ธงรบ - 38
อธิคมหันหน้ากลับมาหาธงรบที่ยืนทำหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆ มองเพื่อนด้วยสายตาขำปนสมน้ำหน้า ปากราวจะยิ้มและเหยียดหยันเพื่อนพร้อมๆ กัน แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าธงรบทำเรื่องอีกแล้ว
“ใครวะ เด็กใหม่หรือเด็กเก่า คนนี้ข้าไม่เคยเห็น” ในที่สุดอธิคมก็ถามขึ้นมา
“ต้องโทษหมอพศวัตคนเดียวเลยเนี่ย” ธงรบพึมพำ “ทำไมตามมาถึง ส.น. ได้วะ รู้ได้ยังไง”
“เอ็งไม่รู้อะไร พวกนี้เขาเก่งยิ่งกว่าตำรวจอย่างเราซะอีก ฝีมือสืบสวนสอบสวนเหนือชั้น ดูคุณนุเป็นตัวอย่างสิ ไปทำอะไรที่ไหน รู้ไปหมด ไม่รู้สืบได้ยังไง” อธิคมแสดงความเห็น
“คม เอากุญแจรถมา ข้าจะไปรอที่รถ วันนี้ขอติดรถกลับด้วย” ธงรบแบมือ
“อ้าว แล้วรถเอ็ง”
“ข้าลงไปไม่ได้ ถ้าน้องเจ็ทขึ้นมาข้างบนเพื่อเจอข้า น้องจ๊อบก็ต้องยืนเฝ้าอยู่ที่รถ สองคนนี้เขาเพื่อนซี้ ทำงานกันเป็นทีม ตามตื๊อข้าได้หลายวันแล้ว” ธงรบเบ้ปาก ทำหน้าอ่อนใจ
“เอ็งนี่มันไม่เข็ด” อธิคมล้วงกระเป๋าหากุญแจรถ “ทำไมชอบเก็บแพ็คคู่”
“ข้าโดนตื๊อนะคม แค่ไปหาอะไรดื่มในผับก็โดนสองคนนี้ขนาบข้าง หมอพศวัตนั่นล่ะแนะนำดีนักว่าให้ปลดปล่อยเพราะไม่งั้นลูกโป่งจะแตก” ธงรบให้เหตุผล
“อะไรวะ” อธิคมทำหน้างง
“ข้าโกรธ ข้าน้อยใจที่เห็นอาทิตย์กับไอ้วุธควงกันไปช๊อปปิ้งซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต” ธงรบพูดเสียงหงอยๆ
อธิคมหรี่ตามองเพื่อนอย่างใช้ความคิด แล้วพยักหน้าช้าๆ แล้วอุทานลากเสียงยาว “อ๋อ เอ็งก็เลย...”
“ข้ากินเหล้าไปเยอะ” ธงรยเสียงอ่อย หน้าตาสำนึกผิด
“ข้าอยากจะแปลงร่างเป็นอาตี๋เบ็นซ์ดำเดี๋ยวนี้แล้วฆ่าเอ็งทิ้งซะเลย” อธิคมส่ายหน้า “หาเรื่องไม่ได้หยุดหย่อน แล้วเอ็งก็โทษเหล้า แต่่ก่อนเอ็งพาข้าซวย ตอนนี้เอ็งไม่รู้จะพาใครไปซวยก็เลยพาตัวเองไปซวยแทน”
“สองคนนั้นตื๊อ”
“แล้วเอ็งก็เลยหนีบซ้ายหนีบขวาพาไปขึ้นสวรรค์” อธิคมเติมความให้พร้อมกับยื่นกุญแจรถใส่มือธงรบซึ่งกำลังกายมาเป็นตำรวจที่กำลังหลบหนีประชาชน “ขึ้นสวรรค์เสร็จ เอ็งก็หล่นปุ๊กลงไปกองอยู่ในนรก”
“เลิกด่าข้าได้แล้ว ข้ารู้สึกผิด ข้าจะไม่ทำอีก คืนนั้นคืนสุดท้ายแล้วล่ะที่ข้าหลงผิด ต่อจากนี้ไปข้าจะเป็นนิวธงรบ” ธงรบ 'คนใหม่' ทำหน้าตาขึงขังก่อนจะเร่งเพื่อนรักว่า “รีบๆ ตามมานะคม ข้าหิวข้าว เย็นนี้ขอกินข้าวที่บ้านด้วย”
“ยังไม่ได้บอกคุณนุเลย” อธิคมท้วง
“ทำไมต้องบอกวะ เพื่อนจะไปกินข้าวที่บ้านต้องขออนุญาตแฟนด้วยหรือ” ธงรบตะคอกเสียงไม่ดังเท่าไหร่นักพลางหันไปคว้าเอาแฟ้มเอกสารบนโต๊ะมาปิดหน้าแล้วรีบหลบออกไปอย่างรวดเร็วราวกับเป็นดาราที่กำลังหนีนักข่าว
“แฟนที่ไหน” อธิคมพึมพำอยู่คนเดียว “ตอนนี้เลื่อนขั้นพรวดพราดขึ้นไปอีกหลายขั้นแล้ว ถ้าเป็นตำรวจจริงๆ ป่านนี้คุณนุคงเป็นพลตำรวจเอกแล้วมั๊ง”
อธิคมเดินออกจากห้องทำงานของธงรบตรงไปประตูทางออกด้านหน้าของสถานีตำรวจช้าๆ ทำเป็นมองไม่เห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินตรงมาที่เขา ท่าทางมั่นใจในตัวเอง
...ไอ้ธงนะไอ้ธง คนนี้เหมือนโคลนนิ่งกษิดิษฐ์ไม่มีผิด หน้าตาท่าทางเอาเรื่อง...
“สารวัตรอธิคม สวัสดีครับ ผมชื่อเจ็ท มาหาสารวัตรธงรบ” ชายหนุ่มทักทายและแนะนำตัว พร้อมบอกจุดประสงค์ของการมาเยือนด้วยเสียงดังฟังชัดราวกับทหาร
“ธงรบกลับไปแล้วครับ” อธิคมตอบด้วยรอยยิ้มเย็นๆ พยายามวางมาดนิ่งให้น่าเชื่อถือ
“อ๋อ สงสัยกลับไปทางประตูหลังสถานีตำรวจใช่ไหมครับ”
“ใช่ครับ” อธิคมพยักหน้า ทำหน้าตาท่าทางน่าเชื่อถือให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ “ธงรบเขาชอบประตูหลัง”
“นั่นห้องทำงานสารวัตรธงรบหรือครับ” เจ็ทชี้มือไปยังห้องทำงานของ 'เพื่อนตัวดี' ของอธิคม
“เปล่า” อธิคมส่ายหน้า “ห้องธงรบอยู่ชั้นล่าง เพิ่งย้ายเมื่อวานนี้เองครับ ใครบอกคุณ”
“ร้อยเวรบอกว่าถ้าหาสารวัตรธงรบไม่เจอก็ให้มาถามสารวัตรอธิคมเพราะเป็นเพื่อนซี้กัน” เจ็ทพูดด้วยใบหน้ายิ้มๆ นัยน์ตาวิบวับ “ไม่นึกเลยว่าเพื่อนของสารวัตรธงรบนี่จะเหมือนกันราวกับฝาแฝด”
“ผมหรือเหมือนธงรบ” อธิคมชี้หน้าตัวเอง
“เหมือนสิครับ หล่อสูสีกันจนตัดสินลำบาก เพราะฉะนั้นจึงทดแทนกันได้ ถ้าผมตามสารวัตรธงรบไม่ได้ผมก็ไม่ต้องกังวลแล้วล่ะเพราะมีตัวตายตัวแทนอยู่ตรงนี้” เจ็ทพูดเสร็จก็หันหลังกลับ เดินจากไปดื้อๆ ทิ้งให้อธิคมยืนอึ้ง มองตามด้วยสีหน้าผะอืดผะอม
...เฮ่ย ซวยซะแล้วไหมล่ะ ที่พูดนี่หมายความว่าถ้าไม่ได้กินธงรบก็จะกินอธิคมแทนงั้นเร๊อะ เจ็ทนี่ไม่ใช่เล่น ไอ้ธงนะไอ้ธง ช่างหาเหามาใส่หัวแท้ๆ ไอ้เสาธงหัก ไอ้เพื่อนพาซวย...
ธงรบหัวเราะก๊ากเมื่อได้ยินอธิคมเล่าเรื่องเจ็ทให้ฟังจึงโดน 'ตัวตายตัวแทน' ชกเข้าที่หัวไหล่อย่างแรง
“ข้าหลุดออกจากวังวนคนปาบแล้ว เอ็งอย่าเสือกหาเรื่องมาให้ข้าอีก” อธิคมชี้หน้าธงรบ
“แน่ใจหรือคม” ธงรบทำหน้าทะเล้น ยังหัวเราะไม่หยุด
“ยังมีหน้ามาขำอีก ปัญหาของเอ็งแก้ไม่ได้ซะที นี่ถึงกับแท็กทีมบุกถึงโรงพัก ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้างเลย”
“ตอนนี้้ข้ายังนึกไม่ออก” ธงรบยักไหล่แต่พลันก็อุทานขึ้นมาว่า “เฮ้ย คิดออกแล้ว ในเมื่อเจ็ทเห็นแกแล้วคิดว่าหล่อสูสีกับข้า แล้วก็อยากกินแกอีกคน ถ้าเจ็ทเห็นไอ้วุธก็ต้องหันไปหามันใช่หรือเปล่า”
“ทำไมเอ็งคิดอย่างนั้น” อธิคมถาม
“เพราะไอ้วุธมันหล่อ เร้าใจ เซ็กซี่ ลึกลับ น่าค้นหานะสิ” ธงรบตอบ
“มันหล่อสู้้ข้าไม่ได้ ยังไงน้องเจ็ทของเอ็งก็คงไม่เปลี่ยนใจหรอก” อธิคมกระแทกเสียง ทนไม่ได้ที่จะได้ยินใครชมอาวุธ “มีแต่อาทิตย์นั่นล่ะที่ชอบผู้ชายจืดๆ ไร้อารมณ์แนวนั้น”
“ไอ้ห่_ ปากไม่ดี” ธงรบด่าเพื่อน
“เอ็งสิ ปากไม่ดี” อธิคมตวาด “มาชมศัตรูให้ได้ยินกับหู”
“เฮ้อ ตกลงไอ้วุธกลายมาเป็นศัตรูเราแล้วหรือวะคม” ธงรบถามเสียงเบา เปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งเรียบทันใด
“มันเอาอาทิตย์ไปอยู่กับมัน อยู่ด้วยกันเป็นผัวเมีย ทำกับข้าวให้อาทิตย์กิน แล้วอาทิตย์ก็คงซักผ้ารีดผ้าให้ไอ้วุธ เอ็งรู้สึกยังไง” อธิคมเลิกคิ้ว ทำหน้ายียวน “อ้อ ไม่แน่นะ ตอนอาบน้ำอาจผลัดกันถูหลังด้วยนะ แล้วก็...ไอ้วุธอาจจะล้างภายในให้อาทิตย์ เคลียร์อุโมงค์ก่อนที่จะ อืม...ไม่อยากคิด ไม่กล้าจินตนาการ”
“หุบปากนะคม ข้าไม่อยากฟัง ถ้าเอ็งไม่หยุดพูดเดี๋ยวข้าถีบตกรถ” ธงรบพูดเสียงเรียบ นั่งนิ่ง ตามองกระจกรถ แล้วถอนหายใจเสียงดัง “แกว่าวิธีนี่จะได้ผลหรือคม ข้ารู้สึกสังหรณ์ใจยังไงไม่รู้ วันนี้เขม่นตาซ้ายเกือบทั้งวัน”
อธิคมเอียองหน้าคิดพร้อมกับพูดว่า “อย่างที่เอ็งพูดเมื่อกี้ก็ถูก ยิ่งมีคนไปยุ่งกับไอ้วุธมากเท่าไหร่ยิ่งดี แกจำได้ไหมว่าตอนที่ข้าโดนคุณนุทิ้งก็เพราะมีเด็กเก่าๆ เดินพาเหรดเข้ามารุมทึ้ง หากอาทิตย์เห็นว่าไอ้วุธมีคนเข้ามาวุ่นวาย อีกหน่อยก็คงทนไม่ไหว ตีจากไปเอง คราวนี้เอ็งก็หมดสิ้นมารหัวใจ กษิดิษฐ์รู้จักไอ้วุธแล้ว ไม่แน่ อาจจะหลงไหลไอ้วุธหัวปักหัวปำ กษิดิษฐ์นี่ล่ะจะตีอาทิตย์ให้กระเจิง ถ้ามีน้องเจ็ทน้องจ๊อบอะไรนี่เข้าไปร่วมสังคายนาอีกราย อาทิตย์ทนไม่ไหวหรอก”
“แกนี่ฉลาดจังเลยนะ” ธงรบถอนหายใจอีกครั้งแล้วเอนเบาะลงนอน “ถ้าเกิดปัญหาอีรุงตุงนัง แกเป็นคนแก้นะโว้ย”
“รับรอง ไม่มีปัญหา” อธิคมยิ้มมุมปาก ตาลุกวาบ มองเห็นภาพใบหน้าของอาวุธฉายทาบขึ้นมาบนกระจกรถ “คราวนี้ เอ็งเสร็จแน่”
“ข้าไม่เสร็จมาหลายวันแล๊ว” ธงรบพึมพำแล้วก็เงียบไป ปล่อยให้อธิคมขับรถฝ่าดงรถติดกลางกรุงกลับบ้าน ตลอดเวลา ภาพใบหน้าของอาทิตย์ลอยไปลอยมาอยู่ในห้วงความคิด สลับกับภาพจากจินตนาการที่เสริมแต่งขึ้นมาจากคำพูดล้อเล่นของอธิคม
...อาทิตย์ เขาทนไม่ได้ที่จะให้อาทิตย์เป็นของคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นของอาวุธ...
แม้อธิคมรับรองด้วยเสียงหนักแน่นว่า 'ไม่มีปัญหา' แต่เมื่อเดินเข้าไปในห้องชุดของอนุภาพ ธงรบก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลทันทีเมื่อเห็นรอยยิ้มเย็นๆ ของเจ้าของบ้าน อธิคมนั้นยังไม่ได้สังเกตเพราะทันทีที่เข้าไปในห้องก็ยิ้มร่า เดินเข้าไปกอดแฟนแล้วขออนุญาตแบ่งอาหารให้ธงรบทานด้วย
“สงสารมันเถอะนะคุณนุ การให้ทานมนุษย์ผู้อดอยากหิวโหยได้บุญได้กุศล ไอ้ธงมันกำลังหิว พอมันกินเสร็จผมจะให้มันรีบกลับบ้าน เราจะได้จู๋จี๋กัน”
“ถึงข้าอยู่ก็จู๋จี๋ได้ ข้าจะเข้าห้องแล้วเอาตีน เอ๊ย เอาสำลียัดหู ทำเป็นไม่ได้ยิน” ธงรบเบ้ปาก เดินไปนั่งเก้าอี้ข้างโต๊ะอาหารในครัว
“จะทานข้าวกันเลยไหมครับ ถ้างั้นก็ไปอาบน้ำก่อน ผมจะอุ่นอาหารรอ” อนุภาพแกะมือของอธิคมที่กอดเอวเขาอยู่แล้วเบี่ยงตัวออกเพื่อเดินไปยังตู้เย็นพลางปรายตาไปมองธงรบด้วยใบหน้้ายิ้มๆ แบบที่ทำให้ธงรบรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ
“คุณนุ” ธงรบพึมพำ รู้สึกว่าบรรยากาศในห้องกำลังเปลี่ยนไป
“ไปทำอะไรกันมาบ้างครับ” อนุภาพถามธงรบ ก่อนจะหันไปเปิดตู้เย็น
“วันนี้หรือครับ” ธงรบถามกลับ
“วันนี้ก็คงทำงานเพราะเข้าเวรพร้อมกันทั้งสองคน ใช่ไหมครับ” อนุภาพหยิบอาหารออกมาวางบนโต๊ะ
“วันอืี่นก็ทำงาน” ธงรบตอบเบาๆ ปรายตาไปมองอธิคมแวบหนึ่งแล้วหันมามองอนุภาพ
“นอกเวลาทำงานก็คงพากันไปหาทำกิจกรรมพิเศษ” อนุภาพยิ้มเย็นๆ ให้ธงรบแล้วหันไปหาอธิคมที่เดินเข้ามายืนอยู่ระหว่างเพื่อนกับคนรัก
“กิจกรรมพิเศษที่ไหน เลิกงานแล้วก็รีบฝ่ารถติดกลับบ้านนี่ล่ะ” อธิคมหัวเราะเบาๆ แล้วก็หยุดทันทีเมื่อ 'สัญชาตญาณตำรวจ' เร่ิมทำงาน
“คุณนุ” อธิคมพึมพำเบาๆ ขณะที่มองตาของคนรัก ใบหน้าของอนุภาพเปลี่ยนจากยิ้มเย็นๆ เป็นเรียบนิ่ง ชายหนุ่มเดินไปหยุดยืนอยู่อีกฟากหนึ่งของโต๊ะทำครัวตัวใหญ่กลางห้อง ตำรวจ 'อันธพาล' ทั้งสองอยู่ตรงข้าม ธงรบนั่งนิ่งเงียบ ส่วนอธิคมยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ข้างคู่หู ตามองอนุภาพอย่างประเมินท่าทีแล้วพูดขึ้นว่า
“ร้อนจังเลย ผมไปอาบน้ำก่อนนะ วันนี้อยากจะนอนแช่น้ำในอ่างให้สบาย คุณนุกับไอ้ธงกินข้าวไปก่อนก็ได้”
“ไอ้คม” ธงรบเรียกเพืี่อนเสียงเข้ม
“เดี๋ยวก็ได้เย็นครับ” อนุภาพพูดเสียงเรียบ หรี่ตาลงช้าๆ
“เย็นจับใจเหมือนขั้วโลกเหนือผสมขั้วโลกใต้เลยล่ะเอ็ง” ธงรบพึมพำ
“วันนี้ผมเจออาทิตย์” อนุภาพอ้างชื่ออาทิตย์ น้ำเสียงราบเรียบเช่นเคย แล้วหันไปหยิบแก้วน้ำสามใบมาวางไว้บนโต๊ะ “นานๆ เจอกันที เลยได้คุยกันหลายเรื่อง”
“ทำไมต้องไปเจอกับเค้า” อธิคมถาม
“เจอกันโดยบังเอิญครับ ไม่ได้เจอกันนาน เลยได้คุยอะไรกันหลายอย่าง ทั้งเรื่องเก่าๆ และเรื่องใหม่” อนุภาพยิ้มมุมปาก นิ่งไปชั่วครู่ หลังจากนั้นจึงพูดเสียงเข้มว่า “รวมถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่่านมา ตอนสารวัตรชวนกันไปงานเลี้ยงฉลองเลื่อนยศเพื่อนร่วมรุ่น”
“อาทิตย์ไม่ได้ไป จะคุยกับคุณนุเรื่องนี้ได้ยังไง” อธิคมปากแข็งแต่ก็พูดเสียงเบา มองตาคนรักอย่างค้นหา พยายามประเมินท่าทีของอนุภาพว่ามีความโกรธในระดับไหน จากนั้นหลุบตาลงมองมือของชายหนุ่มซึ่งวางอยู่ใกล้ๆ แก้วเปล่าสามใบบนโต๊ะด้วยความหวาดระแวง
“คือว่า...” ธงรบแทรก “ผมจะอธิบายให้ฟัง”
“อยากจะอธิบายใช่ไหม งั้นบอกมาเดี๋ยวนี้ ทำอะไรกันลงไป ใครเป็นคนต้นคิด" อนุภาพเปลี่ยนเป็นเสียงห้วน ตีหน้าเคร่งใส่จำเลยทั้งสองคนที่หันไปมองหน้ากันแล้วต่างยืนนิ่งเงียบ
"ว่าไงครับสารวัตร"
อนุภาพยืนรอฟังคำตอบ แต่อธิคมกับธงรบก็ยังไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมา ชายหนุ่มหันไปมองนายตำรวจทั้งสองสลับกันไปมาแล้วพูดประโยคเดิมอีกครั้ง ทีละคำ ช้าๆ ชัดๆ
"ว่า ไง ครับ สารวัตร"
"สารวัตรไหน มีตั้งสองคน" อธิคมเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน
...แค่นี้ก็รู้คำตอบ...
อนุภาพถอนหายใจ ทำทีไม่ได้ยินที่อธิคมพูดกวน ก่อนจะหันไปเอาเรื่องธงรบ
"ความคิดสารวัตรใช่ไหม ความคิดแบบนี้ต้องสารวัตรธงรบเท่านั้นที่คิดได้ ไม่นึกเลยว่าจะคิดได้แบบนี้"
...ต้องดุธงรบ เอาให้หน้าจ๋อยไปเลย ปรักปรำให้ธงรบผิดให้ได้ เพราะท้ายที่สุด คนต้นคิดที่ยังปากแข็งอยู่ก็จะรู้สึกผิด ยอมรับออกมาโดยไม่ต้องให้ถามอีกให้ยาก...
...ลองดูซิว่าอธิคมจะเล่นบทตำรวจปากแข็งได้อีกนานแค่ไหน...
"ไม่คิดว่าเล่นแบบนี้ไม่แฟร์หรือครับ สองคนรุมคนเดียว ฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมสู้เพราะเห็นแก่เพื่อน ไม่รู้โกรธอะไรเขานักหนา ความผิดก็ตัวเองเป็นคนก่อ แล้วไปโทษคนอื่น"
ธงรบทำหน้าแหยๆ แล้วหันไปมองคู่หูราวกับจะบอกว่า 'คม ช่วยด้วย'
"คุณนุเห็นว่ามันถูกหรือ" อธิคมเป็นฝ่ายพูด
"มัน นี่หมายถึงใครครับ" อนุภาพถามจำเลยตัวจริง แต่ตายังจ้องจำเลยจำเป็นเขม็ง
"จะเป็นใครอีกล่ะ" อธิคมตอบเสียงห้วน
"งั้นผมพูดใหม่ก็ได้" อนุภาพหันไปตอบอธิคม "เปล่า คนที่ถูกคือสารวัตร ทีนี้จะถามไหมล่ะว่าสารวัตรไหน เพราะตอนนี้เรากำลังพูดถึงสารวัตรตั้งสามคน เพื่อนรักกันที่เคยเรียกกันว่าสามทหารเสือ แต่ตอนนี้สองทหารเสือรุมแกล้งทหารเสือเดียวเพราะความอาฆาต"
"โธ่คุณนุ อาฆาตที่ไหน" ธงรบครางเสียงอ่อย
"ไม่อาฆาตก็แค้น"
"แค้นกับอาฆาตก็ไม่ต่างกันหรอก" ธงรบแก้
"แล้วตกลงสารวัตรแค้นหรืออาฆาต"
ธงรบไม่ตอบคำถามอนุภาพ แต่หันไปหาอธิคมราวจะขอความช่วยเหลือ คู่หูคนเก่งก็รีบเล่นบทเพื่อนรักทันที
"คุณนุจะไปว่าไอ้ธงมันทำไม มันก็แค่โกรธที่อาวุธแย่งอาทิตย์"
"เหมือนที่สารวัตรโกรธที่ผมโดนแย่ง" อนุภาพเติมประโยคแล้วหันไปเล่นงานธงรบ "ว่าแต่ว่า สารวัตรอาวุธแย่งอาทิตย์จริงหรือครับ เท่าที่ผมทราบ อาทิตย์หนีความเจ้าชู้หลายใจของใครบางคนไปหาคนที่..."
"คุณนุ หยุดพูดถึงไอ้วุธได้แล้ว" อธิคมรีบแทรกเสียงกร้าว ขยับเท้าเข้ามาหาอนุภาพอีกหนึ่งก้าว
"ได้" อนุภาพหันขวับมาหาอธิคม "งั้นมาพูดเรื่องที่สารวัตรอธิคมกับสารวัตรธงรบรวมหัวกันใส่ร้ายเพื่อน เพราะ..."
อนุภาพจงใจหยุดให้ทั้งสองหนุ่มรอฟังและเดาว่าเขาจะพูดอะไรต่อไป
...เล่นกับคนเจ้าเล่ห์สองคนที่เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย เขาต้องมีลูกเล่นพอสมควร ไม่เช่นนั้นจะคุมคนดื้อๆ สองคนไม่อยู่...
อนุภาพส่ายหน้าอย่างระอาใจ แล้วหันหน้าหนี ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปเสียเฉยๆ
"คุณนุ" อธิคมเรียกก่อน
"เพราะอะไรครับ" เสียงธงรบถามตามมาเพราะยังอยากรู้
อนุภาพไม่ตอบ เดินกลับไปที่ตู้เย็น หยิบขวดน้ำดื่มออกมาเทใส่แก้วสามแก้ววางไว้บนโต๊ะ หยิบแก้วหนึ่งขึ้นมาถือแล้วเดินตรงไปยังห้องทำงาน หูได้ยินเสียงธงรบตำหนิเพื่อน
"เอ็งนั่นล่ะ ไปพูดยังงั้น เป็นไงล่ะ เห็นไหม คุณนุเข้าโหมดเดินเงียบแล้ว"
อนุภาพเดินไปจนถึงประตูห้องทำงาน จึงหันกลับไปหาอธิคมกับธงรบช้าๆ ทำสีหน้าเย็นชาให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แล้วพูดว่า "เพราะสารวัตรทิ้งความเจ้าชู้ไม่ได้ เลยคิดว่าจะทำให้เพื่อนเหมือนตัวเอง แต่หารู้ไม่ว่า คนที่ไม่เจ้าชู้ ทำยังไงก็ไม่เจ้าชู้หรอก ส่วนคนที่เจ้าชู้ แก้ยังไงก็คงไม่หาย"
...ทำเสียงสั่นซักหน่อย ตาเศร้าๆ แค่นี้อธิคมก็หน้าสลดแล้ว...
"แต่ไม่ต้องห่วงครับ ถ้าไม่อยากพูด ผมก็จะหยุด และทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ปล่อยให้สามทหารเสือตกลงกันเอง" อนุภาพทำเสียงสั่นอย่างที่คิดเอาไว้
อธิคมมองประตูห้องอนุภาพที่ปิดลงเบาๆ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยกมือขึ้นเท้าเอวแล้วส่ายหน้าด้วยความอัดอั้นใจที่อนุภาพเข้าใจเขาผิด
...คนเจ้าชู้ ทำไมจะเปลี่ยนไม่ได้ ตั้งแต่เจออนุภาพ เขาก็สิ้นลาย ทั้งธงรบกับคชานนท์ต่างก็ทับถมเขาว่าเสือร้ายกลายเป็นแมวเหมียว...
...ตอนนี้ไม่ใช่แมวเหมียวธรรมดาด้วยซ้ำ ธงรงมันล้อว่าเป็นคิตตี้...
"คนที่ยังเจ้าชู้แก้ไม่หายคือไอ้ธงคนเดียว มาว่าผมแบบนี้ได้ยังไง" อธิคมพึมพำ
"เฮ่ย ไอ้ชิบหาย ไหงพูดยังงั้นวะ" ธงรบโวยวาย
"หรือไม่จริง" อธิคมหันไปตะคอกเพื่อน "นี่เพราะแกยอมให้ภานุวัฒน์เข้าห้องแล้วนอนกอดกันบนเตียง เรื่องมันถึงมาได้ถึงขนาดนี้ แกมันเจ้าชู้ซึมลึกเข้าถึงไขกระดูก ไม่ยอมเลิกซักที ง้ออาทิตย์ก็ไม่สำเร็จ ไม่มีน้ำยา"
"แกก็ใช่ว่าจะเลิก ตาก็วิบวับไม่หยอก ทำเป็นนิ่งๆ ไม่สนใจใคร แต่ข้ามองเห็นตาแกก็รู้" ธงรบโวยวาย
"อย่าหาเรื่องนะธงรบ" อธิคมถลึงตาใส่เพื่อน
"แกยังยิ้มให้เด็กคนนั้นเลย" ธงรบไม่ยอม
"ยิ้มบ้าที่ไหน ข้าแค่หันไปมอง" อธิคมตอบเสียงหนักแน่น "แบบผ่านๆ"
"มองแบบผ่านๆ ถุย พูดออกมาได้" ธงรบทำหน้าเหยียดหยัน "แล้วแกรู้หรือว่าข้าหมายถึงเด็กคนไหน"
อธิคมไม่ตอบ เมินออกไปมองอีกทาง เขารู้ว่าธงรบหมายถึงใคร ก่อนจะที่จะกลับถึงบ้าน เขากับธงรบแวะซื้อของที่ปากซอยเพราะนึกได้ว่าลืมซื้อของบางอย่างที่อนุภาพสั่ง ขณะที่ยืนจ่ายเงิน ชายหนุ่มหน้าอ่อนคนหนึ่งเอาแต่จ้องเขาไม่วางตา เขาเผลอหันไปสบตาในจังหวะที่ธงรบเดินเข้ามาหาพอดี
...อุตส่าห์เลิกเจ้าชู้แล้วก็ยังมีคนส่งสายตาให้อีก จะว่าเป็นความผิดของเขาได้ยังไง...
--- ๓๘ ---
โดนแผนตลบหลังจากอาุวธแหง พ่อ 2 คนนี้ มีแต่ถอยหลังเข้าคลองจริงๆ เลย ยังงี้เค้าเรียกว่า anti-hero สินะ
ปล. ตอนที่ 35 ไปไหนอ่า
ตอนที่ 35 ก็อยู่หลังตอนที่ 34 ไงคร้าบ (และก่อนตอนที่ 36 นะ สรุปแล้วอยู่ระหว่างตอนที่ 34 และ 36 อิ อิ อิ)