Imprison 58: สายฝน
สิ่งที่ถืออยู่ในมือ..มันหนัก...หนักอย่างที่ไม่เคบคิดว่ามันจะเป็นได้ ราวกับรูปถ่ายเพียงรูปเดียวจะเป็นดั่ง..ก้อนหินก้อนใหญ่ๆสักก้อน..
ถ้าหากเป็นก้อนหิน..ได้จริงๆก็คงดี เพราะหากเป็นก้อนหิน ก็คงเขวี้ยงมันไปง่ายๆ ทิ้งมันไปเพราะมันไร้ค่า..เพราะมันไม่ใช่ของที่สำคัญ..ของสำคัญที่...
น้ำใสๆไหลกระทบกับฝ่ามือเย็นชืดและขาวซีดช้าๆ เสียงน้ำกระทบหลังคาดังขึ้นเบาๆ..เป็นจังหวะราวกับบทบรรเลงราวกับท่อวงทำนองดนตรี..ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน..และ...เสียงกลั้นสะอื้นในลำคอของ..คนที่อยู่ข้างกาย...
น้ำใสๆที่กระทบกับฝ่ามือไม่ได้เย็นจัดเช่นที่เคยสัมผัส ทว่ามันกลับอุ่นร้อน..เพราะมันไม่ใช่น้ำฝน.ไม่ใช่ของแบบนั้น แต่เป็นน้ำตา..ที่ไหลลงมาช้าๆ ตามร่องฝ่ามือที่พยายามจะ..ปิดมันไว้..
..เขาหลับตาลงช้าๆเหมือนไม่อยากเห็น ไม่อยากมองอะไร..ไม่อยากได้ยินเสียงสะอื้นไห้ เสียงหายใจที่ราวกับเป็นคำถาม หรือเสียงน้ำฝนที่ยังคงสาดกระทบหลังคา..ไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้น...
รูปใบเล็กๆนี่มันอะไรกัน..? วิทย์ได้แต่แสยะยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน..เยาะเย้ยตัวเองที่ไม่รู้อะไรเอาเสียงเลย..ไม่รู้อะไรบ้างเลย..ไม่รู้..กระทั่งความจริงที่ควรจะรู้มาตั้งแต่ต้น..
...ความรัก...หรือจะเทียบกับความผูกพันและความเชื่อใจ..
ความรักของเขา..ที่เหมือนกับเงาที่สัมผัสไม่ได้ หรือจะสู้กับความผูกพันและความเชื่อใจที่คนสองคนมามาให้กันตลอดเวลา..
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมามองใบหน้าของคนสองคนในภาพสีซีดจาง..เวลา...ที่ไม่มีเขา..ไม่มีใคร..นอกจากคนทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าตนเองตอนนี้..
ยากจะปฏิเสธได้ว่า..คนที่เข้ามาแทรกกลาง..คือเขา...คือตัวเขาคนนี้..
ฝ่ามือที่บีบมือของเขาแน่นขึ้นทำให้เขาได้แต่ยิ้มหยัน..มองไปยังคนที่กุมมือเขาไว้..บีบมือ..ของเขาแน่นขึ้นราวกับจะวอนขอ..ให้อยู่แนบข้าง..ทั้งที่เจ้าตัวยังก้มหน้าร้องไห้ น้ำตาไหลทะลักออกมาจากฝ่ามือตัวเองหล่นมายังมือของเขา..
..กำลังพยายาม..จะทำอะไร?..
จะยื้ออะไร?..จะ...ทำใจ..อยู่งั้นเหรอ?
รู้สึกว่าลมหายใจยามที่ตัวเขาสูดมันลึก..นั้นช่างสั้นไหว รู้..รู้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ รู้ว่ามันต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เรื่องที่พูดคุย ตกลงกันมาก่อนหน้านี้มันก็แค่คำเตือน ก็แค่ข้ออ้าง..แค่กล่าวถึงสิทธิ์ที่ตนพึงจะมี..สิทธิในตัวคนๆหนึ่ง..ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะสามารถตกลงกันได้ง่ายๆหรอก เพราะหากตกลงกันได้ง่ายๆ...หากจะลืม..หรือตัดใจกันได้ง่ายๆ...ตัวเขา...ก็น่าจะ..ทำ...มันไปได้แล้ว..
ที่ทำได้ก็แค่พยายามจับเชือกในมือของตนให้แน่น..โดยไม่สนใจว่ากองเชือกที่พันกันยุ่งเหยิงนั้นจะถูกดึงให้ตึงขึ้น..จนใกล้จะขมวดเป็นปม..
ก็แค่ทำเป็นหลับตาลงข้างหนึ่ง..มองเพียงเส้นเชือกที่ตนเองถือไว้ในมือ ไม่ได้มองกองเชือกที่กำลังขมวดเข้าหากันช้าๆ..กระตุกดึงให้พวกเขา..ทั้งสามคน ที่พยายามจะดึงมันมาหาตนเองต้องถูกดึงกลับ..และแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น จนกว่าจะแก้ปมเชือกที่ขมวดเข้าหากันได้..
และตอนนี้..ที่ไม่มีทางให้ไปต่อ..เมื่อเส้นเชือกถูกขึงจนตึงร้าว สิ่งที่ทำได้ ก็คือ...ตัด....ทิ้งไปเสียหนึ่งข้าง..
....ถ้าไม่ทำแบบนั้น..ก็ไม่อาจจะไปต่อได้..
ถ้าไม่ทำแบบนั้น เส้นเชือกที่ตนถือไว้..ปลายเชือกที่ตวัดเข้าหาตัว..จะพันรัดลำคอตนเองเสียจนขาดใจตาย..
“...ร้องไห้ทำไม..ร้องไปฝนก็ไม่ได้หยุดตกหรอก..” เขาก็แค่เอ่ยประโยคที่..งี่เง่าที่สุดออกมา วิทย์เงยหน้าขึ้นมาสายฝน ที่ตอนนี้ก็สาดกระหน่ำรุนแรงขึ้นทีละนิด...
“...ก็ไม่ได้อยากจะให้หยุดซักหน่อย..” เสียงพูดนั้นอู้อี้กับมือของตัวเอง ทำให้คนฟังยิ้มออกมา วิทย์อยากจะเอื้อมมือไปลูบเส้นผมนิ่มๆของเจ้าตัวเบาๆสักครั้งอย่างที่เคยทำ..แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิด..เพราะเขาไม่อยากจะ..กระตุกปมเชือกที่อยู่ในมือตนเองให้รัดแน่นขึ้นอีก..
“...งั้นก็หยุดร้องซะสิ...” วิทย์ตอบแล้วดึงมือข้างที่ถูกกุมไว้ออกเบาๆ...ได้ยินเสียงเจ้าตัวสะอื้นกระชั้นในลำคอถี่ขึ้นมาแล้วอดสงสารไม่ได้..”...หยุดร้อง..แล้วมาคุยกัน..นะ..”
“...ผม....” เมฆพยายามปาดเช็ดน้ำตาบนใบหน้าตัวเอง มือข้างหนึ่งก็พยายามจับฝ่ามือที่เคยเกาะกุมไว้..แต่ที่คว้าได้..กลับเป็นฝ่ามือที่กำรูปนั้นไว้แน่นแทน..
ยอมรับว่าลมหายใจสะดุด..เมฆเบือนหน้าไปมองเจ้าของฝ่ามือที่ยิ้ม..ยิ้มมาให้อย่างเพลียๆ..อาจจะเพราะเหตุที่ร่วมทะเลาะวิวาทด้วยก็ใช่..หรืออาจจะเพราะเรื่องนี้มันช่างหนัก..และเหนื่อยหัวใจเหลือเกิน..
อยากจะเข้าไปกอดแน่นๆแล้วบอกว่าให้มั่นใจ..มั่นใจในตัวเขาและสิ่งที่เขาจะทำ..แต่ทว่า เมื่อมองไปยังข้างกาย..ใบหน้าที่อาบเลือดและเปื้อนรอยยิ้ม...รอยยิ้มอันหม่นเศร้าก็ทำให้หัวใจกระตุกไหว..
ก้มมองกระดาษสีซีดในมือของคนที่เขารัก..ยอมรับว่ารูปนั้น...มันสั่นสะเทือนหัวใจตนไม่น้อย..รูปที่ตัวเขายืนเคียงข้าง”พี่ชาย”ที่เพิ่งจบมัธยมต้น ด้วยใบหน้าแย้มยิ้มอันไร้เดียงสา..รอยยิ้ม ที่หายไปจากใบหน้าของเขานานแล้ว..
ภาพที่ทำให้ความรักและความทรงจำในหัวใจถูกกระตุ้นขึ้นมา..ภาพที่ทำให้ตัวเขาต้องร้องไห้...เพราะไม่อาจจะทำให้อะไรๆมันดีขึ้นกว่านี้ไปได้..จะย้อนเวลากลับไปแก้ไข หรือจะกลับไปเปลี่ยนหัวจตัวเองให้รักและผูกพันกับคนๆเดียว..ต่างก้เป็นไปไม่ได้ทั้งนั้น..
“พี่ชาย” ของเขา..ทำมันลงไปเพื่อเอาตัวเขากลับไปอยู่ในอ้อมกอด...”ผู้ชาย”ที่เขารัก ได้เพียงแต่ยิ้มออกมาอย่างอ่อนล้า..และหวังว่าทุกสิ่งมันจะจบลงตรงนี้เสียที..
เมฆหลับตาลงช้าๆ..น้ำตาที่ถูกเช็ดจนแห้งเหือด ยังไม่วายกลิ้งหล่นออกมาจากหางตาจนได้..
ถามว่ารักใคร..คำตอบของเขายังคงเป็นเช่นเดิม..
แต่ถ้าถามว่าใครสำคัญกว่า..เขาไม่อาจจะตอบได้เลย
“ เช็ดน้ำตาสิ...” พี่ชาย..บอกเขาเบาๆ พลางเอื้อมมือเพื่อจะเช็ดหยดน้ำตาที่เอ่อไหล แต่ก็ชะงัก เพราะนึกได้ว่ามือของตนเองเปื้อนเลือด รังแต่จะทำให้หน้าเขาเปื้อนมากขึ้น..
“..ขี้แยเอ๊ย..” วิทย์หัวเราะขึ้นเบาๆพลางล้อเลียนเขา แม้เสียงหัวเราะที่ออกมาจะไม่ได้เต็มไปด้วยความสุขเช่นที่ควรเป็นก็ตาม..สายตาของวิทย์มองมาและเฝ้าบอกให้เขาเช็ดน้ำตาอยู่เงียบๆ..
นั่นอาจจะเป็นความแตกต่างของสองคนนี้ก็ได้..เมฆเอื้อมมือเช็ดน้ำตาตัวเองพลางคิดเงียบๆ..กับพี่ชาย..พี่ชายจะปกป้องและทำทุกอย่างให้กับเขาจนแทบไม่ต้องมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอะไร..แต่กับวิทย์น่ะไม่ใช่..เขาก็ยังคงขี้แกล้ง ชอบเย้าแหย่และปล่อยให้เขาทำอะไรด้วยตัวเองเสมอ.. มีเพียงสายตาที่คอยมองมาให้กำลังใจเงียบๆเท่านั้น..
..มันเป็นความแตกต่างของชายสองคนที่เขาต่างก็ขาดไม่ได้ทั้งคู่..
เสียงขยับตัวและเสื้อผ้าที่เสียดสีข้างตัวดังขึ้นเบาๆในความเงียบ วิทย์หรี่ตาลงช้าๆ..ขณะที่วางรูปนั้นลงบนมือของเมฆ..มองแววตาและท่าทางของเจ้าตัวขณะที่รับมันมา..แล้วก็ได้แต่ถอนใจ..
...จะทำยังไง...ถึงจะ”ตัด”เชือกที่กำลังรัดลำคอของพวกเขาให้ขาดลงได้นะ..
หรุบตามองพื้นซีเมนต์เปื้อนฝุ่นผงและรอยฝ่าเท้า..ก่อนจะมองไปที่ชายอีกคน..ซึ่งกำลังจ้องมองเมฆตาไม่กระพริบ..
ดวงตาคู่นั้นก็ยังไม่มองมาที่เขาเหมือนเดิม..มันจับจ้องไปยังดวงตาของคนที่ข้างกายเขา เมฆก็กำลังจ้องภาพนั้น สลับกับใบหน้าของเจ้าตัวไปมา..
วิทย์ยิ้มออกมาอย่างเพลียๆ...ไม่มีใครมองมาที่ตัวเขา...
ไม่มีใคร”เห็น”แววตาของเขา..
ไม่ต่างอะไรกับตอนนั้น...ยามที่เขาเจ็บปวดหัวใจแทบสลาย เมื่อเห็นเพื่อนสนิทกับหญิงสาวที่ตนรักกำลังโอบกอดแสดงความรักกันอยู่..เขาจำได้ว่าตัวเองมองทั้งคู่อยู่ตรงนั้น..ทั้งคู่ที่ยังคงสบตากันและกันอยู่ แม้จะเป็นห้วงสุดท้ายของชีวิต..
...จะว่าไปแล้ว..มันอาจจะเป็น”เวรกรรม”
กรรมที่ไปทำร้ายคนอื่น..พรากชีวิตผู้อื่น...กรรมที่ไปทำคนที่กำลังรัก..อาจจะส่งผลให้เขา...ตัวเขาที่สุดท้าย..ก็คว้าสิ่งที่เรียกว่า”ความรัก”มาครอบครองไม่ได้เสียที...
หรือบางที...คนที่ต้อง”ตัด”...ก็คงเป็นตัวเขาเอง..
วิทย์ผุดลุกขึ้นยืน มองข้างหนึ่งปัดกางเกงตนเองช้าๆ ไม่ได้สนใจว่าฝนผงมันจะไปปัดถูกกบาลใครบ้างเพราะมันไม่ได้สลักสำคัญอะไร..เขาทำท่าจะเดินออกไป..แต่มือก็ถูกคว้าไว้..
...ด้วยฝ่ามือสองข้าง..
วิทย์เลิกคิ้ว..จ้องมองฝ่ามือที่ฉุดแขนตัวเองไว้อย่างไม่เข้าใจ..มือซ้ายที่ถูกจับไว้ด้วยมือของเมฆ..ไม่ได้ทำให้เขาประหลาดใจเท่ามือขวา..ที่ไอ้กันย์กำลังใช้มือเปื้อนเลือดของตัวมันเองจับมือของเขาไว้..
...ผ่านวินาทีแห่งความสงสัยและดีใจเพียงชั่ววูบ..ความหงุดหงิดก็เข้ามาแทนที่..กับน้องชายสุดที่รักนี่ไม่ยอมให้เปื้อนอะไร แต่กับตัวเขานี่ต่อให้เลือดหรืออะไรก็ไม่สนใจซินะ..
สลัดมือมันทิ้งบอกตัวเองว่าน่าจะรู้ดี...เพราะแต่ไหนแต่ไหร คนที่ถูกทะนุถนอมรักใคร่ ก็ไม่ใช่ตัวเขาอยู่แล้ว..
“ ทำไมชอบเดินหนีไปก่อนอยู่เรื่อย..” เมฆเป็นฝ่ายถาม..แต่วิทย์ก็เหลือกตาขึ้น เป็นใครก็เถอะ เห็นท่าที ”รักใคร่” กันจะเป็นจะตายแบบนั้น ไม่เดินออกมาก็หน้าด้านเต็มทน..
“..ยังจะถาม..” วิทย์ตอบงึมงำในลำคอ พลางถอนหายใจเฮือก “ ไม่ไหวน่ะเมฆ..มึงจะอยู่กับกูทั้งที่ทำตาหวานใส่”พี่ชายสุดที่รัก”ของตัวเองแบบนี้เนี่ย..ขอเหอะ..”
“..ก็มัน...”
“..ถ้ามึงบอกว่าชิน กูนี่ล่ะจะเอามะเหงกประเคนใส่หัวมึง..” วิทย์สวนขึ้นมาพลางถอนหายใจเฮือกแล้วจ้องหน้าเจ้าตัวตรงๆ
“..พูดตามตรงน่ะ...เมฆ...ถ้า..มึงยังตัดสินใจอะไรไม่ได้อยู่แบบนี้..กูก็ไม่อยากจะอะไรกับมึงมากแล้วน่ะ..” วิทย์บอกออกมา เขาถอนใจเฮือกๆราวกับได้ระบายอะไรซักอย่างออกไปให้พ้นๆสมอง “ ส่วนมึง..ไอ้กันย์...ขอเหอะว่ะ..จะทำอะไรก็ไว้หน้ากันบ้าง..ไม่ใช่อยากจะก่อเรื่องก็ทำ อยากจะแย่งแม่งก็แย่ง..เคยเห็นหัวหรือสนใจใครนอกจาก..เอ้อ..ไม่สิ...ไม่ต้องถามก็รู้ มึงก็เห็นได้แค่หัวเดียว..”
ว่าแล้วก็อดจะแสยะยิ้มออกมาไม่ได้..ยิ้มสมเพชตัวเองที่จนถึงตอนนี้..ถึงจะเริ่ม..คิด...เริ่มจะจดจำได้ถึงความรู้สึก”รัก” ไอ้เมฆที่มากขึ้นเรื่อยๆ..แต่ไอ้ความฝังใจ..ที่ตัวเขามีต่อไอ้กันย์ก็ใช่จะหายไปไหน..
...ใช่ว่าจะมีแค่ไอ้เมฆที่หลายใจ..เขาก็หลายใจพอกัน..
เพราะงั้นต่อให้เมฆหรือไอ้กันย์ออกไป..ผลมันก็เหมือนเดิม สู้เขาออกไปจากตรงนี้เสียเองยังจะดีกว่า..
เพราะถึงจะหลายใจรักใคร..ก็คงไม่ได้ทำให้คนอื่นต้องมาเจ็บไปมากกว่านี้อีกแล้ว..
“ เพราะงั้นเลยจะเสียสละ..งั้นสิ..” วิทย์ฟังคำพูดของเมฆและขมวดคิ้ว ..เสียสละเรอะ..ไม่ใช่ว่ะ..กูกำลังจัดการกับชีวิตตัวเองต่างหาก
“..แน่ใจงั้นเหรอ?..” คราวนี้เป็นคำถามของไอ้กันย์..วิทย์กำลังจะอ้าปากตอบ แต่ก็ต้องหุบปากลงเพราะสายตาคู่นั้นกำลังจ้องเนคำตอบจากเมฆ ไม่ใช่เขา..
“..ผมยังยืนยันเหมือนเดิม..เหมือนที่เคยเป็นนั่นแหละ..ต่อให้พี่วิทย์จะไม่รักผมแล้ว..มันก็ยังเหมือนเดิม..” คำตอบของเมฆทำให้เขาขมวดคิ้ว..ไม่ต่างกันไอ้กันย์ แต่มันทำสีหน้าเจ็บปวดเสริมเข้าด้วย..
“..ทั้งที่...”
“ ผมรู้..” เมฆตอบ หยุดคำพูดของกันย์ไว้แค่นั้น “ ผม..ยังรักพี่..รักพี่ที่เป็นพี่ชายของผม คนที่ผมรัก รักมากๆ.. และผมก็ยังรักพี่วิทย์..รักอย่างที่ผมเป็นมาตลอด..”
“..ตอนนี้ขึ้นอยู่กับพี่แล้วล่ะ..พี่วิทย์..ว่าจะเลือกใคร ระหว่างผมกับพี่กันย์..”
“ หา????..” ถ้ากินอะไรอยู่ สารภาพว่าวิทย์ต้องขย้อนมันออกมาแน่นอน ชายหนุ่มจ้องหน้าเมฆสลับกับกันย์อย่างตกตะลึง หัวใจเต้นแรงเหงื่อซึมชื้นขึ้นเรื่อยๆ..ก็..คำถามที่ส่งตรงถึงตัวเขานั่นมันอะไร เขาจ้องมองหน้าเมฆด้วยอารมณ์ตื่นๆปนตกตะลึงไม่น้อย..หรือ...หรือว่าเมฆจะรู้แล้วว่าเขากับไอ้กันย์เคย..หรือว่าไอ้กันย์จะเป็นคนบอก..แต่จะเป็นไปได้เหรอในเมื่ออีกฝ่ายน่ะเกลียดเขาขนาดนั้นและ..ถ้าบอกไปเมฆมันจะไม่โกรธหรือไง?..
“..ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอกน่า...แค่บอกว่าจะเลือกผม..หรือจะกลัวพี่กันย์มายุ่ง จนเลือกจะหนีออกไปอย่างที่พี่ทำเมื่อกี้น่ะ..”เมฆบอกด้วยน้ำเสียงขุ่นๆ..แต่คนฟังอย่างวิทย์นึกโล่งอก..นึกว่าจะรู้เรื่องที่เขากันไอ้กันย์มัน...เฮ้อ....
“..ไม่ต้องมาแอบกัดกูเลยน่ะ..” วิทย์จ้องหน้าคนถามแล้วเอื้อมมือไปคว้าเจ้าตัวเข้าใกล้ “ เสียใจด้วยว่ะ..กูพอใจจะกดขี่ขมเหงมึงแบบนี้ต่อไปล่ะ..คราวนี้ถ้าอยากร้องของความช่วยเหลือ ก็เชิญ”พี่ชายที่รัก”ของมึงได้เลย..”
“..ปากเสียว่ะ..” เมฆบ่น แต่ก็ยอมให้เขาเล่นหัวโดยดี วิทย์หันไปมองหน้ากันย์..เจ้าคนถูกมองมีสีหน้าเจ็บปวด อย่างที่เขาก็รู้ว่ามันต้องเป็น..นัยน์ตาคู่นั้นหันมามองเขาเพียงชั่วครู่..ก่อนจะเดินไปหาเมฆ แล้วกอดเจ้าตัวไว้แน่น..
“..ยังไงถ้าเปลี่ยนใจ..ก็มา...”
“...อืม...ผมรู้...” เมฆรับคำเบาๆ..พลางกอดตอบเจ้าตัวแน่นขึ้น วิทย์เกาหัวแกรก อ้าปากจะท้วง แต่ก็สะดุ้งกับมือของกันย์ที่ตะปบเข้าที่คอ แล้วใช้ความสามารถตามวิชาชีพที่มันเคยเรียนกมากระชากผ้าพันแผลเขาออกแล้วกดปลายนิ้วลงไปบนแผลนั้นโดยแรง..
เสียงดังเพี๊ยะ.. ดังขึ้นขณะที่เมฆกำลังกอดพี่ชายต่างสายเลือดไว้แน่นทำให้คนฟังขมวดคิ้ว..กอด..ที่เขาทำด้วยความรู้สึกเต็มร้อยเป็นครั้งแรกยังทิ้งรอยอุ่น ขณะที่เขาเงยหน้ามาจากอกของพี่ชาย..มองไปที่วิทย์...ซึ่งกำลังยืนหน้าบิดเบี้ยวมือข้างหนึ่งกุมแผลบนคอไว้ด้วยใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธเคือง..
เมฆหันมามองหน้ากันย์..พี่ชายของเขายังคงยิ้มให้ แม้มืออีกข้างที่กำลังสะบัดอยู่หลังกางเกงนั้นจะกระตุกยิก..
เมฆแสยะยิ้ม..ออกปากถาม
“..มีอะไรที่ผม”ไม่รู้”รึเปล่า..”
“..ไม่...!! “ ตอบพร้อมเพรียงกันทั้งสองคนพร้อมกับวิทย์ที่คว้าแขนเขาไว้ นัน์ตาคู่นั้นหรุบตามองรูปในมือเขาเพียงชั่ววูบ..ก่อนจะถามออกมาเบาๆ..
“..แน่ใจเหรอ?..”
“..อืม..” เขารับคำเบาๆ พลางหันไปยิ้มฝห้พี่ชาย..นัยน์ตาคู่นั้นยังฉายแววเศร้า...แต่อย่างน้อยรอยยิ้มนั้นก็ไม่ได้โกหก..
วิทย์ยิ้มออกมาบางๆ..ไม่อาจจะบอกได้ว่าความรู้สึกเป็นอย่างไร..มันไม่ได้โล่งสบายไร้ความกดดันอะไรแบบที่เคยคิด แต่ก็ไม่ได้หนักหนา จนหายใจไม่ออกเหมือนที่ผ่านมา..
..ถ้าเชือกที่ถือไว้..มันกำลังตึงจนจะขาด..หากตัดไม่ได้ ..ที่ทำได้ก็คงเป็นเดินถอยหลังกลับมามองไปยังปมของเชือกนั้น.. แล้วค่อยๆเดินไปจากตรงนั้นอีกครั้ง..
ชายหนุ่มอ้อมมือคลำรอยแผลที่ถูกเล็บจิกเสียจนเจ็บแปลบและเป็นรอยแดงแล้วถอนหายใจแผ่วเบา..
มันยังไม่จบ..ต่อให้ถอยออกมาคนละก้าว..ความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิมอยู่ดี..
เหลือบมองศรีษะของคนที่อยู่ข้างกาย พร้อมกับหรุบตาลงช้าๆ..
คราวนี้...ไอ้กันย์มันยอม..ยอมเพราะอย่างน้อย ตนก็ยังเป็นที่รักเช่นเดิม
ถือว่าไม่ได้แพ้ไปเสียจนหมดรูป เพราะยังคงสำคัญ..สำคัญแม้จะคนละความหมาย..
...แต่เขาก็รู้ดี..ว่ามันจะไม่หยุด...
เส้นเชือกที่ตึงแน่นมันคลายลงก็จริง... แต่ปมที่กองอยู่ตรงนั้นมันขมวดเข้าหากันเรียบร้อยแล้ว..
พร้อมกับปลายเชือกที่มัดลำคอของพวกเขาแน่น...เหมือนเดิม..
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......