่านชายทานตะวัน จนต้องตัดสินใจอย่างดี ตั้งสติให้มั่น นับหนึ่งถึงพันแล้วสูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาด้วยท่าทางมั่นใจสุดชีวิต

แล้วไหงมาเจอเจ้าชายน้อยนอนหลับไม่รู้เรื่องอย่างนี้ล่ะ โห เสียเลย ไม่น่าบ้าอยู่คนเดียวเลยกู

อ้อนเดินไปนั่งลงที่ข้างเตียง แล้วท้าวแขนมองคนที่หลับสนิทอยู่อย่างนั้น

ริมฝีปากปรากฎรอยยิ้มให้เห็น ทั้งที่ดวงตายังจ้องตรงที่ใบหน้าของทานตะวันไม่กระพริบ

น่าร้ากกกกกกกกกกกกกเนอะ อร๊ากกกกกกกก น่ารักโคตร ๆ เลยว่ะ

ใครหนอจะรู้ ว่าไอ้พี่ทานตะวันจอมโหด สั่งรุ่นน้องวิดพื้นเป็นว่าเล่น ท่าทางเวลานอนหลับน่ารักสุดยอดขนาดนี้
คงไม่มีใครได้เห็นหรอก

ก็มันจะไปนอนให้ใครเห็นล่ะ ถ้าไปทำท่าทางน่ารักแบบนี้ให้ใครได้เห็น สงสัยแฟนคลับเจ้าชายน้อย คงเยอะกว่านี้
ไอ้ที่เห็นมาโฉบไปเฉี่ยวมาอยู่ข้างสนาม สาว ๆ สวย ๆ ทั้งนั้น แต่คุณทานตะวันท่านก็ไม่เคยจะยอมสุงสิงกับใคร
เสียงดังมาก ๆ ตะโกนไล่ไปซะอีก แต่ก็ยังเห็นมีสาว ๆ มานั่งเล็งทานตะวันกันเป็นแถว
เพราะแบบนี้ด้วยหรือเปล่าไอ้พวกที่ชมรมมันถึงไม่ยอมลาออกกัน ทั้งที่ไอ้บ้าทานก็โหดร้ายทารุณเหลือเกิน

เพราะไม่ว่าใครที่เข้าชมรมฟุตบอลมา สุดท้ายก็ได้แฟนเป็นสาวข้างสนามกันทุกคน แต่ละคนสวย ๆ น่ารักทั้งนั้น
จากที่เธอมานั่งเชียร์ไอ้ทาน สุดท้ายก็ทนลูกตื้อของไอ้หนุ่มในชมรมไม่ได้ ได้แฟนกันเป็นแถว ๆ

คงเป็นเพราะว่าชาตินี้ไม่ได้หัวใจพี่ทานบ้าเลือดแน่ ๆ เลยตัดใจคบกับหนุ่มในชมรมฟุตบอลซะ
สุดท้ายก็เห็นมานั่งเฝ้านั่งรอกันเต็มไปหมด เหลือแต่ไอ้ประธานชมรมนี่แหละที่ยังคงไม่รู้ตัว ว่าสาว ๆ เหล่านั้นเขามาสนใจแบบจริง ๆ จัง ๆ

ความรู้สึกช้าชะมัด คนอะไรวะ

กลางวันเป็นอีกคน กลางคืนเป็นอีกคน

กลางวันครึกครื้น บ้าเลือด
กลางคืน เป็นเจ้าชายน้อยน่ารัก แล้วตอนนี้ก็นอนหลับไม่รู้เรื่อง

แบบนี้จะไม่ให้เผลอชอบไปได้ยังไง............เนอะ

กลายเป็นพวกโรคจิตนั่งเพ้ออยู่คนเดียว อ้อนนั่งจ้องมองใบหน้าของทานตะวันตาไม่กระพริบ แล้วยิ่งต้องอมยิ้มจนตาหยีเมื่อยิ่งมองก็ยิ่งคิดว่าคน ๆ นี้ น่ารักกว่าใคร ๆ
ทานเอ้ย เอ็งมันหล่อน้อยซะเมื่อไหร่

แต่นิสัยก็สุดยอดเหมือนกัน

เวลาดีก็ดีใจหาย เวลาร้าย ๆ หรือช่วงงี่เง่า มีแต่คนอยากฆ่าทิ้งทั้งนั้น

แต่ตอนนี้ทานมันก็น่ารักดีนะ ว่ามั้ย

น่ารักกว่าน้องไหมอีกนะเนี่ย น่ารักกว่าน้องไหม

น้องไหม...........

ชื่อนี้สะดุดเข้ามาในความคิดอีกครั้ง น้องไหม

แล้วอ้อนก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น เรื่องราวบางอย่างไหลวนเข้ามาในสมอง แล้วความคิดที่เคยเก็บกักเอาไว้ลึกสุดหัวใจก็พุ่งทะยานขึ้นสูง

"ไหมไม่ดีตรงไหน ทำไมพี่ถึงทำกับไหมแบบนี้...พี่ไม่รักไหมแล้วใช่มั้ยทำไมพี่ถึงได้ทิ้งไหมไป พี่เกลียดไหมแล้ว"

ยังจำได้ดีถึงความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวใจ แต่ก็ทำได้แค่แอบมองอยู่ห่าง ๆ แล้วก็สะกดกลั้นน้ำตาเอาไว้

ผู้หญิงที่รักมาก

ผู้หญิงคนที่รักมาก ๆ แต่รู้ว่าต่อจากนี้ไปจะไม่มีทางเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
เธอนั่งร้องไห้ฟูมฟาย ร้องไห้อยู่นานหลายวัน

น้ำตาของเธอคนนั้น เสียงคร่ำครวญสะอื้นไห้

"พี่ทำอย่างนี้ทำไม พี่ทำอย่างนี้กับไหมทำไม"

แล้วอ้อนก็ตัดสินใจหันหลังให้อย่างช้า ๆ พร้อมกับความคิดที่ว่าจะลืมไปตลอด ลืมไปตลอดกาล จะไม่พบ ไม่เจอกันอีก

ไม่ใช่........ว่าไม่รัก

แต่เพราะรักไม่ได้อีกแล้ว
เรื่องราวบางอย่า เหตุผลบางอย่างที่ไม่เคยมีใครได้รับรู้ และอ้อนก็ไม่เคยคิดจะบอกใคร
 
..............................

เสียงถอนหายใจยาวเหยียด ปลุกให้ทานตะวันสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และปรือตาตื่นขึ้นมองก่อนจะส่งยิ้มให้คนที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ข้าง ๆ

"อือ มาแล้วเหรอ....โทษทีเผลอหลับไปหน่อย....มาเร็ว มานอนตรงนี้ มานอนตรงนี้เร็วอ้อน ปิดไฟเหอะ อยากนอนแล้ว"

ทานตะวันเอ่ยเรียกทั้งที่น้ำเสียงยังงัวเงีย แล้วก็ตบมือบนที่ว่างก่อนจะเรียกให้อ้อนมานอนด้วยกัน

ร่างที่กำลังเคร่งเครียดกับความคิดของตัวเองสะดุ้งเล็กน้อย แล้วก็ลุกขึ้นไปปิดไฟก่อนจะเดินมาล้มตัวลงนอนข้าง ๆ กับคนตัวโตนั้นได้อย่างง่าย ๆ
เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ บ่งบอกให้รู้ว่าร่างนั้นกลับเข้าสู่นิทราอีกครั้ง

ทานตะวันยังคงนอนกอดหมอนข้างและหลับพริ้มเหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ไม่ได้คิดกังวลกับเรื่องใด ๆ
แต่อ้อนกลับนอนขมวดคิ้วมุ่น และค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าของคนตัวโตนั้นอย่างช้า ๆ

น่ารักกว่าน้องไหมอีกนะ

ไอ้ทาน....ทานตะวัน

ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้ ไม่เคยคิดว่าจะรักหรือชอบใครได้อีก ลืมไปแล้วหมดทุกอย่าง เหมือนความรู้สึกเก่า ๆ ไม่เคยเกิดขึ้น
ลืมไปหมดแล้ว กลายเป็นคนใหม่แล้ว แต่อยู่ดี ๆ กลับคิดขึ้นมาได้ยังไง

เป็นเพราะอะไรกันนะ เป็นเพราะอะไรกัน

ปลายนิ้วค่อย ๆ เกลี่ยไล้ที่ข้างแก้มของทานตะวันอย่างช้า ๆ และฝ่ามือก็ถูคว้าเอาไปกอดไว้แน่น
พร้อมกับที่ปลายจมูกของคนตัวโตจูบซับเบา ๆ ที่หลังมือ และดึงมือของอ้อนเอาไปซุกไว้ที่ซอกคอ

"ขอจับมือหน่อย...ง่วง..นอนกันเถอะ พรุ่งนี้ปลุกด้วยนะ"

ทั้งที่ควรจะรู้สึกขัดเขิน ทั้งที่ควรจะรู้สึกดีใจเป็นที่สุด แต่จิตใจกลับพะวงคิดถึงแต่ภาพของหญิงสาวคนหนึ่งภาพของเธอคนนั้นผุดขึ้นมาในสมองอีกนับครั้งไม่ถ้วน

.........รักทานเถอะ...ขอร้องล่ะ.........

ประโยคนี้ยังดังวนไปวนมา ทานตะวันทำเหมือนจะเป็นจะตายตอนที่ไม่ยอมพูดอะไรออกมา แล้วสุดท้ายทุกอย่างก็กลายเป็นแบบนี้ไปได้ง่าย ๆ

แต่เสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาวคนนั้น ยังตามมาหลอกหลอนไม่เลิกลา

"พี่ทำอย่างนี้กับไหมทำไม...พี่ไม่รักไหมแล้ว...พี่ไม่รักไหมแล้ว"

....พี่ยังรักไหมอยู่เสมอ......แต่พี่.....พี่....ตอนนี้พี่...........กลับเผลอไปรักคนอีกคน...พี่รักคนอีกคนได้ยังไง.....

ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ยิ่งเครียดก็ได้แต่ต้องพยายามข่มตาให้หลับลงอย่างช้า ๆ

คนตัวโตที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยสักนิด

เฮ้ยทาน.....เข้าใจใช่มั้ย........หน้าตาท่าทางแบบทานตะวันคนนี้ มันต้องมีแฟนมาสักคนสองคนเป็นอย่างน้อยล่ะว่ะ
ไม่มีสิแปลก เพราะฉะนั้นการที่เราจะมีคนรักคนหนึ่งที่อยู่ในหัวใจตลอดเวลาก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ใช่มั้ยวะทาน

ใช่มั้ย

อ้อนเอ่ยถาม แต่เป็นคำถามในใจ ที่คนที่หลับใหลคงไม่ลุกขึ้นมาตอบ และคงไม่ยอมฟังคำถามนี้ของอ้อนแน่ ๆ

เฮ้ย...คิดมากไปแล้ว ป่านนี้น้องไหม มีแฟนไปแล้วมั้ง เธอจะมารักมารอไปตลอดชีวิตได้ยังไง
ก็มีแต่ตัวเองนั่นแหละวะที่ยังต้องเก็บเธอไว้ในใจตลอดเวลา

น้องไหม......ผู้หญิงที่รักมาก.....มากจนยอมให้เธอไปเจอคนที่ดีกว่าได้

แล้วก็เจ็บปวดเสียใจทุกครั้งที่นึกถึง.........

ถ้าไหมรู้ว่าตอนนี้พี่...........กำลัง...มองว่าไอ้บ้าที่นอนอยู่ข้าง ๆ พี่มันน่ารักไหมคงรังเกียจพี่มากเลยล่ะ
อย่าว่าแต่ไหมเลย ตัวพี่เองยังไม่รู้เลย ว่าพี่รักไอ้บ้าทานไปได้ยังไง

คิดแล้วก็สมเพชตัวเอง
อยู่ดี ๆ กลายเป็นพวกเบี่ยงเบนทางเพศไปอย่างไม่น่าเชื่อ

เอาเถอะวะมาถึงขนาดนี้ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด เป็นไงเป็นงั้นวะ ลองดูสักตั้ง

อ้อนนอนคิดอยู่อย่างนั้น แล้วก็หันไปมองหน้าของทานตะวันอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยกระซิบบอกกับอีกฝ่ายเสียงเบา

"ใช่มั้ย...ไอ้เจ้าชายนิทรา...คิดว่างั้นมั้ยครับ...เจ้านาย"

อยากจะยิ้มออกมาให้ได้ แต่ทำได้แค่ยิ้มแบบซีด ๆ เซียว ๆ

ทานเอ้ย ทาน เราเป็นอะไรกัน ป่านนี้กูยังไม่รู้เลยว่าเป็นตัวเองเป็นอะไรกับมึง
แค่อยู่ใกล้แล้วใจสั่นหวั่นไหว ไม่กล้าเข้าใกล้มาก ๆ

อยู่ไปอยู่มา ก็ชอบขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว

คนเราต้องมีอดีตกันบ้างใช่ป่ะ เอาไว้ว่าง ๆ ถ้าอารมณ์ดี ๆ แล้วอยากรู้จะเล่าให้ฟังนะ แต่ทางที่ดีอย่ารู้เลยดีกว่า เดี๋ยวจะอาละวาดขึ้นมาอีก

"เนอะเจ้าชายน้อย......หืออออออออ หมั่นเขี้ยวเว้ย...เดี๋ยวแม่งปล้ำซะเลย...ทำหน้าตายั่วอารมณ์...มานอนหลับข้าง ๆ แบบนี้ไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเองหรือไง"

ปากพูดไปอย่างที่ใจคิด แต่ไม่รู้ว่าคนที่ควรต้องป้องกันตัวคือตัวเอง

ทานตะวันแอบลอบยิ้มหลังฟังคำพูดของอ้อน แล้วก็แกล้งหลับอยู่อย่างนั้น

อยากลุกขึ้นมาทำอย่างที่อ้อนพูด แต่ก็ต้องหยุดตัวเองเอาไว้ แล้วจะไม่ให้ข่มใจได้ยังไง ในเมื่อแตะไปนิดเดียวอ้อนก็ถึงกับแทบลมใส่แบบนั้น
ขืนบุ่มบ่ามทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า เดี๋ยวคนปากกล้าก็เลือดไหลหมดตัวตายกันพอดี

ทานตะวันคิดการณ์ไกลอย่างรอบคอบ แล้วก็ยังคงนอนอมยิ้มอยู่อย่างนั้น กับคำพูดของอ้อน

........พูดเข้าไปเหอะ ปากดีให้ตลอดนะคนเรา....เดี๋ยวเจอเข้ากับตัวแล้วจะร้องไม่ออก....คิดจะปล้ำกันเหรอ ยังไวไปหมื่นปี กลับไปฝึกมาใหม่เถอะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน....

TBC....
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 06-06-2007 08:52:43
มีปมใหม่  ความรักไม่ราบรื่นง่าย ๆ แฮะ o12
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 06-06-2007 09:13:49
 :give2: :give2: :give2:

พยายามเข้านะทั้งสองคน  :like6: :like6: :like6:

ปล. คนโพสสู้เค้าาาาาาา  o17 o17
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 06-06-2007 10:23:23
อ่านดูแล้วทานเองก็ร้ายน่ะ แอบวางแผนด้วย อิอิ จะมีบท xxx มั้ยเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 06-06-2007 11:01:21
พี่2คนนี้น่ารักมากมาย ^^  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Felm ที่ 06-06-2007 11:27:25
 :-[ :o8:


มาแค่นี้คับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 06-06-2007 13:20:34
ทำไมคราวนี้ทานไม่เห็นร้ายเลยอ่ะ
เลยไม่มีฉากจิ้นเลย  o12

คราวนี้มะมีคนนับเม้นท์หยอ
ของเค้าเม้นที่ 6 แล้วนะ  :haun5:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-06-2007 16:59:25
อ้างถึง
"เนอะเจ้าชายน้อย......หืออออออออ หมั่นเขี้ยวเว้ย...เดี๋ยวแม่งปล้ำซะเลย...ทำหน้าตายั่วอารมณ์...มานอนหลับข้าง ๆ แบบนี้ไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเองหรือไง"

ปากพูดไปอย่างที่ใจคิด แต่ไม่รู้ว่าคนที่ควรต้องป้องกันตัวคือตัวเอง

ทานตะวันแอบลอบยิ้มหลังฟังคำพูดของอ้อน แล้วก็แกล้งหลับอยู่อย่างนั้น

อยากลุกขึ้นมาทำอย่างที่อ้อนพูด แต่ก็ต้องหยุดตัวเองเอาไว้ แล้วจะไม่ให้ข่มใจได้ยังไง ในเมื่อแตะไปนิดเดียวอ้อนก็ถึงกับแทบลมใส่แบบนั้น
ขืนบุ่มบ่ามทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า เดี๋ยวคนปากกล้าก็เลือดไหลหมดตัวตายกันพอดี

ทานตะวันคิดการณ์ไกลอย่างรอบคอบ แล้วก็ยังคงนอนอมยิ้มอยู่อย่างนั้น กับคำพูดของอ้อน

........พูดเข้าไปเหอะ ปากดีให้ตลอดนะคนเรา....เดี๋ยวเจอเข้ากับตัวแล้วจะร้องไม่ออก....คิดจะปล้ำกันเหรอ ยังไวไปหมื่นปี กลับไปฝึกมาใหม่เถอะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน....

ฮ่ะเหวย

เสือซ่อนเล็บนี้หวา

ทำไร้เดียงสานะทาน

สุดท้ายก๋หื่นซะไม่มี

 :o8:









ทำไมคราวนี้ทานไม่เห็นร้ายเลยอ่ะ
เลยไม่มีฉากจิ้นเลย  o12

คราวนี้มะมีคนนับเม้นท์หยอ
ของเค้าเม้นที่ 6 แล้วนะ  :haun5:

เมนท์ที่เจ็ดครับ

สงสัยไม่มีใครนับเมนท์ เพราะตื่นเต้นกะความเป็ดมั้งครับ น้องจิงโจ้
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-06-2007 18:36:53
ทานตะวันคิดการณ์ไกลอย่างรอบคอบ   :o9:   :o9:
คิดไกลไปถึงไหนนี่  :laugh3:  :laugh3:
ปล.เม้นท์ที่ 8
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 06-06-2007 18:47:53
หุหุหุ

สงสัยงานนี้ อ้อนจะรอดยากกกกส์  :-[

ปล. (ด้วยคน) เม้นท์ที่ 9 แหละ  :try2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 06-06-2007 18:52:29
ใกล้แล้วสิเนี่ยยย  :haun5:

เม้นต์ที่ 9 ก๊าบบบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 06-06-2007 19:00:43
โอววววว  คิดการณ์ไกล  แต่อยากให้เป็นอนาคตอันใกล้จัง :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 06-06-2007 19:23:35
ทานน่ารักอีกแระ  :impress2:
อยากให้ทานทนไม่ได้จัง  จะทนอมยิ้มไปทำมายยยย  :haun5:

เม้นต์ที่ 11 แย้วววว  มาต่อให้ไว เรย์อยู่หนายยยยยยยยยยยยยยย  :angry2:

ปล  นับเม้นต์นี้เป็นเม้นต์ที่หนึ่งคราวหน้าได้ปะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 06-06-2007 20:06:16
รักกันต้องใช้เวลา อย่ารีบร้อน
 :laugh3:
*****************************

เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เรื่องที่ไม่เคยรู้

อารมณ์ดี อารมณ์ดีเกินไปแล้ว จะอารมณ์ดีอะไรขนาดนั้นวะ แปลกนะเนี่ย
ไอ้ทานมันเป็นอะไรของมัน แปลก ปกติก็แปลก ๆ แต่วันนี้แปลกหนักเข้าไปอีก ไม่รู้เป็นบ้าอะไร แต่...แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
ตั้งแต่เช้า ตั้งแต่ตื่นนอน ไอ้บ้าทานก็ทำให้ตกใจด้วยการมานั่งจ้องหน้า แล้วก็ก้มลงมาเป่าแก้ม ไม่ตื่นก็ต้องตื่น ไม่สะดุ้งก็ต้องสะดุ้ง
เล่นอะไรของมันแต่เช้าก็ไม่รู้ พอเห็นว่าตื่นแค่นั้นแหละ ทำหน้าตาดีใจนักหนาที่ได้แกล้ง หัวเราะร่าทั้งวัน

ออกจากบ้านมาพร้อมกัน ไอ้คนบ้านั่นก็ทำหน้าตาสดชื่น สดใส เดี๋ยวก็ยิ้ม เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็ร้องเพลงนั้นเพลงนี้ไปเรื่อยเปื่อย

ไม่นับอาการที่ชอบหันมาทำตาใสแป๋วแหววใส่ แล้วร้องเรียกทำเสียงออดอ้อน จนแทบจะอดใจไม่ไหว อยากจะโน้มหน้าคนที่ทำให้ใจสั่นคนนี้มาฟัดแก้มซะให้สะใจ

อะไรมันจะดูน่ารักกันได้ขนาดนั้น ถ้าทานมันไปทำหน้าตาท่าทางแบบนี้ต่อหน้าใคร มีหวัง ......... ได้เป็นบ้าตายแน่ ๆ

แค่คิด ยังเป็นแค่ความคิดอยู่ เพราะหันไปมองหน้าของทานตะวันทีไร ก็พาลจะคิดไปถึงเรื่องพิลึก พิลึกได้ทุกที แล้วก็ได้แต่อมยิ้มอยู่คนเดียว
จนคนตัวโตนั่นทำหน้าบึ้ง แล้วก็โวยวายออกมา

"อะไร คิดอะไรไม่ยอมบอก ขำอยู่คนเดียว บ้าป่าววะ" พูดได้แค่นั้น แล้วคนขับรถก็หันไปมองถนน ร้องเพลงงึมงำอารมณ์ดีมีความสุขต่อไป

นั่นยิ่งเรียกรอยยิ้มจากคนที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้าง ๆ ได้มากขึ้น

อ่ะนะ เจ้าชายน้อยมีงอน งอนแบบนี้มันน่า.........อ้อนได้แค่คิด แล้วความคิดก็วนเวียนอยู่ภายในสมอง พอหันกลับไปมองหน้าของทานตะวันอีกครั้ง
สายตากลับมองเรื่อยไปในที่ไม่ควรมอง

ผิวคล้ำแดด สีน้ำตาลเข้ม ใบหน้าคม ดวงตาที่จ้องมองตรงไป มีแต่ความจริงจัง และแฝงความอ่อนหวานเอาไว้ลึก ๆ
คนเรานะ ทำไมถึงได้เป็นคนที่น่ามองได้มากขนาดนี้ มีหลายอารมณ์มีหลายรูปแบบ

เพอเฟ็คเว้ย มองยังไงก็ดูดี มิน่าล่ะ ถึงได้มีสาวมานั่งรอเช้าเย็น
เมื่อก่อนไม่ได้คิดอะไรเท่าไหร่ แต่พอมามองแบบนี้ ไอ้ทานมัน...............มัน......นายแบบชัด ๆ หลุดมาจากแคทวอร์กไหนวะเนี่ย

สาว ๆ คร้าบ โปรดรู้ไว้เถอะว่าไอ้คนหน้าหล่อคนนี้มันไม่ไปทำหน้าใสตาโตให้ใครเห็นหรอกนะ มันทำให้ผมเห็นคนเดียว แล้วมันก็อ้อนผมคนเดียวด้วย
อดภูมิใจอยู่ลึก ๆ ไม่ได้ แล้วอ้อนก็รีบหันเหสายตากลับไปมองที่นอกรถ เมื่อรู้สึกว่ามองคนหล่อนาน ๆ พาลจะหน้ามืดวิงเวียนซะให้ได้

"ยิ้มอีกและ อะไร มองแล้วก็ยิ้ม คิดไรอยู่เนี่ย"

อย่าทักได้มั้ย อย่าพูดเลยดีกว่า ขืนทานมันรู้ว่าคิดอะไร ได้เป็นเรื่องแน่ ๆ

อ้อนก็เลยได้แต่นั่งยิ้มอยู่อย่างนั้น โดยมีสารถีหน้าหล่อ ทำหน้าตาโนะเนะให้ใจสั่นเล่นเป็นพัก ๆ เอาน่ะ คนเรา .... จะมีใครได้เห็นไอ้ทาน ทำหน้าแบบนี้

ไม่มีหรอก ไม่มี

หึ หึ หึ ภูมิใจเว้ย ภูมิใจ

อยากจะบอกออกไปว่า "ทำหน้าแบบนี้ไม่ระวังตัวเลยนะ"

แต่ก็หุบปากเงียบเอาไว้ กลัวว่าถ้าพูดออกไปแล้ว ทานตะวันมันจะรู้ความคิด เลยต้องอุบเงียบเอาไว้คนเดียว
คนขับรถยังคงร้องเพลงหงุงหงิง มีความสุข ส่วนอ้อนมีแต่ความคิดชั่วร้ายอยู่เต็มหัว

ความคิดของอ้อนส่วนทางกับทานตะวัน อ้อนคิดอีกอย่าง ทานตะวันคิดอีกอย่าง
ความคิดของอ้อนคงไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะตอนนี้ในหัวของทานตะวันก็บรรจุความคิดบางอย่างอัดแน่นไว้เต็มไปหมด

".ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ ....คิดจะปล้ำงั้นเหรอ ยังเร็วไปหมื่นปี คิดแบบนี้ดีนักใช่มั้ย มันต้องใช้ความคิดของไอ้คนไม่เจียมตัวคนนี้ให้เป็นประโยชน์หน่อยแล้ว"

ความคิดของทานตะวันไม่มีใครรู้ แต่ถ้าอ้อนรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่คงไม่กล้าคิดสิ่งที่ตัวเองคิด

ต่างฝ่ายต่างมีแนวทางของตัวเอง เพียงแต่จะมีใครกล้าใช้กลยุทธ์และวิธีการมากกว่ากัน

และแนวโน้มความคิดของทานตะวันมีความเป็นไปได้มากกว่า อ้อนยังไม่มีโอกาสได้รู้ แต่ถ้ารู้ตอนนี้มีหวังเลือดคงไหลหมดตัวตายแน่ ๆ ถ้าความคิดของทานตะวันเป็นจริง

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
...........................

"อ้อน อ้อน มีอะไรจะบอก"

บอกอย่างเดียวก็ได้ ทำไมต้องทำเสียงประหลาดแล้วก็ยิ้มระรื่นขนาดนั้นด้วย แล้วไอ้มือที่เลื้อยมาโอบบ่านี่มันอารายกันล่ะเว้ยยยย

"จริงจริง มีอะไรจะบอกจริง ๆ ฟังนะ วันนี้นะ...." ทานตะวันยิ้มร่าอย่างแสนร่าเริง เตรียมจะบอกเรื่องสำคัญของตัวเองกับคนที่เดินอยู่เคียงข้าง
วันนี้ฤกษ์ดีเลยพากันมาแวะหาข้าวกินก่อนกลับบ้าน

ก็แค่อาหารธรรมดา ๆ แต่คนที่รู้สึกว่าวันนี้ไม่ธรรมดาคือทานตะวัน

"อือ มีอะไร " ตอบไปแล้ว แล้วก็พยายามจะยกมือที่มาโอบไหล่ออกห่างให้ได้ แต่คนตัวโตก็ไม่ยอมปล่อย ยังดื้อดึงอยู่อย่างนั้น

"ให้ทายวันนี้วันอะไร"

วันพฤหัสไง ถามอะไรแปลก ๆ อยากจะตอบออกไปอย่างนั้น แต่ก็ไม่กล้าตอบเพราะรู้ว่าโดยปกติคนเราคงไม่มาถามประโยคแบบนี้ถ้าไม่ใช่วันสำคัญของตัวเอง

"วันเกิดเหรอ จริงอ่ะ ดีใจด้วย"

นึกว่าทายถูกแล้ว แต่กลับไม่ใช่อย่างนั้น เพราะทานตะวันส่ายหน้าแล้วก็เอาแต่อมยิ้ม

"แล้ววันอะไร วันสำคัญใช่ป่ะ "

จากส่ายหน้ากลายเป็นพยักหน้าแล้วก็อมยิ้ม ทายถูกนี่หว่าแล้วมันวันอะไรล่ะ วันอะไรกันหนอ

"จำไม่ได้จริงอ่ะ"

เพราะเห็นว่าอ้อนทำหน้ายุ่งเหยิงแล้วก็ดูท่าคงต้องคิดอีกนาน คนตัวโตก็เลยต้องรีบเฉลยก่อนที่อ้อนจะทำหน้ายุ่งไปมากกว่านี้
ใบหน้าที่ก้มลงมาหาแล้วกระซิบบอกที่ข้างหูเสียงแผ่ว แทบทำให้ใจคนฟังหลอมละลายอยู่ตรงนั้น

"วันนี้ครบรอบสามเดือนที่เราจูบกันครั้งแรกไง"

ไม่อึ้งก็ต้องอึ้ง ไม่อายก็ต้องอาย ไม่เขินก็ต้องเขิน ไม่หน้าแดงก็คงไม่ใช่อ้อน

"ง่ะ งะ อะ อะ อะ อะไรน๊า ครบรอบอะไรนะ..."

เอ่ยถามออกไปทั้งที่น้ำเสียงตะกุกตะกัก แต่ทานตะวันไม่รอฟังคำถามนั้นให้จบ กลับทั้งลากทั้งดึงแขนให้อ้อนเดินตามอย่างเร่งด่วนแล้วก็พูดประโยคต่อไปอย่างหน้าตาเฉย

"เพราะฉะนั้น วันนี้เราก็มาจูบกันเถอะนะอ้อนนะ...ครบรอบทั้งทีใช่มั้ยเนอะ"

พูดทำมายยยยยยยย พูดไปได้ยางงาย ไม่ ไม่ ไม่ อย่า อย่า อย่า

ขืนมันทำจริง ๆ ได้ชักดิ้นตายแน่ ๆ ไม่เอานะเฟ้ย ฮือ ฮือ จะบ้าตายแล้ว เลือดจะพุ่งออกจนหมดตัวแล้ว อร๊ากกกกกกก อ้ายทานบร้าาาาาาาาา

ทำท่าจะขืนตัวหนีจากการรั้งให้เดินตามแต่แล้วกลับต้องสะดุ้งสุดตัว รีบหันกลับไปหาเมื่อมีเสียงเรียกชื่อ

เสียงที่ได้ยินอย่างไม่คาดฝัน

"พี่......พี่....พี่อ้อน พี่อ้อนคะ"

แค่เสียงไม่พอ ยังมีฝีเท้าหนัก ๆ วิ่งตามเข้ามาหา อ้อนเหลียวหลังหันกลับไปมอง แล้วก็ได้แต่ยืนตะลึงมองค้างอยู่อย่างนั้น
เมื่อตั้งสติได้ก็รีบลากแขนให้ทานตะวันรีบเดินตามอย่างรวดเร็ว

"อะไรอ้อน ทำไม รู้จักกันเหรอ"

คนตัวโตหันมาถาม แล้วก็ได้แต่ทำหน้าสงสัย ถ้ารู้จักกันจริง ๆ ทำไมต้องรีบเดินหนีขนาดนี้ด้วย ไม่อยากเจอกันขนาดนี้เลยหรือไง

"พี่อ้อนจะหนีอีกแล้วใช่มั้ย ถ้าพี่ยังหนีไหมอยู่อย่างนี้.....ไหมจะได้รู้ว่าพี่มันก็แค่คนขี้ขลาด...ที่หนีความจริง"

ความจริง ความจริงอะไร มันเรื่องอะไรกันแน่ ทานตะวันก้าวเท้าตามคนที่ทั้งลากทั้งดึงให้เดินตาม แล้วก็ยิ่งเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้

"อ้อน ไปคุยกับเขาสิ มันเรื่องอะไรกันแน่"

ยิ่งร่างที่กำลังก้าวเท้าหนี อยากจะหนีมากเท่าไหร่ หญิงสาวคนนั้นยิ่งวิ่งตามเร็วขึ้น

"พี่ไม่รักไหมแล้วใช่มั้ย....ถ้าพี่ไม่รักไหมแล้ว....แล้วพี่ยังจะส่งของขวัญส่งการ์ด ส่งดอกไม้ให้ไหมทำไม ถ้าพี่ไม่รักไหมแล้ว แล้วพี่ทำแบบนี้กับไหมทำไม
ทำไมพี่ไม่ปล่อยไหมไปจริง ๆ ทำไมพี่ทำแบบนี้กับไหม ทำไมล่ะ พี่บอกไหมสิ ว่าพี่ทำแบบนี้กับไหมทำไม"

ได้ผล เสียงที่ตะโกนถาม ทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ต้องหันกลับมามองด้วยความสนใจ

หญิงสาวน่ารักคนนั้น หยุดยืนอยู่กับที่ แล้วก็ปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมาอย่างไม่คิดจะอดกลั้น

เพียงเท่านั้นหัวใจคนฟังก็กระตุกวูบ แล้วได้แต่ยืนนิ่งเงียบ ไม่คิดจะหนีไปไหนอีก

.................................

ไม่ใช่แค่อ้อน ที่เงียบ แต่เป็นทานตะวันด้วย ที่ฟังประโยคนั้นแล้ว นิ่งอึ้งยิ่งกว่า

"เรื่องอะไรเนี่ย....บอกหน่อยมันเรื่องอะไร"

น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยถาม ใบหน้าที่บ่งบอกว่ากำลังตื่นตะลึงกับเรื่องที่ได้ยิน ทำให้อ้อนยิ่งไม่กล้าเผชิญหน้ากับใครทั้งนั้น

"บอกมาสินี่มันเรื่องอะไรอ้อน บอกสิ มันเรื่องอะไรกันเนี่ย"

จากเสียงที่แผ่วเบา กลายเป็นน้ำเสียงห้าวห้วน

ทานตะวันไม่รอฟังคำอธิบาย ไม่คิดจะสนใจอะไรทั้งนั้น คนตัวโตรีบเดินก้าวเท้าออกจากที่ ๆ ยืนอยู่อย่างรวดเร็ว
ส่วนหญิงสาวน่ารักได้แต่ยืนร้องไห้อยู่เงียบ ๆ ห่างออกไป

"มันเรื่องอะไร นี่มันเรื่องอะไร มันเรื่องอะไรกันวะ มันเรื่องอะไร"

ความคิดสับสนวนเวียนกันในหัว อ้อนไม่ได้วิ่งตามมา มีเพียงทานตะวันที่วิ่งกลับมาที่รถและเปิดประตูเข้าไปนั่งที่นั่งคนขับ

ไม่อยากแบ่งความรักกับใคร ไม่อยากรับรู้สิ่งที่ได้ยิน
แต่สิ่งที่ได้ยินมันคืออะไร

เสียใจ

ตอนนี้รู้แต่ว่าตัวเองกำลังเสียใจและยังคงช็อคกับสิ่งที่ได้ยินและได้เห็น
ไม่จริงใช่มั้ย

ที่ผ่านมา ....มันคืออะไร

ที่ผ่านมา มันคืออะไร

อย่าบอกนะว่าที่ผ่านมา อ้อนมันมีคนอื่นอยู่ในใจตลอดเวลา แล้วทำไมถึง.....ทำไมถึงได้ทำแบบนี้ ทำไมวะ ทำไม

ฝ่ามือกระหน่ำไปที่พวงมาลัยรถ อย่างบ้าคลั่ง สุดท้ายก็ได้แต่นิ่งเงียบและหอบหายใจหนัก ๆ ก่อนจะเอนหลังลงพิงกับพนักเบาะรถ
และยกมือขึ้นกุมแน่นที่หัวใจของตัวเอง

เจ็บ......เจ็บตรงนี้ เจ็บจนร้าวไปหมด

ทำไมถึงได้เหมือนกำลังจะหายใจไม่ออก ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้

ไม่อยากคิดก็ต้องคิด ไม่อยากรับรู้แต่ก็ได้รู้

ลำคอแห้งผาก ความพยายามอดทนไร้ผล

ทานตะวันนั่งเงียบ ๆ และปล่อยให้หยดน้ำหลั่งรินรดลงอาบแก้มอย่างช้า ๆ

ทั้งที่รักไปแล้ว ถึงตอนนี้จะให้ไปแบ่งความรักกับใครอีกคนได้ยังไง

ไม่ได้.....ทำไม่ได้

ถึงทำได้ก็ปวดไปหมดทั้งหัวใจ

"อ้อน ทำไมทำแบบนี้...ทำไมทำแบบนี้กันได้ลงคอ....ทำแบบนี้ทำไม...ทำแบบนี้ทำไม...."

ทานตะวันที่เคยเข้มแข็งทำได้แค่คร่ำครวญด้วยความปวดร้าวโดยที่ไม่มีใครรับรู้ ทำได้แค่คร่ำครวญร้องไห้ด้วยความเสียใจ
ไม่เคยเสียใจมากขนาดนี้ ไม่เคยคิดว่าจะต้องเสียใจเพราะรักใคร สุดท้ายกลับได้รู้จักคำว่าเสียใจจากความรักเป็นครั้งแรก

แต่กลับทำอะไรไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว

TBC....
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 06-06-2007 20:28:24
โธ่  สงสารทาน

คนเราก็ต้องการที่ว่างเล็กๆ ไว้เก็บเรื่องราวบางอย่างในความทรงจำเหมือนกัน 
ขอให้เคลียร์กันได้นะ  อ้อนกล้าๆ หน่อย  ยิ่งกลัวยิ่งมีคนเจ็บ

รออ่านต่อจ้าเรย์  เม้นต์ที่ 1  o15
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 06-06-2007 20:29:43
สงสารทานอ่า    :o12: :o12: :o12: :o12:

อ้อนเคลียร์น้องไหมด่วนนะค๊าบบบบบบบบบ :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 06-06-2007 20:34:32
ฮือๆ สงสารทานอ่ะคับ  :o12:

เมะ เม่ะ เม้นท์ ที่สามคับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-06-2007 20:36:09
สงสารทานง่า   :o12:  :o12:  :o12:
ปล. เม้นท์ที่  4
 
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 06-06-2007 20:42:48
อ้อน clear ด่วน

สงสารทานจัง  :o7:

เม้นท์ ที่ 5 แหละ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 06-06-2007 20:47:50
โหนึกว่าจะไปกันได้ดีแล้วเชียว สงสารทานจังเลย  :sad2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 06-06-2007 22:33:51
ทานร้องไห้อ่าาาา  :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
ถ้างานนี้อ้อนไม่เคลียร์นะ จะไม่เชียร์แล้ว  :angry2: :angry2: :angry2:

ปล. ลืมนับเมนต์ เมนต์ที่ 7 แล้วน๊าาา  :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 06-06-2007 22:45:23
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย สงสารนายทานอ่ะ  :sad4:

อ้อน รีบจัดการปญหาแล้วเคลียร์ด่วนเลยน่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 06-06-2007 23:25:53
มันเจงๆวุ้ย  งานนี้ทานมีงอนๆ  :o12:

อ้อนเรียบๆไปง้อ น๊า  :give2:


ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 07-06-2007 00:58:22
 :o :o  ความหลังของอ้อนตามมาหลอกหลอนซะแล้ว  ตอนนี้ผมเทคะแนนให้ทานแล้วกันนะครับ :o7: :o7:

เอ่อ  อันนี้รี10แล้วครับคุณบลู
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 07-06-2007 02:13:41



..............สงสารทานจัง..........ทำไมความรักต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ...... :o12:




เรย์คร๊าบบบบบบบบ......เมนท์ที่ 11 แล้วน่ะมาต่อด่วน....
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 07-06-2007 16:09:42
และแล้วมาต้องมาเทคะแนนให้ทาน ว่างๆคลิ๊กเทคะแนนให้ผมบ้างนะ
 :impress: :impress: :impress:


เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ข้อความจากทานตะวัน

ทานตะวันนั่งเงียบ ๆ อยู่ภายในรถเพียงลำพัง ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ผ่านมาหลาย ๆ อย่างแล้วก็ได้แต่ยกมือขึ้นปิดที่ริมฝีปากของตัวเองไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดรอดออกมาได้

กลัวที่สุดคือกลัวไม่มีใครรัก เลยไม่คิดจะแคร์และไม่คิดจะรักใคร

แต่สุดท้ายก็พลาด

พลาดไปมีความรักเข้าจนได้ ทั้งที่ไม่รู้ว่ารักคืออะไร แต่สิ่งที่รู้ในเวลานี้ คือปวดใจ

เจ็บร้าวไปหมด ไหนใครว่าความรักทำให้โลกเป็นสีชมพู ความรักทำให้มีความสุข

แต่สิ่งที่ได้เจอไม่ใช่เลยสักนิด แล้วทำไมคนที่มาทำให้รัก มาหลอกให้รักกันได้ง่าย ๆ

ทำไมถึงใจร้ายได้ขนาดนี้ ทำกันได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ

หนูน้อยแก้มแดงคนนั้น คนที่ทำหน้าใสซื่อ ทำไมถึงได้ทำกันได้ลงคอ

ทำไมถึงได้หลอกลวง เหมือนถูกหักหลัง ถูกหักหลัง ถูกหลอก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา

ที่ยิ้มให้ ที่ทำให้ยิ้ม ที่ทำให้มีความสุข สิ่งที่ผ่านไปนั้นมันคืออะไร แค่สายลมงั้นเหรอ

แค่มาทำให้รักแล้วก็มาทำให้เสียใจอย่างนั้นเหรอ

น้ำตายังคงรินไหลพร้อมหัวใจที่เจ็บร้าว

เสียงข้อความจากโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในความเงียบทำให้ทานตะวันต้องรีบคว้ามานั่งดูหมายเลขที่โทรเข้ามา

โทรมาแก้ตัวแล้วสินะ อะไรล่ะ เหตุผลคืออะไร

อยากฟัง แต่ก็ไม่อยากฟัง

อยากจะฟังคำพูดจากปากของอ้อน

แต่ก็ไม่อยากฟังสิ่งที่จะได้รับรู้

ไม่อยากยอมรับความจริง

ไม่อยากรับรู้สิ่งที่จะได้ยินในวันนี้แต่ฝ่ามืออันสั่นเทาก็เอื้อมมือคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาถือเอาไว้

และกลั้นใจกดดูข้อความอย่างช้า ๆ

....กลับก่อนได้เลย...เดี๋ยวตามไปทีหลัง.....

สั้น ง่าย ได้ใจความ

แต่บาดลึกไปถึงหัวใจ แค่จะโทรมาบอกกันสักคำว่าจะไปกับผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ยอมโทร

กลับส่งข้อความเพียงแค่บรรทัดเดียวมาให้ ใจร้ายขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมถึงใจร้ายได้ขนาดนี้

ปลายนิ้วยกขึ้นแตะที่ข้างแก้มของตัวเอง และค่อย ๆ เอื้อมมือไปเสียบกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ

ได้นะ ให้ทำอะไรให้ตอนนี้ก็จะทำ

จะอดทน จะเป็นคนใจเย็น จะทำให้ได้ จะรอ

ทำไมต้องรอด้วย ไม่อยากรอ อยากจะย้อนกลับไปอีกครั้งแล้วก้าวเดินเข้าไปถามให้รู้เรื่อง แล้วก็จบทุกอย่างลงซะ

แต่ทำไม่ได้ ไม่กล้าทำ กลัว ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะกลายเป็นคนขี้ขลาดได้ขนาดนี้

รถเคลื่อนออกจากลานจอดรถอย่างช้า ๆ

ทานตะวันไม่รู้ว่าตัวเองขับรถกลับบ้านได้ยังไง แต่รู้ว่าขับรถไปร้องไห้ไปพร้อมกับหัวใจที่ร้าวราญ

สุดท้ายเมื่อจอดรถแล้วก็ได้แต่เดินก้าวเท้าเข้าบ้านอย่างช้า ๆ

เกลียดที่บ้านกว้าง แต่ไม่มีคนอยู่ เกลียดที่ต้องอยู่คนเดียว

เกลียดที่บ้านมืด มีเพียงแสงไฟจากข้างนอก เกลียดทุกสิ่งทุกอย่ารอบตัว

ขายาว ๆ ก้าวเดินมาทิ้งกายลงนั่งที่โซฟา ที่ ๆ ต้องมาพักพิงก่อนจะเผลอหลับไปในแต่ละคืนเพราะความอ่อนเพลีย

รายการโทรทัศน์ยังคงหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกัน

มือยังคงกดรีโมท ซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น

กดไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่รู้จะดูอะไร รู้แต่กดไปร้องไห้ไป เหมือนไม่รู้สึกตัว

สุดท้ายรีโมทโทรทัศน์ถูกขว้างลงบนพื้นจนแตกกระจาย ทานตะวันใช้ฝ่ามือกวาดทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าทิ้งลงกับพื้นและตะโกนโวยวายเสียงดัง

"เกลียดโลกนี้โว้ยยยยยยยยยยยยยยย เกลียด เกลียด เกลียด"

ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร รู้แต่ว่าข้าวของทรัพย์สินในบ้านพักพินาศ คว้าอะไรได้ก็คว้า เตะอะไรได้ก็เตะ

ทั้งแจกัน สมุดหนังสือ โต๊ะ ตู้ ถูกเปลี่ยนสภาพกลายเป็นขยะไปในเวลาไม่กี่นาทีเพราะการอาละวาดของทานตะวัน

ร่างกายที่หอบเหนื่อย พาตัวเองมานั่งขดตัวอยู่ข้างบันไดทางขึ้นห้องนอน นั่งขดตัวกอดเข่าสะอื้นไห้เสียงดังอยู่คนเดียงเงียบ ๆ

ในเวลานี้มองไม่เห็นใคร รู้เพียงแต่ว่าตัวเองอยู่คนเดียวและถูกทำร้ายจิดใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทานตะวันเอนกายลงนอนตรงทางเดินขึ้นบันไดไม่ได้สนใจว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน และยังคงปล่อยให้หยดน้ำตาหลั่งรินไม่ขาดสาย

ไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกว่าหัวใจที่แตกร้าวจะกลับคืนสู่สภาพเดิม

ไม่รู้สึกตัว ไม่รับรู้เรื่องราวรอบ ๆ ตัวอีก สุดท้ายคนตัวโตที่ไม่เคยคิดจะสนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว กลับต้องปล่อยให้ความเหนื่อยอ่อน ในเวลาช่าวงกลางวัน ช่วยพาให้ร่างกายหลับใหลลงไปพร้อมหยดน้ำตา

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 
............................

"ทาน....."

เสียงกระซิบเรียกที่ข้างหู ทำให้ทานตะวันปรือตาตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ ฝ่ามือเย็นชื้นที่แตะที่ข้างแก้มทำให้สะดุ้งสุดตัวและค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่ง เมื่อรู้ว่าเวลานี้ใครมาอยู่ตรงหน้า

"อาบน้ำหรือยัง...ยังใส่ชุดเดิมอยู่นี่นะ...อาบน้ำก่อนดีมั้ยแล้วค่อยขึ้นไปนอน"

ทานตะวันค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ และก้าวขาเดินขึ้นบันไดทั้งที่แทบไม่มีเรี่ยวแรง

ใครอีกคนก้าวเท้าเดินตามขึ้นมาพร้อม ๆ กัน และมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน ก่อนจะก้าวเท้าเดินตามเข้าไปภายในห้องนอน

ไฟกลางห้องถูกเปิดขึ้นเพื่อขับไล่ความมืด

ทานตะวันปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด ทั้งที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

นัยน์ตาคมแดงก่ำเหม่อลอยเหมือนคนไม่ได้สติ ท่าทางที่เหมือนคนไม่มีชีวิตยิ่งทำให้อ้อนรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของคนตรงหน้า

แต่ก็ทำได้แค่ยืนมอง ยืนอยู่เงียบ ๆ ไม่ปริปากพูดอะไรเลยสักคำ

"ทาน"

ไม่มีเสียงตอบรับ ไม่มีการหันมาตามเสียง มีเพียงร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งที่ค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดอย่างเชื่องช้า เจ้าของร่างเหมือนคนไม่มีชีวิตและไร้วิญญาณ ไม่มีความรู้สึกไม่มีหัวใจ

"ทานตะวัน"

อีกครั้งที่ชื่อของคนตรงหน้าถูกเรียก อีกครั้งที่อ้อนพยายามจะเรียกให้คน ๆ นั้นรู้สึกตัว แต่ไม่มีการขานรับแม้แต่คำเดียว

"ทาน...ทาน...ทาน...ทาน...ขอโทษ..ขอโทษ..เราขอโทษ เรามันเลวเอง เราขอโทษ"

เพราะรู้ถึงความผิดที่ก่อเอาไว้ รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ทานตะวันต้องกลายเป็นแบบนี้

รู้ทุกอย่าง ทั้งที่รู้ว่าจิตใจของคนตรงหน้าเปราะบางยิ่งกว่าใคร ๆ แต่ก็ยังทำร้ายได้ลงคอ

ทำไมถึงได้เป็นคนเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ ทำไมถึงได้ทำร้ายจิตใจทานตะวันได้ขนาดนี้

อ้อนโผเข้ากอดรัดร่างของคนที่ยืนนิ่งเฉยเหมือนไม่รับรู้สิ่งใดรอบตัว

กอดเอาไว้ กอดเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ใบหน้าซีดขาวแนบลงบนแผ่นหลังกว้างและซบใบหน้าของตัวเองลงอย่างช้า ๆ ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาอีก

นอกจากการพร่ำพูดขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เพียงแค่นี้ก็ทำให้คนที่ยืนนิ่งเงียบ ต้องปล่อยให้น้ำตาที่เหือดแห้งหลั่งรินลงมาอีกครั้ง

ใช่......ที่จิตใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี

เพราะถูกหักหลัง

แต่เพราะรักมากอย่างที่ไม่เคยรักใคร จึงทำให้ความเจ็บปวดทวีคูณสูงขึ้นอย่างไม่มีขอบเขต

"อ้อน...ใจร้าย...กับเรามากเลยนะ..."

เป็นแค่ข้อความสั้น ๆ เป็นแค่คำพูดสั้น ๆ ที่มาพร้อมกับน้ำเสียงที่สั่นสะท้านยากที่จะควบคุม

"เราใจร้ายนะทาน...ร้ายมากเลย..ร้ายกาจแล้วก็เลวที่สุดอย่างไม่น่าให้อภัย...เราเป็นคนที่ร้ายกาจที่สุด"

งั้นเหรอ

ไม่แก้ตัวหน่อยเหรอ

ไม่มีอะไรจะแก้ตัวเลยใช่มั้ย

ยอมรับง่าย ๆ แบบนี้.........เลยสินะ

นั่นสินะ ทำร้ายกันได้ง่าย ๆ ขนาดนี้ ไม่แก้ตัว ไม่ปลอบใจ ไม่ทำอะไรเลยใช่มั้ย

ยอมรับทุกอย่างเลยใช่มั้ย


......................................

"อ้อน...ทานรักอ้อนว่ะ...มันก็เลยเจ็บ...ถ้าไม่รักคงไม่ต้องเจ็บหรอกเนอะ"

แค่คำพูดเลื่อนลอย แค่คำพูดที่ดังแผ่ว ๆ เหมือนสายลม แค่คำพูดช้า ๆ แต่เหมือนมีดปลายแหลมที่กรีดลึกลงมาบนหัวใจ และยิ่งทำให้รู้สึกว่าความเลวร้ายที่ตัวเองก่อเอาไว้เพิ่มมากขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ขอโทษ

คงเป็นคำที่เอ่ยช้าไป

ถ้ารู้ว่าในวันหนึ่งข้างหน้าจะรักคน ๆ นี้ได้มากถึงขนาดนี้ คงไม่ทำสิ่งที่ทำ

"ทาน...เรารักทาน..."

ไม่ได้ขอให้เชื่อ ไม่ได้บังคับให้เชื่อ ไม่ได้ต้องการให้เชื่อ แต่แค่อยากให้เชื่อ

"เรารักทาน...ยิ่งตอนนี้ยิ่งรัก....รักมากเลยนะ...รักแบบบ้า ๆ เลย รักทานจริง ๆ ว่ะ"

อ้อนเอ่ยบอกเสียงเบากับแผ่นหลังของร่างตรงหน้า

ทั้งที่รู้ความผิดของตัวเองแต่ก็กล้าที่จะพูด พูดในเวลาที่ไม่ควรจะพูด

ทานตะวันคงจะสะบัดมือหนี คงจะอาละวาด คงจะเกลียดไปจนวันตาย แต่ก็จะพูดออกไป

เพราะมันอาจเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่จะต้องเอ่ยคำลา

"รักทานเหรอ...."

สิ่งที่ได้ยินคือคำว่ารัก....คำว่ารักแบบไม่นึกถึงสถานการณ์ ไม่นึกถึงความเป็นจริง

คำว่ารักที่มาไม่ถูกเวลามักทำให้จิตใจปวดร้าวมากขึ้น

แต่ไม่ใช่กับทานตะวันคนนี้

ใบหน้าที่หมองเศร้า ค่อย ๆ มีรอยยิ้มเจือจางบนใบหน้า

ไม่ได้อยากได้อะไรที่มากกว่านี้ แค่อยากได้คำว่ารัก ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากกว่านี้

แค่อยากได้ความใส่ใจจากใจจริง โดยไม่มีเงื่อนไข

"อ้อนส่งผู้หญิงคนนั้นกลับบ้านดีหรือเปล่า.....บ้านเขาอยู่ไกลจากบ้านทานมากมั้ยกว่าจะมาถึงที่นี่ก็ดึกแล้ว นั่งรถเมล์มาเหรอ ขาไม่ดีอยู่ไม่ใช่หรือไง แล้วมายังไง ทำไมไม่โทรบอกให้ไปรับล่ะ จะได้ออกไปรับ...เนี่ยทานนั่งรออยู่ตั้งนานแน่ะ เห็นแต่ข้อความมาแค่ข้อความเดียว เลยไม่รู้จะทำยังไง...เลยได้แต่นั่งรอ..รออ้อนกลับมาบ้าน รอตั้งนาน นึกว่าจะไม่กลับมาแล้วซะอีก....ทานนึกว่าอ้อนจะไม่ยอมกลับมา..."

เจ้าชายน้อย อย่าใจดีนักเลย อย่าทำหน้าแบบนี้ อย่าทำเสียงแบบนี้ อย่า อย่า อย่า อย่าร้องไห้

อย่ายิ้มทั้งน้ำตา อย่าฝืนยิ้มเวลาที่พูด อย่าทำแบบนี้เลย อย่าทำแบบนี้ มันยิ่งทำให้เจ็บ ยิ่งทำให้รู้ว่าตัวเองเลวร้าย

ทานตะวันปลดมือของอ้อนออก และหันกลับมาส่งยิ้มให้กับคนที่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสู้หน้า

รอยยิ้มที่ที่ต้องใช้ความพยายามในการฝืนที่จะยิ้ม

เพียงแค่นั้น เพียงเท่านั้น

แล้วใครจะทนได้

ไม่อาละวาดไม่โวยวาย ไม่ตะโกนด่าทอ ทั้งที่ควรจเป็นแบบนั้น ถ้าเป็นทานตะวันในเวลาปกติคงทำแบบนั้น

"ทาน...อย่ายิ้มแบบนี้ อย่ายิ้มแบบนี้ อย่าทำอย่างนี้"

อ้อนได้แต่โผเข้าหาร่างที่ยืนนิ่ง และกอดรัดร่างที่สั่นเทาเอาไว้แนบแน่น

ร่างกายสูงใหญ่ทรุดลงนั่งบนพื้นอย่างช้า ๆ และนิ่งร้องไห้เงียบ ๆ โดยมีคนตัวเล็กกว่ากอดรัดเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

"เรารักทาน...รักมาก ๆ เรารักทานนะ...รัก...เรารักทาน"

อ้อนยังคงพร่ำพูด อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และไม่ยอมหยุดพัก

ไม่ได้ขอความเห็นใจ ไม่ได้ต้องการอะไรที่มากกว่านี้ ขอแค่เพียงคำตอบคำเดียว

ขอแค่คำเดียวเท่านั้นที่จะตัดสินทุกอย่าง

ไม่ได้หวังคำว่าให้อภัย ไม่ได้หวังให้หายโกรธ ไม่ได้ขอให้ยกโทษให้ หวังเพียงแค่คำ ๆ เดียว คำพูดแค่คำ ๆ เดียวจากปากของคน ๆ นี้ ขอเพียงคำยืนยันอีกสักครั้ง ขอเพียงคำเดียวเท่านั้น

"งั้นก็รู้ไว้เถอะ..ถึงตอนนี้จะทั้งโกรธทั้งช็อคและเสียใจมากแค่ไหน....ตอนนี้ทานก็ยังรักหนูน้อยแก้มแดงเหมือนเดิม"

TBC


 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 07-06-2007 16:15:09
อ้างถึง
"งั้นก็รู้ไว้เถอะ..ถึงตอนนี้จะทั้งโกรธทั้งช็อคและเสียใจมากแค่ไหน....ตอนนี้ทานก็ยังรักหนูน้อยแก้มแดงเหมือนเดิม"

โดนอย่างแรง
















เมนท์ 1 ของผมคร้าบบบบบบบบบบบบบ

 :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: AcOustic_Guitar ที่ 07-06-2007 16:20:41
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาซึม สงสารทั้งอ้อนทั้งทาน  :dont2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 07-06-2007 16:33:13
 :serius2: ไม่น๊าาาาาาาา


......................................

"อ้อน...ทานรักอ้อนว่ะ...มันก็เลยเจ็บ...ถ้าไม่รักคงไม่ต้องเจ็บหรอกเนอะ"


 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ปล. เนื่องจากฉากทำร้ายจิตใจ เศร้าสะเทือนอารมณ์อย่างแรง ให้พี่เรย์ 1+  :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 07-06-2007 16:45:39
เมนท์ 4 จ้าาาาาา

ตอนนี้เศร้ามากมาย  o7
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 07-06-2007 16:49:28
เศร้ามากเลยตอนนี้  :dont2:

สงสารทานที่สุดเลยอ่ะ   o7

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-06-2007 18:46:33
ม่ายจริงงงงงงงงงง  o9   o9   o9 เศร้ามากมาย  :sad4:  :sad4:
ไม่รักก็ไม่เจ็บ เนอะทานเนอะ   :sad2:
เม้นต์ที่ 6  :o12:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 07-06-2007 19:20:53
 :sad3: :sad3:  สงสัยต้องให้เวลากับทานแล้วก็อ้อนในการปรับตัวอีกนิดละมั้งครับ  ความรักวัยรุ่นนี่มันรุนแรงเจงๆเลย :haun5: :haun5:

รี7แย้วววววว o17 o17
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 07-06-2007 19:25:41
แล้วนางผู้หญิงคนนั้นละ เรื่องจะเป็นยังไงต่อไปเอามาลงต่อไวๆนะ  :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 07-06-2007 19:48:48
 :o7: :o7: :o7: :o7: :o7:

9th Comment
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 07-06-2007 19:57:47
  o1

ในที่สุดก็อ่านถึงตอนปัจจุบันจนได้

แอบมีหลายตอนที่น้ำตาวึมเลยคับ

ชอบมากๆๆ ขอบคุณที่เอามาให้อ่านนะคับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 07-06-2007 20:02:21
อ๊ากเม้นต์ 10 พอดี  :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 07-06-2007 20:11:14
อ่านตอนนี้แล้วแอบน้ำตาซึมเลย  o7
สงสารอ่ะ  แต่ก็ดูเหมือนจะทำให้เข้าใจจิตใจกันมากขึ้นนะ

นี่มัน...  เม้นต์ที่ 12 แล้วเรย์  ต่อๆ  o11
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 07-06-2007 21:49:02
 :monkeysad2: :monkeysad2: :monkeycry4: :monkeycry4:

คำว่ารัก มาไม่ถูกเวลา  แต่ก็ยังดีที่ได้ยินน่า   :sad4:
เม้นต์ที่ 13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 07-06-2007 21:59:28
การทะเลาะครั้งนี้หวังว่าจะทำให้ทานกับอ้อนรักกันแล้วเข้าใจกันมากกกกกกกกกขึ้นนะคร้าบ

เม้นท์ที่ 14 แล้นนนนนนนนนนนนนนนนน คร้าบบบบบบบบบบบบ  o17
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 07-06-2007 22:07:53
ปัญหาเยอะจังเลย   :serius2:


ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 07-06-2007 22:51:01
:monkeysad2: :monkeysad2: :monkeycry4: :monkeycry4:

คำว่ารัก มาไม่ถูกเวลา     :sad4:

ต้องมีคนเจ็บปวดกับมันอีกกี่คน
***************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน สภาวะฉุกเฉิน

ทานตะวันคนดี ขอโทษนะครับขอโทษ เจ้าชายน้อยครับ ผมขอโทษที่ทำให้เสียใจ

อ้อนใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมที่หล่นลงปรกที่หน้าผากของเจ้าชายน้อย ที่นอนหลับอยู่เคียงข้าง
ทานตะวันตัวโตใช้แขนของอ้อนแทนหมอนหนุน และหลับตาลงอย่างง่ายดาย มีหลายครั้งที่สะดุ้งตื่น แต่เพราะฝ่ามือที่ลูบไล้ที่เส้นผมและเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู
ทำให้คลายความกังวลลงจนสามารถปิดเปลือกตาลงได้อีกครั้ง

"ชู่วววววว ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร นอนซะทานหลับตาซะ อยู่ตรงนี้แหละไม่ได้ไปไหนจริง ๆ เราอยู่ตรงนี้นะ"

ถ้อยคำปลอบใจยังคงเอ่ยซ้ำ ๆ ทุกครั้งที่คนตัวโตเริ่มรู้สึกตัว และเพราะคำพูดนั้นจึงทำให้ทานตะวันยอมหลับตาลงได้ง่าย ๆ
ทานตะวันอาศัยความเหนื่อยและความอ่อนเพลีย เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้หลับลงได้ในคืนนี้ และอาศัยอ้อมแขนอุ่น ๆ ของคนที่นอนอยู่เคียงข้างเป็นที่พักพิง
ทั้งที่เพิ่งถูกทำร้ายจิตใจให้ต้องเจ็บปวดทรมาน แต่ก็ไม่ยอมผละจากไปไหน ไม่อาละวาดไม่โวยวาย ไม่ทำเหมือนอย่างที่เคย
อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยจนแทบไม่มีแรง หรือสภาพจิตใจย่ำแย่จนออกฤทธิ์ไม่ได้ แต่สิ่งที่ทานตะวันไม่ยอมทำ คือไม่ยอมทำร้ายคนที่รัก
ไม่ยอมทำร้ายอ้อนคนที่ตัวเองรัก และจะไม่มีวันทำให้คนรักต้องเจ็บปวด เหมือนอย่างที่พ่อกับแม่ทำให้ทานตะวันต้องเสียใจ

เพียงสิ่งเดียวที่ไม่มีใครเคยรู้

สิ่งที่ทานตะวันจะไม่ทำไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

ไม่ว่าจะต้องเจ็บปวดทรมานจนแทบขาดใจ แต่จะไม่มีวันทำให้คนที่ตัวเองรักต้องเสียใจ

"ทาน...."

อ้อนแตะปลายจมูกลงที่หน้าผากของคนที่หลับสนิท และโอบกอดร่างที่หลับใหลเอาไว้แน่น

รู้ว่าตัวเองทำเรื่องแย่ ๆ กับคน ๆ นี้เอาไว้
รู้ว่าตัวเองเลวร้ายแค่ไหน รู้ทุกอย่างแต่ก็ยังทำ
ทั้งที่รู้อย่างนั้น ก็ยังทำได้ลงคอ

อ้อนแตะมือลงที่ต้นแขนของทานตะวันอย่างช้า ๆ และลูบไล้ด้วยสัมผัสแผ่วเบาให้ร่างที่นอนนิ่งเงียบได้คลายกังวลลงบ้างแม้จะอยู่ในความฝัน

ขอโทษที่ทำให้เป็นทุกข์ ขอโทษที่ทำเรื่องแบบนี้ลงไป
เรา..........รักทานนะ...........ตอนนี้เรารัก...........แต่ทำไมเราถึงได้แบ่งพื้นที่เผื่อความรู้สึกบางอย่างไว้ให้คนอีกคน

ถ้านี่คือการหักหลัง เรากำลังทำสิ่งนั้นอยู่ ก็แล้วใครจะรู้ว่าตอนนี้เราจะหลงรักเจ้าชายน้อยคนนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น ใครจะรู้ว่าเราจะรักคนที่ตัวเองเอาแต่บอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าเกลียด
ทำไมทุกอย่างถึงได้กลับตาลปัตรได้ขนาดนี้

ไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

อ้อนยังคงกอดรัดร่างของทานตะวันเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมหลับตาลงแม้สักวินาที เพราะกลัว กลัวว่าถ้าเผลอหลับไป อาจเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น
เรื่องที่ตัวเองไม่คาดฝัน เรื่องที่ทำให้เหตุการณ์เลวร้ายมากขึ้น ตอนนี้ทำได้แค่ปลอบโยนให้จิตใจของทานตะวันคลายความเศร้าลงบ้าง

ทำได้แค่นั้น

ทำให้ได้เพียงแค่เท่านั้น และสำนึกอยู่ตลอดเวลา ว่าตัวเองเลวแสนเลว ที่ทำร้ายคน ๆ นี้ได้อย่างเลือดเย็น

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
........

"คบกันนานแค่ไหน............กี่ปี กี่เดือนที่รู้จักกับผู้หญิงคนนั้น"

คำถามง่าย ๆ ถูกเอ่ยถาม ในขณะที่อ้อนกำลังนอนครุ่นคิดถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นาน
เจ้าชายน้อยรู้สึกตัวตื่นตอนเกือบรุ่งเช้าของอีกวัน

ดวงตาคมยังคงแดงก่ำ และเหมือนจะร้องไห้ได้ทุกเวลา แค่ได้เห็นก็ทำให้ปวดใจ แค่รู้ว่าคนอย่างทานตะวันไม่เคยร้องไห้ให้ใครแต่กลับต้องมาร้องไห้เพราะเรื่องแบบนี้
เพียงแค่ได้รู้ ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำความร้ายกาจของตัวเองให้เพิ่มขึ้นตลอดเวลา

"6 ปี.....แล้วล่ะ"

นานขนาดนั้นเลยเหรอ ก่อนหน้าที่เราจะรู้จักกัน แล้วใครกันแน่ที่มาทีหลัง มันน่าอนาถใจที่รู้ว่าตัวเองคือคนที่มาทีหลัง ทานตะวันได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ และหรุบสายตาลงต่ำ
ก่อนจะค่อย ๆ เอนกายเข้าหาคนตัวเล็กกว่า และยกเรียวแขนรัดร่างของคนที่นอนเคียงข้างเอาไว้แนบอก

ใจมันสั่น หวั่นไหวกับคำตอบ แต่กลับทำอะไรไม่ได้ เมื่อรู้สถานะของตัวเอง

"แล้วทำไมก่อนหน้านี้....ทานไม่รู้เรื่อง"

ถามไปแล้วและค่อย ๆ กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ตั้งใจฟังคำตอบ ทั้งที่รู้ว่าคำตอบที่ได้รับคงยิ่งเป็นการทำร้ายจิตใจของตัวเองมากขึ้น

"เลิกกันไปตั้งแต่....ตอนที่รู้ว่าเราวิ่งไม่ได้อีก...พ่อแม่เขาขอให้เลิก...เราเป็นคนไม่มีอนาคต...เขาขอให้ปล่อยลูกสาวเขาไปเจอคนที่ดีกว่านี้
แล้วช่วงนั้นไหมก็ต้องไปเรียนต่อเมืองนอก...ไหมไม่รู้ว่าเราจะเลิกก็เลยห่างกันไป...ย้ายบ้านใหม่ด้วยเลยไม่คิดว่าจะกลับมาเจอกันอีก
ไหมเป็นคนรักคนแรก....รักมาก...อยู่ในใจตลอด...ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึง......จนเมื่อช่วงต้นปี...ค้นเจอสมุดบันทึกของไหมที่เขาส่งมาให้
ช่วงนั้นก็....เราก็เพิ่งรู้จักกับทานไม่นาน....แล้วไหมเขาก็เพิ่งกลับมาเราก็เลยส่งของขวัญส่งดอกไม้ไปให้....เรา....ยังคิดถึงไหมอยู่...
ไม่นึกว่าไหมเขาจะรอ....เราทำให้ไหมเสียใจ...แล้วก็ทำให้ทานเสียใจ.....เลวเนอะ....เกลียดเราแล้วใช่มั้ย...ขอโทษที่ทำให้เกลียด"

คำสารภาพจากใจ เรื่องที่ทานตะวันไม่เคยคิดว่าจะได้ฟัง เรื่องราวหลายอย่างที่อ้อนไม่เคยเล่าให้ฟัง วันนี้ทานตะวันได้รับรู้
หนึ่งในนั้นคือเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อไหม ผู้หญิงคนนั้น.......ผู้หญิงที่ยืนร้องไห้ในวันนั้น

"อ้อน....พอแค่นี้แหละ....ไม่ใช่ความผิดของอ้อน..ไม่รู้...เราไม่รู้แต่มันไม่ใช่ความผิด...."

ทั้งที่พูดอย่างนั้น ทั้งที่พยายามจะพูด แต่ทานตะวันก็ทำได้แค่เป็นเด็กชายตัวน้อยขี้แย ทั้งที่พยายามจะไม่ร้องไห้แต่ก็ทำไม่ได้อาจะเป็น เพราะกำลังรู้สึกว่าถูกแย่งของรักของตัวเองไป
และไม่อยากจะแบ่งความรักให้ใครอีกคน ความรู้สึกหวงความรักจึงประเดประดังเข้ามาและถาโถมเข้าใส่จิตใจที่เปราะบางอย่างรุนแรงจนทำให้แทบไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรได้

"ไม่เอาแล้ว....ไหนบอกว่าถ้าเราเล่าให้ฟังจะไม่ทำหน้าแบบนี้ไงล่ะ....เราหักหลังทานอยู่...ร้ายกาจขนาดนี้...ยอมทนเฉยอยู่ได้ยังไง ทำไมไม่อาละวาดอย่างที่เคยทำ
แบบนี้ไม่ใช่ทานตะวันคนที่เราเคยรู้จักเลย อย่างน้อยก็...ด่าเราสักนิดก็ได้นะ....จริง ๆ ทานด่าเราให้หายโมโหบ้างก็ยังดี"

อ้อนเอ่ยบอกพร้อมกับซุกซบใบหน้าลงแนบอกของทานตะวัน ฝ่ามืออุ่น ๆ ของใครคนนั้นยังคงลูบไล้แผ่วเบาที่เส้นผม ไม่มีวี่แววของความโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย
ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างทานตะวันจะใจเย็นได้มากขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนมีความอดทนให้กันได้มากเท่านี้

อยากจะร้องไห้ แต่ร้องไม่ออก

ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป ได้แต่ครุ่นคิดว่าเป็นความผิดของตัวเองเพียงคนเดียว คิดวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา จนหัวแทบระเบิด

"ช่างมันเถอะ......เรารักอ้อน....ผู้หญิงคนนั้นก็รักอ้อน....เขาก็รักอ้อนมากเหมือนกันใช่มั้ย....ถ้า...วันไหนที่จะไปหาผู้หญิงคนนั้น...บอกเรานะ
เราจะให้ไป....เราให้ไป...ได้..."

ใครจะบ้าพูดแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว ใครจะยอมให้คนรักของตัวเองไปมีใครอีกคนเพียงเพราะอยากให้คนที่ตัวเองรักสบายใจ

"ถ้าอยากไปหาตอนไหน อยากเจอตอนไหน...บอกเรา..ระ...ระ...อึก...ฮือ"

ทานตะวันเงยหน้าขึ้นและสะกดกลั้นน้ำตาของตัวเองเอาไว้ ไม่มีแรงจะพูดคำพูดใด ๆ ออกมาอีก ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาหลั่งรินรดที่ข้างแก้ม

"ถ้าอยากจะไปตอนนี้....เราก็จะ.......ให้ไป"

เพียงแค่ได้ยิน เพียงแค่ได้รับรู้ความรู้สึกทั้งหมด ยอมปล่อยไปง่าย ๆ แบบนี้เลยใช่มั้ย ไม่คิดจะรั้งไม่คิดจะห้ามเลยใช่มั้ย
ทั้งที่ทำเลวด้วยขนาดนี้แล้วยังฝืนทนอยู่ได้ ทำแบบนี้ทำไม ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน ยอมเจ็บอยู่คนเดียวได้ยังไง ทนได้ยังไง

อ้อนค่อย ๆ หยัดกายขึ้นนั่งและหันกลับไปจ้องมองใบหน้าของคนที่หลับตานิ่งเงียบ

ไอ้บ้าทาน...ไอ้...ไอ้ โธ่โว้ยยยยยยยยยย ทำไมมันถึงได้บ้าขนาดนี้วะ

ไอ้บ้าทาน ไอ้ ไอ้ โธ่โว้ยยยยยยยยย

ฝ่ามือตะกุยเข้าที่ไหล่ของทานตะวันอย่างรุนแรง และคนที่เอะอะโวยวายกลับกลายเป็นอ้อนที่อาละวาดไม่ยอมหยุด

"ไอ้ทานบ้า ไอ้บ้า ไอ้ทาน....ทำไมทำแบบนี้ ทำไมถึงทำแบบนี้ ทำไมไม่ด่าไม่โกรธ ไม่เกลียดกันไปเลย ทำไมต้องทำดีกับเราด้วย ทำไมวะ ทำไม"

ยิ่งออกแรงมากขึ้น

ยิ่งโมโห แต่กลับไม่มีอะไรดีขึ้นได้

ทานตะวันยังคงนอนนิ่งเงียบ ไม่ตอบโต้ ไม่โมโห ไม่โวยวาย สุดท้ายคนที่ต้องยอมล่าถอยกลายเป็นอ้อนซะเอง

"ทำไมไม่เกลียดเรา ทำไมไม่โกรธเรา...ทำไมยังยอมรักคนเลวอย่างเราได้อีก ทาน ฮือ ฮือ ทาน ทำไมทำแบบนี้...จะทำเพื่อคนเลวอย่างเราไปทำไม"

อ้อนร้องไห้โวยวายเสียงดังเหมือนคนบ้า และทรุดกายลงนอนกอดรัดร่างของทานตะวันเอาไว้แน่น
ซบหน้าลงร้องไห้เงียบ ๆ กับแผ่นอกกว้างอบอุ่นที่ยังโอบกอดอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยผลักไส

จะทำให้เลวไปถึงไหนกัน จะทำเพื่อคนเลว ๆ คนนี้ทำไม ทั้งที่ตัวเองต้องเสียใจขนาดนี้ยังจะทำไปเพื่ออะไร

"ไม่รู้....ทานเกลียดอ้อนไม่ได้อีกแล้ว...จะให้บังคับแค่ไหนก็ทำไม่ได้...ให้ตายเราก็เกลียดอ้อนไม่ลง....อย่าร้องไห้เลยหนูน้อยแก้มแดง...อย่าร้องไห้
ร้องแบบนี้ใจไม่ดีเลย บอกแล้วไงว่าปลอบใจใครไม่เป็น....คนโง่อย่างเรา...ปลอบใจใครไม่เป็นจริง ๆ "

TBC...


 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Felm ที่ 07-06-2007 23:05:54
 :sad4:
 :sad4:
 :dont2:
 :o7:
 o7
 :o12:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 07-06-2007 23:54:25
โถทานของผม  :dont2: :dont2:

ยังไงก็ขอให้ตอนจบของเรื่องนี้ทั้งทานและออ้นได้อยู่ด้วยกันอยากมีความสุขนะคับขอร้องคนเขียน :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: a22a ที่ 08-06-2007 00:32:46
เฮ้ย.....สุดท้ายก็เอ่ยปากบอกรักกันเสียทีลุ้นแทบตาย แต่ก็เศร้าเนาะสงสารทานจัง(คนขาอความอบอุ่นเศร้า)
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: AcOustic_Guitar ที่ 08-06-2007 04:21:10
 สงสารทั้งคู่เลย ทานอย่าปล่อยให้อ้อนไปนะ :sad2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-06-2007 04:34:14
 :o11:  :o11:  :o11:
*
*
*
*
เมนท์ 5 จ้า  o19 แล้วก็หลับรอเรย์
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 08-06-2007 08:16:12
เอาใจช่วยทั้งคู่ น้า     :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 08-06-2007 08:21:35
ยิ่งอ่านก็ยิ่งรักทาน

ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกดีกว่าทาน

" ไม่ว่ายังไงก็จะไม่มีวันทำร้ายคนที่ตัวเองรัก "

รู้สึกดีจังที่มีคนที่คิดแบบนี้อยู่  :monkeysad2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 08-06-2007 08:45:52
>>>ทานตะวันคนดี ขอโทษนะครับขอโทษ เจ้าชายน้อยครับ ผมขอโทษที่ทำให้เสียใจ <<<  :impress:
ประโยคนี้  เหมือนจะเศร้า  แต่เหมือนจะอุ่น ๆ ....สับสนแฮะ เอาไงดี  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 08-06-2007 09:10:56
เศร้าครับแล้วอย่างนี้ อ้อนกับทานตะวันจะเข้าใจกันมั้ยอ่ะคับ

แล้วอ้อนจะตัดใจจากไหมได้มั้ย อยากรู้แล้ววววววววววววววววว คับ :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 08-06-2007 09:15:12
โอ้ย ...

อ่านแล้ว ทำไมมันปวดใจจัง

เศร้าจัง  :o12:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Felm ที่ 08-06-2007 09:16:13
มายัง น๊า....



เมนต์ 11 แย้ววว
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 08-06-2007 11:13:46
เมื่อมีการพบเจอ ก็ต้องมีการพรากจาก
 o7
****************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน รอคำตอบ

สองสามวันมานี้ ไม่ใช่สองสามวันหรอก หลายวันมานี้ต่างหากล่ะ
ตอนนี้คนข้าง ๆ อยู่ในสภาพนี้ สภาพนี้ไง นี่ไง นี่ นี่ นี่

อ้อนหันไปมองคนตัวโตที่ทั้งพัวพัน ทั้งกอดรัดฟัดเหวี่ยงไม่ยอมปล่อย แถมเดินตามต้อย ๆ แทบไม่ยอมให้คลาดสายตา
จะใครซะอีก ถ้าไม่ใช่......ทานตะวัน.....

คนบ้า ๆ คนนี้ ทำหน้าเศร้ามาหลายวัน บางวันก็แอบเห็นน้ำตาซึม ถามว่าเป็นอะไร ก็ได้คำตอบเดิม ๆ ว่า "เปล่า"

รู้ทั้งรู้ว่าเป็นอะไรแต่ก็ยังอุตส่าห์ถามไป ถามเพราะอยากมีเรื่องคุยกันบ้าง ทานตะวันไม่ช่างพูดช่างคุย ไม่เล่น ไม่เอะอะโวยวายไม่แกล้ง และไม่หาเรื่อง
แต่ชอบแอบหลบไปนั่งเงียบ ๆ คนเดียว บางครั้ง เดินเข้าไปหาก็ลุกขึ้นเดินหนี เป็นแบบนี้หลายวัน

จนแม้แต่ตัวอ้อนเองก็ยังเศร้าไปด้วย ไม่กล้าเข้าหน้า เพราะบางครั้งเมื่อต้องพบกับสายตาที่เจ็บปวดของทานตะวันเวลาที่อีกฝ่ายมองมา ยิ่งตอกย้ำความชั่วร้ายของตัวเองให้มากขึ้น

แต่แล้วเมื่อผ่านไปหลายวัน จากไม่ยอมให้เข้าใกล้ มาคราวนี้ คนที่กอดเอวไม่ยอมปล่อยก็กลับกลายเป็นอีกคน
จากที่เอาแต่หลบหน้าและคอยวิ่งหนี วันนี้กลับแปลกกว่าทุกวัน

เพราะตั้งแต่เช้าที่ตื่นมาพร้อมกัน ทานตะวันก็เอาแต่ร้องเรียกไม่ยอมให้ห่างตัว ไม่เข้าใจว่าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาอีก แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ก็ยังคงกอดแน่น ทำหน้าเศร้า ไม่ยอมให้เดินไปไหนได้เลย

"อ้อน...หนาว"

แล้วไง กอดขนาดนี้ ยังหนาวอีกเหรอ

"อือ...หนาว.."

อ้อนตอบไปแค่นั้นแล้วคนตัวโตก็ตามเกาะแจ ไม่ว่าจะเดินไปไหน ก็เอาแต่เดินตาม กลัวจะคลาดสายตาไปไหนหรือไง ไม่ได้ไปไหนซะหน่อยแล้วทำไมตามติดขนาดนี้

"เมื่อคืน...โดนแย่งผ้าห่มด้วย..งอน"

ทานตะวันบ่นเสียงเบาแล้วก็ทำหน้างอเหมือนเด็ก ๆ ส่วนคนฟังได้แต่แอบลอบยิ้มน้อย ๆ อย่างนึกขำอยู่ในใจ

ก็แล้วใครใช้ให้นอนดิ้นขนาดนั้น เห็นนอนไม่หลับกระสับกระส่ายมาหลายคืน แล้วทำไมคืนก่อนถึงได้นอนกลิ้งไปกลิ้งมา
สงสัยอดนอนหลายคืน เลยหมดสภาพ แล้วรู้ได้ไงว่าแย่งผ้าห่ม ยังไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย แถมซ้ำยังลุกขึ้นมาห่มผ้าให้เมื่อกลางดึกอีก แล้วใครกันแน่ที่โดนแย่งผ้าห่ม
ตื่นมาอีกที ก็เห็นผ้าห่มไปกองอยู่ปลายเตียง เตะลงไปเอง แล้วจะให้โทษใคร

"แล้วเป็นไง...โดนแย่งผ้าห่มแล้วทำไงล่ะ"

ก็แค่คำถามเรื่อยเปื่อย ในขณะที่พยายามจะเดินไปเสียบปลั๊กกาต้มน้ำในครัว โดยมีทานตะวันเกาะติดตามมาด้วย

"ก็ไม่แล้วไง...ก็หนาวสิไม่มีผ้าห่มก็หนาว"

ใช่ ไม่มีผ้าห่มก็หนาว แล้วนี่เป็นอะไรถึงได้มาคุยเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ได้ ทั้งที่หลายวันมานี้แทบไม่รู้จะคุยอะไรกันด้วยซ้ำ
บรรยากาศอึมครึมมาตลอด แต่แล้วพอถึงวันนี้ ทำไมบรรยากาศถึงได้เปลี่ยนไป ใช่ เปลี่ยนไป แล้วก็เปลี่ยนไปในทางที่นับว่าดีขึ้นมากด้วย

"เอ้า...ก็รู้นี่ไม่มีผ้าห่มก็หนาว..."

อ้อนตอบออกไปในขณะที่พยายามเอื้อมหยิบแก้วกาแฟที่อยู่บนตู้ เอื้อมไม่ถึง แต่ก็มีทานตะวันเอื้อมแขนไปหยิบมาให้และวางเอาไว้ให้ตรงหน้า

"ไม่มีผ้าห่มก็หนาว...แล้วถ้าไม่มีทาน...อ้อนจะเหงามั้ย"

บทสนทนาที่ราบรื่นมาตลอดยามเช้ามีอันต้องสะดุดลง อ้อมแขนที่โอบรัดที่รอบเอวคลายออกแล้ว พร้อมกับที่คนตัวโตยืนก้มหน้าทำหน้าเศร้าอยู่ข้าง ๆ

ไม่มีทาน...อ้อนจะเหงามั้ย...จะเอาคำตอบว่าอะไร ให้ตอบว่า "เหงา" หรือตอบว่า "เฉย ๆ"

"แล้วไม่มีคนใช้สักคน...จะเป็นอะไรมั้ยล่ะ"

คำถามของอ้อนทำให้ทานตะวันยิ่งก้มหน้า และยืนนิ่งเงียบก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง

"สำหรับอ้อน ตอนนี้ทานเป็นแค่เจ้าหนี้กับเจ้านายแค่นั้นเองเหรอ...แค่นั้นเองใช่มั้ยล่ะ"


ทานตะวันพูดเพียงเท่านั้นแล้วก็ก้าวเท้าเดินหนีผละจากไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีกเลย ทิ้งให้อ้อนยืนนิ่งเงียบอยู่ในครัวเพียงลำพัง

...ไม่ใช่หรอก ทานไม่ได้เป็นแค่นั้น แต่ตอนนี้ทานเป็นมากกว่านั้น แต่จะให้บอกว่าเป็นอะไร
ในเมื่อ...เวลานี้ ยังไม่รู้จะตอบตัวเองยังไง กับความรู้สึกที่แบ่งให้คนสองคนในเวลาเดียวกัน

เห็นหน้าไหมครั้งแรกหลังจากไม่ได้เจอกันมานาน สิ่งแรกที่รู้สึกคือตกใจ แต่หลังจากนั้น เมื่อได้พูดคุยกันอีกครั้ง ความรู้สึกที่พยายามจะลืมไปให้หมดก็กลับหวลคืนมาอีกครั้ง

มันเปรียบเทียบกันไม่ได้ กับความรู้สึกที่มีให้ทานตะวัน

 
......................................

"เอามีดมาหั่นแบ่งครึ่งไปเลยดีมั้ย จะได้ไม่ต้องเป็นแบบนี้...เดี๋ยวแม่งก็หนีไปให้มันรู้แล้วรู้รอดเลย"

แค่คิด แล้วก็ยิ้มอย่างเศร้า ๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตกันวะเนี่ย เกิดจะมีรักซ้อนซ่อนรักกันตอนนี้อีก
เป็นปีเป็นชาติไม่ยอมมี อยู่ดีมีสุขมาได้ตั้งนาน แล้วทำไมถึงได้มีพายุเข้ากันตอนนี้

"กาแฟใส่น้ำตาลกี่ก้อน ทาน ทาน ทานโว้ยยยยยย"

เรียกก็แล้ว ตะโกนก็แล้ว แต่ไอ้คนหน้าหงิกหน้างอนั่นก็ไม่ยอมตอบ จนอ้อนต้องเดินมาหาที่ข้างสระน้ำ

"น้ำตาลกี่ก้อนครับคุณชายทานตะวัน"

อ้อนนั่งลงข้าง ๆ คนที่นั่งเงียบอยู่ข้างสระ แล้วก็ก้มหน้าลงไปถาม

"น้ำตาลกี่ก้อน...สองมั้ย..หรือสาม..จะได้หวาน ๆ "

ถามแล้ว พูดแล้ว แต่ก็ยังได้คำตอบเป็นความเงียบเหมือนเดิม อ้อนก็เลยได้แต่ส่ายหน้า แล้วก็ถอนใจด้วยความกลุ้ม

"อ้อน...ไปทะเลกันเถอะ.."

อะไรนะ...ไปทะเล...บ้า..อยู่ดี ๆ เล่นพูดออกมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย บ้าแล้ว ตอนนี้เนี่ยนะ หน้าหนาวไปทะเลเนี่ยนะ บ้า

"เฮ้ย..ไปได้ไง"

งง แล้วก็ อึ้ง แล้วก็อยากจะหัวเราะ แต่ทานตะวันทำหน้าจริงจังแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นการล้อเล่น แถมยังลุกขึ้นคว้าข้อมือของอ้อนให้เดินตาม

"ไปทะเลกัน ไปตอนนี้เลย แล้วจะบอกว่าจะเอาน้ำตาลกี่ก้อน ไปกันเลย ตอนนี้แหละ ดีที่สุด"

ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไง ของไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าไม่ต้องเปลี่ยน ได้แต่ทำหน้าเหรอหราด้วยความมึนงง สุดท้ายก็ขึ้นมาอยู่บนรถด้วยกันจนได้

อ้อนหันไปมองหน้าของทานตะวันอีกครั้ง พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาเต็มหัว

...อารมณ์ไหนอีกล่ะเจ้าชายน้อย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวทำเหมือนจะร้องไห้ เดี๋ยวก็ชวนไปเที่ยวกันดื้อ ๆ...

"นี่...แล้วตกลงจะเอาน้ำตาลกี่ก้อน"

อ้อนแกล้งถามไปเล่น ๆ แต่คำตอบที่ได้กลับมา กลับทำให้ต้องหันไปมองหน้าทานตะวันนิ่งๆ อีกครั้ง

"น้ำตาลอะไรไม่เอาทั้งนั้น ไม่เอาอะไรแล้ว...อยากจะใส่น้ำตาลกี่ก้อนก็ใส่ไป..อยากจะทำอะไรก็ทำไปแต่อยู่กับทานนะ..อยากจะทำอะไรกับชีวิตทานก็ได้
แต่อย่าทิ้งทานไปเหมือนที่คนอืน ๆ ทิ้ง...ห้ามทิ้งไปเหมือนคนอื่น ๆ เข้าใจมั้ย..อยากจะมีใครอีกกี่คนก็ได้..แต่ต้องกลับมานะ...ต้องกลับมาหาทานตลอดไป"

บ้า...พูดแบบนี้ได้ยังไง

จะร้องไห้อยู่แล้วนะโว้ย พูดบ้าอะไรวะ พูดอะไรไม่คิดถึงใจคนฟังเลยเหรอ นึกว่าคนฟังไม่มีหัวใจหรือไง พูดออกมาคิดบ้างหรือเปล่า ว่าคนฟังก็เจ็บปวดเหมือนกัน

ไอ้ทาน ไอ้บ้า

"ดี..งั้นจะไป..จะไปให้ดู..คอยดูเถอะ..ไปแน่..ขืนพูดอย่างนี้อีกครั้งเดียวไปแน่ ๆ"

กรีดลึกไปถึงหัวใจ ทานตะวันได้แต่ฟังคำพูดของอ้อน รู้สึกว่าตัวเองอยากจะตะโกนออกมาให้ดังที่สุด แต่ก็ทำได้แค่ขบริมฝีปากแน่น แล้วก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไป

"ไปแน่ ๆ นะ...ขืนพูดแบบนี้อีกครั้งเดียว..คอยดูให้ดี..จะไปไม่กลับมาอีกเลยด้วย"

จะตอกย้ำให้ยิ่งเจ็บช้ำกันไปถึงไหน

ถึงแม้อ้อนจะพูดอย่างนั้น แต่การกระทำกลับไม่เป็นไปตามคำพูด

ศรีษะเอนซบลงที่ลาดไหล่ของคนที่พยายามจะหันเหความสนใจไปกับการมองถนน

มือที่เอื้อมหยิบเม็ดบ๊วยในกระปุกมาส่งให้ที่ริมฝีปากยิ่งทำให้ทานตะวันสับสนกับการกระทำของอ้อนมากขึ้น

"เจ้าชายน้อย...คิดว่าเราหลายใจขนาดนั้นเลยเหรอ...ห๊า..คิดว่าหลายใจขนาดนั้นเลยหรือไง"

ได้ยินนะ ได้ยินเหมือนเสียงตะคอกแต่ไม่ดังนัก

อะไรล่ะ ที่ว่าไม่หลายใจ...นี่จะทำให้ดีใจหรือเปล่า...หรือจะให้เข้าใจว่ายังไง

"ไม่หลายใจแล้วรักทานคนเดียวหรือไง..."

ถามออกไปเหมือนคนโง่ แล้วคำตอบที่ได้กลับมาคือ บ๊วยอีกเม็ดที่อ้อนจงใจจะยัดเยียดใส่ปากให้ เพราะอยากจะให้หยุดพูด

สัญญาณแบบนี้...เอ๊ะ...เข้าข้างตัวเองหรือเปล่า

หรือว่า...หรือ...อ้อนจะเอายังไง

"อ๋ายอามว่าไงเนี่ย อึก ไอ้เอาแล้ว ไม่ต้องป้อนแล้ว"

ทานตะวันดึงกระดาษทิชชู่ออกมาจากกล่องแล้วคายเม็ดบ๊วยทิ้ง พยายามจะจับอาการของคนพูด แต่กลับไม่ได้รับอะไรกลับมา

ไอ้ท่าทางออดอ้อนแบบที่ไม่เคยทำของอ้อนนี่มันหมายความว่าไงอ่ะ

เฮ้ย แล้วตกลงจะให้ทำยังไง

สรุปว่า...หนูน้อยแก้มแดงจะเอายังไงกับชีวิตของกระผมครับเนี่ย ทานตะวันก็งงเป็นนะครับ ตกลงจะเอายังไงเนี่ย

TBC....
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 08-06-2007 11:27:33
ทำใมออ้นถึงไม่เลือกใครซะทีละ  :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 08-06-2007 12:48:36
 o12 o12  วันนี้เข้าข้างทานเต็มๆครับ  ทำไมอ้อนถึงได้ไม่รู้จักก้าวเดินไปข้างหน้า  มัวแต่พะวงอยู่กับอดีตที่ทำให้ทานกะไหมเจ็บไม่เลิกทั้งคู่  o2 o2   แย่มากๆครับ :o7: :o7:

รี2ครับผม
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 08-06-2007 12:51:29
 :confuse: :confuse: :confuse: :confuse: :confuse: :confuse:


ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 08-06-2007 13:23:05
เมื่อไหร่อ้อนจะเข้าใจสักที พ่อแม่ของไหมปฏิเสธตัวเองซะขนาดนั้น เลิกสนใจไปเหอะ

เพราะยังไงเราก็เข้าข้างนายทานนนนนนนนนนนนนนนน อิอิ :laugh:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 08-06-2007 13:27:14
ยังไงก็ได้อ่า แค่ทานไม่เสียใจ ได้ม่ะอ้อน  o12 o12
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 08-06-2007 15:21:56
อ้อน อย่าทำให้ทานต้องเสียใจไปมากกว่านี้เลย  :sad4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: think ที่ 08-06-2007 15:29:24
อ้อนอย่าทำให้สุดที่รักของป๋มต้องเจ็บเลยน๊าาาาาาาาาาาา

รักทานที่สุ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-06-2007 15:41:31
ไปเที่ยวทะเลกันด้วย จามีอาไรเกิดขึ้นบ้างนา  :haun5:



เมนท์ 8 แล้วจ้า
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: AcOustic_Guitar ที่ 08-06-2007 15:43:31
อดีตก็คืออดีตอยากให้อ้อนกะทานรักกันวันนี้ให้มากๆ เห้อ อยากให้สองคนนี่สมหวังกันจิงๆ  :dont2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 08-06-2007 15:59:57
สงสารทานจับใจ

 :o7: :o7: :o7: :o7: :o7:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-06-2007 16:33:18
ฮือ ฮือออออออออออออออออออออ

ทำไมต้องคิกมากทั้งสองคนด้วย

แงแงแงแงแงแงแงงแง

 :o7: :o7: :o7: :o7: :o7: :o7: :o7: :o7:
















เมนท์ที่ 11 แล้วพ่อเรย์

มาให้ว่องเลย

 o12
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 08-06-2007 17:00:25
เข้ามาถามว่าระหว่างเป็นผู้เลือกกับเป็นคนถูกเลือกอันไหนเจ็บปวดกว่ากัน

ทุกคนล้วนอยากได้ในสิ่งที่ตนเองไม่มีหรือเรียกง่ายๆ ว่า "ขาด" กันทั้งนั้น
 :dont2:

ปล. เฮ้อ......เรื่องนี้เขียนได้ดีชะมัดยาก อ่านไปใจเต้นระริกๆ ไป 
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-06-2007 18:48:05
จะทำอะไรก็รีบทำเถอะพ่อคุณ เดี๋ยวทานจะบ้าไปเสียก่อน  :try2:

เม้นต์ 13 แล้วเด้อ  o11  o11
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 08-06-2007 19:45:50
มัวแต่คิดกันไปต่างๆนาๆแทนที่จะหันหน้าพูดคุยกับคนที่รักที่สุด
*********************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ไม่ให้เธอไป

มาทำไมทะเล มาแล้วก็มานอนหลับสนิทไม่ยอมตื่น จะมาทำไม มาทำไมของเขากันเนี่ย ห๊า มาทำไม
อ้อนอยากจะตะโกนถามทานตะวันที่กรอกเบียร์เข้าปากไปสามกระป๋องแล้วก็สลบเหมือดไม่ยอมตื่นอยู่บนเตียงผ้าใบ

แต่ดูท่าว่ากว่าจะอีกฝ่ายจะตื่นคงอีกนาน

มาถึงก็ลากมาหาเตียงผ้าใบริมชายหาด แล้วคนลากมาด้วยก็ซัดแอลกอฮอล์เข้าไปแบบไม่ยั้ง ผลที่ได้ คือ นิ่ง หลับสนิท สลบเหมือด

"ทาน..ทาน..ทานตะวันจ๋า"

แค่คำพูดแกล้งล้อเลียน หาเรื่องสนุก ๆ เพี้ยน ๆ มาพูดเท่านั้น แล้วก็หัวเราะคิกคักชอบใจอยู่คนเดียว
ทะเลหน้าหนาว อากาศแปลก ๆ เย็นและร้อน แต่ในเวลาเที่ยงวันแบบนี้ มันก็รู้สึกดีไปอีกแบบ

อ้อนนอนมองหน้าของทานตะวันแล้วก็หัวเราะเสียงเบา ก่อนจะหันไปมองแผ่นน้ำสีฟ้าครามที่อยู่ตรงหน้า
แล้วก็อมยิ้มเล็กน้อย ครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ปล่อยใจให้ไหลเรื่อยสบาย ๆ ไม่ได้คิดอะไรที่หนักหนาสาหัสอีก

หนึ่งในความคิดต่าง ๆ รวมถึงเรื่องของ

"พี่...ไหมรักพี่เหมือนเดิมค่ะ..แต่ไหมเสียใจที่พี่ไม่ยอมบอกเหตุผลที่จากไป"

เหตุผลเหรอ เหตุผลที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ แต่วันนี้เมื่อเวลาผ่านไป ถึงได้คิดออก

"พี่ยังรักไหมเหมือนเดิม..แล้วพี่ก็ไม่เคยเสียใจที่ไม่บอกเหตุผลที่จากไป"

ไม่เสียใจเพราะ ความรู้สึกและความทรงจำยังอยู่กับตัว เคยรักกันยังไง เคยทำดีให้กันยังไง ทุกอย่างยังเก็บใส่กล่องแห่งความทรงจำเสมอ
ตกใจไม่แน่ใจ ใช่ ที่ในครั้งแรกคิดอยู่อย่างนั้น

แต่เมื่อมาถึงวันนี้แล้ว สิ่งที่คิดได้ก็คือ

เราเคยเป็นคนรักกัน

ผู้หญิงที่รักมาก ๆ ยังพูดคำว่ารอ โดยไม่มีข้อแม้หรือเหตุผล

ส่วนใครอีกคน ที่ไม่เคยยอมใคร ก็ยอมให้จากไปง่าย ๆ ขอเพียงแค่กลับมาที่เดิมอีกครั้งเท่านั้น

แล้วจะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว ใช่มั้ย ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว

....ที่ไหนล่ะ.....

ไอ้คนที่คิดแบบนั้นได้ มันเรียกว่าเห็นแก่ตัว ใจคอโลเล มีสิทธิ์อะไรที่เอาคนอื่นมาเป็นตัวเลือก ตัวเองดีนักหนาหรือไง
ไม่ใช่เลยสักนิด

กับไหม...คำว่าไม่คู่ควร..และคำว่าต้องหนีห่างมากขึ้น มันผุดขึ้นมาในหัว

ส่วนไอ้คนตัวโตคนนี้...มันยิ่งกว่าคำว่าไม่คู่ควร ผู้ชายที่ไหนเขาทำแบบนี้กัน ก็มีแต่...

"เฮ่อ ทำไงดีว๊า...เหนื่อยแล้ว"

แค่คำพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ และการถอนหายใจหนัก ๆ ทำให้ทานตะวันปรือตาขึ้นมอง และกระพริบตาปริบ ๆ หลายครั้ง
ก่อนจะค่อย ๆ เอื้อมมือไปคว้ามือของอ้อนเอามาแนบไว้ที่ข้างแก้ม
และหลับตาลงอีกครั้ง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"ไม่ต้องทำไงหรอก ก็ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะนะหนูน้อยแก้มแดง"

อะไรนะ จะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะงั้นเหรอ แล้วจะเป็นยังไงล่ะใครจะรู้เนี่ย ใครมันจะไปรู้ล่ะเว้ย
 
.................................

"ทาน...ถามจริงๆ นะถ้าเราไปหาไหมจริงๆ ทานจะทำยังไง"

ถามไปแล้ว และจริงจังกับคำตอบที่จะได้รับ

แต่ทานตะวันก็ทำเพียงแค่ อมยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากและเอ่ยออกมาเสียงเบา

"ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย ก็แค่ร้องไห้แล้วก็นั่งรออ้อนอยู่หน้าบ้านแค่นั้นเอง"

ไอ้ทานมัน....

เอาอีกแล้ว....พูดแบบนี้อีกแล้ว

"แต่ตอนนี้ยังไม่ไปใช่มั้ยล่ะ งั้นก็อยู่กับทานก่อนสิ ก็ทานไม่รู้นี่ว่าหนูน้อยแก้มแดงจะทิ้งกันไปตอนไหนเลยต้องขอเก็บเกี่ยวความสุข
เอาไว้กับตัวให้มากที่สุด...ก่อนจะต้องนั่งร้องไห้เป็นทุกข์ในภายหลัง..เวลาถูกทิ้ง"

ก็พูดแบบนี้อ่ะ

พูดเข้าไปสิ จะพูดให้ได้อะไรขึ้นมา จะพูดทำไม ไอ้คนบ้านี่

"อยู่กับผมนะครับ..แค่หนึ่งวันก็ยังดี"

ทานตะวันมันอ้อนอีกแล้ว...ใช่มันเป็นคำพูดออดอ้อนอย่างไม่ต้องใช้มารยาของไอ้คนตัวโตนี่ บทจะพูดแบบนี้เล่นเอากระอักได้ง่าย ๆ แล้วไอ้ดวงตาใสแจ๋วที่ปรือตื่นขึ้น
และมองมาอย่างมั่นคงนั่นล่ะ มันอะไร จะให้ตัดสินใจยังไง

"ก็บอกแล้วว่าอยากไปก็ไป..จะตัดสินใจอะไรก็ทำได้เลย...ผมเคารพการตัดสินใจของคุณ"

เออ พูดไปสิ เคารพการตัดสินใจ แต่เล่นแตะปลายจมูกลงที่กลางฝ่ามือ แล้วก็หลับตาลงอีกครั้งอย่างง่ายดายแบบนี้ จะให้ทำยังไง
ฆ่ากันทางอ้อมชัด ๆ

"ครับผม อะไรก็ได้ นั่นก็ได้นี่ก็ได้ แต่ร้องไห้เนี่ยนะ ดี ดีเหลือเกิน เออดีจริง ๆ "

อ้อนทำเสียงฮึดฮัดโมโห แล้วก็หันกลับไปมองน้ำทะเลสีครามที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า ก่อนจะค่อย ๆ หันหน้ากลับมามองใบหน้าของทานตะวันอีกครั้ง

อดไม่ได้ที่จะต้องเผลอยิ้มกับท่าทางออดอ้อนออเซาะของคน ๆ นี้

....ทานมันอ้อน...อ้อนเข้าไป...อ้อนเก่งจริงๆ เลยนะพ่อคุณ....

ให้มันได้อย่างนี้สิน่า

อ้อนได้แต่อมยิ้มกับตัวเองแล้วก็ค่อย ๆ ปรือตาหลับลงบ้าง

อากาศเย็นสบาย จนทำให้เผลอหลับไปอย่างไม่ทันรู้ตัว

ส่วนทานตะวันที่เหมือนกับนิ่งเงียบไปก่อนหน้านี้กลับค่อย ๆ หรี่ตาขึ้นและจ้องมองใบหน้าของอ้อนนิ่งงัน นิ่งมองอยู่อย่างนั้น ทั้งที่นัยน์ตาคมหม่นหมองแต่พยายามจะไม่แสดงให้อีกฝ่ายได้เห็น

ภายในใจที่เต็มไปด้วยบาดแผล...เวลานี้เหมือนกับว่ารอยแผลเก่าถูกสะกิดให้มีเลือดออกอีกครั้ง จนเจ็บร้าวไปทั้งหัวใจ

ท่ามกลางความหมองเศร้ากลับมีความรู้สึกบางอย่างแฝงอยู่ โดยที่อ้อนไม่เคยได้รับรู้

"ใครจะยอมให้อ้อนไปหาผู้หญิงคนนั้นล่ะ ไม่มีทางหรอก ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางให้ไป..ไม่ว่าจะต้องทำยังไง ทานก็ไม่ยอมให้อ้อนไปไหนได้หรอก
รู้เอาไว้ หนูน้อยแก้มแดง...รู้เอาไว้..อ้อนเกิดมาเป็นของทานคนเดียว"

TBC...
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-06-2007 19:49:41
เอาละวุ้ย ทานฮึดสู้ขึ้นมาแล้ว  o7  o7
รี 1  :laugh:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 08-06-2007 19:57:08
สองคนนี้อ่ะ  มีไรก้อชอบคิดไปเองทั้งคู่เลย  ไม่พูดกันตรงๆ  แล้วจารู้เรื่องได้ไงอ่าค๊าบบบบบบบบบ

 :impress: :impress: :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 08-06-2007 19:58:37
 :haun5: :haun5:  ดีมากครับทาน  สู้ๆนะครับ  ทำให้อ้อนเข้าใจหัวใจตัวเองซักที   :laugh3: :laugh3:

รี3ครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 08-06-2007 20:22:38
ดีมากทานเราต้องสู้ สู้ๆ  :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: AcOustic_Guitar ที่ 08-06-2007 21:46:10
ทานอย่าปล่อยให้อ้อนไปนะ  :o12:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 08-06-2007 21:56:40
 :serius2: :serius2: :serius2:

6th comment
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 08-06-2007 22:05:33
 :o

เอ่อ ใจเย็นๆ นะทานนะ  :try2: :try2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Electrolyte ที่ 09-06-2007 00:19:20
 :serius2:ทานเขาเอาใจช่วยนะ....... :dont2:อย่าปล่อยอ้อนไปเด็ดขาดล่ะ...........

รักทานนะคร้าบ :like6:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 09-06-2007 00:49:52
ทำไมรู้สึกเจ็บแปลบที่ใจยังงี้น๊อ . . .  :sad2:

ทานตะวันสู้เค้านะครับ :yeb:

ขอบคุณมากครับ o14
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: luvdisc ที่ 09-06-2007 02:54:06
"น้ำตาลอะไรไม่เอาทั้งนั้น ไม่เอาอะไรแล้ว...อยากจะใส่น้ำตาลกี่ก้อนก็ใส่ไป..อยากจะทำอะไรก็ทำไปแต่อยู่กับทานนะ..อยากจะทำอะไรกับชีวิตทานก็ได้
แต่อย่าทิ้งทานไปเหมือนที่คนอืน ๆ ทิ้ง...ห้ามทิ้งไปเหมือนคนอื่น ๆ เข้าใจมั้ย..อยากจะมีใครอีกกี่คนก็ได้..แต่ต้องกลับมานะ...ต้องกลับมาหาทานตลอดไป"

อ่านถึงตรงนี้ร้องให้เลย เรย์บ้า เอาเรื่องอะไรมาให้อ่านก็ไม่รู้ :sad4:
ทำไงถึงจะเจอคนแบบ ทาน ในชีวิตจริง  อย่าตามมานะ แง ๆ ๆ ๆ  :o12:


หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-06-2007 03:22:05
เมนท์ 11 แล้วจ้า

ให้มันได้อย่างงี้ซิทาน   :laugh:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 09-06-2007 07:37:07

จะวิ่งไปไหนครับเกี๊ยก ระวังไปชนเอาคนที่ตามหาอยู่นะ คิกคิก
**************************************************

เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ห้ามเผยตัวตนที่แท้จริงต่อหน้าคนแปลกหน้า

"อ้อนจ๋า...กินนี่มั้ย นี่ไงกุ้งเดี๋ยวแกะให้นะ ปอกเปลือกให้"

แล้วทานตะวันก็มุ่งมั่นที่จะแกะกุ้งต่อไป ทั้งที่เกิดมาชาตินี้ยังไม่รู้จักวิธีการแกะเปลือกกุ้ง ผ่านไปสิบนาที กุ้งที่ทานตะวันแกะกลายเป็นกุ้งเละ ๆ ที่ไม่ว่าใครก็คงไม่กล้ากิน
อ้อนได้แต่นั่งมอง แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความกลุ้มใจ จะช่วยก็ไม่ให้ช่วย พอทำท่าจะช่วยก็ทำเสียงฮึดฮัด บ่งบอกให้รู้ว่าโมโห ไม่ยอมให้ช่วย
สุดท้าย กุ้ง หอย ปู ปลา จึงอยู่ในสภาพอาหารทะเลสูตรใหม่ คือ อาหารทะเลเละ ๆ ฝีมือทานตะวัน

ไม่เพียงเท่านั้น เพราะทั้งแก้ม ทั้งมือ ทั้งผมของทานตะวัน เปรอะเปื้อนเต็มไปหมด และเมื่อเอื้อมมือจะเอากระดาษทิชชู่ซับให้ เจ้าคนบ้านั่นก็สะบัดหน้าหนี
โถพ่อคุณ ช่างเป็นคนที่น่ารักดีเหลือเกิน น่ารักมากกกกกกกกก จนน่าหมั่นไส้

"โธ่โว้ย ทำไมแกะยากจริงวะ" ทำหน้าบูดบึ้ง แล้วก็ทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ

ครับ เจ้าชายน้อย เจ้าชายทานตะวันคนดี คนดีที่หนึ่งเลย ขอร้องล่ะครับ ช่วยกรุณา หยุดแกะกุ้งหอยปูปลาซะที ก่อนที่จะเละไปมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นคงอดกินแน่ ๆ

"ทาน..ไหนลองอยู่เฉย ๆ แล้วก็นั่งนิ่ง ๆ ซิ เดี๋ยวคนรับใช้จะจัดการพวกนี้เองนะครับ นะครับ ขอร้องล่ะ"

เอ่ยบอกออกไป แล้วก็เป็นคนคว้าจานใส่กุ้งตัวโตมาแกะเอง ส่วนทานตะวัน ตอนนี้กำลังทำหน้ามุ่ย และแน่นอนตอนนี้คง.........งอนไปเรียบร้อยแล้วแบบไม่ต้องสงสัย

นัยน์ตาคมจ้องมองทั้งมือทั้งหน้าของอ้อนแล้วก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดโมโหแต่ก็ทำได้แค่เพียงทำเสียงฮึดฮัด แล้วก็สงบลง เมื่อส้อมที่มีเนื้อกุ้ง ถูกยื่นมาให้ตรงหน้า
ตามมาด้วยรอยยิ้มออดอ้อนอยู่ในที เพื่อขอร้องให้ทานตะวันเลิกงอน

"กุ้ง...อร่อยนะ..ไหนส่งมือมาสิทานรับส้อมไปเร็ว..." แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นทานตะวันก็ยังคงหน้างอหงิกเหมือนเดิม ไม่ยอมรับส้อมแถมยังมองเมินไปทางอื่นอีก

ไม่ได้ดูดีนักหรอก ไม่ว่าใครก็ต้องคิดว่าช่างน่าหมั่นไส้เหลือเกิน แต่ก็นะ เล่นกับเขาหน่อย เจ้าหนี้คนสำคัญขืนทำเป็นไม่สนใจคงได้งอนไปอีกนาน ง้อยากด้วยสิ

"หึ...ทานไม่อยากกินแล้ว"

น่านนนนนนนนนน เป็นไงล่ะ อิทธิฤทธิ์เริ่มออกแล้ว มันกลับมาแล้วครับท่าน ไอ้ทานตะวันคนเดิม คราวนี้ล่ะ ได้ฆ่ากันตายแน่ ๆ

"งั้น ไม่กินเหมือนกัน ไม่กิน ก็ไม่กิน" ส้อมถูกวางลงแล้ว พร้อมกับที่อ้อนค่อย ๆ เอนหลังแนบกับพนักเก้าอี้และนั่งกอดอกมองหน้าของคนตัวโตขี้งอน ที่ยังทำหน้าบึ้งไม่เลิก

"ก็ได้ กินก็ได้...กินสิ..ตัวเองไม่กินล่ะ มานั่งมองหน้าอยู่ได้.....งั้นไม่แกะแล้วกุ้งอะไรเนี่ยแกะยากชะมัด อ้อนแกะสิ อันนี้อร่อย อยากกินอันนี้ เร็ว ๆ นะ หิว"

อ่อ ถ้าช้าจะหิวว่างั้นเถอะ แล้วไอ้ที่ช้ามากว่าครึ่งชั่วโมงนี่ไม่หิวเลยนะ
อ้อนส่ายหน้าแล้วก็อมยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะลงมือกับอาหารตรงหน้า แต่ท่านชายกลับชี้นิ้วสั่งจะเอาสิ่งที่ตัวเองต้องการ

"อยากกินนี่...ตักให้หน่อย...อันนั้นด้วยอันนั้นก็อยากกิน"

ไงล่ะ ไม่น่าเล้ย คราวนี้ล่ะ คุณชายได้สั่งนั่นสั่งนี่ไม่เลิกแน่

"เอานี่ด้วยสิ...นี่อ่ะ นี่ไง"

ได้คร้าบ จัดให้ครับ เอาอะไรอีกล่ะครับ เต็มจานแล้วครับ ยังจะเอาอะไรอีกล่ะเนี่ย

"พอแล้วมั้ง สั่งตั้งมากมายทำไมไม่กิน...กินซะทีสิ"

อ้อนเอ่ยถามออกไป ทั้งที่ถือส้อมเอาไว้แล้วก็เงยหน้าถามทานตะวัน ที่ยังนั่งเฉย ๆ แต่มีรอยยิ้มแปลก ๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก

"เอานี่ด้วย.....อยากกินจะแย่แล้ว....แกะไม่เป็นซะด้วยสิ..แกะให้หน่อย...เริ่มจากแกะเม็ดกระดุมเสื้อก่อนแล้วกัน...นะ"

เอานี่ด้วย

ไหน

แกะกระดุมเสื้อด้วย

อะไร

อ้อนเงยหน้าขึ้นจ้องมองใบหน้าของทานตะวัน เพราะไม่เข้าใจกับคำพูดที่อีกฝ่ายพูดออกมา และเมื่อเงยหน้าขึ้น
สิ่งที่ทานตะวันชี้นิ้วต้องกาอยากได้ กลับกลายเป็นตัวของอ้อนที่ถึงกับทำส้อมหล่นลงจากมือ

.......................................

"อ่ะ เฮ้ย นี่มันคนกินไม่ได้...บ้าเด่ะ...กินไม่ได้นะ...พูดอะไร..ฟังไม่รู้เรื่องเลย"

จะรู้เรื่องได้ยังไงล่ะ ก็อ้อนเอาแต่หลบตาแล้วก็หน้าแดงแบบนี้ ทำไมไม่เงยหน้ามาคุยล่ะ จะได้รู้ว่าเนี่ย.....ก็กินได้....แถมท่าทางจะทั้งหอมทั้งหวาน...
ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไงว่ากินได้หรือไม่ได้

"กินได้....แต่ต้องแกะก่อน...เริ่มจาก...."

ไอ้น้ำเสียงทุ้มต่ำกับดวงตาวาววับนั่นมันอะไรวะ แล้วทำไมทำเสียงแปลก ๆ ทำหน้าแปลก ๆ แบบนี้ ชักไม่ปลอดภัยซะแล้ว ไอ้ทานมัน.........อะไรของมันวะ

"หือ...ว่าไง...หนูน้อยแก้มแดง"

แค่น้ำเสียงคงไม่พอ แถมนี่ไปด้วยแล้วนี่มันอะไรวะ ไอ้ท่านั่งท้าวคางจ้องมองนิ่ง ๆ แล้วก็ยิ้มหวานเชื่อม แถมด้วยนัยน์ตาพราวระยับนี่ล่ะ มัน...อะ...อะ..อะไร...กะ...กันวะ

"อ้อน...จ๋า....ไม่น่าสงสารทานบ้างเลยเหรอ....หลงรักคนมีเจ้าของเลยนะ....จะหือก็ไม่ได้...กลัวถูกทิ้ง...แบบนี้ไม่สงสารทานขึ้นมาสักนิดเลยหรือไง"

เอ่อ สงสารตัวเองดีกว่ามั้ง ชักแปลก ๆ แล้วสิ มันไปหัดพูดจาแบบนี้มาจากไหนวะ ทุกทีก็มีบ้างที่ทำเสียงอ่อนเสียงหวาน แต่ไม่เท่านี้นะ ไม่เคยพูดไปทำหน้าแบบนี้ไปด้วย
ไม่ไหวโว้ยยยยยยยย เอาแล้วไง มือเริ่มสั่นแล้ว แน่นอนล่ะ หน้าก็ต้อง.......

"อย่าพูดงี้ดิ....ทำตัว...ไม่...ไม่..ถูก"

นี่เลย หนูน้อยแก้มแดงแบบที่ชอบ พูดแบบนี้เลย ลนลานหน้าแดงแบบนี้เป๊ะเลย เนี่ยแหละที่ชอบ น่ารักเว้ย แฟนผมครับ แฟนผม น่ารักใช่ม้ายยยยยย

"อารายอ่ะ...ก็ทานน่าสงสารจริง ๆ นี่ เนี่ยจะโดนเขี่ยทิ้งตอนไหนก็ไม่รู้....อ้อนก็เอาแต่คิดถึงผู้หญิงคนนั้นอยู่ล่ะสิ ไม่สนใจกันหรอก ใช่มั้ยล่ะ"

สนน่ะสนอยู่ แต่ว่าไงดีล่ะ อย่าทำหน้าแบบนี้ทำเสียงแบบนี้สิ มันหวั่นไหวนะเว้ย คนอื่นทำก็คงไม่คิดอะไรแต่นี่ ทานตะวันหน้าหล่อ ทำหน้าโนะเนะแล้วมัน มันอดใจไม่ไหวอยากจะ
จะ จะ อ่ะ อร๊ากกกกกกกกกกก ไอ้บ้าเอ้ย ไอ้ทาน จะทำให้บ้าหรือไงวะ จะทำให้เป็นบ้าหรือไงล่ะโว้ยยยยยยย

"ช่วยรักผมหน่อยเถอะครับ....นิดเดียวก็ยังดีนะครับ....นะครับหนูน้อยแก้มแดง"

คราวก่อนที่ทานตะวันพูดประโยคนี้ทำให้รู้สึกหวั่นไหว แต่มาคราวนี้ ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะแทนที่จะหวั่นไหว กลับ หวั่นใจ.....

"ง่วงนอนแล้ว......กินอิ่มแล้ว....ไปอาบน้ำแล้วไปนอนมองทะเลด้วยกันนะ....."

ไม่พูดเปล่า แต่ใบหน้าคมยังยิ้มกริ่มแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับอาหารตรงหน้าโดยไม่ต้องรอให้อ้อนพูดอะไรอีก

"อ่ะ เอ่อ นะ นอนมองทะเล....เหอะ เหอะ เหรอ ทาน"

หัวเราะแห้ง ๆ ยิ้มแบบฝืน ๆ รู้สึกว่าคำพูดของทานตะวันชักไม่ชอบมาพากลซะแล้ว ไม่หรอกมั้ง ไอ้ทานมันคงไม่คิดทำอะไรหรอก คิดมากไปเองใช่มั้ย เหอะ เหอะ เหอะ สงสัยคิดมากไปเอง

อ้อนค่อย ๆ ก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารตรงหน้า ทั้งที่เริ่มหวั่นใจ แต่ก็พยายามคิดในทางที่ดีไว้ บางทีคงคิดมากไปเอง
แต่คงไม่ใช่เจ้าชายน้อยแสนร้ายกาจอย่างทานตะวัน

......ไม่ยกให้หรอก เคยปล่อยให้ความรักหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา ได้แต่ก้มหน้ารับกรรม ไม่ยอมรั้งไม่ยอมต่อสู้แย่งชิงเพื่อให้ได้มา
แล้วเรื่องอะไรคราวนี้จะยอมให้เป็นแบบนั้นอีก เสียใจมาหลายวัน คิดแล้วก็ปลงไม่ตก ทำไมต้องปล่อยอ้อนไปด้วย
ทั้งที่รักมากขนาดนี้ เพราะฉะนั้น ก็ต้องใช้วิธีการเหนี่ยวรั้งแบบนี้ล่ะ ได้ผลหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าจะพยายามให้ถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้

แล้วถ้าเกิดว่า......ถ้าถึงเวลาอ้อนจะไปจริง ๆ คน จะไปทำอะไรได้...ถ้าใจอ้อนไม่อยู่กับทานเลยสักนิด แล้วจะให้ทานทำยังไง

ทานตะวันได้แต่แอบลอบมองใบหน้าของคนตรงหน้า อย่างหมองเศร้า แล้วก็ขบริมฝีปากแน่น

อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ

อ้อนก็เหมือนกัน ถ้าไม่คิดจะทำอะไรสักอย่าง แล้วจะได้มาไว้ในมือง่าย ๆ หรือไง จะให้ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น ไม่ใช่ทานตะวันซะล่ะ
ทำได้แค่ไหน ต้องพยายามทำให้ได้มากกว่านั้น ไม่ทำจะรู้ได้ยังไงว่าทำไม่ได้

หนูน้อยแก้มแดงครับ.......อยากไปนักใช่มั้ย

ไม่ให้ไปหรอก...

ไม่ว่ายังไง......ก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้หรอก คอยดูให้ดี

ไม่มีทางหรอก ที่ทานจะปล่อยอ้อนไปง่าย ๆ เป็นไงเป็นกัน

TBC......
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 09-06-2007 07:42:50
 o22 o22

ทานใจเย็นน๊าาาา  :amen: :amen:

ปล. ในที่สุด ..... เมนต์แรก  o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-06-2007 07:47:58
ใช่ ใช่ ทานอย่ายอมปล่อยไปน้า  :interest: หยอดเข้าไว้ เอาอ้อนให้อยู่  :laugh3:  :laugh:
ปล.เม้นต์สองก็ได้  o16
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-06-2007 10:06:32
เมนต์สามก็ได้หง่ะ

แต่นึกบทอัศจรรย์ของสองคนนี้ไม่ออกอะ

ไม่รู้จะเร้าร้อนรุนแรง หรือหอมหวานน่ารักก็ไม่รู้อะ

 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 09-06-2007 10:28:15
เหอะ ๆ ทานจะเอา.... :impress2:


เม้นต์ที่ 4
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 09-06-2007 10:56:19
ทาน  เอาจองอ่ะ  คิดให้ดีน้า   o8 o8 o8 o8 o8 o8
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 09-06-2007 11:14:29
หงะ  จาเอากันทุกคนเยย

กร้ากๆๆๆๆ

กลัวความคิดของทานจัง

ถ้าทำไปแล้วมานจะเกิดไรขึ้นอะ  กลัวจริงๆๆ  :sad2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-06-2007 12:13:00
นายทานจะมาไม้ไหนเนี่ย โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยคิดแล้วกลัวแทนจิงๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 09-06-2007 12:14:23
ขืนใจออ้นเลยสู้ๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 09-06-2007 13:49:24
 :interest: :interest: :interest:

9th comment
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 09-06-2007 13:54:00
10 ] แค่มาบอกว่า

ตามอ่านอยู่ ใกล้ทันล่ะ  o14
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 09-06-2007 14:01:50
หึหึ ใครยังไม่เคยรีเม้นต์แรกบ้างหวา
 :laugh:
พูห์รอหรือเอาไปเยยตอนนี้
 o17
**************************

เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เสียใจด้วย ไม่มีเลิฟซีน



"หนาวเนอะ" อือ หนาว แล้ว แล้วไงล่ะ ก็หนาวไง หนาว ฮ่า ฮ่า หนาว



อ้อนหัวเราะแห้ง ๆ เมื่อหันหน้าไปมองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ยิ่งแทบไม่อยากหัวเราะ

ตาหวานขนาดนั้น มองเข้าไปสิ เอาให้มันทะลุกันไปเลยดีมั้ย ทานตะวันเป็นอะไรหนอ ทำไมถึงขยันส่งยิ้มหวานจ๋อยแบบนี้มาให้ หมายความว่าไงเหรอ ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจจริง ๆ ไม่เข้าใจ เชื่อเถอะน่ะไม่เข้าใจ



เอ่อ คือจริงๆ แล้วไม่อยากเข้าใจมากกว่า ยอมรับเลยตรง ๆ ก็แล้วกัน

ก็จะไม่ให้ทำเป็นเฉไฉไปได้ยังไงล่ะ ในเมื่อหลังจากขึ้นมาบนห้องพักแล้ว ไอ้เจ้าคนตัวโตนั่นก็เดินวนไปวนมา

แล้วก็หันมาทำตาหวานใส่ซะหนึ่งครั้ง แล้วก็ทำหน้าเฉย แถมเมื่อไม่กี่นาทีก่อน มีการมาล้มตัวลงนอนข้าง ๆ

แล้วก็พยายามจะดึงแขนให้ลงไปนอนด้วยกันอีก



ม่ายหวายม้าง บรรยากาศมันแปลก ๆ พิกล ไม่เหมือนเวลาปกติเลย



"อยากอาบน้ำแล้วล่ะ...." ก็อาบไปก็ได้ ทำไมจะต้องเดินมานั่งอยู่ตรงหน้าแล้วก็กระซิบถามซะใกล้ขนาดนั้นล่ะ

มันขนลุกโว้ยยยยยยยยยยยยยยย



"เหรอ เฮอะ ๆ เอาสิ แล้วทำไมไม่อาบล่ะ ง่วงเนอะ กินอิ่มก็เลยง่วง เหอะ เหอะ เหอะ"



หัวเราะแล้ว พยายามจะทำหน้าฝืน ๆ ก็แล้ว แต่ชักจะไม่ไหว เพราะปลายจมูกของทานตะวันเริ่มมาคลอเคลียอยู่ที่ไหล่อีกแล้ว



"อาบด้วยกันนะ"



ตาหลกแล้วม๊างงงงงงงงง เหอะ เหอะ อาบด้วยกันเนี่ยนะ ไม่ไหวหรอก ขำเนอะ ขำมั้ย อำเล่นช่ายม้าย ม่ายขำแล้วน๊า



"อ้อน...อาบน้ำด้วยกัน...นะ..อาบสองคนอุ่นกว่าอาบคนเดียว"



ม่ายยยยยยยย อาบสองคนไม่ดี ไม่ดีหรอก เดี๋ยวห้องน้ำมันจะแคบไง ไม่ดีหรอก เชื่อเหอะ ไม่ดีแน่ ๆ



"ฮะ อาบสองคนเนี่ยนะ ง่วงนอนแล้ว คร่อก นอนดีกว่า" อ้อนทำทีเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วเตรียมลุกขึ้นเดินหนีเมื่อไม่เฉพาะที่หัวไหล่เท่านั้นแต่ทานตะวันยังแตะปลายจมูกเรื่อยมาเกือบถึงแก้ม



แบบนี้ไม่ค่อยดีนะ



หน้าแดงแล้ว ใจเต้นด้วย



ไอ้ทานมันเล่นอารายของมานว๊า



"ไม่ให้ไป คุยกันก่อน"



เตรียมจะลุกขึ้นแต่กลับถูกกระตุกแขนให้นั่งลงมา ตอนนี้จิตใจของอ้อนชักจะเตลิดไปไกล

ยิ่งสบตากับดวงตาของอีกฝ่ายด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่



"ทาน อย่าแกล้งดิ เห็นเปล่าหน้าแดงแล้วเนี่ย มือเย็นแล้วด้วย เดี๋ยวพอเขินมาก ๆ เลือดกำเดาไหลเปื้อนไม่รู้ด้วยนะเอ้า ยังจะเล่นอีก จริงจังนะโว้ย ดูหน้าสิ ดูหน้านี่ ไม่เห็นหรือไงว่าหน้าแดง บอกแล้วไงว่าเป็นอะไรไม่รู้ เขิน ถ้าจะเล่นไม่ต้องเลย เดี๋ยวอดใจไม่ไหวกระโดดปล้ำเลยนะโว้ย"



โห กระโดดปล้ำเลยเหรออ้อน ทำไมพูดอะไรตรงจัง เอาสิ รออยู่เลย ปล้ำจริงอ่ะ ทำไงอ่ะ เอาเลยมั้ย

ชอบนะเนี่ย ไหนดูซิ หน้าแดงจริงด้วย ตาเยิ้มแล้วอ้อน มองแบบนี้หมายความว่าไง



"โห อย่าทำอะไรทานน่ะ ทานไม่เคยมีแฟนนะ กลัว" ทานตะวันแกล้งพูด แล้วก็ทำหน้าตาใสซื่อ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย และค่อย ๆ เลื่อนมือไปแตะที่รอบเอวของคนที่ยังพยายามจะหัวเราะแบบฝืน ๆ



"เฮ้ย ไม่กลัวเลยเรอะ...เดี๋ยวเลือดเปื้อนเสื้อนะ แล้วอย่ามาหาว่าไม่ อึก แอ่ก เฮ้ย อื้อ"



ไม่ต้องรอช้าไม่ต้องรอให้พูดกันจบประโยค



หนูน้อยแก้มแดงลงไปนอนอยู่บนฟูกนอน แล้วก็กระพริบตาปริบ ๆ สองสามครั้ง ยังไม่ทันตั้งตัว รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างมาแตะอยู่ที่ริมฝีปาก จนทำให้ออกเสียงพูดไม่ได้



เฮ้ย ...........



อะไรเนี่ย ...........



"เฮ้ย แอ่ก อื้อ ทานเดี๋ยว อื้อ"



พยายามจะพูดพยายามจะส่งเสียง แต่ริมฝีปากกลับถูกบดคลึงเคล้าอย่างรุนแรง จนแทบหายใจไม่ออก พยายามจะขยับร่างกายออกห่าง แต่ข้อมือทั้งสองข้างถูกตรึงไว้เหนือศรีษะ และ.........
 
.............

"โอ้ยยยยยยยยย ทาน ปล่อยโว้ย ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ไอ้อึก อื้อ อ๊า"



ร่างกายร้อนผ่าวแค่ถูกแตะที่ริมฝีปากไม่ถึงครึ่งวินาที อารมณ์ความรู้สึกกระเจิดกระเจิงไปไกลสุดกู่ อ้อนได้แต่พยายามดิ้นรนหนี แต่ทานตะวันกลับนึกว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นด้วย เลยยิ่งใช้กำลังของตัวเองตรึงข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้ขยับร่างกายได้ แถมซ้ำด้วยร่างกายที่โถมทับลงมาหาแนบชิด เพื่อจะหยุดยั้งการเคลื่อนไหวร่างกายของอ้อนให้ได้



จนเมื่อคนที่อยู่ใต้ร่างสงบลงแล้ว ทานตะวันจึงได้ถอนริมฝีปากออก และหัวเราะเสียงเบาอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก



"ไหน ไหน ดูซิ แก้มแดงยัง เลือดออกยังเนี่ย หื้อ ไหนดูซิ"



ทานตะวันสนุก แต่อ้อนไม่สนุกด้วย เพราะอารมณ์ความรู้สึกถูกปลุกเร้าขึ้น ได้แต่นอนหอบหายใจหนัก ใบหน้าถูกย้อมไปด้วยสีเลือด แถมด้วยดวงตากลมโตที่หรี่ปรือ หมดหนทางที่จะควบคุมความรู้สึกของตัวเอง



"เฮ้ย ทำไมเป็นแบบนี้อ่ะ เป็นอะไรมั้ย อ้อน ได้ยินป่าว อ้อน อ้อน"



เพราะไม่เคยเห็น ถึงความเปลี่ยนนแปลงทางอารมณ์ ทานตะวันจึงได้แต่เรียกชื่อของอ้อนอยู่อย่างนั้น และดูเหมือนคนที่นอนหอบหายใจหนัก จะนอนมองหน้าของทานตะวันนิ่งอยู่ ไม่ได้ขยับกายหนี



"ไม่เป็น...อะไร..อึก..ปล่อยเถอะ..."



ไม่เอา ไม่ปล่อย ใครจะปล่อยล่ะ สนุกดี อ้อนมันทำหน้าตาแปลก ๆ ดี ไม่เห็นเหมือนทุกทีเลย มันดูหวาน ๆ แล้วก็ทำให้อยากลองทำอะไรแปลก ๆ อย่างที่ไม่เคยทำ



อย่างเช่น...........



"ไม่เอาไม่ปล่อย ไหนทำเสียงแบบเมื่อกี้อีกซิ แบบเมื่อกี้อ่ะ ทำหน่อย ชอบ ฟังแล้วตลกดี"



เสียงบ้าอะไรเล่า ไอ้เสียงครางบ้า ๆ บอ ๆ นั่นน่ะเหรอ จะให้ทำได้ไงวะ



"ทำไม่ได้ ใครจะไปทำได้ ลุกไปซะทีสิ หนัก อ่ะ อื้อ"



ทานตะวันไม่ได้ลุกขึ้นตามที่อ้อนบอก ขยับร่างกายเพียงเล็กน้อย แต่กลับไปกระทบกับ....



"อะไรอ่ะ เนี่ย"



เฮ้ย ....ถามมาได้อะไร จะให้ตอบไงวะ อะไรน่ะมันอะไร



"ไม่มีอะไรหรอก ปล่อยเหอะ ไม่มีจริง ๆ ไอ้ทานโว้ยยยยยยยยย ปล่อยเดี๋ยวนี้"



นิสัยชอบแกล้งหยอกล้อ ยิ่งบอกให้หยุด ยิ่งไม่มีคำว่าพอ ทานตะวันหัวเราะลั่น เห็นเป็นเรื่องสนุกและลากไล้ฝ่ามือลงมาบนร่างกายของอ้อน ก่อนจะสัมผัสลงมาถึงสิ่งที่ทำให้เกิดความสนใจ และแกล้งแตะเล่นอย่างนึกสนุก



แต่เมื่อได้สัมผัสกลับต้องรีบลุกขึ้นนั่ง และปล่อยร่างกายของคนที่นอนหอบหายใจหนักอยู่ใต้ร่างให้เป็นอิสระ



ทานตะวันผุดลุกขึ้นและจ้องมองหน้าของอ้อน ดวงตาคมเบิกกว้าง และอุทานออกมาเสียงดังลั่นอย่างไม่คิดจะเกรงใจกันเลยสักนิด



"เฮ้ย...ไหงมีอารมณ์ง่ายขนาดนี้เนี่ย จริงดิ อ้อน ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ขอโทษ ขอโทษ ให้ช่วยยังไงอ่ะ"



ช่วยยังไง



ช่วยยังไง



ไอ้ทาน ไอ้บ้า อยากจะบ้า ให้ช่วยยังไง ถามมาได้ยังไง ใครไม่ร้องไห้เพราะคำถามของไอ้คนบ้าคนนี้

ก็ให้มันรู้ไปสิวะ



อ้อนค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น



อาย



อายมาก มาก มาก มาก แต่ทำอะไรไม่ได้ หน้าแดง ไม่พอ ใจสั่นไม่พอ แถมไอ้ร่างกายบ้า ๆ นี่ยังแสดงปฏิกิริยาออกมาแบบไม่ต้องเสียเวลารอเลยด้วย
 
....................

อยากจะร้องไห้ แต่ร้องไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะทำหน้ายังไง เพราะทานตะวันยังนั่งทำหน้าใสซื่อ และทำตาโตเหมือนกับว่าตัวเองไม่เคยมีอารมณ์ความรู้สึกแบบนี้หรือไง



"นี่....อยากทำเหรอ...ไม่ได้ปลดปล่อยบ้างหรือไง ทำไมรู้สึกง่ายจัง"



แง แง อยากร้องไห้กับไอ้ทานจริง ๆ เลยเว้ย ทำไมชีวิตนี้ต้องมาเจอไอ้คนบ้าขวานผ่าซากคนนี้ด้วยอ่ะ

เล่นถามอะไรโจ่งแจ้งแบบนี้ แล้วจะให้ตอบยังไงล่ะโว้ยยยยยยยย

ใครจะไปเหมือนมึงล่ะคร้าบ พูดอย่างกับเรื่องปกติ อายบ้างมั้ยคร้าบ อายบ้างมั้ย เวลาถามเนี่ย



"ทาน ไหว้แหละนะ...ไม่พูดสักวันไม่ได้เหรอ.."



อ้อนหันหน้าไปบอกทานตะวัน แล้วลุกพรวดพราดขึ้นยืน ทำอะไรไม่ได้นี่ จะให้ทำยังไง

ในเมื่อร่างกายมันทรยศขนาดนี้ จะไปทำอะไรได้อีกล่ะ

ร้องไห้ตายไปเลยดีมั้ย เวรแท้ ๆ เลยชีวิตทำไมถึงเป็นแบบนี้เนี่ย



"ไม่ได้หรอก ทำไมต้องอายด้วย...เราคบกันอยู่นะ ถ้าทานทำให้อ้อนรู้สึกทานก็ต้องรับผิดชอบสิใช่มั้ย"



อย่ารับผิดชอบกูสักวันหนึ่งก็ได้ กูจะเป็นลมตายต่อหน้ามึงแล้วครับไอ้ทานเอ้ย



คนที่ไม่รู้ว่าควรปั้นหน้ายังไงเตรียมลุกขึ้น แต่ข้อมือกลับถูกรั้งเอาไว้ ไม่ยอมปล่อย



"อ้อน ไปไม่ได้หรอก....ไม่เห็นสนุกเลย....รู้นะว่าจะทำอะไร...แล้วทำไมต้องทำคนเดียวด้วย...มานี่เลย"



ร้องไห้เลยดีมั้ย ร้องมันตรงนี้เลย แต่ไม่มีแรงทำอะไรแล้ว ก็ไอ้บ้านี่มันเล่นดึงแขนไว้ไม่ยอมปล่อยแบบนี้จะให้ทำยังไงได้ล่ะ



"หนูน้อยแก้มแดง อย่าทำหน้าแบบนี้น๊า ไหนหันหน้ามาซิ อย่าอายเลยนะ มาใกล้ ๆ ทานหน่อยน๊า"



เออ เอาเลย มึงเอาเลย เล่นให้กูบ้าไปเลยสิโว้ย แค่นี้ก็ทุเรศตัวเองพอแล้ว เอาเลยเล่นให้พอใจไปเลย



"อ้อน...มาใกล้ ๆ ซิ นั่งตรงนี้"



นอกจากรั้งข้อมือเอาไว้แล้ว ยังรั้งร่างของอ้อนเข้ามาหาตัว และพยายามจะประคองให้อีกฝ่ายหันหน้ามาหา



แต่อ้อนก็ยังอยากกระโดดหนีไปให้ห่าง แต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งหน้าแดงเป็นบ้าอยู่คนเดียว



"ไม่รู้เหรอ...ว่า...ทานก็เป็นเหมือนกัน..ไม่รู้บ้างหรือไง"



ทำไมมันถึงได้ พูดแบบนี้ออกมาได้หน้าตาเฉยเนี่ย แถมยัง แถมยัง...........อร๊ากกกกกกกกก นี่จะถอดเสื้อผ้าต่อหน้ากันเลยหรือไงเนี่ย เล่นง่ายแบบนี้เลยเหรอวะ หนี แบบนี้ต้องหนี ไม่เอาแล้ว ช่วยด้วยยยยย



ทานตะวันปลดกระดุมเสื้อของตัวเองอย่างรวดเร็ว และโยนทิ้งลงข้างเตียง ส่วนอ้อนได้แต่มองตาค้างและพยายามจะลุกขึ้นกระโดดหนีลงจากเตียง



ไอ้ทาน ไอ้ทานมันแกล้งทำหน้าใสซื่อนี่หว่า ใครอยู่ก็บ้าแล้ว



"ไม่เอา ไม่ให้หนีแล้ว มานี่เลยอ้อน อย่ามาทำเป็นหนีนะ ตัวเองก็รู้สึกซะขนาดนี้ ถ้าไม่อยู่เฉย ๆ ปล้ำจริง ๆ ด้วยอย่าหนีนะอ้อน หยุดเดี๋ยวนี้ ห้ามหนี นี่เป็นคำสั่ง"



และเมื่อเป็นคำสั่ง อ้อนก็ได้แต่นั่งนิ่งตะลึงงันอยู่อย่างนั้น ยอมหันหน้ามาเผชิญหน้ากับทานตะวันแต่โดยดี



"ทานจะสั่งให้อ้อนยอมรับทานวันนี้....ทานจะสั่งให้อ้อนไม่ไปหาผู้หญิงคนนั้นอีก....ทานจะสั่งทุกอย่างเลย สั่งให้อ้อนเป็นของทานวันนี้ด้วย รู้มั้ย เป็นของทานวันนี้เลย ไม่ต้องเตรียมตัวไม่ต้องเตรียมใจแล้ว .... "



บ้า มันเล่นสั่งกันง่าย ๆ แบบนี้เลยใช่มั้ย ไม่เอาโว้ย ใครเชื่อก็บ้าแล้วสิ ถึงจะเคลิ้มไปขนาดนี้ ก็ใช่ว่าจะเชื่อกันง่าย ๆ นะ



แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมต้องดึงไหมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย



"ทำไมต้องเอาไหมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำไมถึงพูดอย่างนี้"



ไม่คิดว่าจะพูดถึงเรื่องไม่ควรพูดขึ้นมาในเวลานี้ แต่กลับเผลอพูดออกไปได้ อ้อนจ้องหน้าทานตะวันด้วยความไม่พอใจ พอ ๆ กับที่ทานตะวันเองก็รู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจขึ้นมาไม่ต่างกัน



"แล้วทำไมล่ะ ทานจะสั่ง จะสั่งอ้อนเดี๋ยวนี้เลย อ้อนจะเอายังไงก็ว่ามาเลย จะให้ทำยังไง กลับยัยบ้านั่นเคยมีอะไรกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นอ้อนมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นได้ ก็ต้องมีกับทานได้เหมือนกัน"



หมายความว่ายังไง



ทำไมต้องดึงไหมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หาเรื่องกันชัด ๆ หาเรื่องกันใช่มั้ย



ในเวลาไม่นาน จากที่คุยกันอย่างสนุกสนานกลับเริ่มสาดอารมณ์โมโหเข้าหากัน



ทานตะวันไม่ยอมแพ้ และอ้อนก็ไม่ยอมที่จะลดความโมโหลงได้



ข้อมือถูกกระชากเข้าหาคนตัวโตกว่า



ทานตะวันกำลังโมโห ไม่ว่าอะไรก็ทำได้



ใช่จริง ๆ ใช่มั้ยกับผู้หญิงคนนั้นอ้อนคงทำได้ แล้วทำไมถึงไม่ยอมไม่มีอะไรกันล่ะ แบบนี้จะไม่ให้โกรธได้ยังไง



อย่าหวังจะกลับไปหาผู้หญิงคนนั้นเลย



แผ่นหลังของอ้อนเอนลงแตะฟูกนอน และทานตะวันก็โถมทับร่างกายลงมาหา

ฝ่ามือมือบางปัดป่ายให้อีกฝ่ายออกห่างแต่ไม่เป็นผล เพราะทั้งริมฝีปากที่ถาโถมลงมาลองลิ้มชิมรสชาด

ปลายจมูกโด่งที่ลากไล้ลงที่ซอกคอและฝังปลายจมูกเข้าหาอย่างรุนแรง



ยิ่งหนี ยิ่งไม่ยอมให้หนี



ทำไมไม่ได้ ทีกับผู้หญิงคนนั้นยังได้ แล้วทำไมถึงไม่ยอมรับสัมผัสที่มอบให้



ยิ่งคิดยิ่งโมโห ยิ่งคิดยิ่งไม่อยากยอมรับ



อ้อนมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว ใครจะไปเชื่อ ไม่ยอมหรอก ไม่ยอมให้จากไปไหนได้หรอก

ถ้าไม่รักไม่ชอบกันจริง ๆ แล้วก็ไม่ยอมปฏิเสธกันให้ชัด ๆ จะให้ทำยังไง

....................

ถ้าถูกช่วงชิงความรักไป จะทำยังไง



"ทานปล่อย ไอ้ทาน ปล่อยนะโว้ยยยย เป็นบ้าอะไรเนี่ย"



ถึงแม้จะพยายามร้องขอ หรือวิงวอน แต่กลับไม่เป็นผล ทานตะวันมันบ้าไปแล้ว ไอ้เจ้าชายบ้า...มันเป็นบ้าไปแล้ว ไม่ยอมฟังอะไรเลยใช่มั้ย ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง จะหักหาญน้ำใจกันจริง ๆ ใช่มั้ย



ปากบอกว่ารัก แต่ทำแบบนี้เหรอ ทำแบบนี้ทำไม



"ไม่ปล่อยหรอก ไม่ยอมปล่อยแล้ว ถ้าทานไม่ได้ ยัยบ้านั่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน ทำไมไม่เลือกล่ะว่าจะเอายังไง

ตกลงจะเลือกทานมั้ย หรือจะเลือกผู้หญิงคนนั้น ทานไม่เสียสละแล้ว ไม่ยอมให้ไปไหนด้วย อ้อนเป็นของทานคนเดียวจำเอาไว้เลย จำไว้ให้ดี"



ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมแพ้ อ้อนได้แต่ดิ้นรนอยู่ใต้ร่างของทานตะวัน และตะโกนร้องเสียงดัง กำหมัดแน่น เตรียมจะชกใบหน้าของอีกฝ่ายให้ได้ แต่เรี่ยวแรงกลับมีน้อยกว่า



ไอ้บ้าทานทำแบบนี้ทำไม



ไม่รักกันจริง ๆ ใช่มั้ย ถึงทำแบบนี้



ไอ้บ้า เกลียดมันแล้ว เกลียดมันจริง ๆ



"ไปตายซะไอ้ทานบ้า ไอ้บ้า อึก อื้อ ไอ้ อึก"



สู้ไม่ได้ โมโห แค้นใจ และก็ได้แต่สะบัดหน้าหนี เมื่อทั้งปากและจมูกของอีกฝ่ายยังถาโถมเข้าหา



"ไปตายเลยไป๊ไอ้บ้าทาน ไอ้ทาน เกลียดแล้ว ถ้าทำจริงๆ จะฆ่าตัวตาย อยากทำอะไรก็ทำไปเลย

จะฆ่าตัวตายจริง ๆ ด้วย จะฆ่าตัวตาย"



แค่ได้ฟังคำพูด แค่ได้รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ เพียงเท่านั้นทานตะวันก็รู้แล้วว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน



ฆ่าตัวตายเลยใช่มั้ย เกลียดกันขนาดนี้เลยใช่มั้ย แล้วให้ความหวังทำไม ไม่รักแล้วให้ความหวังกันทำไม



ข้อมือถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ทานตะวันผุดลุกขึ้นนั่ง และนิ่งมองคนที่ยังคงนอนนิ่ง ๆ อยู่บนฟูกนอน



นัยน์ตาคมทอดมองใบหน้าของอีกฝ่าย ด้วยความสิ้นหวัง

แค่นี้ก็รู้แล้ว ว่าจะไม่มีวันได้มาครอบครอง อ้อนใจร้าย ทำไมใจร้ายขนาดนี้



ไม่เลือกไม่ว่า แต่ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย



คนตัวโตหน้าเศร้าลุกขึ้นเดินออกห่างจากร่างของคนที่บอกตัวเองอยู่เสมอว่าจะไม่มีทางปล่อยคน ๆ นี้ไปไหน

แต่มันสุดทางแล้วจริง ๆ ใช่มั้ย



อ้อนไม่เลือก แถมยังเกลียดกันด้วยซ้ำ เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าควรอยู่ในสถานะไหน แล้วก็ควรจะทำยังไง



คนตัวโตที่ใช้กำลังหักหาญยอมลุกขึ้นผละจากไปง่าย ๆ ทิ้งให้อ้อนนอนหอบหายใจหนักอยู่บนเตียง

ดวงตากลมโตมองตามคนที่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ



ตกใจที่ถูกทำแบบนี้

ตกใจจึงได้พูดแบบนั้นออกไป



อันที่จริงไม่ได้ตั้งใจ แต่....กลัว....



ทานตะวันเดินออกไปนอกระเบียงและเลื่อนประตูกระจกปิดไว้ให้



ส่วนอ้อนค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งและจ้องมองคนที่ยืนอยู่หน้าระเบียงด้วยความรู้สึกหลากหลาย



ทาน.......

เจ้าชายน้อย......



ตอนนี้ฝ่ายนั้นอยู่ในอารมณ์แบบไหน ร้องไห้ หรือเปล่า หรือว่ากำลังเสียใจ



อ้อนนั่งชันเข่ามองคนที่ยืนอยู่นอกระเบียงแล้วก็ถอนหายใจยาวเหยียด หลังจากที่หายตกใจ



...ก่อนหน้านี้ ถ้าทานมันจะทำจริง ๆ ก็ทำได้ แต่มันก็ปล่อย ขู่ไปอย่างนั้น แล้วทานก็ปล่อยจริง ๆ ไม่ทำอะไรอีกเลย

ยอมปล่อยง่าย ๆ ทั้งที่ พูดจาร้ายกาจออกไปขนาดนั้น



เป็นนานที่อ้อนเอาแต่นั่งมองทานตะวันอยู่อย่างนั้นแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะยอมเข้ามาในห้อง ยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าระเบียง ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง จนพลบค่ำ



สุดท้ายคนที่ทนไม่ไหวกลับเป็นอ้อนที่ต้องตัดสินใจเดินออกไปตาม


 
..................

"เข้าห้องเถอะ เดี๋ยวเป็นหวัด"



พูดออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา และหวังว่าอีกฝ่ายจะอยู่ในอารมณ์ปกติ

แต่ทานตะวันที่หันกลับมามองกลับมีท่าทางนิ่งเฉย



"อย่าเลย เดี๋ยวไปทำอะไรเลว ๆ แบบนั้นอีก ไม่อยากโดนเกลียดไปมากกว่านี้"



เย็นชา เฉยชา ไม่เหมือนทานตะวันอย่างที่เคยเป็น อ้อนได้แต่ยืนนิ่งเงียบ ไม่กล้าจะพูดอะไรออกไป



"ก็เข้ามาข้างในห้องก็ได้นี่ อากาศมันเย็นแบบนั้น"



อ้อนพยายามที่จะพูดกับอีกฝ่าย ทั้งที่แทบจะไม่กล้าสบตากับสายตาเย็นชาที่มองมา



"ถ้าเข้าไป ทานปล้ำอ้อนแน่ ถ้าจะฆ่าตัวตายก็ไม่ยอมปล่อยด้วย จะยอมให้เข้าไปหรือไง"



พูดเล่นใช่มั้ย ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วยล่ะ



"แล้วจะยืนอยู่ตรงนั้นตลอดทั้งคืนหรือไง"



"ใช่ ยืนให้มันหนาวตายไปเลย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วนี่ อย่ามาทำเหมือนห่วงทั้ง ๆ ที่อ้อนเกลียดทานเลย ไปหาผู้หญิงคนนั้นเลยก็ได้ ตอนนี้เลยก็ดี ทานจะได้ตัดใจไปซะ ไหน ๆ จะใจร้ายก็ร้ายให้มันถึงที่สุดไปเลยอ้อน

อย่ามาทำแบบนี้ ทานก็เป็นคนมีชีวิตจิตใจเหมือนกัน ทานเจ็บเป็น ถ้าจะทำร้ายกัน ก็ทำให้มันเจ็บไปครั้งเดียวเลย

บอกมาตอนนี้เลยดีกว่า ว่า.....อ้อนไม่เลือกทาน"



สายตาที่มุ่งมั่น แววตาที่มั่นคงและมองตรงมา



อ้อนได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ และก้มหน้าลงอย่างช้า ๆ ให้เลือกตอนนี้เวลานี้ จะให้บอกได้ยังไงว่า.......ตั้งแต่วันที่ได้เจอกับไหมก็รู้แล้วว่าตอนนี้สถานะของตัวเองตรงไหน แล้วก็กำลังทำอะไรอยู่ เพียงแต่บางครั้งก็เก็บเอาช่วงเวลาเก่า ๆ มาครุ่นคิดอยู่เสมอ จึงทำให้ไม่กล้าพูดออกอะไรออกไป



"ไม่รู้บ้างเลยเหรอว่าเรา...เป็นของทานมาตั้งนานแล้ว....ทำไมต้องให้ตอบด้วย...ไม่รู้เลยเหรอว่าเราคิดยังไง"



อ้อนเอ่ยบอกออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา



อย่าให้ต้องพูดอะไรมากไปกว่านี้อีกเลย

พูดได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น



ขืนต้องพูดมากกว่านี้ ต้องหน้าแดง เลือดกำเดาพุ่งแน่ ๆ แล้วจะบังคับให้พูดทำไม



"อ้อนพูดแบบนี้ไม่ได้นะ พูดแล้วทานจะให้อ้อนรับผิดชอบคำพูด...แน่ใจหรือไงที่พูดออกมา"



ทานตะวันถามย้ำออกไปเพื่อขอความมั่นใจอีกครั้ง แต่ไม่ได้คำตอบเลยสักคำ

และไม่นานสิ่งที่อ้อนยอมพูดออกมาก็ทำให้ทานตะวันยิ้มกว้างและแทบจะต้องรีบวิ่งกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง



ก่อนจะกอดรัดร่างของคนที่ทำให้ดีใจมากที่สุดเอาไว้แน่น

หนูน้อยแก้มแดงเอ้ย ไม่ปล่อยแล้ว ต่อไปนี้จะไม่ปล่อยให้ไปไหนได้เลย คอยดูให้ดีเถอะนะทำไมถึงได้น่ารักถึงขนาดนี้



"ก็แล้วทำไมต้องทำให้กลัวด้วยวะะ คนไม่เคยทำกับผู้ชายนะโว้ย หัดอ่อนโยนบ้างไม่ได้หรือไง"



พูดแบบนี้ได้ยังไง พูดแบบนี้จะให้ทานดีใจตายหรือไง



ได้สิ อยากให้อ่อนโยนจะอ่อนโยน ก็บอกมาสิ ว่าอยากให้อ่อนโยน ไม่งั้นจะรู้ได้ยังไงล่ะ แล้วอยากให้อ่อนโยนขนาดไหนกัน เดี๋ยวจะทำให้ดู ถ้าไม่พอใจตรงไหนก็บอกมาได้เลย จะไม่ขัดใจเลยจริง ๆ นะครับหนูน้อยแก้มแดง


TBC...

 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 09-06-2007 14:04:35
อ๊ะ โทษคับพูห์ มาก่อนเม้นท์แรก อิอิ

 o3

ลุ้นระทึก

 :haun5:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 09-06-2007 14:22:35
ในที่สุด ก้อดเข้าใจกัน  โฮะๆๆๆๆๆ  :like6: :like6: :like6: :like6: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 09-06-2007 15:05:02
 :laugh:  ก็ชื่อตอนเค้าบอกแล้วว่า " เสียใจด้วย ไม่มีเลิฟซีน  "

อดเลย  o17

เม้นต์ที่ 3
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: luvdisc ที่ 09-06-2007 15:50:43
เข้ามากรี๊ดดดดดดดดดด แล้วก็วิ่งหนีไป  :o12:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: AcOustic_Guitar ที่ 09-06-2007 15:56:20
 :like6: เห้อลุ้นๆ ในที่สุดก็สมหวัง อิอิ  :haun5:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Felm ที่ 09-06-2007 16:23:39
 :like6:

อ้อนเลือดกำเดาไม่ไหล แต่ป๋มไหลแทนแย้ววว

ทำไมอากาศกรุงเทพมันร้อนอย่างนี้น๊า  :haun5:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-06-2007 18:05:04
เสียใจจริง ๆ  o16 ไม่มีเลิฟซีน  :o7:
เม้นต์ 7
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Electrolyte ที่ 09-06-2007 18:09:00
เม้นส์ที่8หรือป่าว........................มาเชียร์ทานต่อคร้าบ....ทานตะวันสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 09-06-2007 18:53:55
 o12 o12  ใจร้อนเจงๆเลยนะครับทาน  ทะนุถนอมอ้อนหน่อยก็ไม่ได้ :haun5: :haun5:

รี9ครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Electrolyte ที่ 09-06-2007 18:58:17
กลับมาเชียร์ทานอีกรอบ.......อ่อนโยนกะอ้อนหน่อยนะทานตะวัน


รี10
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oppee ที่ 09-06-2007 20:22:19
 :impress2:


เคยอ่านเรื่องของเจ้าของเรื่องครับ จำชื่อไม่ได้ แต่รู้ว่าตัวละครชื่อ ขุนไกร กับ ส้ม ครับ
ใครมี links ของความกรุณาด้วยครับ  oppee@operamail.com

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ยศ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 09-06-2007 20:40:02
ดีใจกับพี่ทานด้วยคับ แล้วหวังว่าเรื่องนี้คงจบด้วย2คนนี้มีความสุขนะ  :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 09-06-2007 21:39:46
ว่ะฮะๆๆ  :laugh: :laugh:

ในที่สุด  o7 o7 o7

 o17 o17 o17
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-06-2007 23:10:43
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เข้าใจกันแล้วใช่มั้ยเนี่ย อิอิ

แหมแต่เลยเถิดไปถึงขนาดนั้นกลับรอดมาได้ แหมๆๆๆๆๆๆตอนหน้า ถ้าไม่มีฉากนั้นล่ะก็ โกรธๆๆๆๆด้วย :angry2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 10-06-2007 00:19:14
ทำไมอ้อนต้องขี้อายขนาดนี้ด้วยอ่ะจ๊ะ ยอมๆทานไปเหอะ เหอๆๆๆ 

ขอบคุณที่โพสให้อ่านนะคะ  o1   o17

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: a22a ที่ 10-06-2007 01:53:46
ว้า...เสียด้ายจังนึกว่าอ้อนจะเสร็จทานแล้วลุ้นแทบตาย
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 10-06-2007 06:15:56
งั้นครั้งต่อไปก็ฉากนั้นแล้วดิ  :haun5:


เมนท์ 17 แล้วเรย์ อยากอ่านฉากนั้นของอ้อนกะทาน  :laugh:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 10-06-2007 13:20:07
 :impress: :impress:  มารออยู่นะครับ   :impress: :impress:

รี18แล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 10-06-2007 13:31:51
รอด้วยคนคับ
 :undecided: :undecided: :undecided:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 10-06-2007 16:05:04
มาลงไวๆคิดถึงแล้ว  :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-06-2007 16:43:20
20 รีแล้ว  :angry2: เมื่อไหร่จะมา  o12
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 10-06-2007 19:56:03
อ่านแล้วมีแอบ จี๊ด เกือบทุกตอนเลย

มารออ่านต่อนะคับ  o15
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Tetjinen ที่ 10-06-2007 22:26:47
 o22 ชอบคู่ทานxอ้อน มากเป็นคู่ที่น่ารักดี  ดูเหมือนใกล้จะจบแล้ว
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 10-06-2007 23:03:21

.............ง่า.....รมณ์ค้างง่ะเรย์....... :sad5:

                  .......มาต่อเร้ววววววววว....... o11
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 10-06-2007 23:33:41
 :o11: :o11:
พี่เรย์ ได้โปรด  o1 o1 o1 o1
มาต่อเหอะนะ  :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: a22a ที่ 11-06-2007 00:02:07
มาต่อด้วยนะคับ ผมชอบเรื่องนี้มากเลยมีหลายอารมณ์ดีคับ อ่านไปเศร้าๆเหงาๆดูเหมือนเป็นสีเทาๆไปหมดคับ ขอบคุณนะคับที่เอานิยายดีๆมาให้ผมได้อ่านคับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 11-06-2007 00:10:42
อิอิ ไม่ยอมโหวตให้ผมเยย ต้องปล่อยให้รอ ตอนสำคัญซะด้วย
คิกคิก
...................

เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน คนนี้ของทานใครห้ามยุ่ง



ไม่ต้องช่วยก็ได้กะอีแค่ปลดกระดุมเสื้อเนี่ย มันจะกระตือรือร้นอะไรกันนักหนา ไม่ต้องช่วยขนาดนี้ก็ได้เนอะ เหอะ เหอะ



อ้อนค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อของตัวเองด้วยความรู้สึกขัดเขิน แต่ทานตะวันกลับไม่ยอมให้ทำเอง ช่วยถอดไม่พอยังแตะริมฝีปากลงมาที่ข้างแก้มเป็นพัก ๆ



แล้วจะให้ทำยังไง ได้แต่พยายามตั้งสติให้ได้มากที่สุด มันเขิน แล้วก็รู้สึกแปลก ๆ ที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะทำเรื่องแปลก ๆ แบบนั้นจริง ๆ



แล้วทำไมมันถึงไม่รู้สึกถึงความหวานแหววอะไรเลย ไอ้บ้าทานก็ทำหน้านิ่งเฉยขนาดนั้น จะตั้งใจอะไรนักหนา

ไม่พูดไม่คุย แถมยังไม่เห็นจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์วาบหวามของอีกฝ่ายเลยสักนิด



"อาบน้ำด้วยกันนะ"



เออ ก็อาบไง อาบก็อาบ บอกว่าจะอาบน้ำด้วย และทานตะวันก็เดินลิ่วเข้าห้องน้ำไปเฉย ๆ ทิ้งให้อ้อนนั่งทำใจอยู่พักใหญ่ ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นปลดกางเกงและชั้นในของตัวเองออก ผลัดเปลี่ยนเป็นผ้าขนหนู และตั้งสติอยู่นานกว่าจะก้าวขาเข้าไปในห้องอาบน้ำได้



ภาพที่เห็นคือทานตะวันกำลังยืนสระผม ใช่....ยืนสระผม สระผมอย่างตั้งอกตั้งใจเลยล่ะ

ไม่มีการหันหน้ามาหากันเลยสักนิด



ทำเหมือนไม่สนใจกันเลยด้วยซ้ำ



เรา....กำลังจะ...ทำเรื่องนั้นกันจริง ๆ ใช่มั้ยเนี่ย

มันก็เหมือนมาช่วยทานตะวันอาบน้ำมากกว่านะ เอ หรือว่ายังไงกัน



"เอ้า เข้ามาสิ ถอดผ้าขนหนูออกด้วย อาบด้วยกันเลย เนี่ย ฟองเข้าตาเลย มานี่สิ เดี๋ยวทานสระผมให้"

"แต่อย่าดีกว่า เดี๋ยววันนี้อาบเอง อ้อนก็เดี๋ยวค่อยอาบต่อจากทานก็ได้ ทานอาบแป๊บเดียว"

ครับผม ได้ครับท่าน กระผมยินดีทำตามที่ท่านสั่งทุกประการ

อ้อนรีบวิ่งหนีออกจากห้องน้ำแทบไม่ทัน เมื่อสายตาของตัวเองมองเลยไปถึงไหนต่อไหนเลยไปถึงทุกส่วนสัดของร่างกายของคนที่ยืนอาบน้ำสบายใจอารมณ์อยู่ในห้องอาบน้ำ

ใจเต้นแรง ร่างกายสั่นสะท้าน จนต้องเอามือกุมหน้าอกเอาไว้แล้วค่อย ๆ ทรุดกายลงนั่งบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

หน้าร้อนวูบ และเริ่มรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย

แง แง กูจะตายเพราะการทำเรื่องอย่างว่ากะคุณชายทานตะวันมั้ยวะเนี่ย ทำไมมันถึงได้ตื่นเต้นแล้วก็ทำให้รู้สึกกลัวได้มากขนาดนี้วะ จะทำยังไงดี ใครก็ได้ช่วยด้วย

อ้อนลงไปนั่งหน้าแดงอยู่บนพื้นและยกมือขึ้นลูบไล้แก้มของตัวเองอย่างเป็นกังวล

โห่ ร้อนวูบขนาดนี้เลยเหรอ แล้วนี่เลือดกำเดาจะไหลมั้ยวะเนี่ย ใจเย็น ๆ ใจเย็นไว้ ใจเย็นเข้าไว้ไอ้อ้อนอย่าคิดมาก ๆ ใจเย็น ๆ ใจเย็น

สองมือยกขึ้นสะบัดไปมาเพื่อไล่ความร้อนออกจากร่างกาย นับหนึ่งถึงร้อยเพื่อให้ใจเย็นมากกว่านี้

แต่ทันทีที่สมองเริ่มสั่งการภาพร่างกายที่เปียกปอนไปด้วยหยดน้ำและเรือนร่างที่ได้เห็น

เมื่อนึกถึงก็พาลจะไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาดื้อ ๆ

เอาแน่เหรอวะ แน่เหรอเนี่ย กลัวนะโว้ย ไม่ใช่ไม่กลัว จริงสิ แล้วมัน ทำเรื่องอย่างนั้นเป็นด้วยเหรอ

รู้วิธีมีอะไรกับผู้ชายหรือไง

เฮ้ยยยยยยยย....

แล้วยังไงต่อเนี่ย

อย่าบอกนะว่า ไอ้ทานมันจะ จะ จะ อร๊ากกกกกกกกกกกกกกก ไม่เอาด้วยคนนะโว้ยทำตรงนั้น ตรงโน้น ตรงนี้กันงั้นเหรอ จริงเหรอเนี่ย จริงใช่มั้ย หรือไม่จริง หรือจริง ใครก็ได้ช่วยตอบทีว่ามันยังไงกันแน่เนี่ย

"เอ้า อาบน้ำได้แล้วอ้อน ไปนั่งทำอะไรบนพื้น นั่งรอบนเตียงก็ได้นี่ "

มาไม่ให้สุ้มไม่ให้เสียง แล้วดูสภาพพี่ท่าน นุ่งผ้าขนหนูตัวเดียว เดินหัวเปียกโชกมายืนทำหน้าเซ็กซี่อะไรตรงนี้

"ไปอาบน้ำได้แล้ว เร็ว ทานอาบแค่สิบนาทีอ้อนก็อาบแค่สิบนาทีพอ แล้วไม่ต้องใส่เสื้อผ้าออกมานะ ไม่อยากจะบอกว่เป็นคำสั่ง รู้ไว้บ้างก็ดีว่าเสื้อผ้าไม่จำเป็น"

เหวอสิครับ เสื้อผ้าไม่เห็นจำเป็น เหอ เหอ เหอ เอาจริงเหรอครับเนี่ย

ทานตะวันพูดออกมาทั้งที่ยังทำหน้าเฉย แถมยังก้มลงไปคว้าผ้าขนหนูมาโยนคลุมที่ศรีษะของอ้อนซะอีก

ส่วนตัวเองเดินไปคว้าผ้าขนหนูอีกผืนมาเช็ดที่เส้นผมและยืนทำหน้านิ่งเฉย อยู่หน้ากระจกไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยสักคำทั้งที่ภายในใจกำลังครุ่นคิด

หนูน้อยแก้มแดงครับ ให้มันรู้กันไปเลยว่าลงทุนทำขนาดแล้วจะไม่รู้สึกจนจิตใจเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนต่อไหน

คอยดูเถอะ จะทำให้ลืมผู้หญิงคนนั้นให้ได้

แล้วจะทำให้หลงรักทานเหมือนที่ทานหลงรักอ้อน

จะทำให้อ้อนไม่ไปมองหาใครอีกเลยตลอดชีวิตนี้ เพราะทานจะยึดอ้อนไว้เป็นของทานคนเดียวเท่านั้น

อ้อนค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนจะแอบเหลือบสายตามองหน้าคนที่ยืนนิ่งอยู่หน้ากระจก

ทำไมแม่งเฉยได้ขนาดนี้วะ หรือว่าไม่จริงที่ว่ามันขอมีอะไรด้วย

หรือว่าจะหูฝาดคิดไปเอง เหอะ เหอะ เหอะ

มึงหนอไอ้อ้อน มึงต้องบ้าคิดไปเองแน่เลย

อ้อนยังคงคิดปลอบใจตัวเองและเดินถือผ้าขนหนูก้าวเท้าเดินเข้าห้องน้ำไป ปลดเสื้อผ้าออกวางทิ้งไว้และยืนเปิดน้ำให้น้ำรดหัว เผื่อความเย็นจะช่วยให้หายบ้าได้บ้าง

เฮ่อ เจอน้ำเย็น ๆ เข้าไป

รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย

มือกำลังจะคว้าหยิบแชมพูมาสระผมแต่มีคนส่งขวดแชมพูให้ ไม่ต้องหันไปมองให้เสียเวลาก็รู้ว่าเป็นใคร เพียงเท่านั้นอ้อนก็แทบทรุดนั่งกับพื้นเพราะรู้แล้วว่าเวลานี้ตัวเองกำลังต้องเผชิญหน้ากับใคร ทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่าและอยู่ในสภาพที่ทำให้เลือดหมดตัวได้ง่าย ๆ

ม่ายจริง ท่านครับ ท่านทานตะวันท่านจะเข้ามาทำไมล่ะโว้ยยยยยยย เข้ามาทำอะไรตอนนี้ หน้า...หน้า...

หน้าแดงไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย


...........
อ้อนเตรียมก้าวขาออกจากห้องอาบน้ำเพราะดูท่าว่าขืนอยู่ต่อเลือดคงได้ไหลทะลักหมดตัวแน่

แต่อ้อมแขนของทานตะวันที่คว้าร่างเอาไว้ ทำให้หนีไปไหนไม่ได้ กำลังจะอ้าปากพูด แต่ปลายจมูกที่กดลงที่ซอกคออย่างรวดเร็วและคลอเคลียไม่ยอมห่าง ทำให้ถึงกับสะดุ้งสุดตัว และยืนตัวเกร็งนิ่งค้างขยับร่างกายไม่ได้อยู่ภายใต้สายน้ำเย็นฉ่ำที่ยังคงหลั่งรินลงรดร่างกาย

"ปล่อยให้หนูน้อยแก้มแดงอาบคนเดียวก็ขาดทุนน่ะสิ เรื่องอะไรจะยอมง่าย ๆ ไหนดูซิ รู้สึกไปถึงขนาดไหนแล้ว"

ไม่ใช่แค่ปลายจมูกที่กำลังซุกไซร้อยู่แต่รวมไปถึง ฝ่ามือร้อนรุ่มที่โอบรัดอยู่ที่รอบเอวค่อย ๆ ระเรื่อยลงมาที่จุดกึ่งกลางของร่างกายของคนที่ยืนตัวแข็งทื่อ ตาค้าง

"อ่ะ ทะ ทาน ยะ อย่า อย่า อ๊ะ"

ยังไม่ทันพูดจบอ้อนต้องรีบใช้ฝ่ามือคว้าร่างกายบางที่แข็งของตัวเองเอาไว้กลัวจะถูกแตะต้องและหยอกเย้าให้รู้สึกไปมากกว่านี้

ใบหน้าเนียนแดงซ่านเมื่อก้าวเท้าถอยหนีแล้วสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่แข็งแกร่งกำลังเสียดสีอยู่บริเวณสะโพกจนสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนตัวโตที่กำลังหอบหายใจหนักและซุกไซร้ทั้งจมูกทั้งปากลงที่ลาดไหล่บาง

"อ้ะ ขอแตะหน่อยไม่ได้หรือไง หือ ปล่อยมือเถอะนะ...แล้ว...ลองมาแตะตรงนี้ดีกว่า"

น้ำเสียงหอบกระเส่าที่กระซิบแผ่วที่ข้างหู ฝ่ามือที่ลูบไล้ไปมาที่หน้าท้อง

อ้อนไม่คิดว่าตัวเองจะมีชีวิตปกติสุขได้อีกแล้ว วิงเวียหน้ามืดขึ้นมาดื้อ ๆ แต่มีหรือที่คนอย่างทานตะวันจะยอมปล่อยง่าย ๆ

กว่าจะทำให้ยอมได้ กว่าจะทำให้เลือกได้ กว่าจะได้มาเก็บไว้ทั้งหัวใจ

ต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกัน

ไม่เคยทำให้ใครมากขนาดนี้ แล้วอยู่ดี ๆ จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้ยังไง

"ทาน ทาน เฮ้ยทาน ตัวร้อนจนจะไหม้แล้ว ขอยกเลิกตอนนี้ได้มั้ยนะทานนะ ขอยกเลิก ฮื่อ อื้อ"

ไม่มีเสียงพูดไม่มีเสียงร้องประท้วงออกมาอีก

ฝ่ามือร้อนผ่าวของคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังประคองใบหน้าของอ้อนที่ยืนตัวสั่นให้หันกลับมาเพื่อรับรสสัมผัสจากริมฝีปากที่แตะประทับลงมาเพื่อหยุดคำพูดที่ไม่อยากได้ยิน
...................

เพียงไม่นาน ความรู้สึกทั้งหมดกลับถูกดูดกลืนหายไปกับรสสัมผัสหวาน ๆ ร้อนรุ่ม

ทั้งที่ในคราวแรกเหมือนถูกบังคับยัดเยียดให้ตอบรับแต่รสชาติหวาน ๆ ที่ปลายลิ้นที่ได้สัมผัสกลับทำให้อยากตอบโต้และลองลิ้มชิมรสชาติของอีกฝ่ายไม่ต่างกัน

"ฮื่อ..อื้อ"

ปลายลิ้นนุ่มชื้นตอบรับพัวพันกระหวัดแนบแน่นกับคนตัวโตที่ถ่ายเทความร้อนรุ่มส่งมาให้ชิมรสชาด

อยากจะผละหนีห่าง แต่กลับถอนตัวไม่ขึ้นเมื่อได้ลิ้มลอง

รสจูบหวาน ๆ ที่ทำให้มึนเมา ไม่เป็นตัวของเอง จนทำให้ลืมความรู้สึกเขินอายไปชั่วขณะ และรู้สึกเพลิดเพลินกับสัมผัสที่ได้รับอย่างไม่น่าเชื่อ

สายน้ำที่รินรดร่างกายไม่ได้ทำให้ความร้อนรุ่มลดลงได้แม้สักนิดเดียว

"หนูน้อยแก้มแดง...ขอให้ทานได้กอดไว้หมดทั้งตัวเลยเถอะนะ"

น้ำเสียงทุ้มนุ่มกระซิบแผ่วเบาอยู่ที่ข้างหูของคนที่ไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนได้อีก ปลายจมูกโด่งของคนพูดจูบซ้ำหนัก ๆ ที่ข้างผิวแก้มเนียนแดงระเรื่อยจนสัมผัสได้ถึงไอร้อนตลอดเวลา

คนฟังไม่มีสติรับรู้ หลับตานิ่ง ไม่ยอมปรือตาขึ้นดูเมื่อถูกประคองให้เดินออกมาจากห้องอาบน้ำทั้งที่ไร้เรี่ยวแรงและไม่หลงเหลือความรู้สึกที่เป็นตัวของตัวเองอีกแล้ว

ผ้าขนหนูถูกคว้ามาคลุมร่างกายของคนตัวเล็กที่ทำหน้าตายั่วยวนชวนให้หลงรัก

ลมหายใจที่หอบหนัก ริมฝีปากแดงช้ำที่กำลังรอรับความรู้สึกอีกครั้ง

ผิวแก้มและทั้งร่างกายแดงระเรื่อเมื่อถูกฝ่ามือร้อนรุ่มโลมไล้แตะสัมผัสอย่างเป็นเจ้าของ

"ไหวมั้ย ทานจะเช็ดตัวให้ก่อนนะ...เปียกไปหมดทั้งตัวแล้ว"

ทานตะวันประคองร่างของคนที่ได้แต่ขบริมฝีปากแน่น และพยายามเบี่ยงใบหน้าหนีทั้งที่ไม่ว่าหลบยังไงก็คงหลบไม่พ้น

เสียงหัวเราะแผ่วเบาของคนตัวโตช่างแกล้งยิ่งทำให้อ้อนหันหน้าหนีและด้วยความอาย ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรได้มากกว่านี้

"ตื่นซะขนาดนี้....ไม่ยักรู้ว่าหนูน้อยแก้มแดงเป็นพวกเครื่องติดไว"

ถูกพูดให้อับอาย แต่อ้อนก็ทำได้แค่ขบริมฝีปากตัวเองแน่น ในขณะที่ดวงตาที่หรี่ปรือได้แต่มองไปตามลาดไหล่กว้างเปลือยเปล่าของอีกฝ่าย ไม่กล้ามองต่ำลงมากว่านั้น

สิ่งที่รับรู้ได้คือทานตะวันเองก็มีอารมณ์ความรู้สึกไม่ต่างกัน

"อ้อน ได้ยินที่ทานพูดมั้ย อ้อนทำไมตาลอยแบบนี้ล่ะ"

ทานตะวันที่ยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เอ่ยถามอ้อนที่ยังคงนิ่งนิ่งอยู่ในอ้อมแขนก่อนที่จะลงมือซับหยดน้ำจากร่างเปลือยเปล่าน่ามองและเอ่ยถามซ้ำ ๆ หลายครั้ง ทั้งที่ปลายจมูกยังคลอเคลียลาดไหล่ของคนในอ้อมแขนเล่น และบีบเคล้นเนื้อตัวที่ร้อนรุ่มของคนที่นั่งนิ่ง ๆ ทำตาเชื่อมและทำหน้าตาน่ารักให้ได้เห็น

.................

"จะเป็นลม"

คำตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ได้ใจความทำให้ทานตะวันถึงกลับกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ไม่ไหว รีบสะบัดผ้าขนหนูทิ้งและโอบประคองร่างในอ้อมแขนให้เอนราบลงนอนกับพื้น ส่งยิ้มหวาน ๆ ให้กับคนที่นอนตาปรือ และหันหน้าหนีไม่ยอมสบตา และค่อยๆ ก้มลงแตะหน้าผากเข้ากับหน้าผากของอ้อนและจูบซ้ำเบา ๆ ที่ข้างแก้มแดงเรื่ออีกครั้ง

"เราก็อาบน้ำด้วยกันออกบ่อยนะ แต่วันนี้ตื่นเต้นสุด ๆ ไปเลย รู้มั้ยว่า...ทั้งร่างกายและหัวใจของทานหลงรักอ้อนจนรู้สึกได้มากขนาดนี้แล้วเห็นมั้ย"

ปล่อยให้ตายไปตรงนี้เลยก็ได้นะทานเอ้ย แค่อายคงไม่พอใช่มั้ย ไม่รู้หรือไง ว่ารู้สึกกัยเรื่องแบบนี้มามากกว่าชั่วโมงแล้ว ไม่ยอมทำอะไรซะทีแบบนี้หมายความว่ายังไง ไม่ต้องเล้าโลมกอดจูบแล้วก็ได้ ขอร้องล่ะ

แค่นี้ก็จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ว่าทั้งอายทั้งอยากทำจนจะสะกดกลั้นเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว ขอร้องเถอะนะ อยากจะทำอะไรก็รีบ ๆ ทำซะที อย่าพูดมากได้มั้ย จะทนไม่ไหวแล้วนะโว้ย

อย่าพูดอะไรอีกเลย ไม่มีแรงจะตอบหรอกนะในเวลาแบบนี้

ร่างกายมันทรมานซะจนบรรยายเป็นคำพูดออกมาไม่ได้ ขอร้องล่ะทาน ช่วยทำอะไรสักอย่างเถอะ อย่าเอาแต่แกล้งให้อายเลย

"เจ้าชายน้อย ช่วยด้วยเถอะ...ช่วยหยุดพูดแล้วทำอะไรกับร่างกายของเราซะที เราอยากทำจะตายอยู่แล้ว"

เป็นแค่ความคิดในสมองแต่หลุดมาเป็นคำพูด

ทานตะวันชะงักนิ่งและหัวเราะเสียงเบากับประโยคคำพูดของคนที่หลุดพูดความคิดของตัวเองออกมา

ส่วนอ้อนรีบยกมือขึ้นปิดปากของตัวเองเอาไว้แน่นและส่ายหน้าเป็นเชิงอยากจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะพูดอย่างนี้

แต่ก็สายเกินไปแล้ว เมื่อทานตะวันฝังรอยรักลงที่ซอกคอและลากไล้ปลายจมูกอย่างรวดเร็วลงมาที่ลาดไหล่ ทิ้งร่องรอยเอาไว้ทุกหนทุกแห่ง ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ยอดอกสีแดงเข้มที่แข็งขืนขึ้น ขบเม้มดูดดุนอย่างถูกใจและใช้ปลายนิ้วเคล้นคลึงยอดสีแดงเข้มอีกข้าง ปลุกเร้าอารมณ์ความรู้สึกของอ้อนให้ตื่นตัวได้มากยิ่งขึ้น

"อ๊า อา ทาน จะตายแล้ว ฮื่อ "

ฝ่ามือร้อนรุ่มเคล้นคลึงลงมาที่หน้าท้องของคนที่นอนหอบหายใจหนักลากไล้วนเวียนฝ่ามือไปทั่วและค่อย ๆ แตะสัมผัสลงมาที่ความแข็งขืนชูชันเปียกชื้น สัมผัสได้ถึงความข้นเหนอะจากส่วนปลายที่ตั้งชันเพราะความรู้สึกที่อยากปลดปล่อย คลึงเคล้นเพียงไม่นาน และรูดรั้งให้ตามจังหวะที่เจ้าของร่างกายต้องการ

"ชอบมั้ย หือ จะลืมผู้หญิงคนนั้นมั้ย ไหนพูดมาซิ"

อ้อนขบริมฝีปากแน่น และหลุดเสียงครางแผ่วเบาเพราะความรู้สึกที่ถูกปลุกเร้าให้ตื่นขึ้น เอวบางแอ่นร่างขึ้นรับสัมผัสที่ถูกปลุกเร้าอย่างรุนแรง เมื่ออีกฝ่ายแกล้งหยุดมือ ก็ได้แต่ปรือตาขึ้นมอง และร้องครางเสียงเบาในลำคอเมื่อถูกขัดใจ

"ทาน อ่ะ เราทนไม่ไหวแล้ว ขยับมือมากกว่านี้อีก เราทนไม่ไหวแล้วอย่าแกล้งได้มั้ย อย่าแกล้งเลย "

น้ำเสียงที่หอบกระเส่า ร่างกายที่สั่นระริก อยากได้รับการปลดปล่อย และพร้อมจะยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะถูกกลั่นแกล้งมากแค่ไหน

"ให้ทานเข้าไปสิ ยอมให้เข้าไปมั้ย หือ ถ้าอยากให้ทำมากกว่านี้..."

ฝ่ามือแกร่งหยุดการเคลื่อนไหวเมื่อร่างกายสูงใหญ่หยัดกาย เผยให้เห็นทุกส่วนของร่างกายจนหมด

"...เห็นมั้ย..ว่าทานก็อยากทำเหมือนที่อ้อนอยากจะทำเหมือนกันให้ทานเข้าไปได้มั้ย...ได้มั้ย"

ทานตะวันทอดสายตามองใบหน้าที่แดงซ่านพร้อมรอยยิ้มที่บ่งบอกให้รู้ว่าถูกใจกับท่าทางยั่วยวนชวนให้คลั่งไคล้ของอีกฝ่าย และอ้อนก็ได้แต่ส่ายหน้า และเบือนหน้าหนี ไม่กล้าจะมองให้มากกว่านี้ อยากจะร้องไห้ออกมาให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อเห็นบางอย่างที่ไม่น่าจะสอดแทรกเข้าไปภายในร่างกายของตัวเองได้

"พาเข้าไปหน่อยสิ...ถ้ายอมรับเข้าไปได้ทั้งหมด...ทานจะได้รู้ว่าอ้อนเลือกทานแล้วจริง ๆ "

ทานตะวันเอื้อมมือคว้ามือของคนที่นอนนิ่ง และเบะหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ รั้งให้มือเล็ก ๆ ที่สั่นเทาได้แตะต้องร่างกายที่รู้สึกไม่ต่างกัน เหมือนว่าอ้อนจะผละหนีแต่เมื่อถูกสีหน้าและแววตาที่บ่งบอกว่าคงเสียใจที่ไม่ยอมสัมผัสแตะต้องกลับคืนมาบ้างก็ทำให้ต้องยอมทำใจจับต้องร่างกายของทานตะวัน

"อา อ้อน อ้อน พาเข้าไปที อ้อนช่วยพาทานเข้าไปรับรู้ความรู้สึกของอ้อนบ้างเถอะ นะ ขอร้องล่ะ คนดีครับ ขอร้อง"


.................

น้ำเสียงที่ครางกระเส่า ใบหน้าที่บ่งบอกว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมจะระเบิดง่าย ๆ ทำให้อ้อนต้องยอมแยกเรียวขาของตัวเองออกกว้าง เกลี่ยไล้ไปมาที่ช่องทางคับแคบของตัวเอง

และค่อย ๆ ยัดเยียดส่วนปลายร้อนรุ่มใหญ่โตเข้ามาภายในร่างอย่างช้า ๆ

อายแต่ก็ต้องทำ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง

"เจ็บ ไม่เอาได้มั้ย แค่นี้ก็เจ็บแล้ว"

ทานตะวันยอมถอนร่างกายของตัวเองออก และลูบไล้ไปมาที่ส่วนปลายของร่างกายตัวเองอีกครั้ง

"งั้น...."

ฝ่ามือเอื้อมคว้าหลอดเจลใส ๆ ที่วางเอาไว้ใต้หมอนและเทชโลมใส่ส่วนปลายของร่างกายตัวเอง ทั้งที่ดวงตากลมโตยังจ้องมองนิ่ง

"ทำไมมีของแบบนี้ได้ หรือว่า หรือว่า อ๊า"

ไม่มีคำพูดใด ๆ อีก เมื่ออ้าปากจะพูดอีกครั้ง เรียวขาเนียนขาวกลับถูกแยกออกกว้าง ตามมาด้วยการที่ร่างทั้งร่างถูกกดลงกับฟูกนอน

ช่องทางที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสถูกสอดแทรกด้วยปลายนิ้วที่ชโลมความเย็นชื้นจนทั่วและแทรกเข้าไปภายในร่างกายอย่างรวดเร็ว

"โอ้ย เจ็บโว้ย เข้ามาได้ยังไง อ๊า เจ็บจะตายชัก"

เสียงร้องและใบหน้าที่ส่ายหนี ริมฝีปากที่ขบเม้มแน่น และสะดุ้งสุดตัว เมื่อถูกปลายนิ้วเคล้นคลึ่งภายในร่างกายอย่างเชื่องช้า เปิดทางให้สามารถรับความสุขที่จะได้รับอีกไม่นานได้มากขึ้น

"อา อ๊ะ " สะโพกมนแอ่นร่างเหยียดเกร็งค่อย ๆ รับความแปลกใหม่อย่างช้า ๆ และร้องครางเสียงเบา ปลายนิ้วที่เคล้นคลึงภายในร่างกาย แม้ไม่อยากยอมรับ แต่ร่างกายกลับค่อย ๆ ยอมรับอย่างช้า ๆ จากความรู้สึกเจ็บปวดกลายเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัส และเมื่อถูกถอดถอนความคับแน่นนั้นออกไป กลับช่วยเร่งความต้องการของร่างกายให้มากขึ้น

"ฮื่อ"

ปลายนิ้วจิกทึ้งที่ผ้าปูที่นอนค่อยคลายออก ก่อนที่เรียวขาจะเหยียดเกร็งและถึงกับต้องผวาร่างกายขึ้นเกร็งแน่นและโอบเรียวแขนรัดรอบแผ่นหลังกว้างของคนที่สอดแทรกความหฤหรรษ์ที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องยอมรับเข้ามาอย่างรุนแรง

"อ๊า อื้อ ช้า ๆ ไม่ได้หรือไง จะทำให้ตายเลยใช่มั้ย ไอ้เจ้าชายบ้า เจ็บนะโว้ย ฮือ"

อ้อนรัวกำปั้นทุบกระหน่ำเข้าที่กลางหลัง และเสียงร้องครางยิ่งทำให้ทานตะวันลอบยิ้มอย่างพอใจและยิ่งกระแทกกระทั้นร่างกายของตัวเองเข้ามาจนสุดแรง จนลืมนึกถึงความรู้สึกของคนที่ต้องรองรับความรู้สึกรุนแรงนี้


..............
"อึ้ก สุดแล้วอ้อน ฮ่า อย่ามางอแงตอนนี้นะ...จะไม่ให้มีเวลาคิดถึงยัยบ้านั่นเลย"

ชอบมั้ย ดีมั้ย หือ แบบนี้ถูกใจหรือเปล่า จะลืมผู้หญิงคนนั้นได้แล้วใช่มั้ย ถ้าไม่ยอมเลิกไปให้เด็ดขาดล่ะก็จะทำให้ขาดใจตายไปเลย

ให้มันรู้กันไป ว่าจะยังจำผู้หญิงคนนั้นได้อีก

"ฮือ เจ็บ ออกไปนะ เอาออกไปเลย เอาออกไปเดี๋ยวนี้ แกล้งกันชัด ๆ ทำเพราะแค้นหรือไง บอกมาสิว่าทำเพราะแค้น จะบังคับให้ลบความทรงจำใช่มั้ย ฮือ ไอ้ทานบ้า ไอ้คนเลว ออกไปเดี๋ยวนี้ เอาออกไปนะโว้ยยยยย"

เพราะว่าเล่นสนุกมากเกินไป เห็นการแสดงความรักทางกายเป็นเรื่องสนุก

ทานตะวันชะงักนิ่งทั้งที่กำลังตื่นตัวอย่างถึงที่สุดอยู่ภายในความคับแน่นของร่างกายของคนที่นอนร้องไห้

โธ่โว้ยยยยยยยยย ไม่น่าเลย ไม่น่าทำให้อ้อนต้องรู้สึกแบบนี้เลยแต่จะให้ทำยังไง ในเมื่อยังไปไม่ถึงที่สุดของอารมณ์เลยสักนิด

ขอโทษนะ ขอโทษ ขอโทษที่ไม่คิดถึงใจของอ้อนเลย เอาแต่คิดถึงเรื่องของตัวเองขอโทษที่เอาแต่พูดจาร้าย ๆ ขอโทษนะ ขอโทษ

ทานตะวันหน้าเสีย เอนกายลงทาบทับร่างของคนรักและประคองใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตาเอาไว้

จูบประทับเบา ๆ ที่ข้างแก้ม แม้คนที่อยู่เบื้องล่างจะผลักไสให้ออกห่าง

"ขอโทษนะ ขอโทษ โอ๋ โอ๋ อย่าร้องไห้เลย ปลอบใจใครไม่เป็นไม่รู้หรือไง ไม่บังคับแล้วนะอ้อน ทานไม่บังคับหนูน้อยแก้มแดงแล้ว นะครับนะ อย่าร้องไห้เลย โอ๋ โอ๋ นิ่งซะนะคนดี"

เสียงกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู ฝ่ามือที่สอดประสานเข้ากับฝ่ามือเล็ก ๆ เอาไว้แน่น

ทำให้คลายความรู้สึกเจ็บปวดลงไปได้บ้าง

"เอาออกก็ได้นะ เอาออกแล้ว ไม่ทำแล้วนะ อย่าร้องเลย"

ความคับแน่นเตรียมถอดถอนออกจากร่าง แต่เรียวแขนของคนที่ยังคงนอนร้องไห้กลับโอบรัดรอบแผ่นหลังของทานตะวันเอาไว้แน่น

"ไม่ ไม่ ต้องออก ออกแล้วก็ได้ แต่ทำเบา ๆ ได้มั้ย มันเจ็บ"

เพราะว่าอ้อนก็รักทาน

ถึงได้บอกว่าเจ็บก็ยอมได้

เพราะว่าทานตะวันง้อแล้ว

ถึงได้ยอมลดความน้อยใจลง

เพราะว่า อารมณ์เพริศไปถึงขนาดนี้แล้ว จะให้หยุดกลางคันใครจะไปทำได้

ไม่รู้เหตุผลจริง ๆ ว่าเพราะอะไรถึงได้ยอมเปิดรับและนิ่งรอการบอกรักทางร่างกายของอีกฝ่าย ด้วยการแยกขาออกให้กว้างขึ้น

"จริง ๆ นะ ไม่โกรธแล้วนะ งั้นคราวนี้จะไม่แกล้งแล้ว"

สะโพกแกร่งขยับกายบดเบียดอย่างเชื่องช้าเนิบนาบ กลัวว่าจะเป็นการทำหนูน้อยแก้มแดงที่น่ารักต้องรู้สึกแย่ ก่อนจะเริ่มกระแทกกระทั้นร่างกายเข้าหาเร็วขึ้น เมื่อรู้ว่าร่างกายเริ่มปรับให้ยอมรับได้มากขึ้นแล้ว

เม็ดเหงื่อใส ๆ หยดรินรดร่างกายเหมือนเพิ่งออกกำลังกายมาหนัก ๆ แต่ภายในที่ตอดรัดอย่างรุนแรงกลับยิ่งเร่งเร้าให้ไม่สามารถหยุดพักได้
..................
"อ๊า อ้อน รักทานให้มาก ๆ กอดทานให้แน่น ๆ อ๊า"

จังหวะร่างกายของคนที่ต้องรับความแข็งแกร่งถูกเร่งเร้ามากขึ้น ทั้งความเปียกชื้นที่เสียดสีไปมาที่หน้าท้องจนลุกชัน ก่อนจะถูกฝ่ามือแกร่งรูดรั้งให้อย่างรุนแรง และแอ่นกายขึ้นสูงอีกครั้ง เพราะถูกกระแทกบดเบียดคลึงเคล้นเข้าหา

"อึก อื้อ ทาน อ่ะ"

เสียงร้องครางของคนที่ถูกบดเบียดร่างกายยิ่งช่วยเร่งเร้าแรงอารมณ์ให้โหมกระพรือ และอยากรู้จักร่างกายของกันและกันให้มากขึ้น

ร่างสองร่างที่สั่นสะท้าน เรียวแขนที่โอบกอดแนบแน่น

จังหวะร่างกายที่สอดประสานกันอย่างลงตัวและยิ่งแรงรัวขึ้นทุกขณะ

"โอ้ย ทาน อ้อนไม่ไหวแล้ว อ๊า อึก อื้อ"

หยาดหยดที่ถูกกักเก็บมานานถูกปลดปล่อยออกมาจนหมดสิ้น พร้อมความรู้สึกที่เหมือนถูกฉุดกระฉากอยากรุนแรง

ความร้อนรุ่มที่ได้รับ จังหวะร่างกายที่สอดประสานกันอย่างรุนแรงเมื่อกระแทกกายเข้าหาและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน

"ฮื่อ อ่ะ อือดีที่สุดเลยอ้อน อ่ะ อื้อ"

ทานตะวันกดแนบร่างกายลงมาอีกครั้งและแอ่นร่างเกร็งสะท้านเมื่อถูกความอบอุ่นที่โอบรัดร่างกายเอาไว้ บีบรัดอย่างรุนแรงเมื่อกระแทกกายลงมาเป็นครั้งสุดท้าย ร่างกายที่ถูกเก็บกดเอาไว้ถูกปลดปล่อยออกมาเป็นหยาดหยดหลั่งรินภายในช่องทางที่บับรัดจนหมดสิ้น

ทานตะวันนิ่งซบใบหน้าลงที่ซอกคอของอ้อนที่หลับตานิ่ง เรียวแขนที่โอบรัดที่รอบคอยังคงกอดรัดแนบแน่นไม่ยอมปล่อย

ลมหายใจที่หอบเหนื่อยและดวงตาที่หรี่ปรืออีกครั้ง กลับทำให้รู้สึกเป็นสุขมากกว่าที่เคยเป็น

"อ้อน เหนื่อยจังเลย เหนื่อยอะไรขนาดนี้ มีความสุขหรือเปล่า ชอบมั้ย หือไหนบอกซิว่าชอบหรือเปล่า"

น้ำเสียงที่เอ่ยถาม นัยน์ตาคมพราวระยับที่มองมาเหมือนหยอกล้อ

"ทาน เลือดจะไหลออกมาจนหมดตัวหรือเปล่าแบบนี้"

คนที่นอนนิ่งเงียบ เอ่ยถามออกมาด้วยความกังวลและยังคงหลับตานิ่ง

"เลือดไม่ไหลหมดตัวหรอกอ้อน แต่คงมีอย่างอื่นที่ต้องไหลจนหมดตัว"

ทานตะวันอมยิ้มและตอบออกมาเสียงแผ่วเบา ทั้งที่ยังหอบหายใจหนักส่วนคนฟังได้แต่ยกมือขึ้นปิดบังใบหน้าของตัวเองเพราะไม่รู้ว่าต้องทำยังไง

จนถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่อาย เพิ่งมารู้สึกอายเอาตอนที่ถูกล้อ

ทำไมถึงบ้าบอได้มากขนาดนี้

ทานตะวันนิ่งมองท่าทางแปลก ๆ ของอ้อนและได้แต่อมยิ้มไม่ได้พูดอะไรออกมา ไม่อยากจะต้องแกล้งให้คนน่ารักคนนี้ต้องอายมากไปกว่าที่เป็น

ร่างกายสูงใหญ่หยัดกายขึ้นอย่างช้า ๆ และถอดถอนร่างกายออกจากความคับแคบตึงแน่นทั้งที่ยังรู้สึกเสียดายความอบอุ่นที่โอบรัดเอาไว้

"ถ้ารู้ว่าทำอย่างนี้มันรู้สึกดีขนาดนี้ ทำไปตั้งนานแล้ว ไม่น่าปล่อยให้หนูน้อยแก้มแดงหนีรอดมาได้ตั้งนาน สองนาน"

ไอ้คุณชายทานตะวัน ไอ้บ้า ทั้งเจ็บ ทั้งเหนื่อย ทั้ง.......มันยังมาพูดเล่น

ไม่เอาแล้ว ไม่พูดแล้ว ยิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่ ไม่รู้จะทำหน้ายังไงแล้ว

"หลับตาซะคนดี นี่คือ คำสั่ง พักผ่อนนอนเถอะนะ วันนี้ทานจะไม่รังแกอ้อนอีกแล้ว หลับตาซะหนูน้อยแก้มแดง"

คำพูดที่ปลอบโยนอ้อมแขนที่กอดรัด ความหวานชื่นที่ได้รับ ทำให้อ้อนยอมหลับตาลงง่าย ๆ ภายในอ้อมแขนอบอุ่น

สิ่งที่รับรู้ได้ในตอนนี้ คือจะไม่ยอมเลือกใครอีกแล้ว

จะเป็นคนของทานตะวันเพียงคนเดียวเท่านั้น จะปลอบใจ จะอยู่เคียงข้าง และอยู่ด้วยกันให้นานแสนนาน

และตลอดไป

TBC...


 
โดย aoikyosuke 
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 11-06-2007 00:57:03
อ่านมะยู๋เยื่องเยยอ่ะเรย์
 :pighaun: :pighaun: :pighaun:

เค้าอ่านแล้วน้ำตาไหลได้ไงอ่ะ
 o7
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 11-06-2007 01:02:05
เป็นของกันและกันแล้ว  :o8:


 :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 11-06-2007 02:15:20
 :haun5: :haun5:  เสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับอ้อน   :teach: :teach:ต่อไปก็คงต้องคุยกันดีๆนะครับทาน  อย่ามัวแต่คิดจะครอบครองอ้อนไว้อย่างเดียวจนลืมคิดถึงจิตใจอ้อนล่ะครับ :myeye: :myeye:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 11-06-2007 09:39:01
และแล้วก็เป็นของกันและกัน   :haun5:

หวังว่าจามีความสุขกันต่อไปนะ

อิอิ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 11-06-2007 10:07:51
โหดีใจด้วยในที่สุดก็จบลงด้วยดี  o7
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 11-06-2007 10:10:42
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกซ์  :haun4:

สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดด เลย คู่นี้ กว่าจะอ่านทัน แถมทันตอน ......... เหอ เหอ พอดีเลย

หวังว่าคงไม่มีอะไรค้างคาแล้วนะ


ลุงเรย์ ต่อด่วนค๊าบบบบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 11-06-2007 10:49:30
โอวววว  สุดยอดด้วยคน  :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
ในที่สุดอ้อนก็มีวันนี้  ลุ้นระทึกมานาน  เขินแทนอ้อน  :-[  :-[  :-[

จากนี้ขอให้มีกันและกันตลอดไป 
รออ่านต่อนะเรย์ :impress2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 11-06-2007 11:08:40
อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาา  o17   o17   o17   o17  ในที่สุดก็ได้อ่านฉากซ๊าาาาาาที    :laugh3:

ทานกะอ้อนน่ารักมั่กมากกกกเลยอ่ะ หุๆๆๆ  น่านสินะ "ถ้ารู้ว่าทำอย่างนี้มันรู้สึกดีขนาดนี้ ทำไปตั้งนานแล้ว ไม่น่าปล่อยให้หนูน้อยแก้มแดงหนีรอดมาได้ตั้งนาน สองนาน"  เห็นด้วยกับทานตั้งนานแล้ววววววววว แหม...รู้ช้าเจรงๆ ไอ้เราก็ลุ้นจนก้นนั่งไม่ติดเก้าอี  ..อ่า..ซาบซึ้ง  o7    o7   o7 

ขอตัวไปหุงข้าวแดงก่อนนะคะ  วี๊ดวิ้ว!!!~   :impress2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 11-06-2007 13:23:00
แอแอ ในที่สุดก็ได้อ่านฉากนี้ของอ้อนกับทาน น่ารักมากเลยทั้งคู่  :-[

แต่กว่าจะได้อ่านจบนี้สิ อ่านไปได้ 5 บรรทัดก็ถูกเรียกประชุม

ไม่เข้าก็ไม่ได้ รีบไปประชุมทั้งน้ำตา  :o12: เพราะกำลังอ่านติดพันธ์เลย

แต่พอได้มาอ่านต่อ นี้คุ้มกับที่รอจิงๆ อิอิ :-[

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Electrolyte ที่ 11-06-2007 15:18:51
เป็นของกันและกันแล้วเย้ๆๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: AcOustic_Guitar ที่ 11-06-2007 16:03:06
อิอิ ในที่สุดก็ได้กันสักที อิอิ  :like6:  :-[
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 11-06-2007 17:04:11
 :like6:คืนนี้ต้องออกไปฉลองซะหน่อยน้องๆเป็นฝั่งเป็นฝาไปแร้ว  o15 o15 o15
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 11-06-2007 18:01:27
ได้กันแล้วเหรอ

ยังไม่ได้อ่านอะ แปะไว้ก่อน

งานยุ่งโคดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 11-06-2007 18:07:45
และแล้ว ทานก็ทำสำเร็จ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-06-2007 18:49:16
หุหุ ตอนนี้ที่รอคอย  o7  o7  o7
รู้สึกว่าเรตติ้งทะลุเพดานแล้ววววววววววว  เม้นต์กันตรึม  :laugh:  :laugh:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 11-06-2007 18:55:50
 :impress: :impress:  มารอความคืบหน้าคร้าบ  :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 11-06-2007 21:29:32
ทาน ม่ใช่ย่อยนะเนี่ย  มีเตรียมตัวช่วยด้วย


 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 11-06-2007 22:39:37
เห็นภาพมากมายเลยอ่ะคับ 555  :impress2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: a22a ที่ 12-06-2007 02:20:01
ในที่สุดอ้อนก็ตกเป็นของทานเสียที ชอบตอนนี้มากเลยคับน่ารักดี
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 12-06-2007 08:28:52
คุณเรย์ยังม่ายมาต่ออีกเหยออออ


เปนกำลังใจให้เอาไป 1+  อิอิ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 12-06-2007 10:45:41
รออยู่น่ะคราบ :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-06-2007 11:43:13
มาทันแระ

แล้วงัยต่ออะ

อยากรู้อะ

มาต่อด่วนคร้าบบบบบ

เอางี้นะ หนูบลู 10 เมนท์ 10 บวก

แต่ถ้าเกิน 10 เมนท์แล้วยังไม่มาต่อ เมนท์ ละ 1 ลบ 


 :o11:

ให้มันรู้มั้ง ว่าจะขาดใจตายยยยยยยย

ใครเห็นด้วยลงชื่อด่วนคร้าบบบบบ












ลป.

เมนท์นี้ 23 แล้วหนา ขอบอก

 o18
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 12-06-2007 12:57:02
อ้างถึง
เอางี้นะ หนูบลู 10 เมนท์ 10 บวก

แต่ถ้าเกิน 10 เมนท์แล้วยังไม่มาต่อ เมนท์ ละ 1 ลบ 


อิอิ ถ้าทำจิงมีหวังได้อ่านเรื่องนี้ วันละ 3 ตอนแน่ๆ อิอิ  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 12-06-2007 13:20:22
เห็นด้วยกับหมูพูห์ o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 12-06-2007 18:05:02
เห็นด้วยอย่างแรงเลย พูห์.......

แต่สงสารเพื่อนอ่ะ เพราะงั้น เพื่อนเรย์ค๊าบบบบ มาต่อโดยด่วน รอมานานล่ะ  :undecided:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 12-06-2007 19:02:08
อิอิ เพื่อนๆให้กำลังใจแบบนี้จะรีบมาโพสนะครับ
 :impress:
**********
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ก็เพราะว่าเรากัดกัน

เนี่ย....คนเนี้ย เนี่ยแหละคนเนี้ยแหล่ะ หันไปมองที่ไหน เนี่ย คนที่นั่งใกล้ ๆ นี่ไง
น่ารักนะ

แบบว่า.........คนมันน่ารัก ก็เลยอยากอวด เนี่ย แฟนผม เป็นไง น่ารักเปล่า น่ารักจริง ๆ ใช่มะ ไม่เชื่ออีก....ดูสิ น่าร้ากกกกกกกจริง ๆ นะ

ทานตะวันนั่งท้าวคางมองหน้าของอ้อนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มองไปมองมา มองแล้วก็จ้อง
จ้องแล้วก็อมยิ้ม แถมยังเอียงคอทำหน้าตาใสซื่อ ยิ้มกริ่มไม่ยอมหันหน้าไปมองที่อื่นเลยสักนิด

"มองอะไร ไม่กินข้าวเหรอ ข้าวต้มออกจะน่ากิน"

จ๋า ข้าวต้มน่ากินเหรอจ๊ะ จ่ะ น่ากิน เนอะ น่ากิ๊น น่ากิน
ตามองหน้าคนที่ใช้มือจับช้อนคนข้าวต้มในชามไปมา หูฟังที่อ้อนพูด แต่ใจกลับคิดไปคนละทาง แล้วก็นั่งหัวเราะเสียงเบากับความคิดของตัวเองอยู่คนเดียว
จนคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง

"อ้อนก็น่ากิน....เนอะ"

พูดไปแล้ว...แล้วก็ส่งสายตาหวานซึ้งไปให้คนที่แทบสำลักข้าวต้ม

"แค่ก ๆ เฮ้ยนี่มันคน....กิน...ไม่..ดะ...ทานทำอะไร คนเต็มเลยนะ"

พูดไม่ทันจบประโยคก็ต้องรีบปล่อยช้อนที่ถือเอาไว้ เพราะทานตะวันเอื้อมมือรั้งมือข้างที่ว่างไปแตะที่ปลายจมูก จะสะบัดหนีก็ไม่ได้ จะลุกขึ้นเดินหนีก็คงไม่ถูก
ได้แต่พยายามรั้งมือของตัวเองกลับ แล้วก็ได้เห็นว่าทานตะวันทำหน้างอด้วยความน้อยใจ

"อะไรเล่า จับมือแค่นิดเดียวก็ไม่ได้เหรอ...ไม่มีใครมองหรอกน่า...แล้วดูสิตื่นมาตอนเช้าแทนที่จะปลุกไม่มีเลยปล่อยเรานอนหนาวคนเดียวอยู่ได้"

เสียงบ่นงึมงำของคนตัวโตทำให้อ้อนนึกย้อนไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แล้วก็แทบอยากจะปล่อยช้อน ลุกขึ้นเดินหนีไปให้ไกล ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะหนีไปไหน
เพราะเมื่อลุกขึ้นยืนทานตะวันก็ตามประกบไม่ยอมปล่อย แถมมือไม้ก็ยุกยิกไม่อยู่สุขจะกอดเอวบ้างล่ะ จะโอบไหล่บ้างล่ะ
ต้องคอยหลบสายตาคนที่มองมาอย่างสงสัย เดินออกมาไกล และค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินอย่างช้า ๆ ท่ามกลางอากาศที่แสนสดชื่นในยามเช้า

"กอดได้มั้ยล่ะ หนาวจะตาย...."

เพราะสายตาที่มองมาเหมือนเอ็ดอยู่ในที ทำให้ทานตะวันหน้างอแล้วก็บ่นพึมพำเสียงเบา

"โอเคไม่ให้กอดก็ได้ ดีเลย จำไว้เลยนะ จำไว้"

ไม่ใช่ไม่ให้กอด แต่จะกอดกันเข้าไปได้ยังไง มันเขินโว้ยยยยยยยยยย พาลจะคิดถึงแต่เรื่องเมื่อคืนอยู่ตลอดเวลา แล้วจะให้ทำยังไงวะ
หน้าเนี่ยเห็นมั้ย หน้าจะไหม้อยู่แล้วไม่เห็นเหรอ

ยังจะแกล้งอีกหรือไง

ทำเป็นนิ่ง ทำเป็นเฉย ตัวเองไม่รู้สึก แต่คนอื่นรู้สึกจนแทบจะคลั่งแล้ว ทำไมไม่รับรู้กันบ้าง
แล้วไอ้ที่ลุกขึ้นมาตั้งแต่เช้าน่ะก็เพราะว่าถ้าขืนอยู่ต่อ คงได้ทำเรื่องอย่างว่ากันอีกแน่ แล้วจะให้ทำยังไงในเมื่อพอคิดขึ้นมาทีไร ใจคอมันก็สั่นไปหมด
ทำตัวไม่ถูก พูดไม่ออก แล้วก็อายซะจนไม่กล้าให้ทานตะวันเข้าถึงเนื้อถึงตัวแล้ว

แล้วจะให้บอกยังไง จะให้พูดยังไง พูดว่ากอดได้งั้นเหรอ ทำไม่ได้หรอกแบบนั้น จะทำได้ยังไงล่ะโว้ยยยยยยยยย

"ทะ ทาน .......เรา..เฮ้ยยยยย"

แล้วนี่มันอะไร ทำเป็นหน้าหงิกหน้างอ ทำเป็นโกรธ แล้วทำไมถึงทำแบบนี้ อะไรของมันอีก ชาวบ้านมองกันใหญ่แล้ว ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะโว้ย ไอ้ทาน ไอ้ ไอ้ โธ่โว้ย จะให้ทำยังไงเนี่ย

"เย่ .... ตัวเบานิดเดียวเอง แบบนี้อุ้มง่ายจะตาย เนอะ...ป่ะ เดินนานแล้วข้าวเช้าก็กินแล้ว กลับขึ้นห้องพักกัน ง่วงแล้ว อยากนอน"

อยากนอน ก็นอนทั้งคืนแล้วไม่พอเหรอ ยังจะนอนอะไรกันอีกนี่มันเพิ่งเช้า แล้วจะไปนอนทำไม

"ปล่อยเหอะ เร็ว คนมองกันใหญ่แล้ว อายเขา ทาน ปล่อยเร็ว ขอร้องเหอะ เดินเองได้น่ะ"

ร้องไปก็เท่านั้น ทำท่าจะดิ้นรนหนีก็ได้แค่นั้น เพราะนอกจากทานตะวันจะไม่ยอมปล่อยแล้ว ยังอุ้มเดินลิ่วๆ ไม่สนใจสายตาของคนที่มองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นเลยสักนิด

อ้อนได้แต่หันไปมองรอบข้างแล้วก็อยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี พูดไปก็เท่านั้น เอ็ดไปก็เปล่าประโยชน์ในเมื่ออีกฝ่ายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แถมซ้ำยังทำหน้าดุ
แล้วก็ทำท่าจะยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มโชว์สายตาชาวบ้านขนาดนั้น

ทำมายมันทำอย่างนี้ว๊า อายบ้างม้าย ชาวบ้านเขาจะคิดยังไงเนี่ย คนมองกันใหญ่แล้วนาคร้าบบบบบ

"ปล่อยเหอะ คนมองกันเต็มเลย"

ก็ให้มองไปสิ แฟนผมจ็บขา ขาเขาเจ็บ แล้วมองกันทำไม ก็แค่บริการแฟน เมื่อคืนก็หักโหมไปขนาดนั้น เช้ามาผมก็อยากให้แฟนผมไม่ต้องเดินให้เมื่อยแค่นั้นเอง
แล้วคุณจะมองกันทำไมครับ อ๋อ รู้แล้ว น่ารักใช่ม้าย ดูสิ ทำหน้าตาเลิ่กลั่ก หันซ้ายหันขวา แล้วทั้งหน้าก็แดงไปหมด ลามไปจนถึงคอแล้ว

อ้อนเอ๋ย หนูน้อยแก้มแดง

หนูน้อยแก้มแดงเพลียแล้วแหละ นี่ไงดูสิ เหมือนจะไม่สบายแน่ ๆ เลย ต้องพากลับไปปฐมพยาบาล ไม่งั้นไม่หายไม่รู้ด้วยนะ

 
.............

"อือ ทานอยากจะร้องไห้แล้วนะ....คราวนี้คงไม่มีหน้าไปไหนได้แล้ว...อายชาวบ้านเขาจริง ๆ"

ร่างของคนในอ้อมแขนถูกวางลงหน้าประตูห้องพัก แล้วทานตะวันก็ยืนอมยิ้มอย่างถูกใจ ที่คนน่ารักตรงหน้าเอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตากันเลยสักนิด

ก็บอกแล้ว ว่าแฟนทานเอง.......เห็นหรือยังว่าน่ารักขนาดไหน เนอะ

"อ้อน เจ็บขาเหรอ จะก้มลงไปดูขาหรือไง นี่ มองหน้าทานสิ หน้าทานน่ามองกว่าตั้งเยอะ มองเร้ว นี่ไง นี่ไง"

ทานตะวันก้มหน้าลงไปหาคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแล้วก้มลงไปหา กระซิบบอกเสียงเบาที่ข้างหูของคนที่ยืนหน้าแดงแล้วก็ทำหน้าตาน่ารักจนอยากรักให้มาก ๆ

"ไม่ต้องเลย เออรู้แล้วว่าหล่อ หน้าตาดี จะมองทำไมมากมายพอแล้ว"

พอตรงไหน มองหน้าทานสิ นะ นะ นะ นะ อยากให้มองนี่ ก็อยากให้มองหน้าทานนี่ นะอ้อนนะ อ้อน อ้อน อ้อน

"ไม่เอา...ทำไมอ่ะ ไม่อยากมองเหรอ ทานไม่ดีตรงไหนวะ หรือว่าไม่น่ามองเหมือนผู้...หญิง..คน..."

พูดยังไม่ทันจบประโยคแต่อ้อนก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าคนพูดอย่างรวดเร็วทันใจ เพราะแค่คำว่าผู้หญิงคนนั้นคำเดียว.....ทำไมถึงได้....ทำไมต้องเอาไหมมาเกี่ยวข้องด้วย
จนถึงขนาดนี้แล้ว.......ยังจะคิดอะไรอยู่อีกหรือไง

"อ้อน....ก็..บางทีทานไม่แน่ใจว่าอ้อนยัง....จะคิดอะไรกับ...ผู้หญิงคนนั้นอีกหรือเปล่านี่"

ยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าตัว ยิ่งเข้าตัวก็ยิ่งเป็นการขุดหลุมฝังตัวเอง อ้อนนิ่งมองหน้าของทานตะวันนิ่งงันอยู่อย่างนั้นและค่อย ๆ ก้มหน้าลงอย่างช้า ๆ
หันไปเปิดประตูห้องและลากขาเดินเข้าห้องพักอย่างรวดเร็ว

จนถึงขนาดนี้แล้วเนี่ยนะ

ขนาดนี้แล้ว ทานตะวันยังจะ ยังจะ.........ยังจะคิดแบบนี้อยู่อีกหรือไง ทำไมไม่เข้าใจกันเลย ไม่เข้าใจกันจริง ๆ ใช่มั้ย

เพราะรู้ว่าพูดเรื่องไม่ดีเข้าแล้ว ทั้ง ๆ ที่รู้ตัว แต่คนตัวโตก็ขบริมฝีปากแน่นและก้าวเท้าเดินตามเข้ามาในห้อง เดินไปทิ้งกายลงนั่งบนเตียงกว้าง
แล้วก็นั่งมองหน้าของคนรักที่ไปยืนอยู่นอกระเบียง

ก็........ไม่รู้นี่

ไม่รู้จริง ๆ

ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง

บางทีก็กลัวว่าอ้อนจะเปลี่ยนใจขึ้นมา หลงรักไปถึงขนาดนี้แล้วจะให้กลับไปเหมือนเมื่อก่อนไม่มีทางทำได้แน่
ถึงตัวจะอยู่ใกล้แค่นี้ แต่จะแน่ใจได้แค่ไหนว่าใจของอ้อนไม่ได้ไปอยู่ที่ไหน

คิดแล้วก็คิด แล้วก็ได้แต่คิด ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่ยืนทำหน้าเครียดอยู่นอกระเบียงอีกครั้ง

นั่นน่ะ........เป็นมากกว่าคนรับใช้แล้วไม่ใช่เหรอ
เป็นมากกว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ แล้วไม่ใช่หรือไง

อ้อนน่ะ.....เป็นของทานแล้วไม่ใช่เหรอ

ถ้า............จะรักษาเอาไว้.......ก็ต้องอ่อนโยนแล้วก็ถนอมให้มาก ๆ

แล้วทำไมถึงมานั่งอยู่บนเตียงแบบนี้ ทำไมถึงไม่เดินเข้าไปหา แล้วอ่อนโยนกับอ้อนให้มาก ๆ ล่ะ

คิดแล้วก็ทำ

คิดแล้วก็ลุกพรวดพราดขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
รีบก้าวเท้าเข้าไปหาคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ เพียงแค่เอื้อมมือคว้า

เดินเข้าไปหาและค่อย ๆ วางมือลงบนลาดไหล่ของคนที่ยังยืนนิ่ง ค่อย ๆ โอบกอดเอาไว้ในอ้อมแขนให้คลายความหนาวเหน็บ
ซุกซบใบหน้าลงแนบที่ข้างแก้มของคนที่ยืนนิ่งเงียบอย่างช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยกระซิบบอกเสียงเบา ด้วยความรู้สึกจากใจ

ไม่รู้ว่าอ้อนหายโกรธหรือยัง แต่ทานอยากให้อ้อนหายโกรธเร็ว ๆ ไม่อยากให้เสียใจ ไม่อยากให้ต้องทำหน้าแบบนี้
ไม่อยากให้ต้องทุกข์ใจ

"หนูน้อยแก้มแดง.....ทานรักอ้อนนะ...ขอโทษครับ...จะไม่พูดอะไรแบบนี้อีกแล้วจะไม่ทำให้เสียใจอีกแล้ว...สัญญานะ..ทานสัญญา"

TBC....
 
โดย aoikyosuke 
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-06-2007 19:14:04
หุหุ คนแรก  :laugh:  :laugh:
ตอนนี้ทานน่ารักดีเนอะ เหมือนเด็กอยากอวดแฟนเลย  :haun5:  :haun5:
ปล. รี1 +1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Electrolyte ที่ 12-06-2007 19:34:40
มาเป็นกำลังใจให้แล้วนะ....รี+1เป็น2
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 12-06-2007 19:50:07
ทานน่ารักจัง

ปล. รี1+1 (ด้วยอีกคน)

 :impress2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-06-2007 20:24:30
สั้นจางงงงงง

สั้นมากๆๆๆๆๆ

รี 4 +1

ชิส์ ได้ทีขอคะแนนใหญ่เลยนะตี๋

 o12
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 12-06-2007 20:47:41
 :-[  :-[  :-[  น่ารักเป็นที่ซู๊ดด

อะ  รี 5+1  มาต่อไวๆ น้า   :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 12-06-2007 21:11:39
หวังว่าคงไม่มีอุปสักอีกนะคับขอให้พี่2คนมีความสุขนะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: AcOustic_Guitar ที่ 12-06-2007 21:57:02
 :haun5: อยากมีแฟนแบบทานตะวันมั้งจังเลย อิอิ  :-[
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 12-06-2007 22:13:11
จะทำให้คนอ่านอิจฉาไปถึงไหนเนี่ยค๊าบ  o3
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 12-06-2007 22:28:49
 :-[ :-[ :-[
 :give2: :give2: :give2:

รี 9 และ +1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ironel ที่ 12-06-2007 23:08:20
 o14  เข้ามาอ่านครั้งแรกคับ

หนุกมักๆ อ่านรวดเดียวจบเลย ใช้เวลา 2 คืนกว่าๆ อ่านจนตาลายไปข้าง o2 o2 o2 o2

รักอ้อน หลงทานมักๆ โดยเฉพาะบทอัศจรรย์ :like6: :like6: :like6: :like6:

หวังว่าคงมะมีอะไรมาทำให้ผิดใจกันอีกแล้วนะ

ปล. รีเท่าไหร่แล้วเนี่ย o2  อ้อ รี 10 +1 แล้วน้าาาาาา

มาต่อเร็วๆ เน้อ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: a22a ที่ 13-06-2007 00:41:52
ทานน่ารักมากๆเลย ได้ใจไปเต็มรู้จักขอโทดด้วยน่ารักจัง
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-06-2007 00:54:00
มารออ่านต่อ รี 12+1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 13-06-2007 01:05:19
แถมอีกตอน เพื่อนๆทีน่ารัก จุ๊บๆ
..............
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เด็กเลี้ยงแกะ

อ้อมแขนที่กอดรัด เสียงกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู ท่าทางที่เหมือนกำลังหวั่นไหวและไม่แน่ใจกับคำขอโทษของตัวเองว่าจะทำให้อีกฝ่ายพอใจหรือไม่
ทำให้อ้อนต้องถอนหายใจ และเกลี่ยนปลายนิ้วเล่นที่อ้อมแขนของคนกอด

ไม่รู้สิ

ตอบอะไรไม่ได้ แล้วก็ไม่อยากจะพูด ไม่รู้ว่าทานตะวันจะยังคิดเรื่องนี้ไปอีกนานแค่ไหน แค่สิ่งที่ยอมให้ไป
มันไม่สามารถเป็นหลักประกันหรือพิสูจน์อะไรได้เลยเหรอ

แค่นี้...............

ก็ไม่เชื่อใจกันเลยเหรอ อยากจะโกรธ อยากจะโมโห แต่กลับรู้สึกว่าภายในจิตใจมันอ่อนล้าและเบาโหวงเหวง อธิบายเป็นคำพูดออกมาไม่ได้ว่าเป็นความรู้สึกแบบไหน
มันเป็นความรู้สึกแย่ ๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่เป็นที่ไว้วางใจ

แย่

แล้วก็เศร้า

เศร้ากับเรื่องแย่ ๆ

"ทานขอโทษ นะครับ....อ้อน..อย่าเงียบสิ เงียบทีไรใจคอไม่ดีเลยนะ อ่ะ อยากต่อยก็ได้ยอม หรือว่าจะอาละวาดกับทานก็ได้นะ จริง ๆ นะ จริง ๆ "

ทานตะวันคลายอ้อมแขนและกอดรัดร่างในอ้อมแขนไม่ได้แน่นเท่าก่อนหน้านี้ และซุกใบหน้าลงที่ซอกคอของคนที่ยืนนิ่ง เอ่ยขอโทษด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

กลัวจริง ๆ

กลัวจริง ๆ นะ

กลัวสิ่งที่อ้อนคิด อ้อนคิดอะไรไม่เคยบอก ไม่เคยให้รับรู้ นาน เป็นนาน กว่าจะรู้ อ้อนเป็นพวกชอบเก็บความลับ แล้วก็เก็บความลับเก่งมากซะด้วย
จนทุกวันนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าคนในอ้อมแขนคิดอะไรอยู่กันแน่

"เรา....ไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยเหรอ.....มันน่าขำนะทาน...ถ้าไม่เชื่อกันขนาดนั้น...ห่างกันซักพักไม่ดีเหรอ....นะ"

อย่าขู่แบบนี้น๊าาาาาาาาาาาาาา ม่ายอาว อย่าพูดแบบนี้นะ ขอร้องล่ะ อย่าพูดเลย อย่าพูด อย่าพูด ไม่เอา ไม่เอา ไม่อยากฟัง ไม่ฟัง ไม่อยากฟัง

"ก็ถ้าอ้อนจะไป.....ทานจะไปทำอะไรได้ล่ะ"

แล้วอ้อมแขนที่เคยกอดรัดก็คลายออก คนตัวโตผละออกห่างจากร่างที่อยู่ตรงหน้า และถอยห่างออกมาหนึ่งก้าว

ยืนนิ่งเงียบ

เงียบ

และเงียบ

น้อยใจ เสียใจ ทำไมอ้อนต้องทำแบบนี้ด้วย

ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามีคนรักมากขนาดนี้ แต่ก็ใจร้าย อ้อนใจร้าย ....ใจร้ายที่สุด จะทิ้งไปให้เหมือนคนอื่นๆ อีกหรือไง ก็เอาเลยสิ ก็เอาเลย ปล่อยไว้แบบนี้เลยก็ได้
ไม่เป็นอะไรนี่ ไม่เป็นอะไรเลย ไม่เป็นจริง ๆ ไม่เป็น

ทานตะวันยืนก้มหน้านิ่ง ๆ และตัดสินใจเตรียมหันหลังเดินก้าวเท้าหนีเข้าห้องพัก

ไม่อยากเจอกันก็ได้ อ้อนใจร้าย ใจร้ายให้ถึงที่สุดไปเลย เอาหัวใจทานไปแล้วนี่ ก็เอาเลยสิ เอาไปเหยียบย่ำให้สะใจเลย ยังไงมันก็มีอยู่แค่นั้นแหละ
อยากจะทำาลายก็ทำไปซะให้พอใจเลย

"แล้วรู้สึกยังไงล่ะ.......คราวหลังพูดอะไรจะหัดคิดถึงใจคนฟังอีกมั้ย.....เด็กชะมัด"

เด็กชะมัด

หือ

ใครเด็ก หันซ้ายหันขวาไม่มีใครเลย ก็ว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ไม่ใช่มั้ง อ้อนพูดถึงใครเหรอ

"ก็เด็กไง......อ่อนหัดด้วย....พูดอะไรไปก็ไม่เคยคิด...เอาความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองเป็นที่ตั้ง...รักก็บอกว่ารัก...แต่คนบางคนมีอะไรก็ไม่เคยบอกเลย
ชอบให้รู้เองทีหลัง.....แล้วก็ทำให้เราเสียใจ....ก็เอาเลยแล้วกัน...อยากจะทำอะไรก็ทำไปเลย....ทานรักอ้อนไปแล้วนี่...จะไปทำอะไรได้ล่ะ"

ตกลงใครต้องง้อเนี่ย

ใครผิดกันแน่เนี่ย ตกลงใครผิด

ทานตะวันเดินหน้านิ่วคิ้วขมวดเข้าห้องไปแล้ว และมานั่งหันหลังชันเข่าอยู่บนเตียง

 
.................

น้อยใจ

เสียใจ

และ.............งอน

แล้วใครสมควรจะง้อกันแน่
อ้อนยืนหัวเราะอยู่นอกระเบียง เรื่องที่ควรจะกลายเป็นเรื่องเครียด กลับกลายเป็นเรื่องตลก ตัวก็โต๊ โตนะ ทำเป็นสะบัดหน้า ทำเป็นหน้าบูดหน้าบึ้ง ทำเสียงเล็กเสียงน้อยงอแง
น่ารักตรงไหนเหรอ

ไม่ได้น่ารักหรอก แต่มันตลก
ไอ้ที่กำลังโกรธ ๆ อยู่ ก็เลยหายหมด กลายเป็นเรื่องที่ทำให้อมยิ้ม

เอ้า เล่นกะเด็กชายทานตะวันเขาซะหน่อย งอนก็........ต้องง้อใช่มั้ย..........ก็ได้วะ ง้อก็ง้อ ....แล้วจะง้อยังไงเนี่ย

คนที่ยืนอยู่นอกระเบียง ก้าวขาเข้ามาภายในห้อง และค่อยๆ เดินไปนั่งอยู่บนพื้น จ้องหน้าทานตะวันที่ก้มมองพื้นไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนที่มานั่งจ้อง

"นี่.........."

เรียกแล้ว แต่คนตัวโตทำเป็นนิ่งเฉย
อยากให้พวกที่ชมรมฟุตบอลมาเห็นประธานชมรมสุดโหดจริง ๆ เล้ย ทำเป็นหน้างอ ทำเป็นนิ่ง ทำเป็นงอน โธ่ ไม่เห็นจะดูดีตรงไหนเลย

"นี่....ให้เวลา 30 วินาทีนะ...ถ้าไม่เลิกทำหน้าบึ้ง...จะไปแล้วจริง ๆ นะ"

คนที่นั่งนิ่งหน้าบึ้ง ก็ยังคงทำหน้าบึ้ง ส่วนคนที่นั่งจ้องหน้าก็เริ่มหันไปมองนาฬิกา

"1........2...........3.................4............ฯลฯ............30...ไปแล้วนะ"

นับแบบรัวเร็ว แล้วอ้อนก็ลุกขึ้นยืนแกล้งตั้งท่าเตรียมจะเดินหันหลังหนี แต่กลับถูกรั้งร่างเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของคนหน้าบึ้ง
ถูกดึงให้ล้มลงบนเตียง ตามมาด้วยร่างกายถูกกดแนบลงกับฟูกนอน โดยมีคนที่ทำเหมือนกำลังงอนคร่อมทับอยู่เหนือร่าง

"ของอนต่ออีก สองชั่วโมง นะอ้อนนะ.........อ้อนง้อทานต่ออีกสักสองสามชั่วโมงนะ...นะ...นะ...นะคร้าบบบบบบบบบบ"

คนงอนลากเสียงยาว และทำตาใสซื่อเหมือนเด็ก ๆ ออดอ้อนอยากได้ของ แต่นัยน์ตาคมกลับพราวระยับ และมีรอยยิ้มสดใสจุดอยู่ที่มุมปาก
เมื่อเห็นร่างของคนที่ถูกทาบทับ ทำตาโต และเริ่มดิ้นรนหนี

หน้า...........แดง...........แล้วจ่ะ......หนูน้อยแก้มแดงของทาน แถมซ้ำยัง.......ยัง.....ยัง.......

ก็อ้อนของทานน่ะ....น่าร้ากกกกกกกกกกนี่นา ก็เลยต้องเป็นแบบนี้ยังไงล่ะ

"อึก อ่ะ....อ้อนจ๋า......เมื่อคืนยังไม่เต็มอิ่มเลย....นะ....ขอนะ....แล้วทานตะวันจะไม่ดื้อไม่งี่เง่าไม่งอแงกับอ้อนเลย สัญญาครับพ้ม....ทานสัญญา"

ไอ้.......ไอ้ทาน

ไอ้....

ไอ้เด็กเลี้ยงแกะ

ไอ้.............

ไอ้........

"อึก...อื้อ......ทานปล่อยก่อน...เจ็บ...อื้อ....ทาน....ฮื่อ"

ไม่มีเวลาให้ร้องโวยวาย ไม่มีเวลาให้ต้องคิดมากหรือหงุดหงิดโมโห อยากจะเอาคืนให้หายโมโห แต่กลับดิ้นรนหลบหนีปลายจมูกโด่งที่ซุกไซร้ลงมาไม่ได้
อาย........ก็คงไม่ต้องอายกันแล้ว............เมื่อริมฝีปากของเด็กเลี้ยงแกะจูบประทับลงมาอีกครั้ง อีกครั้ง และหลาย ๆ ครั้ง

"ไอ้ทานนนนนนนนนนนนนนโว้ยยยยยยยยยยยย"

ร้องโวยวายออกไปได้เพียงครั้งสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้โวยวายอีก เมื่อเสื้อที่สวมอยู่ถูกปลดออกอย่างรวดเร็วและเหวี่ยงทิ้งลงข้างเตียง

"อ้อน........อย่าเสียงดังสิ....เอาไว้เสียงดังตอนร้องว่า...ทาน...ทาน...ทาน..ท่านช่วยอ้อนด้วยน่าจะดีกว่านะ....."

นั่นคือประโยคสุดท้ายที่อ้อนได้ยินและจำได้ หลังจากนั้น ทั้งร่างกายทั้งจิตใจก็ถูกชักนำให้ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง
กว่าอ้อนจะซาบซึ้งกับประโยคที่ทานตะวันกระซิบบอกก็ปาเข้าไปรุ่งเช้าของอีกวัน

TBC.....
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-06-2007 01:27:57
ทานเวลาอ้อนแล้วน่ารักจัง  :o8:

เมนท์ที่ 1 แต่ยัง +ให้มะได้นะเรย์ มันยังมะครบ 12 ชม.  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 13-06-2007 02:13:50
 :haun5: :haun5: อืมม์ใช้วิธีงอนแบบนี้บ่อยๆก็ดีนะครับทาน   :haun5: :haun5:

รี2

+1ครับผม
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-06-2007 08:38:34
หุหุ ทานตะวันน่ารักที่สุด  :-[  :-[  :-[

รี 3 +1  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 13-06-2007 08:45:29
ทาน   หื่นได้ใจ  มากๆ  :haun5: :haun5: :haun5: :haun5: :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 13-06-2007 08:57:27
ในที่สุด  หนูน้อยแก้มแดงก็หลงกลหมาป่าทานตะวัน   :laugh3:.
 
เม้นท์ที่ 5 +1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 13-06-2007 09:03:57
เวลาสุขนี่มันสุขจริงๆๆๆ  เลยนะเนี่ย  :like6:


หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 13-06-2007 09:16:16
ว่ะฮะๆๆ  :laugh3: :laugh3:
ในที่สุด  o7 o7 o7

เมนต์ที่  7 และ +1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 13-06-2007 09:27:05
ทานได้ใจ FC ไปเต็มๆ เลย  :impress2:

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 13-06-2007 09:30:33
9 + 1 จัดให้เลย ด่วน ตาเรย์

ลุ้นจน ... แข็งแล้ว  :freeze:

ทานน่ารักโคดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 13-06-2007 09:45:23
ยังไม่ได้อ่านนนนน

กลัวเพื่อนๆ รอนาน

เมนท์ที่ 10 ครับคุณ

กรุณามาต่อด่วน

 :angry2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Electrolyte ที่ 13-06-2007 10:03:13
ทานนะทาน...ช่างหื่นได้ใจจริงๆๆ....ทานตะวัน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 13-06-2007 10:23:53
พี่ทานทำพี่ออ้นเบาๆหน่อยนะ สงสารพี่ออ้น :haun5:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 13-06-2007 10:51:53
ชอบนายทานจังเลย  อยากได้แบบนี้จะเอาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 13-06-2007 13:12:46
เห็นด้วยคับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 13-06-2007 16:42:42
ชอบหื่นๆกันเหยอ เอิ้กๆ
************************
ลงผิดตอน คิคิก
 o14
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 13-06-2007 16:50:51
 :try2: คือว่า เหมือนตอนนี้ลงซ้ำอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 13-06-2007 17:03:17
เพ่คร้าบบบบบบ

เพ่เบลอหรือเปล่าครับ

ลงซ้ำครับ

ถ้ายังไม่มาแก้ไข จะกดลบแล้วหนาาาาาาาาาาาาา

 :angry2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 13-06-2007 17:09:24
โอ้ววววววววววววววววววววววววว

ทฤษฏีอิชั้นยังใช้ได้

โกรธกัน  งอนกัน  ง้อกัน  ดีกัน  ปี้กัน  จบ....


ปีนี้อิชั้นคงไม่พลาดรางวัลโนเบลแหง่ๆ  :interest:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 13-06-2007 17:30:38
โทษทีพลาด อิอิ  ไม่ได้กลับไปดูตอนเก่า คอมมีปัญหามากมาย เฮ้อ
********************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ฝันดี

หือ
อะไรมันยุกยิกอยู่ข้างหลังหว่า

อ้าวนี่มันมือนี่

แล้วนี่ก็แขน
ง่วงชะมัด สงสัยเมื่อคืนนอนน้อย แขนของทานตะวันแน่เลย ชอบนอนกอด จะอะไรนักหนา เกะกะชะมัด
ขยับตัวก็ไม่ได้ ลุกขึ้นนั่งก็ไม่ได้ ไม่รู้จะชอบกอดอะไรนักหนา

แต่ว่าตอนนี้น่ะ....

เจ็บอ่ะ

เจ็บ.............
หือ เจ็บ

แล้วทำไมมันเจ็บล่ะ

แถมยังเจ็บในที่ ๆ ไม่ควรเจ็บ

เจ็บอะไรตรงนี้ล่ะ

อ้อนนอนกระพริบตาปริบ ๆ อยู่หลายครั้ง สมองเริ่มเรียบเรียงความคิด ปรือตาตื่นขึ้นมา และลำดับความคิดอย่างรวดเร็ว

"......อ้อน....อ๊ะ...ทำไมหนูน้อยแก้มแดงถึงน่ารักขนาดนี้...จะคลั่งอยู่แล้ว ฮื่อ...รู้บ้างมั้ย"

น้ำเสียงที่สั่นสะท้าน ร่างกายที่สอดแทรกเข้ามาอย่างรุนแรง ในจังหวะสุดท้าย

เหอ เหอ เหอ เหอ

จะเป็นใครไปได้ล่ะที่ทำเรื่องแบบนี้ด้วยกัน ถ้าไม่ใช่.... ไอ้คนตัวโตที่ขยับตัวยุกยิกแล้วก็กอดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยคนนี้

ผ้าห่มถูกดึงขึ้นมาปิดหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วอ้อนก็ได้แต่ใช้มือกำผ้าห่มเอาไว้แน่น นอนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับ

ร่างกายร้อนผ่าวไปหมด หน้าร้อนวูบเมื่อคิดถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านพ้นไป

มันก็สมควรเจ็บอยู่หรอกนะ ไอ้ตอนทำ มันไม่เจ็บนี่ ถึงไหนถึงกันอยู่แล้ว แต่พอทำเสร็จแล้ว ไหงมันเจ็บนักวะ แถมพอคิดถึงร่างกายของอีกฝ่ายแล้ว
ก็ยิ่งพาลจะหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

หุ่นอย่างนั้น มันน่าอิจฉา

ทานมันชอบทำหน้ายั่วให้เกิดอารมณ์ แล้วการที่ฝ่ายนั้น ร้องครางอย่างถูกใจทั้งที่ยังกัดฟันอยู่น่ะ มันน่ามองจะตาย ยิ่งเวลาที่.........เวลาที่

ทานตะวัน......

ทานตะวัน..........

อร๊ากกกกกกกกกกกกก อ้อนเอ้ย ไอ้อ้อน มึงเป็นอารายของมึงเนี่ย พอแล้ว หยุดคิดทีสิวะ มันจะไปกันใหญ่แล้ว ทำไงดีล่ะโว้ยยยยยยยยย
อ้อนกำผ้าห่มเอาไว้ในมือ และขบริมฝีปากของตัวเองเพื่อระงับความรู้สึก

ร่างกายกำลังเริ่มรู้สึกทั้งที่เพิ่งผ่านบทรักแบบหักโหมมาหมาด ๆ แต่เมื่อคิดถึงคนที่กอดเอาไว้ ก็เหมือนจะรู้สึกขึ้นมาอีกครั้งได้ง่าย ๆ

"อือออออออ เฮ้ยยยยยยย วิ่งไปสิวะ อู้เหรอ โดดซ้อมหรือไง"

เสียงบ่นงึมงำในลำคอ ของทานตะวันทำให้อ้อนค่อยๆ รั้งผ้าห่มลงที่ปิดบังใบหน้าออกมา และยิ้มออกมาด้วยความขำ

นี่ขนาดหลับ...
ยังบ้าซ้อมฟุตบอล ไอ้พวกที่ชมรมเอ๋ย กลับไปตายแน่ ทานมันคงไม่เอาไว้หรอก เห็นว่าเป็นวันหยุดยาวหรอกนะ
กลับไปอีกที สงสัยได้สลบกันเป็นแถว ชัวร์เลย

"อือ อ้อน อีกรอบสิ...ทานอยากน็อครอบ...อือ"

แล้วประโยคถัดมาก็ทำให้อ้อนต้องดึงผ้าห่มมาคลุมหน้าของตัวเองอีกครั้ง

น็อครอบเลยเหรอ.......ให้มันน้อย ๆ หน่อยเหอะ แค่นี้ก็จะตายแล้ว....จะอดทนไปถึงไหนคร้าบ คุณทานตะวัน

คิดแล้วก็ยิ้ม ยิ้มออกมาด้วยความเขิน
ก้มลงมองเรียวแขนและฝ่ามือของคนกอดที่ยังโอบแน่นอยู่ที่รอบเอวแล้วก็ยิ่งเขิน
อ้อนค่อย ๆ ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยไล้เบา ๆที่หลังมือของคนกอด เพราะกลัวว่าจะทำให้คนที่นอนหลับสนิทรู้สึกตัว

ทานเอ้ย.......รักจังเลยว่ะ

ไม่รู้มาก่อนเลย ว่าทานน่ารัก เมื่อก่อนที่ทะเลาะกัน โดนแกล้งโดนหาเรื่อ ก็คิดว่าเกลียด
คิดว่าไอ้หมอนี่ มันตัวโตก็จริง แต่ใช้แรงข่มคนอื่นแบบนี้ เลวชะมัด
แต่พออยู่ใกล้ ๆ กันทุกวัน ทุกวัน

ก็ได้รู้ได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง
ทานตะวันตัวโตก็จริง แต่น้อยใจเก่งชะมัด เรื่องประชดประชันนี่ยกให้เป็นที่หนึ่ง ไม่พอใจอะไรขึ้นมาก็ชอบทำหน้างอ แล้วก็ก้มหน้าไม่พูดไม่จา
เหมือนเด็ก ๆ ขี้งอนที่โดนขัดใจ

ไม่เคยรู้ว่าทานตะวันทำหน้าตาท่าทางแบบนั้นได้ด้วย บางครั้งก็อ้อนเหมือนเด็ก ๆ อยากได้ของ
ชอบทำเสียงเล็กเสียงน้อย ลากเสียงยาว ๆ ทำหน้าซื่อ กระพริบตาปริบ ๆ เวลาที่โดนเอ็ดว่า "ไม่ได้..ห้ามทำ"

..............

คน ๆ นี้เป็นคนรักกันแล้วจริง ๆ น่ะเหรอ

ไม่อยากจะเชื่อเลย
เป็นได้ยังไง

ไม่เข้าใจเหมือนกัน

อ้อนนอนอมยิ้ม แล้วก็หัวเราะเสียงเบา ก่อนจะค่อย ๆ ขยับร่างกายอย่าช้า ๆ หันหน้าไปมองหน้าของคนที่ยังนอนหลับสนิทอยู่ข้างกาย

จ้องมองใบหน้าของทานตะวันอย่างหลงใหล

หล่อชะมัด ไอ้นายแบบเอ้ยยยยยยยยยย จะหน้าตาดีไปถึงไหน อิจฉาว่ะ บอกได้คำเดียวว่าอิจฉา

ผิวสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาคม ปลายจมูกโด่งที่ชอบขโมยหอมแก้มอยู่บ่อย ๆ

ริมฝีปากที่ชอบรุกรานเอาแต่ใจ

ยังไงก็ชอบ.........ยิ่งได้จ้องมองใกล้ ๆ แบบนี้ยิ่งรู้สึกชอบ ชอบมาก ๆ ชอบเพราะว่าคนที่หลับใหลอย่างเป็นสุขคนนี้คือทานตะวัน

"เจ้าชายน้อย....เจ้าชายน้อยทานตะวัน...อย่างอนบ่อยนะ....เหนื่อย...ง้อบ่อย ๆ ไม่ไหว"

อ้อนพูดกับคนที่นอนอยู่เคียงข้าง และอมยิ้มอย่างมีความสุข

แตะปลายนิ้วไปที่ปลายจมูกของทานตะวันและเกลี่ยไล้เล่นอย่างเพลิดเพลิน

ไม่ชอบให้ทานตะวันทำหน้าเศร้า หรือเหม่อลอย ไม่อยากให้ต้องคิดว่าไม่มีใครรัก ไม่อยากให้ต้องน้อยใจหรือเสียใจ
อยากจะเข้าใจให้มาก ๆ อยากอยู่ใกล้ๆ ไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ทุกวัน

คนที่ยังไม่ยอมหุบยิ้มลองโอบแขนกอดรัดร่างของทานตะวันดูบ้าง
และลองรั้งศรีษะของร่างนั้นมากอดเอาไว้แนบอก ลูบไล้เส้นผมนิ่มเล่นอย่างแผ่วเบา
และหลับตาลงอีกครั้งอย่างช้า ๆ

แค่นี้แหละนะ

แค่อยากจะมอบความรู้สึกดี ๆ ให้บ้าง

อยากให้รู้สึกดีเหมือน ๆ กัน

แค่กอดกัน สัมผัสกันบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้รู้สึกถึงความรักที่มีให้ แค่นี้เองที่อยากให้รับรู้เอาไว้ว่ารักมากแค่ไหน

อ้อนปรือตาลงอีกครั้งเพราะความเหนื่อยล้า และกลับเข้าสู่ภวังค์อีกครั้ง
ส่วนทานตะวันที่หลับสนิท ยังคงซบใบหน้าที่แผ่นอกบางอย่างเป็นสุข และยิ้มออกมา ทั้งที่ยังหลับใหล

"หนูน้อยแก้มแดงของทานคนเดียวนะห้ามยุ่ง"

ทานตะวันทำเสียงดุเหมือนกำลังเอ็ดใคร ๆ ที่เข้าใกล้อ้อน และเงียบเสียงลงแล้ว เมื่อได้รับความอบอุ่นจากคนที่อยู่เคียงข้างมอบให้

แม้แต่ในความฝัน

เราสองคนก็อยู่ด้วยกัน และแบ่งปันความอบอุ่นให้กันตลอดเวลา

TBC...
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 13-06-2007 17:36:41
เหอเหอ

โก๊ะอีกคนแล้น เหมือนทวดแน่วเลย

กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 :kikkik:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-06-2007 17:38:57
อ้อน แอบน่ารัก อิอิ  :give2:  :give2:
รี 2  แต่ยังบวกไม่ได้ยังไม่ครบ 12 ชม.  :laugh:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 13-06-2007 17:47:43
โอยยยย  จะน่ารักกันไปถึงหนายยยย   :impress2:  :impress2:

อ่านแล้วใจจะขาด..... ขาดรอนๆ ไปกับทานกับอ้อน   :-[

รออ่านต่อจ้า  บวกหนึ่งให้กับความโก๊ะนะเรย์ที่ร้ากกก  o3
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 13-06-2007 17:55:34
 :give2: :give2: :give2:
คู่นี้ น่ารักสุดๆ  :-[ :-[ :-[


ปล. รี 3 กะ +1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 13-06-2007 17:57:46
น่ารักที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดด เลย

 :-[
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 13-06-2007 18:11:47
ลุงเมาแต่ตอนบ่ายๆ เลยแฮะ อิอิ

ขอบคุณค๊าบบ เฮียเรย์  o14
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 13-06-2007 19:37:53
น่าร้ากกกกกกกกกกกจัง  :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6:

 o4 o4 o4 o4 o4 o4 o4 o4 o4 o4
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Electrolyte ที่ 13-06-2007 22:05:46
อ้อนแอบน่ารักอีกล่ะน่ารักจัง
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 13-06-2007 22:44:44
 o7 เห็นแล้วอิจฉามากมายเลยอ่ะ

อยากมีเจ้าชายอย่างทานตะวันบ้างจังเลย
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 13-06-2007 23:27:01
 :impress:เวลาอย่างนี้ก็น่ารักกันดีนะครับ   :teach:แต่อย่าน้อยใจกันบ่อยนะครับ  เสียสุขภาพจิต o12

รี9

+1คร้าบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 13-06-2007 23:49:25
ขอให้รักกันตราบนานเท่านาน
 :impress:

รี 10 + 1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 13-06-2007 23:56:53
อ้อนเองก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย

ทานเองขนาดฝันก็ยังน่ารักเลย อิอิ   :-[
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: slmzaa ที่ 14-06-2007 00:41:15
ฉานอยากฝันแบบนี้บ้างอ่ะ :haun5:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 14-06-2007 01:08:58
ทานน่ารักขึ้นทุกวันเลยนะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 14-06-2007 08:27:56
อ่านแล้วรู้สึกดีมากจริงๆ  :give2:


ปล.  มาไม่ทันคุนเรย์โก๊ะ  อิอิ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: lordhunter ที่ 14-06-2007 15:52:08
อย่างบอกนะว่าจบแล้ว ไม่ยอม :angry2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 14-06-2007 21:59:25
นิดโหน่ยๆๆ ปกติก็โก๊ะอ่ะ แบบว่าเป็นปลาทอง ไม่สามารถจดจำอะไรได้นาน
 :laugh3: :laugh3: :laugh3:

โปรดอย่าถือสา คิกคิก

อ่านตามกันทันอีกหลายคนเลย
สวัสดีคนใหม่ๆด้วยนะครับ
ผมชื่อเรย์นะครับ
ฝากเนื้อฝากตัวฝากหัวใจไว้ด้วยครับ
 :give2:
**********************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน กลับบ้าน

"ของฝากครับแม่ อันนี้ทานเลือกกับอ้อน ส่วนอันนี้อ้อนเลือกเองครับ ขอโทษครับหายไปหลายวัน แม่อย่าโกรธนะครับ ที่ไม่พาอ้อนกลับมาส่งที่บ้านเลย"

ทานตะวันยกมือไหว้แม่ของอ้อนแล้วก็หอบข้าวของมากมายเข้าบ้าน โปรยยิ้มเอาใจผู้ใหญ่แล้วก็ยกความดีความชอบให้กับคนที่ยืนทำหน้านิ่งเฉยอยู่ข้าง ๆ

"อ้อนเลือกให้แม่เหรอ" คนเป็นแม่ถามออกไปและลูกชายก็พยักหน้ารับทั้งที่ยังก้มหน้า

ไม่ชินกับการที่จะต้องพูดจากัน แต่ก็เหมือนกับว่าใกล้เข้าหากันอีกนิด

"แม่ชอบ สวยนะ แม่จะเอาไว้บนโต๊ะทำงานที่บริษัท อ้อนอุตส่าห์เลือกให้แม่เองเลยเหรอเนี่ย เข้าใจเลือกนะ สวยเชียว"

ผู้เป็นแม่เอ่ยชมไม่ขาดปาก ส่วนอ้อนได้แต่ก้มลงมองที่มือของตัวเองและอมยิ้มเล็ก ๆ ไม่กล้าพูดอะไรมากมายนัก
ก้าวเข้าหากันอีกหนึ่งก้าว จากระยะห่างที่ยาวไกล กลับพูดคุยกันได้อย่างเป็นธรรมชาติขึ้นและกล้าที่จะแสดงความรู้สึกออกมาตรง ๆ บ้าง

ที่ทำได้ขนาดนี้ ก็เป็นเพราะทานตะวันที่ทำให้สองแม่ลูกคุยกันมากขึ้น

ทานตะวันยืนอมยิ้มและหันไปมองใครอีกคนที่ยืนก้มหน้าอมยิ้มอยู่ข้าง ๆ
ยกแขนขึ้นโอบไหล่ร่างนั้นและแตะมือไปที่เส้นผมของอ้อนเบา ๆ

"ก็ทำได้นี่"

เป็นคำพูดที่ทานตะวันก้มลงมากระซิบบอกที่ข้างหู และอ้อนก็ยิ้มกว้างมากขึ้น เงยหน้ามองแม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า แม่ที่หมุนที่ทับกระดาษที่มีเปลือกหอยเล็ก ๆ ประดับเอาไว้อย่างพึงพอใจ

"สวยจังเลย แม่ชอบที่สุดเลยอ้อน มากันเหนื่อย ๆ แม่ทำกับข้าวไว้แล้ว กินข้าวกันดีกว่านะ ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนแล้ว เดี๋ยวมากินข้าวกัน ทานด้วย ขับรถมาเหนื่อย ๆ ไม่ใช่เหรอกินข้าวเป็นเพื่อนแม่นะวันนี้"

แม่ของอ้อนเอ่ยบอก เพื่อนของลูกชายและส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้
ทานตะวันยิ้มกว้าง และทำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็ก ๆ จนน่าหมั่นไส้ แต่อ้อนก็ได้แต่เก็บความหมั่นไส้ไว้ในใจ

"ไม่ได้กินข้าวฝีมือคุณแม่ตั้งหลายวัน วันนี้จะซัดให้พุงกางเลย แต่ว่าขอเอาของไปเก็บก่อนได้มั้ยครับ เดี๋ยวลงมากัน ไปเร็วอ้อน เอาของไปเก็บกัน"

ไม่รู้ว่าใครเป็นลูกบ้านนี้กันแน่ ทานตะวันที่ทำเหมือนบ้านนี้เป็นบ้านของตัวเอง หรืออ้อนที่เอาแต่ก้มหน้าเดินตามแรงฉุดของคนตัวโตเดินขึ้นบันไดไปแล้ว
แม่ยังคงยืนอมยิ้ม มองลูกชายที่เดินขึ้นห้องไปแล้ว และเตรียมตัวจัดอาหารเย็น

ส่วนอ้อนและทานตะวันกำลังก้าวเท้าเดินเข้าห้อง

ห้องของอ้อนไม่ได้กว้างเหมือนห้องนอนของทานตะวัน แต่เมื่อก้าวเท้าเข้ามา คนตัวโตก็ทิ้งกายลงนอนแผ่หราอยู่บนเตียง ทำเหมือนเป็นห้องของตัวเอง
แถมยังกลิ้งไปกลิ้งมา อย่างมีความสุข

"นี่มันบ้านใครกันแน่วะเนี่ย" คนที่ยืนห่างออกไป เอ่ยถามและส่ายหน้าอย่างนึกขำคนตัวโตที่นอนกลิ้งอยู่บนเตียง
และคำตอบที่ได้กลับทำให้ต้องหยุดหัวเราะและต้องเดินหนีคนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างรวดเร็ว

"บ้านใคร ถามมาได้ว่าบ้านใครก็บ้านแม่ยายทานไง ถามอะไรแปลก ๆ อย่างนั้นล่ะ ง่วงจะตายมานอนนี่มาเร้ว เร็ว ๆ เข้ามานอนนี่"

แม่ยงแม่ยายอะไรวะ พูดไปได้ ไม่อายปาก ทานตะวันมันบ้า ชอบแกล้งให้อาย ไอ้คนนิสัยไม่ดี

ช่างเป็นคนที่พูดจาได้น่าหมั่นไส้ ทานตะวันพูดไปกลิ้งไป แล้วก็ลุกพรวดพราดขึ้นคว้าข้อมือของคนที่ยืนหน้าแดงจะหาเรื่องหนีให้เข้ามาใกล้

"มานั่งนี่มาเร้ว .... ไม่ได้กอดเลย มานี่มา...ขอกอดหน่อย...นะ นะ นะ น๊าาาาาาาาาาาา อ้อนนะ"

บ้าไปแล้ว

น่ารักตรงไหน

อย่ามาทำหน้าแบบนี้นะ อย่ามาทำตาใสซื่อหน่อยเลย ลูกแกะอะไร๊ ร้ายกาจชะมัด

ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่เมื่อถูกดึงแขนมาก ๆ เข้าอ้อนก็จำใจต้องมานั่งข้าง ๆ ทานตะวัน

"เก่งมากเลย ก็ทำได้นี่ หัดอ้อนแม่เยอะ ๆ นะ วันนี้อ้อนเก่งมากเลยรู้มั้ย ต่อไปก็ค่อย ๆ คุยกันให้มากขึ้น เริ่มจากเรื่องธรรมดาก่อนก็ได้นี่นะ เห็นมั้ยว่ามันไม่ยากเลย"

ยากจะตาย เมื่อกี้นี้พอเดินเข้ามาภายในบ้าน ซ้อมมาอย่างดีว่าจะยื่นที่ทับกระดาษให้แม่ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ได้แต่ยืนนิ่ง ๆ แล้วทานตะวันก็พูดจ้อย ๆ ไม่ยอมหยุด
ไม่เห็นว่ามันจะเข้าท่าตรงไหนเลย

"อย่ามาทำเป็นชมเลย ทำได้แค่นี้แหละ ทำดีกว่านี้ไม่เป็นหรอก"

อ้อนเอ้ย ทำไมถึงคิดอย่างนี้ การเข้าหาพ่อแม่ของตัวเองนี่มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้ายากขนาดนั้นก็พยายามซะสิ อย่างที่ตอนนี้อ้อนกำลังพยายามอยู่นี่ไง

"ใครว่าล่ะ.... อ้อนของทานเก่งที่สุดเลย วันหลังก็หัดยิ้มเยอะ ๆ นะ ยิ้มเก่ง ๆ เหมือนยิ้มกับทานนี่ไงนะ....อ้อนทำได้ เชื่อทานเถอะ"

ไม่เชื่อหรอก ทำไมต้องเชื่อ แต่ว่า..........แต่ว่า.........จะลอง........ลองพยายามดูก็ได้

"ก็...ทำได้แค่นี้แหละ มากกว่านี้ไม่รู้จะทำได้แค่ไหนหรอก"

ได้สิ อ้อนทำได้ เห็นมั้ยว่าวันนี้อ้อนยังทำได้เลย อุตส่าห์ซ้อมตั้งหลายรอบ แต่ได้ขนาดนี้ก็โอเคแล้วล่ะ อีกหน่อย อ้อนกับแม่ก็จะเข้าใจกันมากกว่านี้
ถ้าแสดงความรู้สึกออกมาบ้าง ค่อย ๆ แสดงออก แล้วก็จะดีขึ้นเองแหล่ะนะ
......................

ฝ่ามือของทานตะวันค่อย ๆ เอื้อมไปกุมที่มือของอ้อนและบีบกระชับเหมือนอยากจะแบ่งกำลังใจไปให้

"อ้อนทำได้ เชื่อทานนะ สัญญาก่อน เอานิ้วก้อยมานี่ แล้วสัญญากัน ว่าอ้อนทำได้ นะ เชื่อทานเหอะ ทำได้ก็คือทำได้น่า"

ปลายนิ้วที่เกี่ยวอยู่ที่ปลายนิ้วก้อย และการเขย่ามือเล่นอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุกของทานตะวัน กลับสร้างกำลังใจให้อ้อนได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ

รอยยิ้มจาง ๆ ที่ทานตะวันส่งให้ ยิ่งทำให้รู้สึกดีขึ้น

"บอกแต่คนอื่น ตัวเองน่ะ ถึงไหนแล้ว ตกลงว่าแม่ทานจะมาดูทานแข่งมั้ย ตกลงว่าจะมาแน่ ๆ ใช่มั้ย"
อ้อนเอ่ยถามออกไปและคนที่เพิ่งยิ้มกว้างเมื่อไม่กี่นาทีก่อนก็มีอันต้องทำหน้าเศร้าขึ้นมาอีกครั้ง

"ไม่รู้สิ ช่างมันเถอะ ตลกเนอะ สอนอ้อนได้แต่เรื่องของตัวเองกลับเอาไม่รอด "

ถึงจะหัวเราะแต่ใบหน้ากลับหมองเศร้าอย่างไม่น่าเชื่อ เลยกลายเป็นอ้อนที่ต้องใช้ฝ่ามือประคองใบหน้าของทานตะวันให้หันมาหา
และส่งยิ้มให้เพราะอยากจะแบ่งกำลังใจให้บ้าง

อ้อนประคองใบหน้าของทานตะวันให้หันมาหา และแตะหน้าผากลงที่หน้าผากของคนที่ทำหน้าเศร้า

"มาน่า ยังไงแม่ของทานก็ต้องมา เชื่ออ้อนสิ นะ ยังไงก็มาแน่ ๆ "

เป็นคำปลอบใจที่ทำให้ทานตะวันยิ้มกว้าง และหัวเราะอย่างมีความสุข ไม่ใช่ว่าตลกหรือเห็นเป็นเรื่องสนุก แต่ว่าคน ๆ นี้ คนที่ทำให้หัวเราะได้คนนี้
ทำบางอย่างที่ไม่เคยทำ และทำให้รู้สึกดีมากขึ้น

"นี่ ค่อยสมกับชื่อหน่อยนะเราน่ะ ชื่ออ้อนก็หัดทำเสียงอ้อน ๆ ทำหน้าอ้อน ๆ แบบนี้บ้างสิ น่ารักดีออก"

เหยย

ไหงงั้นอ่ะ

ทำอะไรไม่ดีออกไปเหรอวะ

หรือว่ายังไง เอ้า ตายห่า แล้วนี่มาทำหวานแหววแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

อ้อนที่กลับสู่สภาพเดิม ลุกลี้ลุกลนหน้าแดงก่ำ ทำท่าจะลุกขึ้นเดินหนี แต่ก็ถูกคว้าเอวเอาไว้เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมให้หนี

"ไม่ต้องหนีเลย หนูน้อยแก้มแดง มาให้ทานกอดซะดี ๆ มาเร็วมานอนกอดทานหน่อย อ้อนให้มันเยอะ ๆ ให้สมชื่อหน่อยสิคนเรา เอ้าหอมแก้มทานบ้างสิเนี่ย ๆ ตรงนี้อ่ะ"

เหอะ

ใครจะไปทำวะ กอดเอวไม่พอ หัวเราะร่ามีความสุขเหลือเกิน

ไม่เอาอ่ะ หอมแก้มบ้าอะไร ทำไม่ลงโว้ยยยยยยยยยยยย ไอ้บ้า

"เร็ว ตรงนี้เลย มา หอมตรงนี้ข้างซ้าย เร็ว"

ไม่เอาโว้ย ทุเรศตาย ทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ ไม่เอาด้วยคนหรอกโว้ยยยยยยยยยยย

อ้อนดิ้นรนหนี แต่ก็ถูกรั้งร่างเอาไว้ แถมทานตะวันยังทำแก้มป่อง เป็นการบังคับกลาย ๆ ว่าไม่ว่ายังไงก็จะให้อ้อนทำสิ่งที่ตัวเองต้องการให้ได้

เอียงแก้มให้หอม ครั้งแล้วครั้งเล่า จนสุดท้ายก็ได้สมใจอย่างที่ใจต้องการเมื่ออ้อนยอมจรดปลายจมูกลงมาที่ข้างแก้มเบา ๆ และลุกขึ้นเดินหนีไปทันทีที่ทำสิ่งที่ทานตะวันต้องการนั่นยิ่งทำให้ทานตะวันหัวเราะมากขึ้น

เฮ่อ .........

ให้มันได้อย่างนี้บ้างสิ

หัดอ้อนให้มันสมชื่อบ้าง แบบนี้น่ารักดีจะตายไป แล้วนั่นเดินหนีไปไหนแล้วนั่น หน้าแาดงไปถึงคอแล้ว
แฟนใครหนอน่ารักจัง

ทานตะวันนั่งหัวเราะและแตะปลายนิ้วไปที่ข้างแก้มของตัวเองอย่างถูกใจกับความน่ารักของคนที่เพิ่งเดินหนีจากไป
ในเวลาไม่นานใบหน้าที่มีรอยยิ้มกลับหมองเศร้าลงอีกครั้ง เมื่อนึกถึงเรื่องของตัวเอง ที่ยังไม่มีคำตอบ

"สอนคนอื่นก็สอนได้หรอก แต่ทำไมสอนตัวเองไม่ได้ก็ไม่รู้ เรื่องของตัวเองยังเอาไม่รอดเลยอ้อนเอ้ย"

TBC....
 
โดย aoikyosuke

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 14-06-2007 22:21:43

เหอเหอ บ้านแม่ยาย .....  o17 o17 o17
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: lordhunter ที่ 14-06-2007 22:35:41
มาต่อเร็วทันใจ ให้ไปเลย10คะแนน  o14


เพิ่งมาใหม่ครับ ฝากตัวด้วยครับ :impress:
ติดตามเรื่องของคุณเซ็งเป็ด หลงไปหลงมา แล้วก็มาโผล่บอร์ดนี้(ได้ไงหว๋า) o3
จากนั้นก็ติดหนึบ :sad3:ถอนตัวไม่ขึ้น  :sad2:
แต่ยังไงก็ขอสิงสถิตที่นี่เลยแล้วกัน ครับ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 14-06-2007 22:42:13
ขอบคุณที่มาต่อค๊าบบ เพื่อนเรย์ o1

ถ้าให้ดี ขออีกตอนนะ o1 :laugh3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 14-06-2007 22:46:33
ทานน่าสงสารจังขอให้แม่มาดูแข่งได้นะ  :sad2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 14-06-2007 22:50:25
 
o2   อ่านทันก่อน 5 ทุ่มแล้ว เย่ๆ

 พี่ชื่อ เรย์ หรองับ  ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15

 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 14-06-2007 22:59:50
อ่านแล้วมีความสุขจัง

แต่ก้อกังวลไงไม่รู้แฮะ  กลัวจามีเรื่องร้ายเกิดขึ้น 

คิดมากไปป่าวหว่า   :o11: :o11: :o11: :o11: :o11: :o11:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 14-06-2007 23:21:42
 o11 อยากได้แฟนแบบนี้บ้าง ขอได้มะอ้อน อิอิ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 14-06-2007 23:33:32
ยังไงก็อยากให้ทานได้รับความรักจากแม่บ้างจังเลย เพราะที่ทานเป็นแบบนี้ก็เพราะ

ขาดความรักจากพ่อแม่นี้แหละ ยังไงอ้อนก็ดูแลมอบความรักให้ทานเยอะๆน้า

แต่ว่าสองคนนี้ จะน่ารักไปถึงไหนเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อิอิ :impress:

ขอบคุณเรย์มากเลยนะคับ ที่ขยันเอามาให้ลงอ่านถี่ๆแบบเนี่ย ชอบๆๆๆๆคร้าบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 15-06-2007 00:15:56
 :o8:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: slmzaa ที่ 15-06-2007 00:17:34
 :sad4: :dont2: :o7:ทานนนนนจร๋า.......รักอ้อนมากๆๆๆๆๆๆๆๆอยากโดนรักแบบนี้จาง
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 15-06-2007 00:49:14
 :impress: :impress: ส่งกำลังใจให้ทั้งอ้อนและทานนะครับ  ทุกการเดินทางเริ่มจากก้าวแรกทั้งนั้นแหละครับ  ในเมื่ออ้อนเริ่มแล้ว  ทานก็คงจะเริ่มได้เหมือนกันนะครับ   o17 o17
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-06-2007 01:25:21
ทานน่ารักขึ้นทุกวันเลย  :-[
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 15-06-2007 02:57:17



...... :-[....รักกัน.....รักกัน...แบบส่าน่ารักจัง..... :like6:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 15-06-2007 09:21:48
ทานได้ใจ FC ไปเต็มๆเลยอ่ะ  :impress2:

น่ารักที่ซู้ดดดดดดดดดดดดด  :like6:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: lordhunter ที่ 15-06-2007 09:25:19
:o11: รอแล้วรออีกเมื่อไรจะมานะ~  :sad2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: slmzaa ที่ 15-06-2007 12:19:30
 :impress: :impress:มาต่อทุกวัน..รักทานรักอ้อน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-06-2007 14:08:19
เกิน 10 เมนท์ เกิน 10 บวก แล้วยังไม่มาต่อ

รีข้างล่างครับ เมนท์ต่อไป - 1 นะครับ

ขอหาไม่ยอมมาต่อตามสัญญา

 :angry2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 15-06-2007 18:35:12
หุหุ อ่านกันเร็วดีแท้
****************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เดิน

พรุ่งนี้ทานจะแข่งแล้วนะ แม่จะมามั้ย ทานก็ไม่รู้หรอก เพราะติดต่อแม่ไม่ได้มาหลายวันแล้ว
พ่อเหรอ ลืมไปได้เลย เพราะว่าพ่อมีงานยุ่งตลอดเวลาไม่เคยได้คุยกันเลยสักนิด

เงินในบัญชีจะท่วมตัวตายอยู่แล้ว แต่ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เพราะไม่มีอะไรที่อยากได้เลยสักอย่าง
คิดเล่น ๆ ว่า ถ้าเกิดจ้างพ่อกับแม่ให้มาเชียร์ที่ข้างสนามนี่มันต้องใช้เงินสักเท่าไหร่กันนะ

คงจะมากเอาการเลยล่ะ ก็เวลาของพ่อกับแม่เป็นเงินเป็นทองไปซะหมดนี่

ช่วยไม่ได้

ก็มันช่วยไม่ได้นี่นะ

ก็........มันช่วยไม่ได้จริง ๆ นี่

"นี่...."

เสียงเรียกของคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทำให้ทานตะวันสะดุ้งสุดตัว
และหันกลับไปมองคนที่ขยับกายมานั่งให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นและกอดแขนของทานตะวันเอาไว้ ซบศรีษะลงบนต้นแขนของคนที่ยกขวดน้ำขึ้นดื่ม
แล้วก็เงียบเสียงไปแล้ว

ทานตะวันที่นั่งเหม่อมองพระอาทิตย์ตกดินอยู่ข้างสนามฟุตบอล อมยิ้มน้อย ๆ และยกมือขึ้นแตะที่เส้นผมของคนที่ซบหน้าอยู่ที่ต้นแขน

รู้หรอกน่ะ ว่าจะปลอบใจ แต่ติดที่ว่าหนูน้อยแก้มแดงไม่ค่อยกล้าอ้อนซักเท่าไหร่ ทั้งที่เวลาทำแบบนั้นมันทำให้ยิ้มได้แท้ ๆ
แต่อ้อนก็ไม่ค่อยจะชอบทำเลย

จะทำท่าทางออดอ้อนบ้างก็ในเวลาแบบนี้นี่แหละ

เวลาที่รู้สึกไม่มั่นใจในอะไรหลาย ๆ อย่าง แล้วก็เวลาที่รู้สึกแย่

"ปล่อยไอ้พวกเวรนั่นกลับบ้านหมดแล้ว อยากให้มันไปนอนให้เต็มอิ่มแล้วพรุ่งนี้จะได้ลุยให้เต็มที่ ซ้อมมาทั้งหมดก็เพื่อวันพรุ่งนี้วันเดียวแหละนะ"

ทานตะวันเอ่ยบอกกับคนที่นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ยืดขาเหยียดยาว มองพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า
แสงสีส้มสวย ๆ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม

ใกล้จะมืดแล้วเหรอ

เกลียดจริงๆ เลยเวลาพลบค่ำเนี่ย

มันทำให้เหงา รู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก เหงา เพราะว่าเมื่อก่อนเคยนอนดูพระอาทิตย์ตกน้ำที่ข้างสระน้ำคนเดียว
แล้วก็ร้องไห้ เพราะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นใครเลยสักคน

ต่างกับช่วงเวลานี้ ถึงแม้ก่อนพลบค่ำจะเป็นเวลาที่เหงาที่สุด
แต่เมื่อหันไปหาใครสักคนก็ได้รู้ว่ายังมีคนอยู่เคียงข้าง ไม่ได้จากไปไหน

ใช่ที่ยังคงเหงา

แต่มันจะเทียบกันได้ยังไง กับการที่ได้นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินกับใครสักคน

คน ๆ หนึ่ง ที่ทำให้รู้สึกถึงความสุขและทำให้มีรอยยิ้ม

ทำให้เป็นทุกข์

ทำให้ร้องไห้

และคนที่เข้ามาหยิบยื่นความอบอุ่นให้โดยไม่คาดคิด

"หิวหรือยัง เมื่อเช้าแม่บอกว่า ให้เรารีบกลับบ้านไปกินข้าว เพราะวันนี้แม่จะกลับเร็ว หิวหรือยังจะได้รีบกลับ"

ทานตะวันเอ่ยถามอ้อนและก็เห็นว่าฝ่ายนั้นส่ายหน้าไปมายังคงไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองทั้งที่ยังกอดแขนของทานตะวันแน่นไม่ยอมปล่อย

"ทำไมล่ะ ไม่อยากกินข้าวฝีมือแม่เหรอ ทานอยากกินจะตาย อิจฉาคนบางคนจังเลย มีแม่..อยู่อื้อ"

กำลังจะพูดอะไรไปเรื่อยๆ แต่ปลายนิ้วของอ้อนที่แตะที่ริมฝีปากก็ทำให้หยุดพูดได้ในทันที

"พอ...."

แค่คำพูดเดียว แต่สายตาที่อีกฝ่ายส่งมาก็ทำให้ทานตะวันรู้สึกได้ว่ากำลังถูกเอ็ด แล้วในเวลาไม่นานทานตะวันที่ทำหน้าเศร้าก็ยิ้มออกมาได้

"ถ้าพรุ่งนี้...ได้ถ้วยรางวัล...จะ..จะ.อ้อนทั้งวัน..ก็ได้..เรื่องอื่นน่ะไม่สนหรอกถ้าพรุ่งนี้ทานอยากได้อะไรเราจะให้ตามที่ต้องการไม่ยอมให้เสียใจแน่ ๆ "
 ............................

งั้นเชียว

แน่ใจนะ

อย่ามาหลอกให้ดีใจนะ

คนยิ่งกำลังเศร้า ๆ อยู่ มาเคาะกะลาให้ดีใจเล่นหรือเปล่าเนี่ย

"ปากดีนะเรา...คืนนี้น่ะรอดแน่เพราะต้องออมแรง แต่คืนต่อไปล่ะก็...จะให้อ้อนให้หนำใจเลย..แน่ใจหรือไงกล้าพูดจริงนะ"

ทานตะวันหัวเราะออกมาและก้มลงไปมองหน้าคนที่ก้มหน้าจนแทบจะติดพื้น

"ก็...สัญญาเลยก็ได้เอ้าสัญญาเลย..นี่ไงสัญญา..สัญญา"

ปลายนิ้วก้อยของทานตะวันถูกยกขึ้นและเขย่าเบา ๆ ทั้งที่คนที่มาให้กำลังใจยังก้มหน้าก้มตาพูดไม่ยอมเงยหน้าเลยสักนิด

"ก็ได้ แลกกันกับการที่วันนี้อ้อนจะกลับบ้านไปหอมแก้มแม่ด้วย โอเคมั้ย"

สัญญาถูกทวงถาม และอ้อนก็พยักหน้ารับอย่างช้า ๆ

"ดีมาก...ไหนเงยหน้าซิ...เวลาพูดอย่าหลบตา..ไม่เห็นหน้าจะรู้ได้ยังไงว่าอ้อนพูดจริง"

ได้ทีก็แกล้งเล่นซะบ้าง แล้วอ้อนก็ต้องจำใจเงยหน้าขึ้นจริง ๆ ทั้งที่เริ่มหน้าแดง เมื่อต้องสบตากับสายตาของทานตะวันที่มองมา

เขินโว้ยยยยยยยย

เกลียดจริง ๆ ไอ้การเล่นเกมส์จ้องตาเนี่ย

ทำตัวไม่ถูก จะให้ทำยังไงล่ะ ไอ้บ้านี่ก็ขยันจ้องจริง ๆ เอาให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย จ้องแล้วยังไม่พอ ยังมีการอมยิ้มทำหน้าใสซื่อแกล้งกันอีก
ให้มันได้อย่างนี้ซีว้าาาาาาาาาาาา

"สัญญาแล้วนะ สัญญาต้องเป็นสัญญา ป่ะ กลับบ้านกัน วันนี้จะนอนให้เต็มอิ่มเลย แล้วพรุ่งนี้จะลุยให้เต็มที่คอยดูฝีมือก็แล้วกัน"

สองคนลุกขึ้นยืนและปัดฝุ่นที่ติดตามเสื้อผ้า

ทานตะวันคว้ากระเป๋าใบใหญ่ขึ้นสะพายและจูงมือให้อ้อนเดินที่เดินกระโผลกกระเผลกเดินตามกันมาอย่างช้า ๆ

ก็ในเมื่อเดินช้าหรือเดินเร็วมันก็ถึงเหมือนกัน

หัดเดินช้า ๆ แบบนี้บ้าง แล้วก็มีคนรู้ใจเดินเคียงข้างกันแบบทุกวันนี้ จะไม่ให้ดีใจได้ยังไง

เรื่องดี ๆ แบบนี้จะหาที่ไหนได้ ถ้าไม่ใช่จากหนูน้อยแก้มแดงน่ารักคนนี้ที่ยอมมาอยู่ใกล้ๆ กัน

เฮ่อ....อ้อนเอ้ย...อยู่ข้าง ๆ ทานตลอดไปนะ ถ้าขาดอ้อนขึ้นมาวันไหน สงสัยทานคงเป็นบ้าตายแน่นอน

TBC...
 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-06-2007 18:54:19
หุหุ คนแรก  :laugh:  :laugh:
เดินช้าหรือเดินเร็วก็ถึงเหมือนกัน ทานเดินช้า ๆ ไปพร้อมกับอ้อนนะ  :impress:
ปล. รี 1 +1 จ้า  :teach:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 15-06-2007 19:03:42
 :impress2: :impress2:  หวังว่าจะไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจในวันแข่งนะครับ  :impress: :impress:

รี2

+1 คร้าบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 15-06-2007 19:07:04
สงสัยชาตินี้เราจะหาคนเดินเคียงข้างอย่างนี้ได้ไหมเนี่ย  :dont2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-06-2007 19:08:36
เมนท์ที่4 +1 จ้า  o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: lordhunter ที่ 15-06-2007 20:08:22
โห  มาต่อแล้ว  เย้ๆ  แต่อ่านไม่จุใจเลยครับ   :impress:
มาต่ออีกเร็วๆนะครับ
ต่างคนแต่มีเรื่องมีปัญหาของตัวเอง เป็นกำลังใจซึ่งกันและกันนะครับ :o10:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 15-06-2007 20:39:10
ชอให้ชนะนะทานเป็นกำลังใจให้ สู้สู้  o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 15-06-2007 21:01:42
คุงเรย์ ทะมายตอนนี้มันมีติ๊ดเดียวเองอ่ะ  :o11:

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 15-06-2007 21:06:02
น่ารักอ่าาา o17 o17 o17
ทานสู้ๆ น๊าาา ชนะให้ได้ละ  o12 o12 o12

เมนต์ที่ 8 และ +1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 15-06-2007 21:09:41
เรื่องใกล้จะจบยังอ่ะครับเนี่ย
ยังไม่อยากให้จบเลย ช่วยยืดเป็นละคร 7 สีหน่อยนะครับ  :o9:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 15-06-2007 21:19:03
ขอให้ทานได้แชม์ครับ

อยากรู้ว่าอ้อนจาโดนไรมั่งงง    :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: a22a ที่ 16-06-2007 01:37:21
ช่างเป็นภาพที่น่ารักจัง ที่คนสองคนนั่งมองพระอาทิตย์กำลังตกดิน แล้วเดินกลับบ้านพร้อมกัน น่ารักจังเลยคับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 16-06-2007 10:31:32
อิอิ

Shot เดด  วันนี้  คงม่ายพ้น

ตอนที่ทานจะได้ถ้วยรางวัลละสินะ

 o3   o3
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 16-06-2007 11:34:05
เอาใจช่วยนะครับทานนนนนนนนน

ทานสู้ๆ

 :110011: :เชิป2: :110011: :เชิป2: :110011: :เชิป2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: windstruck ที่ 16-06-2007 12:26:41
 :give2:  ทานกับ อ้อน น่ารักจังเลย   :like6:  อิจฉาอ่ะ  :haun5:  อยากมีแบบนี้บ้างจัง  เอะ ซาดิสเปล่าเรา  :sad5:  รออ่านอยู่นะ  ขอบคุณที่เขียนเรื่องน่ารัก ดีดี อย่างนี้ให้อ่านน้า  :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 16-06-2007 13:16:49
ไม่ได้เข้าเล้าแป็บเดียว เฮอๆๆ ตาทานเปลี่ยนไป๋  :laugh3:
รอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 16-06-2007 14:59:29
น่ารัก
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 16-06-2007 16:18:20
ขอให้ชนะนะ  จะได้รางวัล จาก  อ้อน ด้วยน๊า  สู้สู้ๆ

 

ขอบคุงที่มาต่อนะงับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 16-06-2007 17:19:16
คู่นี้น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกที่สุด

อ่านแล้วเขินเอง :-[

ช่วยกันเติมเต็มชีวิตซึ่งกันและกัน และมีความสุขด้วยกัน ถึงแม้ว่าอะไรมันจะหายไปบ้งในชีวิต ก็ช่างมัน :impress:

ชอบเรื่องนี้โคดๆๆๆๆๆๆๆ เลย ตาเรย์ o13

มาต่อด่วน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 16-06-2007 17:27:09
ชอบเรื่องนี้โคตรๆ เหมือนกัน  ชอบมากๆๆๆ  ชอบอย่างแรง

อยากอ่านต่อแย้ววว  เรย์จ๋า  :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-06-2007 21:30:03
10 รีก็ครบแล้ว (เกินอีกต่างหาก) 10 บวกก็ครบแล้ว  o12 แล้วทำม้ายยยยยยังไม่มาอีก  :angry2:
เรย์..........  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: lordhunter ที่ 16-06-2007 22:51:04
มาต่อซะทีจิครับ อุตสาห์เข้ามานั่งรอ :impress:
เพิ่งรู้ว่ากินพัดไทยตอนสี่ทุ่มมันอร่อยอย่างนี้นี่เอง o3
แล้วคะแนนมาไง2คะแนน  :impress2: ขอบคุณครับ o14
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 17-06-2007 00:17:24
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำไมสั้นงี้อ่ะ

แกล้งให้อ่านแล้วขาดใจใช่มั้ยเนี่ย อยากอ่านต่อแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :sad4:

มาต่อด่วนเลยน้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 17-06-2007 12:54:44
 :impress: :impress: :impress:
 :o11: :o11: :o11:

 o1 o1 o1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Electrolyte ที่ 17-06-2007 16:16:21
น่ารักจังคู่นี้.....ทานตะวันขอให้ชนะนะคร้าบ :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-06-2007 17:31:55
 :o11:  :o11:  :o11:  :o11:  :o11:  :o11:
 :undecided:  :undecided:  :undecided:  :undecided:  :undecided:
 :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:
 o9  o9  o9  o9  o9  o9  o9
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 17-06-2007 18:52:48
รอแล้วรออีก ยังไม่มาอีกหรอคับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-06-2007 19:18:58
มาแว้ว รอให้เพื่อนๆอ่านกันให้ทันอ่ะ
โทษทีที่ช้าไปหน่อย
 o14 o14 o14
*****************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ยอมแพ้ (จบ)

แล้วทานตะวันก็ได้แต่นั่งมองสนามที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน

จากวินาทีแรกที่ลงสนาม ถึงวินาทีสุดท้ายที่พ่ายแพ้

แค่เพียงสายตาของอ้อนเท่านั้นที่ไล่ตาม ปราศจากสายตาของใคร ๆ

ผิดหวังและเหมือนตัวเองสูญเสีย ไม่ใช่แค่แม่ที่ไม่มา แต่เหมือนกับว่าถูกสายตาของเพื่อนร่วมทีมทิ่มแทง

แพ้ยับเยิน 0 ต่อ 3 ทำสกอร์ไม่ได้ แพ้แบบหมดรูป หลังหมดเวลาการแข่งขัน

ทุก ๆ สายตาที่มองมา มีแต่แววตัดพ้อ และไม่มีเสียงปรบมืออย่างที่ต้องการ ในวินาทีที่ยืนนิ่งคอตกอยู่ในสนามหลังหมดเวลาการแข่งขัน เพื่อนร่วมทีมทั้งหมดเดินจากไปแล้ว และทิ้งไว้เพียงใครคนหนึ่งที่ยืนนิ่งมองความว่างเปล่า

จับมือกันเมื่ออีกฝ่ายได้ชัยชนะ และคว้าถ้วยรางวัลไปครอง ทั้งที่ตัวเองอยากร้องไห้ และเพื่อนร่วมทีมที่ฝึกซ้อมกันมาหลายเดือน ต่างก็ยืนร้องไห้ จ้องมองถ้วยรางวัลที่ต้องการ และต่างเดินหันหลังเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านักกีฬา

ไม่มีคำปลอบใจจากใครสักคน ทุกคนต่างตกอยู่ในอาการเดียวกัน

"เราแพ้ว่ะพี่ทาน...." คำเดียวสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่เหมือนโดนเหยียบหัวใจให้แหลกราญ

ทานตะวันไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ และไม่ร้องไห้

ทั้งหมดแยกย้ายกันกลับ และไม่ได้หันมามองกันอีก เพราะรู้ว่าแต่ละคนกำลังร้องไห้ในใจ เพียงแต่ไม่อยากจะระเบิดมันออกมาเท่านั้น

"เราคงซ้อมกันไม่พอว่ะพี่ ปีหน้า...พี่มาดูพวกผมแข่งนะ ปีหน้าพวกผมสัญญาว่าจะเอาถ้วยรางวัลมาเป็นของเราให้ได้ พวกผมสัญญาจริง ๆ พี่ทาน"

ไม่ใช่ทานตะวันที่ปลอบใจเพื่อนร่วมทีม แต่เป็นไอ้พวกเด็กในชมรมที่ไม่เอาถ่าน ที่ทำให้ต้องเอะอะโวยวายอยู่บ่อยๆ กำลังปลอบใจทานตะวัน

คำพูดง่าย ๆ แต่ทำให้กลั้นน้ำตาเอาไว้แทบไม่อยู่

"เออ พี่รู้ว่าพวกมึงต้องทำได้ นัดพวกเราไปให้หมด จะฉลองให้เต็มคราบเลย พี่เลี้ยงเอง"

กลั้นใจพูดออกไป และพยายามจะยิ้มให้เต็มภาคภูมิ แพ้แล้วสินะ สุดท้ายก็แพ้

ช่วยไม่ได้

ก็พยายามแล้ว พยายามอย่างเต็มที่แล้ว

ได้ถึงขนาดนี้แล้ว จะไม่ให้มีความสุขได้ยังไง เมื่อวันนี้มาถึง วันที่ได้เรียนรู้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

..............ความเสียใจ.......ความพ่ายแพ้.........และการที่ต้องหมดหวังกับสิ่งที่หวัง..................

แต่...

ก็ไม่เห็นว่าจะตาย

ตอนนี้ก็ยังยืนอยู่

ยืนอยู่ในสนาม

สนามที่ปราศจากผู้คน

สนามที่ทำให้พยายามและทำให้มีชีวิตชีวา

ใบหน้าคมแหงนเงยขึ้นมองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีหม่น และพยายามยิ้มให้กว้างที่สุด กว้างให้เท่ากับแผ่นฟ้าที่กว้างใหญ่

"แพ้ซะแล้ว....แถมแม่ยังไม่มาดูซะอีก....ทาน...แพ้แล้วแหละอ้อน"

ทานตะวันก้มหน้าลงมา และหันไปเอ่ยบอกกับคนที่มายืนนิ่งเงียบอยู่ข้าง ๆ
 
.....................

เสียใจแทบตาย แต่ก็ได้รู้ว่านี่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต

"งั้นเหรอ...แพ้แล้วเหรอ.....แย่จังเลยนะ...."

อ้อนยังยืนอยู่ตรงนี้

และหันมาส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยนเหมือนทุกวัน ไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากวันก่อน ๆ

แพ้....งั้นเหรอ

แข่งแพ้เสียใจ จนอยากจะร้องไห้ให้ดังที่สุด เสียใจกับสิ่งที่หวังแต่กลับไม่เป็นอย่างที่หวัง

เสียใจ

อยากจะร้องไห้

อยากจะร้องไห้เสียงดัง ๆ

แต่...........ทำไมถึงได้รู้สึกโล่งใจและสบายใจขนาดนี้

"ทาน กลับบ้านกันเถอะนะ...วันนี้แม่บอกว่าจะทำของโปรดให้กิน...เมื่อเช้าเราบอกเขาว่าให้ทำของที่ทานชอบไว้ให้....เหนื่อยมาทั้งวันแล้วนี่นะ...เย็นนี้เราจะช่วยทานอาบน้ำ แล้วก็จะช่วยถูหลังด้วย...แต่มีข้อแม้ว่า...

คืนนี้ทานต้องให้เราปลอบใจนะ....สัญญาได้มั้ย"

หนูน้อยแก้มแดงพูดไป ยิ้มไป และยังคงยืนอยู่เคียงข้างไม่ได้ขยับกายหนีหายไปไหน

แพ้งั้นเหรอ

แพ้....

การแพ้ทำให้เรารู้จักการยอมรับความพ่ายแพ้ และรู้จักการลุกขึ้นยืนเพื่อจะก้าวเดินก้าวใหม่

"วันนี้แม่ทานไม่มา พรุ่งนี้ก็ต้องมา ถ้าพรุ่งนี้ไม่มา วันถัดไปก็ต้องมา ถ้าวันถัดไปไม่มา เราก็ไปหาเขาเลย ทานว่าดีมั้ย........."

ทานว่าดีมั้ย

ดีมั้ยงั้นเหรอ

คำถามง่าย ๆ แต่ทำให้ใบหน้าที่บึ้งตึง ค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมาได้

อ้อนหมายถึงว่า

วันนี้มันก็เหมือนทุก ๆ วัน เหมือนวันก่อน ๆ หรืออาจจะเหมือนวันพรุ่งนี้

ต่อให้เราเสียใจหรือร้องไห้แทบตาย เราก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้

เราต้องทำวินาทีนี้ให้ดีที่สุดอย่างนั้นใช่หรือเปล่า

"จริงสินะ แม่ไม่ว่าทานไปหาก็ได้นี่ ทานเชื่ออ้อน...งั้น...เรากลับบ้านไปกินข้าวฝีมือแม่อ้อนกันเถอะ ตอนนี้ทานหิวแล้วล่ะ วันนี้อ้อนคุยกับแม่แล้วใช่มั้ยล่ะ ดีจังเลย งั้นคืนนี้ทานจะโทรไปบอกแม่ว่าทานแข่งแพ้ซะแล้ว..เนอะ"

ไม่อยากเชื่อ

แม้แต่ตัวเองยังไม่อยากจะเชื่อว่าจะสามารถพูดคำพูดนี้ออกมาได้ง่าย ๆ

คำพูดที่ทำให้รู้ว่าไม่ว่ายังไงก็ไม่เป็นไร นี่ไม่ได้เจ็บปวดเจียนตายเลยหรือไง ไม่เห็นว่าจะเป็นอะไรเลย

ทั้งที่คิดว่าจะร้อนรนจนทนไม่ไหว แต่กลับไม่เป็นไรเลยด้วยซ้ำ ทำไมถึงได้รู้สึกดีขนาดนี้ รู้สึกดีมาก

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่คาดฝันย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ

ดีเหลือเกินที่มีคน ๆ นี้เป็นกำลังใจอยู่ข้าง ๆ ดีเหลือเกินที่ทานมีอ้อนอยู่เคียงข้าง

"กลับบ้านกันเถอะอ้อน กลับบ้านกัน"

ทานตะวันหันมายิ้มให้กับอ้อนที่เงยหน้าขึ้นและส่งยิ้มตอบกลับมาให้ ฝ่ามือค่อย ๆ กุมกระชับและเกาะเกี่ยวกันเอาไว้แนบแน่น

ทานตะวันหันกลับไปยิ้มให้กับสนามหญ้าที่ทำให้ตัวเองได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างอีกครั้ง

ความสุข ที่ทำให้ยิ้ม

ความเศร้า ที่ทำให้หัวใจหม่นหมอง

ความเหงาที่กัดกร่อนหัวใจ

ความทุกข์ที่ทำให้ร้องไห้ทุรนทุรายบ้าคลั่ง

และสุดท้าย...........มิตรภาพและความรัก ที่ทำให้ลุกขึ้นยืนและก้าวข้ามผ่านความเสียใจไปได้

จากนี้ไป ก็ยังคงต้องก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเจอกับอะไรก็ยังต้องเดินทางต่อไป

ข้างหน้าที่ยังมองไม่เห็นทาง และยังไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง

ข้างหน้ามีอะไรรออยู่นะ

ข้างหน้าที่จะเดินไปพร้อมกับคน ๆ นี้มีอะไรรออยู่

ทานตะวันหันมาส่งยิ้มให้อ้อนที่ยังเดินเคียงข้างไม่ห่าง

กลับบ้านกันเถอะ....กลับบ้านกัน....กลับบ้านไปพร้อมกับคนที่เดินเคียงคู่กันคนนี้

"ทานรักอ้อนจังเลย....แล้วทานก็หิวข้าวแล้วด้วยกลับบ้านไปกินข้าวกันดีกว่า"

เป็นเสียงของทานตะวันที่บ่นออกมาและทำหน้างอ ยกมือขึ้นลูบท้องเป็นการบอกให้รู้ว่าวันนี้ทั้งเหนื่อยแล้วก็ทั้งหิว

"เออ เราก็รักทาน....ป่ะ กลับบ้านไปกินของอร่อยที่บ้านเรากัน"

อีกครั้งที่ทำให้ใบหน้าของทานตะวันมีรอยยิ้ม เมื่อได้ฟังคำพูดของอ้อน

วันนี้ก็แค่เป็นอีกหนึ่งวันที่ได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง

ถ้าไม่รู้จักรสชาดของความทุกข์ จะซาบซึ้งกับความสุขได้ยังไง

ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ วันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันต่อ ๆ ไป

ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้อ้อนก็ยังอยู่ข้าง ๆ นี่นา

เราก็จะเดินไปด้วยกัน และเป็นกำลังใจให้กันตลอดไป เราจะไม่มีวันทอดทิ้งกัน ไม่มีวันนั้น ไม่มีวัน

Fin

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-06-2007 19:30:01
ฮ้า จบแล้วเหรอ  o22  กำลังน่ารักเลย   :like6:
จบได้สวยงามมาก ชอบตอนจบแบบนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป  :impress:
ขอบคุณคนแต่ง สำหรับนิยายดี ๆ
ขอบคุณคนโพสต์
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ  o1   o1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 17-06-2007 20:14:03
จบได้ซาบซึ้ง

สวยงาม

และ รู้สึกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูกครับ

ขอบคุณครับ    o13 o13 o13

 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 17-06-2007 20:15:56
 o1 o1 ขอบคุณนะครับ  สำหรับเรื่องที่น่ารักอีกเรื่องนึง o1 o1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 17-06-2007 20:17:51
ไม่อยากให้จบเลย แต่จบได้ซึ้งมากเลยคับ

ในที่สุดทั้งทานและอ้นก็ได้เรียนรู้ในสิ่งต่างๆพร้อมแก้ไขตัวเองด้วย

ยังไงจะรอผลงานต่อไปอีกนะค้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 17-06-2007 20:29:51
ปิดฉากได้ดีมากครับ
 o7 o7 o7 o7 o7

ยังไม่จบใช่มั๊ยครับเรย์
เคยมีคนเล่าตอนจบให้ฟังอ่ะว่า....
รีบๆ มาต่อภาคสองน้า
 o14 o15
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: lordhunter ที่ 17-06-2007 21:00:51
ขอ..ขอเพียงสักคนที่จะอยู่เคียงข้างกันไม่ว่าจะสุขหรืจะทุกข์

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 17-06-2007 21:18:10
จบลงด้วยดี  o7 o7 o7
ทานน่าร๊ากกกกก อ้อนก็น่าร๊ากกกก  o17 o17
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nanao ที่ 17-06-2007 21:23:17
เหวอมีภาค 2 หรอครับ
คุณเรย์ พลีสสส  o9

อยากอ่านตอบหวานๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 17-06-2007 22:21:58
น่ารักจัง ขอบคุณนะ ตาเรย์

ว่าแต่ว่า ถ้ามีภาค 2 ก็เอามาลงด่วนนะ เพื่อน :o10:

จาตั้งตารอ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ตามมาดู ที่ 17-06-2007 22:48:29
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: slmzaa ที่ 17-06-2007 23:50:08
 :sad4:  :dont2: :o7: o7 :o12:จบจิงๆๆหรอแง้ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: windstruck ที่ 18-06-2007 00:08:21
จบแล้วเหรอ  ชอบ  ทาน กับ อ้อน  จัง  ว้า    :bye2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 18-06-2007 02:04:27
โห! จบไปแล้ว

ขอยกให้เรื่องนี้เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของเล้าเลยนะตาบลูเพราะว่า  ดูจากระยะที่เอาเรื่องมาโพสต์กับการคลิกเข้ามาอ่านทะลุหลักหมื่น  เร็วมากๆ   สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

 :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Electrolyte ที่ 18-06-2007 03:38:07
ไม่อยากให้จบแบบนี้เลย....มาต่อภาคสองด่วนคร้าบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 18-06-2007 05:40:53
   เง้อว...

   มาอ่านรวดเดียวเลยครับ...

   เสียน้ำตาไปหลายยกเหมือนกัน ฮ่ะๆ ซึ้งดีจัง

    :impress:    :impress:    :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 18-06-2007 07:04:26
 :o8:  ตอนจบซึ้งดีจางง กลับบ้านเรา ร๊ากกรออยู่ ทานต้องกลับไปให้อ้อนช่วยปลอบใจไวไวซะแล้วว  :haun5:

ขอบคุงมากๆเลยจ้าเรย์ เรื่องนี้สนุกมากๆ  o13


 :loveu:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 18-06-2007 09:04:20
ยังไม่จบนา  ยังไม่จบดีแน่ ๆ มันต้องมีต่ออีก 2 หรือ 3 ตอนนี่แหละ  :confuse:
ต่อเลยเหอะ  o9 o9 o9
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 18-06-2007 09:45:08
เยี่ยมมากคับสนุกมากเลย  o13

น่าจะมีภาค2ด้วยนะคับอยากอ่านอีกจัง  :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 18-06-2007 10:04:39
จบได้ซาบซึ้ง

สวยงาม

และ รู้สึกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูกครับ

ขอบคุณครับ    o13 o13 o13

 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
จบแล้วจบเลยน่ะแบบนี้ดีแล้วเดี่ยวมีภาค2 เกิดทานไปมีคนใหม่หรือมีคนใหม่มาจีบคนใดคนหนึ่งไม่ดีแบบนี้ดีแล้วเขียนเรื่องใหม่เถอะน่ะ o15 o15 o15 o15 o15 o15 o15 o15 o15 o15
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 18-06-2007 12:33:17
โห! จบไปแล้ว

ขอยกให้เรื่องนี้เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของเล้าเลยนะตาบลูเพราะว่า  ดูจากระยะที่เอาเรื่องมาโพสต์กับการคลิกเข้ามาอ่านทะลุหลักหมื่น  เร็วมากๆ   สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

 :impress:

เห็นด้วยจากอิเจ้

เรทติ้งถล่มทลาย ดูจากคะแนนชื่นชมตาบลู

ยอดกระฉูดสุดฤทธิ์

ชิชิ

 o12
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 18-06-2007 20:28:34
เท่าที่รู้ไม่มีภาค2นะ แต่มีตอนพิเศษมาให้หายคิดถึงกัน
 m2
****************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) แถมท้ายอีกนิด



--------------------------------------------------------------------------------



แถมท้ายอีกนิด

"ขอโทษนะ ก็ทานง่วงจริง ๆ นี่ อ้อนแหละโทษอ้อนคนเดียวเลยทำให้หมดแรง"

ทานตะวันบ่นไม่เลิกทั้งที่ไม่ยอมลืมตา และซบหน้าลงที่ไหล่ของอ้อนที่แกล้งทำหน้างอไม่เลิก

ไอ้บ้าเจ้าชายน้อย แม่ตัวเองอยู่นะนั่นพูดออกมาได้
ไม่อาย เดี๋ยวเหอะ น่าดู

"ยังมาพูดดีอีกนะเรา....นั่น..อ้อนก็ไม่ต้องไปตามใจมากเลย...ไอ้โรคไม่รู้จักทำอะไรเองแม่ก็บอกแล้วบอกอีกไม่ใช่หรือไง ก็รู้ว่าอ้อนจะผ่าตัดขา แล้วยังไง ก็ยังจะทรมานคนเจ็บไม่เลิก อ้อนก็พอกัน ถ้าคราวหน้าทานยังไม่ยอมทำอะไรเองแม้กระทั่งบีบยาสีฟันก็ยังต้องให้อ้อนทำให้อีก บอกแม่ แม่จะจัดการเอง"

เสียงบ่นของหญิงวัยกลางคนผู้เป็นสารถีขับรถแสนชำนาญเส้นทาง ทำให้อ้อนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ และหันไปมองหน้าของคนหน้าบึ้งหน้าหงิกหน้างอ ที่ยังซบหน้าอยู่ที่ไหล่ไม่ยอมเงยหน้า

"แม่นั่นแหละ เออ นี่ไม่ใช่ที่ของทานนี่ กลับเมืองไทยก่อนเหอะ เดี๋ยวรู้ ทานจะอ้อนแม่ของอ้อนที่เมืองไทยให้ดู

ก็แม่ที่อังกฤษอ้อนไม่ได้นี่ ลูกชายของตัวเองแท้ ๆ ปล่อยทิ้งปล่อยขว้าง เอาแต่สนใจลูกสะใภ้เข้าไป"

เป็นเสียงบ่นของทานตะวันที่ยิ่งเพิ่มรอยยิ้มให้กับหญิงวัยกลางคนที่ทำหน้าที่ขับรถ

"ไม่ต้องพูดมาก จดทะเบียนสมรสน่ะ มีเอกสารอะไรมาครบมั้ย ไอ้เราน่ะเหรอจะเตรียมมาเองตาทาน ไม่มีซะล่ะ

ให้อ้อนเตรียมเอกสารมาเองล่ะสิ"

แม่ของทานตะวันหัวเราะออกมา และเหลือบสายตามองที่กระจกเมื่อเห็นลูกชายรีบคว้าซองเอกสารสีน้ำตาลออกมาโบกให้ดู

"ไม่มีซะหรอก ทานเตรียมเองมาเป็นเดือนแล้ว ไม่ต้องให้อ้อนเตรียมหรอก เนอะ...หนูน้อยแก้มแดง"

ท้ายประโยคคนตัวโตหันไปส่งตาหวานให้กับใครอีกคนที่หันมามองหน้าและทำตาขวางใส่ ก่อนจะยิ้มออกมาเพราะความเขิน

อ้อนหันไปมองถนนข้างทางที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะ และอมยิ้มอยู่คนเดียว หน้าอาจจะแดงนะ สงสัยว่าตอนนี้หน้าคงแดงก็มันรู้สึกร้อนวูบ ๆ นี่ หรือว่าเป็นเพราะอากาศเย็นจัดของเมืองนี้ก็เลยทำให้หนาว จนหน้าแดงก็เป็นได้

แค่คิดว่าจะต้องไปจดทะเบียนสมรสกับเจ้าชายน้อยชอบเอาแต่ใจตัวเองก็รู้สึกแปลก ๆ แล้ว

เฮ่อ ช่างมันเถอะ....ถึงจะรู้สึกเขิน ๆ ไปบ้าง

แต่วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งล่ะนะ......ที่ได้เรียนรู้กันและกันและได้ก้าวเดินไปพร้อมกับทานตะวัน


อีกวันที่มีความสุข


อีกวันที่จะอยู่ในความทรงจำ ไปนานแสนนาน

เฮ่อ....

วันนี้น่ะมันก็แค่วันหนึ่งวันแค่นั้นเอง เป็นแค่วันหนึ่งวัน แล้วก็เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชีวิตคู่ซะด้วยสิ

"หนูน้อยแก้มแดง กลับบ้านไปเราไปฉลองสมรสกันนะ เอาแบบว่า...ให้ทานสลบไปเลยยิ่งดี ทานชอบ ทานอยากสำลักความสุข"

อ้อนต้องรีบตะครุบปากของคนที่กระซิบบอกและส่งสายตาหวานซึ้งมาให้แทบไม่ทัน

ก็ดูไอ้เจ้าชายน้อยสิ ทานตะวันหนอทานตะวัน
เดี๋ยวกลับบ้านไปเจอกัดแน่

จะกัดทั้งตัวเลย พูดมาไม่อายปาก

แล้วนี่แม่จะคิดยังไงบ้างเนี่ย มาถึงขั้นนี้แล้วเนี่ย


คอยดูเถอะ คอยดู คอยดูนะ จะทำให้สำลักความสุขให้ดู
โทษฐานปากเสีย พูดจาไม่รู้จักอาย คอยดูนะไอ้เจ้าชายน้อย คอยดูเถอะ คอยดูฝีมือการอ้อนของหนูน้อยแก้มแดงคนนี้บ้างก็แล้วกัน แล้วจะหาว่าไม่เตือนทีหลังไม่ได้นะ จะอ้อนให้สลบจริง ๆ แน่ ปากดีเหลือเกินนะคนเรา

Fin... 2


 
โดย aoikyosuke
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-06-2007 20:32:58
หุหุ มีตอนพิเศษด้วยวุ้ย น่าร๊ากกกกกกจริง ๆ   m4  m4  m4
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 18-06-2007 21:29:07
ดีใจๆๆๆๆ ได้อ่านต่อแล้ว m3  m3  m3
ชอบเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (บอกเป็นรอบที่ร้อยแล้วมั้ง)
แต่งได้อารมณ์ ดึงความรู้สึกสุดๆ ทั้งอึดอัด กุ๊กกิ๊ก ทำให้เรานั่งยิ้มอยู่หน้าคอมอยู่คนเดียวเหมือนเป็นคนบ้าได้อะ
หาเรื่องของคุณ aoikyosuke มาอีกสิเรย์  แต่งเก่งจัง

ว่าแต่อ้อนจะกัดทานทั้งตัวเลยเหรอ อิอิ  จิ้นไปไกลอีกแล้วคับท่าน  m4
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 18-06-2007 22:00:21
ไปจดทะเบียนที่ใหนอะ เอามาต่อเยอะๆนะชอบเรื่องนี้มาก  m1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 18-06-2007 23:32:38
 m1

ขอบคุณนะเรย์
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: slmzaa ที่ 19-06-2007 00:35:23
 m1 m2 m3อ้อนทาน.............จบจิงหรอ :sad4: :dont2: :o7: o7 :o12:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: a22a ที่ 19-06-2007 01:27:39
จบแล้วหรือคับ ขอบคุณนะคับที่เอาเรื่องดีๆน่ารักๆมาให้อ่าน จบแบบมีความสุขที่สุดเลยคับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: bspt ที่ 19-06-2007 02:34:28
ชอบมากครับ ขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่านกัน  o14ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหมาหยอกไก่ ที่ 19-06-2007 02:57:00
 :m4: :m4: :m4: :m4:

อ่านตั้งแต่ 5 ทุ่มยันตี 3 ชอบมากๆครับ

ขอบคุณๆๆๆๆคับ

 :give2: :give2: :give2: :give2:

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 19-06-2007 03:06:29
   ฮ่ะๆๆ...

   อ่านตอนพิเศษแล้วมีความสุขดีจังเยย

    :impress:   :impress:   :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 19-06-2007 08:14:29
และแล้วก็จบลงด้วยความสุขสักที  ^ ^  :-[

ต้องขอบคุณคุนเรย์ด้วยนะคร้าบบบ  ที่นำเรื่องที่แสนจะสุขเรื่องนี้มาให้ได้อ่านกัน

และแน่นอนก็ต้องขอบคุนคนเขียนเรื่อง  ที่เขียนเรื่องให้ได้รู้สึกอบอุ่นแบบนี้

เพราะความผูกพันธ์จริงๆ นั่นแหละ

อ่านแล้วยิ้มมีความสุขมากคร้าบบป๋ม

 :yeb:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akitt ที่ 19-06-2007 08:36:14
 :m4: :m4:
ยิ้มกันแก้มร้อนไปหมด
ขอบคุณคนเขียน  คนโพส  ที่สละเวลาจ้า

เห็นด้วยกันมูมู่น้อย  คุณเรย์เอาเรื่องอื่น ๆ ของคุณเท็นมาลงอีกสิ
มีทั้งแบบกวน ๆ น่ารัก  เศร้า  ซึ้ง  อิ่ม ๆ หลายแบบดี
 :5555:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 19-06-2007 10:30:32
เป็นปลื้มเรื่องนี้ที่สุด  :m3:

ชอบใจมากมาย  :impress2:

อยากมีคนมาดูแลแบบ 2 คนนี้จัง ดูแลความรักซึ่งกันและกัน (เมื่อไหร่จะเจอเนี่ย กรู)  :เฮ้อ:

ขอบคุณคนเขียน ค๊าบบบบ  :m4:

ขอบคุณ ตาเรย์ คนโพส  o14

ขอบคุณมากมาย  o15
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-06-2007 10:42:14
แต่งงานกันแล้ว

น่ารักจังวุ้ย

 :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: leau_dissey ที่ 19-06-2007 12:07:44
 :give2: น่ารักมากเลยค่ะ เป็นการดำเนินเรื่องที่ใช้เพียงความขัดแย้งของตัวละครแค่สองตัว เถียงกันทะเลาะกัน เถียงกับตัวเองทำให้เนื่อเรื่องแปลกออกไป (แต่งได้ไงเนี่ย ช้อบ ชอบค่ะ ) :bye2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-06-2007 14:10:03
ขอบคุณเรย์ที่เอาเรื่องน่ารักๆมาให้อ่านนะ   :m3:

ขอบคุณคนแต่ง   :m4:

เค้ามีบทสัมภาษณ์ด้วยมิใช่เย๋อ   :m12:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 19-06-2007 17:56:43
จบเเล้วหรอ o22 o22 o22 o22 o22ม่ายยยยยยยย :dont2: :dont2: :dont2: :dont2:
เรามาช้าเกินไปแงๆ :sad4: แต่ก็ขอบคุณพี่เรย์มากสำหรับเรื่องดีๆเรื่องนี้เอาไป+1สุดท้าย หุๆ :m7:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 19-06-2007 18:01:58
จบแล้วเหรอค่ะเนี่ย

เรื่องกำลังสนุกเลย   :m3:

ขอบคุณคนเขียนและคนโพสด้วยนะค่ะที่มีเรื่องราวน่ารักๆมาให้อ่านเสมอ

 o15
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 19-06-2007 20:39:32
ขอบคุณผู้เขียนที่เขียนเรื่องดีๆออกมาให้เห็นความสวยงาม ความรัก และเรียนรู้ประสบการณ์ที่ดีๆในชีวิต
 :m4: :m4: :m4:
ขอบคุณคนอ่าน คนคอมเม้นต์ที่ติดตามและให้กำลังใจคนเขียนและคนโพสมาตลอด
 :m1: :m1: :m1:

*******************


เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ภาคพิเศษ รองเท้าคู่เก่า

อย่ามาถามว่ารักได้ยังไง เพราะตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงรัก

รู้แต่ว่าพอรู้สึกตัวอีกทีก็รักไปแล้ว

มานั่งคิดดู ที่ทำอะไรไปตั้งหลายอย่างมันก็เพราะว่าหลงรักคนบางคนแบบไม่รู้ตัวนั่นเอง

ทำไมถึงคิดอะไรได้มากขนาดนั้น ทำไมถึงทำอะไรบ้าบอได้มากขนาดนั้น

มองย้อนกลับไปก็ได้แต่หัวเราะกับตัวเองเงียบ ๆ

ทำไมถึงไม่รู้เลยนะว่าตอนนั้น ตกหลุมรักหนูน้อยแก้มแดงเข้าให้แล้ว

คิด ๆ ดูแล้วก็ขำตัวเอง กว่าจะรู้ตัวก็แทบจะต้องเสียไปแล้ว

ทานตะวันกำลังอมยิ้มและนึกถึงวันเวลาเก่า ๆ ที่ผ่านพ้นไป

ใช้แปรงซักผ้าขัดถูไปที่รองเท้าผ้าใบคู่เก่าของใครบางคนที่เห็นเผลอหลับอยู่บนโซฟา

เอนร่างนั้นให้นอนหลับได้อย่างสบายและหาหมอนมารองให้หนุนที่หัว เห็นอ้อนงัวเงียปรือตาตื่นขึ้นมาแล้วก็หลับลงไปอีก คงจะเหนื่อยแล้วก็เมาเวลานั่งเครื่องมาก็อย่างนี้แหละ ปรับเวลาไม่ค่อยทัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะไปหาหมอให้ตรวจที่เข่าแล้วก็จะได้ผ่าตัดรอบสุดท้ายซะที หายไว ๆ เถอะนะ ถ้าหายแล้วจะได้ไม่ต้องทำหน้าทรมานเวลาต้องเจอกับอากาศเย็น ๆ

"อือ ทาน...ทำอะไร..ตื่นมาแล้วไม่เจอนึกว่าหายไปไหน"

ตื่นแล้วเหรอ ก็เมื่อกี้ยังนอนอยู่เลยนี่ ตื่นมาแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอ หมอบอกว่าไม่ให้เดินบ่อย ๆ ไง ทำไมยังเดินอีก

"ซักรองเท้าอยู่ คู่นี้ไงจำได้มั้ยว่าอ้อนเคยใส่สมัยเรียน ไปเปิดตู้ดู เก็บเอาไว้อย่างดีเลยนะ เอาออกมาทำความสะอาดบ้างจะได้เก็บไว้นาน ๆ "

แค่เพียงคำพูดเรื่อยเปื่อย บทสนทนาเรียบเรื่อยแต่ก็ทำให้อ้อนรู้สึกอยากจะร้องไห้เพราะความตื้นตัน

เก็บเอาไว้

แล้วก็เอาออกมาทำความสะอาดบ้างเป็นบางครั้ง

ทานตะวันซักผ้าไม่เป็น ทำความสะอาดบ้านไม่เป็น ทำอะไรไม่เป็นสักอย่างเดียว ขนาดบีบยาสีฟันยังไม่ยอมทำเอง

แต่กลับลงมือซักรองเท้าผ้าใบคู่เก่าที่เก็บไว้ในตู้ด้วยตัวเอง

แล้วแบบนี้

จะให้คิดยังไง

"ทำไมถึงเก็บไว้ล่ะ....ไม่เห็นต้องเก็บเลย"

ทำไมงั้นเหรอ ทำไมถึงต้องเก็บงั้นเหรอ ทำไมกันนะ ไม่รู้สิ รู้แต่ว่าอยากเก็บเอาไว้ ไม่ใช่แค่รองเท้าคู่เก่า

ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าเก่า ๆ

ไม่ใช่แค่ของใช้เก่า ๆ ที่อยากเก็บเอาไว้

แต่เป็นความทรงจำเก่า ๆ

ความรู้สึกเก่า ๆ ที่ไม่เคยจางความทรงจำดี ๆ ทุกอย่างที่เก็บเอาไว้กับตัวตลอดเวลา

"ก็....มันผูกพัน...นับหนึ่งมาด้วยกัน...จากคนไม่มีหัวใจก็ได้รู้สึกกับเขาบ้างว่าการมีหัวใจมันดีแค่ไหน"

นับหนึ่งมาด้วยกัน

ร้องไห้มาด้วยกัน

เกลียดกันแทบตาย

จนกระทั่งมันกลายเป็นความรักและความรู้สึกผูกพันที่เกิดขึ้นเงียบ ๆ โดยไม่รู้ตัว

อย่างนั้นสินะ

อ้อนกำลังยืนอมยิ้มและพยายามย่อกายลงนั่งข้าง ๆ ทานตะวันทั้งที่รู้สึกปวดแปลบที่หัวเข่าเวลาที่ต้องขยับร่างกายไปมา มองที่มือของเจ้าชายน้อยที่ตั้งอกตั้งใจขัดร้องเท้าผ้าใบคู่เก่าแล้วก็ยิ่งทำให้ยิ้มจนหุบยิ้มไม่ได้

"เอาไว้ หลังผ่าตัดแล้ว...เราไปนั่งดูฟุตบอลกันสองคนนะ...อยากใส่รองเท้าคู่นี้อีกจัง...อยากเห็นลูกทีมของทานด้วยว่าปีนี้จะได้ถ้วยทริปเปิ้ลแชมป์หรือเปล่า"

ทานตะวันหัวเราะชอบใจกับประโยคหยอกล้อของหนูน้อยแก้มแดงที่มานั่งอมยิ้มทำตาแป๋วอยู่ข้าง ๆ

ไปสิ

ไปด้วยกัน

ที่ไหนก็ได้

อยากไปด้วยกันหมดทุกที่

อยากไปด้วยกัน

อยากอยู่ด้วยกัน

ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เราก็จะไปด้วยกัน ขอแค่มีอ้อนอยู่ข้าง ๆ จะไปที่ไหนก็ได้ ไม่เคยกลัวเลยสักนิดเดียว

Fin

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 19-06-2007 20:51:02
อ้ายยยยยยยยยย ตอนพิเศษก็ยังน่ารักมากๆเลย +1 ให้นายบลูเลยละกัน ซึ้งๆๆๆๆๆ

ว่าแต่มีภาคสองอีกป่าวคับ อยากอ่านแล้วอ่ะ น่ะๆๆๆ :impress:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-06-2007 20:56:29
ฮั่นแน่ มีตอนพิเศษอีกแล้ว  :m4: มีอีกป่าว เอามาลงให้หมดน้า อย่ากั๊ก  :m5:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 19-06-2007 21:04:08
อ่านจอนนี้แล้วรู้สกว่า สองคนี้ไม่ได้อยู่ไกลจากตัว

รู้สึกเหมือนกับว่า  ได้มองเห็นความสัมพันธ์ของทั้งสองคนที่พัฒนามาจนรักกันในที่สุด

อ่านแล้วก็รู้สึกอิ่มใจ กับความรักของทั้งสองคนครับ

ขอบคุณครับ

+1 ด้วยคน  o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 19-06-2007 21:05:14
จบแบบมีความสุข

อิจฉาทั้งคู่จัง

ขอให้รักกันนานๆนะคับ

มา +1 ให้นะคับ  :m3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 19-06-2007 21:16:25
จบแล้ว  สนุกมากเลย  ขอบคุณนะงับที่เอามาให้อ่านกัน   o13

ขอบคุนที่คุนโพส ที่ขยันเอามาลงแบบว่า วันต่อวัน ถ้าวันไหนไม่ได้เข้าเล้าที่  ต้องตามอ่านย้อนหลังอย่างแรง

จบอย่างมีความสุข   น่ารักทั้งคู่ เลย น๊า    :m9:




หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: lordhunter ที่ 19-06-2007 22:05:11
ไม่อยากให้จบเลยครับ  :m15:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 19-06-2007 23:18:17
ขออีกได้ใหมคิดถึงอะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 20-06-2007 10:08:34
ทานยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย

เข้ามา +1 ให้คนโพสเหมือนกันค่ะ

 o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 20-06-2007 11:01:35
สั้นนิดเดียวเอง  :dont2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: slmzaa ที่ 20-06-2007 12:15:17
 :m1: :m3:oน่ารักจิง.............มาต่ออีกนะครับไม่อยากไห้จบเลย :m13: :m5:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 20-06-2007 13:19:06
ตื้นตัน

 :m15:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 20-06-2007 14:37:14
อ่านแล้วยิ้มออกมาจนเพื่อนทักว่าเป็นอะไร
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: CorNnE PRiNCeS ที่ 20-06-2007 14:49:26
o1


มีผลงานดีๆ ให้ชื่นชมอีกนะครับ

ข้าวโพด จะติดตามผลงานต่อๆ ไปนะครับ


ขอบคุณท่านผู้โพสต์  ขอบคุณท่านผู้แต่ง

กว่าลูกจะดีกับแม่ได้ กว่าจะปลดหนี้ได้

ดีใจสุดๆ กับเรื่องร้ายๆ ที่กลายเป็นดี



 :m5: :m5: :m5: :m5: :m5: :m5:
[/glow]
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-06-2007 14:54:33
 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 20-06-2007 19:59:50
เสียเวลาไปครึ่งวัน อ่านจนจบ ...

 นึกถึงตัวเองในอีกแง่มุมนึง

ทุกวันนี้ ยอมเพื่ออะไรก็ไม่รู้ ... ทำไมเราต้องมาเจอกันก็ไม่รู้

...

บางทีไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตรงหน้านี้คือใคร และเรากำลังทำอะไรอยู่
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 20-06-2007 20:19:26
ไปสิ  ไปไหนก็ได้  ที่ๆ ที่อ้อนอยู่  ที่ๆ มีทานอยู่   :m3:
อ่านแล้วซึ้งจัง 
ชีวิตเรา  ขอแค่มีใครสักคนที่อยู่เคียงข้างทั้งในยามทุกข์ยามสุขก็พอแล้วละ  :m2:

น่ารักมากๆ ซาบซึ้งมากๆ มีแทบทุกอารมณ์เลยสำหรับเรื่องนี้
ถือได้ว่า เป็นเรื่องที่สุดยอดในสายตาเราเลย
แต่เรื่องนี้ต้องอ่านเป็นตอนๆ นะ 
ถ้าอ่านทีเดียว  ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ลุ้นตามไปกับอ้อนและทานยังจะเหมือนเดิมรึเปล่า

ยังไงก็ขอบคุณคนเขียนมากๆ เก่งมากกกกกกก  อยากอ่านเรื่องคุณ Aoikyosuke อีกแล้วซิ
ขอบคุณเรย์ที่นำเรื่องดีๆ มาโพสให้อ่านกันนะ  บวกหนึ่งให้เหมือนกันจ้า
แล้วก็ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่ร่วมกันเม้นต์ให้ถึงสิบไวๆ อิอิ
 :m4:  :m4:  :m4:  :m4:  :m4:  :m4:  :m4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: esabella ที่ 21-06-2007 03:31:56
       

.... :give2:.....และแล้วเรื่องราวก็จบลงด้วยความรักที่สวยงาม.......เฮ้อ....อิจฉาจัง......


... o13....ขอบคุณเรย์ด้วยนะครับที่นำเรื่องราวความรักที่ทำหัวใจของคนอ่านพองโตไปด้วยแบบนี้มาให้อ่านกัน...



                                                           :m2: :m2: :m2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taexxxx ที่ 21-06-2007 10:05:43
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆแบบนี้นะครับ
ใช้เวลาในการอ่านประมาณ 3 วัน จริงๆก็สามารถอ่านให้จบวันเดียวได้นะแหละ
แต่ก็เหมือนที่เรย์บอกว่า อยากอ่านช้าๆ แล้วก็สัมผัสกับความรู้สึก
ของมิตรภาพของคนสองคนให้มากที่สุด
อิ่มแล้วหละกับความสุขที่.....หาไม่ได้จากในชีวิตจริง

เรย์...เอาไว้เข้ากรุงแล้วจะพาไปเลี้ยง... นะ อิอิ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: prince_halation ที่ 21-06-2007 10:09:44
 :m13: มาแปะไว้ก่อนครับ...เดี๋ยวจะเข้ามาอ่านใหม่นะฮะ...(คือเพิ่งอ่านไปได้แค่ 1 หน้าอะ)

แค่เริ่มเรื่องก็น่าสนุกแล้วอะครับ...  :m13:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 21-06-2007 11:16:48
แง่ะ มีแถมตอนพิเศษก็ไม่บอกกัน  :m15:


เรื่องนี้น่ารักดีอ่า หวานดี :m1:

(หวานเหมือนชีวิตเรย์เลยป่ะจ๊ะ  :m12: )
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 21-06-2007 16:10:11
อ่านตอนพิเศษแล้ว..... :give2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: slmzaa ที่ 27-06-2007 01:31:43
 :m4:  :m4:ที่ร้าของช้านมาต่อไห้อ่านอีกเน้อ :m3: :m1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Oḇlivïaté℠ ที่ 30-06-2007 22:47:07


หนุกมากมายเรยค๊าบบบบ บ บ

มีหลายอารมณ์ดีแฮะๆ

 :give2: :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 03-07-2007 21:36:18
อ๋า จบซะแล้ว อึ้งอยู่เหมือนกันที่จบแล้ว แบบนี้เลย  o22
จบแบบไม่ทันตั้งตัวเลยแฮะ  :m15:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: นางมารร้าย ที่ 06-07-2007 16:51:22
อ่านจบแล้ว เม้นท์ทีเดียวค่ะ 

ขอบคุณคุณเรย์สำหรับเรื่องราวดี ๆนะคะ

ชอบมากๆ เลยค่ะ  ถ้ามีตอนพิเศษขออีกนะคะ

+1  ค่ะ เป็นกำลังใจให้คนโพสค่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: light_tao ที่ 08-07-2007 22:05:00
ว้าวๆๆๆ  ในที่สุดก็อ่านจบสักที


แบบว่าชอบมากๆๆเลย


ปล. ขอบอกว่าร้องไห้ ด้วยอะ :sad4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ronger ที่ 09-07-2007 13:34:13
 :m1:  เรื่องนี้สนุกมากกกก   อ่านแล้วซึ้ง  :impress:  ตอนจบก็จบดีด้วย

ขอบคุณ aoikyosuke ที่เขียนเรื่องนี้   ขอบคุณ คุณเรย์ที่นำมาโพสท์ให้พวกเราได้อ่านกัน  :give2:


ปล. อยากอ่านงานของคุณ aoikyosuke อีกจางเยย :m3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: leau_dissey ที่ 09-07-2007 14:48:24
 :impress:อย่าน่ารักให้มากได้ไหมคะ  :m4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: thanwaruchara ที่ 08-08-2007 12:49:53
อ่านจบแล้วคร๊าบขอบคุณมากนะคร๊าบบบบบบบบบบบบบบ  o15

 แล้วจะตามอ่านอีกนะคร๊าบ

 :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: prince_halation ที่ 15-08-2007 03:25:55
ใช้เวลาสามวันอ่าน ๆ ๆ ๆ ครับ

ช่วงแรก ... ไอ้ทานทำไมมันเลวแบบนี้วะเนี่ย ขนาดอ้อนขาเจ็บแบบนี้ยังจะไปรังแกเค้าอีก
ไอ้ทานบ้า ไอ้ห่านี่แม่งไร้หัวใจชะมัด สงสารอ้อนจัง ได้แต่เก็บกดเอาไว้ ไม่กล้าเล่าหรือเอ๋ยปากอะไรให้แม่ฟัง
เพราะกลัวว่าจะทำปัญหาให้แม่อีก ส่วนไอ้ทานก็แสนจะชั่วนะ......เห็นความทุกข์ของคนอื่น ๆ เป็นเรื่องสนุก
ก็คิดดูสิ มันบอกว่าสนุกที่ได้แกล้งอ้อนน่ะ เอาเป็นว่าตอนแรก ๆ ก็เกลียดทานสงสารอ้อน  แล้วก็นะไอ้รู้ว่าทั้งสองคน
มานั่งอิจฉากันเองเพราะว่าขาดสิ่งที่มีซึ่งกันและกัน ส่วนอ้อนน่ะหรอก็ยังคงหน้าตายเหมือนเดิม ๆ เพราะว่าความหลัง
ที่เจ็บปวด ไม่กล้าพูดกับแม่ ไม่อยากคุยกับแม่ แม่คงเสียใจมาก ๆ แต่ก็ไม่เคยโกรธลูกเลยเพราะอะไรน่ะหรอ
ก็แม่เป็นแม่ไง แม่คือแม่แค่นั้นเอง คงเข้าใจอ้อนด้วยหัวใจที่แท้จริงและรักอ้อนด้วยรักที่บริสุทธิ์จริง ๆ หลังจากเกิดอุบัติ
เหตุแม่แค่ขอให้อ้อนกลับมาในสภาพไหนก็ไม่เสียใจ แค่ให้อ้อนกลับมาเท่านั้น ผมเชื่อว่าแม่ก็มีกำลังใจจะสู้ต่อไปแล้ว
แม่ ... คำนี้ช่างประเสริฐนัก อ่านแล้วยิ่งรักแม่มากขึ้นไปอีกครับ จริง ๆ นะ ทุกคนคิดเหมือนผมรึเปล่า


ช่วงกลาง ๆ ... ตอนนี้เริ่มยิ้มได้แระ แต่ก็แอบเซ็งไอ้ทานบ้างบางครั้งเพราะว่ากว่าจะรู้หัวใจตัวเองนะ โหหหหหหห
แม่งเหมือนผ่านไปหลายปีเหลือเกิน แล้วก็ต้องสงสารทานขึ้นมาบ้างเพราะว่ามีอดีตที่น่าเศร้าและถูกเก็บเอาไว้ในหัวใจ
เสมอ เหมือนหัวใจมีน้ำแข็งจากฤดูหนาวเกาะกุมไว้ตลอดเวลา ไม่อยากรู้จักใคร ไม่อยากจะรักใครงั้นหรอ อ่านความคิดของ
ทานตรงนี้ก็รู้ได้เลยว่าตั้งกำแพงให้ตัวเอง กลัวว่าจะต้องเสียใจแต่ว่านะ อ้อนก็เหมือนแสงแดดอันอ่อนโยนของฤดูใบไม้ผลิ
ที่ค่อยๆ ละลายหิมะในใจของทานลงไปเรื่อย ๆ ทำให้ทานน่ะกล้าที่รักใคร กล้าที่จะเปิดใจ กล้าที่จะลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ
เหมือนว่าทำให้ชาญที่ดูเข้มแข็งนั้นแต่ว่าภายในกลับบอบบางและขี้ขลาดมีความกล้าหาญมากขึ้น กล้าที่จะยอมสละความเป็น
ตัวเองเพื่อใครซักคน ( คืออ้อนน่ะเอง ) กล้าที่จะเริ่มทำสิ่งที่ไม่อยากจะทำ ( ทั้ง ๆ มันเป็นสิ่งที่ดี ) และที่สำคัญคือกล้าหาญที่
จะเปิดใจแล้วก็แชร์ความรู้สึกกับใครซักคน ( คืออ้อนอีกน่ะแหละ ) แล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็คือการที่ได้มีจิตใจอีกครั้ง เพราะว่าน้ำ
แข็งที่ได้เกาะกุมหัวใจนั้นได้รับแสงอรุณแห่งฤดูใบไม้ผลิที่ค่อย ๆ ละลายจนหมดไป  ส่วนอ้อนน่ะหรอก็ค่อย ๆ เข้าใจทานมาก
ขึ้นแล้วก็นะคนสองคนเมื่อค่อย ๆ เรียนรู้กัน ผูกพันธ์กันก็ก่อเกิดความรู้สึกที่งดงามขึ้นมา ความรู้สึกที่ไม่อาจจะบอกได้ว่าเป็น
อะไร แต่บทสรุปมันเป็นตัวบอกเอง


พูดมามากมายแระ มาพูดถึงตอนสุดท้ายดีกว่าเนอะ ตอนท้าย ๆ ก็นะอ่านไปแล้วรู้สึกว่าจะหวานเกินไปแล้วนะเนี่ย แล้วความคิดของนายทานที่มีต่ออ้อนนะก็เหมือนกับที่ตานั่นมีกับผมเลย ผมอ่านไปก็ยิ้มไปน้ำตาไหลไปเมื่อนึกย้อนไปเมื่ออดีตที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น

- - - -"น้ำตาลอะไรไม่เอาทั้งนั้น ไม่เอาอะไรแล้ว...อยากจะใส่น้ำตาลกี่ก้อนก็ใส่ไป..อยากจะทำอะไรก็ทำไปแต่อยู่กับทานนะ..อยากจะทำอะไรกับชีวิตทานก็ได้
แต่อย่าทิ้งทานไปเหมือนที่คนอืน ๆ ทิ้ง...ห้ามทิ้งไปเหมือนคนอื่น ๆ เข้าใจมั้ย..อยากจะมีใครอีกกี่คนก็ได้..แต่ต้องกลับมานะ...ต้องกลับมาหาทานตลอดไป" - - - -  .... แต่ตานั่นพูดว่า ไม่เป็นไรหรอก ไม่โวยวายแล้วจะไม่วุ่นวายมากแล้วขอเป็นห่วงอยู่ห่าง ๆ ก็พอ จะไปไหนก็ได้เค้าขอตัวเองอย่างเดียว ขอให้ตัวเองกลับมา เค้าจะยืนรอที่เดิมเสมอ ให้ตัวเองรู้ว่าเค้ารักตัวเองจริง ๆ แค่กลับมาก็พอจะไม่โวยวาย จะไม่ทำให้ตัวเองไม่สบายใจอีก จะไปเจอใครก็ได้ สัญญานะว่าจะกลับมา... แต่ว่าผมก็ใจร้ายนะ ผมยังเดินไปจากเค้าในตอนนั้นอีก  ที่จริงมันก็ไม่ได้พูดเหมือนไปหมดหรอกนะแต่ให้ความรู้สึกแบบเดียวกันเลย

- - - - "ใครจะยอมให้อ้อนไปหาผู้หญิงคนนั้นล่ะ ไม่มีทางหรอก ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางให้ไป..ไม่ว่าจะต้องทำยังไง ทานก็ไม่ยอมให้อ้อนไปไหนได้หรอก
รู้เอาไว้ หนูน้อยแก้มแดง...รู้เอาไว้..อ้อนเกิดมาเป็นของทานคนเดียว"

......ไม่ยกให้หรอก เคยปล่อยให้ความรักหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา ได้แต่ก้มหน้ารับกรรม ไม่ยอมรั้งไม่ยอมต่อสู้แย่งชิงเพื่อให้ได้มา แล้วเรื่องอะไรคราวนี้จะยอมให้เป็นแบบนั้นอีก เสียใจมาหลายวัน คิดแล้วก็ปลงไม่ตก ทำไมต้องปล่อยอ้อนไปด้วย
ทั้งที่รักมากขนาดนี้ เพราะฉะนั้น ก็ต้องใช้วิธีการเหนี่ยวรั้งแบบนี้ล่ะ ได้ผลหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าจะพยายามให้ถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้

"ไม่ปล่อยหรอก ไม่ยอมปล่อยแล้ว ถ้าทานไม่ได้ ยัยบ้านั่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน ทำไมไม่เลือกล่ะว่าจะเอายังไง
ตกลงจะเลือกทานมั้ย หรือจะเลือกผู้หญิงคนนั้น ทานไม่เสียสละแล้ว ไม่ยอมให้ไปไหนด้วย อ้อนเป็นของทานคนเดียวจำเอาไว้เลย จำไว้ให้ดี"  - - - -   ตานั่นน่ะ คงจะโมโหหรืออะไรไม่รู้ รึว่าความหึงหวงขึ้นถึงขีดสุดไม่รู้ เค้าพยายามทำทุกอย่างไม่ว่าจะตามใจ หรือว่าทำอะไรตามใจเค้า เค้าเคย.........แบบเดียวกับทานด้วยนะ ยังไงก็นะความรู้สึกตอนนั้นของผมคือสงสารเค้าถามว่ารักมั้ย มันผูกพันธ์กันมากกว่า บางทีก็นึกนะว่าอย่างตานั่นน่ะดูดีกว่าผมตั้งเยอะ ที่จริงทำไมต้องมารักคนแบบผมด้วยนะ ทำไมต้องมาใส่ใจผมขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เราก็เลิกกันแล้ว ผมอุตส่าทำใจให้เป็นเพื่อนกับเค้าได้แล้วแท้ๆ แต่ว่านะตอนที่ผมไปเจอใครเค้ากลับทำใจไม่ได้ รั้งผมไว้ ซึ่งแน่นอนตอนนั้นผมก็ใจร้ายนะ ไม่ยอมสนเค้าสนใจสิ่งที่ผมอยากทำมากกว่านี่นาแล้วผมก็ทำเค้าเสียใจเป็นรอบที่เราไรก็ไม่รู้ แต่ว่านะมันก็แลกกับที่..............ให้เค้าอะ ที่จริงโกรธมากเลยแต่ก็นะ ก็ให้อภัยเค้าเมื่อนึกถึงความดีที่เค้าทำมา

- - - - "เข้าห้องเถอะ เดี๋ยวเป็นหวัด"
พูดออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา และหวังว่าอีกฝ่ายจะอยู่ในอารมณ์ปกติ
แต่ทานตะวันที่หันกลับมามองกลับมีท่าทางนิ่งเฉย
"อย่าเลย เดี๋ยวไปทำอะไรเลว ๆ แบบนั้นอีก ไม่อยากโดนเกลียดไปมากกว่านี้" - - - -
 ตานั่นพอทำอะไรไม่ดีกับผมแล้วช่ายปะ เค้าก็โทษตัวเอง ว่าตัวเองสารพัด ผมก็สงสารจับใจ
เพราะอะไรก็ไม่รู้ ผมพยายามคุยกับเค้าสารพัด "มานั่งใกล้ ๆ เค้าได้มั้ย" ตานั่นก็เงียบ
"ขอร้องล่ะ เข้ามาใกล้ ๆ หน่อยสิ คุยกันนะ" ตานั่นมองหน้าผมแล้วพูดว่า"ไม่ได้หรอกนะ เค้ากลัวว่าจะทำอะไรเลว ๆ กับตัวเองอีก" ผมก็พูดไม่ออก แล้วผมก็อ้อนนะ " เดี๋ยวนี้ไม่สนใจคำพูดเค้าแล้วใช่มั้ย อย่าโทษตัวเองเลย เค้าไม่โกรธหรอกตอนนี้มานั่งใกล้ ๆ เค้านะ" แล้วตานั่นก็เดินมา ผมจับมือเค้าไว้ เค้ามองหน้าผมแล้วเราก็คุยกันจนหลับไป


- - - - ความสุข ที่ทำให้ยิ้ม
ความเศร้า ที่ทำให้หัวใจหม่นหมอง
ความเหงาที่กัดกร่อนหัวใจ
ความทุกข์ที่ทำให้ร้องไห้ทุรนทุรายบ้าคลั่ง
และสุดท้าย...........มิตรภาพและความรัก ที่ทำให้ลุกขึ้นยืนและก้าวข้ามผ่านความเสียใจไปได้
จากนี้ไป ก็ยังคงต้องก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเจอกับอะไรก็ยังต้องเดินทางต่อไป
ข้างหน้าที่ยังมองไม่เห็นทาง และยังไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง
ข้างหน้ามีอะไรรออยู่นะ
ข้างหน้าที่จะเดินไปพร้อมกับคน ๆ นี้มีอะไรรออยู่
ทานตะวันหันมาส่งยิ้มให้อ้อนที่ยังเดินเคียงข้างไม่ห่าง
กลับบ้านกันเถอะ....กลับบ้านกัน....กลับบ้านไปพร้อมกับคนที่เดินเคียงคู่กันคนนี้ - - - -  
อันนี้เห็นว่าเป็นจริงอย่างยิ่ง เรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมามันสอนให้ผมกับตานั่นได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่างนะ
ไม่ต้องพูดมากเลย มันรู้สึกได้ตามข้อความด้านบนทั้งหมด อ่านไปก็ยิ้มไปร้องไห้ไป ( แบบว่าซึ้งง่ะ )
ตอนนี้ถ้าหากไม่มีตานั้นเคียงข้างอยู่จะอ่อนแอขนาดไหนก็ไม่รู้ ถ้าหากไม่ได้รุ้จักกับตานั่น
อาจจะไม่มีเพื่อนในคณะเลยก็ได้ เพราะตานั่นชวนทำโน่นทำนี่ ก็เลยได้รุ้จักคนมากมาย
เพราะตานั่นทำตัวเป็นผู้ใหญ่กว่า (ทั้ง ๆ ที่อ่อนกว่าผม) ทำให้ผมมีมุมมองกว้างขึ้น ทำให้ผม
กล้าที่จะทำสิ่งที่ไม่คิดจะทำมากขึ้น ทำให้ผมเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เอาแต่ใจน้อยลง ( แต่ก็ยังเป็นอยู่นะ อิอิ )
ที่จริงคนสองคนที่นิสัย พื้นฐานครอบครัว แล้วก็ความคิดต่างกันคนละขั้วเลยมาคบกันได้เนี่ยมันมหัศจรรย์มาก ๆ เลยนี่นา
ผมกับตานั่นน่ะ ต่างกันทุกอย่างจริง ๆ

สรุปว่าช่วงสุดท้ายของเรื่องอ่านไปแล้วก็เหมือนอ่านเรื่องที่ผ่านมาของตัวเองเลย กว่าจะรักกันได้เนี่ย
มันไม่ใช่ง่าย ๆ นี่นา กว่าจะได้เจอกัน กว่าจะเข้าใจกัน กว่าจะผ่านอะไรมามากมาย ได้เรียนรู้กันและกัน
ยอมรับกันและกัน ปรับตัวแต่ไม่ใช่การเปลี่ยน มันยากนะกว่าจะรักกันได้
ผมก็เลยอยากให้ทุกคนรักษาความรักไว้ให้ดีที่สุดครับ ที่จริงอยากจะพูดอะไรอีกมากมายนะแต่มันเหมือนเป็นปลาทองเลย
อิอิ .... แต่ก็นะประทับใจมาก ๆ ครับสำหรับทั้งบทที่เขียนออกมา ทั้งเนื้อหาสาระที่แฝงอยู่ในเรื่องนี้ มันช่าง
ประทับใจจริง ๆ เนอะ ช่ายมะ ผมว่าคงมีคนเห็นด้วยกับผมทุกคนถ้าอ่านมาจนจบ ( หรืออาจจะมีบางคนเกลียดพระเอก
ในตอนแรก ๆ จนไม่มีความรู้สึกว่าอยากอ่านต่อ )  

ต้องขอบคุณมะนาวเพื่อนที่น่ารักที่แนะนำให้อ่านเรื่องดี ๆ แบบนี้ครับ
ผมก็นะคงพูดอะไรมากไปแล้วมั้งเนี่ย พอแล้วดีกว่า

ขอบคุณคนเขียนแล้วก็พี่เรย์สุดหล่อคนโพสต์ครับ
บอร์ดนี้น่ารักกันจริง ๆ เลยเนอะ  :m3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 15-08-2007 08:55:28
โอ่ ยาวมาก สงสัยจะใกล้เคียงกับชีวิตจริงมากเลยสินะครับ
เข้าใจในความรู้สึกของตัวละครยังกับถ่ายทอดออกมาเอง

แต่อย่างที่เขาว่ากัน โลกแห่งนิยายกับความจริงไม่ได้ต่างกันหรอก

บางครั้งโลกแห่งความจริงกลับรุนแรงกว่าในนิยายเสียด้วยซ้ำไป

ชีวิตต้องเดินทางอีกยาวไกล
ล้มแล้วลุก ไม่ยอมแพ้
สู้ๆ
 o14 o14 o14 o14
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: antoniorey ที่ 04-09-2007 22:57:17
ง่ายังอ่านไม่จบเลย  แต่ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบ เรื่องนี้ จะติดตามอ่านไปเรื่อยๆนะแงบ ให้อีก1รี :m4: :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 08-09-2007 23:26:45
 :a1:
เรื่องนี้นี่ ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกก
เพิ่งอ่านจบครับ
หลากหลายความรู้สึกจริงๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 28-09-2007 14:31:50
 :impress:

น่ารักมากมายครับ

อ่านแล้วก็น้ำตาไหล หัวเราะ เครียด

ครบทุกรสชาติ

เป็นกำลังใจให้ต่อไปครับ รออ่านเรื่องต่อ ๆ ไปด้วยครับ

 o15

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: antoniorey ที่ 03-10-2007 14:18:22
แปะๆๆให้อีก1คราบแหะๆๆถึงจะมึนไปบ้างกับสำบัดสำนวนการแต่ง แต่ก็น่าร๊ากดีอ่า

ขอบคุณนะคราบ ทั้งคนแต่งคนโพสต์ :m3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 03-10-2007 16:33:23


              สมองผมไม่รับรู้   แต่จิตใจผมมันเต็มอิ่มไปด้วยความหวัง   ที่มันจะไม่เกิดขึ้นจิง   
             
             :m15: :m15: :give2: :impress:      ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 03-10-2007 23:19:16
 :m9:.....เข้ามาอ่านอีกรอบแระ...เฮ้อ...อ่านแล้วก็รู้สึกดีนะ...ท้ายที่สุดก็เข้าใจกัน...รักกันจนได้...ขอบคุณมาคร้าบ... :m5: o14

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: byzantines ที่ 04-10-2007 14:46:41
 :m5: สวัสดีทุกคนครับผม เมื่อวานผ่านเข้ามาในเว็บเห็นเรื่องนี้เลยลองเปิดอ่าน อ่านไปอ่านมารู้สึกว่าเรื่องมันบ้าๆบอๆ ยังไงไม่รุครับ แต่พอนานๆรู้สึกว่าน่ารักมากมากกว่า อ่านไปฟังเค้าพากษ์บอลไปมันสะจายโคตรๆ ฮุๆๆ ขอบคุณคนแต่งและคนนำมาโพสอย่างสุดซึ่งเลยครับ ตอนนี้อ่านทั้งคืนกับมาต่อตอนเช้าถึงหน้า 15 แย้ววว ไม่รู้ว่าจบหรือยังนะครับ แต่ดูๆแล้วคงยังไม่จบ ขอมาติดนิยายอีกคนละกันนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่กล่าวมา ณ ที่เน้ครับ  o14 o14 o14
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐๐Robin๐๐ ที่ 07-10-2007 20:17:23
 :o8:...น่าร้ากกกกกกกกที่สุดในโลกเลยคับ ซึ้งงงงงงมากๆๆๆๆๆๆ :m3:  เปงอะไรที่ซู้ดดดดยอดดดดด ขอบคุนสำหรับเรื่องดีๆๆๆๆที่ทำให้ผมได้เข้าใจในความรักมากขึ้น o14ขอบคุนจิงๆคับบบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Heater ที่ 07-10-2007 22:54:50
อ่านรวดเดียวจนจบ
แต่ ทำไมมันหุบยิ้มไม่ได้หว่า :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 09-10-2007 11:55:36
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
พอมะ :a14:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 11-10-2007 10:56:01
อ่านรวดเดียวจบเลย ชอบมากครับ ซึ้งดีจริงๆ o7 o7
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: wachara ที่ 12-10-2007 12:56:57
 :o11: o14


ตามอ่านมาชาติหนึ่งแล้ว ยังไม่ทันเลยอ่ะครับคุณเรย์  วันนี้จะอ่านจบให้ได้   สู้ๆ   555 


 :a2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: MiLCH ที่ 19-10-2007 16:04:13
อ่านมาหลายวันแระ จบได้ซาบซึ้งกินใจมากๆ
ชอบทานนะ ดูใสซื่อน่ารักดี แต่ว่าบางทีก็กวนตีนซะ
จะหาคนแบบทานได้ที่ไหนมั่งเนี่ย
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 20-10-2007 17:50:38
อ่านมาตั้งนานหลายวันละ น่ารักอะ ทานตะวันเป็นคนที่อยู่แล้วอบอุ่นอะอยากได้แบบนี้มั้งจัง
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: →Yakuza★ ที่ 20-10-2007 20:35:38
เป็นอีกคนที่รักเรื่องนี้มากมาย จริงๆ ขอบคุณคนแต่งขอบคุณคนโพส
เรื่องนี้ลึกซึ้งมาก ความรักเนี่ยมันลึกซึ้งจริงๆน่ะ ไม่ต้องพูดมากก็เข้าใจ
รักอ้อนก่ะทานมาก มาก มาก มาก เป็นความรักที่อบอุ่น >w<
เราจะมีสามีดีๆแบบนี้ได้ไหมเนี่ย หุหุหุ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: T@luntulA ที่ 22-10-2007 16:26:38
 o7 o7 จบซะที อยากมีความรักแบบนี้บ้างจัง หุหุ เปนกำลงัใจให้ทุกคนค้าบ  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: box_breathe ที่ 23-10-2007 00:35:25
เฮ้อ ... ในที่สุดก็ลงเอยกันด้วยดี

อิจฉาจัง อยากมีแฟนเหมือนทานบ้าง

จะรักให้ตายเลยยยยย

ชอบมาก ก ก ก

   :m1:

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Givesza ที่ 27-10-2007 22:10:47
ได้มาอ่านเรื่องนี้..........ขอบอกว่าสาขาเจ้าน้ำตาของกิฟ๊......ไหลออกมาอีกแล้ว แบบว่าไหลท่วมจอเลย   แม่ยังถามเลย เป็นอะไรเปล่าลูก เหอะๆๆ  :o12:

แต่ตอนที่ร้องไห้มากที่สุด   ก็เป็นตอนที่

                                            อ้อนกำลังเกลียดตัวเองที่ถูกด่าว่าเป็นง่อย ทำอะไรไม่ได้ มือก็ปัดกวาดลากไปกับพื้น เลือดที่หยดน้อยใหญ่ไหลลงมาเพราะเศษแก้วที่บากเอา  ตอนนั้นทำเอาน้ำตาร่วงแบบ หือ หือ เลยอ่ะ   ตอนนั้นเห็นภาพเลย เห็นและแทบจะไม่อยากอ่านอีกแล้ว เห็นใจ สงสาร :m15:


ขอบคุณพี่เรย์ม๊ากๆๆ    เรื่องนี้สนุกจริงๆ  บ่อน้ำตาทำงานตลอดเรื่องเลย  ชอบค่ะ + เป็น 10 หละ แหะๆ :m13:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 28-10-2007 15:19:23
โอ้ย!!ชอบเรื่องนี้มากเลย

อ่านแล้วมีความสุขขึ้นเยอะเลย

ขอบคุณคนเขียนแล้วก็คนโพสด้วยนะคับที่อุตส่าห์สะระเวลามาเขียนเรื่องราวดีๆอย่างนี้ให้พวกเราได้อ่านกัน

ชอบพี่อ้อนมากๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: snowman ที่ 16-11-2007 16:03:37


เอ่อ ชอบเรื่องนี้ที่ภาษา .... คนเขียนแทบจะพิมพ์ไม่ผิดเลย

และก็สามารถถ่ายทอดความคิดความรู้สึกผ่านตัวอักษรได้อย่างละเมียดละไม

มีการใช้คำเปรียบเปรยอยู่เรื่อยๆ ซึ่งได้ทำให้เรื่องมันดูดีขึ้นไปอีก


คาแรกเตอร์ของตัวละครก็เด่นชัดไม่สับสน  (ตรงนี้ผมประทับใจมาก) .... และก็ค่อยๆ กลืนกันทางพฤติกรรมทีละเล็ก ละน้อย ซึ่งเป็นดั่งที่มีอยู่จริงในสังคม



ความรู้สึกของผม ... นิยายเรื่องนี้เหมือนกับ "พลุ" ซึ่งยอมดับไปก่อนที่มันจะร่วงโรย .... ฉายแสงสว่างให้เจิดจ้า แล้วดับไปในทันที เพื่อให้คนติดตาตรึงใจเอาไว้ .... ไม่ต้องลากเรื่องให้มันยาวไป



ส่วนตอนพิเศษ ... ซึ่งมาสั้นๆ และผมก็ชอบนะ ไม่ต้องมาให้ยาวมาก แต่ก็ได้ความรู้สึกเต็มเปี่ยมเลย ...


ความรู้สึกที่อ่านตอนพิเศษ มันเหมือนกับดูหนังเรื่องยาวดีๆ สักเรื่อง และพอรู้ว่าหนังจบ ... ก็กำลังจะลุกจากเก้าอี้ .... แล้วก็ปรากฏเบื้องหลังของหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งมันก็มีเพียงสั้นๆ ไม่ยาวนัก แต่ก็ทำให้เราหยุด หยุดเพื่อหันไปดูและก็ยิ้มได้อีกครั้งหนึ่ง




ขอบคุณเจ้าของเรื่องที่แต่งเรื่องที่ดีให้ได้อ่าน

ขอบคุณคุณเรย์ที่ขยัน (!?) โพสให้เราได้อ่าน

ขอบคุณบอร์ดแห่งนี้ที่เป็นที่ๆ เก็บเรื่องราวดีๆ ให้ได้อ่าน


ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ninaprake ที่ 21-11-2007 04:31:06
เพิ่งได้มาอ่านคร้าบ ..... ท่าทางน่าหนุกนะครับเนี่ย .... ขออ่านก่อนหล่ะคร้าบ เดี๋ยวมาเม้นให้ใหม่     :m4:   :m22:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ja ne ที่ 21-11-2007 09:58:13
 :impress: ตามมาอ่าน  แต่ยังไปไม่ถึงไหน กำลังเร่งสปีดอยู่ เพื่อให้ทัน แต่มาขอรีก่อน
ขอบคุณน้าที่เอาเรื่องดีๆๆ มาให้อ่าน ขอทำเวลานิสนึง  :m13:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 25-11-2007 01:35:22
จะเอาตอนพิเศษอ่ะ :m13:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 25-11-2007 10:53:53
อ่านจบแล้ว รู้สึกดีมาก ๆ เลย  :m1:

เป็นกำลังใจให้ในเรื่องต่อ ๆ ไปนะ  o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ja ne ที่ 25-11-2007 16:23:22
ยอดเยี่ยมมากเลย น่าประทับใจมาก
เรื่องนี้รักครบรสจริงๆ :sad5: :laugh3: :-[ :give2:

 :m4:ขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆ มาให้อ่านกัน

หนุกหนานๆๆ :yeb:

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 27-11-2007 10:01:36
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยครบทุกรสชาติ :m3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 09-12-2007 10:23:39
เนื่องน้ำบีบน้ำตาบีบอารมณ์ดีเหมือนกันนะครับ

เป็นเรื่องที่น่ารัก เศร้า โกรธ หลายอารมณ์ครับและให้อะไรกับคนอ่านเยอะเหมือนกันนะครับ

ขอบคุณนักแต่ง คนโพส และคนแนะนำเรื่องนี้นะครับ ^^
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Narak00 ที่ 14-12-2007 20:56:29
 :o9: ชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลย ใช้เวลาอ่าน 1 วันรวดเดียวจบ ... ไม่ค้างคา ดีจริง ๆ   :laugh3:

คนแต่งเก่งมาก ๆ เลย เนื่อเรื่องดี อ่านแล้วเห็นภาพเลย

ว่าแต่... เห็นมีคนบอกว่า มีบทสัมภาษณ์ด้วยหรอ ไหนอ่ะ ๆ ๆ อยากอ่าน.....


อยากจะบอกว่า ขอบคุณทั้งคนแต่ง ทั้งคนโพส เลยนะคร้าบบบบ อุสาห์เอาเรื่องดี ๆ มาให้อ่าน

 o1  o1  o1  o1  o1  o1  o1  o1  o1  o1  o1
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ^AugusZaa^ ที่ 18-12-2007 21:57:19
น่ารักมายมายเลยครับ

ขอบคุณมากครับที่นำเรื่องดี ๆ มาให้อ่านกัน

ขอบคุณอีกครั้งที่ทำให้เราเหมือนคนบ้า เพราะนั่งอ่านไป ยิ้มไป หัวเราะไป อืม... เข้าขั้นแล้วแหละ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 19-12-2007 17:22:57
 :a4:เพิ่งเข้ามาอ่านครับเนื้อหาสนุกดีครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Zodiac ที่ 31-12-2007 21:25:35
รวดเดียวจบเลยค้าบ ... น่าร้ากจังเลยอ่า อิอิ
ขอบคุณพี่เรย์มากค้าบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: succubus ที่ 21-01-2008 22:59:04
อ่านรวดเดียวเลย ทั้งวัน ติดแง่ง ไม่ลุกไปไหนเลย  o2

ชอบอ่ะ จะเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจตลอดไป  :m13:

ป.ล. แอบร้องไห้ ไปหลายรอบเลยนะ กว่าจะอ่านจน อินมั๊กๆ  :m15:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: bamtham ที่ 23-01-2008 11:15:32
อินเรื่องนี่มั่กๆๆๆๆ :m15:
อ่านแล้วมีความสุขมาก
ขอบคุณค้า
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: bamtham ที่ 23-01-2008 17:16:38
ชอบมากคะ ....

รอ รอ รอ ตอนพิเศษฮับ :m1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ryu ที่ 30-01-2008 10:31:45
 :oni2:น่ารักยิ่งยวด 

 :mc4:  ดีใจด้วยนะที่ได้จดทะเบียนหนูน้อยแก้มแดง

 :m4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: yukisaki ที่ 31-01-2008 20:00:26
มาอ่านรวดเดียวจบงับ
ขอบพระคุณมากมายที่เอามาให้ได้อ่านกัน
หนุกๆ
 :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:
เม้นท์ให้แล้ว และ +1 ด้วยงับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: baros ที่ 03-02-2008 20:51:23
 :m13: :m15: :m20: :m1: :m30: มีครบทุกรสชาติ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Ryuse ที่ 04-02-2008 23:47:14
นั่งอ่านมาตั้งแต่บ่าย พึ่งจะจบ เหอะๆ อ่านจนตาจะเป็นน้ำเชื่อมตามหนุ่มทานกะน้องอ้อนแล้ว

 :-[ o17 :-[ o17 สุดท้ายก็ยินดีด้วย ได้จดทะเบียนด้วย ดีใจแทนยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก

ชาตินี้จะได้ไปฮันนีมูนที่ไหนยังไม่รู้เลย 555 สุขีๆแฮปปี้ทุกวันคร้าบบบ o14
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nil ที่ 10-02-2008 13:52:49
 :m15: :m15: :m15:

เป็นเรื่องที่เสียน้ำตาหลาย ร้องตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเลยอ่ะ

 :เฮ้อ: คน sensitive อย่างเรา

เสียดายที่ไม่ได้ร่วมจิ้มให้ครบ 10 น่ะ

แต่อ่านรวดเดียวเลย หยุดไม่ได้ เกือบตาย จบเอาเช้าเลย  o19

หนุกจริงๆ รักคนเขียน

jub 2 ที :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 10-02-2008 15:10:52
อยากอ่านตอนพิเศษอ่ะ

เอาตอนที่หนูน้อยแก้มแดงขาหายเป็นปกติอ่ะ

 :m23:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: sirasyung ที่ 07-03-2008 17:55:14
เคยเปิดผ่าน ๆ เรื่องนี้ไป 2 ครั้ง
อ่านตอนแรก ๆ แบบว่าทำไมทานตะวันมันโหดนักวะ
ไปอ่านเรื่องอื่นก่อนดีกว่า....(ยอมรับความจริง)
แต่แล้วก็ได้มีโอกาสอ่านจริง ๆ
ใช้เวลาอ่าน 3 คืน (กลางวันทำงานอยากอ่านแต่อ่านไม่ได้)
ผู้แต่งใช้ภาษาไทยดีมาก ๆ พิมพ์แทบไม่ผิดเลย
เนื้อเรื่องก็ดี เริ่มจา 0 ไปเรื่อย ๆ ไม่หวือหวาเหมือนเรื่องอื่น ๆ
อ่านไปหัวเราะไป ยิ้มคน  อืม... เข้าขั้นเลยแหละ(เหมือนคนบ้า)  :laugh:
ขอบคุณมากครับที่นำเรื่องดี ๆ มาให้อ่านกัน ขอบคุณจากใจจริง... :pig4:   :bye2:
 
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: reu_aha ที่ 08-03-2008 13:45:16
อ่านมาสองวันจนจบ

เค้าก็เหมือนอ้อน
ที่ประสบอุบัติเหตุ
แต่. . .ไม่นักเท่าอ้อน

แล้วก็ไม่มีคนน่ารักๆอย่างทานด้วย  :sad2: :o12: o7

ต่างคนต่างคิดไปคนละแบบ
แต่สุดท้ายก็ได้รักกัน

อิจฉาจัง
ขอบคุณนะที่มีเรื่องดีๆมาให้อ่าน



ปลื้มคุณเรย์ :m13:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: สวยเลือกได้ ที่ 22-04-2008 13:02:38
ชอบเรื่องนี้มากมายเรยอ่าาาาาาา    ทำให้ทั้งยิ้ม  หัวเราะ  ร้องไห้  เกลียด  มากมายหลายอารมณ์ 
ลุั้้้นมากมาย  ว่าจะรักกันตอนไหน   ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Aishiteruyo ที่ 21-05-2008 22:06:57
ชอบเรื่องนี้มากมายเลยค่า :oni2:

ร้องไห้เป็นช่วงๆเลย  ตอนแรกเกลียดทานมากเลย 

ยิ่งตอนที่อ้อนโมโหที่ถูกเรียกว่า ง่อยแล้วมือไปโดนเศษแก้วอ่ะค่า  น้ำตาไหลเลย :o12:

แต่พอหลังๆอภัยได้ อิอิ   พอรู้ความรู้สึกของทานแล้ว พระเอกก็เป็นคนที่น่าสงสารนะคะ

ชอบตอนจบด้วยค่ะ  จบแบบชีวิตๆดีค่า o13

ขอบคุณคุณคนแต่งมากมายค่า  เรื่องสนุกมาก  แต่งเก่งมากเลยค่า :m1:

ขอบคุณพี่เรย์ที่นำเรื่องมาลงให้อ่านด้วยนะคะ :m1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: patiharn ที่ 04-06-2008 21:46:35
ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องซึ้งๆมาให้อ่านหลากหลายอารมณ์ดี

..ไม่มากไม่น้อย..แต่ประทับใจเป็นที่สุด o13

อ่านกันกลางคืนยันเช้าเลยแหละ....ชอบจริงๆค่ะ

ดูเป็นคู่ที่ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา :m4:

จะรอภาคพิเศษนะคะ :bye2:

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 13-06-2008 00:50:16
เรื่องนี้มีหลากหลายอารมณ์มาก

สนุกดีค่ะ

ชอบเจ้าชายน้อย กับ หนูน้อยแก้มแดง

น่ารักทั้งคู่เลย

รอภาคพิเศษต่อนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tomjonesa ที่ 14-06-2008 06:44:05
 :m4:

อ่านะ

         ในที่สุดก็อ่านจบจนได้ ซึ้งมากมาย

ขอบคุรสำหรับนิยายดีๆๆ เรื่องนี้ ชอบมากมาย น่ารักทั้งคู่


 :oni2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: patiharn ที่ 15-06-2008 13:22:41
แวะมาอ่านอีกรอบ

แบบว่าชอบจริงๆค่ะ...เลยขอเม้นท์อีกที

ขออนุญาตคนแต่งเก็บไว้อ่านจะได้มั้ยน๊า

เป็นเรื่องที่มีเนื้อเรื่องอธิบายชัดเจนว่า..เหตุใดสองคนถึงรักกัน

เพราะความแตกต่าง...เพราะความผูกพัน..เพราะความเหมือนที่ต้องการการเติมเต็ม

ชอบเรื่องนี้ที่สุดค่ะ o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: TongZA ที่ 19-07-2008 22:41:39
ยอมรับว่าเป็นอีกเรื่องนึงที่ชอบมากๆเลยอ่ะคับ o13 o13

ตอนแรกอ่านนะสงสารอ้อนมากเลย  แต่ไปๆมาๆก็สงสารทาน

แล้วไปๆมาๆ มาๆไปๆ  ก็สงสารทั้งคู่เลยอ่ะ   

แต่ก็เอาเถอะสุดท้ายก็จบลงด้วยดี   :m13: :m13: :m13:

ขอบคุณคนเขียนนะคับ  เขียนได้ดีมากๆ  มีความสุขมากมายเลยละที่ได้อ่าน

อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจังเลยโลกนี้จะได้มีคู่รักที่น่าอิจฉาเพิ่มมาอีกตั้ง 1 คู่แน่ะ อิอิ

 :m4: :m4: :m4: :oni2: :oni2: :oni2: :a3: :a3: :a3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: echisen ที่ 25-07-2008 16:22:07
อ่านจบแล้วฮับบบบ  อ่านตอนแรกแล้วรู้สึกตลกจังเลย คิดกันคนละอย่างเลย ฮาดี ชอบตอนนี้เค้างอนกันง้อกัน
มากเลยอ่ะ มันน่ารักมากเลยอ่ะ ตอนเฉพาะตอนที่ทานอ้อนนะ น่ารักมากมาย ชอบๆๆๆๆ รออ่านเรื่องต่อไปอยู่ฮับ

รักคนเขียนฮํบบบบ :o8:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: AcHii3acHoTheR ที่ 31-07-2008 05:53:44
เปนเรื่องที่ชอบมาก ก เลยคั๊บ บ ,,

น่ารั๊กอ้ะ ! ชอบทาน กับ อ้อน น .. มันจะงอนกันงุ๊งงิ๊งงตลอด !

อ่านแล๊ว มีค.สขุ คิดด้วย ยย 5 55 

อ่านจบภายใน 2 วัน  =]

รุ้สึกว่าเค้าทั้ง 2 คน ก็ขาดบางสิ่งบางอย่างเหมือนกัน

แต่เติมเต็มกันได้ อย่างสมบูรณ์ !!


ชอบคั๊บ บ ... ร๊าก ก เรื่องเนี๊ย  o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 16-08-2008 18:15:47
อ่าจบแล้วค่ะ

สนุกมากๆเลย

ขอบคุณค่ะ

^^
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: singsayam ที่ 18-08-2008 05:03:21
ลุงตามมาอ่านช้านิดนึงคงไม่่ว่าลุงนะ

แหม..อ่านแล้วน่ารัก น่าหยิกเป็นที่สุด

ทำให้ลุงอดจิ้มไม่ได้เชียว
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Bogiecoco ที่ 19-08-2008 03:41:43
 :o12:

โฮๆๆๆๆๆ

นี่เราไปทำอะไร อยู่ที่ไหนมา

ถึงพึ่งได้มาอานเรื่องนี้

สุดยอดดดดด มีครบทุกอารมณ์

น่ารักเกินบรรยาย

ทำไมอ้อนกะทานถึงได้น่ารักขนาดนี้

น่ารักเกินไปม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: yiyo ที่ 20-08-2008 16:28:43
เป็นเรื่องที่น่ารักมากๆเลยค่ะ

เราอ่านสองวันรวดเลยถึงจบ

ตอนแรกแอบหมั่นไส้อยากฆ่าทานตะวันอยู่หลายครั้ง

แต่อ่านไปๆ กลับรู้สึก เออ..จริงๆทานตะวันมันน่ารักดีแฮะ

แต่ที่แน่ๆ หลงรักอ้อนไปเต็มๆ

ขอบคุณที่ช่วยแต่ง ช่วยโพสท์ให้อ่านนะคะ



ปอลอ..นอกจากจะหลงรักนายเอกกับพระเอกไปเต็มๆแล้ว ยังได้ปรัชญาดีๆอีกหลายข้อเลย ขอบคุณนะคะ จะเก็บเอาไปใช้  :bye2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: L.P.jalilar ที่ 26-08-2008 09:17:56
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ

อ่านทั้งวันเลย เหอๆ

เรื่องนี้สนุกมากๆ

อ่านแล้วประทับใจสุดๆ

เป็นเรื่องที่จบอย่างมีความสุข...

แต่ว่า เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น

มันช่างน่าจดจำ

เรื่องนี้จะต้องเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่อง

ที่จบอย่างมีความสุข

แต่ก็อยู่ในความทรงจำของเราไปแสนนานแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Red....[em] ที่ 26-08-2008 10:19:24
 :m4: :m4:



ง่า...เหมือนกันเลยยยย

อ่าน 2 วันจบ วันแรกอ่านก่อนนอก็เกิดอาการว่างไม่ลง...เครียดฝังในเลยฮะ


นอนไม่หลับ!!!!


หลับทีไรก็สะดุ้งไม่ก็ผวาเป็นคณทานตะวันทุกครั้งไป555+



ประทับใจมากๆครับ

ขอบคุณเพื่อนที่แนะนำให้อ่านนะครับ







หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: HaLF333 ที่ 26-08-2008 22:46:17
พออ่านจบแล้วมันรู้สึก
 "สุดยอด"
o13
ไม่รุจะเม้นท์อะไรได้ดีกว่า
"ขอบคุณมากค่ะ"
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: phak ที่ 27-08-2008 14:04:26
ขอบคุณครับบบ o7 o2 o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ausmabank ที่ 07-10-2008 02:44:51
หวัด ดีพี่ เรย์

เด็ก ใหม่ อ่านมา 24 ชั่วโมง แล้ว

รู้ สึก เจ็บ อะ ก็ มัน จบ แล้ว นิ เจ็บ เลย ไม่ ได้ ติด ตาม ต่อ แล้ว

รู้ สึก ดี นะ ก็ นั่ง อ่าน ไป ยิ้ม ไปตลอด

รู้ สึก แย่ ทำ ไม น้ำ ตา เรา มัน ไหล พร้อม ตัว ละคร เลย

รู้ สึก ว่า อ้อน ไม่ ได้ ทำ ผิด เรื่อง แม่ นะ แต่ ก็ ไม่ ใช่ ว่า ถูก นะ แต่ ก็ นะ ผล กระ ทบ ทาง จิต ใจ

รู้ สึก สง สาร ทาน จัง เลย ขาด ความ อบ อุ่น แต่ ก็ ดี นะ ที่ ยัง มี อ้อน ทุก สิ่ง เลย ดี ขึ้น

รู้ สึก รัก พี่ เรย์ จัง เลย เปง แฟน กาน ไหม

เอ๋ อย่าง ไง พูด เล่น นะ ครับ รู้ สึก เข้า ใจ ความ รัก มาก ขึ้น ไง ครับ

รู้ สึก ว่า สิ่ง ที่ ตัว เอง ทำ กะ คน รัก อยู่ ตอน นี้ ไม่ ใช่ ความ รัก แล้ว

ควร ที่ จาไป หา คน ใหม่ ได้ แล้ว อยู่ กัน ต่อ ไป เรา สอง คน ก็ ยิ่ง เจ็บ ขึ้น จาก กัน ด้วย ดี ดี ก่าว
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 23-10-2008 01:05:42
 :m15: :m15: :m15:  จะร้องไห้อยู่แล้วนะ  ไมปัญหาของแต่ละคนมันช่าง...........    :sad2: :sad2:


ปล.ดองมันเขาไป.........   :laugh: :laugh:   อ่านเรื่องนู้นไม่ทันจบก้อมาหาเรื่องใหม่อีกแล้นนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 23-10-2008 01:22:35
ร้องไห้แล้ว!!!!!!   กรูร้องไห้แล้ว!!!!!!!!!!!   ไมมันเครียดงี้วะ    :m15:

ยิ่งอ่านยิ่งเครียดดดดดดดดดดด    :serius2::sad2:   แต่ก้อยังอ่านต่อไป.............

(เพราะกรูรู้ว่าเด๋วมันจะhappy ใช่มะ??) 
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 15-11-2008 12:00:10
เย้  อ่านจบแล้ว  ใช้เวลาอ่านอยู่ 3 วัน 

ชอบคาแร็คเตอร์ของทานมากเลย  เหมือนเป้นคนที่สับสนอยู่  มีความเป็นเด็กและผู้ใหญ่ในคนๆเดียว

ดูน่ารักดีอ่ะ  แถม ขี้งอนอีกต่างหาก ชิ ต้องให้อ้อนง้ออยู่เรื่อยเลย

ขอบคุณมากน่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: [ficiton]เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน เหลือทน โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Chanta ที่ 15-11-2008 15:37:28
สงสาร อ้อน จังเลย

คุน ทาน อย่าใจร้ายกับอ้อนจิ

เด๋วอ้อนไม่รักน่ะ

 :o12:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: unnoname ที่ 16-11-2008 22:00:55
             ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ ได้รับรู้ถึงทั้งความสุขและความเศร้าของทานและอ้อน
 
                     แต่ทั้ง 2 ก็ช่วยกันฝ่าฟันและก้าวมาพร้อมกัน น่ารักจริงๆค่ะ   :L2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: R@!nY~==~N!GhT ที่ 26-11-2008 13:38:08
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Yokung ที่ 29-11-2008 01:23:18
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แล้วก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้อยากวาดแฟนอาร์ทขึ้นมา TT^TT
ตอนนี้รวมคู่นี้ก็ 8 คู่แล้วน้า~~~~~~
อย่าทรมานกันมากสิ ฮืออออออออออออออ
หลายคู่เกินไปแล้วววววววววววววววววววววว
TT^TT
แต่...อ้อนน่ารักมากเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ส่วนไอ้เจ้าชายน้อย....เป็นชื่อเรียกที่แอบชอบฮับ 5555555
ทำให้มันดูเสริมคาแร็กเตอร์เข้าไปอีก
โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อยากวาดโดเรื่องนี้!!!!! แต่ฝีมือยังไม่ถึงขั้น TT^TT
งี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
และแล้วเรื่องนี้ก็เป็นอีกคู่ที่อยู่ในดวงใจ
แง่วววววววววววววว
> <!!!!!!!!!!!!!!!
ชอบเจ้าชายน้อยกับหนูน้อยแก้มแดงมากเลยฮับ!!!!!!
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Akiizz ที่ 29-11-2008 06:03:14
อ่านเรื่องนี้แล้วมันเหมือนจามีความรักล้นออกมาเลยค้าบบบ


หุหุ



ขอบคุณที่ลงนิยายดีๆแบบนี้ไห้อ่านนะคับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 10-12-2008 12:21:46
จบแล่ว :-[
ตามมาจากเว้ปอื่นค้าบ
หาอยู่นานเพราะติดใจ  อยากอ่านให้จบ
ตอนแรกที่อ่าน  คิดว่าทานโหด
พออ่านต่อก็สงสาร  เด็กขี้เหงาที่แสดงออกไม่เป็น
สองคนที่มีปัญหามาเจอกัน  กว่าจะเข้าใจกัน  ทำเอาคนอ่านเครียด :เฮ้อ:
ท้ายเรื่องยิ้มตลอดเลย   น่ารักมากๆ
ขอบคุณคับสำหรับเรื่องเยี่ยมๆเรื่องนี้ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Ra_rena~* ที่ 23-12-2008 19:54:02
อ่านจบแล้ว เย้ๆ  :impress2:

สนุกมักมากเลย  ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :-[

ตอนแรกเกลียดทานมากมาย อิอิ :angry2:

ขอบคุณมักมากน้า  :pig4:

เป็นกำลังใจให้แต่งเรื่องสนุกๆอย่างนี้อีกนะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: amourjin ที่ 03-02-2009 02:26:28
 :3123: เพิ่งจะได้อ่านนิยายที่ตัวละครเป็นคนไทยก็จาก aoikyosuke แหละจ้ะ ปกติจะอ่านนิยายฝรั่งมากกว่า พอดีเพื่อนเค้าพริ้นท์ปรัชญาช่างกลมาให้อ่าน

พออ่านคู๋ เส่ง/เปา แล้วอดหลงรักคู่นี้ไม่ได้ ฮามาก แล้วเวลาที่พี่รู้สึกแย่ๆ ก็จะคว้าคู่นี้มาอ่านตลอด

เข้าเวบนี้มาก็แบบฟลุ้คๆ น่ะจ้ะ ก็ search หาปรัชญาช่างกลนั่นแหละ เจอเรื่องนี้เข้าพอดี

พี่คิดว่าความสามารถในการเขียนของ aoikyosuke พัฒนาขึ้นนะ ทั้งความคิดอ่านของตัวละคร การนำเสนอในแง่มุมใหม่ อ่านแล้วลื่น สนุกมากๆเลยจ้ะ

ขอบคุณที่มีฟิคดีๆมาให้อ่านนะจ๊ะ แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักด้วยค่ะ

รอเรื่องต่อไปอยู่นะเออ  :L1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 08-02-2009 23:59:44
จะเป็นคนเชยก็ยอม  เพราเรื่องนี้ จบตั้งแต่ ปี 07  แต่ข้าพเจ้าเพิ่งเข้ามาอ่าน

 แต่เมื่ออ่านแล้วก็ต้องชม คนแต่ง ว่าบางครั้งการใช้ ภาษาง่ายๆ


 ก็ ทำให้เนื้อเรื่องสนุกและน่าติดตาม จนวางไม่ลงเลย 


เป้นกำลังใจให้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: andyus1 ที่ 20-02-2009 04:27:40
เวรี่ ดีบลี่ อิมเพรส คร้าบ :impress2:

แบบว่าตอนแลกหมั่นไส้นายทานมาก

อ่านมารุ้ว่าแบ้กกราวน์มนเปนงัย เริ่มเข้าจัย เหนจัยนิดนึง

มาหลังๆ เข้าจัยความรุ้สึดเลยอ่ะ ชอบนายมาก นายแน่มากทาน

ส่วนอ้อน รักเสมอต้นเสมอปาย นัยที่สุดก็มีฟามสุข ยินดีๆๆ

สุดท้าย ขอบคุนพี่เรย์ที่เอาเรื่อง ดีๆ มาหั้ยอ่านนะคร้าบ ประทับจัยมากคั้บ

เปนเรื่องของคนสองคนที่อ่านได้อย่างไม่มีเบื่อเละ o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 06-03-2009 18:36:08
ขอบคุณคร้าบบ อ่านจบแล้ว  :pig4: :pig4:

หวานกะลังดี  ไม่เศร้า   ผมชอบคร้าบบ  o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Givesza ที่ 26-03-2009 19:13:55
คิดถึงอ้อนกับทานนนนนนนนนนนนนนนนนน

 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: omelordkung ที่ 28-03-2009 22:01:49
โฮกกกกกก

ติดตามอ่านอยุ่หลายวัน

ซึ้งและประทับใจสุด ๆ

ชอบนิยายของคุณ aoikyosuke มาก ๆ ครับ

การใช้ภาษาเป็นเอกลักษณ์จริง ๆ

จะติดตามตลอดไปครับ

ขอบคุณคนโพสต์ด้วยครับ ที่เอาเรื่องราวดี ๆ มาให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: dekba428 ที่ 05-04-2009 17:53:22
ขอบคุณ คุณ aoikyosuke

ขอบคุณ น้องเรย์

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่เอามาแชร์กัน

ขอบคุณครับขอบคุณ :กอด1:




 :bye2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Angel_K ที่ 07-04-2009 22:43:07
ขอบคุณสำหรับอีกหนึ่งเรื่องดีๆ นะ  :L2:


ชอบตัวละครหลักทั้งสองเลย ไม่ว่าจะเป็นทานหรืออ้อน

ทั้งสองคนมีเหตุผลของการกระทำที่ชัดเจน

มีที่มาที่ไปว่าทำไมถึงแสดงออกแบบนั้น

อ่านแล้วก็ลุ้นไปด้วยทุกตอนว่าจะเป็นยังไงต่อไป

สนุกมากจริงๆ นะ เรื่องเนี้ย  o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: koihime ที่ 29-04-2009 14:14:27
อาฮะ...

เริ่มอ่านตั้งแต่เมื่อวานตอนบ่ายๆ มาจบเอาวันนี้ ตอนบ่ายๆ เหมือนกัน

ฮ่า ๆ ๆ

อ่านแล้วเหมือนรู้สึกคล้ายตัวเองยังไงไม่รู้เนอะ  เหอะๆๆ

สู้ๆนะ  เป็นกำลังใจให้จ้า

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: runglovely3 ที่ 03-05-2009 19:47:01
คิดถึงทานตะวันกับอ้อนที่สุดเลย :oo1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: hikariyuka ที่ 06-05-2009 23:35:51
 :monkeysad:เลิศคะ เป็นแนวที่แปลกดี ตรงไปตรงมาแต่กินใจ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: bee8116 ที่ 10-05-2009 08:11:46
สุดยอดมากครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: chad69 ที่ 13-05-2009 23:52:20
ขอบคุณสำหรับเืรื่องดีๆๆที่ได้อ่านครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: TOPnaKrab ที่ 19-06-2009 16:34:21
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ น่ารักๆแบบนี้นะครับ :3123:
ขอบอกว่าอิ่มใจมากเลยครับ ประทับใจจริงๆครับ o13
^____^
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ^ - ^A s A v I n * o * ที่ 03-07-2009 12:13:06
อ่านเรื่องนี้ มาก้อ จา 5 รอบแล้ว

ทั้งบอร์ดคุณเท็น บอร์ดนี้

อ่านทีไร น้ำตาซึมทุกที ทั้งเศร้า ทั้งซึ้ง

แต่งงานกันเหรอ  โอ้ย อ่านแล้ว อยากบ้างจัง จาเจอบ้างไหมเนี่ย

สุดยอดจริงๆ  o13 o18
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 04-07-2009 19:36:55
ขอบคุณมากนะคับ  :กอด1:

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pk-japan ที่ 15-07-2009 00:40:43
อ่านรวดเดียวจบอ่ะ

แต่อ่านขัดๆ ตอนงอน ตอนสวีท

เป็นคนเฉยๆไม่มีอารมณ์ เลยไม่ค่อยอิน

แต่ชอบตอนแกล้งๆกันน่ะ ใช่เลย เหอะๆๆ

ตนแต่งก็อัปถี่ได้ใจ เก่งมากๆคับ ขอชม

 :z1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pimparapim ที่ 22-07-2009 03:17:54
อ่านจบแย้วววว   สนุกมากๆๆๆๆ  ตอนเศร้าอ่านไปก็จะร้องไห้ ตอนกุ๊กกิ๊กอ่านไปยิ้มไป จนนึกว่าจะบ้าตามพี่ทานไปซะแล้ว อิอิ  ขอบคุณคนแต่ง และคนโพสนะค้า o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: หอยทาก ที่ 01-08-2009 03:30:55
ขอบอกว่าปลื้มเรื่องนี้ที่สุดอ่ะ
ไม่ไหวจะเคลียร์อ๊ากกกกกกก
บ้าไปแล้วคร้าบกาพ้ม
 o13  o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ปี้ปี้ปี้~PalmY ที่ 05-08-2009 20:24:58
อ่านตอนจบทั้ง 3 ตอนแล้วอะ

ตอนแข่งเสร็จแล้วกลับบ้าน
ตอนไปเยี่ยมแม่ที่อังกฤษ
ตอนเอารองเท้ามาเช็ด

อ่านเสร็จแล้วนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว น่ารักจริงๆครับ  :z1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: MurasakiLove ที่ 06-08-2009 13:23:26
เพิ่งจะถึงคิวได้อ่านเรื่องนี้
ใช้ความพยายามอยู่ 3 วัน ในที่สุดก็อ่านจบ เย้ๆๆ
ถ้าไม่ได้อ่านผลงานของคุณเท็นเรื่องนี้คงเสียใจแย่
ตอนแรกๆ บีบ(อารมณ์)เป็นที่สุดจนถึงขั้นนเครียด
แต่สุดท้ายพออ่านจบก็อดไม่ได้ที่จะนั่งอมยิ้มมมมมม (เหมือนคนบ้า)
ประทับใจในความรักของ เจ้าชายน้อย ทานตะวัน กับ หนูน้อยแก้มแดง อ้อน มากค่ะ

 :pig4:
คุณเท็น คนแต่งที่แต่งได้เยี่ยมที่สุด  o13  และ คุณพี่เรย์ คนโพสผู้ใจดีน่ารัก  :o8:ด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: SongjiGun ที่ 10-08-2009 13:53:30
 o18 เป็นอีกเรื่องที่ชอบครับ
      แบบว่าสุดยอดไปเลย o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Pi_neko ที่ 11-08-2009 14:34:16
ตามคนข้างบนมาอ่าน ....หุหุ

สนุกจริงจังอย่างที่คุณพี่ว่าเลยค่ะ

อ่านไปเครียดไปยิ้มไปน่ารักจริงๆค่ะ

ขอบคุณคุณคนแต่งและพี่คนโฟสมากนะค่ะ

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: SongjiGun ที่ 14-08-2009 12:49:42
  :oo1: ลุ้นแทบตายกว่าจะเข้าใจกันเล่นเอาเหนื่อยเลย
 :L3: แต่สุดท้ายก้อ happy จบดีครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: EunSung87 ที่ 17-08-2009 08:26:38
อ่านรวดเดียวจบอ่ะค่ะ

สนุกมากๆเลย

ตกเศร้าน้ำตาก็ไหลออกมาแบบไม่รู้ตัว

แล้วพอตอนที่คุณชายน้อยหวานนี้ก็เคลิ้มซะ

5555+

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: giant ที่ 21-08-2009 00:12:18
เป็นอีกเรื่องนึงที่ประทับใจ...

ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ...
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-09-2009 07:30:39
เรื่องนี้น่ารักมากๆเลย

มีครบทุกอารมณ์  อ่านตอนแรกๆทั้งหมั่นไส้คุณทาน ทั้งสงสารอ้อน

ตอนต่อๆมาก็ลุ้นไปกับทั้งคู่  น่ารักมากๆๆๆ

ขอบคุณคนแต่ง ขอบคุณคนโพสต์  :o8:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 22-10-2009 23:33:27
อ่านเรื่องนี้เเล้วรู้สึก :กอด1:

ตอนเเรกอ่านไปทำไมทานทำงี้เนี่ยโคตรเกลียดเลยสงสารอ้อนจังอ่านไปอีกเริ่มน่ารักนิ พออ่านตอนจบ น่ารักโคตรๆ

ขอบคุณค่ะ :pig4:

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nookgao ที่ 23-10-2009 19:23:33
แปะ อ่านถึงหน้าที่ 17
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 26-10-2009 05:37:38
ขอบคุณนะสำหรับความสุขที่ได้อ่านเรื่องนี้


เล็ก เด็กสุราษฎร์
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ 05-11-2009 13:08:43
น่าร๊ากกกกก จะตามอ่านให้หมดทุกเรื่องเลยยยยยยยยย
 :pig4:คนโพสกะคนแต่งค้าบบบ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 05-11-2009 21:22:32
 o13 เจ้าชายน้อย+หนูน้อยแก้มแดง

อ่านกี่รอบๆ ก็ก็ยังอิน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: yr_meteor ที่ 06-11-2009 00:00:43

ขอบคุณที่เอานิยายดีๆมาให้อ่านคะ

ชอบมากกกเลย...น่าร๊ากกกก

 :L2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pimparapim ที่ 14-11-2009 23:52:23
อ่านไปแล้วรอบนึง กลับมาอ่านใหม่อีกรอบ เฮ้อ น่ารักจัง อิอิ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: orion ที่ 17-11-2009 00:24:46
กลับเข้ามาอ่านอีกรอบออ้นกับทานก็ยังน่ารักเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 26-12-2009 14:13:29
สุดยอดค่ะ เรื่องนี้
แต่งได้ดีสุดๆไปเลย
ตอนเศร้าก็เล่นเอาร้องไห้
พอดีก็ทำเอายิ้มซะ
น่ารักสุดๆไปเลย
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: CLyTiE ที่ 26-12-2009 18:10:25
 :3123:
สนุกมากๆ อ่านไปลุ้นไป
เจ้าชายน้อย-หนูน้อยแก้มแดง
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 27-12-2009 21:18:31
 o13 สุดยอดจริง ๆ เรื่องนี้ ทำเราร้องไห้เลยอะ

อินจัด ตอนแรก ๆ อ่านไปด่าทานไป ทำไมมันเลวอย่างนี้ฟะ

ทำกันอ้อนแบบนี้ได้ไงกัน แต่อ่านไปอ่านมา หลงรักทานเฉยเลย กร้ากก

สนุกจริง ๆ อ่านแล้วมีความสุขมาก ๆ เลย ยิ่งพาร์ทหลัง ๆ อ่านไปจิกราบาลตัวเองไปจริง ๆ 555+

ขอบคุณมาก ๆ เลยจ้า ทั้งคนโพสและคนแต่งเลย  :3123:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: FunnYtooN ที่ 28-12-2009 19:39:23
โอ๊ย น่ารักสุดๆ อ่าเรื่องเนี้ย
ชอบมั่กๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ แบบนี้นะค่ะ

ชอบมากมายค้า  :-[
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: No_Idea ที่ 29-12-2009 17:45:39
สนุกมากเลยค่ะ เรื่องนี้  o13 อ่านแล้วนึกถึงการ์ตูนญี่ปุ่นเลย หุๆ แต่พระเอกโหดไปหน่อยนึงเนอะ ช่วงแรก ออกหน่อยตบจูบเหลือเกิน 5555
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pimkihae ที่ 31-12-2009 23:03:23
วันนี้ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยค่ะ
นั่งอ่านเรื่องนี้รวดเดียวจบเลย
สนุกมากกค่ะ มีครบทุกรสเลย
แรกๆ ทานโหดจัง ออกแนวตบจูบ
แต่จริงๆก้อน่าสงสารทั้งอ้อนทั้งทานนั่นแหละ
มีเรื่องส่วนตัวแสนเศร้าที่ไม่ได้ระบายกับใคร
หลังๆ พอรู้ใจตัวเองเนี่ย เริ่มจะหวานๆกันแล้ว
น่ารักจริงๆคู่นี้   :o8:
ยิ่งตอนพิเศษ มีไปจดทะเบียนกันด้วย โอ้วว
กะจะให้สำลักความสุขกันเลยชิมิ
ขอบคุณคุณเท็นและคนโพสด้วยนะค่ะ :pig4:

HAPPY NEW YEAR จ้า
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 30-01-2010 10:38:30
 อานจบแล้ว ชอบมาก :man1: เรื่องนี้...
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 01-02-2010 00:55:32
ชอบ ชอบมากกกกกกกกกกกกก

ชีวิตของทานกับเราตรงกันสุดๆเลยน้า...

คนแต่งจะรู้ไหมนะว่า มันโคดจะตรงกับชีวิตของคนๆนึงมากขนาดนี้

แต่มันไม่ตรอยู่ที่ว่าไม่มีอ้อนอยู่ข้างๆ

ทุกวันนี้ยังต้องนั่งอยู่คนเดียวในบ้านเสมอ...


อิจฉาทานที่ทุกวันนี้ไม่ต้องเจอแบบนั้นอีก

อิจฉา อิจฉาทานนะ T^T อยากได้ความรักแบบนี้บ้าง อยากมีคนสนใจบ้าง

ไม่ว่าใครก็เอาแต่ทิ้งไว้ข้างหลัง อยากมีคนให้กุมมือแบบทานบ้าง :n1:

เมื่อไหร่จะมีแบบทานนะเรา
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 17-02-2010 21:45:47
กลับมาอ่านใหม่อีกครั้งอ่านเมื่อไรก้อสนุก ไม่อยากให้จบเลย
 :o8:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: kwan ที่ 18-02-2010 01:40:38
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้(ได้ข่าวว่า..ช้ามากกว่าได้อ่าน)
ได้หลายอารมณ์เลย ครบรส
ขอบคุณ คุณเท็นที่แต่งเรื่องดี ๆ มาให้อ่าน
แล้วขอบคุณ คุณเรย์ที่นำเรื่องดีอย่างนี้มาให้อ่าน

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: dek_jun_rai ที่ 24-02-2010 16:57:02
อ่านจบแว้วววว.. ขอบคุณคัฟ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pimm ที่ 01-03-2010 11:44:54
สนุกมากกก

แอบเสียน้ำตาไปหลายฉาก

เราไม่เกลียดใครเลยนะในเรื่อง
มีแต่สงสาร
อ่านไปนานๆ...  หลงรักซะอย่างงั้น

เรื่องนี้เขียนเน้นแค่คนสองคน
ตัวละครน้อยมาก

ยังไงก็ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ
ให้ข้อคิดดีๆ นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jantaro ที่ 01-03-2010 18:36:32
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 05-03-2010 21:50:48
กลับมาอ่านใหม่รอบที่เท่าไหร่ไม่รู้แล้วเหมือนกัน
ชอบเรื่องนี้ที่มีแต่ตัวละครที่อ่อนแอ พร้อมจะแตกหักได้ตลอดเวลา
อ่านแล้วมีความหวังในใจทุกครั้ง ถ้าเรามีความรักคงจะเข้มแข็งได้แบบนี้บ้าง
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 05-03-2010 22:45:57
ใช้เวลา 4 ชม เหนื่อยยย

เห็นมีคนไปตั้งกระทู้ถามในห้องพูดคุย

เลยตามลิงค์ มาพอได้อ่านแล้วติดชนิดที่ว่าลืม

ทานข้าวเย็น อ่านแต่ละตอนสุดยอดมากๆๆ o13  :pig4:คนแต่งครับ :pig4:พี่เรย์คนโพสด้วย
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: PaTtO ที่ 06-03-2010 13:59:38
กระซวกไว้ก่อน

..

.... o18
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pimkihae ที่ 07-03-2010 12:32:51
กลับมาอ่านอีกรอบจ้า
ขนาดอ่านไปแล้วครั้งหนึ่งนะ
อ่านอีกตอนนี้ ก็ยังร้องไห้
ยังยิ้มกับความน่ารักของทานและอ้อน :กอด1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: NUKWUN ที่ 08-03-2010 00:02:23
สนุกดีอ่านรวดเดียวเลย  สงสารอ้อนในตอนเเรกจัง

 :sad2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: SUKSABYB ที่ 08-03-2010 13:45:38
thanks  :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 08-03-2010 18:27:48
เรื่องนี่สนุกมากเลย
 o18
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Loidelohm ที่ 10-03-2010 19:56:39
ขอบคุณครับ ซึ้งมากมาย
ตอนแรกอ่านไป ขมวดคิ้วไปด้วย
แต่ตอนท้าย เฮ้ออออออออออออออออออออออออออออ

ขอคารวะคนแต่ง 10 จอกแมว
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: [[_GozpeL_]] ที่ 13-03-2010 00:43:34
แปะโป้งไว้ก่อน ยังอ่านมะจบ o13

ความง่วงมันไม่ปราณีใครจิงๆT^T

ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆมาให้อ่านค่า
สนุกมากมาย

 :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: sa-ma-cha-ya ที่ 13-03-2010 17:52:24
สนุกมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เลยครับ  ขอบคุณมากสำหรับเรื่องดี ๆ ของให้มีความสุขมาก ๆ :bye2: o13 :bye2: o13

จงเป็นเพียงทรายเม็ดหนึ่ง ....
แต่เป็นส่วนหนึ่งของแก้วเจียระไนอันสวยงาม
จงเป็นเพียงน้ำหยดหนึ่ง ....
แต่เป็นส่วนหนึ่งของท้องทะเลสีครามอันกว้างไกล
จงเป็นเพียงโน๊ตตัวหนึ่ง ....
แต่เป็นส่วนหนึ่งของบทเพลงอันล้ำค่า
จงเป็นเพียงกรวดหินก้อนหนึ่ง ....
แต่เป็นส่วนหนึ่งของภูผาอันยิ่งใหญ่
จงเป็นเพียงดาวดวงหนึ่ง ....
แต่เป็นส่วนหนึ่งของหมู่ดาวแพรวพราวประดับฟ้า
จงเป็นเพียงคนธรรมดา
แต่เป็นส่วนหนึ่งที่มีค่า .... ของสังคม
     เป็นเรื่องหนึ่งที่ดีมาก ๆ เลยครับจะเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีตราบนานเท่านาน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: fayala ที่ 18-03-2010 15:16:39
Thank you na ka..
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ampritise ที่ 08-04-2010 21:15:07
 :impress2:อ่านจบภายใน2ชม

น่ารักกกก

ไคกะได้ขอน้ำเกลือโหน่ยครับ ร้องไห้มากไป :sad4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 13-04-2010 10:18:25
ชอบเรื่องนี้มากๆ
อ่านแล้วน้ำตาไหลทุกรอบเลย
ขอบคุณท่านเท็นผู้แต่งสุดเลิฟๆ
และุคุณเรย์คนโพสสุดแจ่มคร๊าบบบบบ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: JanuaR ที่ 16-04-2010 21:30:17
อ่านแล้วก็รวดร้าว... น้ำตานองแทบทั้งเรื่องเลยค่ะ  :sad4:

เค้าก็จบแบบแฮปปี้แอนดิ้งนะ แต่เราก็ยังจี๊ดๆอยู่ดี ............. งืม... ทำไมน้า???

กำลังล่าเรื่องที่จบแล้วอยู่ค่ะ :D ขอบคุณคุณเรย์มาก (แอบอ่านชื่อตามเม้น) ที่เอาเรื่องดีๆมาแบ่งกันอ่าน


ปล. ปวดนิ้วมาก เลื่อนจอจนเมาส์จะพังแล้ว 55+
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 16-04-2010 22:29:32
ตามมาอ่านอีกเรื่อง :L1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Ken Ken ที่ 28-04-2010 10:10:12
อ่านแล้วน้ำตาไหลไม่หยุดเลยอะเรื่องนี้
อะไรมันจะขนาดน้านนนน อินจัดจริงๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: fernnakab ที่ 28-04-2010 20:53:57
เป็นเรื่องแรกที่อ่านในนี้เลยค่ะ..ตอนแรกๆน่าสงสารมากๆเลย..แต่ตอนหลังหวานกันมากอ่ะ..น่ารักมากค่ะ..
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 04-05-2010 12:53:06
 :sad4:สงสารอ้อนมากตอนแรกๆ
เรื่องนี้สนุกดี :laugh:ชอบการเล่าเรื่องแบบนี้ฮาดีไม่เหมือนใคร
อ่านรวดเดียวจบ o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กขี้เหงา ที่ 04-05-2010 13:26:39
 :sad4: :o12: :o8: :-[ :impress2:ฃฃ


มันมีหลากหลายอารมณ์ สนุกดีคับผ๋ม ฮาๆๆๆอ่านวันเดียวจบ ตั้งแต่ประมาณบ่ายโมงเมื่อวานจนถึงบ่ายโมงวันนี้

ยังไม่ได้นอนเลยอ่าคับ ไปนอนก่อนนะครับ

คงจะหลับฝันดีฮาๆๆๆๆ :n1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: butajang ที่ 06-05-2010 22:11:19
ขอบคุณมากนะคะ คนเเต่ง เเละ คุณเรย์ คนโพสที่นำเรื่องดีๆเเบบนี้มาให้อ่าน น่ารักมากเลยอะ ตอนเเรกเเบบคู่นี้จะชอบกันได้ไง เจ้าชายน้อยเเละหนูน้อยเเก้มเเดง ตอนที่อ่านถึงตอนลุ้นก็ลุ้นจริงๆ ตอนเศร้าก็เเอบน้ำตาคลอ (ร้องไม่ได้ เเอบอ่าน) เวลาสุขก็ทำให้ยิ้มได้ (แอบอมยิ้ม อีกเช่นกัน) รุ้สึกดีมากเเละรุ้สึกไปกับ ทานเเละอ้อน ตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: mayuree ที่ 20-05-2010 13:00:17
...ตามอ่านซีรีย์ปรัชญามาตลอด แหมทำไมมาพลาดเรื่องนี้ไปได้...
อ่านแล้วน่ารักมาก ประเภทรักไม่รู้ตัวนี่ต้องยกให้เลยเราชอบแนวนี้มากด้วยยังไงจะตามเป็นแฟนคลับนะเจ้าคะ 
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 22-05-2010 05:58:55
Thanks  so much krab
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: chatkub ที่ 25-05-2010 01:36:51
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ใช้เวลาอ่านนานมากๆ ถึงสามวัน

เนื้อเรื่องสนุกดีครับ ครบรสชาติจริงๆ

ในตัวเรื่องก็เหมือนจะสอนอะไรไปด้วยอยู่พอสมควร

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: beautyless ที่ 16-06-2010 15:28:25
นิยายโดดเด่น สะดุดตาตั้งแต่ช่วงแรก ที่ว่านายอ้อนขาไม่ปกติ
ชอบแนวนี้มากคือมันเกิดความคิดว่าจะมีใครมาชอบเขาได้หรอ
จะมีใครกล้าเปิดใจกว้างพอที่รับเขาที่เป็นแบบนั้นเข้ามาดูแลได้มั้ย

ทีนี้เรื่องมันค่อนข้างมองข้ามตรงจุดนั้น กลายเป็นว่าไปในแนว
ความรักเพราะผูกพันจากจุดเริ่มต้นที่ไม่ได้เกิดจากความสนใจกัน
ทั้งคู่ก็มีปมปัญหาชีวิตของตัวเองที่แก้ไม่ตก จนเมื่อต่างฝ่าย
ต่างพยายามเรียนรู้อีกฝ่ายหนึ่งและคอยช่วยเหลือกันทั้งที่ไม่ได้ถนัด
ที่จะทำอย่างนั้นเลย

เรื่องราวค่อยๆ หวานซึ้งมากขึ้นไปทุกขณะจนเมื่อพันธนาการ
ที่เชื่อมทั้งสองคนไว้ตอนแรกคือการชดใช้ค่ากล้องเริ่มไม่สำคัญเท่ากับ
ความผูกพันทั้งสองใจที่จะคงอยู่อย่างนั้นถาวร

อย่างไงก็ตามก็ยังรู้สึกกินใจ สำนวนที่ใช้อธิบายความรู้สึกของแต่ละฝ่าย
ทำให้เข้าใจความรู้สึกได้เป็นอย่างดีว่ามีพัธนาการไปอย่างไร
 
ผมชอบนิยายเรื่องนี้ครับ

ขอบคุณผู้แต่งและคนนำมาลงครับ Love you all.
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: sittichai_note ที่ 17-06-2010 20:13:02
ตามอ่านมาสองวัน เพิ่งอ่านจบครับ

จากติดลบเป็นเต็มร้อย  :n1: ชอบความรู้สึกแบบนี้จังครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: covnizz ที่ 21-06-2010 22:36:44
 o13 o13 o13 o13




 :L2:ให้ใจเรย ย  :L2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: TANYAjip ที่ 24-06-2010 08:50:08
ทานกับอ้อน  เหมือนมาเติมเต็มชีวิตให้กัน   
ทานเป็นคนที่น่าสงสารมาก มีทุกอย่างในชีวิต  ยกเว้นความอบอุ่นในครอบครัว  เข้าใจเลยว่าความเหงา ความอ้างว้างมันเป็นยังไง พ่อแม่มีให้ทุกอย่าง ยกเว้นเวลา  ส่วนอ้อน  ก็คิดว่าตัวเองเป็นตัวปัญหาของแม่  เลยวางตัวออกห่าง ซึ่งผิดกับทาน ที่ต้องการที่จะได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่  สองคนนี้เลยเหมือนเติมเต็มให้กันสอนกันและกันให้มองอะไรได้ดีขึ้น  ยิ่งช่วงหลังๆ อ่านแล้วประทับใจค่ะ ชอบมาก  จะติดตามผลงานต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: DrowRanger ที่ 02-07-2010 22:58:02
 :m18:อ่านรอบที่สามแล้ว ยังประทับใจไม่หายเยย
 :impress:ชอบอะ

 :m1:ขอบคุนผู้เขียนแล้วก้อคนโพส ด้วยน้า
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 03-07-2010 17:22:06
ชอบจังเลย  หวานได้ใจ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: amito ที่ 06-07-2010 23:53:58
สนุกมากเลยค่ะ คนสองคนที่เริ่มนับหนึ่งมาด้วยกัน จนตัดสินใจอยู่เคียงข้างกันตลอดไป เชื่อเถอะค่ะ ว่าไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว

ขอบคุณทั้งคนเขียนคนโพสต์นะคะ สำหรับเรื่องราวดีๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: taniyone ที่ 10-07-2010 16:04:50
ตอนแรกๆ ไม่ชอบอิคุณทานมากค่ะ :angry2:
แบบว่านี่เมิง ซาดิสก์รึไงเคอะ
รังแกน้องอ้อนอยู่ได้ ทั้งๆที่เค้าขาไม่ค่อยดี
แย่มากกกกกกกกกกกกกก :3125:

แต่ตอนหลังรู้สาเหตุของนิสัยแบบนั้นของทาน
แอบสงสารเหมือนกัน
ที่แท้ ผู้ชายคนนี้ก็แค่เด็กโข่ง นั่นเอง :laugh:

ตอนที่ชอบอ้อนแล้วแบบ
ยอมทุกอย่างนี่ กลายเป็นเหมือนเด็กว่าง่าย
เชื่อฟังคุณแม่(ทูลหัว)ไปเรยนะเคอะ :haun5:

จากกัดกันความสัมพันธ์ก็พัฒนามาทีละนิด :o9:
จนมารักกันในที่สุด ทั้งนี้ต้องยกความดีให้ความอดทนของอ้อนด้วยนะ อิอิ

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ
 :กอด1: คนแต่ง  :กอด1: คนโพส
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jumjim89 ที่ 14-07-2010 00:00:15
  ผมชอบมาก !!!
   :m15:
   :o8:
   :กอด1:
   :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Rockstar ที่ 16-07-2010 04:23:44
หูยยย อ่านรวดเดียวจบ
ทานตอนแรกๆแบบว่าเรื้อนได้อีกอ่ะ
แต่พอหวานก็หวานมากกกกกกกกก
เรื่องนี้น่ารักสุดๆเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: จริงใจ ที่ 16-07-2010 17:24:15
เพิ่งอ่านจบอ่ะ เรื่องนี้ก้อสนุก
มาเป็นกำลังใจให้ผู้แต่งจ้า
จะได้มีเรื่องดีๆ มาให้ได้อ่านต่อไป
สรุปชอบทุกเรื่องของไรเตอร์เลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: april@tbl ที่ 18-07-2010 19:38:31
ชอบมากอีกแล้วเรื่องนี้
เขียนได้ดีมากๆจริงๆ
รักที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว  รู้ตัวอีกทีก็ขาดกันไม่ได้ซะแล้ว
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งคนแต่งและคนโพสต์
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Miz ที่ 19-07-2010 19:52:41
อ้อน ทาน อ่านกีทีก็ประทับใจ  :L2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nunam ที่ 30-07-2010 14:18:37
เรื่องนี้ สงสาร นายเอก จัง แต่ก็สนุก มั่กๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: *~PlaTonG~* ที่ 31-07-2010 14:28:35
น่ารักมากค่ะ ชอบเวลาทานอ้อนมาก ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: MaZeltoV ที่ 11-08-2010 09:32:18
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเรียกน้ำตาได้ดีจริงๆ :o12:
ลุ้นแบบสุด ทั้งหมั่นไส้และน่าสงสารทานไปในตัว

แต่สุดท้ายก็สมหวัง แฮปปี้กันทั่วหน้า o13 :-[
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 14-08-2010 01:30:55
เป็นเรื่องที่สนุกมากเลยจริงๆ

หูยยย อ่านรวดเดียวจบ

ทานตอนแรกๆแบบว่าเรื้อนได้อีกอ่ะ

แต่พอหวานก็หวานมากกกกกกกกก

เรื่องนี้น่ารักสุดๆเลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ

เป็นกำลังใจให้ผู้แต่งนะครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Wr@iTh ที่ 22-08-2010 21:33:41
น่ารักมากค่ะ  :-[
ชอบนิยายของพี่เค้าทุกเรื่องเลย
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายน่ารักๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: barbieBot ที่ 29-08-2010 02:05:36
ชอบบุคลิกของอัอน น่ารักดี
สนุกอ่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Orm_Laws ที่ 31-08-2010 11:13:09
เรื่องนี้

เต็ม 10 ครับ


 o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ppmayuree ที่ 04-09-2010 18:14:33
อ่าน ครึ่งคืน กับอีก 1 วัน จบเลย อ่านไป ๆ รู้สึกว่า ถ้าวันหนึ่ง ทานไม่มีอ้อน ทานจะอยู่ได้ยังไง ตอนแรก ๆ ที่อ่าน ปรัชญาฯ มีบางตอนก็รู้สึกเฉย ๆ แต่พอมาอ่านเรื่องนี้ รู้สึกว่ามันทำให้เรารู้สึกเศร้าได้ ยิ้มได้ อึดอัดได้ และ มีความฝันกับรักที่หวาน ๆ ว่าจะมีในชีวิตจริงหรือเปล่า เป็นอีกเรื่องที่น่าประทับใจมาก
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 23-10-2010 15:48:45
กรี๊ดด น่ารักมากมาย
อีกหนึ่งเรื่องที่ประทับใจ นิยายคุณเท็นนี่ดีจังเลยน้า อิอิ
ขอบคุณคนโพสต์ด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: JA(e)jung ที่ 24-10-2010 17:51:10
เรื่องนี้ก็สนุก  ชอบมากๆค่ะ   ต่างคนต่างมีสิ่งทีขาดและก็ต่างเป็นส่วนหนึ่งที่เติมเต็มให้ซึ่งกันและกัน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jobi ที่ 02-11-2010 13:55:26
สนุกมากๆเลยจ้า

ขอบคุณทั้งคนแต่ง คนโพสต์มากๆเช่นกันค่า
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: momoko_1144 ที่ 16-11-2010 18:05:56
 o13

ซึ้งมากๆเลยค่ะ ติดตามมานาน

ในที่สุดก็ลงเอยด้วยดี จบแบบ เฮ้อ ถึงแพ้

แต่ชนะใจคนอ่านนะคะ

รีบๆมีเรื่องต่อๆไปออกมานะคะ จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ

สู้ๆๆๆค่า าาาา o13 o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: aimaim ที่ 17-11-2010 20:21:01
ว้าววววว ดรื่องนี้จบได้น่ารักมากๆ เลย ถึงแม่ว่ามันจะจบมาแล้วเกือบๆ จะสามปี

อุปนิสัยของทานเหมือนจะสับสน เหมือนจะโตแต่ก็ไม่โต เพราะขาดความรักอยางรุนแรงบางครั้งจึงได้หยุดอายุตัวเองลงถึงแค่ช่วงเวลาดีดี ที่พ่อแม่ยังคงดีให้ดีกันอยู่ คิดๆก็น่าสงสาร ส่วนอ้อนเพราะอุบัติเหตุจึงทให้นิสัยเปลี่ยนไปสินะ แต่ทานเป็นคนมาประสานรอยร้าวตรงนี้ ต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บกันมาคนละอย่าง แต่ก็เยียวยาให้แก่กันและกัน

สมเป็นนิยายคุณเท็น ซึ้งกินใจ ฮาเหลือหลายและน่ารักสุๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ต้นสน ที่ 18-11-2010 19:00:55
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ขอบคุณ writer คุณ aoikyosuke ขออนุญาตินำเรื่องราวดีๆ ไปโพสต์ให้เพื่อนๆ เวปอื่นได้อ่านและ ซาบซึ้งในความรักของเจ้าชายทานตะวัน และ หนูน้อยแก้มแดง ด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: suginosama ที่ 29-11-2010 16:15:02
สนุกมากๆเลยค่ะ เป็นอีกเรื่องที่ชอบเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Sornpattra ที่ 10-12-2010 12:47:07
ได้หลากรส หลายอารมณ์
เอาใจช่วย ทานและอ้อน
มากมาย จริงๆ
แรก แรก นึกว่าจะงอน ง้อ งอนง้อ จนแประ
แต่ไม่ใช่ เพราะ อารมณ์หวานที่มีอยู่ของทานกับอ้อน มันน่ารักที่สุด
เป็นเรื่องที่อยากให้ใครหลายๆคนได้อ่าน เหมือนกันกับเรา
อ่านจบแล้วได้รอยยิ้มอิ่มอารมณ์ คุ้มกับการอ่าน
ไม่เหมือนกับบางเรื่อง ที่ อ่านแล้วต้องเฮ้อออออออออออออ
ไม่น่าเสียเวลา กะมันเร้ยยยย ประมาณนี้
ชอบเรื่องนี้มาก และมากๆ จ้ะ

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 14-12-2010 22:07:40
ชอบเรื่องนี้ น่ารักมาก
เริ่มแรกบรรยายกาศแบบ ฆ่ากันตาย :serius2: อ่านๆไปค่อยดีขึ้นหน่อย ไว้อ่านจบจะมาเม้นใหม่ค่า
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: rainy_naja ที่ 25-12-2010 06:32:25
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: p.w. ที่ 03-01-2011 22:35:03
เป็นนิยายที่อ่านแล้วรู้สึดดีสุดๆ  ได้ทุกอารมณ์  สุดยอด
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: บีบีจัง ที่ 12-01-2011 18:47:05
อ่านวันเดียวจบ ชอบมากเลยค่ะ รู้สึกว่าคุณเท็นเขาจะเก่งในการเขียนให้คนอ่านเขินได้เสมอเลย  :-[
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Sornpattra ที่ 12-01-2011 19:03:18
เป็นเรื่องราวของความรัก
ที่น่ารัก มาก อีกเรื่องหนึ่ง
ชอบ ทาน กับอ้อน จริงๆนะ
...........หวานไม่เลี่ยน รักไม่เอียน
สรุปแล้ว กำลังดี สนุกมากมาก
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tiktok ที่ 13-01-2011 17:51:38
 :monkeysad:ใช้เวลาอ่าน 3 วัน
เป็นเรื่องที่มีครบทุกรส
พระเอกก็น่ารัก+บ้าได้ใจมาก
นายเอกก็น่ารักแสนดี
ชอบที่จบแบบ happy ด้วย
ตอนนี้กำลังตามอ่านผลงานเรื่องอื่นๆอยู่
เป็นกำลังใจให้แบ่งปันเรื่องดีๆให้คนอ่านอีกนะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 16-01-2011 22:23:21
เรื่องนี้สนุกมากๆๆๆๆ
อ่านไปน้ำตาก็คลอไปปากก็ยิ้มไปเหมือนคนบ้านเลย 555

 ยิ่งตอนที่ทั้งอ้อนและทานตัดพ้อตัวเองนะ น่าสงสารอ่ะอ่านแล้วอินมาก
แต่เวลาเค้างอนง้อกันนี่น่ารักดีนะ
ตัวละครไม่เยอะแต่มีครบทุกรสชาติ สนุกมากจริงๆค่ะ ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสท์เลยนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 29-01-2011 02:28:47
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akigo ที่ 18-02-2011 00:05:40
เรื่องนี้สนุกดีค่ะ ตามอ่านมาจากเด็กดีอ่ะ
ตอนแรกที่อ่านคิดส่าทานมันมันเป็นไรมากป่าวเนี่ย ใจร้ายได้โล่เลย :angry2:
แต่อ่านไปอ่านมา ทานน่าสงสารมากเลยอ่าาาา
อ้อนก็ชีวิตรันทดซ้า แต่ตอนท้ายๆๆน่ารักมากเลยค่ะ
ขอบคุณน้าที่เอานิยายสนุกๆๆแบบนี้มาให้อ่านค่า :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 20-02-2011 09:26:09
ไม่ผิดหวังจริงๆที่อ่านเรื่องนี้ ช้าไปหน่อยไม่ว่ากัน :กอด1:
นั่งอ่านตั้งแต่เมื่อคืนจนตอนนี้เก้าโมงเช้า อึดไปไหน น
มันละไม่ได้จริงๆ เป็นนิยายที่เอาใจเราไปเลย
มันบอกไม่ถูกแหะ ซึ้งจริงๆนะ

ขอบคุณทั้งคนโพสและคนแต่งค่ะ ได้ใจไปเต็มๆจริงๆ :3123:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tidawan ที่ 20-02-2011 22:50:34
   รักเรื่องนี้ที่สุดในโลกเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: noomasoi3 ที่ 20-02-2011 23:29:22
ช๊อบชอบ.....ทั้งสนุก ทั้งเศร้า ทั้งอ่อนหวาน.....มีครบทุกรสดีค่ัะ
เขียนเรื่องได้ไม่เร่งร้อนแต่ละมุนละไมชวนอ่าน....ขอบคุณที่เขียน
....................และขอบคุณที่โพส.............................
                               :L1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: kaowkong ที่ 24-02-2011 01:21:27
อ่านสองรอบ...
เขิลมันทุกรอบบบ...อิอิ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Lin-G ที่ 25-02-2011 23:23:57
โอวววววววววววววววววว กว่าจะลงเอย :z3: :z3:

แต่สุดท้ายก็ :z2: :z2:

แฝงข้อคิด ปรัชญาเหมือนเดิมเลยนะเจ้าค่ะ :z10: :z10:

ขอขอบคุณอีกครั้ง สำหรับผู้แต่ง

และขอบคุณผู้ที่นำเรื่องมาให้เราได้อ่าน ด้วยจริง ๆ จ๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tokun ที่ 28-02-2011 13:32:43
ขอสารภาพว่าร้องไห้เกือบทุกตอน  :m15:

สงสารอ้อนอ่ะ :monkeysad:

อ่านๆไปจริงๆแล้วทานก็น่าสงสารเนาะ

ไม่รู้จักการแสดงความรัก แต่สุดท้ายก็  :กอด1:

ขอบคุณฮับ o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: gkyoai ที่ 04-03-2011 16:20:07
สนุกดีนะคับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 06-03-2011 15:48:32
สนุกมากค่ะ  o13 ขอบคุณนะคะที่เอามาให้อ่าน

ตอนแรกสารภาพว่าพออ่านได้ซัก3-4ตอนชักไม่อยากจะอ่านต่อ :m17:
เพราะเราไม่ค่อยชอบแบบดราม่าเท่าไหร่น่ะค่ะ
อ่านไป ร้องไห้ไป :o7: แต่ก็บอกตัวเองว่า..
เอาวะ กัดฟัน อ่านให้มันจบๆไปซะ จะได้ไม่ค้างคา :m7:

แต่พออ่านไป อ่านมา เอ้าอ่านแบบนอนสต๊อปจนจบเลยซะงั้น  :laugh:

อ่านช่วงแรกๆร้องไห้จนปวดตาไปหมด  :sad2:
 o7สงสารอ้อน ยิ่งตอนที่อ้อนร้องไห้เพราะเจ็บขาน่ะ*สุดๆค่ะ*
ทรมาน บีบหัวใจเรามาก  :sad4:

เราเข้าใจความรู้สึกอ้อนเลย  :undecided:
เพราะเราก็เคยมีช่วงเวลาที่กลืนไม่เข้า o2 คายไม่ออกเหมือนกัน
 :freeze:ไม่รู้จะทำยังไง ต้องต่อสู้บนโลกใบนี้ตามลำพัง
มันทั้งน่ากลัว โดดเดี่ยว ทรมานสุดๆ :o11:
แต่ก็ดีแล้วล่ะค่ะที่ผ่านมันไปได้ ยินดีด้วยที่พบกับความสุขนะจ๊ะอ้อน :mc3:

ปล.เคยมีคนเค้าบอกมาว่า....
*ความรัก*น่ะ  :L2: เป็นเรื่องของคนงี่เง่าสองคน ที่ทำอะไรงี่เง่าๆใส่กัน
แต่สุดท้าย...พอรู้ตัวอีกที ก็รักกันไปซะแล้ว  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: twikarn ที่ 09-03-2011 03:08:21
ไม่ชอบ

สงสาร

ร้องไห้

อมยิ้ม

หัวเราะ

อิจฉา

ความรู้สึกไหลบ่า ท้วมท้น
คุณได้ทำให้ใครหลายๆคนมีความสุข รู้ตัวปล่าว
ได้บุญเยอะนะนั่น

รักทุกการกระทำ ทุกคำพูด และทุกๆช่วงขณะที่เกิดขึ้น
ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไป อยู่ที่ตัวเราว่าจะหาสาเหตุทันเจอรึปล่าวแค่นั้น

ขอบคุณจริงๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: maple4120 ที่ 13-03-2011 13:50:26
ในที่สุดก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
อ้อนกับทานน่ารักกันทั้งคู่เลย ลงทุนไปจดทะเบียนสมรสกันถึงต่างประเทศซะด้วย
อ่านแล้วมีความสุขค่ะ ชอบจัง
แล้วที่บอกว่าได้ทริปเปิ้ลแชมป์ก็แปลว่าทีมทานแข่งชนะแล้วสินะ ดีจริงๆเลย
จบแฮปปี้มากๆ ชอบค่ะ แม่ทานที่โผล่มาตอนสุดท้ายก็น่ารักด้วยอ่ะ
ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆอย่างนี้มาให้อ่านนะคะ  :o8:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 14-03-2011 01:39:20
่ชอบอะ อ่านแล้วบีบคั้นหัวใจดี
มันรวมทุกอารมณ์


สุดยอดอะเรื่องนี้
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 14-03-2011 15:34:59
จบแล้วอยากอ่านต่ออีกจัง

ชอบมากเป็นเรื่องราวของความรักที่ซาบซึ้งใจคนอ่านมากมาย
ค่อยๆรัก ค่อยๆเรียนรู้ ค่อยผูกพัน
แล้วก้อเติมเต็มกันและกัน
อยู่ด้วยกัน ด้วยความเข้าใจ

มันมีทั้งความสนุก เศร้า แง่คิด มากมาย
ขอบคุณ คุณเรย์ที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่าน
ขอบคุณ คนแต่ง สำหรับเรื่องดีๆ ภาษาก้อดี สำนวนก้อดี อ่านแล้วเคลิ้มตามตลอด
ขอบคุณคะ

รักทาน รักอ้อน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: soullee ที่ 19-03-2011 23:28:56
อ่านตอนแรก ไม่ชอบทานเลย
สงสารอ้อนอ่ะ ถูกบังคับ ทำร้ายจิตใจกันมากกกก ฮืออออ  :o12:

แต่พอรู้เหตุผลแล้วก็สงสารอ่ะ เหมือนเด็กที่ขาดความอบอุ่น ขาดความรักจากพ่อแม่
ทานโชคดีที่มีอ้อนมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดไป  :-[
เรื่องนี้มีหลายอารมณืมาก
บางตอนก็เจ็บปวดมาก ร้องไห้เลย บางตอนก็น่าร๊ากกกกก 55

ขอบคุณที่ทำให้คนอ่านมีความสุขค่ะ
ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี เรื่องบางเรื่องมันก็เอามาชีวิตจริงนี่แหละเนอะ
อ่านแล้วได้คิดอะไรดีๆมากขึ้น
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 20-03-2011 16:30:16
เมื่อคืนร้องไห้ตาบวม วันนี้ยิ้มหน้าบานเพราะอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วได้อารมณ์ครบรสดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 11-04-2011 10:25:03
เป็นเรื่องที่2ของคุณaoikyosukeที่ได้อ่านนะค่ะ ยังคงเป็นนิยายที่น่ารักเหมือนเดิม
ทำให้ร้องไห้แบบหนักหน่วงจนตาบวมแล้วบวมอีก เวลาหวานก็หว๊านหวานจนคนอ่านยังเขินด้วยเลย เหมือนตัวเองเป็นเองซะงั้นเลย
อยากจะบอกว่าตอนแรกๆออกจะไม่ชอบทานด้วยซ้ำ ใจร้ายมากๆเลย ใจร้ายแบบโกรธจนไม่อยากให้อภัยเลย ทำไมต้องมาทำนายเอกแบบนี้ด้วย แต่พอรู้เหตุผลของทานก็พอจะให้อภัยได้ แล้วอีกอย่างถ้าไม่ร้ายแบบนั้นอ้อนคงอาจจะไม่กลับมาหลงรักทานก็ได้
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 30-04-2011 18:13:57
น่ารักจริงๆเลยค่ะ
สุดท้ายมีแอบจดทะเบียนสมรสด้วยยย
ขอให้ทั้งคู่มีความสุขตลอดไป :))

ขอบคุณที่เอามาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: LaphaeL ที่ 29-05-2011 17:29:00
กลับมาอ่านอีกทีก็อินเหมือนเดิม... o13
 :-[ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 04-07-2011 17:16:15
หนูน้อยเเก้มเเดง

อ่านเรื่องนี้เเล้วเขินมากมาย
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Phantom ที่ 07-07-2011 01:04:36
ขอบคุณเรื่องดี ๆ เรื่องนี้นะคะ

อ่านแรก ๆ บีบหัวใจมาก
แต่ก็ต้องแปลกใจกับปมที่ผู้เขียนจงใจผูกไว้
แล้วก็มาเฉลยให้เห็นพัฒนาการทางความรู้สึกของอ้อนกับของทาน
เล่าเรื่องได้ดีจริง ๆ สนุกน่าติดตาม
ถ้าเป็นหนังสือก็เรียกว่า วางไม่ลงเลย

เดี๋ยวคงต้องไปตามอ่านเรื่องต่อ ๆ ไปของคุณ aoikyosuke ล่ะ

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: kongon ที่ 05-08-2011 21:45:33
อ่านแล้วร้องไห้ไปด้วย...ชอบตอนจบมาก..ขอบคุณสำหรับคนแต่งนะครับที่แต่งเรื่องมาให้อ่าน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: indyska ที่ 06-08-2011 23:56:42
ซึ้งน้ำตาไหลพรากๆ TT''  โอ้วพระเจ้า ชีวิตจะเนอย่างนิยายไหมหนอ

ถ้าเปนไปได้...ก็ดีอ่ะ ดิ๊ ฮิ้วววววววว
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Zinub ที่ 09-08-2011 21:46:15
อ่านติดต่อกันสามวันเลยค่ะเรื่องนี้ รู้สึกอบอุ่นมาก ชอบค่ะชอบมาก o13 o13

อ้อนกับทาน ค่อยเป็นค่อยไป ค่อยผูกพันกันขึ้นเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว :-[

คนเขียนเก่งมาก บรรยายความรู้สึกความคิดโต้ตอบที่ไม่ได้พูดออกมา :o9:

ได้อย่างใจ :teach: อ่านแล้วไม่เศร้านะ ก็พอน้ำตาจะไหล จะไหล :impress3: ก็มีคำพูด

หรือไม่ก็ความคิดที่ขำขำของอ้อนมั่ง ทานมั่งแทรกให้ได้ฮาทุกที :laugh3: :laugh3:

เดี๋ยวคงต้องอ่านอีกรอบ  ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆให้อ่านกันค่ะ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: armlovebos ที่ 18-08-2011 00:32:01
สวัสดีคับ....ชอบอะ..

เริ่มจากการเปงลูกหนี้เจ้าหนี้......และเริ่มรู้สึกดีแบบไม่รู้ตัว....ต่อจากนั้นมาเริ่มรัก...

ไม่อยากให้จบเลยอยากให่ต่ออะ...

น่ารักดีมีทุกรด....ทาน..ก้น่ารัก..อ้อนก้น่ารัก...

คิดถึงจางเลย....ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o13 o13

และอีกอย่างที่ลุ้นมากมากๆๆๆก้คือฉาก..อย่างว่า...ฮ่าๆๆๆๆๆ

กว่าจะมีฉากนี้เกือบจบเรื่อง..แต่ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอะรัยที่ได้มายากๆๆๆมันก้จะอยู่กับเรานานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :oo1: :3123:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: azure™ ที่ 19-08-2011 13:07:42
เรื่องนี้น่ารักมากๆเลยครับ หลงรักทานสุดใจเลย :o8:

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวหอม ที่ 26-08-2011 18:44:07
สุสยอดเลยอ่ะน่าร๊ากกกกกมาก


อิอิ...ช๊อบ ชอบ :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 05-09-2011 13:02:43
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะฮ๊าฟฟฟ
อ่านแล้วประทับใจมากมาย
ต่างคนต่างขาดบางสิ่งบางอย่างแล้วมาเติมเต็มให้กันและกัน
เขียนได้ดีมาก ๆ เลยนะฮ๊าฟฟฟ
ขอบคุณอีกครั้งจากใจจริง
^^"
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oop ที่ 06-09-2011 21:28:18
ชอบคู่รักประมาณเน้ ๕๕๕๕๕๕๕
^.,^
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 27-09-2011 22:36:02
อ่านรอบที่สามแล้วก็ยัง ฟินนาเร่~~
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nammy ที่ 02-11-2011 23:16:23
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ :bye2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Warlock ที่ 04-11-2011 17:06:29
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเศร้า+สงสาร สนุกดครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Mickii ที่ 09-11-2011 13:35:36
พออ่านเรื่องนี้จบแล้ว.... มันมีความรู้สึกแบบว่าบอกไ่ม่ถูกจิงๆๆ

เพราะมันรวบรวมความรู้สึกไว้มากมาย ทั้งทุกข์และสุข

ในจะปมในใจของทั้งอ้อนและทานอีก ในช่วงแรกๆ หมั่นไส้ทานมากๆๆ ที่สุด

สงสารและเห็นใจอ้อนมากที่ต้องมาเจอคนแบบทาน แต่พออ่านไปอ่านมารู้สึกเห็นใจทานซะงั้น

เริ่มที่จะหลงรักทั้งสองคนซะแล้ว ยิ่งมาช่วงหลังๆ ที่ปรับตัวและปรับใจเข้าหากัน โอ๊ยอิจฉามากๆๆๆ

ยิ่งฉากที่เรียกน้ำตา น้ำตาก้อไหลพรากซะเต็มทีเลย บางตอนก้อนั่งยิ้มเปงบ้าอยู่คนเดียว

ขอบคุนคนแต่งและคนโพสต์นะคะ ที่นำเรื่องดีๆ มาให้ได้อ่าน  o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nize ที่ 18-11-2011 03:01:37
ชอบมาก อ่านแค่ตอนแรกๆๆก้อบีบหัวใจและน้ำตาไหลเลย
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Mickii ที่ 06-12-2011 16:09:00
เป็นเรื่องที่น่ารักมาก เริ่มต้นจากความไม่ชอบ เกลียด ค่อยเปลี่ยนสถานะ

กลายมาเป็นความรัก ความผูกพันธ์ระหว่างคนสองคน

รักนายทานตะวัน กะน้องอ้อนมากกกกก
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: puu142 ที่ 11-12-2011 15:57:24
                                ขอขอบคุณ...........ผู้ประพันธ์ที่ประพันธ์   เรื่องราวดีๆ  ที่ประทับใจให้อ่าน


                                    ขอเป็นกำลังใจให้ท่านได้ประพันธ์เรื่องราวดีๆที่ประทับใจต่อไปครับ


                                                                     ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: min_min ที่ 13-12-2011 22:50:21
เอิ่มมมมมมม  เพิ่งมาอ่านเรื่องนี้อ่ะ แบบว่าน่ารักดีอ่ะ

ช้าไปไหมเนี่ยยยย อยู่ด้วยกันมาตั้งนานแต่เพิ่งได้มาอ่าน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Mrl● ที่ 19-12-2011 23:18:42
สนุก ครบรสจริงๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ <3
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 02-01-2012 22:37:39
แรกๆไม่ชอบทานเลยให้ตายสิ  :beat:
หลังๆนี่อ้อนเก่งนะ เริ่มน่ารัก ขอบคุณคนแต่งและคนโพสต์นะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 20-01-2012 16:50:06
เรื่องนี้มีผลต่อจิตใจเราจริงๆ อ่านไปเหมือนนั่งมองตัวเอง ไอ้อ้อนเหมือนตัวเราจริงๆ

ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องดีๆให้อ่าน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 21-01-2012 12:59:23
 :กอด1:
หนึ่งวันหนึ่งคืน...กับเจ้าชายน้อยและหนูน้อยแก้มแดง..ที่กัดกันแทบทั้งเรื่อง
ทั้งหมั่นไส้ ..รำคาญ ..ตลก ..ปวดหัว ..ร้องไห้ ...สุดท้ายก็ยิ้มแก้มแตก  :o8:

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆอีกเรื่องนึงนะคะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 23-01-2012 21:43:15
ต้องขอบคุณท่านที่ขุดมาอ่าน เพราะเราเกือบพลาดงานเรื่องนี้ของคุณเท็นเสียแล้ว

พออ่านแล้วก็ตามคาด ต้องมีฉากรีดน้ำตาหลายฉากจนได้ ฉากหวาน ฉากน่ารักก็ทำให้ยิ้มแก้มแทบปริ  ช่างเป็นคนเขียนนิยายที่ดึงอารมณ์จากผู้อ่านได้ดีทีเดียว 

ขอบคุณผู้แต่ง และผู้โพสมากค่ะ ถึงจะขอบคุณช้าไปแต่ยังไงก็รู้สึกขอบคุณอยู่ดี

หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: kazuribum ที่ 29-01-2012 18:34:02
อ่านจบแล้วพูดได้คำเดียวว่าประทับใจมาก...กับหลายๆอย่าง
ได้เข้าใจอารมณ์ ความรู้สึกของแต่ละคน..
ได้รู้ว่า อะไรที่เก็บไว้ทก็พูดๆมันออกมาซะบาง...แล้วอะไรๆ ก็จะดีขึ้น

ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ไก่จ้า ที่ 31-01-2012 22:25:43
ขอบคุณ มันเป็นเรื่องทีดีมาก
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 02-02-2012 23:59:56
อารมณ์ทานตะวันนี่แล้วแต่ฝนฟ้าจะเป็นใจอะนะ เหอะ เหอะ

อ้อนน่ารัก ทานก็น่ารัก

ดีใจที่อ้อนเลือกทาน...หรือถูกบังคับเลือก(ทาน: :z6:)

แอบไปอ่านตอนพิเศษแบบบทสัมภาษย์มา

นั่งกรี๊ดอยู่คนเดียว

ตอบคำถามเดียวกันแต่คนละอารมณ์ ยิ่งอ่านทานยิ่งน่ารัก :impress2:

ขอบคุณ ผู้แต่ง ผู้โพส และเล้าเป็ด
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 07-02-2012 21:54:38
ขอบคุณ คุณเทน คะ :L2:

ขอบคุณเรย์มากกกกกกกกกคะ :impress3: ที่นำเรื่องราวดีๆมาให้เราได้อ่านกัน

>>พี่ทาน ตอนแรกคิดว่าพี่อะบ้า บ้าแน่ๆ คนอะไรอารมณ์จะขึ้นๆลงๆได้ขนาดนั้น พอบทจะน่าสงสารก็เอาใจอ่อน พอขี้อ้อนเรางี้แทบละลาย ยิ่งตอนออกลายหื่นนี้มันน่าฟัดจริงๆ เจ้าเล่ห์น่ารักนักนะ ขนาดเรายังคิดแบบนี้จะไม่ให้อ้อนหลงใจอ่อนหลงรักไปได้ไงเนอะ

>> อ้อน เป็นคิดมากกกกกอะ เครียดบ่อยหัวล้านนะ ออกกำลังกะทานบ่อยๆสมองก็ปลอดโปร่งเองแหละ555.

อ่านไปนั่งลุ้น นั่งเครียด นั่งยิ้มไป เขินไป หัวเราะอยู่คนเดียว บ้าไปแล้ววววววว55555

ชอบบบบบบบบบ แต่ละคนก็มีปัญหาของตัวเอง ทุกคนก็อยากจะมีใครสักคนให้เราได้ทิ้งตัวได้เหมือนกัน ใครสักคนนั้นมันของฉันอยู่ไหน???555หาในนี้คงไม่เจอชัวร์ ขอให้ทุกคนเจอคนที่ใช่ของตัวเองนะคะヾ(@⌒ー⌒@)ノ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: stdvic ที่ 16-02-2012 01:54:00
สนุกมากเลยครับอ่านแล้วมีความสุขและได้ทุกรสชาติของความรัก
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: azure™ ที่ 27-02-2012 09:38:34
เคยอ่านไปแล้วรอบนึงคับสำหรับเรื่องนี้ จำไม่ได้ว่าเคยเม้นไหม แต่รอบนั้นจำได้ว่าร้องให้
รอบนี้กลับมาอ่าน ก็ยังร้องให้เหมือนเดิม เป็นเรื่องที่ซึ้ง แต่ในขณะเดียวกัน ก็ให้รอยยิ้มกับผมอีกเช่นกัน
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่ดีนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Dee15 ที่ 27-02-2012 13:11:38
อ่านจบแล้ว จบไปพร้อมกับ น้ำตาและรอยยิ้ม
ขอบคุณมากมายคะ  :กอด1: สามที สำหรับคนแต่ง
                            :กอด1: สามที สำหรับคนโพส
ขอให่มีคาวมรักที่ น่ารักเหมือน ทานกับอ้อนนะคะ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 29-02-2012 19:24:43
อ่านถึงหน้า11แล้วสนุกดีครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 02-03-2012 19:05:09
 :3123:ขอบคุณครับสำหรับนิยายที่น่ารักๆๆแบบนี้เสมอ
เรื่องคึวารักของคนสองคนเกิดจากความเกลียกและกลายมาเป็นความรัก
และความผูกพันธ์ ขนยากที่จะเปลี่ยนหรือว่าจ่ากกันได้ อ้อนทานตะวัน
สองคนนี้คงจะเป็นตัวอย่างของใครอีกหลายๆคน เรื่องนี้จะเก็บไว้ในความทรงจำตลอดไป :L1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 04-03-2012 22:35:50
เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาอ่าน อ่านไปนั่งร้องไห้ไป :sad11:
ซึ้งมากค่ะ เป็นนิยายที่ดีมากๆอีกเรื่องหนึ่งที่ทำเรานั่งอ่านติดกันแบบหยุดไม่ได้ o13
ขอบคุณคนแต่งที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่าน :กอด1:
ขอบคุณพี่เรย์ที่เป็นตัวแทนนำมาโพสต์ :L2:
สนุก ครบรสมากๆค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet~ ที่ 07-03-2012 14:41:52
ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ เรื่องนี้ค่ะ
ความผูกพันที่เริ่มทีละนิด
ค่อย ๆ กลายเป็นความรักที่สวยงามอ่อนหวาน

ทั้งทานตะวันและอ้อน ต่างเป็นคนที่ขาด..
ขาดในเรื่องของแต่ละคน ในมุมมองของตนเอง
แต่ทั้งสองคนต่างเติมเต็มให้กันและกัน
กลายเป็นความรักความผูกพันที่งดงาม

ขอบคุณค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 07-03-2012 22:31:39
สนุกแบบ  หลายอารมณ์มาก

ความรักที่ค่อยๆเริ่มก่อตัวจนบางทีไม่ทันจะรู้

มันน่ารัก และ น่าติดตามจริง
มันแบบ ภาษาสวยมาก
การบรรยาย เข้าใจมาก

เข้าใจความรู้สึกหลายๆฝ่ายใน เวลาเดียวกัน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Ipatza ที่ 17-03-2012 17:54:11
ไม่มีอะไรจะสุขได้เท่านี้แล้ว  :sad4:
กับการที่ตามหาเรื่องนี้มาเกือบ 5ปี(หายังไงก็ไม่เจอ 555+)
เคยอานไว้ถึงตอนวันลอยกระทง แล้วก็ไม่ได้อ่านอีกเลย เกือบ 5ปี  :a5:
5ปีเชียวนะ แต่บอกตรงๆว่าไม่เคยลืม แค่จำชื่อไมไ่ด้ แต่จำลักษณะเรื่องนี้ได้
ไม่รู้เมื่อคืนคิดตลกอะไรเลย หามั่วๆ
พอได้เห้นชื่อตัวละครแค่นั้นละ
ความรุ้สึกเก่าๆก็เข้ามา มันใช่อะ เนี้ยละที่หามานาน
ความทรงจำ ไม่เคยลืมได้เลย
จะเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจตลอดไป
รุ้สึกดีจริงๆที่ได้อ่าน
สุดท้ายนี้ขอบคุณ....ตัวเอง(อ่าว ?)
ขอบคุณตัวเองที่เปิดมาเจอเรื่องนี้ ค้นเจอเรื่องนี้จนได้  :กอด1:
วันนี้เป็นวันที่มีความสุขมากจริงๆ อ่านจบแล้ว
ปล.อยากไห้มีภาค 2 555+อ่านตอนพิเศษแล้วอยากรุ้ไปเจอแม่ทานยังไง อะหิอะหิ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 20-07-2012 11:06:01
หลายปีผ่านไปเพิ่งได้อ่าน สนุกทุกเรื่องจริง ๆ นิยายคุณเท็น
เรื่องนี้ช่วงกลางเรื่องที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวเข้าใจผิดกัน อ่านแล้วมวนท้อง
อึดอัดมาก แต่สุดท้ายแล้วก็ลงเอยด้วยดี ^^
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 22-07-2012 13:19:16
ช่วงแรกเศร้าอ่ะอ่านแล้วน้ำตาซึม สงสารทานตะวันจัง

กว่าจะง้างปากให้แต่ละคนพูดความรู้สึกออกมาได้ ลุ้นแทบแย่เลย

สนุกมาก มีครบทุกรสชาด


ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: NaNaAS ที่ 23-07-2012 02:30:48
 o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: p_a_n ที่ 23-07-2012 23:29:43
 o13 clearly see developing of love
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: moodyfairy ที่ 25-07-2012 02:06:53
หลังจากผ่านการอ่านมาราธอน แอบเสียน้ำตา?? ไปก้อหลายลิตร  :monkeysad: :monkeysad:
แต่จบได้ประทับใจมากเลยนะคะ อมยิ้มจนแก้มเกือบแตก :-[ :-[

ขอบคุณมากนะคะ เป็นกำลังใจให้ผู้แต่งต่อไปค่ะ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-07-2012 21:17:22
น่าร้ากกกกกกกกกกกก
มากๆ :) :)
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 30-07-2012 00:07:27
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะ

เรื่องนี้สนุกมากๆเลย^^,,

  o13:bye2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 05-09-2012 11:22:23
น่ารักมากๆครับ มีความสุขมากๆที่ได้อ่านเรื่องนี้ครับ

ขอบคุณมากๆครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: iLmbkginvsv ที่ 13-09-2012 19:35:47
น่ารักอ่ะ  อ่านรอบที่สองแล้วยังอ่านไปเขินไปอยู่เลยเนี้ย
 :o8: :o8: :o8: o13 o13
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: mind_cassio ที่ 17-12-2012 14:23:02
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้
รู้สึกผิดมากว่าตัวเองพลาดเรื่องดีๆอย่างนี้ไปได้ไงตั้งนาน
ขอบคุณคนแต่งแล้วก็คนโพสมากเลยนะคะ  :กอด1: :กอด1:

ฝากบอกพี่คนแต่งด้วยว่า
ขอบคุณมากที่ให้สิ่งดีๆกับคนอ่านมากมาย นอกจาจะสนุกแล้วยังแฝงอะไรให้คิดเยอะแยะ
ดีจังเลยคะ.... ไม่รู้จะบรรยายอะไรให้มันสมกับคุณค่าของเรื่องนี้

ขอบคุณจริงๆคะ       
ปล. รักเจ้าชายทานตะวันกับ หนูน้อยแก้มแดง มากเลยนะ   :m17: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 19-12-2012 11:26:28
ชอบนิยายของคุณ aoikyosuke มากๆเลย รู้สึกได้ถึงความเป็นตัวคนจริงๆ ชีวิตจริงๆ
ขอบคุณทั้งคนเขียนและคนนำมาโพสต์นะครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: PoofuGirl ที่ 24-12-2012 20:20:21
ตอนอ่านตอนแรก ๆ รู้สึกแบบนี้  :เฮ้อ:
รู้สึกว่าทำไมนายเอกถึงได้น่าสงสาร  :sad4: ดราม่า ช้ำเลือดช้ำหนอง
ทรมานทรกรรมเยี่ยงนี้ อีตาทานนี่ก็เด็กโข่งใสซื่อ เลวบริสุทธิ์จริงจังตั้งแต่ต้นเรื่อง

แย่ยิ่งอ่านก็ดำดิ่งค่ะ อ่านแล้วรู้สึกว่าพอมาช่วงหลัง ๆ ภาษาในเรื่องลื่นปรื๊ดมาก
อ่านแล้วลื่นไหลไปกับเนื้อเรื่องไม่สะดุดเลย การพัฒนาของตัวละครทั้งสองตัว
เรื่องของแม่ พระเอก นายเอก ค่อนข้างพัฒนาได้ดีเลยทีเดียว  o13
แอบอยากให้เขียนในส่วนของเรื่องอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อน ก่อนที่อ้อนจะกลายเป็นแบบนี้อยู่เหมือนกัน
แล้วชะตากรรมของไหม เหมือนจะตัดฉับไปนิดนึง

แต่โดยรวม ๆ ชอบการเติบโตของตัวละครมากค่ะ เจ้าชายทานตะวันจากคนไม่มีหัวใจ
ซื่อ+เลวบริสุทธิ์จริงจัง เพราะความเหงาที่ครอบคลุมจิตใจ เด็กที่ขวนขวายหาความรัก
หาคนที่จะรัก วิ่งตามความรักของพ่อแม่จนตกหลุมรักความอ่อนโยนใจดีของอ้อนที่ตัวเอง
เรียกว่าคนใช้ ไอ้เป๋ มาโดยไม่รู้ตัว วิธีการจีบพ่อคุณก็ตรงเป๋งอย่าให้บอกใครเชียว แต่อยากเจอผู้ชายแบบนี้
เหมือนกันนะ ถ้าได้เจอแม่จะคว้าไปเป็นแฟนทันที สาธุ!  :call:

อ้อนนายเอกผู้น่าสงสาร ยิ่งอ่านช่วงแรกยิ่งเศร้าใจ อยากกระโดดถีบพระเอกวันละร้อยรอบ  :z6:
ตอนทานไม่สบาย ทั้งที่โกรธเกลียดแต่ก็ไม่ทิ้งไป จริง ๆ เป็นเด็กอ่อนโยนสินะ แต่อ่านไปแล้ว
รู้สึกช่วงหลังอ้อนดูแอบหื่นกว่านายทานมากกว่าที่เห็น  :a5:

อยากอ่านภาคพิเศษอีกจัง แต่โดยรวมเนื้อเรื่องครบรสดีมากค่ะ มีเรื่องของครอบครัวด้วย
ชอบที่ทานสอนให้อ้อนไปอ้อนแม่ตัวเองให้สมชื่อ รู้สึกว่าบรรยากาศดูน่ารักอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก  :z3:

สรุปว่าถูกใจใช่เลยค่ะ ^^

เม้นต์ยาวไม่ว่ากันนะคะ เรื่องแรกที่อ่านของคุณ aoikyosuke เลยค่ะ
ไว้ไปตามอ่านอีกค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 02-01-2013 23:59:38
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน น่ารักมากมาย
ตอนแรกสงสารอ้อนมากที่ทานชอบแกล้ง
แต่พอเจอปัญหาครอบครัวทานเข้าไปสงสารทานอย่างจัง
อ้อนก็น่ารักเหลือเกินทนนิสัยแย่ๆ ของทานได้
ทำให้มีวันนี้ วันที่ทานกับอ้อนรักกัน  :o8:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 14-02-2013 08:03:24
อ่านจบแล้วเย่ ตอนแรกทานจะโหดไปไหนสงสารอ้อนมากก .แต่หลังๆเริ่มสงสารทานเด็กขาดความรักก็ไมบอก


ตอนที่รักกันแล้วโครตน่ารักอะ แอบร้องไห้ตอนที่อ้อนแบบโลเล ไม่ดีเลยนะ

สุดท้ายก็ขอบคุณที่เอามาให้อ่านนะคะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 16-02-2013 22:23:53
อ่านจบไปอีกรอบแล้ว  อิอิ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 19-02-2013 00:35:18
เพิ่งได้อ่าน
เป็นเรื่องที่ดีมากๆ อ่านแล้วอบอุ่นแบบที่ไม่เคยรู้สึกกับเรื่องไหนมาก่อน
อ่านนิยายคุณเท็นมาก็หลายเรื่องแล้ว แต่ไม่เคยได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้สักที พลาดไปได้ยังไงตั้งนานนิ?
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 19-02-2013 14:26:24
ไม่รู้ว่าพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไง..ถึงเพิ่งเข้ามาอ่าน2วันจบ

ตอนแรกอ่านไปสงสารอ้อนมากทำไมมันรันทดขนาดนั้นขาพิการแถมโดนแกล้งหนักหนา

มากจากทานตอนแรกนึกว่าทานเป็นตัวโกงซะอีก555มันแกล้งอะไรขนาดนั้นไม่สงสารกันบ้างเลยหรอ

พอมาอ่านในมุมของทานอึ่มตกลงมันก็น่าสงสารทั้งคู่นะทานที่ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว

ดูแลใครใส่ใจใครไม่เป็นไม่รู้จักวิธีแสดงออกส่วนอ้อนก็มีปัญหาทางร่างกายรวมถึงปัญหากับแม่

แต่พอได้มารักกันทานก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยน่ารักขึ้นเยอะเลยนะเจ้าชายน้อยกับหนูน้อยแก้มแดง



หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 15-03-2013 02:28:39
ิเรื่องนี้ถึงจะนานแล้ว และแม้จะอ่านมาหลายรอบแล้ว
แต่เมื่อกลับมา่อ่านอีกครั้ง ก็รู้สึกว่าหัวใจยังถูกบีบคั้นอยู่ดี
ความรักเป็นอะไรที่ซับซ้อนจริงๆ
หรือว่าเราต่างหากที่ทำให้มันซับซ้อน?...
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: GGG24 ที่ 02-04-2013 09:10:34
ซึ้งสุดยอด
เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆๆ
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 04-05-2013 06:03:45
อ่านรอบ 2 แล้วคับ ชอบมากๆ เป็นนิยายที่อ่านกี่ครั้งก็สนุก
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Note_tiie ที่ 05-05-2013 23:17:43
ขอบคุณคนแต่งมากกกกนะค่ะ ขอบคุณจริงๆ :mew1: :impress: :เศร้า2: :c4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Aomampapeln ที่ 06-05-2013 01:35:52
ช่ายๆอ่านกี่รอบก็ยังสนุกชอบๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: houkuto ที่ 12-05-2013 18:00:27
สนุกมากค่ะ   เรื่องนี้ค่อยๆรัก ค่อยๆลุ้น :katai5:
ทะเลาะกันไป ทะเลาะกันมา รักกันตอนไหนหว่า :hao5:
อร่อยกลมกล่อมค่ะ   ชอบน้องทาน แต่รักน้องอ้อน :o8:
ขอบคุณมากๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: keem ที่ 12-05-2013 18:17:14
ขอบคุณมากๆครับ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 13-05-2013 14:44:17
จำได้ว่าเคยอ่านเรื่องนี้มาแล้ว แต่เหมือนลืมๆไป
คลิกเข้ามากดFAVไว้นานแล้ว พอมาดูอีกทีก็พบว่านี่อ่านแล้วนี่นาา แต่จากไหนสักที่ที่ไม่ใช่เล้า
เลยอ่าอีกรอบ และก็เหมือนเดิม อ่านกี่รอบก็เสียน้ำตาทุกทีซิ เจ็บปวดกับคำพูดตัวละคร
ครั้งแรกจำได้ว่า่เสียน้ำตาให้ทานก่อน ครั้งนี้ก็เช่นกัน ทานน่าสงสารมากกกกกกกกก
แต่ก็ชอบอ้อน ทานมาก ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไร 
ไม่ว่าจะอ่านสักกี่รอบ เชื่อว่าความรู้สึกก็จะเหมือนกับครั้งแรกที่อ่านเสมอ
เป็นอะไรที่ประทับใจมาก
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 13-05-2013 20:17:43
เรื่องนี้ สุดยอดมากๆจริงๆค่ะ ขอขอบคุณคนแต่งและคนที่เอามาลงนะคะ แรกๆ น้ำตาไหลได้ไงไม่รู้ เป็นนิยายที่ซึ้งกินใจ แต่ยิ่งอ่าน บอกได้คำเดียวเลยว่าตกหลุมรักกับเรื่องนี้ค่ะ :L2: :mew1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 21-06-2013 22:22:20
เรื่องนี้สุดยอดมากเลย
เขียนดีมาก ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆๆ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 27-06-2013 15:13:51
หลงความหวานและอารมณ์เขิน
กระพือได้แบบ...ทะลุปรอทมาก
แต่ติดใจตอนเป็นเจ้าชายอสูร
มากกว่าหน่อยนึง โหดดี อ่านมันส์
ขอบคุณผู้โพสท์ โปรดปรานผู้เขียน
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 25-11-2013 13:18:29
ป็นอีกเรื่องที่อ่านจบ

แล้วรู้สึกประทับใจจัง

ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 07-12-2013 14:27:17
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: pipoo ที่ 03-02-2014 22:52:50
สนุกมากเลยยยยย ชอบมากก :katai2-1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Onosaka ที่ 04-02-2014 22:08:49
  นายทานแกล้งมากๆระวังอ้อนไม่คุยด้วยนะ!!!!
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: newyniniw ที่ 14-04-2014 18:23:05
โฮ้ยยยยยย จบล้าววว

แบบว่ามันใช่อ่ะ คือมันโคตรใช่ ชอบมากๆอ่ะ ชอบทาน ดูมีหลายบุคลิกดี น่าค้นหา อ้อน น่ารักสมชื่อ ชอบตอนเรียกตัวเองว่ากระผม 5555 ตอนทานป่วยก็น่ารักอ่ะ ดูมุ้งมิ้งงุ้งงิ้งดี ตอนจบดีมาก จบสวยไม่ติดไม่ค้าง ชอบๆ

สุดท้ายนี้ ขอบคุณคนเขียนและคนโพสมากๆค่ะ

 :กอด1: :-[
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 03-05-2014 00:32:34
 :mew2:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: kakax ที่ 17-08-2014 21:20:12
แปะจ้า
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: โซดาหวาน ที่ 31-08-2014 17:19:36
ชอบเรื่องนี้อีกแล้ววววว อ่านจบแล้วแบบประทับใจ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 12-09-2014 12:12:43
นิยายน่ารักดีค่ะ ขอบคุณค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายไผ่ ที่ 13-09-2014 10:07:48
  น่ารักได้อี๊กกกก

บทจะโหดก็โหดจนหมั่นส้จริงๆ

แต่บทจะหวานก็หวานสะจนอิจฉา

 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 01-11-2014 08:28:15
เรื่องนี้น่ารักมากครับ มีครบทุกอารมณ์ ชอบ ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Yuiko ที่ 21-04-2015 23:14:32
 :-[ :-[ :-[  อ่านไปยิ้มไปเลยอ่ะ   ตอนจบประทับใจมากเลยย ขอบคุณทั้งผู้แต่งและผู้โพสนะคับ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: นนท์ ที่ 23-04-2015 17:11:28
ขอชื่นชมผู้แต่งนิยายเรื่องนี้ว่า คุณมีจินตนาการที่ยอดเยี่ยมมากๆ ผมชื่นชอบนิยายเรื่องนี้สุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: plengpit ที่ 08-06-2015 00:44:20
สนุกมากเลยคะะะะะะะะะT^T
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 23-08-2015 15:44:30
 :กอด1: ชอบเรื่องนี้มาก น่ารักสุดๆ เห็นถึงการพัฒนาความรักของทั้งคู่เลย +1 +เป็ด จ้า
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Ningg.Destiny ที่ 27-11-2015 10:25:21
อ่านจบแล้ว ชอบมากกกกกก
ตอนทานแหย่จนหนูน้อยแก้มแดงเขินคือแดงเขินคือนี่เขินยิ่งกว่า
แต่เรารู้สึกว่ามันจบไวไปนะ ไม่ได้อ่านตอนพ่อแม่ทานรู้เรื่องอ้อน
หรือตอนที่อ้อนดีกับแม่แล้ว แต่ตอนจบก็พูดถึงแหละ
ก็เหมือนรวบรัดว่าทุกอย่างจบลงด้วยดี :)
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: bellzebub ที่ 10-07-2016 00:07:57
ชอบเรื่องนี้ สนุกมากกก :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 20-08-2016 17:24:09
ทานน่ารักมาก เรื่องก็น่ารักมากเช่นกัน

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 24-11-2016 01:48:40
กลับมาอ่านอีกรอบก็ทั้งสนุก น่ารัก ซึ้ง เหมือนเดิมเลยยย
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 01-11-2017 19:42:30
สนุกมากๆๆๆๆๆๆค่ะ ชื่นชอบผลงานของคุณเทน เขียนได้รื่นไหลทุกเรื่องเลยค่ะ ชอบบบบบบบบบบ ขอบคุณทั้งนักเขียนและผู้โพสท์นะคะที่นำนิยายดีๆมาให้ได้อ่านค่ะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 11-11-2017 22:15:25
 o13 ลุ้นจนเครียด ว่าเมื่อไหร่จะรักกัน คือเพิ่งเคยเข้าอ่านหลังจาก 10ปีก่อน  นี้ชั้นไปอยู่ไหนมาาาาาา ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 15-11-2017 09:11:52
มาอ่าน ตามแนะนำ อ่านช้าไปสิบปี แต่ชอบมากกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: IamLonelygirl ที่ 29-12-2017 18:49:40
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะะ
เป็นเนื้อเรื่องที่ไม่หวือหวา  แต่อ่านได้เรื่อยๆไม่เบื่อ  บอกความรู้สึกไม่ถูกอ่ะ  ดีใจมากๆ ที่จบแฮปปี้ สงสารน้องอ้อน กับเจ้าชาย
เราชอบตรงที่ปูเรื่องค่อยๆเป็นค่อยๆไป. จะบันทึกเรื่องนี้ไว้ในใจเลยค่ะ

ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: HeIsMine ที่ 14-03-2018 22:40:37
อ่านแล้วอินมากน้ำตาไหล ยิ้ม เขินไปด้วย
หัวข้อ: Re: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 07-08-2020 20:30:39
กลับมาอ่านกี่ครั้งก็สนุก