http://www.facebook.com/ByPhichchii >> มีคนแนะนำให้ทำเลยลองทำดู
กำลังใจที่ได้รับนั้นมีค่า
แม้ไม่มีราคาล้ำความหมาย
ขอขอบคุณทุกคนไม่เสื่อมคลาย
ไม่เหือดหายมลายลับจากหนีไป
โทษทีมาได้ถึงแปดสิบตอน
ไม่ขอวอนอะไรให้มากหลาย
ขอเพียงแค่อยู่ด้วยกันไม่กลับกลาย
เพราะเรื่องนี้อยู่ได้ด้วยทุกคน.............(ช่างกล้าพยายาม)
ขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่ติดตาม ทั้งที่นี่และกำลังใจทุกกำลังใจในเพจ
โทษที..ทำไงได้กูรักมึงไปแล้ว
ตอนที่ 80 มิตรภาพไม่ต้องอาศัยความทรงจำ
“โอ้ย อะไรของมึงเนี้ยะ คราวก่อนก็สะกดจิต สร้างสรรค์มั๊ยเนี้ยะ” ไอ้พจน์ว่า
“ยังไงก็ต้องลองก่อนนะเว้ย” ไอ้คิวยังยืนกราน
“เราว่าไม่ได้อ่า เกิดคราวนี้ตุลย์ตายไปจะว่ายังไง” ใช่ข้าวพูดถูก กูยอมความจำเสื่อมดีกว่า
“เฮ้ยยๆๆ แต่ตอนนี้ขึ้นเรียนก่อน สายแล้ว” ข้าวบอก พวกเราเลยรีบวิ่งไปเข้าเรียนเลยครับ ดีนะยังไม่เช็คชื่อ ผมก็เรียนรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง บ้างอย่างก็คุ้นๆ บางอย่างก็ไม่คุ้น แต่เอาเป็นว่าคงเอาตัวรอดได้แหละครับ วันนี้ทั้งวันพวกเพื่อนๆ ก็พาผมไปตรงโน้น ตรงนี้พร้อมเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับผมประกอบไปด้วย
“เอางี้กูมีอีกวิธี ไม่เจ็บตัวเชื่อกู” ไอ้คิวเสนอแต่ก็ยังไม่ยอมเฉลยว่าอะไร
“อะไร อีกล่ะ”
“เออน่า ตามกูมาพอ” พวกเราก็ตามมันไปแหละครับ พอมาถึงพวกเราต่างก็ร้องอ๋อเลยครับ
“มันจะช่วยได้จริงหรอว่ะ” ไอ้พจน์ถาม
“โอ้ยมึง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ดิ ไม่งั้นคนเข้าไม่มาบนหรอก” ที่ยืนตระหง่านตรงหน้าคืออนุสาวรีย์ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยนั้นเอง ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของนิสิตมหาวิทยาลัยแห่งนี้
“เอาก็เอาว่ะ” ผมบอกมัน
“เอางี้ เราทุกคนมาบนให้ไอ้ตุลย์หายความจำเสื่อม แล้วจะได้มาช่วยกันแก้บน”
“บนอะไรดีอ่า” ไอ้ข้าวถาม
“วิ่งรอบมหา’ลัย 30 รอบ โอเคป่าว” ไอ้คิวบอก
“โห เหนื่อยนะมึง” ยังไม่ทันบนไอ้พจน์ก็บ่นแล้ว
“สัส ถือว่าช่วยไอ้ตุลย์” ไอ้คิวว่าพลางตบหัวไอ้พจน์
“โอ้ย!! มือหรือตีนเนี่ยะหนักชิบ” ไอ้พจน์ลูบหัวปรกๆ
“จะลองดูอีกทีมั๊ย” ไอ้คิวตั้งท่า
“พอเหอะ รีบๆ เหอะ” ไอ้ข้าวว่า สรุปเราก็บนว่าจะวิ่งรอบมหา’ลัย
“พวกมึง ไปดูหนังกัน หนังเข้าใหม่กูอยากดูมาก” ไอ้พจน์เสนอ
“หนัง X อะหรอ ไปดูบ้านกูก็ได้แผ่นใหม่เต็มเลย” ไอ้คิวกวนตีน
“คว.... กูหมายถึงหนังโรง ไอ้ควาย” ไอ้คิวนี่ชอบให้โดนด่านะ
“อ้าวหรอ พวกมึงว่าไง” ไอ้คิวหันมาถามผมกับไอ้ข้าว
“ไงก็ได้ ตามใจพวกแกอ่า” ผมกับไอ้ข้าวว่า สรุปว่าเราก็เลยไปดูหนังกัน ไม่มีเรียนบ่ายครับ เลยไปหาข้าวกินเลย
“อยู่ไหน กินข้าว กินยายัง” พี่โชว์โทรมาถามครับ
“มาดูหนังที่เมเจอร์ครับ กำลังจะหาข้าวกิน” ผมตอบปลายสาย
“ไปกับใคร ไปไหนทำไมไม่โทรมาบอก แล้วตอนนี้อยู่ตรงไหนจะไปหา” ทำไมต้องทำเสียงโมโหด้วยเนี้ยะพูดดีดีก็ได้ เป็นพ่อกูป่าวเนี้ยะ พ่อกูก็เสียไปแล้วนี่หว่า
“มากับเพื่อนๆ ครับ แล้วทำไมพี่ต้องโมดหตุลย์ด้วยเนี้ยะ ตุลย์ทำไรผิด”
“ป่าวครับ พี่ขอโทษ ตุลย์อยู่ไหนพี่จะไปหา” พี่โชว์เสียงเย็นขึ้น
“พี่ไม่ต้องมาก็ได้ ยังไงเดี๋ยวตุลย์ก็เข้าโรงหนังเดี๋ยวพี่มาก็ไม่เจอตุลย์อยู่ดีอ่า” ผมบอกเพราะอีกประมาณไม่ถึงชั่วโมงก็จะถึงเวลาเข้าโรงแล้ว
“อ้าวงั้นหรอ งั้นหาข้าวกินแล้วกินยาให้ครบด้วยนะ แล้วอีกอย่างดูหนังเสร็จโทรหาพี่นะเดี๋ยวพี่ไปรับ” ครับคุณพ่อ
“เอ่อ เดี๋ยวตุลย์กลับเองก็ได้นะครับ”
“ไม่ได้ โทรมาด้วย พี่ไปเรียนก่อนนะ” พี่โชว์ออกประโยคคำสั่ง เสียงโคตรน่ากลัวอ่า กูไปเป็นแฟนกับคนแบบนี้ได้ไงเนี้ยะ แฟนกูต้องขาว หมวย สวย อึ๋มดิว่ะ ไหงเป็นงี้เนี้ยะ
“ครับ ก็ได้ครับ” ผมกับเพื่อนก็หาอะไรง่ายๆ กินแหละครับ เอาที่สะดวก กินเสร็จก็กินยาที่พี่โชว์จัดมาให้ผมแล้วเป็นชุด ใส่ตลับแยกมื้อมาเรียบร้อย
“ตุลย์จำได้ยัง” ไอ้คิวถาม
“เพิ่งบนเองนะ จะจำได้แล้วหรอ” ไอ้ข้าวว่า ผมก็ส่ายหน้าเช่นกัน
“กูบอกแล้วไม่เวิร์ค” ไอ้พจน์รีบว่า
“โอ้ย รอดูก่อนดิว่ะ เออ มึงได้ลองรื้อฟื้นความจำกับเฮียยังว่ะ” ไอ้คิวว่า แล้วหันมาถามผมต่อ
“อะไรหรอ”
“ก็เรื่องอย่างว่า บนเตียงอ่า” มันพูดพร้อมทำท่าเอามือประกบกัน
“เฮ้ยย!! บ้าดิ” ผมตอบเขิลๆ ยอมรับว่าอาย
“จริงมึงลองดูดิ กูว่าวิธีนี้ก็เวิร์คนะ เพราะตอนมึงความจำยังไม่เสื่อม มึงก็มีอะไรกับพี่เค้าเกือบทุกวันอยู่แล้วหนิ” เอ่อ แล้วมึงรู้ได้ไงว่ากูมีอะไรกันทุกวัน
“แล้วมึงรู้ได้ไง” ไอ้พจน์ถามไอ้คิว
“โถมึงยังต้องถามหรอ ระดับเฮียโชว์จะปล่อยให้พลาดหรอ” พี่โชว์ขนาดนั้นเลยหรอว่ะ ผมนึกภาพตามแล้วขนลุก จริงหรอว่ะกูโดนพี่เขาแบบนั้นๆ ทุกวันเลยหรอว่ะ
“เออว่ะ จริงด้วย กูเห็นด้วยกับวิธีนี้ตุลย์” ไอ้พจน์ดันเห็นด้วยอีก ผมจะทำไงเนี้ยะ
“เอ่อ จริงหรอ” ผมตอบแบบตอนนี้จิตใจไม่รู้ไปไหน ลอยไปไกลแล้วมั้ง
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ช่วยชีวิตผม เฮอออ
“พี่ตุลย์อยู่ไหน” ใครว่ะ เสียงคุ้นๆ
“ใครอ่ะ” ผมเลยถามไป
“อ่อ วินเองครับ พี่ตุลย์อยู่ไหนอ่า วินคิดถึง” อ่อน้องวินที่น่ารักๆ นั้นเอง ทำไมว่ะ ถ้าผมเป็นเกย์จริงๆ ทำไมผมไม่เลือกน้องเขามาเป็นแฟนผมว่ะ ออกจะน่ารักกว่าพี่โชว์ตั้งเยอะ
“อ่อ พี่มาดูหนังกับเพื่อนๆ นะ จะเข้าโรงแล้ว”
“โห ไม่ยอมชวนวินเลยอ่า เสียใจอ่า” น้องวินทำเสียงเศร้า
“โอ๋ๆ คราวหน้าเดี๋ยวพี่จะชวนมาเลย พี่มาดูกับวินอีกรอบก็ได้” ผมปลอบน้องไป
“ครับ พี่ตุลย์ต้องเลี้ยงวินนะ” ไรว่ะเปลี่ยนอารมณ์เร็วชิบเป๋งเลย
“อืมได้สิ งั้นตอนนี้พี่ขอเข้าไปดูหนังก่อนนะ” ผมบอกเพราะจะได้เวลาเข้าโรงแล้ว
“ครับๆๆ แล้วไงเดี๋ยววินโทรหานะ” แล้วน้องวินก็วางสายไป ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับน้องวินเป็นยังไงนะ
“อ่ะตุลย์ กูรู้มึงชอบรสชีส” รู้ด้วยแฮะ ผมดีใจที่ทุกคนจำเรื่องราวของผมได้ ใส่ใจผม ถึงแม่ว่าผมจะลืมเรื่องราวของทุกคนก็เหอะ
“ขอบใจ เท่าไหร่” ผมถามไอ้พจน์
“ไม่เป็นไรๆ ซื้อให้” พจน์ว่า
“ขอบใจนะ แต่เอาไปเหอะ” ผมเอาเงินให้มันไปร้อยนึง มันไม่รับก็ยัดใส่มือมันนั้นแหละ
“โอเคงั้นกูก็ไม่จ่ายนะ โอเคเลี้ยงต้องเลี้ยงทุกคนนะเคป่าว” ไอ้คิวว่า
“ไม่ต้องมาทำแดกฟรีเลยมึงอ่า เอามาเลย” ไอ้พจน์ว่า
“โหไรว่ะ เลี้ยงไม่ได้หรอว่ะ ติดไว้ก่อนนะ” แล้วไอ้คิวก็เดินนำหน้าไปเลย ไอ้พจน์ไล่ด่าตามหลังก็ไม่ทันหรอก
.......................................................................
“สนุกดีนะ” ผมบอกพวกมัน
“อืม โคตรมันอ่า” เราดูหนังเสร็จก็เดินออกมาช็อปปิ้งหน้าเมเจอร์ แล้วก็กะว่าจะเลยไปหาอะไรกินแถวๆตลาด เดินไปเรื่อยๆ ผมโชคดี ดีใจที่ได้มาเป็นเพื่อนกับพวกมัน พวกมันทำเหมือนผมไม่ได้ความจำเสื่อม ร่วมทั้งบางครั้งผมลืมตัวไปด้วยซ้ำว่าความจำเสื่อม เพราะมันอบอุ่นจริงๆ มิตรภาพมันไม่ต้องพึ่งความทรงจำที่ขาดหายไปจริงๆ
“ตุลย์มึงดูนี่ดิ ตัวไหนดูดีกว่ากันว่ะ” ไอ้พจน์หยิบเสื้อสองตัวมาเทียบให้ผมดู
“เออ เราว่าตัวซ้ายมือนะ สวยดี”
“หรอ โอเคงั้นเอาตัวนี้แหละครับ” พจน์ยืนเสื้อพร้อมจ่ายตังส์ให้แม่ค้า พวกเราก็เดินซื้อของไปตามทางแหละครับ ได้ของติดไม้ติดมือกันมาคนละอย่างสองอย่าง ผมซื้อพวงมาลัยมาไหว้พระด้วย
“ข้าววันนี้ไม่เห็นสามีมึงเลยว่ะ” เฮ้ยย!! ไอ้ข้าวก็เป็นเกย์หรอว่ะ แล้วใครว่ะที่เป็นสามีมันอย่างที่ไอ้คิวว่า หรือมันแกล้งเล่น
“ไม่รู้ เดี๋ยวแมร่งก็โทรมาเองแหละ” อ้าวเรื่องจริงด้วยแฮะ ใครว่ะแฟนมัน
“นี่ไงโทรมาแล้ว ตายยากชิบเป๋ง” แล้วไอ้ข้าวก็รับโทรศัพท์สักแป็บแหละครับ
“เจ๊อ้วน เดี๋ยวมันมาเจอที่นั้น” ไอ้ข้าวว่า
“โหนี้มึงตกลงกันเนี้ยะถามพวกกูมั้ยเนี้ยะ” ไอ้คิวว่า
“เออ ตามใจไงเดี๋ยวไปคนเดียวก็ได้”
“โถๆ อย่าน้อยใจไปน้องข้าว พี่ไม่ใช่แฟนน้องนะ ไอ้ใช้มุกนี้กับไอ้เจ๋งนู้น” อ้าวนี้แฟนข่าวคือไอ้เจ๋งหรอเนี้ยะ เป็นไปได้ไง
“อย่าเถียงกัน ไปก็ไป” ไอ้พจน์ขัดขึ้นมา เราก็เดินไปคุยไปเรื่อยๆ แหละครับ จนมาถึงร้านแหละครับ ก็เจอเจ๋งรออยู่แล้ว
“ดีตุลย์ ไงจำกูได้ยัง” ไอ้เจ๋งทักผม
“ได้ดิ ตอนมอปลายมึงอยู่ห้องเดียวกับกู” พอจำได้ครับ
“กูหมายถึงตอนนี้” ผมก็ได้แต่ส่ายหน้า แล้วพวกผมก็จัดแจงสั่งอาหารกันมาเต็มโต๊ะแหละครับ ผู้ชายควายๆ กี่ตัวละ กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มหรอก
กริ๊งงงงงงงงๆๆๆ ใครโทรมาเนี้ยะกำลังกินข้าว “พี่โชว์” ตายห่า
“ครับ” ผมรับสายปลายสาย
“อยู่ไหน” เสียงห้วนแท้เล่า
“ร้านเจ้อ้วน” แล้วสายก็ตัดไปเลย มันจะฆ่าผมไหมเนี้ยะ
“เป็นไรมึง” ไอ้เจ๋งถาม หลังจากเห็นผมหน้าจ๋อยๆ หลังจากวางโทรศัพท์
“ปะ ป่าว ไม่มีไร กินเหอะ” ผมกินไปก็ใจเต้นตุ่มๆ ต่อมๆ ไม่อยู่กับเนี้ยะกับตัว ผมไม่รู้ทำไม แต่ผมรู้สึกกลัวพี่โชว์ยังไงก็ไม่รู้ มันกลัวจากจิตใต้สำนึก
************************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป