Improbable : 19 ร่วมมือ
บนเตียงเหล็กที่ถูกคลุมด้วยผ้าปูเตียงสีน้ำตาลอ่อนมีตราสัญลักษณ์ของเรือนจำ มีร่างของคนป่วยนอนอยู่บนเตียง หลับตาพริ้ม ใบหน้าซีดเซียว ปากแตก คิ้วแตก ร่องรอยการทำร้ายร่างกายที่ปรากฏชัดเจนแม้ไม่ต้องตรวจสอบใต้ร่มผ้า สีหน้าอ่อนระโหยราวกับจะสิ้นแรงและรอยช้ำทั่วกายที่ได้เห็นทำให้วิทย์ซึ่งยืนมองอยู่ข้างเตียงอดจะถอนหายใจเฮือกๆไม่ได้
ข้างกายมีร่างของเพื่อนสนิทนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกสีแดง มันกำลังจุ่มผ้าขาวลงไปในกะลังมังที่มีน้ำอยู่เต็ม ค่อยๆบิดให้หมาดและคอยเช้ดเอารอยเลือด เศษสกปรกที่ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไรออกจากผิวกายอย่างอ่อนโยน ท่าทีใจเย็น หากแต่ความเงียบที่ยังคงทิ้งตัวลอยอยู่ในอากาศและดวงตาที่หรุบต่ำคอยจับจ้องแต่ร่างของ"เด็ก"ตัวเองที่นอนอยู่บนเตียงนั้น บ่งได้ชัดว่าเพื่อนของตนกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน
" เป็นอะไรมากไหม? "คำถามนี้ไม่ได้มากจากปากของวิทย์ แต่เป็นความอยากรู้ที่ส่งตรงจากปากของขาใหญ่แห่งแดนสิบสองสู่หนึ่งในลูกน้องทีทำหน้าที่เสมือน"หมอ"ภายในเรือนจำแห่งนี้
"...นอกจากแผลที่โดนทำร้าย..นอกนั้นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง คงจะเหนื่อย เพลีย....แล้วก็เครียด " กันย์เดินเข้ามาใกล้เตียงคนป่วยอีกครั้ง น้ำเสียงตอบราบเรียบปลายนิ้วแตะลงบนต้นคอบริเวรแอ่งชีพจร..ใบหน้าที่ฉายแววกังวลไม่น้อยขมวดนิดๆ จากนั้นค่อยคลายลงแล้วถอนหายใจเชิงโล่งอก " ไม่มีอะไรแล้ว..."
" เมื่อไหร่มันจะฟื้น " อีกคำถามที่ส่งมาทำให้กันย์ขมวดคิ้ว...มองร่างของนักโทษที่เขาเคยคุ้นซึ่งกำลังนอนหลับแน่นิ่งบนเตียงเพียงครู่หนึ่งเขาก็ถอนหายใจ
" ไม่รู้...ร่ายกายคงอยากพักผ่อน...บางทีอาจจะอีกสองสามชั่วดมง ไม่ก็เที่ยงๆ "
".......พวกนั้นจะเรียกมันไปอีกไหม? " วิทย์ออกปากถาม จ้องมองร่างของคนป่วยไม่กระพริบ คำถามนั้นทำให้ชายสามคนในห้องต่างก็นิ่งงัน..ด้วยต่างก็รู้ถึงกฏเกณฑ์ของการสอบสวน สอบสวนได้ครั้งละหนึ่งคืน แต่จะเรียกนักโทษที่ต้องสงสัยไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ควรเป็น จนกว่าจะรู้เรื่องที่ควรรู้....ไอ้เนมมันกลับมาได้ก็จริง แต่ใช่ว่าการสอบสวนครั้งต่อไปจะไม่เกิดขึ้น ตราบใดที่มันยังคงเป็นผู้ต้องสงสัยสำคัญเช่นนี้....
โตจุ่มผ้าลงในกะละมังอีกครั้ง หลังจากเช็ดตามเนื้อตัวของคนป่วยที่นอนนิ่งเสร็จแล้ว ถอนหายใจหนักๆ สีหน้าเคร่งเครียด เสียงน้ำที่หยดรินลงในกะละมังจากแรงบิดของผ้าเหมือนเป็นสิ่งเดียวที่ดังขึ้นหลังจากได้รับคำถามที่แสนหนักหน่วง นัยน์ตาจ้องมองร่างของคนที่นอนหลับไหล ยิ่งจ้องมองสภาพของมันแล้วในอกยิ่งบีบรัดจนทรมาร ...และแค่คิด ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกหากมันถูกเรียกกลับไป น้ำลายในช่องปาก็เหนียวหนืดด้วยความเคร่งเครียด..
แค่คิด...คิดว่าตัวเองจะทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่รอให้มันถูกทรมารแล้วกลับมาพร้อมกับร่างกายที่อ่อนล้า รอยแผล และน้ำตาที่อาบแก้ม...
เพียงแค่คิด...ก็อึดอัดรวดร้าวเกินกว่าจะทนไหว...
"...ตราบใดที่ยังไม่ได้คำตอบ "
เคร้ง.....
สิ้นคำพูดนั้น ผ้าในมือของโตก็ปลิวหวือลงพื้น เสียงสถบแและคำรามด้วยความไม่พอใจดังมาจากปากของขาใหญ่ดังกว่าเสียงกะละมังสแตนเลสหล่นลงบนพื้นกระเบื้องแล้วกลิ้งตัวไปมา ร่างของโตลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับควบคุมตัวเองไม่ได้ ร่างกายรอยเปียกชื้นของน้ำที่กระเซ็นรดบนเสื้อผ้าหากแต่ไม่ได้รับการสนใจพอๆกับน้ำที่นองเอ่ออยู่บนพื้น เขากัดฟันกรอด เสียงคำรามคั่งแค้นที่ออกมาจากริมฝีปากนั้นทำให้วิทย์เม้มปากแน่น เขาจ้องมองอัปกริยาอารมณ์เสียที่ใกล้เคียงกับคำว่า"คลุ้มคลั่ง"ที่สุดของเพื่อนรักด้วยแววตาเคร่งเครียด ไม่ต่างกับชายหนุ่มผู้ให้คำตอบที่นิ่งงัน หัวคิ้วขมวดแน่นอย่างครุ่นคิด
"...พอมันหายดีก็ต้องไปอีก กูไม่ยอมหรอก! .....วิทย์! มึงลากคอไอ้เหี้ยตัวไหนสักตัวในเรือนอนกูแล้วบังคับให้มันสารภาพซะ! " โตคำรามลั่น สีหน้าของเขาดุดันนัยน์ตาขุ่นขวางหากแต่ยังคงจับจ้องใบหน้าซีดเวียวของ"คนข้างๆ"เขม็ง..เขาลุกพรวดขึ้นคล้ายจะอาละวาดแต่สุดท้ายก็ทรุดกายลงนั่งทั้งที่ลมหายใจยังคงรุนแรง ฝ่ามือกำแน่น จิกเล็บลงไปแรงๆราวกับจะใช้ความเจ็บชานี้รั้งสติให้อยู่กับตัวและไม่อาละวาดออกมาด้วยความคั่งแค้นไม่พอใจที่ปะทุรุนแรงขึ้นทุกที
".....ใคร......" วิทย์ฟังคำสั่งนั้นแล้วนิ่ง แต่เมื่อมองเห็นปฏิกริยาของเพื่อนรัก เขาก็พยักหน้ารับ ถามสั้นๆ
" ใครก็ได้ ! " โตตวัดเสียงตอบห้วนจัด แม้จะพูดแบบนั้นแต่สมองของเขาก็กำลังคิดจนปวดระบม คิด....เพื่อนช่วยเหลือเจ้าคนที่ต้องมารับกรรมทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ช่วยไม่ให้มันต้องพบเจอสิ่งที่เลวร้ายกว่านี้ คนที่เหมาะสมคนที่น่าสงสัยคนที่จะเป็นผู้ร้ายได้โดยที่ไม่มีใครลากเอาของๆเขาไปไหนอีก..
" พวกมันสอบทุกคนในเรือนนอนแล้ว...จะเอาใครไปเป็นแพะไม่ใช่เรื่องง่าย " วิทย์ขมวดคิ้วสีหน้าเคร่งเครียด
" แล้วไง!ไอ้เนมมันก็โดนจับเป็นแพะเหมือนกันนี่ มันก็โดนใส่ร้าย ไม่เห็นมีเหี้ยตัวไหนบอกว่ามันไม่รู้เรื่องสักคน !! "โตตวาดกลับ " ....มึงไม่มีปัญญาจะลากคอไอ้เหี้ยที่กล้ายัดของใส่เมียกู เพราะฉะนั้นอย่ามาเถียงถ้ากูจะเอาใครเป็นเเพะ!"
" มึงว่าใครไม่มีปัญญา " วิทย์ขมวดคิ้ว ชักเคืองกับคำกล่าวหานั้นบ้าง " ทำไม่กูจะไม่รู้ว่าใครทำ ! "
" งั้นมึงก็บอกมาสิ มึงก็ลากคอพวกแม่งมาให้กูฆ่าสิไอ้วิทย์ !! มึงทำอะไรอยู่หา !!! " ร่างของโตลุกพรวดสีหน้าเครียดขึงนั้นบ่งบอกว่ากำลังโกรธจนถึงขีดสุดและเขาพยายามจะหาทาง"ลง"กับอะไรสักอย่างอยู่..ทั้งที่รู้ว่าที่มันเป็นบ้าแบบนี้เพราะความโกรธ เพราะความโมโห แต่ยังไงวิทย์ก็อดจะหงุดหงิดกับอาการหมาบ้ากัดไม่เลือกหน้าของมันไม่ได้
ผลั่วะ!..
เก้าอี้พลาสติกสีแดงปลิวหวือลงไปยังพื้นห้อง ร่างของสองหนุ่มประจัญหน้ากันอย่างเคร่งเครียดและไม่มีใครกลัวใคร ฝ่ามือของวิทย์กำคอเสื้อของเพื่อนรักแน่น จ้องมองใบหน้าและดวงตาอีกฝ่ายเขม็ง ไม่นึกกลัวแม้ว่าอีกฝ่ายจะตัวสูงใหญ่กว่าเขาหลายเซนต์ฯ กระชากใบหน้ามันเข้ามใกล้ออกแรงงัดกับลำตัวสูงใหญ่จนข้อมือขึ้นข้อขาว ริมฝีปากแสยะยิ้มอย่างหงุดหงิดเป็นที่สุดขณะที่ส่งเสียงกระซิบห้วนสั้น..แต่เด่นชัด
" คนทำคือพัศดี ! มึงมีปัญญาลากคอมันเข้าคุกมั้ยไอ้สัด !!" วิทย์ปล่อยมือตัวเองแล้วถอนหายใจแรง แรงผลักจากฝ่ามือของอีกฝ่ายทำให้ร่างของเขาเซถลาไปไม่น้อย ขมวดคิ้วกับฝ่ามือที่ประคองแผ่นหลังไว้จากคนที่ไม่คิดว่ามันจะทำอะไรจะรู้สึกอะไรนอกจากยืนเฉยๆมองพวกเขาด้วยความสะใจปนสมเพช ชายหนุ่มเม้มปากแน่น ผละออกมาจากฝ่ามือนั้นทันควันราวกับต้องของร้อน แต่ดวงตายังคงจับจ้องมองร่างของเพื่อนสนิทที่ยืนนิ่งหากนัยน์ตาวาววับ
"......ขอโทษที่กูพาลใส่มึง "หลังผ่านความเงียบชั่วครู่หนึ่ง โตก็ถอนหายใจออกมาแรงๆแล้วเอ่ยปาก
" ช่างมันเถอะ " วิทย์ถอนหายใจรับคำพูดนั้น ดีแล้วที่มันไม่ได้มีท่าทีโกรธเคืองอะไร เพราะปกติตัวเองก็สู้แรงมันไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งทะเลาะกับไอ้โตโหมดหมาบ้า อาจจะเละคาตีนมันก็ได้..
" ทำแบบนี้มันจะประกาศเป็นศัตรูกับกูรึไง " โตสถบเสียงห้วนด้วยความไม่พอใจ
" มันประกาศตัวเป็นศัตรูกับมึงตั้งแต่วันแรกที่มันเข้ามาแล้ว " วิทย์บ่น หยิบเก้าอี้สีแดงที่ปลิวหวือไปจากเหตุการณ์เมื่อครู่มาตั้งไว้อีกครั้งและทรุดกายลงนั่ง " ต่อให้จับแพะไปให้มัน มันก็ยังกัดเราไม่ปล่อยเพราะมันรู้อยุ่แก่ใจว่าคดีนี้ใครเป็นคนทำ..."
" ทำไมมันไม่เล่นกู เล่นไอ้เนมทำไม ? " โตสถบด้วยความไม่พอใจ สีหน้าเคร่งเครียด คนที่อยากเป็นศัตรูกับเขาทั้งพวกผู้คุมกับพัศดีและนักโทษหลายรายในคุกก็รู้อยู่ แต่ไม่เข้าใจ ว่าทำมันต้องเล็งมาที่ไอ้เนม ทั้งที่ทุกคราที่ถูกหาเรื่อง พวกมันจะแล่นมาหาเรื่องตัวเขาตรงๆแบบไม่กลัวเกรงกันสักนิด
" เพราะทำอะไรไม่ได้ไง " คำตอบจากปากของกันย์ทำให้โตและวิทย์หันไปมองหน้ามันอย่างพร้อมเพียง นักโทษในชุดกาวน์สีขาวถอนหายใจขณะจ้องมองใบหน้าของพวกเขาทั้งคู่ " เคยโดนเล่นงานมาแล้วไม่ใช่เหรอโต หรือจำไม่ได้..."
รอยยิ้มแสยะมุมปากที่แสนขัดตาทำให้โตหน้ามุ่ย แม้จะไม่ชอบใจแต่สมองของเขาก็ยังคิดตาม และด้วยรอยยิ้มอันไม่น่าดูของไอ้กันย์นั่นล่ะ ทำให้นึกออกได้...ในที่สุด...
จะลืมไปได้ยังไง ในเมื่อคนที่หาเรื่อง"ยัด"ข้อหานี้ให้เขาก็เป็นไอ้เวรตรงหน้านี่เอง !
"...แล้วไง....ผู้เชี่ยวชาญด้านการขุดสพเพื่อ"ยัด"ข้อหาชาวบ้านอย่างมึงมีอะไรจะบอก? จะว่าพอเห็นกูโดนแล้วไม่เป็นไร เลยอยากจะเล่นคนอ่อนกว่างั้นสิ " โตเอ่ย จ้องหน้าคนพูดเขม็ง
" กูว่าพวกมันฉลาดนะโต " วิทย์เอ่ยขึ้นมาเรียบๆหันไปมองสบตาเพื่อสนิท " ก็อย่างที่ไอ้กันย์มันว่า พวกมันเคยลองยัดข้อหามึงแล้ว แต่อย่างมึงมันหนังหนา ไม่เจ็บไม่ตายอะไร แล้วยังมีพวกป่ามันเป็นแบ๊คกันให้อยู่ เลยทำอะไรมึงไม่ได้มาตลอด....แต่ที่ไอ้ผู้คุมคนนี้มันเบนเข็มไปเล่นงานไอ้เนม เพราะมันรู้มันเห็น ว่าไอ้เนมกับมึงเป็นอะไรกัน "
" ยิ่งกว่าหมาลอบกัด " โตสถบ ยิ้มออกมาเครียดๆ
"...รึมึงว่ายังไง? " วิทย์เลิกคิ้ว ถามกลับ..
" จะบอกว่ามันเอาเรื่องที่ไอ้เนมเป็นเมียกูมาเล่นงานกู กะให้กูแค้น กูคลั่งที่ทำอะไรไม่ได้ "โตยิ้มเครียด กัดฟันกรอดเมื่อเริ่มจะเดาเรื่องราวได้รางๆ
"ใช่.... "วิทย์หัวเราะหึ สีหน้าฉายแววเคร่งขรึม " วิธีการเหี้ยๆแบบนี้มันได้ผล มึงเห็นไหมล่ะ ป่านนี้พวกมันคงนั่งหัวเราะ เห็นมึงร้อนรนจนเป็นบ้า เห็นมึงคลั่งโดยที่มันไม่ต้องลงทุนเหี้ยอะไรเลยสักนิด "
"...พัสดีคนใหม่งั้นเหรอ..." โตกำมือแน่น กัดฟันกรอด นัยน์ตาวาววับ
" มึงว่ามันเป็นคนของใคร ?" วิทย์ถามกลับ ขณะที่คนฟังขมวดคิ้วน้อยๆอย่างครุ่นคิด
"คนไหนไม่รู้ แต่ไม่ใช่พวกเดียวกับเราแน่ๆ...ไอ้กันย์ ตกลงว่าที่พัศดีกรณ์มันออกไป มันป่วยจริง หรือมันโดนย้าย" โตหันไปถามคนที่นั่งนิ่งฟังพวกเขาสนทนากันบ้าง
"....ข่าวก็ว่าป่วย...แต่..พัศดีใหม่ส่งมาจากกรม " กันย์ตอบสั้นๆ
"มึงหมายความว่ายังไง? "
" พัศดีคนนี้อาจะเป็นคนของกรม..."กันย์ตอบช้าๆ ก่อนจะหรี่ตาลงน้อยๆอย่างเคร่งเครียด " ก็รู้นี่ ว่าป๋าคิดจะให้เราทำอะไร "
"....มึงหมายถึงข่าวรั่ว "โตเลิกคิ้ว...
"ในนี้ก็มีสายของตำรวจปนมาด้วยอยู่แล้ว " กันย์ยักไหล่ ต่างฝ่ายต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด เพราะหากเป็นคนจากหน่วยงานของรัฐ ที่ทราบเรื่อง รู้เรื่องที่พวกเขาทำและสั่งให้มาจับตาจริงๆ...เรื่องราว มันจะไปกันใหญ่
งานที่พวกป๋าสั่งให้ทำครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตายอยู่แล้ว หากมีพวกจนท.รัฐมายุ่งเกี่ยวด้วยก็ยิ่งอันตรายเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า..
การกระทำของพวกเขาใช่ว่าจะดี...นักโทษอย่างพวกตนคือผู้ร้าย การกระทำก็ผู้ร้าย เรื่องที่จะทำก็เลวร้าย..
ไม่มีทางจะถูกต้อง ไม่มีทางจะเป็นฝ่ายดีไปได้ แล้วเมื่อมีคนขอรัฐเข้ามาตรวจสอบอีก..มันยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
หากเสี่ยงได้ ก็ไม่มีใครอยากจะยุ่ง..
แต่...หากจำเป็นจริงๆล่ะก็...
" ถ้าพวกมันต้องการจะหาเรื่องกู จะหาเรื่องป๋า เล่นงานไอ้เนมแล้วได้อะไร? "โตเลิกคิ้วช้าๆ "มันเป็นพวกของกรมจริงเหรอ? กูยังสงสัย วิธีแบบนี้มันของพวกหมาลอบกัด และถ้าเป็นพวกจนท.จากกรมจริงๆ จะมาเล่นไม้นี้ให้พวกเรารู้ทันทำไมว่ะ "
"...แล้วมึงคิดว่ามันเป็นคนของใคร ? " วิทย์ถามกลับ เขาก็สนับสนุนข้อสันนิษฐานนี้ไม่น้อย
"...ไม่แน่ใจ...."
" จากนี้ก็ควรระวังตัวไว้ก่อน เวลาจะเคลื่อนไหวอะไร " กันย์บอกเสียงเรียบ"ผู้คุมจับตามอง พัศดีจับตามอง ทำอะไรเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว "
....พอเปลี่ยนคน เรื่องราวต่างๆก็เปลี่ยนไป
..ขั้วอำนาจเปลี่ยน คนเปลี่ยน วิธีการเปลี่ยน จากนี้อาจจะมีอะไรที่คาดไม่ถึงมาก็ได้
" แต่ก็พูดไม่ได้หรอกว่าเพราะเป็นจนท.ถึงต้องใช้วิธีปกติ ...พวกคนของรัฐใช้วิธีสกปรกมีถมไป.." โตเคาะนิ่วลงกับต้นขาตัวเอง...ครุ่นคิด..
" บางครั้งเลวร้ายกว่าเสียด้วย " กันย์หัวเราะหึ..สีหน้าราวกับเย้ยหยัน..
"...จะเอาเรื่องนี้ไปบอกป๋าไหม? " หลังจากเงียบงันกันมานาน วิทย์ก็เอ่ยปากถาม..
" อือ.....ยังไงจะใช้ใครเป็นแพะก็ทำไม่ได้แล้วนี่ ต้องให้ป๋ามันบีบเอง " โตเม้มปากแน่น ถอนหายใจแรงด้วยสีหน้าเครียดเคร่งไม่น้อย...เมื่อนึกถึงการจะต้องไปพบกับคนพวกนั้นอีกครั้ง ทั้งทีไม่มีผลงานคืบหน้า กลับมีแต่ปัญหาและอุปสรรคไปรายงาน แล้วพวกมัน...จะเย้ยหยันจะกดดันกันอีกมากแค่ไหนก็ไม่อาจจะรู้
" ต้องคอยลุ้นดู ว่าพวกมันจะมีอำนาจทำได้แค่ไหน "
"...ถ้าไม่ได้เรื่อง..." กันย์เกริ่นขึ้นช้าๆ..
" กูนี่แหละจะจัดการมันเอง !!!! " สีหน้าของคนพูดจริงจังและบ่งชัดว่าไม่ได้ล้อเล่น..วิทย์มองแล้วได้แต่ถอนหายใจ อยากจะห้าม...แต่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อความแค้น ความไม่พอใจมันฝังลึกเสียขนาดนั้น..
" ระวังด้วย "ทำได้เพียงส่งคำเตือนสั้นๆ อย่างคนที่ไร้ปากเสียง..และไม่รู้ว่าเจ้าคนที่เขาเอ่ยถึงมันจะฟังไหม? จะรับรู้หรือไม่ว่าตัวเองกำลังเล่นกับอะไรอยู่..
...แต่มันไม่มีทางเลือก วิทย์ก็รู้ดีเช่นกัน
ไม่ทำตามคำสั่งพวกป๋า...เท่ากับ ตาย
กล้างัดข้อกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ กล้าก่อเรื่องในเรือนจำ ก็ไม่ต่างกับ...ตาย เช่นเดียวกัน
ไร้ทางเลือก...พอๆกับไร้ทางรอด
ทำได้เพียงดิ้นรน...เอาชีวิตรอดเพื่อวันพรุ่งนี้ วันพรุ่งนี้ และวันพรุ่งนี้...
คิดได้แค่วันต่อๆไป แต่ไม่อาจจะคิดถึงอนาคต..ไม่อาจจะคิดไปถึงการได้ออกไปข้างนอกหรือการมีชีวิตต่อจากนี้..
...เพราะ...มันไร้หวัง สังคมภายนอกไม่มีพื้นที่ให้นักโทษเช่นพวกเขาได้เดิน..
" ตอนนี้...พวกมันก็คงรู้แล้วว่าจะเล่นงานเรายังไง " วิทย์เอ่ยเสียงเครียด "...มันเล่นงานเราไม่ได้ แต่เล่นงานคนรอบตัวเราได้..ทั้งพวกลูกน้อง หรือคนสำคัญ ถ้าพลาดให้พวกมันก็ไม่ต่างกับพวกเราโดนเสียเอง "
คำพูดนั้นทำให้ต่างฝ่ายต่างก็นิ่งงันกันไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย โตก้มมองใบหน้าซีดเซียวของ"คนสำคัญ"ที่ถูกพวกมันเล่นงานไปด้วยหัวใจระทึกสั่น..ฝ่ามือทาบลงบนผิวแก้มขาวเพียงแผ่วเบา ทั้งคั่งแค้น คับอกคับใจที่ท้ายสุดแล้วก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ และที่แย่ยิ่งกว่า คือท้ายที่สุดแล้ว คนที่ทำให้มันเป็นอันตรายก็เป็นตัวเขา ...เพราะมันอยู่ใกล้ขาใหญ่เช่นตัวเขา ถึงทำให้มันต้องเป็นแบบนี้..
...โตกำหมัดแน่น มองใบหน้าบอบช้ำของอีกฝ่าย สาบานในใจอย่างดุเดือด ว่าจะไม่ยอมให้อะไรเข้ามาเยื้องกรายทำอันตรายคนของของเขาอีกเป็นอันขาด !
และไอ้พวกที่กล้าลองดี มันจะต้องเจอบทเรียนที่สาสม !!!
วิทย์มองแผ่นหลังของเพื่อนสนิทที่โน้มกายสัมผัสผิวแก้มคนป่วยอย่างรักใคร่ด้วยสายตาครุ่นคิด เขาเคยสงสัย...เคยอยากรู้เกี่ยวกับน้ำหนักความสำคัญของคนสองคนในใจของเพื่อนรัก ทั้งหญิงสาวที่รอคอยมันอยู่ข้างนอก และทั้งนักโทษที่คอยอยุ่ข้างมันในนี้ ว่าท้ายที่สุดแล้ว มันจะเลือกใคร ...
แต่มาตอนนี้ ดูท่าทีของมัน สิ่งที่มันทำ อารมณ์ของมันที่แสดงออกมา แค่นั้นก็บ่งบอได้มากมายแล้วว่า"น้ำหนัก"ในหัวใจของโต มันเทไปที่ใคร และใครกันแน่ ที่เป็นคนกุมหัวใจมันไว้...
คิดถึงหยิงสาวแสนดีที่รออยุ่เบื้องนอกแล้วเขาก็ได้แต่ถอนใจ...ก็หวังแต่ว่าเมื่อเวลานั้นมาถึง...เรื่องทุกอย่างจะจบลงไปด้วยดี..
"มานี่หน่อย " วิทย์กระตุกแขนเสื้อกาวน์สีขาวของกันย์ที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่เบื้องหลัง เขาหันหลังกลับออกมาจากเตียง ปล่อยให้เพื่อนของตนนั่งเฝ้าคนของมันตามลำพังอย่างที่มันต้องการ
" มีอะไร "สีหน้าสงสัยของกันย์ทำให้เขาขมวดคิ้วแน่น และยิ่งมันยังไม่เคลื่อนไหว วิทย์ก็ยิ่งมีสีหน้าหงุดหงิด
" มีเรื่องจะคุย ออกไปคุยข้างนอก เร็วๆ ! " เอ่ยเสียงห้วนแล้วหมุนกายเดินออกไปอย่างรวดเร็ว กันย์ขมวดคิ้ว...จ้องมองแผ่นหลังของคนที่เดินออกไป แต่เมื่อมองบรรยากาศภายในห้องพยาบาลเขาก็ตัดสินใจถอนเสื้อกาวน์พาดไว้ตรงพนักเก้าอี้แล้วเดินตามหลังเจ้าคนที่เขาเกลียดนักหนาออกไปอย่างรวดเร้ว แม้จะเต็มไปด้วยความกังขาก็ตาม
" มีอะไร? " ที่คุยไม่ได้ไกลอะไรนักหนา นั่นก็คือแปลงเกษตรเบื้องหลังห้องพยาบาล มองเห็นร่างของมันยืนพิงต้นมะม่วงอยุ่ กันย์มองเห็นมันถอนหายใจยาว ท่าทีครุ่นคิด
" จำที่มึงพูดได้ไหม? " คำถามนั้นทำให้กันย์ขมวดคิ้ว
" อะไร ? เขาถามกลับ ก่อนจะถอนหายใจช้าๆ "มีอะไรก็พูดมา อย่ามาลีลาเรื่องมาก ผมไม่มีเวลามายืนฟังใครพล่ามทั้งวัน "
" ใช่ว่ากูอากจะมาคุยกับมึงนักนี่ ! " วิทย์ตวาดกลับเสียงห้วน สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
" แล้วคนไม่อยากคุยกับผม จะเรียกผมออกมาทำไม? หรืออยากฝากข้อความอะไรไปหาเมฆ ..." กันย์จ้องมองสีหน้าของมันอย่างเหนือกว่า มองเห็นร่องรอยความหวั่นไหวและความรวดร้าวที่ซ่อนอยุ่แล้วเขาก็หัวเราะออกมาเบาๆอย่างยินดี...ดีใจเหลือเกินที่กำจัดมันออกไปได้ ต่อให้จะไม่ได้ถูกกำจัดแบบถาวร แต่อย่างน้อย เมฆก็ไม่ได้คร่ำครวญหามันอีกต่อไปแล้ว...
....ต่อให้ยังไม่ได้หัวในใจของเมฆ แค่เมฆไม่กลับไปอย่กับมัน ก็พอใจแล้ว..
แค่เพียงไม่เห็นมันมีความสุข..ไม่เห็นรอยยิ้มของมันทิ่มแทงนัยน์ตาของเขา...เพียงแค่นั้น...
"จะฝากบอกก็ได้นะ แต่ไม่รู้ว่าเมฆอยากจะฟังไหม..... เสียใจด้วยนะ ที่เมฆไม่ได้"สนใจ"มึงอีกแล้ว.." แสยะยิ้ม...ยิ้มออกมาอย่างพึงใจ พอใจในสีหน้ารวดร้าวที่แสดงออกชัด..
" เห่าจบรึยัง...." วิทย์เม้มปากแน่น จ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าเขม้ง เขากำมือทั้งสองเข้าหาตัวแน่น กล้ำกลืนความรู้สึกขมปร่าที่แล่นวาบขึ้นมาในลำคออย่างยากเย็น...เพราะแม้จะเจ็บปวดรวดร้าวแค่ไหน เรื่องราวมันก็มาถึงขนาดนี้แล้ว ในเมื่อปล่อยให้เมฆกลับไป ในเมื่อเมฆมันมีความสุข เขาก็ควรดีใจ...ใช่ ควรจะเป็นแบบนั้น
...และที่เขาเรียกมมันมาคุยก็เพื่อเมฆ...เพื่อเมฆคนเดียวเท่านั้น...
"....พัศดีมันเล่นงานไอ้เนมเพราะมันเป็นเมียไอ้โต...มันเล่นงานไอ้เนมได้ ...แล้วเมฆล่ะ? " วิทย์เอ่ยถาม...เขาจ้องหน้ากันย์เขม็ง...
มองเห็นสีหน้าประหลาดใจชั่ววูบ ก่อนจะเปลี่ยนแปรเป็นครุ่นคิด...
...ถ้ามันกล้าเล่นงานคนของไอ้โต คนของพวกเขาล่ะ เมฆล่ะ มันก็มีโอกาสจะเจอเรื่องแบบนี้เหมือนกัน
"แล้วจะเอายังไง? " กันย์ถามกลับ เขาขมวดคิ้วแน่น
" ดูแลมันดีๆ..." วิทย์เอ่ยเสียงเรียบ...สีหน้าครุ่นคิด..
" ผมดูแลเขาอย่างดีแล้ว!ถ้าคิดออกแค่นี้ไม่ต้องพูด " กันย์โตกลับเสียงห้วน
" แล้วจะให้กูทำยังไง! มึงอย่ามาหาเรื่องกูนะไอ้กันย์.....ที่กูเรียกมึงมาคุยเพราะกูเป็นห่วงเมฆแต่มันอยู่กับมึง จะให้กูทำอะไร นอกจากสะกิดให้มึงจำใส่กะโหลกไว้ ! " วิทย์เม้มปากแน่น เขาขมวดคิ้วเครียดก่อนจะถลบเบาๆในลำคอ ความไม่พอใจตีตื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนสมองปวดระบม และขอบตาร้อนผะผ่าว...ทั้งที่เอาเรื่องนี้มาพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทั้งที่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาทะเลาะกันเรื่องอื่น ไม่ใช่เวลาจะมาพุดคุยกันเรื่องที่จบไปแล้ว..
ทั้งที่เขาห่วง..ห่วงใย...แต่ทำไมมันถึงไม่เข้าใจ.....
พยายามจะ"จบ"เรื่องนี้แล้ว ยอมรับว่าตนเองพ่ายแพ้ ยอมกระชากหัวใจตัวเองให้มันขยี้แล้ว...ทำไมมันถึงไม่จบ
ต้องการอะไรจากตัวเขาอีก หรือยากจะเหยียบย้ำ อยากจะฆ่ากันให้ตายไปข้าง..
" ...ดีแล้ว...มันอยู่กับมึงน่ะดีแล้ว...มึงใหญ่กว่ากู ดูแลมันได้ และมึงก็มีเส้นสายกับพวกผุ้คุมพอสมควร ...ถ้าเมฆมันอยู่กับมึงกูก็พอใจแล้ว...." วิทย์ยกมือกุมขมับ ปวดหัวจี๊ดขณะที่ภาพเบื้องหน้าพร่าเลือนด้วยหยาดน้ำใสที่เอ่อคลอนัยน์ตา.."...กูยอมแพ้แล้ว... มึงเข้าใจชัดเจนไหม พวกมึงจะรักกันยังไงก็ตามใจ....พอใจรึยัง...."
ลำคอตีบตันริมฝีปากสั่นระริกไหว ....วิทย์สุดหายใจลึกพยายามควบคุมอารมณ์ เขากระพริบตาถี่ขับไล่น้ำใสออกจากนัยน์ตา ฝ่ามือละออกจากขมับและเงยหน้าไปสบมองแววตาของนักโทษชายเบื้องหน้าอย่างหนักแน่น..บอกตัวเองว่าที่ต้องการพูด ที่ต้องการทำมันไม่ใช่เรื่องที่เคยเกิด จะไม่หวนกลับไปยุ่งกับเรื่องที่มันจบไปแล้วไม่สนใจความรวดร้าวทรมารของวันวานที่ยังคงติดตรึงในความทรงจำ..
ตอนนี้...ที่จะทำตอนนี้...คือสิ่งที่ตัวเองอาจจะได้ทำเพื่อคนที่รักเป็นครั้งสุดท้าย
...เพราะมันกลายเป็นของคนอื่นไปแล้ว..
" กูขอให้มึงดูแลเมฆให้ดี....อย่าให้มันต้องเจอเรื่องแบบนี้....ตอนนี้มึงกับกูยังต้องร่วมมือกัน..ไม่ใช่แค่เพราะงาน แต่เพราะเมฆด้วย. ที่กูอยากบอกมึง มีแค่นี้ "
" รู้แล้ว...ไม่จำเป็นต้องมาสอน
คำตอบรับนั้นทำให้วิทย์ถอนหายใจยาว เขายิ้มมุมปาก สมเพชตัวเองที่ความหวังดีกลับกลายเป็นการยื่นหัวใจให้คนอื่นกระทืบเสียได้ หันหลังกลับตัดบทสนทนาอย่างรวดเร็ว ฝ่าเท้าก้าวยาวๆเพื่อจะไปให้ไกลจากคนที่เกลียดชัง..ทว่า..ก็ยังรัก
...เป็นแบบนั้น..รู้สึกเช่นนั้นอยุ่เสมอมา..
"....!! "
แรงบีบที่ข้อมือทำให้วิทย์ขมวดคิ้ว เขาหันกลับไปมองหน้าคนทำ มองมันสลับกับข้อมือของตัวเองอย่างไม่เข้าใจ
" มีอะไรอีก ? " ถามกลับเสียงห้วน ออกแรงดึงข้อมือออกจากฝ่ามือของอีกฝ่ายแรงๆด้วยสีหน้าหงุดหงิด
"....เรื่อง"
" ทำอะไรกันครับ !!! " เสียงตะโกนที่แสนคุ้นหูทำให้วิทย์ชะงัก เขาหันมองไปยังด้านหลังของกันย์..ที่เป็นทางเข้าสู่ห้องพยาบาล มองเห็นร่างของคนที่คุ้นตาเดินกึ่งวิ่งเร็วๆมาหา สีหน้าไม่อาจจะบอกได้ว่าเป็นเช่นไร เพียงแต่มันแปลกตาชอบกลราวกับจะร้องไห้ออกมากระนั้น
" ผมถามว่าทำอะไร...? "เมฆเอ่ยถามเสียงเครียด ร่างยืนตรงแน่ว จ้องมองคนที่รักเขาทั้งสองคนเขม็ง...ด้วยแววตาที่ทำให้วิทย์ตัวเย็นวาบ..
...................TBC.
สวัสดีคะ
มาช้า (อีกแล้ว)แหะๆ

เพิ่งสอบซัมเมอร์เสร็จ ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า
น้องเนมนอนแบ่บเลยตอนนี้ แถมยังมีแววว่าต้องเจอสอบสวนอีกหลายยกถ้าพวกป๋าไม่ช่วย..ส่วนพี่วิทย์กับพี่โตก็เกือบฉะกันซะแล้ว...เฉลยเรื่องตัวการแล้ว และ...สามผีก็กลับมาหลอกหลอนพวกท่านอะเกน อะเกน แอนด์ อะเกน...

ตอนหน้าจะเป็นเช่นไร โปรดติดตาม
ปล. ทำไมยิ่งเขียนนิยายเรื่องนี้มังถึงเครียด ไม่เข้าใจจจจจจจจ เค้าต้องการให้มันเป็นนิยายใสๆโรแมนติกน้าาาาา

(ช้าไปแล้วล่ะ55+)