ช่วยด้วย! ผมได้แฟนเหี้ย ไอ้เด็กช่างยนต์ 44…ตะวันยังมีให้เห็น
บ่นนำ
เขียนไปเขียนมา ไม่เคยคิดว่าจะได้เขียนหลายตอนขนาดนี้ เขียนจนเวลาล่วงเลยมา1ปีเต็ม เพราะผมเริ่มเขียนเมื่อวันที่19 ตุลาคม 52 แรกๆที่เขียนอายๆ เหมือนกับมาประจารตัวเอง แต่เขียนไปเขียนมาเริ่มหน้าหนาขึ้น เป็นเพราะหลายๆคนเม้นคอยให้กำลังใจ อยากที่จะรู้ ให้ความสนใจ ก็เลยเขียนมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน อนาคต(ไม่รู้)…
comment
knightofbabylon คิดบวกแถมใจเย็นแบบคุณที เราเชื่อว่ารับมือกับคุณด็อกนั่นได้อยู่แล้ว ถ้าเหลืออดมากๆ ให้ปอจัดหนักคุณดร.ซักทีสองทีสิ… ขอบคุณครับที่คิดว่าผมจะสู้เค้าได้ (เฮ้ย! ถอนหายใจหนักๆ) ถ้าเหลืออดมากๆผมจะปาหินใส่ จะได้หนักๆ รึปาเหล็กก็ได้เนอะ เอิ๊กๆ ก็แซวเล่นกันไป
Lin-G แต่ในฐานะ คนอ่าน ลิ้นจี่เกลียดมันเข้าใส้ และจะขอจองเวรมันเองค่ะ…อูยยน้องลิ้นจี่ใจเย็นๆๆ จัดหนักให้พี่หน่อยจิ พี่ม่ะกล้า
ppmayuree เครียด ยิ่งอ่านยิ่งเครียด…เป็นบาปรึป่าวเนี้ย มาทำให้คนสุขภาพจิตดีๆมานั่งเครียด
QUE1 ชีวิต 24 ชม.ของคุณทีนี้คุ้มค่ามากๆ ทำให้ ชีวิต24ชม. ของคนอ่านคนนี้ไร้ค่าเกิน....อย่าเอามาเทียบกันเลยครับ เพราะไอ้ต้นมันเริ่มต้นจากศูนย์ก็เลยต้องดิ้นรนกันไป ถ้าผมเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นผมก็จะเสียกำลังใจป่าวๆ ฉะนั้นอยู่อย่างเป็นตัวเรา มีความสุขกับตัวเองดีกว่าเนอะ
ToGetHerFoRevEr อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือเลย…เอ๊ะ!ใครเป็นเกลือ ใครเป็นพิมเสนหนิ ไม่เป็นไรผมเป็นเกลือก็ได้ แต่เป็นไอโอดีนนะ ถ้าผู้ใหญ่ใครขาดจะเป็นคอพอก และเด็กขาดจะปัญญาอ่อน เห็นรึยังว่าผมสำคัญสำหรับทุกวัยมากแค่ไหน 555
CaroL โชคดีของผมเหมือนกันเข้ามาได้อ่านเรื่องคุณทีคุณปอ
…ผมก็โชคดีเหมือนกันนะที่ได้อ่านเม้นนี้ แนะนำการออกำลังกายเพียบเลย
lemone ที ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าทุกนาที ยิ่งกว่าช่อง 3 อีก
…น่านนน ว่าไป เป็นช่องเจ็ดได้ไหมอ่ะ (ช่องเจ็ดสี เรื่องนี้ เพื่อคุ๊ณณณณ)
andaseen เหนื่อยมั้ยที แต่ท่าทางถึงเหนื่อยแต่ทีก็มีความสุขนะ ได้ทำงานที่รักได้อยู่กะคนที่รัก อย่าง กวน มึน โวย คงทำให้ทีหายเหนื่อยเนอะ
…เรื่องเรียน เรื่องงาน ไม่เหนื่อยครับสนุกดี แต่จะมาเหนื่อยเรื่องไอ้เจ้ากวน มึน โวย นี่แหละ เซ็งเป็ด(น่าน เอาsloganเค้ามาพูดเฉยเลย)
arewhy ไม่อยากเข้าข้างใครครับ เพราะ เหมือนฟังความข้างเดียว
…อืมม นี่สิผู้พิพากษาตัวจริง ถูกต้องที่สุดเลย
bbyuqin แอบลุ้นอ่าว่าปอจะรู้เรื่องเจ้าของตัวจริงของแปรงสีฟันอันนั้นหรือปล่าว
…ไม่รู้(มั้ง) ไม่เห็นมันว่ายังไง
Uonlii_I รู้สึกดีที่ได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ได้เรียนรู้อะไรจากน้องทีเยอะแยะไปหมด
…ขอบคุณครับ ก็ดีใจเหมือนกันนะที่มีคนมาบอกว่าเรื่องของผมมีประโยชน์
minima คุณพี่ทีเปนคนที่ใช้ชีวิตคุ้มค่ามากๆ แถมเป็นคนฮาได้อีก
…ฮาเหรอ(จริงๆอยากจะบอกว่าพี่บ้าล่ะสิ)
แต่วันเสาร์-อาทิตก็ไปสอนพิเศษเด็กตามบ้าน
…นั่นไงเป็นสิ่งที่ดีและมีสาระที่สุด
AGELA ก่อนอื่นต้องกล่าวคำว่าสวัสดีพี่ทีเจ้าของเรื่อง กับพี่ลีโอที่กรุณาเกย์ตาดำๆอย่างผมเอานิยายมาลงให้อ่าน
…พูดซะมองเห็นภาพเลยเป็นเด็กแอฟริกาเลย (เห้ย!ตาดำไม่ใช่ตัวดำ) แต่เห็นเรื่องนี้โพสต์อีกเว็บหนึ่ง มันเลยเกิดเอะใจขึ้นมาจากนั้นจึงเข้ามาอ่าน
…เอ๊ะ ยังไง เหมือนว่า(กรูไม่อยากอ่าน แต่ก็ตามไปทุกที่ กรูก็เลยต้องอ่าน)ประมาณนั้นไหม555
Kiss Koki น้องทีเป็น คนที่มีความคิดเป็น "มนุษย์" ที่ดีในโลกนี้เลยค่ะ
…โห้พูดซะไอ้ทีดูสูงส่งเลย เหมือนได้เป็นยอดมนุษย์อุตราแมน ยังไงไม่รู้ ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ น้ำท่วมโคราช ลพบุรียังช่วยเค้าไม่ได้เลย (อ้าวเกี่ยวไหมวะ) แต่ส่งSMS ไปแล้วน๊า
rero ชอบคุณทีจัง..ถ้ามีคนอย่างคุณที เยอะ ๆ นี่ ประเทศไทยสดใสแน่
…จริงดิ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ประเทศไทยคงจะสูญพันธุ์แน่เลย
และขอบคุณอีกหลายๆคอมเม้นนะคร๊าบบบบบ
คอมเม้นตอนนี้รู้สึกว่าจะยาวๆทั้งนั้น ขอบคุณครับ ที่เป็นกำลังใจได้เยอะเลยทีเดียว นานๆทีจะได้เข้ามาอ่านเม้น ผมก็ใช้วิธีการปริ้นไปนั่งอ่าน อ่านไปก็ยิ้มได้นะ อยู่คนเดียว คนเดินผ่านไปผ่านมามันคงว่าผมบ้า ก็ขอบคุณทุกๆคอมเม้น ผมตอบไม่หมดแต่ก็จะพยายามตอบตอนต่อไปให้ได้ครบทุกคนนะครับ ขอบคุณคุณลีโออีกครั้ง ที่หาช่องทางลงเรื่องให้ผม ทำให้ได้พบมิตรทางโลกอินเตอร์เน็ต เยอะแยะเลย ขอบคุณหลายๆคนที่เขียนเมล์มาพูดคุยกัน ทั้งให้กำลังใจ ปรึกษาเรื่องสุขภาพและหัวใจ(อันหลังยากที่จะตอบจริงๆ) ขอบคุณสื่อ ขอบคุณผู้จัด ขอบคุณเพื่อนร่วมงาน ขอบคุณแอน ขอบคุณเคน (เวอร์ไปแล้วไอ้ที เมิงงงงไม่ใช่นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม รางวัลนาฏราช นะเว้ย)
…………………………………………………………………………………….
อาทิตย์ที่ไอ้ปอไม่สบายทั้งอาทิตย์ มันอยู่กับผมตลอด รู้สึกว่ายิ่งเอาใจมัน มันยิ่งเหมือนแกล้งผมตลอดเลย ขึ้นเสียงนิดหน่อยทำเป็นงอนๆ ผมก็ง้อมัน (มึงป่วยเฉยๆหรอกมึง) บางครั้งก็ขี้เกียจง้อ สักพักเดี๋ยวมันก็มาคุยกับผมเอง (แล้วมึงจะงอนกู ทำส้น…อะไรว่ะ) และแล้วก็ถึงเวลาที่มันต้องกลับชล
“กูจะกลับไปทำงานแล้วนะที” (เรื่องของมึง… ถ้ากูเป็นเจ้านายคงไล่มึงออกไปนานแล้วล่ะปอ)
“สมควรแล้วล่ะปอ หวัดก็หายแล้ว ลางานยาวเหยียดเลยนะมึง”
“ใครบอกล่ะว่ากูลา”
“อ้าวไอ้ปอ มึงไม่ลามึงหยุดได้ไง”
“กูล้อเล่นมึงก็เชื่อเนอะ ก่อนกูจะมากูก็เขียนบอก..ลา1อาทิตย์..สอดเข้าไปในประตูหน้าอู่” (นั้นเหรอวิธีการลาของมึง)
“สอดทำไม ทำไมไม่เอาไปให้เจ้าของอู่ล่ะ”
“มึงจะเอาไปให้ได้ไง กูมา5ทุ่ม มาถึงนี้ตี1” (เออว่ะ มันมาเคาะห้องตี1กว่าๆ)
“วิธีการลาของมึงแปลก เหมือนหักดิบว่ะ เจ้านายจะให้ลารึป่าวยังไงไม่รู้เลย”
“เฮีย ใจดีจะตาย กูทำงานกับเค้ามาตั้งนาน เค้าบอกว่ารักกูเหมือนลูก ก็เหมือนพ่อ แม่มึงนั้นแหละ555”
“ไอ้นี้ ลามปามถึงพ่อแม่กู กูยังไม่เคยได้ยินเลย”
“อ้าว พูดจริงนะที พ่อแม่พูดตอนมึงไม่อยู่” (แล้วมึงจะทำหน้าจริงจังทำมายยย)
“มึงก็ไปทำไสยศาสตร์ใส่พ่อแม่กูแน่เลย”
“ไม่มีหรอก ได้ลูกเขยดีขนาดนี้ใครจะไม่รักว่ะ”
“ถุย…ดีตายล่ะ”
“555” ไอ้ปอหัวเราะ
ไอ้ปอเห็นมันกวนตีนไปวันๆ แต่เวลามันทำงานมันจริงจังมากเลยนะ และผลงานมันก็ดีเลยทีเดียว (มันเคยเคาะรถให้ผม ตอนที่ถูกชนนั้นแหละ เหมือนเดิมเป๊ะ เคยไปที่อู่มัน เค้าก็บอกว่ามันทำงานดี นี่แหละมั้งเจ้าของอู่ถึงได้ชอบมัน ไม่ไล่มันออกสักที เพราะมันคิดจะลาก็ลา … เรื่องที่บ้านผม มันก็เข้ากับพ่อแม่ผมได้ดี มันช่วยพ่อผมล้างรถ ชวนพูดเรื่องรถ(ถูกคอกันทั้งวัน) มันช่วยแม่ผมล้างจาน(รู้จักประจบเลยทีเดียว) …แต่มันก็ไม่ทุกคน ในบ้านมันเกร็งๆอยู่คนเดียว คือพี่เตย ไม่รู้มันเกร็งอะไร ทั้งๆที่พี่ผมเป็นคนที่ไม่น่าจะเกร็งที่สุด รึมันกลัวว่าพี่ผมเป็นโรคจิต (พี่ผมเป็นแพทย์ประจำบ้านจิตเวช) พี่ผมค่อนข้างที่จะอ่านใจคนออก(ดักทางถูก) เข้าอกเข้าใจคนอื่นซะหมด (นี่แหละมั้งถึงเข้าใจผม) ส่วนไอ้ปอกับผม มันช่างไม่มีความเกร็งเอาซะเลย(กูไม่คิดจะกลัวกูหน่อยเหรอปอ ถึงกูจะไม่เชี่ยวชาญด้านจิต กูก็เชี่ยวโรคติดเชื้อนะ …สักวันกูจะเอาไวรัสสายพันธุ์ใหม่มาฉีดให้มึง แล้วมึงก็จะกลายเป็นมนุษย์หมาป่า5555) ไอ้ทีเป็นเอามาก
ไอ้ปอเก็บของใส่เป้ ผมก็นั่งช่วยมัน
“พร้อมแล้ว ไปยัง” ไอ้ปอถามผม
“เฮ้ย! ไปไหน” (มาชวนกูทำไม)
“กลับบ้านไง”
“ไม่กลับ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า”
“ไม่ได้ มึงไม่กลับได้ไง ก็กูไม่กลับ”
“บ้าเหรอตัวไม่ได้ติดกัน มึงก็มาหากูแล้วหนิ มึงกลับไปคนเดียว”
“กลับด้วยกัน กูบอกแม่มึงไว้แล้วว่าเราจะกลับ ฟังดูแม่มึงดีใจมากเลยนะ ป่านนี้เตรียมอาหารไว้พียบแล้วมั้ง” ดูมันพูด เหมือนแม่ผมอยากให้กลับมากกกกกก (กูรู้ว่ามึงโทรจริง แต่มึงพูดก็ค่อนข้างที่จะใส่ไข่ไปหน่อยมั๊ย)
“โอ้ยยยย ไอ้ปอ ไมไม่ถามกูก่อนวะ”
“ถามมึงทำไม ถามไปมึงก็ไม่ให้กูโทรน่ะดิ”
“โอ้ยยย พรุ่งนี้กูก็แต่เช้านั่งรถมากรุงเทพอีก” (กูหมดคำที่จะพูดกับมึง มึงช่างกวนกูได้ทุกวี่ทุกวันจริงๆ) พูดไปก็ได้กลับ ไม่พูดก็ได้กลับ ผมกับไอ้ปอเดินลงมาข้างล่าง ผมเดินไปที่รถ
“ไปรถทัวร์” ไอ้ปอบอกผม ผมก็แปลกใจ
“ทำไมอ่ะ” (หาเรื่องอะไรให้กูอีก)
“ช่วงนี้ฝนตกทุกวัน มึงเอาไว้ขับไปทำงานเหอะ” (โอ้โห้ อะไรจะเป็นห่วงกูขนาดนั้นนนน)
“ไม่เอา เอากลับเหอะ นี่รถพ่อมึงนะ”
“พ่อกูไม่ค่อยได้ใช้หรอก ไปทำงานส่วนใหญ่ก็นั่งรถตู้โรงงานไป” พ่อไอ้ปอทำงานในอมตะ
“มึงให้พ่อนั่งรถโรงงาน แล้วเอารถพ่อมาให้คนอื่นใช้เนี้ยนะ” (เป็นลูกที่ประเสริฐจริงๆ)
“ใครคนอื่น กูเอารถให้…” ไอ้ปอพูดยังไม่จบผมแทรกขึ้นมา
“หยุดๆๆๆ กูรู้ว่ามึงจะพูดอะไร” (มันคงจะพูด ถ้าไม่เอารถให้เมีย ก็เอารถให้ลูกสะใภ้ กูเบื่อที่จะฟัง) ผมพูดไอ้ปอยิ้ม
“รู้แล้วก็ดี กูจะได้ไม่ต้องย้ำบ่อยๆ มึงชอบลืม”
“ไม่เอาอยู่ดีแหละ พ่อมึงไม่ใช้ คนอื่นในบ้านก็ใช้”
“แม่กูก็มีรถ”
“กูรู้บ้านมึงรวย” ผมประชดมัน
“ไม่ใช่ กูจะบอกว่า ถ้าที่บ้านจะใช้ก็ใช้คันของแม่กูก็ได้”
จะพูดยังไงดีล่ะ มันไม่ยอม จะเอาให้ใช้อยู่ท่าเดียว เอาว่ะ ครั้งนี้กลับรถโดยสาร เดี๋ยวครั้งหน้าอีก3วันก็กลับอีก เดี๋ยวขับไปจอดไว้ที่หน้าบ้านมันเลยดีกว่า (ชอบมัดมือกูชกดีนัก เดี๋ยวกูทำกลับบ้าง)
ผมกับไอ้ปอขึ้นรถเมย์ลงอนุสาวรีย์ ต่อด้วยบีทีเอสลงเอกมัย เดินไปซื้อตั๋ว(ไม่รู้จะบอกละเอียดทำไมเนอะ)
“2 ที่ครับ” ผมซื้อตั๋ว
“รอบ1ทุ่มนะค่ะ”
“ห๊า ทุ่มเลยเหรอครับ” ไอ้ปอตกใจ มันคงขี้เกียจรอ
“ค่ะ รอบหกโมงครึ่งเพิ่งจะออกไป”
“อะไรว่ะ ไปทีไปคันอื่น”
“เบาๆดิปอ” ผมกระซิบหูมัน “ครับ 2 ที่นั่งครับ” ผมบอกกับคนขาย ไอ้ปอทำหน้าเบื่อ ผมทำเพราะอยากให้มันไม่เอาแต่ใจตัวเองมากเกินไป ดูจากหลายครั้งแล้วมันเอาแต่ใจตัวเองมากเลย ครั้งนี้ก็ขับรถมาหาตอนตี1 (คนปกติเค้าจะทำกันไหม มันเป็นคนค่อนข้างไฮเปอร์(ในทางที่ไม่ดี)) ผมอยากให้มันรู้จักอดทน มีเหตุผล ถ้าปล่อยไว้นานๆมันคงจะเป็นเด็กสมาธิสั้น (ไม่ใช่เพิ่งจะสั้นหรอก สั้นมานานแล้ว)ซื้อตั๋วเสร็จก็เดินไปนั่งรอบนรถ
“ไปคันอื่นได้ไปแล้วนะเนี้ย” ไอ้ปอมีบ่น ขณะที่เรานั่งบนรถ
“มึงจะคิดไรมากว่ะปอ รถคันเมื่อกี้เรามาไม่ทันนิดเดียว มันไม่รอเรา แล้วตอนนี้เรานั่งอยู่บนรถ เราก็คิดเสียว่ารอญาติเราที่กำลังจะไปด้วย เรารอเค้า เค้าจะได้ไปกับเรา เค้าจะได้ไม่ตกรถเหมือนเราไง เข้าใจไหม” ผมพูด
“ไม่เข้าใจ เพราะกูไม่ได้รอญาติ”
“ต้นทางกรุงเทพ ปลายทางชลบุรี คนส่วนใหญ่ก็ไปชลบุรีกัน คนชลบุรีก็คือคนบ้านเรา”
“กินไรไหม เดี๋ยวจะลงไปเข้าห้องน้ำ” มันคงรอนานๆไม่ได้จริงๆ
“ในห้องน้ำมีไรกิน” ผมแซวมัน (ถามไรวะ จะไปเข้าห้องน้ำ กินไรไหม)
“55 กูหมายถึงว่าจะกินอะไรไหม จะแวะซื้อให้ หลังจากที่กูเข้าห้องน้ำเสร็จแล้ว”
“อ๋อเป็นอย่างงี้นี่เอง ….คิดไม่ออก ตามจิตศรัทธา” ผมพูดแหย่ๆให้มันอารมณ์ดีขึ้น
“สาธุ” ไอ้ปอตอบ แล้วลุกออกไป สักพักมันมาก็พร้อมกับปลาเส้นทาโร่ ขนมขบเคี้ยว โออิชิ มันเอามาวางไว้ตักผม
“เห้ยปอ มึงกลัวที่บ้านเราไม่มีขายรึไง”
“น่านนน ปากดี พอกูถามบอกว่าอะไรก็ได้”
“ใครว่าล่ะ ซื้อมามีแต่ขนมอร่อยๆทั้งนั้น บ้านเราไม่มีนะเนี้ย มีแต่ในกรุงเทพ55”
“555” ไอ้ปอหัวเราะเอาขนมมาตีหน้าผม คุยกันไปคุยกันมารถก็ออก
“เห็นไหม รอไม่นานเลย”
“ก็ไม่ได้ตั้งใจรอหนิ มันก็ไม่นานดิ” (เสือกรู้ดี แต่ไม่นำพา) ผมกับไอ้ปอนั่งแถวที่สามหลังคนขับ ก็เลยมีโอกาสเห็นเด็กรถแซวสาวคนนึง ที่นั่งอยู่แถวแรก ฝั่งขึ้น มีประโยคนึงไม่รู้พูดได้ไง
“ลงที่ไหนครับ” เด็กรถถามหญิงสาววัยละอ่อน
“จะให้ลงที่ไหนล่ะ” อ้าวล่ะสิ หญิงสาวก็เล่นด้วย
“ไม่มีที่ลง ลงในใจผมก็ได้นะครับ” เด็กรถพูดแล้วเอามือปิดหน้า ทำท่าอาย ผมกับไอ้ปอหันหน้ามองกันแล้วยิ้มๆจะหัวเราะก็ไม่กล้า
“ลิเกวะ” ไอ้ปอพูดกับผม
“มึงก็ไปว่าเค้า เด็กวัยรุ่นก็งี้แหละเห็นโลกเป็นสีชมพูไปหมด55” ลืมบอกเด็กรถคนนี้ถ้าให้ทาย อายุคงไม่ถึง 18 หรอก 15 ก็ให้ถึงเถอะ (เท่าที่ขึ้นรถกรุงเทพ-ชล เป็นร้อยๆเที่ยว จะสังเกตุได้เลยว่า เด็กรถเค้าจะลักษณะคล้ายๆกัน ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า ผมไม่ค่อยอยากจะตัด เสื้ออดีตเคยเป็นสีขาว กางเกงยีนต์ โคตรเดฟ พร้อมกับรูระบายอากาศมากมาย ไม่ใช่เค้าไม่มีตังค์ซื้อนะ ดูเหมือนเค้าจะพอใจและภูมิใจมากเลยกับกางเกงขาดๆ ชายกางเกงไม่ถึงตาตุ่ม ถ้ากางเกงใครยาวก็จะดึงขึ้นมา(ไม่รู้ทำไม) รองเท้าเท่าที่เห็นชอบใส่แตะ พฤติกรรมค่อยข้างที่จะเอะอะเสียงดัง อายุส่วนใหญ่ไม่ถึง20 มั้ง แต่จะทำตัวล่วงล้ำไปเยอะ) บรรยายลักษณะให้พอคิดออก กำลังคิดเพลินๆ ก็มีเสียงนึงมาทักผม
“ลงที่ไหนครับ” ไอ้ปอพูดเสียงดังหันหน้ามาหาผม (ไอ้บ้า มึงจะพูดทำไม..เอาล่ะสิคนก็มอง กูจะเล่นกับมึงไหมว่ะ ถ้าไม่เล่นไอ้มึงคงอาย ถ้าเล่นไอ้เด็กรถก็คงอายเพราะมีคนเอามาแซว)
“จะให้ลงที่ไหนล่ะ” (อ้าวไอ้ทีเมื่อกี้แม้แต่หัวเราะยังไม่กล้า) ผมเล่นกับไอ้ปอน่ะสิ ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองซะด้วย เล่นบทบาทซะเนียนเลย ใครจะปล่อยให้แฟนตัวเองหน้าแตก เนอะ(แต่อย่ามีหลายครั้งนะมึง ต่อไปกรุณาเตรียมกูด้วย)
“ไม่มีที่ลง ลงในใจผมก็ได้นะครับ” พูดเสร็จแถวๆ4-5แถวหน้าก็หัวเราะกันซะ ส่วนคนที่ถูกอ้างอิงไม่กล้ามองหน้ากันเลย คงอาย (กูก็อายนะปอ) เด็กรถก็มองไปข้างหน้าตลอดเลย นานๆครั้งหันมามองหญิงสาว พอเจอผมมองก็หันกลับ เออฮาดี(แต่กูจะกลับถึงชลป่าววะเนี้ย เผื่อมันไล่ลงบนทางด่วนจะทำไงดี)
สักพักหันไปมองไอ้ปอ (อ้าวไอ้ตัวยุ่งหลับซะแล้ว) มาไม่ทันรถก็มีโวย พอนั่งรอบนรถก็งอแง รถออกก่อนจะนอนก็ไปกวนตีนชาวบ้านเค้า (ถ้าไม่มีชาวบ้านให้กวนก่อนนอนก็มากวนตีนกู) ดูสิมันวอนหาเรื่องปากแตกมากน้อยเพียงใด…กวน มึน โวย เอ้ย!
ในที่สุดเราก็ถึงที่หมาย (ขอบใจน้องที่ไม่ทิ้งพี่ไว้บนทางด่วน)
“หวัดดีครับแม่ กลับมาแล้วครับ” มันทักแม่ผมก่อนผมซะอีก เมื่อมาถึงบ้าน
“ปอแม่กู” ผมพูดเบาๆ
“แม่มึงก็เหมือนแม่กู กูหวัดดีก็เหมือนมึงหวัดดีแหละที” (มึงยังมีหน้ามาพูดระรื่นอีก)
“หวัดดีลูก ทีไม่กลับบ้าน ปอไปตามถึงกรุงเทพเลยเหรอลูก” แม่ก็พูดซะ
“ตามไรล่ะแม่ ตามไปป่วนในกรุงเทพน่ะสิ”
“ไร ไรที ป่วนไร เสื้อผ้าก็ซักให้ ห้องก็กวาดให้” เออจริงของมัน มีวันนึงที่ฝนตกหนักๆนั้นแหละที่มันซักผ้าให้ผม กวาดห้อง(อย่าเรียกว่ากวาดเลย เรียกว่าเขี่ยดีกว่าเพราะมันเขี่ยๆแล้วเอาไปซุกไว้ตามมุมห้อง)
“ ที่พูดมาน่ะ ทำกี่วัน”
“วันเดียว” ไอ้ปอพูดพร้อมหยี่หน้ายังกะเต้าหู้
“ทำวันเดียวก็ดีกว่าไม่ทำเนอะปอ” แม่พูด(อ้าวแม่ใครวะ)
“ถูกต้องเลยครับแม่ 555” ไอ้ปอพูด
“55ไป ไปกินข้าวกัน แม่เตรียมไว้แล้ว”
ระหว่างกินข้าว ผมก็เล่าให้พ่อ แม่ เตรียมตัวไปจีน ตอนแรกก็ไม่รับ เพราะเห็นว่ามันเป็นผลประโยชน์ที่ได้จากผมทำงาน อยากให้ผมไป เกลี้ยกล่อมซะนานเลยกว่าจะยอมไป
หลังจากกินเสร็จขึ้นห้อง อาบน้ำเสร็จ ไอ้ปอก็เล่นเกมส์อย่างเอาเป็นเอาตาย ผมก็นั่งเล่นบนเตียง
“กวนมึนโวย รบกวนหน่อยดิ” (จะใช้มันก็พูดดีๆหน่อย)
“ไอ้ที ฉึก ฉึก จะใช้กูก็บอกมาตรงๆ” (มึงจะให้กูบอกว่า ไอ้เหี้ยปอมาให้กูใช้มึงหน่อย…มึงจะไปไหม)
“555 มีฉึกๆ ด้วยเหรอว่ะ อินเทรนนะเรา…ขอรบกวนนิดเดียวเอง”
“ว่ามา ใช้เยอะก็ไม่ว่าหรอก”
“นิดเดียว อยากกินผลไม้อะไรก็ได้ ลงไปดูในตู้เย็นให้หน่อยดิ มีป่าว” ไอ้ปอเดินลงไป ผมรอนานมากกกกก (มันลงไปดูตู้เย็นรึล้างตู้เย็นวะ)
“พลวดดดดด” เสียงเปิดประตูโดยที่ไม่มีการเคาะเหมือนเดิมอย่างนี้ ผมไม่มองก็รู้ ต้องเป็นไอ้ปอคนเดียว มันมาพร้อมกับกระติกน้ำ
“อะไรอ่ะปอ กูบอกให้ไปดูผลไม้ ไม่ได้อยากกินน้ำ”
“ก็นี่ไง ผลไม้อยู่ในนี้ ในนี้มีน้ำแข็งแช่เย็นด้วย”
“เวอร์ไปป่าว ถ้ามันมีก็ถือขึ้นมาก็ได้” (งง จะเอาไปแช่ทำไม)
“จะกินไม่กิน”
“กินๆ” ผมเดินไปเปิดกระติก จนต้องตกใจ “เห้ยปอ อะไรวะ” ผมเห็นน้ำผลไม้กล่องปิดทับด้วยน้ำแข็ง (กินให้ตายไปข้างนึง ประชดกูป่าววะ)
“ในตู้เย็นไม่มีหรอก กูเดินไปหน้าปากซอย ไปแล้วก็เลยซื้อน้ำผลไม้ในเซเว่นมาให้แทน”
“โอ้ย อะไรจะขนาดนั้น ไม่มีไม่กินก็ได้” ผมนับดู 20 กล่อง มีน้ำส้ม ฝรั่ง กีวี องุ่น ลำไย แอปเปิ้ล ดอกกระเจี๊ยบ ใบเตย น้ำผัก ผลไม้รวม ฯลฯ (ทั้งผักทั้งผลไม้เลยกู)
“กินให้ท้องแตกไปเลยที”
“ท่าทางมึงหวังดีกับกูมากเลยนะ” ให้กินจนท้องแตกตาย
“หวังดีสิ กูวิ่งไปซื้อมาให้มึงเลยนะเว้ย” เอ๊ะ! เหตุการณ์มันคุ้นมากเลย มันเหมือนกับที่ผมเคยวิ่งไปซื้อข้าวมาให้มันกินเมื่อตอนที่มันไม่สบาย ทำไมกรรมมันเห็นเร็วจังวะ
“ขอบใจ” ผมขอบใจมันอย่างใจจริงนะ
“ไอ้เหี้ยเอ้ย” ไอ้ปอพูดซะเสียงดัง
“อ้าวไอ้ปอ มึงด่ากูเหรอ” (กูขอบใจมึง มึงมาด่ากูเนี้ยนะ)
“ป่าว กูหาตัว ฆ. ไม่เจอ” (เล่นเกมส์อะไรว่ะใช้ตัว ฆ.รึมันจะไปฆ่าใคร)
“ไม่เจอก็หาดิ แล้วมึงจะด่าทำไมวะ”
“กูไม่ได้ด่ามึง กูด่าคีย์บอร์ด แม่งเอ้ยใครเป็นคนคิดว่ะ”
“อ้าว มึงจะถามหาคนคิดทำไม เค้าสร้างมาให้มึงได้มานั่งพิมพ์มันก็ดีแล้วนะ”
“สร้างไรมาไม่รู้เรื่องรู้ราว พยัญชนะไทยก็เรียง ก-ฮ ดีๆ เสือกมาเรียงให้มันสลับกัน”
“5555+ไอ้ปอ มึงก็ฉลาดคิดเนอะ กูยังไม่เคยคิดเลย ไหนหาเจอยัง” ผมเดินไปดูคีย์บอร์ดมัน
“ยัง” ไอ้ปอตอบ
“ข้างบน หำมึงน่ะ มึงเห็นไหม” (กว่าจะเห็นกูก็มองจนทั่วเหมือนกันแหละ)
“ไหนว่ะ” ไอ้ปอมองแถวๆเป้าตัวเอง
“ไอ้บ้ามึงซื่อจริงๆน่ะ กูหมายถึง ข้างบน หอ-อี-บอ-หีบ เปลี่ยนเป็นหอ-อำ-หำน่ะ555”
“อ้าว กูก็นึกว่าอะไรอยู่บนหำกู”
“555” (แกล้งไอ้ปอสะใจดี) ผมกลับมานั่งที่เดิมกินน้ำส้มต่อ
“ทีมึงกินเจป่าว” ไอ้ปอถามผม แปลกใจเล็กน้อยมันถามทำไม
“นั่งกินข้าวด้วยกันมึงไม่เห็นเหรอ” (เออก็กินปกติถามหาไรวะ)
“ป่าวก็เห็นพ่อ แม่มึงกิน ก็คิดว่ามึงกินด้วย”
“กูก็กินบ้างไม่กินบ้างแหละ ไม่ได้เคร่งแต่บางช่วงไม่อยากกินเนื้อสัตว์”
“เออ มึงอย่ากินเจเลยเสียสถาบันเค้า หน้าไม่เหมาะสม”
“โห้ไอ้ปอ เจ็บทรวงเลยกู กล่าวหาว่ากูหน้าไม่เหมาะสม ใครจะเหมือนมึงไอ้หน้าเต้าหู้…มึงกินกับเค้าป่าว”
“55 ถามไม่คิด ยังกินปลาด้วยกันอยู่เลย รึมันเป็นปลาปลอมเหรอ” มองมาทางผมทำหน้ากวนตีนด้วยนะ
“ไม่ใช่ปลาปลอมหรอ มันเป็นปลากระป๋อง เพราะกูกำลังจะปากระป๋องใส่หัวมึง” (โดนไปสองเด้งเลยกู ไม่น่าถามมันเลย ลืมไปชั่วขณะ นั่งกระเดือกด้วยกันแท้ๆ โดนมันย้อนเลย) ผมพูดแล้วมองไปรอบๆห้อง เห็นเสื้อผ้าไอ้ปอกระจัดกระจายรอบตระกร้า
“ปอ มึงจะใส่แล้วโยนให้มันลงตระกร้าหน่อยไม่ได้เหรอวะ”
“มันไม่ลงเอง” (อ้าวไอ้นี้โทษเสื้อ)
“มึงแหละโยนไม่ลง โยนไม่ลงก็เก็บหน่อยสิวะ” ผมเดินไปเก็บยัดๆลงตระกร้า มีสิ่งนึงที่ตกลงมาจากระเป๋า กางเกงบอล และสิ่งนั้นมันคือ ถุงยางอนามัย (สงสัยโชคคงเข้าข้างผมอยากให้รู้ให้ตาสว่าง) มียังงี้แล้วจะให้ผมคิดยังไงล่ะ คิดในทางที่ดี ไอ้ปอมันคงเอาถุงยางอนามัยไปเป่า เตะเล่นที่สนามบอล(เหรอ) รึมันหวังดีกับเพื่อนพกไปเผื่อเพื่อน(เหรอ) รึเค้าไปตั้งบู๊ทแจกถุงยางอนามัยที่ข้างสนาม(เหรอ) พยายามคิดดีแล้วแต่มันเป็นไปไม่ได้ และมันเคยมีเหตุที่สนามนั้นด้วยไง นักบอลก็คนเดิมๆ คนไปดูก็น่าจะเป็นคนเดิมๆ แล้วจะเป็นเปลวคนเดิมไหม รึมีอีกหลายคน ….????
ผมกลับมานั่งที่เดิมด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจนัก เอาโน๊ตบุ๊คออกมา เปิดเพลงฟัง กล่อมเกลาจิตใจให้เย็นลงหน่อย …. ตะวันยังมีให้เห็น (ใจเย็นมากล่ะไอ้ที มันยิ่งทำให้อารมณ์โกรธมากขึ้น)
“ฟังเพลงนี้สิปอ มึงว่ามันเพราะไหม” ผมพูดปกติ ไอ้ปอหันมามอง
“เพลงไรวะ”
“ฟังเองดิ” ฟังได้สักพัก
“ปกติมึงฟังอินเตอร์ มึงเข้าประเทศมาฟังเพลงไทยแล้วเหรอวะ” มันพูดยิ้มๆ ไม่รู้มันคิดอะไรอยู่ รู้ไหมว่าผมกำลังจะสื่อความหมายอะไร รึแกล้งทำเป็นไม่รู้ รึไม่รู้อะไรเลย
“ฟังเนื้อเพลงสิปอ กูว่ามันเพราะดีนะให้กำลังตัวเองดี คิดเสียว่าถ้ามึงอยู่ในสถานการณ์นั้นจะรู้สึกยังไง”
“เศร้าๆ ไม่เห็นจะไห้กำลังใจตรงไหนเลย”
“นั้นสิ เศร้า ถ้ากูไปมีคนอื่นมึงจะรู้สึกยังไงจะมีมากกว่าเศร้าไหม”
“ถามไรวะที กูไม่ยอมให้มึงไปมีคนอื่นหรอก…แต่…ถ้ามีจริงกูจะเอาตีนไปเหยียบมัน”
“ถ้ามึงมี กูก็คงคิดเหมือนกัน แต่กูก็คงเหยียบใครไม่ได้ มึงจะเหยียบคนนั้นให้กูได้ไหม” (จะเหยียบคนนั้นให้กูได้ไหม รึมึงจะเป็นคนปกป้องเค้า)
“ไม่มีหรอกที กูไม่มีหรอก ที่ผ่านมาก็ไม่ได้คิดอะไร อย่าคิดมากเลย” (ไม่ได้อะไร หมายถึงอะไร ไม่มีอะไร รึมีแต่ไม่ได้คิดอะไร…ปอกูว่าเราจะไปด้วยกันรอดไหม มึงเป็นคนที่ทำอะไรแล้วไม่ค่อยคิด รึว่ากูคิดจนมันมากเกินไป…เรายังอยากจะไปเที่ยวด้วยกันอีกหรือ?)
“ช่างเหอะ กูพูดเผื่อไว้ อนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่รู้” ผมพูดแล้วยิ้มให้ไอ้ปอ ไอ้ปอปิดคอมแล้วเดินมานั่งข้างๆกอดผม “เหนื่อยมากล่ะ เวลาว่างๆก็ไม่อยากคิดอะไรให้รกสมอง นอนเถอะ ไม่ต้องคิดมากหรอก” (กูบอกมึงไม่ให้คิด แต่ทำไมกูเห็นหลักฐานแล้วกูอยากจะรู้ วันนี้มึงนอนข้างกู แล้ววันต่อไป ต่อๆไป ????? กูอุส่าห์ดีใจที่เกรดเทอมนี้กูได้4 ดีใจได้ครึ่งวัน ตกเย็นกูต้องเปลี่ยนมาเศร้า )
แต่วันนี้ ฉันรั้งตัวเธอต่อไปไม่ไหว
เมื่อเธอกับฉันต้องเดินแยกทางกันไป
ไม่มีเธอแล้ว จะอยู่อย่างไร
ไม่รักก็ควรต้องลืมใช่ไหม ฝืนใจตัวเองทุกครั้ง
และพรุ่งนี้ ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง
รู้เพียง ตะวันยังมีให้เห็นไกลไกล
ทุกอย่าง นั้นยังมีแปรเปลี่ยนไป
แต่ฉันจะมีแค่เธอในใจ เหมือนดวงตะวัน
(กูรักมึงมากนะปอ แต่ในเมื่อกูไม่ใช่คนที่ใช่ของมึง กูก็ไม่อยากฝืนใจมึง ถึงจะมีรึไม่มีมึง ในวันข้างหน้า กูก็คงต้องเดินต่อไป กูจะไม่ลืมมึงเลย …ปอ…) T_T
…………………………………………………………………………………………………..
http://www.4shared.com/embed/47399055/eb86ed9e