หึหึหึ...หายไปหลายวันเลย
ขอโทษคร้าบบบบบ....ยกโทษให้ผมนะครับ...นะนะนะนะนะนะ
เพื่อเป็นการขอโทษ..งั้นไปอ่านกันเลยดีกว่าเนาะ.....
"เดินระวังหน่อยสิครับจูน...เดี๋ยวก็ตกหลุมหรอก..."
"หลุมไรของมึงอีก...กูไม่เห็นจะมีไรเลย..."
"ก็ระวังตกหลุมรักโจ๊กไงครับ..." นี่แค่เรียกน้ำย่อยขั้นต้น
ไปดูกันต่อ
"จูนครับ...มื้อนี้กินไข่พะโล้นะ...."
"ไม่กิน...ไม่ชอบ..."
"กินนะครับ...ถึงแม้ไข่จะสีดำ...แต่คนที่ทำให้หัวใจสีชมพูนะครับ..." เสี่ยวได้อีก
ยังมีอีกครับ
"จูนครับ...โจ๊กว่าโจ๊กเป็นคนใจแคบนะ...."
"ใจแคบไรมึงอีก....กูว่ามึงอ่ะ...ใจร้ายมากกว่า...ชิส์..."
"ก็ใจของโจ๊กสิครับ...ทั้งสี่ห้องมีแต่จูนคนเดียวเลย ไม่ยอมแบ่งให้ใคร...แคบมั๊ยล่ะครับ...." เน่าได้อีก...
ยัง...ยังไม่พอ....มีอีก
"จูนครับ.....ช่วยอ่านคำนี้หน่อยสิ....โจ๊กอ่านไม่ออก...." ผมก็หยิบมาดู อืม....ได้
"โง่รึไงมึง...แค่นี้ก็อ่านไม่ออก..."
"ก็สอนให้อ่านหน่อยสิ....นะนะนะ..."
"กู...เกลียด...มึง...ชัดยัง?..."
"โง่กว่ากูอีกนะมึง....นี่เค้าอ่านว่า...." มันหมองหน้สผมแวบหนึ่ง...แล้วก็เงียบไปเลย
"เอ้า...ไม่อ่านต่อล่ะ?..."
"ขี้เกียจแล้ว...."
ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือความสะเหร่อของไอ้โจ๊กมันครับ
มันเล่นมุขเสี่ยวๆกับผมตลอดทั้งอาทิตย์ที่กลับจากค่าย
ตอนแรกๆทั้งผมและไอ้อเสก ไอ้ปาล์ม พากันงงปนตกใจ
แต่พอเล่นเข้าหลายวัน...กลับขำแและก็ฮากันไป
แต่มันจะเล่นแบบนี้เฉพาะตอนที่พวกเราอยู่กันเองเท่านั้น
ผมถามมมันว่าทำแบบนี้ทำไม?...มันตอบว่า...ใจสั่งมา...เอากับมันสิ
จนวันนี้...ตอนนี้...มันทนไม่ไหวแล้ว เพราะความเลี่ยนและกลัวประสาทจะกิน
"มึงเลิกเล่นซะทีได้ไหมไอ้โจ๊ก...กูไม่ไหวแล้ว มันจะอ้วก..." ผมประสาทแตกใส่มันตอนนั่งคุยกับมันตอนพักซ้อมบอลในตอนเย็น
"นี่มึง...ไม่รู้สึกรู้สากับคำพูดของกูเลยเหรอ?..."
"รู้สึกสิ...."
"รู้สึกไงว่ะ?..." แล้วมึงจะตื่นเต้นเพื่อ
"เอาจริงเหรอ?..."
"จริงๆ..."
"เลี่ยนว่ะ....ขำ...ตลก..."
"แค่นั้นเหรอ?...."
"แล้วก็...ไม่เข้าใจว่ามึงจะทำไปเพื่อ?..."
"มึงนี่โง่ตลอดศกจริงๆ...นี่ถ้ากูไม่ฉายชัดตรงๆ...มึงจะไม่มีเซ้นส์เลยใช่มั๊ย?"
"แล้วนี่มึงจะมาด่า มาขึ้นเสียงใส่กูทำไม..มึงถาม.กูก็ตอบดีดีนะเว้ย..."
"มันยากขนาดนี้เลยเหรอ...กับการที่จะแสดงให้อีกคนรู้ว่าเรารู้สึกยังไงกับเค้า?..." มึงถามกูเหรอ?...
หลังซ้อมบอลลเสร็จ
เราก็เดินกลับบ้านกันเงียบๆ
เงียบจริงๆ
"โจ๊ก....กูทำไรให้มึงโกรธเหรอ?...." ผมถามมันเบาๆเพราะมันไม่ยอมคุยกับผมเลย แถมยังไม่มองหน้าผมด้วย
"ป่าวนิ...กูเกลียดตัวกูเองมากกว่า...ทำไมถึงได้ขี้ขลาดขนาดนี้ก็ไม่รู้..."
"ไม่หรอก...คนเราทุกคนต่างก็มีความกลัวด้วยกันทั้งนั้น...บางคนกลัวที่จะบอก..และบางคนกลัวที่จะรับรู้..."
"แล้วมึงละอ่อน...มึงกลัวแบบไหน?..."
"กูกลัวการสูญเสียที่สุด...กูกลัวการที่จะบอกและกลัวที่จะรับรู้...ถ้าสิ่งนั้นนำมาซึ่งความสูญเสีย...แล้วมึงล่ะ ตอนนี้มึงกลัวไรอยู่?..."
"กูกำลังกลัวการที่จะบอกซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสีย...."
"งั้นมึงก็อย่าบอกสิ....ถ้ามึงไม่บอก...มึงก็ไม่ต้องสูญเสีย..." เพราะกูก็กลัวไม่ต่างจากมึงหรอก...
"แต่กูกำลังจะตาย...กูกำลังจะตายแล้วจูน...มึงเข้าใจมั๊ยว่ากูกำลังจะตาย..มึงช่วยรับรู้บ้างได้มั๊ย?..."
"มึงจะให้กูรับรู้ไรล่ะ?.....ในเมื่อมึงไม่เคยบอกอะไรเลย..."
"โธ่เว้ย....แล้วมึงจะให้กูทำยังไง...มึงบอกสิ...มึงบอกกูมา..." มันจับตัวผมเขย่าจนหัวสั่นเลยครับ...
"มึงยังไม่รู้ตัวของมึงเอง...แล้วมึงจะให้กูบอกมึงได้ยังไง...มึงถามและตอบตัวมึงเองก่อนสิ..."
"กูเกลียดมึง......." เจ็บดีนะครับ สำหรับคำนี้...
ผมเคยบอกปล้วใช่มั๊ยว่า ผมเกลียดการเห็นแผ่นหลังของมันเป็นที่สุด
และตอนนี้ผมกำลังเผชิญกับมันอยู่
""