Improbable : 7 เสี้ยน
...................
กูเดินถอยออกมาห่างๆเมื่อขับไล่ไสส่งไอ้เนมให้เดินตามพี่โตผัวมันไปในที่สุด มันทำหน้าลังเล พยายามจะเอากูไปด้วยเสียอีก ...เรื่องสิ ให้กูไปด้วยไอ้พี่โตได้รู้ว่ากูเป็นคนบอกให้มันไปหา จะได้โดนกระทืบตายสิไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่ชัดอีกรึไงว่าไอ้พี่โตมันรักกูแค่ไหน....
เดินออกมากึ่งบ่นกึ่งปลง แต่สุดท้ายกูก็อดใจไม่ไหวต้องหันไปมองไอ้เนมอีกรอบ เห็นมันกำลังเดินเข้าไปฟังพี่โตกับไอ้เป้นั่นคุยกัน กูชักสีหน้าลำบากใจขึ้นนิดหน่อย ถึงกูจะไม่ชอบพี่โต แต่ยังไงไอ้เนมมันก็เป็นเพื่อน ถ้าเกิดเหี้ยพี่โตมันทำอะไรแบบที่กุพุดไปจริงๆแล้วล่ะก็....กูไม่อยากเห็นไอ้เนมมันเสียใจว่ะ
"...อะ......" อ้าปากจะร้องเรียกให้มันกลับ แต่ไอ้เนมแว่ลบหายไปแล้วอย่างเร็ว ทีอย่างนี้ล่ะใช่ความเสือกเป็นพลังขับเคลื่อนเชียวนะ
"เฮ้อ....." เอาเหอะว้า เรื่องแบบนี้ ต่อให้ปิดยังไง ถ้ามันเป็นจริง ยังไงก็ต้องเห็นสักวันอยุ่ดี
กูเดินออกมาจากหลังต้นไม้ ยกแขนสองข้างมาสอดไว้ตรงหัว แล้วเดินออกไปด้วยท่าทีสบายๆ....แม้ในใจจะไม่คิดแบบนั้นก็เถอะ
เดินไปห้องพยาบาลอย่างที่บอกไป ตอนนนี้เป็นเวลาเย็นๆแล้ว อากาศมันเลยอึมครึมน่าดู เพราะฝนจะตกด้วยอะไรด้วย กูเดินเข้าใกล้ห้องพยาบาลที่เปิดไฟสว่างจ้า มองเห็นผู้คุมยืนคุยกันตรงใต้ม้านั่งหิน หนึ่งในนั้นเหลือบมองมาที่กูเพียงแค่ชั่วครู่แล้วกลับไปมองอย่างอื่นต่อ ขณะที่กูเดินไปใกล้ประตู กำลังจะอ้าปากทักและเอื้อมมือไปเปิด
ปัง !!
" ไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้สิ มาเยอะเย้ยกูทำไม? ในเมื่อมึงก็หาไม่เจอเหมือนกัน ไอ้ห่า ! " เสียงที่แสนคุ้นหูดีตะโกนออกมาพลางเปิดประตูออกสุดแรง กูเงยหน้ามองใบหน้าที่คุ้นเคยซึ่งกำลังบูดบึ้ง สายตาเคืองโกรธจับจ้องไปที่"พี่ชาย" ที่อยู่ในห้องพยาบาลเขม็ง
"...กวนตีนจะ......" พี่วิทย์กำลังอ้าปากจะบ่นต่อ แต่สายตาคู่นั้นมันปะทะเข้ากับตาของกูเสียก่อน มองเห็นแววลิงโลดในดวงตาคู่นั้นชั่วครู่ ก่อนจะเป็นประกายวาบด้วยสีหน้าเอาเรื่อง
" มาทำไมตรงนี้? " น้ำเสียงถามนั้นนิ่ง...เรียบ....
" หา.....ก็....มาเที่ยว.....เฉยๆ "กูตอบตะกุกตะกัก เห็นไอ้เมฆปากหมาท่าทางไม่กลัวใครแบบนี้ก็จริง แต่ว่า...กับคนตรงหน้าแล้วเนี่ย ไม่ว่าจะทำยังไงก็เอาชนะพี่วิทย์มันไม่ได้ซักที เพราะงั้น..ไอ้ท่าทางแบบนี้ มีมาเมื่อไหร่กูเลยต้องเตรียมถอย
"...กูตามหามึงอยู่..." พีวิทย์ยิ้มออกมาด้วยท่าทางแปลกตา " แต่ไม่นึกว่าจะมาหาพี่ชายของมึง...ไปสิ...แล้วคราวหลังจะไปไหนก็บอกนะ ไม่ใช่หายไปแบบนี้ " พี่วิทย์บอกสั้นๆ พลางเบี้ยงตัวให้กูเดินเข้าไปหาพี่กันย์ ท่าทางใจดีไม่โกรธเคืองและคำพูดที่ไม่ได้ออกปากห้ามอะไรทำให้กูหน้าเหย เพราะนี่มันร้ายกว่าการด่าออกมาตรงๆเสียอีก กูมองหน้าคนพูด พยายามสบตาคู่นั้น เสียแต่ไม่เป็นผล
" เป็นอะไรไป? " กุออกปากถามงงๆ
" เปล่า...แค่กูตามหามึงอยู่.....ตามหา......" พี่วิทย์มองหน้ากูแล้วถอนหายใจเฮือก " แล้วสุดท้ายก็มาอยู่ตรงนี้........"
" พี่...." กูเริ่มหน้าเหย เมื่อรู้ว่าพี่วิทย์กำลังแสดงท่าทางแบบไหน
"คราวหลังหัดบอกซะมั่ง จะได้ไม่ต้องมาตาม "พี่วิทย์ว่าพลางหันไปมองคนในห้องพยาบาลด้วยสีหน้ารังเกียจจับใจ " แถวนี้ "
" มันไม่ใช่แบบนั้นซักหน่อย "กูว่าเมื่อเห็นพี่วิทย์ยังทำท่าจะเข้าใจอะไรไปคนเดียวอีกนาน
" ช่างเถอะ จะไปก็ไปสิ " พี่วิทย์ถอนใจพรู แล้วเดินลงบันไดไป กูหันไปมองตาม พบว่าพี่วิทย์ยังยืนอยู่ตรงหน้าห้องเช่นเดิม
" เสร็จแล้วก็รีบออกมา จะรอ " บอกสั้นๆแค่นั้นแล้วหันไปมองอย่างอื่น แต่แค่นั้นก็ดีมากแล้ว ดีแล้วที่เข้าใจและไม่งี่เง่า
กูยิ้มให้แล้วเดินเข้ามาในห้องพยาบาล มองตาพี่กันย์ที่ฉายแววหน่ายๆ รายนี้นั่งเอนๆอยู่บนเก้าอี้ แล้วมองหน้ากูที่ทำตาเบื่อๆใส่เป็นการโต้ตอบ
" ก็ใครบอกให้มาโวยวาย พูดดีๆไม่เป็น " พี่กันย์ยักไหล่ ตอบคำถามที่แฝงมาจากท่าทางของกู นั่นก็คือ "ทำไมต้องทะเลาะกันอีกแล้ว(ว่ะ)"
" ไม่เห็นต้องพุด เพราะยังไงก็ไม่รู้ไม่ใช่รึไง " กูมองหน้าพี่กันย์ แล้วถอนหายใจพรูกับคู่อริที่ยังไงก็ไม่มีทางดีกันได้
" .......แล้วนี่หายไปไหนมา?" พี่กันย์ออกปากถามกูแทนที่พี่วิทย์เสียฉิบ กูมองหน้าคนพูด กัดริมฝีปากน้อยๆก่อนจะยอมบอก
" พาไอ้เนมไปแอบฟังไอ้พี่โตกับไอ้เป้..."
"............" พี่กันย์มันชะงัก เงยหน้ามาจากเอกสารบนโต๊ะ มองหน้ากูด้วยดวงตาที่ฉายแววครุ่นคิด ก่อนจะถอนหายใจยาวแล้ววางคลิปบอร์ดในมือลงบนโต๊ะพลางลุกมาจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่
ร่างของ"พี่ชาย" ลุกขึ้นยืนแล้วเดินวนรอบตัวกูช้าๆ สีหน้าคิดหนักกึ่งหนักใจที่แฝงมาอย่างชัดเจนทำให้กูต้องขมวดคิ้ว อ้าปากจะทัก แต่ก็เงียบลง เพราะว่ามือคู่นั้นบีบหมับเข้าที่ไหล่กูทั้งสองข้างแรงๆ
" เมฆ " พี่กันย์เรียกชื่อกูเบาๆด้วยท่าทีครุ่นคิด
".....? " กูเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้า และดวงตาที่คุ้นเคยด้วยความสงสัยไม่น้อย
"...ทางที่ดี....อย่ายุ่งกับสองคนนั้นอีกเลยนะ " พี่กันย์ว่า ทำให้กูต้องขมวดคิ้ว มือคู่นั้นบีบไหล่กูแล้วค่อยๆเปลี่ยนมาเป็นอ้อมกอดที่แสนคุ้นเคย ใบหน้าแสนคุ้นตาซบลงกับซอกไหล่กูด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อนแปลกตา
"........ทำไม? "ออกปากถามกลับเบาๆ พลางเหลือบไปจ้องตาของพี่กันย์เขม็ง พบว่าแววตาที่ยังคงแฝงความหนักใจนั้นทอดมองมาที่กูอย่างอ่อนโยน..
" พี่ไม่อยากให้เราต้องลำบาก.....เรื่องที่ไอ้เป้กับไอ้โตมันตกลงกันน่ะ....ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ....หรือ.....เรื่องที่เมฆจะเอาคนโน้นคนนี้ไปยุ่ง...." พี่กันย์ว่า คำพูดนั้นแฝงแววตำหนิอยุ่ไม่น้อย ทำให้กูหน้าเสีย "....ถือว่าพี่ขอ ถ้าไม่อยากให้เรื่องยุ่งไปมากกว่านี้ อย่าเอาใครไปเป็นตัวแปรมากกว่านี้เลย..."
" กระทั่งไอ้เนมเหรอ? "กูถามกลับด้วยความไม่เข้าใจ หนึ่งก็คือไม่เข้าใจว่าไอ้พวกลูกพี่นี่มันจะมีความลับปิดบังอะไรนักหนา สอง คือไม่เข้าใจว่าไอ้เนมที่เป็นเมียพี่โต ไม่มีสิทธไปยุ่งถ้าผัวมันมีวี่เววจะไปมีเมียใหม่.. งั้นเหรอ....?
" เรื่องนี้มันเรื่องผลประโยชน์ ไม่ใช่เรื่องหาคู่ผัวตัวเมียในคุก " พี่กันย์บอกกูสั้นๆ "อีกอย่าง หึงหวงไปก็เท่านั้น ถ้าคนมันจะทำจริงๆ ต่อให้ห้ามแค่ไหนรั้งยังไงมันก็ไม่อยู่หรอก..."
".....เหรอ " กูมองหน้าคนพูด สีหน้าพี่กันย์ดูว่างเปล่าและไร้ความรู้สึกแบบแปลกๆ เพราะห่างกันมากไปรึเปล่า หรือเพราะเวลาที่กูห่างกับพี่กันย์ข้างนอกนั่น....เวลาที่พี่กันย์กลายเป็นอนาคตคุณหมอที่มีแต่คนรักใคร่นับถือ กับเวลาที่กูต้องทุกข์ทรมารอยู่ที่อื่น...เวลาที่ทำให้เราสองคนห่างกัน จะทำให้ตอนนี้....กูไม่สามารถจะเข้าใจ หรือเข้าถึงความคิดของ"พี่ชาย"คนนั้นได้เหมือนเดิม
รูปถ่ายที่พี่กันย์เคยให้ มันเป็นอดีตที่แสนไกลสำหรับกูไปแล้ว เวลาที่เราสองคนสนิทสนมกัน มันห่างไกลไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น สุดท้ายเราสองคนก็ต้องห่างกัน และตอนนี้ต่อให้กลับมาสนิทสนมกันเหมือนเดิม ช่องว่างที่หายไปก็ไม่มีใครถมมันจนเต็ม
นี่....อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กู"รัก" พี่กันย์อย่างผู้ชายคนหนึ่งไม่ได้สักที
ในฐานะพี่ชายที่ดี...ฐานะของคนที่เคยรักใครดูแลกันมา มันก็ยังคงอยู่ และยังเป็นแบบนั้นอยู่เสมอ
แต่ในฐานะคนที่รักแล้ว...ยังไงมันก็ไม่ใช่ เพราะอยู่ใกล้ๆกัน พี่กันย์ก็ทำได้แค่ปลอบใจ แต่ถมที่ว่างและระยะห่างระหว่างเราสองคนไม่ได้สักที
กูมองหน้าพี่กันย์ที่ยังไม่คลายอ้อมกอดออก กอดของคนๆนี้มันอุ่น...อุ่นและอ่อนโยนอย่างที่เคยเป็นเสมอ แต่ขณะเดียวกันมันก็ทำให้กูหนาวจับใจ ทั้งที่ถูกกอดไว้ แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้อ้างว้าง โดเดี่ยวราวกับไม่มีใครเลย
เอื้อมมือไปลูบเเขนที่โอบตัวกูไว้ ก้มหน้ามองท่อนแขนหนาที่โอบรัด มองมันแล้วกูก็อดขมวดคิ้วไม่ได้....
...จะกอดกันแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนนะ?
จะโอบกอดกู....ทั้งที่กูเป็นของคนอื่นไปอีกนานเท่าไหร่?
จะรอกู.....ทั้งที่กูรักคนอื่นไปอีกนานแค่ไหน?
.....จะยังรักกู....ต่อไปรึเปล่า?
กูเหลือบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของพี่กันย์ด้วยความอยากรู้...คนหนึ่งจะรัก...จะสามารถรักใครได้นานแค่ไหนกันนะ พี่กันย์ที่รักกูแบบนี้จะยังอยู่อีกนานแค่ไหน? ตลอดไป? จะเป็นไปได้รึเปล่า?
และกู.....จะยังรักพี่กันย์ในแบบของ"น้องชาย"ต่อไปอีกนานแค่ไหน
สามปีที่ผ่านมา ทำให้เราห่างเหินกันไปบ้าง...สามปีที่ผ่านมา ทำให้กูไม่เข้าใจพี่กันย์มากกว่าเดิม เพราะกูไปรักคนอื่น ไปอยู่กับคนอื่นตามความพอใจของตัวเองเสียแล้ว
แต่ถึงเป็นแบบนั้น พี่กันย์ยังจะรัก...รักอยู่แบบนี้ต่อไปงั้นเหรอ?
ทั้งที่กูไม่เคยให้รักตอบเลย.....สักนิด.....
" พี่......" กูหันไปมองหน้าพี่กันย์ พลางส่งเสียงเรีกเบาๆให้นัยน์ตาที่เหม่อไปที่อื่นหันมาสบตา
"....หือ? "
" ปล่อยเถอะ....พี่วิทย์รออยู่ข้างนอก...." กูบอกสั้นๆ ทำให้รอยยิ้มในหน้าของพี่กันย์หายไปจากใบหน้าและค่อยๆผละท่อนเเขนจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์...
" แล้วก็...." กูเกริ่นออกมาช้าๆ "....ถึงพี่จะบอกว่าแค่เรื่องหาคู่ผัวตัวเมียในคุก ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่อย่าลืมแล้วกัน ว่าพี่เคยก่อเรื่องไว้เพราะสาเหตุนี้..."
............................................
" รอนานรึเปล่า ? " ออกปากถาม ขณะที่กูปิดประตูห้องพยาบาลช้าๆ และพบว่าพี่วิทย์นั่งหน้างออยู่หน้าห้อง
พอใบหน้านั้นหันมามอง เมื่อแววตาคู่นั้นหันมาวสบตา ความรู้สึกเฉยชาที่เกือบๆจะกลายเป็นเจ็บที่กูมีให้พี่กันย์กลับเปลี่ยนไป...กูยิ้ม...ยิ้มออกมาอย่างลืมตัว ขณะที่ลงบันได้เตี้ยๆลองสามขั้นเดินไปเคียงข้าง
...ข้างๆ คนที่กู"รัก"
" หิวข้าว " พี่วิทย์ไม่ตอบคำถาม มองสบตากูที่ยิ้มแป้นแต่หน้าตาบึ้งๆนั่นก็บอกอะไรได้ดีพอดูแล้ว
"..รู้รึเปล่าว่าไอ้เป้มันมานี่ทำไม ?" กูออกปากถาม ทำให้พี่วิทย์ชะงัก มือที่เอื้อมมาโอบไหล่กูไว้ก็ช้าลงไปด้วย
" .....รู้.....แล้วไง? " ออกปากถามกลับ ขณะเที่เดินไปพร้อมกับกูเพื่อที่จะเข้าไปยังโรงอาหาร
"....รู้แค่ไหน? " กูออกปากถามกลับ พี่วิทย์ก้มมามองหน้ากูก่อนจะยกมือมาขยี้ผมกูเบาๆ
"....รู้เท่าที่คนๆหนึ่งมีสิทธิ์รู้ได้...อย่าคิดอะไรมากเลยเมฆ มันไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอดไปหรอก...พวกเราก็เหมือนกัน "...คำพูดนั้นทำให้กูชะงัก หันไปมองหนเาพี่วิทย์หวังว่าจะได้เห็นสีหน้าอะลั่กอิเหลื่อตกใจที่ตัวเองเผลอพูดอะไรออกมา แต่คนข้างตัวกลับเงยหน้ามองฟ้าที่มือครึ้มอย่างไม่ได้สนใจ
".....ไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอดไป?..." กูถามกลับ สีหน้าสนอกสนใจ...
"....ก็จริงนี่..มึงเจอโทษจำคุกตลอดชีวิตรึไง ถึงจะอยู่นี่ตลอด " พี่วิทย์ว่าพลางยักไหล่ แต่คำตอบนั่นผิดกับที่กูคิดอยากจะได้ยินไปโข
"...แต่พี่กันย์บอกว่า......." กูเกริ่นช้าๆสีหน้าไม่แน่ใจ
"ว่า.....? "พี่วิทย์ทวนคำนิ่วหน้าน้อยๆ แต่ก้ไม่ได้มีท่าทีสนอกสนใจอะไรมากนัก
" เรื่องที่ไอ้เป้มันรับมาทำ...ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ "
" แน่สิ "พี่วิทย์รับคำ "ถ้าเรื่องเล็ก ไอ้พวกข้างบนนั่น จะลงทุนย้ายมันมาทำไม...เอาเถอะน่า...เมฆ... มึงอย่าไปสนใจอะไรมันมากนัก..."
" เหอะ..ชอบที่มันมาอ่อยรึไง? "กูถามกลับ จ้องหน้าพี่วิทย์เขม็ง อย่านึกว่ากูไม่เห็นนะ ที่ไอ้เป้มันชอบมานั่งคุยด้วยเป็นวรรคเป็นเวรน่ะ
" อ่อยอะไร?....ใครจะไปมีอารมณ์กับหน้าอย่างมันว่ะ...อย่าห่วงเลยเมฆ กูไม่นอกใจมึงหรอกน่า..." พี่วิทย์ว่า พลางกอดเอวกูหมับแล้วซุกหน้าเข้ากับไหล่อย่างรวดเร็ว ไม่รู้ทำไม คนรอบตัวกูถึงชอบเอาหน้าซุกไหล่กูนัก
" มึงสิน่าห่วงกว่า...เมฆ มึงอย่าหายไป...แล้วมาเจอไอ้กันย์โดยที่กูไม่รู้ได้ไหม? " พี่วิทย์บอกกูด้วยเสียงสั่นๆ " กูไม่ชอบเลยว่ะ "
" นั่นมัน...." กูอ้าปากจะท้วง
" ถึงมึงจะบอกไม่คิดอะไร แต่กูคิด เข้าใจไหม ไม่ว่ายังไงก็เลิกคิดไม่ไเด้ เพราะกูรักมึง....กูเลยหวง เข้าใจรึเปล่า?" พี่วิทย์พูดออกมา พลางถอนใจแรงๆ ฝีเท้าของเราสองคนหยุดลงไปแล้ว และกำลังยืนนิ่งอยู่ตรงทางเดินไปโรงอาหาร ที่ด้านหลังคือห้องพยาบาล และมีแปลงผักอยู่ข้างๆ
" ...อยากให้ผมไม่ต้องไปเจอพี่กันย์ไหม? " กูออกปากถาม เพราะพี่วิทย์ไม่เคยบ่นห้ามไม่ให้กูไปเจอพี่กันย์...บางที....บางทีนะ ถ้าพี่วิทย์ห้าม ตอนนี้ กูอาจจะไม่ไป...ไม่ไปเจอพี่กันย์อีกก็ได้
" ไม่หรอก......" พี่ ีวิทย์ถอนใจ มองดูดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับของฟ้าและเปล่งแสงสีทองสุดท้ายของวันทาบบนท้องฟ้าเป็นลำยาว "ถ้าห้าม มึงก็คงอึดอัด...และถ้าห้าม ไอ้กันย์ก็คงไม่พอใจ "
" กูไม่สนใจว่ามันจะว่าอะไรกูก็จริง ...แต่กูรู้นะเมฆ ว่าเวลาไม่ได้เจอกับคนที่รักน่ะมันทรมารแค่ไหน กูโชคดีที่มีมึงอยู่ตรงนี้ แต่ไอ้คนนั้นมันไม่ใช่....ถึงการที่ให้มึงไปเจอมันจะทำให้กูโมโห ไม่พอใจ หรือว่าระเเวง แต่ในเมื่อมันยอมละมือจากเราสองคน ให้กูกับมึงได้อยู่ด้วยกันแล้ว บอกตรงๆว่าการจะห้ามให้พวกมึงเจอกันอีก มันงี่เง่าว่ะ.....กูที่ทำแบบนั้นมันเป็นคนใจแคบ..."
" แต่ก็ยังหงุดหงิด " กูดักคอพี่วิทย์โหมดคนดีไว้สั้นๆ
" หึ....ก็หงุดหงิดสิ...มึงด้วย ชอบมาหามันตอนกูไม่อยู่ กูไม่รุ้เรื่อง จะไม่ให้โมโหได้ยังไง ชอบกอดกันคุยกันเหมือนรักซะเต็มประดา เห็นแล้วหมั่นไส้ ! " กูฟังพี่วิทย์มันบ่นแล้วหัวเราะหึหึ ปากบอกว่าไม่พอใจแต่สุดท้ายก็ยอมให้กูไปอยู่ดี แล้วยังจะมาโวยวายว่ากูนอกใจมันอย่างโน้นอย่างนี้....ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ยอมห้ามกันตรงๆแท้ๆ
"......ถ้าพี่บอกไม่ให้เจอ...บางทีผมอาจจะทำตามก็ได้นะ..." กูบอกพี่วิทย์ ทำให้คนฟังชะงัก หันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าครุ่นคิด
" งั้นเหรอ? "พี่วิทย์พึมพัม สีหน้าครุ่นคิดจนกูใจหายวาบ หวั่นใจว่าถ้าเอาจริงขึ้นมา ตัวเองจะทำได้ไหม
แขนขวาที่โอยกูไว้ละออกแล้วหันมาจับปลายคาง เบือนหน้ากูไปสบตาคู่เดิมที่คุ้นเคย...กูกระพริบตาช้าๆมองดูความนัยในแววตาคู่นั้น พี่วิทย์จ้องตากูนานเสียจนกูเริ่มประหม่า และหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะก็เริ่มกระโดดโลดเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครา..
หรี่ตาลงเมื่อมองเห็นใบหน้าที่โน้มเข้ามาใกล้ กูมองเห็นปลายจมูกของพี่วิทย์โน้มเข้ามาหา ก่อนจะหลับตาลงเมื่อปลายลิ้นเปียกชื้นแตะเบาๆที่ริมฝีปากและค่อยๆสอดลึกเข้ามาด้านใน..
กูเอื้อมมือกำเสื้อด้านหน้าของพี่วิทย์ไว้แน่น ขณะที่เราสองคนกำลังจูบกันแบบบไม่อายใครตรงนี้...ทำเหมือนคู่รักปัญญาอ่อนแบบพี่โตกับไอ้เนมไปได้..แต่ยังไงก็ปฎิเสธไม่ออก ว่ามัน..รู้สึกดี....แค่ไหน....
" อย่าเลย กูไม่ชอบฝนใจใคร "พี่วิทย์บอกสั้นๆ ใบหน้าที่แนบชิดผละห่าง ท่ามกลางเสียลมหายใขจไม่เป็นจังหวะของเราสองคน อ้อมกอดที่รัดแน่นค่อยๆคลายอ้อมแขนจากตัวกู
" เมฆ....." พี่วิทย์เปรยออกมาช้าๆ "สำหรับกูแล้ว ไอ้กันย์มันเป็นเเค่เสี้ยนว่ะ แค่เศษไม้เศาหนามเล็กๆที่เอาออกไม่ได้....อาจจะเจ็บนิดๆตอนที่เผลอเอามือไปแตะมัน..ปฎิเสธไม่ได้หรอกว่าหนามมันทำกูเจ็บแต่สุดท้ายมันก็แค่นั้น ไม่มีใครโดนหนามยอกจนตายหรอก..."
"........." กูมองหน้าพี่วิทย์ที่ฉายแววครุ่นคิด ก่อนที่นัยน์ตาคู่นั้นจะหันมาสบมอง
" อีกอย่าง ถ้ากูห้าม แล้วมึงยอมทำตาม แบบนั้นกูก็ไม่ชอบเหมือนกัน เพราะแสดงว่ามึงเป็นคนแล้งน้ำใจที่ไม่เห็นหัวคนที่รักมึงแทบเป็นแทบตาย....เรื่องอื่นกูอาจจะไม่เชื่อมัน แต่เรื่องที่ไอ้กันย์รักมึงนั่นน่ะเป็นความจริงที่กูเชื่อ..." พี่วิทย์เอื้อมมือมาลูบหัวกูเบาๆ สีหน้าครุ่นคิด
" ขอแค่มึง...จะไม่เอื้อมมือไปเปิดแผลที่กูโดนเสี้ยนตำแล้วกดมันให้ลึกกว่าเดิม แค่นั้นล่ะ ที่กูขอ " พี่วิทย์ยกมือแตะที่ลำคอ แตะตรงรอยแผลที่ไม่เคยเปิดออกให้กูเห็นสักครั้ง และเป็นสิ่งที่กูสงสัยอยากรู้มาตลอด แต่ถึงยังไง กูก็ไม่ได้เคยคำตอบอยู่ดี
กูนิ่งฟังคำพูดนั้น แล้วหันไปมองหน้าพี่วิทย์ พี่วิทย์ยิ้มให้กู แล้วกำมือกูไว้แน่นส่งผ่านความอบอุ่นให้กับฝ่ามือที่เย็นชืดของกันและกัน ดวงตาคู่นั้นมองไปที่ใบหน้ากูนิ่งๆครู่หนึ่งด้วยแววตาแสนห่วงใย ค่อยผละจากก่อนที่เปลือกตาจะหรุบต่ำลงช้าๆ
" เพราะอย่างนั้น...ถ้า......มีอะไรเกิดขึ้น...." น้ำเสียงที่ลอดออกมาแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน " อย่างน้อย มึงจะไม่เป็นอะไร "
" หา? " กูขมวดคิ้ว มองเสี้ยวหน้าของพี่วิทย์ที่ฉายแววเคร่งขรึม
".....เอาเถอะ อีกไม่นานมึงก็จะรู้ เมฆ.....แต่ตอนนี้ ืไปกินข้าวกันเถอะว่ะ " พี่วิทย์เอามือที่ลูบหัวกู ออกแรงขยี้แล้วเคว้าคอลากกูให้เดินตามทางไป ปากก็พูดพร่ำเรื่องอื่นโดยไม่สนใจคำถามของกูเลย กูพยายามจะอ้าปากท้วงถาม แต่ก็ไม่ได้รับการสนใจ สุดท้าย...เลยได้แต่หน้านิ่วยอมโดนลากไปที่โรงอาหารโดยดี
เสียงฟ้าร้องดังลั่นทำให้กูสะดุ้ง เงยหน้ามองท้องฟ้ามือครึ้มที่ตอนนี้น้ำฝนเริ่มสาดลงเปะปะ ปลายยอดไม้สะบัดพริ้วท่ามกลางแสงสลัวของยามเย็น ไพล่คิดไปถึงคำพูดของพี่วิทย์และพี่กันย์ ซึ่งบ่งบอกว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น....
ในตอนนี้ ตากูมองเห็นเพียงท้องฟ้าที่ไร้แสงดาว..ฝนตกเมฆครึ้ม...แสงแปลบปลาบของฟ้าแลบปรากฏให้เห็นไกลๆและ....
เสียงครืนครางของท้องฟ้าที่มันดังขึ้นแว่วในหู ราวกับเป็นคำเตือน..
...............................................................
พายุพัดมาแถวนี้อีกรอบและ 555+
..........
สวัสดีค่าพ่อแม่พี่น้อง ยังอยู่กันม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย (ตะโกนเรียกหา)
แหะๆ หลังจากที่เราไม่อัพมา (ไม่นับดีกว่าเนอะ) เอาเป็นว่านานพอดู ตอนนี้กลับมาแล้วค่า กลับมาพร้อมกับความมาคุที่ใกล้จะปะทุขึ้นนนนนนนนน
ถึงตอนนี้จะสั้นไปหน่อย แต่ถ้ามากไปมันก็ไม่ดีนั่นล่ะ เดี๋ยวเยอะแล้วมีหลุด คู่สามผีนี่มันต้องค่อยๆ ค่อยๆ (5555+) ตอนนี้สังเกตว่าสามปีที่ผ่านมา อะไรมันก็เริ่มเปลี่ยน พี่วิทย์เหมือนจะปลงได้มากขึ้น ขณะที่พี่กันย์กับเมฆก็เริ่มห่างๆกัน แต่มันจะจริงเร้อออออออออ งานนี้ต้องรอต่อไปค่ะ
แจ้งข่าวหนังสือนะค่ะ ตอนนี้ส่งไปหมดแล้วค่า ถ้าจนถึงวันที่สาม มกราปีหน้า ใครยังไม่ได้ ก็เมล์มาขอเลขลงทะเบียนเช็คได้ที่เมล์เดิมนะคะ แต่ถ้าไม่มีการส่งผิดพลาดหรือล่าช้า ทุกคนจะได้ก่อนปีใหม่ค่ะ ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่แล้วกันเนอะ
ปล. ใครอยากดูรายละเอียดการส่งของ เชิญได้ที่เด็กดีค่า
ปล.2 ชื่อตอนน่ะ ชั้นรู้น่ะ ว่าพวกเธอทั้งหลายคิดว่ามันเป็นเสี้ยนอะรายยยยยยย
ปล. สุดท้าย ใครที่อยากได้หนังสืออยู่ แต่สั่งไม่ทัน อิชั้นเอาลงขายไว้ที่ร้านนี้คะ ตามลิงค์นี้เลย(ราคาเพิ่มขึ้นเล่มละสามสิบบาท)
คลิ๊ก ไปแย่งชิงกันได้ เพราะเอาลงไปแค่หกชุด ช้าหมด อดแล้วจะเสียจายยยยย