Article 25
“พี่...เช็ดน้ำตาให้ผมไม่ได้อีกแล้วล่ะ...”ผมพูด และเดินไปอย่างไม่คิดจะหันหลังกลับไป
...
“แต่กรูไม่ให้มรึงไป”ไอ้พี่เต้มันพูดเสียงรอดไรฟันและดึงแขนผมไว้แน่นจนรู้สึกเจ็บ
“พี่จะรั้งผมไว้ทำไม...กลับไปใช้ชีวิตปกติอย่างที่พี่ต้องการสิ”ผมเสียงดังใส่มัน ยังต้องการอะไรอีก แค่คำพูดมันก็ทำร้ายผมจนเกินพอแล้ว
“ชีวิตปกติที่กรูต้องการก็คือมีมรึงอยู่ข้างๆเหมือนเดิมเท่านั้น”คำพูดที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ทำให้ผม รู้สึกโกรธขึ้นมา
“เห็นแก่ตัวไปหน่อยแล้วมั้ง...ปล่อยผม...แล้วเราก็เลิก...อื้อ”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ ปากผมก็ถูกบดขยี้ด้วยจูบอย่างรุนแรง ผมทั้งทุบทั้งดันไอ้พี่เต้ให้ปล่อยผมแต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรสักนิด เมื่อผมถูกดันจนติดประตูบ้านแล้วถูกรวบข้อมือไว้
“กรูมีเหตุผลที่กรูอยากกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติ และที่กรูกลับไปคบกับเมย์”ไอ้พี่เต้มันพูดหลังจากที่ถอนจูบออกไป
“ผมยังไม่อยากฟัง...ผมจะกลับบ้าน”
“กรูไม่ปล่อยให้มันคาราคาซังไว้แบบนี้แน่ ถ้าไม่ฟังกรูก็ไม่ต้องกลับ”
“พี่ไม่มีสิทธ์มาห้ามผม...เพราะไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว”ผมผลักไอ้พี่เต้ออกไปแล้ววิ่งหนี แต่ก็ไม่ทัน พอไอ้พี่เต้มันไขประตูบ้านได้มันก็ลากผมไปที่ห้องมัน ก่อนจะล็อคประตู
“มานี่”ไอ้พี่เต้มันลากผมไปที่เตียง ตอนนี้สีหน้ามันน่ากลัวมากจริงๆ มันกดข้อมือผมไว้กับเตียงและทับขาผมไว้จนขยับตัวแทบไม่ได้
“พี่จะทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ”ผมตัวสั่นด้วยความกลัว แต่ไอ้พี่เต้มันก็ไม่ได้สนใจ แล้วกระชากเสื้อผมจนกระดุมขาดเกือบหมด เข้มขัดผมถูกปลดออกและกางเกงผมกำลังจะถูกดึงลง ช่วงจังหวะที่ไอ้พี่เต้มันผ่อนแรงที่ทับขาผมเพราะต้องดึงกางเกงออกผมก็ใช้ช่วงนั้นดิ้น ไอ้พี่เต้มันเลยกระชากกางเกงผมออกไป แล้วใช้กำลังกดขาผมไว้
“อย่า...”ผมร้องอย่าหวาดกลัวเมื่อใบหูผมถูกกระตุ้นด้วยลมหายใจร้อนและลิ้น เมื่อผมไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืนไอ้พี่เต้ก็คลายแรงที่กดข้อมือและขาผมไว้ออก ผมกลัวจนร้องไห้ออกมาเพราะมันไม่มีเเม้เเต่เศษเสี้ยวของความอ่อนโยน เเต่มันเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ไอ้พี่เต้เห็นผมร้องไห้เลยหยุดการกระทำทั้งหมดลง
“กรูไม่อยากปล่อยมรึงไป”
ผมนิ่งไปพักนึง และมองหน้ามันเหมือนจะค้นหาอะไรบางอย่าง และสิ่งที่ผมเห็นก็คือความเจ็บปวดและความสับสนที่แสดงออกมาทางสีหน้ามัน
“ฮึ่ก...พี่ทำร้ายผมขนาดนี้ทำไม”ผมร้องไห้และทุบไหล่ไอ้พี่เต้ และพยายามลุกขึ้นช้าๆเท่าที่พอจะมีแรงทำได้
“โธ่โว้ย...”ไอ้พี่เต้มันปัดแจกันบนโต๊ะข้างเตียงจนแตกกระจาย...และต่อยกำแพงจนมือกำแพงเปื้อนเลือดไปหมด
“พอ...พอแล้ว”ผมลุกไปดึงแขนมันไว้ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่อยากให้มันทำร้ายตัวเอง แม้ว่ามันจะเป็นคนที่ทำร้ายผมก็ตาม
เหมือนคนโง่...“กรูไม่ได้ตั้งใจ...ไม่ได้อยากทำร้ายมรึงจริงๆนะ...แต่กรูรู้แล้วว่ากรูขาดมรึงไม่ได้จริงๆ...อย่าเลิกกับกรูได้มั้ย”ไอ้พี่เต้มันหันมากอดผมไว้ และเพราะน้ำตาของมันที่ทำให้ไหล่ผมเปียกโชก
ผม...ควรทำยังไงต่อไปดี
ผมคิดว่าตัวเอง...กำลังจะใจอ่อน
ทั้งที่ผมบอกตัวเองเป็นพันๆครั้ง...ว่าผม...ไม่ได้รักมันแล้ว
ทั้งที่ผมบอกตัวเองเป็นหมื่นๆครั้ง...ว่าผม...เกลียดมัน
ทั้งที่ผมบอกตัวเองเป็นแสนๆครั้ง...ว่าผม...ไม่แคร์มันแล้ว
แต่สุดท้ายผมบอกตัวเองเป็นล้านๆครั้ง...ว่ามัน...ไม่จริง
ความรักมันก็เหมือนเหมือนซีเมนต์เปียก ยิ่งยืนอยู่นานเท่าไหร่ ก็ยิ่งจากไปได้ยากเท่านั้น และจะไม่มีวันจากไปได้โดยที่ไม่ได้ทิ้งรอยเท้าไว้ เเละตอนนี้ผมก็รู้สึกเหมือนซีเมนต์ที่ผมยืนอยู่มันเริ่มเเห้งเเล้ว เพราะผมรู้สึกว่าการที่จะเดินออกมาจากตรงนั้น...มันทำได้ยากจริงๆ“ปล่อยผมก่อน”ผมผลักมันออกเบาๆเป็นเชิงให้ปล่อยตัวผม แต่ทำแบบนั้นแล้วไอ้พี่เต้มันก็ยิ่งกอดผมซะแน่นจนแทบหายใจไม่ออกเลย
“ไม่...กรูไม่ปล่อย”
“ขอผมดูแผลที่มือพี่ก่อน”
ไอ้พี่เต้มันมองหน้าผมอย่างชั่งใจ ก่อนจะปล่อยผมและเดินไปนั่งบนเตียง ผมเดินไปหยิบสำลีชุบกับน้ำเกลือ(อันนี้ไม่แสบนะใช้ฆ่าเชื้อโรค)มาเช็ดแผลให้ไอ้พี่เต้ แต่ดูแล้วมันน่าจะเป็นหนักเหมือนกัน
“ผมว่าพี่ไปหาหมอดีกว่า เผื่อว่ามันจะเป็นอะไรมาก”
“...ที่กรูเจ็บมันยังน้อยกว่าที่มรึงเจ็บใช่มั้ย”
ผมชะงักมือที่กำลังเช็ดแผล สีหน้าเศร้าๆของมันผมไม่อยากเห็นเลย เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่าเราก็ต่างเจ็บปวดไม่เเพ้กัน
“...”ผมเงียบเพื่อเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องนั้นอีก
“ที่กรูอยากกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติและที่กรูกลับไปคบเมย์ เพราะมรึงมีคนที่ดีกว่ากรูมาให้เลือก...กี่คนที่มาจีบมรึงถ้ามรึงเกิดเลือกไอ้พวกนั้นแล้วกรูจะทำยังไง และกรูก็อยากมั่นใจว่ากรูจะไม่ลังเลและสับสนอีก กรูก็ไม่อยากทำให้มรึงเสียใจกับความไม่มั่นคงของกรู แต่ตอนนี้กรูกลับทำให้มรึงเสียใจไปเเล้ว...กรู...ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้...”ไอ้พี่เต้มันจับหน้าผมไว้ เเล้วพูดด้วยเสียงสั่นๆ
“พี่กำลังดูถูกความรักของผมอยู่ ผมไม่ได้รักใครง่ายหรอกนะ”ผมไม่ได้ใจง่ายขนาดนั้นนะ
“กรูก็รักมรึง...รัก...เท่าๆกับที่กลัว...ตอนที่มรึงจะเลิกกับกรู...กรูก็ได้คำตอบของเรื่องทั้งหมดแล้วว่าชีวิตปกติของกรูต้องมีมรึงอยู่ด้วย และกรูก็รู้ว่ามรึงเจ็บปวดแค่ไหนเพราะกรู กรูอาจจะเห็นแก่ตัวแต่กรูไม่อยากปล่อยมรึงไป ขอกรูเช็ดน้ำตามรึงอีกครั้งได้มั้ย...มีน ขอรอยยิ้มของมรึงให้กรูอีกครั้งได้มั้ย”
ผมมองหน้าไอ้พี่เต้ที่ทำหน้าจริงจัง โดยไม่มีแววโกหก เเละสับสน ด้วยความรู้สึกที่ไม่มั่นคง...เเละ...หวั่นไหว
“ผม...”จะทำยังไงดี
“กรูจะไม่ลังเลอีกแล้ว เชื่อกรูนะ”
ไอ้พี่เต้มันดูจริงจังจนผมกลัว...กลัวเหลือเกิน...กลัว....ว่าตัวเองจะใจอ่อน
ผมจะเชื่อมันอีกครั้งได้รึเปล่า...แค่ครั้งนี้จะได้รึเปล่า
ผมควรตัดสินใจยังไงดี...
มาแบบสั้นๆแล้วก็ไป ปั่นตอนใหม่
:กอด1:ทุกคนครับ ตอนเเรกว่าจะตอบรีทุกคนเเต่ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงเลยมาเเบบรวม(เเอบชั่วร้าย)
ไม่ไหวเขียนตอนดร่าม่าเเล้วก็เเบบว่า เหมือนนึกถึงความรู้สึกตอนนั้นเเล้วมันก็เศร้าพิมพ์ไปร้องไห้ไป
ไม่เท่เอาซะเลย(ทำไงได้... :impress3:เป็นคนอ่อนไหวนิ)
เเละผมก็อยากถามความเห็นเหมือนกันว่าถ้าทุกคนรู้เหตุผลของไอ้พี่เต้เเล้วจะเกลียดมันอยู่รึเปล่า เเล้วถ้าเป็นทุกคนจะ
ใจอ่อนมั้ย??? เหตุผลของมันจะฟังขึ้น(ดี)มั้ยเนี่ย???
ส่วนผม...ก็... :L1:ทุกคนเหมือนเดิมเสมอ
