ราเชนพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะพยุงตัวเดินไปหน้าร้านโดยที่มีไอ้เปี๊ยกคอยประคองอย่างระมัดระวัง แม้จะอยู่ในอาการมึนจนแทบจะโงหัวไม่ขึ้นแต่หัวที่เอียงซบไปที่ไหล่ไอ้เปี๊ยกก็คอยจะยื่นหน้าเข้าไปหาแก้มนวลอยู่เป็นระยะ มันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แต่เอียงแก้มหลบอย่างรู้ทัน ก่อนจะกระซิบถามราเชนด้วยเสียงปนหอบ
"เดินไหวป่ะพี่ เดี๋ยวผมให้พี่ยอดมาช่วยพยุง"
ราเชนแข็งใจผงกหัวหงึกหงัก เพราะไม่อยากให้มันตามใครมาขัดจังหวะให้วุ่นวาย ชายหนุ่มรู้สึกว่ามันกึ่งพยุงกึ่งลากเขาไปที่หน้าร้านอย่างทุลักทุเลท่ามกลางสายตาคนในร้านที่มองมาอย่างขบขัน
ระยะทางจากห้องน้ำไปหน้าร้านนั้นแค่ไม่กี่สิบเมตร แต่ไอ้เปี๊ยกกลับใช้เวลานานโขกว่าจะพาราเชนไปยืนคอพับคออ่นข้างถนนได้สำเร็จ ดูเหมือนว่าจะไม่มีแท็กซี่คันไหนอยากรับคนเมาจนหมดสภาพอย่างราเชน ชายหนุ่มยัดแบ้งค์ห้าร้อยใส่มือไอ้เปี๊ยกแล้วกระซิบบอกที่อยู่คอนโดย่านลาดพร้าวพลางฉวยโอกาสเอาจมูกไปชนแก้มได้สำเร็จ
รถแท็กซี่คันแรกที่โฉบมายอมรับลดกระจกลงแล้วมองราเชนอย่างชั่งใจ คงไม่คุ้มแน่ถ้ามีคนเมามาอ้วกในรถ..แต่เมื่อไอ้เปี๊ยกบอกที่หมายแล้วรีบยื่นแบ็งค์ห้าร้อยให้โดยรีบบอกว่าไม่ต้องทอน ลุงคนขับแท็กซี่ก็จำใจพยักหน้าให้ไอ้เปี๊ยกพาราเชนไปนั่งเบาะหลัง
ราเชนตะกายเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างทุลักทุเล ใจก็นึกกลัวว่าพอมันจับเขายัดใส่แท็กซี่ได้สำเร็จแล้วจะชิ่งหนีไป.. ชั่วแวบที่เขานึกหวั่นใจ มันก็วิ่งอ้อมท้ายรถเพื่อมาเปิดประตูอีกด้านหนึ่งแล้วกระโดดขึ้นมานั่งเบาะหลังกับเขา ทันทีที่มันนั่งบนรถเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หมดเรี่ยวแรงจะทรงตัวได้ได้ เอนหัวลงซบบนตักนุ่มๆของมัน
ชายหนุ่มควานหามือของมันที่วางไว้ข้างตักยกขึ้นมาแนบแก้ม..ไม่มีแก่ใจจะอายใครแล้วตอนนี้...
"บอล..."
"อะไรครับพี่..."
ราเชนพยายามอ้าปากจะชวนคุยทั้งที่สมองง่วงงุน ชายหนุ่มซุกหน้าลงบนตักอุ่น ทั้งที่ยังหัวหมุนติ้วเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ยิ่งมาอยู่ในแท็กซี่ที่ขับกระชากไปมาแบบนี้
อาการมึนหัวยิ่งหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มหลับตาแน่นเพื่อกลั้นอาการผะอืดผะอมย้ายมือนุ่มๆของไอ้เปี๊ยกที่วางข้างแก้มมาที่ปลายจมูกแล้วสูดกลิ่นหอมๆจากอุ้งมือ..มันใช้โลชั่นอะไรทามือนะ ถึงได้หอมชื่นใจแบบนี้..
"ไอ้หนู พี่ชายเอ็งเมาหนักขนาดนี้ ถ้าจะอ้วกก็บอกลุงนะ เดี๋ยวลุงจอดข้างทางให้.." ลุงคนขับแท็กซี่พูดกับไอ้เปี๊ยกด้วยสำเนียงเหน่อๆ มันไม่ตอบ แต่กลับใช้มือเสยผมที่รุ่ยลงมาปรกหน้าผากให้ราเชน สัมผัสอ่อนโยนนั้นทำให้ราเชนแทบละลายลงไปกับตักมัน ชายหนุ่มพยายามเงยหน้าขึ้นมาจากตัก เพียงเพื่อจะได้เห็นว่า มันรู้สึกอย่างไรบ้างตอนนี้..
"นอนเถอะครับพี่ ถึงแล้วเดี๋ยวผมปลุก.."
ไม่เอา..ไม่อยากหลับ..ไม่อยากพลาดแม้ซักนาทีที่ได้นอนหนุนตักอบอุ่นแบบนี้ เซ็กส์ชั่วข้ามคืนเหมือนที่แล้วๆมาเทียบไม่ได้เลยกับความรู้สึกอบอุ่นที่เกิดขึ้นในตอนนี้..
อยากนอนหนุนตักมันแบบนี้ไปจนเช้า หลับไปด้วยกัน แล้วลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นมันเป็นคนแรก...
ไม่ใช่แค่เช้าวันพรุ่งนี้ แต่เป็นทุกๆเช้าตลอดไป...
"ถึงแล้วครับพี่.." น้ำเสียงเนือยๆของมันกระซิบบอกราเชน ชายหนุ่มพยายามชันตัวลุกขึ้นโดยมีมันคอยช่วยพยุง ลุงคนขับวิ่งอ้อมมาช่วยเปิดประตูให้ก่อนจะรีบช่วยพาราเชนลงจากรถ ก่อนที่เขาจะอ้วกใส่รถอย่างที่แกนึกหวั่นใจ
"ไหวมั้ยพี่ แข็งใจอีกนิดนึงนะครับ ใกล้จะถึงห้องแล้วเนี่ย.."
ลุงขับแท็กซี่รีบปราดเข้ามาช่วยพยุงราเชน เพราะเห็นท่าว่าลำพังไอ้เปี๊ยกคนเดียวไม่น่าจะรับมือกับราเชนไหว แม้จะยืนโงนเงนอยู่หน้าคอนโด แต่ใจราเชนก็ลอยไปถึงห้องนอนแล้ว
ไอ้เปี๊ยกจะเข้าไปส่งเขาถึงในห้องนอน ...เขากับมัน..กับเตียงนุ่มๆ..
แต่ตอนนี้ต้องหาทางกำจัดก้างชิ้นโตก่อน...
"ลุงครับ ผมเดินไหว ลุงกลับไปก่อนก็ได้ครับ.."
ลุงขับแท็กซี่ส่ายหัวก่อนตอบกลับมาด้วยสำเนียงเหน่อๆ "โฮ้ย..พ่อหนุ่ม เมาแทบจะคลานอยู่แล้วยังจะมาทำเก่ง..ที่ลงมาช่วยนี่เพราะเห็นใจไอ้หนูนี่หรอก..มันคนเดียวจะแบกเอ็งยังไงไหว.."
ราเชนไม่มีแก่ใจจะตอบโต้กับลุงคนขับแท็กซี่ ได้แต่ปล่อยให้แกพยุงกึ่งลากเขาไปอย่างทุลักทุเล เพราะร่างสูงใหญ่แบบนักกีฬาของราเชนคอยจะโถมน้ำหนักไปที่ไอ้เปี๊ยกตลอดเวลา
"อ้าวคุณเชน..ไปทำอีท่าไหนถึงได้เมาเปลิ้นมาแบบนั้น.." เสียงน้าหมายรปภ.หน้าคอนโดลอยมาแต่ไกล แล้วแกก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบมาหาราเชนด้วยหน้าตาตื่น
"มาเดี๋ยวผมช่วยพยุง" น้าหมายรีบอาสาอย่างแข็งขันพลางวิ่งไปช่วยพยุงราเชนแทนที่ไอ้เปี๊ยกที่กำลังจะทานน้ำหนักตัวของราเชนไม่ไหว มันหลบไปยืนหอบอีกด้านหนึ่ง
ราเชนชะเง้อคอเหลียวหามัน พยายามขืนตัวตะกายไปที่ที่มันยืนอยู่ กลับกลายเป็นว่าสองคนที่ช่วยกันหิ้วปีกคิดว่าราเชนเมาหนักจวนจะอาละวาด
"เฮ้ย! พวกมึงน่ะมาช่วยกันหน่อย..คุณเชนเขาเมามากเดินขึ้นคอนโดไม่ไหว" เสียงน้าหมายตะโกนเรียกรปภ.หน้าคอนโดอีกคนให้มาช่วยกันพยุงราเชน ก่อนที่แกจะหันไปพูดกับไอ้เปี๊ยกด้วยคำพูดที่ราเชนได้ยินแล้วแทบกระอัก..
"เฮ้ย! ไอ้หนู คอนโดนี้คนนอกเข้าไม่ได้ ส่งแค่นี้ก็พอแล้ว.."
"งั้นผมส่งแค่นี้แล้วกัน ฝากพี่ด้วยนะครับ.." ไอ้เปี๊ยกพูดกับรปภ.จอมจุ้นด้วยน้ำเสียงโล่งอกที่หมดภาระในการรับมือกับคนเมาเสียที ชายหนุ่มได้ยินเสียงลุงขับแท็กซี่พูดกับมันด้วยน้ำเสียงเอ็นดูว่า "ไอ้หนู..กลับกับลุงเลยมั้ย จะได้ไม่ต้องเรียกคันอื่น.."
มันตอบตกลงกับลุงขับแท็กซี่ด้วยน้ำเสียง ก่อนจะเดินไปที่รถอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้รปภ.สองคนต่อกรกับเรี่ยวแรงมหาศาลของราเชนต่อ แม้จะเมาขาลากจนหัวเข่าแทบจะติดพื้นแต่ชายหนุ่มกลับออกแรงดิ้นรนเต็มเหนี่ยว..
"บอล..เดี๋ยวก่อน..อย่าพึ่ง..เฮ้ย! ปล่อยกูสิวะ.."
ราเชนตะโกนอย่างเดือดดาลเมื่อได้ยินเสียงรถแท็กซี่กำลังสตาร์ทเครื่อง..แขนขาปัดป่ายอย่างแรงเพื่อสะบัดรปภ.ศองคนที่ช่วยกันหิ้วปีกไปให้พ้นทาง ชั่วอึดใจชั่วอึดใจราเชนก็หลุดพ้นจากการเกาะกุมได้สำเร็จ ชายหนุ่มวิ่งถลาลงจากบันไดเพื่อไล่ตามรถแท็กซี่ แต่ดูเหมือนขาเจ้ากรรมจะไม่อาจวิ่งเร็วได้อย่างใจ
จู่ๆพื้นโลกก็เอียงวูบ...รู้สึกตัวอีกทีชายหนุ่มก็ลงไปนอนแอ้งแม้งคลุกฝุ่นอยู่ที่พื้น...หัวหมุนติ้ว..เห็นดาวระยิบระยับ..
แม้จะจุกจนแทบคลาน แต่ราเชนก็รีบพยายามชันตัวลุกขึ้น ก่อนจะพบว่าตัวเองหมดเรี่ยวแรงนอนแผ่หราอยู่ที่พื้น ตามองฟ้าที่กำลังจะสว่างในตอนรุ่งเช้า..
หูได้ยินเพียงเสียงรถแท็กซี่ที่แล่นออกห่างไปทุกที...
...........................................................................
09-01-10 13:35.. กรุงเทพมหานคร..
"ไงวะไอ้เชน...ได้ข่าวว่าเมาหมดสภาพ จนต้องหามส่งโรงบาลเลยเหรอมรึง ฮ่าๆ.." น้ำเสียงเยาะเย้ยที่ลอยออกมาจากโทรศัพท์ทำให้ราเชนนึกอยากกระโดดเตะปากคนพูดซักที แต่คงต้องรออีกสองอาทิตย์ หลังจากถอดเฝือกอ่อนที่ขาซ้ายออกเสียก่อน..
"ถ้ามึงยังหัวเราะไม่เลิก กูไม่จ่ายค่าเหล้ามึงจริงๆด้วย.." ราเชนพูดอย่างหงุดหงิด แค่ชั่วคืน เหตุการณ์ที่ราเชนเมาอ้วกหน้าผับก็เป็นที่รู้กันทั่ว และทุกสายที่โทรมา ไม่มีเลยที่จะแสดงความเห็นใจ..
"มรึงรู้เปล่า ว่าน้องเต้ย กิ๊กเก่ามึง เอารูปที่มึงเมาอ้วกหน้าผับขึ้นหน้าหนึ่งเฟซบุ๊คของน้องเค้าเลยนะเว้ย.."
"เออ..กูรู้ กูมันเลว ใครๆก็รอสมน้ำหน้ากู.." ราเชนประชด พลางยันลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาอย่างยากลำบาก ขาเดี้ยงแบบนี้ อีกนานกว่าจะกลับมาซ่าไว้อย่างเดิม..
"อ้อ..พี่ปุ่นเค้าฝากมาแสดงความเสียใจว่ะ ที่มึงแดกแห้วเมื่อคืน เค้าบอกว่า อย่าคิดมาก มึงไม่ใช่คนแรกที่ตามป้อน้องบอลจนเมาอ้วกคาผับ น้องบอลเนี่ย มือชงเหล้าอันดับหนึ่งของร้าน S-CLUB แล้ว.."
แม้คำพูดนั้นจะทำให้ราเชนรู้สึกยอกแปลบที่หัวใจ ชายหนุ่มแข็งใจย้อนกลับไปว่า "ไม่ได้ในคืนแรก ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ได้ในคืนต่อๆไปโว้ย นี่แค่คืนแรก กูไม่ยอมถอดใจง่ายๆหรอก.."
"ฮะๆ ไอ้เชน กูไม่นึกเลยมึงจะรักจริงหวังแต่งขนาดนี้ นี่มึงจะลงทุนจีบน้องเค้าเลยเหรอวะ.. "
"เออ.." ราเชนตอบสั้นๆ เพราะมันเป็นคำตอบเดียวที่ตรงใจที่สุดแล้ว..
"อย่าเลยมึง น้องเค้าเป็นผู้ชาย มึงตื๊อให้ตายยังไงน้องมันก็ไม่ล่นด้วยหรอก.."
"ก็ให้มันรู้ไปสิวะ ถ้ากูทุ่มให้เต็มที่แล้ว มันจะไม่มีใจให้กูบ้างก็เกินไปแล้ว" ราเชนเถียงอย่างดื้อดึง
"งั้นมึงลองคิดดู ถ้ามีผู้หญิงคนนึงรักมึงมาก คอยตามตื๊อมึง ทำดีกับมึงทุกอย่าง มึงจะรักเค้ามั้ย? ก็คงไม่.. เพราะเค้าไม่ใช่สำหรับมึง..น้องบอลก็เหมือนกัน ต่อให้มึงไปแดกเหล้าเมาอ้วกอยู่หน้าผับทุกคืนเค้าก็คงไม่เห็นใจมึงหรอก เผลอๆจะรำคาญด้วยซ้ำ.." นนท์ให้เหตุผลอย่างใจเย็น ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำสียงเรียบๆที่ไม่ได้กลั้วอารมณ์ขันเหมือนในทีแรก..
"มึงลองคิดดูให้ดีๆนะไอ้เชน ว่ามึงแค่อยากได้น้องเค้าเพราะอยากเอาชนะเฉยๆรึเปล่า ที่ผ่านมา มึงอาจจะเคยได้ใครมาง่ายๆ พอมาเจอน้องบอลเข้ามึงก็เลยรู้สึกท้าทาย...
มึงแน่ใจเหรอ ว่าที่มึงรู้สึกกับน้องบอลมันใช่ความรักจริงๆ ไม่ใช่แค่บรรยากาศพาไป ..มึงรู้จักน้องบอลแค่คืนเดียวเองนะเว้ย..มึงเชื่อกูสิ ตัดใจซะเถอะ มีคนดีๆอีกหลายคนที่ยังรอมึงอยู่ "
ราเชนเงียบ รู้สึกปวดหัวตุบ คำเทศนาของนนท์มีผลข้างเคียงไม่ต่างจากอาการเมาค้างเลยแม้แต่น้อย..
เห็นราเชนเงียบไป อีกฝ่ายก็เรียบเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้ราเชนเสียความรู้สึก "เออ..แล้วมึงไม่อยากรู้เหรอ ว่าทำไมพี่ปุ่นเค้าถึงหมั่นไส้มึงนัก.."
"ไม่อยากรู้ " ราเชนตอบอย่างไม่ยี่หระ..
""แต่กูอยากเล่า" นนท์พูดหน้าตาเฉย ก่อนจะสาธยายต่อด้วยน้ำเสียงขบขันเต็มที่ "ที่เค้าหมั่นไส้มึงเพราะผัวเค้ากลายมาเป็นเมียมึงไง มึงจำน้องดิวที่เคยเป็นพีอาร์ผับได้เปล่าวะ ที่มึงหิ้วไปนอนน่ะ นั่นแหละ ..เด็กคนนั้นน่ะ พี่ปุ่นแกเลี้ยงไว้ แกภูมิใจนักภูมิใจหนาว่าเด็กแกแมนอย่างงั้นอย่างงี้ แล้วพอมึงไปจีบคืนเดียว ก็แล่นไปนอนกับมึง แถมยังเอาไปป่าวประกาศทั่วว่าได้เป็นเมียพี่เชนแล้ว ว่ามึงเอาเก่งอย่างงั้นอย่างงี้ พอพี่ปุ่นรู้เข้าก็แกก็เลยเลิกเลยนะ จากนั้นสองคนนั้นก็มองหน้ากันไม่ติด แล้วน้องดิวก็กระเด็นไปอยู่ที่อื่น.."
ราเชนหัวเราะเพลียๆให้กับวีรกรรมที่ตัวเองเคยก่อไว้..คงอีกนานกว่าจะล้างภาพพจน์เก่าๆที่ตัวเองเคยทำไว้ได้..
หลังจากถามไถ่อาการบาดเจ็บกันอีกสักพักแล้วนนท์ก็วางสายไป..ราเชนเอื้อมมือไปปิดโทรศัพท์มือถือ ไม่อยากรับสาย ไม่มีแก่ใจจะคุยกับใครทั้งนั้น
ชายหนุ่มเอนตัวขดซุกอยู่บนโซฟา ทั้งที่คำพูดของนนท์ยังดังวนเวียนอยู่ในหัว..
เขารักมัน..หรือแค่อยากได้
มันเป็นแค่บรรยากาศพาไป..แค่นั้นจริงๆหรือ...
ที่คุยกันแทบทั้งคืน ที่มันคอยเอาอกเอาใจเขา ที่กุมมือกันบนรถแท็กซี่ ทุกอย่างที่มันทำให้เขา แค่เพราะเขาเป็นลูกค้าที่ร้าน แค่เพราะเขาจ่ายทิปให้มันเท่านั้นหรือ..
ชายหนุ่มอดถามตัวเองไม่ได้ว่าถ้าเขาตามจีบมันอีกหนึ่งคืน อีกหนึ่งอาทิตย์ ..หรืออีกหนึ่งเดือน โดยที่ไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย ..มันยังจะคุ้มอยู่อีกไหม..
ราเชนคุ้นเคยกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นและจบลงเพียงชั่วข้ามคืน แต่ระหว่างเขากับมัน ยังไม่อาจเรียกว่าความสัมพันธ์ได้ด้วยซ้ำ..
มันก็แค่เหตุการณ์เพียงหนึ่งคืน ระหว่างลูกค้าขี้เมา กับเด็กเสิร์ฟขี้อ้อน ...
ให้มันจบลงอย่างง่ายๆ..เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ..สำหรับมัน...เขาเป็นลูกค้า หายไปสักพัก..พอกลับไปอีกที มันอาจจะจำเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
คืนหนึ่งมันคงต้องเจอคนเป็นร้อย ไม่มีเหตุผลอะไรที่มันจะต้องไปจดจำลูกค้าขี้เมาอย่างเขา...
แล้วสำหรับเขาล่ะ .. หลบเลียแผลใจเงียบๆจนกว่าขาจะหาย.. หลังจากนั้นก็กลับไปใช้ชีวิตสุดเสเพลแบบเดิมๆ เที่ยวทุกคืนวันศุกร์- เสาร์ หาคนที่ถูกใจมาค้างที่คอนโด
หรืออาจจะเริ่มต้นความสัมพันธ์จริงจังกับใครสักคนที่ดีพอ...
มันก็แค่..เหตุการณ์สั้นๆในชั่วข้ามคืน ไม่มีความหมาย..ไม่มีความสำคัญอะไร
พอตื่นเช้า สร่างเมา แล้วเขาก็จะลืม
ป่วยการที่เขาจะไปตามตื๊อมันให้เสียเวลา ถ้าจะพูดกันตรงๆ เขายังมีคนที่ดีกว่ามันให้รอเจออีกเยอะ..
ชายหนุ่มค่อยๆเอนหัวอิงหมอนใบใหญ่นุ่มบนโซฟา หลับตาลงช้าๆ หูแว่วเสียงเพลงโปรดที่ไม่ได้ฟังนานมากแล้ว.. เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าห้องของตัวเองกว้างเกินไปอย่างไม่มีเหตุผล..
กว้างเกินไปสำหรับคนเหงาที่จะอยู่คนเดียว..
ในคืนที่เราเจอะเจอกันครั้งแรก..
ก็เป็นคืนที่เราต้องลาจาก..
เธอทำให้คืนที่เราพบกันครั้งแรก กลับเป็นคืนที่ไม่เลือนไปจากใจ..
อยากจะพบ.. อีกสักครั้ง ..
อยากให้คืนนั้นย้อนคืนมาใหม่
และในคราวนี้..จะไม่ยอมให้เธอจากไป..
แต่อยากจะรู้ตอนนี้เธอ อยากรู้ตอนนี้เธอ..อยู่ไหน..