Imprison 37: หลงกล/ผิดพลาด/คาดไม่ถึง
นี่มันอะไรกัน..?...
ผมตัวเย็นวาบ ความกล้าที่เคยมาเหมือนจะลดฮวบฮาบทันทีที่ได้เข้ามาในที่แห่งนี้ เรือนจำพิเศษของนักโทษที่มีอิทธิพลตัวเป้งในคุก บรรยากาศไม่หมือนที่ไหนที่ผมได้สัมผัสไม่มีเสียงหัวเราะหรือตะโกนโหวกเหวกใส่กัน มีเพียงเสียงพึมพำพูดคุยกันดังออกมาเบาๆ แต่ไม่รู้...ว่าคนพูดคือใคร บรรยากาศในห้องขัง ทันทีที่ผมก้าวเข้ามา สิ่งที่สัมผัสได้คือความเย็นยะเยือก ทั้งที่ห้องขังดูสะอาดน่าอยู่ แต่ความเย็นจากสายตาที่จ้องมองมาของผู้คนโดยรอบนั้นเหมือนจะกลบความน่าอยู่ของสถานที่ได้เสียสนิท
ภาพของเรือนที่พักหรูหรา มีห้องออกกำลังกายในร่มและโรงอาหารสะอาดสะอ้านดูดีห้องพักขนาดกลางที่มีเตียงและห้องน้ำในตัว บางห้องมีคนนั่งทำอะไรอยู่เงียบๆคนเดียวด้วยท่าทีเคร่งขรึม..บางห้องก็ว่างเปล่ามีเพียงเครื่องตกแต่งที่ดูดีเกินกว่าจะเป็นระดับเดียวกันกับเหล่านักโทษทั่วไปไม่ได้ทำให้มันน่าอยู่ หรือน่ามองขึ้นเลย..
ผมเดินตามหลังพี่โตมาเงียบๆไม่มีปากเสียง สายตาไม่กล้าแม้แต่จะหลุกหลิก ได้แต่ก้มต่ำลงมองพื้นคอนกรีตอยู่แบบนั้น..
เสียงลากโซ่ตรวนดังขึ้นมาเบาๆผสานกับเสียงพูดคุนหึ่งๆเหมือนผึ้งยามที่ก้าวเข้าไปในห้องพักทำให้ผมตัวแข็งทื่อ ความกลัวเล่นงานประสาทสัมผัสจนหนาวสันหลังเยือก...ผมรู้สึกว่าตัวสั่น..ทั้งๆที่ไม่มีใครพูดหรือทำอะไรผมสักนิด..
แต่ผิวเนื้ออุ่นจัดที่บีบกุมฝ่ามืออันเย็นเฉียบของผม ทำให้ผมเงยหน้าไปมองแผ่นหลังกว้าง หัวใจที่สั่นไหวด้วยความกลัวพลันชะงักด้วยความประหลาดใจ ขณะที่ก้มมองฝ่าหนาที่เลื่อนจากจับแขน..มาจับมือที่เย็นเฉียบของผมไว้...ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้...
...แต่ที่น่าแปลกใจกว่า..คือหัวใจที่เต้นระรัวด้วยความกลัวกลับสงบลงอย่างประหลาด..
มองฝ่ามือที่กุมมือผมไว้มั่น..ความรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจก็โผล่มาจากไหนไม่รู้...แต่ที่แน่ๆ ทำให้ผมกลับมามีกำลังใจฮึกเฮิมอีกครั้ง..
แม้ว่าที่นี่จะน่ากลัว..เสียงพูดคุยพึมพำกันจะน่าขนลุก..สายโซ่ตรวนที่โผล่ออกมาจากท่อนขาของทุกคนที่ผมเหลือบไปเห็นจะน่ากลัวจนแทบไม่กล้าขยับ..ทั้งบรรยากาศมืดทะมึนที่ไม่น่าอยู่สักนิด..
...แต่ถ้าอยากจะตัดสินอนาคตตัวเอง...ด้วยตัวเองแล้ว...ก็มีแต่จะต้องสู้ล้าฝ่าฝันเรื่องพวกนี้ไปให้ได้..
แกร๊ง...
เสียงเอี้ยดอ้าดของประตูห้องขังที่เปิดอ้าออกทำให้ผมชะงัก ละสายตาจากมือของตัวเองที่ถูกพี่โตจับไว้ ขึ้นมาเงยหน้า มองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมกับพี่โตแทน..
“...มาแล้วเหรอ?..” น้ำเสียงเรียบๆ นั่นดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับสายตาสอดส่องของผู้ชายคนนั้น ทำให้พี่โตปล่อยมือซึ่งกุมมือผมไว้แน่นทันที ผู้ชายคนนั้นเลิกคิ้วขึ้นเชิงล้อเลียน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร..
..และนั่นทำให้ความเย็นวาบของสายตาที่มองมาของผู้คนโดยรอบทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจอีกครั้ง..จนผมอดใจสั่นไม่ได้..
แค่กุมมือไว้ กับถูกปล่อยมือ..มันต่างกันได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย..?..
“..แล้วนี่ใครกัน..” คำถามอีกหนึ่งคำถามถูกส่งมา ทำให้ผมชะงัก ตัวแข็งทื่อ.. มองแผ่นหลังกว้างของพี่โตที่บังผมไว้อย่างหวั่นๆ..
“..เด็กมันอยากเจอน่ะ..ป๋า..” คำพูดนั้นทำให้ผมชะงัก เงยหน้าขึ้นไปสบมองแววตาของผู้ชายที่พี่โตเรียกว่า”ป๋า” อย่างลืมตัว..
ผู้ชายคนนั้นชะงัก กับสายตาที่พุ่งไปมองของผม แต่เขาก็ยังยิ้มระเรื่อยท่าทีไม่ทุกข์ร้อน แม้ว่าการจ้องของผมมันจะเสียมารยาทเอามากๆก็ตามที..
รอยยิ้มของเขายังกว้างและน่ามองอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าจะเจอกับสายตาเสียมารยาทของผมเข้าไปเต็มเปา ใบหน้าของผู้ชายที่ดูท่าจะอายุประมาณสี่สิบต้นๆนั้นก็ยังระรื่นผ่องใส แววตาที่เหมือนจะเอ็นดูมองมาที่ผมฉายแววเฉลียวฉลาดและรู้ทัน ผู้ชายคนนั้นยิ้มให้ผมน้อยๆ..ยามที่เอื้อมมือมาลูบผมบนหัวผมเบาๆ..
..นั่นทำให้ผมกล้าพอจะขยับตัวออกมาจากหลังพี่โต แม้จะรู้สึกถึงอาการกระวนกระวายของคนข้างหลัง..แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร..
“..เด็กคนนี้เหรอ?..ท่าทางออกจะว่าง่าย...” รอยยิ้มบางๆที่ส่งมาให้ ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบไป แม้สำนึกจะเตือนว่าชายคนนี้คือคนที่สั่งการให้ผมไปทำเรื่องบ้าๆที่ผมต้องทุกข์ใจอยู่ทุกวันนี้ แต่เพราะท่าทางแบบนั้น มันเลยทำให้ผม..รู้สึกว่าคนๆนี้เป็นคนที่น่าคบหา..อย่างน้อยก็เพราะรอยยิ้มของเขา..
..นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ใครๆก็ว่าผม”อ่อน”เกินไป..
เชื่อคนเพราะรอยยิ้ม ไว้ใจเพราะท่าทีเป็นมิตร..โดยไม่สามารถมองให้ถึงตัวตนที่แท้จริงของคนๆนั้นได้เลย..
แปล๊บ !!
“..แต่ทำไมถึงดื้อด้านแบบนี้ก็ไม่รู้ !!! “
“อึก.....”ผมสะดุ้งเฮือก เม้มปากแน่น เมื่อน้ำเสียงเข้มๆเค้นออกมาพร้อมกับอาการเจ็บแปลบที่บริเวณโคนผมซึ่งเมื่อครู่ยังถูกลูบเบาๆอย่างอาดูรเหมือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก แต่ตอนนี้มันกลับถูกกระชาก กำแน่นราวกับคนทำเกลียดผมนักหนา..
“..เอ่อ...ป๋า.....” พี่โตชะงัก สีหน้าเลิ่กลั่นเมื่อมองเห็นฝ่ามือที่กำกระชากเส้นผมของผม แม้ว่าผมจะเป็นนักโทษ ที่มีผม”เกรียน”อยู่ตลอดเวลา แต่ไอ้การตัดผมสามเดือนครั้งน่ะ มันก็ทำให้ผมยาวขึ้นมามากพอที่จะโดนจิกโดนทึ้งได้เหมือนกัน..
สีหน้าพี่โตดูจะลำบากใจอย่างเห็บได้ชัด คงเพราะไม่รู้จะเข้าข้างใคร จะช่วยหรือสนับสนุนฝ่ายไหน..ไม่สิ ไอ้การสนับสนุนฝ่ายไหนน่ะ ก็รู้กันแน่ๆอยู่แล้ว กับลูกน้องดีเด่นแบบนั้น จะมาสงสารหรือคิดจะช่วยผมได้ยังไง
“..หือ?..ทำอะไรกันเหรอ?...” เสียงเย็นๆของใครสักคนข้างหลังผมดังขึ้นมาพร้อมกับมือที่วางลงบนไหล่ผมทำให้ตัวเย็นวาบ ฝ่ามือที่กำเส้นผมแน่นผละออกมา พร้อมกับใบหน้ายิ้มระเรื่อยนั้นจ้องมอง..คนที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังผม?..
“...มาพอดีเลย...” ป๋า บอกด้วยรอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ผมไม่นึกดีใจเอาเสียเลย เพราะเขาส่งยิ้มนั้นไปให้คนข้างหลังผม ซึ่งอาจจะบอกได้โดยนัยว่าเป็นฝ่ายดียวกัน..
..ซึ่ง...อาจจะมีความโหดแบบเดียวกัน..
“...เอ่อ..ผะ..... “ เสียงเรียกเบาๆจากพี่โตพร้อมกับสีหน้าเหยซีดปนลำบากใจเล็กๆนั่น ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าคนข้างหลังจะเป็นใคร แต่ไม่ทันทำอะไร มือหนาของชายข้างหลังก็วางบนไหล่ผมเบาๆ..
“..หนุ่มน้อยคนนี้มาทำอะไรตรงนี้ล่ะ..” ถามด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ พร้อมกับใบหน้าที่ชะโงกมาใกล้..ใกล้จนผมผงะออกมาแทบไม่ทัน ในเมื่อมันแทบจะชนจมูกผมอยู่แล้ว... !!!
“..เหวอ..” ผมอุทานออกมาเบาๆ ผงะออกจนขาพันกันแทบตั้งหลักไม่ทัน ถ้า..ไม่มีมือของผู้ชายคนนั้นมาจับเอาไว้..
“..ระวังหน่อยสิ..” น้ำเสียงนุ่มๆเอ่ยเตือนเบาๆ พร้อมกับใบหน้าที่เผยโฉมให้ผมเห็นชัดถนัดตา..
..ซึ่งมันทำให้ผมเงียบไปพักหนึ่งอย่างคนจนด้วยคำพูด..
ใบหน้าของชายคนนั้นก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร เป็นหน้าตาของชายวัยใกล้เคียงกับป๋า ที่ยืนข้างๆ แต่อะไรบางอย่างบนใบหน้าเขาทำให้ผมรู้สึกทะแม่งๆแปลกๆ ทั้งรอยยิ้มกว้าง ท่าที”ไนซ์” เสียเต็มประดาและ..ดวงตาสีน้ำตาลที่กระตือรือล้นและแฝงแววระยับ..ซึ่ง..ผมสามารถบอกได้ภายในสามวิที่เห็นว่า มันเป็นดวงตาของตาลุงแก่หื่นกามชัดๆ !!
..อย่าคิดว่าผมชอบตั้งอคติหรือมองคนในแง่ร้าย ผมคิดว่าที่ผ่านมา ตัวเองออกจะมองโลกในแง่ดีเกินไปเสียด้วยซ้ำ แต่เคยไหม ที่บางครั้ง เราเจอหน้าใครบางคน ทั้งที่พบเจอเป็นครั้งแรก แต่กลับรู้สึกไม่ชอบมาพากล รู้สึกถึงอันตรายและความไม่มั่นคงของชีวิตทันทีที่คิดจะไปเกี่ยวข้องหรืออยู่ใกล้คนๆนั้น..
...ซึ่งตอนนี้ ผมกำลังรู้สึกแบบนั้น..กับ..ผู้ชายคนนี้..และมันรุนแรงเสียจนต้องแอบหลบเข้าไปในหลืบหลังพี่โตอีกครั้ง พร้อมกับกำเสื้อสีกากีแน่นอย่างหาที่พึ่ง..
...แม้ผมจะรู้อยู่แก่ใจก็เถอะ ว่าตอนนี้ ไม่สามารถพึ่งพาใครได้..
“..อ้าว.ทำไมทำท่าแบบนั้นซะล่ะ...ดูเหมือนเด็กน้อยหลบหลังพี่ชายเลยน้า ~ “ ผู้ชายคนนั้นพูดยิ้มๆ ก่อนดวงตาพราวระยับจะหรี่ลง “..หรือหลบหลัง”คนรัก” กันล่ะ.. “
“..อ่ะ...” ผมละมืออกจากเสื้อสีกากีผละออกจากหลังพี่โตพร้อมกับส่ายหัววืด ขยับห่างจากร่างสูงใหญ่ของคนข้างกายทันทีเมื่อได้ยินข้อกล่าวหาที่อาจทำให้คนข้างๆนึกเคืองโกรธขึ้นมา..
“..........” แต่พี่โตกลับมองมาที่ผมเงียบๆ..โดยไม่มีคำพูดใด..
“...อ้าว?...ไม่ใช่เหรอ..” ผู้ชายคนนั้นยิ้มบางๆพลางยักไหล่ “..นึกว่าที่ใจอ่อนจัดการอะไรไม่ได้อยู่ทุกวันนี้ จะเป็นเพราะ..เด็กคนนี้ซะอีก..”
“.............” ผมมองหน้าพี่โตที่นิ่งเงียบ เม้มปากแน่น..กับคำพูดเสียดสีนั้น..มองไปที่ผู้ชายแปลกหน้าสองคน ที่คนหนึ่งมีชื่อเรียกว่า”ป๋า” ส่วนอีกคน..ผมไม่รู้จัก..
..นี่เป็นครั้งแรก..ที่ผมเห็นพี่โตโดนคนอื่นด่า..
และเป็นครั้งแรกอีกเช่นกัน..ที่คนข้างกายผม..ไม่..แม้แต่จะเถียงกลับหรือส่งสายตาจ้องเขม็งกลับคืน..
..ทำได้แค่นิ่งเงียบ..ราวกับคนไม่ได้ยิน..
และนั่น..ทำให้ผมรับรู้ถึงความหนักอึ้งของคำว่า”เจ้านาย”กับลูกน้อง อย่างชัดเจน..
“..แต่ที่บอกให้มาหา..มีแต่แกไม่ใช่เหรอ..โต.. “ ผู้ชายที่ใครก็เรียกว่าป๋า พูดออกมาเบาๆ พลางจ้องผมเงียบๆ “..พาเด็กคนนี้มาด้วยทำไม?..”
“..เด็กมันอยากเจอน่ะครับ..เลยพามา..” พี่โตเปิดปากพูดเรียบๆ..
“..แค่นั้น..?..ตอนนี้ฉันกลายเป็นพวก”สัตว์” ในกรงไปซะแล้วเหรอ..ที่ใครอยากดูก็ร้องขอมาดูง่ายๆน่ะ...?” ผู้ชายอีกคนเอ่ยปากพูด พลางใช้สายตาจ้องเขม็งไปทางพี่โตที่มองกลับด้วยแววตาเรียบสงบ..คล้ายจะไม่โกรธ..คล้ายจะไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดนั้น..
...แต่จะเป็นไปได้เหรอ..เมื่อผม..ที่แค่ยืนเงียบๆ..ฟัง..ก็ยังรู้สึกร้อนรนและเจ็บแสบ..
“...ขอโทษครับ...แต่...”
“..พอ...มีอะไรไปคุยกันที่อื่น..” “ป๋า” ตัดบทเรียบๆ ไม่สนใจคำขอโทษขอโพยของพี่โต...ทั้งที่ผมยืนฟังแล้วยังอึ้งกับคำของโทษที่แทบไม่เคยได้ยินจากปาก แต่คนๆนี้กลับปัดทิ้งไปง่ายเหมือนมันไร้ค่าซะเต็มประดา..
“.......” พี่โตพยักหน้ารับ ทำท่าเหมือนจะเดินตามหลังป๋าไป..แต่คนที่เดินนำชะงัก..หันมามองหน้าผม..
“..ให้เด็กนี่ไปกับผู้พันแล้วกัน..”
“.............” ผมชะงัก..ดวงตาเบิกขึ้นเล็กน้อยกับคำพูดนั้น หันไปสบตาพี่โตที่มองหน้ากลับ..แล้วก็ทำได้แค่ถอนใจแล้วพยักหน้ารับ..
...อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง...?..
แล้วผมที่ทำได้แค่เดินตามมา..จะทำอะไรได้..
“..ไปกันๆ... “ ผู้ชายที่ผมรู้แล้วว่ามีชื่อประหลาดๆว่าผู้พันเอามือมาโอบไหล่ผมไว้ด้วยรอยยิ้ม..แต่ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นมันแลดูสยองพองขนยังไงชอบกล.. เขาพาผมเดินห่างออกจากพี่โตและผู้พันที่เดินไปอีกทางหนึ่ง..โดยที่คนตัวโตนั่นไม่มีแม้กระทั่งสายตามองกลับมาสักนิด..
..จนชักจะหงุดหงิดทะแม่งๆ..
แต่ก่อนอื่น...
ผมก้าวเท้าตาม”ผู้พัน” ที่โอบไหล่ผมไปพลางยิ้มร่าไปพลาง พาให้เดินลึกเข้าไปในห้องขังที่แบ่งได้สัดส่วน เดินไปเรื่อยๆยังสุดทางเดิน และเดินเข้าไปในห้องขังสะอาดสะอ้านเต็มไปด้วยข้าวของอำนวยความสะดวก มีผู้คุมยืนประจำอยู่..แต่เขาก็มองหน้าผมแค่แว้บเดียวแล้วเมินไปไม่สนใจ..เหมือนกับว่าผมไม่ใช่คนนอก(หรืออย่างน้อยก็นักโทษคนละแดน)ที่ไม่สามารถย่างเท้าเข้าไปนั่งนอนเดินยืนหรือทำกิจกรรมอะไรก็ตามในห้องขังของนักโทษรายอื่นได้ทั้งนั้น..
ผมกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง..เมื่อมองเห็นท่าทีเริงร่าเกินพิกัดของ”ผู้พัน” คนนั้น...แต่ก็ได้แต่สูดหายใจลึก..เดินเข้าไปเงียบๆ..เพราะสำหรับผม..ก็ไม่ได้มีทางเลือกอะไรให้ตั้งแต่แรกแล้ว..
...ที่ทำได้ ก็แค่เผชิญกับมันตรงๆ..
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
“..อะไรกันนักกันหนาน่ะ..ช่วงนี้...” เสียบ่นพึมพำลอยๆเหมือนรำคาญนั่นทำให้โตหันไปมองสบตาชายผู้ได้ชื่อว่าเป็น”นาย” ป๋าของเขานั่งเอนๆอยู่ในห้องขัง..ที่เปิดประตูอ้าไว้..แต่เขาไม่คิดจะเปิดเข้าไป..หรือไปนั่งอยู่ในนั้น..
“.ขอโทษครับ..” โตก้มหัวขอโทษอีกรอบ ได้ยินเพียงเสียงบ่นครางงึมงำตามมาเหมือนรำคาญของ”ป๋า”ชายวัยกลางคนหันมามองสบตาเขา..แล้วถอนใจพรู..
“..รู้มั้ยช่วงนี้กูอับอายชิบหาย..”
“............”
“..เด็กคนเดียวก็จัดการไม่ได้..แล้วลูกน้องยังจะมาก่อนเรื่องซ้อนๆสองสามเรื่องติดกันอีก..แล้วนี่มึงยังพาไอ้เด็กนั่นมาด้วย..คิดอะไรกัน..แบบนี้จะไม่ให้กุหงุดหงิดได้ไง..” เสียงบ่นด่าหงุดหงิดของ”ป๋า” ทำให่ชายหนุ่มทำได้เพียงนิ่งเงียบฟัง..ก็พอรู้อยู่หรอกว่ามันน่าหงุดหงิดแค่ไหน ในเมื่อคนรับหน้าทุกอย่างแบบเขา รู้เรื่องทุกอย่างและอยู่ในเหตุการณ์แทบทุกเหตุการณ์ยังรู้สึกว่ามันน่าปวดหัวและควบคุมไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนเป็นเจ้านายแบบนี้..
“...ขอโทษครับ..แล้วผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย..” โตบอกเรียบๆ..นึกโมโหตัวเองที่ไม่รู้เมาหรือบ้าไปกินอะไรเข้า ถึงได้ทำให้เขาใจอ่อน พาไอ้ตัวปัญหามาที่นี่..แล้วนี่ถ้ามันเพิ่มเรื่องปวดหัวให้อีกล่ะก็...
“...เรื่องไอ้วิทย์... “ ชายวัยกลางคนถามออกมาเบาๆ..สายตาจับจ้องไปยังลูกน้องที่นั่งขัดสมาธิอยู่นอกขอบประตูห้องขัง..
“...มันสั่งจัดการไอ้นพแล้วครับ..” โตตอบเบาๆ..ตอบ..ในเรื่องที่เขาพอจะตอบให้ได้..
“..แล้วเกิดอะไรขึ้นกับมัน?..” แต่เหมือนผู้เป็นเจ้านายจะไม่ได้อยากรู้แค่นั้น..
“...มัน...มีเรื่องกับไอ้กันย์ครับ..” โตพยายามเลือกบอกในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย “ ..แล้วไอ้นพมันทำท่าเหมือนจะแปรพักต์..ก็เลย...”
“...หือ?..แบบนั้นเหรอ?..” เสียงถามเบาๆ..พร้อมกับเอนตัวพิงผนังห้องของป๋า..ดูเหมือนจะไม่เชื่ออย่างที่ฟัง..นัยน์ตาวาววับฉลาดทันคนคู่นั้นจ้องมองสบมาตรงๆ..บ่งชัดว่าไม่เชื่อ..
“.............” โตเงียบ..ไม่ได้จ้องสบตาคู่นั้น..ขณะเดียวกัน..ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก..
“..ถึงที่กูได้ยินมามันจะไม่ใช่แบบนั้น..ที่กูรู้..จะเป็นเรื่องอื่น..ที่มากกว่า..แต่.ก็ตามใจ ถ้ามึงไม่อยากบอก..”
“...ผม...”
“..เรื่องไอ้วิทย์จบ..ให้มันเคลียร์หาทางออกให้ตัวเองให้ได้แล้วกัน..ไม่ได้ก็อย่าเอาหน้ามาให้กูเห็นอีก..”
“..ครับ..ผมจะบอกมันแบบนั้น..” โตรับคำเบาๆ..ดีใจที่อย่างน้อย..เพื่อนของเขาก็ยังมีทางรอด..
“..แล้วไอ้เด็กที่แกพาล่ะ..ยังไง..หรือมันพอใจจะอยู่กับผู้พันแล้ว..?” นั่นเป็นคำถาม..ที่คนฟังก็ยังไม่รู้ ว่ามันจะตอบออกมายังไง..
“..ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน..ที่จริงแล้วมันอยากมาเจอ..อยากมาคุยกับป๋าสักหน่อย..”
“..งั้นเหรอ?....แล้วคิดว่ามันจะมาถามชั้นรื่องอะไร?..คิดว่ามันจะทำอะไรได้?..” ชายนามว่า”ป๋า” ขยับรอยยิ้เมพร้อมกับจ้องมองใบหน้าของลูกน้องที่มีท่าทีกระอักกระอ่วน..
“...แต่ยังไง..ก็ควรจะให้โอกาสกับคนที่อยากลองดิ้นรนดูไม่ใช่รึไง?..”เพียงครู่เดียว..ก่อนที่ใบหน้าของมันจะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม..ที่ทำให้คนมองต้องขยับรอยยิ้มตาม..
“..ฮ่าๆ...นึกว่าแกจะเอาความคิดแปลกๆของไอ้เด็กนั่นมาใส่หัวซะอีก..ที่แท้ก็แค่นึกสนุก..” ชายวัยกลางคนเอ่ยยยิ้มๆพลางยิ้มออกมาอย่างหมายมาด..
“..แต่ยังไง..แค่มันได้เจอผู้พัน..นั่นก็พอแล้วล่ะมั้ง..”
“..เอ๋?...”
“..ท่าทางแกจะถูกใจเด็กนั่นน่ะ..มันคงไม่ต้องทำงานแล้วล่ะ..แค่หมั่นมาหาเค้าก็พอ..” คนพูดหัวเราะออกมาเบาๆด้วยดวงตาพราวระยับ..ซึ่งทำให้คนมอง ทำได้แค่ขยับรอยยิ้มฝืดๆ..
...เพียงแค่นึกถึงชะตากรรม ของคนที่ถูกใจป๋า..และสิ่งที่คนๆนั้นจะได้เจอ..
...ก็เพราะถูกใจไม่ใช่เหรอ..ถึงทำไอ้เมฆและไอ้วิทย์ต้องเจอกับเรื่องบ้าๆทั้งหลายแหล่..
“..แต่ทำไม?..ช่วงนี้แกถึงทำอะไรผิดๆ..พลาดๆ..ตลอดได้ล่ะ..” คำถามที่เชาไม่อยากเจอ..ดังขึ้นพร้อมกับแววตาเรียบเฉยจากคนถาม..แววตา..ที่โตรู้ ว่ามันเอาจริง..และ..ไม่เปิดโอกาสให้ท้าทาย..
“.......”
“..ทั้งเรื่องไอ้วิทย์..เรื่องไอ้เมฆ ..แล้วยังไอ้เด็กคนนั้น..” “ป๋า” เอ่ยพลางจ้องมองสบตาชายที่นิ่งเงียบ.. “..ตัวแก..ที่บอกว่าจะทำทุกอย่างให้ดี..และ..ไม่มีข้อผิดพลาด..ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นเสมอมา แล้วพอถึงคราวพลาดขึ้นมา ทำไมมันถึงได้ลุกลามและ..เละเทะได้ขนาดนี้..”
“..............” ชายผู้ถูกประณามยังเงียบ..และนั่นทำให้โทสะของผู้พูดทุเลาลง..แต่ก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น..
“..หรือแกจะ..แก่..และไร้น้ำยาจนไม่อาจจะจัดการอะไรได้อีกแล้ว..ให้เด็กใหม่ๆของฉันได้แสดงฝีมือบ้างดีไหม?..”
“..ผมจะทำงานทั้งหมดให้เรียบร้อยเร็วที่สุด..” โตบอกออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น..ทุกครา น้ำเสียงแบบนี้ ทำให้คนฟังเชื่อมั่นได้เสมอ..แต่คราวนี้..ไม่แน่ใจว่ามันเป็นแบบนั้นอีกหรือไม่..
“..เร็วที่สุดเหรอ?..” คนฟังหัวเราะรับเบาๆ..แต่แววตาของ”ป๋า”กลับวาววับผิดกัน.. “..เร็วที่สุด..ไม่ใช่เร็วที่สุด..แต่ต้องพรุ่งนี้..แค่พรุ่งนี้เท่านั้น..”
“..หา !! แต่....” โตเบิกตากว้าง อุทานอย่างลืมตัวกับกำหนดการแสนกระชั้นชิดนั่น..มันจะเป็นไปได้ยังไง?..
“..ทำไม?..น้อยไป..ทำไม่ได้..?..หรือแกจะให้พวกเด็กใหม่ไปจัดการแทนล่ะ..” ชายผู้สั่งการขยับรอยยิ้มเย็น..มองสบตาลูกน้องมือดีของตนด้วยรอยยิ้ม..ที่สงบนิ่งไม่หวั่นไหว..
“..แล้วเรื่อง....”
“..ไอ้เด็กนั่นให้ผู้พันจัดการ..ไม่ต้องรออะไรแล้ว ที่แกจะทำมีแค่เอาตัวมันมาให้ผู้พันก็พอ..” “เจ้านาย” สั่งการออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนหนัก เริ่มแสดงถึงความไม่พอใจ..เมื่อเห็นว่ายังไม่มีการยืนยัน..รับคำ จากคนของตนเช่นทุกคราที่สั่ง..
โตนิ่ง..มองหน้า”ป๋า” ลึกพี่ที่ตนเองเคารพและคอยทำตามคำสั่ง เขาเชื่อมาตลอดว่าการทำตามคำสั่งของคนๆนี้จะทำให้เขาและพรรคพวกสามารถใช้ชีวิตในเรือนจำแห่งนี้ได้อย่างไม่ลพบาก มันก็เป็นเช่นนั้น..แต่ทว่า..ทำไม..ในครั้งนี้ เขากลับรู้สึกอยากต่อต้านและไม่ทำตามคำสั่งนั้นเสียเหลือเกิน..
..แต่ทว่า..ช่ายหนุ่มก็รู้ดี..ว่าทางเลือกของเขา..ก็ใช่จะมีอยู่มาก..
ลมหายใจพรูดออกจากจมูกเบาๆ....ดวงตาเข้มแข็งมองสบผู้เป็นนายอีกครั้ง พร้อมกับรับคำหนักแน่น..
“..ทุกอย่างจะเรียบร้อยตามที่สั่งครับ..”
“..ดี...ต้องแบบนี้สิ..” เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ผู้ฟังก็ยิ้มรับ “ อย่าให้ฉันต้องโมโหเลยจะได้ไหม..พอโมโหหงุดหงิดแล้วมันจะชอบพาลไปทั่ว..ไม่ดีเลยเนอะ..แบบนี้..”
“...........” โตเพียงแต่ขยับยิ้มรับโดยไร้เสียง..รอยยิ้มชืดๆถูกส่งไปเพียงเพื่อเอาใจเจ้านายเท่านั้น..ใช่จะไม่รู้ว่าเหยื่อของอารมณ์”พาล”หรือ”หงุดหงิด”ของเจ้านาย ใช่จะเป็นใคร นอกจากต้นเหตุของความผิดพลาด..และต้นเหตุของความหงุดหงิดเช่นตัวเขา..
“..ส่วนเรื่องเด็กนั่นไม่ต้องคิดมาก..ผู้พันแกเล่นของแกไม่นานหรอก เดี๋ยวก็ปล่อย ถ้าแกชอบก็รอได้ไม่ใช่รึ..”
“..หา?..ใครชอบ..” โตชะงักหน้านิ่ว กับคำพูดนั้น..
“..แต่นึกว่าแกจะชอบมันซะอีก..เห็นเขาลือกันว่าท่าทางประหลาดๆ..” ป๋าแซวออกมาพร้อมกับจ้องหน้าลูกน้องตัวเองที่ชักสีหน้าเหย..
“..อย่ามาชักนำหน่อยเลย..” โตบ่นงึมงำ มองหน้าเจ้านายของตนที่ขยับกายลุกขึ้น แสดงให้เห็นว่าหมดเรื่องจะสนทนาด้วย..นั่นทำให้เขาต้องลุกตามพร้อมกันกับที่..ร่างของชายตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้..และแตะฝ่ามือลงบนไหล่เบาๆ..
“..แต่ไอ้การทำงานพลาดบ่อยๆ..มันก็ไม่ดีน่ะ..รู้มั้ย..?..”
..คำพูดนั้นทำให้ผู้ฟังตัวแข็งทื่อ..
“...แต่ยังไง..แกก็จะได้รับในสิ่งที่สมควรได้แล้วล่ะ..”
สบมองรอยยิ้มเยื้อนที่ดูไม่น่าไว้วางใจสักนิดของชายตรงหน้า แม้จะรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ..แต่โตก็ไม่มีโอกาสสงสัยอะไรได้นาน เมื่อถูกรุนหลังให้เดินไปพร้อมกับตำสั่งที่บอกให้ไปหาเจ้าคนที่เขาพามาด้วย..ชายหนุ่มเดินไปหาห้องของ”ผู้พัน” ตามที่ได้ฟังมา โดยไม่ทันได้มองเห็นรอยยิ้มบางๆ..จุดขึ้นบนริมฝีปากของ”ป๋า” ที่ยืนมองอยู่เบื้องหลังเลย..
...ถ้าเขาเห็น..บางที เขาอาจจะนึกระวังตัว..
แต่ถึงเห็น..ถึงจะระวังตัว..ผลของมันอาจไม่ต่างกัน..
เมื่อเขาเดินมาหาไอ้เด็กโง่คนนั้น เจ้าคนที่ก้มหน้าต่ำเดินออกมาเงียบๆจากห้องขังของชายที่ทุกคนนึกหวั่น เขายกมือแตะแขนมันเบาๆ..และได้สบมองแววตาแข็งกร้าวก็จ้องมองมา
...พร้อมๆกับความรู้สึกเจ็บแปลบที่แผ่ซ่านทั่วกาย และหยดเลือดที่กระเซ็นมาโดนใบหน้าของเขา..เจ้าตัว..เงยหน้ามามองสบตา..ด้วยดวงตาวาววับ..และคำพูดเบาๆ..ที่เค้นออกมาจากปาก..
“..สาสมแล้วนี่...กับเรื่องที่พี่เคยทำกับผม..” .
.และเบื้องหลังเจ้าเด็กโง่คนนั้น...ก็คือร่างของ”ผู้พัน” ที่ยืนพิงประตูห้องขังด้วยรอยยิ้มสบายอารมณ์..
..หัวสมองมึนงง..บอกได้อย่างเดียว..กับสิ่งที่คนตรงหน้าแสดงออก..
...ทรยศ...?..
ไม่สิ..อาจจะเป็น..
แก้แค้น..
..กับสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับมัน..
แล้วใครกันน่ะ..ที่บอกว่ามันโง่เกินไป..ที่จะเคืองแค้นหรือทรยศคนอื่นเป็น..
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
คึหึหึหึ หัวเราะสับปะรดแล้วเดินจากไปเงียบๆ..
.....ทูบีคอนตินิ้วววววว..
