มาแล้วครับ
พิมพ์เสร็จสดๆ ร้อนๆ
ไปอ่านกันเลยครับ
โทษที..ทำไงได้กูรักมึงไปแล้ว
ตอนที่ 13 แค่เที่ยวกัน หรือ วันออกเดท
“งั้นตามใจมึง อย่ามันบ่นกูละกัน”
“เออ” มันพูดพร้อมเดินเข้ามาหาผม แล้วก้มลงมาหาผมที่นั่งอยู่บนเตียง แล้วกระซิบลงที่หูผมเบาๆว่า
“ที่รัก ไปอาบน้ำได้แล้ว” ผมละหน้าแดงเลยครับ รีบหยิบผ้าขนหนูวิ่งเข้าห้องน้ำเลย คราวนี้ลืมไม่ได้ครับ เดี๋ยวไม่ปลอดภัย อาบน้ำเสร็จก็เข้านอนกันครับ
“ผ้าปูที่ให้ไปวันนั้นปูหรือยัง” มันถามผมหลังจากเข้านอน
“ยังเลย ไม่มีเวลาเลย”
“กูถามหน่อยเหอะแค่ผ้าปูที่นอนมันไม่มีเวลาเปลี่ยนเลยหรอวะ กูก็แค่อยากให้เรามีเหมือนกัน”
“มันไม่ใช่อย่างนั้น เดี๋ยวกูกลับไปปูเลยก็ได้” ผมทำท่าจะลุกออกไป แต่ก็โดนมันกอดเอาไว้ก่อน
“ขอกอดหน่อยนะ” ผมไม่ได้ห้ามอะไร อยากกอดก็กอดไป
“ตุลย์กูจะทำอย่างไงให้มึงรักกูวะ” มันถามผมเสียงเรียบ
“มึงยังไม่เลิกหวังในตัวกูอีกหรอวะ”
“ไม่อะ กูบอกแล้วว่าคนที่กูจะรักและเลือกเป็นชีวิตคู่ไปจนตายคือมึงคนเดียวเท่านั้น”
“ทำไมๆ ต้องเป็นกู แล้วถ้ามึงไม่มีวันนั้นละ”
“ยังไม่ทันถึงวันนั้นเลย มึงก็ปฏิเสธกูแล้วหรอ”
“ป่าวกูไม่ได้ปฏิเสธ แต่กูแค่ไม่แน่ใจว่ากูจะรักมึงได้หรือป่าว กูขอเวลาหน่อยนะ”
“กูจะรอนะ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนกูก็จะรอมึงนะตุลย์ แต่ว่าตอนนี้กูขอแค่มึงอยู่ในอ้อมกอดกูก็พอ” ผมนอนให้มันกอดจนถึงเช้า ผมรู้สึกว่ามีใครมองผมอยู่ ผมลืมตาขึ้นมา
“ตื่นแล้วหรอ” มันก้มลงมาหอมหน้าผากผม ไอ้นี้ลามปามเดี๋ยวปั๊ด
“เฮ้ย ทำไรเนี้ยะ” ผมพูดแต่ก็ไม่ได้ผลักดัน
“ขอหอมหน่อยนะ” หอมแล้วค่อยมาขอนี่นะ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร จนมันค่อยๆ เลื่อนปากลงมาเรื่อยๆ มาประกบที่ปากผม ผมไม่ทันตั้งตัวปากผมก็โดนไอ้โป้งครอบครองไปแล้ว มันค่อยๆ แหย่ลิ้นเข้ามาในปากผม มือก็ลูบไปตามแผ่นหลังผม ด้วยความเคลิ้มผมก้เปิดปากออก ไอ้โป้งได้ทีเอาลิ้นเข้ามาตวัดลิ้นผม ผมพยายามเอามือดันหน้าอกขืนๆ
“อ๊า..” ผมรีบหายใจเอาอากาศเข้าไป เมื่อไอ้โป้งปล่อยปากผมเป็นอิสระ
“ขอจูบหน่อยนะ” อีกแระขอหลังจากทำเสร็จนี้นะ
“โป้ง” ผมพูดแล้วมองหน้ามันอย่างไม่เข้าใจ
“กูขอโทษแต่กูทำไปเพราะความรักมึง” ก็คงจริงเพราะมันเป็นจูบที่นุ่มนวล ต่างจากจูบของไอ้กร่.. ผมรีบส่ายหัวไล่ความคิดไม่ให้คิดถึงมัน
“อือ ไม่เป็นไร กูเข้าใจ” ผมเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายครับ แล้วยิ่งมันเป็นเพื่อนที่ผมรักมากด้วย ผมเลยไม่มัน แล้วก็รู้จุดประสงค์ในการกระทำของมัน แล้วผมก็ลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำ แล้วจับที่ปากของตัวเอง ทำไมๆ กูถึงหวั่นไหวกับจูบของมึง หรือว่ากูมีความรู้สึกดีๆ กับเหมือนที่มึงมีให้กูไอ้โป้ง ผมอาบน้ำเสร็จก็ออกมาจากห้องน้ำ
“เอ่อตุลย์ วันนี้วันเสาร์ไปไหนกันดีว่ะ”
“ไปไหนก็ได้ แต่มึงไปอาบน้ำก่อนเหอะปากเหม็น” ผมอดแซวมันไม่ได้ มันยิ้มๆ แล้วเดินหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไป ก่อนเข้ายังมีหน้ามาส่งจูบให้ผมอีกนะ ไอ้โป้ง มึงนี้เป็นเอามาก น่ารักนะมึง 555
“ตุลย์กูอยากไปสวนสนุกอะ อยากปลดปล่อย ไม่ได้ไปมานานแระ”
“อืมไปดิ” ผมนี้นิสัยเสียเน๊อะ ใครชวนไปไหนก็ไป
“ชวนเพื่อนไปได้ป่ะ” ผมถามมันอยากชวนพวกไอ้ข้าวไปด้วย
“ได้ดิ ตามใจตุลย์เลย” ผมเลยโทรถามพวกไอ้ข้าวครับ
“ไอ้ข้าวอยู่ไหนวะ กูจะชวนไปเที่ยว”
“เอ่อ กูไม่ว่างกูจะไปเที่ยวกับเพื่อนกู”
“เออ งั้นไม่เป็นไร ไว้คราวหน้าละกัน” ผมวางสายแล้วโทรหาไอ้พจน์ กับ ไอ้คิว มันก็บอกไม่ว่าง ไอ้พจน์ต้องช่วยงานที่บ้าน ไอ้คิวไปต่างจังหวัดกับครอบครัว ไม่มีใครว่างไปกะกูเลย ไปสองคนก็ได้วะ เหมือนออกเดทเลยวะ เหอะๆ กูก็เที่ยวกับคนสองคนออกไป คิดอะไรวะ
“ตกลงไงตุลย์”
“ไม่มีใครว่าเลย ไปกันสองคนก็ได้”
“อืม งั้นไปดิ” ผมออกจากหอกันประมาณ 9 โมง มาถึงก็ประมาณ 10 โมงกว่า หาอะไรกินก่อนแล้วค่อยไปเล่น
“เออตุลย์เล่นไรก่อนดี ไวกิ้งมั้ย” มันชวนผมหลังจากกิน KFC กันเสร็จ
“เหอะๆ ไม่เล่นได้ม่ะ” ผมหัวเราะหน้าเหรอหรอ ไม่ได้กลัวนะครับ แค่เกรงใจไวกิ้งครับ
“น่าเล่นเป็นเพื่อนกูนะ” พูดเสร็จมันก็ จูงมือผมขึ้นไวกิ้งไปเลยครับ
“เฮ้ย ไม่เอากูไม่เล่น” ลงไม่ได้แล้วครับ มันพาผมมานั่งหัวเลยครับ คิวแล้วเสียวกูจะรอดมั๊ยเนี๊ยะ พระพุทธเจ้าช่วยลูกด้วย แล้วเครื่องก็เดินครับ ผมจะตายเอาให้ได้ เอาหน้าซบไหล่ไอ้โป้งเลยครับ ไม่กล้ามองครับ เกรงใจไวกิ้งครับ 55 เล่นเสร็จลงมาขาสั่นเลยครับ
“ไงมึง กลัวหรือไง” มันถามผม
“ใครกลัว เอาอีกสักสิบรอบก็ยังไหว” แหนะยังปากเก่งอีก เดี๋ยวมันเอาจริงๆมึงกล้าหรอไอ้ตุลย์
“มึงไม่กลัวเลยไอ้ตุลย์ ดูไหล่กูดิเสื้อยับหมดแระ” ผมไม่กล้าพูดอะไรต่อครับ กลัวเสียฟอร์ม แล้วเราก็เล่นไปเรื่อยๆ จนบ่ายๆ ก็พักมานั่งกระเช้าไฟฟ้า บอกไอ้โป้งว่าจะไม่ขึ้นมันก็ลากขึ้นมาจนได้ มันมีสองฝั่งครับ แต่ผมเลือกที่จะนั่งฝั่งเดียวกับมัน ไม่เคยกลัวอยู่แล้ว อิอิ เอ๊ะแต่นั่นใครว่ะ คล้ายๆๆ เฮ้ย ไอ้ข้าว มากับใครคุ้นๆ นั่งสวนไปเมื่อกี้ ผมรีบโทรหามันเลยครับ
“เฮ้ยไอ้ข้าวมึงอยู่ไหนวะ”
“เออถึงว่ากูเห็นมึง เพราะกูก็อยู่ที่นี้เหมือนกัน แต่เอ๊ะมึงมากับใครว่ะคุ้นๆ”
“เออไงไว้เจอกัน” ผมเลือกที่จะลงแล้วเดินกลับไปครับ ไม่เอาอะนั่งมารอบเดียวก็ช้าจะตายอยู่แล้ว เดินเร็วกว่าอีก ไม่รู้จะช้าไปถึงไหน ผมรีบเดินไปฝั่งโน้น ก็เห็นไอ้ข้าวกำลังเดินอยู่กับแต่เอ๊ะ
“ไอ้เจ๋ง มึงมาด้วยกันได้ไงวะ” ผมถามมองหน้ามันสองคนอย่าง งงๆ
“ออ พอดีอยากมาเลยไปชวนมันอ่ะ” มันตอบอย่างตะกุกตะกัก
“แล้วไมไม่ชวนกู”
“เออน่า หอมันอยู่ใกล้กูขี้เกียจรบกวนมึง แล้วมึงมากับไอ้โป้งได้ไง” สาสส ทำมาย้อนถามกู
“มันชวนกูมา”
“ก็เหมือนกันแหละ ไม่ชวนกู” แหมไอ้นี้ทำมาย้อน
“ เอ่อข้าว นี้โป้งเพื่อนกู” ผมไม่ลืมแนะนำไอ้โป้งให้ข้าวรู้จัก
“อือ หวัดดี” มันสองคนก็ทักทายกัน
“เออ นี่มาไงกันอ่ะ” ไอ้โป้งถามไอ้เจ๋ง
“กูนั่งรถตู้กันมา ขี้เกียจขับรถ”
“เออ งั้นกลับพร้อมกูก็ได้กูเอารถมา”
“เออ เอาตามนั้นแต่ตอนนี้ไปหาไรกินก่อนดีกว่ากูหิว” แล้วพวกผมก็เดินไปหาอะไรกินด้วย ความสับสนว่าไอ้ข้าวกับไอ้เจ๋งมาด้วยกันได้ไง เสร็จสรรพก็กลับกันระหว่างทางก็อดสงสัยไม่ได้
“ไอ้ข้าวมึงมีไรจะบอกูป่าว”
“ไม่มีอะ ไว้ค่อยคุยกันนะ”
“เออ” ผมก็ไม่อยากถามมันให้อึดอัดใจ จังหวะนั้นโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ไอ้กร่างครับไอ้กร่างโทรมา ผมตัดสินใจไม่รับ มันโทรเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำอีก
“เฮ้ย ไอ้ตุลย์มึงจะปล่อยให้ดังอีกนานมั้ยวะทำไมไม่รับสักที” ไอ้เจ๋งถาม มันคงรำคาญครับ
“กูไม่อยากรับ” แล้วสายก็เงียบไป แต่มีข้อความเข้ามาแทน
“ทำไมมึงไม่รับสายกู เดี๋ยวเย็นนี้กูขึ้นไปหาที่ห้องนะ” เฮ้ย!! มึงจะมาทำไม กูไม่อยู่ให้มึงเจอหรอก
“ไปหาก็ไม่เจอ เชิญตามสบาย” ผมส่งกลับไป
“เดี๋ยวจะเกิดอะไรก็รู้เอง ถ้าไม่เจอ” มันส่งกลับมาครับ เอาไงดีวะ ให้ตายกูก็ไม่ไปเจอมึงไอ้กร่าง
*************************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป