พอดีเพิ่งจะได้ดูหนังซีรีส์เกาหลี เรื่อง เจ้าสาวโชคร้ายกับคุณชายถังแตก มีตัวละครตัวหนึ่ง อิมเมจคล้ายหมู เลยลองเอามาให้ดูกัีนก่อนจะอ่านนิยายต่อนะครับ
บทที่ ๔๒ “กว่าที่เด็กปี ๑ คนนั้นจะรู้ว่าน้ำหยดเป็นรุ่นพี่ปี ๒ ก็เป็นวันรับน้องรวมของมหาวิทยาลัย” หมูพูดต่อ สายตามองไปยังสนามบอลที่อยู่ห่างออกไปไกล “ตอนนั้นไม่ได้จัดรวมที่สนามบอลเหมือนปีนี้หรอก แต่จัดที่ซุ้มตามตึกคณะ ที่คณะมนุษย์ เด็กคนนั้นถูกสั่งให้ไปขอความรักรุ่นพี่ผู้ชายที่ยืนหันหลังคุยกับเพื่อนๆอยู่ พอรุ่นพี่คนนั้นหันมานั่นแหละ เด็กปี ๑ คนนั้นถึงได้รู้ว่าตัวเองเข้าใจผิดมาตลอด การขอความรักเล่นๆ ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆ และพวกรุ่นพี่ในวันนั้น ไม่มีใครรู้หรอกว่า เด็กคนนั้นบอกความรู้สึกที่แท้จริงภายในใจของตัวเองออกไปจนหมด แม้แต่ตัวของเด็กปี ๑ คนนั้นเองก็ตาม”
หมูหยุดพูด หันไปมองดูรูมเมทรุ่นน้องที่นั่งฟังอย่างตั้งใจ พลางคิดถึงถึงวันแรกที่เขาได้ตระหนักถึงการมีตัวตนอยู่ของเด็กหนุ่ม อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมก่อนหน้านั้นเขาถึงไม่รู้เลยว่า เด็กหนุ่มคนนี้อยู่ใกล้ตัวเขาถึงขนาดนี้ แล้วทำไมคนรอบข้างหถึงไม่มีใครให้ความสนใจมาก่อนเลย จนกระทั่งวันรับน้องรวมของมหาวิทยาลัย
“แล้วทั้งสองคนก็กลายเป็นคนรักกัน” ชตพูดขึ้นเมื่อเห็นหมูนิ่งเงียบไป “แต่พอเทอมสอง พี่น้ำหยดก็ดรอปการเรียนไว้ ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไร แม้แต่เด็กวิดยาคนนั้น” ชตเน้นคำว่า ... เด็กวิดยา ... เป็นพิเศษ “แต่ทั้งสองคนก็ยังคบหากันอยู่”
ไม่ใช่” หมูพูดเสียงขื่น “เด็กวิดยาบอกเลิกกับน้ำหยด ตั้งแต่ช่วงสอบปลายภาค เค้าเลยไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้แม้กระทั่งน้ำหยดเก็บของออกไปจากหอพักตั้งแต่เมื่อไหร่ กว่าจะรู้ก็เปิดภาคเรียนที่สองไปเกือบ ๒ เดือนแล้ว”
“อ้าว ...” น้ำอุทาน “ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ”
“เพราะความเข้าใจผิด ... เข้าใจผิดแล้วไม่คิดจะค้นหาความจริง ไม่คิดแม้แต่จะยอมพูดกับน้ำหยดให้เข้าใจกัน เพราะความที่เป็นคนใจร้อน คิดเร็ว ทำเร็ว น้ำหยดเองก็ไม่ยอมที่จะพูดอธิบายอะไรเลย กว่าจะรู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง ... กว่าจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด แล้วกว่าจะรู้ว่า ...” หมูเบือนสายตาไปที่บึงน้ำ “กว่าจะรู้ว่าจริงๆแล้วตัวเองรักน้ำหยดมากแค่ไหน ก็ต้องเสียน้ำหยดให้คนอื่นไปเสียแล้ว”
“คนอื่น” จินทำตาโต “ยังจะมีคนอื่นมาเกี่ยวอีกเหรอค่ะพี่หมู”
“หรือว่าพี่น้ำหยดไปมีคนใหม่” เจนผสมโรง
“ก็ทำนองนั้นแหละ” หมูหัวเราะเบาๆ ... เหมือนจะเยาะตัวเอง “แต่จะแปลกอะไร ในเมื่อเด็กวิดยาคนนั้นก็ไปมีคนใหม่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร เค้าก็รู้สึกว่าคนเหล่านั้นขาดอะไรบางอย่าง ... บางอย่างที่มีแต่น้ำหยดเท่านั้นที่มีให้เขา พอรู้ว่าน้ำหยดดรอปการเรียน เขาก็ออกไปตามหาน้ำหยดแต่ก็หาไม่พบ จนเกือบจะตัดใจอยู่แล้ว แต่จู่ๆเขาก็ได้พบกับน้ำหยดโดยบังเอิญ ... กับผู้ชายคนนั้น ... ผู้ชายที่ทำให้เขารู้ว่า ไม่มีทางได้น้ำหยดคืนมาอีกแล้ว ยังไงก็ตามเขายังอยากให้น้ำหยดกลับมามองเขาบ้าง ในฐานะเพื่อนก็ยังดี แต่ ... แต่ ...”
หมูพูดได้เพียงแค่นี้ ก็ต้องหยุดกลืนก้อนอะไรบางอย่างที่กำลังก่อตัวอยู่ในลำคอ เงยหน้าขึ้นเหมือนจะมองท้องฟ้า แต่ที่จริงแล้วเพื่อไม่ให้หยดน้ำตาหลั่งไหลออกมา
“ถ้าตอนนั้นพี่น้ำหยดกับเด็กวิดยาคนนั้น มีใครสักคนยอมพูดอะไรบ้าง มันคงไม่เป็นแบบนี้” น้ำรำพึงเบาๆ แต่ก็เพียงพอที่จะให้ทุกคนในบริเวณนั้นได้ยิน
“เราว่ามันเป็นเพราะความใจร้อนของเด็กวิดยาคนนั้นน่ะแหละ” จินพูดเสียงขุ่น
“แต่เราว่าพี่น้ำหยดเองก็ด้วยแหละ มีอย่างเหรอโดนเข้าใจผิดแล้วไม่อธิบายอะไรเลย” เจนขมวดคิ้วทำท่าครุ่นคิด แล้วหันไปมองติ๊กด้วยสายตาที่เหมือนจะค้นหาคำตอบ
“แปลกนะ แล้วทำไมพวกรุ่นพี่เค้าถึงได้พูดกันว่า พี่น้ำหยดถูกรถชนต่อหน้าคนรักที่เป็นเด็กวิดยาล่ะ ไม่มีใครรู้เลยเหรอว่าพี่เค้าไปมีคนรักใหม่น่ะ” ชตถามพลางยกมือลูบคางอย่างครุ่นคิด
“ไม่มีใครรู้หรอก แม้กระทั่งตอนที่น้ำหยดมาหาเพื่อนๆก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง ตอนที่เด็กวิดยาคนนั้นรู้เรื่องนี้ ก็เป็นช่วงปิดเทอมใหญ่” หมูพูดเบาๆ สายตากลับไปมองยังบึงน้ำกว้าง
“เมื่อกี้พี่หมูบอกว่าเด็กวิดยาคนนั้นไปเจอพี่น้ำหยดโดยบังเอิญ แล้วพี่น้ำหยดถูกรถชนตอนนั้นรึเปล่า” โรจน์ถาม
“เปล่าหรอก ... หลังจากวันนี้นแล้ว ทั้งสองคนนั้นนัดเจอกันอีกครั้ง ความจริงเด็กวิดยาก็อยากจะขอให้น้ำหยดกับเขากลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่เมื่อกี้พี่ก็บอกแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ เค้าแค่ขอใช้เวลาคืนนั้นไปเดินเล่น กินขนม หรืออะไรทำอะไรก็ได้ ... แบบเพื่อน เพราะเขาอยากมีเวลาอยู่กับน้ำหยดให้นานที่สุด เท่าที่จะทำได้ ... แต่เหมือนน้ำหยดจะเข้าใจผิด” เสียงของหมูเริ่มสั่นเครือ “คืนนั้น น้ำหยดวิ่งข้ามถนนช่วงที่สัญญาณไฟเปลี่ยนพอดี แล้วรถคันนั้น .... รถคันนั้นก็ ....” เสียงของหมูแหบพร่า น้ำตาเริ่มรินไหลอย่างที่เขาไม่อาจกลั้นมันไว้ได้อีกต่อไป
“ตายแล้ว ... หรือว่า ... แกคิดเหมือนชั้นรึเปล่า เจน” จินหันไปถามคู่แฝดที่ยกมือขึ้นปิดปาก
“นั่นสิ ใช่แน่ๆเลย แกก็คิดเหมือนชั้นใช่มั๊ย” เจนถามกลับ
ชตตกใจไม่น้อยเหมือนกันที่เห็นท่าทางของหมู แล้วเมื่อตั้งสติได้ สิ่งแรกที่ทำคือรีบหันไปมองน้ำ เขาเห็นน้ำค่อยๆลุกขึ้นเดินไปหาหมูแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าหมูที่นั่งอยู่บนพื้น
“พี่หมู” น้ำเรียกเสียงแผ่ว
“น้ำ” หมูเงยหน้าขี้นสบตากับคนตรงหน้า
“ไม่เป็นไรนะครับพี่ มันเป็นอุบัติเหตุ” น้ำพูดพลางมองลึกเข้าไปในดวงตาของหมู เขามองเห็นความปวดร้าว และเศร้าเสียใจในดวงตานั้น อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นใช้นิ้วเกลี่ยหยาดน้ำตาบนแก้มของหมูเบาๆ
“น้ำ ... เราขอโทษ” หมูพูดเสียงเครือ โผตัวเข้ากอดคนตรงหน้าไว้ แนบใบหน้าลงบนไหล่ของรุ่นน้อง “เราขอโทษ ... เราขอโทษนะน้ำ เราไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลยจริงๆ”
น้ำโอบแขนกอดร่างใหญ่หนาไว้หลวมๆ แนบใบหน้าลงบนหน้าผากของคนที่กำลังสะอื้นไห้ พลางยกมือขึ้นลูบไหล่กว้างอย่างแผ่วเบาราวจะปลอบประโลม และอดไม่ได้ที่จะต้องหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเห็นใจ