บุพเพวายร้าย
6.
พอผมเข้าไปบ้าน แม่ก็แปลกใจระคนตกใจที่เห็นผมกับพี่วุฒิกลับมาด้วยกันและยังหน้าผมเยินบวมอีกโดยเฉพาะผม
“เกิดอะไรขึ้นจุม?”แม่ปรี่เข้ามาดูหน้าผม พอแม่แตะหน้า ผมก็ร้องโอ๊ย ซี้ด แสดงความเจ็บปวดออกทันที
“ ผมผิดเองครับ ผมผิดเอง” พี่วุฒิบอกเหมือนรู้สึกผิดเต็มประดา
“ ผิด เรื่องอะไร?!”
“ แม่ครับผมโดนรุ่นพี่ที่โรงเรียนรุมเอา เพราะผมดันไปมองหน้าพี่เขา พี่เขานึกว่าผมหาเรื่อง แต่ดีที่พี่วุฒิเข้ามาช่วย.. ทำ..ใ.ห้เราปรับความเข้าใจกันได้ครับ”
“ ปรับความเข้าใจ??”
“ ครับ ผมยกโทษให้พี่วุฒิที่เขาเคยทำร้ายผม แต่ที่พี่เขาทำไปเพราะหึงผม และพี่วุฒิสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก” ผมบอกเป็นชุด เจ็บในอก ที่ต้องหลอกแม่ตัวเอง
“ แต่แม่คิดว่า.....”
“ นะครับแม่ ยกโทษให้พี่วุฒิด้วย เขาเป็นคนที่ผมรัก...”
“ ผมขอโทษจริงๆครับคุณป้า ผมดูแลจุมเขาไม่ดีเอง” พี่วุฒิว่า
“ ต้องดูกันไปก่อน...” แม่ผมว่าดูท่าท่านจะไม่คอยเชื่อพี่วุฒิง่ายๆ
“ คุณแม่ครับ ผมรู้ว่าคุณแม่ยังไม่เชื่อในตัวผม แต่ผมขอให้คุณแม่ให้โอกาสผมได้ลองพิสูจน์ตัวเอง ได้ไหมครับ”
“ ......................” เป็นอันว่า แม่ผมเชื่อพี่วุฒิจนได้ ซึ่งมันไม่แปลกเลย แม้แต่ผมเองยังงว่าพี่วุฒิทำได้ยังไง ทำเหมือนรักผมหมดหัวใจทั้งที่เมื่อกี้ยังแทบจะกินเลือดกินเนื้อผมอยู่เลย
.
.
.. ..........
.
..
พี่วุฒิกลับไปแล้ว แม่ไม่ได้ถามผมอีกจนกระทั่งตอนเช้า ผมคิดว่าแม่คงนอนคิดเรื่องผมทั้งคืน เพราะตอนเช้าหน้าแม่ดูซีดมาก
“ จุม คิดดีแล้วหรือลูก?” แม่ถามผมขณะที่ตักข้าวใส่จานให้ผม
“ ครับ”
“ แม่ไม่สบายใจเลย ถึงจะเคารพการตัดสินใจอของลูก แต่มันเร็วเกินไป...”
“ เพราะจุมเป็นผู้ชายใช่ไหมครับ?”
“ ไม่ใช่ ถึงจุมจะเป็นอะไร ผู้หญิง ผู้ชาย หรือเพศไหน จุมก็เป็นลูกแม่ และมีสิทธิ์รักใครก็ได้ ขอแค่ไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร..”
“ แม่........................ขอบคุณครับ” ผมบอกซาบซึ้งบุญคุณแม่ที่ให้กำเนิดผม และเข้าใจผม ถึงพ่อผมตายตั้งแต่ผมยังเด็กแต่ผมไม่รู้สึกว่าขาดความรัก แม่คือแม่และเป็นพ่อของผม
“ มีอะไรก็บอกแม่”
“ ครับ” ผมให้แม่ลูบหัวผมต่อไป ไม่อยากให้หยุดเลย เพราะมันรู้สึกดี ช่วยผ่อนคลายเรื่องในใจให้สงบลงอย่างเหลือเชื่อ
แล้วผมขึ้นไปนอนต่อ วันนี้แม่ไม่ยอมให้ไปเรียนครับ ตอนเช้าหน้าผมบวมมากจน ตาข้างหนึ่งแทบมองไม่เห็น
แต่ผมก็ไม่ลืมโทรบอกบันบัน ว่าผมไม่สบายวันนี้ไม่ไปโรงเรียน หลังเลิกเรียน 2 คนนั้นคงมาหาผมแน่ๆ ผมคงต้องคิดคำแก้ตัวดีๆไว้ แต่ตอนนี้ขอนอนก่อนปวดหัวจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว
ถ้าหลับแล้วตื่นขึ้นมา แล้วพบว่า ทุกเรื่องฝันไปคงจะดีไม่ใช่น้อย...
และผมก็หลับไปด้วยพิษไข้ ยาลดไข้ และแก้ยาปวด
.
ตอนเที่ยงแม่โทรมาครับ ว่าให้ผมอุ่นกับข้าวที่อยู่ในตู้แล้วกินข้าวเที่ยงกินยา แม่เป็นห่วงผมมากวันนี้ก็อยากจะแลกเวร แต่ไม่มีใครว่างพอแลกได้แลย
กริ้งๆ ทันทีที่แม่วาง พี่วุฒิก็โทรมา ผมจำต้องกดรับ ทั้งที่ไม่อยากจะพูดเลย
“ ครับ”
“ทำไมมรึงไม่มาเรียน มรึงคิดจะหลบหน้ากรูใช่ไหม!”“ วันนี้ผมไม่สบาย” ผมบอก
“ คิดจะหลบก็หลบมันได้ตลอด” ดูเหมือนพี่วุฒิจะไม่ฟังที่ผมพูดด้วยซ้ำ
“ ผมไม่สบายจริงๆไม่เชื่อพี่ก็มาดูเองเลย” ผมบอก ทำไมเขาไม่ฟังที่ผมพูดบ้าง
“ ก็มรึงชอบตอแหล่ พูดไม่ตรงการกระทำ!!”
“ ........................................” ผมสะอึ้กกับคำพดพี่วุฒิ ผมไม่เคยโกหกเลย แต่ตอนนี้ผมโกหกแม่ตัวเอง โกหกเพื่อนของผมก็เพราะพี่วุฒิ แต่ผมพูดไปคงไม่จบแค่นี้แน่
“ พี่ครับผมขอเถอะผมปวดหัวจะไปกินข้าวและกินยานอน”
“ นี่มรึงกล้าผมกับกรูแบบนี้ มรึงรู้ไหมว่าจะได้รับผลยังไง!” ผมปวดหัวมากยิ่งพูดกับพี่วุฒิก็ยิ่งปวดหัว ผมเลยกดปิดเสียง อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แล้วออกมาจากห้องลงไปข้างล่าง
ในตู้มีข้าวผัด กับแกงจืดผมเอาไปอุ่น แต่กินได้นิดเดียวเพราะมันฝืดคอ ก่อนที่จะขึ้นห้องไปกินยา แล้วนอนต่อ ผมยังง่วงและปวดหัวอยู่มากครับ
ในมือถือ พี่วุฒิโทรมาไม่ได้รับ 2 สาย และมีข้อความเข้ามาจากบันบันด้วย แต่ลงชื่อ 2 คน
เป็นไงบ้าง? เลิกเรียนไปหานะที่รัก จุ๊บๆ 2 ที
< บันบันและทาสรับใช้นายธี ผมปวดหัวตุบๆแต่ยิ้มจนขำเลยครับเมื่ออ่านจบ
…………………….บันบันเฮฮาได้ตลอดสิน่า~
ขำแล้วก็มานั่งเจ็บแก้มเจ็บหน้ามันสะเทือนสิครับ แต่คุ้ม...ว่าแล้วก็นอนต่อดีกว่า
สัมผัสลื่นๆสากชวนให้รู้สึกอึดอัดประหลาด ริมฝีปาก อืม...............
!? อึดอัด........หายใจไม่ออก หายใจไม่ออก
พรึ่บ!
ผมลืมตาขึ้นสิ่งที่เห็นดวงตาคมกริบที่จ้องผมอยู่ ริมฝีปากผมถูกประกบด้วยปากเจ้าของดวงตานั้น ปลายลิ้นในปากซอนไซอย่างชำนาญ
ผลัก!
ผมผลั่กพี่วุฒิเต็มแรงตกใจ แล้วรีบลุกขึ้น
“ กรูคิดแล้วว่ามรึงต้องตื่น!” พี่วุฒิว่าลุกขึ้นจากเตียงไม่เร่งรีบ เดินสำรวจห้องวนไปวนมา
“ พี่ มาที่นี่ได้ยังไง?” ผมถาม มองพี่วุฒิด้วยความไม่สบายใจ
นาฬิกาดิจิดอลหัวเตียง บอกเวลา 15.00
“ ขับรถมา แล้วก็เดินขึ้นมา” พี่วุฒิบอกเปิดลิ้นชักผม หยิบปากกา ดินสอขึ้นมาแล้วโยนทิ้ง เห็นหนังสือ หรือสมุดก็เปิดดูแล้วเก็บแบบส่งๆ
“ พี่มาดูผมว่าผมป่วยจริงหรือเปล่า?”แม่คงไม่ได้ล็อกประตูเพราะคิดว่าธีหรือบันบันอาจจะมา ละเป็นตอนกลางวันด้วยไม่ล็อกคงไม่เป็นไร
“ ใช่” พี่วุฒิตอบ ไปเปิดตู้เสื้อผ้าผม ไล่ดูเสื้อที่แขวนไว้ บ้างตัวก็หยิบออกมาดูแล้วก็โยนทิ้งใส่เข้าไปไม่ใส่ใจ
“ พี่ นั่นมันของของผมนะ” ผมว่าทนไม่ได้ที่พี่วุฒิจะมาเที่ยวรื้อค้นของผมแล้วทิ้งส่งๆไปแบบนี้
“ เสื้อที่มรึงไปใส่ไปหากรูวันนั้นกรูมาเห่ยแล้ว แต่ที่มีอยู่ในตู้มรึงดูไม่ได้ ...” พี่วุฒิว่า แล้วหันมาจ้องผมที่นั่งอยู่บนเตียง
“ ......................................................”
“มรึงเป็นของกรู ของของมรึงก็ต้องเป็นของกรู.....................” พูดจบก็เดินเข้ามาหา ผมจึงเป็นฝ่ายขยับหนี แต่เขากลับนั่งบนขาผม
“ หน้ามรึงดูดีมากเลยว่ะ!” พี่วุฒิว่ายกมือจะมาจับหน้าผม แต่ความกลัวทำให้ผมปัดออก
“ เอ๊ะ! มรึงนี่” พี่วุฒิว่าลุกขึ้นตรงปรี่เข้ามาหาผม
บรืน~
เสียงรถแม่กลับมาเร็วกว่าปกติ ท่านคงเป็นห่วงผม ผมอยากให้ท่านเปิดประตูเข้ามาตอนนี้เลย
“ มรึงโชคดีไป ถ้าคราวหน้ามรึงกล้าปัดมือกรูอีกล่ะก็.....น่าดู”
ก็อกๆ ๆ
“ ครับผม” พี่วุฒิว่าแล้วเปิดประตู “ สวัสดครับ”
“ นี่...?” แม่หันมามองผม คงจะถามว่าพี่วุฒิมาอยู่ที่นี่ได้ไง
“ สวัสดีครับ ผมมาตั้งแต่เที่ยงแล้วล่ะครับ ตอนโทรมาหาจุมทราบว่าคุณแม่ไปทำงานเลยมาดูแลจุม อยากจะมาตั้งแต่เช้าเหมือนกันแต่ตอนเช้ามีสอบ” พี่วุฒิแจงไม่ได้อายปากเลย เขาโกหกเป็นชุดเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ
และยังเรียกแม่ผมว่า คุณแม่ อีก
“ สวัสดีจ้ะ แล้วตอนบ่ายมาอาจารย์เขาไม่ว่าเหรอ?” แม่ถามเดินเอามาแตะหน้าผากผม บอกว่าไข้ลดลงมาก แต่อาหารบวมยังคงมากอยู่ พรุ่งนี้ก็ลดลงกว่านี้แต่ไม่มากเท่าไร
“ ตอนบ่ายเป็นวิชาที่ผมถนัด ผมขาดเรียนคาบ 2 คาบคงไม่เป็นไร” พี่วุฒินั่งลงบนเตียง แล้วหันมามองผม
“ จุม เหงื่ออกแล้ว เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้ นะ”
“ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมให้แม่เช็ดให้” ผมบอก แต่พอสบตาพี่วุฒิที่นิ่งคาดโทษผมแล้ว ผมจำต้องเปลี่ยนใจ
“ ...........ให้พี่เช็ดให้ก็ได้ครับ.........” ผมบอก แม่มองหน้าผมนิดหนึ่งแล้วเอามือขยี้หัวผมเบาๆก่อนที่จะออกไปและบอกให้ลงไปกินข้าวตอน 6 โมง และยังชวนพี่วุฒิอีก
“ ...............................................................เมื่อกี้มรึงจะพูดอะไรกันแน่” พี่วุฒิจากหน้ามือเป็นหลังตีนเมื่ออยู่กับผม 2 คน
“ พี่หมายถึงอะไร”
“ พอกรูบอกว่าจะเช็ดตัวให้ บอกว่าจะให้แม่เช็ดให้”
“ ...................................แล้วจะให้ผมพูดออะไรล่ะ?” ผมถามแต่พี่วุฒิดูจะไม่ชอบที่ผมตอบแบบนั้น
“ เถียง!”“ ผมเปล่า”
“ เดี๋ยะ มรึงนี่กวนตรีนกรูตลอด”
“ ..............................................................................” ผมพูดอะไรก็ผิดไปหมด เพราะงั้นผมไม่พูดดีกว่า
พี่วุฒิมองหน้าผม แล้วไม่พูดอะไร สงสัยผมไม่พูดจะเป็นการดีที่สุด แต่เขากลับขยับมาหาผมรวดเร็วก่อนที่มือจะกำคอเสื้อผม
“ พพะพี่จะทำอะไร?!” ผมถามตกใจที่อยู่ๆก็มาจับมาดึงเสื้อ
“ ...เงียบน่า” พี่วุฒิว่าจะถอดเสื้อผมให้ได้
“ พี่วุฒิหยุดนะ!!” ผมบอกกำมือที่วุฒิแน่น ยอมรับมากกลัวเลยครับไม่รู้ว่าพี่วุฒิจะทำอะไรกันแน่
“ กรูจะ เช็ดตัวให้มรึงไง!” พี่วุฒิยิ้มยิ่งเห็นผมลนลานก็ยิ้มยิ้มกว้างขึ้น
“ ไม่ต้อง ไม่ต้อง ! ผมจะอาบน้ำ” ผมบอกจับมือพี่วุฒิไว้ไม่ยอมปล่อยเหมือนกัน ผมเดาใจเขาไม่ถูกเลย
“ ก็ไปอาบดิ” พี่วุฒิว่าปล่อยมือจากผมแล้วลุกขึ้นปัดฝุ่นจากเสื้อ ผมไม่ได้สกปรกขนาดนั้นสักหน่อย ผมรีบลุกขึ้นเลยล่ะครับ กลัวว่าพี่วุฒิจะทำอะไรแปลกๆอีก คว้าได้ผ้าเช็ดตัวก็รีบเข้าห้องน้ำ แต่นึกขึ้นได้ว่ายังไมได้เอาชุดที่จะใส่ไปด้วย เลยต้องรีบออกไปเอา เลือกๆจากที่กองๆในนั้นแหละครับ
ผมเข้ามาในห้องน้ำค่อยหายใจโล่งขึ้นหน่อย พอมีพี่วุฒิอยู่ในห้อง รู้สึกว่าอากาศมันน้อยลงจนอึดอัด
เดินผ่านกระจกเห็นหน้าตัวเองแล้วอุบาทว์มากเลยครับ หน้าข้างหนึ่งบวมแดง ตาข้างหนึ่งก็มองเห็นแค่ริบรี่ ใครเห็นใครก็ต้องตกใจ
“ ................................” ผมเปิดผักบัวแล้วเอามือไปรอง โดนน้ำแล้วเย็นเจี้ยบเลยครับ หนาวจนขนลุก เลยตัดสินใจเช็ดตัวจะดีกว่า
เสร็จตัวเสร็จผมก็ใส่เสื้อผ้าแล้วก็อยู่ในห้องน้ำนั่นแหละครับ ผมไม่ออกไปหรอก รอให้ 6 โมงครึ่งแล้วค่อยลงไปกินข้าว
.
..
ตุบๆ
เสียงทุบประตูทำให้ผมสะดุ้งตื่น ผมเผลอหลับไปคาชักโครกตอนไหนไม่รู้
“ ออกมาได้แล้ว ไม่งั้นกรูผังประตู” ผมรีบกระลุกขึ้นรับไปเปิดประตู เห็นพี่วุฒิบอกบุญไม่รับอยู่หน้าประตู
“ อาบเป็นชั่วโมง กรูนึกว่าตายคาห้องน้ำไปแล้ว” พี่วุฒิพูดแล้วดึงผมที่ยิ่นเก้ๆกังๆไม่รู้จะทำไงดีให้ออกมา ก็พี่วุฒิยืนซ่ะเต็มประตูเลย
“ ......................................”
ก็อกๆ เสียงเคาะประตูไม่รู้ว่าไง ผมและพี่วุฒิหันไปมองผมกกัน แล้วประตูก็เปิดออกออก บันบันกับธีครับ
“ บันบัน ธี” ผมว่าเดินเลี่ยงออกไปเพื่อน พี่วุฒิก็เดินตามมาครับ
พอธีกับพี่วุฒิเจอหน้ากันก็เหมือนโลกมันนิ่งไม่หมุน แต่พอบันบันแตะแขนเท่านั้นแหละไอ้ธีมันเลยรู้สึกตัวหันหน้ามาหาผม
“ เป็นไง?” ธีถามผม ลากแขนบันบันมาติดๆ ทำเหมือนไม่มีพี่วุฒิอยู่ในห้อง
“ ดีขึ้นแล้ว พรุ่งนี้คงไปเรียนได้” ผมตอบขึ้นไปนั่งบนเตียง โดยมีบันบันไปนั่งตามทำเหมือนผมทุกอย่าง ตากลมโตๆมองผมตาปริบๆ
“ ป้าจันทร์บอกว่ารุ่นพี่รุมมรึง กลุ่มไหนว่ะ กรูจะไปเอาคืน”
“ ธี อย่าสาวความยาวเลย แก้แค้นกันไปกันมาไม่จบ” ผมบอกเลี่ยงที่จะตอบคำถามไปในตัว
“ ...................................แล้วป้าจันทร์ยังบอกอีกว่ามรึงจะคบกับมัน...”
“ เฮ้ย! กรูพี่มรึงให้มันมีสำมาคารวะหน่อย” พี่วุฒิว่าลุกจากที่นั่งบนเก้าอี้ผมก็ยืนขึ้น
“ เป็นพี่แต่ทำตัวเหี้ย จะเรียกให้มันเสียปากทำไม!” ธีโต้ตอบเจ็บแสบไม่แพ้กัน ผมรีบลุกไปห้ามธีก่อนที่จะเดินไปหาพี่วุฒิแล้ววางมวยกันอีก
“ ธี ไม่เอาน่า”
“ ใช่สิ มันเป็นผัวมรึง กรูกับบันบันก็แค่เพื่อน มรึงจะเข้าข้างมันก็ไม่แปลก” ธีว่าปัดมือผมที่จับไหล่ออก..
ทำไมล่ะธี ทำไมไม่เข้าใจกันบ้าง สำหรับธี บันบันแล้วเป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุดของผมเลย พูดแบบนี้ผมน้อยใจมาก
“ ธี ทำไมมรึงพูดแบบนี้ล่ะ” ผมถามน้ำคาคลอเลยครับ
“ ก็มันจริง” ธีตอบแต่พอหันหน้ามาหาผม มันก็รู้สึกผิดที่พูดกับผมแบบนั้น
“ขอโทษ”
“ ถ้ามรึงรู้ว่ามรึงผิด อย่าพูดแบบนี้อีกนะ” ผมบอกเช็ดน้ำที่คลอเบ้าตาก่อนที่มันจะไหลลลงมา
“ กรูไม่พูดแล้วล่ะ” ธีว่าลูบหัวผมยังกะว่าผมเป็นเด็กผมก็ปัดออกสิครับ แกล้งงอนให้ง้อสักหน่อย
“ จุม อ่ะ” ธีเดินมาหาผมที่เตียง มันเหล่ตาไปหาบันบันว่าให้ช่วยง้อผมหน่อย แต่บันบันมันไม่สนใจครับ ไอ้ธีเลยหน้าซีดเลยนึกว่าผมจะโกรธมันจริงๆ
เห็นแล้วสงสาร ไม่แหล้งมันแล้วครับเห็นคนตัวโตมาทำท่าเหมือนหมาคิดสั้น แล้วไม่หนุก
“ ยิ้มหน่อยดิธี แค่ล้อเล่นเอง” ผมบอก เท่านั้นแหละครับหน้าธีมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันตา
“ นี่ พวกมรึง 2 คนเมื่อไรจะกลับ” พี่วุฒิถาม ธีหันควับตามเสียงคนพูด
“ แล้วมรึงล่ะเมื่อไรจะกลับ?”
“ ไม่กลับ นี่บ้านเมียกรู กรูจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้...” พี่วุฒิว่า หน้าผมร้อนขึ้นด้วยความอายทันที พอผมหันไปบันบันก็เห็นว่ากำลังจ้องผมอยู่เช่นกัน
“ มรึงพูดแบบนี้ต่อยกันเลยดีกว่า!” ธีจะลุกขึ้นแต่ผมดึงแขนไว้ มันเลยหันมาหา ผมส่ายหน้าบอกมันไม่อยากให้มีเรื่อง มันจึงหายเข้าลุกๆ ผมรู้ว่าผมพยายามอดกลั้น
“ พี่วุฒิ ผมว่าพี่กลับเถอะครับ” ผมบอกเชิงขอร้อง
“ กรูไม่กลับ ใครก็สั่งกรูไม่ได้” พี่วุฒิตอบนั่งลงเก้าอี้ไม้ของผมเช่นเดิม
“ กรูกับบันบันก็ไม่กลับ” ธีบอก ผมลอบถอนหายใจ
“ แต่กรูจะกลับ” บันบับว่าลุกขึ้นจากเตียง
“ บันบัน อย่าเพิ่งกลับนะ” ไอ้ธีขอร้องแต่บันบันไม่ยอมครับจะกลับท่าเดียว ผมรู้ว่าบันบันคิดอะไรอยู่เขาคงจะช่วยผม
“ ถ้ามรึงไม่กลับพร้อมกรู กรูจะโทรให้ไอ้กันต์มารับ” บันบันว่า เท่านั้นแหละธีลุกขึ้นยืนตัวตรงพร้อมที่จะกลับกับบันบันทันทีทันใด
“ ....จุมเจอกันพรุ่งนี้นะ” บันบันบอกแล้วเดินดึงแขนธีออกไปด้วย
“.............................”
“มรึงอย่าดีใจว่า มรึงเป็นเมียกรู ถ้าแค่พูดไปส่งๆ มรึงแค่นางบำเรอยังเอื้อมไม่ถึง......” พี่วุฒิว่าและไม่พูดอะไรอีก
ผมนอนหันหลังให้พี่วุฒิไมได้โต้ตอบอะไร ได้แต่ปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา......
สักครึ่งชั่วโมงผ่านไปได้ พี่วุฒิก็กลับไปเหมือนกันครับ ผมโล่งใจมากที่พี่วุฒิกลับไปเสียได้
*******************************
วันเดียวอัพ 10 ตอนเลยได้ไหมเจ้าค่ะ
