OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! [by Silence_Serin] บทส่งท้าย Update 30.09.54  (อ่าน 2191259 ครั้ง)

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Improbable 12 : เหตุผล


"...ทำไมถึงอยากรู้ขึ้นมาล่ะ? "

       ผมนิ่ง...เมื่อสบมองรอยยิ้มบนใบหน้าของอาจารย์ธีระ ใบหน้าของเขานั้นยิ้มแย้ม แต่ทว่าสายตากลับไม่ได้เป็นแบบนั้น ดวงตาคู่นั้นจ้องมองมาที่ผมด้วยความนัยอันลึกล้ำ...นัยยะที่แฝงอันตรายมาอย่างไม่อาจจะปิดบัง

      " รู้ไม่ได้เหรอครับ? "ผมเลิกคิ้ว มองหน้าคนถาม

      " นั่นสินะ ยังไงก็เคยทำงานด้วยกันมานี่ "อาจารย์ธีระทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้ไม้ ใบหน้ายิ้มแย้มมองสบตาผมอย่างไม่หลบ หากความนัยน์ของคำพูดนั้นกลับทำให้ผมต้องขมวดคิ้ว

       " ......"

       " แต่ถ้าอยากรู้นัก ทำไมไม่ถาม...คนที่อยู่ข้างๆคุณดูล่ะ "คำพูดนั้นทำให้ผมเผลอเม้มปากเข้าหากันอย่างลืมตัว นัยน์ตาของผมหรี่ลงเล็กน้อยจ้องมองสีหน้ายิ้มเย็นของอาจารย์ธีระ...เรื่องความสัมพันธ์ของผมกับพี่โตไม่ได้เป็นความลับ และแน่นอนว่าเขาก็คงรู้ทั้งจากปากคำของนักโทษคนอื่นๆ หรือแม้แต่จากท่าทางของพี่โตเอง แต่ว่า...การจงใจลากวนไปประเด็นอื่นแบบนี้ มันไม่ใช่ตัวเขาเอาเสียเลย

       "...ผมไม่คิดว่าพี่โตจะรู้หรอกครับ ก็มันเป็นเรื่องของคุณนี่ เขาไม่ได้มีสิทธิเข้านอกออกในได้แบบอาจารย์เสียหน่อย " ผมตอบกลับจ้องมองท่าทางของผู้ชายยตรงหน้า เขาฟังคำพูดของผมแล้วพยักหน้ารับช้าๆสีหน้าเข้าอกเข้าใจ

       " ก็จริงนะ.....แต่มันยิ่งทำให้ผมสงสัยใหญ่ ว่าขนาดคนนั้นเขายังไม่รู้...หรือไม่อยากรู้แล้ว ...คุณจะมาอยากรู้ทำไมกันล่ะครับ? "  วาจายอกย้อนนั้นเล่นมาให้ชวนสะอึก ผมเบิกตาขึ้นน้อยๆ จ้องมองสีหน้ายิ้มแย้มของอาจารย์ธีระแล้วรู้สึกหนาวยะเยือกในอก

        "............"

         " หรืออยากเอาอะไรออกไป ? " อาจารย์ธีระเลิกคิ้ว ออกปากถาม

         " ผมหมายถึงเอาอะไรเข้ามาต่างหาก..." ไอ้เนมตอกกลับอย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกพอใจขึ้นมาเมื่อพบว่าสีหน้าของอาจารย์ธีระเจื่อนไปวูบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะหัวเราะเบาๆแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้

         " ....ทางเรือนจำ มีกฏให้ตรวจค้น.."น้ำเสียงเรียบเฉยนั้นออกปากอธิบายขณะที่เดินไปยังกระดานดำหน้าห้อง ซึ่งมีโน๊ตเพลงเขียนไว้

          "อย่างละเอียด...แต่ว่า ถ้าอาศัยความเคยคุ้นแล้วก็แค่ตรวจลวกๆเท่านั้น...ผมทำงานที่นี่มาหลายปี....."

          "........."

             ฝ่ามือสีขาวนวลคว้าเอาแปรงลบกระดานมาทำความสะอาดอย่างไม่เร่งร้อน ก่อนจะวางลงและเริ่มเขียนตัวโน๊ตลงไปอีกครั้งหนึ่งอย่างเชี่ยวชาญ

          " หากสงสัยว่าทำไมผมถึงทำได้ ก็คงต้องลองถามเจ้านายของคุณดู " เสียงปากกาเขียนกระดานดังเอี๊ยดอ๊าดสอดแทรกคำพูดนิ่มๆเรียบๆนั้น ก่อนเจ้าตัวจะวางปากกาไวท์บอร์ดลงบนร่องกระดานเบาๆอย่างไม่ใส่ใจ " ทุกอย่างก็อยู่ที่พวกเขา...ไม่ใช่เหรอ? "

          รอยยิ้มในหน้าของอาจารย์ธีระยังคงมีอยู่อย่างเบาบางบนผิวหน้า นัยน์ตาคู่นั้นหรึ่ลงน้อยๆ จ้องมองใบหน้าของผม แล้วหยิบกระเป๋าเอกสารของตนเองมาถือไว้ บ่งชัดว่ากำลังจะขอตัวออกไปจากห้อง

          " เดี๋ยว....." ผมชะงัก ออกปากขอคุยกับอาจารย์ธีระต่อ ขณะที่เจ้าตัวเดินออกไปทางประตู...

          ".....อย่าสอดรู้อะไรให้มากเกินตัว ...ระวังจะเป็นอันตราย "น้ำเสียงเย็นๆดังขึ้นจากปากของอาจารย์ธีระ " และเรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควรจะเอามาคุยกันในที่สาธารณะ...ระวังคำพูด ระวังปากและระวังความคิดของตัวเองเสียบ้าง ถึงจะมีขาใหญ่คุ้มกะลาหัว แต่มันก็ไม่ได้ใหญ่คับฟ้า...."

           "......."

          " ...บ่ายสามโมงกว่าแล้ว ปิดห้องซ้อมให้ด้วย..." คนพุดโยนกุญแจดอกเล็กๆมาให้ผมแล้วเดินออกไปอย่างไม่ใส่ใจ ผมเหลือบมองแผ่นหลังในเชิ๊ตสีฟ้าอ่อนของเขาแล้วเม้มปากแน่น หรี่ตาลงน้อยๆอย่างครุ่นคิด

        เสียงเคาะหน้าต่างเบาๆทำให้ผมสะดุ้ง หันกลับไปมองต้นเสียงก็พบว่าผู้คุมกำลังทำหน้าเคร่งมองหน้าอยู่ ผมจึงรีบดึงประตูเลื่อนลงแล้วล๊อกกุญแจอย่างเร่งร้อน หางตาเหลือบมองเห็นเงาของผู้คุมเดินมาด้านหลัง  ไอ้เนมรีบส่งกุญแจในมือให้กับผู้คุมอย่างรวดเร็ว สบมองแววตาเคร่งจากชายในชุดสีกากีแล้วกลืนน้ำายเอื้อก รีบเดินออกมาจากหน้าห้องดนตรีอย่างรวดเร็ว

           " เดี๋ยว ! " เสียงร้องทักของผู้คุมทำให้ผมชะงัก หน้าซีดลงทันควัน หันกลับไปมองหน้าผู้คุมที่มองหน้าผมเขม็งแล้วลอบกลืนน้ำลายเอือก

          " ...คราวหลังฝึกเสร็จแล้วไม่มีอะไรก็ไม่ต้องมาเพ่นพ่านแถวนี้ล่ะ.....ของหายเมื่อไหร่มึงจะเจอดี "

          " ครับนาย...." ผมรับคำเสียงอ่อย หลบตาผู้คุมที่มองมาเขม็ง ก่อนร่างในชุดสีกากีจะส่ายหัวแล้วถอนหายใจเบาๆ

           "  เรื่องเยอะจริงนะแดนนี้นี่...มีปัญหาฉิบหาย มิน่าพัสดีถึงบอกให้ดูดีๆ "เสียงบ่นของผู้คุมทำให้ผมขมวดคิ้วมุ่น ไอ้เนมชะงักฝีเท้ามองหน้าผู้คุมอีกครั้ง

           " ไม่ต้องมามองหน้า ....พวกมึงนี่แหละตัวดี กับไอ้หน้าใหม่นั้นอีกคน ลากคอมันไปสั่งสอนซะบ้าง " ฝ่ามือกร้านยกกระบองในมือมาขู่ผมสั้นๆแล้วถลึงตาใส่ ชวนให้ขวัญปลิวหายไปจากตัวไม่น้อย ผมหัวเราะแหะๆแล้วรีบเดินออกมาจากบริเวณนั้นทันที ขณะที่สมองก็คิดถึงคำพูดของอาจารย์ธีระและเหตุการณ์เมื่อครู่

....ท่าทางพิรุธ..ตอนพูดว่าจะเอาอะไรเข้ามา..

พัสดีบอกให้จับตาดู..

..ไอ้เป้....มากวนแถวนี้บ่อยๆ..

               ผมขมวดคิ้วมุ่นด้วยสีหน้าเคร่ง คำเตือนจากปากอาจารย์ธีระก็เคร่งเครียดไม่น้อย...บรรยากาศตอนนี้เหมือนเมื่อครั้งที่ผมเข้ามาใหม่ๆไม่มีผิด...
มีหมากตัวใหม่เข้ามา หมากตัวอื่นๆในกระดานก็เริ่มขยับตัว...

 ต่างฝ่ายต่างรู้และสังหรณ์ใจได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง แต่ไม่มีใครพูด....

ถ้าหมากพูดไม่ได้ ก็มีแต่พวกเรือน ขุน ไม่ก็คิงกับควีนเท่านั้นล่ะมั้ง ที่จะยอมเปิดปาก...

...แต่ว่าคนเหล่านั้นจะยอมพูดกับเบี้ยที่ไม่มีความสำคัญอย่างผมรึเปล่าก็เท่านั้น...

ไอ้เนมถอนใจเบาๆ พลางเดินไปยังเรือนอนด้วยสีหน้าครุ่นคิด...

....ต้องมีอะไรเกิดขึ้นสักอย่าง...ผมแน่ใจ

...............................................................................


            เพดานห้องสีหม่นด้วยผ่านอายุการใช้งานมานาน มีเพียงแสงสว่างจากหลอดนีออนซึ่งกระพริบสั่นเดี๋ยวติดเดี๋ยวดับวูบวาบไปมา เสียงลมหายใจของชายต่างวัยหลายสิบคนในชุดนักโทษสีเข้มที่นอนหลับไหลอยู่ภายในห้องทำให้นัยน์ตาที่เหม่อมองเพดานสีหม่นปิดพับลงช้าๆ ฝ่ามือควานสะเปะสะไปไปข้างกาย หากเมื่อสัมผัสถึงไออุ่นของผิวเนื้อและลมหายใจของคนข้างตัว ดวงตาที่ปรือปิดนั้นจึงกระตุกไหวและเปิดออกอีกครั้ง..

         ดวงตากลมโตทอดมองร่างสูงที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างกายด้วยสีหน้าเครียดขึง ฝ่ามือที่วางอยู่ใกล้ท่อนแขนอุ่นร้อนนั้นกระตุกมาวางบนแผ่นอกของตนเองอย่างลืมตัว

      พลิกกายนอนตะแคงตัว และสอดแขนหนุนศรีษะของตนเองไว้ เพื่อจะได้สามารถทอดมองใบหน้านิทราสนิทของคนที่อยุ่ข้างกายได้...ใบหน้าที่สงบลงในยามหลับไหลนั้นแสนคุ้นตาและชวนให้หัวใจสั่นไหวเช่นทุกครา หากแต่ฝ่ามือของเขากลับไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้อง...

        เสียงครางพร้อมกับเสียงพ่นลมหายใจแรงของนักโทษที่นอนใกล้ทำให้ร่างทั้งร่างสะดุ้งเฮือก และปลายนิ้วที่จะเอื้อมไปแตะผิวหน้าขาวก็กระชากเข้าหาตนอย่างลืมตัว ร่างเล็กงอเข้าเข้าหาตัวมากยิ่งขึ้น นัยน์ตาที่เบิกค้างหรุบต่ำลงอย่างว้าวุ่น..

          "...พี่......" น้ำเสียงของตนที่เล็ดรอดออกมาจากลำคอช่างเบา...เบานักแม้จะเป็นเสียงในค่ำคืนอันเงียบสงบ ที่มีเพียงเสียงลมหายใจดังอยู่

          ...เบา...เพราะเขาไม่กล้าจะพูดให้ดังขึ้น...ไม่กล้า...แม้กระทั่งจะแตะปลายนิ้วลงไปยังผิวเนื้อ บนใบหน้าของคนที่เขารัก..

          กำมือเข้าหากันแน่นอย่างว้าวุ่น กวาดสายตามองรอบๆห้องขังที่มืดสลัวและเงียบสงัด แสงจากดวงไฟตรงหน้าประตูเรือนส่องกระพริบไหวเสียจนภาพที่มองเห็นเลือนราง มองเห็นเงาของผู้คุมที่ยืนอยู่ข้างนอกทอดยาวและขยับวูบวาบดูคล้ายกับดวงวิญญาณโผนเข้ากระซิบกระซาบกันผ่านลมหายใจของผู้คนในที่แห่งนี้...

          ความอึดอัดว้าวุ่นอวลในหัวใจจนไม่อาจจะข่มตาหลับ หวาดหวั่น ระแวง สงสัย และหวั่นไหวเสียจนไม่กล้าจะทำอะไรสักอย่าง

         ทอดมองผิวเนื้อบริเวณลำคอของชายหนุ่มข้างกายดลยไปจนถึงหลังหู มองเห็นพลาสเตอร์สีขาวแปะอยุ่บนนั้นอย่างชัดเจนเสียจนหัวใจเจ็บแปลบ..

....เมฆกระพริบตาถี่เมื่อน้ำใสไหลเอ่อจากดวงตาและทิ้งตัวลงข้างแก้ม...เขายกมือขึ้นอุดปากกลั้นสะอื้นจนตัวสั่น

นัยน์ตากลมโตปิดพับลงทิ้งขนตายาวทาบบนผิวแก้มชื้น  ดวงตาปิดแน่น คิ้วขมวดเข้าหากันแน่นเมื่อความเครียดเข้าจู่โจมจมหัวใจเต้นระรัว...

.... หวาดกลัวความเปลี่ยนเปลงและการถูกทอดทิ้ง...

         ภาพของพี่ชายที่รักและคนรักของตนยืนคุยกับและกระซิบด้วยความเคร่งเครียด ก่อนจะผละจากกันอย่างรวดเร็วยามที่เขาก้าวเท้าไปใกล้นั้นให้เกิดความสงสัย...คนสองคนที่มักจะทะเลาะวิวาทและไม่พูดดีต่อกันกลับหายไปไหนสองคนบ่อยๆด้วยสีหน้าระแวดระวัง...ดวงตาทั้งสองคู่ที่จ้องมองเขาอย่างระวังไง ราวกับว่ากลัว...กลัวอะไรสักอย่าง...

    หากนี่เป็นความฝัน สำหรับเขามันเรียกได้ว่าฝันร้าย เขาไม่ได้หวาดหลัวการถูกปกปิด การถูกระวังไม่สนใจ แต่ที่เขาหวาดกลัว คือการเข้าใกล้กันด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ของผู้ชายสองคน

หนึ่งคือพี่ชายที่รักเขามาก และเกลียดคนที่เขารักจับใจ

อีกหนึ่งคือผู้ชายที่เขารักมาก และคนๆนั้นก็รักพี่ชายของเขาด้วยเช่นกัน...

    ...ถ้าได้เข้าใกล้กันมากกว่านี้ ถ้าห่างไปจากเขามากกว่านี้

สิ่งที่เขาหวาดหวั่นเป็นที่สุดจะไม่มาถึงหรือ?

         บาดแผลที่ลำคอของวิทย์ยิ่งชวนให้หัวใจหวาดระแวงหนัก ...แผลเป็นที่เจ้าตัวไม่เคยเผยให้ใครได้เห็น ไม่เคยเลย..
.
นอกจาก "พี่"ของเขา ในยามค่ำของวันหนึ่ง

ไม่มีใครได้แตะต้องแผลนี้กระทั่งตัวเขา...หากแต่ วิทย์กลับเดินไปให้พี่ชายของเขาสัมผัสมันและตรวจตราดูด้วยตัวเอง...

      เมฆเม้มปากแน่น นัยน์ตาที่ปิดแน่นค่อยปรือเปิดขึ้นมาอีกครั้งอย่างระทมทุกข์ สับสน...ตอนนี้เขาสับสนจนไม่รู้จะพูดยังไง...ใจเขาอยุ่กับวิทย์ ร่างกายเขาอยู่กับวิทย์ แแต่ว่าใจของวิทย์อยู่กับใคร..

เคยแน่ใจว่าหัวใจของวิทย์อยู่ที่เขา...คิดแบบนั้นอยู่จนกระทั่งเขามองเห็นคนรักของตนเดินเข้าไปหาพี่ชายในยามเย็นของวันที่มีเมฆครึ้ม และให้พี่ชายแตะต้องบาดแผลที่อีกฝ่ายหวงนักหวงหนา..

....ไม่เข้าใจ เขาไม่เข้าใจ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น..

หัวใจที่เคยมั่นใจว่าได้ครอบครองเพียงผู้เดียวเริ่มไหวหวั่นไม่แน่ใจ ...เมฆจำได้ดีว่าเขาไม่เคยลืม ไม่ลืมแววตาของพี่ชายที่ทอดมองลำคอของคนที่เขารักเลยสักวัน..

 นั่นทำให้หัวใจที่เคยมั่นคงเริ่มโลเล ไม่มั่นใจ เขาหวาดกลัวความจริงเสียจนไม่กล้าถาม เขาหวาดหวั่นไม่อยากรับรู้สิ่งที่ไม่ต้องการเสียจนปิดปากเงียบมาจนถึงบัดนี้...

เขาเงียบ...เงียบไม่พูดอะไร เขานิ่ง ทำหน้าไม่ทุกข์ร้อนไม่สั่นไหว ตีสีหน้าไม่รู้เรื่องราวเมื่อวิทย์เดินกลับมากอดและบอกรัก...

คำบอกรักที่เอ่ยขึ้นมาหลังจากถูกพี่ชายของเขาแตะต้อง

...จำได้ว่าตอนนั้นเขายิ้มรับ แม้ว่าหัวใจจะปวดร้าวหวั่นไหว ยิ้มรับ...แม้ว่าจะหวาดหวั่นเหลือคณาว่าคำพูดนั้นอาจจะไม่ได้หมายถึงตัวเอง

..บอกรัก...บอกใครกัน...

บอกเขา หรือบอกผู้ชายอีกคนที่รักเขา...

พูดกับใคร หมายถึงใคร?

หมายถึงเขา หรือ..ใครกัน

       แม้ว่ามันเป็นแค่การพบปะที่ไม่มีสาระอะไร แค่ผู้ชายสองคนนั่งบนโต๊ะเงียบๆและพูดคุยกันไม่กี่ประโยคแล้วออกมา ทว่าภาพของแววตาพี่ชายและปลายนิ้วที่แตะบนผิวเนื้อของวิทย์กลับติดตา ตรึงให้เขาอยุ่กับที่...ในใจของเขาก็ไม่ได้คลายความหวั่นไหวนั้นลงเลย แม้วันเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ ทำได้เพียงเก็บมันเอาไว้และบอกตัวเองว่าอย่าหวั่นไหว

...เขาบอกตัวเองให้เลิกกลัว กลัวสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น  เขาคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อสองคนนั้นเกลียดกันมากเสียจนอยากจะฆ่าให้ตาย และอีกทั้งพี่ชายยังรักเขาเสียจนไม่ยอมมองใคร

ทว่าเมื่อพี่ชายเข้าหา กอดจูบรุกเร้าและกระซิบบอกให้ครุ่นคิดถึงความนัยน์ว่าคนที่เขารักนั้น...คิดอย่างไร...

...พุดให้ลองคิด ว่าแท้จริงแล้วใครกำลังหลอกตัวเอง..

        แม้กระทั่งวันนี้ เรื่องราวเมื่อครานั้นยังตามมาหลอกหลอน กลั่นแกล้งให้หวาดผวาในใจ กลัว...กลัวเหลือเกินว่าจะถูกทิ้ง ถูกทอดทิ้งไว้เบื้องหลัง...

   เมฆครางในลำคอเบาๆ ขณะที่เอื้อมมือสั่นเทาไปยังลำคอของอีกฝ่าย เขาเบียดตัวเข้าไปใกล้ร่างสูงเพรียว เเว่วเสียงครางในลำคอของวิทย์ดังขึ้นเบาๆพร้อมกับท่อนแขนที่ตวัดพาดลงบนเอว หากดวงตาและฝ่ามือกลับจับจ้องไปที่ลำคอของคนรักด้วยสายตามาดหมาย

   ...เขาไม่เคยได้แตะ ไม่เคยได้รับอณุญาติให้แตะมัน

ไม่เคยเลยสักครั้ง...

  พี่กันย์เป็นใคร พี่กันย์เป็นคนสำคัญมากแค่ไหน ถึงได้ยอมให้แตะต้อง ถึงได้ยอมให้ดูรอยแผลนั้น

จำได้ดีว่าพี่วิทย์ได้แผลนี้มาพร้อมกับรอยกรีดบนใบหน้าของเขา...รอยแผลของเขาหายไปแล้ว ทว่ารอยแผลของพี่วิทย์กลับไม่เคยหาย...

ไม่เคยเอาพลาสเตอร์นั้นออกจากลำคอตนเอง...ทำเพียงแวะเวียนไปเอาพลาสเตอร์อันใหม่จากพี่ชายมาปิดไว้..

  ทำไม มันคือแผลอะไร ทำไมถึงให้พี่ชายแตะมัน ทำไมกัน...

      เม้มปากแน่นยามที่ปลายเล็บสั้นๆของเขาค่อยสอดเข้าไปใต้พลาสเตอร์สีขาว เขาออกแรงดึงมันเบาๆหากแต่ไม่มีท่าทีว่าจะหลุด เมฆเม้มปากแน่น พลาสเตอร์นี้วิทย์มักจะเปลี่ยนมันทุกอาทิตย์ ไม่เคยเอาออกแม้กระทั่งตอนอาบน้ำ ดังนั้นมันจึงสามารถหลุดได้อย่างง่ายดายเพียงใช้แรงดึงน้อยนิด..

   จำได้ว่าพลาสเตอร์นี้เริ่มเก่าแล้วและวิทย์ก็บ่นว่าจะไปเปลี่ยน เพราะฉะนั้น...

       เมฆเม้มปากแน่น เขาลอบสังเกตสีหน้าของคนที่นอนหลับอยู่อย่างระแวดระวัง เบียดตัวเข้าไปในอ้อมแขนหนาแนบแน่นขึ้นหวังจะให้รอยกอดนั้นแนบแน่นพอที่จะไม่ให้คนที่หลับอยุ่สะดุ้งตื่นขึ้นมาเล็บสั้นๆพยายามแงะมันออกอย่างสุดความสามารถ มือสั่นด้วยความเกร็งบวกกว่าความหวาดหวั่น...

     แปะ..

   พลาสเตอร์สีขาวหล่นแหมะติดอยู่ที่ปลายนิ้ว ทำให้ความดีใจเเล่นวูบ เมฆพยายามเพ่งตัวมองหลังหูของคนรัก หากแต่แสงไฟติดๆดับๆนั่นกลับทำให้ทอดมองได้ยากนัก..

      ชายหนุ่มเม้มปากแน่น นึกอยากจะได้ไฟฉายซักกระบอกทั้งที่ไม่มีวันได้พบ เขาดูตอนกลางวันไม่ได้ เพราะเจ้าตัวไม่ยอมแน่ๆ แต่หากจะแอบดูมันตอนกลางคืนก็ไม่มีแสงเสียอีก

    เขาครางเบาๆในบำคออย่างขัดใจ พยายามเพ่งมองให้ได้ อย่างไม่ยอมแพ้ และในที่สุดแสงไฟนีออนจากด้านนอกก็ติดขึ้นและสาดเข้ามาภายในห้องขัง พาดลงบนลูกกรงเหล็กจนเกิดเงาดำ แต่แสงสว่างนั้นก็ยังพาดอยุ่ใกล้ๆตัวเขา ทำให้สามารถมองเห็นภาพได้...ชัด

....ชัดเจนเสียงจนอยากนึกว่าตัวเองตาฝาด

ความรู้สึกแปลกประหลาดวาบในอกจนร่างสั่นไหว เมฆเบิกตากว้าง ขณะที่แสงไฟดับลงอีกครั้ง ทิ้งให้ห้องขังมีเพียงความมืด...

เมฆร้องเสียงสั่นในลำคอ เขาใช้ปลายฟันขบริมฝีปากแน่นอย่างอดรนทนไม่ไหว...

ร่างทั้งร่างสั่นระริก น้ำตานองเอ่อ เขายกปลายบนิ้วไล้บนหลังหุของคนรักอีกครั้ง อย่างหวังให้ตัวเองตาฝาด หากแต่รอยนูนบนผิวที่เคยเรียบเนียนกลับทำให้หัวใจสั่นกระตุก


...G U N....


      ทั้งดวงตาที่มองเห็นทั้งปลายนิ้วที่สัมผัส บ่งชัด...

 นัยน์ตาคู่โตเบิกกว้างน้ำตาที่แห้งเหือดไหลพรากเอ่อท้นดวงตาจนภาพเบื้องหน้าสั่นไหว

หัวใจกรีดร้องร่ำไห้ด้วยความปวดแสบปวดร้อน...เจ็บ เจ็บเสียจนพูดไม่ออก

เจ็บกว่าไม่รัก เจ็บกว่าต้องจำทนเงียบนิ่งไม่แสดงท่าทีใดๆ...เจ็บ....

เจ็ยเพราะถูกหักหลัง...

....." พี่รักเมฆ "

    "คนสำคัญ"

   "กูรักมึง "

  "ถ้ามึงเป็นงูเห่า จะฉกก็ฉกให้ตายทั้งคู่...มึงเป็นคนสำคัญของกู"

   " อย่าสนิทกับมันมากเกินไปได้ไหม...ทำตาหวานใส่"พี่ชาย" ตัวเอง..."


รัก

คนสำคัญ

 น้องชายที่รัก คนที่รัก...รัก.....รักมาก...

      ...พี่ชายที่บอกว่ารักเขามาก กรีดร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของไว้บนร่างของผู้ชายที่เขารักมาก และผู้ชายที่บอกว่ารักเขาเช่นกัน ก็ปกปิดรอยนั้นไม่ยอมให้ใครได้เจอ ลับหลังก็ไปพบกันสองคน....

มันเรียกว่าอะไร....

นี่มันอะไรกัน...

     สุดท้ายแล้ว คนที่โดนหลอกน่ะมันเขาทั้งนั้น !!!

รัก ....พูดว่ารักทั้งที่ทำแบบนี้ รักงั้นเหรอ? ทำไม...ทำไมถึงได้ทรยศหักหลัง

ทำไมพี่ชายถึงได้แย่งของสำคัญของเขาไปอีกแล้ว...

ทำไมคนที่เขารักถึงต้องทอดทิ้งเขาไปทุกคน...

ทำไมกัน!!...

   ดวงตากลมโตที่นองเอ่อด้วยน้ำตาวาววับและเบิกกว้าง ความเจ็บปวด หวาดหวั่น รวดร้าวจนคิดอะไรไม่ออกเต็มแน่นอยู่ในหัวอก เจ็บปวดเสียจนจุกแน่น..เจ็ย เจ็บเสียจนสมองมึนเบลอ ตื้อหนักแทบคิดอะไรไม่ออก

    ปลายนิ้วเรียวจิกลงบนพื้นซีเมนต์เเข็งชืด ฝ่ามือสั่นระริกและปลายฟันที่เขาเขาหากันแน่น...เล็บสั้นๆกดแน่นครูดกับพื้นซีเมนต์เสียจนเจ็บแปลบ  ทว่าเขาไม่สนใจยังคงกดปลายเล็บลงบนผิวซีเมน์อย่างต่อเนื่อง ไม่สนว่าจะเจ็บ ไม่สนว่าจะเกิดแผล

ให้ร่างกายเจ็บปวด ดีกว่าหัวใจต้องทุกข์ทรมาร

ร่างหายเขาต้องนี้เจ็บเพียงเท่านี้ หากหัวใจร้าวร้านกว่านับพันเท่า !!!

...พี่ชายที่รัก พี่ชายที่พร่ำคำว่ารัก พี่ชายที่โอบกอดกระซิบคำว่ารักมาตลอดหลายปี

...ผู้ชายที่เขารัก ผู้ชายที่พูดว่ารักเขา และปกป้องเขามาตลอด

สองคนนั้นคงกำลังแกล้งแสดงละครตบตาเขาอย่างเนบเนียน ทำเหมือนเขาเป็นคนโง่

 แสร้งทำเป็นเกลียด แสร้งทำเป็นไม่ชอบหน้า หากลับหลังกลับยิ้มร่า พุดคุยแสดงคงวามรักกันอย่างมีความสุข โดยไม่มีใครสนใจเขา

     กลั้นสะอื้นในลำคอเสียจนตัวสั่น เขาอยากจะร้องไห้และกระชากร่างของคนที่นอนหลับอยุ่มาโวยวายต่อว่าให้สาใจ อยากจะเดินไปกรีดร้องใส่พี่ชายที่ทำหน้าซื่อ อยากจะทำร้าย อยากจะกู่ก้องให้สาสมกับความเจ็บปวดที่ได้รับ

กับความรักที่ถูกหักหลัง

ทำไม ทำไมเขาต้องพบเจอความผิดหวังอยุ่ตลอด

ทำไม... ทำไมความรักที่พยายามไขว่คว้าถึงไม่ได้มาสักที

   เมฆบิดตัวออกจากอ้อมแขนแกร่งที่เปลี่ยนจากความอบอุ่นเป็นเย็นยะเยือกและแผดเผาหัวใจเสียจนแทบมอดไหม้ เขาซุกหน้าลงกับหมอนของตน กลั้นสะอื้นกลั้นน้ำตาเสียจนร้างทั้งร่างสั่นไหว

ในมือของเขามีพลาสเตอร์ที่ดึงออกมาจากหลังหูของคนรักติดอยู่ เขากำมันแน่น ระลึกถึงคนที่ให้มันมา และคนที่สร้างรอยแผลนั้นมาให้

....ทั้งที่ลืม พยายามลืมมันไปแล้วถึงความสูญเสียและความวิปโยคในชีวิตของเขา ที่เกิดขึ้นเพราะผู้ชายที่เขาเรียกว่า พี่

ทั้งที่รัก ทั้งที่ไว้ใจ ทั้งที่อยู่ข้างๆ ชายคนนั้นกลับทรยศความไว้ใจและความรักของเขาอย่างง่ายดาย

ฉกชิงความรัก แย่งเอาคนที่เขารักมาอีกครั้ง...

ทำร้ายให้เขาต้องเจ็บปวดเพราะไม่มีใครต้องการ ทำให้เขาจนตรอกเสียต้องพบเจอกับนรกบนดิน...

...ภาพของพี่ชายที่รักแสนรัก เคยแตกร้าวไปแล้ว และเขานี่อหละพยายามเก็บมันมาประกอบใหม่อีกครา หากทว่าเมื่อรอยแยกนั้นจะแนบกันสนิท เจ้าของมันกลับดึงกระชากภาพนั้นให้ขาดวิ่นด้วยตัวเอง..

พี่ชาย พี่ชาย พี่ชายของผม

ทำไม ทำไม ทำไมพี่ถึงต้องทรยศผม ทำไมพี่ถึงต้องทำร้ายผม ทำไมพี่ต้องแย่งชิงคนที่ผมรักไป


....G U N...


ทำไมต้องเป็นพี่....

      ปลายนิ้วที่ชุ่มไปด้วยเลือดเอื้อมมือกำลูกกรงบนศรีษะแน่น  ร่างที่สั่นไหวนั้นกัดฟันกรอด แววตาคุกรุ่นด้วยความโกรธ ความปวดร้าว ความเสียใจจนแทบคลั่ง !!

พลาสเตอร์สีขาวถูกแปะลงบนที่เดิมอย่างรวดเร็วด้วยปลายนิ้วเปื้อนเลือดสีสด  ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าของชายที่เขารักนักหนาด้วยหยาดน้ำตาไหลเอ่อ ในยามค่ำคืนที่ทุกชีวิตหลับไหล กลับมีเพียงร่างของนักโทษชายคนหนึ่งนอนเบิกตาโพลง ดวงตาแดงก่ำด้วยน้ำตาและความคั่งแค้น...

...." พี่......"


 เสียงกระซิบของเมฆดังขึ้นฝ่าความเงียบอีกครั้ง แม้มันจะเบาแสนเบาเช่นเดิมหากทว่าน้ำเสียงนั้นไม่ได้สั่นไหว เช่นเดียวกับฝ่ามือที่กำแน่นเข้าหากันแน่น...และดวงตาที่วาววับด้วยน้ำตาแต่ฉายชัดถึงความไม่พอใจ

..........................TBc.

เป็นยังไงบ้างค่ะตอนนี้ :เฮ้อ:
ตอบตามตรง ว่าเขียนแล้ว"สะใจ"หมอกันย์อย่างมากมาย
...ไงล่ะ วางแผนดีนัก เจ้าเล่ห์นัก เจ้าแผนการณ์นัก...
สุดท้ายไอ้สิ่งที่วางมาอย่างแยบยล ก็ต้องพังทลายลงเพราะการกระทำที่มาจากความสะใจของตัวเอง..
   สงสารเมฆมากๆ ตอนนี้เขียนไปน้ำตาซึมไป เจ็บปวดและผิดหวังร่วมไปกับเมฆจริงๆ พี่กันย์ฆ่าตัวตายของแท้ ทั้งเรื่องที่เรียกพี่วิทย์ไปคุยแล้วเมฆมาเจอ อาจจะจำกันได้ในตอนพิเศษ สองคนนี้จำต้องพบกันด้วยสาเหตุที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากแผลของวิทย์ พี่กันย์พยายามทำให้เมฆระแวงพี่วิทย์ เพื่อจะ"แย่ง"มาเป็นของตัวเอง วางแผนไว้เพื่อจะได้กระตุกใยแรงๆทีหนึ่งจนล้มครืน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว
     เมฆที่กำลัง"กลัว"ความสนิทสนมของทั้งสองคนจากภาพที่เห็นและจากความระแวงที่มีมาก่อนหน้ามาตอนนี้บวกกับรอยแผลที่พี่กันย์ทำไว้อีก เรียกว่าจะยังไงก็คงกู่ไม่กลับ กับพี่กันย์เรียกว่าสาสม แต่สำหรับวิทย์แล้ว เรียกว่าน่าสงสาร..
สำหรับเมฆ...อืม ที่ผ่านมาเหมือนไม่คิด เหมือนไม่มีอะไร แต่...คนไม่แสดงออกไม่ได้หมายความว่าไม่รู้สึก คนที่ไม่พุดไม่ได้หมายความว่าไม่คิด คนที่"นิ่ง"ทำเฉยไม่รุ้ร้อน ใช่ว่าจะไม่สนใจอะไรเลย...
   ความหลังระหว่างเมฆกับพี่กันย์ใกล้จะเปิดเผย อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เมฆเกลียดพี่กันย์ในตอนเริ่มแรกของเรื่อง และอะไรที่ทำให้เมฆเคียดแค้นเป็นทบเท่าพันทวีจากการกระทำของพี่กันย์...ใกล้จะเปิดเผยแล้วค่ะ
     ครึ่งหลังนี้สามผีค่อนข้างเยอะ อาจจะปวดหัวแต่ช่วยไม่ได้ (555+) คราวนี้อัดมาม่าเต็มแรงแล้วนะ ไม่ผ่อนล่ะ 555+ :laugh:
ปล. เชียนเสร็จตั้งแต่เมื่อวาน จะมาโพสต์แล้วเน็ตเน่า อ้ากกกกกกก จะบ้าตาย :serius2:
..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2011 01:28:41 โดย Serin »

ออฟไลน์ Takleng

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จิ้มมั่ง เห็นเค้าฮิตจิ้มกันจัง

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
สงสารเมฆ  สงสารวิทย์ด้วยอ่ะ  แต่เชียร์กันย์วิทย์ง่ะ

ออฟไลน์ ammer

  • มีหัวใจแต่ไร้ความรู้สึก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
จะสงสารใครดี? :z3:
เมฆ โอเค น่าสงสารจริงเพราะในความรู้สึกเมฆคือการถูกหักหลังจากคนที่รักทั้งสองคน
วิทย์ เอิ่ม..ก็น่าสงสารอยู่แต่ก็ผิดตรงที่ไม่ได้รักเมฆคนเดียว
พี่กันย์ น่าสงสารตรงที่พลาดทำให้เมฆเข้าใจตัวเองผิดว่าจะแย่งวิทย์ไปทั้งที่รักเมฆมาก แต่..มันสาสมมากกว่ากับสิ่งที่พี่กันย์ทำ หักล้างกับความสงสารไป เหลือแต่คำว่า"สมน้ำหน้า"
ถึงจะดราม่ายังไง เราก็เชียร์สามผีน้า  :mc4: เอาเยอะๆ ปวดตับดี   :laugh:
ปล อยากรู้ว่าเมฆมองเห็นอะไรในสายตาที่พี่กันย์มองวิทย์

Monkizzz

  • บุคคลทั่วไป
สรุปคือเมฆรักทั้งวิทย์และกันย์ใช่ม่ะ

แล้วกันย์ก็รักทั้งวิทย์และเมฆ

วิทย์ก็รักทั้งเมฆและกันย์

ที่เราคิดนี้ถูกป่ะ

ปล.อยากอาจตอนพิเศษพี่ทินอ่ะ

sky-cafe

  • บุคคลทั่วไป
เสียน้ำตาเลยตอนนี้
เราคิดว่าถ้าใครไม่ลองไปเป็นเมฆเองคงเข้าใจลำบาก การที่ถูกคนที่เรารัก(แถมยังเคยทำร้าย)เราทั้งสองคนหักหลังนี้มันคงเจ็บเสียยิ่งกว่าอะไรดี ความไว้ใจก็เหมือนแก้วแตกแล้วต่อให้จะประกอบใหม่ยังไงก็คงไม่เหมือนเดิม แล้วนี้เล่นมาทำร้ายหัวใจที่มีร่องรอยของความร้าวรานอยู่แล้ว เฮ้ออ เมฆเอ้ยยย ชาติที่แล้วไปทำอะไรมาคะลูก ทำไมใครๆถึงได้ทำแบบนี้กับหนู

แล้วเราว่าคนที่ไม่ค่อยพูดนี้เวลาเสียใจที่นี้มันเหมือนจะตายเอาให้ได้เลยนะคะ เพราะทำเหมือนเฉยๆพอปะทุทีนี้ก็ใหญ่เลยย
เอาเป็นว่าเอาใจช่วยเมฆให้ได้สุข"จริงๆ"กับเขาบ้างสักที แล้วกัน :)

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
สงสารเมฆกะวิทย์มากกกก

ไอ้พี่กันต้องตายเพราะเมฆแน่ๆๆๆ

ฮ๋าๆๆๆ
เจ้าวางแผนดีนักแล้ววิทย์ละจะเป็นแบบไหน

ja ne

  • บุคคลทั่วไป
ติดคุก ก็ทุกข์พอแล้ว
ยังจะถูกกักขังในใจอีก

เมฆ ว่างๆ ไปนั่งสมาธิบ้างก็ดี
จิตสงบ ใจสบาย

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
+1 :sad4: สงสาร นู๋ เมฆ มาก ๆ คน ที่เรารัก .. พี่และสามี ง่ะ เศร้า
วิทย์ ก็ ต้อง แสดง ให้ น้องรู้ บ้าง  การกะทำบังครั้งก็ ทำให้เราไม่มั่นใจ กลัว ว่าจะคิดไปเอง  :o12:

ออฟไลน์ EunJin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
อ่านแล้วแทบสำลักมาม่าตายเลยทีเดียวค่ะ
แบบว่าจินตนาการภาพที่เมฆเอามือไปครูดๆจนเลือดออกนี่
เค้าสยองแทนเลยทีเดียว บรึ๋ยยยยมากกกกกกก
สงสารเมฆมากจริงๆค่ะ ;__________;
Ps. นึกว่าเรื่องนี้จะมีตอนพิเศษวาเลนไทน์ให้โฮกนะคะเนี่ย
มาเจอมาม่าชามโตเลย ฮ่าาาาาาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Maree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
โอ๊ยยยย เครียดค่ะ

ไม่รู้จะสงสารใครดี
เฮ้อ...

ขอบคุณคนแต่งสำหรับเรื่องราวดี ๆ ค่ะ จะรอตอนต่อไปนะคะ  :pig4:

Sornpattra

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้แหล่ะ ที่รอคอย
ชอบ 3 ผีมาก
สงสารเมฆที่สุดเรย  อยากให้เมฆกับพี่วิทย์เข้าใจกัน
ส่วนอิพี่กันย์ให้มัน อกหัก ไม่มีใครรัก มันเจ้าเล่ห์นัก

ปอลอ นะ. ถึงชอบซีนอารมณ์พี่กันย์กับพี่วิทย์ ใจก็อยากลุ้น
แต่ว่า ไม่รู้จะให้น้องเมฆไปไว้ตรงไหน ไม่ไหวจะเคลียร์..ก็ขอถีบพี่กันย์ไปเหอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2011 13:49:27 โดย Sornpattra »

MiNiRooM

  • บุคคลทั่วไป
สงสารไปหมดทั้ง 3 คน T____T
ตะโกนดังๆ ว่าเข้มแข็งไว้นะ เมฆ พี่วิทย์ พี่กันย์


สู้ต่อไปเพื่ออนาคตความรักที่ สดใส
(วิ่งหนีออกไปทั้งน้ำตา)  :o12:
ปล แอบเชียร์กันย์วิทย์เช่นกันหล่ะ หุหุหุหุ  :o8:


ออฟไลน์ none_ny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
เมฆเอ๋ย เขาไม่รัก ก็ไปรับคนอื่นเหอะ เพราะเรา....เชียร์กันxวิทย์ 5555

ปล.ช่วงนี้พี่โต น้องเนม ไม่มีฉากสวีทเลย แง่มๆๆ

ออฟไลน์ KOWPOON

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
สงสารเมฆจัง คงปวดใจน่าดู :m15:  เพราะรักมากทั้งสอง คน  เฮ้อเป็นกำลังใจให้เมฆกับวิทย์  :beat: ตบหน้าพี่กันย์1ที เป็นไงล่ะทีนี้ ทำให้คนที่ตัวเองรักเป็นทุกข์ มีความสุขมากม่ะห๊ะ  :m16: 

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
สงสารน้องเมฆมาก ความรู้สึกการที่โดนคนที่เรารักหักหลังมันเจ็บ เจ็บเจียนตาย

ขอให้เมฆสู้ๆ  เข้มแข็ง เฟดตัวออกมาเถอะ เย็นชาใส่แม่งทั้งสองคนเลย ให้มันรู้ซะบ้าง

วิืทย์ถ้าจะยังอยากรักษาความรักกับเมฆก็ควรตัดใจจากไอ้พี่กัณให้ได้ ให้ความมั่นใจเมฆให้ได้  อย่าแบ่งเซลล์ รักคนสองคน

ยิ่งกับเมฆ เมฆไม่รู้หรอกว่าวิทย์รักเมฆ รู้แต่ว่าเมฆรักวิทย์เลยอยู่ด้วย อยู่แบบระแวง อยู่แบบไม่มั่นใจอะไรเลย เพราะงั้นต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ปล่อยเมฆไปเถอะ

แล้วถ้าสุดท้ายลงเอย กัณวิทย์ละก็ จะเกลียดสองคนนี้สุดๆๆๆๆ เหอะๆ
เพราะมันโหดร้ายกับเมฆมาก(เด็กใจบริสุทธิ์คนหนึ่งต้องโดนกระทำอีกที่ครั้งกัน ) สวดส่ง แม่ม!

ไม่ว่าจะกัณเมฆ หรือวิทย์เมฆ เชียร์ทั้งนั้น แต่ขอให้คนๆนั้นเป็นคนที่รักเมฆและไม่ทำให้เมฆเสียใจ และปกป้องเมฆได้ แล้วรักเมฆคนเดียวพอ

 

mumumama55

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: แล้วจะยังไงต่อไปละนี่ ขอให้หาทางออกให้เจอแล้วกัน  :เฮ้อ:

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
กลับตะละปัตรซะอย่างงั้น  แทนที่เมฆจะโกรธเกลียดพี่วิทย์แล้วจะกลับไปหาอิพี่กันย์ อย่างแผนที่วางไว้

กลับเป็นการสะกิดรอยแผลเก่าๆของเมฆแทน  งานนี้อิพี่กันย์พลาดอย่างแรงที่สลักชื่อตัวเองเอาไว้

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
เชียร์วิทย์กับกันย์อย่างแรงงงงงงงงงงงงงงงง

 :serius2:


แอร้ยย แอบไปเทียวหากันเกือบทุกวันนี่เอง อร้ากกก

ออฟไลน์ afternoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
เอาไงกับชีวิตดีล่ะเนี่ยยยย
เกลียด 3 ผี แต่ก็ต้องอ่าน (ก็มันหยุดไม่ได้เเล้วนี่น่าาา)
เปิดอกตั้งวงคุยกันให้จบๆ ไปเลยมะะะ
แบบว่าขอเคลียร์!!!!!
ประเด็นคือมันไม่ง่ายอย่างนั้นอ่ะเด้  :m15:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ltahset

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยย
นับวันยิ่งสับซ้อนไปเรื่อยๆ
เมฆก็น่าสงสาร

^^
ขอบคุณค่ะ

lazewcielo

  • บุคคลทั่วไป
แอบเชียร์กันย์วิทย์นะรู้มั้ย
แต่ก้สงสารน้องเมฆ
เป็น 3ผี ที่ชวนปวดหัวเสียจริง

ออฟไลน์ monster_narak

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กันย์วิทย์ กันย์วิทย์

เชียรืเชียร์

สงสารน้องเมฆมากกกกกกแต่งได้อินเกิ้นนนนนนนนน

น่าสงสารนัก
ตอนนี้ชื่อว่าแผลเป็นเป็นเหตุ

หวังว่าจะมีบทสรุบที่ลงตัวกับทุกคนนะคะ

ตอนนี้น้องเนมเป็นตัวประกอบ :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
สงสารวิทย์
สงสารเมฆ
อยากตึบไอ้กันต์

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
รักทำลายของจริงเลย >.<

lovevva

  • บุคคลทั่วไป
 o18อยากบอกว่าสมน้ำหน้าอิพี่กันต์

 :sad4:แต่สงสารเมฆกับวิทย์อ่ะค่ะ

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ให้ตายสิโรบิน! ยิ่งอ่านแบบนี้ยิ่งสะใจพี่กันย์เพราะดูเหมือนว่าเป้าหมายของพี่ที่ว่าจะทำลายความสัมพันธ์น่ะไปไหวอยู่ แต่มันมีของแถมที่วกกลับมากระทบตัวพี่กันย์อย่างจังซะด้วยสิ หึหึ โอ๊ย!สะใจจริงจริ๊ง


เดินหน้าโบกธงกันย์-วิทย์เต็มที่ฮ่ะๆ



Ps.แอบคิดแบบโรแมนติกไปนิดนึงว่าอิพี่กันย์อสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของด้วยการสลักชื่อตัวเองลงไป แต่ความจริงมันไม่ช๊ายยยยยย (>< )( ><)(>< )

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
สงสารเมฆที่สุดเลย

เมฆอย่าไหวหวั่นเลย เดินมาไกลแล้ว


MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
จริงก็ชอบหมอกันต์นะ
ติดที่หลอกใช้คนอื่นมากไปหน่อย
นี่คงเป็นผลของมันสินะ

แต่ขอให้วิทย์ยังอยู่กับเมฆด้วยเถอะนะคะ
สงสารเมฆเหลือเกิน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด