สิ้นคำพูดนั้นร่างของผมก็ถูกกระชากกระแทกกับผนังอย่างรุนแรง แผ่นหลังสัมผัสผนังซีเมนต์แข็งกระด้างเสียดผิวพลังสะดุ้งเฮือกเมื่อริมฝีปากของพี่โตทาบทับลงมา เบียดชิดอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับรสเค็มๆและกลิ่นคาวของเลือดที่กระจายอวลในโพรงปาก สัมผัสที่ได้ไม่ใช่ความนุ่มนวลหรืออ่อนหวานเช่นเคยเป็น ไม่ใช่แม้กระทั่งจูบเอาแต่ใจแบบออดอ้อนนั้น แต่เป็นจูบที่รุนแรง จูบเพื่อระบายความใคร่และด้วยความเคืองโกรธ ผิดหวังสาดเทลงบนร่างให้ผมสัมผัสมันด้วยหัวใจที่ขื่นขม..
เสียงฟ้าร้องครืนครางและลมพายุเบื้องนอกยังดังมาไม่ขาดสาย สายฟ้าแลบแปลบเป็นระยะเผยให้เห็นฝ่ามือหนาของพี่โตที่ทาบลงกับร่างของผมแล้วสัมผัสมันอย่างรุนแรง ผมพยายามขยับกายหนีห่างหยายามจะหลีกหนีสัมผัสจาบจ้วงไร้ความรักนั้น ทว่าก็ไม่อาจจะสู้เรี่ยวแรงมหาศาลนั้นได้โดยเฉพาะเมื่อตอนนี้คนทำมีแต่ความโกรธ ยิ่งขัดขืดดิ้นรนร้องห้ามเท่าไหร่มันกลับเป็นการกระตุ้นให้การกระทำรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น กางเกงขาสั้นของผมถูกกระชากลงไปกองบนเข่าร่างของผมถูกพลิกให้ไปซบลงกับพื้นซีเมนต์ที่มีแต่เศษฝุ่นหยากไย่แต่เหมือนคนฟังไม่คิดจะสน..
"พี่โต..อย่า..อย่า..."ผมร้องห้ามเสียงสั่นเมื่อรู้สึกถึงท่อนกายร้อนผ่าวทาบจ่อลงบนสะโพกด้านหลัง พยายามขยับกายด้วยความหวาดหวั่นกับความเจ็บปวดที่อาจจะตามมา ทว่ากลับถูกฝ่ามือหนาตะครุบปาก ปิดเสียงพูดให้เงียบลงเหลือเพียงเสียงลมฝนและถ้อยคำกระซิบบาดหู..
"หุบปากที่เอาแต่พูดโกหกของมึงไปซะ!" สิ้นคำ ท่อนกายร้อนผ่าวก็เสียดแทรกเข้ามาในกายอย่างรวดเร็ว ร่างของผมะรตุก์อก ความเจ็บแสบและปวดร้าวเข้ารุกเร้าจนขาทั้งสองข้างสั่นสะท้านไหว สัมผัสของเซกส์ที่ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความรักหรือความปราณีทำให้มีแต่ความเจ็บปวดที่แผ่ซ่าน แรงกระแทกรุนแรงสร้างความปวดร้าวทุกครั้งที่ขยับทำให้น้ำตาไหลพรากออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ทว่าพี่โตกลับไม่คิดแม้แต่จะสนใจมัน คนที่กำลังเร่งระบายความต้องการอยู่ด้านหลังทำเพียงหัวเราะเสียงเบาและอุดปากผมแน่นขึ้นเท่านั้น
"จำไว้ว่ามันเป็นเพราะมึง..เพราะมึง!"ถ้อยคำกระซิบห้วนสั้นอย่างเดียจฉันท์แว่วเข้ามาในหูจนผมต้องร้องครางแล้วหันไปมองหน้า..
"หันหลังกลับไป!กูไม่อยากมองหน้ามึง"ก่อจะได้สบตาเสียด้วยซ้ำ ถ้อยคำห้วนๆมาพร้อมกับฝ่ามือหนาที่บีบคางผมแน่นให้หันไปซบหน้าลงกับผนังซีเมนต์ ขณะที่แรงกระแทกที่ยิ่งรุนแรงทำให้ความเจ็บแสบยิ่งมากขึ้นตามตัว คลอเคล้ากับเสียฝนที่สาดกระหน่ำและเสียงหัวเราะของคนที่ผมรักซึ่งทำตัวราวกับปีศาจร้ายเบื้องหน้า
"มึงไม่ต้องกลัวหรอกว่ากูจะไล่มึงไป"ริมฝีปากของพี่โตทาบลงที่ใบหูพร้อมกับปลายฟันขบลงไปจนเจ็บจี๊ด"กูจะล่ามมึงไว้กับกูไม่ให้ไปไหน ให้มึงได้รู้ได้เห็นทุกอย่างที่กูทำแล้วเอาไปรายงานกับไอ้พัศดีนั่นไงล่ะ" น้ำเสียงของคนพูดกร้าวเเข็ง ทั้งห้วนสั้นแฝงความประชดประชันหยามหยันทุกการขยับกาย ทั้งเสียงลมหายใจแรงคลอเคลียอยู่ใกล้ผิวแก้มแสดงถึงอารมณ์ของคนทำที่พุ่งขึ้นสูง กับพี่โตแล้วมันอาจจะมีความสุขหรือใกล้เคียงกับคำนั้น แต่สำหรับผมนั้นไม่ใช่..เพราะมันมีเพียงความเจ็บปวดรวดร้าวและขมขื่นเท่านั้น...
น้ำตาของผมไหลอาบผิวแก้มอยู่อย่างนั้นเงียบๆขณะที่เสียงสะอื้นสั่นกระตุกเหลืออยู่ในลำคอเพียงแผ่วเบา ได้แค่ซบหน้าลงกับผนังที่เต็มไปด้วยหยากไย่เบื้องหน้าแล้วหลับตาลงช้าๆ..ราวกับยอมรับถึงเรื่องราวที่ต้องเป็นไปด้วยหัวใจที่รวดร้าว บอบช้ำ แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้..
จะวอนขอให้เห็นใจ จะพูดอะไรให้ยอมรับหรือลดโทษทัณฑ์ของตัวเองก็คงไม่มีทางเป็นผล
....โทษที่สาสมแล้วสำหรับคนทรยศ....
ผมกลืนก้อนแข็งๆที่จุกอยู่ในลำคออย่างยากย็นขณะที่ร่างสูงเบื้องหลังกระตุกไหว สัมผัสร้อนผ่าวของน้ำรักรินรดเปื้อนในร่างผสานกับหยดเลือดไหลลงมาอาบท่อนขาอย่างง่ายดายเมื่อพี่โตถอนกายออก พร้อมๆกับอ้อมกอดและฝ่ามือที่แตะต้องนั้นด้วย เพราะไม่มีที่พึ่งใดคอยพยุงหรือรั้งกายทำให้ร่างทรุดฮวบ ซวนเซลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง..
ใบหน้าของพี่โตไม่หันมามองด้วยซ้ำเมื่อผมค่อยๆพยุงตัวให้ลุกขึ้นจากพื้นอย่างเชื่องช้า แข้งขาที่ยังคงสั่นไหวค่อยพยุงกายขึ้นมาอย่างยากเย็นเพื่อจะใส่กางเกงและจัดการตัวเองให้เรียบร้อย แต่พี่โตกลับก้าวขาออกจากซอกอาคารอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับฝ่ามือที่คว้าแขนแล้วออกแรงลากอย่างไม่ปราณีปราศัย..
..ผมยิ้มขื่น..ความรุนแรง..ความชาเฉย คนที่ไม่เคยสนใจหรือคิดถึงกัน คนแบบนั้นที่ผมได้เจอยามมาถึงที่นี่เมื่อสามปีก่อน..ตอนนี้เขากลับมาเป็นแบบเดิมแล้วอย่างนั้นหรือ..
"ดะเดี่ยว..."ผมร้องเรียกพี่โตเบาๆเมื่อเขาทำท่าจะเดินฝ่าฝนออกไป
"........"นอกจากไม่มีคำตอบใดกลับมาแล้ว พี่โตยังคงเดินออกไปเช่นเดิม หากแต่คราวนี้ปล่อยแขนผมลงทันควัน..
"พี่โต..เดี่ยวก่อน..ขาผมมันเปื้อน.."ผมเอยท้วงคนที่ทำท่าจะเดินออกไปเบาๆขณะที่ก้มหน้าก้มตาเช็ดคราบที่ไหลเปื้อนท่อนขาด้วยความอดสู..
"เดินออกไปเดี๋ยวมันก็หายไปเอง.."ริมฝีปากของพี่โตแสยะยิ้มมองมาคล้ายจะหยัน"แต่กูว่าปล่อยให้มันเปื้อนแบบนั้นก็ดีแล้ว มึงจะได้จำไว้เสียบ้างว่าตัวเองมัน"เปื้อน"อะไรไปแค่ไหน!"
คนเอ่ยวาจาเสียดหูหันหลังกลับ เดินก้าวออกไปอย่างไม่แยแส ขณะที่เสียงพูดนั้นซึมซับเข้ามาในสมองของผมอย่างรวดเร็ว และยังคงตกตะกอนทิ้งอยู่อย่างนั้นไม่หายไปไหน ต่อให้มีสายฝนเทลงมารดทั้งตัวไปก็เท่านั้น ล้างไม่หาย เช่นเดียวกับความจริงที่พี่โตพูด..
แสร้งทำเหมือนตัวเองสูงส่ง พูดเหมือนกับตัวเองดีนักหนา มองคนอื่นว่าเลวชั่วทั้งที่ผมก็ไม่ได้ต่างกันเลย..
ผมก็เคยฆ่าคน เคยทำร้ายคนอื่น เคยส่งยา เคยเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้เห็นนพตายไปต่อหน้า..
คนอย่างผมมันไม่ใช่คนดี เป็นคนที่เลวแล้วแปดเปื้อนดินโคลนไปแล้วและตราบาปที่ยังอยู่ในใจก็ไม่มีวันล้างออก...
แข้งขายังคงสั่นไหวยามค่อยพยุงกายจากพื้นเพื่อลุกขึ้นและเดินไปที่โรงอาหาร ท้องร้องโครกครากแต่กลับรู้สึกคลื่นไส้อยากอาเจียนเสียอย่างนั้น สายฝนพร่างพรมลงบนกายขณะที่ก้าวขาออกจากซอกตึกอย่างเชื่องช้า..ผมก้มมองฝ่ามือตัวเองและแตะลงบนรอยช้ำข้างริมฝีปากที่เจ็บแสบ..
ต่อให้นักโทษในนี้เป็นคนเลว ก็ยังไม่มีใครทรยศ ไม่มีใครหักหลังพวกพ้อง..และ...ไม่เคยมีใครหักหลังคนที่ตัวเองรักลง
คนที่คิดว่าตัวเองดี ไอ้คนที่คิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่นแบบผม แท้จริงแล้วเลวกว่าคนที่ผมดูถูกไปนับร้อยเท่าพันเท่า..
ผมพยายามมองฝ่าความมืดมิดไปหาใครหรือแสงไฟที่ไหนสักที่เพื่อนำทางตัวเองได้ก้าวเดิน ทว่าก็ไม่พบสิ่งใดนอกจากความมืด คนที่ผมรักเดินออกไปแล้ว ห่างออกไปพร้อมกับคำพูดที่บอกว่าความสัมพันธ์ของเราจะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก..
..ผมกลายเป็นคนโกหก คนสัปปลับ คนทรยศ คนที่สมควรจะถูกทอดทิ้งและดูแคลน..
..ทั้งที่ทำใจไว้แล้วแต่ผลของมันก็ยังรุนแรงนักจนไม่อาจรับไหว ผมสะอื้นในลำคอพร้อมกับพ่นหัวเราะออกมาราวกับขบขัน ขำกับตัวเองที่ไม่รู้จะตะเกียดตะกาย จะพยายามทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ผมทำแบบนี้ลงไปทำไมกันแน่ ในเมื่อมันไม่เคยมีอะไรดีขึ้น ต่อให้พยายามจะตะกายออกจากหลุมที่ตัวเองตกลงมามากแค่ไหนก็ไร้ผล..มีแต่จะแย่ลง..แย่ลง ก็เท่านั้น..
.............................
Talk เจ้าป้า (

)
กลับมาแล้วค่า(โค้งตัวรับฝ่าตีนคนอ่าน)

หายไปนานมากเลย ไม่รู้จะว่าไงดีแฮะเอาเป็นว่าคุยตอนนี้ก่อน..ว่าด้วยระเบิดนิ้วเคลียร์(เอ่อ...?)พี่โตเอสเอ็ม เฮียจัดให้หลังจากเป็นคนดีมานานจนคนอ่านเริ่มลืมบทโหด อ่ะเหอๆ..
และ...คุยเรื่องที่หายไปนิดหน่อย..
ก่อนอื่นต้องบอว่าขอโทษที่หายไปนานมาก ตอนแรกบอกไว้ว่าของดอัพเดือนนึงแล้วจะมาอัพแบบเต็มที่ แต่ตอนนี้เกือบสองเดือนแล้วปุ้ยเพิ่งโผล่ จะขอโทษยังไงก็คงไม่พอ ทั้งที่นิยายอีกเรื่องอัพจบแล้วแต่ปุ้ยยังไม่ได้มาต่อแบดกายซักที ขอยอมรับตรงๆแล้วกันว่าเพราะเรา"ต่อไม่ติด"นั่นแหละคะ
ไม่รู้ใครจะเคยเป็นกันไหม ไอ้ประเภทที่เปิดหน้ากระดาษออกมาแล้วคิดไม่ออก ไม่สิคิดออกแต่พอเขียนออกมาแล้วมันไม่ได้ มันไม่ใช่ มันไม่สนุก ไม่มีอารมณ์เอาเสียเลย เขียนๆแก้ๆไปก็ไม่ถึงไหน ไปๆมาๆพาลนึกเซ็งกับมันและไม่ยอมเขียน พร้อมๆกับความรู้สึกดำดิ่งประเภทย้ำคิดย้ำทำ เฟลและด่าตัวเองอยู่นั่น.อ่า..เยอะแยะแฮะ (ฮ่าๆ)แต่มันก็ความจริงแหละ ที่ปุ้ยหายไปเพราะมันออกแนวอึนๆตันๆจริงๆเปิดดูทีไรก็คิดไม่ออกและพาลจะนอยไปเรื่อย
ยังไงก็ต้องขอโทษทุกคนจริงๆด้วยคะที่ช้าไปขนาดนี้ แล้วก็ขอบคุณคุณ ISHIYA ที่ออกมาพูดด้วย บอกตามตรงว่าอ่านแล้วไม่ได้โกรธเลยคะ จริงๆอ่านแล้วรู้สึกเห็นด้วยตามที่บอกทกอย่างเลย เพราะไอ้เรามันก็เลทได้น่ากระซวกจริงๆ คอมเมนต์ครั้งนี้เหมือนเป็นการเตือนสติและกระตุ้นปุ้ยได้อย่างดีเลยคะ ทำให้รู้สึกว่าต้องพยายามมากกว่านี้ เพราะมีคนรออยู่และสัญญาไว้แล้ว เราไม่ชอบคนผิดสัญญาคนอื่นก็เหมือนกัน ขอบคุณคุณ ISHIYAมากเลยนะคะ ที่ทำให้ปุ้ยกลับมามีแรงฮึดอีดครั้ง ขอบคุณมากจริงๆรวมถึงทุกคนที่แวะเข้ามาทวงกันด้วย (เหอๆ)เพราะงั้นเค้ามาสามตอนรวดชาบูกลิ่นธูปแล้วเน้ออออ ฮ่าๆ ยังไงก็จะพยายามอัพให้เต็มที่อย่างที่บอกไปนะคะ แต่เรื่องกำหนดการนี่แอบเสียวสันหลังวาบๆ แต่ก็จะพยายามให้ถึงที่สุดจริงๆค่ะ
ปล.ตอนนี้ข้าพเจ้ายังอยู่บนดอยอยู่เลยยังไม่ได้กลับกทม.เวลาจะใช้เน็ตทีก็ต้องไปที่ร้านเพราะงั้นอาจจะมาอัพได้ไม่บ่อย แต่จะมาทีละหลายตอนคะ

ปล.บ้านเค้าหนาวมากกกกกกกกกกกกกกกกก