มาค่ะ มาอ่านตอนต่อไปกันนะคะ
เขียนเรื่องนี้ทีไร คนเขียนก็มีความสุขทุกที แล้วก็....เขินด้วย กร้ากกกกกกส์

....................
....................
ตอนที่๓๔ น่าสงสารจริงๆ
“ความจริงผมไม่ชอบกินกาแฟเลย แต่ถ้าเป็นกาแฟรสพี่ฟ้า ผมจะชอบกินก็ได้.....”ก็นะ.....ตามบทแล้ว พูดกันถึงขั้นนี้แล้ว กิจกรรมต่อไปของสองคนมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นแหละ
แบบตามครรลองของธรรมชาติน่ะ
ดูสิ จูบกันอีกแล้ว แต่คราวนี้แปลกนะ ทั้งขนมปังปิ้ง ไข่ดาว เบคอน ไส้กรอก ซอสมะเขือเทศ แถมนมสดอีก
ทำไมไม่มีเสียงไอ้หนูป่วนมันวิจารณ์รสชาติหว่า??
“อืม.....”
คราวนี้เสียงครางบ่งบอกว่ากำลังพอใจมากดังมาจากปากของพี่อากาศ
มือใหญ่ๆลูบไล้ปัดป่ายไปตามแผ่นหลังของไอ้ตัวเล็ก
“อ่ะ......พี่ ฟ้า.....ไปบนห้องก่อน” ปฏิเสธไปปากก็จูบตอบไป ตัวป่วนกับพี่ฟ้าของมันส่งลิ้นออกมาพันกันจนแทบแยกไม่ออกว่าลิ้นใครเป็นลิ้นใคร
พี่อากาศแกก็ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ทานข้าวเอนหลังพิงพนักดีอยู่หรอก
แต่ไอ้ตัวป่วนสิ มันคงอยากแย่งเก้าอี้พี่เขาแต่ไม่สำเร็จ เลยนั่งซ้อนหันหน้าเข้าหา ขาสองข้างอ้ากว้างคร่อมตักพี่อากาศตัวโตเอาไว้
“โซฟาละกัน นะครับ.......นะ” สงสารพี่อากาศ เจอเด็กมันยั่วไม่รู้ตัว ยิ่งไอ้ตัวเล็กบนตักมันขยับตัวเสียดสี ตรงนั้น.....ก็เจ้าอวัยวะไวสัมผัสของพี่อากาศเลยแข็งขึงขึ้นมาได้ง่ายๆ
มือพี่แกจากที่ลูบหลังตัวป่วนอยู่นอกเสื้อนอนผ้าฝ้ายจึงเริ่มสอดเข้าไปใต้เนื้อผ้า
อยากสัมผัสผิวเนียนๆลื่นมือนั่นจนแทบทนไม่ไหว
ก็แกกำลังเสียเปรียบนี่ เพราะตัวเองไม่ได้ใส่เสื้ออยู่แล้ว มือไม้ไม่อยู่สุขของไอ้ตัวเล็กบนตักถึงได้สัมผัสลูบไล้ไปทั่ว ถึงจะเป็นอาการลูบแบบสะเปะสะปะไม่มีทิศทาง
แต่สัมผัสจากมือนิ่มๆอุ่นๆก็ทำเอาร่างกายของพี่อากาศตัวโตร้อนผ่าวไปหมด
“อื้ม มะ......ไม่เอา ไปข้างบน นะ อ๊ะ อื้อ.....”
ด้วยความที่ทักษะดี ทั้งที่ยังป้อนจูบดูดดื่มโต้ตอบไอ้หนูป่วนอยู่อย่างนั้น พี่อากาศก็ใช้เวลาไม่นานในการปลดกระดุมเสื้อนอนของมันซะ
แล้วลุกขึ้นยืนทั้งที่หนูป่วนมันยังคาอยู่บนตัก
มือของพี่แกเลื่อนมาประคองอยู่ที่สะโพกตึงแน่นที่ให้สัมผัสหยุ่นมือทั้งสองข้าง ออกแรงเกร็งแขนยกตัวมันเอาไว้พร้อมทั้งค่อยๆเดินไปทางทิศที่มีโซฟาหนานุ่มตั้งอยู่
“อย่า....ไปในห้องก่อน พะ พี่ฟ้า.....อะ...อืม.....”
ปากก็บอกให้ไปที่ห้องก่อน แล้วไอ้อาการแอ่นตัวป้อนเม็ดทับทิมน้อยๆให้พี่เขาถึงปากนั่นมันอะไรกันไอ้หนูป่วน
แล้วยังเสียงครางนั่นอีก ก็บอกให้หัดไว้ท่าบ้าง หวงเนื้อหวงตัวบ้าง
มือน่ะ ผลักหน้าพี่แกออกไปสิ ไม่ใช่กดให้เข้ามาหา ดูมัน ปากบอกไม่แล้วที่แกทำนั่นมันอะไร????
พี่อากาศก็อีกคน ลิ้นน่ะจะไวไปไหน ตวัดเลียยอดอกเล็กๆนั่นเร็วอย่างกับควบคุมการทำงานด้วยมอเตอร์
รู้แล้วน่ะว่าพี่รักความเสมอภาค เล่นกับข้างซ้ายเสร็จก็ต้องไปเล่นกับข้างขวาด้วย ไม่งั้นเดี๋ยวมันน้อยใจสินะ
พี่อากาศแกก็เก่งนะเนี่ย ขนาดวุ่นวายอยู่กับร่างกายตัวป่วนมันขนาดนั้นก็ยังอุตส่าห์เดินมาวางมันให้นอนลงกับโซฟาจนได้
ไอ้หนูป่วนมันเลิกส่งเสียงปฏิเสธไปแล้ว ตอนนี้ได้แต่บิดตัวไปมา หน้าตาแดงก่ำ เสื้อนอนที่ถูกแกะกระดุมออกจนหมดก็ยังคาอยู่กับไหล่นั่นแหละ
แต่ตรงกลางที่เปิดอ้าออกก็พอจะให้พี่อากาศแกซุกไซ้ดูดดุนได้สมใจแล้ว
ยอดอกสีชมพูกลายเป็นสีแดงจัดขึ้นทันตา ยิ่งถูกกระตุ้นแตะต้องก็ยิ่งตั้งชูชันยั่วให้คนมองยิ่งอยากจะกินเข้าไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด
เหลือบตาขึ้นมองไอ้ตัวเล็กจอมยั่วตรงหน้าก็เห็นดวงตาหรี่ปรือจนเกือบปิดส่งสายตาเยิ้มๆลงมาให้
ปากบางฉ่ำนั่นถูกฟันของเจ้าตัวขบริมฝีปากล่างไว้แน่น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเสียงครางแผ่วต่ำเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินอยู่ดี
“ยังจะให้ขึ้นไปบนห้องก่อนอยู่มั้ยครับ?”
ไม่ถามเปล่ามือยังค่อยๆดึงกางเกงนอนขายาวนั่นลงมาจนเกือบจะพ้นสะโพกด้วย
ไอ้หนูป่วนเด็กน้อยตรงไปตรงมาพูดอะไรไม่ออก ตอบโต้ไม่ได้ เพราะถูกผู้ใหญ่ตัวโตแกล้งโดยการปล่อยขอบยางยืดของกางเกงค้างคาอยู่ระดับเดียวกับส่วนหัวของส่วนอ่อนไหวที่แข็งขืนขึ้นมาไม่ต่างกัน แถมยังแกล้งขยับเอวกางเกงของมันไปมาให้เสียดสีกับแก่นกายร้อนรุ่มนั่นอีก
“อื้อ”
“อื้อ.....แปลว่าอะไรล่ะเนี่ย หืม?”
///แอ๊ดดดดดดดดด///
“เฮ้ยยยยยยยยยยย!!!”
“เฮ้ย!! ชมพู”
“พี่ภพ!!”เอ่อ.....นั่นแหละ คุณพิภพหรือพี่ชมพู น้องชายคนเดียวของพี่อากาศแกเปิดประตูเข้ามา
น่าสงสารนะ มือข้างหนึ่งยังถือถุงที่คาดว่าจะบรรจุเต็มด้วยของฝากจากเมืองเหนือ ส่วนตาก็จับจ้องค้างอยู่ที่แผ่นหลังของพี่ชายที่ทาบทับอยู่บนตัวเล็กๆของไอ้น้องคณะตัวแสบ ที่เมื่อกี้โผล่หน้าขาวๆขึ้นมาดูแวบนึง แล้วพอเห็นว่าเป็นใครก็อุทานเรียกชื่อพี่คณะมันเสียงดังแล้วผลุบหัวหายลงไปซ่อนอยู่ใต้แผ่นหลังกว้างๆของพี่อากาศแกอีกครั้ง
พี่อากาศดูจะรวบรวมสติได้ก่อนใคร พี่แกจัดการดึงกางเกงไอ้ตัวเล็กขึ้น รวบสาบเสื้อทั้งสองข้างเข้ามาแล้วกลัดกระดุมเข้าไปใหม่อย่างรวดเร็วไม่แพ้ตอนแกะ พอเสร็จก็อุ้มไอ้หนูป่วนขึ้นในท่าอุ้มเด็กเข้าเอว
ไอ้หนูป่วนก็โอบแขนรอบคอ ตวัดขาสองข้างรัดรอบเอวพี่อากาศแกไว้แน่น หน้าก็ซุกเข้ากับซอกคอไม่ยอมเงยหน้ามองพี่ชมพูที่ยังยืนนิ่งตาค้างอยู่ตรงโถงหน้าประตูเลยสักนิด
“เดี๋ยวเราลงมาคุยด้วย”พี่อากาศส่งเสียงเรียบๆบอกน้องชายคนเดียวขณะอุ้มไอ้ลูกลิงเดินผ่านไปขึ้นบันได
เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนได้พี่อากาศแกก็วางลูกลิงที่กระเตงเข้าเอวขึ้นมาลงบนเตียง พอจะผละออกจากห้องไปคุยกับพี่พิภพไอ้หนูป่วนก็ยึดขากางเกงเอาไว้แน่น
พี่แกเลยต้องทรุดตัวลงนั่งข้างๆกอดไอ้ตัวเล็กที่ตอนนี้สีหน้ามันเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีดสลับกันไปมาไว้กับอก แล้วโยกตัวไปมาช้าๆ
“ไม่เห็นมีอะไรต้องกังวลเลย เชื่อพี่นะ เดี๋ยวตัวป่วนอาบน้ำซะ พี่หยิบเสื้อผ้าวางไว้ให้บนเตียงนะครับ”
“ครับ ไม่กังวลก็ได้”
“งั้นคนเก่งของพี่ยิ้มหน่อยสิครับ”
ไอ้หนูป่วนมันเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มหวานๆให้หนึ่งยิ้ม พี่อากาศก็จุ๊บลงไปบนปากแดงๆนั่นหนึ่งจุ๊บ
ทำเอาไอ้ตัวที่หน้าซีดสลับแดงอยู่เมื่อกี้เปลี่ยนมาหน้าแดงอย่างเดียวไม่มีซีดจนได้
“ผมไม่กังวลแล้ว แต่.....”
“แต่?”
“ผมคงไม่กล้ามองหน้าพี่ภพแล้วแหงเลย อายจังอ้ะพี่ฟ้า.......”
ไอ้หนูป่วนหน้านิ่วคิ้วขมวดแถมทำปากเบะเหมือนเด็กน้อยถูกขัดใจเสียอย่างนั้น พี่อากาศเลยยกมือขึ้นข้างหนึ่ง เอานิ้วชี้กับนิ้วโป้งเขี่ยตรงหว่างคิ้ว
ง้างให้คิ้วที่ขมวดๆอยู่คลายออกจากกัน
“เอ๊....ใครไม่รู้เคยบอกพี่ว่าถ้าขมวดคิ้วบ่อยๆจะหน้าแก่เร็ว”
“.........เอ๊....ใครบางคนจะรู้มั้ยน้า ว่ามีคนอยากหน้าแก่เร็วๆ จะได้แก่เป็นเพื่อนคุณแฟน”แหมๆๆๆ ช่างกล้าเนอะ กล้าพูดออกมาได้หน้าตาเฉย
แล้วอะไรของแกล่ะนั่น อยู่ๆก็หน้าแดง พูดเองอายเอง พุ่งตัวมุดใต้แขนพี่อากาศผลุบเข้าห้องน้ำไปซะงั้น
ทิ้งให้พี่อากาศนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อารมณ์ดีอยู่คนเดียว
ก่อนจะถอนหายใจหนึ่งเฮือก แล้วเปิดประตูเดินลงไปเผชิญหน้ากับน้องชายคนเดียวอีกครั้ง
.............................
.............................
..โปรดติดตามตอนต่อไป..