แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*  (อ่าน 240771 ครั้ง)

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ความจำเสื่อม......................เฮ้อ

Haney

  • บุคคลทั่วไป
ทำม๊ายยยยมันรันทดอย่างนี้ ฮึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :o12:

Eis

  • บุคคลทั่วไป
คนเขียนใจร้ายยย...  :o12:
.
.
.
มาต่อไวๆ นะครับ กำลังได้ที่เลย  o13

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ตามสบายเลยครับ เศร้ากันทั้งทีให้สุดๆ ไปเลย  :o12: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
ใจร้ายสุดๆเลยแต่นี่อาจเป็นบท
พิสูจน์ของวินก้อได้

ออฟไลน์ poochai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :o12: :o12: :o12: คนอ่านร้องไห้เป็นวักเป็นเวรเลยอ่ะ แงๆๆๆ สงสารทุกคนเลย ฮือๆๆๆๆๆๆๆ :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ทำไมมันรันทดแบบนี้

 :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
มันจะรันทดไปปไหมเนี่ย  :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :serius2: :serius2:  ทำไมครอบครัวตั้มเหมือนรวมหัวกันทำร้ายวินอย่างนี้ล่ะครับ   :sad2: :sad2:

หวังว่าจะมีใครมาช่วยตั้มกะวินได้ไวๆนะครับ  o7 o7

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
เศร้าๆๆๆๆ อย่างแรง o7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






^ - ^A s A v I n * o *

  • บุคคลทั่วไป
เหอะๆ เรียนท่านผู้แต่ง กระผมอ่านรวดเดียวจบ แต่งดีมาก

แต่ ขอเหอะๆ ใจร้ายมากมาย อาราย อุปสรรคมันจาเยอะขนาดนี้ เหอะๆ

ยังไงก้อ ขอบคุณนะครับบบบ สำหรับ เรื่องดีๆ รีบๆมาต่อนะ อย่าหายไปนาน ผมจารีบมาติดตาม เลย เดงต้องไปตปท อิอิ นานหน่อย

แต่จารีบมาะครับบบบบบ

ปล สงสารวิน โคตรๆๆๆๆๆ  :sad2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50

43

   อุษายืนเหม่อขณะที่มือก็ล้างจานไปด้วย จนน้ำที่เปิดจากก๊อกคาเอาไว้ล้นอ่าง หล่อนจึงรู้สึกตัว
   “อุ๊ย!”
   หล่อนรีบปิดน้ำ แต่ก็สายไปเพราะกระโปรงหล่อนเปียกไปกว่าครึ่ง
   “ให้ผมช่วยนะครับ” วันชนะรีบยื่นมือเข้ามาโดยไม่ฟังคำตอบ “คุณน้ารีบไปเปลี่ยนชุดเถอะครับ”
อุษาคิดจะปฏิเสธ แต่ดูสภาพตัวเองแล้วก็เอ่ยขอบใจแล้วทิ้งห้องครัวไป พอเปลี่ยนชุดใหม่เสร็จหล่อนก็ไปหานักขัตที่ห้อง จึงพบว่านักขัตกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอก
“จะไปไหนน่ะตั้ม” คนเป็นแม่ยืนพิงกรอบประตูถาม
“ไปตกปลาน่ะแม่” ลูกชายคว้าหมวกมาสวม
“จะไหวเหรอ” อุษามองดูมืออีกข้างที่ยังเดี้ยงอยู่พร้อมกับคิดไปด้วยว่าคนตาบอดนี่จะตกปลายังไง
“ไม่เป็นไรมั้งครับ ตั้มชวนวินไปด้วย” นักขัตตอบตามปกติ
จะบอกว่าสีหน้าของอุษาเบาใจก็คงไม่ถูกนักเพราะมันก้ำกึ่งของอาการหนักใจรวมอยู่ด้วย แต่ก็บอกออกไปว่า “ก็ระวังหน่อยแล้วกัน”
“ครับแม่” ลูกชายที่ตัวสูงกว่าเดินมาหยุดที่ตรงหน้าแล้วโน้มตัวลงมาหอมแก้มแม่อย่างขี้ประจบแล้วก็เดินลงไปข้างล่างเรียกหาชื่อเพื่อนที่มาเยี่ยม
อุษาเก็บกวาดเล็กๆน้อยในห้องของนักขัตเรียบร้อยดีแล้วจึงเดินลงมาก็ยังเห็นว่านักขัตยังนั่งอยู่ตรงโซฟา หล่อนจึงเดินเข้าไปหา “แล้ววินล่ะ”
พูดจบวันชนะก็ออกมาจากในครัว “เรียบร้อยแล้ว” แล้ววันชนะก็พยุงนักขัตออกไป เดินไปทางหลังบ้านราวหนึ่งกิโลเมตรที่นั่นมีลำธาร

วูบหนึ่งอุษามองภาพที่เด็กหนุ่มสองคนนั้นพยุงกันเดินออกไปเป็นภาพทำให้เกิดความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย หากแต่นั่นทำให้หล่อนเบาใจขึ้นมา จากนั้นจึงตรงไปที่ครัว อุษาพบว่าห้องครัวถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น นอกจากจานที่เด็กคนนั้นช่วยล้างแล้วเขายังเช็ดจนแห้งแล้วเก็บเข้าที่อย่างเป็นระเบียบ ผ้าเช็ดจานเขาก็ซักแล้วตากแดดไว้อย่างถูกที่ทาง


วันชนะพะวงกับการดูแลนักขัตมากเสียจนละเลยอาการแปลกๆที่คนตาบอดไม่สามารถทำได้ จนกระทั่งมาถึงที่โคนต้นตะแบกใหญ่ราวสองคนโอบ ทั้งคู่จึงวางสัมภาระลงและเริ่มตกปลา
“ตั้มจะตกปลาได้ไง” วันชนะเริ่มคิดได้
“ก็...เราก็จับคันเบ็ดไว้ไง ถ้าปลามันกินเหยื่อก็รู้สึก” คนตอบไหลตามน้ำไปได้
“แล้วจะจับปลายังไง” วันชนะยังติดใจสงสัย
“ก็...ถึงได้พานายมาด้วยไง” นักขัตเกือบหลุด
วันชนะเออออ

แต่นานเป็นชั่วโมงพวกเขาก็ยังตกไม่ได้ปลาสักตัว วันชนะนั่งมองทุ่นไปพลางคิดเรื่องราวที่ผ่านมา แต่แปลกที่มันไม่ได้เครียดอย่างที่ควรจะเป็น อาจเป็นเพราะสายลมเย็นๆที่พัดผ่านร่มไม้ครึ้มนี้รวมทั้งเพราะมีคันเบ็ดปักอยู่ข้างๆแล้วนักขัตก็นอนรอเหยื่อติดเบ็ดอยู่ตรงนั้น...

คนนั่งมองทุ่นหันไปมองคนนอนรอเหยื่อแล้วยิ้มขำ ก็ถ้าเหยื่อติดเบ็ดแล้วเขาจะรู้ได้ยังไงนะ คิดเพลินจนลืมสังเกตว่าคันเบ็ดโน้มเพราะโดนดึงจนทุ่นกระเพื่อมน้ำเป็นวง
แล้วร่างที่นอนพิงโคนต้นตะแบกกลับลุกขึ้นมายกคันเบ็ดหน้าตาเฉยเหมือนมองเห็น

“ฮ้า! ตกได้แล้วๆ” นักขัตออกอาการดีใจ แต่แล้วก็รีบเก็บอาการหันไปทางวันชนะแล้วพูดว่า “ได้ปลาไหม”
“อ้าว ก็เห็นร้องออกเสียงดัง ก็นึกว่ามองเห็นเสียอีก” วันชนะพูดอย่างไม่จริงจังนัก
   และคำพูดนั้นทำให้นักขัตเริ่มระวังตัวมากขึ้น
             
   “รู้มั้ย ตั้มชอบมานั่งตกปลาที่นี่มากๆเลย บางวันก็ไม่ได้เลยสักตัวแต่ก็ได้ความรู้สึกผ่อนคลายกลับไป เราชอบต้นไม้นี่ ชอบลำธารนี่รวมถึงเสียงต้นหญ้าลู่ลมนี่ด้วย” คนพูดยิ้มผ่อนคลายอย่างที่เขาเล่า
   “อืม นั่นสินะ” วันชนะจึงได้สังเกตความงามของธรรมชาติรอบตัวบ้าง “ภาพข้างหน้านี่สวยงามจริงๆ” วันชนะหยุดที่นักขัต คิ้วเริ่มย่นเพราะรู้สึกแปลกใจ ก็ดูเหมือนนักขัตจะมองเห็นจริงๆอย่างนั้น วันชนะยื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้านักขัตเพื่อสังเกตที่ตาของเขา

   นักขัตจึงกลบเกลื่อนด้วยการทำตานิ่งๆ ทำเป็นไม่สนใจหน้าวันชนะที่ยื่นเข้ามา จากนั้นความรู้สึกแปลกๆก็พลุ่งพล่านแล้วจึงตามมาด้วยความรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นที่ศีรษะจนสะดุ้งวูบ
   “อุ๊บ!” นักขัตยกมือข้างที่ใช้การได้ขึ้นกุมศีรษะ
   “ตั้มเป็นอะไร!” วันชนะตกใจ
   “ปวด...ปวดหัว”
   วันชนะหันรีหันขวางไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ปากก็ละล่ำละลักบอกว่า “กะ...กลับบ้านไหวไหม”

   นักขัตไม่ตอบ วันชนะก็ไม่สนใจจะฟัง เขาพยุงร่างที่ดิ้นรนจากความเจ็บปวดนั้นให้ลุกขึ้นแล้วตรงไปทางตัวบ้านที่เหมือนจะอยู่ห่างออกไปไกลกว่าตอนขามา ทุลักทุเลกว่าจะมาถึงครึ่งทางกลางแปลงผัก วันชนะไม่สนใจแล้วว่าจะเหยียบโดนพืชผลที่งอกงามเหล่านั้น จนกระทั่งเห็นทั้งสมภพกับอุษาวิ่งเขามาดึงร่างลูกของตัวเองออกไปจากแขนวันชนะอย่างรวดเร็ว ร่างของสมภพที่เบียดเข้ามาแทนที่อย่างเร่งร้อนกระแทกวันชนะให้ล้มลงกับพื้นจนข้อศอกถลอกได้เลือดซิบโดยที่วันชนะไม่สนใจอาการแสบๆนั้นเลย สายตามองตามสามพ่อแม่ลูกที่วิ่งห่างออกไป สองขาเริ่มช้าวิ่งช้าลงเมื่อเห็นภาพนั้น...เขาเป็นคนนอก

   ขณะที่ ‘คนนอก’ สนใจกับแผลถลอกที่ข้อศอกของตัวเอง สายตาของคนปวดศีรษะเมื่อครู่มองมาไม่กระพริบตา ขณะที่เหมือนมีภาพเป็นพันๆผ่านเข้ามาในหัวนักขัตเพียงวินาที
   ...เหมือนเทน้ำบนพื้นทราย...
   นักขัตยังเหมือนเดิม เขาเพียงแต่คุ้นหน้าวันชนะมากขึ้นเท่านั้น รู้สึกมีเรื่องราวมากมายที่มีวันชนะอยู่ในเหตุการณ์ด้วยแต่ก็ลงรายละเอียดไม่ได้...นั่นทำให้เขาทรมาน
   
   

   พอกลับถึงบ้านอาการของนักขัตก็สงบลง อุษากับสมภพจึงให้เขาทานยาที่หมอจัดไว้ให้ นั่นทำให้นักขัตหลับไปนานกว่าห้าชั่วโมงแล้ว สมภพนั่งทำอะไรไปเรื่อยในห้องของนักขัต อุษาเดินลงมาชั้นล่างของบ้านก็พบวันชนะยังนั่งรออยู่ หล่อนจึงเดินเข้าไปหา
   “หนูกลับไปก่อนเถอะนะ เขาไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ” หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งเย็นเยียบกึ่งเอ็นดู
   วันชนะเงยหน้าขึ้นมองหน้าหล่อนอย่างคนอิดโรย
   “...ครับ” เขาตอบอย่างว่าง่ายก่อนสีหน้าลังเลฉายอยู่ครู่หนึ่ง
   อุษาเข้าใจสายตานั้นดี หล่อนเข้าใจว่าวันชนะคงอยากอยู่เฝ้านักขัตจนถึงเมื่อตอนเขาตื่น แต่นึกถึงสถานการณ์แล้วก็ไม่เหมาะที่จะให้วันชนะอยู่
   เสร็จธุระจากชั้นล่างหล่อนก็ขึ้นมาสมทบกับสามีที่ห้องของนักขัต หล่อนมองลูกก่อนมองใบหน้าด้านข้างของสามี

   “คุณ...” หล่อนลังเล “...เรื่องของเด็กคนนั้น”
   คนเป็นสามีหันมาอย่างสงสัยในตัวภรรยา
   “บางที...เราควรจะ...” หล่อนหยุด เพราะไม่รู้ว่าจะเรียบเรียงคำพูดอย่างไร
   “เราเคยคุยเรื่องนี้กันแล้วนะษา แล้วเราก็คุยกันเด็กคนนั้นแล้วด้วย” เสียงของสมภพไม่ดังมากแต่ก็เฉียบขาด นั่นทำให้อุษาหยุดที่จะแย้งต่อ
   พอทั้งคู่ออกไปจากห้อง นักขัตก็ลืมตาขึ้นในความสลัว เขายิ่งอยากรู้ว่าระหว่างพ่อแม่ของเขากับวันชนะมีอะไรที่เป็นเงื่อนงำกันแน่!
   
   

   ตะกร้าผลไม้ที่ติดมือมาด้วยวันนี้แทบจะหลุดตกพื้น วันชนะต้องการเอามาฝากอุษากับสมภพ แต่พอเข้าบ้านมาได้ก็เจอกับคำถามที่คนพูดไม่ต้องการคำตอบว่า
   “จะมาที่นี่อีกนานเท่าไร” สมภพเป็นคนถาม
   เจอคำถามนี้ วันชนะก็ตอบไม่ได้ว่าเขาต้องการเวลานานแค่ไหนที่จะเป็นอยู่อย่างนี้ ถึงแม้ก่อนที่จะมาที่นี่เขาก็ทำใจเอาไว้แล้วว่าหลังจากนี้เขาอาจจะไม่มีนักขัตมาคอยป้วนเปี้ยนอยู่ในชีวิตเขาอีกเลยก็ตาม
   “ผมขออยู่จนกว่าเขาจะหายได้ไหมครับ” วันชนะรวบรวมความกล้าบอก
   สมภพบอกได้ว่าไม่ค่อยชอบใจนักกับสายตานั้น อาจจะเรียกว่าเกลียดเลยก็ได้...สายตาที่เด็กคราวลูกส่งมาต่อต้านตน...สายตาที่เหมือนกันตอนนั้น ที่บันไดหนีไฟ “ตั้มก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก...ถึงจะเป็น ยังไงเขาก็มีพ่อมีแม่คอยดูแล”
   ก่อนที่เรื่องจะลุกลามไปมากกว่าที่เป็นอยู่ คนที่ดูจะใจสงบมากกว่าสมภพก็เดินเข้ามาจับที่ต้นแขนเอาไว้
   “หนู...มาทางนี้เถอะจ้ะ” อุษาพูดแล้วจึงหันไปทางสามี ส่งสัญญาณว่าเดี๋ยวหล่อนจัดการเอง อย่างหนึ่งคือหล่อนไม่อยากให้อาการโรคหัวใจของสมภพกำเริบ

   เมื่ออยู่สองต่อสองที่แคร่ไม้ใต้ร่มมะปรางสูงเลยหลังคาบ้านที่อยู่หลังห้องครัว อุษาจึงเอ่ยอย่างจริงจังกับเพื่อนของลูกว่า

   “คำถามเดียวกันน่ะจ้ะ แต่น้าคิดว่าให้น้าเป็นคนถามหนูน่าจะดีกว่า” หล่อนหยุดสังเกตท่าทางของวันชนะ ครู่หนึ่งจึงเอ่ยต่อ “เรายังไม่เคยได้คุยกันอย่างจริงจังเสียที วันนี้น้าขอคุยเลยนะ”
   “...ครับ” วันชนะเม้มปาก
   “หนูรู้ใช่มั้ยว่าตอนนี้ตั้มเป็นอย่างไร” อุษามองหน้าวันชนะที่หลบสายตาหล่อนไปทางอื่น
   “ครับ” วันชนะตอบ...เขารู้ว่านักขัตตาบอด
   อุษาก็รู้ว่าวันชนะรู้เพียงนักขัตตาบอดซึ่งนั่นไม่จริง แต่ก็พอจะเป็นมูลเหตุของการดำเนินชีวิตที่ไม่ปกติที่จะนำมาเป็นเหตุในการสนทนาครั้งนี้ได้

   “หนูรู้ใช่มั้ยว่าหนูจะมาที่นี่ตลอดไปไม่ได้” อุษาพูดต่อ “มันไม่มีประโยชน์อะไรที่หนูจะมาเสียเวลากับตั้มตลอดชีวิตหรอกนะจ้ะ ถึงแม้ว่าน้าจะไม่เข้าใจความรักในแบบที่หนูเป็นอยู่ก็ตาม” หล่อนอยากจะพูดต่อว่า...ในเมื่อตอนนี้นักขัตก็ไม่มีความทรงจำในเรื่องนั้นแล้ว...เพื่อตอกย้ำว่าวันชนะไม่ควรจะรื้อฟื้นมันขึ้นมา อุษาจึงได้แต่เก็บคำพูดเหล่านั้นไว้ตามที่ลูกของตัวเองขอไว้ เพื่อรอวันที่วันชนะรู้ความจริง แล้วเมื่อถึงตอนนั้นหล่อนจะพูด...ถึงจะต้องขอร้องเด็กคราวลูก หล่อนก็จะทำ

   วันชนะยิ้มบางๆ เมื่อเห็นสีหน้าเป็นทุกข์ที่เผยออกมาเพียงน้อยนิดที่อุษาเก็บไม่มิด
“คุณน้าครับ ผมเข้าใจความรู้สึกคุณน้าทั้งสองดีครับ คุณน้าทั้งสองคนพูดถูก ผมมาที่นี่ตลอดไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยขอให้ผมได้อยู่ดูเขาจนกว่าเขาจะหายได้ไหมครับ ผมสัญญาว่าเมื่อถึงวันนั้นผมจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับพวกคุณอีก...” วันชนะถอนหายใจยาว “สำหรับผมกับตั้ม...ผมขอโทษที่จะพูดว่าความรักที่ผมมีให้เขามันไม่ได้ต่างไปจากความรักที่คู่รักคู่อื่นๆมีให้กันเลย และผมก็เชื่อว่าไม่ใช่ผมฝ่ายเดียวที่คิดแบบนั้น”

   “หนูจะหาว่าฉันพรากคู่รักจากกันอย่างนั้น...” อุษาพูดเสียงเรียบขึ้น...เย็นขึ้น
   “เปล่าครับคุณน้า ที่ผมพูดอย่างนั้นเพียงแต่ต้องการอธิบายความรู้สึกที่ผมมี และคุณน้าก็ไม่ได้พรากพวกเรานะครับ เพราะผมเป็นฝ่ายถอนตัวออกไปเอง...” วันชนะเหม่อมองปลายใบมะปรางที่สบัดด้วยแรงลม “...ผมเพียงคิดว่า ถ้าสิ่งที่พวกเราเป็นมันลำบากเกินกว่าที่จะฝืนต่อสิ่งรอบตัว...ถ้าผมปล่อยมือเสียคนหนึ่ง ตั้มอาจจะไม่ต้องเจอกับเรื่องยากเหมือนอย่างผม” พูดจบใบหน้านั้นก็ยังแต้มด้วยรอยยิ้มบางๆที่ฉายแววของคนยอมแพ้ต่อชะตากรรม

   สายลมพัดมาวูบหนึ่งพาใบแก่จากลำต้นใหญ่หลุดปลิว อุษาบรรยายความรู้สึกที่เกิดไม่ถูกเมื่อได้ฟังสิ่งที่คนคราวลูกตรงหน้าถ่ายทอดออกมา หล่อนจึงไม่มีอะไรจะพูดต่อ...

   ...แต่สมภพที่บังเอิญได้ยินตั้งแต่เดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่มกลับขยับปากจะพูดแทรกผ่านประตูหน้าต่างห้องครัว แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นไม่พูด...



TBC.

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อุษา กับ สมภพ จะเข้าใจขึ้นมั้ยน่ะ

Haney

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
เห้อ  อีกนานไหมนิ กว่าจะสมหวังนะ  o7

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3

KriT_SuN

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
มันยังคงเศร้าได้อีก 

เมื่อไหร่จะยิ้มกันได้ละนี่  โอยยยย  เจ็บอก 

รออ่านต่ออยู่น้า หมูพูห์
ปล  คิดถึงพูห์อะ

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วเหนื่อยจริงๆ เรื่องนี้  เหนื่อยมาเป็นปีแล้วนะเนี่ย :m15:

ความรักมันจะสมหวังกันมั้ย  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ขอให้พ่อกะแม่ตั้มใจอ่อนทีเถ้อ  :sad2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Otaku

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-1

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
จะเศร้าอีกนานมะ  :o211:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ใช่...จะเศร้าอีกนานไหม :dont2: :dont2:

โอนริโอ้

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าอีกไม่นานหรอกคับ  :m13:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
 :serius2: เศร้าอีกมะนานแล้วอีกกี่ตอนอะจ๊ะ คุณโอนิ

BEta-K

  • บุคคลทั่วไป
ตอนใหม่มาตั้งนานแล้ว คนโพส ยังไม่เอามาลงอีก o12 :angry2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50


44

ผ่านไปหนึ่งเดือนกว่า ที่วันชนะไปๆมาๆบ้านของนักขัต ดูเหมือนว่าอาการของเขาจะยังไม่คืบหน้าขึ้นเลย
จนวิตกว่านักขัตจะต้องตาบอดไปตลอดชีวิต แต่พอถามกับอุษาที่ดูไม่ทุกข์ร้อนเท่าไรนัก ก็ได้คำตอบเป็นการที่หล่อนเงียบไปและเปลี่ยนเรื่อง

เฝือกที่แขนถูกถอดออกไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน
วันชนะมาถึงก็เข้าไปหาสมภพกับอุษาก่อน เขาวางตะกร้าผลไม้ที่มีติดมือมาเสมอไว้ที่บนโต๊ะ ก่อนที่วันชนะจะผละออกไปหานักขัตที่นั่งเล่นอยู่หลังบ้านตามที่อุษาบอก เสียงห้าวที่ไม่ค่อยได้พูดกับวันชนะก็ดังขึ้น
“เอาผลไม้ไปใส่ตู้เย็นก่อนสิ” สมภพพูดสั้นๆก่อนจะหันหลังเดินจากไป ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกแต่เป็นเพราะเด็กคนนี้ดูน่าสงสารมากก็เท่านั้น
วันชนะจึงก้มหัวให้อย่างเกรงๆเพื่อหยิบตะกร้าไป


ร่างที่คุ้นเคยนอนหลับตาพริ้มอยู่ที่ใต้ร่มเถาพวงครามที่พันรอบโครงไม้ที่ทำขึ้น วันชนะสูดลมหายใจอย่างสบายใจ อากาศที่นี่เย็นสบาย มีร่มไม้หลายจุดไม่วุ่นวายเหมือนในกรุงเทพฯ วันชนะไม่ตั้งใจจะทำให้เกิดเสียงเหยียบใบไม้แห้งดังกรอบแกรบจนทำให้นักขัตรู้ตัว

“อืม...” คนนอนนิ่งทำท่าขยี้ตาเหมือนเพิ่งตื่นนอน
“หลับสบายเลยล่ะสิ” วันชนะเดินเข้าไปนั่งลงใกล้อย่างไม่ผิดสังเกต
“ช่าย...” นักขัตลากเสียงยาว

สายลมเย็นสบายทำให้น่านอนเป็นที่สุด วันชนะสูดเอาอากาศบริสุทธิ์จนเต็มปอดก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ

“ในที่สุด วินก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ครั้งนี้อยู่นานเสียด้วยนะ” วันชนะเอ่ยทั้งที่หลับตา...นึกถึงภาพในอดีต ตอนที่มาที่นี่เป็นครั้งแรก
“ชอบที่นี่แล้วสิ” คนนอนข้างๆเอ่ยขึ้นบ้าง
“ชอบสิ ที่นี่ตอนพระอาทิตย์ตกสวยอย่างที่นายเคยพูดเอาไว้” วันชนะนึกถึงตอนที่นั่งมองพระอาทิตย์ตกด้วยกันที่ริมสระของมหาวิทยาลัย
คำพูดจากวันชนะเหมือนลูกศรพรั่งพรูสู่สมองของนักขัต ภาพมากมายปรากฏในเสี้ยววินาที
“อุ๊บ!” นักขัตปวดศีรษะอย่างแรง
“ตั้ม!” วันชนะเด้งตัวขึ้นมาทันที “ปวดหัวเหรอ”
คนกุมหัวไม่ตอบ
วันชนะเอื้อมมือจะจับที่ไหล่ของนักขัต แต่กลับโดนมือที่กุมศีรษะอยู่เปลี่ยนมาปัดมือของเขาออกอย่างแรง!
“ตั้ม...” วันชนะค้างไป
นักขัตไม่พูดอะไร แต่เหมือนอาการปวดจะผ่อนคลายลง สังเกตจากอาการทุรนทุรายที่ลดลง
วันชนะได้แต่มอง...ร่างที่คุ้นตาเดินนำลิ่วไปทางตัวบ้าน

ที่สายลมนั้นเย็นสบายคงเพราะหอบฝนมาด้วยกระมัง เพราะทันทีที่เห็นนักขัตเข้าบ้านไปแล้ว ฝนเม็ดใหญ่ก็เทลงมาจากฟ้าอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“รีบเข้าบ้านเถอะจ้ะ” อุษาเรียกวันชนะที่เดินเหม่ออยู่ที่ประตู “สงสัยจะเข้าหน้าฝนแล้ว”
“ตั้มล่ะครับ” วันชนะเอ่ยสายตาเลื่อนลอย
“กลับมาถึงก็ขึ้นข้างบนเลยจ้ะ” อุษาสังเกตได้ถึงความผิดปกติ “มีอะไรกันรึเปล่า?”
วันชนะไม่ตอบ เพราะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “ผมกลับก่อนนะครับ” ไหว้อุษาเสร็จก็หันหลังกลับทันทีโดยไม่คิดว่าสายฝนหนักเม็ดจะเป็นอุปสรรค
อุษามองตามหลังอย่างอาทรระคนอ่อนใจ “จะไปได้ยังไง...คืนนี้หนูนอนที่นี่แหละ”

   
   

   ฝนยังกระหน่ำลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด วันชนะนอนบนฟูกที่อุษาปูให้นอนที่เตียงไม้ที่ใช้นั่งเล่นที่ชั้นล่าง ใจหวิวแปลกๆตั้งแต่เย็น...ตั้งแต่โดนนักขัตปัดมือออก ในความมืดสลัววันชนะไม่อาจหลับลงได้ เพราะในหัวครุ่นคิดอยู่เรื่องเดียวซ้ำไปซ้ำมา
นักขัตขังตัวเองอยู่ในห้องนอนตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน กลางดึกรู้สึกกระหายเลยลงมาหาน้ำดื่มที่ชั้นล่าง เพราะคิดว่าวันชนะกลับไปแล้วจึงไม่ทันสังเกตร่างที่นอนอยู่บนฟูก
เมื่อแสงจากตู้เย็นที่เปิดออกอาบร่างที่กำลังหยิบแก้วน้ำแล้วหยิบขวดน้ำมาเปิดฝาจากนั้นจึงเทน้ำลงแก้วเพื่อดื่ม

แสงสว่างติดพรึบจากหลอดนีออนกลางห้อง วันชนะเป็นคนกดสวิตซ์
“ตั้ม นายมองเห็นทุกอย่าง” เขาคิ้วขมวดอย่างสงสัยทั้งที่แน่ใจในคำตอบที่มีให้แก่ตัวเอง
นักขัตลดแก้วน้ำนั้นลง ความรู้สึกปั่นป่วนไปหมด อธิบายไม่ถูกว่ารู้สึกผิดหรือเป็นความรู้สึกอย่างอื่น
“ตั้ม...หลอกเราทำไม” วันชนะคาดคั้น
หากแต่ไม่มีคำตอบให้จากคนตรงหน้า
ร่างที่ดูบางกว่าหันหลังด้วยความรู้สึกที่พังทลาย ไม่เข้าใจ...ทำไมต้องหลอกกัน...ทำไมถึงปัดมือ...ทำไม...ถึงเปลี่ยนไป
“จะไปไหน” คนข้างหลังเอ่ยเมื่อเห็นวันชนะตรงไปทางประตู
“ไปจากที่นี่” เสียงนั้นไม่โกรธกริ้วหรือแสดงออกด้วยอารมณ์
“ฝนตก” คนข้างหลังบอก
หากแต่วันชนะก็ยังเปิดประตูออกไป แล้วร่างก็ลับหายไปกับฝนฟ้า...

สายของวันต่อมา วันชนะกลับมาอีกครั้ง เขาตรงไปหาอุษากับสมภพอย่างไม่ลังเล เนื้อตัวซีดปากซีดเพราะโดนฝนเมื่อคืน
“ผมมาลาน่ะครับคุณลุงคุณน้า” วันชนะไหว้ คราวนี้เขามาโดยไม่มีกระเช้าผลไม้
ก่อนหน้านี้ทั้งอุษากับสมภพถ้าได้ยินคำนี้คงจะยินดีไม่น้อย แต่แปลกที่ความรู้สึกที่มีในวันนี้กลับผิดไป
“หนู...ทำไม” อุษาไม่รู้จะพูดอะไรดี
“ตั้มไม่ได้เป็นอะไร...ผมก็ควรจะไป...” ท้ายประโยคเสียงแผ่วหาย กล่าวเสร็จก็ไหว้ทั้งสองสามีภรรยาอีกครั้งก่อนจะลุกจากไปอย่างไม่อาลัยอาวรณ์
แต่ก่อนที่วันชนะจะไปไกล
“ตั้มไม่ได้ตาบอดหรอกนะ” ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหล่อนถึงได้บอกออกไป “เขาจำอะไรไม่เลยตะหาก”
วันชนะหยุดเดิน นิ่งอยู่กับที่สักพักก่อนจะพูดว่า
“ตอนนี้เขาหายแล้วล่ะครับ”
แล้วจึงเดินหายออกไปยังทางที่ขนานไปด้วยต้นจำปี...


ค่ำคืนที่พระจันทร์ทอแสงนวลผ่านเข้ามาถึงเตียงนอน บรรยากาศก็เย็นสบายโดยไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ หากแต่คนบนเตียงกลับว้าวุ่นจนนอนตาค้างมานานกว่าสามชั่วโมงแล้ว หงุดหงิดเหมือนเห็นภาพวาดทิวทัศน์สวยงามแต่มีจุดสีแต้มจากความผิดพลาด...เหมือนเห็นหน้าของคนๆนั้นอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าทุกเรื่องในชีวิตของเขาเต็มไปด้วยเงาของวันชนะคอยตามติดอยู่ตลอด
ด้วยเหตุนั้นนักขัตจึงลุกจากเตียงไปนั่งพิงวงกบหน้าต่าง ความรู้สึกเหมือนใจร้าวไปหมด ทรมาน...เหมือนตัดขาดจากคนรัก ทั้งที่ความทรงจำก็กลับคืนมาแล้วแต่เรื่องที่เขารักกับผู้ชายนั้น...รับไม่ได้!
“ทำไมนะ...” เอ่ยกับตัวเอง
เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องรู้สึกโหยหาถึงขนาดนอนไม่หลับ ความทรงจำกลับมาก็จริงแต่ความรู้สึกกลับไม่เหมือนเดิม
บางทีอาจต้องการเวลา...เหมือนคนป่วยเพิ่งฟื้นไข้

วันคืนผันผ่านเป็นสัปดาห์ ทั้งอุษากับสมภพต่างรู้สึกอย่างเดียวกัน นั่นคือความรู้สึกโหวงเหวงเพราะคนที่เคยเห็นอยู่ทุกวันขาดหายไป อีกทั้งลูกของตัวเองก็ไม่สดใส วันๆเอาแต่นั่งเหม่อเป็นคนที่มีเรื่องให้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา

“กินข้าวได้แล้วตั้ม” อุษาเรียก
“ตั้มยังไม่หิวครับแม่” คนเป็นลูกตอบ สายตายังเหม่อมองไปที่นอกหน้าต่าง
อุษาถอนหายใจ “จะเป็นแบบนี้ไปอีกนานเท่าไรฮึ”
“แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอครับ” นักขัตหันมาสบตา “แม่ก็รู้ใช่ไหมครับว่าผมกับ...วิน...เอ่อ...เป็นอะไรกัน”
“รู้สิ” หล่อนเดินเข้าไปใกล้ วางมือที่บ่าของลูก “พ่อก็รู้”
“ผมขอโทษ” นักขัตหลบสายตาเพราะความละอาย
อุษายิ้มให้กับลูก มองไปข้างนอกหน้าต่าง ที่ทางเดินเรียงด้วยต้นจำปีเหมือนจะเห็นเด็กคนนั้นสะพายเป้เดินเข้ามา...แต่ก็ไม่ได้มีใคร

จะเป็นความเคยชินหรือความผูกพันก็ไม่ทราบแน่ พอไม่มีวันชนะอยู่จึงรู้สึกขาดหาย และมันทำให้หล่อนได้คิดอะไรได้มากขึ้น ได้มองเห็นอีกมุมหนึ่ง ก็คงเหมือนแก้วผลึกที่เมื่อมองใกล้ๆจะเห็นลักษณะที่สวยงามแต่ไม่เห็นรัศมีที่เปล่งประกายเมื่อมองไกลๆ คนเราพอได้เห็นได้เจอกันทุกวันก็ไม่ทันจะได้เห็นคุณค่าของกันและกัน เพียงแต่สักวันที่คนธรรมดาคนนั้นจากไป นั่นแหละจึงได้แลเห็นตัวตน

“ถ้าเป็นแต่ก่อนแม่ก็คงจะรู้สึกดีที่เด็กคนนั้นจากไปเสียได้” หล่อนยิ้มให้กับการตัดสินใจ “แต่พอแม่เห็นตั้มเป็นอย่างนี้แม่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า เด็กคนนั้นต้องมีอะไรสักอย่างที่ดีพอที่ทำให้ตั้มตัดสินใจแบบนั้น ในทางที่ถูกต้องแม่ก็อยากจะให้ตั้มรักกับผู้หญิงเป็นธรรมดา แต่ว่าทุกวันนี้โลกมันเปลี่ยนไปมาก และจริงอยู่ว่าเรื่องแบบนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับเท่าไรนัก แต่เด็กคนนั้น...วินน่ะ เขาทำให้แม่เห็นว่าเขารักตั้มมากจริงๆ”

“เพราะอะไรครับแม่” นักขัตมองลึกถึงนัยน์ตามารดาเพื่อรอฟังคำตอบ
“ความรักทำให้คนเราเห็นแก่ตัว อยากจะเก็บอีกคนไว้กับตัวเอง อยากแม้กระทั่งจำกัดความคิดของคนรักให้มีแต่ตนคนเดียว แต่วินเสียสละสิ่งนี้ เขายอมทิ้งตั้มเพื่อให้ตั้มได้อิสระนั้น โดยที่เขาเองยอมเป็นฝ่ายเจ็บอยู่คนเดียว”
“แม่พูดเรื่องอะไร” นักขัตขมวดคิ้ว
“จำได้มั้ย เมื่อตอนที่ตั้มพาวินมาที่นี่ครั้งแรกน่ะ พ่อกับแม่รู้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว” หล่อนหยุดพัก เพราะรู้สึกเหมือนกำลังจะสารภาพผิดกับสิ่งที่เคยทำ “พ่อกับแม่ขอให้เขาเลิกกับตั้ม”
ถึงตรงนี้ภาพเหตุการณ์ต่างวิ่งผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว นักขัตรู้สึกชาไปทั้งตัว
“และเขาก็ทำอย่างที่พวกเราขอร้องจริงๆ” หล่อนหลับตาลง รู้สึกเหมือนผ่อนคลายจากเรื่องที่ทำให้อึดอัดใจมานาน “จนเขากลับมาที่นี่อีกครั้ง เพียงเพื่อจะอยู่ดูตั้มจนหาย แล้วเขาก็จากไป”
“แม่...” นักขัตมองหน้าแม่ได้เลือนราง เพราะม่านน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
“แม่อยากขอโทษเขาเหลือเกิน แม่ทำร้ายความรักของคนๆหนึ่ง...” หล่อนก็พูดได้เท่านั้นเพราะตีบตันไปหมด
นักขัตยกมือขึ้นกุมล็อกเก็ตที่ห้อยอยู่ตลอดที่ก่อนนี้ไม่รู้ถึงที่มาของมัน

คุกกี้รูปหัวใจที่หล่นบนตักที่มากับรอยยิ้มเหงาๆ
เย็นนั้นที่พายุโหมลมแรง ห้อง 609 กับ 610 ที่ติดกันในหอพัก
เส้นใหญ่ผัดขี้เมาไก่
รับน้องกลางดึก
เพลงที่ร้องด้วยกัน
สัญลักษณ์อินฟินิตี้ที่ตั้งเป็นคำสัญญา
ละครเวที
เล่นน้ำที่เสม็ด
หรือแม้แต่ภัทร...
ทุกภาพความทรงจำที่เหมือนเป็นแค่ภาพสองมิติกลับนูนขึ้นมาเป็นตัวตนเป็นมิติที่สาม...มีคุณค่าและมีความรู้สึกผสานอยู่ทุกหยดเม็ด และความรู้สึกพิเศษที่ล้นทะลักขึ้นมาทันที...รัก



“แม่...ตั้มรักเขา...ตั้มรักวิน” นักขัตโผเข้ากอดอุษาแน่น “ตั้มรักผู้ชาย”
“จ้ะ” อุษาลูบหลังลูก “แม่ไม่ว่าอะไรลูกแล้ว”
“ตั้มจะไปหาวิน” นักขัตยิ้มทั้งน้ำตา
“จ้ะ ไปเถอะ” อุษายิ้มให้ลูก
แต่พอผละจากอ้อมกอดของอุษา สมภพก็ก้าวเข้ามาในห้อง
“พ่อ!” นักขัตอุทาน
สมภพไม่ว่าอะไร เพียงแต่มองหน้าคนเป็นลูก
“พ่อ ตั้มมีเรื่องจะบอก” นักขัตมองสบตา ก่อนจะย่อตัวลงกราบที่เท้า
สมภพไม่ตอบรับอะไร นักขัตจึงพูดขึ้นว่า
“ตั้มกับวิน เรารักกันครับ ตั้มขอโทษที่ทำให้พ่อผิดหวัง”
เพียงไม่กี่อึดใจแต่ดูนานเป็นวัน ทั้งห้องเงียบกริบ ได้ยินเพียงเสียงใบไม้โดนลมพัด
“ภพ” อุษาเอ่ยทำลายความเงียบ แต่ก็ถูกสายตาของสามีห้ามการกระทำ
“ไปเถอะ” สมภพเปิดปาก
“พ่อ” นักขัตแปลกใจ ที่สมภพไม่ห้าม
“ลุกขึ้นมาก่อนเถอะ” สมภพลูบหัวนักขัต
“พ่อไม่ว่าตั้มเหรอครับ” นักขัตยังสงสัย
“พ่อก็เตือนตั้มมาทั้งชีวิตแล้ว จากนี้ไปถึงจะผิดพลาดตั้มก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตั้มตัดสินใจเองแล้วล่ะ” สมภพหวนคิดถึงวันนั้นที่บันไดหนีไฟ นักขัตผละจากตนไปหาวันชนะ นักขัตยอมเจ็บตัวแทนเด็กคนนั้น ยิ่งตอนกลางคืนได้เห็นสีหน้าลูกยามหลับเหมือนคนมีความทุกข์สุมอยู่ตลอดเวลายิ่งแล้ว ถึงเขาจะหัวโบราณยอมรับเรื่องนี้ได้น้อยกว่าอุษา ก็คงไม่อยากเห็นนักขัตเป็นแบบนี้

“แต่ก่อนที่ตั้มจะไป ตอบพ่อแม่กับตัวเองอีกทีว่าตั้มแน่ใจแล้วนะที่ตัดสินใจอย่างนี้”





TBC.

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ไปเลยตั้ม ไปตามหัวใจของตัวเอง  o7 o7 o7

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
พ่อแม่เปิดทางให้แล้ว รีบตามไปเลยก่อนที่เค้าจะหนีไปไม่กลับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบมาอีก

vunsenpuklug

  • บุคคลทั่วไป

เริ่มอ่านเมื่อวานนี้ วันนี้ก้อมาอ่านจนทันซะที
พี่บรรยายเรื่องได้น่าติดตาม ดูมีหลายเรื่องให้คิด ชอบตรงนี้มากค่ะ

ตอนอ่านอ่านไปถึงตอนที่วินบอกเลิกกับตั้ม เพราะ พ่อแม่ตั้มขอร้อง
ตอนนั้นรู้สึกเศร้ามากเลย ลองคิดดูว่าถ้าตัวเองเป็นวินจะรู้สึกยังงัย
คงจะเจ็บปวดมากมาก ทั้งทั้งที่รักแต่ก็ต้องปล่อยไป ยอมเจ็บคนเดียว

เฮ้อออ ยังงัยก็อย่าให้เรื่องนี้จบเศร้าเลยค่ะ
ตอนนี้ดูท่าว่ากำลังจะไปได้ดีแล้ว พ่อแม่ตั้มก็ยอมให้แล้ว

พี่ก็รีบมาต่อไวไวนะคะ รออ่านอยู่อย่างใจจดใจจ่อเลย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2008 13:09:29 โดย vunsenpuklug »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด