......
แจ็คแทบกระโจนลงจากแท็กซี่เมื่อสังเกตเห็นหน้าต่างชั้นบนปิด -
สนิท ต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นไนท์ถึงได้ปิดมัน บ้านเงียบและวังเวงจนเขาใจ เสีย หนังสือพิมพ์ในมือลงข่าวหมอและพยาบาลคลินิกที่เขาพาไนท์ไปรักษาถูกฆ่า ปาดคอขึ้นหน้าหนึ่งหรา ทำให้เขาต้องเผ่นกลับมาบ้านแทบไม่ทัน แจ็คทิ้งข้าวของ ทั้งหมดไว้ที่โต๊ะ โดดขึ้นบันไดทีละ 2-3 ขั้นอย่างร้อนใจ
“คุณไนท์! คุณไนท์ครับ...อยู่ที่ไหนครับ?”
แจ็คหันคว้างอย่างตกใจ ห้องนอนว่างเปล่าและจัดไว้เรียบกริบ บนเตียงมีจดหมายฉบับหนึ่ง แจ็คคว้ามาดูอย่างร้อนใจ
‘ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือทุกอย่าง คนของผมมารับแล้ว
ไม่ต้องเป็นห่วง’
..............ไนท์ จิงเจอร์............
แจ็คถอนใจยาว บอกไม่ถูกว่าโล่งอกหรือใจหายกันแน่ ทั้งที่เขาควรดีใจว่าไนท์ได้กลับไปอย่างปลอดภัย แต่ความรู้สึกเคว้งคว้าง เสียดาย และผิดหวัง กลับประดังกันขึ้นมา ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนมองเพดาน สับสนด้วยความรู้สึกที่อัดกันอยู่ภายใน ความจริงใม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ไนท์จะโทรหาญาติให้มารับ แต่นึกน้อยใจที่ไนท์ไม่คิดจะบอกลาเขาสักคำ...แต่นั่นแหละเขากับไนท์ก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกันมากมายนัก แค่บังเอิญเขาเคยช่วยไนท์ไว้ก็เท่านั้น ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึก ในอากาศเหมือนมีกลิ่นหอมอ่อนๆเจือแทรกอยู่บางเบา
แจ็คพยายามสลัดความผิดหวังออกไป ตอนนี้สิ่งที่เขาควรทำคือรีบจัดของแล้วกลับไปทำงานก่อนจะเสียประวัติจะดีกว่า แม้แจ็คจะทำเหมือนไม่สนใจ แต่ลึกๆในใจเขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าดวงตาสีทองคู่นั้นได้ประทับอยู่ในความทรงจำเขาแนบแน่นเสียแล้ว
♜.........♜...........♜
♚..5..♚
เสียงเครื่องปั่นไฟติดกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้งหลังจากปลุกปล้ำกับมันอยู่ตั้งครึ่งค่อนวัน
แจ็คถอนใจพรูด้วยความโล่งอก ความจริงไม่ใช่หน้าที่เขา แต่แผนกซ่อม บำรุงไปติดตั้งเครื่องกรองน้ำตัวใหม่ที่โรงแรมอีกเกาะ ช่างซ่อมบำรุงที่เหลืออยู่เพียง คนเดียวเกิดป่วย เขาเลยรับหน้าที่ช่างจำเป็น
ชายหนุ่มคว้าจักรยานคันโปรดปั่นกลับไปยังบ้านพักเพื่ออาบน้ำ ขณะที่ผ่านรั้วด้านที่ติดถนนก็สวนเข้ากับขบวนรถ4-5คัน หนึ่งในนั้นชะลอและเลื่อนกระจกลง แต่แจ็คไม่ได้สนใจเขาเร่งความเร็วรถมากขึ้นเพราะเห็นว่าหัวขบวนเลี้ยวเข้ามาที่โรงแรม เห็นทีเขาต้องรีบกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปรายงานตัว ก่อนที่ผู้จัดการจะตำหนิเพราะเขาละทิ้งหน้าที่ตัวเองมาหลายชั่วโมง
ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องรับรอง แจ็คก็เจอเข้ากับชายต่างชาติหน้าตาดุดันสองคนที่ปราดมากั้นเขาไว้ หนึ่งในสองพยายามจะคว้าตัวเขาแต่แจ็ค หลบทำให้อีกคนรีบเข้ามาช่วย
“อ้าว!คุณ พูดกันดีๆสิครับ” แจ็คถอยไปตั้งหลักห่างๆ เหลือบมองปราดไปรอบๆเพื่อสังเกตการณ์ก็พบว่ารอบตัวเงียบผิดปรกติ ลูกค้าของโรงแรมมักเดินเข้าออกด้านนี้กันพลุกพล่านเพราะสามารถลงไปที่หาดได้เร็วกว่าเดินอ้อมจากด้านหน้า แต่วันนี้ไม่มีใครเดินออกมาจากด้านในเลยแม้แต่คนเดียว ชายหนุ่มใจหายวูบเมื่อนึกถึงข้อมูลที่เจฟฟรี่โทรมาบอกเมื่อ2-3วันก่อน เรื่องผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ
“เราต้องค้นตัวคุณ”
“ผมเป็นพนักงานโรงแรมนี้นะครับ จะต้องค้นตัวทำไมเนี่ย?”
“เป็นใครก็ตามหากต้องการเข้าไปข้างในเราก็ต้องค้น”
“เอ๋!โรงแรมเรามีกฎนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” แจ็ครำพึงกับตัวเองดังๆด้วยเจตนาจะแหย่คนหน้าเคร่งทั้งสอง
“ตั้งขึ้นมาเดี๋ยวนี้แหละ ใครจะเข้าจะออกต้องให้เราค้นตัวไม่อย่างนั้นห้ามเข้า!”
“ผมไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เพื่อความบริสุทธิ์ใจ ก็...เชิญครับจะค้นก็เชิญ”
คนหนึ่งปราดเข้ามาลูบตบไปตามร่างกายของแจ็คอย่างรวดเร็ว ท่าทางชำนาญคล่องแคล่วเหมือนเป็นตำรวจ แต่แจ็ครู้สึกว่าหน้าตาเหมือนโจรมากกว่า คนหนึ่งจ้องมองสายร่มที่แจ็คห้อยคออยู่และปราดเข้ามาดึงไปดื้อๆ ดวงตาคมเป็น ประกายวาววับด้วยความโกรธ กระสุนที่เขาเก็บมาจากข้างศพพ่อถูกยึดไปอย่างไร้มารยาท
“เสร็จหรือยังครับ ผมจะได้ไปทำงาน”
“เชิญ”
“ขอสร้อยผมคืนด้วยครับ”
“ไม่ได้ กระสุนนี่ยังใช้การได้ เราต้องยึด”
“คุณครับนั่นของๆผม คุณไม่มีสิทธิ์เอาไปนะครับ”
“มันเป็นสิทธิ์ของเราโดยตรงเลยละ”
“คุณจะค้นผมก็ให้ค้นแล้ว แต่ไอ้เรื่องจะมายึดของผมดื้อๆผมยอมไม่ได้”
“เสียใจ เพื่อความปลอดภัย เราต้องยึดไว้ก่อน ไว้เรากลับเมื่อไหร่จะคืนให้ ของพรรณนี้เราไม่เอาไปหรอกน่า” ท่าทางยียวนและสีหน้าหยามเหยียดเต็มที่นั่นทำให้เลือดแจ็คระอุร้อนขึ้นทันที
แจ็คไหวไหล่ แต่ทันทีที่ชายในชุดสูทเผลอตัวเขาก็กระชากสร้อยกลับมาอย่างรวดเร็ว หนึ่งในสองคว้าคอเสื้อแต่แจ็คก้มตัวหลบแล้วเตะตัดข้อเท้า ร่างสูงล้มสนั่นอย่างไม่เป็นท่าด้วยไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่โรงแรมคนหนึ่งจะมีฝีมือทางนี้ อีกคนปราดเข้ามา แจ็คยักคิ้วแผล็บแต่สับเท้าหลีกอย่างว่องไว หมอนั่นไม่ได้ผลีผลามเหมือนคนแรก แต่เข้ามาอย่างระมัดระวัง หมอนั่นพุ่งหมัดเข้าใส่แจ็คไม่ได้ถอยแค่เบี่ยงหลบหมัดขณะสืบเท้าเข้าหา หมุนตัวฟันศอกเข้าที่ปลายคาง ร่างสูงใหญ่หยุดชะงักแล้วร่วงลงกับพื้น คนที่โดนเตะข้อเท้าลุกขึ้นแต่แจ็คเหวี่ยงแข้งฟาดเข้าทัดดอกไม้อพอดี ร่างสูงล้มฟาดลงไป โชคดีที่ล้มไปทับเพื่อนที่เพิ่งยันตัวลุกมานั่งสลัดศีรษะ ทำให้กระแทกพื้นไม่แรงนัก
แกร๊ก!!!! เสียงขึ้นปืนกราว ชายในชุดสูทสีดำสองคนจ้องปืนมาที่เขาเขม็ง ด้านหลังประตูห้องรับรองเปิดกว้าง ชายในชุดสูทสีดำยืนกันสลอน รวมทั้งพนักงานระดับสูงของโรงแรมที่ยืนมองอ้าปากค้าง
“แจ็ค!หยุดนะ…เอ่อ…ท่านครับต้องของอภัยจริงๆครับ นั่นเป็นพนักงานของเราเอง เขาไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายคนของท่าน” ผู้จัดการรีบห้ามละล่ำละลัก ก่อนจะหันไปค้อมตัวให้แขกVIP
ร่างที่นั่งหันหลังอยู่ที่เก้าอี้รับรองโบกมือ ชายในชุดสูททั้งหมดลดปืนลง ร่างโปร่งในชุดสูทสีเทาลุกขึ้นขนาบด้วยการ์ดร่างหนาและอีกทั้งโขยงทยอยเข้าไปในลิฟต์สำหรับชั้น VIP โดยมีสองคนปราดเข้ามาหิ้วปีกคนที่นอนอยู่ให้ลุกตามไปด้วย
ผู้จัดการหันขวับมาตาเขียวปัด แจ็คยิ้มแห้งๆทั้งที่ใจหายวูบ เขาเข้าใจผิดหรือนี่ แสดงว่าเขาเล่นงานการ์ดเข้าให้แล้ว ผู้จัดการกระดิกนิ้วเรียกก่อนจะเดินนำไปยังฝ่ายบริหาร
“นี่ผมดูคนผิดหรือไงแจ็ค...ผมคิดว่าคุณเก่ง...เป็นมืออาชีพ...ทำงานดี แล้วนี่อะไร? คุณทำกับแขกอย่างนี้ได้ยังไง?…แล้วรู้ไหมรายนี้ไม่ใช่ VIPธรรมดา แต่เป็นหุ้นส่วนธุรกิจในเครือน้ำมันของเราด้วย”
“ขอโทษครับผู้จัดการ ผมใจร้อนไปหน่อย เข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกก่อการร้ายเสียอีก...เป็นความผิดของผมทั้งหมดครับ” แจ็คยอมรับผิดแต่โดยดี หากการกระทำครั้งนี้จะทำให้เขาถูกไล่ออกเขาก็เป็นเรื่องสมควร
“นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนพักงานแน่ๆ แต่สำหรับนาย...คงต้องรอคุณแฮมิลตัน มาจัดการเอง”
ประโยคหลังของผู้จัดการทำให้แจ็คอึดอัดใจอีกครั้ง ให้เขารับโทษตามปรกติเหมือนพนักงานทั่วๆไปคงดีกว่าที่จะต้องรอ เพราะอภิสิทธิ์ของความเป็น ‘คนสนิท’ อย่างที่ทุกคนปฏิบัติกับเขา
“คุณริชจะมาที่นี่เหรอครับ?”
“ใช่…คงมาถึงพรุ่งนี้ แขกพิเศษของท่านด้วยสิ…ไม่รู้ท่านจะว่าไง เอาเถอะผมจะช่วยพูดให้เพราะถึงยังไงคุณก็ตั้งใจทำงานดีมาตลอด ไม่น่ามาพลาดง่ายๆแบบนี้เลย” ผู้จัดการหน้าเครียดด้วยความกังวล ไม่ว่าจะเป็นความผิดใครงานนี้เขาต้องรับผิดชอบเต็มๆ และต้องรีบรายงานผู้บริหารก่อนที่ริชจะมาถึง
“ขอโทษอีกครั้งครับ…ผมจะขึ้นไปขอโทษแขกด้วย”
“อย่าเพิ่งเลย เอาไว้ให้คุณริชมาก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ว่าแต่วันนี้ไปไหนมาเห็นที่ฟร้อนบอกว่าไปซ่อมอะไร?”
“อ๋อ!ที่ปั่นไฟสำรองน่ะครับ”
“แล้วฝ่ายซ่อมบำรุงละ?” คิ้วหนาขมวดยิ่งกว่าเดิม
“ลาป่วยครับอยู่โรงพยาบาล”
“ทำไมไม่รอให้พวกที่ไปโรงแรมโน้นกลับมาซ่อมละ” ผู้จัดการยังไม่หายข้องใจ
“ผมเกรงว่าพวกนั้นจะกลับดึก หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะไม่มีไฟใช้ครับ”
“นายนี่รอบคอบไปทุกอย่าง ทำไมถึงได้…เฮ้อ! เอาละไปทำงานเถอะ”
“ครับผม” ทันทีที่แจ็คออกมาถึงหน้าฟร้อน สาวๆแผนกต้อนรับก็ปราดเข้ามารุมล้อม
“แจ็คผู้จัดการว่าไง?”
“โดนพักงานหรือเปล่า?”สาวๆถามกันเซ็งแซ่ทำให้แจ็คได้แต่ยิ้มแห้งๆไม่รู้จะตอบใครก่อนดี
“แหม! คนของท่านทั้งทีจะไปเดือดร้อนอะไร แค่ทำร้ายร่างกายแขกแค่นี้เรื่องเล็ก!” หัวหน้าแผนกต้อนรับสาวคนสวยเอ่ยเยาะๆ
แจ็คเหลือบมองอย่างระอา ตั้งแต่เขาย้ายมาประจำที่นี่ดูเหมือนจะเป็นที่เขม่นของอีกฝ่ายเหลือเกิน ทั้งๆที่เขาแน่ใจว่าไม่เคยทำอะไรให้ แต่ก็ไม่วายถูกกระทบกระเทียบตลอดเวลา แต่เแจ็คก็เฉยเสียไม่อยากมีปัญหาเพราะเกรงจะเสียชื่อไปถึงริช แจ็คยิ้มให้สาวๆก่อนจะขอตัวไปทำงาน ............
เช้านี้อากาศแจ่มใสคลื่นก็ลูกโตจนอดใจไม่ไหว แจ็คคว้ากระดาน ลงทะเลตั้งแต่เช้าอย่างไม่กลัวหนาว เนื่องจากย้ายที่ทำงานใหม่ ต้องปรับตัวและ เรียนรู้งานเยอะ ทำให้เขาต้องทิ้งกระดานไปนาน เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเขาใช้วันหยุด ไปหาพี่สาวที่มาร์ตินีก วันหยุดคราวนี้จึงขอยกให้กระดานโต้คลื่นสุดที่รัก ละอองน้ำและลมปะทะหน้าให้ความรู้สึกดีจนอะไรที่อัดๆอยู่ในอกคลายลง แจ็คไต่ตามยอดคลื่นอย่างสนุกสนาน หางตาเขาเห็นร่างหนึ่งพุ่งปราดตามมาติดๆ
“วู้!”แจ็คตะโกนอย่างมันเขี้ยวไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีคนมาแข่งด้วย จาก เพียงแค่ลงเล่นสนุกๆกลายเป็นเอาจริง คลื่นลูกใหญ่โถมเข้ามา แจ็ครีบไต่ขึ้นยอด คลื่นลูกเล็กแล้วโผนเข้าหาหลังคลื่นไต่ขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ร่างที่ตามเขามาก็ไต่ขึ้น มาเช่นกันแต่จังหวะที่ช้ากว่าเล็กน้อยทำให้โดนคลื่นอีกลูกซัดจมหายลงไปเสีย ก่อน
แจ็คไต่ตามยอดคลื่นครู่หนึ่งแต่ไม่เห็นคู่แข่งโผล่ขึ้นมา แต่เมื่อคลื่นอีกลูก ซัดมาก็เห็นร่างเปรียวไต่ฉวัดเฉวียนมาแต่ไกล แจ็คหัวเราะร่าโผนตามทันที ทั้งคู่ ไล่กวดกันอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะยอมเข้าฝั่ง
แจ็ควิ่ง เหยาะๆไปหา ร่างนั้นค่อนข้างบางสวมชุดติดกันทั้งตัวสีน้ำเงินสด ขณะที่แจ็คสวม แค่กางเกงว่ายน้ำแบบยาวตัวเดียว
“อรุณสวัสดิ์ครับ…คุณไนท์!” แจ็คอุทานอย่างแปลกใจเมื่อคนในชุดสีน้ำ- เงินหันกลับมา ใบหน้าสวยมีรอยยิ้มเล็กน้อยแต่ช่วยให้ดวงตาคมดุดูละมุนลง
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
“คุณเป็นอย่างไรบ้างครับ...หายดีแล้วหรือยัง?”แจ็คถามเป็นชุดด้วยความตื่นเต้น ใจไหวระทึกอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกยินดีซ่านไปทั้งตัว เดือนกว่ามาแล้วที่เขาเฝ้าตามหาคนๆนี้ คิดว่าจะไม่มีโอกาสได้เจออีกแล้วด้วยซ้ำ
“ดีขึ้นมากแล้วครับ ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผมไว้ วันนั้นผมรีบร้อนจนไม่ได้อยู่ลาคุณ ต้องขอโทษด้วย”
“ไม่เป็นไรครับ แล้วนี่มาเที่ยวเหรอครับ?”
“มาเรื่องงานน่ะครับ แล้วคุณแจ็คละครับ?” ร่างบางตอบยิ้มๆพร้อมกับนั่งลงแกะเชือกออกจากข้อเท้าช้าๆ แจ็ครีบนั่งลงไม่ห่างนัก
“ผมเป็นพนักงานที่โรงแรมเกรซครับ…แล้วคุณพักที่ไหนครับ?”
“ก็พักที่เกรซนั่นแหละครับ”
“อ้าว!ทำไมผมไม่เห็นคุณเลย…อ๋อ!สงสัยมาเมื่อวานแน่เลย”
“ครับ”ไนท์ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ดวงตาไหววับเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน แสดงว่าแจ็คไม่รู้จักเขาจริงๆ
“เมื่อวานผมไปซ่อมเครื่องปั่นไฟครับ กว่าจะได้มาทำงานก็บ่ายมากแล้ว”
“มิน่า…”
“มิน่าอะไรครับ”
“ก็…มิน่าผมถึงไม่เจอคุณ แล้ววันนี้ไม่ทำงานเหรอครับ?”ไนท์นึกสนุก อยากรู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่แจ็คจะรู้ว่าเขาเป็นใคร
“วันนี้วันหยุดผมครับ…ไม่รู้ว่าจะได้หยุดยาวหรือเปล่า” แจ็ครำพึงหน้าแห้งๆ มือที่กำลังถอดเชือกรัดข้อเท้าออกชะงัก ไนท์หันมามองหน้าแจ็คด้วยความสงสัย
“ทำไมครับ?”
“คือ…บอกแล้วคุณอย่าตำหนิพนักงานคนอื่นนะครับเพราะไม่มีใครเขาเสียมารยาทเหมือนผมหรอก…เมื่อวานผมดันไปมีเรื่องกับคนของหุ้นส่วนโรงแรม”
“แล้วทำไมถึงได้มีเรื่องกันละครับ?”
“เขาก็มาค้นตัวผมตามหน้าที่แหละครับ…แต่เผอิญผมเข้าใจว่าเป็นคนร้าย พอเขาจะยึดสร้อยผมเลยฟิวส์ขาด” แจ็คชูลูกกระสุนที่ห้อยอยู่ที่คอให้ดู
โดยที่เขาไม่คาดคิดไนท์ก็ชะโงกตัวเข้ามาจนเกือบชิด มือขาวเอื้อมมาจับสร้อยที่คอไปพิจารณาใกล้ๆ
แจ็คสะดุ้งคว้าข้อมือบางไว้โดยอัตโนมัติ วงหน้าขาวเงยขึ้นมองทำให้ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่ถึงนิ้ว กลิ่นน้ำหอมอวลอ่อนกลบกลิ่นทะเลไปสิ้น
แจ็คตัวชา...สิ่งที่อยู่รอบๆตัวหายวับ เหลือเพียงดวงตาคู่งาม...ที่เหมือนจะดูดกลืนเขาไว้....จนแทบหายใจไม่ออก ความรู้สึกกดดันและวาบหวามเหมือนเช้าวันนั้น...ในบ้านคุณตากลับมาอีกครั้ง
มือกร้านด้วยแดดลมยกขึ้นแตะหน้าเนียนใสอย่างเผลอไผล ผิวสัมผัสอบอุ่นและนุ่มนวลด้วยเลือดเนื้อของคนจริงๆ ไม่ใช่ภาพมายาในความฝันทุกคืนของเขา...แจ็คก้มลงใกล้ปากบางเฉียบสีสดอย่างไม่รู้ตัว ได้ยินเสียงลั่นเปรี๊ยะในหัวก่อนที่ปากจะประกบกันแน่น
ปากบางที่เย็นเฉียบกลับร้อนระอุขึ้นอย่างรวดเร็ว แจ็คเบียดปากนุ่มชื้นแรงขึ้น ปลายลิ้นสอดไล้เข้าไปและดันแนวฟันขาวออก ลิ้นร้อนตวัดโอบรัดลิ้นนุ่มไว้แน่น ได้ยินเสียงครางแผ่วแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงใคร มือนุ่มเย็นวางมาบนอกแผ่วเบา
แจ็คเลื่อนตัวเข้าโอบรัดร่างบอบบางนั้นไว้ในอ้อมแขน เนื้อผ้าที่กางกั้นบางเบาจนสัมผัสได้ถึงผิวตึงแน่นใต้เสื้อ เสียงหัวใจของเขาและร่างในอ้อมแขนแข่งกันเต้นระรัว แจ็คดันร่างบางลงกับพื้น ปากยังประกบแน่นไม่คลาย ในอกระอุร้อนด้วยเพลิงปรารถนา ลิ้นนุ่มๆเป็นฝ่ายหดหนี แจ็คควานตามติดแต่ปากนุ่มเบี่ยงหลุดไปเสียก่อน
ไนท์เบี่ยงหน้าไปด้านข้าง...แก้มเนียนใสแดงระเรื่อ...ทรวงอกสะท้อนขึ้นลง ด้วยแรงหอบหายใจ ทรายเปียกๆติดผมสีน้ำผึ้งเต็มไปหมด
“พระเจ้า…” แจ็คครางแผ่วหวิว...หนาววาบตลอดสันหลัง ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะกล้าทำอย่างนี้...กับคนที่เจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง มิหนำซ้ำยังเป็นลูกค้าของโรงแรมเสียอีก ไนท์พยายามจะลุกขึ้นแต่ติดที่ร่างหนากว่ายังทาบทับอยู่ ตาคมเหลือบมองสบมาทำให้ความคิดที่จะลุกขึ้นของแจ็คหายไป ชายหนุ่มก้มลงไปใหม่
“…แจ็ค…”เสียงกระซิบแผ่วๆสะเทือนไปทั้งสมอง แจ็คได้สติรีบผุดลุกขึ้นและเหนี่ยวร่างบางขึ้นมาด้วย ไนท์ปัดทรายออกจากตัวก่อนจะหันไปคว้ากระดานเดินหนี
แจ็คใจหายวูบ…รู้สึกว่าหากเขาไม่ทำอะไรสักอย่างเขาจะไม่มีโอกาสเจอไนท์อีก ชายหนุ่มตามไปฉวยแขนเรียวไว้แน่น ไนท์หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
“คุณไนท์ ผมขอโทษ…คุณคงรังเกียจที่ผมทำอย่างนี้ แต่ผม...ไม่ได้ตั้งใจจะให้มัน...เกินเลยมาอย่างนี้”
คำอธิบายนั้นกลับทำให้ไนท์ใจขุ่นวูบขึ้นทันที
“ไม่ได้ตั้งใจหรือคิดว่านี่เป็นค่าตอบแทนที่เคยช่วยชีวิตผม?...” น้ำเสียงเยาะหยันกับสายตาของไนท์ทำให้แจ็คใจเสีย
“ไม่ใช่นะครับ!” แจ็คปฏิเสธเสียงดังจนแทบเป็นตะโกนด้วยความตกใจ
“ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น...ผม...เอ่อ...” แจ็คอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะพูดยังไงให้อีกฝ่ายไม่รังเกียจเขาไปมากกว่านี้ นึกเกลียดตัวเองที่ขาดความยับยั้งชั่งใจ
“ผมทราบว่าคุณโกรธ...แต่อย่าถึงกับเกลียดผมเลยนะครับ ยกโทษให้ผมสักครั้ง…ได้ไหมครับ?” สีหน้าเย็นชาของไนท์ทำให้แจ็ครู้สึกหมดหวัง แต่เขาก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไนท์จบลงแบบนี้
“ผม…ผมจะได้เจอคุณอีกไหม?” แจ็คคิดว่าเป็นคำพูดที่ไม่เข้าท่าที่สุด แต่เขานึกไม่ออกว่าเขาควรพูดยังไง ไนท์เบือนหน้าไปมองทะเลเฉย
“เจอเพื่อถูกคุณทำอย่างนี้อีกเหรอ?…ไม่ดีกว่า”ดวงตาคมดุเหลือบมองมือที่ยึดข้อมือบางแน่น แต่แจ็คไม่ยอมปล่อย
“ผมสัญญาว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก จริงๆนะครับ…มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกแน่ๆ” แจ็คละลำละลักจนทุเรศตัวเอง แต่เขากลัวจะไม่ได้เจอไนท์มากกว่าจะมัววางมาดอยู่
แจ็คจำต้องปล่อยเมื่อไนท์ดึงมือออก ทันทีที่เขาคลายอุ้งมือรอยแดงก็ปรากฏที่ข้อมือขาว
“แน่ใจเหรอ?”ไนท์ถามเบาๆ แต่ดวงตาเป็นประกายแปลกๆ
“ครับ” แจ็ครับคำหนักแน่น สีหน้าแว่วตาเข้มขึ้นด้วยความจริงจัง ไนท์มองนิ่งอยู่นานก่อนจะพยักหน้าช้าๆ
“ก็แล้วแต่โชคชะตาแล้วกัน ผมอาจไม่ต้องเจอกับคุณอีกเลยหรือเราอาจจะเจอกันเร็วกว่าที่คุณคิดก็ได้” ไนท์เอ่ยขึ้นลอยๆแล้วหมุนตัวจากไปเงียบๆ
แจ็คได้มองตามจนลับตา ชายหนุ่มกลับที่พักอย่างละห้อยละเหี่ย ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะไร้สติได้ถึงขนาดนั้น ชายหนุ่มตัดสินใจไปทำงานแทนที่จะหยุดพักผ่อน อย่างน้อยเขาได้คุยกับเพื่อนๆบ้างก็ยังดีกว่าที่อยู่คนเดียวหรืออาจจะโชคดีได้เจอไนท์…………
ขอบคุณมากคะ