Want พี่แบงค์กันมาก เอาไปก่อนเลย
บุพเพวายร้าย
9.
แม้ว่าเราจะทุกข์จะสุขเวลามันก็เดินต่อไป
.
.
.
43 วันต่อมา
ผมอยู่ ม.5 งานวันปัจฉิมจึงเป็นหัวเรือใหญ่โดยมีน้อง ม.4 เป็นผู้ช่วยซึ่งต่อไปเขาก็จะเป็น ม.5 สอนน้องม.4 ต่อไป ผมเป็นผู้ชายจึงได้ทำพวกยกของ ยกเก้าอี้ โพเดียม ส่วนจัดผ้า จัดดอกไม้ พวกผู้หญิงรับผิดชอบไป
แต่พอถึงวันจริงผมกลับไปได้ไปเพราะผมไม่ลุกจากเตียงไม่ไหว เมื่อคืนพี่วุฒิมีเลี้ยงเรียนจบกับเพื่อน ๆเสร็จสักตี 1ได้ ก็มาหาผม....ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ถ้าพี่วุฒิต้องการเขาก็จะมาหาผมตอนกลางคืนบ้าง กลางวันบ้างตามแต่อารมณ์ บางครั้งถ้ามาตอนกลางวันก็มักจะซื้อของมาฝากแม่เพื่อตบตา
“ ..................................” ผมนอนขดตัวในผ้าห่มหนาวไปจนถึงกระดูกทั้งทีอากาศเย็นสบาย..แต่ผมหนาว
มันจบแล้ววันนี้พี่วุฒิจะเรียนจบ ผมจะเป็นอิสระ ไม่ต้องทนเป็นเครื่องระบายอารมณ์ให้พี่ย่ำยีอีกแล้ว
ผมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่....
กริ้งๆ บันบันโทรมาผมคว้ามือถือบนโต๊ะหัวเตียงกดรับ โดยไม่ได้ลุกขึ้น
“ ดีขึ้นยัง?”
“ ดีแล้ว” ผมตอบ อาการผมดีขึ้นกว่าเมื่อตอนเช้ามาก
“ วันนี้ไม่ได้ไปหานะ เจอกันวันจันทร์เลย” บันบันบอก ที่ว่าเจอกันวันจันทร์นี่คือพวกผมจะไปเที่ยวเกาะมัน จังหวัดระยองกันครับ เพราะบันบันมันไปจะดูเต่าที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าที่นั่น
“ อืม กรูรู้ว่าวันนี้กว่าจะเก็บของเสร็จคงเย็น” ผมบอกเข้าใจดีครับ เพราะวันนี้มีพิธีจบม.6
“ ว่าแต่มรึงไม่เป็นไรแน่นะ?” บันบันถามย้ำ
“ ไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้หิวข้าวจะแย่” ผมบอก ตอนนี้รู้สึกหิวจริงๆครับ เมื่อเช้าและตอนเที่ยงกินไปนิดเดียวแค่ได้กินยาเท่านนั้นก็พอใจ ตอนนี้ก็สบายใจขึ้นด้วยเลยหิวข้าว
“ ก็กรูเห็นว่าเดี๋ยวนี้มรึงป่วยไข้ 3วันดี 4 วันไข้ กรูกับธีเป็นกังวล” บันบันว่าเสียงปนความไม่สบายใจอย่างได้ชัด
“ ไม่แล้วล่ะ หลังจากนนี้กรูจะแข็งแรงเหมือนยักย์วันแจ้ง”
“ โม้”บันบันว่าผม แต่ผมยิ้มครับ
“ ไม่เชื่อคอยดู...”
“ กรูจะคอยดู แล้วก็ลงไปกินข้าวด้วยกรูจะวางแล้ว”
“ อืม ไปเลยพวกกรรมกรกรูจะนอน” ผมว่า เพราะหลังจากงานเสร็จผู้ชายมีหน้าที่แบกหามถึงแม้บันบันจะตัวเล็กแต่ก็เป็นผู้ชายยังไงก็ต้องใช้แรง
“ แค่คิดกรูก็เหนื่อย...แล้วเจอกัน” บันบันพูดแล้ววาง จากนั้นผมหลับต่อครับ นึกถึงอีก 2 วันไปทะเลแล้วคงสนุกน่าดู
ต่อจากนี้ผมคงไม่ได้เจอพี่วุฒิอีก คิดแบบนั้นใจก็หายวูบวาบแต่มันเป็นการดีต่อผม ผมจะไม่ต้องทรมานอีก มีชีวิตเหมือนก่อนที่เข้าไปข้องเกี่ยวกับพี่วุฒิจะกลับมา
ผมรู้ว่ามันยาก แต่มันจะดีขึ้นเอง เวลาเป็นยาชั้นดี....
พี่ครับผมจะคิดเสียว่าเรื่องระหว่างเรามันไม่คยเกิดขึ้น
วันนี้วันอาทิตย์เป็นวันปิดเทอมวันที่ 2 ตอนนี้ผมเริ่มเก็บตำรับตำราเรียนม.5ที่คิดว่าจะไม่ใช้แล้วใน ม.6 จะได้ไม่รกมาก
บรืน~ เสียงรถที่ผมจำได้ดี เสียงรถพี่วุฒิ!!จอดหน้าบ้าน
“ ......................................”
ไม่นานเขาก็เข้ามาในห้องผมโดยไม่เคาะประตู
“ .................................” ถึงพี่วุฒิจะเข้ามาในห้องแล้วแต่ผมก็ยังจัดหนังสือลงกล่องเหมือนเดิม
“ พรุ่งพวกกรูจะไปเที่ยวพัด-ยากัน มรึงต้องไปด้วย”
“ พรุงนี้ผมกับธีและบันบันจะไประยอง” ผมบอก
“ แต่มรึงต้องไปกับกรู”
“ พี่เรียนจบแล้ว พี่มายุ่งกับผมอีกทำไม?” ผมถาม
“ เรียนจบแล้วไง กรูบอกหรือไงว่าถ้ากรูเรียนจบจะไม่หยุดทรมานมรึง” ผมส่ายหน้าตอบ พี่วุฒิไม่เคยพูด นั่นมันทำให้ใจหายยิ่งกว่าคิดว่าจะไม่ได้เจอพี่วุฒิเสียอีก
“ มรึงคิดไปเอง มรึงนึกว่ากรูจะปล่อยให้มรึงไปเริงร่าง่ายๆ หรือไง!”
“ แต่พรุ่งนี้ผมจะไประยองกับเพื่อนผม”
“ มรึงต้องไปกับกรู!”
“ แต่พรุ่งนี้ผมจะไประยองกับเพื่อนผม” ผมพูดประโยดเดิม มือที่หยิบหนังสือค้างเมื่อพี่วุฒิเดินมาหา
“ ทำไมมรึงชอบลองดีกับกรูนัก!”
“ ผมไม่ได้ลองดี” ผมว่าจะวิ่งลงไปข้างหาแม่ ทว่าแขนถูกพี่วุฒิกระชากจนแทบหงายหลัง
“ ผมจะไปหาแม่ ....”
“ จะหาแม่ให้แม่ช่วยมรึงว่างั้นเถอะ” พี่วุฒิว่า มือกำแขนผมแน่น เล็บที่ตัดสั้นกดลงบนผิวผมจนเจ็บแปล้บๆ
“ .............................”
“ปัญญาอ่อน” พี่วุฒิว่า
“พรุ่งนี้ผมจะไประยองกับเพื่อนผม”
“
เอ๊ะ! มรึงนี่!” พี่วุฒิว่าพร้อมทั้งยกมือขึ้นเหมือนจะตีผม แต่ก็ยกค้างไว้ “ กรูถามมรึงอีกครั้งว่า ว่ามรึงจะไปไหน?”
“พรุ่ง นี้ผมจะไประยองกับ เพื่อน ผม.....” ผมบอกกลัวก็กลัว แต่ผมไม่อยากไปกับพี่วุฒิ
“ มรึงคิดว่าแม่มรึงอยู่บ้านกรูจะไม่กล้าทำอะไรมรึงใช่ไหม! ”
“ พี่ครับ ให้ผมไปเถอะ..” ผมขอร้อง
“ กรูไม่ให้ไป ยิ่งมรึงอยากไปกรูยิ่งไม่ให้ไป”
“ .................................”
“ ถ้าอยากลองดีมานี่เลย ท่าจะสอนไม่จำ” พี่วุฒิพูดพร้อมทั้งลากผมไปเตียง ผมรู้ได้ทันทีว่ามันหมายถึงอะไร
“ พี่ครับ อย่าทำแบบนี้ ผมไม่อยากทำ”
“ มรึงก็พูดแบบนี้ทุกทีแหละ แต่พอกรูทำก็ครางจนเสร็จทุกครั้ง”
“ ฮึ้ก ฮือๆพี่ครับ พี่ครับผมไปก็ได้ อย่าทำ” ผมบอกยอมแพ้ พอพี่วุฒิปล่อยมือผมก็ทรุดนั่งกับพื้น มือไม้สั่นไปหมดนึกว่าจะต้องเจออีก
ที่พยายามถือดีเมื่อกี้หายหมด
“ ไปตั้งแต่แรกก็หมดเรื่อง”
“ ............ ฮือๆ” ผมพยายามจะไม่ร้องแต่พอเห็นหน้าพี่วุฒิมันก็ไม่ยอมหยุดไหล
“ หยุดสักทีเถอะ กรูรำคาญทำเป็นนางเอกเจ้าน้ำตากรูเห็นแล้วเซ็ง” พี่วุฒิว่าแล้วเดินเข้ามาหา ผมถอยล่นจนชนเก้าอี้ตัวที่พี่วุฒิเคยนั่ง
“ เดี๋ยวพรุ่งนี้ ตอน ตี 5มารับ”
“...............................”
“ แล้วก็เช็ดน้ำตาตามลงมาด้วย เดี่ยวแม่มรึงจะว่ากรูทำอะไรมรึง”
“ ตามลงไป?”
“ เออ กรูซื้อขนมมา มรึงต้องลงไปกิน” พี่วุฒิเปิดประตูแล้วหันกลับหาผมถึงกับสะดุ้ง
“ อย่าช้า....”“ .........................” ผมเช็ดน้ำตาตามลงพี่วุฒิลงไปติดๆ จึงได้รู้ว่าแม่บอกพี่วุฒิว่าผมจัดของจะไปเที่ยวกับเพื่อนพรุ่งนี้ นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมพี่วุฒิจึงให้ผมไปด้วย พี่เขารู้ว่าผมจะไประยองแต่ก็ยังบังคับให้ผมไปด้วย .....
.....
.
.
.
หลังจากพี่วุฒิกลับไปผมโทรไปหาบันบันบอกว่าพรุ่งนี้จะไปกับพี่วุฒิ คราวนี้บันบันโกรธครับ
“ กรูนัดกับมรึงมาเป็นเดือน แต่ผัวมรึงบอกมรึงวันนี้ มรึงกลับจะไปในขณะที่นัดพวกกรูมรึงบอกให้เลื่อน” บันบันว่าใส่อารมณ์ ในตอนแรกผมบอกให้ธีกับบันไปกัน 2 คนครับ แต่บันบันบอกว่าจะรอ
“ กรูถึงได้บอกให้พวกมรึงไปกันเลย” ผมบอกความรู้สึกผิดมากเกินจะกว่าจะให้เพื่อนรอ ถึงแม้บันบันบอกว่าจะรอ แต่ก็ยังต่อว่าผม
“ ไม่ กรูจะรอ เราจะไปดูเต่ากัน 3 คน” บันบันพูดไม่ยอม
“ ......................” ผมรู้สึกผิด
“ จุม มรึงชักจะเอาใหญ่แล้วนะ” คราวนี้เป็นเสียงธีครับ บันบันคงส่งมือให้ธีเพราะไม่อยากพูดกับผมแล้ว เป็นการบอกให้รู้ด้วยว่าโกรธมาก
“กรูรู้เป็นกรูก็โกรธ”
“ มรึงรู้ไหม ตอนนี้เมียกรูมันนอนร้องไห้ใหญ่แล้ว ถาระต้องมาตกที่กรู มันงอนมรึงแล้วต้องพาลมางอนกรู”
“ ขอโทษ แต่กรูไม่รู้จะทำยังไง....”
“ รู้ก็ดี แต่อย่าให้มีอีก และหลังจากกลับมา มรึงต้องมาง้อเมียกรูด้วย”
“ อืม” ผมรู้ครับไม่งั้นบันบันคงไม่ส่งโทรศัพท์ให้ธีคุยแน่ “ ขอโทษนะ”
“ มรึงขอโทษแล้ว......................”
“................................”
“ ไปเก็บของเถอะ กรูจะปลอบเมียกรูแหละ...”
“ ธีมรึงโกรธกรูไหม?..............”
“ .............................................โกรธ...........”
“ ................................................” ผมพูดไม่ออก
“ แต่กรูจะพยายามไม่โกรธ เพราะกรูรู้ว่าตอนนี้มรึงก็ลำบากใจ...พอแล้ว”
“ ................................”
แล้วธีก็วางไปเฉยๆ แต่ผมก็ยังมองมือถืออยู่
“ ............................................”
ผมไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้เลย จะไปหยุดเวลาก็ไม่ได้......
ทำไมพี่วุฒิไม่ปล่อยผมไปสักที เมื่อไรพี่วุฒิจะพอใจ..
***********************************
ตี 4 ห้าสิบผมก็อาบน้ำเรียบร้อย ผมพร้อมสะพายเป้สัมภาระลงมารอพี่วุฒิข้างล่าง ส่วนแม่ยังไม่ตื่นครับผมบอกท่านไว้แล้ว และท่านก็คงรู้เองด้วย
ผมนั่งรอไม่ถึง 5 นาทีก็มีเสียงรถมาจอดหน้าบ้านผมก็ออกมาเลย
รถตู้สีขาวจอดหน้าบ้าน พี่วุฒิเลื่อนเปิดประตูออกมา
“ ยืนบื้ออยู่ได้ รีบขึ้นมา” พี่วุฒิบอก พอเดินไปใกล้ก็ดึงแขนผมเข้าไปแทบหัวคม่ำไปนั่งด้านใน
ผมนั่งข้างพี่วุฒิ ด้านหน้าเป็นพี่ชนะทำหน้าที่เป็นคนขับ ข้างคนขับคือพี่แบงค์ ถัดมาเป็นผมกับพี่วุฒิด้านหลัง คือพี่เอ พี่เก้า และพี่เอส กลุ่มพี่วุฒินั่นแหละ ซึ่งไม่มีใครอื่นอีก การเที่ยวทริปนี้เหมือนเป็นการไปปัจฉิมของพวกพี่เขา มีแต่ผมที่เป็นคนอื่นมันทำให้ผมอึดอัดเข้าไปอีก
“ กินไรมาหรือยัง?” พี่ชนะที่กำลังขับรถาม
“ยังครับ” ผมตอบ หันไปมองพี่วุฒิที่กำลังกดเกมส์ เสียงดังกิ๊กๆ
“ เอาแซนวิชให้จุมดิ” พี่ชนะว่าแต่ผมไม่รู้ว่าบอกใคร
“ ไอ้เซี่ยนะ น้องเขาจะได้ตายก่อนถึงพัด-ยา เพราะกินแซนวิชที่มรึงทำ” พี่เอว่า หัวเราะ ด้านหลังมีพี่เอคนเดียวที่ตื่นอยู่ครับ
“ อย่าดูถูก นี่อาหารชั้นอ๋องเร็วดิไอ้แบงค์น้องเขาหิวไส้แทบขาดแล้ว”
“ ไม่เป็นไรครับ ผมยังไม่หิว”ผมบอกเกรงใจ และไม่เคยกินเวลานี้ด้วย
“ กรูว่าน้องเขาไม่กล้ากิน ฮ่าๆ”พี่เอหัวเราะ
“ กินๆไปเถอะน่า ไม่ตายหรอก” พี่วุฒิพูด
“ .....................................”
ในรถเงียบมีกิ๊กๆจาดเกมส์ที่พี่วุฒิกด
“ .................................กินรองท้องไปก่อน เดี๋ยวจะแวะกินข้าวเช้าที่บางแสน” พี่แบงค์ว่าหันมาหาผมพร้อมกล่องพลาสติกใสขนาดเท่า A4 และหนากว่าฝ่ามือ
ผมเปิดดูในนั้นมาขนมปังช้อนทับอัดกัน แล้วมีไม้จิ้มฟันปักอยู่หลายที่ ผมหยิบขึ้นมาอันหนึ่งเป็นขนมปังไม่ตัดขอบช้อนทับกัน 3 แผ่นแทรกด้วยผักกาดแก้ว มะเขือ แฮม ซีสแผ่น ไข่ดาว เยอะมาก อย่าว่าแต่กินรองท้องเลยครับกินเข้าหมดอันหนึ่งไม่รู้ว่าตอนเที่ยงจะกินข้าวได้อีกหรือเปล่า
“ ไม่ต้องกินหมดก็ได้ เหลือก็ทิ้ง” พี่แบงค์บอก
“ พอดีแฟนไอ้ชนะมันสอนมา แต่ไม่รู้สอนยังไงได้อย่างที่เห็น”
“ อย่ามาว่ายาหยีกรูนะเว้ย! ไอ้แบงค์” พี่ชนะด่าแต่ไม่ได้โกรธ มันทำให้บรรยากาศในรถดีขึ้นครับ
ผมมองแซนวิชบิ๊กเบิ้มในมือ แล้วกิน มันอร่อยดีผิดกับรูปลักษณ์ซ่ะด้วย
“ อร่อยดีครับ” ผมบอกกัดแซนวิชอีกคำ
“ เห็นไหมเว้ย!!ไอ้แบงค์ น้องจุมบอกว่าแซนวิชกรูอร่อย” พี่ชนะว่าหัวเราะเสียงดังคับรถ
ผมก็กินแซนวิชต่อไปและมันก็หมดคามือ ท้องผมอิ่มจนแน่
ผมเผลอหลับไปแป้บเดียวรถก็จอดที่บางแสน
พี่วุฒิเขย่าตัวผมอีกเช่นเคย ผมเลยตื่นขึ้นมาและรีบลงจากรถ พี่วุฒิจะได้ลงได้
บางแสนตอน 6 โมงกว่าๆอากาศดีมากครับ แม้จะได้กลิ่นของตากแห้งจางๆก็ตาม พวกร้านค้าร้านอาหารก็ยังไม่ค่อยมีร้านไหนเปิดครับ พี่ชนะเลยต้องขับรถวนอยู่หลายรอบ สุดท้ายไปกินข้าวที่โรงแรมT เป็นโรงแรมหรูพอดูแต่ไม่น่าจะถึง 5 ดาวถึงจะผมไม่ค่อยรู้เรื่องดีเท่าไรก็ตามเถอะ
และเพื่อความรวดเร็ว พี่เขาก็ไปกินบุฟเฟฟ์มื้อเช้า อาหารเยอะเรียงรายเยอะมากจนผมเลือกไม่ถูก แต่ที่สำคัญคือผมอิ่มเลยไม่อยากจะกินอะไร ในตอนแรกผมบอกว่าอิ่มแล้วไม่ขอเข้ามาด้วยจะรออยู่ในรถ แต่พี่วุฒิบอกว่า ‘อย่าเรื่องมาก’ ผมเลยต้องตามมา
ดังนั้นจานผมจึงมีแค่สลัดแซลมอนนิดหน่อยไว้กินไปพลางๆ ผิดกับเพื่อนพี่วุฒิที่แต่คนตักมาไม่กลัวเขาเจ็ง
หนักสุดนี่น่าจะเป็นพี่ชนะครับทั้งออมเล็ด สลัด หมูย่าง หมึกทอด กุ้งราดซอล ซีซ่าสลัด เนื้อแซลมอน(ดิบเหมือนจะผักใบสีเขียวเล็กๆด้วย)
ส่วนพี่วุฒิเน้นหนักไปทางเนื้อครับ และมีอาหารทะเลย่างอยู่หลายอย่าง
“ ชนะมรึงกิน หรือมรึงกรอกว่ะ?” พี่เอสพูด แต่ตัวเองก็ไม่ต่างกัน
“กรูขับรถมาเหนื่อยแทบตาย มันต้องบำรุงกันหน่อย...” พี่ชนะว่าใช้ช้อนตักข้าวเหนียวในจานพี่เอสมากิน(พี่เอสกินข้าวเหนี่ยวหมูปิ้งครับ)
เคร้ง!! เสียงมีดร่วงลงกับพื้นหินอ่อน ตามด้วยส้อมสีเงิน
ทุกสายตามองไปยังพี่วุฒิทันที
“ ไอ้ วุฒิ!!!!” พี่แบงค์ที่ได้สติก่อนใครเข้าไปหาพี่วุฒิที่มือกุมอกอยู่ก่อนใคร
“ กุ้ง” พี่วุฒิบอกเสียงที่พยายามเค้นจากลำคอ ใบหน้าสีขาวบัดนี้แดงเหมือนสีเลือด ร่างกายพี่วุฒิเหมือนจะแข็งเกร็ง มือที่ค้างบนโต๊ะปัดจานใบใหญ่ให้ร่วงลงมาอีก
“ ตายห่า!!!” พี่เก้าว่า
ตอนนี้แขกคนอื่นลุกขึ้นจากเก้าอี้อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งบริกรก็เดินตรงมาที่พวกผม
“ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?”
“ เรียกรถพยายบาล” พี่แบงค์บอก “ เพื่อนผมแพ้กุ้ง”
บริกรวิ่งกลับออกไป ส่วนพี่วุฒิอาการแย่กว่าเดิม ใบหน้าหล่อบัดนี้กลับดูเหมือนบิดเบี้ยวทั้งน้ำตาก็ไหลออกมา พี่แบงค์และพี่ชนะช่วยกันเอาพี่วุฒิขึ้นหลังพี่เก้าที่ตัวใหญ่ที่สุดและวิ่งออกไปลอบบี้ซึ่งอยู่ประตูใหญ่
พี่วุฒิ..........
“ แต่กรูไม่เห็นกุ้งอยู่ในจานมันเลย” พี่เอพูดพร้อมกับวิ่งตามพี่เก้าไปติดๆซึ่งผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมในจานพี่วุฒิถึงไม่มีกุ้งทั้งที่มีปลาหมึก หอยนางรมมาถึงทะเลทั้งทีมันต้องกินให้ครบ ตอนแรกนึกว่าไม่ชอบที่แท้ก็แพ้นี่เอง
“ แหม่ง รถพยาบาลมาช้า ไปเองเล้ย!!” พี่เอว่า แล้วหันมาทางผม
“ ร้องไห้ทำไม มันไม่ตายง่ายๆหรอก” พี่เอว่า ผมถึงได้รู้ว่าน้ำตาผมกำลังไหล โดยที่ผมไม่รู้ตัว
ในอกมันปวด ผมมองพี่วุฒิผมรู้ว่าพี่เขากำลังทรมาน แต่ผมกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย...
5 นาทีต่อมารถตู้สีขาวก็วิ่งเข้ามาพร้อมเสียงสัญญาณดังแทบแสบแก้วหู พี่วุฒิถูกพาขึ้นเปล และพาเข้าไปในรถ ตอนนั้นพี่แบงค์ดึงมือผมเข้าไปในรถด้วย
ในรถบุรุษพยาบาลใส่หน้ากากออกชิเจนให้พี่วุฒิ อีกด้านคือผมกับพี่แบงค์ที่กำลังจ้องทุกกระทำของบุรุษพยาบาล ในขณะะที่รถแล่นไป เขาก็ชักประวัติไปด้วย
“ ทราบเบื้องต้นว่าคนไข้แพ้อาหาร?” เขาถามมองพี่วุฒิไปพลาง
“ ครับ เขาแพ้กุ้ง แต่จากที่พวกผมเห็น เขาไม่ได้กินเข้าไป” พี่แบงค์บอกยังคุมสติได้ดีอยู่ ส่วนพี่วุฒิหายใจหอบแรงขึ้น บนใบหน้าสีแดงเหมือนจะมีเม็ดสีแดงเม็ดเล็กๆขึ้นเต็มไปหมด ผมไล่มองมายังแขนก็มีตุ่มที่เหมือนลมพิษขึ้นมาด้วย
“ พี่ครับ” ผมเรียกชื่อพี่วุฒิแต่เสียงผมแหบมาก
มือพี่วุฒิที่กำลังเกร็งจนขึ้นลายสีขาว ผมกำมือแข็งๆเย็น ๆพี่วุฒิไว้ แต่ดูเหมือนพี่วุฒิจะไม่รับรู้แล้ว อาการหายใจหอบแรงเปลี่ยนเป็นกระตุก
“ ...อีกนานไหมครับกว่าจะถึง?” พี่แบงค์ถามร้อนใจ
“ ไม่นานครับ” บุรุษพยาบาลบอกพอดีกับรถเลี้ยว “ ตอนนี้เรามาจะถึงโรง-บาลแล้วไม่ต้องห่วงครับ”
“ ..................................” สายตาที่ผมจับจ้องพี่วุฒิอยู่ตลอด เห็นได้ชัดเลยว่า เหงื่อพี่วุฒิออกมาจนน่าเหลือเชื่อ มันมากพอที่จะทำให้ผมของพี่วุฒิเปียกไปหมด
เอี้ยด! ตัวพี่วุฒิถูกพาใส่เตียงแล้วเตียงนั้นก็ถูกเข็นเข้าไปในตึกด้วยหมอและพยาบาลที่รออยู่แล้วอย่างรวดเร็ว ทั้งผม และพี่แบงค์ก็วิ่งตามเข้าไป
เตียงพี่วุฒิหายเข้าไปในห้อง ICU และพวกผมถูกกันให้ออกมาตั้งแต่หน้าประตู โดยพี่เอ พี่เอส พี่เก้าตามมาสมทบ
“ มีใครโทรบอกพ่อแม่มันหรือยัง?” พี่แบงค์ถามสีหน้ายังวิตกอยู่
“กรูโทรบอกพ่อมันแล้ว” พี่ชนะบอก หันมาตบไหล่ผมที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมไม่ได้ปัดออกแต่สะดุ้ง พี่ชนะมองผมแปลกๆ แล้วเอามือออกไป
ผมไม่เคยรู้เลยว่าอาการแพ้อาหารมันจะรุนแรงถึงเพียงนี้
“ ตอนออกมาเชฟเขารู้ว่าแพ้กุ้งเขาเลยไปดูอาหารให้ เลยรู้หมึกซอสดำยัดไส้หมูสับผสมกุ้งบด แหม่ง!ซวยซิ- บ~” พี่เอบอก
“ นี่ถ้ามันไม่กินกุ้งเข้าไปวันนี้ กรูก็ลืมไปแล้วว่าไอ้วุฒิมันแพ้กุ้ง”พี่เอพูดต่อดึงมือพี่เก้าให้นั่งลง
“ ตอน ป.6 ที่มันแพ้ครั้งล่าสุดตอนนั้น รู้สึกว่ามันจะนอนโรง-บาลเกือบ 2 อาทิตย์ ครั้งนี้จะกี่อาทิตย์ว่ะ!!”
พวกพี่เขาคุยกันผมถึงได้รู้ว่าพี่วุฒิแพ้กุ้งมาตั้งไหนแต่ไรแล้ว และเป็นการแพ้แบบรุนแรงด้วย เมื่อก่อนพี่วุฒิจะพกยาอะดรีนาลินติดตัวไว้ด้วย แต่โรคภูมิที่เมื่อโตก็ค่อยๆหายบวกกับที่พี่วุฒิดูแลตัวเรื่องนี้ดี ไม่เคยพลาดกินกุ้งหลายปี จึงเลิกพกจนมาเกิดเรื่องวันนี้
พวกผมนั่งรอสักชั่วโมงเห็นจะได้ หมอก็ออกมาบอกว่าพี่วุฒิพ้นขีดอันตรายแล้ว และจะย้ายเข้ากรุงเทพฯไปโรง-บาลK ตามที่พ่อพี่วุฒิติดต่อโรง-บาลมา หลังจากนั้นพ่อพี่วุฒิก็โทรมาบอกอีกทีว่าจะย้ายพี่วุฒิไปโรงบาลKที่กรุงเทพฯ
*******************************************
จะให้ฉันเลิกรักเธอได้อย่างไร 55+++++