First impression
Special: 1 [vit mode]
กูนั่งมองพวกลูกน้องในแกงค์เล่นไพ่นกกระจอกกันเป็นรอบที่ร้อยแล้วนึกเบื่อแทนพวกมัน แต่ก็เอาเถอะ มันไม่เบื่อนี่ ไม่เหมือนกุที่ออกมานั่งทอดหุ่ยมองฟ้าสบายอุราอยู่สองคน..
แน่นอนว่าไม่ใช่คนเดียว กูมองหน้าไอ้คนข้างๆ มันกำลังเอาตีนเขี่ยๆพื้นที่มีหญ้าสีเขียวงอกขึ้นมาอย่างสบายอารมณ์ กูก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนี้ จะอารมณ์ดี จะมีความสุขเมื่ออยู่กับกู..มีความสุขจริงๆอย่างที่บางคน...คนที่รักมันนักหนาหวังไว้..
คิดไปก็ชวนเหนื่อยใจมากกว่าจะเป็นอย่างอื่น กุก็ไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้วเรื่องของเราสองสามคน..มันมาไกลเกินไป ไกลเกินจะถอยหลังกลับ และไกลเกินจะกลับหลังไปโดยไม่คิดอะไร
ตอนนี้เรื่องของเรื่องมันแทบจะไม่ได้อยู่ที่ใคร จะรัก จะชอบใครอีกแล้ว มันกลายเป็นว่าใคร..จะสามารถรัก..และอยู่กับใครได้ต่างหาก..
ไม่ว่าจะรักหรือไม่รัก ไม่ว่าจะชอบหรือเกลียด ก็ไม่ได้สำคัญอีกต่อไปแล้ว..
มองหน้ามันแล้วนึกถึงตอนที่เจอกันครั้งแรก ตอนที่กูรับงานนี้มาจากป๋า ตอนที่กูได้เจอมัน...มันยังเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ผอมๆ ท่าทางซึมเซา จมจ่ออยู่กับเรื่องราวในอดีตของตัวเอง มันทั้งเศร้าและน่าเวทนา และควรจะน่าสงสาร แต่ก็เปล่า..เปล่าเลย กูทำเหมือนตัวเองจะคิดสงสาร จะคิดเอ็นดูมัน แต่ก็เปล่า..ตอนนั้นกูก็เหมือนคนโง่..ยังคะนอง ยังหลงระเริงกับอำนาจที่ได้รับ คิดจะเอามันไปทำอะไรมากมาย คิดจะชีวิตคนๆนึงมาให้ความบันเทิง ให้ความสนุกกับชีวิตที่น่าเบื่อของตัวเอง..
แสร้งทำดีกับมัน เข้าอกเข้าใจและคอยดูแล แต่ลับกลังกลบวางแผนกลั่นแกล้ง คอยหัวเราะเยาะกับความยากลำบากที่มันเจอ ทำเรื่องร้ายกาจมากมาย...มาก...ราวกับเป็นการแก้แค้นโชคชะตาที่ทำให้กูมาอยู่ตรงนี้ แก้แค้นกับความรัก..ความรักที่มันให้กูมา และแก้แค้นกับความรักที่กูมีให้คนคู่นั้น..ความรักที่ทำให้กูต้องมาทุกข์ทรมารอยู่ในคุก..
และไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ที่รัก..รักจนไม่อาจจะทนเห็นมันไปอยู่กับคนอื่นได้ แต่กุก็โง่ที่รู้ตัวเมื่อสายไป รู้ตัวก็เมื่อมันต้องไปอยู่กับไอ้ผู้พัน..และกลับมาในสภาพ...ที่ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว..
แววตาของมันขุ่นมัว..นัยน์ตาที่เคยสะท้อนแววตาของกันและกัน..หายไปแล้ว..เหลือเพียงเสี้ยวหน้าแข็งกระด้าง..และน่าอดสู..
เอื้อมมือไปหามันยังไงก็ไม่ได้รับการตอบรับ พยายามจะเข้าหามันเท่าไหร่ปลายเท้าของมันก็ถอยหนี ทำร้ายจิตใจกูมากขึ้นทุกที..ทุกที ...
...กระทั่งสุดท้ายที่มันทำร้ายกู...กูก็ยังเห็นความเจ็บปวดของมันชัดเจน..
เราสองคนเหมือนคนที่กำลังพายเรือในอ่าง..วนเวียนหลงวนอยู่ในหนทางที่ไม่มีทางออก ทำได้เพียงแค่ทำร้าย ทำลายกันให้แตกยับกันไปข้างหนึ่ง..ทั้งงี่เง่าทั้งน่าสมเพช
...กูเคยนึกว่าชาตินี้ทั้งชาติ ทั้งกูและมันคงไม่สามารถจะกลับมาอยู่ข้างๆกันได้อีก..
กูหันไปมองหน้ามันที่นั่งอยู่ข้างๆ..เอื้อมมือไปลูบต้นคอมันเบาๆ..ไอ้เมฆหันมางงๆ..มันมองตากูแล้วชะงัก ก่อนจะหันมายิ้มให้...รอยยิ้ม ที่กูคิดว่าชาตินี้ทั้งชาติมันคงไม่หันมายิ้มให้กูอีกแล้ว..
...ดีแล้ว...ที่มันยังหันกลับมาหากู...มาอยู่ข้างๆกันแบบนี้เหมือนเดิม..
เรื่องที่กูจะรักใครชอบใคร..ในตอนนี้ มันไม่สำคัญแล้ว...
ขอแค่..ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม..
..................................................
นาฬิกาบอกเวลาบ่ายสามโมง เสียงหวีดสั้นๆก็ดังไปทั่วเรือนจำ..กูลุกขึ้นจากพื้น เดินดุ่มไปร่วมกันเข้าแถวฟังประกาศของพัศดี...เรื่องของไอ้นพที่เคยเป็นปัญหา ตอนนี้มันเงียบไปแล้วเพราะไอ้ชาติ ที่ตอนนี้กูต้องนับมันเป็นลูกพี่อีกคนจัดการให้..ก็ยังถือว่ามันใจดี มากกว่าไอ้ป๋ากับได้ผู้พันที่วันๆไม่ทำอะไรนอกจากคอยสร้างเรื่องมากลั่นแกล้งชาวบ้าน..
“..มีเรื่องอะไร?..” กุถามไอ้โตที่เดินเข้ามาก่อนแล้ว มันยังไม่ตอบแต่เดินเข้าไปร่วมแถว ตวัดสายตามองไอ้เมฆที่อยู่ช้างๆกูนิดหน่อย แต่ข้อความในดวงตาคู่นั้นมันคงสยองพอที่จะทำให้เมฆมันหันรีหันขวางและเดินผละจากกุไปเข้าแถวของมัน
กูมองไอ้เนม..ที่ยืนอยู่หลังไอ้โตแล้วยิ้มให้มันนิดๆ..ไอ้เด็กคนนั้นก็หันกลับมายิ้มให้..ไม่ว่ายังไง เวลามันยิ้มก็ยังเหมือนเดิม..เหมือนวันแรกที่กุเจอเป๊ะ.. ยิ้มซื่อๆ ท่าทางโง่ๆ...จนไม่น่าจะคิดร้ายอะไรกับใครได้ลง แต่พอเอาเข้าจริงๆไอ้เด็กคนนี้มันก็ฉลาดและร้ายได้ใช่ย่อย แม้ต้องรอเวลากระทั่งเฉียดเป็นเฉียดตายมันถึงจะทำใจแข็งทำร้ายคนอื่นเขาเสียทีก็เถอะ..
กุหันไปมองหน้าไอ้โตอีกรอบ มันชะงักกับท่าทีของกูกับเด็กของมัน แม้สีหน้าจะไม่แสดงออกอะไร แต่แววตามันไม่ใช่ นัยน์ตามันดูขวางๆชอบกล เหมือนเวลามีคนมาแย่งของๆตัวเอง
กูซ่อนยิ้มในหน้า หันไปยักคิ้วให้มันเหมือนรู้ทัน กูเจอไอ้โตครั้งแรกตอนอายุสิบห้า กูเข้ามาเรียนอาชีวะในโรงเรียนเดียวกับมัน เจอกันครั้งแรกไอ้โตมันก็เป็นหัวโจกในกลุ่มเพื่อนซะแล้ว..มันเป็นคนที่เป็นนักเลงพอตัวนิสัยตรงๆ โผงผาง แต่ความจริงเป็นคนใจเย็นผิดคาด กับคนที่เป็นเพื่อน มันจะเป็นห่วงและคอยดูแล กลับกันคนที่มันเกลียดและเป็นคู่อริ จะไม่มีคำว่าปรานี..ไม่มีคำว่าสงสาร ต่อให้ตาย..จะตายตกไปต่อหน้า มันก็ไม่คิดจะสนใจ..
เพราะมันเป็นคนแบบนั้น ตอนที่ลงมือฆ่า...มันถึงไม่ปราณี
ต่อให้คนๆนั้นเป็นญาติฝ่ายพ่อของมัน แต่เพราะไอ้คนนั้น วางแผนจะฆ่าพ่อแม่และครอบครัวของมันเพียงเพราะเรื่องผลประโยชน์ที่ขัดแย้ง ไอ้โตเลยลงมือ..ทั้งวางแผนและทำเองตัดหน้าคนที่จะฆ่าพ่อแม่มันให้มันตายก่อนจะรู้ตัว..
ตอนที่กูรู้ข่าว กูยังไม่เข้าใจ กูยังเข้าไปด่าทอต่อว่ามันว่าทำไปได้ยังไง และทำไปเพื่ออะไร ไม่รู้ว่ามันจะทำลายอนาคตของตัวเองไปทำไมเพื่อเรื่องแบบนั้น..แต่พอมาถึงคราวตัวเอง..กู...ถึงได้เข้าใจ..
...การจะฆ่าใครสักคน ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลมากมาย..
แค่อยากให้มันหายไปจากโลก ก็เพียงพอที่จะปลิดชีวิตคนๆหนึ่งแล้ว..
มีคนคิดมากมาย แต่คนที่ลงมือทำกลับมีเพียงไม่กี่คน ดังนั้นจึงกลายเป็นคนชั่วช้าบาปหนา ที่ฆ่าคน ทำร้ายคน ทำความผิดที่คนส่วนใหญ่มนสังคมไม่ทำกันได้หน้าตาเฉย..
กูอยากบอก..ว่าไม่มีใครต้องการเป็นคนเลว..
อยากบอกว่า..ไม่มีใครอยากจะฆ่าคนอื่น ทำร้ายคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล ทุกคนย่อมมีเหตุผลเป็นของตัวเองทั้งนั้น..
..เพียงแต่เหตุผลนั้น..ไม่ว่ายังไงก็เพียงพอที่จำชดใช้ชีวิตของคนหนึ่งคน...
กูมองไอ้โตที่กำลังเอามือลูบหัวไอ้เนม..ด้วยแววตาอ่อนโยนและมีความสุขแล้วนึกไปถึงอีกคน..ผู้หญิงอีกคนที่ทำให้มันมีสีหน้าแบบนี้ได้เช่นกัน..
กูนึกถึงกิ๊ง...นึกถึงผู้หญิงที่ทำให้เพื่อนกูยิ้มได้และหัวเราะได้แบบนี้..
ไอ้โตไม่ใช่เด็กบ้านแตกมีปัญหาชีวิตอะไร มันก็แค่คนธรรมดา มีชีวิตธรรมดาๆ แต่คนที่จะเข้าถึงจิตใจมันให้มันได้ยิ้ม ได้หัวเราะแบบนี้มีน้อยกว่าน้อย..
แต่เพราะเรื่องแบบนี้ ถ้ามันยิ้มให้คนๆเดียวเหมือนที่ผ่านมา มันก็คงจะไม่เป็นปัญหา แต่เมื่อมันยิ้ม..ให้กับคนสองคนแล้ว..เรื่องมันก็จบลงง่ายๆไม่ได้แน่...
กูก็ได้แค่คิด..ได้แต่หวัง ให้มันสามารถจบเรื่องนี้ได้สวยๆ สามารถจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเหมือนที่มันทำได้ตลอดมา..
และกูหวังว่ามันจะจัดการได้ตลอดไป..
“..เรื่องไอ้นพ..เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?..” ไอ้โตถามเบาๆ ทำให้กูหันไปมองหน้า แล้วพยักหน้ารับช้าๆ..
“..เออ...ไอ้ชาติมันจัดการให้..”
“...เหรอ..ใจดีผิดปกติว่ะ..”ไอ้โตยิ้มขำๆคล้ายจะเยาะ กูยิ้มออกมาบางๆรู้ว่าไอ้โตมันไม่คิดจะไว้ใจพวกที่สั่งการอย่างบน ไม่ว่าจะใครหน้าไหนได้ทั้งสิ้น..
รับเข้ามาได้ก็เขี่ยทิ้งออกมาได้ ใจดีด้วยก็ใจร้ายใส่ได้เหมือนกัน..
คนที่อยู่ในนี้ หาพวกที่เชื่อใจกันได้น้อยกว่าน้อย เพราะแบบนั้น ถึงต้องรักษา ต้องเก็บเอาคนที่ไว้ใจได้ไว้ใกล้ๆตัว..ต่อให้มันจะเป็นคนไร้ประโยชน์หรือไร้ค่าแค่ไหนก็ตาม
คำว่าที่พักพิงที่ไม่มีวันทรยศหักหลัง คนๆนึงหากันทั้งชีวิตอาจจะไม่เจอ แล้วถ้าหากเจอ จะไม่คว้าไว้ได้ยังไง..
เหมือนกับไอ้โตที่คว้าไอ้ซื่อบื้ออย่างไอ้เนมมาอยู่ข้างๆ หรืออย่างกู.ที่...
กูเหลือบมองเมฆที่ยืนอยู่ในแถม แล้วหรี่ตาลงน้อยๆ ไม่รู้ว่าตัวเองจะเชื่อใจคนๆนึงได้มากแค่ไหน..โดนเฉพาะคนที่เคยทรยศหักหลังกันมาก่อน..
สายสัมพันธ์ที่สานต่อมาจากรากฐานที่ปรักหักพังไปเมื่อครั้งก่อน จะว่ามั่นคงก็ได้ จะว่าง่อนแง่นก็ยังไหว..
ทำได้แค่พยายามเชื่อใจ..พยายามไว้ใจ แต่ก็เผื่อใจไว้..ทำได้มากที่สุดแค่นี้..
..เพราะยังไง ก็คงดีกว่า จะพยายามเข้าใจ คนที่ไม่เคยเข้าใจ..
ดีกว่าจะพยายามแทรกตัวเข้าไปในที่ๆมองไม่เห็น..
กูถอนหายใจเฮือกเมื่อความคิดยังเวียนวนไปหาคนที่ไม่ควรจะคิดถึง.. มองหน้าไอ้เนมที่เดินมาหาไอ้โตอีกรอบแล้วยิ้มให้มันเหมือนเดิม ไม่สนใจสายตาเขม็งของไอ้โตที่จ้องมองมา..
ตอนเจอมันครั้งแรก ที่กูสนใจมัน อาจจะเพราะแววตาซื่อๆใสๆ ที่เหมือนกับเมฆ..คล้ายกันกับคนที่กูเคยทำร้ายและเป็นคนที่จะต้องเจอเรื่องราวเดียวกัน เรื่องราวเหมือนๆกันด้วย..
ยังจำๆได้ว่าวัน ที่ได้เจอมัน ไอ้เนมมันเหมือนตัวประหลาดในดงคนคุก เพราะทั้งหน้าตา ลักษณะท่าทาง ไม่ได้เหมือนคนที่ทำความผิดหนักหนาชนิดที่ต้องเข้ามาอยู่ในเรือนจำเดียวกับพวกกูแม้แต่น้อย..
แววตาซื่อๆสั่น สะท้อนความทุกข์ระทมและหวาดหวั่นในใจ นัยน์ตาและจมูกของมันแดงก่ำ บ่งว่าร้องไห้มาอย่างหนัก ริมฝีปากเม้มแน่นท่าทางที่พยายามทำเหมือนเข้มแข็ง..กระทั่งผมบนหัวมันยังไม่เหมือนชาวบ้านด้วยซ้ำ..
กูเฝ้ามองมันที่มีไอ้โตก้าวเข้ามาในชีวิต ทั้งสนิทสนมและทำร้ายแบบเดียวกับที่ตัวเองเคยทำ..กูยอมรับว่ากลัว..กลัวว่าความใกล้ชิดสนิทสนมที่แผงไว้ในพฤติกรรมโหดร้ายของไอ้โตมันจะมีอะไรมากกว่านั้น กลัวว่ามันจะรักแล้วไม่ยอมรับ กลัวว่ามันจะร้าย..จนลืมไปว่าคนที่อาจจะเจ็บได้..ก็คือตัวมันเอง..
กูได้ใจ...และอาจจะถึงขั้นอิจฉา ที่พวกมันผ่านเรื่องเลวร้ายมาได้ เพราะความเข้มแข็งของไอ้เนม..มันไม่ได้เป็นบ้า มันไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้สาปแช่งไอ้โตเหมือนที่กูเคยเจอ ถึงมันจะยังไม่เชื่อใจและไว้ใจกัน แต่ทว่า ก็ยังดีที่มันรอดมาได้ ยังดีที่..มันกลับมาอยู่ข้างกันได้
ไม่เหมือนที่กูต้องเจอไม่เหมือนที่กูเกือบจะเสียใครไปตลอดกาล..
แต่ตอนนี้..ที่เรื่องราวมันเลยเถิดไป..กูก็เฝ้ามองมันเงียบๆ เพื่อดูว่าสุดท้ายแล้ว เรื่องมันจะจบลงตรงไหน..อยากรู้ว่าที่สุดแล้ว..ความรักที่มีถึงสองคนของไอ้โตจะจบลงยังไง..
“..เช็คชื่อครับ..” เสียงคุ้นหูดังขึ้นใกล้ๆทำเอากูสะดุ้ง..กูหันไปมองหน้ามัน..ไอ้กันย์กำลังถือสมุดปากกาไว้ในมือและยื่นปากกามาให้เงียบๆ..กุแอบเม้มปากหางตามองเห็นไอ้โตเหลือบมองมาทางนี้..กูรีบจรดปากกาเซ็นชื่อลงไปเร็วๆแล้วหันหน้าหนี ไม่อยากสนใจ..
เพราะไมรู้จะสนไปทำไม..
กูสบตาไอ้โตด้วยท่าทีไม่ระหยี่..ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะรู้ว่ามันต้องการอะไร..รู้..ว่ามันอยากเห็นแบบไหน...และรู้ ว่ามันยังกังวลเรื่องไหนเกี่ยวกับตัวกู..
กูที่ผิดพลาดเพราะความรัก..ล้มคว่ำมาสองคราวเพราะคำว่ารัก...ไม่รู้ส่าสุดท้าย จะมาตายเพราะคำว่ารักรึเปล่า?
ล้มครั้งแรก...ชีวิตกูถึงต้องมาจมปลักอยู่ในคุก ตามติดเพื่อนรักที่ถุกส่งตัวมาชนิดว่าติดๆกัน..
ล้มครั้งที่สอง..กูเกือบจะตายไปแล้ว..ดีที่ไอ้โตมาช่วยไว้ทัน ๆไม่งั้นกุก็อาจจะไม่รอด..
กูไม่อยากจะล้มอีก...ไม่อยากจะเจ็บปวดทุกข์ทรมารอีก แต่ไม่รู้ว่ามันจะเป็นไปได้ไหม..
ไม่รู้ว่าในสายตาคนอื่น มันจะมองว่ากูรักเมฆรึเปล่า..ไม่รู้ว่าในสายตาไอ้โต มันจะคิดว่ากูจัดการกับความคิดของตัวเอง จัดการกับคำว่ารักที่ค้างคาอยู่ในสมองนี่ได้หรือยัง..
และไม่รู้...ว่าไอ้คนที่กูรัก...มันจะคิดยังไงกับกูที่รักคนของมัน..
ไม่รู้ว่าไอ้กันย์มันจะคิดยังไง..มันรู้แน่ว่ากูรัก..แต่ไม่รู้ กูไม่รู้ ว่ามันจะยังคิดว่ากูรักมันอยู่รึเปล่า..ในเวลานี้ที่กูอยู่กับเมฆ..
กูบอกกับตัวเองหลายครั้งแล้วว่ากูเป็นคนหลายใจ..กูรักเมฆ...รักและไม่อยากให้มันร้องไห้ ถึงแม้ความชอบที่ได้อยู่ใกล้กันนั้น ตอนแรกมันจะเบาบางเสียจนแทบไม่รู้สึก..แต่นานไป..ความรู้สึกที่กูคิดว่ามันตายไปแล้วกลับค่อยๆเกิดขึ้นมาอีกครั้ง..
กูรักเมฆ...แต่ไม่ได้หมายความว่า..กูจะรักไอ้กันย์น้อยลง...
ความรู้สึกรัก..มันเกิดขึ้นช้าๆ ค่อยๆฝังตัวลึกลงไปเหมือนกับรากไม้ที่ค่อยเกาะลงบนผืนดิน..ต่อให้ถอนออกมาได้...ในดินนั้นก็ยังเหลือรากแก้วรากฝอยเล็กๆอีกมากมาย..
ก็เหมือนกับความรู้สึก ที่ไม่ว่ามันจะทำร้าย..ร้ายกับกูมากแค่ไหน ต่อให้รากแก้วมันโดนถอนออกไปรากฝอยในหัวใจมันก็ยังอยู่และพร้อมจะเติบโตขึ้นมาตลอดเวลา..
กูไม่รู้ว่าเริ่มรู้สึกแบบนี้กับมันตอนไหน...กับไอ้คนหน้าตายที่ทำเป็นแต่ยิ้ม..ถึงกูจะด่ามันก็ยังยิ้ม ต่อให้กูโกรธมันก็ยังคงยิ้ม..ยิ้ม...แม้จะเอ่ยวาจาเชือดเฉือนมาก็ตาม..
ไม่ใช่ว่ากูไม่รู้ว่ามันพยายามจะทำอะไร ไม่ใช่ว่ากูไม่เห็น ว่ามันกำลังขุดหลุมลึกและหลอกล่อให้กูตกลงไป แต่กูก็ยังทำเฉย เดินไปตกลงในหลุมนั้นด้วยความเต็มใจ..
กูยังจำได้ในวันที่มันเข้ามาในแดนสิบสองเป็นครั้งแรก.. ผู้ชายท่าทางสะอาดสะอ้านใจดี มีแต่รอยยิ้มบางๆเหมือนชาตินี้จะโกรธใครไม่เป็น กูจำได้ว่าตัวเองต้องนอนแบ่บให้มันพยาบาลเป็นเดือนเพราะถูก”คนที่รัก”หักลังจนเจ็บหนักปางตาย..
ตอนที่กูกำลังทำใจกับการที่ใครบางคนจากไป มันก็เริ่มเข้ามา..เข้ามาช้าๆ..ช้าจนกูแทบไม่รู้สึกตัว..
...และเมื่อรู้ตัว กูก็หลงรักมันไปแล้ว..
กูเลิกรักมัน...ไม่ได้ มันยากพอๆกับการที่กูต้องตัดใจจากเมฆ..
กูเลิกรักเมฆไม่ได้..มันยากพอๆกับที่เมฆตัดใจจากกูไม่ได้..
กูเลิกรักคนสองคนนี้ไม่ได้..มันยากเหมือนที่ไม่ว่ายังไงไอ้กันย์ก็รักเมฆและเกลียดกูอยู่ดี..
กระดาษสีขาวในมือถูกกูบีบจนแน่น...ข้อความหวัดๆที่บอกเวลาหนึ่งทุ่ม..กับสถานที่ที่ทำให้กูกัดฟันกรอด..
.....................................................................
กูอาบน้ำเสร็จแล้ว และสมควรไปทานข้าว..
แต่กูไปไม่ได้...กูต้องไปห้องพยาบาล..
กูเดินเข้าไปในห้อง ปิดประตูเงียบๆและนั่งนิ่ง..
ฝ่ามือเย็นๆแตะลงบนแผลหลังใบหูที่ยังคงถูกปิดไว้..มันค่อยแกะออกช้าๆ..และไล้ปลายนิ้วลงบนรอยแผลนั้นช้าๆ
กูเม้มปากแน่น..รู้สึกว่าลมหายใจตัวเองสั่นไหว..และขาดห้วง..
“..มีอะไร...” กุถามออกไปเบาๆ..ทำให้มันหยุดมือที่กำลังลูบแผลกู และเอาแผ่นแปะปวดสีขาวใหญ่ๆแปะลงไปแทน
“..เมฆเป็นยังไงบ้าง..? “ กูยิ้มออกมาช้าๆ นึกอยากจะด่า..นึกอยากจะสถบว่าให้สาสมใจ เจอกันเมื่อไหร่มันก็ถามแต่เรื่องแบบนี้..แต่จะทำไงได้...กูจะหวังอะไรจากมันได้..
ไม่ได้รัก...ไม่ได้ชอบ แถมยังเกลียด..เกลียดกันเสียขนาดนี้..
“...สบายดี..และดีมากๆตอนอยู่กับกู..”
“ก็ดี..ดีแล้วที่เมฆยังสบายดี..” ไอ้กันย์รับคำเบาๆ..และเงียบไป...
กุกระพริบตาถี่ๆมองหลอดไฟตรงประตูที่ส่องแสงจ้า..ท่ามกลางความเงียบที่แม้แต่เสียงลมหายใจยังดังเกินไป..ไม่มีแม้แต่คำกล่าวใด ไม่มีกระทั้งการขยับตัว..นี่ถ้ามันจะเอามีดมาฆ่ากูตรงนี้ กูก็คงไม่รู้สึกตัว..
“....เรียกมาทีไรก็ถามแบบนี้...จะมาเสียเวลาทำไม..” กูถามออกไปห้วนๆ ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เอาเสียเลย
“แล้วมาทำไม..” คำถามมันเหมือนจะยอกย้อน..แต่ ก็ทำให้ได้คิด
“..ก็มึงเรียกมา..ยังไงตอนนี้มึงก็เป็นลูกพี่..ไม่ใช่รึไง..” กูตอกกลับเรียบพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้..
“..ก็ใช่...เพราะอย่างนั้น..ลูกพี่ถึงจะขอสั่ง..” คำพูดนั้นทำให้กูชะงัก หันไปมองหน้ามันหันไปสบตาไอ้กันย์เป็นครั้งแรกของวัน “ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามทำเมฆเสียใจ ห้ามทำเมฆร้องไห้ ไม่ว่าจะเกิดอะไร..มึงต้องปกป้องเมฆ..ด้วยชีวิต...ด้วยชีวิต...”
“..ไม่ต้องบอกกูก็ทำอยู่แล้ว..”
กูเปิดประตูออกมา แล้วเดินดุ่มเข้าไปในเรือนนอน ไม่ได้ร้องไห้หรือเสียใจแต่ในหัวอกมันตื้อไปหมด..
“..แล้วถ้ากูตาย....” ถ้ากูตาย...
กูเม้มปากแน่น..หรุบตาลงมองพื้นกับคำถามที่เผลอพุดออกมา ทั้งที่ได้คำตอบอยู่แล้ว..
ถ้ากูตาย..มึงก็คงไม่เสียใจ..
........................................
“..พี่ไปไหนมาเหรอ?..”เสียงถามเบาๆ..ดังขึ้นทำให้กูชะงัก..เงยหน้าขึ้นมามองตาคนถาม..กุไม่ตอบแต่เดินไปหาแล้วคว้ามันมากอดแน่น..
“..อะไรเนี่ย..” มันบ่นงึมเหมือนจะเขิน..ทำให้กุหัวเราะแล้วออกแรงกอดไอ้เมฆแน่นกว่าเดิม..
“คิดถึงมึงอ่ะ..” กูบอกไปตามตรง..ไอ้เมฆเอามือมาทุบแขนกูแรงแก้เขิน แล้วเดินนำเข้าไปในห้องขัง..
“...อะไรว่ะ..มาถึงก็นอน..” เมฆมันบ่นพลางเอาหมอนมาโยนใส่หัวกู...สนุกจริงนะมึงนี่..
“..ง่วงแล้วนี่..มาๆนอนเถอะ...” กูว่า พลางดึงแขนมันมานอน หลับตาลงแม้แสงไฟจะยังเจิดจ้าแสบตา..ถาให้เทียบกันแล้ว เวลาอยู่กับไอ้กันย์ความรู้สึกมันจะกระส่ายกระสับไม่เป็นสุขและไม่กล้ากระทั่งจะหายใจ.. ขณะที่เวลาอยู่กับเมฆ กูจะสงบกว่ามาก..และสามารถจะกอดมันแน่นๆได้โดยที่ไม่ต้องคิดมากอะไร..
อาจจะเพราะกูกับมันผ่านช่วงที่ความรู้สึกที่มีต่อกันย่ำแย่ที่สุดมาแล้ว ตอนนี้แทบจะไม่มีเรื่องที่จำต้องมากลัวเกรงหรือว่าประหม่าต่อหน้ากันอีก..
ผ่านความรู้สึกที่เกลียดเหมือนจะฆ่ากันแล้วมาอยู่ข้างๆกันได้แล้ว..
กูลืมตามามองหน้ามันอีกครั้ง สบนัยน์ตาที่เริ่มจะสดใส..แล้วอดจะก้มหน้าลงจูบปากมันเบาๆไม่ได้..
ไอ้เมฆไม่ได้หลบตาเขิน มันหันมามองตากูจ้องตาเขม็ง..
“..ตอนแรกที่เจอกันพี่ก็ทำตาแบบนี้เหมือนกัน...”
“งั้นเหรอ?..” กูรับคำเบาๆ..พลางคิดถึงเรื่องราวตอนนั้น..ตอนที่เมฆเข้าในเรือนจำนี้ใหม่ๆพบกูที่ยังจมจ่ออยู่กับความผิดหวังและเคียดแค้น..
“..แต่ตอนนี้..พี่ดูเหมือนคนอกหักมากกว่าคนโง่อย่างแต่ก่อน..”
“...กูไม่ได้อกหัก..” กูตอบไอ้เมฆพลางหัวเราะเบาๆ..
เพราะกูไม่ได้ถูกรักมาแต่แรกแล้ว...
“..ตอนนี้กูรักมึง..” กูมองตามันแล้วเอามือไปลูบผมมันเบาๆพลางหลับตาลง “อันนี้กูพูดจริงและรู้สึกแบบนั้นจริงๆ”
ไม่ได้โกหกครึ่งนึงแบบที่เคยบอก..และเคยเข้าใจ..
............................................................
ทำไมมันกลายเป็นโหมดดราม่าไปด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

รีเควสที่ขอมาทางเด็กดีคือขอตอนที่พี่วิทย์เข้ามาเจอทุกคนใหม่ๆ..ไอ้เราเลยเขียนตั้งแต่เมฆ..พี่โต เนม มาจนพี่กันย์

พอเจอคนอื่นไม่ดราม่า แต่พอถึงคราวเจอพี่กันย์ทีไร มาม่าซองโตทุกที..ฮือออออ ไม่ได้ตั้งจายจริงๆมันเป็นไปเอ๊งงงงงงงงงงง
ส่วนฉากหวีดน่ารักๆตรงใกล้จบ เรียกเรทติ้งเมฆบ้าง รับรองครึ่งหลังทุกคนต้องรักเมฆขึ้นอีกจมค่ะ หุหุ

ปอลิง... รูปหน้าปกมาแล้วววว แต่แปะไม่เป็น ต้องการยลความหล่อพี่โตเชิญโซโฮกได้ทางเด็กดีค่ะ
