Eternal Sunshine by Sake พี่หมอทิ ♡ น้องข้าวหอม (ข่าวดี!! รวมเล่ม+ตอนพิเศษ P.56)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Eternal Sunshine by Sake พี่หมอทิ ♡ น้องข้าวหอม (ข่าวดี!! รวมเล่ม+ตอนพิเศษ P.56)  (อ่าน 713774 ครั้ง)

posshiza

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: หนักใจแทนทั้งสองคน
จะรอดกันไหมเนี่ย
เห็นใจทุกฝ่ายเลยอ่ะ
เอาใจช่วยให้ผ่านไปได้นะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
มาต่อเร็ว ๆ นะ
รอดูงานแต่งงานของทั้งสองคน

 :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ยกขันหมากมาขอเลย
พ่อกำนันสุดยอดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ใจเย็นอีกนิดก็ได้มั้งเนี่ย

ออฟไลน์ kboom

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 498
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
สงสารน้องข้าวหอมอ่ะ :o12:

โกรธลุงหมอทิแล้ว :m16:

ปล.เรื่องนี้แต่งได้ดีมากเลยครับ
ภาษาสวยมากเลย ดำเนินเรื่องก็ไม่ติดขัด
ตัวละครก็มีมิติของตัวมันเองด้วย คนแต่งเก่งมากเลยนะครับ :กอด1: :กอด1: :กอด1:


ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
แนวนี้อีป้าแก่ชอบค่ะ

อ่านเพลิดเพลินเจริญใจดีออก

ไม่เครียดมาก สะบายอกสะบายใจจะตาย

 :pig4:

jjuboy

  • บุคคลทั่วไป
 o13
สุดยอด....รอมานานแล้ววววว..เรื่องแนวนี้
ชอบมากกกกกก

+1 สำหรับความสนุกของเรื่องค่ะ

ออฟไลน์ kaporzung

  • miKapleXD
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • [Premier Сasual Dating  Living Women]
พ่อกำนันหวงข้าวหอมยิ่งกว่าพวกชะนีในเมืองอีกนะคะเนี่ย ถึงขั้นต้องแต่งกันเลย 555+
ประคบประง๋มแบบนี้ก้ปลูกฝังให้ลูกมีนิสัยชะนีมากขึ้นนั่นเอง
ชอบค่ะ เข้าตามตรอกออกตามประตูแบบนี้ ^ ^

NUKWUN

  • บุคคลทั่วไป
ทำไงอ่ะ...สงสารข้าวหอม

ทำไมพี่ทิพูดเเบบนั้น...ข้าวหอมเสียหายนะ  :m16:


bakanishi1

  • บุคคลทั่วไป
สงสารอย่างแรงเลยอะ

ไม่น่าเลยเนอะ

จะได้ยกขันหมากมาหรือเปล่าละเนี้ย

ayata

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อ...ถึงจะยังไม่ได้มีอะไรกัน  แต่จะให้ปล่อยผ่านไปเฉยๆมันก็ทำไม่ได้เนอะ

แล้วหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่  ลูกชายเป็นเกย์.. เฮ้อออ สังคมมนุษย์ก็แบบนี้แหละน๊าาา
ต้องอยู่ในกฏเกณฑ์บ้าง ทำในสิ่งที่คนทั่วไปเค้าคิดว่าถูกว่าควรบ้าง 
เพื่อให้อยู่ใน"สังคม"ได้อย่างราบรื่น (หรอ?)

จริงๆที่พ่อกำนันทำมันไม่ถูกแฮะ จะบอกว่าอยู่ๆกันไปเดี๋ยวก็รักกัน มัน..ไม่ได้มั้ง
ความประทับใจแรก ไม่ได้หมายความว่ามันจะพัฒนาต่อไปได้นี่นา
น่าจะให้โอกาสเด็กมันทำความรู้จัก ค้นหาความต้องการจริงๆของตัวเองเสียก่อน
ไม่รู้ว่าที่เราคิดแบบนี้มันผิดไหม แต่แค่เสียตัวมันก็เจ็บช้ำพอแล้ว นี่ยังดึงดันให้เด็กมันแต่งกัน
ถ้าอนาคตมันไม่รักกัน ต้องเลิกลากัน ไม่ต้องเพิ่มความเสียใจ เสียเวลาไปอีกหรอ

ติดตรงอิป้ายุพานี่แหละน๊าาา  ไม่กลับบ้านกลับช่องแว๊!! อยากให้เงียบก็ยากแย้ว!! งื้อออออ

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
สนุกดีค่ะ เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
อ่านตอนแรกกับตอนที่ 2 น่ารักกุ๊กกิ๊กดี ทั้งพี่ทั้งหมาพากันหวงน้องข้าวหอมกันใหญ่
แต่พอมาตอน 3 อ่านแล้วเครียด ระดับความกุ๊กกิ๊กลดลงจนติดลบ กรรมจริงๆ
แล้วป้ายุพามานั่งทำหน้าตกใจอยู่ในบ้าน เหอๆ งานนี้ดังระดับชาิติแน่ๆ :m29:
ตอนนี้ได้แต่สงสารน้องข้าวหอม ส่วนพี่หมอ..ก้อแบบว่า...นะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ รอตอนหน้าอยู่นะคะ ^ ^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
สงสารน้องข้าวหอม

สุดหัวใจ

ถ้าแต่งแทนได้ จะไปบัดดล

รอตอนต่อไปนะครับ

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
สงสารข้าวหอม
พี่ทิรับผิดชอบด่วน

yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
สงสารข้าวหอมจังเลยนิ หนีเลยข้าวหอมหนีไปไกลๆแล้วให้นายทิเบตออกตามหาเอาเอง เอ้อ แบบนี้ก็เข้าทีดีน่ะไรเตอร์ว่าม่ะ

diedfoxx

  • บุคคลทั่วไป
 :m15: สงสารน้องข้าวหอมจังครับ
เข้าใจพ่อกำนันมาก ๆๆๆ นี่แหละชาวบ้าน จะรักกันไม่รักกันก็ไม่ได้สนหรอก เพราะไอ้การที่มีอะไรกันแล้วเนี่ย ผู้ใหญ่(ยิ่งอยู่ตามชานเมือง) จะเข้าใจว่ายังไงมันก็ต้องรักกันมาบ้างแล้ว ซึ่งแตกต่างจากความคิดเห็นของเด็กรุ่นใหม่ ๆ ที่ ... กันโดยไม่จำเป็นต้องรู้จักชื่อกันได้
... น้องข้าวหอมเองก็เป็นถึงลูกพ่อกำนัน มีหน้ามีตา รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ถ้าไม่จับแต่งก็ยังไง ๆ อยู่นะครับ
ส่วนหมอทิ ... รู้สึกหมอไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย ตอนแรกตัวเองเป็นคนเริ่มแท้ ๆ แล้วมาโยนความผิดแบบนี้ ไม่แมนเอาเสียเลย ถึงในความเป็นจริงน้องข้าวหอมจะสมยอม แต่เราเป็นฝ่ายรุก ก็ต้องปกป้องและรับผิดชอบอยู่แล้ว ตอนนี้เสียใจนิดนึงกับพฤติกรรมคุณหมอ เห็นแก่ตัวไปนิดดดดดด ...
รออ่านตอนต่อไปนะครับ สนุกมากกกก ๆๆๆ :)

 :L2:

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
แบบนี้สิดีค่อยสนจริงหน่อย พ่อเจอแบบนี้ก็ต้องอาละวาดให้บ้านแตกกันไปข้าง

mecon

  • บุคคลทั่วไป
ปวดใจแทนพ่อกำนันก็นะลูกชายตัวเองทำงามหน้าแต่จะให้โทษใครได้ล่ะ
ในเมื่อเป็นไปแล้ว ลูกเราทั้งคนรักซะมากด้วยคงทั้งเสียใจเสียหน้านั่นแหละ
แต่แบบเหมือนใครเอาค้อนทุบหัว ฉีกหัวใจคนเป็นต่ออ่ะนะ เฮ้อ
ไอ่ที่ประกาศๆไปนั่นอ่ะก็เพื่อรักษาหน้าตัวเองแล้วก็ลึกๆคงสงสารลูกชายตัวเองนั่นแหละ
ไอ่โกรธอ่ะโกรธแน่ๆ แต่ก็ต้องทำอะไรให้ถูกทำนองคลองธรรมยิ่ง
บนเรือนตัวเองแบบนี้อีก ไ่อหนุ่มที่ไหนไม่รู้มามีไรกับลูกตัวจะเรียกว่าสมยอมกันทั้งสองฝ่ายก็ได้อ่ะนะ
ถ้าลูกตัวเองแหกปากโวยว่าเป็นฝายถูกกระทำ จะได้เอาเลือดหัวพ่อทิมาล้างเท้าซะให้สะใจ
แต่นี่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม่นิภาก็นะพูดแบบนั้นก็ยกลูกตัวเองลอยซะจะไม่ให้โมโหได้ยังไง

สงสารข้าวหอมเป็นที่สุด ยิ่งสิ่งที่ซ่อนอยู่ลึกๆความลับที่เก็บมาตลอดชั่วชีวิต
มาเผยเอาตอนนี้แบบจะเรียกว่าขาดสติ ขาดการยับยั้งช่างใจเพราะติดความหอมหวานสิ่งที่ไม่เคยสัมผัส
ยิ่งที่อยากลิ้มลอง ไออุ่นของการสัมผัสทำให้อุ่นไปถึงใจ แต่มันก็เป็นการกระทำที่ขาดสติเพียงชั่ววูบ
แต่ส่งผลร้ายแรงนัก เฮ้ออออออออ ร้องไห้แบบสะอื้นตัวโยนแบบนี้ใครเห็นใครจะไม่ปวดใจได้ยังไงกัน
พี่ข้าวสารกับพ่อกำนันจะเห็นถึงใจลูกใจน้อง ณ จุดนี้บ้างรึป่าว ไ่อขายขี้หน้า กับเ่สียหน้าเพราะกัวคำติฉินนินทา
จากขี้ปากคนอื่น กับการรักษาดูแลหัวใจของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกับน้องชายสุดที่รักอ่ะอย่างไหน
จะสำคัญกว่ากันห๊ะ

พี่ทิเบต ณ ตอนนี้ไม่เอ่ยพูดอะไร แล้วจะกลับมาขอโทษมาแก้ไขปัญหาตอนนี้มันจะสายไปหน่อยมั๊ย
คนมันเสียใจไปแล้วนะ ถึงน้องข้าวหอมจะเป็นคนเริ่มก่อนก็เหอะนะ แต่...มันคือความผิดคนละครึ่งนะเว้ย
น้ำใจลูกผู้ชายมีบ้างป่าววะไอ่พี่ทิเบต  :a14: แม่งโมโห

+1 คะ

hene2526

  • บุคคลทั่วไป
หมอทิจะเอาไงแน่เนี้ย...สงสารหอมจังเลย

Phelyra

  • บุคคลทั่วไป
คนอื่นจะเป็นยังไงก็ช่างหัวมันไปก่อน :m16:
ตอนนี้เค้าสงสาร ข้าวหอม คนเดียว :m15: :monkeysad:

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
เหอ เหอ หมอทิไม่แมนเลยอ่ะ  เซ็ง

ออฟไลน์ Ayame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
สงสารข้าวหอม  :monkeysad:  เกลียดหมอทิ ทำไมเป็นผู้ชายที่แย่แบบนี้ ดูไม่เป็นผู้นำเลย เสียแรงที่เป็นถึงผอ.โรงพยาบาล  :fire:

ชอบครอบครัวของข้าวหอม ดูอบอุ่นรักกันดี
กำนันสิงห์...ถึงจะโกรธลูกมักขนาดไหน แต่เพราะรักก็เลยพยายามหาทางช่วยลูก
พี่ข้าวสาร...ตอนแรกๆคงจะโมโห แต่เห็นน้องถูกตีก็ทนไม่ได้
พี่ข้าวสวย...คนนี้รักและเห็นใจน้องชายมาก

ชอบครอบครัวนี้จังเลย  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
สนุกจริงอะไรจริง ขอบอก!!!!

KM

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกก ลำเอียงที่ซู้ดดดดดด

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
เกิดอะไรขึ้นกับพี่หมอทิคะ!!!!!!!!!!
ดูมึนงงมากมาย...ไม่เคลียร์เลย...ไม่ใจด้วย...ได้ข่าวว่าแกเป็นพระเอกนะ!!!!!! :m16:
กำนันขา...ไม่สงสารลูกเหรอถ้าจะให้แต่งกันจริง ๆ ว่าที่ลูกเขยไม่ค่อยได้เรื่องแบบนี้เนี่ย :เฮ้อ:
ตอนหน้าขอความแมนหน่อยนะคะพี่หมอ...จะได้หักลบกลบหนี้กับตอนนี้
จขทก.คะ  :pig4:

ออฟไลน์ engrish

  • "LolliPoP"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 823
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
“ก็ให้แต่งกันซะ!”
พ่อกำนันใจกว้างกับเรื่องแบบนี้มาก
สุดยอดไปเลย
ว่าแต่ข้าวหอมเป็นเกย์เหรอ?
แล้วหมอทิจะทำยังไงต่อไป
ตัดสินใจให้ดีนะไม่งั้น :13223:
ไงก็แล้วแต่มาต่อโดยด่วน
ติดเรื่องนี้งอมแงมแล้วนะ
กด+ให้จ้า สนุกมากมาย

zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
ใยทะเลาะกันซะแล้ว
เมื่อกี้ยังดีดีกันอยู่เลย
แล้วพอแต่งงานกันไปจะเป็นยังไงหนอ
รอติดตามจ่ะ

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
เฮือก
หมอทิ ทำไมพูดเยี่ยงนี้เล่า
แต่ก็ช่างเถอะ
รักกันเร็วๆน่ะ

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
- Eternal Sunshine 4 -


แม้ฟ้ายังมืดสลัวหากแสงสีทองร่ำไรตามทิวไม้กับเสียงนกการ้องเซ็งแซ่ บ่งบอกให้รู้ว่าอีกไม่นานความสว่างไสวของวันใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ร่างทะมึนในแสงสลัวเดินลงจากเรือน มือถือขันเงินใส่ข้าวอุ่นร้อนในอ้อมแขนเดินเนิบนาบไปตามถนนแคบๆหน้าเรือนจนถึงถนนกว้างลาดยางมะตอย ซึ่งเป็นเส้นทางที่พระภิกษุออกบิณฑบาต

ไอ้แก้วนำโต๊ะเหล็กพับได้ออกมากางไว้คอยท่าริมถนน พร้อมถ้วยกับข้าวเป็นไข่เจียวง่ายๆ พอเห็นกำนันเดินเข้ามาใกล้ก็รีบเข้าไปช่วยถือขันเงิน

สองวันมานี้นับแต่เกิดเรื่อง กำนันสิงห์ก็ออกมาตักบาตรทุกเช้าไม่ได้ขาด และคนก่อเรื่องเองก็เอาแต่อุบอยู่แต่ในห้อง ข้าวปลาไม่ยอมกิน เสียงชาวบ้านก็เริ่มหนาหู ทว่าไม่สามารถสั่นคลอนความตั้งใจของคนผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายฤดูได้ แต่กับการที่ลูกชายคนก่อเรื่องไม่ยอมกินข้าวกินปลาซะอีกที่ทำให้กำนันสิงห์หัวใจแกร่งกังวล

ข้าไม่ได้ขอข้าวใครกิน! เวลาใครถามก็จะเจอคำตอบตอกหน้าแบบนี้กลับไปทุกรายจนหลายๆคนไม่กล้าถามอะไรอีก ได้แต่แอบไปนินทาลับหลัง

ลูกกำนันเป็นตุ๊ด ลูกกำนันเป็นเกย์ ทุเรศเลยก็ไอ้เหม็นมีผัวแล้ว

กำนันสิงห์รู้ดีกว่าการที่ลูกชายไม่ยอมกินยอมนอน และไม่ยอมพูดด้วยเป็นเพราะต้องการประท้วงให้ยกเลิกความคิดเรื่องแต่งงาน แต่เรื่องในครั้งนี้มันเกินจะหันหลังกลับแล้ว

เมื่อเกิดเรื่องขึ้นก็ทำให้สำนึกได้ว่า ตัวเองเป็นพ่อที่ใช้ไม่ได้ ทั้งที่ลึกลงไปแล้วก็รู้ว่าลูกชอบหรือไม่ชอบอะไร แต่ก็ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่ต้องการเข้าไปแตะต้องเรื่องผิดเพศทำนองนี้ให้เป็นขี้ปากชาวบ้าน มันยากจะทำใจ และตราบเท่าที่ไม่แสดงออกมาให้เห็น ทุกก็ยังคงเป็นปกติ แต่นั่นคือการกดดันทางอ้อมให้ลูกต้องฝืนตัวเอง แบกรับหน้าตาวงศ์ตระกูล ถึงได้เสียใจที่เลี้ยงลูกมาแล้วไม่สามารถกล่อมเกลี้ยงให้เหมือนใครเขา

ทั้งๆที่แม่มันสั่งเสียไว้นักหนา จึงทั้งรักทั้งโอ๋สารพัดโดยหวังว่าจะทดแทนความบกพร่องของตน ทว่าความจริงก็คือความจริงวันยันค่ำ ตัวตนจริงๆมันซ่อนเอาไว้ไม่ได้ตลอดชีวิต และวันนี้มันก็สำแดงเดชให้พ่อคนนี้แทบกระอักเลือด ด้วยการคว้าผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันมานอนด้วยให้ตำตาตำใจ

แล้วพ่อคนนี้จะยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกยังงั้นหรือ? จะยอมให้ลูกตัวเองไปคว้าไอ้บ้าที่ไหนอีก

จึงต้องจำยอมให้จบลงที่คนๆนี้

ก็ไม่รู้ว่าเป็นคราวเคราะห์ของหมอทิรึเปล่า แต่ครึ่งหนึ่งของเรื่องนี้หมอทิเป็นคนก่อ เพราะฉะนั้นก็ต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ด้วย!

หวังว่าเวลาผ่านไปลูกจะเห็นว่าสิ่งที่พ่อได้ตัดสินใจทำลงไปก็เพื่อลูกคำเดียว

กำนันสิงห์ยกมือขึ้นรับพรจากพระหลังใส่บาตรเสร็จ เงยมองท้องฟ้ากว้างแล้วสูดลมเย็นยามเช้าเข้าปอดเพื่อรับกับวันใหม่ที่กำลังจะเริ่ม พอกลับขึ้นเรือนกำนันก็เดินไปยังห้องพระ นั่งมองโกศของภรรยาที่เสียไปแล้วจึงหยิบธูปออกมาจุดหนึ่งดอก

อีกด้านหนึ่งของเรือน ข้าวหอมซึ่งตื่นแต่เช้ามืดเห็นบิดาออกไปตักบาตรหากไม่ได้ตามออกไปเช่นทุกครั้งเวลาตื่นมาเห็นพอดี เงาสลัวๆของพ่อที่เคยอกผายไหล่ผึ่งผ่านกาลเวลาจนตอนนี้หลังเริ่มงองุ้มเล็กน้อยให้สะท้อนใจ ถึงขนาดนี้แล้วเขายังทำให้พ่อต้องเสียใจอีก ทำไมตอนนั้นเขาถึงห้ามใจตัวเองไม่ได้นะ คิดแล้วก็เดินกลับไปนั่งชันเข่าบนเตียงเอากำปั้นชกเข้าที่หน้าแข้งตัวเองแรงๆ

เรื่องครั้งนี้นอกจากจะทำให้ผู้เป็นบิดาเสียใจแล้ว เขาเองก็เสียทั้งใจเสียทั้งหน้าจนแทบจะมุดดินอยู่ จากคำพูดของทิเบตที่บอกว่าเขาเป็นฝ่ายเริ่มเรื่องนี้ขึ้นก่อนจนทำให้เกิดผลที่ตามมาอย่างคาดไม่ถึง จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็นอีกฝ่ายทาบทับอยู่บนตัวแล้ว

ไอ้หมอบ้านั่นต้องพูดปัดความผิดให้เขาแน่ๆ ไอ้หมอบ้าเอ๊ย! ฉันอยากจะบีบคอแกให้ตายคามือนัก

ข้าวหอมคิดอย่างเคืองแค้นพลางลุกขึ้นเดินไปเดินมาในห้องนอนเหมือนเสือติดจั่น และเพราะเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องข้าวปลาแทบไม่ได้กิน นอนก็หลับๆตื่นๆทำให้ในหัวมึนตื้อหายใจไม่ค่อยออก

เสียงครางหงิงๆของไอ้โก๊ะดังขึ้นบริเวณข้างหน้าต่างเป็นระยะๆเหมือนเรียกให้ลงไปเล่นกับมันบ้าง หรือไม่ก็คงรู้สึกว่าเจ้าของมันกำลังเป็นทุกข์ถึงได้ส่งเสียงร้องถาม ใบหน้าซีดเซียวจึงโผล่หน้าไปนอกหน้าต่าง มองลงไปเห็นไอ้โก๊ะนั่งกระดิกหางย่ำสองเท้าหน้าไปมา แววตาสีทองเปล่งประกายเมื่อเห็นหน้าเจ้าของพลางเห่าสองสามที

“ไอ้โก๊ะ...ไม่ต้องมาคอยหรอก ไปเล่นกับโจ๋น้อยไป”

คนหมดกำลังใจเอ่ยบอกสุนัขตัวโปรดเบาๆ หากเจ้าสัตว์สี่เท้าเหมือนจะเข้าใจในแววตาคนบนเรือนถึงได้ครางหงิงๆ หากไม่ยอมลุกไปไหนจนโจ๋น้อยตัวขาววิ่งเข้ามาใกล้พลางเงยหน้าทะเล้นของมันขึ้นมองบ้าง พอเห็นเจ้าของก็ร้องแล้ววิ่งไปวิ่งมากระทั่งหมูอ้วนขาสั้นก็เข้ามาร่วมวงด้วย กลายเป็นสุนัขสามตัวกำลังเรียกร้องให้เจ้านายลงมาหา เป็นภาพที่ไอ้แก้วบังเอิญมาเห็นแล้วใจหายวาบ หากก็ก้มหน้าก้มตาหอบโต๊ะเหล็กพับได้ไปเก็บที่

“กูไม่น่าเลย”

ไอ้แก้วพึมพำแล้วเลยไปเตรียมข้าวให้เจ้าสัตว์สี่ขาต่อ เห็นข้าวที่คลุกให้สุนัขกินเหลือค้างตั้งแต่เมื่อเย็นก็ให้หดหู่ใจ พี่หอมก็น่าจะรู้ว่าไอ้โก๊ะมันไม่ค่อยกินข้าวถ้าพี่ไม่เอาให้มันเอง ขืนทิ้งพวกมันไว้แบบนี้มาเห็นอีกทีมันผอมเหลือแต่กระดูกก็เพราะพี่นั่นล่ะ

ร่างโปร่งบางมองสุนัขทั้งสามตัวน้ำตาคลอ อีกทั้งสายตาที่ไอ้โก๊ะจ้องมองขึ้นมา เขายิ่งรู้สึกผิด เอามันมาเลี้ยงแล้วจะทิ้งๆขว้างๆมันได้ยังไง แค่นี้เขาก็ทำให้พ่อให้พี่เสียใจพออยู่แล้ว ยังจะทำให้หมามันเป็นห่วงอีกรึไง

ข้าวหอมลูบหน้าลูบตาตัวเองแรงๆ ถ้าขืนอยู่แบบนี้ต่อไปคงต้องประสาทกินแน่

เท้ายาวก้าวไปยังหน้าประตูห้อง ชั่งใจอยู่นิดหนึ่งก่อนจะผลักประตูออกจนสายลมเย็นยามเช้าพัดผ่านใบหน้าให้คนใจคออื้ออึงรู้สึกปลอดโปร่ง

ไอ้ขันนั่งคอยอยู่หน้าประตูสะดุ้งเฮือกมองร่างโปร่งออกจากห้องอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ดวงตาคู่หม่นทอประกายเมื่อเห็นลูกพี่ก้าวขาออกมา แม้หูตาจะยังบวมฉึ่งจากการร้องไห้อย่างหนัก แต่ก็ดีใจที่เห็นอีกฝ่ายออกมาจากห้อง เพราะอย่างน้อยมันจะได้เป็นเพื่อนปรับทุกข์ หรือเป็นที่ระบายให้ลูกพี่มันก็ได้

“พี่หอม”

ไอ้ขันเรียกเสียงระคนตื่นเต้น หากลูกพี่หอมเพียงพยักหน้ารับหงอยๆ

“พี่จะไปไหน หิวข้าวหรือ?เดี๋ยวฉันตั้งสำรับให้”

“หึ...ยังไม่หิว ว่าจะลงไปเล่นกับไอ้โก๊ะมันหน่อย”

“ไปสิ ฉันไปด้วย สองสามวันมานี้พี่ไม่ลงไปหามัน มันแทบไม่ยอมกินข้าวเลย คอยแต่ชะเง้อมองบนเรือนท่าเดียว”

“เออ รู้แล้วจะลงไปหามันอยู่นี่ไง”

ไอ้ขันมองคนห่วงหมาแล้วนึกไปถึงคนเป็นบิดา แล้วพ่อกำนันล่ะพี่ไม่ห่วงด้วยเหรอ? พ่อกำนันเองก็กินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนกันนะพี่

ด้วยความหวังดีเจ้าตัวจึงรวบรวมกำลังใจถามอย่างกล้าๆกลัวๆอีกฝ่ายจะโกรธหันหลังกลับเข้าห้องไปอีก

“พี่...พี่หอมเช้านี้กินข้าวด้วยกันนะ”

ไอ้ขันใช้วิถีชีวิตประจำวันมาโน้มน้าวอีกฝ่าย เพราะเวลากินข้าวคือเวลาที่ทุกคนในบ้านอยู่พร้อมหน้ากัน

ข้าวหอมชะงักไปนิดก่อนจะพยักหน้ารับคำ

ถึงจะประท้วงแบบนี้ต่อไปก็ไม่ทำให้พ่อเปลี่ยนใจ สู้เข้าไปคุยกันอีกครั้งดีกว่า คนอย่างพ่อถึงจะยอมหักไม่ยอมงอแต่ถ้าลองเข้าไปคุยกับพ่อดีๆ มีหรือที่พ่อจะไม่ยอมใจอ่อน ในเมื่อพ่อรักเขานี่นา...

เพราะรู้ว่าบิดารักตัวเองมากจึงยังลำพองใจอยู่นิดๆ หากเจ้าตัวไม่ได้รู้เลยว่าคราวนี้ผู้เป็นบิดาเอาจริง!

กลิ่นธูปหอมโชยมาจากห้องพระทำให้ข้าวหอมเหลียวไปมองบานประตูซึ่งงับไว้เฉยๆมีแสงไฟสีส้มนวลรอดออกมาให้รู้ว่ามีคนอยู่ในห้องนั้น

“พ่ออยู่ห้องพระเหรอ?”

ร่างโปร่งมองไอ้ขันพยักหน้ารับหงึกๆแล้วจึงเดินไปหาแทนการลงไปเล่นกับสุนัข

ฝีเท้าเบาก้าวไปหยุดหน้าประตูห้องพระ ใจหนึ่งลังเลว่าควรจะพูดเสียตอนนี้เลยหรือจะรอคุยตอนทานข้าวเช้า หรือไม่ก็รอดูอารมณ์พ่อก่อน โธ่...ไอ้หอมแล้วจะประวิงเวลาไปอีกทำไมกันฟะ! คนหน้ายุ่งอยากจะตีหัวตัวเองแรงๆ เวลาทำผิดมันทำให้รู้สึกสู้หน้าไม่ได้แบบนี้นี่เอง

ร่างโปร่งจึงคิดจะกลับไปตั้งหลักอีกครั้ง แต่เสียงคล้ายคนเป็นหวัดดังแว่วมาให้ได้ยินจึงชะงักอยู่ในเงามืด

“แม่บัว...มีเรื่องทีไรฉันเป็นต้องมาคุยกับแม่บัวทุกที อย่าว่าๆเอาแต่เรื่องทุกข์ร้อนมาให้แม่บัวอยู่ไม่เป็นสุขเลยนะ เพราะฉันก็ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใครเหมือนกัน”

เสียงแผ่วหากจับใจความได้ถนัด ด้วยปกติกำนันสิงห์เป็นคนพูดเสียงดังฟังชัดและหนักแน่นสมกับเป็นผู้นำชาวบ้าน คนยืนหน้าประตูจึงได้แต่นิ่งงัน

พ่อ...มาคุยกับแม่เหรอ? ข้าวหอมนึกถึงโกศที่บรรจุเถ้ากระดูกของมารดาตั้งอยู่ภายใน ความรู้สึกจุกแน่นภายในช่องอกเกิดขึ้นมาทันที เพราะถ้าพ่อเข้ามาคุยกับแม่ในนี้ลำพังแสดงว่าพ่อต้องมีเรื่องทุกข์ใจหนักหนา ด้วยพ่อจะไม่ยอมเอาเรื่องไม่สบายใจมาคุยกับแม่ที่เสียไปนานแล้วแน่นอน

พ่ออยากให้แม่นอนตายตาหลับ ไม่มีห่วงอะไรต้องกังวล

เสียงสูดลมหายใจเหมือนมีอะไรมาขวางทางลมทำให้ข้าวหอมชะโงกหน้าแอบมองหลังบิดาลอดช่องแคบเล็กๆของประตูที่แง้มอยู่ เห็นมือใหญ่กร้านยกผ้าขาวม้าขึ้นซับบริเวณหางตาสองสามครั้งแล้ววางมือลงบนตักตัวเอง ใบหน้าเงยมองไปที่โกศ

“ฉันรู้ว่าฉันเลี้ยงไอ้หอมมาได้ไม่ดีเท่าที่แม่บัวหวังไว้ แต่ฉันก็พยายามนะแม่บัว ฉันพยายามให้ลูกมีไม่น้อยหน้าใคร ฉันพยายามรักลูกในส่วนของแม่บัวด้วย ไม่อยากให้ลูกมีปมด้อย เกิดมาไม่เท่าไรแม่ก็มาตาย จนใครๆก็ว่าฉันตามใจลูกจนเหลิง ฮึๆ ก็ลูกของฉันใครจะทำไม ฉันคิดของฉันแบบนี้ ไม่รู้ว่ามันผิดรึเปล่านะแม่บัว”

ฟังบิดาปรับทุกข์กับเถ้ากระดูกมารดาแล้วทำให้ข้าวหอมลืมเรื่องที่จะเข้ามาคุย เสียงแหบพร่าของบิดาฟังดูก็รู้ว่ากำลังสะกดกลั้นน้ำตาแห่งความเสียใจไว้ ร่างโปร่งบางถึงกับค่อยๆทรุดลงไปกองกับพื้น

“อาจจะผิดก็ได้นะแม่บัวที่ฉันเอาแต่ตามใจ แต่ไม่ได้สั่งสอนหรือเป็นแบบอย่างที่ดีจนทำให้ลูกเป็นลูกผู้ชายทั้งแท่งไม่ได้ และก็ฉันอีกนี่ล่ะ ฉันเองนี่ล่ะที่ทำให้ลูกมันต้องคอยปั้นหน้าหลอกตัวเอง แล้วฉันก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นมองข้ามความรู้สึกของลูกไป ด้วยลึกๆแล้วฉันยังหวังว่าลูกมันจะกลับตัวกลับใจมาสนใจเด็กสาวๆแถวหมู่บ้านได้อีก นี่ถ้าฉันยอมรับสิ่งที่ลูกเป็นเสียแต่แรก ลูกมันคงไม่ต้องมานั่งเสียใจเอาแต่โทษตัวเองอยู่ในห้อง ข้าวปลาก็ไม่ยอมออกมากิน แม่บัว...ถ้าเป็นแม่บัวคงจะมีวิธีคุยกับลูกได้ดีกว่าฉันสินะ ก็แม่บัวน่ะเก่งออกจะตายไป ฮึๆ”

“พ่อ...” เสียงครางออกจากริมฝีปากบางพยายามกลั้นแรงสะอื้น ทำไมพ่อต้องโทษตัวเองด้วย ในเมื่อคนก่อเรื่องคือเขาเอง

“หรือเพราะหน้าตายศถาบรรดาศักดิ์มันบังตาบังใจทำให้ฉันไม่กล้ายอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น ทุกอย่างมันถึงได้ย้อนกลับมาทิ่มแทงทำให้เสียใจกันทุกคน”

น้ำตาอุ่นร้อนไหลทะลักอาบแก้มขาวซีดเป็นสาย ไอ้ขันเห็นลูกพี่นั่งร้องไห้หน้าห้องพระจึงเดินเข้าไปหาด้วยความตกใจแกมสงสัย หากขยับไปได้ไม่กี่ก้าวลูกพี่ก็เงยหน้าขึ้นพลางปาดน้ำตาลวกๆแล้วพยักพเยิดหน้าให้ไปทางอื่นก่อน

“เพราะฉะนั้นคราวนี้ล่ะแม่บัว ลูกจะไม่ต้องหลบต้องซ่อน ฉันนี่ล่ะจะคอยอยู่ข้างลูก ถ้าจะมีอะไรต้องอายลูกก็จะไม่ต้องอายอยู่คนเดียว ฉันจะแบกหน้าเหี่ยวๆหนังเหนียวๆไปร่วมรับด้วย เข้าท่าไหมล่ะแม่บัว”

พ่อ...พ่อรู้มาตลอดในสิ่งที่เขาพยายามปิดบัง ข้าวหอมซุกหน้าลงกับหัวเข่าตัวเอง พ่อไม่ได้ผิดอะไรเลย พ่อเลี้ยงเขามาอย่างดี มันผิดที่หัวใจของเขาเองต่างหาก

ผิดที่มันไม่รักดี ไม่เป็นอย่างที่พ่อหวัง

“ในเมื่อเรื่องของลูกเรามันเกินเลยไปกว่าที่ฉันจะยับยั้งได้ ก็มีแต่ต้องให้พวกเขาร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน ให้เขารักกันอยู่กันอย่างเปิดเผย ลูกก็ไม่ต้องขมขื่นใจคอยปิดบังใครๆอีก แล้วยังไม่ต้องพะวงว่าต่อไปลูกเราจะมีใครมาให้ฉันต้องปวดหัว เพราะแค่คนนี้ฉันก็หัวใจจะวายแล้ว แม่บัวว่าดีมั้ย หรือว่าฉันคิดผิดอีก” กำนันสิงห์แค่นยิ้มกับตัวเอง

“ถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจในตัวพ่อทิ แต่ถ้าแม่บัวได้รู้จัก แม่บัวคงชอบ ก็ลูกแม่นิภาไง หน้าตาดีแล้วยังเป็นหมอด้วยนะ ดูสุขุมรอบคอบดี แต่ทำไมไม่รู้ถึงได้ออกมาอีรูปนี้ได้ แต่ช่างมันเถอะ คิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆเพราะฉันไม่ใช่เขา มันคงเป็นโชคดีในความโชคร้ายที่เป็นพ่อหนุ่มคนนี้ ฉันถึงพอวางใจได้เปาะหนึ่งล่ะนะ แต่ดูท่าลูกมันจะไม่ยอมล่ะแม่บัว ”

เสียงเครือจัดเล็ดรอดให้คนฟังยิ่งใจหาย

“ลูกไม่เห็นด้วยกับฉัน แต่มันเกินเลยกันไปแบบนั้นฉันก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน ฉันอยากให้ลูกเข้าใจ”

กลิ่นควันธูปจางหายไปแล้วแต่คนในห้องพระยังคงนั่งระบายความคับอกคับใจต่อไป ด้วยเป็นที่เดียวที่เจ้าตัวสามารถพูดได้แม้ไม่มีเสียงตอบกลับมา ใจที่ทุกข์ร้อนจึงค่อยๆเย็นลงและพร้อมลุกขึ้นไปเผชิญกับปัญหาที่รออยู่

“มาถึงวันนี้สิ่งที่ฉันทำก็เพราะฉันรักทั้งนั้น ฉันอยากให้ลูกเข้าใจจริงๆนะ เพราะลูกทั้งสามคนก็มีคนนี้ล่ะที่ฉันห่วงที่สุด อยากให้เขามีชีวิตสุขสบายอยู่มองดูโลกใบนี้ไปนานๆ หอมอายุยังน้อย ยังมีอะไรที่เขาต้องเรียนรู้อีกเยอะ จนกว่าจะถึงวันที่เขายืนบนขาตัวเองได้ ฉันคนนี้ต้องสร้างต้องเตรียมอะไรไว้ให้เขาอีกมากนัก เวลาไปหาแม่บัวจะได้ไม่มีห่วงติดไป”

มือใหญ่กำผ้าขาวม้าขึ้นซับหางตาอีกครั้ง

“เพราะงั้นตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ ฉันจะขอดูแลลูกคนนี้จนกว่าจะวางใจ แล้วฉันถึงจะยอมไปหาแม่บัวนะ”

พ่อ!...เสียงร้องปานใจจะขาดดังขึ้นภายในอกคนเป็นลูก และก่อนที่ผู้เป็นบิดาจะออกมาเห็น ข้าวหอมค่อยๆคลานออกห่างแล้วลุกเดินตัวปลิวไปยังห้องนอน พอปิดประตูได้ก็โถมตัวลงบนที่นอนนิ่มแล้วซุกหน้ากับหมอนปล่อยโฮดังๆ

“ไอ้หอม แกมันอกตัญญู!”


###################


รุ่งอรุณของกรุงเทพมหานครยังคงปกคลุมไปด้วยม่านหมอก แสงสีส้มทองเริ่มทาทาบจับขอบฟ้าโปร่งสีหม่น ชีวิตของคนเมืองกรุงกำลังจะเริ่มขึ้นเช่นทุกวันภายใต้เงื่อนไขของเวลาและปากท้อง มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเร่งรีบ ใบหน้าของผู้คนไร้ซึ่งรอยยิ้มเพราะใจนั้นอาจไม่มีความสุขในสิ่งที่ทำอยู่ก็เป็นได้

บ้านศุภอมรก็เช่นกัน ทุกเช้าคนในบ้านจะรับประทานอาหารเช้าง่ายๆ ร่วมกัน โดยมีมารดาเป็นคนคอยดูแลจัดหาและกำกับแม่ครัวด้วยตัวเองทุกเช้า ก่อนคอยส่งสามีและลูกๆไปทำงาน เป็นเช่นนี้ทุกวันกระทั่งสามวันก่อน แม่บ้านแม่เรือนของสกุลศุภอมรกลับหมกตัวอยู่แต่ในห้องนอน เพียงออกมากำกับดูแลเรื่องในบ้านเป็นบางครั้งบางคราวแล้วก็กลับไปนั่งเหม่อในห้อง บางทีอาจเห็นมือขาวเริ่มเหี่ยวย่นยกขึ้นปาดน้ำตาเป็นระยะๆตามมุมอับของบ้าน บรรยากาศที่เคยอบอุ่นมีแต่เสียงหัวเราะหยอกเย้าระหว่างพี่น้องกลับกลายเป็นความเงียบงันน่าอึดอัดเข้ามาแทนที่

ไม่มีใครกล้าเอ่ยถามอะไรหลังจากได้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างไปดูที่ดินเพื่อขยายสาขาของโรงพยาบาล แม้แต่คนก่อเหตุก็ปิดปากเงียบสร้างเกราะแก้วบางใสปิดกั้นตัวเองออกจากทุกคน ไม่หลงเหลือความอ่อนโยนในดวงตาซึ่งเก็บซ่อนความขุ่นมัวระคนเสียใจไว้ไม่มิด

ทิเบตลงมานั่งรับประทานอาหารเช้าก่อนไปทำงานเช่นทุกวัน แม้เกิดเรื่องเขาก็ยังไปทำงานตามปกติ ระหว่างรอให้แม่ครัวตักข้าวต้ม ชายหนุ่มซึ่งนั่งทำหน้าเรียบเฉยหากในอกนั้นไม่ต่างกับทะเลคลั่ง สายตาคู่หม่นมองออกไปนอกกำแพงกระจกหนาจากพื้นจรดเพดานยังสวนหย่อมเขียวขจีข้างบ้าน

บ้านหลังใหญ่โตซึ่งเคยอบอุ่นน่าอยู่ หากตอนนี้เขาทำให้มันกลายเป็นบ้านที่น่าอึดอัดจนหายใจยังลำบากได้ภายในชั่วข้ามคืน

ภาพมารดานั่งร้องไห้กลั้นเสียงสะอื้นไว้เต็มกลืนคงวนเวียนในจิตใจ หลังเกิดเรื่องมารดาไม่ว่ากล่าวกับเขาซักคำตลอดเวลาการเดินทางกลับกรุงเทพ กลับพูดแต่ว่า ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไรนะ

แม่คงช็อกจนพูดไม่ออก...

ส่วนตัวเขาเองถ้าทำได้ก็อยากจะดำลึกลงไปตรวจจิตใจของตัวเองว่ามีอะไรเข้าไปสิงสถิตเกาะติด ถึงดลใจให้เขาไม่คิดจะยับยั้งตัวเอง คิดถึงตรงนี้ทิเบตก็ได้แต่ถอนหายใจ ตัวเขาเองน่ะไม่ค่อยเท่าไร แต่แม่สิ จะต้องเสียใจเพราะสิ่งที่เขาก่อไปถึงเมื่อไร ทั้งยังต้องผิดใจกับผู้มีพระคุณ เรื่องครั้งนี้มันหนักหนาสาหัสนัก

ภาพที่เห็นวันก่อนย้อนกลับเข้ามาในสมองให้คนเป็นลูกจุกแน่นในอก

“แม่...อยากร้องก็ร้องเสียให้พอเถอะ แต่อย่าให้เรื่องนี้ทำให้แม่ต้องโทษตัวเองเลยนะ ปล่อยให้เรื่องซาลงกว่านี้ค่อยคุยกับลูกอีกที พ่อว่าเจ้าทิคงรู้ตัวอยู่ว่าทำอะไรลงไปและควรจะจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ยังไง ในเมื่อลูกมันก่อเรื่องขึ้นมาเองก็คงต้องรอถามมันก่อน แล้วเราค่อยคิดกันอีกทีนะแม่ ตอนนี้พ่ออยากให้แม่สงบจิตสงบใจเอาไว้ก่อน เชื่อพ่อเถอะ แม่ไม่ยอมกินยอมนอนแบบนี้ก็ช่วยให้เรื่องมันคลี่คลายไม่ได้ แต่ตัวแม่นี่ล่ะจะไม่สบาย พอตัวไม่สบายแล้วใจมันจะสบายได้ยังไง”

ทิเบตมองเห็นบิดานั่งปลอบมารดาอยู่ที่ระเบียงชั้นสองเวลาพลบค่ำ

“พ่อ...แม่พยายามเข้าใจว่าเพราะลูกเราเมาลูกเขาก็เมา ทำให้คนเราหลงลืมแม้กระทั่งความยั้งคิดจนเกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้น แม่เข้าใจที่พ่อกำนันเรียกร้องให้เรารับผิดชอบ ถ้าหากลูกพ่อกำนันเป็นผู้หญิงล่ะก็ แม่จะไม่มานั่งคิดมากแบบนี้เลย อย่างมากก็คงต่อว่าลูกตัวเองแล้วเห็นดีเห็นงามไปกับพ่อกำนันให้สองคนนี้แต่งงานกันซะ”

เสียงนิภาสั่นเครือจนผู้เป็นสามีต้องดึงตัวเข้าไปกอดปลอบประโลม

“แต่นี่น้องหอมเขาเป็นผู้ชาย จะให้แต่งกันเข้าไปได้ยังไง แล้วยังมีเค้าว่าน้องหอมเป็นเกย์แบบนี้ มันมิยุ่งอิรุงตุงนังไปใหญ่หรือพ่อ แม่ทำใจยอมรับสิ่งที่กำนันสิงห์เรียกร้องไม่ได้หรอก แล้วลูกเราก็คงรับผิดชอบเรื่องนี้ไม่ไหวด้วย ถึงกำนันจะเคยมีบุญคุณล้นพ้นตัวแม่จนชาตินี้ใช้ยังไงก็ไม่หมด แม่ยอมเนรคุณแต่คงไม่มีแม่คนไหนยอมส่งลูกไปยืนหน้าปากเหวเสี่ยงกับอนาคตที่มองไม่เห็นปลายทางแบบนี้แน่นอน”

คุณวิวัฒน์มองภรรยาก้มหน้าซับน้ำตาแล้วถอนหายใจ “ถึงลูกกำนันจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง กระเทย เกย์ ลูกเราก็ทำลงไปแล้ว กำนันเขามีสิทธิ์จะเรียกร้อง แม่ก็อย่าไปเคืองเขาเลย ผิดที่ลูกเรานี่ล่ะ”

“แม่ไม่ได้เคือง แต่แม่เสียใจ มันเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะคิดจะจัดการอะไรก็ดูติดขัดไปหมด ฮือๆ” นิภาสะอื้นจนตัวโยน “ทั้งที่แม่ไม่อยากผิดใจกับกำนัน ทั้งที่อยากทดแทนบุญคุณที่คอยช่วยเหลือจนแม่มีวันนี้ แต่แม่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย”

ประมุขของบ้านลูบหลังภรรยาเบาๆ ซึ่งเสียใจจนกินนอนไม่ได้ ด้วยฝ่ายหนึ่งเป็นลูกอีกฝ่ายก็เป็นผู้มีพระคุณ และเพราะเลือกอยู่ข้างเดียวกับลูกจึงรู้สึกเหมือนเนรคุณกับอีกฝ่าย คงต้องใช้เวลาในการปรับความรู้สึกซักพัก วิวัฒน์วินิฉัยอาการภรรยายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่หากนอนไม่หลับติดต่อกันหลายวันอาจต้องใช้ยาเข้าช่วยเล็กน้อยเพื่อสุขภาพ

คนที่วิวัฒน์กังวลที่สุดเห็นจะเป็นลูกชายซะมากกว่า สาเหตุเพราะเมาจริงๆน่ะหรือ เขายังแปลกใจและคิดไม่ตก ด้วยอุปนิสัยของลูกคนนี้เป็นคนสุขุมรอบครอบ มีคึกคะนองบ้างตามวัย อีกทั้งที่บ้านไม่ได้เลี้ยงลูกให้เป็นเจ้าหญิงเจ้าชาย คนเป็นพ่อเป็นแม่จึงไม่เคยต้องมานั่งกังวลกับอาการเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ และที่ผ่านมาก็เห็นคบแต่ผู้หญิงจนถึงขนาดหมั้นหมายกับคนที่คบหาดูใจมาหลายปี ถ้าไม่เกิดปัญหาขึ้นเสียก่อนก็คงแต่งงานมีลูกไปแล้ว แล้วทำไม?

หรือลูกกำนันเขาหน้าตากระเดียดไปทางผู้หญิงมากจนลูกเราหลงคว้ามาทำเมีย? คุณวิวัฒน์ขมวดคิ้วสงสัยกับตัวเอง ด้วยไม่เคยเห็นหน้าเห็นตาอีกฝ่ายมาก่อน แต่คำถามนี้คิดไปก็คงหาคำตอบไม่ได้นอกจากเจ้าตัว และหากเจ้าตัวไม่รู้ว่าทำไปได้ยังไง ก็คงต้องใช้วิชาแพทย์ที่ร่ำเรียนมาค้นลึกลงไปในใจตัวเองแล้วว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไป

เพราะตั้งแต่รู้เรื่องผู้เป็นพ่อแค่ตกใจกับพฤติกรรมของบุตรชาย การต่อว่าก็มีเพียงเรื่องเดียวคือการไม่ยับยั้งชั่งใจ ไม่ให้เกียรติคนอื่น ส่วนเรื่องอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชายหรือลูกจะชอบผู้ชายไม่ได้เป็นสิ่งที่คุณวิวัฒน์กังวลมากนัก เขารู้ว่าความชอบในเพศเดียวกันเป็นเพียงรสนิยมเท่านั้น ไม่ใช่ความผิดปกติ และสังคมเดี๋ยวนี้เปิดกว้างยอมรับความต่างของผู้อื่นมากขึ้น จะติดก็ตรงที่ทำงานเป็นแพทย์ตรวจคนไข้นี่ล่ะ เพราะภาพลักษณ์และความไว้วางใจของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การรักษาราบรื่น

การเป็นแพทย์มานานจึงได้เห็นได้สัมผัสกับผู้คนมากหน้าหลายตา และส่วนใหญ่จะเป็นผู้คนซึ่งกำลังเจ็บป่วยทั้งทางกายและทางจิต ถ้าไม่ป่วยก็คงไม่มาโรงพยาบาลหรอกจริงมั้ย ความทุกข์ร้อน เจ็บป่วย ความตาย เขาเห็นมันจนเข้าใจในสัจจะธรรมของการมีชีวิตอยู่

เพราะความสุขนั้นอยู่ไม่ไกลถ้าใจคิดไขว้คว้า และความทุกข์ก็อยู่ไม่ไกลถ้าใจเราปิดกั้นไม่ยอมรับ แล้วเราจะเลือกให้ความความสุขหรือความทุกข์เป็นเจ้าของชีวิตกันล่ะ

และเพราะตั้งใจจะอยู่อย่างมีความสุข ความเข้าใจตัวเองและคนอื่นจึงเป็นสิ่งสำคัญ

การมองโลกในแง่ดีไว้เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองและคนรอบข้าง ฉะนั้นความสนใจในเพศเดียวกันหากคนในครอบครัวไม่เข้าใจ ก็มีแต่จะทำให้เห็นทุกอย่างคือปัญหา ตัวอย่างก็มีให้เห็นกันดารดาษ ครอบครัวแตกแยกโทษกันไปโทษกันมา จนในที่สุดเรื่องอาจจบลงที่การฆ่าตัวตาย

หากเรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดกับครอบครัวเขา ด้วยสิ่งสำคัญที่สุดที่ยังยึดเหนี่ยวทุกคนได้คือความมั่นใจ

มั่นใจว่าลูกของเขาเป็นคนดี! ต่อให้อยู่ในสถานะไหนลูกของเขาก็คือคนดี

ประกายตาของคนผ่านโลกมามากทอแสงเรืองรองพลางปลอบภรรยาด้วยความเข้าใจเบาๆ ก่อนจะคิดอย่างคนอารมณ์ดี

ตรวจคนอื่นมาก็มาก คราวนี้ถึงตาต้องตรวจตัวเองบ้างแล้วล่ะ ไอ้หมอ! ไอ้ยุ่ง!ทำแม่แกเสียทำตาเป็นปี๊บแล้ว


ทิเบตย้อนกลับมามองมือตัวเองซึ่งกำลังคนข้าวต้มร้อนในถ้วยอย่างไร้จุดหมาย หลายวันมานี้เขาทานได้น้อยไม่ต่างอะไรกับแมวดม มีอาการหยุดคิดหมกมุ่นกับตัวเองเป็นพักๆหากเมื่อก้าวเท้าออกจากบ้านเข้าสู่สถานภาพการเป็นแพทย์รักษาผู้ป่วย เขาจะดำรงสติและจิตใจให้จดจ่ออยู่กับหน้าที่การงานด้วยมีชีวิตของผู้คนฝากไว้กับสองมือและสมองนี้

“พี่...พี่”

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
โรมส่งเสียงเรียกพี่ชายที่จมอยู่กับความคิดตัวเอง เห็นแล้วก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเหมือนกัน ว่าควรจะเห็นใจหรือว่าหัวเราะให้กลิ้งตกเก้าอี้เสียตรงนี้ดี

ก็ทำไมพี่ชายที่แสนดีขนาดสาวเล็กสาวใหญ่เลี้ยวมองกันคอแทบหักถึงได้เมาจนไปคว้าผู้ชายมานอนกอดได้นะ คิดแล้วก็ประหลาดจริงๆ แถมเล่นแรงคว้าลูกกำนันหนวดเฟิ้มนักเลงลูกทุ่งอีกต่างหาก งานนี้แค่ถูกหักคอให้แต่งงานไม่อาบเลือดกลับมาก็บุญโขแล้ว คิดไปก็ได้แต่นึกเห็นใจ ด้วยตัวพี่ชายเขาไม่ห่วงมากหรอก ห่วงแต่มารดาที่เอาแต่ซึมเศร้าจะเป็นลมวันละสามเวลา เลยต้องพาลูกๆและภรรยามาอยู่ด้วยซักพัก คอยเป็นเพื่อนคุยคลายความกังวลลงบ้างก็ยังดี หากหลานรักทั้งจีนและเพิร์สกลับไม่ได้ทำให้อารมณ์ผู้เป็นย่าดีขึ้นมาเลย

แม่คงรู้สึกผิดต่อผู้มีพระคุณจนทำใจรับได้ยาก หากจะต้องตัดญาติขาดมิตรกัน ตอนนี้ก็ได้แต่คอยให้พี่ชายเอ่ยอะไรออกมาซักคำ

โรมเห็นทิเบตยังไม่รู้สึกตัวจึงเอื้อมมือไปสะกิด

“พี่”

“อะ...อะไร”

ทิเบตเลิกคิ้วมองอีกฝ่าย มือหยุดคนข้าวต้มซึ่งแทบไม่เหลือความร้อน

“วันนี้มีประชุมผู้บริหารประจำเดือน ให้ฉันไปแทนมั้ยล่ะ เช้านี้ว่าง”

โรมมองพี่ชายจ้องมองใบหน้าตัวเองหากในแววตากลับสะท้อนสิ่งที่ไม่ใช่เขา และก็นิ่งไปอีก

ทิเบตกำลังจะเอ่ยขอบใจน้องชายซึ่งหวังดี หากแต่ประชุมวันนี้ค่อนข้างจำเพาะเจาะจงจึงให้เข้าประชุมแทนไม่ได้

แทนไม่ได้...

สำนึกในสิ่งที่ก่อไว้วิ่งขึ้นจุกอกทันที

เขาไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้คาราคาซังตลอดไปได้ และถ้าคิดจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปพร้อมๆกับเวลาก็คงเงียบไปได้จริงๆ แต่ต้องแลกด้วยหัวใจอันบอบช้ำของแม่และความนับถือในตัวเองสูญสิ้น

ใครเป็นคนก่อก็ควรจะยืดอกรับผิดชอบ ไม่ใช่เอาแต่เงียบปล่อยให้ใครต่อใครวิตกกังวลทุกข์ร้อน และเรื่องนี้ไม่มีใครมาทำแทนได้

ต้องเขาเท่านั้น!

“พี่...”

โรมส่งเสียงเรียกพี่เบาๆราวกับงงในปฏิกิริยาของพี่ชาย

“อือ...”

แววตาหม่นเรืองแสงมองน้องชายเต็มตา พร้อมกับสูดลมหายใจลึกๆ “ขอบใจมากแต่ประชุมเช้านี้คงให้นายไปแทนไม่ได้” ทิเบตคลี่ยิ้มแห้งๆในรอบสามสี่วัน

“อ้าว! ยังไม่อิ่มกันอีกเหรอ เด็กๆไปโรงเรียนกันหมดแล้วนี่”

ประมุขของบ้านเดินลงมาจากชั้นสองเห็นลูกชายยังไม่ไปทำงาน

“เดี๋ยวอิ่มก็จะไปแล้วพ่อ ว่าแต่หนูนาล่ะพ่อ วันนี้ไม่มีเรียนเหรอ? ยังไม่เห็นออกจากห้องเลย”

โรมถามถึงเวียนนาน้องสาวคนสุดท้องซึ่งยังเรียนปริญญาโทอยู่

“ไม่รู้สิ แต่ยังไม่ลุกแบบนี้คงไม่มีเรียนเช้าละมั้ง”

วิวัฒน์นั่งลงหัวโต๊ะพลางหันไปบอกแม่บ้านให้ตักข้าวต้ม แล้วสั่งให้เอาขึ้นไปเสิร์ฟนิภาที่ระเบียงชั้นสอง

“แม่ไม่ลงมาทานด้วยกันเหรอพ่อ”

“อืม ต้องปล่อยไปซักพักน่ะ อย่าไปฝืนแม่เขา” วิวัฒน์คนข้าวต้มแล้วจึงตักทาน ก่อนจะหันไปถามลูกชายคนโต “มีประชุมเช้าแล้วยังไม่รีบไปหรือเราน่ะ”

ทิเบตพยักหน้ารับแล้วสูดลมหายใจก่อนเอ่ยในสิ่งที่เพิ่งตัดสินใจให้บิดาตะลึง

“พ่อ...ผมจะถอนตัวจากทีมแพทย์มารับตำแหน่งผู้บริหารโรงพยาบาลอย่างเดียวนะครับ คนไข้ที่เคยอยู่ในความดูแลของผมจะให้แพทย์คนอื่นรับช่วงต่อ”

คำพูดของบุตรชายทำเอาบิดานิ่งงัน ในดวงตามีคำถามตามมามากมาย แม้แต่โรมเองก็เกือบจะสำลักข้าวต้มต้องรีบยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม คุณวิวัฒน์ก้มหน้าวางช้อนลงข้างถ้วยเงียบๆหากในสมองกำลังคิดถึงเหตุผลของบุตรชาย ชั่วอึดใจจึงเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าขาวคมคายไม่หลงเหลือเค้าความเยาว์วัยอีกต่อไป

“อะไรทำตัดสินใจแบบนี้”

คนเป็นพ่อถามเสียงเรียบ ด้วยลูกคนนี้เป็นคนเลือกจะเรียนแพทย์เอง เขาไม่เคยเข้าไปบังคับกะเกณฑ์ และลูกชายคนนี้ก็ร่ำเรียนด้วยความสุข พอใจจะค้นคว้าหาความรู้ใส่ตัวเรื่อยๆ ด้วยรางวัลทางจิตใจอันยิ่งใหญ่คือรอยยิ้มของคนไข้ที่อาการดีวันดีคืนนั่นเอง ทำให้บุตรชายทำงานด้วยความต้องการของตัวเองมาตลอด แล้ววันหนึ่งจะมาทิ้งไปซะเฉยๆ เหตุผลนั้นต้องสำคัญพอ

“ผมจะแต่งงาน!”

“อุ๊บ!”

เสียงโรมสำลักน้ำอีกรอบ ในขณะที่คุณวิวัฒน์ขมวดคิ้วมองแววตาบุตรชายไม่มีอาการลังเลในสิ่งที่เอ่ยแม้แต่น้อย

“แต่งกับลูกชายกำนันสิงห์น่ะหรือ?”

“ครับ”

“เพราะคิดจะรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปงั้นหรือ?”

“ครับ”

“ทิ...”

วิวัฒน์สูดลมหายใจเพื่อรักษาสติให้มั่นคง “ถึงทิไม่พูดพ่อก็ตั้งใจจะพาลูกไปขอขมากำนันสิงห์อยู่แล้ว แม้เราไม่สามารถทำตามที่กำนันเรียกร้องได้แต่เราสามารถแสดงความจริงใจให้ทางนั้นเห็นได้ การฝืนตัวเองเกินไปไม่เป็นผลดีกับใครหรอก และการตัดสินใจตรงนี้คือการใช้ชีวิตที่ลูกสู้อุตส่าห์สร้างมาเข้าแลกเลยนะ”

“จะให้พ่อกับแม่ไปขอขมาด้วยทั้งๆที่ผมเป็นคนก่อเรื่อง อย่าทำเลยครับ อีกอย่างถ้าต้องเห็นแม่เป็นแบบนี้ไปตลอดผมขอเลือกรับผิดชอบตรงนี้ดีกว่า”

“ทิ สำหรับแม่มันคงเป็นบาดแผลในใจอาจต้องใช้เวลาเยียวยา แต่ถ้าแม่รู้ว่าลูกต้องหวานอมขมกลืนแม่ของลูกคงยิ่งทุกข์ใจ”

“พ่อ...ถ้าคิดถึงผลที่ตามมา ผมว่าผมทำตรงนี้จะสบายใจกว่าการเห็นแม่จมอยู่ในความทุกข์แล้วก็...ความรู้สึกผิดชอบที่จะกัดกินใจผมไปทั้งชีวิต ผมถึงได้ตัดสินใจแบบนี้แม้จะลำบากใจอยู่บ้างก็เถอะครับ แต่ผมยินดีจะทำ”

“แม้ต้องแต่งงานกับผู้ชายนะ?” คนเป็นพ่อย้อนถาม

“ครับ ผมว่าคงไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเห็นลูกตัวเองทุกข์ทรมาน หากวันหนึ่งการคลุมถุงชนในวันนี้ไม่สามารถทำให้ชีวิตคู่ของลูกยืนยาวและมีความสุข กำนันสิงห์เองก็ต้องยอมวางมือ”

“แล้วกว่าวันที่กำนันสิงห์ยอมวางมือ ลูกต้องอยู่ตรงนั้นท่ามกลางสายตาผู้คน และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ลูกจะรับไหวหรือทิ ยังมีอาชีพของลูกอีกนะ”

“ผมถึงได้ขอรับตำแหน่งบริหารอย่างเดียวเพื่อลดแรงเสียดทานจากคนรอบตัวและผู้ป่วย ส่วนการถอนตัวจากทีมแพทย์ สำหรับผมแล้วไม่จำเป็นต้องลงไปรักษาคนไข้เอง จะอยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลังก็มีส่วนช่วยในการรักษาเหมือนกัน” ทิเบตมองบิดาก่อนถอนหายใจระคนหนักใจ “แต่สิ่งที่ผมกังวลที่สุดก็คือพ่อกับแม่ พ่อกับแม่จะอายเขามั้ยครับถ้ามีลูกไปแต่งงานกับผู้ชายด้วยกัน”

เจอคำถามนี้คุณวิวัฒน์ก็อึ้งเงียบไปพักใหญ่เหมือนกัน ในความเป็นจริงเกย์หรือกระเทยก็มีอยู่ทั่วไปที่อยู่กินกับคนรักเพศเดียวกัน หากการแต่งงานกันออกนอกหน้าแบบนี้มีน้อยรายมากๆที่จะเกิดขึ้น

อืม...ถ้าไม่มีใครไปตีไข่ใส่สี ให้เป็นเรื่องเฉพาะภายในครอบครัวก็คงมีเพียงอาการอิหลักอิเหลื่อ ด้วยไม่เคยแต่งผู้ชายเข้าบ้าน แต่หากเป็นข่าวคึกโครมก็คงหน้าชาไปเหมือนกัน นอกเสียจาก...

“ฉันจะบอกว่าแกเป็นเกย์ จะได้อายน้อยหน่อย หึๆ” อยู่ๆผู้เป็นพ่อก็ขำขึ้นมาซะเฉยๆ “ทุกคนจะได้ไปรุมที่แกแทนไง”

เพราะถ้ายอมรับว่าเป็นเกย์เสีย ทุกอย่างน่าจะง่ายต่อการอธิบายกับใครต่อใคร ใครก่อก็รับไปเองเถอะนะ!

“พ่อ...”

ทิเบตยิ้มละเหี่ยใจกับความตลกไม่เลือกเวลาของบิดา

“เอาจริงดิพ่อ!”

โรมซึ่งนั่งเงียบมานานอ้าปากเหวอกับคำตอบของบิดา

“ถ้าตัดสินใจแล้วแบบนี้ คงรู้ผลของมันนะ” วิวัฒน์ย้ำความมั่นใจของบุตรชาย

“ครับ ขอบคุณครับพ่อ”

ผู้เป็นบิดาถอนใจยาว “แล้วขึ้นไปบอกแม่ของแกเองล่ะ”

ด้วยรู้นิสัยของลูกชายคนนี้ดีจึงไม่คิดคัดค้านการตัดสินใจของบุตรชายอีก ในเมื่อให้ข้อคิดเตือนสติแล้วยังตั้งใจจะทำ ก็ต้องปล่อยไป ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยต้องปากเปียกปากแฉะสอนสั่ง นิสัยชอบอ่านหนังสือค้นคว้าเรื่องเล็กเรื่องน้อยคนเดียว และถ้ามีเรื่องไม่เข้าใจก็จะเข้ามาถาม แต่ถ้าคำตอบไม่ตรงตามที่ตัวเองคาดไว้ก็จะพยายามไปค้นคว้าหรือทดลองแบบดันทุรังด้นไปเรื่อย เรียกว่าบางครั้งก็มีความมั่นใจในตัวเองจนเกินพอดี และหากหวังดีเข้าไปบอกให้ทำอย่างนู้นอย่างนี้ เป็นได้งอนปิดปากเงียบซะอีกแน่ะ

ไอ้ลูกคนนี้มันดื้อเงียบ! เพราะฉะนั้นถ้าเขาเลือกแล้วก็ต้องยอมรับ อีกทั้งที่ผ่านมาก็เป็นลูกที่ดีให้พ่อแม่ชื่นใจมาตลอด และต่อจากนี้ไปด้วย เขาจึงไม่คาดหวังความสมบูรณ์แบบหรือเพียบพร้อมของลูกหรือใครๆ ขอเพียงวันนี้เข้าใจและยอมรับ เรื่องที่ว่ายากจะดูง่ายในทันที

“ครับพ่อ เย็นๆผมจะกลับมาคุยกับแม่เอง”

ทิเบตมองบิดาด้วยซาบซึ้งในความเข้าใจและความรักที่มีให้ แม้เขาจะทำให้ผู้บังเกิดเกล้าเดือดร้อนก็ตาม

“ทิ...ยังไงลูกก็ยังเป็นลูกของพ่อกับแม่ จะเป็นอะไรลูกก็คือลูกนะ”

“ขอบคุณครับพ่อ” ทิเบตน้ำตารื่นเรื่อพนมมือไหว้บิดาแล้วเลื่อนถ้วยข้าวต้มออกจากตัวทั้งที่ยังไม่ได้ตักกินซักคำ “ผมไปก่อนนะครับ”

ร่างสูงลุกขึ้นคว้าเสื้อสูทเตรียมตัวออกไปทำงาน

“เฮ้ยพี่! ไปด้วยสิ”

โรมรีบลุกขึ้นตาม ทั้งที่ใช้รถคนละคันแต่วันนี้เขาอยากนั่งรถไปกับพี่ชายด้วย ก็มีเรื่องให้คุยเป็นพะเรอเกวียน

ทิเบตขมวดคิ้วก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วเดินนำออกไป บิดาซึ่งมองส่งบุตรชายได้แต่ส่ายหน้า

“บุญทำกรรมเก่าส่งมาให้แบบนี้เสียก็ไม่รู้”


และเมื่อเวลาเย็นมาถึงนิภาก็เดินหน้าดำหน้าแดงมาหาผู้เป็นสามีหลังจากบุตรชายตัวต้นเหตุเข้าไปคุยด้วยแล้ว

“พ่อ แม่ไม่ได้อยากให้ลูกทำเพราะแม่นะ”

นิภาเสียงสั่นทรุดนั่งข้างสามีบนโซฟาตัวยาว

“แล้วแม่อยากให้ลูกเขาทำยังไง”

วิวัฒน์ทอดเสียงอ่อนมองคู่ชีวิตด้วยความรักความห่วงใย

“โธ่พ่อ...เรื่องนี้แม้จะผิดแต่มันก็เหลือบ่ากว่าแรง แม่ไม่อยากให้ลูกฝืนตัวเองเพื่อแม่หรือเพื่ออะไรที่มัน...ที่มันเกินตัวจนต้องมาทรมานกันทั้งสองฝ่ายนะพ่อ”

“ก็ลูกมันบอกแล้วว่ามันสบายใจที่จะทำแบบนี้ดีกว่าปล่อยให้เหตุการณ์นี้กลายเป็นเสี้ยนหนามคอยทิ่มตำทุกครั้งเมื่อนึกถึง”

“แต่ลูกต้องแต่งงานกับผู้ชายด้วยกัน ลูกจะเป็นยังไง ใครจะคิดยังไงล่ะพ่อ”

“หึ มันบอกว่าถ้าพ่อแม่ไม่อาย คนอื่นมันไม่สนใจหรอก แม่อายหรือเปล่าล่ะ” ผู้เป็นสามีย้อนถาม

“อะ!...แต่...” นิภาอ้ำอึ้งกับสายตาของสามีซึ่งรอคำตอบ “ก็...ก็ถ้าลูกเราเป็นเกย์เป็นตุ๊ดจริงแม่ก็รับได้เพราะยังไงก็ลูกเรา แต่นี่ลูกเราไม่ได้เป็นนี่! แม่จะรับได้ยังไงกัน”

“ก็คิดซะว่ามันเป็นก็แล้วกัน จะได้คิดง่ายๆไม่ยุ่งยาก”

“พ่อ!”

“แม่...แม้จุดจบของเรื่องมันอาจไม่สวย แต่มันก็ยังมีคำตอบมีจุดหมายที่จะไป พ่อว่าดีกว่าเคว้งคว้างหาจุดจบไม่ได้นะ”

“พ่อพูดเหมือนทำใจได้ง่ายๆ”

นิภาสวนพลางค่อนขอดสามีที่ทำเหมือนไม่ห่วงลูก

“นี่แม่ ลองลูกมันเลือกของมันเองแบบนี้แล้ว ก็มีแต่ต้องปล่อยให้เขาได้ทำ คิดในแง่ดีก็เป็นผลดีทั้งทางโน้นและทางลูกเราด้วยนะ เพราะไอ้ความรู้สึกผิดชอบที่เกาะอยู่ในใจจนเหลือแต่ร่างไร้วิญญาณจะได้จบลงเสียที ต่อไปเขาจะได้ยืดอกรับสิ่งที่ผ่านเข้ามาด้วยความเข้มแข็ง ไม่ใช่ไปทางไหนก็คอยแต่หลบด้วยมีชนักติดหลัง ทำอะไรพูดอะไรก็ไม่ได้เต็มปากเต็มคำ มันทรมานนะแม่สำหรับลูกผู้ชายคนหนึ่ง แม้จะต้องอายก็ดีกว่าอยู่ยังไร้ศักดิ์ศรีนะแม่”

นิภามองสามีผ่านม่านน้ำอย่างชั่งใจ เธอรู้ว่าถ้าเรื่องมาแบบนี้ก็จะเป็นที่พอใจของกำนันสิงห์และตัวเธอเองก็จะหลุดจากคำว่าเนรคุณ หากสามีไม่ยกเอาเรื่องนี้มาพูดซักนิด เพราะการยกมาอ้างก็เท่ากับว่าเธอเป็นแรงผลัดดันให้ลูกชายตัดสินใจแบบนี้ แต่ลึกๆลงไปแล้วมันเป็นส่วนหนึ่งอย่างปฏิเสธไม่ได้ แล้วจะทำยังไงดีล่ะ

เห็นหน้าภรรยาหมกมุ่นคบคิดจนหน้ายุ่งจึงโอบไหล่มนเบาๆให้กำลังใจ “ลูกเรามันก็ใจนักเลงพอตัวอยู่นา ไม่ต้องห่วงมันมากหรอก”

“มันอดไม่ได้หรอก นั่นลูกนะพ่อ” นิภาซบไหล่สามีอย่างระทดระท้อใจ

“อย่าคิดถึงแต่ลูกเราสิ ลูกเขาๆก็รักเหมือนกันนะแม่”

“แต่น้องหอมเป็นเกย์ คงไม่ลำบากใจที่แต่งงานกับผู้ชายด้วยกันนี่พ่อ”

“นั่นยิ่งแล้วไปใหญ่ ในเมื่อลูกเราเข้าไปหาเขาถึงในห้อง เขาไม่ยิ่งเสียหน้ากว่าเราหรือ เผลอๆอาจจะนึกต่อว่าลูกเราที่ทำให้เรื่องของเขาแดงขึ้นมา ก็เห็นว่าปิดใครๆว่าเป็นเกย์มาตลอดเลยนี่ น่าสงสารเด็กคนนั้นมากอยู่นะ”

“...”

“แม่...ชีวิตของเด็กคนนั่นอาจจะดูเหมือนสุขสบายดี แต่ลึกๆลงไปในใจเขาคงทรมานกับความรู้สึกตัวเองอยู่ไม่น้อย ด้วยเป็นความหวังของพ่อของแม่จึงไม่กล้าจะบอก แม่ลองคิดดูก็แล้วกันว่าที่ผ่านมาต้องเก็บกดตัวเองไว้ขนาดไหน ที่เวลาชอบแล้วต้องบอกตัวเองว่าไม่ชอบ”

นิภาเงยหน้ามองสามี “ลูกเราผิดที่ไปเปิดกล่องใบนั้นจนเตลิดเปิดเปิงไปด้วยกันล่ะสิ”

“มั้ง...”

“แล้วมันจะจบลงตรงไหนล่ะพ่อ”

“เวลาจะค่อยๆบอกเราเอง และสติจะเปิดทางเราเสมอ ทำใจให้เป็นกลางเข้าไว้ แล้วเตรียมปั้นหน้าฉีกยิ้มเวลาใครถามดีกว่า” วิวัฒน์อมยิ้ม

“พ่อนี่! พูดเล่นได้ทุกเรื่อง”

นิภาตัดพ้อเมื่อฟังน้ำเสียงสามีดูไม่กังวลแถมยังออกจะขำๆซะนี่

“ก็ถ้าคิดให้มันตลกมันก็ตลก อยู่ดีๆลูกเราก็ไปปล้ำผู้ชายซะงั้น นี่ถ้าเพื่อนพ่อถาม พ่อก็จะตอบไปทั้งแบบนี้ละ เอาให้ฮากันท้องแข็งไปเลย”

“พ่อ! เรื่องนี้แม่ไม่คิดจะไปเล่าให้ใครต่อใครฟังหรอกนะ”

“มันปิดกันได้ซะที่ไหนปากคน ทางที่ดีก็ตอบแบบที่พ่อบอกนี่ไง จะได้เลิกไปขุดคุ้ย”

“ไม่ได้นะพ่อ ยังไงก็ต้องให้เรื่องนี้เงียบที่สุด แม่ไม่เชิญใครไปงานนี้แน่นอน”

“ถ้าแม่คิดว่าทำได้ก็เอาเถอะ”

“ได้สิ” นิภาขึงตามองสามี

เสียงคู่สามีภรรยายังคงปรึกษากันไปงอนง้อกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่ดูจะได้คำตอบแล้วก็คือ การแต่งงานจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ
 

######################


ข้าวหอมมองตัวเองในกระจกหลังอาบน้ำอาบท่าเสร็จ ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้ยังคงปูดบวมให้เห็นเด่นชัด แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาจะมาร้องไห้อีกแล้ว เขาต้องตัดสินใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ปล่อยให้บิดามานั่งทรมานตัวเองกับการกระทำไม่ยั้งคิดของเขา ร่างโปร่งบางสูดลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วเปิดประตูออกไปหาบิดาซึ่งนั่งทานข้าวเช้าเพียงลำพัง

“พ่อ ถ้าทางโน้นตกลงฉันก็ตกลง!”

คำตอบของลูกชายแบบไม่มีปีมีขลุ่ยทำเอาคนเป็นพ่ออึ้งไปพักใหญ่ ก่อนจะคลี่ยิ้มซ่อนความรู้สึกเสียใจวูบหนึ่งไว้ภายใน

“ต้องตกลงสิ” กำนันสิงห์ตอบอย่างมั่นใจ “มันจะได้เข้าตามตอกออกตามประตูเสียทีนะลูก มานี่...มาหาพ่อม่ะ”

ข้าวหอมเดินไปหาบิดาซึ่งอ้าแขนรับแล้วโอบกอดแรงๆ

“พ่อรักลูกนะ”

“หอมก็รักพ่อ”

แขนเรียวสวมกอดตอบหากนัยน์ตามองเหม่อไปยังทิศทางที่เมืองหลวงตั้งอยู่

ในเมื่อฉันขัดพ่อไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะสงบเสงี่ยมเรียบร้อยยอมรับการแต่งงานหรอกนะไอ้หมอบ้า ลองตอบตกลงแต่งงานดูสิ แล้วจะได้เห็นนรกบนดินที่ไอ้หอมคนนี้จะประเคนให้ถึงที่เชียว!


- TBC -


คะเเนนหมอทิติดลบอย่างเเรงตอนที่เเล้ว
หมอรับผิดชอบเเล้วนะ ห้าๆๆๆ
น้องหอมเเรงดีไม่มีตกจริงๆ
ขอบคุณทุกคอมเมนท์จ้า

jjuboy

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Ayame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
เป็นกำลังใจให้น้องหอม   :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด