เรื่องจริงยิ่งกว่าละคร จากชีวิตจริงของผู้แต่ง "เพราะมีเธอ"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องจริงยิ่งกว่าละคร จากชีวิตจริงของผู้แต่ง "เพราะมีเธอ"  (อ่าน 46618 ครั้ง)

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
 :mc4: :mc4: มาแล้วว

รออ่านต่อนะคะ เป็นกำลังใจให้จ้า...สู้ๆๆๆๆๆ


ปล.ทุกวันนี้บอสโอเคแล้วใช่มั้ย ....  :L2:

pandaๅ123

  • บุคคลทั่วไป
 :m15: อ่านแล้วร้องไห้เหมือนคนบ้าเลย!!  :o12:

 :กอด1: กอดบอสแน่น ๆ
ยังมีกำลังใจอีกมามาย แม้เค้าเหล่านั้นจะไม่รู้จักเรา ก็ตาม :3123:

yotsaput

  • บุคคลทั่วไป
มาตามที่ได้สัญญากับทุกคนไว้นะคับ ตอนนี้สถานะการณ์ต่างๆก็ดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่เป็นห่วงกันนะคับ

แต่อย่างว่าสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตจะให้ลืมกันไปง่ายๆมันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่ย้อนกลับไปนึกถึงเวลาตอนนั้นทีไร

ก้ออดไม่ได้ที่จะต้องร้องไห้ออกมา  แม้แต่ในตอนนี้ที่ผมกำลังพิมอยู่


..................................................................................

เวลา 17.30 น.



ถึงแม้ว่าผมอยากให้เวลามันยืดออกไปให้นานแค่ไหน แต่ความจริงมันก็คือความจริง  รถไฟมันก็ทำงานของมันปกติจนมา

จอดถึงสถานีปลายทางของผม  ผมเลือกที่จะกลับไปยังห้องเช่าโดยไม่แวะไปหาเพื่อนเหมือนปกติทุกครั้ง  พอกลับมาถึงห้อง

ผมก็นำมอไซค์ของตัวเองออกมา เพื่อจะเดินทางไปยังอีกที่หนึ่งที่ๆผมมีสัญญาค้างคาไว้

ประมาณยี่สิบนาทีผมก็มาถึงมูลนิธิแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นี่เขารับบริจาคโลงศพแก่ศพไร้ญาติ  เหตุผลที่มาที่นี่นะเหรอก็เพราะว่า

ครั้งนั้นตอนที่เลือกตั้งนายกคนใหม่ ผมได้เคยพูดตอนที่นั่งรถผ่านว่า ถ้านายกคนนี้ได้เปนนายกผมจะมาบริจาคโลงศพให้

สามโลง และตอนนี้ไอ้นายกมันก้อได้เปนนายกจริงๆ ผมเลยต้องมาทำตามสัญญาของผม

"พี่ครับ ผมจะมาบริจาคโลงคับ" ผมบอกกับผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อของมูลนิธิ

"ได้ครับ ก็เอาเงินใส่ตู้แล้วก็ช่วยกรอกข้อมูลตรงนี้นะครับ และก็นี่กระดาษเอาไว้เีขียนชื่อแล้วก็ไปติดที่โลงนะครับ"



หลังจากที่ผมทำห่วงสุดท้ายของผมเรียบร้อยแล้ว ก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว ผมจึงตรงไปยังร้านขายยาในตลาดที่ผมรู้จัก

พี่เจ้าของร้านเป็นอย่างดี เพราะร้านพี่เขาติดกับร้านคอมที่ผมชอบไปนั่งเล่นตอนวันหยุดบ่อยๆ

"เอาอะไรดีวันนี้" พี่เจ้าของร้านมองมาที่ผมก่อนจะหันไปสนใจกับลูกค้าที่มาก่อนหน้าผม

"พี่เอาไซแนกให้หน่อยดิ นอนไม่ค่อยหลับอ่ะช่วงนี้" ผมแสร้งบอกไป โดยที่พยายามปิดพิรุจให้มากที่สุด

"แล้วเอากี่เม็ดอ่ะ" พี่คนขายถามอีกครั้ง

"สิบเม็ดอ่ะ" ผมแกล้งบอกหน้าเฉย

"หะ สิบเม็ด เอาไปทำไรต้องเยอะ กินแค่เสี้ยวเดียวก็หลับแล้วนะ" พี่คนขายแย้งขึ้น

"ผมซื้อไปฝากที่บ้านด้วย เพราะน้าผมเขาก้อฝากมาซื้อเหมือกัน ไม่ได้กินคนเดียวหรอก ใครจะบ้ากินหมด" ผมแกล้งพูดไปขำไปกลบเกลืื่อน

"อ่ะๆ งั้นก้อกินระวังๆหน่อยแล้วกัน อย่าไปกินมากหล่ะเดี๋ยวจะหลับไม่ตื่นเอา" พี่คนขายบอกด้วยอาการขำๆ แต่นั้นก็ทำให้ผมสะดุ้งไปได้ไม่น้อยเหมือนกัน



เกือบจะสองทุ่มแล้ว ผมนั่งมองโทรศัพท์ด้วยความคิดว่าจะเปิดดีหรือไม่เปิด  ถ้าเปิดไปแล้วมีคนโทรมาผมก็กลัวใจตัวเอง

แต่ในใจก็อยากจะได้บอกลาพี่เต๊ะด้วยปากของผมเองก่อนที่ผมจะไม่มีโอกาส พูดอีกเลย  เร็วเท่าความคิดพอผมเปิดเครื่องปุ๊บ

พี่เต๊ะก็โทรเข้ามาทันที ผมตัดสินใจอยู่นาน จนขึ้นมิสคอลประมาณสิบกว่าสายจึงกดรับ

"........." ผมไม่ได้พูดอะไร

"บอส ได้ยินพี่ไหม" เสียงพี่เต๊ะพูด น้ำเสียงดูเหมือนคนที่ำกำลังโกรธ

"อืมม" ผมได้แต่รับคำไปสั้นๆ

"ทำไม ทำไมต้องทำแบบนี้" พี่เต๊ะถามกลับมาแต่น้ำเสียงดูอ่อนลงกว่าแรก

"บอส ไม่รู้ หืออออ" ผมพูดได้แค่นั้นก็ร้องไห้ เป็นนานพี่เต๊ะเลยพูดขึ้นมา

"ทำแบบนี้ไม่คิดบ้างเหรอ ว่าพี่ก็เสียใจเป็น ร้องไห้เป็นเหมือนกันนะ  ถึงแม้ว่าตอนนี้พี่จะพูดไม่ได้เต็มปากว่าพี่รักเรา  แต่พี่ก็

มีความรู้สึกดีๆให้กับเรา พี่ไม่อยากจะรู้จักเราแค่สามสี่วันหรอกนะ" พี่เต๊ะพูดไปก็ร้องไห้ไป

"ผมก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้" ผมตอบ

"แล้วทำไมต้องทำไหนลองบอกพี่มาสิ" พี่เต๊ะถาม แต่ผมกลับตอบไม่ได้ อาการของผมในตอนนั้นเหมือนคนไม่มีสติไปแล้ว

ไม่ว่าพี่เต๊ะจะพูดอะไรจะบอกอะไร มันก็ไม่เข้ามาในโหมดประสาทที่จะทำให้ผมยกเลิกความตั้งใจของผมไว้

"บอส อยากได้อะไรบอกพี่มานะ เด๋วพี่จะหามาให้ทุกอย่างแต่อย่าทำอะไรนะ รอให้พี่ไปถึงเราก่อนนะ" พี่เต๊ะพูดไปก็พยายาม

ถามว่าผมอยู่ตรงไหน แต่ผมก็ไม่ได้บอก

"บอส ขอโทษนะครับ ถ้าพี่มีความรู้สึกดีๆกับผมจริงๆ ผมขออะไรอย่างหนึ่งนะ พี่ช่วยลืมผมไปเถอะ อย่ามาจำคนบ้าๆแบบผม

ไว้เลย สักวันพี่ก็คงได้เจอคนที่ดีกว่าผม และเขาก็คงเป็นเนื้อคู่ของพี่จริงๆ " พูดจบผมก็วางสาย แล้วกดปิดเครื่องทันที

จากนั้นผมก็หยิบยาที่ซื้อมากินจนหมด เท่านั้นยังไม่พอ ผมหันไปเห็นกระปุกยาแก้แพ้ีจึงเอามันมากินจนหมด ่ก่อนจะเดินไป

หยิบมีดคัตเตอร์ที่พึ่งซื้อมาวางไว้ข้างๆตัว ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น ประมาณครึ่งชม.ยาก็เริ่มออกอาการ

ผมรู้สึกหายใจไม่ออกเหมือนมันจะหมดแรง ลมหายใจก็แผ่วเบาลงเรื่อยๆๆ  และก่อนที่ผมจะหมดแรงจนทำอะไรไม่ได้

ผมจึงหยิบคัตเตอร์ด้วยมือขวาซึ่งเป็นมือที่ผมถนัด  ค่อยๆกดลงบนข้อมือข้างซ้าย โดยเลือกที่จะกรีดตามความยาวของแขน

เพราะเคยอ่านมาว่าถ้ากรีดแบบขวางเลือดจะออกช้ากว่า  ครั้งแรกที่ใบมีดจมเข้าไปในเนื้อมันรู้สึกเสียวแปลบ และพอค่อยๆ

ลากใบมีดผ่านเนื้อของตัวเอง จนเริ่มรู้สึกถึงเลือดที่ไหลออกมาเป็นจำนวนมาก พอดีเปนช่วงที่ผมเริ่มจะหมดสติ ก่อนจะหลับ

ผมได้แต่คิดถึงแต่ใบหน้าของคนๆนั้น คนที่ทำให้ผมไม่อาจจะลืมเขาได้ตลอดชีวิต  คนที่ทำให้ผมมีรอยยิ้มในเวลาที่ผม

ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว  คนที่ทำให้ผมลังเลอยู่หลายครั้งกับการตาย

"สัญญานะว่าจะให้พี่เป็นคนสุดท้าย" เสียงของพี่เต๊ะดังวนไปมาในห้วงสติสุดท้ายของผม


........................................................


ขอตัวไปร้องไห้แปปนะครับ ไม่ไหวจริงๆ ผมอ่อนแออีกแล้ว

ออฟไลน์ BlackClover

  • ◥≡Pe'un≡◤
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
อ่า...มือสั่นเลย

คนที่คิดจะตาย ถ้าไม่กล้าสุดๆ ก็หมดหนทางสุดๆ 

จะรออ่านต่อว่า รอดมาได้ไงนะคะ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เห็นใจครับ มันเป็นช่วงต่อของชีวิตจริงๆ ดีใจที่เอาตัวรอดมาได้ครับ

yotsaput

  • บุคคลทั่วไป
ยังไงวันนี้ผมก้อต้องโพสให้จบให้ได้ครับ





เสียงก๊อกแก๊ก ดังขึ้นและใกล้เข้ามาหาผม  จากนั้นผมก็รู้สึกได้ถึงมืออุ่นๆของใครบางคนกำลังจับที่ต้นแขนของผม

"เป็นอย่างไรบ้าง"  เสียงผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้นมา  ผมจึงค่อยๆพยายามลืมตาขึ้น  แสงพร่ามัวส่องเข้ามาในตาผมค่อยๆ

ปรับสายตาให้เข้ากับห้องสีขาว

"นี่เรายังไม่ตายอีกเหรอ" ผมได้แต่พึมพำกับตัวเอง พลางหันไปดูที่มาของเสียง

"ยังมึนหัวไหม อยากอาเจียนไหม " และอีกหลายคำถามที่นางพยาบาลถามผม ผมก้อได้แต่ตอบไปว่ามีไม่มี  พอเหลือบไป

มองนาฬิกาเข็มสั้นชี้เลขเก้า กับเข็มยาวชี้เลขหนึ่ง  จากการเดาคงเป็นเวลาเช้าแน่นอน เพราะว่าแสงที่ผ่านลอดผ้าม่านเข้ามา



พอนางพยาบาลออกไป  ผมจึงหลับตาลง มาตื่นอีกทีเพราะได้ยินเสียงโหวกเหวกอยู่ในห้อง จึงลืมตาขึ้นดู

"เป็นไงบ้าง พี่นึกว่าเราจะไม่ตื่นซะแล้ว" เสียงของพี่ที่ทำงานด้วยกันถามผม  ตอนนี้ที่พี่ๆที่ทำงานมาเยี่ยมประมาณสี่ห้าคน

"นี่วันที่เท่าไหร่"

"วันที่หนึ่ง"  งั้นก็เท่ากับว่าผมหลับไปสองคืนกับอีกวันเต็มๆ

ผมรู้สึกหิวน้ำจึงจะเอี้ยวตัวไปหยิบน้ำก็รู้สึกเหมือนจะไม่มีแรง พี่เขาจึงเอาน้ำมาป้อน  แต่พอหันไปมองที่หัวเตียงจึงวางแก้วลง

"เขางดอาหาร งดน้ำหน่ะบอส" ผมจึงนอนลง แล้วหันกลับมาสำรวจตัวเอง  แขนซ้ายถูกพันด้วยผ้าพันแผล แขนขวามี

สายน้ำเกลือ  ส่วนตรงจมูกก็มีสายแยงเข้าไปในช่องท้อง  ทำไมเราไม่ตายใ้ห้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยนะ

"งั้นเดี๋ยวเย็นๆ พี่แวะมาเยี่ยมอีกนะ"  พวกพี่ๆบอกก่อนที่จะออกไป



ผมนอนที่โรงพยาบาลประมาณห้าวัน หลังจากที่พบจิตแพทย์ และแพทย์ประจำตัวมาตรวจก้อให้กลับบ้านได้ ระหว่างที่นอน

อยู่ันั้นมีแต่เพื่อนที่ทำงาน แล้วก็เพื่อน และยายเล็กเท่านั้นที่มาเยี่ยม 



แต่ความทุกข์มันก็ยังตามมาทิ่มแทงผมไม่จบสิ้น เพราะระหว่างที่ผมนอนอยู่นั้นทางที่ทำงานได้เอาทุกอย่างที่เกี่ยวกับผม

มาให้จิตแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย  แต่ดันมีพวกพยาบาลและพนักงานของโรงพยาบาลแอบไปดู เท่านั้นยังไม่พอ คนเหล่านั้น

ยังเอามาพูดคุยกันสนุกปาก ผมต้องนอนทนฟังการนินทาของคนพวกนั้น มันเหมือนยิ่งเปนการตอกย้ำความรู้สึกของผม

ลงไปอีก  ผมต้องนอนร้องไห้ทุกคืนทั้งกายและใจของผม มันเหมือนเจ็บปวดเช่นนนี้  ไม่รู้ว่าผมไปทำกรรมอะไรไว้ผมถึงได้

ต้องมารับกรรม รับรู้อะไร ต่างๆมากมาย อยากจะตายก็ไม่ได้ตาย


...........................................................................


เหลือแต่บทสรุป  มีใครอยากถามอะไร หรือสงสัยอะไรก้อถามมาได้เลย

เดี๋ยวจะหาว่าเป็นนิยายอีก ผมพร้อมจะตอบทุกความ


ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ไม่มีอะไรจะถาม แต่อยากให้กำลังใจเท่านั้นเองคะคุณบอส สู้ๆคะ

อย่างหนึ่งที่อยากจะพูดคือ
พวกพยาบาลและ พนง.พวกนี้ไร้ซึ่งจรรยาบรรณ และจิตสำนึกของความเป็นคนจริงๆ ทุเรศที่สุด

pp~ic

  • บุคคลทั่วไป

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
ยังไงทุกอย่างมันก็เป็นอดีตไปแล้วนะคะ เอาไว้เป็นสิ่งเตือนใจให้ทำทุกๆวันให้ดีที่สุด อย่างน้อย บอสก็ยังโชคดีที่ยังมีชีวิต ได้กลับมาทำอะไรๆให้ดีขึ้น

สู้ๆๆๆนะคะ เป็นกำลังใจให้  :L2: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Seoul In Love

  • บุคคลทั่วไป
นางพยามารแบบนั้นเคยเจอค่ะ ห่วยมาก  :เฮ้อ:

คุณบอสสู้ๆ นะคะ  :ped149:

ฟ้าใหม่ย่อมสดใสเสมอ  :L2:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ไม่มีอะไรจะถาม แต่อยากให้กำลังใจเท่านั้นเองคะคุณบอส สู้ๆคะ

อย่างหนึ่งที่อยากจะพูดคือ
พวกพยาบาลและ พนง.พวกนี้ไร้ซึ่งจรรยาบรรณ และจิตสำนึกของความเป็นคนจริงๆ ทุเรศที่สุด
เห็นด้วย 100% ครับ

yotsaput

  • บุคคลทั่วไป
มาจบให้แล้วนะครับ   


จุดจบของอดีต



วันที่ผมออกจากโรงพยาบาล  ยายเล็กบอกว่าให้กลับไปอยู่ด้วยกันที่บ้านเหมือนเดิม  ในความรู้้สึกผมมันเหมือนกับ

ว่าเวลาแห่งการโดดเดี่ยว ความเหงา ความเคว้งคว้าง ทุกอย่างกำลังจะหายไป  ทางที่ทำงานก็บอกว่าให้กลับมา

ทำงานได้ตามปกติ เพราะพี่ๆที่ทำงานเคลียส์ให้เรียบร้อยแล้ว แต่ผมคงทนไม่ได้หรอกที่จะต้องไปอยู่ในที่ที่ทำให้

ผมอึดอัดใจเหมือนเดิม


"ยาย บอสมีธุระจะคุยด้วย" วันนี้เป็นวันที่สามแล้วที่ผมกลับมาอยู่บ้านทุกคนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนกับว่า

ผมไม่ได้เคยหนีออกจากบ้านเลย


"มีอะไรเหรอ" ยายหันมามองหน้าก่อนที่หันกลับไปหั่นผักต่อ

"บอสอยากบวชอ่ะยาย"  ยายหันกลับมามองหน้าแบบไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่

"จริงๆนะยาย บอสอยากไปอยู่เงียบๆบ้าง บอสเหนื่อยมานานแล้วขอบอสพักบ้างนะยาย"

"แล้วเรื่องงานหล่ะ" ยายยังถามต่อ

"ก็ลาออกไปก็ได้หนิ บอสไม่อยากทำแล้วอ่ะ เอาไว้สึกออกมาค่อยหางานใหม่ก็ได้"

"อืม ถ้าคิดดีแล้วก็พรุ่งนี้ไปหาหลวงพ่อกัน"

เหตุที่ผมบวชหน่ะเหรอส่วนหนึ่งก็เพราะผมเหนื่อยจริงๆนั้นแหละ แต่อีกส่วนหนึ่งก็คือยายไม่มีลูกผู้ชายเลย ส่วนหลานๆก็ยัง

อายุแค่สามสี่ขวบ ผมจึงอยากจะทดแทนบุญคุณของยายที่ดูแลผมมาตลอด ไม่เคยทอดทิ้งผม ถึงแม้ยายจะไม่ใช่แม่ของผม

แต่ยายก็ทำหน้าที่นั้นได้ดีกว่าแม่แท้ๆเสียอีก  ก่อนวันบวชผมได้ไปขอขมาผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน  และสุดท้ายก็มาถึงที่

บ้านแม่ของผมเอง  คนที่นำำำพาลาเดินลงไปก่อนหน้าผม

"ไม่ได้ไปลาเขาหรอก" 

"ทำไมอ่ะตา" (ผมเรียกคนที่พาลาว่าตา)

"แม่เอ็งเขาบอกเอ็งไม่ใช่ลูกเขาต้องนานแล้ว" ผมแทบจะเป็นลมล้มไปกับพื้นอีกรอบ นี่ถึงขั้นนี้แล้วจะไม่อโหสิกรรม

ให้กันอีกเหรอ ตอนที่ผมนอนอยู่ รพ.แม่ก็ไม่เคยไปเยี่ยมสักครั้ง ผมคิดว่าแม่คงอายที่มีลูกคิดสั้น  แต่ตอนนี้มันไม่ใช่

ผมกำลังจะบวชเพื่อทดแทนบุญคุณ แต่แม่กลับทำแบบนี้



ในวันบวชคนมาร่วมงานส่วนใหญ่ก็เป็นพี่ที่ทำงานและคนในหมู่บ้านที่สนิทสนมกัน  ส่วนแม่ก็ไม่มาตามเคย พ่อก็ไม่ต้องไป

พูดถึงป่านนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร 






ทุกคนคงสงสัยว่าแล้วพี่เต๊ะหล่ะ  วันที่ก่อนผมจะบวชผมโทรไปหาพี่เต๊ะเรียบร้อยแล้ว แต่พี่เต๊ะไม่กล้ามา เพราะว่าที่บ้าน

คิดว่าที่ผมฆ่าตัวตายเพราะว่าผมอกหัก (คนละเรื่องกันเลย) พี่เต๊ะมันกลัวถูกรุมประชาทัณฑ์  ส่วนเรื่องที่ว่าผมรอดมาได้

อย่างไร มันคงเป็นเพราะกรรมของผมยังไม่หมดมั้ง  เพราะมีอถือเจ้ากรรมที่ให้พี่เต๊ะไป มันมีเบอร์พี่ที่ทำงานอยู่สองสามคน

ติดอยู่ในเครื่องมันเลยโทรไปบอกเขา แล้วก็เล่าให้เขาฟัง (อันนี้รู้มาจากพี่ที่ทำงาน)  พอพี่เขารู้เรื่องก็รีบมาหาผมที่ห้อง

งัดประตูกันเข้ามา แล้วก็ให้คนข้างห้องช่วยกันพาผมไปส่ง รพ.


"พี่คิดว่าแกจะไม่รอดซะแล้ว ตอนนั้นแกเหมือนจะไม่หายใจแล้ว หัวใจก็แทบไม่เต้นเลย แถมหมอบอกว่าเสียเลือดมาก

ต้องให้เลือดกันอีกยกใหญ่" พี่สาพี่ที่ทำงานที่สนิทกับผมที่สุด เป็นคนเล่าเหตุการณ์ให้ผมฟัง

"แต่ไอนั้น มันดูรักแกดีนะ มันร้องไห้ใหญ่เลยตอนโทรมาหาพี่อ่ะ" พี่สาเล่าไปก็ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ไป


เวลาเกือบสองเดือนที่ผมมาบวช ทำให้ผมได้คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ได้ดีขึ้น  ระหว่างที่บวชผมก็มีโทรไปคุยกับพี่เต๊ะ

บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายแค่วันละครั้ง  แรกๆ ทุกอย่างก็เหมือนจะดี แต่อย่างว่าแหละครับ ใครมันจะมาเอาคนเป็นโรคประสาท

อ่อนๆอย่างผมไปทำแฟนจริงจัง  ก่อนผมจะสึกได้ไม่กี่วันพี่เต๊ะก็มีอาการเปลี่ยนไป ผมเลยถามว่ามีคนใหม่แล้วใช่ไหม

ซึ่งคำตอบผมเองก็รู้อยู่ในใจอยู่แล้ว  ผมจึงได้แต่อวยพรให้พี่เขาไปพบคนที่ดีกว่าผม แต่ยังไงผมก็จะไม่มีวันลืมคนที่

ครั้งหนึ่งได้เคยช่วยชีวิตผมไว้ เพราะถ้าไม่มีพี่เต๊ะในวันนั้นผมคงไม่มีโอกาส ได้มานั่งเล่าเรื่องราวของชีวิตของผมให้

ทุกๆคนได้อ่านหรอกครับ



สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่เสียเวลามานั่งอ่านเรื่องราวชีวิตของคนๆหนึ่ง ที่ไม่ได้มีค่าอะไรเลย

และหากมีโอกาส ผมอาจจะมาแต่งนิยายแนวเพ้อฝันใ้ห้กับทุกคนได้อ่านกันนะครับ ยังไงก็อย่าลืมติดตาม

กันบ้างนะครับ




 
                     "ผมสัญญาครับ ว่าพี่จะเป็นคนสุดท้ายของผมตลอดไป"



                                                                                บอส

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ยินดีกับชีวิตใหม่ครับ ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสครับ

Seoul In Love

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่มาเล่าสู่กันฟังค่ะ  :L2:

แต่วันนี้คุณบอสเข้มแข็งแล้วเนอะ เก่งสุดๆ แล้วที่ผ่านมาได้  :impress2:

ก่อนหน้านั้นไปอ่านสายฝนมาแล้วค่ะ ชอบมากเหมือนกัน หวังว่าจะได้อ่านงานเขียนชิ้นต่อๆ ไปอีกค่ะ   o18

สู้ๆ เนอะ  o13

BABY_CHICK

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ :L2: :L2:
สู้ต่อไปครับ
สิ่งร้ายๆผ่านไป สิ่งดีๆต้องเข้ามาในชีวิตดิ
ทุกคน ไม่มีใครสมบูรณืแบบหรอกครับ
เสี้ยวเวลาหนึ่งผมยังเคยคิดแบบคุณ
แต่ไม่รูจะทำไปทำไม อ่ะนะ
ลองมาสู้กับชีวิตสักตั้ง มันก็ดีนะครับ
คิดแล้วยัง ขำตัวเองไม่หาย
เป็นกำลังใจอีกครั้งนะครับ บอส :กอด1:

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
ทุกอย่างมันก็ผ่านไปแล้ว...

ตอนนี้ก็ฮึดสู้ ก้าวเดินต่อไปนะ..เชื่อว่ายังมีสิ่งดีๆรอบอสอยู่เสมอ เพียงแต่รอให้บอสเดินก้าวไปหาเท่าน้ั้นแหล่ะ....อะไรที่ทำให้ไม่สบายใจก็ปล่อยมัน วางมันบ้างนะ ..ถือความทุกข์พวกนี้ไปด้วยอ่ะ มันหนัก มันเหนื่อย...วางมันลงแล้วเดินไปแบบสบายใจ พร้อมรอยยิ้ม ดีกว่า...

สู้ๆๆๆน๊าาา เป็นกำลังใจให้จ้า หวังว่าจะมีโอกาสได้อ่านเรื่องใหม่ๆหรือข่าวความสำเร็จของบอสในอนาคตนะ  สู้ๆๆๆๆ :L2: o13

ออฟไลน์ BlackClover

  • ◥≡Pe'un≡◤
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
 :L2: :3123: เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หวังว่าวันต่อๆไปจะมีสิ่งดีๆเข้ามานะคะ

rinnirrin

  • บุคคลทั่วไป

yotsaput

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






subaru

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ MrTeddy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-1
สู้ครับ ชีวิตคนเราต้องมีสุชขบ้าง ทุกข์บ้างคละเคล้ากันไป
อาจจะมีท้อบ้าง แต่อย่าไปถอย

Too Me

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณค่ะ ที่มาเล่าประสบการณ์ชีวิตให้ฟัง

สุ้ๆๆ ต่อไป ชีวิตไม่มีใครจะผิดหวัง หรือสมหวังตลอดหรอกนะค่ะ

เข้มแข็งไว้นะค่ะ ก้าวต่อไปของชีวิต ต้องบอกตัวเองด้วยนะค่ะ

ว่าเราต้องไม่ยอมแพ้ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องยิ้มและแก้ไขสิ่งนั้นด้วยสติ ^^

ออฟไลน์ YANIZAxx™

  • มิได้ประมา ท ..แต่เห นือความคาดหมา ย !
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
นี่เรียกว่านิยายเหรอ เราว่ามันมากกว่านั้นน่ะ
เป็นครั้งแรกจริงๆที่ไม่ได้อ่านนิยายแนวเพ้อฝัน + ไม่ได้จบแบบในนิทาน (เลือกดูตอนจบด้วยอ่ะ ก๊ากก)
รู้สึกอินมากๆ เหมือนอ่านเรื่องนี้แล้วเปิดโลกความคิดให้กับตัวเอง (อ่านแล้วอายุเพิ่มขึ้นไป 3 ปี ..55)
รู้ว่า..โลกกะนิยายยังไงมันก็ไม่เหมือนกัน
ขอบคุณจริงๆที่พี่บอสยังเป็นพี่บอสอยู่ตอนนี้ ที่เข้มแข็งได้เท่าคนๆหนึ่งเข้มแข็งได้

ขอบคุณพี่บอสมากๆคะ :')

ปล.รอนิยายแนวเพ้อฝันนะคะ ชอบวิธีการแต่ง + ภาษามั่กๆ
ปล.2 ถ้าเค้าเม้นงงๆก็..อ่านะ 5555

spok1234

  • บุคคลทั่วไป
เป็น กำ ลัง ใจ ให้ นะ ครับ

ชี วิต คน เรา ยัง อีก ยาว ไกล

สู้ สู้ !

My_l3oY

  • บุคคลทั่วไป
สู้ๆ นะครับ เป็นกำลังใจให้

ชีวิตต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน   o13

ออฟไลน์ dekba428

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อ่านประโยคสุดท้ายแล้วมัน... :o12:

อย่างไงถ้าเกิดมีคนดีๆเข้ามาในชีวิต
ก็ลองเปิดใจดูนะครับ

สู้ๆเนอะ
เป็นกำลังใจให้นะครับ
 :L2: :L2: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-06-2010 17:26:51 โดย dekba428 »

Flowersteel

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องมันเศร้าๆ .. สู้ๆ นะครับๆ

ทางทุกทางย่อมมีทางออก .. เป็นกำลังใจให้ครับ

แล้วก็ขอบคุณสำครับประสบการณ์ชีวิต .. นะครับ


อิอิ .. สงสัยยังไม่ถึงเวลามั้งเค้าเล้ยไม่ให้ไปๆ 555+

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
มื่รอดชีวิตกลับมาก็ถือว่าเราได้เกิดใหม่ แถมยังได้บวชอีกก็ถือได้ว่า
เรามีโอกาสได้ชำระสิ่งไม่ดี และสิ่งที่ทำให้ชีวิตเศร้าหมองให้ออกไปจากเรา
ตอนนี้ก็เท่ากับน้องเป็นคนใหม่ ขอเป็นกำลังใจให้น้อง นำสิ่งที่มันแรงๆที่เข้ามาในชีวิตน้อง
แล้วเปลี่ยนสิ่งที่แรงๆนั้น ให้มันเป็นพลังแห่งความเข้มแข็ง เพื่อให้น้องอยู่ได้ เท่าที่ดูๆ ก็มีหลายคนนะที่รักและหวังดีกับน้อง
แต่ที่สำคัญที่สุดน้องต้องรู้สึกรักและหวังดีกับตัวเองด้วย เรื่องแม่พยายามยอมรับและให้อภัย เพื่อจะได้ไม่เป็นบาปกรรมแก่เรา
เวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่าง แต่เราเองก็ต้องพยายามก้าวออกจากสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์เช่นกัน ปล่อยวางบางสิ่งบางอย่างเสียบ้าง สู้ๆจ้ะ

kamoza

  • บุคคลทั่วไป
ชีวิตมันก็ไม่ได้มีแต่เรื่องเศร้าๆหรอกค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด