มาแล้วจ้า มีข่าวจาคนเขียนมาบอกด้วย
ว่า...
เรื่องนี้จบไม่เศร้าหรอก คนแต่งเศร้าไม่เป็น เราเน้นฮา 
พยายามอ่านให้ฮานะ
ขอบคุณทุกคอมเมนท์เหมือนเดิมรอคนโพสกดได้จะไล่แจกทุกวันเลย

==========================================

เพลงประกอบของตอนนี้
http://www.youtube.com/v/RNdVxI9sAjo&rel=0&color1=0xb1b1b1&color2=0xcfcfcf&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1ตอนที่ 4หลังจากครั้งนั้น ผมไม่ได้ทำตัวให้แม่ หรือใครเป็นกังวลใจอีกเลย จนมาถึงวันนี้ วันที่ไอ้ยอนบออกว่า ฉานมันวิ่งหาผมไปทั่ว ผมไม่รู้ว่า ผมทำอะไร อันไหนคือสาเหตุให้มันกระวนกระวายใจตามหาผมขนาดนั้น ผมไม่รู้จริงๆครับ
“ฉาน” มันแหงนหน้าขึ้นมองผมครับ ยกคิ้วเป็นคำถามแทนการอ้าปากพูด คิดดูสิครับ มันเป็นห่วงตับชิ้นใหญ่ในปากมัน จนให้คิ้วมันตั้งคำถามกับผมได้
“มึงรีบกินเถอะน่า จะได้รีบไปนอน อย่าลืมสิ พรุ่งนี้มึงมีเรียนเช้ากะกู” มันกลืนสิ่งล้ำค่าชิ้นนั้นลงคอไปแล้วครับ แล้วจัดมาให้ผมอีกชุดใหญ่
“ตกลงเรื่องนั้นมึงพูดจริงเหรอ” ผมต้องไปเรียนเช้ากับมันจริงๆใช่มั้ยครับเนี่ย
“กูเคยพูดเล่นปะ มึงก็รู้กูคนจริงจัง” ครับพี่ มึงหนะจึงจังมาก แต่จริงจังกับการบงการชีวิตกูนะ แล้วปลดปล่อยอิระเสรีฟรีด้อมกะชีวิตมึง เดียวกูทนไม่ไหว กูถุยน้ำลายใส่ปากเลยนี่ แมร่ง ผมแค้นและหมั่นไส้มันในใจครับ แสดงออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ครับ มีแต่เจ็บกับเจ็บครับ กระต่ายชนช้าง มั้นไม่คุ้มใช่มั้ยครับ แล้วมันก็ลากผมกลับห้อง ครับ คืนนั้นกว่าผมกับมันจะได้นอน ก็ปาเข้าไปตีสี่ได้แล้วครับ แล้วที่มันสะเทือนใจผมไปกว่านั้นคือ มันมานอนห้องผมสิครับ ถึงหอพักจะมีสองห้อง แต่มันเป็นห้องนอนเล็กๆ จุเตียงเดี่ยวได้และมีที่ว่างเก็บของส่วนตัวนิดหน่อยเองครับ คืนนั้นทั้งผมและมันเบียดกันอบอุ่นปานร้อนวูบ แต่ผมสิครับ แทบอยากจะวูบในวันถัดมา ผมกระชากร่างพร้อมๆ กับสติและวิญญาณอันน้อยนิด มาถึงเดคไม้ใต้ต้นจิกน้ำ ข้างคณะได้อย่างทุลักทุเล หลังจากที่เมื่อคืนเข้านอนไปตอนตี 4 พร้อมๆ กับที่มีผีฉานแสงตามมาอำแบบเสริฟร้อนถึงที่ ไอ้ฉานหนะมันหลับได้หลับดีครับ พร้อมกับที่ลากผม ออกมาแลคเชอร์วิชากฎหมายก่อสร้าง กับมันในตอนเช้าได้ แล้วไหนจะต้องเรียนวิชาของตัวเองอีกหละ ผมจะไม่บ่นอะไรขนาดนี้ ถ้าเมื่อคืนหลังตี 4 ผมหลับได้หลับดีอย่างไอ้ฉานบ้าง แต่เปล่าเลยครับ ผมข่มตาหลับไม่ได้เลย เรื่องไอ้ฉานยังเป็นสมการที่ติดว่าตัวแปร X ที่ยังถอดไม่ได้ ยังไม่ทันที่สติจะเตรียมพร้อมอะไร ไอ้ฉานมันก็ลากออกมาจากหอ มารอเรียนพร้อมมัน จนเข้าช่วงบ่ายในวันนี้ ที่ผมพาร่างกายอันบอบช้ำ และสมองอันหนักอึ้ง มาถึงที่ประจำข้างคณะได้ ผมหลับตา ปล่อยวางสติลงช้าๆ เดคไม้ใต้ต้นจิกน้ำนี้ อยู่ข้างคณะครับ ลมพัดพาไอ้เย็นจากผิวน้ำ จากคลองเล็กๆ ที่แบ่งแยกอาณาเขตระหว่าง ศิลปศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ที่ตรงนี้พวกผมใช้เป็นฐานทัพในการสุมหัวกันทำงานบ้าง นั่งเล่นกันบ้าง ด้วยว่าคณะผมและคณะไอ้ฉาน ค่อนข้างเป็นคณะศูนย์รวมของลิ่ง ค่าง ทั้งหลาย จึงถูกเนรเทศมาสร้างคณะใหม่อยู่ห่างไกลความเจริญแบบนี้แหละครับ แต่ผมกลับรู้สึกชอบบรรยากาศเงียบสงบแบบนี้จังครับ ศิลปศาสตร์หนะมีแค่คลองเล็กๆ ตัดผ่าน แต่คณะไอ้ฉาน อยู่บนเกาะกลางน้ำเลยครับ สร้างได้ตามหลักยุทธศาสตร์ด้านการรบมากๆ ให้อารมณ์แบบกรุงศรีอยุธยา แต่ติดที่ว่า คณะมันเป็นอาคารแบบโมเดิร์นดิบๆนะสิครับ เลยมองไกลๆเหมือนสเคาท์เจอร์ประหลาดๆ(แต่สวยนะ) บนเกาะร้างมากกว่า คณะผมกับมัน มีสะพานไม้ข้ามคลองนี้ เป็นสะพานเชื่อมสัมพันธไมตรีของ 2 คณะครับ ไหนๆ เป็นคณะที่ไม่ค่อยคบใคร พอๆกับไม่มีใครอยากคบ เราเลยต้องมาคบกันเองแบบจำใจหนะครับ
ก่อนที่สติผมจะดับสลายไป
บ้านน้องอยู่ฝั่งทางโน้น
บ้านพี่อยู่ฝั่งทางนี้
หัวสะพานตรงกัน
อาบน้ำกันเห็นกันทุกที
อึ้ม! มามาซิ
ข้ามคลอง มารักกันรักกัน
เอ๊ะ! ถ้าจำไม่ผิดก่อนสติจะหลุดจากร่าง ผมจำได้ว่าเอนหลังตรงเคดไม้ใต้ต้นจิกนะ
แล้วนี่ ผมอยู่ที่ไหน มีใครมาจัดมหกรรมเพลงลูกทุ่งแถวนี้หรือเปล่า
ช่างมันเถอะครับ เพลงลูกทุ่งสกา ห่าเหวอะไร เรียกร้องความสนใจของผมตอนนี้ไม่ได้หรอก
สิ่งเดียวที่ใฝ่ฝันคือ คือ อยู่ในที่ ที่ พระอิศวร อย่างผม ควรอยู่ครับ
“ทน พี่ทน พี่ทนว่ายน้ำข้ามคลอง
คลอง ข้ามคลอง
ข้ามคลองที่กว้างห่างไกล
รักมันปักอุรา
พี่ว่ายข้ามมาด้วยความเต็มใจ
เอาความรักมาให้ ขวัญใจ
ด้วยความหวังดี”
ฮุย เลฮุย เลฮุย เลฮุย
เพลงนี้จะว่าไป ก็น่าออกสเต็ปดีเหมือนกันนะครับ แต่ไม่ไหวครับตอนนี้ พี่อยากนอน.......
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!! 555555555555
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!! 555555555555
เอ่อ.......ผมว่า ผมเริ่มไม่ไหวครับ ตามนิสัยแล้ว ผมชอบนอนที่สงบๆ และมืดๆ ครับ
เสียงเมื้อกี้ยังพอทนได้ จัดให้มันเป็นเพลงกล่อมนอนได้ แต่ไอ้เสียงกรี๊ด และเสียงหัวเราะที่ตามมา
เรียกว่าอะไรครับ มันเกิดอะไรขึ้น นักร้องมหกรรมเพลงลูกทุ่งสัญจรออนทัวร์ มันเต้นแล้วเป้ากางเกงขาด
หรือว่าอะไรครับ ผมว่า ผมตื่นมาหาคำตอบเองจะดีกว่า ตอนนี้ ที่ที่ปลอดภัยที่สุด ไม่ใช่เสมอไปแล้วครับ
ชั่วขณะที่ขยี้บี้ขี้ตาอยู่นั้น เรตินาผมเริ่มจะปรับโฟกัส เข้าใกล้ความปกติมากที่สุด พยายามเพ่งมองไปตามเสียงนั้นครับ เห็น ร่าง 2 ร่าง ที่ยังไม่แน่ใจว่าใช่ผีหรือคน กำลังออกสเตปหลุดโลก โยกย้ายไปมา อยู่ฝั่งตรงข้ามคลอง ครับ
หืออออออออออออออออออ!! คลองฝั่งตรงข้าม มันคือคณะถาปัตย์ แล้วร่างสองร่างนั้น ถ้าเพ่งมาดีๆ
ผมคุ้นตามันทั้ง 2 ร่างนั่นแหละครับ ไม่รอช้าครับไม่รอช้า ผมเทคตัวขึ้นมา เดินไปตรง เดคที่ยื่นไปในน้ำครับ
พยายามรวบรวมตั้งสติที่มีอยู่ในตอนนี้ เพ่งมองไปที่ พญาวานร สองตัว ที่ตอนนี้ มันบิดตัวไปมา มือไม้มันวาดไปมาในอากาศ
มันคล้ายๆกับท่าเต้น แต่สเตปมันเป็นจังหวะอิสระมากคับ นั่นคือ ไอ้สองตัวนั้น มันเต้นตามใจมัน แล้วคิดดูนะครับ ผู้ชายคนนึงหน้าตาดี มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วมหาลัย นี่ขนาดคณะมันโดนเนรเทศ มาอยู่ห่างไกลสิ่งเจริญหูเจริญตาขนาดนี้ ยังไม่วาย มีสาวๆๆคณะอื่น โฉบมาด้อมๆ มองๆ ไม่ได้ขาด กำลังเต้นท่าอุบาทว์สายตา อยู่ริมน้ำ
ถูกครับ ไอ้คนนั้น มันคือไอ้ฉาน ส่วนอีกคนที่เห็นนั้น มันตัดผมสกินเฮดครับ แต่มีปอยด้านหลัง เหมือนเด็กจุกสมัยก่อน แต่ที่ล้ำกว่านั้นก็คือ จุกหยอมแหยมนั้น มันยังเสือกปั่นเดทล็อคครับ หล่อฉิบตายเลยครับ หล่อแต่เลือกไม่ได้
หรือว่า คณะผมกับคณะตรงข้าม เรายังไม่ได้ทำบุญตึก ครับ ไอ้ฉานกับไอ้แกละ เพื่อนสนิท แห่งสถาปัตย์ คู่หูดูโอคอนทราส มันถึงได้มาร้องเพลง แถมเต้น ขอส่วนบุญอยู่ฝั่งนั้น
“เฮ้ย ไอ้ฉานแสงแรงกล้า มึงมาตะโกนโหวกเหวกอะไรวะ มึงเห็นมั้ย ไอ้เมฆมันนอนตายอยู่ มึงร้องเพลงเกี้ยวใครไม่ทราบ
แถวนี้ ไม่มีตัวเมียที่ไหน ผ่านไปผ่านมาสักพักแล้วนะมึง” เสียงไอ้หน่าครับ เสียงนี้มีคนเดียวแหละครับ ในคณะผม เสียงยัยทอมฆ้องแตกแห่งศิลปกรรม มันเป็นคู่ปรับลับหมาในปากกันมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่งแล้วครับ นี่ก็เป็นเรื่องปกติในกลุ่มเพื่อนผมและเพื่อนไอ้ฉาน ไม่ได้แปลกใหม่แต่อย่างใดครับ ไม่ต้องตกใจ
“ บ่นอะไรยัยแก้วสามดวง เค้าร้องเพลงเกี้ยวเมียเค้า แล้วเราเกี่ยวอะไรไม่ทราบคร๊าบบบบบบบบบ” จะใครซะอีกละครับ รีแอคชั่นลับมาทันทีไม่มีเบรคคิดก่อนแบบนี้ มีไอ้ฉานคนเดียว
“ฮิ้วววววววววววววววววววววววว” เสียงนี้ก็ไม่ใช่ใครครับ ไอ้แกละ ลูกสมุนไอ้ฉาน มันเป็นลูกคู่ให้ลูกพี่มันครับ เรื่องปกติขอีกเช่นกัน
ยัยแก้วสามดวง หรือไอ้หน่า จริงๆ ที่บ้านเรียงน้องน้อยหน่า พ่อแม่มันเรียก รัตนา ครับ แต่ยัยแก้วสามดวงที่ไอ้ฉานเรียก มาจากคำแปลของรัตนา ชื่อจริงมันนั่นแหละรับ
ผมถอดหายใจทิ้งไปเสียเฮือกใหญ่ครับ ก่อนหันหลังกลับไปทรุดนั่ง พิงหลังต้นจิกเหมือนเดิม เสียงกรี๊ดและเสียงหัวเราะ เงียบไปแล้วครับ มองไปอีกที ไอ้ฉานกับไอ้แกละ รวมถึง ไอ้นที ไอ้ไผ่ ไอ้ไม้ และไอ้ปาย เพื่อนๆๆแกงค์ไอ้ฉานมัน เดินข้ามสะพานเชื่อมคลองมาทางฝั่งนี้แล้วครับ
ความบรรลัยมาเยือนอย่างไม่ต้องสงสัย
“ เมฆ มึงหนะหัดอบรมสามีบ้างอะไรบ้างนะ เห่าหอนแบบนี้ เห็นทีจะเสร็จพวกเทศบาล” ไอ้หน่ามันเริ่มเปิดศึกวันธงชัยครับ ผมเองก็หวั่นใจว่าต้องเป็นกรรมการห้ามมวย ถ้าใครว่างก็ช่วยโทรตามให้แอนตาซิล กระทิงแดงสแตนบายไว้ที คราวนี้ผมว่ามีแตก เผลอๆๆมีน็อค ได้แจกทองแน่ๆครับ
“น้องหน่าจ๋าน้องหน่า ใครเห่าใครหอนจ๊ะ พวกพี่นะเทพมาจุตินะ ไม่ใช่กระต่าย จะเห่าหอนได้อย่างไร” ยกแรกไม่ต้องถึงมือไอ้ฉานครับ ไอ้แกละลูกสมุนมันปล่อยมาก่อนฮุกแรก
“ กูหมายถึงหมาอะแกละ “ ไอ้หน่าหลบทันปล่อยหมัดฮุกหน้าตามมาครับ
“อุ้ย แรงครับแรง สุภาพสตรีฝั่งคลองทางนี้ ทำพี่แกละสะเทือนใจ” ตอแหลได้ใจมากครับไอ้แกละ ผมหละอยากบ้าวันละลายๆๆเวลา ถ้ามันมาชุมนุมพร้อมกันแต่ละที นี่เพื่อนกลุ่มผมยังมาไม่ครบนะครับ
“หมดยกๆ เลิกๆ กูหนวกหู วันนี้วันศุกร์ ไปไหนกันวะพวกมึงทั้งหล่ยอะ” ขอบคุณครับเพื่อนไผ่ กูขอบคุณมึงมากอย่างใหญ่หลวง
“ถ้าไม่ไปไหน 1 เมามั้ย แล้วห้องใครห้องมัน” ไอ้ไม้ มันเปิดคอร์สบริหารตับครับ สุดสัปดาหืทั้งทีเป็นเรื่องปกติมากครับ
ขนาดไม่สุดสัปดาห์ มันยังหาเรื่องเมามันได้ทุกวัน
“กูกะไอ้เมฆ ต้องกลับบ้านหวะ แม่โทรมาตามแล้ววันนี้” โอ้ พระเอกเราค่าตัวแพงครับ จะมีบทพูดทีต้องรอเวลา