มาแล้ว.....
"ไอ้สองจอ...กูถามหน่อยเหอะ...พวกมึงทำบุญกันมาด้วยไรวะ...เรียนก็รุ่ง...ส่วนรักก็เรือง...กูอิจฉาโว้ย....." มันกระฟัดกระเฟียดเลยครับไอ้เสก
"ไอ้สองจอที่ว่านะมันคืออะไร...ฟังแล้วทะแม่งๆวะ..." มันจะไม่ทะแม่งเลยถ้าไอ้เสกมันจะไม่พูดด้วยหน้าที่สุดแสนจะชั่วร้ายของมัน
"ก็คนหนึ่งปากปีจอ...ส่วนอีกคนก็หน้าปีจอไง...คนยิ่งโมโหอยู่...กวนอยู่ได้..."
"ยังดีที่กูกับอ่อนยังคนละจอ...ส่วนมึงอ่ะคนเดียวสองจอไปเลย..."
"ออกรับแทนเชียวนะไอ้โจ๊ก...แตะเป็นไม่ได้...แตะเป็นงับ แตะเป็นกัด...หมั่นไส้โว้ย..." ตกลงมันเป็นบ้าไรกันแน่
"อ๊ะ...แฟนกู...ก็ต้องดูแลสิ..." เขินนะมึง
"เป็นบ้าไรของมึงนิไอ้เสก....แหกปากไรบ้าอยู่ได้....." ดีมากไอ้ปาล์มที่ถามเพราะผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นบ้าอะไร
"ว่าแต่กูเลยนะไอ้ปาล์มมึง...ใช่สิ...พวกมึงมีแฟนกันหมดแล้วนี่......ดูสิ...มันติดคณะที่อยากเรียนด้วยกันทั้งคู่..." ครับผลออกมาแล้ว ผมได้เรียนคณะทันต์ฯสมใจ ส่วนมัน..ก็แฟนผมไงครับ ก็ได้เรียนคอมพ์เหมือนที่ตั้งใจไว้...แต่
"มึงพูดอย่างกะมึงไม่ได้เรียนอย่างที่มึงอยากเรียนเลยนะ..." ครับ...เสกมันติดวิดวะอย่างที่อยากเรียน...ส่วนไอ้ปาล์ม...ได้บริหาร...สรุปพวกเราสี่คนมีหลุมกันหมดทุกคนแล้ว...เยส
"เออดิ...เรื่องเรียนกูรุ่ง...แต่รักกลับริ่งวะ...เจนไม่ยอมคบกับกูอะ..." น่าเห็นใจมันเหมือนกันนะครับ...แต่เจนเค้าก็มีเหตุผลของเค้าเหมือนกัน....เพียงแต่ผมไม่รู้ว่าเหตุผลนั้นคืออะไร...ส่วนไอ้ปาล์มกับเป้ตกลงคบเป็นแฟนกันแล้ว...ปาล์มตามใจเป้ทุกอย่าง...นี่ก็ลุ้นรอบสองอยู่ว่าเป้จะได้เรียนที่เดียวกับเรารึเปล่า เพราะรอบแรกคะแนนของเป้ไม่ค่อยดีเท่าไร...
"นี่...แค่ผู้หญิงคนเดียวมึงเป็นบ้าได้ขนาดนี้เลยเหรอ...เค้าไม่ตอบตกลง...มึงก็ตื๊อต่อไปสิ..."
"มึงพูดง่ายสิไอ้โจ๊ก...ก็ตอนนี้จูนอยู่ข้างๆมึงแล้วนี่...แต่ก่อนหน้านี้ละ...มึงไม่แทบบ้าเหมือนกูเหรอ..มึงไม่จะเป็นจะตายเหมือนกูเหรอ..." เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วครับ
"ก็ไอ้ที่กูเตือนมึงนะ เพราะกูเกลียดมึงเหรอ...กูรู้ว่ามันทรมานเจียนตาย..ทำไมกูจะไม่รู้...แต่เพราะกูรู้ไง...กูถึงอยากให้มึงเผื่อใจไว้...." ผมหันไปมองหน้ามัน...ผมรู้มันทรมานเพราะผมมาเยอะ...ผมเลยบีบมือมันเบาๆ...แค่อยากบอกมันว่า...ตอนนี้กูอยู่ข้างๆมึงแล้วนะ...มึงจะไม่เจ็บแล้วนะ...
"เลิกกัดกันได้ยัง...ถ้าเลิกกันไม่ได้กูจะได้ไปหาน้ำร้อนมาสาด...เผื่อจะได้หายบ้า..." ไอ้ปาล์มแรงครับงานนี้...แต่ได้ผล พวกมันสองคนยอมนั่งลงอีกครั้ง
"กูขอโทษ...กูพูดแรงไปหน่อย..." ไอ้เสกเริ่มคุยก่อน...ทุกคนเลยมุ่งสายตาไปที่โจ๊ก รอว่ามันจะตอบมาว่ายังไง
"ที่กูพูด...เพราะกูห่วงมึงนะเว้ย...กูรู้ว่ามันไม่ง่ายเลยกับการที่จะทำใจให้ยอมรับว่าเค้าไม่มีใจให้เรา...มันยากมาก...ยากพอกับที่จะตัดเค้าออกไปจากใจเรา....แต่ถ้ามันถึงทางตันแล้วจริงๆ...มึงจะทำไรได้อีกละ...นอกจากหยุด...หรือไม่ก็หันกลับไปทางเดิมแล้วเริ่มใหม่อีกครั้ง..." ดูโจ๊กมันเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ...คำพูดคำจาก็เข้าท่า...
"กูว่า...กูเลือกอย่างหลังวะ...กูจะใช้เวลาที่เหลืออยู่อีกไม่ถึงเดือน...เพื่อกลับไปทำเรื่องเดิมๆ....ผลมันอาจจะออกมาเหมือนเดิมหรือต่างออกไป...แต่อย่างน้อยกูก็พยายามเต็มที่แล้ว..." เวลาของการได้เรียนที่นี่กำลังจะหมดลงแล้ว...แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะจบ ...จบจากที่นี่ ก็ต้องไปเริ่มใหม่ที่อื่น....เป็นพี่ใหญ่อยู่ที่นี่....แต่ต้องไปเป็นน้องใหม่ของที่อื่น....แล้วผมละ....เป็นแฟนของโจ๊กที่นี่....แล้วที่อื่น....ผมจะเป็นอะไรสำหรับมัน...เพราะอะไรนั่นเหรอครับ....ผมถึงได้คิดอย่างนั้น....เพราะความห่างของเราไง....มันกับผมได้เรียนมหาลัยเดียวกันก็จริงอยู่....แต่เราต้องเรียนคนละวิทยาเขตกัน นั่นหมายถึงคนละจังหวัดกัน....สาขาผมกับไอ้เสกเรียนที่เดียวกัน...ไอ้ปาล์มอีกที่หนึ่ง....ส่วนไอ้โจ๊กก็อีกที่หนึ่ง....ไม่แน่...ถ้าผมรู้ว่าเราต้องห่างกันอย่างนี้....ในเวลาอีกเพียงไม่นาน...ผมอาจจะไม่ให้คำตอบมันเหมือนในวันนั้น...คำตอบของผมอาจจะเป็นแค่....'กูรู้สึกดีดีกับมึง...แต่มันก็ไม่มากพอที่จะเรียกว่ารัก...' ถึงแม้นั่นจะไม่ใช่ความจริงเลยก็ตาม...แต่ผมก็ไม่ชอบความห่างกันอยู่ดี...ความห่างเป็นได้ทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย ...ความห่างสำหรับคนบางคนอาจจะทำให้รักกันมากขึ้น คิดถึงกันมากขึ้นห่วงกันมากขึ้น...แต่ความห่างสำหรับใครบางคนคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง จุดเริ่มต้นของความไม่เหมือนเดิม...เพราะความห่าง ทำให้คนเราเปลี่ยนได้เสมอ...ไม่ว่าจะทั้งผมทั้งมัน หรือใครๆก็ตาม
อีกอาทิตย์หนึ่งก็จะสอบกันแล้ว
นี่จะเป็นการสอบครั้งสุดท้ายของการเป็นนักเรียนมัธยม
ผมจะทำให้ดีที่สุด
ไม่ใช่แต่ผมเท่านั้น แต่เราทุกคนตั้งใจว่าจะทำให้ดีที่สุด
ทุกคุนต่างขมักเขม้นกับการอ่านหนังสือสอบ
ช่วยกันติว ช่วยกันเก็งข้อสอบ
มันกับผมก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่เห็นจะมีไรเปลี่ยนไปเลย
ดุผม ว่าผมก็เท่านั้น พอผมไม่เข้าใจไรหน่อยก็ดุ....นึกว่าพอเป็นแฟนกันแล้วจะดุน้อยลงกว่านี้ซะหน่อย
"กูอธิบายไปจนปากจะแหกถึงหูอยู่แล้ว...ทำไมยังไม่เข้าใจอีก...ตอนเด็กๆกินปลาน้อยรึไง...หรือว่ากินแต่...."
"หยุดเลยนะมึง....มึงจะบอกว่ากูกินแต่หญ้าใช่มั๊ย...พูดดูสิ...กูเอาตาย..." ผมชี้หน้าคาดโทษมัน
"คุณมึงทั้งสองจอครับ ...พวกกูเรียกมึงมาช่วยติวนะ...ไม่ได้ให้พวกมึงมาแสดงบทพ่อแง่แม่งอนกันให้พวกกูดู...ไว้ไปคุยกันที่บ้านพวกมึงเหอะ...เร็ว...."
"พวกกูกัดกันจะตาย...ยังบอกว่าหวานได้อีกนะมึง...."
"ไอ้จูน...มึงก็มองตาไอ้โจ๊กสิ..เวลาด่ามึง...แทบจะกลืนลงมึงไปทั้งตัวแล้ว...ด่าไป..แต่ตาไหงเยิ้มวะ...." ผมก็หันไปมองตามที่ไอ้เสกกับไอ้ปาล์มว่า...เออ...จริงด้วยแฮะ....
"ด่ากูแล้ว ไม่ต้องมายิ้มเลยมึง...." ไม่พูดเปล่า...ผมผลักหน้ามันออกไปด้วย...ก็กูเขินอ่ะ
และแล้ววันสอบของพวกเราก็มาถึง...ผมไม่กลัวหรอก เพราะผมเตรียมมาดี
พวกผมสอบกันสามวันเหมือนเดิม
วันนี้สอบวันแรก...วิชาคำนวณทั้งนั้นเลย
"อ่อน...ตั้งใจทำให้ดีนะมึง....อย่ามัวแต่ใจลอยคิดถึงกูละ..."
"ช่างกล้าพูดนะมึง...กูนี่อายแทนเลย...." ผมนี่ส่ายหัวกับความคิดของมันจริงๆ
"เหรอว่ามึงจะบอกกูว่า...มึงไม่คิดถึงกูงั้นสิ..."
"กูรู้จักแบ่งเวลามากกว่า...พูดมากอยู่ได้..คนอื่นเค้าเข้าห้องสอบกันหมดแล้ว...." ผมเดินนำเข้าห้องก่อนเลย
"......" มันบ่นไรพึมพำของมันก็ไม่รู้...สงสัยคงด่าผมอยู่ชัวร์
"ตั้งใจทำข้อสอบละ...อย่ามัวแต่คิดถึงกูอยู่..." ผมหันมาบอกมัน แล้วรีบเดินไปนั่งที่โต๊ะตัวเองเลย.....
"เป็นไงอ่อน...หน้าหง๋อยเชียว...." ผมเดินคอตกกลับบ้านพร้อมมัน
"ก็วันนนี้...ทำข้อสอบไม่ค่อยจะได้...ทั้งที่มีติวเตอร์ดีขนาดนี้แล้ว..." ก็มันนั่นแหละครับติวเตอร์ผม
"เรื่องแค่นี้เอง....อย่าทำหน้าแบกโลกสิ...คนเรานะ...ถ้าอะไรที่ทำดีที่สุดแล้ว...มันก็ได้แค่นั้น...ขึ้นอยู่กับว่า...มึงได้ทำดีที่สุดแล้วรึยังต่างหาก..."
"โจ๊ก....."
"หืม....มีไรครับ...."
"มึงดูโตขึ้น...เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเลยนะ...ไม่เห็นเหมือนโจ๊กที่กูเจอวันแแรกเลย..."
"กูก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง...เพียงแต่ต่อไปชีวิตกูต้องรับผิดชอบมากขึ้น...กูต้องดูแลคนอื่นมากขึ้น...มีคนที่กูต้องดูแลอีกหลายคน....หนึ่งในนั้นคือ...มึง..."
"แล้วมึงจะดูแลกูตลอดไปมั๊ย...หรือแค่ช่วงที่มึงรักกูเท่านั้น..."
"ไม่มีใครดูแลใครได้ตลอดชีวิตหรอก....เพียงแต่เราใช้เวลาร่วมกันมากกว่า...กินข้าวด้วยกัน ดูทีวีด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน นอนด้วยกัน สุขทุกข์ด้วยกัน หัวเราะร้องไห้ด้วยกัน ยิ้มเศร้าด้วยกัน...เดินไปข้างหน้าด้วยกัน....นั่นคือความหมายคำว่าดูแลของกู....."
"พูดไร...ฟังยากไม่เห็นนจะเข้าใจเลย...ชิส์..."
"ก็มึงเล่นกินแต่หญ้านิ.....เรื่องแค่นี้ก็ไม่เข้าใจ..."
"แล้วคนที่มารักคนที่กินหญ้าละ...เค้าเรียกว่าอะไร...."
"ก็กินหญ้าที่เหลือจากมึงไง...."
"บ้า..."
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ....เขินเหรอ...?"
"อืม...."
"เอ๊ย...ทำไมคราวนี้ยอมรับง่ายจังวะ...." แล้วมึงจะแปลกใจทำไม....
"ก็ไม่รู้จะปฏิเสธไปทำไม...กูปฏิเสธมึงมาตั้งเยอะตั้งนานแล้ว....ก็แค่นั้น..." ผมคิดอย่างนั้นจริงๆนะครับ ผมปฏิเสธมันมานานแค่ไหนแล้วละ แต่มันก็ยังรอผม...
"น่ารักก็เป็นนะมึง..."
"พูดแต่ปากก็พอมึง...มืออ่ะ...ออกไปเลย..." ก็มือมันอะ...มาวนเวียนที่ไหล่ผมแล้ว
"หวงตัวไว้รอคืนแต่งเหรอครับ?...กิ๊วๆๆๆๆๆ...."
"แล้วมันจะมีวันนั้นของเราจริงเหรอ....?"
".............." ไม่มีคำตอบจากมัน
.
.
.
.
.
.
.
เย้ๆๆๆๆๆๆสอบเสร็จแล้ว
จบแล้วสำหรับชีวิตมอปลายของพวกเรา
แต่เดี๋ยวอีกประมาณหนึ่งอาทิตย์ทางโรงเรียนเค้าจะจัดงานเลี้ยงอำลาให้
วันนี้พวกเราสอบเสร็จตั้งแต่ช่วงเช้าเลย
เลยมานั่งแกร่วกันที่โรงอาหาร
แต่ไอ้เสกนี่สิหายหัวไปไหนวะ
"ไอ้ปาล์มมึงเห็นไอ้เสกบ้างเปล่า?...."
"ไม่เห็น...ออกจากห้องสอบก็หายหัวไปเลย...."
"มึงละโจ๊ก...เห็นเสกบบ้างเปล่า...?..."
"ไม่ต้องถาม....เดินยิ้มหน้าบานมาโน่นแล้ว...." ตายยากจริงๆ...มันเดินมาถึงโต๊ะพอดี
"ถูกหวยเหรอมึง....ยิ้มหน้าบานมาเชียว...."
"ยิ่งกว่านั้นอีกเว้ย....กูไปคุยกับเจนมา...."
"แล้ว...?"
"เจนเค้าบอกว่า....เค้าไม่ได้ปฏิเสธกู...แต่ที่เค้าไม่ยอมคบกับกูในตอนนี้เพราะ...เค้าไม่ต้องการผูกมัดทั้งตัวเค้าเองและกูด้วย....พวกเรากำลังจะแยกย้ายกันไปสู่ชีวิตที่โตขึ้น...ได้เจอผู้คนมากขึ้น...อาจจะได้เจอคนที่ใช่มากกว่า....แต่ในระหว่างนี้เราก็ยังพูดคุยพบเจอกันได้...เพียงแต่ในสถานะเพื่อนกันไปก่อน ถ้าเราเรียนจบและมีความพร้อมมากกว่านี้...เรายังรู้สึกดีดีต่อกันอยู่...มันก็ไม่ยากไม่ใช่เหรอ...ที่เราจะคบกันในตอนนั้น...เจนพูดอย่างนี้....ก็จริงของเค้านะ...การห่างกันมันอาจทำให้อะไรๆเปลี่ยน.....เจนคิดถูกแล้ว...." ผมเห็นด้วยกับความคิดเจนทุกประการ...ตอนที่เสกมันเล่าผมเอาแต่มองโจ๊ก...มองว่ามันจะคิดยังไงกับคำพูดของเจน เพราะเราสองคนก็ไม่ต่างอะไรกับเสกและเจน...เราต้องห่างกัน....แต่มันเงียบ...เฉย...จนผมเดาไม่ได้ว่ามันคิดอะไรอยู่.....
"อ่อน....." ผมเดินกลับบ้าน....ไม่อยากไปเที่ยวไหน...
"หืม....?"
"เป็นอะไร....เห็นเงียบตั้งนานแล้วนะ..."
"กำลังคิดว่า....." ผมหยุดเดินและหันมาจ้องหน้ามันแทน....
"จ้องหน้ากูทำไม...แล้วกำลังคิดไรอยู่...?"
"กูรักมึงนะ...." พูดเสร็จผมก็เดินต่อไปเฉยๆ...ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
"........." ผมหันไปมองด้านหลัง..ยังเห็นมันยืนนิ่งอยู่ที่เดิมอยู่เลย...
" จะยืนนิ่งๆอย่างนั้นอีกนานมั๊ย...กูร้อน..." ผมตะโกนเรียกมัน
"ไปแล้วคร้บ...." มันวิ่งมาทันและคว้าไหล่ผมไปกอด...กอดคอกันเหมือนเพื่อนทั่วไป...แต่ความรู้สึกมันต่างออกไป...มันหัวเราะด้วย....
"หัวเราะอะไร?..."
"หัวเราะคนคิดมาก...."
"ใครคิดมาก...."
"คนที่กูรัก...."
"แล้วมึงรักใคร..."
"คนที่รักกู..."
"แล้วใครรักมึง...."
"ก็....มึง...ไง..."
"เจ้าเล่ห์นักนะ....กูไม่ได้คิดมากซะหน่อย....กูแค่คิดเผื่อไว้..."
"คิดเผื่อไว้ทำไมวะ....พรุ่งนี้จะมีสำหรับเรารึเปล่าก็ไม่รู้...ทำไมไม่ทำตอนนี้ เวลานี้...วินาทีนี้ให้ดีที่สุดละ...."
"ก็ทำไปแล้วไง...."
"ตอนไหน....แล้วทำอะไร...."
"บอกรักมึงไง....." บอกแล้วเดี๋ยวนี้ผมไม่กลัวที่จะบอกรักแล้ว กล้ารัก...แล้วทำไมต้องกลัวที่จะบอกละ...ใช่มั๊ยครับ