OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54  (อ่าน 2191046 ครั้ง)

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
มาปูเสื่อรอ...น้องเนมจะมาเเล้วววววว :laugh:

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8

Improbable : 26 โกหก



   "อีกแล้วเหรอ ? " คำถามนั้นดังขึ้นมาจากริมฝีปากของพี่โต ใบหน้าเจื่อนขำ..ทำยิ้มเหมือนไม่มีอะไรแต่ผมรู้ว่าในใจของพี่โตกำลังเคืองขุ่นแค่ไหน..

    "...อืม...ครับ.." ผมได้แต่เพียงรับคำ ร้องรับเบาๆด้วยน้ำเสียงเพลียใจ จ้องมองใบหน้าพี่โตที่ตวัดสายตามามองผมแล้วถอนใจเบาๆ ความห่วงหาและความรักใคร่ในแววตานั้นแสนชัดเจน...ชัด...จนบางครั้งคนมองอย่างผมรู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น..

      "...ระวังตัวนะ " ฝ่ามือใหญ่แสนอบอุ่นวางลงแล้วลูบเบาๆ ส่งผ่านความห่วงหามาให้ ผมสบมองดวงตาที่แสนคุ้นเคยคู่นั้น เอื้อมมือไปกุมมือข้าที่วางลงบนศรีษะของตนเองแล้วยิ้มรับบบางๆ..

      " ผมไปนะ..."


            เอ่ยแล้วก็ลุกขึ้นเดิน..ก้าวออกจากห้องขังที่แสนเคยคุ้น ผ่านร่างของบรรดาพี่ๆ..นักโทษในห้องนอนเดียวกันหันหลังก้าวตามผู้คุมที่เดินนำไปเพื่อพาตัวผมไปตามคำสั่ง..

คำสั่ง...อีกแล้ว...

..อีกแล้ว..อย่างที่พี่โตพูด..

..อีแล้ว ที่ผมต้องไป อีกแล้วที่พี่โตต้องรอ ต้องเป็นห่วง กังวล...และอีกแล้ว...ที่ผมต้องโกหก..

...ผมรู้สึกว่าตอนนี้ ชีวิตตัวเองกำลังวนเวียนอยู่กับคำโกหก

...ผมต้องโกหกพี่โต ว่าพัศดีเรียกไปตรวจสอบ สอบถามเรื่องทั่วไปและพยายามเค้นเอาความจริงเรื่องมือถือเท่านั้น..ไม่มีอะไรมากกว่านี้..

...ผมต้องเกหก...โกหกพัศดี ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีความเคลื่อนไหว ไม่มีใครคิดทำการใดๆ ทั้งสิ้นในแดนนี้..

....และผม...ก็ยังต้องโกหก...โกหกตัวเอง..หลอกตัวเองไปวันๆว่าเรื่องเหล่านี้มันจะจบลงด้วยดี..จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น..ทุกสิ่งที่ผมทำจะประสบผลสำเร็จอย่างที่คาดคิด..

    ทั้งที่ผมก็รู้อยู่แก่ใจ ว่าทุกสิ่งที่เอ่ย ทุกสิ่งที่คิดออกมา มันคือสิ่งที่ไม่มีวันเป็นจริง..

เรื่องราวเคลื่อนไปไกลกว่าที่คิด...และ....ทุกสิ่งมันก็เดินมาไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับ..

ไม่ว่าจะเป็นผม..หรือพี่โตก็ตาม...

   รับปากแล้วไม่ว่ายังไงก็ต้องทำ เดิมพันแล้วไม่ว่ายังไงก็ต้องรอลูกเต๋าทายผล..ไม่ว่ามันจะออกมาดีหรือร้าย ก็ต้องยอมรับ..


        " อีกแล้วเหรอ? "คำถามนี้มันยังตามมาหลอกหลอนแม้ผมจะนั่งอยู่ในห้องทำงานของพัศดี ผมจ้องมองตัวหนังสือปักชื่อของพัศดีปรมัตถ์บนเสื้อสีกากี จ้องมองมันแล้วนั่งนิ่งราวกับว่าไม่ได้ยินคำถาม...ถามไถ่กึ่งประณามหยามหยันด้วยความไม่พอใจของผู้พูด..

        "....มากี่ครั้ง...กี่ครั้ง ก็บอกว่าไม่มีข่าว มไมีความเคลื่อนไหวอะไร แบบนี้มันจะเกินไปหน่อยไหม? หรือคิดว่าที่ให้ทำนี่มันเป็นเรื่องเล่นๆ "

 คำถามด้วยอาการหงุดหงิดหัวเสียของพัศดีดังขึ้นเหนือศรีษะ ขณะที่นัยน์ตาของผมเบนไปมองเข็มนาฬิกาที่บอกเวลาเก้าโมงห้าสิบเจ็ดนาที สามสิบสองวินาที.....สามสิบสาม...สามสิบสี่...สามสิบ...


        ปึ่ก !



        " ฟังที่ผมพูดอยู่รึเปล่า ! "ฝ่ามือหนาพาดลงบนไหล่แรงๆจนสะดุ้งเฮือก คำถามนั้นมาพร้อมกับใบหน้าแสดงอาการเคืองขุ่น และแววตาหงุดหงิด ไม่พอใจ..

        ไอ้เนมขยับตัวแล้วกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ " ก็...มันไม่มีอะไรจริงๆ...จะให้ผมตอบว่ายังไงล่ะครับ "

        " ....แล้วทำไมคนอื่นถึงบอกว่ามี " ใจความนั้นทำให้ผมเม้มปากแน่น เงยหน้าไปมองตาพัศดีปรมัตถ์ที่นั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งของตนเองอีกครั้ง ด้วยท่าทีเหนือกว่า

        "...อย่างน้อยก็ไม่มีในกลุ่มของผม..." ผมยักไหล่ ตอบด้วยท่าทีชาเฉยราวกับไม่มีอะไรให้พบจริงๆ...ทั้งที่รู้แก่ใจดีว่ามันไม่ใช่...

        "....หึ...พูดให้ขำนะ..." พัสดีปรมัตถ์ส่ายหน้า ยิ้มราวกับขบขันก่อนจะเปลี่ยนมาจ้องหน้าผมด้วยสีหน้าดุดัน.. " ไม่มี...ไม่มีความเคลื่อนไหวในกลุ่มของพวกขาใหญ่ แล้วจะมีความเคลื่อนไหวจากที่อื่นเหรอ? รู้จักไอ้สิ่งที่เรียกว่าคลื่นไหม? ถ้ามีมีคนเขวี้ยงก้อนหินลงบนน้ำมันก็จะไม่ขยับไหว ถ้าไม่มีใครเริ่มก็จะไม่มีคนทำตาม แล้วอย่างนี้คุณกล้าพูดเหรอว่าไม่มี..."

         " ...มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีสมองนะครับ คิดเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้ใครสั่ง แน่ใจเหรอว่าเรื่องที่คุณเจอมันจะเกี่ยวกัน " ผมสุดหายใจลึกจ้องมองใบหน้าของพัศดีอย่างไม่ยอมแพ้...

       พัสดีปรมัตถ์ในชุดเสื้อกางเกงสีกากี ใบหน้าสะอาดสะอ้านดูดีแบบที่หาไม่ได้ในเหล่านักโทษผู้ตากแดดตากลมทั้งปีทั้งชาติขยับกายลุกขึ้นจากโต๊ะอีกครั้ง ดวงตาคู่นั้นจ้องมองมาที่ผม...จ้อง...ก่อนจะหรี่ตาลงแล้วถอนหายใจยาว..

         "ไร้ประโยชน์ ..."น้ำเสียงเอ่ยเรียบๆ...ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

         "....ตัวผม? " ไอ้เนมเลิกคิ้ว...รู้ดีว่าตั้งแต่รับปากว่าจะทำ ตัวเองไม่ได้มีข่าวสารอะไรให้มากมายนัก...จะว่าไร้ประโยชน์ก็สมควร...

          เพราะผม"จงใจ"จะให้ตัวเองไร้ประโยชน์แบบนี้นั่นแหละ...

          " ...ที่เราตกลงกัน..ผมคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้ว...แต่เหมือนคุณจะยังไม่เข้าใจว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน ถึงได้ทำนิ่งทำเฉยเหมือนเป็นเรื่องเล่น " เสียงคำรามในลำคอของพัสดีปรมัตถ์บ่งบอกว่าอารมณ์เสียจนถึงขั้นหงุดหงิด นัยน์ตาสีดำสนิทที่วาววับนั้นจ้องมองใบหน้าของผมอย่างกล่าวหา...ไม่ชอบใจ...

           " ผมให้คุณหาข่าว...." ข่าว"ที่ว่านั้นไม่ใช่เรื่องใครจะไปกินข้าวที่ไหน ไปอาบน้ำกับใคร หรือนอนกับใครบ้าง.." พัศดีหันขวับมามองหน้า ฝ่าเท้าก้าวมาหาร่างของผมในระยะประชิด " แต่คือเรื่องราวผิดปกติ เรื่องราวที่อาจจะก่อให้เกิดสิ่งทีเรียกกันว่า "รวมกลุ่มก่อความวุ่นวาย" " วางแผนก่อจลาจล" หรือกระทั่งคิดจะ"แหกคุก"....."

           " ที่ผมให้คุณคอยสืบหา ไม่ใช่แค่ให้"สืบ"เท่านั้น...ไม่ใช่แค่ทำเล่นๆ แต่หมายถึงชื่อของคุณ ประวัติของคุณ รวมทั้งการใช้ชีวิตในนี้...ถุกจับตามอง และถูกตรวจสอบแล้วโดยพัศดีอย่างผม...หรือผู้คุม หรือกระทั่งเหล่านักโทษที่เป็นสายสืบของผมเช่นเดียวกับที่คุณเป็น..เพื่อที่จะตรวจสอบความประพฤติ การทำงาน การทุ่มเทต่อคำสั่ง ...เพื่อที่สุดแล้ว ...เมื่อเกิดเหตการณ์อะไรขึ้นมา คุณจะได้ถูกยกเว้น จะได้ถูกละโทษ หรือกระทั่งปล่อยตัว และเชิดชูในคุณความดี...."

           " นี่มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เรื่องที่จะให้คุณมานั่งรายงานว่าไม่มีอะไร ปกติดีทุกอย่าง ตลอดสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมา...ช่วยแสดงให้ผมเห็นหน่อยได้ไหมว่าคุณก็พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่ง พร้อมจะร่วมมือกับทางราชการ ไม่ใช่พร้อมจะเป็นนกสองหัวที่คาบข่าวของพวกผมให้กับฝ่ายที่เป็นประโยชน์แก่คุณมากที่สุด "

            "...รับปากแล้ว...ก็เหมือนเอาคอพาดอยู่บนเขียง ใบมีดจะหล่นลงมาหรือจะได้รับประกาศอภัยโทษก็แล้วแต่การกระทำของตัวเอง...อย่าคิดว่าผมไม่ได้"จับตา"ดู ทุกฝ่ายที่เป็นสายสืบของเราอย่างชัดเจน อย่าคิดว่าคุณรับคำแล้วจะบิดพลิ้ว หรือจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปได้...ถ้าแผนการณ์นี้มันหละหลวมปานนั้น เราคงไม่สามารถสืบมาถึงจุดที่รู้ได้ว่ามีคนพยายามจะทำอะไรหรอก "

            " คุณกำลังขู่ผม ..." ผมเปรยขึ้นช้าๆ....สีหน้าเครียด...

             "ใช่...." พัศดีพยักหน้ารับ สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงยามจ้องมองสบแววตาของผม " เคยได้ยินไหม ที่ว่าจะทำการใหญ่ต้องใจกล้า...ใจแข็ง ยอมเสียหมากบางตัว เบี้ยบางตำแหน่ง เพื่อจะได้รุกฆาตในที่สุด ..."

            " บอกตามตรงว่านี่ไม่ใช่เกมส์ และไม่ใช่หนังร้อยแปดคุณธรรมที่คนดีจะอยู่รอดปลอดภัยและไร้รอยขีดข่วน นี่คือชีวิต...คุณเคยได้ยินข่าวนักโทษก่อจลาจลไหม? เคยได้ข่าวมีการพบว่าตัวการใหญ่ของขบวนการค้ายาเสพติดอยู่ในเรือนจำไหม? สิ่งเห่ลานั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น...คุณคิดบ้างรึเปล่า ว่าทางที่ผมให้คุณมันคืออะไร? "

            "....เพราะอะไรผมถึงทำแบบนี้...รู้บ้างไหม? เพราะอะไรถึงได้ทำวิธีที่อาจจะเรียกได้เต็มปากว่าสกปรกไม่ซื่อตรง...คุณคิดบ้างรึเปล่า? "

              "............."

              " ...เราได้แต่เจ็บใจทุกครั้งที่รู้ว่าตัวการใหญ่ที่สั่งยานรกเข้ามามอมเมาเยาวชนของชาติคือพวกที่อยู่ในคุก ได้แต่เจ็บใจที่ทำอะไรมันไม่ได้ ได้แต่ทุรนทุรายเพราะไม่สามารถจะเอาผิดรึเอามันมาลงโทษ...เกลียด...ที่เงินมันมีค่ามากกว่าเกียรติในอาชีพ หรือกระทั่งความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ...ไม่พอใจทุกครั้ง ที่มองเห็นพวกโกงกินบ้านเมืองมีชีวิตอยู่บนกองเงินกองทองและสุขสบายโดยไม่สนใจว่าได้ทำอะไรลงไป.."

             " ...คิดดูก็แล้วกัน...ว่าผมทำไปเพราะอะไร หากคุณนิ่งอยู่แบบนี้มันก็คงได้ใจ หากยังคิดจะเงียบ ผมก็ไม่ต้องการคุณอีก...และหากคิดจะไปบอกคนอื่นๆว่าเรากำลังรู้อะไร นั่นมันจะหมายถึงสิ่งไหนก็ลองไตร่ตรองดู..." พัศดีปรมัตถ์สุดหายใจลึกจ้องมองผมด้วยแววตาเคร่งขรึมหากจริงจัง ผมกลืนนำลายลงคอช้าๆ...ภาพ....ของชายที่ใช้เลห์กลบีบบังคับและไล่ต้อนให้จนตรอกกลับค่อยเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว....

         ที่สุดแล้ว...ชายคนนี้...ก็แค่...

            " ...ผมยอมสกปรกถ้าจะทำให้สังคมและบ้านเมืองสะอาด...ยอมถูกตราหน้าว่าเป็นคนชั่วไม่ต่างกับนักโทษแบบพวกคุณ ยังดีกว่าจะปล่อยให้เรื่องราวมันเลวร้ายเกินจะควบคุม....ถ้าคุณคิดจะรับปากเล่นๆไม่ทำจริง คิดจะวางมือหลับหูหลับตาไม่ทำอะไรเพื่อพรรคพวกหรือเพื่อคนที่มีอิทธิพลเหล่านั้นก็เดินหนีออกไปซะ...ที่นี่มีเพียงคนที่พร้อมจะสละชีวิตเพื่อคำว่า"ความถูกต้อง"และไม่สนใจแม้ตัวจะต้องตายเท่านั้น "

           ไอ้เนมจ้องมองใบหน้าของพัสดีที่เบือนไปมองภาพเบื้องนอกผ่านกระจกใส มองเสี้ยวหน้าที่ผมเคยนึกไม่พอใจ...หรืออาจจะชิงชังกับมัน...พร้อมกับเม้มปากแน่น...

...ผู้ชายคนนี้....ที่ทำไปทั้งหมด ก็แค่...แค่คนที่พร้อมจะพลีชีพให้กับความถูกต้อง โดยไม่สนใจว่าต้องทำวิธีใด เท่านั้นเอง...

   ...ผมที่ลังเล ผมที่ไม่กล้าทำ ผม...ที่นิ่งเงียบเพียงเพราะว่าคนๆนั้นคือคนที่ผมรัก ไม่ยอมทำตามที่เขาต้องการเพราะกลัวว่าพี่โตจะเป็นอันตราย..หากพอเขาพูด....เขาบอก...เขากล่าวให้ผมนึกถึง..ให้มองเห็นบางอย่าง...ที่ตัวผมเองแทบจะลืมไปแล้ว จึงได้ตระหนัก...

    ความละอายแล่นวูบเมื่อรู้....รู้ว่าตัวเองเห็นแก่ตัวแค่ไหน...

   ...มองแค่ตัวเอง มองแค่คนที่รัก มองแค่เท่านั้น ไม่ได้มองว่าหากปล่อยให้เรื่องราวบานปลายจะเกิดผลร้ายใดต่อสังคมบ้าง...

        "....จำไว้ด้วย....ว่านับแต่คุณตอบตกลง...คุณก็ได้เลือกทางเดินอีกทางให้ตัวเองแล้ว " พัศดีนิ่งเงียบไปครึ่งหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเฮือก " และจำไว้ ว่าหากคิดจะพูดไป สถานะของคุณจะถูกเปิดเผย...และผม ก็ไม่ลังเลหรอกหากจะตัดเบี้ยที่ไร้ประโยชน์ออกไปจากแผนการณ์..."

  เอ่ย...แล้วเจ้าของคำพูดก็หันหลัง...ไม่คิดจะสนใจตัวผมอีกต่อไป นิ่งเฉยเย็นชาราวกับผมไม่มีตัวตนอยู่..

  ...ผมพยักหน้ารับช้าๆ...ก่อนจะเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าเรียบชา....แม้หัวใจจะเต้นเร่าด้วยความหนักหน่วง ลำบากใจ

.... รู้แล้วว่าทำไมพัศดีปรมัตถ์ถึงมาอยู่ที่นี่ ทำไม เขาถึงถูกส่งมายังเรือนจำแห่งนี้...

....และรู้ ว่านี่คือแผนการณ์ที่วางมายาวนานเพียงใด..

 คนเจ้าแผนการณ์ก็ต้องเจอกับคนเจ้าแผนการณ์ คนที่วางแผนร้ายก็ต้องเจอกับคนที่ร้าย...และเจ้าเล่ห์เจ้ากลไม่แพ้กัน...

ผู้คนในฝั่งที่เรียกว่าความดีไม่ได้มีเพียงสีขาว  วิธีการที่จำจัดการกับคนชั่ว ไม่ได้มีเพียงวิธีทางแห่งความถูกต้อง...

 บางครั้ง คนเลวก็ต้องเจอกับแผนการณ์ที่ไม่ต่างกัน...

  สีขาวหรือสีดำไม่สำคัญ ผลลัพธ์ที่ออกมาต่างหากจะเป็นทางชี้นำว่าใครคือคนชั่ว...หรือคนดี...


...................


     ....ก้าวออกมาจากห้องสอบสวน เดินผ่านทางเดินแคบๆไปสู่อาณาเขตของเรือนจำที่แสนเคยคุ้น...เสียงร้องครืนครางของเมฆฝน และสายลมที่หอบกลิ่นหญ้าโชยพัดเข้าจมูก ทำให้ดวงตาที่หรุบต่ำลงของผมค่อยเบิกกว้างขึ้น และจ้องมองท้องฟ้าที่เคยสดใส บัดนี้เริ่มหม่นครึ้ม...เจือจางด้วยกระแสของพายุฝนที่จะโหมกระหน่ำ...

  ....มอง...จ้องมองและใคร่ครวญคิด...คิดถึงเรื่องราวทั้งหมด...

    สีดำแปรเป็นสีขาว...และสีขาวที่เอียงเทกลายเป็นสีดำ ที่สุดแล้วผมก็รู้...ไม่มีใครมีเพียงด้านเดียว ทุกคนล้วนแต่เป็นสีเทาทั้งนั้น...

      เคยเกลียดชังไม่พอใจพัศดีที่หาเรื่องกลั่นแกล้งทำร้าย ทว่า...เมื่อรู้ถึงปลายทางที่เขาทำไป...ผมก็โกรธไม่ลง...

     คนๆนั้น...รัก...ในสิ่งที่ผมออกปากว่ารัก แต่ไม่ได้ทำเพื่อมัน

    คนๆนั้น...ทำ...ยอมสละตัวและทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่เรียกว่า" ประเทศชาติ "

        ผมที่เคยคิดถึงแต่ตัวเอง มองตัวเองเป็นศูนย์กลาง มองว่าถูกรังเกียจ ถูกทำร้าย ถูกสังคมประณาม หากแต่ผมก็ไม่เคยคิด...ลืมที่จะนึกไปถึง"สังคม"ภายนอกว่าเกิดอะไรขึ้น...

   ....หากปล่อยให้นักโทษที่เป็นตัวการใหญ่ของการขนส่งยาเสพติด ผู้มีอิทธิพลที่ทุกคนยำเกรงออกไปภายนอก ออกไปกางมือกางเท้าโลดแล่นในสังคมโดยปราศจากการควบคุม มันจะเกิดอะไรขึ้นเล่า?..

   ทุกวันนี้ปัญหามันเกิดขึ้นเพราะคนเลวที่ไม่เคยสำนึกตัวไม่ใช่หรือ มันเกิดขึ้นเพราะคนโลภ คนเห็นแก่ตัวไม่นึกถึงคนอื่นไม่ใช่หรือไง..

     แล้วจู่ๆ ทำไม ผมถึงคิดอยากจะไปรวมกลุ่มให้ตัวเองสกปรกน่าขยะแขยงขึ้นมากกว่าเดิม?

         ฝ่าเท้ากาวเข้ามายังเรือนนอน ย่ำเท้าถึงอาณาเขตแดนสิบสอง...ที่อยู่ของเหล่านักโทษร้ายแรงที่มีแต่ผู้คนหวาดกลัว จ้องมองใบหน้าที่เคยคุ้นและท่าทีอันแสนคุ้นชินของผู้คนโดยรอบ..

     ภาพของกลุ่มคนที่แสนคุ้นตายืนคุยอะไรกันเงียบๆหน้าห้องขังทำให้ดวงตาผมค่อยหรี่ลงเล็กน้อย...และ....เดินก้าวไปหาด้วยสีหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราวเช่นเดิม...

        " ทำอะไรอยู่เหรอครับ ?" ผมออกปากถาม จ้องมองใบหน้าของชายสองคนที่แสนเคยคุ้น...หนึ่งคือพี่วิทย์ และอีกหนึ่ง...คือพี่ทินที่ไม่ได้พบมานานพอดู

         " อะไร...? ก็คุยกันแหละ ตามประสาคนไม่เจอกันนาน ก็ไอ้ทินมันหายหัวไปนอนให้ผัวมันกกอยู่ที่แดนสิบนี่หว่า" พี่วิทย์หัวเราะหึหึๆ ก่อนจะร้องจ้ากเมื่อพี่ทินหวดฝ่าเท้าเข้าที่หน้าแข้งเข้าให้

          " พี่โตล่ะครับ? "ผมออกปากถาม ยิ้มและหัวเราะรับกับอาการกระฟัดกระเฟียดของพี่วิทย์...มองทั้งคู่ด้วยสีหน้าอ่อนเดียงสาราวกับไม่รู้เรื่องอะไรเช่นเดิม

...ไม่เห็นหรอก...ว่าพี่ทั้งสองคนกำลังหยิบยื่นอะไรให้กัน
...ไม่ได้ยินเลย...ไอ้คำพูดที่บอกว่า "ให้" ใครรับมันไปนั้น...
          ผมจ้องมองสีหน้าของชายทั้งสองคนด้วยท่าทีเหรอหรา มองใบหน้าของพี่วิทย์และดวงตาที่ฉายแววลำบากใจขึ้นมาวูบหนึ่งของพี่ทิน และเมื่อคิดถึงวันเวลา...ก็พยักหน้ารับ

         " ครับ....อยู่ที่อาคารเยี่ยมสินะ "

             ผมหันหลัง เดินออกมาอย่างว่าง่าย ไม่ได้หันกลับไปมองสีหน้าลำบากใจของพี่วิทย์กับพี่ทินเลย ขณะที่สมองใคร่ครวญสิ่งที่ได้ยินอย่างรวดเร็ว

...เสียงกระซิบนั้นยังดังชัดเจน คำพูดที่ว่าให้"มอบ" ของอะไรบางอย่างในมือพี่วิทย์ ให้พี่ทินและพี่ทินจะมอบให้พี่คม คนที่ถูกเรียกว่าผัวของพี่ทิน ชายหนุ่มหน้าเคร่งที่ใส่ตรวนหนักบนข้อเท้าคนนั้น...

         ผมเดินออกไปอย่างลอยเหม่อ ที่สุด....จึงได้มาถึงอาคารเยี่ยม...หากทำได้เพียงยืนนิ่งและจ้องมองพี่โตที่นั่งคุยอยุ่กับแฟนสาวด้วยสีหน้ายิ้มน้อยๆไม่กล้าจะเดินเข้าไปด้วยรู้ว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง ทำได้เพียงยืนนิ่งและจ้องมองมันด้วยสีหน้านิ่ง
เรียบ...คล้ายจะเย็นชาและนิ่งเฉยกับมัน ทว่าแท้จริงก็รุ้ดี ว่ามันไม่ใช่...

ทั้งที่คำว่ารัก...คำบอกรักของพี่โตยังคงดังก้องอยู่ในสมอง ลอยวนอยู่ราวกับเสียงกระซิบข้างๆหู...

 ..แต่...เมื่อได้เห็นภาพความสนิทสนมที่ปรากฏอยู่ รอยแยกของความกังวลในหัวใจจึงค่อยเผยออกขึ้นมาทีละนิด...ทีละนิด...

    ทำเหมือนลืม ไม่นึกถึง ไม่กังวล ไม่อะไรทั้งนั้น...แต่ความจริง มันไม่ใช่ ผมยังคิด และยังคงคิดถึงอยู่เสมอ...

    ความจริง...ที่แม้พี่โตบอกว่ารัก แต่ก็ยังมีใครอีกคนรออยู่ข้างนอก...

    คำพูด...ที่บอกว่าไม่สามารถตัดใจได้ แม้ตอนนี้พี่โตจะบอกว่ารักและบอกว่าผมสำคัญกว่า...แต่....มันก็ยังไม่อาจจะแน่ใจ หรือวางใจ...

.  .มองแล้วได้แต่ถอนใจ ครู่หนึ่งคิดเรื่องที่ตัวเองคิดจะทำในตอนแรก พลันอยากจะหัวเราะให้ฟันหัก...

...อยากจะขำ

..ขำตัวเองที่พยายามปกป้องพี่โตอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งที่เขาอาจจะไม่ได้แยแสสิ่งเหล่านั้นด้วยซ้ำ...

...ไม่มีอะไรประกันว่าหากออกไปแล้วพี่โตจะเป็นเหมือนเดิม...เพราะขนาดออกปากว่ารักผม เขาก็ยังเดินมานั่งคุยกับ"คนรัก"อีกคนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

   ต่อให้บอกว่ารัก ผมก็เป็นผู้ชาย และเป็นผู้ชายที่ติดคุก..เป็นเพียงนักโทษตัวดำหน้าเคร่งที่อาศัยอยู่ในเรือนจำแห่งนี้..

   ต่อให้บอกว่ารัก แต่มันเป็นเพียงรักที่อยู่ในคุก ไม่ได้หมายถึงข้างนอกนั่น...

        แล้วตอนนี้ที่ตัวเองมานั่งคิดจนปวดหัว เพื่อจะปกป้องคนอย่างพี่โตที่ตัดสินใจเด็ดขาดไปแล้วว่าจะทำอะไร มันน่าขำตัวเองเสียจริงๆ

      ที่จริงแล้วเมื่อสามอาทิตย์ผ่านไปจากเหตุการณ์การสอบสวนผมครั้งล่าสุด..จากข้อตกลงของพัศดีกับผมที่มีต่อกัน มาจนบัดนี้แล้วเรื่องราวทุกอย่าง ทั้งความสงสัยของผม ข้อสังเกตของพัศดี สารพัดความสงสัยที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของพี่โต เมื่อนำมาเรียงร้อยประสานกันเป็นเรื่องเดียว ผมก็พบกับ"ความจริง"หนึ่งที่ตัวเองรู้ได้ไม่ยาก..

...มีคนกำลังเคลื่อนไหว เพื่อเตรียมตัวก่อจลาจล..ก่อความวุ่นวาย...ใช่..

...มีคนกำลังวางแผนแหกคุก ..วางแผนออกไปจากที่นี่ และกำลังระดมพลกันอยู่เงียบๆ...ใช่..

...และ...ตัวการใหญ่เหล่านั้นอยู่ในแดนสิบสอง...

ใช่...

  ใช่แล้ว..

นับแต่ผมรับปากพัศดีว่าจะสืบ นับแต่ได้เบาะแสจากคำพูดของผู้ชายคนนั้น ความสงสัยที่เกิดขึ้นในใจก็เริ่มเด่นชัด..ชัดขึ้น...ชัดขึ้นทุกวัน..

ได้คำตอบแล้ว...ว่าพี่โตเรียกคนนั้นคนนี้มาหาทำไม...

รู้แล้ว ว่าพี่ทินถูกย้ายไปอยู่กลุ่มอื่นเพราะสาเหตุไหน..

...กระทั่งรู้ ว่าทำไมพี่โตถึงให้ผมย้ายไปทำงานกับกลุ่มพี่วิทย์...

     ..พี่โตรู้ดีว่าผม...ไอ้เนมคนนี้ พอรู้และระเคะระคายใจว่าพี่โตกำลังคิดจะทำอะไร ไอ้ผู้ผดุงความยุติธรรม ไอ้คนโง่อย่างผมต้องออกปากห้าม ต้องต่อต้าน..ต้อง...ไม่เห็นด้วย..

     เพราะฉะนั้นพี่โตถึงได้ย้ายผมไป...ให้ผมไปอยู่กับกลุ่มอื่น ให้ผมไปไกลหูไกลตา..ให้ผมไปอยู่ห่างๆความผิดปกติและให้คนอื่นจับตาดูผมไว้..

  ..นั่นจึงเป็นเหตุและผลที่สมบูรณ์ในตัวของมันเองแล้ว ว่าพี่โตทำไปเพื่ออะไร..

    เพราะพี่โตรู้จักผมดี..อาจจะมากกว่าที่ผมรู้จักพี่โตด้วยซ้ำ..พี่โตถึงได้กันผมออกไปจากเรื่องนี้ พี่โตถึงได้พยายามเอาผมออกห่างจากเรื่องวุ่นวายทั้งหมด..

โดยไม่รู้แม้แต่น้อย ว่าผม...กำลังเอาตัวเองมาอยู่ในแผนการณ์นี้โดยเต็มใจ

....ผมไม่เคยบอกอะไรกับพัศดี ไม่เคยบอกว่าพี่โตกำลังระดมคน ไม่เคยบอกว่าคนอื่นกำลังทำอะไร ไม่เคยบอก..ไม่เคยพูด..

   เพราะผมรู้..รู้ดีว่าหากพูดไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้น...หากพี่โตจะต้องโทษหนักกว่าเดิม หากคนอื่นจะต้องเดือดร้อน หากเป็นแบบนั้น ผมขอไม่พูดเสียดีกว่า..

  ....แต่แล้วดูตอนนี้สิ...

 คนที่ผมปกป้อง คนที่ผมพยายามแทบเป็นแทบตายเพื่อเขา...กลับ....

     ผมถอนหายใจเบาๆ พยายามที่จะไม่เอาเรื่องความกลัวของตัวเองมาปะปนกับเรื่องที่จะเกิดขึ้น...การกระทำของผมมันอาจจะเป็นเรื่องงี่เง่า เป็นการตัดสินใจโง่ๆที่จะทำอะไรก็ไม่ทำให้เสร็จ กลับคาราคาซังอยู่แบบนั้น เหมือนอยู่กึ่งกลางของสองฝ่ายที่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็เจ็บทั้งนั้น..

..ตอนนี้...ผมกำลังคิด....

...คิดว่าจะทำอย่างไรดีต่อเรื่องราวที่ตัวเองได้รู้..

...ระหว่างพี่โตที่ทำเพื่อลูกพี่ ทำเพื่อคนในกลุ่ม และทำเพื่อจะได้ออกไป...และ...อาจทำเพื่อ....คนที่รอคอยเขาอยู่ข้างนอกนั่น

....กับพัศดีที่บอกว่ายอมสกปรก ยอมทำเรื่องไม่ดีกลั่นแกล้งนักโทษคนนั้นคนนี้เพื่อจะขัดขวางไม่ให้ป๋าออกไป...สิ่งที่เขาทำ...เขาทำไป...เพื่อ...ผู้คนอีกมากมาย

   ...และ....คิด...คิดถึงเรื่องราวของตนเอง คนที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องถูกมองว่าเป็นพวกสองหน้า ทรยศพรรคพวกอยู่ดี...ความจริงมันคือแบบนั้น และ ยังไงมันก็ต้องเป็นแบบนั้นไม่มีแปรเปลี่ยน..

...แต่ตอนนี้ผมกำลังคิด..กำลังคิดบ้าๆ บ้าเพราะความกดดันและคำถามที่ได้รับจากทั้งฝั่งพัศดีและท่าทีของพี่โต..

  ...คิดบ้าๆที่จะเป็นนกสองหัวให้เต็มที่ไปเสียเลย

...ข่าวของพี่โต รู้แต่ไม่พูด...พูด แต่บอกไม่หมด

...ขณะที่พัสดีกำลังทำอะไร ผมก็จะสืบหาและบอกพี่โตเช่นเดียวกัน..

  แต่แน่นอน ผมไม่บอกหมด เช่นเดียวกับที่ผมไม่บอกข่าวทั้งหมดที่ผมรู้แก่พัศดี..

จะแกล้งปิดหูปอดตา แกล้งไม่รู้ไม่เห็นแล้วเก็บเอาความเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่ายมาไตร่ตรองว่าเมื่อถึงที่สุดแล้ว ควรจะทำยังไง..

มันอาจเป็นเรื่องงี่เง่าบ้าบอที่พยายามจำเก็บงำท่าทีของทั้งสองฝ่าย และนิ่งพิจารณาทำตามแผนโง่ๆของตัวเองราวกับว่าผมนั้นป็นศูนย์กลางของโลก

  มันอาจเป็นการกระทำที่ไม่น่าเกิดขึ้นสำหรับคนที่ได้ยิน ได้ฟังว่าพัศดีคิดจะทำอะไรเพื่อใคร.. คนอย่างผมควรจะรับปาก คนอย่างผมควรจะช่วยเขาอย่างสุดกำลัง ไม่ใช่เหรอ?...

   มันก็ควรจะเป็นแบบนั้น ถ้าผมไม่คิด...ว่าหากยอมจมลงไปทั้งตัวแล้วจะต้องเจอกับอะไร...

   อย่างที่เขาบอกว่าผมเอาคอลงไปพาดกับเขียงแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็เสี่ยงทั้งคู่ ...แล้วเรื่องอะไร ผมถึงต้องเร่งวันตายให้ตัวเอง..

   คนเรามีทั้งขาว และดำ สีสันใดจะแปดเปื้อนมากกว่ากันไม่สำคัญเท่ากับว่าปลายทางคืออะไร..

   ก็เช่นเดียวกับที่ผมจะทำ และถึงอย่างไร...ผมก็จะทำแบบนั้น...

    ...จะทำ แม้ว่าคำโกหกมันจะถมตัวจนตายก็ตาม...

         ผมถอนหายใจและหันหลังเดินจากอาคารเยี่ยมด้วยสีหน้าเรียบเฉย...นัยน์ตาหรุบต่ำจ้องมองรองเท้าและมองพื้นหญ้าสีเขียวใต้ฝ่าเท้า..

พลันรู้สึกถึงความเย็น...เม็ดฝนเย็นๆที่ตกต้องผิวแก้มและใบหน้าทีละเม็ด...ทีละเม็ด...

....ก่อนมันจะค่อยทวีเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นจนกลายเป็นสายฝนกระหน่ำ...เทลงบนร่างของผมที่บัดนี้เหมือนคนโง่ที่ไม่รู้จะเดินไปทางใด..


..............


หายไปนานเป็นชาติ ไม่ได้อัพนิยายนานเป็นเดือน...ทั้งที่บอกว่าจะอัพอาทิตย์ละตอน ชาวบ้านคงอยากเอาไม้หน้าสามมาทุบกบาลอิชั้นให้หัวหลุด... :sad4:

บอกได้ก็แค่คำว่าขอโทษและจะ(พยายาม)ไม่ทำอีกแล้ว คราวนี้เราจะขยับจริงๆแล้วนะ โฮ วว ว ว ว  :sad4: :sad4:
...ส่วนตอนนี้...งงกันไหม? ฮ่าๆ

     เรื่องของเรื่องคือพัศดีไม่พอใจที่เนมมันไม่บอกอะไรเลยทั้งที่รับปากว่าจะเป็นสาย เลยบอกออกมา ให้เนมได้คิด ขณะที่เนมก็เริ่มไม่มั่นใจว่าที่พี่โตอยากออกไป อยากออกไปเพราะ...อะไรกันแน่... :เฮ้อ:
 ระเบิดเวลาเริ่มทำงาน? ฮ่าาาาา ทั้งที่หวานกันมาไม่กี่ตอนแท้ๆน้อ...เหอๆ
ปล. เตรียมตัวรับม่าม่าหมูน้ำตกซะ ซะ ซะ ซะ ซะ o18
ปล.2 คาวี่พรุ่งนี้อัพจ้า



ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
อ๊ากกกกกกกก  คนเขียนกลับมาพร้อมกับเสิร์ฟมาม่าชามใหญ่เลยอ่า   :sad4:
หนักใจแทนน้องเนมซะแล้ว  น้องจะเลือกทางไหนกันล่ะเนี่ย  :เฮ้อ:

ขอบคุณคนเขียนมากๆ นะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ ammer

  • มีหัวใจแต่ไร้ความรู้สึก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
ไม่มีใครถูกทั้งหมด หรือผิดทั้งหมด  :เฮ้อ: หนักใจอ่ะ

lovevva

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:หนักใจแทนหนูเนม

Cacao

  • บุคคลทั่วไป
เด๋วเราจะชิงเอามาม่าชามใหญ่ไปเทถังขยะก่อน จะได้ไม่ต้องมีใครกินมัน
อ่านแล้วเครียดมาก เป็นนิยายที่เดาทางไปไม่ถูกจริงๆ....
เนมจะเลือกเข้าข้างฝั่งไหนก็ผิดอยู่ดี แล้วทำไมความซวยต้องแจ็คพ็อตตกที่เนมตลอด แ่ง่มๆ
ถ้าเลือกเข้าข้างพัศดี ก็เท่ากับหักหลังพี่โต ถ้าเลือกเข้าข้างพี่โตก็เท่ากับสมรู้ร่วมคิด
โอ้ยยย ปวดหัวแทน = = อยากให้น้องเนมเป็นสีเทาแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆนะ
แล้วก็ไ่ม่อยากให้น้องเนมงานเข้ามากว่านี้ละ แค่นี้คนอ่านก็ลุ้นไม่หวั่นไม่ไหวแล้ว แง่งงง

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
เวรกรรมมม  :sad4:

มาทั้งที ดันมีแต่มาม่าง่ะ    :o12:
น้ำตงน้ำตาลทำไมไม่เติมมาด้วยยยยยยยย  :z3:

donjai11

  • บุคคลทั่วไป
ไรเตอร์ใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ SungJimun

  • ♥ 끝까지준홍 ♥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เฮือกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
โคตรจะเครียดเลยค่า ตอนนี้ !!!!!!!!!

Ilesa

  • บุคคลทั่วไป
กลับมาพร้อมมาม่า
รอชามใหญ่เส้นอืดๆ
เนม สู้ๆ  คนแต่งสู้ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
แง่ะ :a5:
สงสารเนมอ่า ไม่รู้จะตัดสินใจยังไงต่อไป ยอมรับว่ากลัวใจเนมตอนนี้มากเลย :monkeysad:
กอดรับขวัญ :กอด1: ยังไงพี่ก็อยู่ข้างน้องเนมเสมอ ส่วนพี่โตตอนนี้หมั่นไส้ นั่งคุยกับแฟนเฉยอ่ะ (พี่โตผิด :laugh:)

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
ขอจิ้มรีบนก่อนค่อยไปอ่าน อิ ๆ

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เอามาม่า อิ่มแล้ว

ออฟไลน์ afternoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ถ้าจะตั้งหม้อเตรียมต้มมาม่ากันขนาดนี้ โฮกกกก :z3: :z3:

สงสารหนูเนมเป็นที่สุด อยากดึงหนูเนมมากอดแน่นๆ จังงง :กอด1:

สู้เค้านะหนูเนมมม :เฮ้อ:

ออฟไลน์ mayuree

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 443
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-4
จะว่าน้องเนมก็ไม่เต็มปากหรอกนะ ลองไปยืนตรงจุดนั้นบ้างก็ต้องมีหวั่นไหวบ้าง ภาพที่เห็นกับเสียงที่ได้ยินมันดูเหมือนไปคนละทางอย่างนั้น จะไม่มั่นใจ เชื่อใจพี่โตอย่างเคยมันก็ช่วยไม่ได้ แต่น้องเนมมีสมองนะขอบอก และเราชอบ เหอๆๆๆ

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
เนมปรับตัวได้ดีนะในตอนนี้ คนเรามันไม่ดำหรือขาวทั้งหมด

ถ้าพี่โตบอกเนมหมดอาจไม่เป็นแบบนี้

 :L2:

minimonmon

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยเหนื่อยอ่ะ พี่โต น้องเนม ไม่ไหว ไม่ไหว เครียดเกินบรรยายแล้ว หวานกันได้หน่อยเดียวเอง  :m16:


เรื่องราวเริ่มเข้มข้นแล้ว หวังว่าจะเจ็บปวดกันทุกผู้ทุกคนนะ o22


รอตอนต่อไปเจ้าค้ะ :z2:

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
 :เฮ้อ: เหนื่อยใจแทนเนมที่ต้องมาอยู่ ณ จุดๆนี้
สภาพที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก บางครั้งพอมีอะไรเล็กๆมากระทบ
มันก็อาจทำให้เราตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ไม่ต้องการก็ได้  :z10:

ออฟไลน์ crosa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
อยากจะบ้าตาย
คนนึงคิดไปอย่างอีกคนคิดไปอย่าง
แต่พี่โตก็ไม่ทำอะไรให้ชัดเจนจริงๆนั่นแหละ
ปากบอกว่ารักแต่ก็ยังมีคนนั้นอยู่เหมือนเดิมไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมซักเท่าไร
ส่วนนู๋เนมไม่รู้จะเรียกว่าหาเหาใส่หัวดีไหม
แบบว่าดูชีวิตน้องนู๋จะวุ่นวาย(โดยไม่จำเป็น)เหลือเกิน
ตอนนี้แบบว่าหดหู๋ยังไงไม่รู้
ขอให้พี่โตแหละนู๋เนมเจอทางออกที่ดีให้กันแหละกันนะ
ปล.ชอบกินมาม่าคะ จัดเต็มมาเลย อิอิ^^

nsink

  • บุคคลทั่วไป
เหมือนเนมจะมีความคิดมากขึ้น ซับซ้อมมากขึ้น สิ่งแวดล้อมหล่อหลอมสินะ
อยากให้เนมคิดหลายๆมุม แล้วเอามาพิจารณาให้ถี่จริงๆ
ฮื่ออออออออออออออออออออออ
เวลาเห็นแบดกายอัพที่ไร มันน้ำตาคลอล่วงหน้าแล้วคะ
แบบ อ่านทีไรบีบหัวใจทู๊กกกที :sad4: :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






wordpdf

  • บุคคลทั่วไป
ดีแล้ว พ่อเนมเอ๊ย เจ้าค่อยๆ ตรองไป
ยังคิดมิตกก็ยังมิต้องเลือกฝักใฝ่แลฝ่ายใดทั้งสิ้น

อีพี่โต...อะไรๆ พ่อก็ดีดอกหนา แต่เรื่องจับปลาสองมือนั้นก็ช่างพาให้ปวดเซี่ยงจี๊มิหาย
คนอ่านแลเดาอนาคตพ่อมิถูกแล้ว ว่าพ่อจะจบเป็นหรือจบตาย แฮปเอนหรือแซดเอน

รอตอนต่อนะเจ้า

yunjaeonly

  • บุคคลทั่วไป

debubly

  • บุคคลทั่วไป
เครียดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

สู้ๆๆนะเนม

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
ง่า อ่านแล้วได้ฟิวส์คนติดคุกเลยอ่ะ
พี่โตนี่พระเอกใช่มะ นายเอกน่าสงสารมาก ๆ
ฆ่าคนแล้วต้องมาเครียดอีก แต่ยังไงก็สู้นะ
หวังว่าพี่โตคงจะช่วงน้องเนมได้ o22

ออฟไลน์ ArMee

  • BTU"R
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เครียดแทนหนูเนม

yunjaeonly

  • บุคคลทั่วไป
ลองๆจิ้มๆเข้ามาดู :z13:
ปรากฏว่าน่าอ่านมาก  o13
จะติดตามน้าาาาาาาา

คนเขียนสู้ๆ(แต่ห้ามตาย เดี๋ยวไม่มีใครแต่งเรื่องให้อ่าน555555555555) :laugh:

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ในที่สุดพี่ปุ้ยก็มาอัพจนได้
ขอแปะไว้ก่อนนะ เดี๋ยวมาอ่าน

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
พี่ขาาาาาาาาาา  สาบานกับหนูก่อนว่าเรื่องนี้มันจะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง
แบบอิพี่โตและอิน้องเนมได้อยู่ด้วยกันชั่วชีวิต
ไม่งั้นหนูจะผูกคอตายจริงๆด้วยเอ้า!!  (อินี่บ้าไปแล้วววววววว)   :z3:


อ่านมาตั้งแต่ภาคแรกยันตอนล่าสุด
หนึ่งวันหนึ่งคืน  ทรหดมาก  ไม่ทำอะไรเลยยยย
ลุ้นตัวโก่้งตั้งกะแต่อิน้องเนมเป็นน้องใหม่ซิงๆ  วิ้งๆ
จนกว่าที่ทั้งสองตัวจะรักกันได้  ลุ้นกันเยี่ยวเหนียว!!
แล้วไหนจะความคิดคนสองคนที่สวนทางกันอีก
ต่างทำเพื่อรักกันทั้งนั้น  แต่ถ้าพี่โตมันรู้ว่าเนมมันคิดจะทำอะไรอยู่เรือนจำมิแตกแย่รึ!!   :serius2:


พี่ขาาาาาา  สาบานกับหนูเรวเร๊วว่ามันจะแฮปปี้เอ็นดิ้งงงงงงงงง  ฮ่าๆ


รอตอนต่อไปค่ะ!   :music:

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
ไอ้คำว่ามาม่าหมูน้ำตก เป็นคำแสลงหูมั่กมากกกกกกกกกกก  :serius2:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
เฮ้อ!!!!!!!!!!ถอนหายใจออกมาแรงๆ
หน่วงหนักหัวใจไม่แพ้เนมกันเลยทีเดียว
ฝ่ายหนึ่งก็ที่รัก  ฝ่ายหนึ่งก็ความความถูกต้อง แต่ทั้ง 2 ทางล้วนมีความไม่แน่นแน ความเสี่ยงปรากฏให้เห็น ความไม่แน่ใจ ความสับสน จึงมีอยู่อย่างนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด