Eternal Sunshine by Sake พี่หมอทิ ♡ น้องข้าวหอม (ข่าวดี!! รวมเล่ม+ตอนพิเศษ P.56)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Eternal Sunshine by Sake พี่หมอทิ ♡ น้องข้าวหอม (ข่าวดี!! รวมเล่ม+ตอนพิเศษ P.56)  (อ่าน 716214 ครั้ง)

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
- Eternal Sunshine 11 -


ทิเบตเดินทอดน่องมาถึงหลังเรือน สายตามองลอดใต้ถุน เห็นโจ๋น้อยยืนโบกหางไปมาอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นเรือน แล้ววิ่งไปยังรถกระบะสีดำวาวจอดใกล้โคนมะม่วง ดมฟุดฟิดไปทั่วรถ อะไรบางอย่างสะดุดใจร่างสูง และเมื่อกำลังจะก้าวขึ้นบันได
เสียงคุยกันออกรสออกชาติของกำนันกับคนที่เพิ่งทิ้งมาทำให้ทิเบตชะงัก

“งั้นเทพรอฉันเดี๋ยวนะ ขอไปอาบน้ำก่อน” ข้าวหอมบอกเพื่อน

เมื่อกลับมาจากกระต๊อบท้ายสวนก็พบสุเทพมารอแต่เช้า เพื่อจะชวนไปช่วยกันจับปลานิลบ้านยายจันทร์ซึ่งเลี้ยงไว้ขายเป็นสิบบ่อ

เทพ? เจ้าหนุ่มหน้าซีดเมื่อวันงานแต่งนั่นน่ะเหรอ ทิเบตหวนนึกถึงชายหนุ่มผิวเข้มหากหน้าซีดเผือกขัดกับพิธีมงคลเลยเป็นที่สะดุดตา และสะดุดใจจนเกิดปมเล็กๆขึ้น กระทั่งวันนี้ปมเล็กๆนั้นค่อยๆพันกันยุ่งเหยิงจนเป็นก้อนใหญ่คอยถ่วงอยู่ในอก ชายหนุ่มเงยหน้ามองทางขึ้นบันไดแล้วหันกลับไปมองรถกระบะจอดนิ่งสนิท เจ้าโจ๋น้อยยังคงดมฟุดฟิดไปรอบๆรถ และเหมือนจะเจอที่เหมาะเจาะ เจ้าแสบน้อยจึงยกขาหลังฉี่รดล้อหน้าอย่างไม่เกรงกลัวเจ้าของรถจะมาเห็น ทิเบตซึ่งควรจะห้ามปรามเจ้าสัตว์สี่เท้า กลับยกมุมปากขึ้นอย่างครื้นเครงแล้วก้าวเท้าขึ้นบันไดคล้ายมองไม่เห็น

ทำดีมากโจ๋น้อย เดี๋ยวจะตบรางวัลด้วยหมูย่างที่แกชอบเลย

คนตัวสูงนุ่งผ้าขาวม้าเดินโทงๆขึ้นเรือน ไม่สะทกสะท้านกับสายตางุนงงของคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว กำนันสิงห์เพิ่งเคยเห็นลูกเขยนุ่งผ้าขาวม้ากับเสื้อยืดเก่าๆถึงกับพูดไม่ออก หันหน้ากลับไปมองประตูห้องที่ลูกตัวเองเพิ่งจะเข้าไป

ไปก่อเรื่องอะไรอีกล่ะไอ้ตัวดี ผัวถึงได้กลับมาสภาพไม่ต่างกับคนหาปลา ก็ว่าแปลกใจอยู่เชียวที่เห็นกลับมาคนเดียว

“เป็นอะไรรึเปล่าพ่อทิ”

ด้วยกลัวลูกตัวเองจะแอบไปทำเรื่องพิเรนทร์ให้อีกฝ่ายเลือดตกยางออก จึงอดเป็นห่วงไม่ได้ แม้จะเป็นคนส่งไปเองก็เถอะ

“เปล่าครับ พอดีเสื้อผ้าตกน้ำเลยต้องมาแบบนี้ล่ะครับ” ตอบแค่นี้กำนันสิงห์ก็รู้แล้วว่าเป็นฝีมือใคร!

“งั้นไปอาบน้ำอาบท่าแล้วออกมากินข้าวเถอะ เอ้อ! นี่เทพ เพื่อนเจ้าหอมเขาน่ะ เดี๋ยวจะพากันไปจับปลาบ่อยายจันทร์ พ่อทิจะไปกับเขามั้ยล่ะ” กำนันที่เพิ่งนึกได้เอ่ยแนะนำพร้อมชี้ชวน

ทิเบตมองชายหนุ่มอีกคนมีสีหน้าเจื่อนฝืนยิ้มให้จึงยิ้มตอบ “ไว้คราวหน้าดีกว่าครับ วันนี้ต้องขอตัว” ตอบตามมารยาทแล้วชายหนุ่มจึงหันหลังเดินกลับห้อง หากสายตาคู่อ่อนโยนตวัดเก็บทุกรายละเอียดของแขกไว้ในใจมิดชิด

ร่างสูงโปร่งเข้าไปในห้องเห็นข้าวหอมอาบน้ำปะแป้งหน้านวล คิ้วได้รูปขมวดมุ่นไม่รู้ตัวกับการแต่งตัวของคนตรงหน้า กางเกงยีนส์เก่าซีด ตรงหัวเข่าขาดเป็นรูใหญ่ ไล่ไปถึงหน้าขาเห็นเนื้ออ่อนร่ำไร แถมชายก็ขาดรุ่งริ่ง เสื้อยืดพอดีตัวสีเขียวขี้ม้าเก่าเก็บจนเนื้อผ้าบางแนบเน้นรูปร่างเจ้าตัวให้ดูโปร่งบาง แล้วไปลุยน้ำจับปลาจะเหลืออะไรล่ะ

“จะไปไหนเหรอ”

ทิเบตถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว หากแต่ต้องการจะหาเรื่องพูดกับอีกฝ่าย

“ไปธุระ”

“ธุระอะไร”

“ยุ่ง”

คำตอบแบบมะนาวไม่มีน้ำทำให้เส้นเลือดกระตุก ผู้เป็นสามีจึงหรี่ตาลง “จะไปจับปลาทั้งกางเกงขาดๆแบบนั้นเดี๋ยวตัวอะไรมันก็มุดเข้าไปได้หรอก หาตัวที่มันมิดชิดน่าจะดีกว่านะ”

คนตัวเล็กตวัดตามองคนแสร้งไม่รู้อย่างขุ่นเคือง

“รู้แล้วจะถามทำไม! แล้วลุงแถวนี้เขานุ่งผ้าขาวม้าจับด้วยซ้ำ ไม่มีใครเขาโวยวายซักทีเวลาถูกปลาตอด หรือต่อให้ถูกปลามุดเข้ากางเกงก็เหอะ เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาจับ มันมาหาถึงที่!”

ข้าวหอมเชิดหน้าตอบแกมดูถูกในที คว้าย่ามขึ้นสะพายไหล่พร้อมออกเดินทาง ท่ามกลางการถลึงตาของอีกฝ่าย

“เป็นอะไรขึ้นมาอย่าโวยก็แล้วกัน”

ทิเบตนึกหงุดหงิด มองอีกฝ่ายเดินตึงๆออกจากห้องแล้วจึงทิ้งตัวนั่งบนเตียง เสียงถอนหายใจดังเมื่อไม่มีใครอยู่ แล้วเท้าแขนกับต้นขาก้มมองพื้นกระดานครุ่นคิด ก่อนตัดใจเดินไปอาบน้ำ


รถกระบะแล่นออกจากเรือนไทยหลังใหญ่ไปได้ชั่วครู่ ข้าวหอมก็รู้สึกอึดอัดใจไปกับความเงียบของเพื่อนสนิทที่หายหน้าไปนาน โผล่มาคราวนี้ทำเอาเขารู้สึกแปลกใจในท่าทีเงียบขรึมไม่แจ่มใสอย่างเคย และตัวเขาเองก็ยังไม่มีโอกาสไปหาเพื่อพูดคุยกันซักครั้ง ปล่อยให้ค้างคา จนวันนี้ไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหนดี ทำให้รู้สึกเคืองอีกฝ่ายอยู่นิดๆที่เอาแต่เงียบ

‘อยากจะว่าอะไรก็ว่ามาสิฟะ เงียบแบบนี้ฉันก็ไปไม่เป็นเหมือนกันนะโว้ย!’

คนถูกค่อนขอดทอดตัวพิงเก้าอี้ บังคับพวงมาลัยด้วยมือเดียว สายตามองทางข้างหน้าอย่างระวัง แต่ในใจกลับหนักอึ้งด้วยทั้งรู้สึกดีใจและเสียใจในคราวเดียวกัน เมื่อเห็นใบหน้าขาวๆพร้อมกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ทำให้เขาได้ตระหนักถึงความจริง

เขาช้าไป!

สุเทพเหลือบมองร่างเล็กข้างตัวนั่งเท้าแขนกับประตูรถ สายตาเอาแต่มองข้างทางอยู่ตลอดเวลาเหมือนมีเรื่องกังวลใจ ชายหนุ่มจึงพะวงว่าเป็นเพราะตนเองหรือเปล่า ที่ชวนมาทั้งๆที่เขามีเจ้าของแล้ว แม้ปากจะบอกว่าไม่เต็มใจ แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จนตัวเขาเองกลายเป็นคนนอกในที่สุด

“เป็นอะไร ไม่อยากไปจับปลากับเทพแล้วเหรอ”

ในที่สุดคนเงียบมาตลอดก็อดรนทนไม่ไหว เอ่ยปากขึ้นก่อน ด้วยกว่าจะหาเรื่องมาเจอไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตของกำนันสิงห์ก็ลำบากพอแรงแล้ว แล้วถ้าปล่อยให้สูญเปล่า เขาจะดึงดันมาทำไม

ข้าวหอมหันมองเพื่อนแล้วส่ายหน้า “เปล่า อยากไปสิ ถามแบบนี้หมายความว่าไง”

คนเริ่มมีอารมณ์ขุ่นย้อนกลับด้วยรู้สึกถึงความนัยที่แฝงมาในคำถาม

“ก็เห็นทำหน้าซึมๆ เลยคิดว่าทำให้ลำบากใจหรือเปล่าที่ชวนออกมา”

“เพราะเทพต่างหากล่ะ!” ข้าวหอมสวนขึ้นทันควัน ไม่รอให้เพื่อนพูดไปไกลกว่านี้

“ฉันรู้ว่าเทพเจตนาจะพูดว่า เพราะฉันมีผัวแล้วเลยต้องเกรงใจผัว ไม่อยากมากับเทพใช่มั้ยล่ะ! เทพจะพูดยังงี้ใช่มั้ยล่ะ!”

คนขี้โมโหขึ้นเสียงใส่เพื่อนหนุ่ม แววตาเต้นระริก

“แล้วจริงรึเปล่าล่ะ”

ข้าวหอมมองคนถามตาค้าง ไม่คิดว่าจะถูกย้อนถามกันซึ่งๆหน้า ความน้อยใจผสมความอึดอัดคับข้องใจเออล้นขึ้นจุกคอหอย

“จอดรถ”

สุเทพสะดุ้งชะลอความเร็ว เบี่ยงรถเข้าไหล่ทาง หากไม่ได้จอด ก่อนหันมองหน้าอีกฝ่าย เห็นคนหน้าตาดื้อดึงขบเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น แววตาไหววูบ ทำให้ใจที่หงุดหงิดร้อนรนเย็นลง สูดลมหายใจเรียกสติกลับคืน

“เทพขอโทษ” แต่ท่าทางฮึดฮัดของอีกฝ่ายไม่ยอมคลายลง มือใหญ่จึงเข้ายึดจับต้นแขนและเขย่าเบาๆ

“เทพขอโทษ”

ข้าวหอมมองตาคนขอโทษแล้วอยากร้องไห้ เขาอยากมีคนที่พูดได้ด้วยทุกเรื่อง อยากมีคนที่พร้อมจะเข้าใจ แล้วถ้าแม้กระทั่งคนตรงหน้ายังไม่เข้าใจ เขาก็ไม่ต้องไปหาใครแล้ว

“ฉันไม่ได้อยู่สุขสบายใจอย่างที่เทพคิดนะ ฉันสับสน ทำตัวไม่ถูก แล้วก็ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ไปทางไหนก็มีแต่คนซุบซิบนินทา กลับบ้านก็เจอพ่อบังคับ อยู่บ้านก็เจอเจ้านั่น ถึงฉันจะเป็นเกย์แต่ฉันก็อยากอยู่กับคนที่ฉันรัก แล้วเขาก็รักฉันเหมือนกันนะ! ไม่ใช่ใครก็ได้ แต่เรื่องพวกนี้ยังทำให้ฉันกังวลน้อยกว่าเรื่องของเทพ”

ข้าวหอมระบาย ตัดพ้ออีกฝ่าย “ฉันไม่ได้มีเพื่อนมากนักหรอกนะ เพื่อนที่สนิทอยู่ด้วยแล้วสบายใจก็มีแค่เทพ” ร่างโปร่งยกหลังมือปาดน้ำมูกลวกๆ

“แล้วถ้าเทพยังไม่เข้าใจ เลิกคบไป ฉันก็ไม่เหลือใครแล้ว การอยู่คนเดียวในสังคมมันน่ากลัวนะเทพ”

คนสับสนติดอยู่ในวังวนความเคืองโกรธ ค้นหาใจและความต้องการของตัวเองไม่เจอกำลังวิ่งหนีความจริงจากก้นบึ้งของจิตใจ ความสัมพันธ์ที่ติดตาตรึงใจเพียงแรกเจอต้องสะบั้นลง ขาดการสานต่ออย่างงดงามตามเวลาที่เหมาะที่ควร ทำให้เยื่อใยแสนบางนั้นไม่สามารถรั้งใจคนดื้อรั้นให้หยุดคอยและรอการเติบโตไว้ได้ การหันหลังในครั้งนี้จึงสร้างความสับสนอลหม่านแก่ตัวเองและคนรอบข้างเป็นที่สุด

และคนที่คิดว่าตัวเองช้าไป จึงคิดจะเป็นฝ่ายเปิดฉากเข้าหาก่อนที่ทุกอย่างจะสายไปจริงๆ

เพราะในความสับสนคือโอกาสแทรกตัวเข้าไปในใจเล็กๆนั่นเอง

“หอม เทพไม่ทิ้งหอมไปไหนหรอกนะ”

มือใหญ่กระชับต้นแขนก่อนจะคลายออกเพื่อเข้ากุมมือเล็ก มือที่ไม่ได้นุ่มนิ่มแต่สร้างความอบอุ่นในใจชายหนุ่มนักหนา

“เกิดอะไรขึ้นเทพก็ไม่ทิ้ง ถ้าหอมไม่ทิ้งเทพไปซะก่อน

คำมั่นของสุเทพทำให้ข้าวหอมผ่อนคลาย คลี่ยิ้มเบาใจให้เพื่อน

“จริง”

“อืม”

“เฮ้อ” เสียงถอนหายใจดัง “ฉันกลัวเทพโกรธฉันแทบแย่ ที่ไม่ได้บอกอะไร อยู่ๆก็แต่งงานแบบนั้น”

“ก็ช็อกไปหลายวันเลยล่ะ”

สุเทพบีบมือขาวแน่นแล้วคลายออกแต่ไม่ยอมปล่อย เผื่อภาษากายจะสื่อความนัยให้อีกฝ่ายรับรู้ได้บ้าง หากคนกำลังโล่งใจกลับคิดว่าถูกเพื่อนปลอบใจจึงบีบมือกลับ

“แล้วหอมจะทำยังไงต่อไปล่ะ จะปล่อยไว้แบบนี้เฉยๆหรือ”

“ไม่!” คนมากฤทธิ์เชิดหน้าแววตามุ่งมั่น

“ฉันจะทำให้ไอ้หมอภูเขานั่นทนอยู่ที่นี่ไม่ได้ รีบออกปากบอกพ่อเลิกล้มเรื่องคราวนี้แล้วโกยแนบกลับกรุงเทพไปเลย”

คำตอบของข้าวหอมสร้างความพอใจและโล่งใจให้สุเทพ ที่ดูร่างโปร่งบางแสนเฮี้ยวจะไม่มีเยื่อใยให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีแม้แต่น้อย

“แล้วจะทำยังไง?” คิ้วเข้มขมวดมุ่น สงสัยในวิธีการ

“ก็ทำเหมือนเจ้านั่นไม่มีตัวตนอยู่เวลามาค้าง ใช้ให้ทำงานเยอะๆ แกล้งมากๆ ถ้ายังไม่เข็ดก็จะดักตีหัวซะเลย จะได้ไม่กล้ามาอีก”

“ดักตีหัวเหรอ แล้วพ่อกำนันจะไม่จับได้เอาหรือ เรื่องใหญ่เลยนะ”

“นั่นล่ะถึงยังไม่ทำ เอาไว้เป็นวิธีสุดท้าย ถ้าเจ้าหมอนั่นยังหัวแข็งค่อยว่ากันอีกที”

แม้เป็นวิธีที่จะทำให้ศัตรูหัวใจหายไป แต่ถ้าทางนั้นเอาเรื่อง คนรักของเขามิต้องไปอยู่ในคุกหรือ สุเทพเหลือบมองคนหมายมั่นปั้นมือ ขืนขัดตอนนี้เป็นได้โวยวาย

“เทพก็ว่างั้นล่ะ แต่คนที่เทพคิดว่าจะทำให้ปัญหายุติจริงๆก็คือพ่อกำนันมากกว่า ถ้ากำนันเข้าใจ ทุกอย่างก็น่าจะเคลียร์”

“อืม...ฉันก็กำลังคิดว่าจะทำยังไงให้พ่อเข้าใจ แล้วยุติเรื่องสมมุติผัวๆเมียๆแบบนี้เสียที”

คนกลุ้มใจเอ่ยด้วยสีหน้ายุ่งเหยิงในขณะที่คนฟังเกือบหลุดยิ้ม หัวใจเต้นรัวเหมือนต้นไม้ขาดน้ำได้รับน้ำฝนจากฝากฟ้าชุ่มฉ่ำ รอวันผลิใบเขียวขจี

“ถ้ามาถึงวันนี้ได้ กำนันคงมีความตั้งใจอะไรซักอย่างในใจ แล้วหอมรู้มั้ยล่ะ ถ้ารู้ก็คงทำความเข้าใจกับกำนันได้ง่ายขึ้น”

สุเทพเองก็คิดเรื่องนี้จนหัวแทบแตกเหมือนกัน ว่าอะไรที่ทำให้กำนันสิงห์ยอมทุ่มสุดตัว ยอมขายหน้าป่าวประกาศประชาชีขนาดนี้ ทั้งๆที่ความจริงแล้วเพียงแค่ยอมรับสิ่งที่ลูกเป็นก็น่าจะเพียงพอ

“ก็นั้นล่ะที่ฉันคิดไม่ออก คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก” ข้าวหอมจิ้มนิ้วลงขมับตัวเอง

“ถึงต้องทนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับไอ้ผัวในนามเฮงซวย มีพ่อให้ท้ายตลอดเวลา แตะต้องไม่ได้เลย” ลงท้ายด้วยน้ำเสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันก่อนตัดใจ

“ช่างหัว!แต่เสร็จแล้วไปหาข้าวกินในเมืองกันนะ ฉันไม่อยากกลับบ้านเร็ว”

คำชวนตรงใจชายหนุ่มจึงพยักหน้ายิ้มรับ ผ่อนลมหายใจยาว เพราะเขาเอาแต่จมอยู่ในความทุกข์ตรม ทิ้งเวลาให้ล่วงเลยมานาน ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กมากฤทธิ์ข้างๆจะบุบสลายไปบ้างหรือเปล่า? แต่ทั้งหมดก็เพราะตัวเขาเองอีกนั่นล่ะที่ชักช้าจนถูกมือดีฉกของรักไปต่อหน้าต่อตา

ใครว่าช้าๆได้พร้าเล่มงาม! เขาจะไม่เชื่ออีกแล้ว


เสียงคนงานและเพื่อนบ้านที่มาช่วยกันจับปลาดังไปทั่วบริเวณบ่อปลานับสิบบ่อ ร่างเล็กลงไปลุยน้ำเขียวๆโคลนหนืดๆครึ่งค่อนตัวแล้วช่วยตีน้ำไล่ปลาไปหาอวนที่กางรออยู่ แต่ทำได้ไม่เท่าไรก็เลิก กระโดดไปร่วมกับกลุ่มเด็กวัยรุ่นจับปลาในบ่อที่เขาจับไปแล้ว บ่อซึ่งเหลือน้ำปริ่มเลนเห็นปลาตัวเล็กตัวน้อยดิ้นกระแด่วๆกระเสือกกระสนไปหาแอ่งน้ำเล็กๆ ยายจันทร์จึงปล่อยให้เด็กๆลงไปจับเอากลับบ้าน เป็นที่สนุกสนานจนเนื้อตัวมีแต่โคลนเกาะ

“เฮ้ย! ตรงนั้นตัวเบ้อเริ่มเลย”

ข้าวหอมชี้ไปทางมุมบ่อ มีปลาดิ้นจมเลนอยู่หลายตัว เด็กๆจึงเฮโลกันเข้าไป

“ปลาหมอๆ ปลาหมอตัวเบ้อเริ่มเลยพี่หอม” เสียงเหน่อๆของไอ้จุกร้องบอก

“ไอ้จุก ระวังเงี่ยงมันตำมือเอานะ มาเดี๋ยวข้าจับเอง”

แม้ในบ่อจะเลี้ยงปลานิล แต่ก็มีปลาที่เป็นศัตรูพวกนี้แอบแฝง ทำให้เจ้าของบ่อขาดทุนอยู่บ่อยๆถ้าไม่เตรียมบ่อให้ดี ร่างโปร่งเดินฝ่าโคลนหนืดไปหาปลาเคราะห์ร้าย แล้วค่อยๆก้มตัวลง ใช้สองมือตะครุบลงที่ตัวปลาหมออย่างแม่นยำ จากนั้นจึงกดลงกับเลนแล้วบีบให้ถนัดมือ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเมื่อแน่ใจ ก่อนจะร้องบอกให้ไอ้จุกเอาถุงมาใส่

“โอ๊ย!”

เสียงซู้ดปากพร้อมกับเจ็บแปลบที่ฝ่ามือข้างขวา หากยังกลั้นใจทนเจ็บหย่อนปลาใส่ถุง

“พี่หอม! ถูกปลายอกหรือ” ไอ้จุกทำหน้าเสียวไส้

“เออสิ แต่จิ๊บจ๊อย เอ็งเอาปลาไปใส่กระป๋องไป๊”

ข้าวหอมไล่ไอ้จุกแล้วจึงหันมาสาละวนจับปลาต่อทั้งที่มือมีเลือดซึม หากความสนุกมันกลบความเจ็บจนมิดทำให้เจ้าตัวไม่สนใจ ยังคงช่วยพวกทโมนจับปลาก้นบ่อ โดยมีสุเทพคอยชะเง้อมองเป็นระยะ จนได้ยินเสียงแสบหูของป้ายุพาดังมาจากคันดิน คนคอยเป็นห่วงจึงได้ละงานจับปลาจากบ่อข้างๆ ลุยน้ำไปหาเพื่อนก่อนมีการทำร้ายผู้สูงอายุ

“อ้าว! ลูกหอมมาเหมือนกันรึ”

ยุพาสะดุดตากับร่างโปร่งผิวขาวนวลคลุกเลนอย่างไม่คำนึงถึงความสกปรกเหม็นคาวปลา หัวเราะร่ากับเจ้าพวกทโมนน้อยละแวกบ้านยายจันทร์ เห็นว่าที่ลูกเลี้ยงปากไม่ดีมีความสุข คนไม่ถูกชะตาจึงดูไม่ค่อยสบอารมณ์

ข้าวหอมเงยหน้ามองตามเสียงเรียก เห็นป้ายุพาใส่เสื้อเหมือนเอาแหมาคลุมตุ่ม ยืนบนคันดินมีต้นมะพร้าวขึ้นเป็นระยะพอได้หลบร่ม พลางเบ้ปากสบถในใจ

‘ยายป้าปากปลาร้ามาทำไมฟะ!’

ป้ายุพากวาดตามองไปรอบๆบริเวณเหมือนหาอะไรบางอย่าง แล้วไปเจออีกอย่าง ดวงตามีเลศนัยเปล่งประกายแล้วจึงหันกลับมามองไอ้เด็กปากหมาอีกครั้ง

“แล้วผัวเราเขาไม่มาด้วยหรือจ๊ะ ถึงได้หิ้วเพื่อนมาด้วย เดี๋ยวเขาจะหึงเอาหรอกนะ แล้วจะหาว่าป้าไม่เตือน หึๆ”

คำเสียดสีทำให้รอบกายร่างโปร่งเงียบลงในบัดดล เด็กๆที่ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต่างมองลูกพี่เป็นตาเดียว มือเล็กกำหมัดแน่นมองอีกฝ่ายอย่างชิงชัง

“มาก็เห็นแล้วสิป้า ว่าแต่ป้ามาหาอะไรแถวนี้ล่ะ”

ข้าวหอมเหน็บกลับจนป้ายุพาถลึงตามอง ก็แถวนี้ผู้ชายตรึม

“ก็มาหาปลาไปทำกับข้าวสิจ๊ะลูก มาถึงบ่อแบบนี้จะได้ปลาตัวโตๆแล้วลูกหอมอยากกินอะไรมั้ยล่ะ ป้าจะได้ทำให้กิน ต้มยำมั้ย? แต่พ่อกำนันชอบกินปลานึ่งนี่นะ งั้นเอาตัวโตๆไปซักสองสามตัวท่าจะดี” ท้ายประโยคคล้ายรำพึงกับตัวเองแต่ข้าวหอมได้ยินเต็มสองหู

“ไม่เอาหรอก ป้ายุทำแล้วคาวไม่เหมือนป้าณีทำ”

‘ไอ้เด็กบ้า!’

คนบนคันดินอยากจะชี้หน้าด่าให้รู้แล้วรู้รอด ดูซิ ผัวไม่มาก็หนีบไอ้เพื่อนตัวดำมาด้วยเชียว สงสัยจะเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้วซะล่ะมั้ง แต่ปากเสียแบบนี้ยังหาผัวได้อีก แถมไอ้ผัวคนนี้มันทั้งหล่อทั้งรวย ยุพาคิดอย่างเจ็บใจกับไอ้เด็กเมื่อวานซืนที่ดูจะเป็นคู่ปรับกันไปตลอดกาล

“โธ่ๆไม่คาวหรอกจ๊ะ เดี๋ยวเย็นนี้ป้าจะพิสูจน์ให้ดู พวกต้มยำปลานึ่งรสชาติมันต้องจัดจ้าน ไม่ใช่จืดๆชืดๆเหมือนที่แม่ณีทำ” ยุพาจิกตายิ้ม

‘จัดจ้านพอกับตัวป้านั่นล่ะ!’ ร่างโปร่งนึกเคืองที่เผลอพูดไปเข้าทางอีกฝ่าย แล้วตัดการสนทนาด้วยการหันหลังให้ พลางสลัดโคลนออกจากมืออย่างฉุนๆ กวาดตามองพวกทโมนรอบตัวที่ตั้งใจฟังการโต้ตอบของเขา หูยาวหูยืด บวกกับสายตาที่จับจ้องสำรวจเนื้อตัวเขาท่าทางพิกล ก็ให้ทอดถอนใจแกมหงุดหงิด

“ไม่เคยเห็นคนรึไงไอ้จุก ทำเหมือนข้าเป็นตัวประหลาดไปได้!”

“ปะ...เปล่าจ๊ะ แต่พี่หอมมีผัวอย่างที่ป้ายุพูดจริงๆหรือจ๊ะ เป็นผู้ชายทำไมถึงไม่มีเมียล่ะพี่”

ไอ้จุกถามพาซื่อ แต่ช่างสะกิดบาทาลูกพี่ดีแท้ ร่างโปร่งจึงถลึงตาใส่หากเถียงไม่ออก

“เออ! ข้ามีผัว ข้าชอบผู้ชายไม่ชอบผู้หญิง มีอะไรมั้ยไอ้จุก” ข้าวหอมประชดไอ้จุกที่ยังทำหน้าคลางแคลงใจอยู่

“งั้นพี่หอมก็ชอบฉันด้วยสิ ฉันก็เป็นผู้ชาย”

“อะ!” คนฟังอยากจะกัดลิ้นตัวเองตายซะให้ได้

“ไอ้จุก! ถึงข้าจะชอบผู้ชายแต่ข้าก็เลือกเหมือนกันนะโว้ย เหม็นสาบอย่างเอ็งข้าจะเอาไปทำอะไรวะ บ้านข้าไม่มีควายให้เลี้ยงด้วย”

“อ้าว ก็เห็นว่าชอบผู้ชาย ฉันก็คิดว่าพี่หอมเปลี่ยนไปแล้วเหมือนนังตั๊ก กระเทยควายร้านกาแฟ ที่พอฉันไปซื้อของร้านนั้นที่ไร นังตั๊กเป็นต้องเข้ามานัวเนีย ฉันล่ะกลัวมันจริงๆ” ไอ้จุกวัยกระเตาะลูบท้ายทอยตัวเองอย่างเขินๆ

“อ๊ะ! ไอ้นี่ ข้าเป็นเกย์ไม่ใช่กระเทยเว้ย” เส้นเลือดข้างขมับเหมือนจะเต้นตุบๆปูดโปน

“ลองโดนตีนข้าดูมั้ย จะได้รู้ว่ามันเปลี่ยนไปแล้วรึยัง อยากลองมั้ยไอ้จุก”

เท้าเปื้อนโคลนยกหราให้ไอ้จุกขยับถอย

“มะ...ไม่จ๊ะพี่”

“เสียอารมณ์จริงๆ”

ข้าวหอมเงยหน้ามองดวงอาทิตย์เจิดจ้าตอนบ่ายคล้อย ปลาถูกจับไปสามบ่อ และคาดว่ายังคงอีกหลายวันถึงจะเสร็จ หางตาเห็นสุเทพเดินเข้ามาหา เป็นจังหวะพอดีที่นึกหมดสนุก จึงชวนเพื่อนกลับ สุเทพพยักหน้ารับ ถอนหายใจที่ไม่มีปากเสียงกันดังคาด หลังจากเห็นป้ายุพาเดินเชิดหน้ายิ้มตอนสวนกัน รายนั้นก็ไม่เป็นผู้ใหญ่เอาเสียเลย

สุเทพมองร่างเปื้อนโคลนตลอดหัวจนเท้าแล้วอดยิ้มเอ็นดูไม่ได้ “เล่นเป็นเด็กๆ” คนตัวสูงกว่าเหล่มองขบขัน ขณะตักน้ำในโอ่งราดล้างตัวพร้อมคนตัวเล็กผิวซีดจากการแช่น้ำ ผิดกับตนเองที่ดูจะดำแดดมากกว่าเดิม

ข้าวหอมยิ้มยิงฟันให้กับคำแหนบของเพื่อน ก่อนคว้าผ้าขาวม้าพันเอวเปลี่ยนเสื้อผ้า ท่ามกลางการเหลือบแลของเพื่อนหนุ่ม ซึ่งก้มหน้าอมยิ้มแล้วจึงจัดการกับเสื้อผ้าเปียกของตนบ้าง

“ไปกินข้าวในเมืองกันนะ ฉันไม่อยากกลับบ้านเร็วน่ะ”

สุเทพหันมอง เห็นคนชวนสวมเสื้อยืดคอกลมสีฟ้าใหม่เอี่ยมกับกางเกงทหารสีขี้ม้ากระเป๋ารุงรังเรียบร้อยแล้ว จึงพยักหน้ารับหัวใจพองโต

สองหนุ่มไปเถลไถลในตัวเมืองสุพรรณ ด้วยคนหนึ่งไม่อยากกลับบ้าน อีกคนก็อยากอยู่ด้วยกันนานๆ จึงลงล็อกพอดิบพอดี พากันไปกินข้าวในห้างใหญ่ทั้งที่ตัวเหม็นสาบโคลนเลน แต่ร่างโปร่งดูจะไม่สนใจ แม้เริ่มมีอาการปวดหนึบบริเวณแผลที่ถูกปลายอก และคันยิบๆตามเนื้อตัว กว่าจะกลับถึงบ้านก็ตะวันลับฟ้าไปนานแล้ว

“ขับรถดีๆนะเทพ”

ข้าวหอมเอ่ยลาพลางหยิบถุงกับข้าวที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ตเต็มสองมือสองไม้ขยับลงจากรถ แต่มือใหญ่เข้ายึดไหล่ไว้ คนตัวเล็กจึงชะงักเลิกคิ้วสงสัย

“อะไรเหรอ?”

“หอม มีอะไรบอกเทพนะ เทพเป็นห่วงหอมมาก อยากให้จำไว้”

น้ำเสียงจริงจังส่งผ่านความอบอุ่นซาบซึ้งใจให้คนฟังพยักหน้าตอบรับ ด้วยรู้สึกมีเพื่อนคอยเคียงข้าง มือใหญ่จึงคลายออกให้อีกฝ่ายลงจากรถ แล้วจึงค่อยๆขับจากไป

บนเรือนใหญ่ เงาร่างสูงยืนมองอยู่บนระเบียง เห็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาหันกลับขึ้นเรือน จึงขยับเดินหนีเข้าห้อง

“ไปถึงไหนกันฮึ กลับซะมืดค่ำ” เสียงกำนันสิงห์เอ่ยถามเมื่อเห็นหัวบุตรชาย

“โธ่พ่อ นานๆที แล้วฉันก็ซื้อกับข้าวมาเผื่อพรุ่งนี้ด้วย เบื่อฝีมือไอ้แก้วจะแย่แล้ว”

“เอาแช่ตู้เย็นไว้ก่อนเถอะ วันนี้ป้ายุเอาต้มยำปลามาฝากหม้อเบ้อเริ่มเลย ช่วยกันกินให้หมดก่อน เสียดายของ”

‘พ่อกินไปคนเดียวเหอะ’ ลูกชายนึกบ่นบิดาที่ไปกินของป้ายุพาอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ ‘อยากจะหาแม่เลี้ยงให้ฉันรึไงพ่อ!’ ก่อนเบนความสนใจเรียกไอ้แก้วไอ้ขันมาเอากับข้าวและขนมไปเก็บ

“อยากกินอันไหนก็แกะกินเลยนะ ข้าไปอาบน้ำก่อน คันยิบๆยังไงไม่รู้”

เดินไปบ่นไปจนถึงห้องนอน ร่างโปร่งจึงคว้าผ้าเช็ดตัวผาดบ่า ไม่แม้จะชายตามองคนนั่งพิงเตียงอ่านหนังสือเล่มหนาปึก

ทิเบตปิดหนังสือหลังพยายามตั้งสมาธิอ่านอยู่หลายหน เพราะไม่สามารถข่มความรู้สึกพลุ่งพล่านในใจได้ เมื่อเห็นร่างโปร่งบางอ้อยอิ่งล่ำลาเพื่อนชาย หากจำต้องเตือนตัวเอง

การต้องหักห้ามใจครั้งนี้ทำให้ชายหนุ่มแค่นยิ้ม นี่เขาชอบเจ้าเด็กนี่แล้วจริงๆหรือ

ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงใจตัวเอง ก็ให้รู้สึกน่าหวาดหวั่นไม่น้อย ด้วยความผูกพันที่ก่อเกิดในใจเขานั้นจะเกิดขึ้นกับอีกฝ่ายด้วยหรือเปล่า?

ความคิดหยุดลงเมื่อข้าวหอมออกมาจากห้องน้ำด้วยอาการแปลกๆ ร่างโปร่งตรงเข้าไปเปิดลิ้นชักใกล้ตู้เสื้อผ้า หยิบกล่องสี่เหลี่ยมสีขาวขุ่นออกมาวางบนโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วก้มหน้าก้มตาทำอะไรซักอย่าง ได้ยินเสียงซูดปากเบาๆเป็นที่สงสัย จึงลุกขึ้นไปดู ก็เห็นอีกฝ่ายกำลังตั้งหน้าตั้งตาล้างแผลที่ฝ่ามือขวาอย่างเงอะๆงะๆ

ทิเบตขมวดคิ้วเมื่อเห็นบาดแผลบวมแดงคล้ายเริ่มติดเชื้อ และขาทั้งสองข้างถูไถกันไปมาแรงๆ เมื่อเหลือบดูก็เห็นผื่นแดงกระจายเต็มสองขา คนเป็นหมอจึงอดถามไม่ได้

“ไปโดนอะไรมา”

คำถามทิเบตทำให้ข้าวหอมเหลือบมองนิดหนึ่งก่อนก้มหน้าทำแผลต่อ

“ปลาหมอยอก”

“ฉันช่วยมั้ย” ร่างสูงก้มลงหวังจะช่วย หากอีกฝ่ายกลับเบี่ยงหนี จนคนหวังดีฉุกกึก แต่ยังใจเย็น “จะได้เสร็จเร็วๆไง”

ทว่าเจ้าทโมนหัวแก้วหัวแหวนของกำนันสิงห์ชายตามองนิดหนึ่ง ก่อนก้มหน้าล้างแผลต่อ ปากก็พูดไป

“ไม่ต้อง เดี๋ยวเกิดนายเอาคีมจิ้มแผลฉันจนเหวะหวะ ติดเชื้อตายไปทำไง ฉันไม่ยอมให้นายมีชีวิตลอยชายสบายอยู่คนเดียวหรอกนะ”

คำพูดชวนหาเรื่องทำให้ทิเบตแทบอยากเข้าไปบีบคอ พร้อมอารมณ์ที่เก็บกดไว้ทะลักทลายออกมากับคำพูดเชือดเฉือนนั้น

“นี่!จะดูถูกกันมากไปแล้วนะ ยังไงฉันก็เป็นหมอ มีจิตสำนึกมากกว่าที่นายคิดนะ”

“เหรอ”

การตอบรับเฉยชาช่างกวนอารมณ์คนตัวสูงได้ดีนัก จึงเม้มปากหันรีหันขวางอยากจะหาอะไรมาปิดปากเล็กๆแต่ร้ายเหลือ

“คนหวังดีแท้ๆ งั้นอยากจะทำอะไรก็ทำไปเลย แผลเน่าติดเชื้อก็อย่าหาว่าไม่เตือน แล้วไอ้ยาแก้คันที่วางไว้บนโต๊ะนั่นน่ะ ใช้ไปบ่อยๆเลยนะ เป็นหนองตัวด่างทั้งตัวคงสนุกล่ะทีนี้”

“นี่นายแช่งฉันเหรอ!”

“เออ”

“ไอ้บ้า คนเป็นหมอเขาพูดกันแบบนี้เหรอ”

“หมอก็มีหัวใจนะ แล้วถ้าเจอคนป่วยอวดดีอย่างนาย ก็ไม่มีหมอที่ไหนเขาอยากรักษาหรอก เชิญตัวเน่าเป็นตุ่มหนองนอนใบตองไปเหอะ”

“เฮ้ย! พูดงี้หมายความว่าไง ยาฉันมีปัญหาอะไร” คนเริ่มจิตตกโก่งคอถามแผ่นหลังกว้างซึ่งเดินตึงๆกลับไปยังที่นอน

“นี่! บอกมานะ” คนตัวเล็กขี้โมโหมองร่างสูงล้มตัวนอนอย่างไม่สนใจ ก็นึกฉุนที่มาพูดแต่พูดไม่หมดให้ค้างคาใจ

“ไอ้หมอบ้า”

ไม่พูดเปล่า มือไวหยิบหลอดยาแก้คันขึ้นมาพลิกไปพลิกมา ไม่มั่นใจในสรรพคุณขึ้นตงิดๆ ก่อนจะปาหลอดยากระเด็นกระดอนไปตกใกล้ศีรษะคนนอนบนพื้น หากคนตัวใหญ่ยังนอนนิ่งไม่หือไม่อือ ยิ่งทวีความหงุดหงิดแก่คนปา ได้แต่ขบฟันถลึงตามองแผ่นหลังกว้าง จากนั้นจึงเดินลงส้นจนพื้นเรือนสะเทือนมาทิ้งตัวนอนบนเตียง ปากก็พึมพำบ่น มือก็เกาขาแกรกๆ ให้นึกสังเวชตัวเองที่รู้สึกว่าโง่ก็คราวนี้ล่ะ ที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดจริงพูดเล่น

“จำไว้เลย!”

ทิเบตหลุดยิ้มเมื่อได้ยินเสียงบ่น นี่ถ้าเปลี่ยนเป็นเงินได้เขาคงไม่ต้องทำงานกันล่ะ ถูกเงินทับตาย แต่ความจริงมันไม่ใช่ ตอนนี้เจ้าตัวแสบคงโกรธเขาแทบคลั่งแล้ว ร่างสูงถอนใจเสียทีหนึ่ง เมื่อครู่เขาก็พูดเกินไป ด้วยใจนึกเคืองแต่อีกใจก็นึกห่วง ความพะว้าพะวงทำให้อดยกศีรษะขึ้นมองคนนอนหันหลังให้ท่ามกลางความมืดไม่ได้ เห็นเพียงเงาตะคุ่มๆกำลังเกาหยุกหยิก แม้จะสงสารและรู้สึกผิดนิดๆ แต่ด้วยนิสัยอีกฝ่ายถึงเขาจะพูดอะไรไปตอนนี้ก็คงไม่ฟังหรอก รอไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยดูอาการให้อีกที เท่าที่เห็นเป็นเพียงอาการแพ้ทางผิวหนัง คงระคายเคืองเพราะไปแช่อยู่ในน้ำไม่สะอาด คนแพ้ง่ายจึงออกอาการเร็ว การซื้อยากินและยาทาตามร้านขายยาก็ช่วยได้ แต่การใช้ยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ไม่เป็นผลดี หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานจึงมีผลมีผลข้างเคียง ด้วยยาบางตัวผสมสเตอรอยด์

ศีรษะทุยลดลงหนุนหมอนตามเดิม แต่คิดอีกทีก็น่าให้เกาเป็นลิงซักคืน ไม่งั้นอวดดีไม่เลิก

V
V
V


ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
รุ่งเช้าทิเบตมองคนหน้ามุ่ยนั่งเกาขาตัวเองเป็นผื่นแดงเต็มหน้าแข้งบนเตียง สองตาลึกโหลด้วยหลับๆตื่นๆจากอาการคันที่คอยปลุกให้ตื่นขึ้นมาเกา เห็นแล้วก็น่าสงสารจึงเข้าไปหาตามความตั้งใจเมื่อคืน

เงาสูงใหญ่เข้าบดบังแสง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร หากคนมีทิฐิเม้มปากไม่ร้องขอให้เสียเชิง เพราะถึงไม่ช่วยเขาก็จะขับรถไปโรงพยาบาลให้รู้แล้วรู้รอด โลกนี้ไม่ได้มีหมอคนเดียวเสียหน่อย

“ไหนขอดูหน่อย” ทิเบตมองหน้าคนไม่เต็มใจนั่งนิ่ง จึงดึงขาออกมาพิจารณาจนอีกฝ่ายแทบหน้าคม่ำ

“เมื่อวานไปทำอะไรมาบ้าง”

ตั้งหลักได้ข้าวหอมจึงเหลือบมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ แล้วกระชากเสียงตอบ “ไปจับปลา แล้วก็ไปซื้อของในเมือง”

ทิเบตพยักหน้าก่อนซักถามอีกสองสามประโยค จึงฉวยมือเล็กขึ้นมาดูจากนั้นลุกขึ้นไปจดชื่อยาใส่กระดาษ แล้วออกไปส่งให้แก้วไปซื้อที่ร้านขายยา

“ไม่มีไข้นะ ส่วนผื่นที่ขาถึงคันก็อย่าไปเกา มันจะติดเชื้อ แล้วยาทาแก้คันที่ใช้อยู่ประจำน่ะ มันผสมสเตอรอยด์ใช้ไปนานๆไม่ดี มีผลข้างเคียง ผิวหนังอาจแตก เป็นสิวพุพอง หรือผิวด่างได้” ทิเบตเอ่ยบอกในขณะที่อีกฝ่ายมองมาด้วยสายตาขุ่นขวาง

“แล้วทำไมไม่บอกแต่เมื่อคืน”

“ก็พูดไม่เพราะใครเขาอยากจะพูดด้วยกันล่ะ”

“แล้วใครจะอยากพูดดีกับคนที่คิดไม่ซื่อกันล่ะ” คนตัวเล็กเถียงสวนทันควันจนชายหนุ่มถอนหายใจหนัก

“หอม ถึงนายจะเกลียดขี้หน้าฉันจนอยากไล่ให้ไปพ้นๆก็เถอะนะ แต่ฉันก็อยากให้รู้ไว้อย่างหนึ่งนะ ฉันมีแต่ความปรารถนาดี ไม่เคยคิดทำร้ายหรือคิดไม่ซื่อกับหอมและครอบครัวเลยซักนิด สิ่งนี้ที่ฉันอยากให้หอมรับรู้ไว้ ไม่อยากให้ระแวงกัน”

“พูดแค่นี้แล้วต้องเชื่อรึไง”

ทิเบตเพียงยิ้มให้กับคำประชดนั้น “ก็ถ้านายไม่เชื่อ นายอาจกินยาอะไรไม่ได้ไปตลอดชีวิต เพราะคอยแต่ระแวง จากที่จะไม่ตายก็ต้องตายกันคราวนี้ล่ะ” ร่างสูงมองคนเป็นภรรยาตาโต

“เออ แล้วไม่ใช่เฉพาะยานะ ข้าวปลาอาหารก็ระวังให้ดีด้วยล่ะ เผลอเมื่อไรฉันอาจใส่อะไรแปลกๆลงไปก็ได้นะ หึๆ”

ข้าวหอมเม้มริมฝีปากตัวเอง มองคนหัวเราะลงคอที่ดูเหมือนคราวนี้จะถือไพ่เหนือกว่าด้วยฉุนโกรธ

“ก็ลองใส่ดูสิ ถ้าฉันเป็นอะไรไปนายต้องถูกพ่อฉันฆ่าตายแน่”

“เหรอ แต่ฉันว่าพ่อกำนันอาจอยากให้ใส่เยอะๆก็ได้นะ”

“ยาบ้าอะไรของนาย”

“ยาเสน่ห์ไง”

“...!”

“สมใจพ่อกำนันกันคราวนี้ล่ะ”

ทิเบตยักคิ้วกวนประสาทให้อีกฝ่ายซึ่งกำลังตาค้าง จากนั้นรีบเดินหนีออกไปจากห้อง ด้วยเกรงพายุร้ายจะกระหน่ำจนรับมือไม่ไหว

“ไอ้หมอบ้า! ทุเรศ คิดมาได้ยังไง”

แว่วเสียงสบถให้ได้ยิน หากคนตัวสูงกลับยิ้มกริ่มจนไอ้ขันซึ่งกำลังถูชานเรือนมองด้วยความงุนงง

“แปลกคน ชอบให้เมียด่ารึไงหว่า”

ไอ้ขันเกาหัวแกรกๆก่อนก้มหน้าก้มตาถูเรือนต่อไป และต้องสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงคล้ายของตกดังโครมใหญ่ในห้องลูกพี่

“นี่ก็ขี้โมโหซะจริง”

คนเป็นลูกน้องพึมพำพร้อมนึกบอกตัวเองว่าวันนี้ควรอยู่ห่างๆแขนขาลูกพี่มันไว้จะปลอดภัยกับตัวมันมากกว่า


พอสายคนเจ็บก็ออกมาหาข้าวกิน กำนันสิงห์มองบุตรชายตักข้าวใส่จานแล้วเดินมายังโต๊ะอาหารที่ตนนั่งอยู่ จึงเอ่ยถามอาการ

“เป็นยังไงบ้างล่ะ”

“ก็ดีพ่อ ไม่คันแล้ว”

“อืม ดีนะที่ผัวเราเป็นหมอ มีอะไรก็รักษาได้ทัน เห็นให้ไอ้แก้วออกไปซื้อยาแต่เช้า”

สีหน้ากำนันสิงห์ดูจะภูมิใจในตัวลูกเขยมากจนแสลงใจลูกตัวเองตงิดๆ จึงลอบแสยะปากใส่ชายหนุ่มคนดีของบิดา

“ยกยอปอปั้นกันเข้าไปเหอะ”

ใบหน้าหงิกงอทำให้ทิเบตอมยิ้ม ยิ่งเป็นการกระพืออารมณ์ริษยาให้เปลี่ยนเป็นแรงอาฆาตได้ดีนักแล

คนตัวเล็กเคี้ยวข้าวไป ในใจก็วางแผนหาวิธีไล่ส่งคนดีของพ่อไปด้วย ซักพัก ดวงตาสีดำจึงเปล่งประกายวิบวับ

“พ่อวันนี้ไปไหนรึเปล่า”

กำนันสิงห์ส่ายหน้าก่อนตอบ “วันนี้ข้าจะอยู่ดูคนงานในสวนซะหน่อย ไปถึงไหนกันแล้วก็ไม่รู้”

“งั้นฉันทำกับข้าวไว้กินกลางวันเลยแล้วกันนะ”

เพราะปกติมื้อกลางวันจะต่างคนต่างหากินกันเอง ด้วยกิจกรรมซึ่งต่างที่ต่างทาง

“ฉันเห็นหลังเรือนมียอดตำลึงอวบๆเยอะเลย งั้นทำแกงจืดตำลึงหมูสับแล้วกันนะพ่อ ซดน้ำจะได้คล่องคอ”

“ก็ดีๆ”

กำนันสิงห์เออออ แล้วจึงเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อเตรียมตัวไปข้างนอก ส่วนเจ้าลูกชายก็เตรียมพร้อมเหมือนกัน!

“ได้ยินแล้วใช่ปะ” ข้าวหอมหันไปหาทิเบต คิ้วเข้มเลิกขึ้นเชิงถาม “ก็จะทำแกงจืดตำลึงไง ขาฉันเป็นแบบนี้จะให้ไปลุยหญ้าให้คันอีกรึไง ต้นตำลึงมันขึ้นแถวต้นน้อยหน่าหลังเรือนนี่เอง นายไปเก็บมาให้หน่อยนะ เดี๋ยวฉันจะเตรียมเครื่องคอย”

แม้ไม่ชอบใจในท่าทางเหมือนสั่งกลายๆ แต่ก็นึกเห็นใจคนเจ็บอยู่ไม่น้อยจึงพยักหน้ารับ แล้วหันหน้าไปชวนไอ้ขันอีกต่อหนึ่ง

“ขันไปด้วยกันนะ”

เด็กหนุ่มพยักหน้า หากลูกพี่กับส่งเสียงท้วง

“ไอ้ขัน เอ็งยังถูเรือนไม่เสร็จไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวพ่อกำนันก็ออกมาเอ็ดหรอก หลังเรือนแค่นี้หมอเขาไปถูกหรอก”

ทิเบตสะอึกกับคำเสียดสีกลายๆนั้น แล้วตัดใจไม่ต่อความยาวสาวความยืด ลงบันไดไปโดยมีร่างเล็กส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ตามหลัง ชายหนุ่มออกมาเรียกสุนัขไปเป็นเพื่อน ซึ่งก็มีแต่โจ๋น้อยเท่านั้นที่ญาติดีกับเขา กระดิกหางตามมาด้วยอย่างเริงร่า ส่วนไอ้โก๊ะ เพียงหันมาเมียงมองแล้วนอนหมอบตามเดิม หัวแข็งเหมือนเจ้าของไม่มีผิด!

เดินมาทางหลังเรือนไม่ถึงร้อยเมตรก็เห็นเถาตำลึงพันเกี่ยวต้นน้อยหน่าจนเป็นพุ่มหนา ยอดอวบเขียวชอุ่มน่าเด็ดไปต้มกินจริงอย่างที่เจ้าเด็กปากเสียบอก ความรู้สึกขุ่นมัวเมื่อครู่จึงบรรเทาลง หันมองโจ๋น้อยไล่กวดกิ้งก่าเข้าไปในพงหญ้าด้วยความซุกซน ก่อนลงมือเด็ดยอดอ่อนยาวประมาณศอกไว้ในกำมือ ดวงตาสอดส่ายไปตามกิ่งก้านที่มีเถาตำลึงพันอยู่ ก่อนโน้มลงมาเลือกและเด็ดอย่างอารมณ์ดี แขนยาวช่วยให้เก็บยอดตำลึงสูงๆได้เยอะ หากยิ่งสูงยอดก็ยิ่งอวบเขียวสด คนตัวสูงจึงต้องเขย่งและโน้มกิ่งจนเสียการทรงตัว เซไปทับพุ่มตำลึงหนาจนได้ยินเสียงสวบสาบและเสียงฮือเหมือนมีบางอย่างแตกกระจาย จนปรับสมดุลให้ตัวเองได้จึงระบายลมหายใจ

“เกือบล้มแล้วมั้ยล่ะ”

ชายหนุ่มมองเถาตำลึงขาดกระจุยกระจายเพราะรั้งไว้ก่อนล้ม ยอดตำลึงในมือกำใหญ่กอปรกับที่วางไว้บนพื้นกองโต คิดว่าเก็บอีกนิดหน่อยก็น่าจะพอ ชายหนุ่มจึงตั้งท่าโน้มกิ่งน้อยหน่าลงมาอีก ด้วยเล็งยอดสวยๆไว้ หากเสียงหึ่งๆแปลกแยกไปจากปกติทำให้ทิเบตเงี่ยหูฟัง ดวงตาก็สอดส่ายหาตำแหน่งอย่างรวดเร็ว จนสะดุดลงกับกลุ่มก้อนดำๆขยุกขยิกได้ซ่อนอยู่ในพุ่มใบหนาของตำลึง สัญชาตญาณเตือนให้ระวัง ทว่าเร็วกว่าจะถอยห่างได้ทัน ความเจ็บแปลบแล่นผ่านหลังมือขวามาถึงหัวใจรวดเร็ว

“ผึ้ง!”

เสียงครางตกใจหลุดออกจากปาก รีบยกหลังมือขึ้นมาดู เห็นเหล็กไนคาอยู่บนผิวหนัง ขายาวก้าวถอยหลังและดึงเหล็กในออก เสียงหึ่งๆก็เริ่มดังเข้ามาใกล้ วนรอบศีรษะ จากสองสามตัวกลายเป็นสิบ บินวนจนปัดกันไม่หวาดไม่ไหว หูแว่วได้ยินเสียงโจ๋น้อยส่งเสียงขู่กรรโชกแล้วร้องเอ๋งๆวิ่งหนีเข้าป่าเข้าดงสุดชีวิต ที่นี่คงไม่ปลอดภัยแล้ว ชายหนุ่มใช้ยอดตำลึงในมือปัดแล้วหาที่หลบ

“โอ๊ย!”

ยังไม่ทันจะหาที่หลบก็ถูกผึ้งต่อยเข้าที่ต้นคออีกแห่ง และที่ร้ายไปกว่านั้น ตอนนี้ผึ้งทั้งรังเห็นเขาเป็นศัตรูไปแล้วที่บังอาจไปรบกวนที่อยู่อาศัยของมัน

“โอ๊ย!”

คราวนี้ต้นแขนขวา ชายหนุ่มจึงรีบวิ่งหนีไปให้ไกลฝูงเพชฌฆาต ก่อนที่จะถูกต่อยไปทั้งตัว ระหว่างหาที่หลบภัยนั้นหางตากลับเหลือบเห็นสีฟ้าตัดกับความเขียวชอุ่มของต้นชมพู่พุ่มเตี้ยๆ มันคุ้นตาจนต้องวิ่งไปพิสูจน์ด้วยมีอะไรบางอย่างสะดุดใจ และก็จริง เพราะเห็นไอ้โก๊ะยืนเป็นพยานหลักฐานหลังพุ่มไม้ตามเจ้าของมัน!

ร่างโปร่งบางยืนหัวเราะเยาะมองดูเขาถูกผึ้งต่อยกับไอ้ขัน ซึ่งมีสีหน้าอยากจะร้องไห้เต็มแก่

‘ตั้งใจแกล้งกันเลยนี่หว่า ไอ้เด็กนี่!’ ยิ่งเห็นรอยยิ้มสมใจติดอยู่มุมปากยิ่งทำให้คนกำลังเจ็บฉุนหนัก

“อยากแกล้งนักใช่มั้ย”

คนเจ็บแค่นเสียงและวิ่งตรงไปหาทั้งสองอย่างไม่คิดชีวิต พร้อมกับผึ้งเป็นฝูง!

“เฮ้ย!มาทางนี้ทำไม ไปทางอื่นสิ”

คนแอบดูผวาวูบเมื่อเห็นคนตัวใหญ่มุ่งมาหา สงสัยแผนจะแตก คนวางแผนจึงรีบเผ่นออกจากพุ่มไม้ เป็นเวลาเดียวกับที่อีกฝ่ายมาถึงตัวพอดี

“หอม!” เสียงดุตวาดลั่น “คราวนี้มันเกินไปแล้วนะ”

ทิเบตคว้าไหล่เล็กไว้ก่อนหนีได้

“อะไร! ฉันไม่รู้เรื่อง ฉันจะมาช่วยก็เห็นนายถูกผึ้งต่อยแล้วนะ” ข้าวหอมโกหก พยายามสะบัดให้หลุดด้วยเหตุการณ์ไม่เข้าท่าแล้วตอนนี้ จากฝูงผึ้งบินว่อนบนศีรษะเป็นเงาทะมึน

“ปล่อยสิ เดี๋ยวถูกผึ้งต่อยกันหมดหรอก”

“ดี! ดีกว่าฉันโดนอยู่คนเดียว”

“เฮ้ย! บ้าเปล่า ปล่อยนะเว้ย”

ร่างโปร่งสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงเสียงหึ่งๆดังข้างหู

“ปล่อย!”

เสียงสูงตวาดแหวพร้อมยกเท้าเตะเข้าที่หน้าแข้งอีกฝ่ายจนหลุดออกมาได้แล้วรีบวิ่งหนีสุดชีวิต ทิ้งไอ้ขันให้ร้องโอยจากการถูกผึ้งต่อยเข้าอีกราย

“คราวนี้ฉันไม่ยอมแล้ว เป็นไงก็เป็นกันสิ”

ทิเบตวิ่งไล่กวดและหนีกระทวยแหลมมีพิษตามหลังไปติดๆ

ข้าวหอมก้าวขึ้นบันไดที่ละสองสามขั้นอย่างแตกตื่น พร้อมแหกปากเรียกพ่อสุดเสียง กำนันสิงห์ซึ่งยังอยู่ในห้องรีบออกมาดูก็เห็นลูกชายหน้าตาตื่นพร้อมลูกเขยวิ่งตามมาติดๆ

“เป็นอะไรไอ้หอม!”

“ผึ้งพ่อ หาที่หลบเร็ว!”

ลูกชายเอ่ยรัวเร็วไม่ทันขาดคำ กำนันสิงห์ก็ได้ยินเสียงหึ่งๆวนรอบๆศีรษะเสียแล้ว

“พวกเอ็ง! ไปแหย่รังมันทำไมกันวะ”

ผู้สูงวัยหยิบผ้าขาวม้าพาดไหล่ขึ้นปัดพัลวัน

“ฉันเปล่านะพ่อ คนดีของพ่อต่างหากที่ไปแหย่มัน”

ข้าวหอมรีบเข้าไปหลบหลังบิดา

“ผมไม่ได้ตั้งใจนะพ่อกำนัน ลูกพ่อกำนันนั่นล่ะที่หลอกให้ผมไปเก็บตำลึงที่มีรังผึ้งอยู่”

คนถูกหลอกก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน แก้ต่างไปพร้อมพยายามคว้าคนต้นเหตุให้ลองลิ้มรสชาติความเจ็บปวดด้วยคน ผู้สูงวัยหันขวับมองบุตรชายซุกศีรษะอยู่ข้างหลังทันควัน จนคนเจ้าความคิดสะดุ้งโหยง

“ฉันเปล่านะพ่อ นายอย่ามาโทษกันสิ ใครจะไปรู้ล่ะว่าตรงนั้นมีรังผึ้งอยู่ เจ็บแล้วพาลรึไง”

ร่างเล็กแทบจะมุดเข้าไปอยู่ในเสื้อบิดาจนดูพะรุงพะรังอิรุงตุงนังไปทั้งสามคน จนเจียนจะล้มหัวทิ่ม

“ไม่ไหวแล้ว ฉันไปล่ะพ่อ”

ผึ้งเริ่มบินวนล้อมรอบมากขึ้นจนข้าวหอมต้องผละวิ่งตรงดิ่งไปยังห้องบิดาซึ่งเปิดประตูค้างไว้

“เฮ้ย! รอด้วย”

ไม่มีใครคิดยืนรอให้ผึ้งบินลงมาต่อย ต่างวิ่งตามกันเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูทันที ทิเบตเห็นอีกฝ่ายมุดเข้าไปอยู่ในมุ้งจึงรีบพุ่งตัวตามเข้าไปเหมือนกัน

“เฮ้ย เข้ามาทำไม ออกไปนะ” มือเล็กพยายามผลักไสร่างหนาหนัก

“ออกไปก็ถูกต่อยสิ เห็นมั้ยปวดบวมแล้วเนี่ย” ทิเบตถลกแขนเสื้อให้อีกฝ่ายดูอย่างโกรธเคือง

“แล้วหลบไม่เป็นรึไงล่ะ ปล่อยให้มันต่อยทำไม”

คนไม่สำนึกคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมศีรษะ ก่อนจะล้มคว่ำลงไปกับที่นอนเพราะร่างสูงผลัก พร้อมขึ้นคร่อมกลางลำตัว รวบจับมือเล็กทั้งสองข้างไว้ ใบหน้าแดงก่ำแค่นเสียงพูด

“คราวนี้ฉันโกรธจริงๆนะ”

ร่างสูงจ้องใบหน้านวล ดวงตาคู่ดำวาวใสเบิกกว้างกับการใกล้ชิดจนรู้สึกได้ถึงไออุ่น ร่างกายร้อนวูบวาบก่อนหลบตาบิดตัวให้หลุดจากอีกฝ่าย

“ลุกไปเดี๋ยวนี้นะ” คนสู้ไม่ได้เริ่มเอาเสียงเข้าข่ม

“ไม่ ถ้าไม่ขอโทษ คราวนี้ฉันจะ....”

“จะทำไม” คนถูกทับเอ่ยสวนทันควัน “จะไม่กลับมาที่นี่อีกใช่มั้ย ดี! รีบไปเลย ฉันรออยู่”

“หึ ไม่ไปหรอก ยิ่งไล่ยิ่งไม่ไป จะอยู่ให้คนมันช้ำในตายกันไปข้างหนึ่งเลย”

ทิเบตยกมุมปากเหยียดยิ้ม และต้องร้องโอยเมื่อถูกเข่ากระแทกเข้ากลางหลังจนสะดุดลมหายใจตัวเอง ล้มฟุบทับร่างเล็ก

ข้าวหอมรีบผลักคนตัวหนักออกแล้วพลิกตัวจะลุกขึ้น หากถูกมือแข็งกระชากคอเสื้อไว้และใช้ร่างหนักของตัวเองทับแผ่นหลังเล็กไว้มั่น

“ไม่ให้หนีได้หรอก”

“โอ๊ย!” ข้าวหอมร้องลั่นเมื่อถูกตีเข้าที่บั้นท้ายเต็มแรง “ไอ้บ้านี่!”

“ไม่ต้องร้องเลย ถ้าไม่ขอโทษ คราวนี้ฉันจะตีแทนพ่อนายเอง”

ข้าวหอมเม้มปากแน่น พยายามตะเกียกตะกายหนีจากคนเลือดขึ้นหน้า อับอายสุดชีวิตที่โตจนปานนี้แล้วยังถูกจับตีก้น ใบหน้าขาวสะบัดเอียงคอมองคนด้านหลังอย่างชิงชัง แล้วต้องผงะด้วยอีกฝ่ายก็ก้มลงมาเช่นกัน

ราวกับจะกลืนกินลมหายใจซึ่งกันและกัน

ปัง!...ปัง!ๆ

เสียงปืนกระชากความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดของคนทั้งสอง ทิเบตปล่อยข้าวหอมแล้วกระโดดลงจากเตียงวิ่งไปเปิดประตู ส่วนข้าวหอมเองลุกขึ้นหันหาบิดา!

ร่างโปร่งรีบวิ่งออกไปนอกห้องก็เห็นบิดายกปืนลูกซองยิงขึ้นฟ้าจนฝูงผึ้งแตกฮือ “พ่อ!” ข้าวหอมเอามืออุดหูอีกครั้งเมื่อเสียงปืนดังจนแก้วหูแทบแตก

“พ่อกำนันหยุดยิงก่อน เดี๋ยวข้างบ้านแตกตื่นกันหมดนะครับ”

ทิเบตเสี่ยงลูกปืนและฝูงผึ้งเข้าใกล้ผู้สูงวัยอย่างเกรงๆ หากกำนันสิงห์ดูจะโมโหจนเลือดขึ้นหน้า หรือไม่ก็ถูกผึ้งต่อยจนบวมฉึ่งไปครึ่งหน้าถึงได้ยิงไปอีกหลายนัด กระทั่งสงบลง รอบตัวก็เงียบสงัดลงเช่นกัน

กำนันสิงห์หันมองทั้งลูกเขยและลูกตัว ก่อนเอ่ยเสียงเครียด

“วันหลังอย่าเล่นอะไรกันอย่างนี้อีก”

ไม่รู้ว่าบอกใคร แต่ทุกคนบนเรือนต่างพยักหน้ารับเงียบๆ และคนต้นเหตุก็เดินคอตกเข้าห้องไปทันที เหลือร่างสูงยืนเพียงลำพัง หันมองไปรอบๆไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมพัด

เพิ่งรู้วันนี้ล่ะว่าผึ้งก็กลัวลูกปืนเหมือนกัน...


-TBC-

เรียกร้อนฉากหวานๆ คนโพสก็อยากอ่านฉากหวานๆเหมือนกัน
เเต่ต้องรอสองผัวเมียนี่มานรักกันก่อน เอาน่า ตีกัน ต่อยกัน เดี๋ยวก็รักกัน
ผู้อ่านที่น่ารักอย่าหายไปไหนกันนะ ติดตามต่อไปนะจ๊ะ มีเเน่ๆ


ส่วนตอนนี้ ขอโทษเเฟนคลับน้องหอม ถ้าขอทำเเบบนี้ :z6:
เด็กรายวะ จับฟอดดดดเลย
เเล้วหมอจะเป็นยังไงเนี่ย โดนซะขนาดนั้น  :เฮ้อ:

เอาละ ตอนหน้าจะพาทุกคนเข้ากรุงเทพ
ฉิ่งฉับทัวร์เตรียมไว้พร้อมละ
ใครจะไปก็ลงชื่อไว้ละกาน

ออกเดินทางวันจันทร์นะ

+1 ให้คนน่ารักเหมือนเดิม


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2010 09:29:20 โดย jeab_u »

hene2526

  • บุคคลทั่วไป

Phelyra

  • บุคคลทั่วไป
ข้าวหอมโตแล้วซะเปล่า ทำอะไรเหมือนไม่มีสมองคิดว่าอันไหนดี อันไหนเลว อันไหนควรทำ อันไหนไม่ควรทำ ที่คันที่เป็นแผลก็เพราะทำตัวเองทั้งนั้นไม่ใช่หรือไง ยังจะมาหาเรื่องมาโทษหมอทิอีก ถ้าเกิดหมอทิแพ้เหล็กไนผึ้งแล้วเกิดช็อกไปจะทำไง คราวนี้ทำเกินไปแล้วนะข้าวหอม อย่ามองแต่มุมตัวเองซิค่ะ อย่ามองว่าตัวเองรู้สึกไม่ดีไม่ชอบอยู่คนเดียว อีกคนก็ลำบากใจไม่แพ้กันหรอกค่ะ :fire:
พ่อกำนันก็อีกคนหัดจัดการลูกให้เข็ดหลาบซะบ้างนะค่ะ สั่งสอนกันยังไงถึงไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร :angry2:

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
 :m20:หนีผึ้งกันอลม่าน
 :L2:ให้กำลังใจหมอ
+1สำหรับคนขยัน

ออฟไลน์ meduza

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
อยากไปๆขอไปฉิ่งฉับทัวร์ด้วยคนค่า :m1:
น้องหอมเกเรเกินไปแล้วนะทำกับพี่หมอทิขนาดนี้เลยเหรอพี่หมอน่าสงสารที่สุด
แต่พี่หมอเอาคืนได้น่ารักอีกแล้วน้องหอมโดนตีก้นเลยอิอิ :m20:
รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊าค่า
+1ให้กำลังใจพี่หมอทิ :กอด1:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
อีป้าแก่ๆ รู้สึกว่าสาแก่ใจยิ่งนัก อ่านเพลิดเพลินดีคะ สบายอกสบายใจ ยิ้มแก้มปริ

ptyunjae

  • บุคคลทั่วไป
หอมมันก็ทำเกินไปนะ
น่าจับกดจริงๆ
หรือพี่หมอว่าไง

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
จับกดแบบจริงๆจังๆสักหนดีมั้ยเนี่ย
5555555555555555
แต่เทพน่ะ จะมีความคิดแบบนั้นไปอีกนานมั้ยนะ
ถ้าสมมุติว่าเทพบอกหอมไปจริงๆน่ะ คิดว่าหอมจะไม่ผิดหวังเหรอเนี่ย

Lollipop_pop

  • บุคคลทั่วไป
ลงชื่อๆๆ ไปด้วยๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






numtan

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่หอมจะคิดได้ เลิกโยนความผิดให้อีกฝ่ายรับสักที เรื่องมันเกิดมาแล้วทำไมไม่คิดว่าครึ่งนึงก็ความผิดเรา
คิดแค้นไปก็เท่านั้น ทำไมไม่ปรับตัวเข้าหากันละ
ยิ่งอ่านก็เหมือนหอมจะเป็นพวกหนีความจริง โยนความผิด ไม่รับผิดชอบยังไงไม่รู้
จริงอยู่ที่ว่ากลัวคนนินทา กลัวคนว่า แล้วทำไมไม่คิดกลับ ว่าอีกฝ่ายก็โดนเหมือนกันอาจจะโดนหนักกว่าด้วย
เพราะเป็นหมอ สังคมกว้างกว่าตัวเองเป็นไหน ๆ เขายังทนได้และแสดงความรับผิดชอบตามที่พ่อกำนันเรียกร้อง
ตัวเองสะอีกที่ไม่กล้ารับความจริง เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ตลอด โตแล้ว เรียนจบก็สูง อย่ามองแค่มุมของตัวเองสิ

ปล.เมนต์แบบนี้คนแต่งกับแฟนคลับหอมจะถีบหนูไหมนี....

mecon

  • บุคคลทั่วไป
 :m20: :laugh: นี่ถ้าไม่ได้ยินเสียงลูกปืนของพ่อกำนันอ่ะนะ
ลูกหอมของพ่อกำนันเสียจร๊วบไปแน่ๆ ทำให้หมอโมโหเลือกขึ้นหน้าแบบนี้ได้
เก่งจริงๆอีกอย่้างยิ่งหมอเค้ารู้ว่าตัวอยากไล่เ้ข้าไปอ่ะนะผัวคนนี้คงยอมไปง่ายๆหรอกเดะน้อย
มีเมียเหมือนมีสาววัยทองมาอยุ่ข้างๆนะหมอ เลือดลมตีใหัพับๆอารมร์แปรปรวนจริงๆ
ไปข้างนอกกับชายอื่นแล้วเจ็บเนื้อเจ็บตัวมายังจะมาปากแข็งว่าผัวตัวอีกก็คนเค้าเป็นห่วง
ถ้าเกลียดขี้หน้าเค้าคงไม่แยแสหรอกไอ่หนูหอมเอ้ย ดื้อจริงๆ

สมใจพ่อกำนันลูกเขยเป็นหมอ..ก็ดีแบบนี้ล่ะเนอะเสียอย่างเดียวหายามาฉีดปากลูกตัวไม่ได้วาจาปากร้ายที่หนึ่ง :laugh: :m20:

+1 จ้า

posshiza

  • บุคคลทั่วไป
๕๕๕ พึ่งรู้เหมือนกันพี่หมอว่าผึ้งมันก็กลัวลูกปืน
ข้าวหอมนี่น่าตีจังเลย คนอะไรร้ายชะมัด

เมื่อไรตอนหวาน ๆ มันจะมาถึงอะ
เล่นตีกันแบบนี้กว่าจะได้หวานไม่ช้ำในกันก่อนหรือไงเนี่ย

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
พี่หมอจับพี่ทิตีหลายๆทีเลยพี่ซนกว่าผมอีก

originalprincessaae

  • บุคคลทั่วไป
ไปบางกอก   ไปทำอีหยังค่ะ


เอ หรือไป ทำลูก??

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
โหยย ครั้งนี้แรงอะหอม (จะว่าไปก็แรงทุกครั้ง)55
สงสารหมอทิจัง  จับตีก้นให้หายดื้อเลยๆๆๆ
ไปบางกอก ไปทำอะไรหว่า ไปด้วยคนๆๆๆ

ออฟไลน์ kazhiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-2
หอม ทำเกินไปนะแบบนี้ -*-   :m16:

ต้องให้หมอทิจัดการหนักๆเลย

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ไปกรุงเทพ.......
น้องหอมกับหมอทิไปด้วยใช่เปล่า

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
ข้าวหอมเล่นแรงงงงง  ตีก้นไม่พอค่ะ อย่างนี้ต้อง  :z13:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ แล้วก้อขอติดรถไปบางกอกด้วยคนนะคะ ^ ^

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
สงสารพ่อกำนัน กะหมอทิ
น้องหอมเล่นแรงไปนะ  :m16:
+1

daizodiac

  • บุคคลทั่วไป
น้องข้าวหอมนี่ดื้อจริงเชียว..
หวั่นใจเรื่องนายเทพจริงๆ = =;;

yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มแรงแล้วน่ะน้องข้าวหอม ถ้าหมอทิเป็นไรไปจะทำงัยเนี้ย

Jesale

  • บุคคลทั่วไป
ข้าวหอม เล่นแรงไปไหมจ้ะ
เวลาพี่หมอเอาคืนจะแย่นะ เด๋วจะลุกไม่ขึ้น  :o8:

ออฟไลน์ kunkai

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
ตลกดี :laugh3:
หล่อๆกับน่ารักโดนผึ้งต่อย
ดูไม่จืดเล๊ย
พ่อกำนันเลยพลอยโดนไปด้วย
:eiei1:

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
น้องหอมเล่นแรงงงงงงจริง ๆ


มาลงที่พ่อกำนันทุกที หึหึ

zemicolon

  • บุคคลทั่วไป
สงสารพี่หมอทิไปเลยจริงๆ

ทำไมข้าวหอมถึง ไม่ชอบขี้หน้าขนาดนี้ก็ไม่รู้

พี่หมอสู้ๆ

 :3123: :3123: :3123:

ออฟไลน์ yr_meteor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0

หมอทิ สู้ๆ   :L2:

อย่างนี้ต้องให้หมอทิลงโทษหนักๆ ฮ่าๆ

 

liTTle.SaLapaO

  • บุคคลทั่วไป
พี่หอมเล่นแรงอ่ะ เลิกดื้อเถอะนะพี่หอม พี่หมอจัดการขั้นเด็ดขาดเลยนะ เอาให้ไม่กล้าเลย

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Ayame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
น้องหอมร้ายขึ้นทุกตอนนะ เวลาลงโทษคงต้องทบต้นทบดอกกันเยอะเลยทีเดียว  :laugh3:

ตอนนี้พ่อกำนันมาดโหดแฮะ เล่นเอาทั้งคนทั้งผึ้งกลัวกันหมด 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด