คือว่ามันยาว แล้วก็เขียนนานมาก เลยมาช้า
แต่ๆๆๆ ในที่สุดข้างเรื่องตอนนี้ก็คลอดแล้วนะคะ
ใครที่รอข้างเรื่อง เชิญมาอ่านค่ะ อย่างน้อยก็ช่วยชุบชูจิตใจจากสถานการณ์บ้านเมืองนะคะ ^o^
.....................................
คำเตือน ตอนที่ท่านกำลังจะอ่านต่อไปนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์หญิงและชาย
ดังนั้น หากท่านใดรับไม่ได้ กรุณากดข้ามไปด้วยนะคะ หุๆ 
............................
............................
ตอนพิเศษ นอกรอบ.....ข้างเรื่อง (6)
“นุ่น นุ่น!!”“อือ?”
ลอยเข้าโลกส่วนตัวไปอีกแล้วไอ้คุณนุ่น ขนาดยืนเบียดเป็นปลากระป๋องอะยัม(ต้องอะยัมเพราะแน่นสุดๆ)อยู่บนรถเมล์แท้ๆ มันยังอุตส่าห์เข้าภวังค์ได้ นับถือมันจริงๆ
“จะสั่งแล้ว อยากกินหน้าอะไร?”
ชิ ทำมาถามมัน ไม่รู้ตัวเหรอ เพราะแกแหละไปมองมันด้วยแววตาแบบไหนเข้าล่ะไอ้คุณนุ่นมันถึงลอยได้ขนาดนี้น่ะ
“อะไรก็ได้แต่ใส่เห็ดด้วยนะ แล้วก็สั่งไอศกรีมมาด้วย”
ไอ้นี่ก็นะ ถึงจะเข้าภวังค์แค่ไหนแต่พอเป็นเรื่องกินนี่ไม่มีพลาดจริงๆ
ไอ้คุณแผนโทรสั่งพิซซ่าเสร็จก็หันกลับมาสนใจผู้หญิงบ้าตรงหน้า ที่ตอนนี้นอกจากบ้าแล้วยังทำหน้ายุ่งอีกด้วย
“เป็นอะไร คิดอะไรอยู่?”
“...............”
“นุ่น...?”
“กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่” ไอ้คุณนุ่นมันคงเก็บตกสติที่กระเจิดกระเจิงกลับมาหมดแล้ว ถึงได้หันมาตอบคำถามไอ้คุณแผนมันได้หน้าตาเฉย
“ข้อมูลอะไร?”
“ไม่บอก”
ไอ้คุณนุ่นปฏิเสธที่จะตอบ แล้วก็จุดประกายแววตาริกๆเจ้าเล่ห์ขึ้นมาเมื่อจับได้ถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไปแวบหนึ่งของไอ้เพื่อนแผนที่เคยแต่ทำหน้านิ่งตลอดศก
แล้วเลยต้องก้มหน้าซ่อนแววตาตัวเองไว้ก่อนจะย้ำถามซ้ำ
“......ทำไม อยากรู้ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ก็....เห็นทำหน้ายุ่งๆ”
แหม....เก๊กจริงเว้ย ไอ้นุ่นมันแอบๆเหลือบตาดูก็ยังเห็นว่าหน้าไอ้คุณแผนมันนิ่งอยู่หรอกนะ แต่.....เสียใจด้วยนะแผน เมื่อกี้ที่แกเผลอแสดงอารมณ์อ่อนไหวบางอย่างออกมา ไอ้นุ่นมันเห็นแล้วเว้ย
“ไว้ว่างๆจะบอกแล้วกัน”ไอ้คุณนุ่นมันว่าอย่างนั้น แล้วไอ้คุณแผนเพื่อนรักที่รักเพื่อนมันจะทำอะไรได้ล่ะ ก็ต้องทนยืนหน้านิ่งอยู่บนรถเมล์นั่นแหละ จนกระทั่งถึงป้ายรถเมล์ที่ต้องลง สองคนมันก็ลงไปด้วยกัน
...........................
...........................
สิบห้านาทีต่อมาสองคนก็ลงจากรถมาเรียบร้อยแล้วเดินเข้าซอยไปด้วยกัน พอเข้าไปในบ้านได้ไอ้คุณนุ่นก็ท่อแตกวิ่งรี่เข้าห้องน้ำทันที ออกมาก็ล้างหน้าล้างตาสดชื่นขึ้นเยอะ แต่....อย่าได้คิดว่ามันจะล้างความดำลงได้นะ หน้ามันก็ยังดำอยู่เหมือนเดิมแหละ
เห็นไอ้นุ่นเดินออกมาไอ้คุณแผนก็เปิดประตูสวนเข้าห้องน้ำไปบ้าง ส่วนไอ้ผู้หญิงบ้าที่ตอนนี้มีแผนบางอย่างในใจก็เดินมานั่งแปะลงกับโซฟาชุดรับแขก
เห็นไอ้คุณแผนกลับเข้ามาในส่วนรับแขกที่เป็นห้องกลางเอาไว้นั่งเล่นไปด้วยก็เริ่มแผนการทดสอบบางอย่างที่กำลังสงสัยโดยการเรียกร้องทันที
ก็ไอ้คุณนุ่นมันว่ามันเป็นนักวิทยาศาสตร์ เมื่อสงสัยอะไรก็ต้องหาคำตอบ ขั้นแรกเลยก็ต้องเริ่มด้วยการสังเกต จากนั้นก็ตั้งสมมติฐาน ได้สมมติฐานแล้วก็รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการทดลอง จากนั้น เมื่อได้ผลการทดลองแล้วจึงนำมาวิเคราะห์อีกที ก่อนจะสรุปผลแล้วได้คำตอบออกมา
อย่าช้า.....เอาเลยดีกว่า เริ่มการทดลองขั้นแรก
“แผนนนนนนนนนนน หิวน้ำอ้ะ” แหม...ดูมัน ดูมันอ้อน ลากเสียงเรียกชื่อแผนซะ เสียงอ่อนเสียงหวานเชียวนะแก
“อยู่ในตู้เย็นไง ไปหยิบเอาดิ”
อ้าว ไรวะ อุตส่าห์อ้อน ไอ้แผนบ้า หรือที่สงสัยมันจะไม่ใช่ล่ะฮึนุ่น? ตอบแล้วไม่สนใจด้วยนะ เดินเลยขึ้นบ้านไปอีกต่างหาก ไอ้คุณนุ่นได้แต่บ่นในใจแล้วก็......เออ ไปหยิบเองก็ได้วะ
เอาล่ะ ไอ้คุณนุ่นยอมตัดใจจากการได้รับการบริการหยิบน้ำจากไอ้คุณแผนแล้ว มันเดินไปรินน้ำใส่แก้วมานั่งแปะบนโซฟาเหมือนเดิม
คราวนี้ไอ้คุณแผนผู้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกทดสอบเดินลงมาจากชั้นบนด้วยคอสตูมกางเกงบอลกับเสื้อยืดเน่าๆย้วยๆอีกตัว ก็พอดีเสียงโทรศัพท์ดัง พอรับก็ปรากฏว่าเป็นพิซซ่ามาส่ง ไอ้นุ่นตัดสินใจเริ่มบททดสอบต่อไปโดยการเดินเฉียดผ่านหน้าไอ้คุณแผนออกไปรับเอง ในใจก็คิด ถ้าเป็นไปตามสมมติฐาน มันต้องอยากบริการสิ ไอ้แผนมันต้องห้ามแล้วก็บอกว่าเดี๋ยวออกไปรับเองแน่ๆ
ไอ้คุณนุ่นเลยใช้เวลาในการย่างก้าวแต่ละก้าวนานกว่าปกติ แต่ขนาดก้าวเป็นภาพสโลว์ขนาดนั้นก็ยังไม่มีการยับยั้งจากไอ้คุณแผนผู้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเลยสักนิด ไอ้คุณนุ่นมันก็จัดการรับพิซซ่าพร้อมทั้งจ่ายเงินไป ในใจก็เริ่มพร้อมจะล้มสมมติฐานของตัวเองลงทุกที
เดินกลับเข้ามาในบ้านพร้อมของกินเต็มไม้เต็มมือ ก็พบว่าไอ้ผู้ต้องสงสัยหน้านิ่งเป็นกิจวัตรเตรียมแก้วน้ำพร้อมเหยือกใส่น้ำแดงชงผสมกับน้ำเปล่าใส่น้ำแข็งบดลอยหน้าวางไว้พร้อม เลยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้สมมติฐานขึ้นมานิดหน่อย เนื่องจากไอ้คุณแผนมันแสดงออกว่าจำได้ว่าตัวมันไม่ชอบน้ำอัดลม
วางของกินในมือลงกับโต๊ะไม้เตี้ยๆหน้าโซฟา หยิบกระปุกไอศกรีมออกดูก็ต้องส่งบวกให้สมมติฐานเพิ่มไปอีกเพราะรส Strawberry Banana ‘n Cream รสที่ไอ้คุณนุ่นมันชอบ เพราะถ้าเป็นรสที่ไอ้เพื่อนแผนชอบต้องเป็นตระกูลพวกช็อคโกแล็ตทั้งหลาย
ไอ้คุณนุ่นที่ตรงไปตรงมาไม่มีเปลี่ยน ดีใจก็ยิ้ม เสียใจก็ร้องไห้ เสียดายก็บ่น เลยอยู่ในอารมณ์ปลื้มจนยิ้มไม่หุบ เดือดร้อนไอ้คุณแผนอีกว่าวันนี้ไอ้คุณเพื่อนรักของมันเป็นอะไรไป บนรถเมล์ก็นั่งหน้ามุ่ย เมื่อกี้ตอนมาถึงบ้านใหม่ๆก็ทำเหมือนไปกินรังแตนมา ขมวดคิ้วนิ่วหน้าจนน่ากลัวหน้าจะเป็นตะคริว
แล้วดูตอนนี้สิ ห่างกันไม่ถึงห้านาที ทำไมมันเอาแต่ยิ้มไม่หุบอย่างนี้หว่า......
“เป็นอะไรน่ะ?”
“ก็.....มีความสุขไง”
“หืม?”
“ก็......เหมือนใกล้จะได้คำตอบตามสมมติฐานน่ะ”“สมมติฐาน?”
“เออน่ะ ไว้ว่างๆแล้วจะบอก กินกันเหอะ เดี๋ยวเย็นแล้วไม่อร่อย”
พูดตัดบทง่ายๆอย่างนั้น แล้วก็หยิบพิซซ่าขึ้นมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย แล้วคนหน้านิ่งเก๊กขรึมเกือบตลอดเวลาอย่างไอ้คุณแผนน่ะ มีหรือจะมาเซ้าซี้ ถึงเวลากินก็กินไปเรื่อยๆ อร่อยมั้ย...ก็งั้นๆแหละ แต่ได้กินมื้อเย็นกับไอ้นุ่นมันสองคนอย่างนี้ก็มีความสุขดี
อีกอย่าง ไอ้คุณแผนมันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่พอได้กินอาหารพร้อมไอ้นุ่นมันทีไร ไม่ว่าจะมื้อไหนไอ้คุณแผนมันก็มีอันเจริญอาหารได้ทุกที สงสัยจะเพราะไอ้นุ่นมันกินอะไรก็ดูน่าอร่อยไปหมดมั้ง คนกินด้วยอย่างมันเลยพลอยรู้สึกว่าอาหารรสชาติธรรมดาแค่ไหนก็อร่อยไปด้วย
กินกันไปไอ้นุ่นมันก็เรียกร้องจะเอาโน่นเอานี่ไป เดี๋ยวจะเอาซอส เดี๋ยวเรียกให้ช่วยเติมน้ำให้ทั้งๆที่เหยือกก็วางอยู่ตรงกลางระหว่างสองคนนั่นแหละ หยิบมารินเองก็ไม่ได้ไกลมือเลยสักนิด
แต่ไอ้คุณแผนที่มัวแต่เพลินกับมื้ออาหารแสนสบายใจจนลืมเก๊กก็มัวแต่ตามใจ ไอ้นุ่นมันสั่งอะไรเรียกร้องอะไร ไอ้คุณแผนมันก็ทำให้ทุกอย่างไม่มีเกี่ยงงอน ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองเผลอเผยสายตาอ่อนโยนจนบางครั้งเกือบจะเป็นอ่อนหวานให้ไอ้นุ่นมันจับสังเกตได้ตลอด
เห็นอย่างนี้แทนที่ไอ้นุ่นมันจะภูมิใจ มันกลับเริ่มสำนึกว่าตัวเองช่างเซ่อจริงๆ นี่ถ้าตั้งใจสังเกตไอ้แผนมาก่อนหน้านี้ คงไม่ต้องเสียเวลามาตั้งนานแล้วแท้ๆ
///ซู่............. โครมมมมมมมมมม///“ซวยแล้วแผน ฝนตกอะ”
“เดี๋ยวแผนขึ้นไปปิดหน้าต่างข้างบนก่อนนะ”
“อืม เดี๋ยวนุ่นไปดูหน้าต่างหลังบ้านให้”
ดูแลไม่ให้ฝนที่อยู่ดีไม่ว่าดีก็กระหน่ำเทลงมาอย่างแรงไม่สาดเข้าบ้านเสร็จสองคนก็มานั่งมองหน้ากัน พิซซ่ายังถูกทิ้งเหลือคากล่องอยู่อีกสองชิ้น สองคนส่งยิ้มให้กันอย่างหน่ายกับพายุฝนหลงฤดู แล้วไอ้นุ่นมันเลยนึกขึ้นได้ถึงเหตุผลเด็กน้อยที่ไอ้คุณแผนมันใช้เป็นข้ออ้างชวนมาบ้าน
“ไหนอ้ะเกมเศรษฐีแก เอามาดิ”
“อืมๆ รอแป๊บ เดี๋ยวเอาพิซซ่าเหลือไปใส่ตู้เย็นก่อน”
“ไปหยิบเหอะ เดี๋ยวนุ่นจัดการตรงนี้ให้เอง”
พอไอ้คุณแผนถือกล่องเกมเศรษฐีเดินมาโต๊ะไม้เนื้อแข็งหน้าโซฟาก็เหลือแค่กระบอกใส่น้ำเย็นกับขันน้ำสแตนเลสที่ไม่รู้ไอ้นุ่นไปขุดมาจากซอกไหนของตู้ตั้งไว้แค่สองอย่าง
ไอ้แผนมันก็ไม่ว่าอะไร ชินกับไอ้นุ่นมันแล้ว บางทีมันก็มักจะเลือกใช้ของที่แปลกออกไปจากคนอื่นอย่างนี้แหละ คราวก่อนที่ไปบ้านมันมันก็อยู่ในชุดไม่ผิดจากที่แม่ของมันเรียกว่าแจ๋วจริงๆ
ก็มันเล่นใส่เสื้อยืดตัวโคร่งกับนุ่งผ้าถุงมีเชิง แถมพอเขม้นดูตอนช่วยทำความสะอาดไอ้แผนมันยังแน่ใจด้วยว่าตรงบั้นเอวเล็กๆกลมๆนั่นไม่มีเข็มขัดแน่นอน ไอ้ผู้หญิงบ้าคนนี้นุ่งผ้าถุงอยู่บ้านโดยใช้แค่มุมผ้าผืนนั้นแหละเหน็บเอวไว้ แล้วก็ทำกิจวัตรทุกอย่างได้อย่างเป็นปกติ
ไอ้นุ่นมันแปลก มันรับกับทุกเรื่องทุกแนวความคิดได้แบบคนยุคนี้แท้ๆ แต่ตัวมันเองกลับเลือกมีชีวิตบางมุมที่เหมือนกับผู้หญิงหัวเก่า
“อะไรอ้ะ แผน โกงรึเปล่า ทำไมนุ่นต้องพักอีกแล้วล่ะ”
เออ ดูมัน เล่นเกมเศรษฐียังมาโบ้ยว่าไอ้แผนมันโกงได้ ตัวเองทอยลูกเต๋าไม่ได้เรื่องเองแท้ๆ
“หึๆๆ” ไอ้นี่ก็ไม่ตอบโต้ ขำอะไรนักหนา มันพาลแกอยู่นะเว้ย
“ไม่รู้แหละ แผนห้ามซื้อที่ดินนิวยอร์คนะ นุ่นจองแล้วด้วย” เออเนอะ ตัวเองถูกพักหนึ่งตายังจะไปกั๊กเขาอีก
“จ้ะ คุณผู้หญิง” ได้ยินไอ้คุณแผนมันรับคำมาแบบนั้นแถมยิ้มตาหยีส่งมาให้ ไอ้คุณนุ่นเลยรีบก้มหน้าลงมองพื้น เสทำเป็นสนใจอยู่กับโฉนดที่ซื้อสะสมมาได้ตรงหน้าทันที ได้แต่คิดตั้งสติภาวนาให้ตัวเองลดอัตราการเต้นของหัวใจลงเร็วๆ
เพราะเพิ่งเข้าใจว่าตัวเองกำลังเขิน เขินเพราะแค่คำพูดรับคำสั้นๆของไอ้คนที่เป็นเพื่อนกันมาเกือบปี ในใจไอ้คุณนุ่นมันก็คิด เวรกรรม.....หน้าร้อนไปหมดแล้ว ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นเลย ถ้าหน้าร้อนขนาดนี้คงจะหน้าแดงแน่ๆ แล้วจะกล้าสู้หน้าไอ้แผนมันได้ยังไง
“แผนนนนนนนน นุ่นอยากกินไอติมแล้วอ้ะ แผนไปหยิบให้นุ่นหน่อยสิจ๊ะ นะ”กัดฟันข่มความอายเรียกร้องจากไอ้คุณแผนมันไป เห็นทางหางตาว่ามันลุกไปทางครัว คงไปหยิบมาให้ไอ้คุณนุ่นก็ค่อยๆลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ในใจก็ได้แต่คิด....ไปนานๆหน่อนนะแผนนะ ขอเวลานุ่นข่มใจ ข่มความอายก่อน ฝนบ้าข้างนอกก็ไม่ยอมหยุดตกเสียที จะหนีกลับบ้านดื้อๆคงไม่ได้
เอาวะ ยังไงก็ตั้งใจจะทดสอบสมมติฐานอยู่แล้วนี่ ต้องทำให้ถึงที่สุด....
โอเค....พร้อมแล้ว กลับมาได้“อ้ะ นุ่น” ถังไอศกรีมรสโปรดถูกวางลงบนโต๊ะพร้อมทั้งถ้วยแก้วอีกใบกับช้อนคันเล็กๆ
“จะกินเลยใช่มั้ย?”
“อืม”
ไอ้นุ่นส่งเสียงตอบในคอพร้อมทั้งพยักหน้าตาจ้องเป๋งไปที่ไอศกรีม เลยพลาดรอยยิ้มเอ็นดูที่แวบผ่านในสีหน้าของไอ้เพื่อนตัวสูงเป็นเปรตที่เมื่อได้ยินเสียงรับคำและเห็นสายตาแบบนั้น ก็เริ่มลงมือเปิดกล่องแล้วจัดการตักไอศกรีมมาใส่ถ้วยให้เสียเอง
เรียบร้อยแล้วก็เลื่อนถ้วยแก้วนั่นไปวางตรงหน้าคนอยากกินที่เอาแต่มอง ไม่ช่วยทำอะไรสักอย่าง
แถมยัง....ไม่ยอมตักกินเองเสียด้วย
“ทำไมไม่กินล่ะ?”
“ป้อนหน่อยสิ นะๆ” แทนที่จะตักกินไอ้นุ่นมันก็เลื่อนถ้วยไอศกรีมกลับไปวางตรงหน้าคนตักมาให้เสียอย่างนั้น แล้วยังเอ่ยปากขอในสิ่งที่ทำให้ไอ้คุณแผนมันตกใจจนตาที่โตอยู่แล้วเบิกกว้างขึ้น แถมยังอ้าปากค้างอีกต่างหาก
อย่าว่าแต่ไอ้คุณแผนเลย ไอ้นุ่นมันก็ตกใจตัวเองเหมือนกัน ก็มันห้ามปากไม่ทันนี่นา ไอ้อาการคิดอะไรก็พูดไปอย่างนั้น ตรงไปตรงมาจนน่ากลัวทำพิษเสียแล้ว แล้วอย่างไอ้คุณนุ่นมีหรือจะแก้ปัญหาด้วยวิธีธรรมดาอย่างแกล้งทำมึนหยิบช้อนหยิบถ้วยมากินอย่างสงบเสงี่ยม เอ่อ.....อย่าได้หวัง
เพราะที่ไอ้คุณนุ่นมันทำคืออย่างนี้ต่างหาก
“อะ อ้ามมมมมม”
นั่นแหละ ก็ไอ้คุณแผนมันอ้าปากอยู่นี่ ไอ้นุ่นมันเลยหยิบช้อนตักไอศกรีมแล้วป้อนเข้าปากมันไปเสียเลย
“โธ่เอ๊ยแผน อยากกินก็ไม่บอก มิน่าไม่ยอมป้อนนุ่น ที่แท้ก็จะให้นุ่นป้อนนี่เอง”ไอ้คุณแผนที่มีไอศกรีมคำใหญ่แถมยังเย็นเจี๊ยบอยู่ในปากตอบโต้ไม่ได้ ได้แต่เลยตามเลยปล่อยให้ไอ้ผู้หญิงบ้ามันป้อนไปตามใจอยาก ทีนี้ไอ้นุ่นมันไม่แค่ป้อนใส่ปากเพื่อนสิ มันป้อนไปแล้วก็นึกอะไรดีๆออก เลยสลับมาป้อนเข้าปากตัวเองบ้าง
แอบๆเหลือบตามองหน้าไอ้เพื่อนแผนที่ยังทำหน้าหมาเอ๋อ พูดไม่ออกบอกไม่ถูกอยู่ก็เลยเห็นว่าเริ่มจะหายเอ๋อแล้ว แต่กลายเป็นหมาเขินแทน แหม....หมานี่เวลาอายหน้ามันก็แดงได้เหมือนกันเว้ย
ป้อนกันไปมาจนหมดถ้วย ไอ้นุ่นมันก็เลื่อนตัวเองกลับมาที่ฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง พอดีกับเสียงเรียกโทรศัพท์ของมันดังขึ้น
###เฝ้าคอยรอ fun fun fun กับเธอนะ fun fun fun###“นุ่นเจ้าค่ะ เจ้าค่ะคุณนาย ฝนตกหนัก นุ่นติดฝนอยู่บ้านแผนเนี่ย อืม ออกไปไม่ไหวอะตอนนี้ กินแล้ว ฉลองสอบเสร็จไงเลยสั่งพิซซ่ามากินกัน อะไรนะจะพูดกะลูกชายสุดที่รัก ได้ๆ”
“อ้ะ คุณนายจะพูดกะแผนแน่ะ”
“ครับแม่ ครับ อ๋อ ครับ ได้ครับ เข้าใจแล้วครับ”
###ตื๊ดดดดดดดดดดดดด ตื๊ดดดดดดดดดดดดด###
“เฮ้ย ไรอ้ะ? วางไปแล้วเหรอ?”
“อื้ม รู้แล้วใช่มั้ย?” พวกแกรู้อะไรกัน แล้วทำไมแกต้องทำหน้ากระอักกระอ่วนอย่างนั้นด้วยไอ้คุณแผน
“อาฮะ คุณนายบอกถ้าฝนตกหนักมากไม่ต้องกลับ ให้ค้างบ้านนี้เลย”
“อืม....จะสามทุ่มแล้วด้วย กลับดึกๆแถมฝนตกอย่างนี้มันอันตราย”
“แล้ว.....อยู่บ้านนี้จะไม่มีอันตรายใช่มั้ย?”
“ใช่ จะไม่มีอันตรายอะไรแน่นอน”“ขอบคุณนะ”
“งั้น เดี๋ยวแผนขึ้นไปเก็บห้องหน่อยดีกว่า นุ่นนอนห้องแผนนะ เดี๋ยวแผนนอนห้องป่วนมันเอง”
“หึ ไม่เอาอ้ะ”
“อ้าว!!”
“คืนนี้เราสองคนเล่นเกมโต้รุ่งกันเหอะ ไม่ต้องนอนหรอก นุ่นจะไม่นอน แล้วแผนก็ต้องเล่นเป็นเพื่อนนุ่นด้วย ตกลงมั้ย?”
ก็นะ ไอ้นุ่นนี่มันถึงจะบ้า แต่มันก็ทำตามคำสอนอาจารย์ดีเหลือเกิน ถึงจะบอกว่านอนคนละห้อง แต่ก็อยู่ชั้นบนด้วยกันสองคน ไอ้นี่เลยกะลากให้ไอ้แผนมันอยู่เป็นเพื่อนข้างล่างนี่แหละ แถมยังได้ทั้งทดสอบสมมติฐาน ทั้งวัดความน่าเชื่อถือไปในตัว ยิงนัดเดียวได้นกสองตัวเลย
“ได้ แต่ถ้าง่วงก็บอกนะนุ่น ไม่ต้องฝืนล่ะ”
“โอเค”
..........................
..........................
พอตกลงกันได้ว่าจะไม่นอน เพื่อนแผนมันก็ไล่เพื่อนนุ่นไปอาบน้ำ
จัดการหาเสื้อยืดตัวเล็กสุดกับกางเกงเลของตัวเองมาส่งให้ผลัดเปลี่ยนเรียบร้อย
แล้วหลังจากนั้นสามชั่วโมง ไอ้คนออกความคิดเสียงใสว่าจะอยู่โต้รุ่งก็ค่อยๆเลื้อยลงไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็เอนลงกับพื้นหลับไปง่ายๆ ไอ้คุณแผนผู้รับปากเป็นมั่นเหมาะว่าบ้านนี้ไม่มีอันตรายเลยจัดการช้อนตัวคนที่อยากให้เป็นมากกว่าเพื่อนขึ้นวางบนโซฟายาว เดินขึ้นบ้านไปขนเครื่องนอนลงมาทั้งหมอน ผ้าห่ม แถมไปลากผ้าห่มห้องไอ้หนูป่วนมาอีกผืน
ก่อนจะเอาหมอนของตัวเองสอดเข้าไปรองใต้คอให้ไอ้ผู้หญิงบ้าที่ตอนนี้สิ้นฤทธิ์ไปแล้วเหมือนที่มือเล็กๆของคนคนนี้เคยทำให้ตัวเองมาก่อน แล้วคลี่ผ้าห่มออกคลุมให้ตั้งแต่คอจนถึงปลายเท้า เหลือโผล่มาแต่หน้าใสๆกับขอบตาหมีแพนด้าเพราะเพิ่งผ่านช่วงสอบมาหมาดๆ
จัดการปูผ้าห่มไอ้หนูป่วนลงแทนที่นอนให้ตัวเองข้างๆโซฟานั่นแหละ แต่ตั้งท่าจะล้มตัวลงนอนก็กลับขยับไปคุกเข่าอยู่ข้างๆโซฟา พึมพำออกมาเบาๆ
“แผนขอค่าอุ้มกับค่าหมอนและผ้าห่มหน่อยนะจ๊ะ”พูดจบก็ก้มลงเอาปากแตะลงที่หน้าผากเบาแสนเบาเพราะกลัวจะรบกวนให้ไอ้ตัวดีมันตื่นขึ้นมาโวยวาย
พอเงยหน้าขึ้นมาก็เอานิ้วชี้กับนิ้วกลางไล้ผ่านปากบางๆที่พูดจ้อยๆเกือบตลอดเวลาที่เจ้าของปากมันตื่นเบาๆ
ก่อนจะพึมพำประโยคสุดท้ายก่อนล้มตัวลงนอนหน้าโซฟา
“ฝันดีนะจ๊ะ นุ่นของแผน”......................
......................
^o^ เป็นครั้งแรกที่ใช้ชื่อตัวเองแล้วเขิน กร้ากกกกกกกกส์ เริ่มรู้สึกตัวว่าไม่น่าเลยเรา หงิงๆ