เสียงหัวเราะต่อกระซิกของสาวๆฝ่ายห้องอาหารเบาลงเมื่อร่างสูงโผล่เข้าไป หลายคนหันมาส่งยิ้มหวานให้
“คุณแจ็คต้องการอะไรคะ?”
“หิวครับมาขออะไรทานหน่อย” ชายหนุ่มยิ้มกว้างตามสไตล์
“อ้าว!จัดไปที่ห้องอาหารแล้วนี่ครับ”
เชฟโผล่ออกมาถามงงๆ อาหารสำหรับพนักงานจะถูกจัดไว้ที่ห้องอาหารภายใน พนักงานทุกคนสามารถไปรับประทานได้ฟรี
“ผมมาช้าครับเลยไม่ทัน ต้องมาขอรบกวนหน่อยนะครับ”
“รบกวนอะไรกันครับ ความจริงคุณแจ็คโทรมาสั่งก็ได้ผมจะให้เด็กเอาไปส่งให้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมมาเองสะดวกกว่า”
เชฟรีบจัดอาหารให้อย่างเกรงใจ ปรกติเขาไม่เคยสนว่าพนักงานคนไหนจะอิ่มหรืออด หน้าที่เขาคือควบคุมให้อาหารมีรสชาติดีที่สุดสำหรับลูกค้าของโรงแรมเท่านั้น…แต่แจ็คแตกต่างจากคนอื่น ชายหนุ่มไม่เคยอวดว่าตัวเองมีอำนาจเหนือใครทั้งๆที่ทุกคนรู้ดีว่าแจ็คเป็นคนสนิทของเจ้าของโรงแรมนี้ หากมีอะไรที่แจ็ค ช่วยได้เขาก็ช่วยไปทุกแผนก ทำให้เป็นที่ชื่นชมของทุกคนโดยเฉพาะสาวๆ แต่ดูเหมือนแจ็คจะไม่มีใจให้ใครเป็นพิเศษ
“คุณแจ็คไปรอที่สวนดีกว่าครับ”
“แต่ที่นั่นจัดไว้ให้แขกนะครับ พนักงานไม่มีสิทธิ์ใช้สถานที่”
“ก็ไปนั่งที่ส่วนพักผ่อนของพนักงานสิครับ”
“ขอบคุณครับ“
ต้นไม้ในสวนถูกจัดให้เป็นฉากกั้นให้แต่ละโต๊ะแยกกันเป็นสัดเป็นส่วน
หลังคาโค้งสูงเกือบ6เมตร ตีด้วยไม้สานเป็นตาข่ายโปร่ง ไม้เถาที่เกาะพันออกดอกห้อยระย้าส่งกลิ่นหอมตลบ ด้านในสุดติดกับส่วนพักอาหารมีโต๊ะสำหรับพนักงานนั่งพัก แจ็คเข้าไปนั่งไม่ถึง5นาทีอาหารก็ถูกนำไปเสริฟ
“ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ…ว้าว!ช่างสง่างามจริงๆเชียว หล่อสวยสมกันยังกับเจ้าชายเจ้าหญิง เสียดายจังที่เป็นผู้ชายทั้งคู่” พนักงานสาวรำพึงราวกับละเมอแต่คนฟังร้อนวาบในอกเมื่อเหลือบไปเห็นนายแบบคนดังเคียงคู่มากับร่างระหง มีองครักษ์เดินตามหลังมาห่างๆ
ลอเรนซ์เหลือบมองรอบกายแล้วนิ่วหน้า เขาไม่ค่อยชอบทานอาหารกลางดินกลางทรายแบบนี้เลย ความจริงไนท์น่าจะไปที่ห้องอาหารหรูข้างในมากกว่า
“ฝ่าบาทน่าจะเข้าไปทานในห้องอาหารมากกว่านะครับ ที่นี่ร้อนออก”
“หากมิสเตอร์โซววาร์ดชอบก็เชิญข้างในได้นี่”
“ไม่ได้หรอกครับ...อาหารจะไปมีรสชาติอะไร...ถ้าไม่มีฝ่าบาท” ประโยคหลังนายแบบหนุ่มชะโงกเข้ามากระซิบจนใกล้ ไนท์เกือบผงะหนีหากไม่เหลือบไปเห็นคนที่นั่งอยู่ด้านในสุดทะลึ่งพรวดขึ้นยืนเสียก่อน ชีคหนุ่มรับเมนูมาเปิดเสมือนสนใจรายการอาหาร แต่ใบหน้าขาวปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ พึงพอใจกับปฏิกิริยาของคนแอบมอง
ลอเรนซ์ใจฟูฟ่องด้วยความยินดี นี่เป็นครั้งแรกที่ไนท์ไม่ปฏิเสธเขาแถมยังมีท่าทางพอใจ แสดงว่าไนท์ต้องมีใจให้เขาเช่นกัน
แจ็ครู้สึกตื้อหายหิวขึ้นมาเฉยๆ เขาเมินหน้าหลบภาพบาดตา หันไปยิ้มเจื่อนให้พนักงานเสริฟสาวที่ยืนมองแขกวีไอพีตาค้างอยู่เช่นกัน
“…เอ่อ…จะรบกวนมากไปไหมครับถ้าผมจะขอให้ช่วยเอาอาหารใส่กล่องให้ พอดีเพิ่งนึกได้ว่ายังต้องไปตรวจงานฝ่ายซ่อมบำรุงก่อนบ่ายโมง นี่ก็ใกล้เวลามากแล้ว”
“ได้ค่ะรอสักครู่นะคะ”
แจ็คกลับมาทำงาน อาหารกล่องนั้นเขายกให้ลูกน้องไปเพราะกินไม่ลง หัวใจยังปวดหนึบด้วยภาพไนท์กับลอเรนซ์ยังติดตา
“หัวหน้าครับ…ผู้จัดการโทรมาบอกให้ขึ้นไปหา”
“ขอบใจ”
แจ็คขึ้นไปพบผู้จัดการก็ได้รับคำสั่งที่ทำให้เขารู้สึกแย่ลงไปอีก
“คุณริชให้นายไปดูแลคณะชีคราจีสอับดุลที่จะล่องเรือไปเกาะส่วนตัวของท่านเย็นนี้นะ…ดีใจละสิจะได้กลับไปเยี่ยมเพื่อนๆ”
“เอ่อ…ให้คนอื่นไปได้ไหมครับ?”
“อะไรของนาย นี่เป็นคำสั่งคุณริชนะใครจะกล้าเปลี่ยน”
“ขอโทษครับ ผมจะรีบไปเตรียมตัว”
ผู้จัดการมองตามหลังผู้ช่วยคนใหม่อย่างสงสัย ไม่แต่เขาหรอกที่รู้สึกว่าแจ็คดูแปลกไป พนักงานหลายคนก็แอบมาบอกเรื่องนี้กับเขาเช่นกัน............
ชีครามิล ราจีสอับดุล เดินเคียงลงมากับนายแบบคนดัง องครักษ์ร่างยักษ์เดินตามมาไม่ห่าง ริชกับเจฟฟรี่จึงลุกขึ้นต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ขอโทษด้วยนะครับที่ช้า” ไนท์เอ่ยขอโทษยิ้มๆ ทั้งที่ความจริงคนทำให้ช้าคือนายแบบหนุ่มที่นอนอยู่จนเย็น แล้วยังแต่งตัวช้าด้วยส่องกระจกแล้วส่องอีกราวกับจะไปเดินแบบ จนต้องให้คนเข้าไปตามถึง3ครั้ง
“ก็คุณไนท์อยากปลุกผมช้านี่นา ขอโทษนะครับเป็นความผิดผมเอง”
ลอเรนซ์พูดตีขลุมเหมือนเขากับชีครามิลนอนห้องเดียวกันและเจตนาเรียกชื่อเล่นเพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสนิทสนมของเขากับชีคโดยทำไม่รู้ไม่ชี้กับดวงตาลุกเรืองราวกับไฟขององครักษ์ เพราะแน่ใจว่าต่อหน้าคนอย่างนี้ชีครามิล คงไม่กล้าฉีกหน้าเขาเหมือนยามอยู่ลำพัง
“ไม่เป็นไรครับ…แล้วมาแค่นี้เหรอครับ?” ริชรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อสังเกตเห็นสายตาองครักษ์ของแขกวีไอพี
“ครับ” ชีคหนุ่มยังคงเฉยเมย แต่สายตาที่มองลอเรนซ์ว่างเปล่าราวกับอีกฝ่ายเป็นอากาศธาตุ
“เชิญฝ่าบาทด้านนี้เลยครับ”
“เรียกผมรามิลดีกว่า บอกหลายครั้งแล้วนี่ครับว่าไม่ต้องพูดราชาศัพท์กับผม”
ลอเรนซ์หน้าชา กับเขาชีครามิลเย็นชาและทำเหมือนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา แต่แฮมิลตันกลับถูกวางไว้ในฐานะเสมอกันอย่างเห็นได้ชัด
“ขอบคุณมากครับที่ให้เกียรติ...เชิญด้านนี้เลยครับ เชิญครับคุณโซว์วาร์ด”
“เรียกผมลอเรนซ์ก็ได้”
“ยินดีครับ เกาะแฮมิลตัลยินดีต้อนรับครับ”
“ขอบคุณครับ”ลอเรนซ์ยิ้มหวานทั้งปากและตา
ริชเดินนำแขกไปยังหมู่เก้าอี้รับรองด้านหัวเรือ ขณะที่เรือถอนสมอออกจากท่าช้าๆ พนักงานเข้ามาเสริฟเครื่องดื่มให้ทันทีที่ทุกคนนั่งลง โดยมีแจ็คคอยยืนกำกับอยู่ห่างๆ ร่างสูงยืนนิ่งราวกับหุ่น มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่กวาดมองตามพนักงานและบางครั้งก็ลอบมองเลยไปยังร่างโปร่ง ที่เดินไปยืนรับลมที่หัวเรือ
“ใช้เวลาเดินทางสักเท่าไหร่ครับ?” ไนท์หมุนตัวกลับมาอย่างรวดเร็วจนแจ็คหลบไม่ทัน ดวงตาคมเป็นประกายวาววับอย่างรู้ทัน ขณะที่แจ็คทำได้เพียงหลบตาแล้วตีหน้าเฉย
“ถ้าเร่งเดินทางก็ราว6-7ชั่วโมงครับ แต่ผมอยากให้เราเดินทางแบบสบายๆ ชมธรรมชาติไปด้วย คืนนี้เราจะแวะรับประทานอาหารกันที่เกาะ ที่นั่นยังมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่น่าชมมากครับ ส่วนพรุ่งนี้บ่ายๆเราจะถึงเขตปะการังที่สวยมาก ตอนค่ำเราก็จะไปถึงเกาะส่วนตัว” ริชตอบยิ้มๆทำไม่เห็นสายตาที่ส่งถึงกันของแขกคนสำคัญกับลูกน้อง
“ผมได้ข่าวว่าที่นั่นไม่ต้อนรับคนนอกนี่ครับ”
“แต่ชีคเป็นแขกสำคัญ เรายินดีต้อนรับครับ”
“ขอบคุณมากครับที่ให้เกียรติ”
“แล้วผมละครับมีเกียรติพอหรือเปล่า?” เรื่องจะให้คนอื่นเด่นกว่าไม่เคยมีอยู่ในหัวลอเรนซ์อยู่แล้ว
“แน่นอนครับ ผมหมายถึงคุณลอเรนซ์ด้วยอยู่แล้ว”
ดวงตาสีเขียวหวานระยับและอ่อนเชื่อมยิ่งขึ้น แต่ริชทำไม่รู้ไม่ชี้เสีย เพราะไม่อยากมีปัญหายุ่งยากภายหลัง ชายหนุ่มอมยิ้มนิดๆเมื่อไพล่ไปนึกถึงลูกแมวตัวน้อยที่อาจกลายเป็นเสือตัวโตทันทีถ้ารู้ว่าเขาเจ๊าะแจ๊ะกับคนอื่น............
แสงไฟบนดาดฟ้าสว่างพราวแข่งกับแสงดาว ร่างระหงสวมเสื้อเชิ้ตหลวมๆสีนวลตากับกางเกงขายาวสีเดียวกัน ริช เจฟฟรี่และไคซัค ก็แต่งกายคล้ายๆกันเพียงแต่สีเสื้อมีลวดลายมากกว่า แต่คนที่แต่งแปลกตากว่าทุกคนคือ
ลอเรนซ์ นายแบบหนุ่มสวม เสื้อเชิ้ตสีสดปลดกระดุมหมดทุกเม็ดโชว์เสื้อกล้ามตัวในรัดตัวติ้ว กับกางเกงขาสั้นสีขาวเน้นรูปร่าง
โต๊ะตัวกลางจัดเพียงอาหารว่างเบาๆกับเครื่องดื่ม เพราะตามหมาย กำหนดการ ทุกคนจะลงเรือเล็กไปกินมื้อค่ำบนเกาะที่จอดพักเรือ ซึ่งทางเกาะได้จัดการต้อนรับแบบพื้นเมืองเต็มรูปแบบ ระหว่างที่รอเวลาจึงนั่งสนทนากันด้วยท่าทางสบายๆ ทั้งชีครามิลและริชต่างก็ซ่อนเหลี่ยมไว้มิดชิด ด้วยยังดูเชิงกันอยู่ และมี 'คนนอก‘ อย่างลอเรนซ์อยู่ด้วย บทสนทนาจึงเป็นเรื่องทั่วๆไป ริชสังเกตว่าแขกของเขาเผลอกวาดตามองหาอะไรหรือหา‘ใคร’บ่อยๆ แต่กระนั้นก็ยังคงสีหน้าได้เย็นชาคงเส้นคงวาดีเหลือเกิน
เรือลำน้อยประดับไฟพราวถูกพายเข้ามาเทียบ ฝีพายแต่งกายด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้นแบบชาวเลโบราณ ตอนแรกลอเรนซ์ทำท่าลังเลแต่เมื่อได้เห็นว่าเรือทุกลำถูกตกแต่งไว้สวยงามสะอาดสะอ้านเพื่อรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะสีหน้าของนายแบบหนุ่มก็ดีขึ้น เสียดายอย่างเดียวคือเรือเล็กจนนั่งได้เพียงคนเดียว หากได้นั่งเบียดไปกับชีครามิลหรือริชคงดีกว่านี้
เมื่อเรือพาแขกทุกคนเข้าเทียบท่า คบไฟก็ถูกจุดวางรายไล่จากท่าเรือเข้าไปจนถึงในหมู่บ้านเป็นแนวยาวในความมืด กลางลานกว้างก่อกองไฟสว่างไสว สาวๆผิวคล้ำคมถือพวงมาลัยดอกลั่นทมยืนรอต้อนรับ โต๊ะตัวใหญ่ประดับตกแต่งด้วยทางมะพร้าวกับดอกไม้ อาหารบนโต๊ะส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเลสดใหม่หอมกรุ่น แจ็คช่วยพนักงานอีกคนยกถาดเข้ามาวางกลางโต๊ะ ปลาตัวโตส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย เมื่อทุกคนเข้าประจำที่ระบำพื้นเมืองก็เริ่มบรรเลง
“ไม่ทราบว่าคุณโซว์วาร์ดชอบดื่มอะไรบ้างครับ?” แจ็คจงใจถามลอเรนซ์เป็นคนแรกด้วยสังเกตเห็นแล้วว่าลอเรนซ์ชื่นชอบที่จะได้เป็นที่หนึ่งอยู่ตลอดเวลา
ลอเรนซ์ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ แจ็คซักละเอียดทั้งเครื่องดื่มและผลไม้ที่ชอบของแขกทุกคน จากนั้นก็กลับไปที่บาร์ผสมเครื่องดื่มด้วยท่าทางคล่องแคล่วจนลอเรนซ์อดแขวะไม่ได้
“แหม! พนักงานคุณนี่อเนกประสงค์ดีจัง ค่อยคุ้มค่าจ้างหน่อย”
“ครับ ทั้งเก่งและฉลาด มนุษย์สัมพันธ์ก็ยอดเยี่ยม...ทั้งแขกที่มาพักและเพื่อนร่วมงานชื่นชอบเขาทั้งนั้น”
“เก่งขนาดนี้ไม่กลัวถูกซื้อตัวไปหรือไงครับ?”
“เงินซื้อแจ็คไม่ได้หรอกครับ”
“รับรองเสียขนาดนี้คนที่อยากได้ตัวเขาไปทำงานด้วยคงผิดหวังแย่”
ปากพูดกับริช แต่ลอเรนซ์เจตนาแขวะชีครามิล ด้วยริษยาที่ชีคให้ความสนใจแจ็คเสียยิ่งกว่าตนเอง ไคซัคเหลือบมองลอเรนซ์ด้วยความรำคาญปนสมเพช กับนิสัยชอบกระแหนะกระแหนและพยายามเรียกร้องความสนใจจนน่าเกลียดของนายแบบหนุ่ม
เมื่ออาหารค่ำถูกยกออกไป ผลไม้ก็ถูกยกเข้ามาแทน พร้อมๆกับเครื่องดื่มสีสันสดใสที่ไม่ซ้ำกันสักแก้ว
“อะไรน่ะ…รสชาติพิลึก?”ถึงรสจะถูกปากแต่ลอเรนซ์ก็ไม่อยากยอมรับ
“ชีคว่าเป็นไงครับ?” ริชหันไปถามความเห็นจากไนท์และคอยจับสังเกตชีคหนุ่มตลอดเวลา
“รสดีครับ หอมกลิ่นผลไม้ แต่อุ่นท้องดี...เรียกว่าอะไรครับ?” ประโยคหลังไนท์เจาะจงถามคนผสม แจ็คหลบตาก้มหน้าตอบอ้อมแอ้ม
“ก็…ยังไม่มีชื่อหรอกครับ ผมผสมจากสิ่งที่แต่ละท่านชอบ รสชาติก็เฉพาะแก้ว ไม่มีแก้วไหนเหมือนกัน”
“ผสมมั่วอย่างนี้ถ้าแขกจะสั่งใหม่ก็ทำไม่ได้เหมือนเดิมละสิ?” ลอเรนซ์เบ้ปากอย่างดูถูก แต่แจ็คยังคงยิ้มเฉย
“ผสมได้ครับ หรือจะต้องการรสแบบไหนก็สั่งได้ครับ”
“ขอแรงกว่านี้หน่อยซิ จืดชืดแบบนี้จะไปได้เรื่องอะไร”
ลอเรนซ์ยื่นแก้วให้เป็นคนแรก คนอื่นๆก็พลอยขอเพิ่ม แต่ไม่มีใครขอเปลี่ยน แปลงอะไร เครื่องดื่มชุดใหม่ถูกนำมาเสริฟอีกครั้ง
แจ็คลอบมองหน้าใสที่กระจ่างนวลเพราะแสงจากโคมและกองไฟใหญ่ จู่ๆตาคมก็ตวัดมองราวกับรู้ตัวว่าถูกจ้อง แจ็ครีบหลบตาเสทำเป็นไปเตรียมผสมเครื่องดื่ม เป็นความสามารถเฉพาะตัวที่เขาทำได้ดี และงานนี้ริชก็เจาะจงเลือกเขาเพื่อความปลอดภัย
ยิ่งดึกเสียงหัวเราะก็ยิ่งดัง เพราะเครื่องดื่มถูกนำมาเสริฟรอบแล้วรอบเล่า ลอเรนซ์ก็เป็นคนแรกที่เมา เขาพยายามชวนไนท์ออกไปเต้นรำแต่ไนท์ไม่ยอมไป ทำให้ลอเรนซ์หงุดหงิดมากขึ้นทุกที เมื่อเริ่มครองสติไม่อยู่ลอเรนซ์ก็ปาแก้วจนแตกกระจายและทำท่าจะอาระวาดมากกว่านั้น ดีที่ริชชวนออกไปเต้นรำ ตาแดงๆหวานเยิ้มขึ้นทันที ร่างโอนเอนด้วยความเมาถลามาซบอกกว้างหลายครั้ง
เมื่อถึงเวลากลับขึ้นเรือริชจึงต้องประคองร่างอ่อนปวกเปียกขึ้นไปให้
............
เรือแล่นด้วยความเร็วสูง แต่ความที่มีขนาดใหญ่ทำให้คนบนเรือ
แทบไม่รู้สึก ลมหอบเอาละอองน้ำปลิวขึ้นมาปะทะจนเสื้อสะบัดแม้จะเย็นเยือกจน บาดผิว แต่ไม่อาจบรรเทาความรุ่มร้อนในหัวใจให้เบาบางลงได้เลย มือที่เกาะ ราวเหล็กกำแน่นราวกับจะให้มันแหลกคามือ นึกหยันในโชคชะตาของตัวเอง คนที่เขาหลงรักช่างแตกต่างและห่างไกลจนสุดมือคว้า เมื่อครั้งรามอสเขาเป็น เพียงของเล่นคลายเหงานั้นก็ทำให้เขารู้สึกแย่มากแล้ว
แต่กับไนท์มันเจ็บปวดยิ่งกว่านั้น ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ที่ผ่าน มาด้วยกัน สร้างความผูกพันที่ดื่มด่ำลึกซึ้งจนเขาต้องตระเวนตามหาไนท์ไปตาม โรงแรมทุกวันหยุด แต่กลับไม่เจอแม้เงา กระนั้นเขาก็ยังไม่หมดหวัง
ครั้นได้เจอไนท์ที่ฮาวายอีกครั้ง หัวใจก็พองฟูด้วยความยินดี จนเผลอ ล่วงเกินไปโดยไม่ตั้งใจ ถึงกลัวว่าไนท์จะรังเกียจ…แต่รสชาติหวานหอมของปากนุ่ม ก็ทำให้เขาละเมอเพ้อหา ราวกับเป็นหนุ่มน้อยริรัก
ชายหนุ่มตั้งใจแน่วแน่ ว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้ไนท์หลุดมือไปอีก เพราะ เขาแน่ใจแล้วว่า...เขากำลัง ‘ตกหลุมรัก’
แต่ไนท์กลายเป็นชีครามิล ราจีสอับดุลผู้ยิ่งใหญ่ มหาอำนาจของตลาด น้ำมันโลก ไม่ใช่ ‘ไนท์’ หนุ่มต่างชาติที่บาดเจ็บคนนั้นอีกแล้ว และเขาคือนายแจ็ค มิเคเน่ พนักงานโรงแรมต๊อกต๋อย
ยิ่งคิดก็ยิ่งขมขืนและเจ็บปวด ทางเดียวที่จะบรรเทาความทรมานนี้ คือ เขาควรอยู่ให้ห่างจากไนท์ เพื่อจะได้ไม่ต้องเจ็บมากไปกว่านี้
ชายหนุ่มถอนใจยาวก่อนจะผละจากกราบเรือเพื่อกลับห้องพัก หางตาเห็น เงาคนวูบวาบไปทางหัวเรือ ชายหนุ่มรีบย่องตามไป ร่างโปร่งยืนพิงราวจับนิ่ง ชายเสื้อสะบัดพลิ้วด้วยแรงลม แม้แสงสว่างจะน้อย แต่เห็นเพียงแวบเดียวก็จำได้ทันที ด้วยเงานี้คือสาเหตุของความเจ็บปวดทุรนทุรายที่เผชิญอยู่
“ผมว่าดึกเกินไปที่ท่านจะอยู่ตามลำพังนะครับ”
“งั้นเหรอ...เผอิญฉันอยากรับลมตรงนี้อีกสักครู่” ชีคหนุ่มเพียงเหลียวมองนิดเดียวก็หันกลับไปอย่างเดิม เพื่อซ่อนรอยยิ้มพอใจ
“แต่ผมเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย”
“ถ้ากลัวจะมีอันตรายเธอก็อยู่เฝ้าไว้สิ”
“ผมเป็นแค่พนักงานธรรมดาไม่ใช่ฝ่ายอารักขา คงทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ ถ้าท่านต้องการการ์ดผมจะไปตามมาให้”
“เมื่อวันก่อนเธอก็แสดงฝีมือได้ไม่มีที่ตินี่”
แม้น้ำเสียงของไนท์จะราบเรียบ แต่แจ็คกลับรู้สึกเหมือนถูกเยาะหยัน “แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นครับ กรุณารอสักครู่ผมจะไปตามการ์ดมาให้ท่าน”
“ไม่จำเป็น ฉันจะกลับห้องแล้ว...แค่เดินไปส่งคงไม่ต้องตามการ์ดกระมัง”
“เชิญครับท่าน”
ไนท์กลับห้องโดยมีร่างสูงเดินตามมาไม่ห่างนัก ทางเดินลาดด้วยพรมสีอ่อนทำให้แสงไฟสลัวที่ซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆสะท้อนนวลตา ร่างโปร่งเดินลากเท้าคล้ายเซหลายครั้งคงเกิดจากความเมา เพราะเรือสำราญขนาดใหญ่แบบนี้แล่นได้เรียบราวกับอยู่บนแผ่นดินอยู่แล้ว
ยังไม่ทันถึงหน้าห้องไนท์ก็สะดุดพรมเซถลา แจ็คกระโดดคว้าไหล่บางไว้ได้ทัน น้ำหนักตัวของไนท์ทับลงมาเต็มที่แม้จะไม่ล้ม แต่ไหล่หนาก็กระแทกกับผนังห้องจนชา แต่ชายหนุ่มกลับห่วงคนในอ้อมแขนมากกว่า
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เจ็บ...เจ็บขา” ไนท์นิ่วหน้าและยึดไหล่แจ็คประคองตัว
“ทนหน่อยนะครับอีกนิดก็ถึงห้องแล้ว”
“โอ๊ย...อย่าขยับ...”
ทันทีที่แจ็คขยับไนท์ก็สะดุ้งทั้งตัว มือที่ยึดอยู่ที่ไหล่เขากำเกร็งแน่น ทำให้แจ็คพะวงจนไม่กล้าเดินต่อ ทั้งๆที่อยู่ในสภาวะอย่างนี้แต่กลิ่นหอมอวลอ่อนจากคนในอ้อมแขนก็ทำให้ใจเต้นระรัวขึ้นมาดื้อๆ แจ็คพยายามข่มความรู้สึก นึกโมโหตัวเองที่มารู้สึกหวั่นไหวอะไรในสถานการณ์อย่างนี้
“เดี๋ยวนะครับผมดูเท้าให้”
“ไม่ต้อง...ไปส่งที่ห้องก็พอแล้ว”
“ขอโทษนะครับ” แจ็คตัดสินใจช้อนร่างบางขึ้นอุ้มพาไปยังห้องพักอย่างรวดเร็ว แม้จะมาถึงหน้าห้องแล้วแต่ก็ทุลักทุเลอยู่นานกว่าจะเปิดประตูเข้าไปในห้องได้ แจ็คเข้าไปวางชีคหนุ่มบนเตียงแล้วคุกเข่าลงบนพรมเพื่อดูขาข้างที่เจ็บ แต่ไนท์หดเท้าหนี
“ไม่ต้องหรอก…เดี๋ยวฉันเรียกคนของฉันมาดูแลเอง”
แจ็คชะงัก...ขนาดเท้าเขายังไม่มีสิทธิแตะ ใบหน้าร้อนวาบด้วยความโกรธและอายที่ถูกแสดงความรังเกียจ ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกเพื่อข่มอารมณ์อยู่ครู่หนึ่งจึงเค้นเสียงออกมาได้
“...ถ้าอย่างนั้นผมขอตัว” แจ็คผุดลุกขึ้นหันกลับเพื่อออกจากห้องให้เร็วที่สุด
“ขอบใจนะที่พามาส่ง”
“เป็นหน้าที่ของพนักงานทุกคนอยู่แล้วครับ”
ตาคมเป็นประกายวาบเมื่อได้ยินเสียงเย็นชา ความรู้สึกอ่อนโยนระคนอบอุ่นเมื่อครู่หายวับ
“งั้นฉันต้องทิปสินะ เธอทำงานได้ดีอย่างนี้น่ะ”
“ไม่ต้องครับ พนักงานที่นี่ทุกคนไม่รับทิปจากแขกครับ”
“จริงสิ ลืมไปว่าเธอเป็นพนักงานมือหนึ่ง”
“ผมขอตัวครับ”
แจ็คผลุนผลันออกมาอย่างรวดเร็ว ในอกยังร้อนผ่าวด้วยความคับแค้นและผิดหวัง นึกโมโหตัวเองที่ไปแสดงความห่วงใยจนถูกเยาะกลับมาอีกจนได้
มือขาวฟาดลงบนเตียงอย่างโกรธๆ หงุดหงิดทั้งคนที่เพิ่งเดินออกไปและโมโหตัวเอง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องแกล้งทำเป็นเจ็บขา ทั้งๆที่พ้นวัยจะเรียกร้องความสนใจแบบนี้มาตั้งนานแล้ว............
..........
ขอบคุณคะ
สวัสดีปีใหม่นะคะ ขอให้ผู้อ่านทุกคนมีความสุขมากๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นที่รักของทุกผู้คนที่เจอนะ