มาต่อให้แล้วครับ
ไปอ่านต่อเลย
โทษที..ทำไงได้กูรักมึงไปแล้ว
ตอนที่ 14 เผลอตัว เผลอใจ เผลอไป เพราะ...
“เดี๋ยวจะเกิดอะไรก็รู้เอง ถ้าไม่เจอ” มันส่งกลับมาครับ เอาไงดีวะ ให้ตายกูก็ไม่ไปเจอมึงไอ้กร่าง ไอ้กร่างเอ้ย มึงนี่ตามจองล้างจองผลาญกูไม่เลิกนะ ผมตัดสินใจโทรกลับไปหามัน
“มึงมีอะไรว่ามาในโทรศัพท์นี่แหละ” ผมพูดไปเมื่อมันรับสาย
“ไม่ กูต้องเจอมึงที่ห้อง” ไอ้ดื้อเอ้ย ทำไม่กูต้องไปเจอมึงว่ะ
“ไม่ไป กูไม่ว่าง พูดให้มันรู้เรื่องบ้างดิ” ทำตัวเป็นเด็กร้องจะเอาของเล่น
“งั้นมึงอยู่ไหน กูไปหามึงก็ได้” ไม่เลิกครับ มันยังบ้าไม่เลิก
“กูอยู่ต่างจังหวัด กลับพรุ่งนี้” คนในรถหันมามองผม คงจะว่าไอ้ห่านี้โกหกหน้าด้านๆ โดยเฉพาะไอ้ข้าวมองผมอย่างสงสัย
“อยู่จังหวัดไหนเดี๋ยวกูไปหา” มันตื้อไม่เลิก ไอ้เชี่ยเอ้ย
“ไม่ต้อง เอางี้ วันจันทร์เจอกันที่มหาลัย เดี๋ยวกูไปหา” โอ้โห กูลงทุนเนอะจะไปหามันเชียว กูก็โกหกไปงั้นแหละ (ไม่ดีนะครับ การโกหกผิดศีลข้อ มุสาวาทา) ผมยื่นข้อเสนอรำคาญครับ แล้วกดตัดสายไปเลย มันก็ไม่ได้โทรหรือส่งข้อความกลับมาเลย พวกผมก็ตกลงจะแวะหาอะไรกันกินก่อนกลับหอ
“จะกินอะไรกันดีวะ” ไอ้โป้งถามขึ้นมา
“กินอะไรก็ได้ตามใจคนเลี้ยง” ไอ้เจ๋งพูด
“สาสส ใครบอกว่ากูจะเลี้ยง”
“ไอ้โป้งมึงแมร่งโคตรหล่อเลยใครได้ไปหลงตาย”
“หรอ กูก็รอให้เค้าหลงอยู่เนี้ยะ” มันพูดพร้อมเหลือบสายตามองผม ที่นั่งเบาะข้างๆ
“ใครวะ ขนาดนั้นเลยหรอ”
“ก็ได้กูเลี้ยงก็ได้ เห็นพูดดีนะเนี้ยะ” ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยนะโป้ง แล้วก็แวะกินข้าวกัน จนประมาณสองทุ่ม พวกเราก็กลับกัน แล้วแยกย้ายส่งตามหอ ก่อนแยกผมบอกกับไอ้ข้าวว่า
“เรายังมีเรื่องต้องคุยกันนะ” มันหน้าเสีย แล้วผมก็ปิดประตูรถแล้วไอ้โป้งก็ขับออกมาเลยครับ กลับถึงหอก็เหนื่อยมากครับ อาบน้ำเข้านอนเลยทีเดียวเหนื่อยมาก
“สนุกมั้ย” มันถามผมเมื่อปิดไฟเข้านอนเรียบร้อยแล้ว
“ก็สนุกดี” ผมตอบไปตามความรู้สึก
“ไว้คราวหน้าเราไปเที่ยวกันสองคนอีกนะ”
“อืม”
“ขอกอดหน่อยนะ” ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร จนหลับไป ผ่านไปอีกวันครับ ตื่นมาก็สิบเอ็ดโมงแล้ว แต่เอ๊ะอะไรมาทิ่มต้นขากูว่ะ
“โป้ง” ผมเรียกและสะกิดมันที่กอดผมอยู่เบาๆ มันค่อยลืมตาขึ้นมาแล้วมองหน้าผม
“ตื่นแล้วหรอ” มันถามผม สาสส ถามโง่ๆ เห็นอยู่
“มันทิ่มขากู” ไอ้โป้งทำหน้า งง
“ของมึงอ่ะ” ผมเอาขากระทุ้งเบาๆ มันหน้าแดงคงเขิล แต่มันก็ไม่ยอมปล่อยผมอยู่ดี
“มันคงตื่นมารับมึงมั้ง” คิดไรมึงเนี้ยะ
“ทะลึง ไอ้โป้งปล่อยกูจะไปเข้าห้องน้ำ”
“ตุลย์กู ขอดิ” ไอ้หน้าด้าน กลางวันแสกๆ
“ไอ้บ้....” ผมพูดออกไปไม่ทันจบคำ ปากผมก็ไร้อิสระด้วยปากของมัน มันประกบปากผมอย่างรวดเร็ว ไอ้เชี่ยกูยังไม่อนุญาตเลย มันเป็นจูบที่นุ่มนวล ขณะที่ปากของมันทำหน้าที่อย่างเชี่ยวชาญมือของมันก็ลูบไล้ผมไปทั่วร่างกาย ผมรู้สึกดีมากครับ มันเป็นสัมผัสที่อบอุ่น จากคนที่ผมรู้สึกดีด้วย สักพักมือมันก็ล้วงเข้ามาในกางเกงผม ผมตาโตเลยครับตกใจ แต่ปากก็ไร้อิสระที่จะร้องห้าม ผมพยายามเบี่ยงตัวหลบ แต่ก็ไร้ผล เพราะมือของมันได้ครอบครองส่วนนั้นของผมไว้แล้ว มันลูบๆคลำๆ ในที่ปากของมันยังทำงานไม่หยุด ผมแทบขาดอากาศหายใจ คนอะไรก็ไม่รู้จูบเก่งเป็นบ้า ไอ้ตุลย์น้อยของผมมันก็ไม่รักดี สู้มือของไอ้โป้งอย่างเอาเป็นเอาตาย ไอ้โป้งค่อยๆ ดึงกางเกงของผมจนหลุดออกไป จนผมไม่เหลือท่อนล่างแล้ว อายจัง อิอิ สักพักมันก็ปลดกระดุมผม แล้วเสื้อผมก็หลุดออก ไอ้โป้งมันเก่งจังวะเหมือนเล่นมายากล แป็บเดียวเสกให้เสื้อผ้าผมหายไปจนไม่เหลือสักชิ้น มันละปากออกจากผม ผมรีบหายใจเอาอากาศเข้าไปให้มากที่สุด เพราะมันจูบผมนานมาก เกือบห้านาที มันไล้ลงมาไซร้ที่ซอกคอ
“ปะโป้ง ยะอย่า พอเหอะ” ผมพูดเสียงขาดๆ หายๆ เอามือผลักมันเบาๆครับ แต่ก็ไร้ผลครับ มันไซร้ผมไปทั่วทั้งร่างกาย มันเล่นกับยอดอกของผม (พูดง่ายๆ ภาษาชาวบ้าน หัวนมอะครับ 55) จนมันแข็งเป็นไตขึ้นมา เสียวโคตร มันไซร้ต่ำลงไปเรื่อยๆ แต่ไม่นะ
“โป้งอย่าทำ” แต่มันไม่ทันการแล้วครับ ไอ้ตุลย์น้อยของผม ตกไปอยู่ในความครอบครองของปากมันเรียบร้อยแล้ว ผมพยายามบอกห้ามแล้วผลักหัวมัน แต่ไม่ได้ผม ผมรู้สึกดีมาก
“อือๆ ซีด” ผมอดร้องออกมาเสียไม่ได้ เหมือนมันได้ใจ มันเร่งจังหวะเป็นการใหญ่ ผมเสียวมากครับ จนผมต้องเด้งสวนมันกลับไป
“ปะโป้ง กูไม่ไหวแล้วเอาปากออกไป” ผมพูดตะกุกตะกัก ไม่ไหวแล้ว
“ปล่อยออกมาเลย” ไม่ทันแล้วครับ ผมพ่นพิษออกมาเต็มๆ มันก็ใจดีทำหน้าที่แม่บ้านจัดเก็บ กวาดล้างอย่างเรียบร้อย ผมเหนื่อยหอบเลยครับ ผมไม่เคยได้รับความรู้สึกแบบนี้
“ตากูแล้วนะ” มันพูดพร้องถ่างขาผมออก
“เฮ้ย!! ไม่เอา” ผมตกใจถอยร่นหนี ความเจ็บปวดในห้วงความทรงจำแล่นเข้ามาในความคิดผม ไม่ๆมันต้องไม่เกิดขึ้นอีก ไอ้โป้งมองหน้าผมอย่างเคืองๆ
“โป้งกูขอโทษ”
“นะตุลย์กูขอนะ กูจะทำเบาๆ”
“โป้ง ไม่ทำไม่ได้หรอ” ผมต่อรอง โป้งหันมามองหน้าผมอย่าขอร้อง please ได้โปรด ประมาณนั้น
“ตุลย์ นะ” ผมส่ายหน้า ผมไม่อยากรับรู้ความรู้สึกอย่างนั้นอีกแล้ว มันหน้าเสีย
“เอางี้ เพื่อเป็นการไม่เสียเปรียบ กูทำให้มึงเหมือนที่มึงทำให้กูก็ได้” ผมยอมทำเพราะไม่อยากให้มันเสียใจ ไอ้โป้งทำหน้าลังเล
“ก็ได้” มันตอนหน้าเศร้า ผมเลยโน้มตัวมันให้นอนลง แล้วประกบปากมัน ผมทำแบบที่มันทำให้ผมทุกอย่าง แต่อาจจะต่างตรงที่ เงอะงะๆ เพราะไม่กล้าชั้นเซียน ผมเอาปากครอบลงไปบนไอ้โป้ง รู้สึกจะไม่น้อย แหมใหญ่กว่าของกูอีกนะมึง กูว่าของกูใหญ่แล้วนะ อิจฉาว่ะ
“ตุลย์ ฟัน” มันร้องคงเป็นเพราะฟันผมไปโดน ผมก็พยายามทำต่อไปไม่ให้ฟันไปโดน
“ซีดด อ่า” มันร้องออกมา คงเสียวมาก มันเด้งสวนเข้ามา ไอ้บ้าเบาๆดิว่ะ เดี๋ยวปากกูพัง ใช่ย่อยซะที่ไหน
“ตุลย์ กูไม่ไหวแล้ว” ได้ยินแบบนั้น ผมก็ผละปากออกแล้วใช้มือช่วยมันต่อ มันก็ไม่ทันได้ว่าอะไร ลาวาเหนียวข้นของมันก็ปะทุซะแล้ว เลอะหน้าท้องมันไปหมด มันนอนเหนื่อยหอบ ผมหยิบทิชชู่หัวเตียงมาเช็ดทำความสะอาดให้มัน
“รังเกียจกูหรอ” มันถามผมอย่างน้อยใจ
“มันไม่ใช่อย่างนั้นโป้ง กูไม่เคย”
“ช่างมันเหอะ” มันพูดแล้วดึงตัวผมลงไปนอนกอดเอาไว้ เราสองคนเปลือยเปล่านอนกอดกัน
“โป้งกูรักมึงนะ” มันกระซิบข้างหูผม มันบอกเป็นครั้งที่หนึ่งล้านแปดหมื่นสามพันเก้าร้อยยี่สิบหนึ่ง เวอร์ไปๆ
“อืมกูรู้”
“แล้วเมื่อไหร่มึงจะรักกู”
“ขอเวลากูหน่อยนะ”
“นานแค่ไหนกูก็จะรอนะ แต่มึงก็อย่าใจร้ายให้กูรอนานล่ะ” โป้งกูสำคัญกับมึงขนาดนั้นเลยหรอ ผมสองคนด้วยความเพลีย เลยนอนให้มันกอดแล้วหลับไปอีกรอบ ตื่นขึ้นมาก็อีกทีก็บ่ายสามแล้ว หิวครับ ก็ลุกไปอาบน้ำ จะไปหาอะไรกินกันที่เดอะมอลล์ครับ เสียแรงไปเยอะอ่ะ 555
“กินไรดีตุลย์”
“อยากกิน ซิสเลอร์อ่า”
“ได้ครับ จัดไป” เราก็ไปกินกันั่งกินกันไปครับ สักพักสายไอ้กร่างก็โทรเข้ามา ผมเบื่อตัดสินใจรับไป
“ว่าไง”
“อยู่ไหน” มันถาม
“อยู่ไหนก็เรื่องของกู มึงจะทำไม มีไรก็ว่ามา”
“กูถามว่าอยู่ไหน”
*********************************************************************
ติดตามตอนต่อไป เดี๋ยวมาลงให้ดึกๆอีกรอบ