มาต่อให้แล้วครับ ดึกๆๆๆ ตลอดๆๆ
ขอให้สนุกนะครับ
ไปอ่านกันเลย
โทษที..ทำไงได้กูรักมึงไปแล้ว
ตอนที่ 6 บังเอิญโลกกลม หรือ พระพรหมคิดผิด
“เออ เอาดิ” พวกผมสี่คนตกลงไปกินข้าวด้วยกันก่อนแยกย้ายกันกลับ ขณะที่ผมกำลังเดินอยู่
ระหว่างทางไปบาร์ใหม่ ก็มีโทรศัพท์เข้ามา ใครว่ะโทรมาตอนนี้
“เออ ว่าไงไอ้เจ๋ง” ผมตอบไปทันทีที่รู้ว่าปลายสายคือไอ้เจ๋ง
“เออ มึงอยู่ไหนว่ะ”
“กูกับเพื่อนกำลังจะไปกินข้าวที่บาร์ใหม่กัน”
“จริงดิ กูก็อยู่ที่บาร์ใหม่กับพี่สายกูเนี่ยะ” ทำไมมันรู้พี่สายกันเร็วจังว่ะ
“เออ กูเดินจะถึงและ นั่งอยู่ตรงไหนเดี๋ยวกูไปหา”
“โต๊ะ หินข้างนอกอ่า”
“เออ แล้วเจอกัน” แล้วกดวางสายไป ไอ้โต๊ะหินมันอยู่ตรงไหนว่ะ ไอ้พจน์คงรู้แหละ ผมเดินไปหามันแป็บเดียวก็เจอ แต่เอ๊ะ! ไอ้ที่นั่งกับมันนี่หน้ามันคุ้นๆ แฮะ ไม่คุ้นอ่ะใช่เลย ไอ้กร่างกับพี่กาย ผมกำลังจะเดินหันหลังกลับก็โดนไอ้เจ๋งเรียกไว้ก่อน
“เฮ้ยย ไอ้ตุลย์ ทางนี้” ไม่ทันแล้วกูจำต้องเดินไปหามัน
“นี่พี่สายกู ชื่อกาย พี่เค้าขี้เกียจเล่นเลยเดินมาบอกกูเองเลย และนี้พี่โชว์เพื่อนพี่กาย” ผมสวัสดีเฉพาะพี่กาย
“สวัสดีครับพี่กาย” แล้วมองข้ามไอ้กร่างไป แต่มันก็ทำท่าไม่สนใจผมอยู่แล้ว
“อืม ดีจ๊ะน้องตุลย์ ไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหม” ปัญหากับเพื่อนพี่หรอครับ อยากจบเหมือนกัน แต่ไอ้กร่างเล่นไม่เลิก
“ก็ถามเพื่อนพี่ดูเองดิครับ” ทุกคน งง กับบทสนทนาระหว่างผมกับพี่กาย ไอ้กร่างก็ทำหน้าไร้อารมณ์ได้อีก พี่กายยิ้มๆ ไม่พูดอะไรต่อ ผมเลยแนะนำเพื่อนผมให้รู้จัก
“นี่ข้าว พจน์ และก็คิว ส่วนนี่ก็ไอ้เจ๋งเพื่อนกลุ่มเดียวกันตอนม.ปลาย” ผมแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน แล้วก็แยกย้ายไปหาอะไรมากินกัน แล้วก็พูดคุยตามประสาเพื่อน ไอ้เจ๋งกับเพื่อนใหม่ผมก็สนิทกันเร็วเหลือเกิน แทบจะด่ากันแระ โดยเฉพาะกับไอ้ข้าวเร็วที่สุด เพราะบ้านพ่อไอ้เจ๋งอยู่เชียงใหม่ มันขึ้นไปปีล่ะหลายครั้ง เลยคุยกันรู้เรื่อง ส่วนไอ้กร่างก็นั่งเงียบไม่พูดอะไร
“เรียนวันแรกเรียนเป็นไงบ้าง” พี่กายถามผม
“ก็ยังไม่ค่อยได้เรียนครับ ส่วนมากอาจารย์ก็พูดแนะนำรายวิชา การให้คะแนน”
“ออ มีไรไม่เข้าใจก็โทรถามพี่นะ”พี่เค้าแลกเบอร์กับผม ก็ดีเหมือนกัน อาจจะให้ช่วยเรื่องไอ้กร่าง
“ครับ” สักพักมีสายเข้ามาครับ
“ว่าไงโป้ง”
“เลิกเรียนยัง”
“เลิกแล้ว แต่นั่งกินข้าวกับเพื่อนแล้วก็ไอ้เจ๋งอยู่” ไอ้กร่างชายห่างตายมามองผมนิดๆ กูเห็นนะไม่ต้องรีบหลบหรอก ฟอร์มจัดนะมึง
“เออ อยู่ตรงไหนล่ะเดี๋ยวกูไปรับ”
“ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวกูเข้าไปเอาหนังสือที่หอเพื่อนต่ออ่ะ” ผมพูดไปงั้นอะ ไม่อยากให้มันมารับเกรงใจมัน
“เออๆ ไว้เจอกัน”แล้วมันก็วางสายไป
“เจ๋งทำไมพี่มึงไม่พูดเลยวะ” ไอ้พจน์กระซิบถามไอ้เจ๋ง
“กูก็ไม่รูว่ะ ก่อนพวกมึงมายังจ้อไม่หยุดเลย ไม่รู้เป็นไร” ไอ้เจ๋งกระซิบกลับ
“เออ พวกมึงกูไปเข้าห้องน้ำแป็บนะ เออ แต่ห้องน้ำอยู่ตรงไหนวะ” ผมรู้สึกปวดฉี่ขึ้นมา
“เออ กูรู้กูก็ปวดเหมือนกัน ตามกูมา” ไอ้กร่างมึงไม่ได้เป็นใบ้หนิ พูดก็เป็น มันเดินนำออกไปแล้วครับ พี่กายมองหน้าผม ผมก็ส่ายหัวไปว่าไม่เป็นไร แล้วผมก็เดินตามมันไป
“มึงจะรียเดินไปไหนวะ” ผมตะโกนไล่หลังมัน มันเงียบไม่ตอบแล้วเดินต่อไป ไปถึงห้องน้ำก็ต่างคนต่างฉี่( พูดแปลก แล้วใครมันจะช่วยกันฉี่วะ)
“เมื่อกี้ ผัวโทรตามหรอ” มันพูดขึ้นตรงอ่างล้างมือ สัสส จะต้องให้กูพูดกี้ครั้งว่ากูเป็นผู้ชายวะ ไอ้กร่างนี่เข้าใจอะไรยากจริงๆเลย
“ผัวมึงอะดิ เมียเว้ย” ผมขี้เกียจเถียงเลยตัดบทซะเลย
“งั้นหรอ แล้วมึงจะไปไหนต่อเนี้ยะ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึงวะ กูจะไปไหนก็เรื่องของกู”
“ไอ้เชี่ยนี่ กูถามมึงดีดีนะ” ออหรอแล้วที่มึงว่ากู เรื่องกูมีผัวล่ะ ให้กูว่ามึงบ้างไหมล่ะ
“เออ แล้วไง มึงจะรู้ไปทำไม”
“กลับพร้อมกูป่าว” โอ้วว มีน้ำใจ นึกว่าจะมีแต่น้ำโห จ้างให้กูก็ไม่ไปกับมึงหรอก
“เรื่อง” สั้นๆๆครับ มันจะเข้าใจกูมั้ยว่ะ เดียวมันถามอีกว่าเรื่องไร
“กูก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ปากแตกตอนนี้เท่านั้นเอง” มันพูดขึ้นลอยๆ นี่มึงหมายความว่ามึงบังคับกูให้กลับกับมึงให้ได้ใช่มั้ย
“กูไม่มีมือ มีตีนรึไง”
“ก็ลองดู” มันพูดเสร็จก็ดันผมเข้าไปในห้องน้ำห้องด้านในสุด ซวยชิบนี้มันห้องน้ำร้างรึไงวะ ไม่มีคนสักคน (แต่กูว่าลืมล้างว่ะ สกปรกชะมัด) มึงจะดันกูเข้ามาทำไมเนี่ยะ
“เฮ้ย!! ข้างนอกก็ได้จะเข้ามาทำไมวะ ไอ้เชี่...” ไม่จริงนะ กูฝันไปปากกูกับปากมับ แบบว่าชนกัน ไอ้กร่างมึงเล่นแบบนี้อีกแล้วนะ ผมเกร็งไปทั้งตัว มือก็ทุบหลังมัน รุนแรงชะมัดเจ็บปากไปหมด กูหายใจไม่ออก สักพักมันก็ถอนปมากออกไป
“ปากเก่ง ปากดี” มันพูดแค่นี้แล้วมันก็เดินออกไปไม่สนผมอีกเลย ผม งง และรู้สึกสับสน และเจ็บปาก นี้มึงอย่าบอกนะว่าล้างปากอะ ไอ้เลวเอ้ย ไอ้กร่าง ไอ้.. ผมหาสรรหาคำด่าไม่ได้(ปากผมไม่จัด ปกติพูดเพราะ) สักพักผมก็เดินกลับมาที่โต๊ะ หลังจากทำการบ้วนปากเสร็จแล้ว
“เออ ไอ้ตุลย์ เดี๋ยวกูกับไอ้พจน์กลับก่อนนะ” ไอ้คิวบอกผม
“เออ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน” แล้วมันก็เคียงคู่กันไป (ไปเถิดทั้งคู่ ไปสู่ประตูหลัง 555)
“เออ แล้วมึงกลับไงไอ้ตุลย์” ไอ้เจ๋งถามผม
“มันกลับกับพี่ พอดีแฟลตมันใกล้บ้านพี่” ใครบอกว่ากูจะกลับกับมึงวะ ผมจ้องมันเตรียมจะโว้ย แต่ไม่กล้า มันทำท่าเอามามือมาลูบปาก เงียบเลยครับผม จำต้องยอม
“งั้นเดี๋ยว เจ๋งกับข้าวไปรถพี่นะ ทางผ่านหนะ หออยู่ซอยเดียวกันไม่ใช่หรอ” อ้าวมันอยู่ใกล้กันหรอว่ะ แล้วเราก็แยกย้ายกันกลับ
“เอ่อ ไอ้โชว์แล้วเจอกันนะ สองทุ่มร้านเดิม” พี่กายบอกไอ้กร่างก่อนแยกกัน
“เออ เจอกันเพื่อน” แล้วผมก็เดินมาขึ้นรถมันที่จอดไว้เมื่อเช้า
“ทำไมกูต้องกลับกับมึงวะเนี่ยะ แล้วในห้องน้ำมึงทำอย่างงั้นทำไมว่ะ”
“ล้างปาก” มันตอบอย่างหน้าตาเฉย แล้วมันขับรถไปไหนว่ะเนี้ยะ นี่ไม่ใช่ทางกลับแฟลตกูนี่หว่า
“มึงจะไปไหนว่ะ ไม่ใช่ทางกลับนี่หว่า”
“ซื้อของ เซ็นทรัลของมันลด” มึงถามกูสักคำมั้ยเนี้ยะ ว่ากูจะไปกับมึงมั้ย
“เออๆๆ งั้นจอดตรงนี้แหละเดี๋ยวกูกลับเอง”
“เรื่องมาก” มันไม่จอด นั่งนิ่งขับต่อไปไม่สนใจผม ผมก็ตองจำยอมนั่งนิ่งๆไป ภาระจำยอม ทำไมๆๆต้องบังคับขู่เข็ญกันขนาดนี้ ฉันไปทำอะไรให้เธอ เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองโกรธ ฮือๆๆๆๆๆๆ
“ลง” มันสั่งผมเพราะมาถึงเซ็นทรัลแล้ว ไปถึงมันก็หยิบ ช็อปเสื้อผ้าหลายชุด ผมได้แต่เดินตาม
“อ่ะ เอาไปเปลี่ยน” มันยื่นถุงชุดที่มันซื้อแล้วให้ผมไปเปลี่ยน
“แล้วทำไมกูต้องเปลี่ยน”
“มึงอยากโดนล้างปากกลางห้างมั้ย” มันพูดพร้อมทำหน้าโน้มเข้ามา ผมละสยองรีบคว้าชุดแล้วไปเปลี่ยนทันที ผมไม่เคยกลัวมันหรอกนะ แค่กลัวเป็นข่าว สื่อมวลชนพร้อมจะถ่ายภาพผมได้ทุกเมื่อ ลงหน้าหนึ่งมาใครจะรับผิดชอบ ผมเปลี่ยนเสร็จก็เดินออกมา มันรออยู่หน้าห้องน้ำแล้ว
“เออ ค่อยเป็นผู้เป็นคนหน่อย” อ้าวไอ้เลว แสดงที่ผ่านมามึงไม่เคยมองเห็นกูเป็นคนเลยใช่มั้ย แต่ก็จริงของมันแหละเพราะผมเป็นเทพบุตร 555
“เปลี่ยนทำด๋อยอะไรวะ” ผมถาม ไม่สบอารมณ์
“ไปกันได้แระ” แล้วก็ไปขึ้นรถ
“มึงจะถอดเสื้อทำไมเนี้ยะ” ผมถามมัน เพราะมันถอดเสื้อหลังขึ้นมาบนรถ แล้วมันก็โน้มตัวมาหาผม ไม่นะๆๆๆ ไม่เอานะ อย่าเข้ามานะ
****************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป